The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

สื่อในชีวิตประจำวัน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Ubonrat Somyaprasert, 2020-05-12 10:18:28

สื่อในชีวิตประจำวัน

สื่อในชีวิตประจำวัน

๑ ส่ือในชีวติ ประจำวนั

สื่อ คือ ส่ิงที่ทำหน้ำท่ีนำสำรจำกผูส้ ่งสำรไปยงั ผูร้ ับสำร ซ่ึงอำจเป็ นได้ท้งั วจั นภำษำ
หรืออวจั นภำษำ มีบทบำทสำคญั โดยเป็นตวั กลำงใหผ้ รู้ ับสำรและผสู้ ่งสำรติดต่อส่ือสำรกนั ได้

ประเภทของส่ือในชีวติ ประจำวนั

• สื่อสำมัญ หรือสื่อธรรมชำติ เช่น บรรยำกำศรอบตัวมนุษย์ซ่ึงเกิดข้ึนเองตำม
ธรรมชำติ

• สื่อบุคคล หรือสื่อมนุษย์ เช่น ผสู้ ื่อข่ำว นกั เล่ำนิทำน คนนำสำร

• สื่อสิ่งพมิ พ์ เช่น หนงั สือ วำรสำร นิตยสำร แผน่ ปลิว

• สื่ออิเลก็ ทรอนิกส์ เช่น วทิ ยุ โทรทศั น์ โทรศพั ท์ โทรสำร อินเทอร์เน็ต

• ส่ือระคน หรือส่ือผสม เช่น ป้ำยโฆษณำ วตั ถุจำรึก ส่ือพ้นื บำ้ นต่ำงๆ

๑ ส่ือในชีวติ ประจำวนั

จะเห็นว่ำ สื่อในชีวิตประจำวนั ที่นำเสนอข่ำวสำร ข้อมูลต่ำงๆ ไปยงั ผูร้ ับสำรมีอยู่
หลำกหลำย กำรท่ีจะเลือกรับสำรจำกสื่อใดๆ ยอ่ มข้ึนอยกู่ บั ควำมสำมำรถในกำรเขำ้ ถึงส่ือของแต่ละ
คน จำกประเภทของสื่อ จะเห็นวำ่ มนุษยม์ ีช่องทำงกำรเขำ้ ถึงสื่ออยำ่ งหลำกหลำย

ช่องทำงกำรรับสำรจำกส่ือในชีวิตประจำวนั

• โดยส่วนใหญ่ช่องทำงท่ีผรู้ ับสำรใชใ้ นกำรรับสำร ไดแ้ ก่ กำรอ่ำน กำรฟัง และกำรดู

• กำรอ่ำน เป็นกำรรับขอ้ มูลผำ่ นประสำทสมั ผสั คือ ตำ ส่วนกำรฟังและดู เป็ นกำรรับ
ขอ้ มูลผำ่ นประสำทสมั ผสั ตำและหู

• ผรู้ ับสำรจะเป็น ผเู้ ลือกอ่ำน ฟัง ดู หรืออ่ำนตำมควำมตอ้ งกำรและควำมจำเป็น

• มนุษยร์ ับสำรจำกกำรดู และกำรฟังมำกกว่ำกำรอ่ำน โดยเฉพำะกำรฟังซ่ึงสำมำรถ
กระทำไปพร้อมๆ กบั กิจกรรมอ่ืนได้ เช่น เดินทำง ขบั รถ เป็นตน้

๒ ควำมคดิ เห็นของมนุษย์

ธรรมชำติของกำรแสดงควำมคดิ เห็น

• กำรแสดงควำมคิดเห็น คือ กำรแลกเปลี่ยนควำมรู้ ควำมคิดในเร่ืองใดเร่ืองหน่ึง
ระหวำ่ งกนั ของกลุ่มบุคคล

• กำรเขียนแสดงควำมคิดเห็นเป็ นทกั ษะกำรเขียนท่ีมีควำมเกี่ยวขอ้ งกำรวิเครำะห์
วจิ ำรณ์

