โรงเรยี นพนาศกึ ษา สานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษามัธยมศกึ ษาอบุ ลราชธานี อานาจเจริญ
คาํ นํา
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคตดิ เช้ือไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19) ในประเทศไทย สง่ ผล
ใหม้ ีการแพรร่ ะบาดเพิ่มมากข้ึนและขยายวงกว้างขนึ้ เร่ือย ๆ ในทกุ พื้นท่ีของประเทศไทย
กระทรวงศึกษาธิการ จึงได้เตรียมความพร้อมในการรับมือจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติด
เช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยจัดให้มีการจัดการเรียนการสอน ON-SITE ทุกโรงเรียน เพ่ือรองรับ
การเปิดภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2565 และสอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส
COVID-19
ดังน้ัน โรงเรียนพนาศึกษา จึงได้จัดทําคู่มือ “การจัดการเรียนการสอน ในสถานการณ์การแพร่ระบาด
ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนพนาศึกษา” ข้ึน เพื่อใช้เป็นแนว
ทางการจัดการเรียนการสอนสําหรับครู บุคลากรทางการศึกษาและผู้ท่ีเก่ียวข้องได้สร้างความรู้ ความเข้าใจ
อีกท้ังไดท้ ราบบทบาท หน้าที่ของตนเองอยา่ งถกู ต้องและชดั เจน รวมถึงใช้เป็นสื่อ ในการประสานงานกับบุคคล
ชุมชน หรือหน่วยงาน ท่เี กี่ยวข้อง เพอื่ ให้บรรลุเปา้ หมายของการจัดการเรียนการสอน
นายอชิระ วริ ยิ สขุ หทยั
ผู้อานวยการโรงเรยี นพนาศึกษา
สานกั งานเขตพ้นื ที่การศึกษามัธยมศึกษาอบุ ลราชธานี อานาจเจรญิ
คู่มือการจัดการเรยี นการสอนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคตดิ เช้ือไวรัสโคโรนา 2019
โรงเรียนพนาศกึ ษา สานักงานเขตพ้ืนท่กี ารศึกษามัธยมศกึ ษาอุบลราชธานี อานาจเจริญ
สารบัญ
เรอื่ ง หน้า
คานา ............................................................................................................................. .. ก
สารบัญ ........................................................................................................................... ข
ส่วนท่ี 1 ความรู้เบ้ืองต้นทค่ี วรรู้ ............................................................................ 1
โรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) คืออะไร .............................................. 2
อาการของผู้ปว่ ยโรคติดเช้ือไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19) ................................. 2
โรคติดเช้ือไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19) แพร่กระจายเชื้อได้อย่างไร ................. 2
โรคติดเช้ือไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19) รักษาได้อยา่ งไร .................................. 2
วัคซีน ...................................................................................................................... 3
โรงเรียน Sandbox : Safety Zone in School .................................................... 5
สว่ นท่ี 2 แนวปฏบิ ัติการเตรียมการก่อนเปิดภาคเรียน ............................................. 7
การประเมินความพรอ้ มก่อนเปดิ เรียน .................................................................... 8
กรอบการประเมิน Thai Stop Covid Plus …………………………………………………… 9
แนวทางการเตรียมความพรอ้ ม ............................................................................... 12
ส่วนที่ 3 แนวปฏบิ ัตริ ะหวา่ งเปิดภาคเรยี น .............................................................. 16
หลกั ปฏิบตั ิในการปองกนั การแพรระบาดของโรคโควิด 19 ในสถานศกึ ษา ............ 17
บทบาทของบุคลากรและหนว่ ยงานท่ีเกี่ยวข้อง ....................................................... 17
บทบาทของนักเรียน................................................................................................. 19
แนวปฏิบตั ดิ ้านอนามัยสิง่ แวดล้อม .......................................................................... 24
ส่วนที่ 4 แนวทางการจดั การเรยี นการสอนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของ
โรคติดเชือ้ ไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) .............................................. 30
รปู แบบเว้นระยะหา่ ง (social distancing) .......................................................... 31
มาตรการการปอ้ งกนั การแพร่ระบาด .................................................................... 31
การปฏบิ ัติกับนักเรยี นทตี่ ้องเรียนทีบ่ า้ น/กล่มุ เสีย่ ง .............................................. 33
ภาคผนวก ................................................................................................................ 34
เอกสารอ้างองิ .......................................................................................................... 41
คณะทางาน ............................................................................................................. 42
คูม่ อื การจดั การเรยี นการสอนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคตดิ เช้ือไวรสั โคโรนา 2019
โรงเรียนพนาศกึ ษา สานกั งานเขตพ้นื ท่ีการศึกษามธั ยมศกึ ษาอบุ ลราชธานี อานาจเจรญิ
สว่ นท่ี 1
ความรู้เบ้ืองต้นทีค่ วรรู้
ค่มู ือการจดั การเรยี นการสอนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคตดิ เชอ้ื ไวรัสโคโรนา 2019
โรงเรียนพนาศกึ ษา สานกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษามธั ยมศึกษาอบุ ลราชธานี อานาจเจริญ
หน้า 2
สว่ นท่ี 1
ความรเู้ บอื้ งต้นทคี่ วรรู้
1. โรคตดิ เชือ้ ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) คืออะไร
ไว รั ส โค โร น า ส า ย พั น ธ์ุ ให ม่ 2019 เป็ น ต ร ะ กู ล ข อ ง ไว รั ส ที่ ก่ อ ให้ เกิ ด อ า ก า ร ป่ ว ย
ต้ังแต่โรคไข้หวัดธรรมดาไปจนถึงโรคท่ีมีความรุนแรงมาก เช่น โรคระบบทางเดินหายใจในตะวันออกกลาง
(M E R S -C o V ) แ ล ะ โร ค ร ะ บ บ ท า ง เดิ น ห า ย ใจ เฉี ย บ พ ลั น รุ น แ ร ง (S A R S -C o V ) เป็ น ต้ น
ซ่ึ ง เป็ น ส า ย พั น ธ์ุ ให ม่ ที่ ไม่ เค ย พ บ ม า ก่ อ น ใน ม นุ ษ ย์ ก่ อ ใ ห้ เกิ ด อ า ก า ร ป่ ว ย ร ะ บ บ ท า ง เดิ น ห า ย ใจ ใ น ค น
และสามารถแพร่เชื้อจากคนสู่คนได้ โดยเชื้อไวรัสนี้พบ การระบาดคร้ังแรกในเมืองอู่ฮ่ัน มณฑลหูเป่ย์
สาธารณ รัฐป ระช าช น จีน ใน ช่วงป ลายปี 2019 ห ลังจาก นั้ น ได้ มี การระบ าดไป ทั่ วโล ก
องค์การอนามัยโลกจึงตั้งชื่อการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธ์ุใหม่น้ี ว่า โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ
โรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 : COVID-19)
2. อาการของผู้ป่วยโรคตดิ เชอื้ ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19)
อาการท่ัวไป ได้แก่ อาการระบบทางเดินหายใจ มีไข้ ไอ มีน้ามูก เจ็บคอ หายใจลาบาก เหนื่อยหอบ
ไม่ได้กลิ่น ไม่รู้รส ในกรณีที่อาการรุนแรงมาก อาจทาให้เกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ปอดบวม ปอดอักเสบ
ไตวาย หรืออาจเสียชวี ิต
3. โรคตดิ เชอ้ื ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) แพรก่ ระจายเชื้อไดอ้ ยา่ งไร
โรคชนิดน้ีมีความเป็นไปได้ท่ีมีสัตว์เป็นแหล่งเชื้อโรค ส่วนใหญ่แพร่กระจายผ่านการสัมผัสกับผู้ติดเชื้อ
ผ่านทางละอองเสมหะจากการไอ น้ามูก น้าลาย ปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานสนับสนุนการแพร่กระจายเช้ือผ่าน
ทางพ้ืนผิวสัมผัสที่มีไวรสั แลว้ มาสมั ผัสปาก จมูก และตา
4. โรคตดิ เชอ้ื ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) รกั ษาได้อย่างไร
ยั ง ไ ม่ มี ย า ส า ห รั บ ป้ อ ง กั น ห รื อ รั ก ษ า โ ร ค ติ ด เ ชื้ อ ไ ว รั ส โ ค โ ร น า 2 0 1 9
ผู้ท่ีติดเชื้ออาจต้องได้ รับการรักษาแบบประคับประคองตามอาการ โดยอาการท่ีมีแตกต่างกัน
บางคนรุนแรงไม่มาก ลักษณ ะเหมือนไข้หวัดทั่วไป บางคนรุนแรงมาก ทาให้เกิดปอดอักเสบได้
ต้องสังเกตอาการอย่างใกล้ชิดร่วมกับการรักษาด้วยการ ประคับประคองอาการจนกว่าจะพ้นอาการช่วงนั้น
และยงั ไมม่ ียาตวั ใดทีม่ หี ลกั ฐานชดั เจนว่ารักษาได้โดยตรง
คู่มือการจัดการเรยี นการสอนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคตดิ เชือ้ ไวรัสโคโรนา 2019
โรงเรยี นพนาศึกษา สานักงานเขตพ้ืนท่ีการศกึ ษามัธยมศึกษาอบุ ลราชธานี อานาจเจริญ
หนา้ 3
5. วัคซีน
การเปิดภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2565 รัฐบาลโดยกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงศึกษาธิการ
เรง่ ดาเนินการสรา้ งความรคู้ วามเข้าใจให้กบั ประชาชน 2 เร่ืองที่สาคัญและนาสกู่ ารปฏิบัติ ได้แก่ การรณรงค์
ให้นกั เรียนอายุ 12-18 ปี เขา้ รบั การฉีดวัคซนี Pfizer และใหส้ ถานศึกษาปฏิบัตติ ามมาตรการ Sandbox :
Safety Zone in School อย่างเคร่งครัด จึงเปน็ สิ่งจาเป็นสาหรับนกั เรียน ครู บคุ ลากรทางการศึกษา และ
บคุ คลทเ่ี กีย่ วข้องจะต้องรบั รูแ้ ละสามารถเขา้ รบั การฉีดวัคซีน Pfizer และปฏบิ ตั ิตามมาตรการได้อย่างเครง่ ครดั
สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน
นอกจากวคั ซนี Pfizer ที่รัฐบาลนามาให้กบั นักเรียนอายุ 12-18 ปี เข้ารบั การฉดี แล้ว
ยังมีวคั ซีนทางเลือกอีกหน่งึ ยี่ห้อได้แก่Sinopharmท่รี าชวทิ ยาลยั จฬุ าภรณด์ าเนนิ การฉดี วัคซนี ใหก้ ับเด็กและ
เยาวชน อายุ ระหว่าง 10-18 ปี ในโครงการ VACC 2
Schoolดังน้ันเพ่ือให้ความรูเ้ บ้ืองตน้ สานกั งานคณะกรรมการ การศึกษาข้ันพ้นื ฐาน
จงึ ขอนาเสนอข้อมูลที่ควรรู้ของวัคซนี Pfizer วัคซีน Sinopharm และมาตรการ Sandbox : Safety Zone in
School พอสงั เขป ดังน้ี
5.1 วคั ซีน Pfizer
ในสถานการณก์ ารแพร่ระบาดของเช้ือไวรสั โคโรนา 2019 (Covid-19)
ช่วงปีที่ผ่านมาและปัจจบุ นั มีการกลา่ วถงึ เกี่ยวกับการฉีดวัคซีน (COVID-19 Vaccines) กันมากมาย
โดยเฉพาะการเรง่ สรา้ ง “ภูมิคุ้มกันหมู่” ซ่ึงจาเปน็ ต้องอาศัยวัคซนี ที่มปี ระสทิ ธิภาพเขา้ ช่วย
มวี ัคซีนท่ผี า่ นการรองรบั จากองค์การอนามยั โลก (WHO) และทกุ ประเทศได้เลือกและนามาใหป้ ระชาชน
รบั การฉดี วัคซีน (COVID-19 Vaccines) มีหน้าที่สาคญั คือ การเพม่ิ ประสิทธภิ าพในการเข้าไปเพมิ่ จานวน
และเสรมิ ความแข็งแรงของภูมิคุ้มกนั ให้พร้อมเข้าทาลาย ส่งิ แปลกปลอม หรือไวรัสชนดิ ตา่ ง ๆ
ที่แฝงเข้ามาในร่างกายได้ในทันที ซงึ่ ถือเปน็ อาวธุ ช้ินสาคญั ท่ชี ว่ ย ยบั ย้ังความรุนแรง
หมายรวมถงึ ชว่ ยลดอตั ราการติดเชอ้ื และการเสียชวี ติ ของประชาชน ปจั จบุ ันวคั ซีน
ท่ผี า่ นการรองรับจากองค์การอนามัยโลก (WHO) มีหลายยห่ี อ้ มีประสิทธิภาพ ในการทาหน้าท่ี
แตกตา่ งกนั (โรงพยาบาลวิชยั เวชอินเตอรเ์ นชัน่ แนล. 1 ตุลาคม 2564) ได้แก่
1. Pfizer ผลติ โดยประเทศสหรัฐอเมรกิ า มปี ระสทิ ธภิ าพ รอ้ ยละ 95
2. Moderna ผลติ โดยประเทศสหรัฐอเมรกิ า มปี ระสิทธิภาพ ร้อยละ 94.5
3. Johnson and Johnson ผลติ โดยประเทศสหรัฐอเมริกา มีประสทิ ธิภาพ ร้อยละ 66
4. AstraZeneca ผลิตโดยประเทศองั กฤษ มีประสทิ ธภิ าพ รอ้ ยละ 65
5. Covishield ผลติ โดยประเทศอินเดีย มปี ระสทิ ธภิ าพ รอ้ ยละ 72
6. Sinovac ผลิตโดยประเทศจีน มปี ระสิทธิภาพ >ร้อยละ 50
7. Sinopharm ผลติ โดยประเทศจีน มีประสทิ ธิภาพ รอ้ ยละ 79-86
คู่มือการจัดการเรยี นการสอนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคตดิ เชอ้ื ไวรสั โคโรนา 2019
โรงเรยี นพนาศึกษา สานักงานเขตพ้ืนทก่ี ารศึกษามธั ยมศกึ ษาอบุ ลราชธานี อานาจเจริญ
หน้า 4
สาหรับวคั ซีนที่รฐั บาลโดยกระทรวงสาธารณสขุ อนมุ ัติให้ฉีดกบั นักเรียนอายุระหว่าง 12-18 ปี น้นั
ไดแ้ ก่ Pfizer ซง่ึ องคก์ ารอนามยั โลก (WHO) ได้รบั รองการใชว้ คั ซีน Pfizer เมือ่ วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2563
และประเทศไทยโดยองคก์ ารอาหารและยา (อย.) ขึ้นทะเบียนเมอ่ื วันท่ี 24 มิถนุ ายน พ.ศ. 2564 กาหนดให้
สามารถฉีดวัคซีน Pfizer ใหก้ บั นกั เรียน นักศึกษา อายุระหวา่ ง 12-18 ปี ดงั น้ันรัฐบาลโดยกระทรวง
สาธารณสุข และกระทรวงศึกษาธกิ ารกาหนด Kick Off การฉีดวัคซีน Pfizer ให้กบั นักเรยี นนกั ศึกษา
อายุระหว่าง 12-18 ปี ในวนั ท่ี 4 ตุลาคม 2564 เพ่ือเตรยี มความพรอ้ มให้กับสถานศึกษามีความปลอดภัย
และนักเรยี นไดร้ ับวัคซีนอย่างครบถว้ น เพอ่ื รองรับการเปิดภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2564 ในรปู แบบ Onsite
วันท่ี 1 พฤศจิกายน 2564 ซง่ึ สอดคล้องกบั ราชวทิ ยาลัยกุมารแพทย์แหง่ ประเทศไทย (22 กนั ยายน 2564)
