The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

การพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) จังหวัดสุพรรณบุรี ประจำปี 2565

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

ผลงาน พชอ. ปี 65

การพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) จังหวัดสุพรรณบุรี ประจำปี 2565

Keywords: ผลงาน พชอ.

47 การพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) จังหวัดสุพรรณบุรีประจำปี2565


48 การพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) จังหวัดสุพรรณบุรีประจำปี2565


1. วิเคราะห์ปัญหา / ความสำคัญของผลงาน สถานการณ์การเกิดอุบัติเหตุของประเทศไทยพบว่าอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนน สูงเกินค่าเป้าหมายของประเทศเกิน ๒๕.๓ ต่อแสนประชากรเช่นเดียวกับจังหวัดสุพรรณบุรีที่พบในปี 2562 - 2564 พบว่าอัตราการเสียชีวิตเกินค่าเป้าหมายในทุกอำเภอ โดยในปี 2564 พบว่าอัตราการ เสียชีวิตจากการบาดเจ็บทางถนนอยู่ในช่วง 31.09 - 50.83 ต่อแสนประชากร ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 38.84 และ อำเภอศรีประจันต์ พบว่าอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนการบาดเจ็บมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ ๒๕.๙๒ พบว่าเกินค่าเป้าหมายของประเทศและจังหวัด อำเภอศรีประจันต์ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุบนท้อง ถนน โดยได้นำปัญหาการเกิดอุบัติเหตุของอำเภอศรีประจันต์เข้าในที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพ ชีวิตของอำเภอศรีประจันต์ มีการเก็บสถิติการเกิดอุบัติเหตุทุกๆ ปี และคืนข้อมูลให้กับชุมชน เพื่อนำไป วิเคราะห์สาเหตุการเกิดอุบัติเหตุ หาแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ร่วมกันโดยให้เกิดการดำเนินงานที่อย่างเป็นรูปธรรม เป็นแบบอย่างและมีการบูรณาการดำเนินงานร่วมกับ ทุกเครือข่าย ในรูปแบบคณะกรรมการ พชอ. การดำเนินงานการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนนของอำเภอศรีประจันต์ ได้มี การทบทวนสาเหตุการตาย พบว่าสาเหตุของอุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดจากพฤติกรรมของผู้ขับขี่ที่ขับรถเร็ว ไม่ เคารพกฎจราจร ไม่สวมหมวกนิรภัยและตัดหน้ากระชั้นชิดพบในถนนสายหลักมากว่าสายรอง อำเภอ ศรีประจันต์เป็นอำเภอที่มีขนาดเล็ก แต่พบผู้บาดเจ็บและชีวิตเป็นอันอับที่ ๕ ของจังหวัดสุพรรณบุรี อุบัติเหตุ ส่วนใหญ่ที่พบจะเป็นเส้นหลัก 2. วัตถุประสงค์ ๒.๑. เพื่อวางแผนในการควบคุมการเกิดอุบัติเหตุให้น้อยลง 2.๒ เพื่อสร้างระบบในการควบคุมอุบัติเหตุอย่างมีส่วนร่วมแบบบูรณาการ 3.๒ เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุและเสียชีวิตในพื้นที่อำเภอศรีประจันต์ ๓. เป้าหมาย คนศรีประจันต์ มีวินัยจราจร อุบัติเหตุลดลง ๔. ขั้นตอนการดำเนินงาน ๔.๑. ประชุมคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ ๔.๒. นำเสนอและจัดการข้อมูลเฝ้าระวังรวบรวมสถานการณ์เพื่อนำมาวางแผนการป้องกันและแก้ไข ปัญหาการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ๔.๓. จัดเก็บข้อมูลเชิงลึกโดยการสอบสวนการเกิดอุบัติในทุกพื้นที่ ๔.3. ประสานการดำเนินงานและขับเคลื่อนในรูปแบบภาคีเครือข่าย การป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนน อําเภอศรีประจันต์ 49 การพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) จังหวัดสุพรรณบุรีประจำปี2565


๔.5. สร้างภาคีเครือข่ายขับเคลื่อนในระดับอำเภอและตำบล ๔.6. สรุปกำหนดเป้าหมาย ( จุดเสี่ยง ) ในพื้นที่ เพื่อการแก้ไขเร่งด่วน ๔.7. กำหนดมาตรการชุมชนในพื้นที่เพื่อควบคุมอุบัติเหตุ ๔.8. การสื่อสารความเสี่ยงสู่ ชุมชนและผู้นำองค์กรต่างๆ ในพื้นที่ ๔.9. สรุปการดำเนินงานเสนอ พชอ. เพื่อรับทราบและวางแผนการดำเนินงานในปีต่อไป 5. ผลการดำเนินงาน/ผลลัพธ์ ๕.๑. กำหนดจุดเสี่ยงภายในอำเภอศรีประจันต์ ได้รับการปรับปรุงแก้ไข คิดเป็นร้อยละ ๑๐๐ ติดตั้งไฟสัญญาณสีเหลืองกระพริบเตือน ติดตั้งไฟสัญญาณสีเหลืองกระพริบเตือน ติดสัญญาณไฟ และกล้อง CCTV เพื่อการบังคับใช้กฎหมาย ติดตั้งป้ายเตือน จราจร 50 การพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) จังหวัดสุพรรณบุรีประจำปี2565


๕.๒ พฤติกรรมการขับขี่การสวมหมวกนิรภัยของผู้ใช้รถใช้ถนน คิดเป็นร้อยละ ๘๕ ๖.ปัจจัยแห่งความสำเร็จ ภาคีเครือข่ายที่เข้มแข็ง ๗.สรุปและข้อเสนอแนะ การดำเนินงานการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนนของอำเภอศรีประจันต์ได้รับ ความร่วมมือและมีการบูรณาการร่วมกับภาคีเครือข่ายในระดับอำเภอลงสู่ตำบล การคืนข้อมูลสู่ชุมชนเป็นเรื่อง สำคัญทำให้ชุมชนตระหนักถึงปัญหา สามารถวิเคราะห์ปัญหาในพื้นที่และร่วมกันแก้ไขปัญหาโดยการมีส่วน ร่วมของชุมชน ปัญหาการเกิดอุบัติเหตุนั้นเกิดจากปัจจัยหลัก ๓ ปัจจัย คือ พฤติกรรมการขับขี่ สภาพแวดล้อม และสภาพความพร้อมของยานพาหนะ 51 การพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) จังหวัดสุพรรณบุรีประจำปี2565


Frame work: ผลการดำเนินงาน พชอ.ดีเด่น ประจำปี 2565 ชื่อประเด็นพชอ: การป้องกันและแก้ปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนน อำเภอศรีประจันต์ 52 การพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) จังหวัดสุพรรณบุรีประจำปี2565


53 การพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) จังหวัดสุพรรณบุรีประจำปี2565


