The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เป็นหนังสือที่ให้ความรู้เกี่ยวกับวัจนภาษาและอวัจนภาษา

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

วัจนภาษาและอวัจนภาษา

เป็นหนังสือที่ให้ความรู้เกี่ยวกับวัจนภาษาและอวัจนภาษา

Keywords: วัจวัจนภาษาและอวัจนภาษา,ภาษาไทย

วัจ วั นภาษา และ อวัจ วั นภาษา บุษบา เสี้ย สี้ วภูเขีย ขี ว จัดจัทำ โดย


หนังนัสือสื อิเอิล็ก ล็ ทรอนิกส์ เรื่อรื่งวัจวันภาษาและ อวัจวันภาษาเล่มล่นี้ เป็น ป็ ส่วนหนึ่งนึ่ของรายวิชวิา นวัตวักรรม และเทคโนโลยีส ยี ารสนเทศเพื่อพื่การสื่อสื่สารการศึกศึษา และการเรีย รี นรู้ (ED13201) เป็น ป็ หนังนัสือสื หนังนัสือสื อิเอิล็ก ล็ ทรอนิกส์ที่ใที่ห้ความรู้เกี่ยกี่วกับกัวัจวันภาษาและ อวัจวันภาษา โดยผู้จัดจัทำ ได้ทำด้ ทำการค้นคว้าข้อมูลเกี่ยกี่วกับกั ความหมาย ลักลัษณะ การใช้วัจวันภาษาและอวัจวันภาษา รวมถึงถึมีแมี บบฝึกฝึหัดหัเพื่อพื่ ให้ผู้อ่ผู้ อ่านได้ทด้ดสอบความรู้ ของตนเอง ผู้จัดจัทำ หวังวัเป็น ป็ อย่าย่งยิ่งยิ่ว่าหนังนัสือสื อิเอิล็ก ล็ ทรอนิกส์ เล่มล่นี้ จะมีข้ มี ข้อมูลที่เที่ป็น ป็ ประโยชน์ต่อต่ผู้ที่ผู้ ที่ สที่นใจศึกศึษา เกี่ยกี่วกับกัวัจวันภาษาและอวัจวันภาษา ได้เป็น ป็ อย่าย่งดี คำ นำ Introduction บุษบา เสี้ยสี้วภูเขียขีว ผู้จัดจัทำ 12 กุมภาพันพั ธ์ 2566 ก


คำ นำ ......................................................................................ก สารบัญบั..................................................................................ข ความหมายของภาษา..................................................1 ความหมายของวัจวันภาษา.......................................2 ภาษาพูด....................................................................3 ภาษาเขีย ขี น..............................................................4 การใช้วัจวันภาษาในการสื่อ สื่ สาร..........................5 ความชัดชัเจนและถูกต้อง..............................5 ความเหมาะสมกับกับริบ ริ ทของภาษา.........6 สรุปวัจวันภาษา.................................................................7 สารบัญ Contents ข


ความหมายของอวัจวันภาษา...............................8 การแสดงออกด้วยอวัจวันภาษา.......................9 ประเภทของอวัจวันภาษา..................................10 สรุปอวัจวันภาษา......................................................14 ความสัมสัพันพั ธ์ระหว่างวัจวันภาษา และอวัจวันภาษา......................................................15 แบบฝึกฝึหัดหั..................................................................18 เฉลยแบบฝึกฝึหัดหั....................................................22 อ้างอิง อิ............................................................................24 ประวัติวัผู้ ติ ผู้ จัดจัทำ ..........................................................25 สารบัญ (ต่อ) Contents ค


ภาษาคืออะไร? ภาษา คือ คื สัญสัลักลัษณ์ที่กำที่กำหนดขึ้นขึ้เพื่อพื่ ใช้เป็น ป็ เครื่อรื่งมือมื ที่สำที่สำคัญคั ที่สุที่สุดในการสื่อสื่ความเข้าใจระหว่างกันกัของคนในสังสัคม ช่วยสร้างความเข้าใจอันอัดีต่ ดี อต่กันกัช่วยสร้างความสัมสัพันพั ธ์ ของคนในสังสัคม ถ้าคนในสังสัคมพูดกันกัด้วยถ้อถ้ยคำ ที่ดีที่ ดี จะช่วยให้คนในสังสัคมอยู่กัยู่นกัอย่าย่งปกติสุติสุข ถ้าพูดกันกัด้วยถ้อถ้ยคำ ไม่ดีม่ ดี จะทำ ให้เกิดกิความบาดหมางน้ำ ใจกันกั ภาษาจึงจึมีส่ มี ส่วนช่วยสร้างมนุษยสัมสัพันพั ธ์ ของคนในสังสัคม ภาษาเป็น ป็ สมบัติบัขติองสังสัคม ภาษาที่ใที่ช้ในการสื่อสื่สาร มี ๒ ประเภท คือ คื วัจวันภาษาและอวัจวันภาษา 1