ไดต้ ดิ ตามข้อมลู ดา้ นประสิทธิภาพ และความปลอดภัยของวคั ซนี โควดิ 19 ในเด็กและวยั ร่นุ โดยคานึงถงึ
ความปลอดภัย และประโยชนท์ างด้านสุขภาพของเด็กเป็นสาคัญ และไดแ้ นะนาใหฉ้ ีดวัคซนี ทีไ่ ดร้ บั การรบั รอง
โดยสานักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ใหใ้ ชก้ บั เด็กและวัยรนุ่ ตั้งแตอ่ ายุ 12 ปีข้นึ ไป ซง่ึ ขณะนีม้ ชี นิด
เดยี วท่มี ใี นประเทศไทย คือ วัคซนี Pfizer
วัคซนี Pfizer เปน็ วัคซนี ชนดิ เอม็ อาร์เอน็ เอ (mRNA Vaccine) กระตนุ้ การสร้างภูมคิ ุ้มกันไดด้ ี
(Antigen) ให้รา่ งกายรจู้ ักกับเชื้อโรคโควดิ 19 หลังจากฉีดวัคซีนไฟเซอร์เขม็ ท่ี 2 แลว้ จะมีประสทิ ธภิ าพใน
การปอ้ งกันโรคโควิด 19 สูงถึง รอ้ ยละ 91.3 ในชว่ ง 7 วนั ถึง 6 เดอื นหลังฉดี ป้องกันความรุนแรงของโรคได้
รอ้ ยละ 100 ปอ้ งกันการติดเช้ือมีอาการที่ ร้อยละ 94 ป้องกันการตดิ โรค รอ้ ยละ 96.5 ป้องกนั การเสียชวี ิต
ร้อยละ 98-100 นอกจากนี้ ยังมปี ระสทิ ธภิ าพในการป้องกันโควดิ 19 สายพันธอ์ุ งั กฤษหรอื อัลฟ่า ได้ถงึ รอ้ ยละ
89.5 ปอ้ งกนั โควิด 19 สายพันธ์แุ อฟริกาใตห้ รือเบตา้ ไดถ้ ึง ร้อยละ 75
งานวิจัยของหนว่ ยงานสาธารณสขุ องั กฤษพบวา่ วคั ซนี Pfizer มปี ระสิทธิภาพ รอ้ ยละ 88
ในการปอ้ งกันการป่วยแบบมีอาการจากไวรัสเดลต้าหรืออินเดยี การรบั วคั ซีน Pfizer รับการฉดี ทั้งหมด 2 เข็ม
โดยเขม็ ท่ี 2 ห่างจากเข็มแรก 21-28 วัน ใชว้ ิธีการฉีดเขา้ กล้ามเนอื้ แขนดา้ นบน
ภูมคิ ุม้ กันจะเรมิ่ เกดิ หลังจากฉีดวคั ซีนไฟเซอร์ไปแล้ว 12 วนั แต่ภูมิคุม้ กันจะทางานเต็มที่หลงั จากฉดี ครบ 2
เขม็ หลังการฉดี วคั ซีนเข็ม 1 หรือเข็ม 2 ผู้รับการฉีดอาจมีผลข้างเคียงบ้างแต่ ไม่รนุ แรง
(โรงพยาบาลวชิ ยั เวชอนิ เตอรเ์ นชน่ั แนล.6 ตลุ าคม 2564)
5.2 วคั ซนี Sinopharm
วคั ซนี Sinopharm เปน็ วคั ซีนชนิดเชื้อตาย ผลิตโดยสถาบนั ชวี วตั ถุแหง่ ปกั ก่งิ (Beijing Institute of
Biological Products: BIBP) นาเข้าโดยบรษิ ทั ไบโอจีนีเทค จากดั ไดร้ ับการอนุมัติขนึ้ ทะเบยี นในประเทศไทย
เม่ือวนั ที่ 28 พฤษภาคม 2564 มีขอ้ บง่ ใชส้ าหรบั ฉีดเพ่ือกระตนุ้ ใหร้ ่างกายสร้างภูมิค้มุ กนั ในผูท้ ีม่ ีอายุ
ตง้ั แต่ 18 ปีข้นึ ไป ฉดี คร้ังละ 1 โดส จานวน 2 ครัง้ หา่ งกัน 21-28 วัน ในประเทศไทย วคั ซีน Sinopharm
เปน็ วคั ซนี ทางเลือกที่กระจายให้กบั องคก์ ร นติ ิบุคคล รวมถึงบุคคลธรรมดาผา่ นราชวทิ ยาลัยจุฬาภรณ์
ตั้งแตว่ นั ท่ี 20 มิถุนายน จนถึงปจั จบุ นั เปน็ จานวนท้ังส้ิน 15 ล้านโดส
โดยทีผ่ า่ นมาเปน็ การฉีดใหก้ บั ผ้ทู มี่ ีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป
คมู่ อื การจดั การเรยี นการสอนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรสั โคโรนา 2019
โรงเรียนพนาศกึ ษา สานักงานเขตพน้ื ท่กี ารศึกษามัธยมศึกษาอุบลราชธานี อานาจเจรญิ
หนา้ 5
วัคซีนSinopharmอยู่ในระหว่างการพจิ ารณาข้อมูลเร่ืองการกระตุ้นภมู ิคุ้มกันประสทิ ธิภาพและความ
ปลอดภัยในเดก็ และขณะนี้สานักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ยงั ไม่ได้รบั รองให้ใช้ในเด็กและวยั รุ่น
(ราชวทิ ยาลัยกมุ ารแพทยแ์ ห่งประเทศไทย.22 กันยายน 2564) ซง่ึ สอดคลอ้ งกับราชวทิ ยาลยั จุฬาภรณ(์ ชนาธปิ
ไชยเหล็ก.21 กันยายน 2564) กล่าวว่าการฉีดวัคซีน Sinopharm ในกลมุ่ อายตุ า่ กว่า 18 ปี
จะตอ้ งได้รบั การอนุมัติขึน้ ทะเบยี นจากสานกั งานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.)ก่อนถึงแม้จะเปน็ ชนดิ
เชอื้ ตายแต่ก็จาเปน็ ตอ้ งมขี ้อมูลการวจิ ัยในระยะที่ 3 ซ่งึ เป็นระยะที่มกี ารศึกษาทั้งความปลอดภัย
และประสิทธผิ ลของวัคซนี รองรับ และในเม่ือ อย. ยังไม่อนุมัตกิ ารฉดี วัคซีน Sinopharm ใหก้ ับนกั เรียนอายุ
11-18 ปี เป็นเพียง โครงการวจิ ยั ของราชวทิ ยาลัยจฬุ าภรณเ์ ท่านัน้ โดยวันที่ 20 กันยายน 2564 ศาสตราจารย์
นายแพทยน์ ิธิ มหานนท์ เลขาธกิ ารราชวทิ ยาลัยจุฬาภรณ์ฯ ได้เปิดโครงการ ‘VACC 2 School’ ณ
ศูนย์ฉดี วคั ซนี ตัวเลือกซิโนฟาร์ม บมจ.โทรคมนาคมแหง่ ชาติ ถ.แจง้ วัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ
ฉีดวัคซีนใหก้ บั นักเรียนกว่า 2,000 คน และจะดาเนนิ การฉีดจนถึงกลางเดือนตุลาคมโดยมสี ถานศึกษา
ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล สมัครเขา้ ร่วม โครงการรวม 132 โรง คิดเปน็ จานวนนกั เรยี นท้ังหมด 108,000 คน
6. โรงเรยี น Sandbox : Safety Zone in School
กระทรวงศึกษาธิการ ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขโดยกรมอนามัย (นายแพทย์สุวรรณชัย
วัฒนายงิ่ เจรญิ ชยั อธบิ ดกี รมอนามัย) มกี ารนาร่องเปิดการเรียนการสอนแบบ Onsite ตามมาตรการ Sandbox
Safety Zone in School ในโรงเรยี นประเภทพักนอน มีการดาเนินการระหวา่ งวันที่ 1 เมษายน-11 กันยายน
2564 ซึ่งมีการแบ่งโซนคัดกรอง โซนกักกันผู้สัมผัสเสี่ยง และโซนปลอดภัยสีเขียว ร่วมกับมาตรการต่าง ๆ
มีการติดตามและประเมินผลพบว่า ได้ผลดีแม้พบผู้ติดเช้ือก็เป็นการสัมผัสกับผู้ติดเชื้อภายนอกและตรวจจับ
ได้นับได้ว่าเป็นระยะท่ี 1 ที่ประสบผลสาเร็จ จึงเตรยี มขยายผลในโรงเรียนแบบไป-กลับ และโรงเรียนพักนอน-
ไปกลับ ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 เป็นระยะท่ี 2 โดยมาตรการจะเข้มข้นกว่าระยะท่ี 1 เน้น 6
มาตรการหลัก 6 มาตรการเสริม และ 7 มาตรการเข้มสถานศึกษา (ไทยรัฐออนไลน์.15 กันยายน 2564)
ดังน้ันภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2564 สถานศึกษาของรัฐและสถานศึกษาของเอกชนทุกแห่งทั้งแบบพักนอน
แบบไป-กลับ แบบพักนอน-ไปกลับ และลักษณะอ่ืน ๆ จะเปิดให้มีการเรียนการสอนตามปกติแบบ Onsite
ได้จะต้องดาเนินการมาตรการที่ เข้มข้น โดยเน้ น 6 มาตรการหลัก 6 มาตรการเสริม และ 7
มาตรการเข้มสถานศึกษาอยา่ งเคร่งครดั
จากสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคติดเช้อื ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19)
สง่ ผลกระทบอย่างมากต่อทุกภาคสว่ น กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงศกึ ษาธิการ ร่วมกนั จดั หาแนวทาง
เตรียมความพรอ้ มการเปดิ ภาคเรยี น ปกี ารศึกษา 2565 โรงเรยี นพนาศึกษา ได้ตระหนักถึงสุขภาพ
อนามัยและความปลอดภยั ของนักเรยี น ครู และบุคลากรที่เก่ียวข้องในโรงเรยี น จึงได้กาหนดรปู แบบ แนวทาง
และมาตรการปอ้ งกัน และเตรียมความพร้อมของสถานศึกษา
คู่มือการจดั การเรยี นการสอนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคตดิ เชอ้ื ไวรสั โคโรนา 2019
โรงเรยี นพนาศึกษา สานกั งานเขตพ้ืนที่การศกึ ษามัธยมศึกษาอุบลราชธานี อานาจเจริญ
หน้า 6
เพ่อื ใหพ้ ร้อมสาหรับการเปิดภาคเรียนและเปน็ คู่มือในการปฏบิ ตั สิ าหรบั สถานศึกษาในการปอ้ งกนั การ
แพรร่ ะบาดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนา 2019 โดยเน้นความสอดคล้องกับบริบทของสถานศกึ ษา
และเอื้ออานวยให้เกิดการปฏิบัติงานได้อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ เพ่ือใหน้ ักเรียน ครูและบุคลากรท่เี กี่ยวข้อง
ในสถานศึกษา สามารถดารงชวี ติ อยไู่ ดอ้ ย่างปลอดภัย โดยนกั เรยี น ครู และบุคลากรที่เก่ียวข้อง
โรงเรียนพนาศกึ ษา ไดร้ บั วคั ซีนเพ่ือเปน็ การเตรียมความพร้อมก่อนการเปิดภาคเรียน
คมู่ อื การจดั การเรยี นการสอนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคตดิ เชื้อไวรสั โคโรนา 2019
โรงเรยี นพนาศึกษา สานกั งานเขตพนื้ ท่ีการศกึ ษามธั ยมศึกษาอุบลราชธานี อานาจเจริญ
ส่วนที่ 2
แนวปฏิบตั กิ ารเตรยี มการ
ก่อนเปิดภาคเรยี น
ค่มู อื การจดั การเรยี นการสอนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคตดิ เชื้อไวรัสโคโรนา 2019
โรงเรียนพนาศกึ ษา สานักงานเขตพืน้ ท่กี ารศึกษามธั ยมศึกษาอบุ ลราชธานี อานาจเจริญ
หนา้ 8
สว่ นท่ี 2
แนวปฏิบัตกิ ารเตรยี มการกอ่ นเปิดภาคเรยี น
การเตรียมความพร้อมกอ่ นการเปดิ เรียนหลงั จากปดิ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคตดิ เชอื้ ไวรั
สโคโรนา 2019 มคี วามสาคัญอย่างมากเน่ืองจากมีความเก่ยี วขอ้ งกับการปฏิบัติตนของนกั เรยี น ครู บุคลากร
และผู้เกยี่ วข้องทุกคนในสถานศกึ ษา เพื่อปอ้ งกนั ไม่ใหม้ ีการติดเชื้อโรคโควดิ 19 (Covid-19) ตัดความเสย่ี ง
สรา้ งภมู คิ มุ้ กันและสรา้ งความปลอดภยั แก่ทุกคน สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พื้นฐานกาหนดให้
มีแนวปฏิบัติการเตรียมการก่อนเปิดภาคเรยี นให้กบั สานักงานเขตพนื้ ทก่ี ารศกึ ษาและสถานศกึ ษาในสงั กัดใช้
เป็นแนวทางในการปฏิบัติ สถานศกึ ษาจงึ ควรมีการประเมินความพร้อมการเปิดภาคเรียนของสถานศึกษา ดงั นี้
1. การประเมินความพรอ้ มก่อนเปดิ เรียน
กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมอนามยั ได้สรา้ งเครื่องมอื สาหรบั สถานศกึ ษาประเมนิ ตนเองในระบบ
Thai Stop Covid Plus ตวั ยอ่ TSC+ เพื่อให้สถานศึกษาเตรียมความพร้อมก่อนเปิดเรียน ภาคเรยี นที่ 1
ปกี ารศึกษา 2565 ลงิ กร์ ะบบ https://stopcovid.anamai.moph.go.th/th/school
แบบประเมนิ ตนเองดังกล่าว ประกอบดว้ ย 6 มิติ 44 ข้อ สถานศกึ ษาจะตอ้ งผ่านการประเมนิ ทั้ง 44 ข้อ
ตามขนั้ ตอนการประเมนิ ตนเอง ดังภาพ
คู่มอื การจัดการเรยี นการสอนในสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เชือ้ ไวรัสโคโรนา 2019
โรงเรียนพนาศึกษา สานักงานเขตพืน้ ที่การศึกษามัธยมศกึ ษาอบุ ลราชธานี อานาจเจริญ
หน้า 9
2. กรอบการประเมิน Thai Stop Covid Plus
มติ ิที่ 1 ความปลอดภัยจากการลดการแพรเ่ ช้อื โรค
1. มมี าตรการคัดกรองวดั ไข้ ให้กบั นกั เรียน ครู และผูเ้ ขา้ มาติดต่อทุกคน ก่อนเข้าสถานศึกษา หรือไม่
2. มีมาตรการสังเกตอาการเสี่ยงโควดิ 19 เชน่ ไอ มนี ้ามูก เจ็บคอ เหน่ือยหอบ หายใจลาบาก จมูก
ไม่ไดก้ ลน่ิ ลิน้ ไมร่ ู้รส พร้อมบันทึกผล สาหรับนักเรยี น ครู และผ้เู ขา้ มาตดิ ต่อทกุ คน ก่อนเข้าสถานศึกษา หรือไม่
3. มนี โยบายกาหนดให้นักเรียน ครู และผ้เู ขา้ มาในสถานศึกษาทุกคน ต้องสวมหน้ากากผ้าหรือ
หนา้ กากอนามยั หรือไม่
4. มีการจดั เตรียมหน้ากากผา้ หรอื หน้ากากอนามัย สารองไวใ้ ห้กบั นกั เรียน ร้องขอ หรือผทู้ ่ไี ม่มี
หนา้ กากเข้ามาในสถานศึกษา หรอื ไม่
5. มีจุดลา้ งมอื ดว้ ยสบู่ อยา่ งเพียงพอ หรือไม่
6. มกี ารจัดวางเจลแอลกอฮอลส์ าหรับใช้ทาความสะอาดมอื บริเวณทางเข้าอาคารเรียน หน้าประตู
หอ้ งเรยี น ทางเข้าโรงอาหาร อย่างเพยี งพอ หรอื ไม่
7. มกี ารจัดโตะ๊ เรียน เก้าอีน้ ่งั เรียน ท่ีนั่งในโรงอาหาร ที่นง่ั พกั โดยจดั เวน้ ระยะห่างระหวา่ งกนั อย่าง
นอ้ ย 1-2 เมตร (ยึดหลัก Social Distancing) หรือไม่
8. มีการทาสัญลกั ษณแ์ สดงจุดตาแหน่งชัดเจนในการจดั เวน้ ระยะห่างระหวา่ งกนั หรือไม่
9.กรณหี ้องเรียนไมส่ ามารถจัดเวน้ ระยะหา่ งตามที่กาหนดได้ มีการสลับวนั เรยี นของแตล่ ะช้ันเรยี นหรือ
การแบ่งจานวนนกั เรยี น หรือไม่
10. มีการทาความสะอาดห้องเรยี น ห้องตา่ ง ๆ และอปุ กรณท์ ่ีใช้ในการเรียนการสอน ก่อนและหลังใช้
งานทกุ ครัง้ เช่น ห้องคอมพวิ เตอรห์ อ้ งดนตรี อุปกรณก์ ีฬา หรือไม่
11. มีการทาความสะอาดบรเิ วณจุดสมั ผสั เสย่ี งร่วม ทกุ วนั เชน่ โต๊ะ เก้าอี้ ราวบันได ลฟิ ต์ กลอนประตู
มอื จับประตู - หน้าต่าง หรือไม่
12. มีถงั ขยะแบบมีฝาปดิ ในห้องเรียน หรอื ไม่
13. มีการปรับปรุงซอ่ มแซมประตู หนา้ ต่าง และพดั ลมของห้องเรียน ใหม้ ีสภาพการใช้งานได้ดี สาหรบั
ใชป้ ิด-เปดิ ให้อากาศถา่ ยเทสะดวก หรือไม่
14. มกี ารแบง่ กลุ่มย่อยนักเรยี นในห้องเรยี นในการทากิจกรรม หรอื ไม่
15. มีการปรับลดเวลาในการทากจิ กรรมประชาสัมพนั ธ์ ภายหลงั การเข้าแถวเคารพธงชาติ หรือไม่
16. มีการจดั เหล่ือมเวลาทากิจกรรมนักเรียน เหล่ือมเวลากินอาหารกลางวนั หรือไม่
17. มมี าตรการให้เวน้ ระยะห่างการเข้าแถวทากิจกรรม หรือไม่
18. มีการกาหนดให้ใชข้ องใช้สว่ นตัว ไม่ใชส้ งิ่ ของรว่ มกับผู้อืน่ เชน่ แก้วน้า ชอ้ น ส้อม แปรงสีฟัน
ยาสฟี นั ผา้ เช็ดหนา้ หรือไม่
19. มหี อ้ งพยาบาลหรือพ้ืนท่ีสาหรับแยกผูม้ อี าการเสย่ี งทางระบบทางเดินหายใจ หรอื ไม่
20. มนี กั เรียนแกนนาด้านสุขภาพ จิตอาสา เป็นอาสาสมัคร ในการช่วยดแู ลสุขภาพเพ่ือนนักเรยี น
ดว้ ยกันหรือดแู ลรนุ่ น้อง หรอื ไม่
คู่มือการจดั การเรยี นการสอนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคตดิ เชือ้ ไวรสั โคโรนา 2019
โรงเรียนพนาศึกษา สานกั งานเขตพน้ื ทีก่ ารศกึ ษามัธยมศกึ ษาอบุ ลราชธานี อานาจเจรญิ
หนา้ 10
มติ ทิ ี่ 2 การเรยี นรู้
21. มีการติดปา้ ยประชาสัมพันธแ์ นะนาการปฏบิ ัตเิ พ่อื สุขอนามัยท่ีดี เชน่ วธิ ลี ้างมือทถ่ี ูกตอ้ ง การสวม
หนา้ กากอนามยั การเว้นระยะหา่ งระหว่างบุคคล เป็นตน้ หรอื อืน่ ๆ ท่เี กย่ี วกบั โรคโควิด 19 หรือไม่
22. มกี ารเตรยี มความพรอ้ มการจัดการเรียนการสอนโดยคานงึ ถงึ การเรยี นรตู้ ามวยั และสอดคล้องกับ
