ตอนที่ ๔ หลกั การใช้ภาษา
“ภาษาไทย” เป็นการเรียนรู้ ทาความเขา้ ใจ เพอ่ื ฝึกฝนความสามารถในการสื่อสาร ท้งั การส่ง
และรับสาร ซ่ึงท่ีผ่านมานกั เรียนไดฝ้ ึ กฝนความสามารถดา้ นอ่าน การเขียน การฟัง และการดู หากนา
แนวทางท่ีไดเ้ รียนรู้ ไปฝึกฝน ประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจาวนั ยอ่ มเกิดประโยชน์มหาศาล
ตอนท่ี ๔ หลกั การใชภ้ าษา นักเรียนจะไดเ้ รียนรู้ ทาความเขา้ ใจเก่ียวกบั ระบบโครงสร้าง
หรื อเรี ยกว่าไวยากรณ์ที่เป็ นเอกลักษณ์เฉพาะ ในประเด็นเกี่ยวกับ หน่วยเสียง ชนิดของคา
ลกั ษณะเฉพาะของภาษาพดู และภาษาเขียน รวมถึงสุนทรียทางภาษา ในแต่ละหน่วยการเรียนรู้ ดงั น้ี
• หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ เสียงในภาษาไทยและการสร้างคา
• หน่วยการเรียนรู้ที่ ๒ ชนิดและหนา้ ที่ของคาในประโยค
• หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๓ ความแตกต่างของภาษา
• หน่วยการเรียนรู้ที่ ๔ สานวน คาพงั เพย สุภาษิต
• หน่วยการเรียนรู้ที่ ๕ การแต่งบทร้อยกรอง
๑หน่วยการเรียนรู้ท่ี เสียงในภาษาไทยและการสร้างคา
• มนุษยส์ ามารถพฒั นาเสียงซ่ึงเปล่งออกได้ดว้ ยอาการธรรมชาติให้กลายเป็ นเคร่ืองมือใช้ส่ือ
ความคิด ความรู้สึก และความตอ้ งการของตนใหผ้ อู้ ื่นไดร้ ู้และส่ือสารกนั ได้
• ภาษาทาให้มนุษยพ์ ฒั นาชีวติ ความเป็นอยู่ ความรู้ ความสามารถในการดารงชีวิต จึงกล่าวไดว้ า่
ภาษาเป็นกลไกสาคญั ที่ใชข้ บั เคลื่อนสงั คมมนุษย์ และทาใหม้ นุษยแ์ ตกต่างจากสตั ว์
• มนุษยท์ ุกชาติพนั ธุ์ต่างมีภาษาใชส้ ื่อสารกนั ภายในกลุ่มและเขา้ ใจภาษาท่ีกาหนดใชร้ ่วมกนั
• ภาษาอาจไดร้ ับความเจริญ หรือความเสื่อมจากสังคมมนุษยไ์ ด้ เช่นเดียวกบั ท่ีภาษาอาจส่งผลต่อ
ความเจริญ และความเส่ือมของสงั คมมนุษย์
• ภาษาเป็นกลุ่มสญั ลกั ษณ์ท่ีประกอบดว้ ยระบบและกฎเกณฑห์ รือเรียกวา่ “ไวยากรณ์”
• แมว้ า่ ทุกภาษาของแต่ละชาติพนั ธุ์จะแตกต่างกนั แต่กม็ ีลกั ษณะร่วม เช่น ภาษามีระบบ เป็นตน้
๑ เสียงและหน่วยเสียงในภาษาไทย
ภาษาทุกภาษาใชเ้ สียงเป็นสื่อ เสียงพูดเกิดจากลมหายใจออกท่ีผา่ นเส้นเสียงข้ึนมาแลว้
ใชอ้ วยั วะในช่องปากดดั แปลงใหเ้ ป็นเสียงต่างๆ ไม่มีเสียงใดในโลกท่ีมนุษยจ์ ะไม่สามารถฝึกออก
