วิจยั ในชน้ั เรียน
เรือ่ ง การพฒั นาหนังสอื อเิ ลก็ ทรอนิกส์ (E-book) เรือ่ ง การใชห้ อ้ งสมดุ
สาหรบั นักเรยี นช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 4
โดย
นางสาวอาพวา แสนสุวรรณ์
ตาแหน่ง ครู
กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย
โรงเรียนประชาสงเคราะหว์ ิทยา
สงั กดั สานกั งานเขตพ้ืนทีก่ ารศกึ ษามัธยมศึกษาพิษณโุ ลก อุตรดิตถ์
ชอ่ื เรอื่ ง
การพัฒนาหนงั สอื อิเลก็ ทรอนกิ ส์ (E-book) เร่ืองการใชห้ ้องสมดุ สาหรบั นกั เรียนชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 4
ผ้วู จิ ัย นางสาวอาพวา แสนสวุ รรณ์
กล่มุ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย
บทที่ 1
บทนา
ความเป็นมาและความสาคขั ของปญขหา
ใ น ส ภ า พ สั ง ค ม ปั จ จุ บั น ผู้ เ รี ย น มี ค ว า ม จ า เ ป็ น ท่ี จ ะ ต้ อ ง ค้ น ค ว้ า ห า ค ว า ม รู้ เ พิ่ ม เ ติ ม ด้ ว ย ต น เ อ ง
จากตาราเรียน และหนังสอต่างๆ เป็นอย่างมาก ซึ่งจะสามารถค้นคว้าได้จากห้องสมุด วัตถุประสงค์หลักในการ
ถา่ ยทอดความรู้เป็นหัวใจสาคัญของห้องสมุด (ชนาธิป พรกลุ , 2544: 26) ห้องสมุดเปิดโอกาสใหผ้ ู้เรียนมีอิสระใน
การเรียนรู้และการศึกษาค้นคว้าเป็นการยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง เป็นการส่งเสริมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ตาม
ธรรมชาติ มีความใฝ่รู้ รู้จกั การศึกษาคน้ คว้าจากแหล่งขอมูลต่าง ๆทงั้ ทางส่ืออิเลก็ ทรอนกิ ส์และส่ือสงิ่ พิมพ์ การที่
นักเรียนจะได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่จากห้องสมุดน้ัน จาเป็นต้องมีความรู้ความเข้าใจในการบูรการและการ
จัดเก็บทรัพยากรของห้องสมุดเป็นอย่างดีซงึ่ ทางโรงเรียนได้ตระหนกั ถึงความต้องการน้ีจึงจัดการเรียนการสอน
วิชาการใช้หองสมุดขึ้นเพื่อให้นักเรียนได้มีความรู้ความเข้าใจและสามารถใช้ห้องสมุดได้อย่างถูกต้องและ
เหมาะสม แต่กย็ งไม่สามารถแก้ปญั หาในจุดนั้นได้
การสอนวิชาการใช้หองสมุด เป็นการสอนด้วยการบรรยายให้ความรู้เป็นพ้ืนฐาน หรือให้อ่านจากตารา
เพียงอย่างเดียว แล้วแนะให้นักเรียนศึกษาหาความรู้เพ่ิมเติมด้วยการอ่านค้นคว้าจากหนังสืออ่ืนๆ ตาราเรียน
หลายๆ เล่ม และจากโสตทัศนวัสดเุ ทา่ ที่หาได้ ท้ังนี้เพอ่ ให้เกดิ ความสามารถวนิ ิจฉัยได้ในการเลือกเรื่องหรือเลือก
รับรู้ในกาลต่อไป การสอนวิชาการใช้ห้องสมุดจะเป็นการปูพื้นฐานให้นักเรียนตระหนักถึงความสาคัญและ
ประโยชน์ของห้องสมุด มีทกั ษะการใช้หอ้ งสมุดเพื่อแสวงหาความรู้เพ่ิมเติมด้วยตนเองตลอดจนสร้างนิสัยรักการ
อา่ น
พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 ได้ให้ความสาคัญกับสื่อเพ่ือการศึกษาโดยกาหนดไว้ใน
หมวด 9 เทคโนโลยีการศึกษา มาตรา 64 รัฐต้องส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการผลิตและการพัฒนาแบบเรียน
ตารา หนังสือทางวิชาการ ส่ือส่ิงพิมพ์อื่น วัสดุุอุปกรณ์ และเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาอื่นกระบวนการเรียนรู้ตอ้ ง
มุ่งเน้นที่ผู้เรียนเป็นสาคัญ การจัดกระบวนการเรียนรู้ต้องให้สอดคล้องกับกระแสแห่งการเปลี่ยนแปลงของยุค
อเิ ลก็ ทรอนิกส์ ผูเ้ รียนทุกวัยมีโอกาสเรียนรู้จาก แหลง่ ความรู้ทมี่ ีรอบตวั ทง้ั จากครูคน ครูเครื่อง ครูธรรมชาตแิ ละ
ส่ิงแวดล้อม รูปแบบการจัด การศึกษาในปัจจุบันได้เจริญก้าวหน้าไปด้วยเทคนิคใหม่ ๆ ทุกสาขาวิชา
ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีโดยเฉพาะคอมพิวเตอร์จึงมีบทบาทสาคัญในการสื่อสารและการจัดการศึกษา
โดยเฉพาะในการด้านการศึกษาคอมพิวเตอร์เปรียบเสมือนผู้ช่วยท่ีมคี วามสาคัญมากเข้ามามีบทบาททั้งงานการ
บริหาร การบริการ และการเรียนการสอน แม้แต่การนาคอมพิวเตอร์มัลติมีเดียมาใช้ก็เปน็ ส่ิงที่เกิดขนึ้ ได้ในการ
พัฒนากระบวนการเรียนการสอนในอนาคตอยา่ งหลีกเล่ียงไม่พ้น (กรมวชิ าการ กระทรวงศึกษาธกิ าร. 2546:9)
ทัง้ น้ีในการออกแบบบทเรียนการจัดการเรียนรู้ท่ีเน้นผู้เรียนเปน็ สาคัญนั้นจาเปน็ ต้องเปิดโอกาส
ใหผ้ เู้ รียนสามารถควบคมุ ลาดับการเรียนดว้ ยตนเอง จะชว่ ยให้ผู้เรียนลดความวิตกกังวล เพราะุผู้เรียนสามารถที่
จะเลือกเรียนเน้ือหาตามความสนใจและความต้องการ (วุฒิชัย ประสารลอย. 2543: 12) จากคุณลักษณะและ
ประโยชนข์ องมัลติมเี ดยี เพ่ือช่วยแก้ปญั หาในการเรียนวิชาการใช้ห้องสมุดให้นกั เรียนมีความเขา้ ใจและใช้ได้อย่าง
ถูกต้อง รวดเร็วได้น้ันควรจะมีสื่อการสอนท่ีมีประสิทธิภาพเข้ามาช่วยในการเรียนรู้ โดยหาวิธีหรือรูปแบบการ
นาเสนอเนื้อหาการใช้ห้องสมุด เพ่ือใหน้ ักเรียนเกิดทักษะความสามารถใช้ห้องสมุดเปน็ และได้ประโยชน์จากการ
เข้าใช้เกดิ ประสิทธิภาพในการใช้หอ้ งสมดุ
ดังนั้น ผูว้ จิ ยั จึงมีความประสงค์และสนใจท่ีจะพัฒนาหนังสืออิเล็กทรอนกิ ส์ (e-book) เรือ่ ง การ
ใช้ห้องสมุด สาหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 4 เพื่อช่วยแก้ไขสภาพปัญหาและเพื่อส่งเสริมให้นักเรียนได้รู้จัก
วิธีการใช้ห้องสมุดท่ีมีประสิทธิภาพ ถูกต้องมากยิ่งข้ึน มีทักษะในการค้นคว้าหาข้อมูลต่างๆ ตระหนักและเห็น
ความสาคญั ของห้องสมดุ ในฐานะที่ห้องสมุดเปน็ แหล่งการเรียนรู้ที่สาคัญเป็นการปลูกฝังการรักการอา่ นและการ
เรียนรู้อย่างต่อเน่ืองตลอดชีวิตให้กับนักเรียน ท่ีสาคัญผู้เรียนได้สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเองตามความสามารถ
ของแตล่ ะคน
วตั ถปุ ระสงค์ของการศกึ ษา
การวจิ ยั ครั้งน้ี ผู้วิจยั ได้กาหนดวัตถปุ ระสงคไ์ ว้ดงั น้ี
1. เพอ่ื พฒั นาหนังสืออเิ ล็กทรอนกิ ส์ (e-book) เรื่อง การใช้หอ้ งสมดุ สาหรบั นักเรยี นชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี
4 ให้มคี ุณภาพตามเกณฑท์ กี่ าหนด
2. เพื่อศกึ ษาผลการใชห้ นงั สืออเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (e-book) เรื่อง การใชห้ อ้ งสมุด สาหรบั นักเรยี นชั้น
มัธยมศึกษาปที ี่ 4
สมมตฐิ านของการวิจยั
1. การพัฒนาหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-book) เรื่อง การใช้ห้องสมุด กลุ่มสาระการเรียนรู้
ภาษาไทย ช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 4 มีประสทิ ธิภาพตามเกณฑม์ าตรฐาน 80/80
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-
book) เรอื่ ง การใช้หอ้ งสมดุ สงู กวา่ กอ่ นเรยี นอยา่ งมีนยั สาคัญทางสถติ ิ
3. นกั เรยี นมคี วามพึงพอใจในการจดั กจิ กรรมการเรยี นรูโ้ ดยใช้หนังสืออเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (e-book)
เร่ือง การใช้ห้องสมุด ในระดบั มาก
ขอบเขตของการวจิ ยั
ในการวิจยั ครัง้ นผี้ ู้วิจยั ได้กาหนดขอบเขตในการวิจัยไว้ ดงั น้ี
1. ประชากรและกลมุ่ ตัวอยา่ งท่ีใชใ้ นการวจิ ยั ครง้ั นี้ เปน็ นกั เรยี นชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ 4 โรงเรยี น
ประชาสงเคราะหว์ ทิ ยา ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการวจิ ัย 2565 จานวน 207 คน
2. เนื้อหาท่ีใช้ในการวิจัยคร้ังน้ี เป็นเนื้อหาในกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง การพัฒนาหนังสือ
อิเล็กทรอนิกส์ (e – book) เรื่อง การใช้ห้องสมุด สาหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 4 ตามหลักสูตรสถานวิจัย
โรงเรียนประชาสงเคราะห์วทิ ยา พุทธศกั ราช 2551
3. ตวั แปรที่ใช้ในการวจิ ยั ครงั้ น้ี ประกอบด้วย
3.1 ตัวแปรตน้ ไดแ้ ก่ การจัดการเรียนรู้โดยใช้หนงั สืออิเลก็ ทรอนกิ ส์ (e – book)
3.2 ตัวแปรตาม ได้แก่
3.2.1 ผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียน เร่ือง การใช้หอ้ งสมดุ
3.2.2 ความพึงพอใจของนักเรียนท่ีมีต่อการจัดการเรยี นร้โู ดยใช้หนงั สืออเิ ล็กทรอนิกส์
(e – book) เรือ่ ง การใช้หอ้ งสมดุ
4. ระยะเวลาในการวิจัย การวิจยั ครง้ั นด้ี าเนนิ การต้ังแต่วันที่ 1 เดอื น พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2565 ถึง
วนั ที่ 30 เดอื น มีนาคม พ.ศ. 2566 รวมเวลาท่ใี ช้ในการวิจัย 20 ช่ัวโมง
นยิ ามศพั ท์เฉพาะ
เพือ่ ให้เกิดความเข้าใจตรงกัน ผู้วิจยั ได้กาหนดนิยามศัพทเ์ ฉพาะทเ่ี กี่ยวข้องไว้ ดงั น้ี
1. หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-book) หมายถึงหนังสือเร่ืองการใช้ห้องสมุดที่บันทึกข้อมูลในรูป
ของอิเล็กทรอนกิ ส์การออกแบบหนงั สือ สามารถใส่ข้อมูลได้หลายรปู แบบในลักษณะ สื่อประสม (Multimedia)
ซึ่งประกอบด้วยข้อมูลตัวอักษร (Text) รูปภาพ ภาพเคลื่อนไหว และเสียงประกอบ มีการผสมผสานและพัฒนา
อย่างเปน็ ระบบ เพื่อใหม้ คี วามน่าสนใจและมีปฏสิ ัมพันธ์โตต้ อบระหว่างผู้เรยี นกับหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งผู้เรียน
สามารถเรียนรู้ไดด้ ว้ ยตนเอง เมอื่ เรียนไม่เขาใจ สามารถกลบไปทบทวนเน้ือหาได้ใหมต่ ามความตองการ
2. การพัฒนาหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-book) หมายถึง การสร้างและพัฒนาหนังสือ
อิเล็กทรอนิกส์ (e-book) เร่ือง การใช้ห้องสมุด สาหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 4 มีการนาเสนอเน้ือหาของ
บทเรียนซึ่งประกอบด้วยข้อมูลตัวอกษร (Text) รูปภาพ ภาพเคล่ือนไหว และเสียงประกอบ โดยนาไปให้
ผเู้ ชย่ี วชาญด้านเน้ือหาและด้านเทคโนโลยีการศึกษาประเมินคณุ ภาพและปรับปรุงแก้ไข จนมีคุณภาพตามเกณฑ์
3. คุณภาพของหนงั สืออเิ ล็กทรอนิกส์ (e-book) หมายถงึ ผลจากการประเมินคณุ ภาพ
ของผู้เชี่ยวชาญด้านเนอื้ หาและผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการศึกษาต่อหนังสือิอเล็กทรอนิกสN (e-book) เร่ือง
การใชห้ อ้ งสมุด สาหรับนักเรียนช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 โดยใชแ้ บบประเมินคณุ ภาพที่ผู้วิจัยสร้างต้องมีค่าเฉล่ียของ
ผลการประเมนิ ตง้ั แต่ 3.51 ขน้ึ ไป
4. ผลการใช้หนังสืออิเล็กทรอนกิ ส์ (e-book) หมายถึง จานวนนักเรียนที่มีผลต่อการเรียนจาก
การเรียนด้วยหนังสืออิเลก็ ทรอนิกส์ (e-book) เร่ือง การใชห้ ้องสมุด สาหรับนักเรียนช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 4 จาแนก
ตามระดับผลการเรียนได้ดังนี้
นกั เรียนมีคะแนนร้อยละ 80 ขนึ้ ไป คือ มีผลการเรียน 4
นกั เรียนมีคะแนนร้อยละ 70 - 79 คือ มีผลการเรียน 3
นกั เรียนมีคะแนนร้อยละ 60 - 69 คือ มีผลการเรียน 2
นกั เรียนมีคะแนนร้อยละ 50 - 59 คือ มีผลการเรียน 1
นกั เรียนมีคะแนนต่ากวา่ ร้อยละ 50 คือ มีผลการเรียน 0
ซึง่ ถอื วา่ นักเรียนที่มผี ลการเรียน 4 และ 3 อยู่ในระดับดี
ซึง่ ถือว่านักเรียนท่ีมผี ลการเรียน 2 และ 1 อยู่ในระดับปานกลาง
ซงึ่ ถือว่านักเรียนที่มผี ลการเรียน 0 อยู่ในระดับตอ้ งปรบปรุง
5. ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียน หมายถึง ความรู้ ความจา และความเขา้ ใจในการเรียน
จากหนังสืออิเล็กทรอนกิ ส์ (e-book) เรอ่ื ง การใชห้ ้องสมดุ สาหรับนักเรียนชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 4 ซ่ึงวดั จาก
คะแนนทไ่ี ด้จากการทาแบบทดสอบวัดผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนท่ีผู้วิจยั สร้างขน้ึ และหาคุณภาพแล้ว
6. ผู้เชย่ี วชาญทางด้านเน้ือหา หมายถึง ผทู้ ม่ี ีความรู้ ความสามารถและประสบการณ์ในการทา
งานทางด้านการศึกษาวิชาการใช้ห้องสมุด ระดับปริญญาตรี อย่างน้อย 5 ปีขึ้นไป หรือระดับปริญญาโทข้ึนไป
อยา่ งน้อย 3 ปขี นึ้ ไป
7. ผู้เช่ียวชาญทางดา้ นเทคโนโลยีการศกึ ษา หมายถึง ผู้ทม่ี ี ความรู้ ความสามารถและ
ประสบการณ์ท่ีเก่ียวข้องทางด้านเทคโนโลยีทางการศึกษา ระดับปริญญาตรี อย่างน้อย 10 ปีขึ้นไปหรือระดับ
ปรญิ ญาโท อยา่ งนอ้ ย 5 ปขี น้ึ ไป หรือระดบั ปริญญาเอก อยา่ งน้อย 3 ปขี ้ึนไป
ประโยชนท์ ่ีคาดวา่ จะได้รบั
1. ได้แนวทางในการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โดยเฉพาะเรื่องการใช้