พัฒนาการดา้ นสังคม อารมณ์ และสติปญั ญา หรอื ไม่
23. มีมาตรการกาหนดระยะเวลาในการใช้สื่อออนไลนใ์ นสถานศกึ ษาในเด็กเลก็ (ประถมศึกษา) ไม่เกนิ
1 ชั่วโมงตอ่ วนั และ ในเด็กโต (มัธยมศึกษา) ไม่เกิน 2 ชัว่ โมงตอ่ วนั หรือไม่
24. มกี ารใช้ส่อื รอบรดู้ า้ นสขุ ภาพผ่านชอ่ งทาง Social media เชน่ Website, Facebook, Line, QR
Code, E-mail หรือไม่
มติ ทิ ี่ 3 การครอบคลุมถงึ เด็กดอ้ ยโอกาส
25. มีการเตรยี มหน้ากากผ้า สารองสาหรบั เด็กเล็ก หรือไม่
26. มกี ารปรับรปู แบบการเรยี นการสอนใหส้ อดคล้องกับบรบิ ทการเข้าถงึ การเรียนรใู้ นสถานการณ์
การระบาดของโรคโควดิ 19 หรือไม่
27. มีมาตรการสง่ เสริมใหน้ ักเรยี นไดร้ บั บริการสุขภาพขน้ั พื้นฐานอย่างทวั่ ถึง หรือไม่
28. มมี าตรการการทาความสะอาดและจัดสภาพแวดล้อมของที่พักและเรือนนอนให้ถกู สุขลักษณะ
พรอ้ มมตี ารางเวรทุกวนั หรอื ไม่ (กรณีมที ่ีพักและเรอื นนอน)
29. มีมาตรการการทาความสะอาดและจดั สภาพแวดลอ้ มใหส้ อดคล้องกบั ข้อบัญญตั กิ ารปฏบิ ตั ิ
ดา้ นศาสนกจิ พร้อมมีตารางเวรทุกวนั หรือไม่ (กรณีมีสถานท่ปี ฏบิ ตั ิศาสนากจิ )
30. มีมาตรการดูแลนักเรียนท่มี ีความบกพร่องด้านพัฒนาการ การเรยี นรู้ หรือดา้ นพฤตกิ รรมอารมณ์
รวมถงึ ภาวะสมาธิสั้น และเด็กออทสิ ติก ทส่ี ามารถเรียนรว่ มกับเด็กปกติ หรอื ไม่
มิตทิ ่ี 4 สวัสดิภาพและการคุ้มครอง
31. มีการจัดเตรียมแผนรองรับการจดั การเรยี นการสอนสาหรบั นักเรยี นปว่ ย กกั ตวั หรือกรณีปิด
โรงเรียน หรือไม่
32. มกี ารจัดเตรียมแนวปฏิบัตกิ ารส่ือสารเพ่ือลดการรงั เกยี จและการตีตราทางสังคม (Social Stigma)
หรือไม่
33. มกี ารจดั เตรยี มแนวปฏิบตั ิดา้ นการจัดการความเครยี ดของครูและบุคลากรของสถานศึกษา หรือไม่
34. มีการตรวจสอบประวัตเิ ส่ียงของนักเรียนและบคุ ลากร รวมทัง้ ตรวจสอบเรอ่ื งการกักตวั ใหค้ รบ 14
วนั กอ่ นมาทาการเรยี นการสอนตามปกติ และทุกวนั เปดิ เรียน หรือไม่
35. มีการกาหนดแนวทางปฏิบัตติ ามระเบียบสาหรบั นกั เรียน ครู และบคุ ลากรที่สงสัยติดเชอื้ หรอื ป่วย
ด้วยโรคโควดิ 19 โดยไมถ่ ือเป็นวนั ลาหรอื วนั หยดุ เรยี น หรอื ไม่
มิติท่ี 5 นโยบาย
36. มีการสือ่ สารประชาสัมพันธ์ความรกู้ ารป้องกนั โรคโควิด 19 แก่นักเรยี น ครู บุคลากร และ
ผปู้ กครอง โดยการประชมุ ชแี้ จงหรอื ผ่านชอ่ งทางตา่ ง ๆ อยา่ งนอ้ ย 1 ครั้ง กอ่ นหรือวันแรกของการเปดิ เรียน
หรอื ไม่
คู่มือการจัดการเรยี นการสอนในสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เชื้อไวรัสโคโรนา 2019
โรงเรียนพนาศกึ ษา สานักงานเขตพืน้ ท่ีการศกึ ษามธั ยมศกึ ษาอบุ ลราชธานี อานาจเจรญิ
หน้า 11
37. มีนโยบายและแนวทางการปอ้ งกันการแพรร่ ะบาดโรคโควิด 19 ของสถานศึกษาอย่างเป็น
ลายลักษณห์ รือมีหลกั ฐานชดั เจน หรอื ไม่
38. มีการประชมุ คณะกรรมการสถานศกึ ษา หรอื ไม่
39. มกี ารแตง่ ต้งั คณะทางานปอ้ งกันการแพร่ระบาดโรคโควดิ 19 และกาหนดบทบาทหน้าท่อี ย่าง
ชดั เจน หรือไม่
40. มมี าตรการบรหิ ารจัดการความสะอาดบนรถรบั -ส่งนกั เรียน เวน้ ระยะห่างระหวา่ งบุคคล จัดที่น่ัง
บนรถหรือมสี ญั ลักษณจ์ ดุ ตาแหน่งชัดเจน หรือไม่ (กรณีรถรับ - สง่ นักเรียน)
มติ ทิ ่ี 6 การบริหารการเงิน
41. มแี ผนการใช้งบประมาณในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ตามความจาเปน็ และ
เหมาะสม หรือไม่
42. มกี ารจดั หาซอื้ วสั ดุอปุ กรณ์ปอ้ งกันโรคโควดิ 19 สาหรับนักเรียนและบุคลากรในสถานศึกษา เชน่
หนา้ กากผ้า หรอื หนา้ กากอนามยั เจลแอลกอฮอล์ สบู่ หรือไม่
43. มีการประสานแสวงหาแหลง่ ทุนสนับสนนุ จากหน่วยงาน องค์กร หรอื เอกชน เช่น ทอ้ งถิน่ บรษิ ทั
ห้างร้าน NGO เปน็ ตน้ หรอื มกี ารบรหิ ารจดั การดา้ นการเงินเพอ่ื ดาเนนิ กิจกรรมการป้องกนั การแพร่ระบาดของ
โรคโควดิ 19 หรือไม่
44. มีการจดั หาบุคลากรในการดูแลนักเรยี นและการจดั การส่งิ แวดล้อมในสถานศึกษา หรือไม่
คู่มอื การจดั การเรยี นการสอนในสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019
โรงเรยี นพนาศึกษา สานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษามธั ยมศึกษาอบุ ลราชธานี อานาจเจรญิ
หน้า 12
โรงเรยี นพนาศึกษาดาเนนิ การประเมนิ ตนเองโดยการมสี ่วนร่วมของคณะกรรมการสถานศึกษา
ขั้นพื้นฐานตามแบบประเมนิ สาหรับสถานศึกษาในการเตรยี มความพร้อมกอ่ นเปดิ ภาคเรียนเพือ่ เฝ้าระวงั และ
ปอ้ งกนั การแพร่ระบาดของโรคตดิ เช้อื ไวรัสโคโรนา 2019 มีผลการประเมินอยู่ในระดบั “สีเขียว”
3. แนวทางการเตรียมความพร้อม
โรงเรียนพนาศึกษา เนน้ ความรว่ มมอื 6 แนวทาง ในการเตรียมความพร้อมก่อนการเปิดเรียน ดงั นี้
3.1 มีมาตรการคดั กรอง
ครู นักเรียน บุคลากรทเี่ กี่ยวข้องและผู้มาติดต่อราชการทุกคนไดร้ บั การคดั กรอง การวัดไข้
สวมใสห่ น้ากากผา้ /หนา้ กากอนามัยก่อนเข้าโรงเรียน ผ้ปู กครองรว่ มใหป้ ระวตั ิกรณนี ักเรียนมคี วามเสย่ี ง
หากนักเรยี นมีอาการไข้ไม่สบายต้องหยุดเรยี นทนั ทีและแจ้งหน่วยงานสาธารณสขุ ในพ้นื ที่
คูม่ ือการจดั การเรยี นการสอนในสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคติดเช้ือไวรสั โคโรนา 2019
โรงเรียนพนาศกึ ษา สานกั งานเขตพืน้ ที่การศกึ ษามธั ยมศึกษาอบุ ลราชธานี อานาจเจริญ
หนา้ 13
วธิ ีการตรวจคดั กรอง
โรงเรียนพนาศึกษาดาเนินการวางแผนการตรวจคัดกรองสุขภาพเบือ้ งต้นในชว่ งสถานการณก์ ารแพร่
ระบาดของโรคตดิ เช้ือไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19) ตามขนั้ ตอนหลัก ไดแ้ ก่ การตรวจวดั อุณหภมู ริ ่างกาย
หรอื วัดไข้ การซักประวัติ การสมั ผัสในพื้นท่ีเสียง การสงั เกตอาการเสีย่ งตอ่ การติดเช้อื
โดยมวี ธิ ปี ฏิบตั ิทสี่ าคญั พอสังเขป ดังนี้
1) จดั ตั้งจดุ คดั กรองบรเิ วณทางเข้าของสถานศกึ ษา โรงเรียนพนาศึกษาได้กาหนดจุดคัดกรอง ครู
บคุ ลากรท่เี กย่ี วขอ้ ง นกั เรียนและผู้มาตดิ ต่อราชการ โดยยึดหลกั Social distancing
2) ตรวจวัดอุณหภูมริ า่ งกายหรือวัดไข้ โดยใช้เคร่ืองวัดอุณหภมู ทิ างหนา้ ผาก คนท่ัวไปจะมอี ุณหภูมิ
รา่ งกายอยูร่ ะหวา่ ง 36.1-37.2 องศาเซลเซียส สาหรับผู้ท่ีเรม่ิ มีไข้หรอื สงสยั วา่ ติดเช้ือจะมอี ุณหภูมิท่ีมากกวา่
37.5 องศาเซลเซียส
(1) ครูบคุ ลากรทเ่ี กย่ี วข้องโรงเรยี นพนาศกึ ษามีการตรวจวดั อณุ หภมู ิรา่ งกายบรเิ วณลงชอ่ื ปฏิบัติ
ราชการ โดยเนน้ รกั ษาระยะห่างระหวา่ งคน 1-1.5 เมตร
(2) นักเรียนในช่วงเชา้ จะมีคุณครูเวรประจาวนั ทาหนา้ ที่ตอ้ นรบั นักเรียนและทาหน้าท่ตี รวจวดั
อุณหภูมริ ่างกาย โดยเนน้ รักษาระยะหา่ งระหวา่ งคน 1-1.5 เมตร
(3) ผู้มาติดต่อราชการ จะมเี จา้ หน้าท่ีทาหน้าที่ตรวจวดั อุณหภูมิรา่ งกายบรเิ วณป้อมยามทางเข้า
โรงเรียน โดยเนน้ รกั ษาระยะห่างระหวา่ งคน 1-1.5 เมตร ลงเบียนการเช็คอนิ “ไทยชนะ” หรอื ลงชือ่ เขา้ ใช้
บรกิ าร
***หากตรวจวดั อณุ หภมู ริ ่างกายครง้ั แรก ครู บคุ ลากร ทเ่ี กี่ยวขอ้ งนกั เรยี นหรือผู้มาตดิ ต่อราชการ
มีอุณหภมู ริ ่างกายมากกว่า 37.5 องศาเซลเซียส ให้พักคอยหรอื ควรอยใู่ นบริเวณจดุ ตรวจวดั อยา่ งนอ้ ย 5 นาที
กอ่ นการวัดอีกครั้ง
- กรณีวัดอุณหภูมริ า่ งกายได้ไมเ่ กนิ 37.5 องศาเซลเซียส และไม่มีอาการทางเดินหายใจ อาทิ ไอ
มนี า้ มกู เจบ็ คอ หายใจลาบาก เหน่อื ยหอบ ไมไ่ ด้กล่นิ ไม่ร้รู ส ไมม่ ปี ระวัติสมั ผสั ใกลช้ ดิ กบั ผู้ป่วยยนื ยันในชว่ ง
14 วัน ก่อนมีอาการ ถอื วา่ ผา่ นการคัดกรอง
- กรณีวดั อณุ หภูมิรา่ งกายอุณหภูมติ ั้งแต่ 37.5 องศาเซลเซยี สขน้ึ ไป
หรือมีไข้รว่ มกบั อาการทางเดินหายใจอยา่ งใดอยา่ งหนึ่ง อาทิ ไอ มีน้ามกู เจบ็ คอ หายใจลาบาก เหน่อื ยหอบ
ไม่ไดก้ ลนิ่ ไมร่ ้รู ส ให้ปฏิบตั ิ ดงั นี้ >แยกนักเรียนไปไวท้ ่ีห้องแยก ทีง่ านอนามัยโรงเรียนได้จดั เตรยี มไว้
>บนั ทึกรายชอื่ และอาการป่วย >ซักประวัติและสงั เกตอาการเสียง >แจ้งผู้ปกครอง
3) สอบถามและซักประวตั กิ ารสัมผัสในพ้ืนท่เี สย่ี งและบันทึกผลลงในแบบบันทึกการตรวจคดั กรอง
สุขภาพสาหรบั นกั เรยี น ครู บุคลากรท่เี กี่ยวขอ้ งหรือผมู้ าติดต่อราชการในสถานศึกษา
3.1) หากไม่มปี ระวตั ิเส่ียง ใหพ้ านกั เรียนไปพบแพทย์ และใหห้ ยดุ พักจนกวา่ จะหายเปน็ ปกติ
3.2) หากตรวจพบว่า มีประวัติเสย่ี งและ/หรือมีประวตั ิสมั ผัสใกลช้ ิดกับผูป้ ว่ ยยนื ยนั หรือสงสัย
มปี ระวัตเิ ดนิ ทางไปในพ้ืนท่ีเสย่ี งหรือพ้นื ท่เี กิดโรคไปในพืน้ ที่ท่ีมีคนแออัดจานวนมากในช่วง 14 วันก่อนมีอาการ
คมู่ อื การจดั การเรยี นการสอนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชือ้ ไวรัสโคโรนา 2019
โรงเรยี นพนาศึกษา สานกั งานเขตพน้ื ที่การศกึ ษามัธยมศกึ ษาอุบลราชธานี อานาจเจริญ
หน้า 14
ถอื วา่ เปน็ ผูส้ มั ผัสทีม่ ีความเสี่ยงหรือเป็นกลุ่มเสยี่ ง โดยจาแนกเปน็ กลุ่มเสี่ยง มีประวตั เิ ส่ียงสงู
และกล่มุ เสย่ี งมีประวัติเสยี งต่า ให้ปฏิบัติ ดงั นี้
กลุ่มเส่ียงมีประวัตเิ ส่ียงสูง
- แยกนกั เรยี นไปไว้ทีห่ ้องแยก ทง่ี านอนามยั โรงเรยี นจดั เตรียมไว้
- บนั ทกึ รายชอ่ื และอาการปว่ ย แจง้ ผปู้ กครองให้มารบั นักเรียน แล้วพาไปพบแพทย์
- แจง้ เจา้ หน้าทสี่ าธารณสขุ ประเมินสถานการณก์ ารสอบสวนโรค
- ทาความสะอาดจดุ เสี่ยงและบรเิ วณโดยรอบ
- เก็บตวั อยา่ ง
- กักตัวอยบู่ ้าน
- ติดตามอาการใหค้ รบ 14 วัน
- ครรู วบรวมขอ้ มลู และรายงานผลให้ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้เกี่ยวข้องทราบ
กลมุ่ เสย่ี งมีประวตั เิ ส่ียงตา่
- แยกนักเรียนไปไวท้ ่ีห้องแยก ที่งานอนามยั โรงเรยี นจัดเตรียมไว้
- บันทึกรายชือ่ และอาการปว่ ย
- แจ้งผปู้ กครอง ให้มารบั นักเรยี น แลว้ พาไปพบแพทย์
- แจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน
- แจง้ ท้องถน่ิ ทาความสะอาดจดุ เส่ยี งและบริเวณโดยรอบ
- ตดิ ตามอาการใหค้ รบ 14 วนั
- ครูรวบรวมขอ้ มลู และรายงานผลให้ผบู้ ริหารสถานศึกษา ผูเ้ กย่ี วขอ้ งทราบ
โรงเรียนมีการกาหนดแนวทางปฏิบัตติ ามระเบียบสาหรบั ครูบคุ ลากรที่เก่ยี วขอ้ งและนักเรียนทส่ี งสัยตดิ
เชื้อหรือป่วยด้วยโรคตดิ เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยไม่ถือเป็นวนั ลาหรือวนั หยุดเรยี นโดย
นาหลักฐานใบรับรองแพทย์มายนื ยนั เพอื่ กลับเขา้ เรยี นตามปกติโดยไม่ถอื ว่าขาดเรยี นหรือขาดงานและ
มกี ารกักตัวผู้ใกลช้ ดิ กับผ้ปู ว่ ยตามเกณฑ์ควบคุมโรคและดาเนินการชว่ ยเหลอื เช่นเดยี วกบั ผปู้ ่วย
3.2 ตรวจสอบการสวมหนา้ กาก (Check mask)
ครนู กั เรียนบคุ ลากรท่เี กย่ี วข้องและผมู้ าติดตอ่ ราชการทุกคนตอ้ งสวมใส่หนา้ กากผ้าหรอื หน้ากาก
อนามัยตลอดเวลาท่อี ยู่ในโรงเรยี นและขณะปฏบิ ตั ิการสอนกรณลี มื หรือไม่ได้นาหนา้ กากผ้าหรอื หน้ากาก
อนามัยมา สามารถขอจากทางโรงเรียนได้ซงึ่ โรงเรยี นจดั มีการจดั เตรียมหน้ากากผา้ และหน้ากากอนามัยไว้
สารองให้
คู่มือการจดั การเรยี นการสอนในสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เชือ้ ไวรัสโคโรนา 2019
โรงเรยี นพนาศึกษา สานกั งานเขตพ้นื ที่การศกึ ษามธั ยมศกึ ษาอุบลราชธานี อานาจเจรญิ
หนา้ 15
3.3 จัดใหม้ ีจุดล้างมือด้วยสบู่เหลวล้างมอื แอลกอฮอล์เจลอยา่ งเพียงพอ
โรงเรียนไดจ้ ดั ให้มีอา่ งล้างมือสาหรับผู้รับการตรวจคัดกรองล้างมือด้วยสบู่และน้าหรอื ใช้
เจลแอลกอฮอล์ทาความสะอาดมอื เพอ่ื อานวยความสะดวกและสขุ อนามัยทีด่ ี คอื การลา้ งมือบ่อย ๆ
ดว้ ยสบู่และน้าหรอื เจลแอลกอฮอลท์ าความสะอาดมือ แต่ละจดุ จะมีป้ายแสดงการล้างมือที่ถูกวิธี
อยา่ งน้อย 20 วินาที หรือใช้เวลาเทา่ กับรอ้ งเพลงชา้ งหรือเพลงแฮปป้ีเบริ ์ธเดย์ 2 รอบ
3.4 การเว้นระยะห่างในหอ้ งเรียน
เนน้ การรักษาระยะหา่ งระหว่างบคุ คลอยา่ งน้อย 1-2 เมตร รวมถงึ การจัดเว้นระยะห่างของสถานท่ี
โดยเว้นระยะห่างในการนงั่ เรียน การทากิจกรรมหนา้ เสาธง การใช้บริการโรงอาหาร
3.5 เน้นการทาความสะอาดพ้ืนผิวสัมผสั ตา่ ง ๆ ทใี่ ช้ร่วมกัน
จดั ใหม้ ีการดแู ลอาคารสถานทแี่ ละยานพาหนะ ดงั นี้
- ทาความสะอาดห้องและบริเวณทีม่ กี ารใช้บรกิ ารร่วมกันทุกวนั ด้วยน้าผสมผงซักฟอกหรือนา้ ยา
ทาความสะอาดท่ัวไป ได้แก่ ห้องเรยี น สานักงาน โรงอาหาร ห้องประชุม ห้องสมุด หอ้ งคอมพิวเตอร์
หอ้ งปฏบิ ตั ิการ หอ้ งเกบ็ อปุ กรณก์ ีฬา ราวบนั ได ลกู บิดประตู โตะ๊ เก้าอ้ี พนักพิง อุปกรณ์ดนตรี กีฬา
คอมพิวเตอร์
- เปดิ ประตู หน้าต่าง เพ่ือระบายอากาศห้องที่มีการใช้งานร่วมกัน เชน่ หอ้ งเรยี น สานักงาน
โรงอาหาร ห้องประชุม หอ้ งสมดุ หอ้ งคอมพิวเตอร์ หอ้ งปฏบิ ตั กิ าร หากมเี คร่ืองปรบั อากาศให้ทาความสะอาด
อยา่ งสมา่ เสมอ
- หอ้ งสุขา ทาความสะอาดบริเวณทม่ี ีการสัมผสั บ่อย ๆ ทาความสะอาดอยา่ งน้อยวันละ 2 ครง้ั
ดว้ ยนา้ ยาทาความสะอาด ไดแ้ ก่ พนื้ ห้องสว้ ม โถสว้ ม ท่ีกดชักโครก หรือโถปัสสาวะ สายฉีดชาระ
กลอนหรือลูกบิด ประตู ฝารองนัง่ ฝาปิดชกั โครก ก๊อกนา้ อ่างล้างมือ
- ซกั ผ้าสาหรับเชด็ ทาความสะอาด และไม้ถูพนื้
3.6 ลดความแออดั
