The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by amornratagri, 2019-06-04 00:44:01

Accounting

Accounting

บทท1ี่

ความรู้เบือ้ งต้นเกย่ี วกบั การบัญชี

จุดประสงค์การเรียนรู้

เม่ือศึกษาแลว้ สามารถ
1. บอกความหมาย วตั ถุประสงค์ และประโยชนข์ องการบญั ชีได้
2. บอกประเภทของการประกอบธุรกิจได้
3. บอกวฏั จกั รทางการบญั ชีได้
4. อธิบายขอ้ สมมุติแม่บทการบญั ชีได้
5. ปฏิบตั ิตามขอ้ แนะนาํ ในการศึกษาวชิ าการบญั ชีได้

ประวัตขิ องการบญั ชี

ยคุ อุตสาหกรรม(industrial age) เร่ิมในศตวรรษที่19เป็นตน้ มา บริษทั ขนาดใหญเ่ กิดข้ึน
เป็นจาํ นวนมากการดาํ เนินงานเริ่มท่ีจะแยกความเป็นเจา้ ของออกจากฝ่ ายบริหารจึงทาํ ใหค้ วามตอ้ งการ
ในการจดั ทาํ รายงานผลการดาํ เนินงานและฐานะการเงินเพ่ือใหท้ ราบสถานะของธุรกิจมีความสาํ คญั
มากข้ึน ท้งั น้ีเพื่อสร้างความมนั่ ใจวา่ ผบู้ ริหารไดด้ าํ เนินกิจกรรมตามวตั ถุประสงคข์ องเจา้ ของ

ยคุ ของข่าวสารขอ้ มลู (information age)ผลิตภณั ฑค์ ือการใหบ้ ริการทางดน้ ขอ้ มลู
คอมพิวเตอร์ในฐานะท่ีเป็นอุปกรณ์ในการจดั การขอ้ มลู จึงเป็นสิ่งสาํ คญั สาํ หรับโลกยคุ ขอ้ มูลข่าวสาร
น้ื

ความหมายของการบัญชี

ความหมายของการบญั ชี (accounting) น้นั ไดม้ ีสถาบนั ทางการบญั ชีใหค้ าํ จาํ กดั ความ
และความหมายใหม้ ีความเหมาะสม ความหมายท่ีสาํ คญั ไดแ้ ก่

1. สมาคมนกั บญั ชีของสหรัฐอเมริกา (The American Institute of Certified public
Accountants) ไดใ้ หค้ าํ จาํ กดั ความและความหมายของการบญั ชีไวว้ ่า

“การบญั ชีเป็นศิลปะอยา่ งหน่ึงของการจดบนั ทึก การจาํ แนกประเภทและการสรุปผลของ
เหตุการณ์ต่างๆ ทางการเงิน โดยอยใู่ นรูปของหน่วยเงินตรา รวมท้งั แปลความหมายของผลสรุปท่ี
ไดร้ ับดว้ ย”

2. สมาคมนกั บญั ชีและผสู้ อบบญั ชีรับอนุญาตแห่งประเทศไทยไดใ้ หค้ าํ จาํ กดั ความและ
ความหมายของการบญั ชีไวว้ า่

2

“ การบญั ชี คือ ศิลปะของการเกบ็ รวบรวม บนั ทึก จาํ แนก และสรุปขอ้ มูล อนั เก่ียวกบั
เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจในรูปตวั เงิน ผลงานข้นั สุดทา้ ยของการบญั ชี กค็ ือ การใหข้ อ้ มูลทางการเงิน
ซ่ึงเป็นประโยชนแ์ ก่บุคคลหลายฝ่ าย และผทู้ ี่สนใจในกิจกรรมของกิจการ”

จากคาํ จํากดั ความเบอื้ งต้นสรุปได้ว่าการบญั ชีจะต้องประกอบด้วยกระบวนการดงั นี้
1. การจดบนั ทึกรายการคา้ (recording) จดบนั ทึกในสมุดรายวนั ทว่ั ไป โดยการ