1 ชื่อประเด็นพชอ. : อาหารปลอดภัย โดย พชอ.ดอนเจดีย์ 2.วิเคราะห์ปัญหา/ความส าคัญของปัญหา ตามที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตอ าเภอดอนเจดีย์ ได้มีการน าเสนอข้อมูลบริบทพื้นที่ ของ ประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ท านา ท าสวน ปลูกผัก โดยมีการใช้สารเคมีในการท าเกษตรกรรม ประกอบกับโรคที่เกิดจากพฤติกรรมไม่ถูกต้อง ในการบริโภคอาหาร การออกก าลังกาย ปัญหาดังกล่าวจึงมีมติคัดเลือก ประเด็นอาหารปลอดภัย จึงก าหนดให้มีการส่งเสริมให้ประชาชนได้บริโภคอาหารที่ปลอดภัย โดยมีการส่งเสริมให้ ประชาชนปลูกผักและสมุนไพรไว้บริโภคในครัวเรือนโดยลดการใช้สารเคมี การด าเนินการส่งเสริมมาตรการเฝ้าระวัง ความปลอดภัยทางด้านอาหาร ทั้งในส่วน ต้นน้ า กลางน้ า และ ปลายน้ า” มีการสร้างต้นแบบในการปลูกผักสมุนไพร หน้าบ้าน อสม. น่ามอง บ้านผู้น าชุมชน สถานบริการสาธารณสุขและในโรงเรียน ส่งผลผลิตเข้ามาจ าหน่ายในตลาดสด 3 แห่ง ( ผ่านเกณฑ์ตลาดสดตามเกณฑ์มาตรฐาน 5 ดาว 1 แห่ง 3 ดาว 2 แห่ง) และตลาดนัด 2 แห่ง เป็นการส่ง อาหารถึงผู้บริโภคโตยตรง ได้มีการตรวจสารปนเปื้อนในอาหาร ได้แก่ ร้านจ าหน่ายอาหาร 7 แห่ง ร้านจ าหน่าย อาหารและแผงลอย 228 ร้าน ปัญหาที่ส าคัญคือ แหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่ส าคัญของจังหวัดสุพรรณบุรี บริเวณหน้าพระบรมราชานุสรณ์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช มีร้านค้าแผงลอยจ าหน่ายอาหารและสินค้ามาตั้งจ าหน่าย บริเวณด้านหน้าจ านวนมาก สร้างความไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย มีการร้องเรียนจากประชาชนทั่วไปและนักท่องเที่ยว เรื่องความสะอาดของแผงลอยจ าหน่ายอาหารและความสะอาดของสถานที่ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวได้อยู่ในการดูแลของ ส านักศิลปากรที่ 2 สุพรรณบุรี ในการประชุมคณะกรรมการพชอ. นายอ าเภอดอนเจดีย์ ประธานคณะกรรมการพชอ. จึงได้ด าเนินการร่วมกันระหว่างเทศบาลดอนเจดีย์ มหาดไทย รพ.ดอนเจดีย์ ต ารวจ และสสอ.ดอนเจดีย์ ในการขอใช้ พื้นที่ต้องได้รับความร่วมมือทุกหน่วยงานในการได้รับอนุญาต การพัฒนา ตลาดสด แผงลอยและสถานที่ประกอบการ ด้านอาหาร เพื่อให้ผู้บริโภคได้บริโภคอาหารที่สะอาด ถูกสุขลักษณะ โดยเทศบาลต าบลดอนเจดีย์และเครือข่ายที่ เกี่ยวข้องได้มีบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อพัฒนาและยกระดับมาตรฐานอาหารริมบาทวิถี (Street Food Good Health ) หน้าพระบรมราชานุสรณ์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ใช้หลักการแนวคิด การจัดการปกครองสาธารณะแนวใหม่ ( New Public Governance: NPG) สามารถปรับเปลี่ยนการบริหารจาก แนวคิดในการจัดการแบบเครือข่ายที่เปิดโอกาสให้เกิดความร่วมมือกันของทุกๆภาคส่วนมามีส่วนร่วมในกระบวนการ นโยบายและการส่งมอบบริการสาธารณะ เพื่อเป็นการเสริมสร้างพลังอ านาจและความเข้มแข็งให้กับชุมชนท้องถิ่น มี ทุนทางสังคม (Social Capital) ที่จะเป็นพลังอ านาจในการต่อรองและสร้างความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นในสังคมต่อไป โดยทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมในการคิด ร่วมตัดสินใจ ร่วมปฏิบัติงานร่วมรับผิดชอบในรูปแบบ “คณะกรรมการ ชมรมผู้ประกอบการจ าหน่ายอาหารหน้าพระบรมราชานุสรณ์-สมเด็จพระนเรศวรมหาราช”เครือข่ายที่เกี่ยวข้องเป็น ผู้สนับสนุนในการด าเนินการพัฒนาและยกระดับมาตรฐานอาหารริมบาทวิถี( Street Food Good Health) มีเป้าหมาย ส่งเสริมให้ประชาชนได้บริโภคอาหารที่ปลอดภัย สภาพปัญหาที่ต้องการแก้ไข ประชาชนมีการปลูกพืชผักและสมุนไพรมีการใช้สารเคมี ตลาดสด ตลาดนัด จ าเป็นต้องพัฒนาต่อเนื่องตามเกณฑ์มาตรฐานให้สอดคล้องกับสถานการณ์โรคโควิด-19 การพัฒนาร้านจ าหน่ายอาหารและแผงลอยจ าหน่ายอาหารบริเวณด้านหน้าพระบรมราชานุสรณ์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช จากปัญหาที่ส าคัญ ได้แก่ ความไม่เป็นระเบียบเรียบร้อยจากร้านค้า ร้านจ าหน่ายอาหารและแผงลอยมีการปฏิบัติ ไม่เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานสุขาภิบาลอาหาร การบริหารจัดการขยะยังไม่ถูกหลักสุขาภิบาล 3.วัตถุประสงค์ 1.เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนมีการปลูกพืชผักและสมุนไพรแบบเกษตรอินทรีย์โดยไม่ใช้สารเคมีในการผลิต และมีพืชผักสมุนไพรไว้กนเองในครัวเรือนและแบ่งปันให้กับเพื่อนบ้านในชุมชน 2.เพื่อพัฒนาตลาดสด ตลาดนัด ตามเกณฑ์มาตรฐาน 3.เพื่อจัดระเบียบร้านค้าที่มาจ าหน่ายสินค้าบริเวณด้านหน้าพระบรมราชานุสรณ์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชให้ สวยงามส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวพระบรมราชานุสรณ์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชโดยการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน 54 การพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) จังหวัดสุพรรณบุรีประจำปี2565


4.เพื่อพัฒนาแผงลอยจ าหน่ายอาหารริมบาทวิถี บริเวณด้านหน้าพระบรมราชานุสรณ์สมเด็จพระนเรศวร มหาราช ส่งเสริมการจ าหน่ายอาหารที่สะอาด ปลอดภัย ถูกสุขลักษณะ และผ่านเกณฑ์มาตรฐานอาหารริมบาทวิถี (Street Food Good Health) และสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการเพิ่มขึ้น 5.เพื่อน านวัตกรรมทางเทคโนโลยีดิจิทัล แอพพลิเคชั่น “Don Chedi street foods” ในด้านการตลาด มา ใช้ในบริการอ านวยความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการ กลุ่มเป้าหมายผู้ได้รับประโยชน์ ส าหรับกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับประโยชน์แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ 1.ผู้ประกอบการแผงลอยจ าหน่ายอาหาร เป็นเป้าหมายในโครงการซึ่งผู้ประกอบการร้อยละ 82.26เป็น ประชาชนในเขตเทศบาลต าบลดอนเจดีย์และและในเขตอ าเภอดอนเจดีย์ 2.ประชาชนได้บริโภคอาหารที่สะอาด ปลอดภัย ถูกสุขลักษณะ จากผู้ประกอบการแผงลอยจ าหน่ายอาหาร ด้านหน้าพระบรมราชานุสรณ์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช 4 เป้าหมาย 1.ยกระดับมาตรฐานอาหารริมบาทวิถี( Street Food) 1 แห่ง 2. ตรวจสารปนเปื้อนในอาหาร Street Food (หน้าพระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์) 3.พัฒนาตลาดสด ตลาดนัดตามเกณฑ์มาตรฐาน 5.ขั้นตอนการด าเนินงาน*** ส่งเสริมมาตรการเฝ้าระวังความปลอดภัยทางด้านอาหาร (ต้นน้ า ) 1.ประชุมคณะกรรมการพชอ.อ าเภอดอนเจดีย์ เพื่อเสนอปัญหา คัดเลือกประเด็นปัญหา 2 ถ่ายทอดความรู้ นโยบาย เร่งรัดด าเนินงานตามนโยบาย และแนวทางการด าเนินงานให้กับอาสาสมัคร สาธารณสุข ผู้น าชุมชน และสร้างความรู้ด้านอาหารปลอดภัยประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบ 3.ส่งเสริมให้ อสม. ทุกครัวเรือนด าเนินงานปลูกผัก สมุนไพร โดยไม่ใช้สารเคมี ร่วมกันจัดท าแปลงสาธิต การปลูกผัก สมุนไพร และสาธิตการท าปุ๋ยหมัก สารก าจัดแมลง ที่รพ./รพ.สต. รวมทั้งประชาสัมพันธ์เชิญชวน ประชาชนปลูกผัก ผลไม้ สมุนไพร ไว้รับประทานในครัวเรือนโดยไม่ใช้สารเคมี ส่งเสริมมาตรการเฝ้าระวังความปลอดภัยทางด้านอาหาร (กลางน้ า) 1.พัฒนาตลาดสด ตลาดนัด ร้านจ าหน่ายอาหารทะเลในตลาดสด ร้านช า/สถานที่จ าหน่ายอาหาร 2.เทศบาลดอนเจดีย์ ร่วมกับชมรมผู้ประกอบการร้านค้าและแผงลอย รพ./สสอ.ดอนเจดีย์ ร่วมกันส่งเสริม การพัฒนาตลาดสด ตลาดนัด ตามเกณฑ์มาตรฐาน 2.อบรมผู้ประกอบการร้านค้า ร้านจ าหน่ายอาหาร ตามหลักสุขาภิบาลอาหาร 3.ตรวจสอบคุณภาพอาหารโดยการตรวจสารปนเปื้อนในอาหาร ในร้านค้าแผงลอย ส่งเสริมมาตรการเฝ้าระวังความปลอดภัยทางด้านอาหาร (ปลายน้ า) 1.เทศบาลดอนเจดีย์ ร่วมกับชมรมผู้ประกอบการร้านค้าและแผงลอย รพ./สสอ.ดอนเจดีย์ร่วมกันส่งเสริม พัฒนา ร้านอาหาร&แผงลอยจ าหน่ายอาหาร ตามเกณฑ์มาตรฐาน 2.คณะกรรมการพชอ.(ที่ว่าการอ าเภอดอนเจดีย์,ส านักศิลปากรที่2 สุพรรณบุรี,สสจ.สุพรรณบุรี,รพ.ดอนเจดีย์, สสอ.ดอนเจดีย์, ชมรมผู้ประกอบการจ าหน่ายอาหารหน้าพระบรมราชานุสรณ์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช, อสม. ชมรมอาหารปลอดภัยเทศบาลต าบลดอนเจดีย์,เทศบาลต าบลดอนเจดีย์ )ร่วมกันพัฒนา ยกระดับมาตรฐานอาหารริม บาทวิถี (Street Food Good Health ) หน้าพระบรมราชานุสรณ์สมเด็จพระนเรศวร-มหาราช ปีที่ได้ด าเนินการ เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2564 จนถึงปีปัจจุบัน ค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น 130,000 บาท งบประมาณของเทศบาลต าบลดอนเจดีย์ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 จ านวน 30,000 บาท และ ชมรมผู้ประกอบการจ าหน่ายอาหารหน้าพระบรมราชานุสรณ์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช 100,000 บาท 55 การพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) จังหวัดสุพรรณบุรีประจำปี2565