วัจนภาษา ข้อควรจำ : คำ พูด, ตัวอักษร วัจวันภาษา หมายถึงถึภาษาถ้อถ้ยคำ ได้แด้ก่ คำ พูดหรือ รื ตัวตัอักอัษร ที่กำที่กำหนดใช้ร่วมกันกั ในสังสัคม ซึ่งซึ่หมายรวมทั้งทั้เสีย สี ง และลายลักลัษณ์อักอัษร ภาษาถ้อถ้ยคำ เป็น ป็ ภาษาที่มที่นุษย์สร้างขึ้นขึ้ อย่าย่งมีร มี ะบบ มีห มี ลักลัเกณฑ์ทฑ์างภาษา หรือ รื ไวยากรณ์ ซึ่งซึ่คนในสังสัคมต้องเรีย รี นรู้แรู้ละใช้ภาษาในการฟังฟั พูด อ่าน เขีย ขี นและคิดคิ การใช้วัจวันภาษาในการสื่อสื่สารต้องคำ นึงนึถึงถึความชัดชัเจนถูกต้อง ตามหลักลัภาษา และความเหมาะสมกับกัลักลัษณะ การสื่อสื่สาร ลักลัษณะงาน เป้าหมาย สื่อสื่และผู้รับรัสาร วัจวันภาษาแบ่งบ่ออกเป็น ป็ ๒ ชนิด คือ คื ภาษาพูด และภาษาเขีย ขี น 2


Sun Mon Tue Wed Thu Fri Sat Date : 1. ภาษาพูด ภาษาพูด ภาษาพูดเป็น ป็ ภาษาที่มที่นุษย์เปล่งเสีย สี งออกมา เป็น ป็ ถ้อถ้ยคำ เพื่อพื่สื่อสื่สารกับกัผู้อื่ผู้ อื่ นอื่นักนัภาษาศาสตร์ถืร์อ ถื ว่าภาษาพูด เป็น ป็ ภาษาที่แที่ท้จริงริของมนุษย์ ส่วนภาษาเขีย ขี นเป็น ป็ เพีย พี ง วิวัวิฒวันาการขั้นขั้หนึ่งนึ่ของภาษาเท่านั้นนั้มนุษย์ได้ใช้ภาษาพูด ติดติต่อต่สื่อสื่สารกับกัผู้อื่ผู้ อื่ นอื่อยู่เสมอ ทั้งทั้ในเรื่อรื่งส่วนตัวตัสังสัคม และหน้าที่กที่ารงาน ภาษาพูดจึงจึสามารถสร้างความรักรัความเข้าใจ และช่วยแก้ไขปัญปัหา ต่าง ๆ ในสังสัคมมนุษย์ได้มากมาย 3


ภาษาเขีย ขี นเป็น ป็ ภาษาที่มที่นุษย์ใช้อักอัษรเป็น ป็ เครื่อรื่งหมายแทน เสีย สี งพูดในการสื่อสื่สาร ภาษาเขีย ขี นเป็น ป็ สัญสัลักลัษณ์ของการพูด ภาษาเขีย ขี นนั้นนั้เป็น ป็ สิ่งสิ่ที่มที่นุษย์ประดิษดิฐ์ขึ้นขึ้มาเพื่อพื่ ใช้บันบัทึก ภาษาพูด เป็น ป็ ตัวตัแทนของภาษาพูดในโอกาสต่าง ๆ แม้นัม้กนัภาษาศาสตร์จร์ะถือ ถื ว่าภาษาเขีย ขี นมิใมิ ช่ภช่าษาที่แที่ท้จริงริ ของมนุษย์ แต่ภาษาเขีย ขี นเป็น ป็ เครื่อรื่งมือมื สำ คัญคั ในการสื่อสื่สาร ของมนุษย์ มาเป็น ป็ เวลาช้านาน มนุษย์ใช้ภาษาเขีย ขี นสื่อสื่สาร ทั้งทั้ในส่วนตัวตัสังสัคมและหน้าที่กที่ารงาน ภาษาเขีย ขี นสร้างความรักรั ความเข้าใจ และช่วยแก้ปัญปัหาต่าง ๆ ในสังสัคมมนุษย์ ได้มากมายหากมนุษย์รู้จักจัเลือ ลื กใช้ให้เหมาะสมกับกับุคคล โอกาส และสถานการณ์ Sun Mon Tue Wed Thu Fri Sat Date : 2. ภาษาเขียน 4


การใช้วัจนภาษาในการสื่อสาร 1. ความชัดเจนและถูกต้อง กล่าวคือ ต้องเป็นภาษาที่เข้าใจตรงกัน ทั้งผู้รับสาร และ ผู้ส่งสาร และถูกต้องตามกฎเกณฑ์และเหมาะสมกับวัฒนธรรมในการใช้ภาษาไทย ดังนี้ ๑.๑ ลักลัษณะของคำ หน้าที่ขที่องคำ ตำ แหน่งน่ของคำ และความหมาย ของคำ ซึ่งซึ่ความหมายของคำ มีทั้มี ทั้งทั้ความหมายตรง และความหมายแฝง ๑.๒ การเขียขีนและการออกเสียสีงคำ ในการเขียขีนผู้ส่ผู้ ส่งสารต้องระมัดมัระวังวั เรื่อรื่งสะกดการันรัต์ ในการพูดต้องระมัดมัระวังวัเรื่อรื่งการออกเสียสีง ต้องเขียขีนและออกเสียสีงถูกต้อง ๑.๓ การเรียรีบเรียรีงประโยค ผู้ส่ผู้ ส่งสารจำ เป็น ป็ ต้องศึกศึษาโครงสร้าง ประโยคเพื่อพื่วางตำ แหน่งน่ของคำ ในประโยคให้ถูกต้อง ถูกที่ ไม่สัม่บสัสน 5