บนั ทึกจะจดบนั ทึกเหตุการณ์กอ่ นหลงั โดยอาศยั หลกั ฐานประกอบ เช่น ใบกาํ กบั กบั สินคา้
ใบเสร็จรับเงิน เป็นตน้ แต่ในปัจจุบนั มีระบบคอมพวิ เตอร์ซ่ึงเป็นเทคโนโลยสี มยั ใหม่เขา้ มามีบทบาท
ในชีวติ ประจาํ วนั โดยมีการเขียนโปรแกรมสาํ เร็จรูปทางการบญั ชีข้ึนมา เพอื่ ใชใ้ นการบนั ทึกรายการ
ทางบญั ชี รวมท้งั การประมวลผลรายการทาํ ใหเ้ กิดความถกู ตอ้ ง และรวดเร็วข้ึนอยา่ งมาก

2. การจดั หมวดหมู่ (classifying) หมายถึงการนาํ ขอ้ มูลที่ไดบ้ นั ทึกไวใ้ นสมุด
รายวนั ทว่ั ไปมาแยกประเภทไวใ้ นสมุดแยกประเภทเรียกวา่ “สมุดข้นั ปลาย” โดยจะแยกบญั ชีออกเป็น
5 หมวดหมู่ ไดแ้ ก่หมวด สินทรัพย์ หน้ีสิน ส่วนของเจา้ ของ รายได้ และคา่ ใชจ้ ่าย ท้งั น้ี เพือ่ ใหเ้ กิด
ความสะดวก และรวดเร็วต่อการประมวลผลรายการ

3. การสรุปผล (summarizing) หมายถึง การนาํ ขอ้ มูลท่ีไดบ้ นั ทึกและจดั แยกเป็น
หมวดหมู่ไวน้ ้นั มาสรุปผล โดยการจดั ทาํ เป็นรายงานท่ีเรียกวา่ “งบการเงิน” ท่ีสาํ คญั ไดแ้ ก่
งบกาํ ไรขาดทุนและงบดุล ท้งั น้ี เพื่อใหท้ ราบผลการดาํ เนินงาน และฐานะทางการเงินของกิจการ
สาํ หรับรอบระยะเวลาหน่ึง เช่น 3 เดือน 6 เดือน หรือ 1 ปี ตามรอบระยะบญั ชีของกิจการ

4. การวิเคราะห์และแปลความหมาย (analysis and interpreting) หมายถึง การนาํ
รายงานซ่ึงไดส้ รุปผลไวแ้ ลว้ ในรูปของงบการเงินมาทาํ การวเิ คราะห์ เพอ่ื ใหเ้ ห็นภาพของการ
บริหารงานโดยรวมของกิจการ และสามารถนาํ ไปใชใ้ นการตดั สินใจเกี่ยวกบั การวางแผนงานใน
อนาคตของฝ่ ายบริหารได้

วตั ถุประสงค์การจดั ทําบัญชี

1. เพ่ือจดบนั ทึกรายการคา้ ต่าง ๆ ท่ีเกิดข้ึนของกิจการโดยเรียงตามลาํ ดบั เหตุการณ์
ก่อนหลงั ตามระเบียบและหลกั เกณฑท์ ่ีถูกตอ้ ง

2. เพอ่ื เป็นเคร่ืองมือในการควบคุมและตรวจสอบ
3. เพื่อเป็นตามบทบญั ญตั ิของกฎหมายใหผ้ ปู้ ระกอบธุรกิจทาํ บญั ชี
4. เพอื่ ใหท้ ราบผลการดาํ เนินงานของกิจการในรอบระยะเวลาท่ีกาํ หนด
5. เพื่อใหท้ ราบฐานะทางการเงินของกิจการ

3

6. เพือ่ เป็นเคร่ืองมือในการวางแผนการดาํ เนินธุรกิจในอนาคต
7. เพื่อใชเ้ ป็นรายงานต่อหน่วยงานของรัฐบาล และเป็นแหลง่ ขอ้ มูลทางการเงินของ
บุคคลท้งั ภายในและภายนอกกิจการ

ผู้ใช้ข้อมูลทางการบัญชี

ผใู้ ชข้ อ้ มูลทางการบญั ชีจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ
1.บุคคลภายในกิจการ(internal users) ไดแ้ ก่ ผบู้ ริหารหรือฝ่ ายจดั การ
2.บุคลภายนอกกิจการ(external users) ไดแ้ ก่ ผถู้ ิอหุน้ หรืผสู้ นใจลงทุน
ผขู้ ายสินคา้ หรือเจา้ หน้ีอ่ืน สถาบนั การเงินหรือบุคคลท่ีใหก้ ิจการกยู้ มื ลกู คา้ หน่วยงานรัฐบาล
สาธารณชนและลุกจา้ ง