6 ผลการด าเนินงาน/ผลลัพธ์ พชอ.ดอนเจดีย์มีการส่งเสริมมาตรการเฝ้าระวังความปลอดภัยทางด้านอาหาร ได้ด าเนินงานทั้งต้นน้ า (ขั้นตอน การผลิต) กลางน้ า (ขั้นตอนสู่ร้านค้า) ปลายน้ า (ส่งตรงถึงผู้บริโภค) มาตั้งแต่ปี 2562 – 2565 โดยมีเทศบาลดอนเจดีย์ ชมรมผู้ประกอบการร้านค้าจ าหน่ายอาหาร คณะกรรมการพชอ. ชมรมอสม. เครือข่ายที่เกี่ยวข้องได้มีส่วนร่วมในการคิดร่วมตัดสินใจ ร่วม ปฏิบัติงาน ร่วมรับผิดชอบท าให้เกิดผลลัพท์ในการด าเนินงาน ที่ภาคภูมิใจของชาวอ าเภอดอนเจดีย์ ดังนี้ 1.อสม.ปลูกผักและสมุนไพรหน้าบ้าน ปลอดสารเคมี สุขภาพดี ลดโรค ได้รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ในปี 2563 และรางวัลชนะเลิศ ในปี 2564 ในการประกวดหน้าบ้าน อสม. น่ามอง จังหวัดสุพรรณบุรี 2.ตลาดสดเมืองทองได้รับการประเมินผ่านเกณฑ์ ตลาดสดน่าซื้อวิถีใหม่ 3.ตลาดนัดสระกระโจมวันพฤหัส ได้รับการประเมินผ่านเกณฑ์ ระดับพื้นฐาน 4.พัฒนาและยกระดับมาตรฐานอาหารริมบาทวิถี (Street Food Good Health ) หน้าพระบรมราชานุสรณ์- สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ผ่านการประเมิน Street food good health จาก ศอ.5 ราชบุรีระดับดีมาก คะแนน สูงสุดในเขต 5 ร้อยละ 89 โดยผลการด าเนินงานพัฒนาร้านจ าหน่ายอาหารริมบาทวิถี บริเวณด้านหน้าพระบรมราชานุสรณ์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ตามเกณฑ์Street food good health ดังนี้ 4.1. แผงลอยจ าหน่ายอาหารได้รับการจัดระเบียบร้านค้ามีความสวยงาม และแผงลอยจ าหน่ายอาหารได้รับ การรับรองมาตรฐานมอบป้าย Clean Food Good Taste จ านวน 62 ร้าน คิดเป็นร้อยละ100 4.2 ผู้ประกอบการแผงลอยจ าหน่ายอาหาร มีรายได้เพิ่มขึ้น ข้อมูลจากการส ารวจก่อนมีการจัดระเบียบ รายได้เฉลี่ย 2,323 บาท/วัน/ร้าน รายได้เพิ่มขึ้น เฉลี่ย4,054บาท/วัน/ร้าน จ านวนรายได้รวมทุกร้านในวันที่มีรายได้มากที่สุด จ านวน 251,400 บาท/วัน จ านวนรายได้รวมทุกร้านในวันที่น้อยที่สุด จ านวน 83,280 บาท/วัน และเมื่อน ามาเปรียบเทียบ รายได้ก่อนและหลังการจัดระเบียบของผู้ประกอบการที่เคยจ าหน่ายอาหาร พบว่า แผงลอยจ าหน่ายอาหารมีรายเพิ่มขึ้น 1 เท่าร้อยละ 50.00 และมีรายเพิ่มขึ้น 2 เท่า ร้อยละ 33.33 นับเป็นแหล่งสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจให้กับประชาชน 4.3.ประชาชนได้บริโภคอาหารที่สะอาด ปลอดภัย ถูกสุขลักษณะ จากผู้ประกอบการแผงลอยจ าหน่าย อาหาร จากการสุ่มส ารวจใน 7 วัน มีประชาชนในเขตเทศบาล นอกเขตเทศบาลต าบลดอนเจดีย์,พื้นที่ใกล้เคียง และ นักท่องเที่ยว มาใช้บริการเลือกซื้ออาหาร เฉลี่ยวันละ 3,429 คน/วัน ปริมาณผู้มารับบริการมากที่สุด จ านวน 5,175 คน/วัน น้อยที่สุดจ านวน 1,763คน/วัน 4.5 ในสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19)เทศบาลต าบลดอนเจดีย์ได้น า นวัตกรรมทางเทคโนโลยีดิจิทัล แอพพลิเคชั่น “Don Chedi street foods” ในด้านการตลาด การอ านวยความ สะดวกให้ผู้รับบริการ เพื่อผู้รับบริการลดเวลาเดินหาร้านอาหารและลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิค-19 ในการลด ระยะเวลาสัมผัสในการเดินหาร้านอาหาร 4.5.ความพึงพอใจต่อ“การพัฒนาและยกระดับมาตรฐานอาหารริมบาทวิถี (Street Food Good Health) โดยการส ารวจความพึงพอใจของผู้ประกอบการและประชาชนที่มาใช้บริการ ในระหว่างวันที่ 13 - 19 กันยายน 2564 จ านวน 7 วัน ช่วงเวลา 17.00 - 19.00 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีผู้มาใช้บริการมากที่สุด จ านวน 220 คน และ ผู้ประกอบการแผงลอยจ าหน่ายอาหาร จ านวน 62 ร้าน มีรายละเอียด ดังนี้ 4.1 ความพึงพอใจของผู้ประกอบการแผงลอยจ าหน่ายอาหาร มีความพึงพอใจในระดับมาก ร้อยละ 85.48 4.2 ความพึงพอใจของประชาชนที่มาใช้บริการแผงลอยจ าหน่ายอาหารหน้าพระบรมราชานุสรณ์สมเด็จพระ นเรศวรมหาราช มีความพึงพอใจต่อโครงการในระดับมาก ร้อยละ 83.18 7. ปัจจัยแห่งความส าเร็จ (ถ้ามี) 1.การก าหนดประเด็นปัญหามาจากการมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย ผ่านความเห็นชอบของของคณะกรรมการ พชอ.โดยใช้แนวทาง UCARE ในการด าเนินงานชัดเจน 2.คณะกรรมการพชอ.ให้ความส าคัญในการส่งเสริมมาตรการเฝ้าระวังความปลอดภัยทางด้านอาหาร ทุก ขั้นตอน มีการก าหนดทิศทางเป้าหมายร่วมกันอย่างชัดเจน 3.เทศบาลดอนเจดีย์ เป็นแกนหลักส าคัญ มีแนวคิด มุ่งมั่นในการด าเนินงานโดยการมีส่วนร่วมของภาค ประชาชน ภาคีเครือข่าย โดยมีเป้าหมายเดียวกัน ในการส่งเสริมมาตรการเฝ้าระวังความปลอดภัยทางด้านอาหาร 56 การพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) จังหวัดสุพรรณบุรีประจำปี2565