การใช้วัจนภาษาในการสื่อสาร 2. ความเหมาะสมกับบริบทของภาษา เพื่อให้การสื่อสารบรรลุเป้าหมาย ผู้ส่งสารต้องคำ นึงถึง ๒.๑ ใช้ภาษาให้เหมาะกับกัลักลัษณะการสื่อสื่สาร เหมาะกับกัเวลาและสถานที่ โอกาส และบุคคล ผู้ส่ผู้ ส่งสารต้องพิจพิารณาว่าสื่อสื่สารกับกับุคคล กลุ่มลุ่บุคคล มวลชน เพราะขนาดของกลุ่มลุ่มีผมีลต่อต่การเลือ ลื กใช้ภาษา ๒.๒ ใช้ภาษาให้เหมาะกับกัลักลัษณะงาน เช่นช่งานประชาสัมสัพันพั ธ์ งานโฆษณา งานประชุม ฯลฯ ๒.๓ ใช้ภาษาให้เหมาะสมกับกัสื่อสื่ผู้ส่ผู้ ส่งสารจะต้องรู้จักจัความต่างของสื่อสื่ และความต่างของภาษาที่ใที่ช้กับกัแต่ละสื่อสื่ ใช้ภาษาให้เหมาะสม กับกัผู้รับรัสารเป้าหมาย ผู้รับรัสารเป้าหมายได้แด้ก่ กลุ่มลุ่ผู้รับรัสารเฉพาะ ที่ผู้ที่ผู้ส่ผู้ ส่งสารคาดหวังวัไว้ ผู้ส่ผู้ ส่งสารต้องวิเวิคราะห์ผู้รับรัสาร ที่เที่ป็น ป็ เป้าหมาย ของการสื่อสื่สาร และเลือ ลื กใช้ภาษาให้เหมาะสมกับกัผู้รับรัสารนั้นนั้ๆ 6


สรุปวัจนภาษา วัจนภาษา คือ คำ พูดหรือตัวอักษรที่กำ หนดใช้ร่วมกันในสังคม ซึ่งหมายรวมทั้งเสียง และลายลักษณ์อักษร ภาษาถ้อยคำ เป็นภาษาที่มนุษย์สร้างขึ้นอย่างมีระบบซึ่งคนในสังคมต้องเรียนรู้ และใช้ภาษาในการฟัง พูด อ่าน เขียนและคิด การใช้วัจนภาษาในการสื่อสารต้องคำ นึงถึงความชัดเจน ถูกต้องตามหลักภาษา ภาษาพูดเป็นภาษาที่มนุษย์ เปล่งเสียงออกมาเป็นถ้อยคำ เพื่อสื่อสารกับผู้อื่น นักภาษาศาสตร์ถือว่าภาษาพูดเป็นภาษาที่แท้จริงของมนุษย์ มนุษย์ได้ใช้ภาษาพูดติดต่อสื่อสารกับผู้อื่นอยู่เสมอ ภาษาพูดจึงสามารถ ช่วยแก้ไขปัญหา ต่าง ๆ ในสังคมมนุษย์ได้มากมาย ภาษาเขียน เป็นภาษาที่มนุษย์ใช้อักษรเป็นเครื่องหมายแทนเสียงพูดในการสื่อสาร ภาษาเขียนเป็นสัญลักษณ์ของการพูดภาษาเขียนนั้นเป็นสิ่งที่มนุษย์ ประดิษฐ์ขึ้นมาเพื่อใช้บันทึกภาษาพูด 7


อวัจนภาษา ข้อควรจำ : ไม่ใช้ถ้อยคำ , สัญลักษณ์ อวัจวันภาษา หมายถึงถึเป็น ป็ การสื่อสื่สารโดยไม่ใม่ช้ถ้อถ้ยคำ ทั้งทั้ที่เที่ป็น ป็ ภาษาพูดและภาษาเขีย ขี น เป็น ป็ ภาษาที่มที่นุษย์ ใช้สื่อสื่สารกันกั โดยใช้อากัปกักิริกิยริา ท่าทาง น้ำ เสีย สี ง สายตาหรือ รื ใช้วัตวัถุ การใช้สัญสัญาณ และ สิ่งสิ่แวดล้อล้มต่าง ๆ หรือ รื แสดงออกทางด้านอื่นอื่ที่สที่ามารถรับรัรู้กัรู้นกั ได้ สามารถแปลความหมายได้แด้ละทำ ความเข้าใจต่อต่กันกั ได้ 8