ไม่จัดกิจกรรมท่ีเกิดการรวมกลุ่มของนักเรียน มีการจัดเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล อย่างน้อย 1-2
เมตร เช่น ระหว่างโตะ๊ เรยี น ทนี่ ง่ั เรยี น ทน่ี ัง่ ในโรงอาหาร ท่ีนง่ั พกั ทางเดิน จดุ พกั คอย ลดแออดั
ลดเวลาทากจิ กรรมใหส้ ้ันลงมีการจัดการเหลื่อมเวลาทากิจกรรมโดยถอื หลักหลีกเล่ยี งการติดต่อสมั ผสั ระหวา่ ง
กัน และการใชพ้ น้ื ท่ีใช้สอยบริเวณสถานศึกษา โดยยดึ หลัก Social distancing และมกี ารทาสัญลักษณ์แสดง
จดุ ตาแหน่งชัดเจนในการจัดเว้นระยะห่างระหว่างกนั
คู่มือการจดั การเรยี นการสอนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
โรงเรียนพนาศึกษา สานกั งานเขตพื้นที่การศกึ ษามธั ยมศึกษาอบุ ลราชธานี อานาจเจรญิ
สว่ นที่ 3
แนวปฏบิ ตั ิ
ระหวา่ งเปดิ ภาคเรยี น
ค่มู ือการจัดการเรยี นการสอนในสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคติดเช้ือไวรสั โคโรนา 2019
โรงเรียนพนาศกึ ษา สานักงานเขตพนื้ ทีก่ ารศึกษามธั ยมศกึ ษาอบุ ลราชธานี อานาจเจรญิ
หนา้ 17
ส่วนที่ 3
แนวปฏบิ ตั ริ ะหว่างเปดิ ภาคเรียน
สถานศกึ ษาเป็นสถานที่ทีม่ ีคนอย่รู วมกันจานวนมาก ท้ังครู นกั เรียน บคุ ลากรท่ีเกี่ยวข้องและ
ผู้มาติดต่อราชการ ทาให้มโี อกาสใกลช้ ิดกนั มาก เกิดความเส่ียงตอ่ การแพร่กระจายของเช้อื โรคไดง้ ่าย
โรงเรยี นพนาศึกษาจึงกาหนดแนวปฏิบตั ดิ า้ นอนามัยสิ่งแวดลอ้ มให้ครอบคลุมทกุ มิตอิ ย่างเคร่งครัด เพ่ือป้องกนั
การแพรร่ ะบาดของโรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) โดยคานงึ ถึงความปลอดภัยของนักเรียน
ครูและบคุ ลากรในสถานศกึ ษาสูงสุด ดังนี้
3.1 หลักปฏบิ ตั ใิ นการปอ้ งกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในสถานศึกษา
1.คัดกรอง (Screening) ผูท้ เี่ ขา้ มาในสถานศึกษาทุกคนต้องได้รบั การคัดกรอง วดั อุณหภูมริ ่างกาย
2.สวมหนา้ กาก (Mask) ทุกคนตอ้ งสวมหน้ากากผา้ หรือหน้ากากอนามยั ตลอดเวลาที่อยใู่ นสถานศกึ ษา
3.ลา้ งมอื (Hand Washing) ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบแู่ ละน้า นานอย่างน้อย 20 วนิ าที หรอื ใช้
เจลแอลกอฮอล์ หลกี เลยี่ งการสมั ผสั บริเวณจดุ เสี่ยง รวมท้งั ไม่ใชม้ ือสัมผสั ใบหน้า ตา ปาก จมกู โดยไมจ่ าเป็น
4.เวน้ ระยะห่าง (Social Distancing) เวน้ ระยะหา่ งระหวา่ งบคุ คล อยา่ งน้อย 1-2 เมตร รวมถงึ
การจัดเว้นระยะห่างของสถานที่
5.ทาความสะอาด (Cleaning) เปดิ ประตู หนา้ ตา่ ง ใหอ้ ากาศถ่ายเท ทาความสะอาดห้องเรยี น และ
บรเิ วณตา่ ง ๆ โดยเช็ดทาความสะอาดพื้นผิวสัมผสั ของโต๊ะ เกา้ อ้ี และวัสดุอปุ กรณ์ กอ่ นเขา้ เรียน ชว่ งพักเทย่ี ง
และหลังเลิกเรียนทุกวนั รวมถึงจดั ใหม้ ถี ังขยะมูลฝอยแบบมีฝาปิดและรวบรวมขยะออกจากห้องเรียน
เพื่อนาไปกาจดั ทุกวนั
6.ลดแออดั (Reducing) ลดระยะเวลาการทากิจกรรมให้ส้ันลงเทา่ ทจ่ี าเป็น หรือเหล่ือมเวลาทา
กิจกรรมและหลีกเลี่ยงการทากจิ กรรมรวมตวั กันเป็นกลมุ่ ลดแออัด
3.2 บทบาทของบุคลากรและหน่วยงานท่ีเก่ยี วข้อง
เพ่อื ใหเ้ กดิ ประโยชนและมีผลกระทบในทางทด่ี ตี ่อผบู้ ริหาร ครู ผ้ปู กครอง และนักเรียน
โรงเรยี นพนาศกึ ษาจึงกาหนดใหม้ ีแนวปฏบิ ตั สิ าหรบั บุคลากรของสถานศกึ ษาสาหรับใชเ้ ป็นแนวทางปฏิบตั ติ นอ
ย่างเคร่งครดั มดี งั นี้
3.2.1 บทบาทของผบู้ ริหารสถานศึกษา
1. ประกาศนโยบายและแนวปฏิบัตใิ นการป้องกนั การแพรระบาดของโรคโควดิ 19 ในสถานศึกษา
2. จดั ตง้ั คณะทางานดาเนินการควบคุมดูแลและป้องกนั การแพรระบาดของโรคโควดิ 19 ประกอบด้วย
ครู นักเรียน ผู้ปกครอง เจา้ หนา้ ทสี่ าธารณสุข ทองถิน่ ชมุ ชน และผู้เกี่ยวข้อง พรอมบทบาทหนา้ ทอ่ี ย่างชดั เจน
คู่มือการจดั การเรยี นการสอนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชอื้ ไวรสั โคโรนา 2019
โรงเรียนพนาศกึ ษา สานกั งานเขตพนื้ ท่ีการศกึ ษามธั ยมศึกษาอบุ ลราชธานี อานาจเจริญ
หนา้ 18
3. ทบทวน ปรบั ปรุง ซอมปฏิบตั ิตามแผนฉุกเฉินของสถานศึกษาในภาวะทีม่ ีการระบาดของโรคติดเชือ้
(Emergency operation for infectious disease outbreaks)
4. ส่ือสารประชาสมั พนั ธก์ ารป้องกนั โรคโควิด 19 เกยี่ วกบั นโยบาย มาตรการ แนวปฏบิ ัติ และการจดั
การเรยี นการสอนให้แกครู นักเรยี น ผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน
ผา่ นชอ่ งทางส่ือท่เี หมาะสม และติดตามข้อมูลขา่ วสารทเี่ กี่ยวข้องกับโรคโควดิ 19 จากแหลง่ ข้อมลู ท่ีเชือ่ ถือได้
5. ส่ือสารทาความเข้าใจเพื่อลดการรังเกยี จและลดการตตี ราทางสงั คม (Social stigma)
6. มีมาตรการคัดกรองสุขภาพทกุ คน บริเวณทางเข้าไปในสถานศกึ ษา (Point of entry) ใหแ้ ก่
ครนู ักเรยี น บุคลากร และผู้มาตดิ ตอ่ อ จดั ใหม้ ีพน้ื ท่ีแยก และอปุ กรณ์ป้องกัน เชน่ หนา้ กากผา้ หรือ
หนา้ กากอนามยั เจลแอลกอฮอล อย่างเพียงพอ รวมถึงเพ่ิมช่องทางการสอ่ื สารระหวา่ งครู นกั เรยี น ผู้ปกครอง
และเจ้าหน้าท่ี สาธารณสุข ในกรณที ่ีพบนกั เรียนกลมุ่ เส่ยี งหรือสงสัย
7. ควรพิจารณาการจดั ใหน้ กั เรยี นสามารถเข้าถงึ การเรยี นการสอนท่มี ีคุณภาพเหมาะสมตามบรบิ ท
อยา่ งต่อเน่อื ง ตรวจสอบติดตาม กรณีนักเรียนขาดเรียน ลาป่วยการปดิ สถานศึกษาการจัดให้มีการเรียนทางไกล
สือ่ ออนไลน์ การติดต่อทางโทรศพั ท์ Social media โดยติดตามเปน็ รายวนั หรือสปั ดาห์
8. กรณพี บนักเรยี น ครู บุคลากร หรือผู้ปกครองอยู่ในกล่มุ เสยี่ งหรอื ผู้ป่วยยนื ยนั เขา้ มาในสถานศกึ ษา
ให้รบี แจ้งเจ้าหน้าท่สี าธารณสุขในพ้นื ที่ เพ่ือดาเนนิ การสอบสวนโรคและพิจารณาปิดสถานศึกษา ตามแนวทาง
ของกระทรวงสาธารณสุข
9. ควบคมุ กากับ ติดตาม และตรวจสอบการดาเนินงานตามมาตรการป้องกันการแพรระบาด
โรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) ในสถานศึกษาอยา่ งเครง่ ครัดและต่อเนื่อง
3.2.2 บทบาทของครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา
1. ติดตามข้อมลู ขา่ วสารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค พน้ื ทเี่ สี่ยง คาแนะนาการป้องกนั ตนเอง
และลดความเส่ยี งจากการแพร่กระจายของเชื้อโรคโควิด 19 จากแหล่งข้อมลู ทเ่ี ช่ือถือได้
2. สงั เกตอาการปว่ ยของตนเอง หากมีอาการไข้ ไอ มนี ้ามูก เจบ็ คอ หายใจลาบาก เหนอื่ ยหอบ
ไม่ได้กลิน่ ไม่รรู้ ส ให้หยดุ ปฏิบัตงิ าน และรีบไปพบแพทย์ทนั ที กรณีมคี นในครอบครัวปว่ ยดว้ ยโรคโควดิ 19
หรือกลับจากพืน้ ท่ีเสีย่ งและอยู่ในชว่ งกักตวั ให้ปฏบิ ัติตามคาแนะนาของเจ้าหน้าท่สี าธารณสุขอย่างเคร่งครดั
3. แจ้งผปู้ กครองและนกั เรยี น ให้นาของใช้สวนตัวและอุปกรณป์ ้องกนั มาใชเ้ ปน็ ของตนเอง เชน่ ชอ้ น
ซ้อม แกว้ นา้ ผา้ เชด็ หนา้ หน้ากากผา้ หรอื หน้ากากอนามัย เป็นตน้
4.ส่ือสารความรู้คาแนะนาหรือจัดหาสื่อประชาสัมพนั ธ์ในการปอ้ งกนั และลดความเสีย่ งจากการแพร่กร
ะจายโรคโควดิ 19 ให้แก่นักเรยี น เช่น สอนวธิ ีการลา้ งมอื ใหถ้ ูกต้อง การสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามยั
คาแนะนาการปฏบิ ัติตวั การเว้นระยะห่างทางสังคม การทาความสะอาด หลกี เลย่ี งการทากจิ กรรมร่วมกนั
จานวนมากเพื่อลดความแออัด
คมู่ อื การจัดการเรยี นการสอนในสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เชอื้ ไวรัสโคโรนา 2019
โรงเรียนพนาศกึ ษา สานกั งานเขตพื้นท่กี ารศึกษามธั ยมศกึ ษาอบุ ลราชธานี อานาจเจริญ
หนา้ 19
5. ทาความสะอาดส่ือการเรียนการสอนหรืออปุ กรณข์ องใช้ร่วมทเ่ี ปน็ จุดสัมผัสเสี่ยงทกุ คร้งั หลังใช้งาน
6. ควบคมุ ดแู ลการจัดทีน่ ั่งในห้องเรยี น ระหว่างโต๊ะเรยี น ท่ีนั่งในโรงอาหาร การจัดเวน้ ระยะห่าง
ระหว่างบคุ คล อย่างน้อย 1-2 เมตร หรอื เหล่ือมเวลาพกั กนิ อาหารกลางวัน และกากับให้นกั เรยี น
สวมหนา้ กากผา้ หนากากอนามยั ตลอดเวลา และล้างมือบ่อยๆ
7. ตรวจสอบ กากบั ติดตามการมาเรยี นของนกั เรยี นขาดเรียน ถูกกักตวั หรืออยู่ในกลมุ่ เสี่ยงต่อ
การติดโรคโควดิ 19 และรายงานผบู้ รหิ าร
8. ทาการตรวจคัดกรองสขุ ภาพทกุ คนท่เี ข้ามาในสถานศึกษาในตอนเชา้ ให้กับนักเรยี น ครู บคุ ลากร
และผมู้ าติดต่อ โดยใช้เครือ่ งวดั อณุ หภมู ทิ างหนา้ ผาก พรอ้ มสังเกตอาการและสอบถามอาการของระบบ
ทางเดนิ หายใจ เช่น ไข้ ไอ มีนา้ มกู เจ็บคอ หายใจลาบาก เหนือ่ ยหอบ ไมไ่ ดก้ ลิน่ ไมร่ ู้รส โดยตดิ สัญลกั ษณ์
สต๊กิ เกอรห์ รือตราป้ัม แสดงให้เห็นชัดเจนวา่ ผา่ นการคัดกรองแลว้
- กรณพี บนกั เรยี นหรือผู้มอี าการไข้ อุณหภมู ิรา่ งกายตั้งแต่ 37.5 องศาเซลเซยี สข้ึนไป รว่ มกับ
อาการระบบทางเดินหายใจอย่างใดอย่างหน่งึ จดั ให้อยู่ในพื้นท่ีแยกสว่ น ใหร้ ีบแจง้ ผปู้ กครองมารับและ
พาไปพบแพทย์ใหห้ ยุดพักทบ่ี ้านจนกวา่ จะหายเปน็ ปกติ พร้อมแจง้ เจ้าหน้าทีส่ าธารณสขุ เพอ่ื ประเมิน
สถานการณ์และดาเนินการสอบสวนโรค และแจง้ ผู้บรหิ ารเพ่อื พิจารณาการปิดสถานศึกษาตามแนวทาง
ของกระทรวงสาธารณสุข
- บันทกึ ผลการคดั กรองและสง่ ต่อประวตั ิการป่วย ตามแบบบันทึกการตรวจสขุ ภาพ
- จดั อปุ กรณ์การล้างมือ พรอ้ มใชง้ านอย่างพอเพยี ง เช่น เจลแอลกอฮอลวางไว้บรเิ วณทางเขา้
สบูล่ า้ งมือบรเิ วณอา่ งล้างมอื
9. ครูสอ่ื สารความรู้เกยี่ วกับความเครียด ว่าเปน็ ปฏิกริ ยิ าปกตทิ ่ีเกิดขน้ึ ได้ในภาวะวิกฤติ
ท่มี ีการแพร่ระบาดของโรคโควดิ 19 และนากระบวนการการจัดการความเครียด การฝกึ สติให้กลมกลืน
และเหมาะสมกับ นักเรยี นแต่ละวัย รว่ มกับการฝกึ ทักษาชวี ิตทเ่ี สริมสรา้ งความเข้มแข็งทางใจ (Resilience)
ใหก้ ับนักเรียน ได้แก่ ทกั ษาชีวติ ด้านอารมณ์ สังคม และความคดิ เปน็ ตน้
10. ครูสงั เกตอารมณ์ความเครยี ดของตัวท่านเอง เน่ืองจากภาระหน้าทก่ี ารดูแลนกั เรยี นจานวนมาก
และกากับใหป้ ฏบิ ัติตามมาตรการการป้องกันการติดโรคโควดิ 19 เปน็ บทสาคญั อาจจะสรา้ งความเครยี ด
วิตกกงั วล ท้ังจากการเฝา้ ระวังนกั เรียน และการปอ้ งกนั ตัวท่านเองจากการสัมผสั กับเชื้อโรค
3.2.3 บทบาทของนักเรียน
1. ติดตามข้อมลู ขา่ วสารสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคโควดิ 19 พ้ืนทเ่ี สี่ยง
คาแนะนาการป้องกันตนเอง และลดความเสี่ยงการแพรก่ ระจายของโรคโควิด 19 จากแหล่งขอ้ มูลทเ่ี ช่ือถือได้
2. สงั เกตอาการป่วยของตัวเอง หากมอี าการไข้ ไอ มีน้ามูก เจ็บคอ หายใจลาบาก เหน่ือยหอบ
ไม่ได้กล่ิน ไมร่ ู้รส รีบแจ้งครูหรือผู้ปกครองให้พาไปพบแพทย์ กรณีมีคนในครอบครวั ปว่ ยด้วยโรคโควิด 19 หรือ
กลับจากพนื้ ทีเ่ สย่ี งและอยู่ในชว่ งกกั ตัว ใหป้ ฏิบัติตามคาแนะนาของเจา้ หนา้ ท่ีสาธารณสขุ อยา่ งเครง่ ครดั
คู่มือการจดั การเรยี นการสอนในสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคติดเช้อื ไวรสั โคโรนา 2019
โรงเรยี นพนาศกึ ษา สานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษามธั ยมศึกษาอบุ ลราชธานี อานาจเจรญิ
หน้า 20
3. มีและใช้ของใชส้ ว่ นตวั ไมใ่ ชร้ ่วมกบั ผูอ้ ืน่ เช่น ชอ้ น ซ้อม แก้วนา้ ผ้าเชด็ หนา้ หนา้ กากผ้า
หรือหนา้ กากอนามยั และทาความสะอาดหรือเกบ็ ให้เรียบรอ้ ยทกุ ครงั้ หลังใชง้ าน
4. สวมหนา้ กากผ้าหรือหนา้ กากอนามัยตลอดเวลาท่ีอยูใ่ นสถานศกึ ษา
5. หมน่ั ลา้ งมอื บ่อยๆด้วยวิธีล้างมือ 7 ขั้นตอน อย่างน้อย 20 วินาที ก่อนกนิ อาหาร หลังใชส้ ้วม
หลกี เลย่ี งใช้มือสมั ผัสใบหน้า ตา ปาก จมูก โดยไม่จาเป็น รวมถึงสรา้ งสขุ นิสัยที่ดี หลังเล่นกับเพ่ือน
เม่ือกลับถึงบ้านต้องรีบอาบน้า สระผม และเปล่ยี นเสื้อผ้าใหมท่ นั ที
6. เวน้ ระยะหา่ งระหว่างบุคคล อยา่ งน้อย 1-2 เมตร ในการทากิจกรรมระหว่างเรยี น ช่วงพัก และ
หลงั เลกิ เรียน เช่น นั่งกินอาหาร เล่นกบั เพื่อน เข้าแถวตอ่ คิว ระหว่างเดินทางอยู่บนรถ
7. หลีกเล่ยี งการไปในสถานที่ทีแ่ ออดั หรือแหล่งชมุ ชนท่เี สีย่ งต่อการติดโรคโควิด 19
8. กรณีนกั เรยี นดื่มนา้ บรรจุขวด ควรแยกเฉพาะตนเอง และทาเครื่องหมายหรือสัญลักษณ์เฉพาะ
ไม่ใหป้ ะปนกับของคนอนื่
9. ดูแลสุขภาพให้แขง็ แรง ด้วยการกินอาหารปรงุ สุก ร้อน สะอาด อาหารครบ 5 หมู่ และผัก ผลไม้ 5
สี เสรมิ สรา้ งภูมคิ ุ้มกนั ควรเสริมอาหารเช้าจากบา้ น หรอื ใหผ้ ู้ปกครองจดั เตรียมอาหารกล่องกนิ ท่ีโรงเรียนแทน
รวมถงึ ออกกาลังกาย อย่างน้อย 60 นาที ทุกวัน และนอนหลับอยา่ งเพยี งพอ 9 - 11 ชั่วโมงตอ่ วนั
10. กรณีนักเรียนขาดเรยี นหรือถกู กกั ตัว ควรตดิ ตามความคืบหนา้ การเรียนอยา่ งสมา่ เสมอ ปรกึ ษาครู
เชน่ การเรยี นการสอน สอื่ ออนไลน์ อา่ นหนังสือ ทบทวนบทเรยี น และทาแบบฝึกหดั ท่ีบ้าน
11. หลีกเล่ยี งการลอ้ เลยี นความผดิ ปกตหิ รืออาการไม่สบายของเพ่ือน เนอ่ื งจากอาจจะก่อใหเ้ กิด
ความหวาดกลวั มากเกนิ ไปต่อการป่วยหรอื การตดิ โรคโควิด 19 และเกิดการแบ่งแยกกีดกันในหมู่นักเรยี น
3.2.4 บทบาทของนกั เรียนแกนนาด้านสุขภาพ
โรงเรียนพนาศกึ ษามีนักเรียนท่มี ีจิตอาสา เปน็ อาสาสมัครช่วยดแู ลสขุ ภาพเพื่อนนักเรียนดว้ ยกนั
หรอื ดแู ลรุ่นน้องดว้ ย ไดแ้ ก่ สภานักเรยี น อย.นอ้ ย ยุวอาสาสมัครสาธารณสขุ (ยุว อสม.)