8 สิ่งที่จะท าต่อไป (ถ้ามี) 1.ส่งเสริมให้ชมรมผู้สูงอายุออกก าลังกาย สร้างรายได้จากการปลูกผักไว้รับประทานในครัวเรือนไม่ใช้สารเคมี โดยมีการจัดหาพื้นที่ส าหรับการจ าหน่ายผักของกลุ่ม 2.พัฒนาตลาดนัดตามเกณฑ์“ตลาดนัดน่าซื้อ” ตลาดสด ตามเกณฑ์ “ตลาดสดน่าซื้อวิถีใหม่” 3.พัฒนาและยกระดับมาตรฐานอาหารริมบาทวิถี (Street Food Good Health) ต่อไป 9 สรุปและข้อเสนอแนะ: สรุปสาระส าคัญการด าเนินงาน และข้อเสนอแนะอย่างสั้น รัดกุม ชัดเจน พชอ.ดอนเจดีย์มีการส่งเสริมมาตรการเฝ้าระวังความปลอดภัยทางด้านอาหาร ได้มีการท างานร่วมกันใน ระดับอ าเภอ(Unity District Health Team) ผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการพชอ. โดยการมีส่วนร่วมของ เครือข่ายและชุมชน (Community participation) ในรูปคณะกรรมการที่มาจากภาคราชการ ภาคประชาชน ภาคเอกชน มีการท างานจนเกิดคุณค่า ทั้งกับผู้รับบริการ และตัวผู้ให้บริการเอง (Appreciation) โดยมีการแบ่งปัน ทรัพยากรทั้งคน เงิน ของ และการพัฒนาบุคลากร (Resource sharing and human development) การ ด าเนินงานบริการสุขภาพตามบริบทที่จ าเป็น(Essential care ) มีผลการด าเนินงานที่แสดงให้เห็นถึงประชาชนให้ ความส าคัญในความปลอดภัยด้านอาหารมากขึ้น ทั้งต้นน้ า กลางน้ า ปลายน้ า ในการด าเนินการพัฒนาและยกระดับ มาตรฐานอาหารริมบาทวิถี ( Street Food Good Health ) เป็นการแก้ไขปัญหาความไม่เป็นระเบียบเรียบร้อยจาก ร้านค้า การปฏิบัติไม่เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานสุขาภิบาลอาหาร ท าให้พระบรมราชานุสรณ์สมเด็จพระนเรศวร มหาราชเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่มีอาหารริมบาทวิถี( Street Food Good Health ) ที่มีมาตรฐาน เป็นอัตลักษณ์แห่งใหม่ของดอนเจดีย์ สร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการที่มาจ าหน่ายอาหารและประชาชนที่มาใช้บริการ ได้รับประทานอาหารที่สะอาด ปลอดภัย ถูกสุขลักษณะ เป็นแหล่งสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจให้กับประชาชน ใน การด าเนินการในรูปแบบคณะกรรมการและมีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องเป็นผู้สนับสนุน สร้างความยั่งยืนในการพัฒนา มี การบรรจุโครงการในแผนพัฒนาท้องถิ่นเทศบาลต าบลดอนเจดีย์ พ.ศ. 2561 - 2565 และแผนพัฒนาท้องถิ่นเทศบาล ต าบลดอนเจดีย์ พ.ศ.2566 - 2570 ในส่วนชมรมผู้ประกอบการจ าหน่ายอาหารหน้าพระบรมราชานุสรณ์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชมีการบริหารจัดการเงินในการจัดการค่าใช้จ่ายของชมรมฯเป็นค่าส่วนกลาง 362,039.63 บาท (ข้อมูล ณ วันที่ 17 มกราคม 2565) ท าให้มีความเข้มแข็งในการพัฒนามีงบประมาณในการด าเนินงานโดยไม่ต้อง พึ่งพางบประมาณจากภาครัฐ โดยมีการน านวัตกรรมทางเทคโนโลยีดิจิทัล แอพพลิเคชั่น “Don Chedi street foods” ในด้านการตลาด มาใช้ในการอ านวยความสะดวก และลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID19)เป็นการคุ้มครองผู้บริโภคในการเลือกซื้อสินค้าที่มีคุณภาพจากการได้เห็นภาพอาหารพร้อมทั้งราคาสินค้าก่อนซื้อ มี ช่องการสื่อสารประชาสัมพันธ์ข้อมูลและแสดงความคิดเห็นในการพัฒนาสร้างความพึงพอใจให้กับประชาชน 57 การพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) จังหวัดสุพรรณบุรีประจำปี2565


Frame work: ผลการดำเนินงาน พชอ.ดีเด่น ประจำปี 2565 ชื่อประเด็นพชอ: อาหารปลอดภัย วิเคราะห์ปัญหา ร้านจำหน่ายอาหารและแผงลอยจำหน่ายอาหารบริเวณด้านหน้าพระบรมราชานุสรณ์สมเด็จพระ นเรศวรมหาราช • ความไม่เป็นระเบียบเรียบร้อยจากร้านค้า การบริหารจัดการขยะยังไม่ถูกหลักสุขาภิบาล • มีการปฏิบัติไม่เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานสุขาภิบาลอาหาร ประชาชนได้บริโภคอาหารที่ไม่ ปลอดภัย วัตถุประสงค์ 1.เพื่อจัดระเบียบร้านค้าที่มาจำหน่ายสินค้าให้สวยงามส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวโดยการมีส่วนร่วม จากทุกภาคส่วน 2.เพื่อพัฒนาแผงลอยจำหน่ายอาหารริมบาทวิถี ส่งเสริมการจำหน่ายอาหารที่สะอาด ปลอดภัย ถูก สุขลักษณะ และผ่านเกณฑ์มาตรฐานอาหารริมบาทวิถี (Street Food Good Health) และสร้างรายได้ ให้กับผู้ประกอบการเพิ่มขึ้น เป้าหมาย ยกระดับมาตรฐานอาหารริมบาทวิถี ( Street Food) 1 แห่ง ขั้นตอน/วิธีการดำเนินงาน 1.พชอ.คัดเลือก ประเด็น อาหารปลอดภัยชี้ปัญหาการจำหน่ายอาหารบริเวณด้านหน้าพระบรมราชา นุสรณ์ฯ 2.ภาคีเครือข่ายร่วมกันขอใช้พื้นที่ สำนักศิลปากรที่ 2 สุพรรณบุรี 3.สำรวจร้านค้า จัดตั้งชมรมผู้ประกอบการจำหน่ายอาหารหน้าพระบรมราชานุสรณ์ฯ 4.จัดระเบียบร้านค้า ร้านจำหน่ายอาหารและร้านค้าแผงลอย 5.อบรมผู้ประกอบการร้านค้า ร้านจำหน่ายอาหาร ตามหลักสุขาภิบาลอาหาร 6.พัฒนาตามเกณฑ์ Street Food Good Health ประเมินตนเอง พัฒนาส่วนขาด 7.ศูนย์อนามัยที่ 5 ราชบุรี ออกมาประเมินรับรอง 8.พัฒนานวัตกรรมทางเทคโนโลยีดิจิทัล แอพพลิเคชั่น “Don Chedi street foods” ในด้าน การตลาด มาใช้ในบริการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการ อาหารปลอดภัย: Street Food Good Healthอำเภอดอนเจดีย์ 58 การพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) จังหวัดสุพรรณบุรีประจำปี2565