หอ้ งสมดุ ให้มีประสิทธิภาพมากยง่ิ ขน้ึ
2. ได้แนวทางในการพัฒนาคุณภาพหรือประยุกต์ใช้ในการพัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนรู้ใน
กลุ่มสาระการเรียนรูอ้ น่ื ๆ
3. เปน็ แนวทางสาหรับครูคนอน่ื ท่จี ะนาแนวคิดและวธิ กี ารที่ไดจ้ ากการวจิ ัยครง้ั น้ไี ปใช้
ในการพัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนร้ขู องตนให้มปี ระสทิ ธิภาพมากย่งิ ข้นึ
4. นักเรยี นมีคณุ ภาพการเรยี นรู้ตามเปา้ หมายและเจตนารมณ์ของหลกั สตู ร
บทที่ 2
เอกสารและงานวจิ ัยท่เี กยี่ วข้อง
ในการวิจัย เรื่อง การพัฒนาหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e – book) เรื่อง การใช้ห้องสมุด สาหรับ
นกั เรียนชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 4 ผู้วิจัยไดศ้ ึกษาค้นคว้าเอกสารและงานวจิ ัยท่ีเกี่ยวขอ้ ง ซ่ึงจะนามาเสนอตามลาดบั ดังนี้
1. เอกสารทีเ่ กย่ี วข้องกับหลกั สูตรและการสอนกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย
2. เอกสารที่เกี่ยวขอ้ งกับการพัฒนาหนังสอื อิเล็กทรอนิกส์ (e – book) เรือ่ ง การใช้ห้องสมุด สาหรับ
นักเรียนชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 4
3. เอกสารที่เกีย่ วข้องกับการเรยี นรู้ด้วยตนเอง
4. เอกสารทีเ่ กยี่ วขอ้ งกบั การสอนวชิ า การใชห้ อ้ งสมดุ
เอกสารที่เกย่ี วขอ้ งกับหลักสูตรและการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พน้ื ฐานพุทธศกั ราช 2551 กล่มุ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย
1.1 ทกั ษะในกล่มุ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย
1.2 สาระและมาตรฐานการเรยี นร้กู ลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย
1.3 ตวั ชี้วดั และสาระการเรยี นรแู้ กนกลางท่ีเกีย่ วข้อง
เอกสารที่เก่ยี วข้องกับหนังสืออิเล็กทรอนกิ ส์ (e-book)
ความเปน็ มาของหนังสืออเิ ล็กทรอนกิ ส์ (e-book)
ในปี 1938 H.G.Wells ได้ตพี ิมพ์ลงในหนังสือสารานุกรมทุ่ีชอ่ื ว่า World Brain ซ่ึงเปน็ แหลง่ ความรู้ที่
สมบรู ณแ์ ละมีวิสยั ทัศน์ท่ีกว้างไกล โดยไดร้ วบรวมองค์ความรู้ทุกอย่างที่เกิดขนึ้ จากมันสมองของมนุษย์มาไว้ที่นี่
จากหนังสือชุดนี้ได้มีการนาแนวความคิดต่าง ๆ มาเรียบเรียงใหม่และก่อให้เกิดปรากฏการณ์ท่ีพลิกโฉมหน้าไปสู่
การเป็นห้องสมุดดิจิตอลในปี 1945 Vannevar Bush ได้ตีพิมพ์บทความทุ่ีชื่อว่า As We May Think ลงใน
วารสาร The Atlantic Monthly ซึ่ง บูชได้ประมวลความคิดเก่ียวกับ The Memory Extender หรือท่ีเรียกว่า
Memex ซ่ึงใช้เคร่ืองมือท่ีเรียกว่า Electro-mechanical Device ซ่ึงสามารถบรรจุองค์ความรู้ท่ีในโลกโดยใช้
เทคนิค Micro Reduction เกิดขนึ้
ในปี 1968 Alan Kay จากบริษทั KayPro frame ซ่ึงเป็นผู้ประดิษฐ์ในยคุ แรก ๆ ของ Portable PCs ได้
ประดิษฐ์ cardboard จาลองให้แก่ the Dynabook ซ่ึงเป็นคอมพิวเตอร์ที่มีจอภาพ ท่ีมีความละเอียดสูงมากใน
การดขู อ้ ความซง่ึ เดยไ์ ด้เรียกมันว่า “ซปุ เปอร์กระดาษเสมือน (something like superpaper)” และยังแนะนา
ว่าหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ุนี้จะถูกเข้ามาแทนท่ีกระดาษในอนาคตในปี 1971 Michael Hart ได้ทาการบันทึก
เอกสารเป็นครั้งแรกในรูปแบบของเอกสารฉบับเตม็ (Full text) โดยเก็บลงในฐานข้อมลู และสามารถเข้าถึงข้อมูล
เหลา่ น้ันได้ จากเครื่องคอมพิวเตอร์เมนเฟรมของมหาวิทยาลยั อิลินอยส์ (University of Illinois) ต่อมาได้เกดิ
โครงการกลูเตนเบิร์ก (ProjectGlutenburg) ขึ้นเพ่ือพัฒนาไปสู่การจัดเก็บวรรณกรรมคลาสสิกไว้ในห้องสมุด
และสามารถสืบค้นได้ทางอินเตอรเน็ตในปี 1981 ได้จัดทาศัพท์สัมพันธ์ข้ึนคือ The Random House
ElectronicThesuarus ซึ่งได้กลายมาเปน็ หนังสืออิเลก็ ทรอนกิ ส์เลม่ แรกในโลกท่ีใชป้ ระโยชน์ในเชิงพาณิชย์
หลังจากน้ันอีก 2 ทศวรรษ และในวันท่ี 29 มนี าคม 1999 บริษัท netLibrary TM ได้ประกาศว่าจะเปิด
บริการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์บนอินเตอรเน็ตโดยสามารถใช้บริการได้ที่ www.netLibrary.com จากประกาศนี้
ของบริษัท netLibrary ได้เปิดช่องให้ห้องสมุดและลูกค้าสามารถเข้ามาดูและสืบค้นรวมไปถึงการยืมหนังสือ
อเิ ล็กทรอนกิ ส์ ทเี่ ป็นแหล่งทรัพยากรประเภทหนังสืออ้างอิงได้ทกุ ทที่ ุกเวลา โดยใชเ้ คร่ืองคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล
และอินเตอร์เน็ตบาร์วเซอร์เป็นช่องทางในการสืบค้นหลังจากช่วงนี้ได้มีการพัฒนาความก้าวหน้าของหนังสือ
อเิ ลก็ ทรอนิกส์ไปอยา่ งรวดเร็วและสะดวกมากขึ้น โดยสามารถส่งข้อมูลโดยตรงไปยังผู้ใช้บริการได้เลย และ
ในช่วงปี 1980-1990 ได้เกิดผลกระทบจากการตั้งเป้าหมายที่เป็นผู้ซื้อในตลาดหนังสือในระดับอุดมศึกษาขึ้น
โดยคาดว่าจะมีนักศึกษาซ่ึงเป็นกลุ่มเป้าหมายนั้นจะซ้ือตาราหนังสือที่อยู่ในรูปของอิเล็กทรอนกิ ส์ และคาดว่าจะ
ได้รบการต้อนรับในแต่ละภาคเรียนด้วยแต่สุดท้ายแนวความคิดในการซ้ือหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ก็ค่อยๆจาง
หายไปและเม่ือไม่นานมาน้ีได้มีรูปแบบการบูรการผ่านอินเตอร์เนต็ เกิดข้ึนโดยใช้แอปพลิเคชั่นอนิ เตอร์เน็ต เช่น
การใชเ้ วบ็ เพ็จเพื่อการนาเสนอในการอ่าน นอกจากน้ียังมีจุดุม่งหมายเพื่อใช้เปน็ ช่องทางไปสู่ห้องสมดุ ทุกประเภท
ในการแสวงหาหนังสือท่ีมีในห้องสมุดเท่าน้ันสรุปหนงั สืออิเล็กทรอนิกส์ (e-book) เป็นระบบการนาเสนอข้อมูล
ต่างๆ ได้แก่ ตัวอักษร ข้อความ ภาพนิ่ง ภาพกราฟิก ภาพเคลื่อนไหว ภาพวีดีทัศน์เสียงบรรยาย เสียงดนตรี
และเทคนิคต่างๆ ด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ ทาให้การใช้งานเพ่ือการเรียนการสอน การฝึกอบรม การส่ือสารมี
ชีวติ ชวี านา่ สนใจ ตอบสนองต่อวัตถุประสงค์ในการใช้อยา่ งมีประสิทธิภาพ
หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Book) หรือท่ีนิยมเรียกกันแพร่หลายว่า e-book เป็น
นวัตกรรมใหม่ทางด้านวงการหนังสือ ห้องสมุดและเทคโนโลยีการศึกษา สาหรับทางวิชาชีพห้องสมุดแล้ว e-
book จะเป็นพัสดุห้องสมุดยุคใหม่ท่ีเปล่ียนจากรูปแบบดั้งเดิมซ่ึงเป็นหนังสือที่ผลิตจากการเขียนหรือพิมพ์
ตัวอักษรหรือภาพกราฟิกลงในแผ่นกระดาษ หรือวัสดุชนิดอ่อน ๆ เพื่อบันทึกเนื้อหาสาระในรูปตัวหนังสือ
รูปภาพ หรือสัญลักษณ์ต่าง ๆ เช่น ที่ใช้กันปกติท่ัวไปจากอดีตถึงปัจจุบันเปลี่ยนมาบันทึกและนาเสนอเน้ือหา
สาระท้ังหมดเป็นสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์ในรูปสัญญาณดิจิตอลลงในสื่ออิเล็กทรอนิกส์ประเภทต่าง ๆ เช่น แผ่น
ซีดีรอม (CD-ROM) ปาล์มบุ๊ค (Plam Book) หนังสือในระบบเครือข่าย (Online Book) หรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์
รูปแบบอื่น ๆ ซึ่งรวมเรียกวา่ หนังสืออิเล็กทรอนกิ ส์หรือ e-book (จรี ะพันธ์ เดมะ. 2545: 1)
หนังสืออิเล็กทรอนกิ ส์ (e-book) จะเป็นรปู แบบของหนงั สือรูปแบบใหมใ่ นยุคต้นของสหัสวรรษ
น้ันตน้ ไป ทั้งน้ีเพราะด้วยเหตุผลด้านบริบทความก้าวหน้าอยา่ งต่อเนื่องของเทคโนโลยีด้านข่าวสารอย่างทุกวันน้ี
ส่งผลทาใหเ้ ชื่อได้วา่ แนวโน้มของหนังสืออเิ ล็กทรอนิกส์ (e-book) ซ่ึงนบั วนั จะยังมีการพัฒนาทั้ง รปู ลักษณ์ และ
ความสามารถและได้รับความนยิ มจากมหาชนมากขึ้นซึ่งจะเข้าแทนที่หนังสือที่เป็นส่ิงพิมพ์ปกติ ท่ีเคยมีบทบาท
ในการทาหน้าที่บันทึกและถ่ายส่งองค์ความรู้จากผู้เขียนสู่ผู้อ่านมาช้านานนับหลายศตวรรษในอนาคตอย่าง
แน่นอน ทง้ั นี้ เพราะหนังสืออิเล็กทรอนกิ ส์เป็นหนังสือทุ่ีน่าเอาเทคโนโลยีของคอมพิวเตอร์ซ่ึงมีศักยภาพครบถ้วน
ทั้งทางด้านการบันทึกและการนาเสนอการถ่ายส่งเน้ือหาสาระหรือองค์ความรู้สู่ผู้อ่านในรูปของสัญญาณดิจติ อล
ทส่ี ามารถทาหน้าท่ีพ้ืนฐานเช่นเดียวกับหนังสือเลม่ ดีแบบเดมิ ๆ ได้ทกุ ประการ และศักยภาพของคอมพิวเตอร์ด้าน
อืน่ ๆ สามารถบันทึกขอ้ มูลได้ในปริมาณมาก สามารถเรียกมาอ่าน ปรับปรุงแก้ไขได้ ทาสาเนาหรือโอนขอ้ มูลได้
ง่ายและรวดเร็ว เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีองค์ประกอบด้านอื่นๆ ท่ีจะช่วยให้ผู้อ่านสามารถปฏิสัมพันธ์กับหนังสือ
อิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างกว้างขวาง ตลอดจนมีศักยภาพด้านอื่นๆ อีกมากมายสนองความต้องการของผู้อ่านใน
ขณะทอี่ า่ นหนังสือ เป็นต้น คณุ ลักษณะดงั กลา่ วของหนงั สืออิเล็กทรอนกิ ส์ทาให้หนังสืออิเล็กทรอนิกส์มีศักยภาพ
สูงกว่าหนังสือปกติหลายเท่า ซ่ึงจะเป็นเหตุผลโดยรวมท่ีหนังสืออิเล็กทรอนิกส์จะเข้ามาแทนท่ีบทบาทหนังสือ
ปกติดังได้กล่าวมาข้างต้นหนังสืออิเล็กทรอนิกส์เป็นส่ือสาเร็จรูปยุคใหม่ (Neo Programmed Instructional
Media) ชนิดหน่ึงท่ีมีการจดั ระบบการนาเสนอเน้ือหาและกิจกรรมเสริมการเรียนรู้เป็นอย่างดี ผู้อ่านสามารถอ่าน
และเรียนรู้เนื้อหาสาระในเล่มได้ตามความสนใจและความแตกต่างของแตล่ ะบุคคล มี ก า ร เ ปิ ด โ อ ก า ส ใ ห้
ผ้อู า่ นได้ฝึกทักษะ หรือแบบฝึก หรือข้อคาถามสาหรับผ้อู ่านหรือผเู้ รียนสามารถตรวจสอบความรู้ ความเขา้ ใจของ
ตนด้วยตนเองจากโปรแกรมท่ีมีในหนังสืออิเลก็ ทรอนกิ ส์ เป็นต้น
สุทิน ทองไสว (2547 : 46) กล่าวไว้ว่า e-book หรือหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ คือ เอกสารท่ีมี
ขนาดเหมาะสมซึ่ง สามารถจัดเก็บเผยแพร่ หรือจาหน่ายได้ด้วยอุปกรณ์และวิธีการอิเล็กทรอนิกส์โดยผู้ใช้
สามารถอ่านหนงั สืออเิ ลก็ ทรอนิกส์นี้ผา่ นทางหน้าจอคอมพิวเตอร์หรืออปุ กรณ์ท่ีใช้สาหรับอา่ น e-book ท่เี รียกว่า
“e-book Reader”
หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง หนังสือ หรือเอกสารท่ีผู้อ่านสามารถอ่านผ่านทาง
อิเล็กทรอนิกส์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์พกพาอ่ืน ๆ ได้สาหรับหนังสือหรือเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ จะมี
ความหมายรวมถึงเน้ือหาท่ีถูกดัดแปลงอยู่ในรูปแบบที่สามารถแสดงผลออกมาได้โดยเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์
แต่ก็ให้มีลักษณะการนาเสนอที่สอดคล้องและคล้ายคลึงกับการอ่านหนังสือท่ัว ๆ ไปในชีวิตประจาวันแต่จะมี
ลักษณะพิเศษ คือ สะดวกและรวดเร็วในการค้นหา และผู้อ่านสามารถอา่ นพร้อมๆ กนั ได้โดยไม่ต้องรอให้อีกฝ่าย
สง่ คืนหอ้ งสมุดเช่นเดียวกับหนังสือในหอ้ งสมดุ ทว่ั ๆ ไป
ประภาพรรณ หริญวชรพฤกษ์ (2545: 43 ) กล่าวไว้ว่า คาว่า e-book ได้นิยามไว้ว่าเป็น
หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ซึ่งต้องอาศัยเครื่องมือในการอ่านหนังสือประเภทนี้คือ ฮาร์ดแวร์ (Hardware) อาจเป็น
เคร่ืองคอมพิวเตอรห์ รืออุปกรณ์อเิ ลก็ ทรอนกิ สพ์ กพาอ่ืนๆ พร้อมติดตั้งระบบปฏิบัติการหรือซอฟต์แวร์
(Software) ท่ีสามารถอา่ นขอ้ ความต่าง ๆ เช่น ออแกไนเซอร์แบบพกพา, Pocket PCหรือพีดี เอ (PDA) เปน็ ต้น
สาหรับการดึงขอ้ มลู หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ที่อยู่บนเวบไซต์ที่ใหบ้ รกิ ารทางด้านน้ีมาอา่ น โดยใช้วธิ ีการดาวน์โหลด
ผ่านทางอินเตอร์เน็ตเป็นสว่ นใหญแ่ ตย่ ังมีขอ้ จากัดในเรื่องของชนดิ ของไฟล์บางประเภทท่ีไม่สามารถอ่านข้อมูลได้
จงึ มีการแก้ปัญหาโดยนาซอฟต์แวร์บางตัวมาช่วยในการอ่านข้อมูลจากหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ คือ ซอฟต์แวร์ที่ใช้
อา่ นขอ้ มลู จากหนังสืออเิ ล็กทรอนกิ ส์และซอฟต์แวร์ท่ีใชเ้ ขยี นขอ้ มลู ออกมาเปน็ หนังสืออเิ ล็กทรอนกิ ส์
งานวจิ ยั ทีเ่ กี่ยวขอ้ ง
งานวิจยั ทเ่ี ก่ียวขอ้ งในประเทศ
สิทธพร บญุ ญานุวตั ร (2540 : 23-37) ได้วจิ ัยเกี่ยวกบั การนาเอาหนงั สืออิเล็กทรอนิกส์มาใช้
ในการฝึกอบรมเร่ือง “การใช้โปรแกรมออโต้แคด (AutoCAD R13c14) ในการสร้างภาพ 2 มิติ” โดยสรุป
ประเดน็ ปัญหาไว้ 2 ประเดน็
ประการแรกคือ ขาดสื่อในการฝกึ อบรมทเ่ี หมาะสม เน่ืองดว้ ยเวลาท่ีจากัด การสอนโดยการ