1. ติดตามข้อมลู ข่าวสารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค พน้ื ท่ีเสีย่ ง คาแนะนาการป้องกนั ตนเอง
และลดความเสยี่ งจากการแพรก่ ระจายของโรคโควดิ 19 จากแหลง่ ข้อมูลท่เี ช่ือได้
2. ช่วยครู ตรวจคัดกรองวดั อุณหภูมิรา่ งกายของนักเรียนทุกคนท่ีมาเรียนในตอนเชา้ บรเิ วณทางเข้า
โดยมคี รดู ูแลให้คาแนะนาอย่างใกล้ชดิ เน้นการจดั เว้นระยะหา่ งระหว่างบุคคล อยา่ งน้อย 1-2 เมตร
3. ตรวจดูความเรยี บรอ้ ยของนักเรยี นทุกคนทมี่ าเรียน ตอ้ งสวมหนา้ กากผา้ หรือหน้ากากอนามัย
หากพบนักเรียนไม่ไดส้ วมให้แจ้งครูผ้รู บั ผิดชอบเพื่อจัดหาหนา้ กากผา้ หรือหน้ากากอนามัยสารองให้
4. เฝ้าระวงั สงั เกตอาการของนกั เรียน หากมีอาการไข้ ไอ มนี า้ หมกู เจ็บคอ หายใจลาบาก
เหนอ่ื ยหอบไม่ได้กลน่ิ ไม่รูร้ ส ให้รีบแจง้ ครูทันที
5.จัดกิจกรรมส่อื สารให้ความร้คู าแนะนาการป้องกนั และลดความเสย่ี งจากการแพรก่ ระจาย
โรคโควิด 19 แกเ่ พ่ือนนักเรยี น เช่น สอนวธิ ีการล้างมอื ทีถ่ ูกตอ้ ง การทาหน้ากากผา้ การสวมหน้ากาก
คมู่ อื การจดั การเรยี นการสอนในสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคติดเชื้อไวรสั โคโรนา 2019
โรงเรียนพนาศกึ ษา สานกั งานเขตพน้ื ท่ีการศึกษามัธยมศึกษาอบุ ลราชธานี อานาจเจริญ
หนา้ 21
การถอดหน้ากากผา้ กรณีเก็บไวใ้ ชต้ อ่ การทาความสะอาดหนา้ กากผา้ การเวน้ ระยะหา่ งระหว่างบุคคล
จัดทาปา้ ยแนะนาตา่ งๆ
6. ตรวจอุปกรณข์ องใชส้ ว่ นตวั ของเพื่อนนักเรยี นและรนุ่ น้อง ให้พร้อมใชง้ าน เน้นไมใ่ ช้ร่วมกบั ผูอ้ ื่น
เช่น จาน ช้อน ซ้อม แก้วนา้ ผา้ เช็ดหนา้ ผ้าเช็ดมอื ของตนเอง
7. จดั เวรทาความสะอาดหอ้ งเรยี น ห้องเรียนรวม และบริเวณจุดสัมผสั เสย่ี งทุกวัน เช่น ลกู บิดประตู
กลอนประตู ราวบันได สนามเด็กเล่น อปุ กรณ์กีฬา เคร่ืองดนตรี คอมพวิ เตอร์
8. เป็นแบบอยา่ งทดี่ ีในการปฏิบตั ิตวั เพื่อป้องกันโรคโควิด 19 ดว้ ยการสมหนา้ กากผา้ หรือหน้ากาก
อนามัย ล้างมือบ่อยๆ กินอาหารใชจ้ าน ช้อน ซ้อม แก้วน้าของตนเอง การเวน้ ระยะหา่ ง เปน็ ตน้
โดยถอื ปฏิบัตเิ ปน็ สุขนิสัยกิจวัตรประจาวันอย่างสม่าเสมอ
3.2.5 บทบาทของผู้ปกครอง
1. ติดตามข้อมลู ข่าวสารสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคโควดิ 19 พนื้ ที่เส่ียง
คาแนะนาการป้องกันตนเอง และลดความเสย่ี งจากการแพร่กระจายของโรค จากแหลง่ ข้อมลู ทีเ่ ชื่อถอื ได้
2. สงั เกตอาการป่วยของตวั เอง หากมอี าการไข้ ไอ มีน้ามูก เจ็บคอ หายใจลาบาก เหน่อื ยหอบ
ไม่ได้กลน่ิ ไมร่ ู้รส รีบแจ้งครูหรือผปู้ กครองให้พาไปพบแพทย์ กรณีมีคนในครอบครวั ปว่ ยด้วยโรคโควดิ 19 หรอื
กลับจากพน้ื ท่เี สย่ี งและอยใู่ นช่วงกักตวั ใหป้ ฏบิ ตั ติ ามคาแนะนาของเจ้าหนา้ ทสี่ าธารณสุขอยา่ งเครง่ ครัด
3. จดั หาของใช้สว่ นตวั ให้บุตรหลานอยา่ งเพยี งพอในแต่ละวัน ทาความสะอาดทุกวนั เช่น
หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามยั ชอ้ น ซ้อม ผา้ เชด็ หนา้
4. จดั หาสบู่หรือเจลแอลกอฮอล และกากับดแู ลบุตรหลานให้ลา้ งมอื บ่อยๆ ก่อนกนิ อาหาร
และหลงั ใชส้ ้วม หลกี เล่ยี งการใช้มอื สมั ผสั ใบหนา้ ตา ปาก จมูก โดยไม่จาเปน็ และสร้างสุขนสิ ัยที่ดี
หลงั เล่นกับเพ่ือน และเมอ่ื กลบั ถงึ บา้ น ควรอาบนา้ สระผม และเปลี่ยนเสอ้ื ผ้าใหม่ทนั ที
5. หลีกเล่ยี งการพาบุตรหลานไปในสถานการณเ์ สย่ี งต่อการติดโรคโควิด 19
สถานทแ่ี ออัดทม่ี กี ารรวมกัน ของคนจานวนมาก หากจาเป็นตอ้ งสวมหน้ากากผา้ หรอื หน้ากากอนามยั
ล้างมอื บ่อยๆ วธิ กี าร 7 ขั้นตอน ด้วยสบ่แู ละน้า นาน 20 วินาที หรอื ใชเ้ จลแอลกอฮอล
6. ดแู ลสุขภาพบตุ รหลาน จัดเตรียมอาหารปรุงสุกใหม่ ส่งเสริมใหก้ นิ อาหารรอ้ น สะอาด อาหารครบ
5 หมู่ และผักผลไม้ 5 สี และควรจัดอาหารกล่องให้แก่นกั เรยี นในช่วงเชา้ แทนการซ้ือจากโรงเรียน
(กรณีไม่ไดก้ นิ อาหารเชา้ จากทบ่ี า้ น) เพื่อเสรมิ สร้างภมู ิคมุ้ กัน ออกกาลงั กาย อยา่ งน้อย 60 นาทที กุ วนั
และนอนหลับเพยี งพอ 9-11 ชั่วโมงต่อวนั
7. กรณมี ีการจัดการเรียนการสอนทางไกล ออนไลน์ ผปู้ กครองควรใหค้ วามร่วมมอื กบั ครใู นการดูแล
จัดการเรียนการสอนแกนักเรียน เชน่ การสง่ การบา้ น การรว่ มทากิจกรรม เปน็ ต้น
คมู่ อื การจัดการเรยี นการสอนในสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เชอ้ื ไวรสั โคโรนา 2019
โรงเรยี นพนาศึกษา สานกั งานเขตพนื้ ท่กี ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษาอุบลราชธานี อานาจเจรญิ
หน้า 22
3.2.6 บทบาทของผู้จา่ ยอาหารอาหารและผปู้ ฏิบตั ิงานทาความสะอาด
1. ติดตามข้อมูลขา่ วสารสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคโควดิ 19 พ้นื ที่เสี่ยง
คาแนะนาการป้องกนั ตนเอง และลดความเส่ียงจากการแพรก่ ระจายของโรค จากแหล่งข้อมลู ท่เี ช่ือถอื ได้
2. สังเกตอาการปว่ ยของตนเอง หากมีอาการไข้ ไอ มนี ้าหมู เจบ็ คอ หายใจลาบาก
เหนื่อยหอบไม่ไดก้ ลิ่น ไมร่ รู้ ส ใหห้ ยดุ ปฏิบตั งิ านและรีบไปพบแพทย์ทนั ที กรณมี คี นในครอบครวั ป่วย
ดว้ ยโรคโควิด 19 หรือ กลับจากพ้ืนทีเ่ สย่ี งและอยู่ในชว่ งกักตัว ใหป้ ฏบิ ตั ิตามคาแนะนาของเจ้าหน้าท่ี
เคร่งครัด
3. ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบ่แู ละน้า ก่อน-หลังปรุงและประกอบอาหาร ขณะจาหน่ายอาหาร หลงั สัมผสั
ส่งิ สกปรก เมื่อจบั เหรยี ญหรือธนบตั ร หลงั ใชส้ ว้ ม ควรลา้ งมือดว้ ยสบ่แู ละน้าหรือใช้เจลแอลกอฮอล์ และ
หลีกเลี่ยงการใช้มือสมั ผัสใบหนา้ ตา ปาก จมูก โดยไมจ่ าเป็น
4. ขณะปฏิบัตงิ านของผ้สู มั ผัสอาหาร ต้องสวมหมวกคลมุ ผม ผ้ากนั เปื้อน ถุงมือ สวมหน้ากากผ้า หรือ
หนา้ กากอนามยั และปฏบิ ตั ิตนตามสุขอนามยั สว่ นบุคคลท่ีถูกต้อง
5. ปกปดิ อาหาร ใส่ถุงมือและใช้ท่ีคบี หยิบจบั อาหาร ห้ามใช้มือหยบิ จับอาหารพร้อมกินโดยตรง และ
จดั ใหแ้ ยกกนิ กรณรี ้านจาหน่ายอาหารสาเรจ็ รูปพร้อมกิน ไมค่ วรใช้มอื สมั ผัสลงไปในถุงบรรจอุ าหารก่อน
ตกั อาหาร
6. จดั เตรยี มเมนูอาหารให้ครบ 5 หมู่ และผักผลไม้ 5 สี เพ่ือเสริมสรา้ งภมู ิคุ้มกนั ปรงุ สกุ ใหม่
ใหน้ กั เรียนกิน ภายในเวลา 2 ชัว่ โมง หากเกินเวลาดังกลา่ ว ใหน้ าอาหารไปอนุ่ จนร้อนจดั หรอื เดอื ด
แล้วนามาเสริ ์ฟใหม่กรณีที่ไมสามารถจัดเหล่ือมเวลาหรับเด็กในม้ือกลางวัน ให้เตรียมอาหารกลอ่ งแทน
และรบั ประทานทโ่ี ต๊ะเรยี น
7. จดั เตรียมกระดาษสาหรับสั่งรายการอาหาร หรือช่องทางสื่อสารอ่ืนๆ เพอื่ ลดการพดู คยุ และสัมผสั
8. ผปู้ ฏิบตั งิ านทาความสะอาด ผู้ปฏิบัตงิ านเก็บขนขยะต้องใสอ่ ุปกรณ์ปอ้ งกนั ตนเอง เช่น
สวมหนา้ กากผ้า หรือหนา้ กากอนามยั สวมถุงมือยาง ผ้ายางกันเปื้อน รองเทา้ พืน้ ยางหุ้มแขง้
9. การเกบ็ ขยะ ควรใชป้ ากคีบด้ามยาวเกบ็ ขยะใส่ถงุ ขยะ ปิดปากถุงใหม้ ดิ ชิด
และนาไปรวบรวมไว้ที่พักขยะ
10. เมื่อปฏบิ ตั งิ านเสรจ็ ทุกคร้ัง ต้องลา้ งมือบ่อยๆ และเมอ่ื กลับมาถึงบ้าน ควรรีบอาบนา้ สระผม
เปลี่ยนเสอ้ื ผ้าใหมท่ ันที
3.3 บทบาทขององคก์ รสนับสนุน
3.3.1 สานักงานเขตพื้นท่กี ารศกึ ษา
1) ประชาสัมพนั ธส์ รา้ งความรูค้ วามเข้าใจให้โรงเรียนในสังกัด เกยี่ วกบั การปอ้ งกันตนเอง การดูแล
สุขอนามยั ของตนเอง และบุคคลในครอบครัว
2) ประสานงานองค์กรต่าง ๆ ในเขตพืน้ ทีก่ ารศกึ ษาในการช่วยเหลอื สนบั สนุนโรงเรยี น
ค่มู ือการจดั การเรยี นการสอนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคตดิ เชือ้ ไวรสั โคโรนา 2019
โรงเรียนพนาศึกษา สานกั งานเขตพน้ื ทีก่ ารศึกษามธั ยมศกึ ษาอุบลราชธานี อานาจเจริญ
หนา้ 23
3) นเิ ทศ กากับ ติดตาม โรงเรียนในสงั กดั ดา้ นการบริหารโรงเรยี นภายใต้สถานการณ์การแพรร่ ะบาด
ของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19)
4) กากับ ติดตาม โรงเรียนในสังกดั ดา้ นการบรหิ ารข้อมูลสารสนเทศเกี่ยวกับการได้รับวคั ซีน
ของนักเรียน ครู ผบู้ ริหารโรงเรียน และผู้ปกครองนักเรียนใหไ้ ด้รับวคั ซีนตามมาตรการท่ีกาหนด
5) รายงานผลการดาเนินการตอ่ หน่วยงานตน้ สังกัดให้ทราบความเคลอ่ื นไหวอยา่ งต่อเน่ือง สม่าเสมอ
6) ประชุม ตรวจเยยี่ มสถานศึกษา สรา้ งขวัญกาลังใจในการเตรยี มความพร้อมก่อนเปดิ ภาคเรยี น
ทง้ั แบบปกตแิ ละแบบทางไกล
3.3.2 สานกั งานสาธารณสขุ
1) ให้คาแนะนาเก่ียวกบั ข้อควรปฏิบตั ขิ องสถานศึกษา สนับสนุนการดาเนนิ งานของโรงเรียนให้
สอดคล้องตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงศึกษาธิการกาหนด
2) สนบั สนุนอุปกรณท์ างการแพทย์ อาทิ ชุดตรวจ Antigen Test Kit (ATK) อปุ กรณว์ ัดอณุ หภมู ิ
หนา้ กากอนามยั เจลลา้ งมือ ฯลฯ
3) สนับสนนุ บคุ ลากรทางการแพทย์ในการบริการตรวจคัดกรองความเสย่ี งใหแ้ ก่ นักเรยี น ครู
และบคุ ลากรทางการศึกษา
4) จัดใหม้ ีชอ่ งทางการสอื่ สาร การใหข้ ้อมูลขา่ วสารท่ีถู กต้อง เปน็ ปจั จุบนั ใหก้ ับสถานศึกษา
และจดั ระบบสนับสนุนเมอ่ื มนี ักเรียน ครูหรือบุคลากรมีความเส่ยี งตอ่ การติดเชอื้ ไวรสั โคโรนา 2019
(Covid-19)
5) สารวจ ตดิ ตามสถานการณ์ในพน้ื ทีบ่ ริการอย่างตอ่ เนอื่ ง กรณี พบผมู้ ีอาการเสย่ี งหรือป่วย
ต้องดาเนินการทันที และรายงานให้สถานศึกษาทราบเพ่ือดาเนนิ การตามมาตรการต่อไป
6) ออกให้บริการตามทส่ี ถานศึกษาร้องขอ เช่น จดั เจา้ หนา้ ท่ี อสม.ประจาหมู่บ้าน ตาบล ตรวจเวรยาม
บันทกึ ตแู้ ดงตามจุดทีโ่ รงเรียนกาหนด และอ่ืน ๆ ตามความตอ้ งการจาเปน็
3.3.3 องคก์ รทางปกครอง
1) ประชาสมั พันธส์ รา้ งความเข้าใจใหโ้ รงเรยี น และชมุ ชนในเขตการปกครองมีความรู้ความเข้าใจ
เกี่ยวกบั การป้องกนั ตนเอง การดแู ลสุขอนามัยของตนเอง และบคุ คลในครอบครัว
2) สนับสนุน ช่วยเหลือโรงเรียนในเขตปกครองตามคาสง่ั ของจังหวดั อยา่ งเคร่งครดั 3) กากับ
ตดิ ตามการไดร้ ับวัคซีนของประชาชนในเขตปกครองและมขี ้อมูลทางสถติ ทิ ี่อา้ งอิงเชือ่ ถอื ได้
4) ใหบ้ ริการตามทีส่ ถานศึกษารอ้ งขอตามความต้องการเร่งดว่ นและจาเป็น
คู่มือการจัดการเรยี นการสอนในสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนา 2019
โรงเรียนพนาศึกษา สานักงานเขตพ้นื ทีก่ ารศกึ ษามัธยมศึกษาอบุ ลราชธานี อานาจเจริญ
หนา้ 24
3.3.4 องค์กรเอกชน
1) สนบั สนุนอปุ กรณท์ างการแพทย์ อาทิ ชุดตรวจ Antigen Test Kit (AT อปุ กรณ์วัดอุณหภูมิ