เสียงใหช้ ดั เจนได้ แต่เป็นเพราะยงั ไม่ไดฝ้ ึกฝนอยา่ งเตม็ ท่ี การฝึกออกเสียงใหช้ ดั เจนจึงตอ้ งสังเกต
การทางานของอวยั วะที่ใชใ้ นการออกเสียง
อวยั วะทใี่ ช้ในการออกเสียง
ริมฝี ปาก มีลกั ษณะสาคญั ดงั น้ี
• เป็นอวยั วะส่วนท่ีเคลื่อนไหวไดม้ ากที่สุด ซ่ึงทาใหเ้ สียงแตกต่างกนั
• มนุษยส์ ามารถบงั คบั ริมฝี ปากให้ปิ ดสนิท เปิ ดเล็กน้อย กวา้ งข้ึน ย่ืนออกมา ห่อ
กลม หรือเป็นรูปรีได้
• ลกั ษณะของริมฝีปาก ส่งผลต่อการออกเสียง ทาใหเ้ สียงแตกต่างกนั
๑ เสียงและหน่วยเสียงในภาษาไทย
อวยั วะทใ่ี ช้ในการออกเสียง
ฟัน เป็นอวยั วะซ่ึงเป็นฐานหรือตาแหน่งท่ีเกิดของเสียงหลายชนิด
ป่ ุมเหงือก มีลกั ษณะสาคญั ดงั น้ี
• เป็นส่วนท่ีนูนออกมาบริเวณหลงั ฟันดา้ นบน
• ป่ ุมเหงือกเป็นตาแหน่งหรือฐานสาคญั ในการออกเสียงตาแหน่งหน่ึง ถา้ ลิ้นยกตวั
ข้ึนไปแตะใกลบ้ ริเวณป่ ุมเหงือก
เพดานแขง็ เฉพาะเพดานปากส่วนที่โคง้ เป็นกระดูกแขง็
เพดานอ่อน มีลกั ษณะสาคญั ดงั น้ี
• อยตู่ ่อจากเพดานแขง็ เขา้ ไปดา้ นใน เป็นกระดูกอ่อนที่ขยบั ข้ึนลงไดเ้ ลก็ นอ้ ย
• เวลาท่ีมนุษยไ์ ม่พดู เพดานอ่อนและลิ้นไก่จะลดระดบั ลง
๑ เสียงและหน่วยเสียงในภาษาไทย
อวยั วะทใ่ี ช้ในการออกเสียง/เพดานอ่อน
• เวลาพูดส่วนใหญ่เพดานอ่อนและลิ้นไก่จะถูกยกข้ึนไปจนติดผนงั ลาคอ เพื่อก้นั
ลมไม่ใหอ้ อกทางจมูก
• เวลาออกเสียงนาสิกเท่าน้นั ที่เพดานอ่อนจะลดระดบั ลงมาเพ่ือใหล้ มผา่ นออกมา
ทางจมูก
ลิน้ ไก่ เป็นส่วนเน้ือเลก็ ๆ อยตู่ ่อจากปลายเพดานอ่อนตรงกลางปาก สามารถสน่ั รัวได้
ช่องจมกู มีลกั ษณะสาคญั ดงั น้ี
• โพรงจมูกอยเู่ หนือลิ้นไก่ข้ึนไป
• เป็นช่องที่ใหล้ มผา่ นได้ เม่ือเวลาหายใจและออกเสียงนาสิก
• ในเวลาที่เปล่งเสียงอื่นๆ ลิ้นไก่จะถูกยกข้ึนไปปิ ดช่องจมูกเพื่อใหล้ มออกมาทาง
ช่องปาก
๑ เสียงและหน่วยเสียงในภาษาไทย
อวยั วะทใ่ี ช้ในการออกเสียง
ลิน้ มีลกั ษณะสาคญั ดงั น้ี
• เป็นส่วนที่เคลื่อนไหวไดม้ ากท่ีสุดในการออกเสียงพดู
• แต่ละส่วนของลิ้นมีผลต่อการออกเสียง
• ลิ้นแบ่งออกเป็น ๓ ส่วน ไดแ้ ก่
- ปลายลิ้น เป็ นลิ้นส่วนปลายสุดที่สามารถยกตวั ข้ึนไปแตะอวยั วะอื่นๆ ในช่องปาก
ตอนบนไดง้ ่าย