ประโยชน์ของข้อมูลการบัญชี

1. เป็นหลกั ฐานในการอา้ งอิงเพอื่ ประกอบการตดั สินใจในการลงทุนของกิจการ
2. ทาํ ใหส้ ามารถควบคุมดูแลบริหารสินทรัพยข์ องกิจการไดอ้ ยา่ งรัดกมุ ทว่ั ถึง
3. ช่วยใหท้ ราบผลการดาํ เนินงานของกิจการในรอบระยะเวลาใดเวลาหน่ึงมีผลกาํ ไรหรือ
ขาดทุน
4. ช่วยใหท้ ราบฐานะทางการเงินของกิจการ ณ วนั ใดวนั หน่ึงวา่ มี สินทรัพย์ หน้ีสินและ
ส่วนของเจา้ ของเท่าไร

ประเภทของการประกอบธุรกจิ

การประกอบธุรกิจ สามารถจดั ประเภทของการดาํ เนินธุรกิจได้ 2 ประเภท ไดแ้ ก่
1. ประเภทธุรกจิ จดั ตามลกั ษณะของการประกอบการ

ประเภทธุรกิจจดั ตามลกั ษณะของการประกอบการ สามารถแบ่งธุรกิจออกไดเ้ ป็น 2
รูปแบบ คือ

1.1 ธุรกิจเก่ียวกบั การใหบ้ ริการ(service firm) เป็นธุรกิจที่จดั ต้งั ข้ึนเพอ่ื ใหบ้ ริการแก่
ลูกคา้ โดยไดร้ ับรายไดจ้ ากการใหบ้ ริการเป็นหลกั เช่น โรงแรม โรงภาพยนตร์ อู่ซ่อมรถยนต์
บริษทั ขนส่ง ธนาคาร เป็นตน้

1.2 ธุรกิจเก่ียวกบั การจดั จาํ หน่าย (product firm) เป็นธุรกิจท่ีจดั ต้งั ข้ึนเพ่ือขายสินคา้
สาํ เร็จรูปหรือสินคา้ ท่ีผลิตเอง โดยไดร้ ับรายไดจ้ ากการขายสินคา้ เป็นหลกั แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ

4

2.1 ธุรกิจซ้ือมาขายไป (merchandising firm) เป็นธุรกิจที่จาํ หน่ายสินคา้ ซ่ึงไม่ได้
ผลิตข้ึนมาเอง แต่เป็นการซ้ือสินคา้ มาเพอื่ จาํ หน่ายอีกต่อหน่ึง เช่น หา้ งสรรพสินคา้ ซูเปอร์มาร์เกต็
ร้านสะดวกซ้ือ ร้านคา้ ปลีกต่าง ๆ เป็นตน้

2.2 ธุรกิจอุตสาหกรรม (manufacturing firm) เป็นธุรกิจท่ีจาํ หน่ายสินคา้ ซ่ึงผลิต
ข้ึนมาเอง โดยการซ้ือวตั ถุดิบมาทาํ การแปรสภาพใหเ้ ป็นสินคา้ สาํ เร็จรูปเพือ่ จาํ หน่ายใหแ้ ก่ร้านคา้ ส่ง
หรือร้านคา้ ปลีก เช่น บริษทั ผลิตอาหารสาํ เร็จรูป โรงงานตดั เยบ็ เส้ือผา้ โรงงานผลิตรถยนต์ บริษทั
ผลิตภณั ฑย์ า เป็นตน้

2. ประเภทของธุรกจิ จดั ตามรูปแบบการจดั ต้งั
ประเภทของธุรกิจจดั ตามรูปแบบการจดั ต้งั เป็นการจดั ประเภทของธุรกิจโดยพจิ ารณา

จากรูปแบบการจดั ต้งั แบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ คือ
1. กจิ การเจ้าของคนเดยี ว (single proprietorship) หมายถึง กิจการที่จดั ต้งั และลงทุน

โดยบุคคลคนเดียว จะตอ้ งเป็นผรู้ ับผดิ ชอบท้งั ต่อสินทรัพย์ และต่อหน้ีสินท้งั หมดโดยไม่จาํ กดั จาํ นวน
เช่น สาํ นกั งานทนายความ อู่ซ่อมรถยนต์ ร้านซกั รีด ร้านขายของชาํ ร้านใหเ้ ช่าหนงั สือ เป็นตน้