การแสดงออกด้วยอวัจนภาษา อวัจนภาษาเป็นสัญลักษณ์ที่มีแหล่งแสดงออกด้วยอากัปกิริยา หรือที่เกิดการแสดงออก ในหลายแหล่งด้วยกัน ได้แก่ สัญลักษณ์ที่แสดงออกด้วยอากัปกิริยา มีดังนี้ 1. สัญลักษณ์ที่แสดงออกด้วยอากัปกิริยา เกิดกิขึ้นขึ้ตามธรรมดาวิสัวิยสั เช่นช่การยิ้มยิ้การโบกมือมื การส่ายหน้า การปัดปัเมื่อมื่ แมลง ไต่ตต่อม เป็น ป็ ต้นต้ เกิดกิจากอารมณ์แรงเป็น ป็ เครื่อรื่งเร้า เช่นช่ เวลาที่มีที่อมีารมณ์ โกรธเลือ ลื ดจะสูบฉีดจนหน้าแดง มือมื เกร็ง ร็ กำ หมัดมัเป็น ป็ ต้นต้ 2. สัญลักษณ์แสดงออกที่ร่างกาย เป็นการใช้วัตถุประกอบกับร่างกาย แล้วบ่งบอกความหมาย ได้โดยไม่ได้ แสดงกิริยาอาการ เช่น การแต่ง กาย เครื่องประดับ ทรงผม เป็นต้น ซึ่งล้วนแล้วแต่มีความหมายทั้งสิ้น 3. สัญลักษณ์แสดงออกด้วยวัตถุที่แวดล้อม เป็นสิ่งที่บุคคลให้ความ หมายหรือตกลงให้ สิ่งนั้นมีความหมายหนึ่ง ๆ ลักษณะและขนาด ของบ้านเรือนสามารถบอกรสนิยม ฐานะ หรือเชื้อชาติได้ สัญลักษณ์ บางอย่างต้องการให้รู้ทั่วกัน เช่น ลูกศรบอกทาง สี แสง เสียง เป็นต้น 4. สัญลักษณ์แสดงออกด้วยพฤติกรรมแวดล้อม ได้แก่ สิ่งแวดล้อมที่เป็น วัตถุหรือคนที่แวดล้อมที่แสดงพฤติกรรมต่างๆเกี่ยวข้องกับเราทำ ให้เรา ต้องแสดงพฤติกรรมตอบสนอง เช่น การปฏิบัติตามประเพณีต่างๆ 9


ประเภทของอวัจนภาษา การแสดงออกทางสายตา เช่นช่การสบตากันกัระหว่างผู้ส่ผู้ ส่งสารและ ผู้รับรัสารก็มี ก็ ส่ มี ส่วนช่วยในการตีค ตี วามหมาย เช่นช่การสบตา แสดงออกถึงถึความจริงริ ใจ การรี่ตรี่าแสดงออกถึงถึความสงสัยสั ความไม่แม่น่ใน่จ ฯลฯ การแสดงออกทางสายตาจะต้องสอดคล้อล้ง กับกัการแสดงออกทางสีห สี น้า การแสดงออกทางสีห สี น้าและสายตา จะช่วยเสริมริวัจวันภาษาให้มีน้ำมี น้ำหนักนัยิ่งยิ่ขึ้นขึ้ และใช้แทนวัจวันภาษาได้อด้ย่าย่งดี 1. สายตา (เนตรภาษา) 10


Sun Mon Tue Wed Thu Fri Sat Date : การแสดงกิริกิยริาท่าทางของบุคคล สามารถสื่อสื่ความหมายได้โดย ไม่ต้ม่ ต้องใช้คำ พูด หรือ รื ใช้เสริมริคำ พูดให้มีน้ำมี น้ำหนักนัมากขึ้นขึ้ ได้ ได้แด้ก่ กิริกิยริาท่าทาง การเคลื่อลื่นไหวร่างกายและอากัปกักิริกิยริา ท่าทางต่าง ๆ สามารถสื่อสื่ความหมายได้มากมาย เช่นช่ การเคลื่อลื่นไหวมือมื การโบกมือมื การส่ายหน้า การพยักยัหน้า การยกไหล่ การยิ้มยิ้ ประกอบ การพูด การยักยัไหล่ การยักยัคิ้วคิ้ อาการนิ่งนิ่ฯลฯ 2. กิริยาท่าทาง (อาการภาษา) เป็น ป็ อวัจวันภาษาที่แที่ฝงอยู่ใยู่นภาษาพูด ได้แด้ก่ สำ เนียงของผู้พูผู้ พูด ระดับดัเสีย สี งสูงต่ำ การเปล่งเสีย สี ง จังจัหวะการพูด ความดังดั ความค่อค่ยของเสีย สี งพูด การตะโกน การกระซิบ น้ำ เสีย สี งช่วย บอกอารมณ์และความรู้สึรู้กสึนอกจากนี้ยันี้งยัช่วยแปลความหมาย ของคำ พูด เช่นช่การใช้เสีย สี งเน้นหนักนัเบา การเว้นว้จังจัหวะ การทอดเสีย สี ง สิ่งสิ่เหล่านี้ทำนี้ทำให้คำ พูดเด่นด่ชัดชัขึ้นขึ้การพูดเร็ว ร็ ๆ รัวรัๆ การพูดที่หที่ยุดเป็น ป็ ช่วง ๆ แสดงให้เห็นห็ ถึงถึอารมณ์กลัวลั หรือ รื ตื่นตื่เต้นต้ของผู้พูผู้ พูด เป็น ป็ ต้นต้ 3. น้ำ เสียง (ปริภาษา) 11