- หนา้ ลิ้น เป็นลิ้นส่วนหนา้ อยตู่ รงขา้ มกบั เพดานแขง็
- หลงั ลิ้น เป็นลิ้นส่วนหลงั อยตู่ รงขา้ มกบั เพดานอ่อน
๑ เสียงและหน่วยเสียงในภาษาไทย
อวยั วะทใี่ ช้ในการออกเสียง
แผ่นเยอ่ื ปากหลอดลม มีลกั ษณะสาคญั ดงั น้ี
• เป็นแผน่ เยอื่ บางๆ อยตู่ ่อจากโคนลิ้นลงไปในลาคอ
• อวยั วะท่ีทาหน้าท่ี ปิ ด-เปิ ด ช่องหลอดลม ป้องกันไม่ให้อาหารตกลงไปใน
หลอดลม
• เวลาที่กลืนอาหารแผน่ น้ีจะปิ ดลงใหอ้ าหารผา่ นไปยงั หลอดอาหาร เม่ือพูดแผน่ น้ี
จึงจะเปิ ดออก
โพรงคอ คือ โพรงซ่ึงอยถู่ ดั ช่องปากลงไปจนถึงเสน้ เสียงและสายเสียง
เส้นเสียง หรือสายเสียง มีลกั ษณะสาคญั ดงั น้ี
• เป็นอวยั วะสาคญั ท่ีทาใหเ้ กิดเสียง
๑ เสียงและหน่วยเสียงในภาษาไทย
อวยั วะทใ่ี ช้ในการออกเสียง/เส้นเสียง
• เสน้ เสียงประกอบดว้ ยเสน้ เอน็ และกลา้ มเน้ือเป็นแผน่ ๒ แผน่
• เส้นเสียงจะวางตวั ขวางอยกู่ ลางกล่องเสียง
• กล่องเสียง คือ ส่วนท่ีอยเู่ หนือหลอดลมข้ึนมา ประกอบดว้ ยกระดูกอ่อนหลายอนั
• ปกติเส้นเสียงของผชู้ ายจะยาวกวา่ ของผหู้ ญิง
กระบวนการออกเสียงเร่ิมตน้ ที่สมองสั่งการใหอ้ วยั วะต่างๆ ซ่ึงมีหนา้ ที่ออกเสียงพูด
บงั คบั ลมหายใจออกให้ผ่านเส้นเสียงในตาแหน่งที่ทาให้เกิดเสียง แลว้ ผ่านเขา้ สู่ช่องปาก ซ่ึงมี
อวยั วะต่างๆ จะดดั แปลงลมใหเ้ กิดเป็นเสียงตามที่ตอ้ งการและมีอยใู่ นระบบภาษา
หน่วยเสียง เป็ นเสียงสาคัญท่ีใช้ในภาษาใดภาษาหน่ึง เสียงทาให้คามีความหมาย
ต่างกัน ซ่ึงหน่วยเสียงในภาษาไทยแบ่งออกเป็ น ๓ ประเภท คือ หน่วยเสียงสระ หน่วยเสียง
พยญั ชนะ และหน่วยเสียงวรรณยุกต์
๑ เสียงและหน่วยเสียงในภาษาไทย
หน่วยเสียงสระ
• เป็นเสียงกอ้ ง ซ่ึงเปล่งออกมาโดยไม่ทาใหอ้ วยั วะเหนือเส้นเสียงสนั่ สะบดั
• ลมท่ีดนั ตวั ออกมาทางปากจะไม่ถูกกกั หรือบีบจนเกิดเป็นเสียงเสียดแทรก
• เสียงสระในภาษาไทยมี ๒ ประเภท คือ สระเดี่ยว และสระประสม
• หน่วยเสียงสระเด่ียวในภาษาไทยมี ๑๘ หน่วยเสียง ไดแ้ ก่ อิ อี เอะ เอ แอะ แอ อึ
อือ เออะ เออ อะ อา อุ อู โอะ โอ เอาะ ออ
• อา ใอ ไอ เอา ฤ ฤๅ ฦ ฦๅ ไม่ใช่รูปท่ีใช้แทนเสียงสระ แต่เป็ นรูปสระท่ีมีเสียง
พยญั ชนะประสมอยดู่ ว้ ย เช่น อา แทนเสียงสระ อะ ที่มีเสียงพยญั ชนะทา้ ย ม