2. ห้างหุ้นส่วน (partnership) หมายถึง กิจการท่ีจดั ต้งั ข้ึนตามประมวลกฎหมายแพ่ง
และพาณิชย์ ซ่ึงบุคคลต้งั แต่สองคนข้ึนไปตกลงเขา้ กนั เพื่อกระทาํ กิจการร่วมกนั ดว้ ยประสงคท์ ี่จะแบ่ง
กาํ ไรอนั พึงไดแ้ ต่กิจการที่ทาํ น้นั แบ่งเป็น 2 ประเภท ไดแ้ ก่

2.1 หา้ งหุน้ ส่วนสามญั (general partnership)
2.2 หา้ งหุน้ ส่วนจาํ กดั (limited partnership)
3. บริษทั จาํ กดั (corporation or limited company) หมายถึง กิจการที่ก่อต้งั จากการ
ร่วมทุน โดยมีการขายทุนแบ่งออกเป็นหุน้ ๆ ละเท่า ๆ กนั โดยผถู้ ือหุน้ ต่างรับผดิ ชอบจาํ กดั เพยี งไม่
เกินจาํ นวนเงินท่ีตนยงั ส่งใชไ้ ม่ครบมลู ค่าของหุน้ ท่ีตนถือเท่าน้นั แบ่งออกเป็น 2 ประเภท
3.1. บริษทั เอกชนจาํ กดั (private company limite)
3.2. บริษทั มหาชนจาํ กดั (public company limited)
สาํ หรับการบนั ทึกรายการทางบญั ชีของธุรกิจไม่ว่าจะเป็นประเภทหรือรูปแบบใดจะใช้
หลกั การบญั ชีอยา่ งเดียวกนั ส่วนความแตกต่างน้นั จะเป็นเรื่องท่ีเก่ียวขอ้ งกบั ส่วนของเจา้ ของลกั ษณะ
ของรายการคา้ ท่ีเกิดข้ึน และชื่อบญั ชีแยกประเภทในหมวดต่าง ๆ

ข้อสมมุติตามแม่บทการบญั ชี

แม่บทการบญั ชี (accounting framework) เป็นแนวคิดพ้ืนฐานในการจดั ทาํ และนาํ เสนอ
งบการเงินแก่ผใู้ ชง้ บการเงินท่ีเป็นบุคคลภายนอก ซ่ึงกาํ หนดโดยสมาคมนกั บญั ชีและผสู้ อบบญั ชีรับ

5

อนุญาตแห่งประเทศไทย เม่ือวนั ที่ 25 กมุ ภาพนั ธ์ 2542 เพ่อื ใชเ้ ป็นแนวทางในการปรัปปรุงมาตรฐาน
การบญั ชี

ขอ้ สมมุติในการจดั ทาํ และนาํ เสนองบการเงิน ท่ีสาํ คญั มี 2 ประการ คือ
1. เกณฑค์ งคา้ ง(accrual basis) หมายถึงรายการและเหตุการณ์ทางบญั ชีจะรับรู้เมื่อ

เกิดข้ึนมิใช่รับรู้เม่ือมีการรับหรือจ่ายเงินสดแต่เพยี งอยา่ งเดียว โดยรายการต่าง ๆ จะบนั ทึกบญั ชีและ
แสดงในงบการเงินตามรอบระยะเวลาบญั ชีที่เก่ียวขอ้ งซ่ึงเกิดรายการน้นั ๆ ข้ึน เป็นเกณฑว์ ดั ผลการ
ดาํ เนินงาน กล่าวคือเมื่อมีรายไดแ้ ละค่าใชจ้ ่ายเกิดข้ึน แมจ้ ะไม่มีการรับหรือจ่ายเงินในรอบระยะเวลา
บญั ชีน้นั กจ็ ะตอ้ งบนั ทึกรายไดห้ รือค่าใชจ้ ่ายที่เกิดข้ึนตามจริงตามรอบระยะเวลาบญั ชีน้นั ๆ

งบการเงินท่ีจดั ทาํ ข้ึนตามเกณฑค์ งคา้ งจะแสดงฐานะทางการเงินและผลการดาํ เนินงานได้
ถูกตอ้ งครบถว้ นตรงตามรอบระยะเวลาบญั ชีที่เกิดรายการข้ึน และแสดงขอ้ มูลเก่ียวกบั ภาระผกู พนั ท่ี
กิจการตอ้ งรับหรือจ่ายเงินสดซ่ึงจะเกิดข้ึนในอนาคต เช่น ขอ้ มูลเก่ียวกบั ลูกหน้ี เจา้ หน้ี รายไดค้ า้ งรับ
ค่าใชจ้ ่ายคา้ งจ่าย เป็นตน้