Sun Mon Tue Wed Thu Fri Sat Date : สิ่งสิ่ของหรือ รื วัตวัถุต่าง ๆ ที่บุที่บุคคลเลือ ลื กใช้ เช่นช่ของใช้ เครื่อรื่งประดับดัเสื้อสื้ ผ้า กระเป๋า รองเท้า นาฬิกา ปากกา แว่นว่ตา เป็น ป็ ต้นต้สิ่งสิ่เหล่านี้เนี้ป็น ป็ อวัจวันภาษาที่สื่ที่สื่อสื่ความหมาย ได้ทั้ด้ ทั้งทั้สิ้น 4. สิ่งของหรือวัตถุ (วัตถุภาษา) ช่อช่งว่างของสถานที่หที่รือ รื ระยะใกล้ไกลที่บุที่บุคคลสื่อสื่สารกันกัเป็น ป็ อวัจวันภาษาที่สื่ที่สื่อสื่สารให้เข้าใจได้ เช่นช่ระยะห่างของหญิงญิชาย พระกับกัสตรี คนกับกัสิ่งสิ่ศักศัดิ์สิทธิ์ คนสองคนนั่งนั่ชิดกันกับนม้านั่งนั่ ตัวตัเดีย ดี วกันกัย่อย่มสื่อสื่สารให้เข้าใจได้ว่า ทั้งทั้สองคนมีค มี วามสนิท สนมเป็น ป็ พิเพิ ศษ เป็น ป็ ต้นต้ 5. เนื้อที่หรือช่องว่าง (เทศภาษา) 12


Sun Mon Tue Wed Thu Fri Sat Date : การสื่อสื่ความหมายโดยให้เวลามีบ มี ทบาทสำ คัญคัเวลาแต่ละช่วง มีค มี วามหมายในตัวตัคนแต่ละคน และคนต่างวัฒวันธรรม จะมีค มี วามคิดคิและความหมายเกี่ยกี่วกับกัเวลาแตกต่างกันกั เช่นช่การตรงต่อต่ เวลาวัฒวันธรรมตะวันวัตกถือ ถื ว่ามีค มี วามสำ คัญคัมาก การไม่ตม่รงต่อต่ เวลานัดนัหมายเป็น ป็ การแสดงความดูถูก เป็น ป็ ต้นต้ 6. กาลเวลา (กาลภาษา) อวัจวันภาษาที่แที่สดงออกโดยการสัมสัผ้สผ้ เพื่อพื่สื่อสื่ความรู้สึรู้กสึอารมณ์ ความปรารถนาในใจของผู้ส่ผู้ ส่งสารไปยังยัผู้รับรัสาร เช่นช่การจับจัมือมื การแลบลิ้นลิ้การลูบศีร ศี ษะ การโอบกอด การตบไหล่ ซึ่งซึ่สัมสัพันพั ธ์ กับกัวัฒวันธรรมของแต่ละสังสัคม เช่นช่คนไทยถือ ถื มิใมิห้เด็ก ด็ สัมสัผัสผั ส่วนหัวหัของผู้ใผู้หญ่ เป็น ป็ ต้นต้ 7. การสัมผัส (สัมผัสภาษา) 13


สรุปอวัจนภาษา อวัจวันภาษา เป็น ป็ การสื่อสื่สารโดยไม่ใม่ช้ถ้อถ้ยคำ ทั้งทั้ที่เที่ป็น ป็ ภาษาพูดและภาษาเขีย ขี น เป็น ป็ ภาษาที่มที่นุษย์ ใช้สื่อสื่สารกันกั โดยใช้อากัปกักิริกิยริา สัญสัลักลัษณ์ที่แที่สดงออกด้วย อากัปกักิริกิยริา ได้แด้ก่ สัญสัลักลัษณ์ที่แที่สดงออกด้วยอากัปกักิริกิยริา ร่างกาย วัตวัถุที่แที่วดล้อล้ม พฤติกติรรมแวดล้อล้ม โดยประเภทของ อวัจวันภาษา ได้แด้ก่ เนตรภาษา อาการภาษา ปริภริาษา วัตวัถุภาษา เทศภาษา กาลภาษา สัมสัผัสผัภาษา 14