• หน่วยเสียงสระประสม ในภาษาไทยมี ๓ หน่วยเสียง ไดแ้ ก่ เอีย ประสมระหวา่ ง
สระอี กับสระอะ เอือ ประสมระหว่างสระอือ กับสระอะ และ อัว ประสม
ระหวา่ งสระอู กบั สระอะ
๑ เสียงและหน่วยเสียงในภาษาไทย
หน่วยเสียงพยญั ชนะ
ลกั ษณะของเสียงพยญั ชนะ มีต่างกนั หลายรูปแบบ
• หน่วยเสียงพยญั ชนะระเบิด เป็ นเสียงที่เปล่งออกมาแลว้ ถูกกกั หรือก้นั ดว้ ยอวยั วะ
ส่วนใดส่วนหน่ึงในช่องปาก อาจเป็ นไดท้ ้งั เสียงระเบิดมีลม ไม่มีลม หน่วยเสียง
พยญั ชนะระเบิดในภาษาไทย ไดแ้ ก่ ป ต จ ก อ พ ท ช ค บ ด
• หน่วยเสียงพยญั ชนะนาสิก เป็ นเสียงท่ีเปล่งออกมาแลว้ ลมถูกกกั ไว้ ณ ท่ีใดท่ีหน่ึง
ในช่องปาก ลิ้นไก่ลดตวั ลงให้ลมผ่านไปทางจมูก หน่วยเสียงพยญั ชนะนาสิกใน
ภาษาไทย ไดแ้ ก่ ม น ง
• หน่วยเสียงพยญั ชนะขา้ งลิ้น เป็ นเสียงที่เปล่งออกมาแลว้ ลมถูกกกั ไวใ้ นช่องปาก
แล้วปล่อยให้ลมบางส่วนออกไปทางข้างลิ้น หน่วยเสียงพยญั ชนะข้างลิ้นใน
ภาษาไทย ไดแ้ ก่ ล
๑ เสียงและหน่วยเสียงในภาษาไทย
หน่วยเสียงพยญั ชนะ/ลักษณะของเสียงพยญั ชนะ
• หน่วยเสียงพยญั ชนะกระทบ เป็นเสียงพยญั ชนะท่ีออกเสียงขณะปลายลิ้นส่ันสะบดั
หน่วยเสียงพยญั ชนะกระทบในภาษาไทย ไดแ้ ก่ ร
• หน่วยเสียงพยญั ชนะเสียดแทรก เป็ นเสียงพยญั ชนะท่ีออกเสียงโดยลมตอ้ งบีบตวั
ผ่านช่องแคบๆ ทาให้เกิดเสียงซู่ซ่า หน่วยเสียงพยญั ชนะเสียดแทรกในภาษาไทย
ไดแ้ ก่ ฟ ซ ฮ
• หน่วยเสียงพยญั ชนะก่ึงสระ เป็นเสียงพยญั ชนะท่ีเป็นเสียงเล่ือนระหว่างเสียงสระ
๒ เสียง ไดแ้ ก่ เสียง ย เกิดเม่ืออวยั วะออกเสียงเลื่อนจากตาแหน่งสระอิ หรือ สระอี
ไปยงั สระที่ตามมา เสียง ว เกิดเม่ืออวยั วะออกเสียงเลื่อนจากตาแหน่งสระอุ หรือ
สระอู ไปยงั สระที่ตามมา
๑ เสียงและหน่วยเสียงในภาษาไทย
หน่วยเสียงพยญั ชนะ
ประเภทของหน่วยเสียงพยญั ชนะ มีหลายรูปแบบ
• พยญั ชนะตน้ เด่ียว หน่วยเสียงพยญั ชนะในภาษาไทยท้งั ๒๑ หน่วยเสียง สามารถ
ปรากฏหนา้ สระในพยางคห์ น่ึงๆ ไดท้ ุกหน่วยเสียง ในภาษาไทยทุกพยางคจ์ ะข้ึนตน้
ดว้ ยเสียงพยญั ชนะ ซ่ึงอาจเป็นพยญั ชนะตน้ หรือพยญั ชนะควบกล้า ไม่มีพยางคใ์ ด
จะข้ึนตน้ ดว้ ยหน่วยเสียงสระ
• พยญั ชนะควบกล้า คือ การออกเสียงพยญั ชนะ ๒ เสียง ติดต่อกนั โดยไม่มีเสียงสระ