หนา้ กากอนามยั เจลลา้ งมือ ฯลฯ
2) สนับสนุนงบประมาณใหแ้ กส่ ถานศึกษาในการนาไปใชบ้ รหิ ารจัดการภายใตส้ ถานการณก์ ารแพร่
ระบาดของโรคติเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19)
3) อานวยความสะดวกให้ความช่วยเหลือกรณีฉุกเฉนิ จาเป็นในการส่งตวั นกั เรยี น ครูและบคุ ลากรที่
คาดว่าจะได้รบั เชือ้ หรือเป็นกลมุ่ เสยี่ งสง่ หนว่ ยงานสาธารณสขุ ได้อย่างรวดเร็ว
4) สรา้ งระบบการติดต่อสื่อสารหนว่ ยงานภายในจังหวัด อาเภอ ตาบล ใหม้ คี วามรวดเรว็ ใน
การช่วยเหลือ ดูแล นักเรียน ครู บคุ ลากร และผู้ปกครอง ทส่ี ถานศึกษาไดอ้ ย่างมีประสทิ ธิภาพ
3.4 แนวปฏบิ ตั ดิ ้านอนามัยส่ิงแวดลอ้ ม
3.4.1 ห้องเรยี น ห้องเรยี นรวม เช่น ห้องคอมพิวเตอร์ ห้องดนตรี
1) จัดโต๊ะ เกา้ อี้ หรือทน่ี ง่ั ให้มีการเวน้ ระยะห่างระหว่างบุคคล อย่างน้อย 1-2 เมตร โดยคานึงถงึ
สภาพบริบทและขนาดพ้ืนที่ และจดั ทาสญั ลักษณ์แสดงจดุ ตาแหนง่ ชัดเจน จัดเว้นระยะห่างระหว่างบคุ คล
แบง่ จานวนนักเรียน หรอื ใช้พื้นทีใ่ ชส้ อยบริเวณสถานศึกษาตามบริบทและความเหมาะสม โดยยึดหลกั Social
distancing
2) จดั การเหลอ่ื มเวลาเรยี น การเรยี นกล่มุ ยอ่ ย หรือวธิ ีปฏบิ ัติที่เหมาะสมตามบรบิ ทสถานการณ์
และเน้นใหน้ กั เรยี นสวมหน้ากากผา้ หรือหนา้ กากอนามยั ขณะเรียนตลอดเวลา
3) จดั ให้มีการระบายอากาศที่ดี ให้อากาศถา่ ยเท เชน่ เปดิ ประตู หน้าต่าง กรณใี ชเ้ ครื่องปรับอากาศ
กาหนดเวลาเปดิ -ปดิ เครื่องปรับอากาศ เปิดประตู หน้าต่างใหร้ ะบายอากาศและทาความสะอาดอย่างสม่าเสมอ
4) จดั ให้มเี จลแอลกอฮอลท์ าความสะอาดมือสาหรบั นกั เรยี นและครปู ระจาทุกหอ้ งเรียนอย่างเพียงพอ
5) ใหม้ ีการทาความสะอาดโต๊ะ เกา้ อ้ี อุปกรณ์ และจุดสัมผัสเส่ียง เช่น ลกู บดิ ประตู เครอ่ื งเล่น ของใช้
รว่ มทกุ วัน อยา่ งน้อยวันละ 2 คร้งั เช้าก่อนเรียนและพักเที่ยง กรณีมีการย้ายหอ้ งเรียน ต้องทาความสะอาดโต๊ะ
เกา้ อ้ี ก่อนและหลังใชง้ านทุกครงั้
3.4.2 ห้องสมุด
1) จัดโตะ๊ เกา้ อี้ หรือทนี่ ่งั มีการเวน้ ระยะหา่ งระหว่างบุคคล อย่างนอ้ ย 1-2 เมตร จัดทาสัญลกั ษณ์
แสดงจุดตาแหน่งชดั เจน
2) จัดให้มกี ารระบายอากาศที่ดี ใหอ้ ากาศถา่ ยเท เช่น เปิดประตู หนา้ ตา่ ง กรณีใชเ้ ครื่องปรับอากาศ
กาหนดเวลาเปิด-ปดิ เครื่องปรับอากาศ เปิดประตู หนา้ ต่างใหร้ ะบายอากาศและทาความสะอาดอยา่ งสม่าเสมอ
3) จัดให้มีเจลแอลกอฮอล์ทาความสะอาดมือสาหรับครู บรรณารกั ษ์ นักเรียน และผใู้ ชบ้ รกิ ารบริเวณ
ทางเขา้ ด้านหน้า และภายในหอ้ งสมุดอย่างเพียงพอ
4) ให้มีการทาความสะอาดโต๊ะ เก้าอี้ อุปกรณ์ และจุดสมั ผัสเสยี ง เช่น ลูกบดิ ประตู ช้ันวางหนังสอื
ทกุ วนั ๆ ละ 2 ครง้ั อาทิ เชา้ ก่อนใหบ้ ริการและพักเท่ียง
คมู่ อื การจดั การเรยี นการสอนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019
โรงเรียนพนาศึกษา สานักงานเขตพน้ื ทก่ี ารศึกษามธั ยมศึกษาอบุ ลราชธานี อานาจเจริญ
หน้า 25
5) จากัดจานวนคนจากัดเวลาในการเขา้ ใช้บรกิ ารหอ้ งสมุด และใหน้ ักเรยี นและผูใ้ ช้บริการทุกคน
สวมหนา้ กากผ้า หรอื หนา้ กากอนามยั ขณะใชบ้ รกิ ารห้องสมุดตลอดเวลา
3.4.3 ห้องประชุม หอประชุม
1) จัดให้มีการคดั กรองตรวจวัดอณุ หภมู ิรา่ งกายก่อนเขา้ ห้องประชุม หอประชุม หากพบผูม้ อี าการไข้
ไอ มนี ้า เจบ็ คอ หายใจลาบาก เหนื่อยหอบ ไม่ได้กลน่ิ ไม่รู้รส แจ้งงดรว่ มประชุมและแนะนาให้ไปพบแพทย์
ทนั ที
2) จัดโตะ๊ เกา้ อี้ หรือทีน่ ั่ง ให้มกี ารเวน้ ระยะหา่ งระหว่างบุคคล 1-2 เมตร และจดั ทาสญั ลักษณ์แสดง
จดุ ตาแหนง่ ชดั เจน
3) ผู้เข้าประชมุ ทกุ คนสวมหนา้ กากผา้ หรือหนา้ กากอนามยั ขณะประชมุ ตลอดเวลา
4) จดั ใหม้ เี จลแอลกอฮอลท์ าความสะอาดมือสาหรบั ผ้เู ขา้ ประชมุ บรเิ วณทางเข้าภายในอาคาร
หอประชุม บริเวณทางเข้าดา้ นหน้าและดา้ นในของหอ้ งประชุมอยา่ งเพยี งพอและท่วั ถงึ
5) งดหรือหลีกเลี่ยงการให้บริการอาหารและเครื่องดื่มภายในหอ้ งประชมุ
6) มกี ารทาความสะอาดโต๊ะ เก้าอ้ี อปุ กรณ์ และจดุ สมั ผัสเส่ียงร่วม เชน่ ลกู บดิ ประตู รีโมท อุปกรณ์
สื่อ ก่อนและหลังใชห้ ้องประชุมทกุ ครง้ั
7) จัดให้มีการระบายอากาศที่ดี ให้อากาศถา่ ยเท เชน่ เปดิ ประตู หนา้ ตา่ ง ก่อนและหลงั ใชห้ อ้ ง
ประชุมทุกครั้ง และทาความสะอาดอยา่ งสมา่ เสมอ
3.4.4 โรงยิม สนามกีฬา
1) จดั พื้นที่ทากิจกรรมและเล่นกีฬา ลดความแออัด จัดใหเ้ ลน่ กฬี าเปน็ รอบ หรือให้มีการเว้นระยะห่าง
ระหว่างบคุ คล อย่างน้อย 1-2 เมตร
2) จัดให้มเี จลแอลกอฮอล์ทาความสะอาดมือสาหรับนกั กีฬาและผมู้ าใชบ้ ริการ บรเิ วณทางเขา้ และ
บรเิ วณดา้ นในอาคารอยา่ งเพียงพอและทั่วถึง
3) ทาความสะอาดอุปกรณแ์ ละเครื่องเล่นแตล่ ะชนิด กอ่ นหรือหลังเลน่ ทกุ วัน อยา่ งนอ้ ยวันละ 1 คร้งั
4) จัดใหม้ ีการระบายอากาศ ใหอ้ ากาศถา่ ยเท เชน่ เปิดประตู หน้าตา่ ง เปดิ พดั ลม
5) จากัดจานวนคนจานวนเวลาในการเลน่ กีฬาหรอื กิจกรรมภายในอาคารโรงยิมหรอื สนามกฬี า
6) หลกี เล่ียงการจัดกิจกรรมหรือเล่นกฬี าประเภทแข่งขนั เป็นทีมหรือมีการปะทะกนั อย่างรนุ แรง เชน่
วอลเลย์บอล ฟตุ บอล ฟตุ ซอล บาสเกตบอล เปน็ ต้น
3.4.5 ห้องส้วม
1) จดั เตรยี มอุปกรณ์ทาความสะอาดอย่างเพยี งพอ ไดแ้ ก่ นา้ ยาทาความสะอาดหรอื น้ายาฟอกขาว
อปุ กรณ์การตวง ถงุ ขยะ ถังน้า ไมถ้ ูพื้น คีบด้ามยาวสาหรับเก็บขยะ ผ้าเช็ดทาความสะอาด และอุปกรณป์ ้องกนั
อนั ตรายสว่ นบุคคลทเ่ี หมาะสมกับการปฏิบัติงาน เชน่ ถงุ มือ หนา้ กากผา้
เสอ้ื ผ้าที่จะนา้ มาเปลี่ยนหลังทาความสะอาด
คู่มอื การจดั การเรยี นการสอนในสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เชือ้ ไวรสั โคโรนา 2019
โรงเรียนพนาศึกษา สานกั งานเขตพื้นท่ีการศึกษามธั ยมศึกษาอบุ ลราชธานี อานาจเจรญิ
หน้า 26
2) ทาความสะอาดหอ้ งน้า หอ้ งสว้ ม อย่างนอ้ ยวนั ละ 2 ครง้ั ดว้ ยนา้ ยาทาความสะอาดทัว่ ไป พ้ืนห้อง
ส้วม ฆา่ เชือ้ โดยใช้ผลติ ภัณฑฆ์ ่าเชือ้ ที่มีส่วนผสมของโซเดยี มไฮโปคลอไรท์ (น้ายาฟอกขาว) โดยนามาผสมกบั นา้
เพอ่ื ใหไ้ ด้ความเข้มขน้ 0.1% หรอื 1000 ส่วนในลา้ นสว่ น
หรือผลิตภัณฑฆ์ ่าเช้ือท่มี ีสว่ นผสมของไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ โดยนามาผสมกับนา้ เพอ่ื ให้ได้ความเขม้ ข้น
0.59% หรือ 5000 ส่วนในล้านส่วนราดนา้ ยาฆา่ เชอ้ื ทิ้งไว้ อยา่ งน้อย 10 นาที เน้นเช็ดบรเิ วณที่รองนั่งโถสว้ ม
ฝาปดิ โถส้วม ที่กดชักโครก สายชาระ ราวจบั ลกู บดิ หรอื กลอนประตู ท่ีแขวนกระดาษชาระ อา่ งล้างมอื ขนั น้า
กอ๊ กนา้ ทีว่ างสบู่ ผนงั ซอกประตู ดว้ ยผ้าชุบน้ายา ฟอกขาว หรอื ใช้แอลกอฮอล์ 7096
หรือไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 0.5% ค่มู อื การปฏบิ ตั สิ าหรับสถานศกึ ษาใน
การป้องกนั การแพรร่ ะบาดของโรคโควิด 19
3) หลงั ทาความสะอาด มีการซกั ผ้าเช็ดทาความสะอาดและไมถ้ ูพ้ืน ดว้ ยนา้ ผสมผงซกั ฟอกหรือนา้ ยา
ฆา่ เชื้อ แลว้ ซกั ด้วยนา้ สะอาดอีกคร้ัง และนาไปฝัง่ แดดให้แหง้
3.4.6 ห้องพกั ครู
1) จัดโต๊ะ เกา้ อี้ หรอื ทน่ี ั่ง ให้มกี ารเวน้ ระยะหา่ งระหวา่ งบุคคล อยา่ งน้อย 1-2 เมตร โดยคานึงถงึ
สภาพหอ้ งและขนาดพ้ืนที่ และจัดทาสญั ลกั ษณ์แสดงจดุ ตาแหนง่ ชัดเจน โดยถอื ปฏบิ ตั ิตามหลกั Social
distancing อยา่ งเครง่ ครดั
2) ใหค้ รูสวมหน้ากากผ้าหรอื หนา้ กากอนามยั ตลอดเวลาที่อย่ใู นสถานศึกษา
3) จัดใหม้ ีการระบายอากาศที่ดี ใหอ้ ากาศถ่ายเท เชน่ เปดิ ประตู หนา้ ต่าง กรณีใช้เคร่ืองปรบั อากาศ
กาหนดเวลาเปิด-ปิดเครื่องปรับอากาศ เปิดประตู หนา้ ต่างให้ระบายอากาศและทาความสะอาดอยา่ งสม่าเสมอ
4) ใหม้ กี ารทาความสะอาดโต๊ะ เกา้ อี้ อปุ กรณ์ และจุดสัมผัสเส่ยี ง เชน่ ลกู บดิ ประตู โทรศัพท์ อปุ กรณ์
คอมพวิ เตอร์ เปน็ ตน้ เป็นประจาทกุ วนั อย่างน้อยวนั ละ 2 คร้งั
5) จัดเตรยี มเจลแอลกอฮอลท์ าความสะอาดมือสาหรับครแู ละผมู้ าติดต่อบริเวณทางเขา้ ด้านหน้าประตู
และภายในห้องอย่างเพียงพอและทั่วถงึ
3.4.7 ห้องพยาบาล
1) จัดหาครหู รอื เจ้าหน้าท่ี เพ่ือดูแลนักเรียน ในกรณีทม่ี ีนกั เรียนปว่ ยมานอนพักรอผปู้ กครองมารบั
2) จดั ให้มีพน้ื ทีห่ รอื ห้องแยกอยา่ งชดั เจน ระหว่างนักเรยี นป่วยจากอาการไข้หวัดกบั นักเรียนป่วย
จากสาเหตอุ นื่ ๆ เพอ่ื ป้องกนั การแพร่กระจายเชื้อโรค
3) ทาความสะอาดเตียงและอุปกรณข์ องใชท้ ุกวัน
4) จัดเตรียมเจลแอลกอฮอลใ์ ชท้ าความสะอาดมือ บริเวณทางเข้าหน้าประตแู ละภายในหอ้ งพยาบาล
อยา่ งเพียงพอ
คมู่ ือการจัดการเรยี นการสอนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนา 2019
โรงเรียนพนาศกึ ษา สานกั งานเขตพ้นื ท่ีการศกึ ษามธั ยมศกึ ษาอบุ ลราชธานี อานาจเจรญิ
หน้า 27
3.4.8 โรงอาหาร
การจัดบริการภายในโรงอาหาร การนง่ั กนิ อาหารร่วมกันของผู้ใชบ้ ริการ รวมถงึ อาหาร ภาชนะ
อุปกรณ์ ตู้กดน้าด่ืม ระบบกรองน้าและผ้สู ัมผัสอาหาร อาจเปน็ แหล่งแพร่กระจายเช้ือโรค มีการดูแลเพื่อลด
และป้องกันการแพร่กระจายเชอ้ื โรค ดงั นี้
1) หนว่ ยงานท่ีจดั บรกิ ารโรงอาหาร กาหนดมาตรการการปฏิบัติให้สถานท่ีสะอาด ถกู สุขลกั ษณะ
ดังน้ี
(1) จดั ให้มีอ่างลา้ งมอื พร้อมสบู่
สาหรับใหบ้ ริการแก่ผู้มาใชบ้ ริการโรงอาหารบรเิ วณกอ่ นทางเขา้ โรงอาหาร
(2) ทุกคนที่จะเขา้ มาในโรงอาหาร ตอ้ งสวมหนา้ กากผา้ หรอื หน้ากากอนามยั
(3) จดั ใหม้ ีการเวน้ ระยะหา่ งระหว่างบุคคล อย่างน้อย 1-2 เมตร ในพืน้ ที่ต่าง ๆ เชน่ ท่นี ัง่ กนิ
อาหาร จดุ รับอาหาร จดุ ซื้ออาหาร จุดรอกดนา้ ดื่ม จดุ ปฏบิ ัติงานรว่ มกนั ของผ้สู ัมผสั อาหาร
(4) จัดเหลอื่ มช่วงเวลาซ้อื และกนิ อาหาร เพื่อลดความแออดั พืน้ ท่ีภายในโรงอาหาร
(5) ทาความสะอาดสถานทปี่ รุง ประกอบอาหาร พ้นื ที่ต้ังตกู้ ดน้าด่มื และพน้ื ทีบ่ รเิ วณ
ที่นงั่ กนิ อาหารให้สะอาด ด้วยนา้ ยาทาความสะอาดหรือผงซักฟอก และจัดใหม้ ีการฆ่าเชื้อดว้ ย
โซเดียมไฮโปคลอไรท์ (น้ายาฟอกขาว) ท่ีมคี วามเข้มข้น 1,000 สว่ นในลา้ นสว่ น (ใชโ้ ซเดียมไฮโปคลอไรท์ 696
อตั ราส่วน 1 ช้อนโต๊ะ ต่อน้า 1 ลติ ร)
(6) ทาความสะอาดโต๊ะและที่นงั่ ใหส้ ะอาด สาหรบั น่งั กนิ อาหาร ด้วยนา้ ยาทาความสะอาด
หรอื จัดใหม้ ีการฆา่ เชอื้ ด้วยแอลกอฮอล์ 70% โดยหยดแอลกอฮอล์ลงบนผ้าสะอาดพอหมาด ๆ
เชด็ ไปในทศิ ทาง เดยี วกัน หลังจากผูใ้ ชบ้ รกิ ารทุกครัง้