ผลลัพธ์ 1.ผ่านการประเมิน Street food good health จาก ศอ.5 ราชบุรี ระดับดีมาก คะแนน ร้อยละ 89 2.แผงลอยจำหน่ายอาหารได้รับการจัดระเบียบร้านค้ามีความสวยงาม และแผงลอยจำหน่ายอาหาร ได้รับการรับรองมาตรฐานมอบป้าย Clean Food Good Taste จำนวน 62 ร้าน คิดเป็นร้อยละ100 3 ..ผู้ประกอบการแผงลอยจำหน่ายอาหาร มีรายได้เพิ่มขึ้น 4.ประชาชนได้บริโภคอาหารที่สะอาด ปลอดภัย ถูกสุขลักษณะ 5.นวัตกรรมทางเทคโนโลยีดิจิทัล แอพพลิเคชั่น “Don Chedi street foods” ในด้านการตลาด 6.ผู้ประกอบการแผงลอยจำหน่ายอาหาร มีความพึงพอใจในระดับมาก ร้อยละ 85.48 7.ประชาชนที่มาใช้บริการแผงลอยจำหน่ายอาหาร street foods มีความพึงพอใจในระดับมากร้อยละ 83.18 ปัจจัยแห่งความสำเร็จ คณะกรรมการพชอ.ให้ความสำคัญ มุ่งมั่น ในการส่งเสริมมาตรการเฝ้าระวัง ความปลอดภัยทางด้านอาหาร ทุกขั้นตอน มีการกำหนดทิศทางเป้าหมายร่วมกันอย่างชัดเจน สิ่งที่จะทำต่อไป พัฒนาและยกระดับมาตรฐานอาหารริมบาทวิถี ( Street Food Good Health ) สรุปและข้อเสนอแนะ มีผลการดำเนินงานที่แสดงให้เห็นถึงประชาชนให้ความสำคัญในความ ปลอดภัยด้านอาหารมากขึ้น ในการดำเนินการพัฒนาและยกระดับมาตรฐานอาหารริมบาทวิถี ( Street Food Good Health ) เป็นการแก้ไขปัญหาความไม่เป็นระเบียบเรียบร้อยจากร้านค้า การปฏิบัติไม่ เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานสุขาภิบาลอาหาร ทำให้พระบรมราชานุสรณ์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่มีอาหารริมบาทวิถี(Street Food Good Health)ที่มีมาตรฐาน เป็นอัตลักษณ์แห่งใหม่ของอำเภอดอนเจดีย์ 59 การพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) จังหวัดสุพรรณบุรีประจำปี2565


โครงการ : หนึ่งโรงเรียนหนึ่งแปลงเกษตรอินทรีย์ ( One School One Organic Farm ) อำเภอสามชุก 1.วิเคราะห์ปัญหา จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นจังหวัดที่ถูกวางเป็นเป็นพื้นที่สีเขียว ณ ปัจจุบันโดยข้อมูลจากสำนักงานเกษตรและ สหกรณ์จังหวัดสุพรรณบุรีบันทึกไว้ ณ วันที่ 6 เมษายน 2564 มีเกษตรกรทั้งหมด 83,387 ครัวเรือน มีพื้นที่ 2,545,068 ไร่ ซึ่งในพื้นที่ขนาดใหญ่เพียงพอที่จะสร้างความมั่นคงทางอาหารและระบบเศรษฐกิจที่มั่นคง แต่สิ่งที่ เป็นอยู่ในสภาพจริงกลับสวนทางกัน ปัญหาความยากจนของเศรษฐกิจฐานรากที่ไม่ได้ลดลงยิ่ง เมื่อประสบกับ สถานการณ์COVID -19 ยิ่งสะท้อนให้กลับมาตั้งคำถามว่าทำไมจังหวัดที่มีภูมิศาสตร์ดีจึงไม่สามารถยกระดับ เศรษฐกิจฐานรากให้ประชากรในพื้นที่กินดีอยู่ดีได้ และกลายเป็นว่าเต็มไปด้วยแปลงเกษตรเคมี รวมถึงเกษตรกร ประสบกับปัญหาภาระหนี้สินสะสมจนในปัจจุบันเริ่มมีการถูกยึดที่ทางการเกษตรและถูกขายทอดตลาดจากคนใน พื้นที่เปลี่ยนมือไปสู่บุคคลภายนอก และลูกหลานไม่มีการสืบทอดต่อยอด ทิ้งถิ่นไปทำงานในเมือง ดังนั้นอาจจะ ด้วยปัจจัยต่างๆ มากมาย ที่เป็นทั้ง ข้ออ้าง ข้อแก้ต่าง ข้อแก้ตัวและข้อจำกัด สารพัดที่เรามักได้ฟังจากทุกภาค ส่วนที่เกี่ยวข้องกับภาคการเกษตร เราจึงจำเป็นต้องใช้วิถีเกษตรอินทรีย์มาขับเคลื่อนร่วมกับภาคการศึกษา โดย นำเอาแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงผสานนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการเกษตรที่ยกระดับการทำธุรกิจเกษตรกรยุค ใหม่โดยใช้โรงเรียนเป็นฐานการเรียนรู้ผ่านการปฏิบัติจริงเชื่อมโยงเข้าสู่รายวิชาต่างๆ ที่สามารถเข้าถึงชีวิตจริงผ่าน กระบวนการ Dynamic Active Learning 2.วัตถุประสงค์ 1) เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหารในโรงเรียนอย่างมีสุขภาวะ 2) เพื่อพัฒนาทักษะชีวิตและทักษะอาชีพด้านการธุรกิจเกษตรอินทรีย์แนวทางสมัยใหม่ให้กับนักเรียน 3) เพื่อพัฒนาเป็นหลักสูตรต้นแบบเพื่อขยายผลในโรงเรียนอื่นๆในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี 60 การพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) จังหวัดสุพรรณบุรีประจำปี2565


3.เป้าหมายโครงการ 1) นักเรียนมัธยมโรงเรียนสามชุกรัตนโภคาราม เข้าร่วมเรียนรู้ผ่าน Project Based Learning โดยใช้แปลงเกษตร อินทรีย์เป็นฐาน 2) เกิดแปลงต้นแบบเกษตรอินทรีย์ที่มีการผสานองค์ความรู้แนวทางเศรษฐกิจพอเพียงกับองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยี และนวัตกรรม 3) มีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้บูรณาการรายวิชาต่างๆ ในแปลงเกษตรอินทรีย์ต้นแบบเพื่อพัฒนาทักษะและสมรรถนะผู้เรียน 4) นักเรียนและโรงเรียนมีรายได้เสริมจากการต่อยอดการเรียนรู้แปลงเกษตรอินทรีย์โดยมีภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนสนับสนุน 4.ระยะเวลาในการดำเนินงาน : 1 ปีการศึกษา ( กรกฎาคม 2565 – เมษายน 2566 ) 5. ไตรกำไรสุทธิ =>ด้านสังคม : การมีส่วนร่วม ทั้งโรงเรียน ผู้ปกครอง ชุมชน หน่วยงานท้องถิ่น และนักเรียน จะได้มีการ ดำเนินการร่วมกันในฐานะผู้รับผิดชอบพื้นที่และพื้นที่ภายใต้โครงการนี้ อีกทั้งยังกระทบถึงการตระหนักในคุณค่า ของต้นทุนทรัพยากรที่มีเมื่อได้ดำเนินการจนเห็นผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นและขยายผล =>ด้านสิ่งแวดล้อม : ระบบนิเวศน์เกิดระบบนิเวศน์ที่เข้าสู่ BCG โดยเริ่มที่ Circular Economy ที่จะเกิด หมุนเวียนของการใช้ทรัพยากรต้นทุนธรรมชาติอย่างคุ้มค่าและ Zero Waste =>ด้านเศรษฐกิจ : ด้านกลไกธุรกิจเกิดโมเดลธุรกิจที่เป็นรูปธรรมในหน่วยเล็กๆที่จะเกิดขึ้นในโรงเรียนโดยมีครู และนักเรียนเป็นผู้ขับเคลื่อนโมเดลลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ กับ ช่วงกิจกรรมชุมนุม ไปจนถึงวันหยุดที่นักเรียนและ ครูสามารถเข้ามาดูแลจัดการผลผลิตในพื้นที่ได้ร่วมกันเป็นเจ้าของโดยมีที่ปรึกษาภายนอกมาช่วยแนะนำกลไกธุรกิจ ที่ถูกต้องเสริมทักษะการเป็นผู้ประกอบการให้เกิดขึ้นระหว่างเรียน 6. แผนการดำเนินงานโครงการ ที่ กิจกรรม รายละเอียด ระยะ เวลา ผู้รับผิดชอบ กำหนดการ 1. ลงพื้นที่ศึกษาดูงาน พานักเรียนและครูลงพื้นที่ฐานเรียนรู้ 3 แห่ง 1 วัน โรงเรียน 24 สิงหาคม 65 2. ประชุมสรุปภาพรวม โครงการ ประสานภาคีทั้ง 5 ฝ่ายคือ ผู้บริหารโรงเรียน ครู นักเรียน ผู้ปกครอง และ หน่วยงาน ท้องถิ่นเพื่อจำทำแผนงาน 1 วัน โรงเรียน กันยายน 65 3. จัดทำแปลงเกษตรอินทรีย์ ต้นแบบในพื้นที่โรงเรียน ประสานภาคีเครือข่ายทั้งภาคเกษตรและภาค การศึกษา ภาคประชาชนและนักเรียน ร่วมกัน จัดทำแปลงเกษตรอินทรีย์ต้นแบบเพื่อเป็น แหล่งเรียนรู้ 1 สัปดาห์ โรงเรียน และภาคีเครือข่าย ตุลาคม – ธันวาคม 65 4. จัดอบรมพัฒนาคู่มือใน การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ จัดกระบวนการอบรมครูในโรงเรียนร่วมกัน ถอดบทเรียนแปลงเกษตรอินทรีย์เพื่อทำการ 2 วัน ทีมงาน Dynamic School Thailand ตุลาคม 65 61 การพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) จังหวัดสุพรรณบุรีประจำปี2565