คน่ั กลาง เสียงพยญั ชนะควบกล้าในภาษาไทยมี ๑๑ คู่ ซ่ึงสามารถปรากฏหน้าสระ
ในพยางคห์ น่ึงๆ ไดท้ ุกค่า ดงั น้ี
- ปร ในคาวา่ แปร ปรุง ปรับ - ปล ในคาวา่ ปลา เปล ปลอบ
- ตร ในคาวา่ ตรง ตรา ตรอง - กล ในคาวา่ กลบั กลา้ กลอง
๑ เสียงและหน่วยเสียงในภาษาไทย
หน่วยเสียงพยญั ชนะ/หน่วยเสียงพยญั ชนะควบกล้า
- กร ในคาวา่ กรุง เกรียว กรับ - กว ในคาวา่ กวาง กวาด เกวยี น
- พล ในคาวา่ พลนั เพลิง ผลิ - พร ในคาวา่ พราน ไพร พฤกษ์
- คล ในคาวา่ คลาน คลอ้ ย เขลา - คร ในคาวา่ ครอง ใคร่ ขรัว
- คว ในคาวา่ ควา้ ง ความ ขวาง
ปัจจุบนั คายืมในภาษาองั กฤษหลายคา ทาให้มกี ารออกเสียงพยัญชนะควบกลา้ เพม่ิ ขนึ้
อกี หลายคู่ในภาษาไทย ดงั นี้
- บร ในคาวา่ เบรก โบร๊กเกอร์ - บล ในคาวา่ บลอ็ ก เบลอ
- ดร ในคาวา่ ไดร๊ฟ ดร๊ิง - ทร ในคาวา่ ทรัมเป็ต แทร็กเตอร์
๑ เสียงและหน่วยเสียงในภาษาไทย
หน่วยเสียงพยญั ชนะ - ฟล ในคาวา่ ฟลุก แฟลต
- ฟร ในคาวา่ ฟรี เฟร้นซ์ฟราย
- ซตร ในคาวา่ สตริง สตร๊ิก
• พยญั ชนะทา้ ย เป็นหน่วยเสียงพยญั ชนะท่ีสามารถปรากฏตามหลงั สระได้ ดงั น้ี
แม่กก ใชร้ ูปพยญั ชนะสะกด ก ข ค ฆ ในคาวา่ หาก เลข โรค เมฆ
แม่กบ ใชร้ ูปพยญั ชนะสะกด บ ป พ ภ ในคาวา่ สาบ บาป ศพ ลาภ
แม่กด ใชร้ ูปพยญั ชนะสะกด ด ต จ ช ฎ ฏ ฐ ฆ ส ศ ษ ถ ท ธ ฑ ในคาว่า หมด
นิตย์ อาจ ราช กฎ กบฏ อิฐ พฒุ รส ปราศ พษิ รถ บาท พธุ ครุฑ
แม่กม ใชร้ ูปพยญั ชนะสะกด ม ในคาวา่ ริม คุม คราม เยย่ี ม ดา ยา
๑ เสียงและหน่วยเสียงในภาษาไทย
หน่วยเสียงพยญั ชนะ/พยญั ชนะท้าย
แม่กน ใชร้ ูปพยญั ชนะ น ณ ญ ร ล ฬ ในคาวา่ วนั คุณ หาญ การ นิล วาฬ
แม่กง ใชร้ ูปพยญั ชนะ ง ในคาวา่ กลึง กรุง จริง เพยี ง นอ้ ง
แม่เกย ใชร้ ูปพยญั ชนะ ย ในคาวา่ ขาย รวย ไป ใจ
แม่เกอว ใชร้ ูปพยญั ชนะ ว ในคาวา่ สาว กาว หิว เป่ า เดา
พยัญชนะไทย ๗ ตัว ทใี่ ช้เป็ นตัวสะกดไม่ได้ คือ อ ฮ ฌ ห ฝ ฉ ผ ปัจจุบันมีคายืมจาก
ภาษาอังกฤษหลายคา ทาให้เกิดเสียงพยัญชนะท้ายเพ่ิมขึน้ ในภาษาไทย เช่น ซ ฟ ล ในคาว่า ก๊าซ
กอล์ฟ เจล เป็ นต้น
๑ เสียงและหน่วยเสียงในภาษาไทย
หน่วยเสียงวรรณยกุ ต์
• วรรณยกุ ต์ หมายถึง ระดบั สูง ต่า ของเสียงท่ีปรากฏในพยางคห์ รือในคาหน่ึงๆ
• วรรณยกุ ต์มี ๔ รูป ๕ เสียง โดยเสียงสามญั จะไม่ปรากฏรูปใหเ้ ห็น สาหรับรูปอ่ืนๆ