2. การดาํ เนินงานต่อเน่ือง (going concern concept) หมายถึง การจดั ทาํ งบการเงิน
จะทาํ ข้ึนตามขอ้ สมมุติที่วา่ กิจการจะดาํ เนินงานอยา่ งต่อเน่ือง และสามารถดาํ รงอยตู่ ่อไปในอนาคต
โดยสมมุติวา่ กิจการไม่มีเจตนาท่ีจะเลิกกิจการภายในระยะเวลาอนั ใกล้ หรือหากมีเจตนาจะเลิกกิจการ
อนั ใกลจ้ ะตอ้ งเปิ ดเผยไวใ้ นงบการเงิน ซ่ึงการจดั ทาํ งบการเงินจะตอ้ งมีวธิ ีและหลกั เกณฑท์ ่ีแตกต่าง
กนั จากงบการเงินทว่ั ไป

ข้อแนะนําในการศึกษาวชิ าการบญั ชี

วชิ าการบญั ชี เป็นลกั ษณะวชิ าที่ทาํ ความเขา้ ใจไดย้ าก ถึงแมว้ า่ ในปัจจุบนั จะมีโปรแกรม
สาํ เร็จทางการบญั ชีมาช่วยจดบนั ทึกรายการทางบญั ชี และช่วยใหม้ ีการประมวลผลท่ีถูกตอ้ งและ
รวดเร็วกต็ าม ผศู้ ึกษากจ็ ะตอ้ งมีความรู้และความเขา้ ใจเกี่ยวกบั หลกั การบญั ชีใหถ้ ูกตอ้ ง และแม่นยาํ
ก่อน ดงั น้นั เพือ่ ใหก้ ารศึกษาสมั ฤทธ์ิผลผศู้ ึกษาควรใหค้ วามสนใจต่อการศึกษาและควรปฏิบตั ิตาม
ขอ้ แนะนาํ ดงั ตอ่ ไปน้ี

1. การอ่านตาํ รา ผศู้ ึกษาควรอ่านตาํ ราวิชาการบญั ชีแต่ละบทใหเ้ ขา้ ใจก่อนเรียน
เบ้ืองตน้ และทบทวนอีกคร้ังหลงั เรียน

2. ควรต้งั ใจเรียน ทาํ ความเขา้ ใจในบทเรียน และการทาํ แบบฝึกหดั ดว้ ยตนเองอยา่ ง
สม่าํ เสมอ เนื่องจากการศึกษาแต่ละบทเรียนมีเน้ือหาต่อเน่ือง กนั

3. การเขียนตวั เลขและตวั อกั ษร ควรใหอ้ ่านง่าย สะอาด ชดั เจน โดยการเขียน

6

ตวั เลขจะตอ้ งฝึกเขียนใหต้ รงหลกั กนั ในแต่ละบรรทดั และทุก ๆ สามหลกั จะตอ้ งใส่เคร่ืองหมาย “ ,”
โดยนบั จากทางขวามือ ส่วนการเขียนตวั เลขเศษสตางคถ์ า้ ไม่มี จะตอ้ งใส่เคร่ืองหมาย “ - ” ท้งั น้ีเพ่ือ
ความสะดวกและรวดเร็วในการหาผลลพั ธ์ ตวั อยา่ งดงั น้ี

3,350 -
12,680 50
159,350 75

4. ถา้ มีการเขียนผดิ ตอ้ งแกไ้ ข ควรใชไ้ มบ้ รรทดั ขีดเส้นทบั จาํ นวนท่ีผดิ และเช็นชื่อ
กาํ กบั เสมอ

9,999,100 -
987,099 - กษมา

5. อุปกรณ์การเรียน ควรตรียมอุปกรณ์ การเรียนใหค้ รบถว้ น เช่น ตาํ รา สมุดบญั ชี
ดินสอ ปากกา ไมบ้ รรทดั เครื่องคาํ นวณ ยางลบ เป็นตน้

สรุป

การบญั ชี หมายถึงศิลปะของการเกบ็ รวบรวม การจดบนั ทึก การจดั จาํ แนก และการ
สรุปขอ้ มลู อนั เก่ียวกบั เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจในรูปของตวั เงิน