บรรยายจากแผ่นใส หรือการเขียนลงบนกระดานแล้วให้ลงมือปฏิบัติกับคอมพวิ เตอร์ทาให้ผู้เรียนพะวงกบั การ
จดเนือ้ หาจนไม่เขา้ ใจขั้นตอนการปฏิบตั ิ ทาให้ผู้เข้ารับการฝกึ อบรมได้รบั การฝึกหัดทกั ษะไมเ่ พยี งพอ
ประการท่ีสองคือ เอกสารและตาราส่วนใหญ่จะแปลมาจากต่างประเทศ ซึ่งไม่เหมาะสมกับ
ผู้เรียนระดับเริ่มต้น ซึ่งควรศึกษาจากหนังสือที่ผ่านการวิเคราะห์เน้ือหามาแล้ว เขาจึงได้นาหนังสือ
อิเล็กทรอนิกส์มาใช้เป็นส่ือในการจัดฝึกอบรม โดยใช้ข้อดีของส่ือคือ ลดการสิ้นเปลืองวัสดุและพลังงานในการ
จัดทาส่ือแผ่นใส ช่วยให้การใช้ส่ือมีความสะดวกยิ่งขึ้น เพราะสามารถเรียกใช้ได้ทันทีไม่ต้องเสียเวลาในการ
ค้นหาและจัดเรียงส่ือ อีกท้ังยังช่วยให้การอบรมนอกสถานที่มีความคล่องตัวย่ิงข้ึน เน่ืองจากสามารถเก็บไว้ใน
ซดี ไี ด้ การใช้หนังสืออเิ ล็กทรอนิกส์ในการอบรมจะชว่ ยให้ผูเ้ รียนมีการพัฒนาการเรียนรแู้ ละเขา้ ใจในเนือ้ หาวิชา
นั้นมากขึน้
นอกจากนี้ยังให้ข้อเสนอแนะว่าควรมกี ารเอาหนังสอื อเิ ล็กทรอนิกสไ์ ปใช้ในการเรียนการสอน
ดว้ ย
เพญ็ นภา พัทรชนม์ (2544: บทคัดยอ่ ) ได้พัฒนาหนงั สืออเิ ลก็ ทรอนิกส์ เรื่อง กราฟกิ เบื้องต้น
และหาประสิทธิภาพของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์เรื่อง กราฟิกเบื้องต้นซึ่งกลุ่มตัวอย่างที่ใช้เป็นนักศึกษาคณะ
ศึ ก ษ า ศ า ส ต ร์ ที่ ไ ม่ เ ค ย เ รี ย น ร า ย วิ ช า 2 6 3 - 2 0 1 เ ท ค โ น โ ล ยี ก า ร ศึ ก ษ า ค ณ ะ ศึ ก ษ า ศ า ส ต ร์
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี จานวน 30 คน ซึ่งการเปรียบเทียบผลทดสอบก่อนเรียนและ
หลังเรียนพบว่าคะแนนเฉลยทดสอบหลังเรียนสูงกวา่ คะแนนจากการทดสอบกอ่ นเรียน
ทิพย์มณฑา สดชน่ื (2544: ออนไลน์) ได้พัฒนาหนังสืออิเลก็ ทรอนกิ ส์เรื่อง การถา่ ยภาพ
เบื้องต้นด้วยโปรแกรม Adobe Acrobat สาหรับใช้ประกอบการเรียนการสอนวิชา 263-201 เทคโนโลยี
การศึกษา แล้วหาประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 และเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังการ
เรียนด้วยหนังสืออิเล็กทรอนิกส์เร่ือง การถ่ายภาพเบื้องต้น ผลการวิจัยพบว่า หนังสืออิเล็กทรอนกิ ส์เรื่อง การ
ถ่ายภาพเบื้องต้นมีประสิทธิภาพ 87.50/83.44 เป็นไปตามเกณฑ์ และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักศึกษา
หลงั จากท่เี รยี นด้วยหนังสืออิเล็กทรอนิกส์สูงกว่ากอ่ นเรียนอยา่ งมีนัยสาคญั ทางสถติ ิทรี่ ะดับ .01
เสาวลักษณ์ ญาณสมบตั ิ (2545: ออนไลน์) ได้พัฒนาและหาประสิทธิภาพของหนังสืออเิ ล็ก
ทรอนกิ ส์ เร่อื ง นวัตกรรมการสอนที่ยึดผเู้ รยี นเปน็ สาคัญผลการวิจัยพบวา่ ผู้เรยี นมีผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนจาก
หนังสืออเิ ล็กทรอนกิ ส์สงู กว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสาคัญทางสถติ ิ
พเิ ชษฐ์ เพียรเจริญ (2546: บทคัดยอ่ ) ได้พัฒนาหนังสืออิเลก็ ทรอนิกส์ เร่อื ง ส่อื การสอน เพ่ือ
หาประสิทธิภาพหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ตามเกณฑ์ 80/80 และเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของ
นักเรียนท่ีไม่เคยเรียนวิชา 263-201 เทคโนโลยีการศึกษามาก่อน จานวน 55 คน ผลการวิจัยพบว่าหนังสือ
อิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง ส่ือการสอนมีประสิทธิภาพ 82.00/82.50 เป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 และผลสัมฤทธิ์
ทางการเรียนของนักเรียนหลังจากที่เรียนด้วยหนงั สืออิเล็กทรอนิกส์ เร่ือง สื่อการสอนสูงกว่ากอ่ นเรียนอย่างมี
นยั สาคัญทางสถิตทิ ี่ ระดับ .01
งานวจิ ยั ท่ีเกี่ยวขอ้ งในต่างประเทศ
ฮกิ กินส์ และฮีส (Higgin; & Hess. 1998) ได้ศึกษาและเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
เกี่ยวกับคาศัพท์จากกลอนบทหน่ึงชื่อว่า “My Incredible Headache” ในซีดีรอม The New kid on the
block ซึ่งเป็นหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ท่ีได้รับความนิยมจากนักเรียน มีคาและภาพเหมือนกับหนังสือปกติแต่
สามารถอ่านออกเสียงดัง ๆ เปน็ คา วลีและเร่ืองราวเปน็ รายบุคคล มีภาพเคลื่อนไหวและภาพท่ีใช้เลือกวัตถุใน
ภาพหนังสือของนักเรียนเกรด 3 จานวน 15 คน โดยแบ่งเป็นกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุมนักเรียนในกลุ่ม
ควบคุมใหอ้ ่านพร้อมฟังเสียงจากหนังสืออิเล็กทรอนกิ ส์ และดูภาพเคลื่อนไหว
ผลการวิจัยพบว่า นักเรียนท้ังหมดให้ความสนใจกับหนังสืออิเล็กทรอนิกส์เพราะมี
ภาพเคลื่อนไหว และไดร้ ับความรู้จากแบบสอบถามกอ่ นและหลังเรียนแตกตา่ งกัน
หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-book) เป็นสื่ออิเล็กทรอนิกส์ท่ีมีบทบาทต่อการศึกษายุคสมัยน้ี
ฉะน้ันผู้วิจัยจงนามาใช้ในโรงเรียนให้ผู้เรียนได้สัมผัสเพ่ือนาไปใช้ประโยชน์ อีกทั้ง ก่อให้เกิดผลต่อนักเรียนทั้ง
ดา้ นผลสัมฤทธ์ิท่สี ูงขน้ึ ได้
จากเอกสารและงานวิจัยท่ีเก่ียวข้องดังกล่าวข้างต้น จะเห็นได้ว่า การนาคอมพิวเตอร์
มัลติมีเดียมาช่วยแก้ปัญหาทางการศึกษาในระดับชั้นต่าง ๆ จะส่งผลให้ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนดีข้ึน
และเป็นการตอบสนองในดา้ นความแตกตา่ งระหวา่ งบคุ คลไดด้ ี
ดังน้ัน ผู้วิจัยจึงได้สร้างและพัฒนา หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-book) เรื่อง การใช้ห้องสมุด
เพื่อใช้ในการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สาหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โดยมี
วัตถุประสงค์เพ่ือพัฒนาการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยเรื่องดังกล่าวให้มีคุณภาพเป็นท่ีพึงประสงค์
มากย่งิ ข้ึน
เอกสารและงานวจิ ัยทเ่ี กยี่ วขอ้ งกับการเรยี นรู้้ดว้ ยตนเอง
3.1 ความหมายของการเรยี นรู้ด้วยตนเอง
นกั วิชาการทางการศึกษาหลายท่านได้ใหค้ วามหมายของการเรียนรู้ด้วยตนเองไว้ ดังนี้
เพ็ญสุข ภู่ตระกูล (2528: 17) ได้กล่าวถึงความหมายของการเรียนรู้ด้วยตนเองว่า หมายถึง
กิจกรรมการเรียนการสอนซ่ึงจัดขึ้นโดยเปิดโอกาสให้ผู้เรียนกาหนดวัตถุประสงค์การเรียนรู้ตลอดจนวิธีการ
บรรลุถึงวัตถุประสงค์ด้วยตนเอง กิจกรรมท่ีจัดขึ้นมุ่งให้ผู้เรียนเกิดความคิดสร้างสรรค์ ครูเป็นผู้แนะนาและ
จดั เตรยี มอุปกรณ์ สถานที่ศึกษาค้นคว้าการเรียนรู้ด้วยตนเองทาให้นกั เรียนได้เรียนและทางานท่ีใจรัก ก่อใหเ้ กดิ
แรงกระตุ้นในการเรยี น นักเรียนจะเกิดการพัฒนาอย่างค่อยเป็นค่อยไปและเกิดการปรับปรุงแก้ไขตนเอง จน
สามารถศึกษาค้นคว้า หาความรู้ได้ด้วยตนเองในที่สุด
พัชรี พลาวงศ์ (2526: 83) ได้กล่าวถึงความหมายของการเรียนรู้ด้วยตนเองว่า หมายถึง
วิธีการเรียนรู้รูปแบบหนึง่ ท่ีมีโครงสร้างอย่างเป็นระบบ สามารถตอบสนองต่อความต้องการของผู้เรียนได้ การ
เรียนรุู้ด้วยตนเองจะช่วยใหุ้ผ้เรียนมีอิสระในการเลือกเรียนตามเวลา สถานที่เรียนระยะเวลาในการเรียนแตล่ ะ
บทในเนื้อหาของบทเรียน แต่จะต้องอยู่ภายใตข้ ้อจากัดของโครงสร้างในบทเรียนนั้น ๆ เพราะในแตล่ ะบทเรียน
จะมีวิธเี รียนที่ช้ีแนะไว้ในคู่มือการเรียน (Study Guide)
วิไล องค์ธนะสุข (2543: 80) ได้กล่าวถึงความหมายของการเรียนรู้ด้วยตนเองว่า หมายถึง
เป็นรูปแบบหนึ่งของการเรียนการสอน โดยเปดิ โอกาสให้ผู้เรียนสามารถเลือกเรียนหรือเรียนตามความสามารถ
ความสนใจของตนเอง โดยคานึงถึงหลักของความแตกต่างระหว่างบุคคล ได้แก่ ความแตกต่างในด้าน
ความสามารถทางสติปัญญา ความต้องการและความสนใจในการเรียนรูด้ ้านร่างกาย อารมณ์ และสังคม โดย
การเรียนรู้ด้วยตนเองเป็นการประยุกต์ร่วมกนระหว่างเทคนิคและสื่อการสอนให้สอดคล้องกับความแตกต่าง
ระหว่างบุคคล
สมบัติ สุวรรณพิทักษณ์ (2524: 6) กล่าวว่า การเรียนรู้ด้วยตนเองเป็นกระบวนการเรียนรู้
ด้วยตนเองเป็นหลัก โดยได้รบการช่วยเหลือและสนับสนุนจากผู้อื่น เช่น เพ่ือน ครู และผู้รู้เท่าที่จาเป็น การ
เรยี นรู้ดว้ ยตนเองในทีุ่น้ีประกอบด้วยองค์ประกอบท่ีสาคัญดังนี้
1. การวิเคราะห์และกาหนดความต้องการของตนเอง
2. การกาหนดจดุ มุ่งหมายในการเรียน
3. การหาแหล่งวิทยาการและกิจกรรมการเรียน
4. การเลอื กวิธกี ารและกิจกรรมการเรียน
5. การกาหนดวิธีการประเมนิ ผลการเรียน
กาเย่ (Gagne. 1974) ไดใ้ หน้ ิยามความหมายของการเรียนรู้ดว้ ยตนเองว่า หมายถงึ เป็นการ
เปล่ียนแปลงสมรรถภาพ (Capability) หรือความสามารถของมนุษย์ซึ่งสามารถสังเกตได้จากพฤติกรรมบาง
ประการท่ีแสดงออก การเปล่ียนแปลงน้ีเกิดจากการที่มนุษย์ได้รับประสบการณ์จากสภาพการณ์เรียนรู้ใน
ระยะเวลาหนึ่ง
กริฟฟนิ (Griffin. 1983: 153) อธิบายว่า การเรียนรู้ด้วยตนเองเปน็ การจัดประสบการณ์การ
เรียนรู้เฉพาะของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง โดยมีเป้าหมายไปสู่การพัฒนาทักษะการเรียนรู้ของตนเองและ
ความสามารถในการวางแผนปฏิบัตหิ รือคน้ คว้าดว้ ยตนเอง เปน็ ต้น
โนลส์ (Knowles. 1975) ได้กล่าวถึง การเรียนรู้ด้วยตนเอง (Self-directed Learning) ว่า
เปน็ กระบวนการเรียนซ่ึงผู้เรียนแตล่ ะคนมีความคิดริเร่ิมดว้ ยตนเอง โดยอาศยั ความชว่ ยเหลือจากผู้อนื่ หรือไม่
อาศยั ก็ได้ ผเู้ รียนจะทาการวิเคราะหค์ วามตอ้ งการที่จะเรียนรู้ของตน กาหนดเปา้ หมายในการเรียนรู้ แยกแยะ
แจกแจง แหล่งขอ้ มลู ในการเรียนรู้ ทั้งที่เป็นคนและอปุ กรณค์ ัดเลือกวิธกี ารเรียนรู้ท่ีเหมาะสม และประเมนิ ผล
จากการเรียนรู้น้ัน การเรียนรู้ดว้ ยตนเองเปน็ การเรียนท่ีเกดิ จากความสมัครใจของเด็กไมใช่การบังคับเรียน
สรุปจากความหมายของนักวิชาการหลายท่าน การเรียนรู้ดว้ ยตนเองเป็นรูปแบบหนง่ึ ของการ
เรียนการสอนที่สนองต่อความแตกต่างระหว่างบคุ คลในด้านความตอ้ งการเรียนรู้ ความสนใจ ความถนัด ระดับ
การเรียนรู้ สติปญั ญา อารมณ์ สังคม รา่ งกาย หรือแมแ้ ตจ่ ติ ใจของผู้เรียน ท่ีเปดิ โอกาสใหผ้ ู้เรยี นไดเ้ ลอื กเรียนรู้
ตามความต้องการและความเหมาะสมกับตนเองทั้งในด้านเวลา สถานที่ และระยะในการเรียนรู้ให้เกิดผล
สมั ฤทธิ์ทางการเรยี นตอ่ เน้ือหาสาระท่ีตนสนใจศึกษา จนเกดิ สามารถนาไปวิธกี ารหรอื กระบวนการในศกึ ษาหา
ความร้ดู ังกลา่ วไปใช้ในการศกึ ษา เนื้อหาวิชาอื่นๆ ต่อไปได้
เอกสารและงานวิจัยทเี่ กยี่ วขอ้ งกบการสอนวชิ าการใชห้ ้องสมุด
ผู้วิจัยได้ทาการศึกษาค้นคว้างานวิจัยที่เก่ียวข้องกับการสอนการใช้ห้องสมุดจากนักวิชาการ
หลายท่าน ซึ่ง สามารถสรุปงานวิจัยต่างๆ ได้ดงั นี้
วาณี ฐาปนวงศ์ศานติ (2529: 31) มีความเหน็ สอดคล้องในเรื่องการสอนการใช้หอ้ งสมดุ
ในระดับการศึกษาตา่ งๆ ว่า ควรมีเนื้อหาดงั น้ี คือ
1. ความสาคัญและวัตถุประสงค์ของหอ้ งสมุด
2. การจดั วัสดแุ ละระเบียบการใช้หอ้ งสมดุ
3. สว่ นตา่ ง ๆ ของหนังสือและการระวังรักษาหนังสือ
4. การแบ่งหมวดหมู่วสั ดุและการจัดสาหรับบริการ
5. บตั รรายการต่าง ๆ
6. หนังสืออ้างอิง วารสาร หนังสือพิมพ์ และวิธีใช้
7. การเขียนรายงานการค้นคว้า
ลมลุ รตตากร (2530: 10) ไดเ้ สนอเน้ือหาของการสอนห้องสมดุ ดงั นี้ คือ
1. ความสาคัญของหอ้ งสมุด
2. การจดั หอ้ งสมดุ และระเบียบวิธีการใชห้ ้องสมุด
3. ชนิดของวัสดุในหอ้ งสมุด
4. ส่วนตา่ ง ๆ ของหนังสือและการระวังรักษาหนังสือ
5. การจดั หนังสือหรือการแบง่ หมวดหมู่หนังสือและการเรียงหนังสือบนชน้ั
จากเน้ือหาของการสอนการใช้ห้องสมุด สามารถสรุปได้ว่าการสอนการใช้ห้องสมุดในโรงเรียน
ควรมีเนื้อหาดังน้ี คอื
1. ความสาคัญและวัตถุประสงค์ของหอ้ งสมุด รวมทงั้ ระเบียบการใช้ห้องสมุด
2. ชนดิ ของวัสดใุ นหอ้ งสมดุ แบง่ เปน็ 2 ประเภท คือ วัสดตุ พี มิ พ์ และโสตทัศนวัสดุ
3. ส่วนตา่ งๆ ของหนังสือและการระวังรักษาหนังสือ
4. การแบ่งและการจัดหมวดหุม่วัสดุ ให้ทราบเร่ืองความหมาย ประโยชน์การแบ่งหมวดหมู่
หนังสือและการจัดเรยี งหนังสือบนชน้ั
5. บัตรรายการและวธิ ีการใช้บัตรรายการ ให้ทราบเรื่องความหมาย ประโยชน์บัตรรายการท่ี