• กำรเขียนแสดงควำมคิดเห็น คือ กำรส่งสำรที่ประกอบดว้ ยขอ้ มูลท้งั ที่เป็นขอ้ เทจ็ จริง
และขอ้ คิดเห็น หรือควำมคิดเห็นของผเู้ ขียนท่ีมีต่อเร่ืองใดเร่ืองหน่ึง

• กำรเขียนแสดงควำมคิดเห็นท่ีดี ตอ้ งกระทำอย่ำงเป็ นกลำง ไม่เลือกที่รักมกั ท่ีชัง
หรือเขียนด้วยอำรมณ์ควำมรู้สึกส่วนตวั โดยไม่มีหลกั กำร ทฤษฎี หรือข้อมูลที่
น่ำเช่ือถือรองรับ

• กำรแสดงควำมคิดเห็นมีประโยชน์ต่อทุกกลุ่มสังคม ทำให้เกิดกำรมองต่ำงมุม มี
วถิ ีทำงกำรแกไ้ ขปัญหำอยำ่ งหลำกหลำย

๒ ควำมคดิ เห็นของมนุษย์

ธรรมชำตขิ องกำรแสดงควำมคดิ เห็น (ต่อ)

• ผูเ้ ขียนสำมำรถแสดงควำมคิดเห็นต่อเรื่องต่ำงๆ
ไดอ้ ย่ำงหลำกหลำย ผ่ำนทกั ษะกำรส่งสำรของ
มนุษย์ คือ กำรพดู และกำรเขียน

กำรวเิ ครำะห์ วจิ ำรณ์ และกำรแสดงควำมคิดเห็น

ท้งั สำมคำน้ีมีควำมเช่ือมโยงกนั ในลกั ษณะที่
กำรวิเครำะห์เป็ นกระบวนกำรแรกของกำรวิจำรณ์
และกำรแสดงควำมคิดเห็น ส่วนกำรวิจำรณ์ เป็ น
ส่วนหน่ึงของกำรแสดงควำมคิดเห็น ซ่ึงกำรแสดง
ควำมคิดเห็นจะสมบูรณ์เมื่อมีกำรแสดงขอ้ สรุป

๒ ควำมคดิ เห็นของมนุษย์

กำรวเิ ครำะห์ วจิ ำรณ์ และกำรแสดงควำมคดิ เห็น (ต่อ)

การวิเคราะห์ คือ กำรแยกแยะขอ้ มูลท่ีไดอ้ ่ำนหรือไดฟ้ ังออกเป็นส่วน ๆ แบ่งเป็นเรื่องท่ี
ได้ฟัง ส่วนนำเร่ือง เน้ือหำ และส่วนสรุป ในส่วนที่เป็ นเน้ือหำแยกย่อยลงไปอีกว่ำส่วนใดคือ
ใจควำมสำคญั ส่วนใดคือตวั อยำ่ งประกอบหรือกำรขยำยควำม ส่วนใดเป็ น ขอ้ เทจ็ จริงที่ปรำกฏ
และอะไรคือขอ้ คิดเห็น เจตนำ หรือน้ำเสียงของผสู้ ่งสำร

การวิจารณ์ คือ กำรประเมินหรือกำรบอกขอ้ ดีขอ้ เสีย ส่วนที่เป็นจุดแขง็ หรือจุดอ่อนของ
เรื่อง กำรพูดวิจำรณ์ไม่ใช่กำรประจำนควำมผิดหรือจุดอ่อนของผอู้ ื่นดว้ ยคำพูดท่ีคุกคำมหนำ้ หรือ
ท่ำทำงท่ีไม่ให้เกียรติผูอ้ ื่น แต่กำรพูดวิจำรณ์คือกำรเปรียบเทียบให้เห็นส่วนดีและส่วนบกพร่อง
ท่ีมำจำกกำรวเิ ครำะห์ขอ้ มูลอยำ่ งรอบดำ้ นแลว้

ปัจจัยทส่ี ่งผลต่อกำรแสดงควำมคดิ เห็นของบุคคล

อคติ หรือควำมลำเอียง ควำมไม่เท่ียงธรรม เกิดจำกสำเหตุ ๔ ประกำร ดงั น้ี

๒ ควำมคดิ เห็นของมนุษย์

ปัจจยั ที่ส่งผลต่อกำรแสดงควำมคดิ เห็นของบุคคล (ต่อ)