ความสัมพันธ์ระหว่าง วัจนภาษาและอวัจนภาษา การใช้อวัจนภาษาที่มีความหมายเช่นเดียวกันกับวัจนภาษาช่วยให้สื่อความหมาย ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น เช่น เพื่อนชวนเราไปดูภาพยนตร์ เราตอบปฏิเสธว่าไม่ไป พร้อมกับส่ายหน้าไปด้วย อาการส่ายหน้าเป็นอวัจนภาษาที่ซ้ำ กับคำ พูดที่ปฏิเสธ ออกไปนั่นเอง หากเราพูดเบาเพื่อนไม่ได้ยินเสียง แต่เห็นการส่ายหน้าก็สามารถเข้าใจได้ 1. ใช้ซ้ำ กัน การใช้อวัจนภาษาทำ หน้าที่แทนคำ พูดเช่น เพื่อนถามว่า เธอไปเป็นเพื่อนฉันได้ หรือไม่ ผู้ตอบพยักหน้าโดยไม่พูดอะไร ก็สื่อความหมายได้ว่าเป็นการตอบตกลง 2. ใช้แทนกัน 15


Sun Mon Tue Wed Thu Fri Sat Date : การใช้อวัจนภาษาเพิ่มหรือเสริมน้ำ หนักให้แก่คำ พูดเพื่อแสดงอารมณ์ ความรู้สึก หรือแสดงภาพจากตัวอักษรให้จริงจังมากขึ้น เช่น เมื่อเราไปขอความเห็นใจจากใคร สักคน ถ้าลำ พังถ้อยคำ ที่ พูดอย่างเดียวอาจจะแสดงอารมณ์ไม่เต็มที่ แต่ถ้าเราใช้ น้ำ เสียงและการแสดงออกบน ใบหน้าและดวงตาประกอบ ก็จะทำ ให้ผู้รับสาร มีปฏิกิริยาตอบสนองในทางอารมณ์เข้าใจและเห็นใจเรามากขึ้น 3. ใช้เสริมกัน การใช้อวัจนภาษาเน้นบางจุดที่ผู้พูดต้องการจะเน้นประกอบกับวัจนภาษา ซึ่งการเน้นนั้นมีน้ำ หนักแตกต่างกัน มีเน้นมาก เน้นพอสมควรหรือเน้นเล็กน้อย เครื่องมือที่ช่วยในการเน้นที่สำ คัญ ๆ เช่น การบังคับเสียงให้ดังขึ้นกว่าปกติ การเคลื่อนไหวมือและแขน การเคลื่อนไหวของศีรษะ เป็นต้น 4. ใช้เน้นกัน 16


Sun Mon Tue Wed Thu Fri Sat Date : การใช้อวัจนภาษาที่สื่อความหมายตรงกันข้ามกับสารในคำ พูด เช่น เราได้รับรางวัล มารยาทดีเด่น เพื่อนมากล่าวคำ ยินดีด้วยแต่สีหน้าไม่ได้ยิ้มแย้มไม่ได้แสดงออกถึง ความยินดีนั้นเลย เช่นนี้แสดงว่าการใช้วัจนภาษาขัดแย้งกับอวัจนภาษา 5. ใช้ขัดแย้งกัน 17


คำ ชี้แจง โปรดทำ เครื่องหมาย หน้าข้อความที่เห็นว่าถูก โปรดทำ เครื่องหมาย หน้าข้อความที่เห็นว่าผิด 1. ภาษาเขียนเป็นสัญลักษณ์ของการพูด 2. อวัจนภาษาคือภาษาพูดและภาษาเขียน 3. ภาษาพูด ภาษาพูดเป็นภาษาที่มนุษย์เปล่งเสียงออกมาเป็นถ้อยคำ เพื่อสื่อสารกับผู้อื่น 4. สัญญาณไฟจราจรคือวัจนภาษา 5. การยิ้มทักทายคืออวัจนภาษา 6. อวัจนภาษาเป็นการสื่อสารโดยไม่ใช้ถ้อยคำ ทั้งที่เป็นภาษาพูด และภาษาเขียน 7. สัญลักษณ์ที่แสดงออกด้วยอากัปกิริยาคือการปัดเมื่อแมลงไต่ตอม 8. วัตถุภาษาเป็นการใช้ เสื้อผ้า กระเป๋า แหวน กำ ไล 9. สัญลักษณ์แสดงออกด้วยวัตถุที่แวดล้อม ได้แก่ สิ่งแวดล้อมที่เป็นวัตถุ หรือคนที่แวดล้อมที่แสดงพฤติกรรมต่าง ๆ เกี่ยวข้องกับเรา 10. กิริยาท่าทางของบุคคล สามารถสื่อความหมายได้โดยไม่ต้องใช้คำ พูด แบบฝึกหัด ตอนที่ 1 18