ควรรู้จกั การเรียงและวิธใี ชบ้ ตั รรายการ
6. หนงั สออ้างองิ และวธิ ีใช้ ใหท้ ราบเรื่องความหมาย ลกั ษณะพิเศษ และหนงั สืออ้างอิงท่ีควร
รู้จกั
7. วิธีการจัดทารายงานการค้นคว้าให้ทราบเร่ืองความหมาย วัตถุประสงค์ ข้ันตอนการทา
รายงาน การเขียนเชิงอรรถ และบรรณานกุ รม
จากเอกสาร และงานวิจยั ทงั้ ในประเทศและตา่ งประเทศที่ได้รวบรวมมาจะเห็นได้ว่า การนา
คอมพิวเตอร์มัลติมีเดียมาช่วยแก้ปัญหาทางการศึกษาในระดบั ชั้นต่างๆ จะส่งผลให้ผเู้ รยี นมีผลสัมฤทธิ์ทางการ
เรียนดีข้ึนและเป็นการตอบสนองในด้านความแตกต่างระหวา่ งบุคคลได้ดี ท้ังยังเป็นสื่อเสริมสาหรับการเรียน
การสอนรายบุคคลให้เกิดการเรียนรู้ด้วยตนเองมากข้ึนอีกด้วย ดังนั้น จึงทาให้ผู้วิจัยสนใจที่จะพัฒนาหนังสือ
อิเล็กทรอนิกส์ (e-book) เรื่อง การใช้ห้องสมุดสาหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 4 เพ่ือใช้ในการเรียนการ
สอนต่อไป
บทท่ี 3
วธิ ดี าเนินการวิจัย
ในการดาเนินการพัฒนาและใช้หนังสอื อิเลก็ ทรอนิกส์ (e-book) เร่อื ง การใช้ห้องสมุด ในการ
จัดการเรียนรกู้ ลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สาหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 4 มีรายละเอียดขั้นตอนการ
ดาเนนิ งาน ดังนี้
ประชากรและกลุ่มตวั อย่าง
1. ประชากร ประชากรที่ใช้ในการวิจัยคร้ังนี้ เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 4 โรงเรียน
ประชาสงเคราะห์วทิ ยา ปกี ารศกึ ษา 2564 จานวน 5 หอ้ งเรยี น รวม 207 คน
2. กลุ่มตัวอยา่ ง
2.1 กลุ่มตัวอย่างท่ีใช้ในการทดลองเพื่อหาประสิทธิภาพของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์
(e-book) เรื่อง การใช้ห้องสมุด เป็นนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 4 โรงเรียนประชาสงเคราะห์วิทยา ปี
การศกึ ษา 2564 จาแนกเป็นกลุ่มตัวอย่างทใ่ี ช้ในการทดลองรายบุคคล จานวน 1 คน กลมุ่ ตวั อย่างที่ใช้ใน
การทดลองกลุม่ เลก็ จานวน 3 คน และกลุม่ ตวั อย่างท่ใี ชใ้ นการทดลองภาคสนาม จานวน 37 คน
2.2 กลุ่มตัวอย่างในการจัดการเรียนรู้โดยใช้หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-book) เร่ือง
การใช้ห้องสมุด เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 4 โรงเรียนประชาสงเคราะห์วิทยา ปีการศึกษา 2565
จานวน 40 คน ได้มาจากการเลอื กแบบเจาะจงจากนกั เรียนทกุ คนทผี่ ู้วิจยั เปน็ ครปู ระจาชนั้ และเป็นผสู้ อนเอง
เคร่อื งมอื ท่ีใช้ในการวจิ ัย
เครอื่ งมือทีใ่ ชใ้ นการวจิ ัยครั้งน้ี ประกอบด้วย
1. หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-book) กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เร่ือง การใช้ห้องสมุด
ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 4
2. แบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธิท์ างการเรียน เรอ่ื ง การใช้หอ้ งสมุด กลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย
จานวน 20 ข้อ
3. แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนท่ีมีต่อการเรียนรู้โดยใช้หนังสืออิเล็กทรอนิกส์
(e-book) เรือ่ ง การใช้หอ้ งสมุด
การสร้างและพัฒนาเครื่องมือทีใ่ ช้ในการวิจัย
1. การสร้างและพัฒนาหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-book) เรื่อง การใช้ห้องสมุด กลุ่มสาระ
การเรยี นรู้ภาษาไทย เรื่อง การใชห้ อ้ งสมดุ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4
ในการสร้างและพัฒนาหนงั สืออเิ ล็กทรอนิกส์ (e-book) กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง การใช้
ห้องสมุด สาหรบั นักเรยี นชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 4 มีข้นั ตอนดาเนินงาน ดังน้ี
1.1 ศึกษาและวเิ คราะหป์ ัญหาการเรียนการสอน กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย
ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 เพือ่ กาหนดปัญหาและจดุ ทจ่ี ะต้องพฒั นา
1.2 ศึกษาแนวคิด ทฤษฎี หลักการจากเอกสาร ตารา และงานวิจัยท่ีเก่ียวข้องเพ่ือสร้าง
กรอบแนวคดิ ในการสรา้ งและพัฒนาหนงั สอื อิเลก็ ทรอนกิ ส์ (e-book) ภาษาไทย เรอ่ื ง การใช้ห้องสมุด สาหรับ
นักเรยี นชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 4
1.3 กาหนดวตั ถปุ ระสงคแ์ ละเนอ้ื หาสาระเร่อื ง การใชห้ ้องสมุด ท่ีจะใชใ้ นการสรา้ งหนังสอื
อิเลก็ ทรอนกิ ส์ (e-book) เรอ่ื ง การใช้ห้องสมดุ
1.4 สร้างหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-book) เรื่อง การใช้ห้องสมุด กลุ่มสาระการเรียนรู้
ภาษาไทย เรอ่ื ง การใชห้ อ้ งสมุด ฉบบั ร่าง
1.5 นาหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-book) เรื่อง การใช้ห้องสมุด ฉบับร่าง ไปปรึกษา
ผเู้ ชีย่ วชาญ
1.6 แกไ้ ขปรบั ปรุงหนงั สอื อเิ ลก็ ทรอนิกส์ (e-book) เรอื่ ง การใช้หอ้ งสมดุ ตามคาแนะนา
ของผเู้ ชยี่ วชาญ (ควรระบุว่าได้แก้ไขปรับปรุงในประเดน็ ใดบ้าง)
1.7 จัดทาหนงั สืออิเลก็ ทรอนิกส์ (e-book) เร่อื ง การใชห้ อ้ งสมดุ สาหรับใช้ในขั้นตอนการ
ทดลองเพอ่ื หาประสทิ ธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80
1.8 นาหนังสอื อิเลก็ ทรอนิกส์ (e-book) เร่ือง การใชห้ ้องสมดุ ไปทดลองใช้กับนกั เรยี น
ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 4 โรงเรียนประชาสงเคราะหว์ ิทยา ภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา 2565 จานวน 3
ข้นั ตอน ดังนี้
1.8.1 การทดลองรายบุคคลและแก้ไขปรับปรุง (One to One Try-out and
Revised) โดยทดลองกบั นักเรียนท่มี ผี ลการเรียนอ่อน ปานกลาง ดี จานวน 3 คน
1.8.2 การทดลองกลุ่มเล็กและแก้ไขปรับปรุง (Small Group Try-out and
Revised)โดยทดลองกบั นักเรยี น จานวน 3 คน ซึ่งเป็นเรยี นที่มีผลการเรยี นอ่อน 1 คน ผลการเรียนปานกลาง
จานวน 1 คน และมีผลการเรยี นดี จานวน 1 คน
1.8.3 ก า ร ท ด ล อ ง ภ า ค ส น า ม ( Field Try-out and Revised) น า ห นั ง สื อ
อเิ ล็กทรอนกิ ส์ (e-book) ไปทดลองใช้กับนักเรยี น 1 หอ้ งเรียน จานวน 40 คน โดยมขี นั้ ตอนการทดลอง ดังน้ี
1) ทดสอบกอ่ นเรียน โดยใช้แบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เร่ือง การใช้
หอ้ งสมุด จานวน 20 ข้อ
2) จดั การเรยี นรู้โดยใช้หนงั สอื อิเลก็ ทรอนกิ ส์ (e-book) เรอ่ื ง การใช้ห้องสมุด
จานวน 1 ชว่ั โมง และเก็บข้อมลู ผลการเรียนร้แู ละหรอื คะแนนการทากิจกรรมระหวา่ งเรียน
3) ทดสอบหลงั เรียน โดยใชแ้ บบทดสอบชดุ เดียวกันกับท่ีใชใ้ นการทดสอบ
กอ่ นเรียน
1.9 นาขอ้ มูลผลการทากจิ กรรมระหวา่ งเรียนและข้อมูลผลการทดสอบหลงั เรียน มาใช้ใน
การหาประสทิ ธภิ าพของหนงั สืออเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (e-book) เรือ่ ง การใช้ห้องสมดุ ท่ีสรา้ งขนึ้ ตามเกณฑม์ าตรฐาน
80/80
1.10 ได้หนงั สืออิเลก็ ทรอนิกส์ (e-book) เรื่อง การใชห้ อ้ งสมดุ ที่มปี ระสทิ ธภิ าพ
ซ่งึ มปี ระสทิ ธิภาพ ตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 ท่ีกาหนด
1.11 จดั ทาหนังสืออิเลก็ ทรอนิกส์ (e-book) กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย เรือ่ ง การ
ใช้หอ้ งสมดุ ให้เพยี งพอกบั จานวนนกั เรียนกลุม่ ตวั อยา่ งทีจ่ ะใชใ้ นการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
2. การสรา้ งและพัฒนาแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
1. ศึกษาวธิ ีการสร้างแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากเอกสารและตาราต่างๆ
2. วิเคราะหเ์ นื้อหาและผลการเรียนรู้ทค่ี าดหวังของวิชาการใช้หอ้ งสมุดตามท่ีกาหนดไว้ เพื่อเปน็
แนวทางในการสรา้ งแบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี น
3. กาหนดเนอ้ื หาที่จะใชใ้ นการสร้างแบบทดสอบของหนังสืออเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (e-book) เร่ือง
การใชห้ ้องสมุด สาหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 4
4. สร้างแบบทดสอบวัดผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียน แบบปรนัย 4 ตัวเลือก 3 ตอนๆ ละ 20 ข้อ
รวมจานวน 60 ขอ้ โดยให้แบบทดสอบครอบคลุมเนื้อหาและผลการเรียนรู้ท่ีคาดหวงั ในแต่ละตอน
5. นาแบบทดสอบที่สร้างขน้ึ ไปให้ผูเ้ ช่ียวชาญด้านเนื้อหาตรวจสอบความถูกตอ้ งและความ
สอดคล้องกับผลการเรียนรู้ที่คาดหวังแล้วนามาปรับปรงุ แก้ไขตามข้อเสนอแนะ
6. นาแบบทดสอบทีไ่ ด้ปรับปรงุ ตามคาแนะนาไปทดลองใชักับนกั เรียนช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 4
โรงเรียนประชาสงเคราะหว์ ทิ ยา ปกี ารศึกษา 2564 จานวน 4 หอ้ งเรียน รวมนักเรียนท้ังหมด 167 คน ที่
ไม่ใชน่ ักเรียนกลุ่มตัวอย่าง และเคยเรียนเนื้อหาเก่ียวกับการใช้ห้องสมุดมาแล้ว
7. นากระดาษคาตอบของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 4 ท่ไี ด้สอบมาแล้วในขอ้ 6 มาตรวจ
ใหค้ ะแนน โดยใช้วิธี 0-1 (Zero-One Method) คือใหค้ ะแนนขอ้ ทตี่ อบถูกต้องเป็น 1 คะแนน
และขอ้ ท่ีตอบไม่ถกู หรือไม่ตอบ หรือตอบมากกวา่ 1 ตัวเลือก ใหเ้ ป็น 0 คะแนน
8. นาคะแนนมาวิเคราะหห์ าคา่ ความยากง่าย (p) ค่าอานาจจาแนก (r) ของแบบทดสอบ
9. คัดเลือกขอ้ สอบ จานวน 30 ข้อท่ีมีความยากง่ายระหว่าง 0.20 - 0.80 และค่าอานาจจาแนก
ตง้ั แต่ 0.20 ขน้ึ ไป เพื่อนามาใช้เปน็ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน โดยคดั เลือกข้อสอบออกเปน็ 3
ตอนๆ ละ 10 ขอ้
10. นาแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนไปทาการวิเคราะหห์ าคา่ ความเชื่อมนั่ โดยใช้สูตร
KR-20 ของ Kuder-Richardson (ลวน สายยศ และองคณา สายยศ. 2538: 215-217)
3. การสร้างและพัฒนาแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้โดยใช้
หนงั สืออเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (e-book) เรื่องการใชห้ อ้ งสมดุ มขี น้ั ตอนการดาเนินการ ดังนี้
1. ศกึ ษาวธิ ีการสร้างแบบประเมินคุณภาพจากเอกสาร และงานวจิ ัยต่างๆ
2. สร้างแบบประเมินคณุ ภาพให้มีความสอดคล้องและครอบคลุมคุณสมบตั ทิ ี่ตอ้ งการ
ประเมนิ คุณภาพในแตล่ ะดา้ น คือ แบบประเมนิ คณุ ภาพด้านเนอ้ื หา และแบบประเมินคุณภาพดา้ น เทคโนโลยี
การศกึ ษา โดยใชแ้ บบประเมนิ หนังสอื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (e-book) เป็นแบบมาตราส่วนประมาณ คา่ (Rating
Scale) 5 ระดบั คือ
5 หมายถึง มคี ุณภาพดมี าก
4 หมายถงึ มีคณุ ภาพดี
3 หมายถึง มีคุณภาพปานกลาง
2 หมายถึง ตอ้ งปรับปรุง
1 หมายถึง ไมม่ คี ุณภาพ
3. นาแบบประเมินคณุ ภาพท่ีสรา้ งขน้ึ ตรวจสอบแล้วนามา ปรับปรงุ แกไ้ ขตามคาแนะนา
4. นาแบบประเมนิ ท่ผี ่านการปรับปรงุ แกไ้ ขแลว้ ไปให้ผูเ้ ช่ียวชาญดา้ นเนื้อหาและด้าน
เทคโนโลยีการศึกษาประเมนิ คุณภาพของหนังสืออเิ ล็กทรอนิกส์ (e-book) ก่อนนาไปหาผลการใช้
5. นาผลจากการประเมินมาพิจารณาหาค่าเฉล่ียเพ่ือใชเ้ ปน็ เกณฑ์ในการกาหนดคุณภาพ
ของหนงั สืออเิ ล็กทรอนิกส์ (e-book) โดยใช้เกณฑ์ในการแปลความหมายค่าเฉลีย่ จากผลการประเมิน
รูปแบบของการวิจัย
ในการวจิ ยั ครง้ั น้ีใชร้ ูปแบบการทดลองแบบ One Group Pretest - Posttest Design
(บญุ ธรรม กจิ ปรดี าบรสิ ุทธิ์,2543: 95) ดงั นี้
O1 X O1 O2
เมือ่ O1 คอื การทดสอบกอ่ นการทดลอง
O2 คือ การทดสอบหลงั การทดลอง
อเิ ล็กทรอนกิ ส์ X คือ การจัดกิจกรรมการเรยี นรโู้ ดยใช้หนังสือ
การเก็บรวบรวมขอ้ มูล
(e-book) เรอ่ื งการใชห้ อ้ งสมดุ
1. ก่อนจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-book) กลุ่มสาระการเรียนรู้
ภาษาไทย เร่ืองการใช้ห้องสมุด ผู้วิจัยจะดาเนินการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน (Pretest) เรื่อง การใช้
หอ้ งสมดุ กับนักเรยี นกลมุ่ ตวั อยา่ ง ในวันท.่ี ......เดือน..............พ.ศ. ...........
2. ดาเนินการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้กับนักเรยี นกลุ่มตวั อย่างตามแผนการจดั การเรยี นรู้
ตั้งแต่วันท่ี 1 เดอื น พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 ถึง วันที่ 30 เดือน ตุลาคม พ.ศ. 2565 โดยใชเ้ วลาสอนทงั้ สน้ิ 20
ชวั่ โมง
3. เมอ่ื สอนครบทุกแผนการสอนแลว้ จะดาเนินการทดสอบเพอื่ วดั ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี น
หลงั เรียน (Posttest) กบั กลุม่ ตวั อย่างโดยใช้แบบวัดชุดเดยี วกันกับที่ใชว้ ัดกอ่ นเรียน
4. ตรวจผลการสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี น แล้วนาคะแนนทไ่ี ดม้ าวิเคราะหท์ างสถิติ
การวเิ คราะห์ขอ้ มลู
1. หาประสทิ ธิภาพของหนังสืออเิ ล็กทรอนิกส์ (e-book) กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรือ่ ง การใช้
ห้องสมุด นกั เรียนชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 โดยเปรียบเทียบกบั เกณฑ์ 80/80
2. เปรียบเทยี บผลสัมฤทธิ์ทางการด้วยการทดสอบค่าเฉล่ียความแตกต่างระหว่างคะแนนก่อนเรียน
และคะแนนหลังเรียนโดยใช้หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-book) กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง การใช้
ห้องสมดุ โดยใช้ค่า t-test แบบ Dependent
3. วิเคราะห์ระดับความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-book) กลุ่ม
สาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง การใช้ห้องสมุด นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 4 โดยใช้ค่าเฉลี่ย ( X ) และส่วน
เบีย่ งเบนมาตรฐาน (S.D)
สถิติท่ีใชใ้ นการวเิ คราะหข์ ้อมูล
1. หาค่าเฉลี่ยของคะแนนทดสอบก่อนและหลังเรียน ( ) โดยคานวณจากสูตร
ดงั นี้ (บุญธรรม กจิ ปรีดาบริสทุ ธ์ิ. 2543 : 351)
สูตร = แทน คะแนนเฉลีย่
แทน ผลรวมของคะแนนทัง้ หมด
แทน จานวนขอ้ มลู
เม่ือ
2. หาค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ของคะแนนทดสอบก่อนและหลังเรียน ใช้สูตร
ดงั น้ี (บุญธรรม กิจปรดี าบรสิ ทุ ธ์ิ, 2543 : 352)
สตู ร S.D. = 2
( )
เมอ่ื S.D. แทน ความเบี่ยงเบนมาตรฐาน
แทน ผลรวมของคะแนนทงั้ หมด
2 แทน ผลรวมของกาลังสองของ
คะแนนทงั้ หมด
แทน จานวนขอ้ มลู
3. หาค่าดชั นีความสอดคลอ้ งระหวา่ งข้อสอบกบั จุดประสงค์การเรียนรู้ โดยคานวณจากสูตร ดังน้ี
(พวงรตั น์ ทวรี ตั น์, 2540 : 117)
สตู ร IOC = R
เมือ่ IOC แทน ดัชนคี วามสอดคล้องระหวา่ งข้อคาถาม
R แทน กับลักษณะพฤตกิ รรม
แทน ผลรวมของคะแนนความคดิ เหน็
ของผ้เู ช่ียวชาญด้านเน้อื หาทัง้ หมด
จานวนผู้เชี่ยวชาญ
4. หาค่าความยากง่ายและค่าอานาจจาแนกของแบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยใช้
เทคนคิ 27% โดยใช้สตู รดงั นี้ (บญุ ธรรม กิจปรดี าบรสิ ุทธ์ิ, 2543 : 177-178)
สตู ร p= pH pL
2n
r = pH pL
n
เม่ือ pH แทน จานวนนักเรียนทต่ี อบถูกในกลุม่ สูง
pL แทน จานวนนกั เรียนตอบถูกในกลุ่มตา่
n แทน จานวนนักเรยี นในกลุม่ สูงหรอื กลุม่ ตา่
5. หาคา่ ความเชอื่ ม่นั ของแบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียน โดยใช้สตู ร KR-20 ของ
Kuder - Richardson (พวงรัตน์ ทวีรตั น,์ 2540 : 123)
สูตร r tt = pq
1 st2
เมอ่ื r tt แทน ค่าความเชือ่ มน่ั ของแบบทดสอบทง้ั ฉบับ
แทน จานวนขอ้ ในแบบทดสอบ
p แทน สัดสว่ นของผทู้ าได้ในข้อหนง่ึ ๆ
q แทน สัดส่วนของผูท้ าผดิ ในข้อหนงึ่ ๆ คือ 1- p
st2 แทน ความแปรปรวนของคะแนนแบบทดสอบท้ังฉบบั
6. หาประสทิ ธภิ าพของหนังสืออิเลก็ ทรอนกิ ส์ (e-book) ตามเกณฑม์ าตรฐาน 80/80 (E1/E2 =
80/80)
ดงั น้ี
E1 =
100
เมือ่ E1 แทน ประสทิ ธิภาพของกระบวนการท่ีจัดไวใ้ น..
(ชอื่ นวัตกรรม) หาไดจ้ ากคะแนนการทากิจกรรม
ระหวา่ งเรียนได้ถกู ต้องโดยเฉลย่ี ร้อยละ 80
แทน คะแนนรวมของนักเรียนทุกคนทไี่ ด้จากการทา
กจิ กรรมในบทเรยี น
แทน คะแนนเตม็ ของกิจกรรมทุกกจิ กรรมรวมกนั
E2 = F
100
เมอ่ื E2 แทน ประสิทธภิ าพของผลลพั ธท์ ่ีได้จากคะแนนเฉล่ยี
จากการทาแบบทดสอบหลังเรยี นบทเรยี นไดถ้ กู ต้อง
F โดยเฉล่ียรอ้ ยละ 80
B แทน คะแนนรวมของนักเรียนทกุ คนที่ได้จากการทา
แบบทดสอบหลงั เรยี นบทเรียน
แทน คะแนนเตม็ ของแบบทดสอบ
แทน จานวนนกั เรยี นในกล่มุ ตัวอย่างท้ังหมด
7. เปรียบเทียบคะแนนเฉล่ียร้อยละระหวา่ งคะแนนทไ่ี ด้จากการทดสอบก่อนและหลงั เรียน และ
เปรียบเทียบคะแนนเฉลย่ี หลงั เรียนกับเกณฑท์ ี่กาหนด
8. เปรียบเทียบคะแนนเฉลีย่ ระหวา่ งคะแนนผลการทดสอบหลังเรยี นกบั คะแนนเฉล่ยี ก่อนเรียน
โดยใช้ t-test สตู รดงั นี้
t= D
D D2
1
เม่อื t แทน ค่าทจ่ี ะใช้พจิ ารณา t – distribution
D แทน ผลรวมของความแตกต่างระหว่างคะแนนสอบ
ก่อนเรียนและหลังเรยี นของนกั เรยี นแต่ละคน
N แทน จานวนนักเรยี น
D2 แทน ผลรวมของกาลงั สองของความแตกตา่ งระหวา่ ง
คะแนนสอบกอ่ นเรยี นและหลงั เรยี นของผู้เรียนแตล่ ะคน
df = -1
บทที่ 4
ผลการวจิ ัย
การวิจัยคร้งั น้ีมจี ุดมงุ่ หมายเพ่ือพัฒนาหนงั สอื อเิ ล็กทรอนิกส์ (e-book) ให้มีคุณภาพตามเกณฑ์และ
ศึกษาผลการใช้หนังสืออเิ ลก็ ทรอนิกส์ (e-book) เรื่อง การใช้หอ้ งสมุด สาหรับนักเรยี นชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
ผลของการวจิ ยั มีรายละเอยี ดดังน้ี
หนังสืออเิ ลก็ ทรอนิกส์ (e-book) เรือ่ ง การใช้หอ้ งสมุด
หนังสอื อเิ ล็กทรอนิกส์ (e-book) เรอื่ ง การใช้หอ้ งสมุด สาหรับนกั เรยี นชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 เนอ้ื หา
ภายในบทเรียนจัดเปน็ เนื้อหาของหลักสตู รการศึกษาของสถานศึกษาท่ีองิ หลักสตู รแกนกลาง วิชา การใช้
หอ้ งสมุด นกั เรยี นชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 4 ประกอบด้วยเน้ือหาจานวน 3 ตอน ได้แก่
ตอนท่ี 1 ความรเู้ บ้อื งตน้ เกีย่ วกบั หอ้ งสมุด
ตอนที่ 2 ทรัพยากรสารสนเทศห้องสมุด
ตอนที่ 3 ระบบการจดั เกบ็ ทรัพยากรสารสนเทศ
ลกั ษณะการนาเสนอเนอ้ื หาของบทเรียนเป็นการนาเสนอดว้ ยรูปแบบข้อความ ภาพนงิ่ ภาพกราฟิก
เสียงและการโต้ตอบภายในบทเรียน เพ่ือดงึ ดูดความสนใจของผู้เรยี น กระตุ้นให้ผเู้ รียนเกดิ ความตอ้ งการที่จะ
เรียนรู้
ผลการประเมนิ คุณภาพของหนงั สอื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (e-book)
ผวู้ ิจยั ไดส้ รา้ งหนงั สืออิเลก็ ทรอนกิ ส์ (e-book) เรอื่ ง การใชห้ ้องสมุด สาหรับนกั เรียนชัน้ มธั ยมศึกษาปี
ท่ี 1 พร้อมทั้งสร้างแบบประเมินคุณภาพของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-book) จากนั้น ได้นาไปให้ผู้เชี่ยวชาญ
ด้านเนอ้ื หา จานวน 3 คน และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยกี ารศึกษา จานวน 3 คน ประเมนิ คณุ ภาพของหนังสอื
อิเล็กทรอนิกส์ (e-book) ในรอบที่ 1 ผลการประเมนิ ดังตาราง 2 และตาราง 3 ตามลาดับ หลังจากน้ันทาการ
ปรับปรุงแก้ไขหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-book) ตาม ข้อเสนอแนะของผู้เชี่ยวชาญแล้วนาไปให้ผู้เชี่ยวชาญ
ทางด้านเน้ือหา จานวน 5 คน และผู้เชี่ยวชาญ ทางด้านเทคโนโลยีทางการศึกษา จานวน 5 คน ประเมิน
คณุ ภาพของหนงั สอื อิเลก็ ทรอนิกส์ (e-book) ในรอบที่ 2 ผลการประเมินดังตาราง 4 และตาราง 5 ตามลาดับ
ตาราง 2 ผลการประเมนิ คุณภาพของหนังสืออิเล็กทรอนกิ ส์ (e-book) เรื่อง การใช้ห้องสมุด สาหรบั นกั เรียน
ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 โดยผเู้ ชย่ี วชาญด้านเนอื้ หา รอบท่ี 1
รายการประเมิน X S.D. ระดบั คณุ ภาพ
1. เนือ้ หา 4.17 0.38 ดี
1.1 ความสอดคลอ้ งของเน้ือหากับวตั ถุประสงค์ 4.00 0.00 ดี
1.2 ความถูกต้องของเน้ือหา 4.33 0.58 ดี
1.3 การเรียงลาดบั เนอ้ื หา 4.67 0.58 ดมี าก
1.4 ความชัดเจนในการอธิบายเน้ือหา 3.67 0.58 ดี
2. รปู ภาพ ตวั อกั ษร และการใชภ้ าษา 3.89 0.19 ดี
2.1 ความเหมาะสมของรูปภาพกับเนอ้ื หา 4.00 0.00 ดี
2.2 ความถูกตองของภาษาทใ่ี ช้ 4.00 0.00 ดี
2.3 การใช้ภาษาเหมาะสมกับระดับผเู้ รียน 3.67 0.58 ดี
3. แบบฝกึ หัดระหว่างเรยี น 4.33 0.29 ดี
3.1 ความชัดเจนของคาถามและคาตอบ 4.67 0.58 ดีมาก
3.2 ความเหมาะสมของจานวนแบบฝึกหดั 4.00 0.00 ดี
รวมเฉล่ีย 4.13 0.28 ดี
จากตาราง 2 ผลการประเมินคุณภาพหนังสืออิเล็กทรอนกิ ส์ (e-book) เร่ือง การใช้ห้องสมุด สาหรับ
นกั เรยี นช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 4 จากผู้เชยี่ วชาญด้านเนื้อหา รอบท่ี 1 มคี วามเหน็ ว่า คุณภาพ เนื้อหาจากรายการ
ประเมินหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-book) โดยรวมมีคุณภาพอยู่ในระดับดี และเม่ือพิจารณาตามรายการ
ประเมนิ แตล่ ะด้านมีคณุ ภาพ ดงั น้ี
ด้านเนือ้ หา พบวา่ คุณภาพโดยรวมอยใู่ นระดับดับดี โดยมคี ุณภาพในเร่ืองการเรียงลาดบั เนอ้ื หาอยู่ใน
ระดับดีมาก ส่วนความสอดคล้องของเนอ้ื หากับวัตถุประสงคค์ วามถูกต้องของเน้ือหาและ ความชัดเจนในการ
อธบิ ายเนื้อหามีคุณภาพอยูในระดับดี
ดา้ นรปู ภาพ ตัวอักษร และการใชภ้ าษา พบว่าคุณภาพโดยรวมอยู่ในระดับดี โดยมีคุณภาพ ในเรอื่ ง
ความเหมาะสมของรูปภาพกบั เนือ้ หา ความถกู ตอ้ งของภาษาทใ่ี ช้ และการใช้ภาษาเหมาะสม กับระดบั ผู้เรยี น
มคี ุณภาพอยใู่ นระดับดี
ดา้ นแบบฝกึ หัดระหวา่ งเรยี น พบวา่ คุณภาพโดยรวมอยใู่ นระดบั ดี โดยมีคณุ ภาพในเรอ่ื ง ความ
ชัดเจนของคาถามและคาตอบอยู่ในระดับดมี าก ส่วนความเหมาะสมของจานวนแบบฝกึ หดั มี คุณภาพอยู่ใน
ระดบั ดี
นอกจากน้ีผู้เช่ียวชาญด้านเนื้อหายังได้ให้ข้อเสนอแนะเพ่ือปรับปรุงแก้ไขหนังสือ อิเล็กทรอนิกส์
(e-book) กล่าวคือ ควรเพ่ิมเติมการให้ความรู้เกี่ยวกับมารยาทในการใช้ห้องสมุด เพ่ือให้การอธิบายเนื้อหา
เกี่ยวกับการใช้ห้องสมุดมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น ซ่ึงผู้วิจัยได้ทาการปรับปรุง แก้ไขหนังสืออิเล็กทรอนิกส์
(e-book) ตามข้อเสนอแนะของผู้เชี่ยวชาญด้านเน้ือหา โดยทาการใส่สรุป มารยาทการใช้ห้องสมุดในรูปแบบ
คลิปวดิ โี อเพ่อื ใหเ้ หมาะสมกบั ระดับของผเู้ รยี นในหนา้ หนังสอื อิเล็กทรอนกิ ส์หวั ข้อการค้นควา้ เพ่มิ เติม