ที่ กิจกรรม รายละเอียด ระยะ เวลา ผู้รับผิดชอบ กำหนดการ ในรูปแบบ Dynamic Active Learning เรียนการสอนบูรณาการรายวิชาให้กับนักเรียน หลักสูตรเพื่อใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียน การสอนบูรณาการรายวิชาให้กับนักเรียน 5. ดูแลแปลงเกษตรอินทรีย์ จนถึงเก็บเกี่ยวผลผลิต จัดกิจกรรมการเรียนรู้บูรณาการรายวิชาโดย ใช้แปลงเกษตรอินทรีย์เป็นฐาน รวมถึงให้ นักเรียนทำโครงการที่เกี่ยวข้องเพื่อบริหาร จัดการแปลงเกษตรอินทรีย์ต้นแบบร่วมกัน ต่อเนื่อง โรงเรียน ต.ค..65 – มี.ค. 66 6. ติดตามโครงการ เก็บบันทึกการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน และสรุปผลสัมฤทธิ์ที่ผู้เรียนได้รับเป็นระยะ ต่อเนื่อง โรงเรียน ต.ค.65 – มี.ค. 66 7. จัดทำรายงานสรุป รายงานสรุปผลการจัดการจัดกิจกรรมการ เรียนรู้ที่เกิดขึ้นตลอดเทอมและกิจกรรม โครงการต่างๆ ที่ได้ต่อยอดจากโครงการ 1 วัน โรงเรียนและทีมงาน Dynamic School Thailand มีนาคม 66 8. จัดงานแสดงผลงานแปลง เกษตรอินทรีย์และ โครงการต่างๆเพื่อ เผยแพร่ขยายผล ประสานภาคีเครือข่ายจัดงานแสดงผลงาน หรือตลาดเกษตรอินทรีย์เพื่อขยายผลสื่อสาร รณรงค์ให้ทุกภาคส่วนร่วมสนับสนุนการทำ เกษตรอินทรีย์และบริโภคเพื่อสุขภาพ 1 วัน โรงเรียนและทีมงาน Dynamic School Thailand มีนาคม 66 *กำหนดการอาจมีการปรับยืดหยุ่นตามสถานการณ์และความเหมาะสม 7.ผลการดำเนินงาน =>ระยะที่ 1 : โมเดลต้นแบบ และแผน MMC โครงการและแผนการดำเนินงานที่ชัดเจน ( กันยายน 2565 ) =>ระยะที่ 2 : แปลงเกษตรอินทรีย์ต้นแบบตามมาตรฐานเกษตรอินทรีย์และคู่มือหลักสูตร (ตุลาคม-ธันวาคม 2565 ) =>ระยะที่ 3 : ผลงานนักเรียนในการบริหารจัดการแปลงเพื่อให้ได้ผลผลิตและกลไกการค้าขาย ( มีนาคม 66 ) =>ระยะขยายผล : พัฒนาผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตเกษตรอินทรีย์ที่สามารถจำหน่ายได้ ( พ.ค.-ก.ย. 66 ) 8. ปัจจัยแห่งความสำเร็จ 1. การประสานความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายเพื่อเกิดการมีส่วนร่วมและขับเคลื่อนได้อย่างมีพลัง 2. กระบวนการนำพาของครูผู้สอนที่ต้องมีเทคนิคและทักษะออกแบบกระบวนการและเป็นกระบวนกร 3. การสนับสนุนทั้งจากโรงเรียนและภาคีเครือข่ายเพื่อพัฒนาส่งเสริมและเติมส่วนที่ขาด 9. สิ่งที่จะทำต่อไป พัฒนาผู้ประกอบการรุ่นเยาว์เพื่อสร้างทักษะและองค์ความรู้ของการเป็นผู้ประกอบการเพื่อให้เกิดการต่อยอดใน ท้องถิ่น โดยเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่เห็นคุณค่าที่จะสร้างมูลค่าทางธุรกิจเกษตรอินทรีย์ สรุปข้อเสนอแนะ พัฒนาโครงการต่อเนื่องเพื่อส่งเสริมให้เยาวชนให้เป็นผู้ประกอบการโดยอาจจัดโครงการประกวดแผนธุรกิจที่ให้ เยาวชนกับท้องถิ่นได้ร่วมกันออกแบบโมเดลธุรกิจร่วมกันจากนั้นมีทุนสนับสนุนให้สามารถเริ่มต้นธุรกิจได้ภายใต้วิถี เกษตรอินทรีย์ หรือ BCG โมเดล ผู้นำเสนอโครงการ : พชอ.สามชุก ร่วมกับ โรงเรียนสามชุกรัตนโภคาราม และ Dynamic School Thailand 62 การพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) จังหวัดสุพรรณบุรีประจำปี2565


Frame work: ผลการดำเนินงาน พชอ.ดีเด่น ประจำปี 2565 ชื่อประเด็นพชอ: หนึ่งโรงเรียนหนึ่งแปลงเกษตรอินทรีย์(One School One Organic Farm) อำเภอสามชุก 63 การพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) จังหวัดสุพรรณบุรีประจำปี2565