ตอนที่ 2 คำ ชี้แจง จงเลือกคำ ตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. ข้อใดคือความหมายของภาษา? ก. วัจนภาษา หมายถึง เป็นการสื่อสารโดยไม่ใช้ถ้อยคำ ทั้งที่เป็นภาษาพูดและภาษาเขียน เป็นภาษา ที่มนุษย์ใช้สื่อสารกัน โดยใช้อากัปกิริยา ท่าทาง น้ำ เสียง สายตาหรือ ใช้วัตถุ ข. วัจนภาษา หมายถึง คำ พูดหรือตัวอักษรที่กำ หนดใช้ร่วมกันในสังคม ซึ่งหมายรวมทั้งเสียง และลายลักษณ์อักษร ค. อวัจนภาษา หมายถึง คำ พูดหรือตัวอักษรที่กำ หนดใช้ร่วมกันในสังคม ซึ่งหมายรวมทั้งเสียง และลายลักษณ์อักษร ง. อวัจนภาษา หมายถึง คำ พูดหรือตัวอักษรที่กำ หนดใช้ร่วมกันในสังคม ยกเว้นเสียง และลายลักษณ์อักษร ก. คำ พูดหรือตัวอักษรที่กำ หนดใช้ร่วมกันในสังคม ซึ่งหมายรวมทั้งเสียง และลายลักษณ์อักษร ข. ภาษาที่มนุษย์ใช้อักษรเป็นเครื่องหมายแทนเสียงพูดในการสื่อสาร ค. สัญลักษณ์ที่กำ หนดขึ้นเพื่อใช้เป็นเครื่องมือที่สำ คัญที่สุดในการสื่อความเข้าใจระหว่างกันของคนในสังคม ง. คำ พูดหรือตัวอักษรที่กำ หนดใช้ร่วมกันในสังคม ซึ่งหมายรวมทั้งเสียง และลายลักษณ์อักษร ภาษาถ้อยคำ เป็นภาษาที่มนุษย์สร้างขึ้นอย่างมีระบบ 2. ข้อใดกล่าวถูกต้อง? 3. วัจนภาษาแบ่งออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่อะไรบ้าง? ก. ภาษาพูดและสัญลักษณ์ ข. สัญลักษณ์และภาษาเขียน ค. ภาษาพูดและการได้ยิน ง. ภาษาพูดและภาษาเขียน 19


4. ความเหมาะสมกับบริบทของภาษา เพื่อให้การสื่อสารบรรลุเป้าหมาย ผู้ส่งสารต้องคำ นึงถึงสิ่งใดบ้าง? ก. ใช้ภาษาให้เหมาะกับลักษณะการสื่อสาร เหมาะกับเวลาและสถานที่ และโอกาส ข. ใช้ภาษาให้เหมาะกับลักษณะงาน ค. ไม่มีข้อถูก ง. ถูกทั้ง ก และ ข 5. ข้อใดไม่ใช่การแสดงออกด้วยอากัปกิริยา? ก. การส่ายหน้า ข. ลูกศรบอกทาง ค. มือเกร็ง ง. โบกมือทักทาย 6. การเคลื่อนไหวร่างกายคืออวัจนภาษาประเภทใด? ก. ปริภาษา ข. เนตรภาษา ค. อาการภาษา ง. เทศภาษา 7. ข้อใดคืออวัจนภาษาประเภทกาลภาษา? ก. การเดินข้ามทางม้าลาย ข. การปฏิบัติตามวัฒนธรรมประเพณี ค. นาฬิกาข้อมือ ง. การตรงต่อเวลา 20


9. หากเราได้รับรางวัลมารยาทดีเด่น เพื่อนมากล่าวคำ ยินดีด้วยแต่สีหน้า ไม่ได้ยิ้มแย้มไม่ได้แสดงออกถึงความยินดีนั้นเลย เป็นการแสดงความสัมพันธ์ ระหว่างวัจนภาษาและอวัจนภาษาในข้อใด? ก. ใช้ขัดแย้งกัน ข. ใช้ซ้ำ กัน ค. ใช้แทนกัน ง. ใช้เสริมกัน 10. หากเพื่อนชวนเราไปซื้อของ เราตอบปฏิเสธว่าไม่ไปพร้อมกับส่ายหน้าไป ด้วย เป็นการแสดงความสัมพันธ์ระหว่างวัจนภาษาและอวัจนภาษาในข้อใด? ก. ใช้ขัดแย้งกัน ข. ใช้ซ้ำ กัน ค. ใช้แทนกัน ง. ใช้เสริมกัน 8. การลูบศีรษะ การโอบกอด คืออวัจนภาษาประเภทใด ก. กาลภาษา ข. ปริภาษา ค. สัมผัสภาษา ง. เทศภาษา และ ปริภาษา 21


คำ ชี้แจง โปรดทำ เครื่องหมาย หน้าข้อความที่เห็นว่าถูก โปรดทำ เครื่องหมาย หน้าข้อความที่เห็นว่าผิด 1. ภาษาเขียนเป็นสัญลักษณ์ของการพูด 2. อวัจนภาษาคือภาษาพูดและภาษาเขียน 3. ภาษาพูด ภาษาพูดเป็นภาษาที่มนุษย์เปล่งเสียงออกมาเป็นถ้อยคำ เพื่อสื่อสารกับผู้อื่น 4. สัญญาณไฟจราจรคือวัจนภาษา 5. การยิ้มทักทายคืออวัจนภาษา 6. อวัจนภาษาเป็นการสื่อสารโดยไม่ใช้ถ้อยคำ ทั้งที่เป็นภาษาพูด และภาษาเขียน 7. สัญลักษณ์ที่แสดงออกด้วยอากัปกิริยาคือการปัดเมื่อแมลงไต่ตอม 8. วัตถุภาษาเป็นการใช้ เสื้อผ้า กระเป๋า แหวน กำ ไล 9. สัญลักษณ์แสดงออกด้วยวัตถุที่แวดล้อม ได้แก่ สิ่งแวดล้อมที่เป็นวัตถุ หรือคนที่แวดล้อมที่แสดงพฤติกรรมต่าง ๆ เกี่ยวข้องกับเรา 10. กิริยาท่าทางของบุคคล สามารถสื่อความหมายได้โดยไม่ต้องใช้คำ พูด คะแนน : 10/10 เฉลยแบบฝึกหัด 22 ตอนที่ 1