ตาราง 3 ผลการประเมนิ คุณภาพของหนงั สอื อิเล็กทรอนิกส์ (e-book) เรอื่ ง การใชห้ ้องสมุด สาหรับ
นักเรยี นชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 โดยผู้เช่ยี วชาญด้านเทคโนโลยีการศึกษา รอบที่ 1
รายการประเมนิ X S.D. ระดบั คุณภาพ
1. ภาพและเสยี ง 3.92 0.14 ดี
1.1 ความเหมาะสมของภาพ 4.00 0.00 ดี
ดี
1.2 ขนาดภาพทใี่ ชป้ ระกอบบทเรยี น 4.00 0.00
ดี
1.3 ความชดั เจนของเสยี ง 3.67 0.58 ดี
1.4 ความเหมาะสมของเสียงดนตรี 4.00 0.00 ดี
4.17 0.14
2. ตวั อกั ษรและสี ดี
4.00 0.00 ดี
2.1 ความเหมาะสมของขนาดตวั อกั ษร 4.33 0.58
ดี
2.2 ความเหมาะสมของรูปแบบตัวอกั ษร 4.33 0.58 ดี
4.00 0.00 ดี
2.3 ความเหมาะสมของสีตัวอกั ษร 4.27 0.23
2.4 ความเหมาะสมของสพี นื้ บนจอภาพโดยรวม ดี
4.00 0.00 ดี
3. การออกแบบและพัฒนา 4.33 0.58 ดี
4.33 0.58 ดมี าก
3.1 การออกแบบหน้าจอ 4.67 0.58 ดี
4.00 0.00 ดี
3.2 ความเหมาะสมของเทคนิคการนาเสนอ 4.12 0.17
3.3 ความต่อเนอ่ื งของการนาเสนอเนือ้ หา
3.4 การใชง้ านของปุม่ ในเนื้อหา
3.5 วธิ ีโต้ตอบบทเรียนโดยรวม
รวมเฉล่ยี
จากตาราง 3 ผลการประเมินคณุ ภาพหนังสอื อเิ ล็กทรอนกิ ส์ (e-book) เรื่อง การใช้หอ้ งสมดุ สาหรับ
นกั เรยี นชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 4 จากผเู้ ช่ียวชาญทางด้านเทคโนโลยกี ารศกึ ษา รอบที่ 1 พบว่า คุณภาพโดยรวม
ของหนงั สอื อิเลก็ ทรอนิกส์ (e-book) จดั อยู่ในระดับดี และเมือ่ พิจารณาตามรายการ ประเมนิ แตล่ ะดา้ นมี
คุณภาพ ดังน้ี
ด้านภาพและเสียงมีคุณภาพอยู่ในระดบั ดี โดยมีคุณภาพในเรอ่ื งความเหมาะสมของภาพ ขนาดภาพท่ี
ใชป้ ระกอบบทเรียน ความชดั เจนของเสียง และความเหมาะสมของเสยี งดนตรอี ยู่ในระดับดี
ด้านตัวอักษรและสีมีคุณภาพอยู่ในระดับดี โดยมีคุณภาพในเร่ืองความเหมาะสมของขนาด ตัวอักษร
รูปแบบตวั อกั ษร สีตวั อกั ษร และความเหมาะสมของสีพ้นื บนจอภาพอยใู่ นระดบั ดี
ด้านการออกแบบและพัฒนามคี ุณภาพอย่ใู นระดบั ดี โดยมคี ณุ ภาพในเรื่องการใช้งานของปมุ่ ในเนื้อหา
อยู่ในระดับดีมาก ส่วนการออกแบบหน้าจอ ความเหมาะสมของเทคนิคการนาเสนอ ความ ต่อเน่ืองของการ
นาเสนอเน้ือหา และวธิ ีโต้ตอบบทเรยี นโดยรวมมีคุณภาพอยู่ในระดบั ดี
จากการประเมนิ สอ่ื โดยผู้เช่ียวชาญด้านเทคโนโลยีการศึกษา ในรอบท่ี 1 พบวา่ มขี อ้ เสนอแนะ เพม่ิ เตมิ
เพ่อื ปรับปรุงแกไ้ ขหนงั สอื อเิ ล็กทรอนิกส์ (e-book) ดงั นี้
1. ตัวอักษร และสพี ้ืนหลงั บางหน้ามสี ที ่ใี กลเ้ คียงกัน ทาให้อา่ นไม่ชัดเจน
2. ควรตรวจสอบคาผิดของตวั อักษร และข้อความต่างๆ
3. ควรเพ่ิมเติมภาพประกอบข้อความ เพอ่ื ใหน้ ่าสนใจมากขน้ึ
4. เสียงบรรยายบางชว่ งเบา และเสยี งดนตรบี างช่วงดงั เกนิ ไป
ผู้วิจัยได้นาข้อเสนอแนะต่างๆ ของผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการศึกษา รอบที่ 1 มาปรับปรุง แก้ไข
หนงั สอื อเิ ล็กทรอนกิ ส์ (e-book) ดังน้ี
1. ปรับปรงุ สตี ัวอกั ษรทีใ่ ช้ในบางหนา้ จอให้มองเห็นอย่างชัดเจนมากยิ่งขน้ึ
2. ตรวจทานความถูกต้องของภาษา และแกไ้ ขคาผดิ
3. เพมิ่ ภาพประกอบขอ้ ความ เพอ่ื ใหเ้ นือ้ หาสามารถเข้าใจได้มากข้นึ
4. ปรบั เสียงบรรยายเนื้อหาให้ชัดเจนมากข้นึ สว่ นเสยี งดนตรปี รบั ให้ระดับเสยี งสอดคล้องกัน โดยเพ่ิม
ปุ่มเปิด ปิดเสียง ปุ่มปรับระดับความดังของเสียง ซึ่งสามารถหยุด หรือย้อนกลับไปมาได้ ตามความสนใจของ
ผ้เู รียนแตล่ ะคน
จากนั้นผู้วิจัยได้ดาเนินการนาหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-book) เรื่องการใช้ห้องสมุดท่ีผ่าน การปรับ
แก้ไขตามคาแนะนาไปให้ผู้เช่ียวชาญด้านเน้ือหา และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการศึกษา ประเมินคุณภาพ
รอบท่ี 2 ซึ่งผลการหาคุณภาพของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-book) โดยผู้เช่ียวชาญ ทางด้านเน้ือหา และ
ผู้เช่ียวชาญทางดา้ นเทคโนโลยกี ารศึกษา รอบที่ 2 ดังตาราง 4 และตาราง 5 ตามลาดบั
ตาราง 4 ผลการประเมนิ คณุ ภาพของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-book) เรื่อง การใช้ห้องสมุด สาหรับ
นักเรยี นชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 โดยผู้เชยี่ วชาญดา้ นเนื้อหา รอบท่ี 2
รายการประเมิน X S.D. ระดับคณุ ภาพ
1. เนอื้ หา 4.65 0.22 ดมี าก
1.1 ความสอดคลอ้ งของเน้ือหากับวตั ถุประสงค์ 4.60 0.55 ดมี าก
1.2 ความถกู ต้องของเน้ือหา 4.80 0.45 ดีมาก
1.3 การเรียงลาดบั เนอ้ื หา 4.60 0.55 ดีมาก
1.4 ความชัดเจนในการอธิบายเนื้อหา 4.60 0.55 ดีมาก
2. รูปภาพ ตวั อกั ษร และการใชภ้ าษา 4.53 0.30 ดมี าก
2.1 ความเหมาะสมของรูปภาพกับเนอ้ื หา 4.20 0.45 ดี
2.2 ความถกู ตองของภาษาท่ีใช้ 4.80 0.45 ดีมาก
2.3 การใช้ภาษาเหมาะสมกับระดับผเู้ รยี น 4.60 0.55 ดมี าก
3. แบบฝกึ หัดระหว่างเรียน 4.60 0.42 ดีมาก
3.1 ความชัดเจนของคาถามและคาตอบ 4.60 0.55 ดมี าก
3.2 ความเหมาะสมของจานวนแบบฝึกหดั 4.60 0.55 ดมี าก
รวมเฉลี่ย 4.59 0.19 ดมี าก
จากตาราง 4 ผลการประเมินคุณภาพหนงั สอื อิเล็กทรอนิกส์ (e-book) เรื่อง การใช้ห้องสมดุ สาหรับ
นกั เรียนชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 4 จากผู้เชี่ยวชาญด้านเนอ้ื หา รอบที่ 2 มคี วามเห็นว่า คุณภาพ เนอ้ื หาจากรายการ
ประเมนิ หนงั สอื อเิ ล็กทรอนิกส์ (e-book) โดยรวมมีคณุ ภาพอยู่ในระดับดมี าก และ เมือ่ พิจารณาตามรายการ
ประเมินแต่ละด้านมีคุณภาพ ดังน้ี
ด้านเน้ือหา พบว่าคุณภาพโดยรวมอยู่ในระดบั ดมี าก โดยมคี ุณภาพในเรื่องความสอดคล้อง ของเนื้อหา
กับวตั ถุประสงค์ ความถกู ตอ้ งของเน้ือหา การเรียงลาดบั เน้อื หา และความชัดเจนในการ อธิบายเนือ้ หาอย่ใู น
ระดบั ดมี าก
ด้านรูปภาพ ตัวอกั ษร และการใช้ภาษา พบว่าคณุ ภาพโดยรวมอยูใ่ นระดบั ดมี าก โดยมี คุณภาพใน
เรือ่ งความถูกตอ้ งของภาษา และการใชภ้ าษาเหมาะสมกับระดบั ผเู้ รยี นอย่ใู นระดบั ดมี าก สว่ นความเหมาะสม
ของรูปภาพกับเนือ้ หามีคณุ ภาพอยู่ในระดบั ดี
ด้านแบบฝกึ หัดระหว่างเรียน พบวา่ คณุ ภาพโดยรวมอยูใ่ นระดบั ดมี าก โดยมีคณุ ภาพใน เร่ืองความ
ชัดเจนของคาถาม คาตอบ และความเหมาะสมของจานวนแบบฝึกหัดอยู่ในระดบั ดีมาก
ตาราง 5 ผลการประเมนิ คุณภาพของหนังสืออิเล็กทรอนกิ ส์ (e-book) เร่อื ง การใช้หอ้ งสมุด สาหรับ
นกั เรียนชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 โดยผูเ้ ชย่ี วชาญด้านเทคโนโลยีการศึกษา รอบท่ี 2
รายการประเมนิ X S.D. ระดบั คุณภาพ
1. ภาพและเสยี ง 4.40 0.22 ดี
1.1 ความเหมาะสมของภาพ 4.20 0.45 ดี
4.60 0.55 ดีมาก
1.2 ขนาดภาพท่ใี ชป้ ระกอบบทเรยี น 4.60 0.55 ดีมาก
4.20 0.45
1.3 ความชัดเจนของเสียง 4.60 0.34 ดี
4.60 0.55
1.4 ความเหมาะสมของเสยี งดนตรี 4.80 0.45 ดีมาก
4.80 0.45 ดีมาก
2. ตัวอกั ษรและสี 4.20 0.45 ดีมาก
4.60 0.00 ดีมาก
2.1 ความเหมาะสมของขนาดตัวอกั ษร 4.60 0.55
4.60 0.55 ดี
2.2 ความเหมาะสมของรูปแบบตวั อกั ษร 4.80 0.45
4.80 0.45 ดีมาก
2.3 ความเหมาะสมของสีตัวอักษร 4.20 0.45
4.53 0.17 ดมี าก
2.4 ความเหมาะสมของสีพื้นบนจอภาพโดยรวม ดมี าก
ดีมาก
3. การออกแบบและพัฒนา ดมี าก
3.1 การออกแบบหน้าจอ ดี
ดีมาก
3.2 ความเหมาะสมของเทคนคิ การนาเสนอ
3.3 ความต่อเน่อื งของการนาเสนอเนอื้ หา
3.4 การใชง้ านของปุ่มในเนอื้ หา
3.5 วิธีโตต้ อบบทเรียนโดยรวม
รวมเฉล่ยี
จากตาราง 5 ผลการประเมินคณุ ภาพหนงั สอื อเิ ล็กทรอนิกส์ (e-book) เรอื่ ง การใชห้ ้องสมุด สาหรับ
นกั เรยี นชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 4 จากผู้เชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยีการศึกษา รอบที่ 2 พบวา่ คุณภาพโดยรวม
ของหนงั สอื อเิ ล็กทรอนิกส์ (e-book) มคี ุณภาพอยู่ในระดบั ดีมาก และเม่ือพจิ ารณา ตามรายการประเมินแต่ละ
ด้านพบวา่ มีคุณภาพดังน้ี
ดา้ นภาพและเสียงมคี ุณภาพอยู่ในระดบั ดี โดยมีคุณภาพในเรอ่ื งขนาดภาพทใ่ี ช้ประกอบ บทเรยี น และ
ความเหมาะสมของเสยี งดนตรีอยูใ่ นระดับดีมาก ส่วนความเหมาะสมของภาพ และความ ชดั เจนของเสยี งมี
คุณภาพอยู่ในระดับดี
ด้านตวั อกั ษรและสมี ีคณุ ภาพอยใู่ นระดบั ดีมาก โดยในเร่ืองความเหมาะสมของขนาดตวั อักษร ความ
เหมาะสมของรูปแบบตวั อักษร และความเหมาะสมของสตี ัวอักษรมคี ุณภาพอย่ใู นระดับดมี าก ส่วนความ
เหมาะสมของสีพ้นื บนจอภาพมีคณุ ภาพอยใู่ นระดบั ดี
ดา้ นการออกแบบและพัฒนามคี ุณภาพอยูใ่ นระดับดมี าก โดยในเร่อื งการออกแบบหนา้ จอ ความ
เหมาะสมของเทคนิคการนาเสนอ ความตอ่ เนอ่ื งของการนาเสนอเนอื้ หา และการใช้งานของปุ่ม ในเนือ้ หามี
คุณภาพอย่ใู นระดับดีมาก สว่ นวธิ โี ต้ตอบบทเรยี นโดยรวมมคี ุณภาพอยู่ในระดับดี
จากการประเมินคณุ ภาพของหนงั สืออเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (e-book) ผวู้ ิจยั ได้ทาการปรับปรงุ แกไ้ ข หนงั สอื
อิเล็กทรอนิกส์ (e-book) ตามขอ้ เสนอแนะของผู้เช่ยี วชาญด้านเนอ้ื หาและผู้เชี่ยวชาญดา้ น เทคโนโลยี
การศกึ ษาในรอบท่ี 2 พบวา่ หนงั สอื อิเลก็ ทรอนกิ ส์มีสงิ่ ทตี่ ้องปรบั ปรุงแก้ไขเพม่ิ เติมเป็น บางส่วน เนื่องจาก
ผู้วิจยั ได้ปรบั ปรงุ แก้ไขหนงั สืออเิ ลก็ ทรอนกิ สต์ ามข้อเสนอแนะของผเู้ ชยี่ วชาญ ด้านเน้ือหา และดา้ นส่ือ
เทคโนโลยกี ารศึกษา ในรอบท่ี 1 แล้ว ทาให้การตรวจประเมนิ รอบท่ี 2 มกี าร ปรบั ปรงุ แกไ้ ขนอ้ ยลง ไดแ้ ก่ การ
ปรบั ขนาดของภาพใหม้ คี วามเหมาะสม ปรับวิธกี ารโต้ตอบบทเรยี น โดยรวม
ผลการใช้หนังสอื อิเล็กทรอนกิ ส์ (e-book)
ผวู้ ิจยั ไดน้ าหนังสืออิเลก็ ทรอนิกส์ (e-book) เร่อื ง การใชห้ อ้ งสมดุ ท่มี คี ุณภาพตามเกณฑไ์ ป ทดลอง
กบั นักเรียนกลุ่มตัวอย่างโรงเรยี นประชาสงเคราะห์วทิ ยา ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 4 จานวน 1 ห้องเรียน รวม 43
คน เพือ่ ศกึ ษาผลการใชห้ นงั สอื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (e-book) ผลการศกึ ษาดังตาราง 6
ตาราง 6 จานวนนักเรียนจาแนกตามระดับผลการเรียน
ตอนที่ จานวน 0 ระดบั ผลการเรียน 4
1 จานวนนกั เรยี น - 123 30
ร้อยละ - - 58 69.77