1. วิเคราะห์ปัญหา/ความส าคัญของผลงาน ปี พ.ศ.2564 อ าเภออู่ทอง มีผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา Covid-19 ยืนยัน จ านวน 2,071 ราย เสียชีวิต 35 ราย (ที่มา : ศูนย์ปฏิบัติการฯโควิด-19 อ.อู่ทอง ณ 31 ธันวาคม 2564) ปี พ.ศ.2565 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 ถึง 15 สิงหาคม 2565 อ าเภออู่ทองมีผู้ป่วยยืนยัน ถึง 6,350 ราย ผู้ติดเชื้อเข้าข่าย(ATK+)13,179 ราย ผู้เสียชีวิต 25 ราย (ที่มา : ศูนย์ปฏิบัติการฯโควิด-19 อ.อู่ทอง) จากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ตลอดระยะเวลากว่า 2 ปีที่ผ่านมา อ าเภออู่ทองต้อง เผชิญกับวิกฤติการแพร่ระบาดใหญ่ของโรคอุบัติใหม่ ท าให้เกิดการระดมสรรพก าลัง ความรู้ความสามารถและ ทรัพยากรในการจัดการกับวิกฤติดังกล่าว ด้วยความร่วมแรงร่วมใจจากทุกภาคส่วน ท าให้สามารถก้าวผ่าน สถานการณ์วิกฤติมาได้ในทุกระลอกของการระบาด และในท้ายที่สุดการระบาดของโรคโควิด 19 จะกลายเป็น “โรคประจ าถิ่น” อย่างไรก็ตาม อ าเภออู่ทองโดยการขับเคลื่อนของคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอ าเภอ อู่ทอง (พชอ.) และคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่ออ าเภออู่ทอง ยังคงด าเนินมาตรการเชิงรุกให้ครอบคลุม ทุกมิติตามระดับสถานการณ์ ทั้งด้านสาธารณสุข ด้านการแพทย์ ด้านกฎหมายและสังคม ด้านการสื่อสาร และการประชาสัมพันธ์เพื่อให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติด้วยการปรับการบริหารจัดการโรคโควิด-19 สู่โรคประจ าถิ่น ซึ่งมีปัจจัยส าคัญ คือ การเพิ่มความครอบคลุมในการฉีดวัคซีนให้กับประชาชน ประกอบกับ ความร่วมมือในการปฏิบัติตามมาตรการ ป้องกันโรค ทั้งระดับบุคคล และองค์กรเป็นอย่างดี อันจะช่วยป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาด ตลอดจน ลดความรุนแรงและการเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 2. วัตถุประสงค์ 2.1 ป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 2.2 เพิ่มความครอบคลุมในการฉีดวัคซีนให้กับประชาชน 2.3 ลดความรุนแรงและการเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 3. เป้าหมาย 3.1 สร้างความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้อง และความร่วมมือของประชาชน ในการรับมือ และปรับตัว เพื่อ อยู่ร่วมกับโควิด-19 จาก Pandemic สู่ Endemic อย่างปลอดภัย 3.2 ความครอบคลุมวัคซีนเข็มกระตุ้น ≥ ร้อยละ 60 3.3 การเข้าถึงการดูแลรักษาได้อย่างรวดเร็ว มีคุณภาพ อัตราป่วยตาย ไม่เกินร้อยละ 0.1 ชื�อประเด็น พชอ.: การป้ องกันและควบคุมโรคไวรัสโคโรนา 2019 อําเภออู่ทอง 64 การพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) จังหวัดสุพรรณบุรีประจำปี2565


4. ขั้นตอนการด าเนินงาน 4.1 ประชุมคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอ าเภออู่ทอง (พชอ.) คณะกรรมการควบคุม โรคติดต่ออ าเภออู่ทอง และคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อต าบล 4.2 ติดตามและวิเคราะห์สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด - 19 สร้างความตระหนักถึงปัญหา และสาเหตุโรค 4.3 วางแผนการด าเนินงาน มาตรการต่างๆให้สอดคล้องกับศูนย์บริหารราชการในสถานการณ์ ฉุกเฉิน (COVID-19) จังหวัดสุพรรณบุรี และสถานการณ์ในพื้นที่ 4.4 การด าเนินงานป้องกันและควบคุมโรคโควิด – 19 ตามแผน 4.5 ติดตามและประเมินผลป้องกันและควบคุมโรค 5. ผลการด าเนินงาน/ผลลัพธ์ 5.1 สร้างความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้อง และความร่วมมือของประชาชน ในการรับมือ และปรับตัว เพื่อ อยู่ร่วมกับโควิด-19 จาก Pandemic สู่ Endemic อย่างปลอดภัย 1. ประชุมคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอ าเภออู่ทอง (พชอ.) คณะกรรมการ พชอ. และคณะกรรมการ ควบคุมโรค ติดตาม วิเคราะห์ สถานการณ์ / วางแผน(Plan) ด าเนินงานตามแผน (Do) ติดตามและ ประเมินผล (Check) ปรับปรุงการ ด าเนินงาน(Act) 65 การพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) จังหวัดสุพรรณบุรีประจำปี2565


2. ประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่ออ าเภออู่ทอง 3. ประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อต าบล 66 การพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) จังหวัดสุพรรณบุรีประจำปี2565


4. การด าเนินงานตามมาตรการ มาตรการสอบสวนและตรวจหาเชอื้ Covid – 19 มาตรการติดตามประเมินการกักตัวที่บ้าน มาตรการป้ องกันควบคุมโรค Covid-19 ตามงานพิธี ต่างๆ 67 การพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) จังหวัดสุพรรณบุรีประจำปี2565


ผลลัพธ์ 1.ประชาชนมีความตระหนักในการป้องกัน และปฏิบัติตามมาตรการ 2.เกิดความสามัคคีร่วมมือในการท างานเพื่อป้องกันและควบคุมโรค 3.เกิดการช่วยเหลือกันในวงกว้าง เพื่อแบ่งปันความทุกข์ 4.มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบบริการสาธารณสุข New Normal Medical Care ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ 5.ประชาชนมีการปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตประจ าวัน เช่น สวมหน้ากากเมื่อออกนอกบ้าน การเว้นระยะห่างทางสังคม มาตรการเฝ้าระวงัป้องกนั โรคในสถานศกึษา มาตรการการประชาสมัพนัธข์อ้มลูขา่วสารผา่น Facebook/Line กลุ่ม หวัหนา้สว่นราชการ/ผนู้ าชุมชน/เจา้หนา้ทสี่าธารณสขุ /อสม. 68 การพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) จังหวัดสุพรรณบุรีประจำปี2565


5.2 เพิ่มความครอบคลุมในการฉีดวัคซีนให้กับประชาชน ให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 เชิงรับ ณ รพ.อู่ทอง ให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 เชิงรุก ครอบคลุมทั้ง 22 รพ.สต. 69 การพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) จังหวัดสุพรรณบุรีประจำปี2565


ผลลัพธ์ 1. ความครอบคลุมการได้รับวัคซีน Covid-19 ของประชากรในพื้นที่ที่ได้รับวัคซีนเข็ม 1 จ านวน 71,563 ราย คิดเป็นร้อยละ 81.10 2. ความครอบคลุมการได้รับวัคซีน Covid-19 ของประชากรในพื้นที่ที่ได้รับวัคซีนเข็ม 2 จ านวน 67,337 ราย คิดเป็นร้อยละ 76.31 3. ความครอบคลุมการได้รับวัคซีน Covid-19 ของประชากรในพื้นที่ที่ได้รับวัคซีนเข็ม 3 จ านวน 24,052 ราย คิดเป็นร้อยละ 27.26 (ที่มา : การด าเนินงาน Covid-19 vaccine จังหวัดสุพรรณบุรี ณ 4 กรกฎาคม 2565) 5.3 ลดความรุนแรงและการเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 70 การพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) จังหวัดสุพรรณบุรีประจำปี2565


ปรับปรุงกระบวนการรักษา โปรแกรมเจอ แจก จบ อู่ทอง 71 การพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) จังหวัดสุพรรณบุรีประจำปี2565


ผลลัพธ์ 1. มีการปรับปรุงการด าเนินงานอย่างเหมาะสมให้สอดคล้องตามสถานการณ์และบริบทของพื้นที่ โดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ได้แก่ โปรแกรมเจอ แจก จบ อู่ทอง,Line Open Chat,Liine OA 2. ประชาชนสามารถเข้าถึงการดูแลรักษาได้อย่างรวดเร็ว มีคุณภาพ ลดภาระงานบุคลากร สาธารณสุข 3. อัตราป่วยตาย - ปี 2564 = 1.69 (1ม.ค. – 31ธ.ค.64) - ปี 2565 = 0.39 (1ม.ค. – 15ส.ค.65) หมายเหตุ : อัตราป่วยตาย(Case Fatality Rate) = จ านวนผู้ป่วยตายด้วยโรคหนึ่งในช่วงเวลาที่ก าหนดX100 จ านวนผู้ป่วยด้วยโรคนั้นทั้งหมด 6. ปัจจัยแห่งความส าเร็จ 6.1 ผู้บริหารมีความมุ่งมั่น ให้ความส าคัญในการแก้ไขปัญหา 6.2 มีแผนงานที่ชัดเจน เป็นรูปธรรม 6.3 มีการถ่ายทอดแนวทาง นโยบาย และมาตรการที่สอดคล้องกับการด าเนินงานในพื้นที่ 6.4 มีการพัฒนาศักยภาพบุคลากรอย่างต่อเนื่อง 6.5 มีการติดตาม การประเมินผล และการปรับปรุงการด าเนินการอย่างเหมาะสมให้สอดคล้องตาม สถานการณ์และบริบทของพื้นที่(Act) 6.6 ภาคีเครือข่าย ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนเข้มแข็ง มีส่วนร่วมในการด าเนินงาน 72 การพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) จังหวัดสุพรรณบุรีประจำปี2565