• ฉนั ทำคติ ลำเอียงเพรำะรัก ไม่ใหค้ วำมยตุ ิธรรมเพรำะควำมรัก

• โมหำคติ ลำเอียงเพรำะควำมเขลำ ไม่ใหค้ วำมยตุ ิธรรมเพรำะควำมไม่รู้ หลงผิด ไม่
สอบสวนควำมจริงใหร้ อบคอบ

• โทสำคติ ลำเอียงเพรำะชงั ไม่ใหค้ วำมยตุ ิธรรมเพรำะควำมไม่ชอบ

• ภยำคติ ลำเอียงเพรำะควำมกลวั

โครงสร้ำงควำมคดิ เห็นของมนุษย์

• ที่มำ คือ ส่วนที่เป็นเร่ืองรำวต่ำงๆ ที่ทำใหเ้ กิดกำรแสดงควำมคิดเห็น

• ขอ้ สนบั สนุน คือ เหตุผลท่ีอำจเป็นหลกั กำร ขอ้ เทจ็ จริง ขอ้ คิดเห็นของผอู้ ่ืน ที่ผเู้ ขียน
หรือพดู แสดงควำมคิดเห็นนำมำใชอ้ ำ้ งอิงเพือ่ สนบั สนุนควำมคิดเห็นของตนเอง

• ขอ้ สรุป เป็ นส่วนท่ีสำคญั ที่สุดของกำรแสดควำมคิดเห็น เป็ นกำรสรุปประเด็น
ท้งั หมดกำรแสดงควำมคิดเห็นต่อเร่ืองน้นั ๆ

๒ ควำมคดิ เห็นของมนุษย์

ควำมคิดเห็นจำเป็ นสำหรับทุกสังคม เพรำะควำมคิดเห็นทำให้เกิดกำรมองปัญหำ หรือ
เร่ืองหน่ึงๆ แตกต่ำงกนั กำรระดมควำมคิด ควำมเห็น จะทำให้ทุกกลุ่มสังคม ไม่วำ่ เลก็ หรือใหญ่ผำ่ น
พน้ ปัญหำ หรืออุปสรรคไปได้

คุณลกั ษณะของกำรแสดงควำมคดิ เห็นทด่ี ี

• อยบู่ นพ้ืนฐำนของขอ้ เทจ็ จริง

• มีเหตุผล ทฤษฎีที่น่ำเชื่อถือรองรับควำมคิดเห็น

• ไม่ก่อใหเ้ กิดควำมแตกแยกแก่คนในสงั คม

• ปรำศจำกอคติ หรือควำมลำเอียง

• มีโครงสร้ำงของควำมคิดเห็นครบถว้ น

• ใชถ้ อ้ ยคำ ภำษำในกำรแสดงควำมคิดเห็นอยำ่ งมีมำรยำท

๒ ควำมคดิ เห็นของมนุษย์

ในชีวิตประจำวนั ของมนุษย์ ย่อมหลีกเลี่ยงไม่ไดท้ ่ีจะแสดงควำมคิดเห็นต่อเร่ืองใดเร่ือง
หน่ึง ซ่ึงเรื่องท่ีแสดงควำมคิดเห็นอำจเป็ นไดต้ ้งั แต่เร่ืองเล็กๆ นอ้ ยๆ เช่น ข่ำว เหตุกำรณ์ประจำวนั
ดำรำ ภำพยนตร์ กำรเมือง หรืออำจเป็นกำรแสดงควำมคิดเห็นในเร่ืองสำคญั เช่น กำรแสดงควำมเห็น
เก่ียวกบั นโยบำยต่ำงๆ ในที่ประชุม ท้งั น้ีข้ึนอยกู่ บั โอกำส สถำนกำรณ์ ช่วงวยั สถำนภำพและบทบำท
ของผแู้ สดงควำมคิดเห็น

ทำอย่ำงไรเม่ือต้องแสดงควำมคดิ เห็น

• ผเู้ ขียนจะตอ้ งมีควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจเกี่ยวกบั เร่ือง ประเด็น ซ่ึงเป็ นที่มำ หรือมูลเหตุ
ของกำรแสดงควำมคิดเห็นเป็นอยำ่ งดี