มี ดงั น้ี
่่่่
สามญั เอก โท ตรี จัตวา
• เสียงวรรณยกุ ต์ คือ เสียงดนตรี ภาษาไทยแทเ้ ป็นเสียงดนตรี มีระดบั เสียงสูง ต่า ถา้
เปลี่ยนเสียงวรรณยกุ ตจ์ ะเปล่ียนความหมายดว้ ย
ปา ป่ า ป้า ป๊ า ป๋ า
ขาว ข่าว ขา้ ว
นา น่า นา้
๑ เสียงและหน่วยเสียงในภาษาไทย
หน่วยเสียงวรรณยกุ ต์
• จากตวั อยา่ งจะเห็นวา่ วรรณยกุ ตส์ ามารถออกเสียงไม่ตรงกบั รูปได้
ขาว ไม่ปรากฏรูปวรรณยกุ ต์ แต่เป็นเสียงวรรณยกุ ตจ์ ตั วา
นา้ ปรากฏรูปวรรณยกุ ตโ์ ท แต่เป็นเสียงวรรณยกุ ตต์ รี
พยางค์จะตอ้ งประกอบดว้ ย ๓ ส่วน คือ พยญั ชนะตน้ สระ วรรณยุกต์ ส่วนตวั สะกด
น้นั จะมีหรือไม่มีก็ได้ ภาษาไทยมีหน่วยเสียงวรรณยกุ ต์ เป็นหน่วยเสียงสาคญั ดว้ ย พยญั ชนะตน้
ในภาษาไทยเม่ือกากบั ดว้ ยรูปวรรณยกุ ตจ์ ะมีรูปแบบการผนั เสียงวรรณยกุ ตต์ ่างกนั
การผนั เสียงวรรณยุกต์
ธรรมชาติของการผันเสียงวรรณยุกต์ คือ การเปลี่ยนเสียงวรรณยุกต์ของพยางค์ที่
ประกอบดว้ ยพยญั ชนะตน้ กบั สระ หรือพยญั ชนะตน้ กบั สระ และตวั สะกดอย่างเดียวกนั ใส่รูป
วรรณยกุ ตต์ ่างกนั เช่น มา ม่า มา้ , กาง ก่าง กา้ ง ก๊าง ก๋าง
๑ เสียงและหน่วยเสียงในภาษาไทย
การผนั เสียงวรรณยุกต์
ไตรยางค์ หรืออกั ษรสามหมู่ มีลกั ษณะสาคญั ดงั ตาราง
อกั ษรกลาง อกั ษรสูง อกั ษรต่าคู่ อกั ษรต่าเดี่ยว
ก
จ ผ พภ ง
ดฎ
ตฏ ฝฟญ
บ
ป ถฐ ธทฑฒ น
อ
ขฃ คฅฆ ย
สามารถผนั ไดค้ รบ ๕
เสียง สศษ ซ ณ
หฮร
ฉ ชฌ ว
ม
ฬ
ไมส่ ามารถผนั ไดค้ รบ ๕ ล
เสียง จาเป็นตอ้ งใชเ้ ขา้ คู่ เมื่อนาไปเขา้ คู่กบั อกั ษร เม่ือจะผนั ใหค้ รบ ๕
กบั อกั ษรต่า สูงจะผนั ไดค้ รบ ๕ เสียง เสียง จะตอ้ งใชอ้ กั ษรนา
๑ เสียงและหน่วยเสียงในภาษาไทย
การผนั เสียงวรรณยุกต์
โครงสร้างพยางค์ในภาษาไทย การผนั วรรณยุกต์นอกจากจะตอ้ งมีความรู้เกี่ยวกบั อกั ษร
สามหมู่แลว้ ยงั จะตอ้ งมีความรู้เกี่ยวกบั โครงสร้างพยางค์ ซ่ึงโครงสร้างพยางคใ์ นภาษาไทย แบ่ง
ออกเป็ น
• คาเป็น หรือพยางคเ์ ป็น คือ คาหรือพยางคท์ ่ีประสมดว้ ยสระเสียงยาวในแม่ ก กา คา
ท่ีมีตวั สะกดในแม่กง กน กม เกย เกอว และคาท่ีประสมดว้ ยสระ อา ไอ ใอ เอา
• คาตาย หรือพยางค์ตาย คือ คาหรือพยางค์ที่ประสมดว้ ยสระเสียงส้ันในแม่ ก กา