ประโยชนข์ องการบญั ชี ไดแ้ ก่ เพื่อเป็นหลกั ฐานในการอา้ งอิง เพอื่ ใหท้ ราบรายการ
สินทรัพยข์ องกิจการ เพอ่ื เป็นการรวบรวมสถิติ เพอ่ื ใหเ้ ป็นหลกั ฐานในการตรวจสอบความถูกตอ้ ง
และเพื่อใหท้ ราบผลการดาํ เนินงานและฐานะทางการเงินของกิจการในระยะเวลาหน่ึง โดยผทู้ ่ีนาํ
ขอ้ มลู ทางการบญั ชีไปใชป้ ระโยชนม์ ีท้งั บุคคลภายในและภายนอกกิจการ

วฎั จกั รทางการบญั ชี (accounting cycle) หมายถึง ลาํ ดบั ข้นั ตอนทางการบญั ชี เร่ิมจากการ
บนั ทึกรายการบญั ชีที่เกิดข้ึน จนถึงการเสนอรายงานทางการเงินของรอบระยะเวลาบญั ชีหน่ึง ๆ

รอบระยะเวลาบญั ชี (accounting period) หมายถึง งวดเวลาของการจดั ทาํ งบการเงิน เช่น
1 เดือน 3 เดือน หรือ 1 ปี

แม่บททางการบญั ชี เป็นแนวคิดพ้ืนฐานท่ีถูกกาํ หนดโดยสมาคมนกั บญั ชีและผสู้ อบบญั ชี
รับอนุญาตแห่งประเทศไทย เพือ่ เป็นแนวทางในการจดั ทาํ และนาํ เสนองบการเงิน

7

ขอ้ แนะนาํ ในการศึกษาวิชาการบญั ชี ผศู้ ึกษาจะตอ้ งต้งั ใจเรียน ทาํ แบบฝึกหดั ดว้ ยตวั เอง
สม่าํ เสมอ การเขียนตวั เลขชดั เจน สะอาดถูกตอ้ ง หา้ มขีดฆ่าหรือลบใหข้ ีดตวั เลขที่ผดิ ดว้ ยไมบ้ รรทดั
แลว้ เขยี นตวั เลขท่ีถกู เหนือตวั เลขที่ผดิ พร้อมเซ็นชื่อกาํ กบั

แบบฝึ กหัดท้ายบท

ขอ้ 1. อธิบายความหมายของคาํ วา่ “การบญั ชี” มาพอเขา้ ใจ
ขอ้ 2. ข้นั ตอนในการทาํ บญั ชี 4 ข้นั ตอน มีอะไรบา้ ง อธิบายพอสงั เขป
ขอ้ 3. วตั ถุประสงคข์ องการบญั ชีมีอะไรบา้ ง
ขอ้ 4. บอกประโยชนข์ องการจดั ทาํ บญั ชีมีอะไรบา้ ง
ขอ้ 5. อธิบายความสมั พนั ธ์ของวฏั จกั รทางการบญั ชีกบั รอบระยะเวลาบญั ชี พร้อมผงั วงจร
ขอ้ 6 ใหน้ กั เรียน ฝึกการเขียนจาํ นวนตวั เลขเพ่ือการหาผลรวมหรือผลต่าง ใหต้ รงหลกั หลกั หน่วย
หลกั สิบ หลกั ร้อย และ หลกั ต่อ ๆ ไป และใชห้ ลกั สากลในการเขียน (,) คนั่ เม่ือนบั จาํ นวนได้
3 หลกั และใชก้ ารเขียนสัญลกั ษณ์ (-) กรณีไม่มีเศษสตางค์

6.1 กิจการแห่งหน่ึงมีรายได้ เป็นจาํ นวนเงินดงั น้ี (หน่วยเป็นบาท)
423884.00, 87521.25, 2587123.50, 6587.25, 159462.75 369158.00 และ 256

6.2 กิจการแห่งหน่ึงมีรายได้ เป็นจาํ นวนเงินดงั น้ี (หน่วยเป็นบาท)
552784.00, 89121.25, 9512843.50, 9587.25, 369247.75 5566.00 และ 987
ใหน้ กั เรียนรวมจาํ นวนเงินท้งั หมดของกิจการลงในตารางที่กาํ หนดให้ ตามหลกั การ

กาํ หนดจาํ นวนเลขทางบญั ชี


Click to View FlipBook Version