• หำกไม่มีควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจในเรื่องน้นั ๆ แต่จำเป็นตอ้ งแสดงควำมคิดเห็น ก็ควรหำ
ขอ้ มูลเพ่มิ เติมดว้ ยกำรอ่ำน ฟัง ดู หรือสอบถำมจำกผรู้ ู้ ผมู้ ีประสบกำรณ์

• ผแู้ สดงควำมคิดเห็นจะตอ้ งอ่ำน ฟัง หรือดูเรื่องน้นั ๆ อยำ่ งละเอียด เพ่ือใหเ้ กิดควำมรู้
ควำมเขำ้ ใจอยำ่ งถ่องแท้

๒ ควำมคดิ เห็นของมนุษย์

ทำอย่ำงไรเม่ือต้องแสดงควำมคดิ เห็น (ต่อ)

• จบั สำระสำคญั ของเรื่องว่ำ กล่ำวถึงอะไร แลว้ ตวั ผูแ้ สดงควำมคิดเห็นรู้สึกอยำ่ งไร
ต่อประเดน็ น้นั ๆ เห็นดว้ ย หรือไม่เห็นดว้ ย

• กำรแสดงควำมคิดเห็นไม่ไดจ้ บลงเพียงคำวำ่ “ชอบ” “ไม่ชอบ” “เห็นดว้ ย” “ไม่เห็น
ดว้ ย” แต่จะตอ้ งหำขอ้ มูลมำสนบั สนุนควำมรู้สึก หรือควำมคิดเห็นของตน

• ขอ้ มูลท่ีนำมำใชเ้ ป็นขอ้ สนบั สนุนจะตอ้ งสมเหตุสมผล เป็นไปได้ ซ่ึงอำจเป็นขอ้ มูล
เชิงวิชำกำร แนวคิด หรือทฤษฎีต่ำงๆ ซ่ึงสิ่งเหล่ำน้ีจะส่งผลต่อควำมน่ำเชื่อถือของ
ควำมคิดเห็นท่ีผเู้ ขียนสื่อสำรออกไป

• ผเู้ ขียนจะตอ้ งให้ขอ้ สรุปของควำมคิดเห็นที่แสดงออกไป จำกน้นั จึงเรียบเรียงดว้ ย
สำนวนภำษำของตนเอง

๒ ควำมคดิ เห็นของมนุษย์

บทสรุป

ในกำรดำเนินชีวิตประจำวนั ของมนุษย์ กำรแสดงควำมคิดเห็นในเร่ืองต่ำงๆ นับเป็ น
กิจกรรมหน่ึงที่มนุษยไ์ ม่สำมำรถหลีกเล่ียงได้ และกำรแสดงควำมคิดเห็นน้ีนบั ไดว้ ่ำเป็ นส่วนหน่ึง
ของกำรแกไ้ ขปัญหำ ทำใหส้ งั คมขบั เคล่ือนต่อไปขำ้ งหนำ้ ได้

กำรแสดงควำมคิดเห็นต่อเร่ืองต่ำงๆ ที่ไดอ้ ่ำน ไดด้ ู ไดฟ้ ังจำกส่ืออนั หลำกหลำย อำจเป็น
เร่ืองเล็ก เร่ืองใหญ่ ดว้ ยเหตุผลที่แตกต่ำงกนั ผูแ้ สดงควำมคิดเห็นท่ีดี จะตอ้ งพึงระลึกเสมอว่ำ กำร
แสดงควำมคิดเห็นเป็นเรื่องเฉพำะบุคคล ไม่จำเป็นที่บุคคลอ่ืนจะตอ้ งเห็นดว้ ย หรือคลอ้ ยตำมกนั ไป
ท้งั หมด ส่ิงสำคญั ของกำรแสดงควำมคิดเห็น คือ อยบู่ นพ้นื ฐำนของขอ้ เทจ็ จริง ผแู้ สดงควำมคิดเห็นมี
ควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจในส่ิงท่ีกำลงั แสดงควำมคิดเห็นเป็นอยำ่ งดี


Click to View FlipBook Version