2 จานวนนกั เรียน - - 11.63 18.60 30
รอ้ ยละ - - 3 10 69.77
3 จานวนนักเรียน - - 6.98 23.26 22
ร้อยละ - 2 6 13 51.16
รวม จานวนนักเรยี น - 4.65 13.95 30.23 23
- - 7 13 53.49
ทง้ั 3 ตอน รอ้ ยละ - 16.28 30.23
จากตาราง 6 ผลของการใชห้ นงั สืออิเล็กทรอนกิ ส์ (e-book) เรอื่ ง การใช้หอ้ งสมุด สาหรับนักเรยี นช้ัน
มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 จากการใหน้ ักเรียนกลุ่มตัวอย่าง จานวน 43 คน ทาแบบทดสอบวัดผล สัมฤทธ์ิทางการเรียน
จานวน 30 ข้อ พบว่า ผู้เรียนที่มีผลการเรียนในระดับ 2 มีจานวน 7 คน คิดเป็น ร้อยละ 16.28 ผู้เรียนที่มีผล
การเรียนในระดับ 3 มีจานวน 13 คน คิดเป็นร้อยละ 30.23 และผู้เรียนที่มี ผลการเรียนในระดับ 4 มีจานวน
23 คน คิดเป็นร้อยละ 5349 แสดงให้เห็นไดว้ ่า ผู้เรียนที่มีผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนอยใู่ นระดับดี มีจานวน 36
คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 83.72 และผูเ้ รยี นทม่ี ผี ลสมั ฤทธทิ์ างการ เรยี นอยใู่ นระดับปานกลาง มีจานวน 7 คน คดิ เป็น
ร้อยละ 16.28 แสดงวา่ ผูเ้ รยี นสว่ นใหญ่มผี ลสมั ฤทธิ์ ทางการเรยี นโดยรวมอย่ใู นระดบั ดี
เมื่อพิจารณาผลของการใช้หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-book) เร่ือง การใช้ห้องสมดุ สาหรับนักเรียนชั้น
มัธยมศึกษาปีท่ี 1 โดยแบง่ เนื้อหาออกเปน็ 3 ตอน ผลปรากฏดังน้ี
ตอนท่ี 1 ความรูเ้ บ้อื งตน้ เกี่ยวกับหอ้ งสมุด พบว่า ผู้เรยี นทม่ี ีผลการเรียนในระดับ 2 จานวน 5 คน คิด
เป็นร้อยละ 11.63 ดงั แสดงให้เห็นว่า ผ้เู รยี นมผี ลสัมฤทธิ์ทางการเรียนอยู่ในระดับปานกลาง ส่วนผู้เรียนท่ีมีผล
การเรียนในระดับ 3 จานวน 8 คน คิดเป็นร้อยละ 18.60 และผู้เรียนที่มีผลการเรียน ในระดับ 4 จานวน 30
คน คดิ เปน็ ร้อยละ 69.77
ตอนที่ 2 ทรัพยากรสารสนเทศห้องสมุด พบว่า ผู้เรียนท่ีมีผลการเรียนในระดับ 2 มีจานวน 3 คน คิด
เป็นร้อยละ 6.98 ดังแสดงให้เห็นว่า ผู้เรียนมีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนอยู่ในระดับปานกลาง ส่วนผู้เรียนที่มีผล
การเรียนอยู่ในระดับ 3 มีจานวน 10 คน คิดเปน็ ร้อยละ 23.26 และผู้เรยี นท่ีมีผลการ เรยี นในระดับ 4 จานวน
30 คน คดิ เป็นร้อยละ 69.77 ดังแสดงใหเ้ ห็นไดว้ า่ ผเู้ รียนสว่ นใหญ่มผี ลสมั ฤทธ์ิ ทางการเรยี นอยใู่ นระดับดี ๆ
ตอนท่ี 3 ระบบการจดั เกบ็ ทรพั ยากรสารสนเทศ พบว่า ผูเ้ รียนที่มผี ลการเรยี นในระดับ 1 มี จานวน 2
คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 4.65 ส่วนผเู้ รยี นท่มี ีผลการเรียนในระดับ 2 มีจานวน 6 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 13.95 ดงั แสดง
ให้เห็นว่า ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนอยู่ในระดับปานกลาง มีจานวน 8 คน คิด เป็นร้อยละ 18.60 ส่วน
ผู้เรียนท่ีมีผลการเรียนอยู่ในระดับ 3 จานวน 13 คน คิดเป็นร้อยละ 30.23 และ ผู้เรียนที่มีผลการเรียนอยู่ใน
ระดับ 4 จานวน 23 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 53.49 ดงั แสดงให้เหน็ วา่ ผเู้ รยี น ส่วนใหญม่ ผี ลสัมฤทธ์ทิ างการเรียนอยู่
ในระดบั ดี
บทท่ี 5
สรปุ ผล อภปิ ราย และข้อเสนอแนะ
การวจิ ัยครั้งนเี้ ป็นการพฒั นาหนังสอื อเิ ล็กทรอนกิ ส์ (e-book) เรอ่ื ง การใชห้ อ้ งสมุด สาหรับนกั เรียน
ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 ให้มีคณุ ภาพตามเกณฑ์ อกี ทง้ั ยงั ศกึ ษาผลการใช้หนงั สอื อิเลก็ ทรอนิกส์ (e-book) ซ่ึง
ผู้วิจัยขอสรปุ ผลการวิจัย อภปิ รายผล และขอ้ เสนอแนะตามลาดับดงั นี้
1. ความมุง่ หมายของการวิจัย
2. ความสาคัญของการวจิ ัย
3. ขอบเขตของการวิจัย
4. เครือ่ งมือทใ่ี ช้ในการวิจยั
5. วิธีดาเนินการวิจัย
6. สรปุ ผลการวิจยั
7. อภปิ รายผล
8. ขอ้ เสนอแนะ
ความมุ่งหมายของการวจิ ัย
1. เพื่อพฒั นาหนงั สอื อเิ ล็กทรอนิกส์ (e-book) เร่อื ง การใช้หอ้ งสมดุ สาหรบั นักเรียนชัน้ มัธยมศึกษา
ปที ่ี 4 ใหม้ คี ุณภาพตามเกณฑท์ ี่กาหนด
2. เพอ่ื ศึกษาผลการใช้หนังสืออเิ ล็กทรอนิกส์ (e-book) เรือ่ ง การใช้ห้องสมดุ สาหรับนักเรยี นชั้น
มธั ยมศึกษาปีที่ 4
ความสาคขั ของการวิจัย
1. ได้หนังสืออเิ ล็กทรอนิกส์ (e-book) เรื่อง การใชห้ ้องสมุด สาหรับนกั เรียนชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 ทม่ี ี
คุณภาพตามเกณฑท์ กี่ าหนด
2. ผลจากการวิจยั จะเป็นขอ้ มูลประกอบการตดั สินใจของผูเ้ ก่ียวขอ้ งในการนาหนังสือ อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์
(e-book) เรอ่ื ง การใชห้ ้องสมุด ไปใชใ้ นการศกึ ษา
3. เพอื่ เป็นแนวทางในการพัฒนาหนงั สืออิเลก็ ทรอนิกส์ (e-book) ในเนือ้ หารายวชิ าอนื่ ๆ
ขอบเขตของการวจิ ัย
ประชากรทีใ่ ช้ในการวจิ ยั
กลุ่มที่ 1 กลุ่มผู้เชีย่ วชาญ ประกอบด้วยผู้เชย่ี วชาญทางดา้ นเนื้อหา ผู้เชีย่ วชาญทางด้าน เทคโนโลยี
การศกึ ษา
กลุ่มที่ 2 กลุ่มผู้ใช้เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 4 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2565 โรงเรียน
ประชาสงเคราะหว์ ิทยา อาเภอบางระกา จังหวดั พษิ ณุโลก ทงั้ หมด 5 หอ้ งเรียน จานวน 207 คน
กลุ่มตวั อย่างทใี่ ช้ในการวจิ ยั
กลุ่มท่ี 1 เป็นกลุ่มผู้เช่ียวชาญทางด้านเน้ือหา จานวน 5 คน และผู้เช่ียวชาญทางด้าน เทคโนโลยี
การศกึ ษา จานวน 5 คน ซงึ่ ได้มาจากการเลือกกลุ่มตวั อย่างแบบเจาะจง (Purposive Sanmpling)
กลุ่มท่ี 2 กลมุ่ ผ้ใู ชเ้ ปน็ นักเรยี น ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2565 โรงเรียน
ประชาสงเคราะห์วิทยา อาเภอบางระกา จังหวัดพิษณุโลก จานวน 1 ห้องเรียน นักเรียนทั้งหมด 43 คน ซึ่ง
ไดม้ าจากการสุ่มอย่างงา่ ย (Simple Random Sampling)
เนื้อหาท่ใี ช้ในการวจิ ัย
เนื้อหาวิชาที่ใช้ในการวิจัยเป็นการพัฒนาหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-book) เร่ืองการใช้ ห้องสมุด
สาหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ขอบเขตเนื้อหาเป็นหลักสูตรการศึกษาของสถานศึกษา ที่อิงหลักสูตร
แกนกลางท่ีมีลักษณะการจัดการเรียนการสอนให้สอดคล้องตามกรอบหลักสูตรและ พัฒนาเพื่อให้ผู้เรียนได้มี
ความรู้เตม็ ตามศกั ยภาพ ซง่ึ ผ้วู ิจัยได้แบง่ เนื้อหาออกเปน็ 3 ตอน ดังนี้
ตอนท่ี 1 ความรู้เบ้อื งต้นเก่ยี วกับหอ้ งสมุด
ตอนที่ 2 ทรพั ยากรสารสนเทศหอ้ งสมดุ
ตอนท่ี 3 ระบบการจัดเก็บทรัพยากรสารสนเทศ
เครอ่ื งมอื ทใี่ ชใ้ นการวิจยั
เคร่ืองมือท่ีใช้ในการวิจัยการพัฒนาหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-book) เรื่อง การใช้ห้องสมุด สาหรับ
นกั เรยี นชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 4 ประกอบด้วย
1. หนังสอื อิเลก็ ทรอนิกส์ (e-book) เรื่อง การใชห้ อ้ งสมุด
2. แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี น
3. แบบประเมนิ คุณภาพหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-book) ประกอบด้วย
3.1 แบบประเมินคณุ ภาพด้านเนื้อหา
3.2 แบบประเมินคณุ ภาพด้านเทคโนโลยกี ารศึกษา
วิธีดาเนินการวจิ ยั
ขั้นตอนการดาเนนิ การวิจัยการพฒั นาหนังสอื อิเลก็ ทรอนกิ ส์ (e-book) เรอื่ ง การใช้ หอ้ งสมุด สาหรับ
นักเรยี นช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 4 แบง่ เปน็ 2 ข้นั ตอน คือ
1. การหาคณุ ภาพของหนังสืออเิ ล็กทรอนกิ ส์ (e-book)
2. การศกึ ษาผลการใชห้ นงั สอื อิเล็กทรอนกิ ส์ (e-book)
การหาคุณภาพของหนงั สอื อเิ ลก็ ทรอนิกส์ (e-book)
กระบวนการดาเนินการวิจัย เพ่ือหาคุณภาพหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-book) เรื่อง การใช้ ห้องสมุด
สาหรับนักเรียนชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 4 มีขั้นตอนในการวจิ ยั ดงั น้ี
1. ขอหนงั สือเชิญผ้เู ช่ยี วชาญทางด้านเนื้อหาและผู้เชีย่ วชาญทางด้านเทคโนโลยกี ารศกึ ษา จากบัณฑิต
วิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม เพื่อขอความอนุเคราะห์ในการประเมินคุณภาพ ของหนังสือ
อิเลก็ ทรอนกิ ส์ (e-book)
2. นาหนังสืออเิ ล็กทรอนกิ ส์ (e-book) เรื่อง การใช้ห้องสมุด สาหรับนักเรยี นชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่
ผู้วจิ ยั ไดส้ ร้างขึ้นไปให้ผู้เชีย่ วชาญทางด้านเน้ือหา จานวน 3 คน และผเู้ ช่ียวชาญ ทางด้านเทคโนโลยีการศึกษา
จานวน 3 คน ประเมินคณุ ภาพของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-book) ในรอบที่ 1
3. นาผลการประเมินคณุ ภาพและข้อเสนอแนะของผู้เชยี่ วชาญมาปรบั ปรุงแก้ไข
4. นาหนังสืออิเล็กทรอนกิ ส์ (e-book) ท่ีแก้ไขตามข้อเสนอแนะเรียบร้อยแล้วไปให้ อาจารย์ท่ีปรกึ ษา
สารนิพนธ์ตรวจสอบ แลว้ นาไปใหผ้ เู้ ชยี่ วชาญทางด้านเน้อื หา จานวน 5 คน และ ผเู้ ช่ียวชาญทางด้านเทคโนโลยี
ทางการศกึ ษา จานวน 5 คน ประเมินคณุ ภาพหนังสอื อิเล็กทรอนกิ ส์ (e-book) ในรอบที่ 2
5. นาผลการประเมินคณุ ภาพท่ีไดม้ าปรับปรงุ แกไ้ ขจนหนงั สอื อเิ ลก็ ทรอนิกส์ (e-book) มี คุณภาพตาม
เกณฑ์ทก่ี าหนด
การศกึ ษาผลการใชห้ นงั สืออิเลก็ ทรอนิกส์ (e-book)
หลังจากที่หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-book) มีคุณภาพตามเกณฑ์ที่กาหนดแล้วจะต้องนามาศึกษากับ
กลุ่มตัวอย่างที่เป็นนกั เรียนชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 4 โรงเรียนประชาสงเคราะห์วิทยา จานวน 1 ห้องเรียน จานวน
43 คน เพือ่ หาผลของการใช้หนงั สอื อเิ ล็กทรอนกิ ส์ (e-book) มขี ั้นตอนดงั นี้
1. ขอหนังสือขอความอนุเคราะห์ในการเกบ็ ขอ้ มูลเพ่อื ใช้ในการวจิ ัย จากบัณฑิตวิทยาลัย มหาวทิ ยาลัย
ราชภฏั พิบลู สงคราม
2. นาหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-book) เรื่อง การใช้ห้องสมุด ไปให้นักเรียนกลุ่มตัวอย่าง ทดลองใช้
หนังสอื อเิ ล็กทรอนกิ ส์ (e-book)
3. ทดลองกบั นกั เรยี นกลุม่ ตัวอย่าง จานวน 1 ห้องเรยี น จานวน 43 คน โดยใหผ้ ูเ้ รียนเรียน 1 คน ตอ่
1 เคร่อื ง
4. ให้นักเรียนกลุ่มตัวอย่างเริ่มเรียนท่ีละตอน โดยเริ่มเรียนจากตอนที่หนง่ึ และในขณะท่ี เรียนตอนท่ี