(ยกเวน้ อา ไอ ใอ เอา) หรือคาที่มีตวั สะกดในแม่กก กด กบ
การผันอักษรสูง มีลกั ษณะเฉพาะ ดงั น้ี
• คาเป็น พ้ืนเสียงจตั วา ผนั ได้ ๓ เสียง ขา้
ขา ข่า
๑ เสียงและหน่วยเสียงในภาษาไทย
การผนั เสียงวรรณยุกต์/อักษรสูง
• คาตาย พ้ืนเสียงเอก ผนั ได้ ๒ เสียง
ผดั ผ้ดั
การผนั อักษรตา่ คู่ มีลกั ษณะเฉพาะ ดงั น้ี
• คาเป็น พ้นื เสียงสามญั ผนั ได้ ๓ เสียง คา้
คา ค่า
เม่ือนาไปเขา้ คู่กบั อกั ษรสูงจะผนั ไดค้ รบ ๕ เสียง
คา ข่า ค่า/ขา้ คา้ ขา
• คาตาย สระเสียงส้นั พ้ืนเสียงตรี ผนั ได้ ๓ เสียง
คะ ค่ะ ค๋ะ
เม่ือนาไปเขา้ คู่กบั อกั ษรสูงจะได้ ๔ เสียง ไม่มีเสียงสามญั
ขะ ค่ะ/ขะ้ คะ ค๋ะ
๑ เสียงและหน่วยเสียงในภาษาไทย นา้
นา้ หนา
การผนั เสียงวรรณยุกต์
การผนั อักษรต่าเดย่ี ว มีลกั ษณะเฉพาะ ดงั น้ี
• คาเป็น ผนั ได้ ๓ เสียง
นา น่า
เมื่อใช้ ห นา จะผนั ได้ ๕ เสียง เช่น
นา หน่า น่า/หนา้
• คาตายสระส้นั ผนั ได้ ๓ เสียง น๋ะ
นะ น่ะ
เม่ือใช้ ห นา จะผนั ได้ ๔ เสียง น๋ะ
หนะ น่ะ/หนะ้ นะ
๑ เสียงและหน่วยเสียงในภาษาไทย
การผนั เสียงวรรณยุกต์/การผันอักษรต่าเดย่ี ว
• คาตายสระยาว ผนั ได้ ๓ เสียง ว๋าก
วาก วา้ ก ว๋าก
เมื่อใช้ ห นา จะผนั ได้ ๔ เสียง วา้ ก
หวาก วาก/หวา้ ก
นอกจากน้ีมีคา ๔ คา ที่มีตัว ย เป็ น
พยญั ชนะต้น กาหนดให้ใช้ อ นา ออกเสียงได้
เหมือนใช้ ห นา คือ อยา่ อยู่ อยา่ ง อยาก ซ่ึงทุกคามี
เสียงวรรณยกุ ตเ์ อก
๑ เสียงและหน่วยเสียงในภาษาไทย
บทสรุป
• การมีความรู้ ความเขา้ ใจเก่ียวกบั หน่วยเสียงในภาษาไทย ในประเดน็ อวยั วะในการ
ออกเสียง หากผูเ้ รียนสังเกตการทางานของอวยั วะเหล่าน้ี ก็จะสามารถฝึ กฝนการ
ออกเสียงของตนใหช้ ดั เจนข้ึนได้
• นอกจากอวยั วะในการออกเสียงแลว้ ในประเดน็ เก่ียวกบั ประเภทของหน่วยเสียง จะ
ทาใหผ้ เู้ รียนอธิบายเก่ียวกบั ลกั ษณะเฉพาะของเสียงในภาษาไทยได้ ทราบที่มาที่ไป
ก่อนที่จะสื่อสารในรูปแบบประโยค หรืองานเขียนต่างๆ ประเด็นความรู้เหล่าน้ีจะ
ทาใหผ้ เู้ รียนตระหนกั วา่ ทุกภาษาลว้ นมีระบบ กฎเกณฑ์ เพ่ือท่ีจะใชส้ ื่อสารร่วมกนั
ในกลุ่มตน
• ประเด็นความรู้เกี่ยวกบั เสียงและหน่วยเสียง จะทาให้ผูเ้ รียนตระหนกั ว่า ทุกภาษา
ลว้ นมีระบบ กฎเกณฑ์ เพ่ือที่จะใชส้ ื่อสารร่วมกนั ในกลุ่มตน