เฉลยแบบฝึกหัด (ต่อ) 1. ข้อใดคือความหมายของภาษา? ตอบ : ค. สัญลักษณ์ที่กำ หนดขึ้นเพื่อใช้เป็นเครื่องมือที่สำ คัญที่สุดในการสื่อความเข้าใจ ระหว่างกันของคนในสังคม 2. ข้อใดกล่าวถูกต้อง? ตอบ : ข. วัจนภาษา หมายถึง คำ พูดหรือตัวอักษรที่กำ หนดใช้ร่วมกันในสังคม ซึ่งหมายรวมทั้งเสียง และลายลักษณ์อักษร 3. วัจนภาษาแบ่งออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่อะไรบ้าง? ตอบ : ง. ภาษาพูดและภาษาเขียน 4. ความเหมาะสมกับบริบทของภาษา เพื่อให้การสื่อสารบรรลุเป้าหมาย ผู้ส่งสารต้คำ นึงถึงสิ่งใดบ้าง? ตอบ : ง. ถูกทั้ง ก และ ข 5. ข้อใดไม่ใช่การแสดงออกด้วยอากัปกิริยา? ตอบ : ข. ลูกศรบอกทาง 6. การเคลื่อนไหวร่างกายคืออวัจนภาษาประเภทใด? ตอบ : ค. อาการภาษา 7. ข้อใดคืออวัจนภาษาประเภทกาลภาษา? ตอบ : ง. การตรงต่อเวลา 8. การลูบศีรษะ การโอบกอด คืออวัจนภาษาประเภทใด ตอบ : ค. สัมผัสภาษา 9. หากเราได้รับรางวัลมารยาทดีเด่น เพื่อนมากล่าวคำ ยินดีด้วยแต่สีหน้าไม่ได้ยิ้มแย้มไม่ได้แสดงออก ถึงความยินดีนั้นเลย เป็นการแสดงความสัมพันธ์ ระหว่างวัจนภาษาและอวัจนภาษาในข้อใด? ตอบ : ก. ใช้ขัดแย้งกัน 10. หากเพื่อนชวนเราไปซื้อของ เราตอบปฏิเสธว่าไม่ไปพร้อมกับส่ายหน้าไปด้วย เป็นการแสดงความ สัมพันธ์ ระหว่างวัจนภาษาและอวัจนภาษาในข้อใด? ตอบ : ข. ใช้ซ้ำ กัน 23


อ้างอิง Reference 24 ทักทัษะการสื่อสื่สารของมนุษย์. (2564). อวัจวันภาษา. สืบ สื ค้นเมื่อมื่17 มกราคม 2566, จาก. https://sites.google.com/site/11sirithippa/xwacnpha-sa ภาษาไทยเพื่อพื่การสื่อสื่สาร. (2564). วัจวันภาษาและอวัจวันภาษา. สืบ สื ค้นเมื่อมื่17 มกราคม 2566, จาก. http://www.digitalschool.club/digit alschool/m1/th1_1/lesson3/content1/content02 .php.


ข้อดี ข้อเสีย นางสาวบุษบา เสี้ยวภูเขียว ที่อยู่ ข้อดี/ข้อเสียของตนเอง โปรไฟล์ [email protected] 0916621105 Facebook : Jaw Budsaba เกิด : 23 พฤษภาคม 2545 CONTACT Marketing นักศึกษาสาขาวิชาภาษาไทย ชั้นปีที่ 2 คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี บ้านเลขที่ 134 หมู่ที่ 4 บ้านวังไห ตำ บลหนองหญ้าปล้อง อำ เภอวังสะพุง จังหวัดเลย รหัสไปรษณีย์ 42130 หมายเลขโทรศัพท์ 091-6621105 เป็นคนที่มีความอดทนสูง สามารถจัดการกับปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี ชอบความเงียบสงบ ตื่นสาย ผัดวันประกันพรุ่งในการทำ งาน จัดระเบียบในชีวิตประจำ วันได้ไม่ดีเท่าที่ควร ชื่อเล่น : จาว ประวัติผู้จัดทำ 25


มรดกปัปัญ ปัปั ญา รู้รัก รั ษ์ภาษา คุณค่ รู้รั รู้ ก รั ษ์ภาษา คุณค่า ค่ ของไทย


Click to View FlipBook Version