หนึ่งให้ทาแบบฝึกหัดระหว่างเรียนควบคู่กันไปด้วย เม่ือเรียนจบตอนที่หนึง่ ให้ผู้เรียนทาแบบทดสอบหลังเรียน
แลว้ ก็ใหเ้ รมิ่ เรยี นตอนทส่ี องและตอนทสี่ ามตามลาดับเชน่ เดยี วกบั ตอนทีห่ นงึ่
5. นาผลคะแนนท่ีได้จากการทาแบบทดสอบหลังเรียนมาวิเคราะห์หาจานวนนักเรียนท่ี จาแนกตาม
ระดบั ผลการเรยี น
สรปุ ผลการวจิ ยั
จากการดาเนินการวิจัยเพ่ือพัฒนาหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-book) เร่ือง การใช้ห้องสมุด สาหรับ
นกั เรยี นช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 ตามขั้นตอนดังกล่าว สามารถสรุปผลการวจิ ยั ได้ดังน้ี
1. ได้หนงั สืออิเลก็ ทรอนิกส์ (e-book) เรือ่ ง การใชห้ อ้ งสมุด สาหรับนกั เรยี นชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 ท่ีมี
คณุ ภาพตามเกณฑ์ที่กาหนด โดยมีรปู แบบการนาเสนอหนังสืออิเลก็ ทรอนิกส์ (e-book) ทส่ี ร้างขนึ้ ด้วยข้อความ
ภาพนิ่ง ภาพกราฟิก ภาพเคลื่อนไหว เสียง เพ่ือดึงดูดความสนใจของ ผู้เรียน เนื้อหาภายในหนังสือ
อิเล็กทรอนิกส์ (e-book) ประกอบด้วยความรู้เบื้องต้นเก่ียวกับห้องสมุด ระบบการจัดเก็บทรัพยากร
สารสนเทศ ทรพั ยากรสารสนเทศห้องสมดุ ทีผ่ ้เู รียนสามารถเลอื กเรยี นได้
2. ผลการประเมินคณุ ภาพของหนงั สอื อิเล็กทรอนิกส์ (e-book) เรอ่ื ง การใช้หอ้ งสมดุ สาหรับนกั เรยี น
ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 มดี งั นี้
2.1 คุณภาพของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-book) โดยผู้เช่ียวชาญด้านเน้ือหา พบว่า หนังสือ
อิเล็กทรอนิกส์ (e-book) เร่ือง การใช้ห้องสมุด สาหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 4 มี คุณภาพโดยรวมอยูใ่ น
ระดบั ดมี าก
2.2 คุณภาพของหนงั สอื อเิ ล็กทรอนิกส์ (e-book) โดยผูเ้ ชยี่ วชาญด้านเทคโนโลยี การศกึ ษา พบวา่
หนงั สืออิเล็กทรอนกิ ส์ (e-book) เร่อื งการใช้หอ้ งสมุด สาหรับนักเรยี นชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 มคี ุณภาพโดยรวม
อยู่ในระดับดมี าก
3. ผลการใชห้ นงั สืออิเล็กทรอนกิ ส์ (e-book) เรือ่ ง การใช้หอ้ งสมดุ สาหรับนกั เรียนชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี
4 จากการทดลองกับนักเรียนกลุ่มตัวอย่างชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จานวน 43 คน พบว่า ผู้เรียนมีผลสัมฤทธ์ิ
ทางการเรียนอยู่ในระดับดี จานวน 36 คน คิดเป็นร้อยละ 83.72 และผู้เรียนมี ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนอยใู่ น
ระดบั ปานกลาง จานวน 7 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 16.28
อภิปรายผล
จากผลการวิจัยเพ่ือพัฒนาหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-book) เรื่อง การใช้ห้องสมุด สาหรับนักเรียนชัน้
มัธยมศึกษาปีที่ 4 พบว่า คุณภาพของหนงั สืออิเล็กทรอนกิ ส์ (e-book) ท้ังทางด้านเนือ้ หา และด้านเทคโนโลยี
การศกึ ษาอยู่ในระดับดีมากมีคุณภาพตามเกณฑ์ อีกทงั้ นักเรยี นทเ่ี รยี นโดยใช้ หนงั สอื อิเล็กทรอนกิ ส์ (e-book)
เรอื่ ง การใชห้ ้องสมดุ มีผลการเรียนส่วนใหญ่อยใู่ นระดบั ดี ซง่ึ ผลการวจิ ัยดังกล่าวสามารถอภิปรายได้ดงั นี้
1. จากการหาคุณภาพของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-book) เรื่อง การใช้ห้องสมดุ สาหรับนักเรยี นช้นั
มัธยมศึกษาปีที่ 4 จะเห็นได้ว่า หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-book) มีคุณภาพตามเกณฑ์ท่ีกาหนดเน่ืองมาจาก
หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-book) มีการออกแบบและพัฒนาอย่างเป็นระบบ กล่าวคือมีการศึกษา วิเคราะห์
เนื้อหา การออกแบบ การวางแผน การเตรียมการผลิต ตลอดจนมีการ จัดเน้ือหาให้สอดคล้องกับความ
เหมาะสมกับวัยของผู้เรียน โดยอาศัยทฤษฎีการออกแบบพัฒนา บทเรียนในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นทฤษฎี
เกย่ี วกบั การเรยี นการสอนดา้ นจิตวิทยา ดา้ นเทคโนโลยี การศึกษา เพ่อื ชว่ ยใหห้ นงั สืออิเลก็ ทรอนิกส์มีคุณภาพ
ตามเกณฑ์ นอกจากนี้หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ท่ี ผู้วิจัยได้พัฒนาขึ้น ได้ผ่านการตรวจสอบจากอาจารย์ที่ปรึกษา
สารนิพนธ์ ผา่ นการประเมนิ คณุ ภาพ จากผูเ้ ชีย่ วชาญท้งั ด้านเน้ือหา และผเู้ ชยี่ วชาญดา้ นเทคโนโลยกี ารศกึ ษาใน
รอบที่ 1 แล้วมีการนาผล การประเมนิ นัน้ มาปรับปรงุ แกไ้ ขตามคาแนะนาของผเู้ ชย่ี วชาญด้านต่างๆ จากนั้นนา
หนังสือ อิเล็กทรอนิกส์ (e-book) ที่แก้ไขเรียบร้อยแล้วไปให้ผู้เช่ียวชาญด้านทางด้านเน้ือหา และผู้เช่ียวชาญ
ด้านเทคโนโลยีการศึกษาประเมินในรอบที่ 2 เพ่ือให้หนังสืออิเล็กทรอนิกส์มีความเหมาะสมกับผู้เรียน และได้
หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ที่มีคุณภาพ ดังน้ัน หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-book) เรื่อง การใช้ ห้องสมุด สาหรับ
นักเรยี นชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 ทพ่ี ฒั นาขน้ึ ในการวจิ ัยคร้ังนี้ สามารถนาไปใช้ ประกอบการเรยี นการสอนได้
2. จากการศึกษาผลการใช้หนังสืออิเล็กทรอนกิ ส์ (e-book) โดยผ่านการวัดจากคะแนนท่ี ได้จากการ
ทาแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี นที่ผ้วู ิจัยได้สร้างขน้ึ และหาคุณภาพแล้ว ชว่ ยให้ ผู้เรียนสามารถบรรลุ
วตั ถปุ ระสงคเ์ ป็นไปตามผลการเรียนรทู้ ี่คาดหวังท่ตี ้ังไว้ กล่าวคือ นักเรยี นส่วนใหญ่ มีผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี นอยู่
ในระดับดี แสดงให้เห็นว่า ผู้เรียนมีความรู้ ความจา ความเข้าใจหลังจากที่ เรียนด้วยหนังสืออิเล็กทรอนิกส์
(e-book) อันเนื่องจากหนังสอื อเิ ล็กทรอนิกส์ (e-book) เปน็ ทางเลอื ก แนวใหมส่ าหรบั การเรยี นการสอนท่ีช่วย
พัฒนาการเรียนรู้ให้นักเรียนเกิดกระบวนการเรียนรู้ท่ีดีข้ึน เพราะโครงสร้างของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์
(e-book) เปน็ สื่อประสมท่รี วมทงั้ ภาพน่ิง ภาพเคลอ่ื นไหว กราฟกิ เสยี ง ขอ้ ความ ตัวอกั ษร ผู้เรยี นสามารถทจี่ ะ
นาไปเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง ช่วยตอบสนองความ แตกต่างระหว่างบุคคลได้เป็นอย่างดี เนื้อหาของแต่ละตอน
สามารถทบทวนเน้ือหาบทเรียนได้ตามความ ต้องการ รวมท้ังยังสามารถให้ผลป้อนกลับ (Feed Back) ที่เป็น
คะแนน หรอื คาชมต่างๆ ท้ังท่ีเปน็ เสียง หรือข้อความท่ีช่วยเสรมิ แรงให้ผู้เรยี นเกดิ แรงจงู ใจในการเรียนรู้
ขอ้ เสนอแนะ
จากการพฒั นาหนังสืออิเลก็ ทรอนกิ ส์ (e-book) เร่อื ง การใช้หอ้ งสมุด สาหรบั นกั เรยี นชน้ั มัธยมศึกษา
ปที ี่ 4 ผวู้ จิ ัยมขี อ้ เสนอแนะดงั ต่อไปนี้
ขอ้ เสนอแนะทวั่ ไป
1. การผลิตหนงั สืออิเลก็ ทรอนิกส์ (e-book) ควรศึกษาเน้อื หา และวิเคราะหเ์ นื้อหาเปน็ อยา่ งดี เพ่ือจะ
ไดน้ าไปเปน็ แนวทางการพจิ ารณาเลอื กรปู แบบในการสรา้ งหนงั สอื อเิ ล็กทรอนิกส์ให้เหมาะสม และชว่ ยประยุกต์
การพัฒนาหนงั สืออิเล็กทรอนกิ ส์ (e-book) ในเนอ้ื หารายวิชาอนื่ ๆ ตอ่ ไป
2. ในการสร้างหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-book) ควรศึกษาถึงความพร้อมทั้งทางด้านบุคลากรในการ
ผลติ ด้านซอฟตแ์ วร์ที่ใช้ในการผลิต ดา้ นอุปกรณต์ า่ งๆ ตลอดจนความร่วมมอื และการสนับสนุนจากองค์กร จึง
จะทาให้บรรลุเป้าหมายได้
3. ควรมีการจัดเก็บหนังสืออิเล็กทรอนกิ ส์ (e-book) เรื่อง การใช้ห้องสมุด โดยผ่านระบบการจัดเกบ็
ของห้องสมดุ หรือผ่านส่ือเทคโนโลยีทางการศึกษาของโรงเรียน และควรมกี ารเผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์ เพอื่ ให้
ผทู้ ส่ี นใจสามารถนาไปเรยี นร้เู พ่ิมเติมได้
4. ควรมีการพัฒนาหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-book) ให้มากข้ึน เพื่อให้ครู นักเรียน รวมถึงผู้ท่ีสนใจ
สามารถนาสื่อประกอบการเรียนการสอนประเภทหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-book) ไป ใช้ในการเรียนรู้ ช่วย
แกไ้ ขปัญหาในการเรยี นการสอน
ขอ้ เสนอแนะสาหรบั การวจิ ัย
1. หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-book) เร่ือง การใช้ห้องสมุด สาหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 4 เป็น
การนาเสนอเนื้อหา และเทคนิคเพียงบางส่วนเท่านั้น ฉะน้ันสามารถปรับปรุง และเพ่ิมเติม หนังสือ
อิเลก็ ทรอนกิ ส์ (e-book) เน้อื หาในเรื่องต่างๆ ใหม้ ีความหลากหลายมากยง่ิ ขึ้น
2. ควรมีการศึกษาและพัฒนาหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-book) ผ่านระบบเครือข่าย เพ่ือให้สามารถ
นาเสนอผา่ นทางระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ตทีส่ ามารถเผยแพร่ใหผ้ ู้สนใจท่วั ไปได้เรยี นรู้
3. ควรมกี ารพัฒนาหนงั สืออเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (e-book) ในเนอ้ื หารายวิชาอื่น ๆ ต่อไป
บรรณานกุ รม
กมลวรรณ พกุ ประยรู . (2548). การพัฒนาบทเรยี นคอมพิวเตอร์มัลตมิ ีเดยี เร่ือง สํานวนสาํ หรบั
นักเรียน ชว่ งช้ันที่ 2. สารนิพนธ์ กศ.ม.(เทคโนโลยีการศึกษา). กรงุ เทพฯ: บณั ฑิตวิทยาลัย
มหาวิทยาลัยศรนี ครินทรวิโรฒ. ถ่ายเอกสาร.
กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธกิ าร. (2545). คู่มอื การจดั การเรียนรู้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย.
กรุงเทพฯ: องคก์ ารรับส่งสินค้าและพัสดุภณั ฑ.์
__________. (2545). ค่มู อื พฒั นาส่อื การเรยี นรู้. กรงุ เทพฯ: โรงพิมพ์ครุ สุ ภาลาดพร้าว.
__________. (2546). หลกั สตู รการศึกษาขนั้ พื้นฐาน พุทธศกราช 2544. กรุงเทพฯ: องคก์ ารรับส่ง
สินค้าและพัสดภุ ณั ฑ.์
__________. (2546). การจดั สาระการเรียนรู้ กลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ตามหลักสตู ร
การศกึ ษาข้ันพื้นฐาน พุทธศกราช 2544. กรงุ เทพฯ: โรงพิมพ์ครุ ุสภาลาดพร้าว.
กรมสามัญศึกษา กระทรวงศึกษาธกิ าร. (2545). แผนพัฒนาการศึกษา ระยะท่ี 9 (พ.ศ.2545-2549)
กรมสามัญศึกษา. กรงุ เทพฯ: โรงพิมพ์การศาสนา กรมการศาสนา.