(7) ทาความสะอาดภาชนะ อุปกรณ์ และเครือ่ งใชใ้ ห้สะอาด ด้วยนา้ ยาล้างจาน
และมีการฆา่ เชอ้ื ดว้ ยการแชใ่ นนา้ รอ้ น 80 องศาเซลเซยี ส เป็นเวลา 30 วนิ าที
หรอื แช่ด้วยโซเดยี มไฮโปคลอไรท์ (นา้ ยาฟอกขาว) ทมี่ ีความเขม้ ขน้ 100 สว่ นในลา้ นส่วน
(ใช้โซเดียมไฮโปคลอไรท์ 6% อัตราสว่ น ครงึ่ ชอ้ นชาตอ่ น้า 1 ลิตร) 1 นาที แล้วลา้ งน้าให้สะอาด
และอบหรือพึ่งให้แหง้ ก่อนนาไปใชใ้ ส่อาหาร
(8) ทาความสะอาดตู้กดนา้ ด่มื ภายในต้ถู ังนา้ เยน็ อย่างน้อยเดอื นละ 1 คร้ัง เชด็ ภายนอก
และ ก๊อกน้าดื่มให้สะอาดทุกวัน และฆ่าเชื้อด้วยการแชโซเดียมไฮโปคลอไรท์ (ํนา้ ยาฟอกขาว) ท่ีมคี วามเข้มข้น
100 ส่วนในลา้ นส่วน เป็นเวลา 30 นาที ทุกครั้งก่อนบรรจุนา้ ใหม่ กรณีท่ีมเี ครื่องกรองน้า ทาความสะอาดด้วย
การล้างและเปลี่ยนไส้กรองตามระยะเวลากาหนดของผลิตภัณฑ์ และตรวจเช็คความชารุดเสยี หายของ
ระบบไฟฟ้าทีใ่ ชส้ ายดนิ ตรวจเชค็ ไฟฟ้ารว่ั ตามจดุ ต่าง ๆ โดยเฉพาะบรเิ วณก๊อกน้าทถ่ี ือเป็นจดุ เสยี่ ง เพือ่ ป้องกัน
ไฟฟ้าดูดขณะใชง้ าน
(9) จัดบรกิ ารอาหาร เนน้ ป้องกันการปนเปื้อนของเชอื้ โรค เช่น
อาหารปรงุ สาเร็จสกุ ใหม่ทกุ ครงั้ การปกปดิ อาหารปรงุ สาเรจ็ การใชภ้ าชนะทีเ่ หมาะสมกบั ประเภทอาหาร
และจัดให้มีภาชนะอปุ กรณ์ สาหรับ การกนิ อาหารอยา่ งเพียงพอเป็นรายบคุ คล เชน่ จาน ถาดหลุม ชอ้ น สอ้ ม
แก้วน้า เปน็ ตน้
คู่มอื การจัดการเรยี นการสอนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
โรงเรียนพนาศึกษา สานักงานเขตพืน้ ทกี่ ารศกึ ษามัธยมศึกษาอุบลราชธานี อานาจเจริญ
หนา้ 28
(10) ประชาสมั พันธ์ให้ความรูภ้ ายในโรงอการหาร เช่น การสวมหน้ากากท่ีถกู วธิ ี
ข้ันตอนการลา้ งมือที่ถกู ต้อง การเว้นระยะห่างระหวา่ งบุคคล การเลือกอาหารปรุงสกุ ใหม่สะอาด
เป็นต้น
(11) กรณมี ีการใช้บริการร้านอาหารจากภายนอก จัดส่งอาหารให้กับสถานศึกษา ควรให้ครู
หรอื ผู้รบั ผิดชอบ ตรวจประเมนิ ระบบสขุ าภิบาลอาหารของรา้ นอาหาร โดยกาหนดขอ้ ตกลงการจัดส่ง
อาหารปรงุ สกุ พรอมกิน ภายใน 2 ชั่วโมง หลงั ปรงุ เสรจ็ และมกี ารปกปิดอาหาร เพื่อป้องกันการปนเป้ือน
สง่ิ สกปรกลงในอาหาร
(12) พิจารณาทางเลือกใหผ้ ู้ปกครองสามารถเตรยี มอาหารกลางวันให้นักเรยี น มารับประทานเอง
เพ่อื ป้องกันเช้ือและลดการแพร่กระจายเช้ือ
2) ผู้สมั ผัสอาหาร ต้องดูแลสขุ ลกั ษณะส่วนบคุ คล มีการป้องกนั ตนเองและป้องกนั การแพรก่ ระจาย
เช้อื โรค ดงั น้ี
(1) กรณีมอี าการปว่ ย ไข้ ไอ มนี า้ มกู เจบ็ คอ หายใจลาบาก เหนอ่ื ยหอบ ไม่ได้กลนิ่ ไมร่ ูร้ ส
ให้หยดุ ปฏบิ ัติงานและแนะนาให้ไปพบแพทยท์ ันที
(2) ดูแลสขุ อนามยั สว่ นบุคคล มกี ารป้องกนั ตวั เอง แต่งกายให้สะอาด สวมผ้ากันเป้ือนและ
อปุ กรณ์ป้องกันการปนเปื้อนสู่อาหารในขณะปฏิบัติงาน
(3) รกั ษาความสะอาดของมอื ด้วยการล้างมอื บ่อยๆ ด้วยสบแู่ ละน้า กอ่ นปฏิบัตงิ านและ
ขณะเตรยี มอาหารประกอบอาหาร และจาหนา่ ยอาหาร รวมถึงหลังจากการจับเหรยี ญหรือธนบตั ร หรือสมั ผสั
ส่งิ สกปรก อาจใชเ้ จลแอลกอฮอลทาความสะอาดมือร่วมด้วย หลีกเลย่ี งการใชม้ ือสัมผสั ใบหนา้ ตา ปาก จมูก
โดยไม่จาเป็น
(4) สวมหนา้ กากผ้าหรือหน้ากากอนามยั ตลอดเวลาขณะปฏิบตั งิ าน
(5) มีพฤติกรรมขณะปฏบิ ัตงิ านการป้องกนั ของเช้ือโรค เชน่ ใชอ้ ุปกรณ์ในการปรุงประกอบอาหาร
เช่น เขยี ง มีด การหยิบจบั อาหาร แยกระหวา่ งอาหารสุก อาหารประเภท เน้ือสตั ว์สด ผัก และ ผลไม้
และไม่เตรยี มปรุง ประกอบอาหารบนพืน้ โดยตรง
(6) จัดเมนอู าหารท่จี าหน่าย โดยเน้นอาหารปรงุ สกุ ดว้ ยความรอ้ น โดยเฉพาะเนื้อสตั ว์
ปรงุ ให้ดว้ ยความร้อนไม่น้อยกว่า 70 องศาเซลเซียส หลกี เลย่ี งการจาหนา่ ยอาหารบูดเสยี งา่ ย เชน่
อาหารประเภทกะทิ และอาหารท่ีไม่ผ่านความร้อน เช่น ซชู ิ เป็นต้น
(7) อาหารปรงุ สาเร็จ จดั เก็บในภาชนะสะอาด มีการปกปิดอาหารจดั เก็บสงู จากพนื้ ไม่น้อยกว่า
60 เซนตเิ มตร กรณอี าหารปรุงสาเรจ็ รอการจาหนา่ ย ให้นามาอุ่น ทุก 2 ชั่วโมง
(8) การใช้ภาชนะบรรจุอาหารแบบใช้ครั้งเดียวทิง้ ตอ้ งสะอาดมคี ณุ ภาพเหมาะสม
กับการบรรจุอาหารปรุงสาเร็จ และไม่ควรใช้โฟมบรรจุอาหาร
(9) ระหว่างการปฏบิ ตั งิ าน ให้มกี ารเวน้ ระยะหา่ งระหว่างบุคคล อย่างนอ้ ย 1-2 เมตร
(10) ควรพจิ ารณาให้มรี ะบบชาระเงินออนไลน์สาหรับผบู้ ริโภค
ค่มู อื การจดั การเรยี นการสอนในสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เช้อื ไวรสั โคโรนา 2019
โรงเรียนพนาศกึ ษา สานักงานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษามธั ยมศึกษาอุบลราชธานี อานาจเจรญิ
หนา้ 29
3) ผเู้ ขา้ มาใช้บริการโรงอาหาร ตอ้ งปอ้ งกนั ตนเองและปอ้ งกันการแพร่กระจายเช้ือโรค ดังนี้
(1) ลา้ งมอื บอ่ ยๆด้วยสบแู่ ละนา้ หรือใชเ้ จลแอลกอฮอลทาความสะอาดมือทุกคร้ัง
ก่อนเขา้ ไปในโรงอาหาร ก่อนกินอาหาร ภายหลงั ซื้ออาหารหลงั จากจบั เหรยี ญหรือธนบตั ร
หลงั จากสัมผสั ส่ิงสกปรกหรือ หลงั ออกจากห้องส้วม
(2) ทกุ คนต้องสวมหนา้ กากผ้าหรือหนา้ กากอนามัยตลอดเวลาที่อยู่ในโรงอาหารหรือ
เข้าไปในสถานท่ีจดั จาหน่ายอาหาร
(3) เลือกซอื้ อาหารปรุงสาเรจ็ สกุ ใหม่ หลีกเล่ยี งการกินอาหารประเภทเน้ือสตั ว์ เครื่องในสัตว์
ทีป่ รุงไม่สุกและตรวจสอบคณุ ภาพของอาหารทันที เชน่ สภาพอาหาร กลนิ่
ความสะอาดและความเหมาะสมของภาชนะบรรจุ มีการปกปิดมดิ ชดิ ไม่เลอะเทอะ ไม่ฉีกขาด เปน็ ตน้
(4) ให้มกี ารเวน้ ระยะหา่ งระหวา่ งบุคคล อย่างน้อย 1-2 เมตร ในการซื้ออาหาร ขณะรออาหาร
นง่ั กนิ อาหาร ขณะรอกดนา้ ดื่ม
3.4.9 รถรบั – ส่งนกั เรียน
1) ทาความสะอาดรถรับ-ส่งนักเรยี นและบรเิ วณจดุ สัมผสั เส่ียง เชน่ ราวจับ ท่เี ปดิ ประตู เบาะนั่ง
ที่วางแขน ด้วยน้าผสมผงซกั ฟอก หรอื น้ายาทาความสะอาดที่มีสว่ นผสมของโซเดียมไฮโปคลอไรท
(น้ายาฟอกผา้ ขาว) และปฏบิ ัติตามคาแนะนาบนฉลากผลิตภัณฑ์ (เชน่ ผสมโซเดยี มไฮโปคลอไรท ความเข้มข้น
6% ปรมิ าณ 20 มลิ ลิลติ ร ตอ่ นา้ 1 ลิตร)
2) นักเรยี นทใ่ี ช้บริการรถรบั -สง่ นกั เรยี น ตอ้ งสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามยั
ตลอดเวลาท่ีอยบู่ นรถ ลดการพูดคุยกัน เลน่ หยอกล้อกนั รวมถึงกาหนดจุดรบั -ส่งนักเรียนสาหรับผปู้ กครอง
3) การจัดท่ีนั่งบนรถรบั -สง่ นักเรียน จัดให้มีการเว้นระยะห่างระหวา่ งบุคคล อยา่ งน้อย 1-2 เมตร
โดยคานึงถึงขนาดพ้นื ที่ของรถ จานวนที่นง่ั พิจารณาตามคุณลกั ษณะของรถและความเหมาะสม
จัดทาสญั ลกั ษณ์แสดงจดุ ตาแหนง่ ชดั เจน โดยยึดหลกั Social distancing อยา่ งเครง่ ครัด
4) กอ่ นและหลงั ใหบ้ รหิ ารรับ-สง่ นกั เรียนแตล่ ะรอบ ทาความสะอาดภายในและภายนอกรถทุกครง้ั
เปดิ หน้าต่าง ประตู ระบายอากาศให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก
5) จดั ให้มีเจลแอลกอฮอลสาหรบั ใชท้ าความสะอาดมือบ่อยๆ บนรถรบั -ส่งนกั เรยี น
3.4.10 การเข้าแถวเคารพธงชาติ
1) การจดั พน้ื ทเี่ ข้าแถว ให้มีการเวน้ ระยะห่างระหว่างบคุ คล อยา่ งน้อย1-2 เมตร กรณีมีพน้ื ที่จากัด
ไมเ่ พียงพอ สลับช้นั เรียนมาเข้าแถวบรเิ วณหน้าเสาธง และจัดให้มีการเขา้ แถวบริเวณที่มีพื้นที่กวา้ งขวาง เช่น
หน้าหอ้ งเรยี น ลานเอนกประสงค์ ลานสนามกฬี า โรงยมิ หอประชุม เปน็ ตน้
2) ครแู ละนักเรียนทุกคนสวมหนา้ กากผ้าหรือหนา้ กากอนามัย ตลอดเวลาการเข้าแถวเคารพธงชาติ
3) ลดระยะเวลาการจัดกจิ กรรมหน้าเสาธง กรณมี ีการสอื่ สารประชาสมั พันธ์ มีการใช้ช่องทางอ่นื ๆ
เชน่ เสียงตามสาย ผา่ นออนไลน์ Line Facebook E-mail แจ้งในหอ้ งเรียน เป็นต้น
4) ทาความสะอาดอุปกรณ์ของใช้หรือจดุ สัมผัสเสย่ี งภายหลงั การใชง้ านทุกครั้ง เชน่ เชือกทใ่ี ช้
ชักธงชาติ ไมโครโฟน เป็นตน้
คู่มือการจัดการเรยี นการสอนในสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019
โรงเรียนพนาศึกษา สานกั งานเขตพืน้ ทกี่ ารศึกษามธั ยมศกึ ษาอุบลราชธานี อานาจเจรญิ
สว่ นที่ 4
แนวทางการจัดการเรียนการสอนใน
สถานการณก์ ารแพรร่ ะบาด
ของโรคติดเช้ือไวรสั โคโรนา 2019
(Covid-19)
คู่มอื การจดั การเรยี นการสอนในสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เชื้อไวรัสโคโรนา 2019
โรงเรียนพนาศกึ ษา สานกั งานเขตพ้นื ท่กี ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษาอบุ ลราชธานี อานาจเจริญ
หนา้ 31
ส่วนที่ 4
แนวทางการจัดการเรยี นการสอนในสถานการณ์การแพรร่ ะบาด
ของโรคตดิ เชื้อไวรสั โคโรนา 2019 (Covid-19)
แนวทางการจัดการเรยี นการสอนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคตดิ เช้ือไวรสั โคโรนา 2019
(Covid-19) ท่ีกาหนดไว้น้ี สถานศึกษาควรพจิ ารณาเลอื กจัดการเรยี นการสอนโดยพจิ ารณารปู แบบใหม้ ี
ความเหมาะสม ตามความต้องการของสถานศกึ ษา และให้สอดคล้องกับหลกั สตู รการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน
นอกจากน้ี สถานศึกษาสามารถทจ่ี ะกาหนดแนวทางการการจดั การเรยี นการสอนที่แตกต่างจากท่ีกาหนดไวน้ ้ี
หรอื จัดการเรยี นการสอนแบบผสมผสาน (Hybrid) ท้ังนีต้ ้องคานึงถึงความปลอดภัยของนักเรียน ครู
และบคุ ลากร เป็นสาคัญ โรงเรยี นพนาศึกษากาหนดแนวทางดาเนินการจดั การเรยี นการสอน ดังน้ี
1. รูปแบบเว้นระยะห่าง (social distancing)
1.1 โรงเรียนได้มกี ารจัดรูปแบบการเวน้ ระยะห่าง (social distancing) ของโตะ๊ เรยี นของนกั เรียน
ในทุกห้องเรยี น โดยพิจารณาทีจ่ าํ นวนนักเรยี นวา่ ถา้ นักเรียนห้องไหนไม่เกนิ 30 คน ให้ใช้ห้องเรียนเดิม
ส่วนนกั เรียนหอ้ งไหนทมี่ ีจาํ นวนเกิน 30 คน โรงเรียนมกี ารจดั หาหอ้ งเรยี นใหใ้ หม่ โดยใช้หอ้ งปฏบิ ัติการต่างๆ
ทีม่ ีพน้ื ทมี่ ากกวา่ ห้องเรียนปกติ เชน่ หอ้ งปฏิบตั ิการทางวิทยาศาสตร์ หอ้ งปฏบิ ตั ิการคณิตศาสตร์
หอ้ งปฏิบตั กิ ารภาษาองั กฤษ ห้องโสตทัศนศึกษา และหอ้ งอนื่ ๆ ที่สามารถรองรับนกั เรียนได้ โดยเนน้ การจัด
เวน้ ระยะหา่ ง
1.2 โรงเรยี นมีการจัดตารางเรยี นตารางสอน ให้นักเรยี นได้พักรบั ประทานอาหารไม่พร้อมกัน คือ
นกั เรยี นระดับชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 1 – 3 พักรบั ประทานอาหารกลางวนั เวลา 11:00 – 12:00 น. และนกั เรียน
ระดบั ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 4 – 6 พักรับประทานอาหารกลางวนั เวลา 12:00 – 13:00 น.
1.3 ฝ่ายงานอาคารสถานท่ี จะได้ทําการประกาศกําหนดห้องเรียน และจดั ทําแผนผงั การใช้
หอ้ งเรียนให้ทุกคนไดร้ ับทราบอยา่ งทว่ั ถึงกนั
2. มาตรการการปอ้ งกันการแพร่ระบาด
2.1 การมาโรงเรียน โรงเรยี นมีการสื่อสาร ประชาสมั พันธใ์ นระบบออนไลน์ โดยผ่านระบบดแู ล
ชว่ ยเหลอื นกั เรียน ในการดูแลตนเอง และบุคคลในครอบครัว ในสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของเช้ือไวรสั
โคโรนา 2019 และมกี ารตรวจคดั กรองตามระบบการคัดกรองของกระทรวงสาธารณสุข ในการเข้ามา
โรงเรยี นของนกั เรยี นในวันทาํ การเรียนการสอนปกติ โดยโรงเรยี นไดร้ บั การสนบั สนุนจากทางเทศบาล
สาธารณสุขอําเภอ และทางอําเภอ และหนว่ ยงานทีเ่ กย่ี วข้อง ภาคีเครือขา่ ย เป็นอยา่ งดี
ด้านการคัดกรอง จัดกิจกรรมโดย
- มกี ารตรวจวัดอณุ หภมู ิรา่ งกายก่อนเข้าสถานศึกษาบริเวณประตทู างเขา้
- บคุ ลากรทกุ คนปฏิบตั ิ กอ่ นเขา้ - ออกสถานศกึ ษาต้องลา้ งมอื ให้สะอาดทกุ คร้งั
- นกั เรยี นท่ีมอี าการเจ็บป่วยเปน็ ไข้ให้หยุดเรียน
2.2 การใชพ้ ้ืนท่ี ห้องเรียน โรงอาหาร หอ้ งประชมุ สนามกฬี า หอ้ งสมุด ฯลฯ
คูม่ อื การจัดการเรยี นการสอนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคตดิ เชอ้ื ไวรสั โคโรนา 2019
โรงเรียนพนาศึกษา สานักงานเขตพ้นื ท่กี ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษาอบุ ลราชธานี อานาจเจริญ
หนา้ 32
ดา้ นการจัดกจิ กรรมหน้าเสาธง จัดกจิ กรรมโดย
- ครแู ละนกั เรยี นทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามยั
- มกี ารประชาสมั พันธ์ขา่ วสาร ใช้เวลาไมเ่ กิน 3 - 5 นาที โดย ครเู วรประจําวัน หรือใช้
ชอ่ งทางอน่ื ๆ เช่น เสียงตามสาย เพจของโรงเรยี น กลมุ่ ไลนผ์ ูป้ กครองเครือขา่ ย ฯลฯ
ดา้ นการจัดการเรยี นการสอน โดยจัดการเรยี นการสอนโดยใช้รปู แบบ On site
ด้านการเข้ารบั บริการโรงอาหาร จดั กจิ กรรมโดย
- ให้นักเรยี นระดับชั้น ม.1 – ม.3 เขา้ รับบริการ เวลา 11:00 น. - 12:00 น.
- ให้นกั เรียนระดบั ชน้ั ม.4 - ม.6 เข้ารับบริการ เวลา 12:00 น. - 13:00 น.
- นกั เรยี นทกุ คนต้องสวมหน้ากากอนามยั ก่อนเขา้ โรงอาหารทุกคร้ัง
- กอ่ นเข้า- ออก รบั บรกิ ารโรงอาหารทุกครั้งตอ้ งล้างมือให้สะอาด
- การน่ังรับประทานอาหารต้องเวน้ ระยะห่างอย่างน้อย 1 – 2 เมตร
ด้านการจดั ระเบียบหอ้ งเรียน จดั กิจกรรมโดย
- นกั เรียนทกุ คนตอ้ งสวมหน้ากากอนามัยเข้าหอ้ งเรียน
- จัดโตะ๊ เรยี นเวน้ ระยะหา่ งอย่างน้อย 1 เมตร
2.3 การเดินทางมาโรงเรยี นของนักเรียน โดยรถโดยสาร โรงเรยี นได้ดําเนินการประชาสมั พนั ธ์ผา่ น
ระบบดแู ลช่วยเหลือนกั เรยี น โดยนักเรยี นทกุ คนต้องสวมหน้ากากอนามัยข้นึ รถโดยสาร
2.4 การจดั การเรียนการสอน ครูผูส้ อน/ครทู ปี่ รึกษา สรา้ งความเขา้ ใจ โดยเน้นใหน้ กั เรยี นทกุ คน
ไดใ้ ห้ความรว่ มมอื กันปฏบิ ัตอิ ย่างจรงิ จงั และถูกต้อง โดยมีการบูรณาการทุกกลุ่มสาระการเรยี นรู้ โดยครูมคี ูม่ ือ
การปฏิบัติเป็นแนวเดียวกัน และครูผูส้ อนทกุ คนมกี ารใส่ใจในการตรวจสอบดูแลนักเรยี นทุกคน
2.5 โรงเรียนมีศนู ย์ โคโรนา 2019 มนี กั เรียนชุมนมุ อนามัยร่วมปฏิบัตกิ ิจกรรมทุกวนั
ค่มู อื การจดั การเรยี นการสอนในสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เชอ้ื ไวรัสโคโรนา 2019
โรงเรียนพนาศึกษา สานักงานเขตพน้ื ทีก่ ารศึกษามธั ยมศึกษาอุบลราชธานี อานาจเจรญิ
หนา้ 33
3. การปฏิบัตกิ ับนกั เรียนท่ีตอ้ งเรียนท่ีบา้ น/กลมุ่ เส่ียง
เพ่อื เปน็ การไม่ประมาท มีการประชาสัมพนั ธ์ (กระบอกเสยี ง) ฝากประชาสัมพันธไ์ ปยงั ผู้ใหญ่บา้ น
ตามหมู่บ้านต่างๆ จัดเสยี งตามสาย/หอกระจายขา่ วตามหมู่บา้ น
คู่มอื การจัดการเรยี นการสอนในสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
โรงเรยี นพนาศกึ ษา สานักงานเขตพ้นื ทก่ี ารศึกษามธั ยมศึกษาอบุ ลราชธานี อานาจเจริญ
ภาคผนวก
ค่มู อื การจัดการเรยี นการสอนในสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคติดเชือ้ ไวรัสโคโรนา 2019
โรงเรยี นพนาศึกษา สานักงานเขตพนื้ ที่การศึกษามธั ยมศกึ ษาอุบลราชธานี อานาจเจรญิ
หน้า 35
มาตรการเปิดเรยี น On-Site ปลอดภัย อย่ไู ดก้ ับโควดิ 19
ในสถานศึกษาเตรียมความพรอ้ มการเปิดภาคเรยี นท่ี 1/2565
ของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสขุ
มาตรการเปดิ เรียน On-Site ปลอดภยั อยไู่ ด้กับโควิด 19
ในสถานศึกษา เตรียมความพรอ้ มการเปิดภาคเรียนท่ี 1/2565
*********************************
สถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อโควิด 19 ในประเทศไทย พบผู้ติดเชื้อเพ่ิมขึ้นอย่างต่อเน่ือง
รวมถึงผู้ติดเชื้อที่เป็นนักเรียนและครู พบว่า เด็กอายุ 19 ปี มีการติดเชื้อโควิด 19 จานวน 2,674 ราย ร้อยละ
14.15 จากจานวนผู้ติดเช้อื ทุกกล่มุ อายุ 18,892 จานวนราย ส่วนใหญ่เปน็ กลุ่มไมม่ ีอาการหรอื มีอาการเล็กน้อย
(จากรายงานข้อมูลผู้ป่วยยืนยันประจาวัน กรมควบคุมโรค 16เมษายน 2565) ดังน้ันกระทรวงสาธารณสุข
ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ มีการปรับรูปแบบการเรียนการสอนและการสอบเพ่ือให้นักเรียนและนักศึกษา
สามารถเข้าถึงโอกาสทางการศึกษาได้มากสุดได้ทบทวนและพัฒนาปรับปรุงแนวปฏิบัติสาหรับสถานศึกษา
ตามมาตรการเปดิ เรียน On-Site ปลอดภัยอยู่ได้กบั โควิด 19 ในสถานศกึ ษาเตรียมความพร้อมการเปดิ
ภาคเรยี นที่ 1/2565 เพ่ือใหน้ กั เรียน ครู บคุ ลากร และสถานศึกษา เปดิ เรยี น On-Site จดั ใหม้ กี ารเรียน
การสอนท่โี รงเรยี น มีปฏิสมั พันธ์แลกเปลย่ี นเรียนรรู้ ่วมกัน และอยู่ไดก้ ับโควิด 19 อย่างปลอภัยมาตรการ
เปิดเรียน On-Site ปลอดภัย อยู่ได้กับโควิด19 ในสถานศึกษา รองรับการเปิดภาคเรียนที่ 1/2565
โดยมแี นวทาง ดงั น้ี
แนวทางการเฝ้าระวังในการเตรียมความพร้อมสาหรับการเปิดเรียน On-Site ด้วยหลักการ“ตัดความ
เส่ียง สรา้ งภมู ิคุม้ กนั ”ด้วยกนั 3T1V
T : Thai Stop Covid Plus (TSC+) สถานศึกษาตอ้ งประเมนิ ตนเองเตรียมพร้อมก่อนเปิดเรียน
T : Thai Save Thai (TST) นักเรยี น ครู และบุคลากรทางการศกึ ษา
ประเมินความเสย่ี งตนเองเป็น ประจา
T : Test ตรวจคดั กรอง เฝา้ ระวงั อย่างเหมาะสม เชน่ ATK เมอ่ื มีความเส่ยี งหรอื มีอาการ
V : Vaccine ครู บุคลากร ผู้ปกครอง และเด็กอายุ 5-18 ปี ไดร้ ับวัคซนี โควิด 19 ตามเกณฑ์
มาตรการสร้างความปลอดภัย ป้องกันโควิด 19 ในสถานศกึ ษา ( 6 หลัก 6 เสริม 7 เขม้ )
6 มาตรการหลัก (DMHT-RC)
: เว้นระยะห่าง สวมหน้ากาก ล้างมือ ตรวจคัดกรอง ลดแออัด ทาความสะอาด
6 มาตรการเสรมิ (SSET-CQ)
: ดแู ลตนเอง ใช้ช้อนส่วนตวั ทานอาหารปรงุ สกุ ใหม่ ลงทะเบยี นเขา้ -ออกสารวจ
ตรวจสอบ กกั กัน ตนเอง
7 มาตรการเขม้
1. ประเมินThai Stop Covid Plus (TSC+) และรายงานผล ผ่าน MOE Covid
2. ทากจิ กรรมกลุ่มยอ่ ย (Small Bubble)
3. จดั ระบบการให้บริการอาหารตามหลกั สุขาภบิ าลและโภชนาการ
คูม่ ือการจดั การเรยี นการสอนในสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนา 2019
โรงเรียนพนาศกึ ษา สานักงานเขตพื้นท่ีการศกึ ษามัธยมศึกษาอุบลราชธานี อานาจเจรญิ
หนา้ 36
4. อนามยั สิง่ แวดล้อมตามเกณฑ์มาตรฐาน
5. แผนเผชิญเหตุ มกี ารซกั ซ้อม รวมถึง การเตรียมพร้อม SchoolIsolation
6. ควบคมุ ดูแลการเดินทางจากบา้ นไปโรงเรียนใหป้ ลอดภยั เน้นมาตรการปลอดภยั รถโรงเรียน
7. School Pass สาหรับนกั เรยี น ครู และบคุ ลากรในสถานศกึ ษา
มาตรการเปิดเรยี น On-Site ปลอดภัย อยไู่ ดก้ ับโควิด 19
ในสถานศึกษา รองรบั การเปิดภาคเรยี นที่ 1/2565
สาหรบั โรงเรยี นประจาเข้มมาตรการ Sandbox Safety Zone in School (SSS)
รูปแบบ Sandbox Safety Zone in School สาหรับโรงเรียนประจา แบง่ เป็น 3 โซน ดังน้ี
1. Screening Zone จดั พนื้ ทห่ี รือบริเวณให้เปน็ จดุ คัดกรอง (ScreeningZone) ทเี่ หมาะสม จดั จุด
รบั - สง่ สง่ิ ของ จดุ รบั ส่งอาหาร หรือจดุ เส่ียงอ่นื เปน็ การจาแนกนักเรียน ครู บุคลากร ผู้ปกครอง
และผูม้ าติดต่อทเ่ี ข้ามาในโรงเรียน ไมใ่ หใ้ กลช้ ดิ กับบคุ คลในโซนอืน่ รวมถงึ จดั ให้มีพน้ื
เฉพาะบุคลากรทไี่ มส่ ามารถเขา้ ปฏิบัติงานในโซนอน่ื ได้
2. Quarantine Zone จดั พื้นท่ีหรอื บรเิ วณให้เปน็ จุดกักกันและสงั เกตอาการ สาหรับนักเรียน ครู
และบคุ ลากรทย่ี ังต้องสงั เกตอาการ หรอื ยงั ไม่ทร้าบสถานะการตดิ เช้ือเนน้ การจัดกิจกรรมแบบ
Small Bubble Safety Zone จดั เป็นพน้ื ท่ปี ลอดเช้ือ ปลอดภยั สาหรบั นกั เรยี น ครู
และบคุ ลากรทป่ี ฏิบัตกิ ิจกรรมแบบปลอดภยั
ค่มู อื การจัดการเรยี นการสอนในสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เชื้อไวรัสโคโรนา 2019
โรงเรยี นพนาศกึ ษา สานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษามธั ยมศึกษาอุบลราชธานี อานาจเจรญิ
หนา้ 37
ค่มู ือการจัดการเรยี นการสอนในสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เช้อื ไวรสั โคโรนา 2019
โรงเรยี นพนาศกึ ษา สานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษามธั ยมศึกษาอุบลราชธานี อานาจเจรญิ
หนา้ 38
ค่มู ือการจัดการเรยี นการสอนในสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เช้อื ไวรสั โคโรนา 2019
โรงเรยี นพนาศกึ ษา สานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษามธั ยมศึกษาอุบลราชธานี อานาจเจรญิ
หนา้ 39
ค่มู ือการจัดการเรยี นการสอนในสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เช้อื ไวรสั โคโรนา 2019
โรงเรยี นพนาศกึ ษา สานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษามธั ยมศึกษาอุบลราชธานี อานาจเจรญิ
หนา้ 40
ค่มู ือการจัดการเรยี นการสอนในสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เช้อื ไวรสั โคโรนา 2019
โรงเรียนพนาศึกษา สานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษามธั ยมศึกษาอบุ ลราชธานี อานาจเจรญิ
เอกสารอ้างอิง
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสขุ . (2564). ค่มู ือการปฏิบัติมาตรการ Sandbox Safety Zone in
School เปดิ เรยี นมน่ั ใจ ปลอดภัยไรโ้ ควดิ 19 ในสถานศกึ ษา. กรมอนามยั กระทรวงสาธารณสขุ
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสขุ . (2563). คู่มือการปฏบิ ัตสิ าํ หรบั สถานศกึ ษา ในการปอ้ งกนั การแพร่
ระบาดของโรคโควดิ 19. กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสขุ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. (2564) ประกาศ
คู่มือการจัดการเรยี นการสอนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
โรงเรยี นพนาศึกษา สานกั งานเขตพ้ืนทีก่ ารศึกษามธั ยมศึกษาอุบลราชธานี อานาจเจริญ
คณะทางาน
ท่ีปรึกษา ผู้อานวยการโรงเรียนพนาศึกษา
1. นายอชริ ะ วิรยิ สุขหทัย รองผอู้ านวยการโรงเรียนพนาศกึ ษา
2. นางสาวโฉมสดุ า บุญล้อม รองผูอ้ านวยการโรงเรยี นพนาศกึ ษา
3. นายกฤชนนท์ บุญรอด รองผอู้ านวยการโรงเรียนพนาศึกษา
4. นางนทั ธมน ผลทวี
คณะทางานหลกั ครชู าํ นาญการ ประธานกรรมการ
1. นางปยิ วรรณ ผ่าโผน ครผู ู้ชว่ ย รองประธานกรรมการ
ครู
2. นางสาววารณุ ี สบื ผล ครูผู้ช่วย กรรมการ
3. นายวันเฉลมิ พงษ์วจิ ติ ร ครู กรรมการ
4. นายชษิ ณพุ งศ์ นนทะสี กรรมการและเลขานกุ าร
5. นางสาวพรนภา พรมวนั
ค่มู ือการจดั การเรยี นการสอนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคตดิ เช้ือไวรัสโคโรนา 2019
โรงเรยี นพนาศกึ ษา สานกั งานเขตพืน้ ที่การศกึ ษามธั ยมศึกษาอบุ ลราชธานี อานาจเจริญ
คูม่ ือการจัดการเรยี นการสอนในสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เชอ้ื ไวรัสโคโรนา 2019