73 การพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) จังหวัดสุพรรณบุรีประจำปี2565


7. สรุปและข้อเสนอแนะ สถานการณ์ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) ส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณสุข ท าให้ เกิดการเรียนรู้ที่จะต้องมีการปรับกระบวนการท างานแบบวิถีใหม่ (New normal) การสร้างความตระหนักถึง ปัญหาและสาเหตุโรค(Self-Awareness) การจัดท าแผนการป้องกันและควบคุมโรค(Plan) การด าเนินงาน ป้องกันและควบคุมโรค(Do) การติดตามและประเมินผลป้องกันและควบคุมโรค(Check) การปรับปรุงการ ด าเนินงานอย่างเหมาะสมให้สอดคล้องตามสถานการณ์และบริบทของพื้นที่(Act) ภายใต้การขับเคลื่อนของ คณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอ าเภออู่ทอง(พชอ.อู่ทอง) โดยมุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน โดยใช้พื้นที่เป็นฐาน ประชาชนเป็นศูนย์กลาง ร่วมกันพัฒนาและ แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนทุกคน สามารถเข้าถึงและได้รับการดูแลทั้งด้านสุขภาพและด้าน สังคมส่งผลให้เกิดสุขภาวะและคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยังยืน 74 การพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) จังหวัดสุพรรณบุรีประจำปี2565


อ้างอิง แผนและมาตรการการบริหารจัดการสถานกการณ์โรคโควิด 19 สู่โรคประจ าถิ่น กระทรวง สาธารณสุข เมษายน 2565 คู่มือแนวทางการด าเนินงานตามระเบียบส านักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับพื้นที่ พ.ศ.2561 : กรมการปกครองกระทรวงมหาดไทย ส านักบริหารยุทธศาสตร์สุขภาพดีวิถีไทย ส านักงาน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข การพัฒนารูปแบบการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายในการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) อ าเภอเมืองยาง จังหวัดนครราชสีมา ศูนย์ปฏิบัติการฯ Covid-19 จังหวัดสุพรรณบุรี ศูนย์ปฏิบัติการฯ Covid-19 อ าเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี 75 การพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) จังหวัดสุพรรณบุรีประจำปี2565


Frame work: ผลการดำเนินงาน พชอ.ดีเด่น ประจำปี 2565 ชื่อประเด็นพชอ: การป้องกันและควบคุมโรคไวรัสโคโรนา 2019 (CVID-19) อำเภออู่ทอง 76 การพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) จังหวัดสุพรรณบุรีประจำปี2565


77 การพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) จังหวัดสุพรรณบุรีประจำปี2565


78 การพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) จังหวัดสุพรรณบุรีประจำปี2565


79 ภาคผนวก การพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) จังหวัดสุพรรณบุรีประจำปี2565


80 ถอดบทเรียน • ระดับจังหวัด การพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) จังหวัดสุพรรณบุรีประจำปี2565


81 การถอด “บทเรียน” การดำเนินงาน “พัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) ของจังหวัดสุพรรณบุรี ใน ครั้งนี้ เป็นการถอดบทเรียนในการดำเนินงาน พชอ. ทั้ง 10 อำเภอ โดยภาพรวมการทำงานจะเป็นการทบทวนผล การดำเนินงานทั้งที่ประสำความสำเร็จ และปัญหาอุปสรรค การทวนสอบกระบวนการทำงาน ปัจจัยต่าง ๆ ร่วมกัน เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาต่อ เพื่อการบรรลุเป้าหมาย (Achieving Goals) ที่มีประสิทธิภาพสูง โดยประโยชน์ของ การถอดบทเรียน สามารถแบ่งออกเป็น 2 ระยะคือ ระยะสั้น สามารถนำข้อมูลแลกเปลี่ยน และไปปรับปรุงเทคนิค การทำงานที่ทำประเด็นเดียวกันเพื่อให้เกิดความสมบูรณ์มากขึ้น และทีมสามารถถ่ายโยงความรู้ วิเคราะห์ปัญหา อุปสรรค และหาแนวทางปฏิบัติการทำงาน ณ ปัจจุบันให้เป็นไปในทิศทางเดียว ระยะกลาง และระยะยาว จะเป็น การย้ำถึงการทบทวนการทำงาน ว่าที่ผ่านมามีแนวปฏิบัติอย่างไรจึงประสบความสำเร็จ หรือการทำกิจกรรมใดจะ ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของ พชอ. ซึ่งจะส่งผลให้เกิดความเชื่อมั่นในการทำงานและ มีความมั่นใจในการ เผชิญปัญหา และรับมือกับปัญหาที่จะเกิดขึ้น กระบวนการถอดบทเรียน พชอ. 10 อำเภอ จังหวัดสุพรรณบุรี การดำเนินงานพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) ได้ใช้กระบวนการถอดบทเรียน โดยใช้ขั้นตอนดังนี้ 1. ทบทวนการทำงานที่ผ่านมาโดย พชอ. แต่ละอำเภอ 2. นำเสนอผลการทำงาน พชอ.ที่ผ่านมา โดย พชอ.แต่ละอำเภอ ทั้ง 10 อำเภอ นำเสนอและแลกเปลี่ยน เรียนรู้สิ่งที่ได้ดำเนินการที่ผ่านมา โดยเข้าร่วมนำเสนอพร้อมกันในวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ.2565 3. พชอ.แต่ละอำเภอ หลังมีการนำเสนอ และรับฟังข้อเสนอแนะ แนวทางการพัฒนาต่อ มีการกลับไป ทบทวน และคัดสรรผลงานเด่น ด้านการทำงาน พชอ. ของแต่ละอำเภอ โดยการคัดเลือกประเด็น เด่นจำนวน 1-2 ประเด็น เพื่อนำมาใช้ถอดบทเรียนร่วมกันอีกครั้ง 4. พชอ. แต่ละอำเภอ ดำเนินการถอดบทเรียนเรียนรู้ร่วมกัน (Peer Assist) แบบเรื่องเล่า (Storytelling) และร่วมวิเคราะห์ถอดบทเรียนร่วมกัน ณ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุพรรณบุรี และนำเสนอผลการถอดบทเรียนการทำงาน พชอ.แต่ละอำเภอ ในวันที่ 16 มีนาคม พ.ศ.2565 5. สรุปผลการถอดบทเรียน 6. เผยแพร่ผลการถอดบทเรียน การพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) จังหวัดสุพรรณบุรีประจำปี2565


82 ผลการดำเนินงานถอดบทเรียน พชอ. 10 อำเภอจังหวัดสุพรรณบุรี --------------------------------------------------------------------------- การดำเนินงานพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) ได้ใช้กระบวนการถอดบทเรียน ได้ดำเนินงานตาม ขั้นตอนและมีรายละเอียดดังนี้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุพรรณบุรี ได้ดำเนินการถอดบทเรียน การดำเนินงานพัฒนาคุณภาพชีวิต ระดับอำเภอ (พชอ.) โดยมีกลุ่มเป้าหมาย ทีม พชอ. ทั้ง 10 อำเภอ อำเภอละ 5 คน ประกอบด้วย นายอำเภอ/ ตัวแทนจากกระทรวงมหาดไทย 1 คน สาธารณสุขอำเภอ/ผู้ช่วยสาธารณสุขอำเภอ 1 คน ตัวแทนหน่วยงานภาครัฐ ตามประเด็นปัญหา 1 คน นายกองค์การองค์การบริหารส่วนตำบล/เทศบาล 1 คน ปราชญ์ชาวบ้าน/ตัวแทนภาค ประชาชน 1 คน โดยมีกลุ่มเป้าหมาย ที่ตั้งไว้จำนวนทั้งหมด 50 คน ทั้งนี้พชอ. ที่เข้าร่วมคือ พชอ. ของอำเภอ 1. อำเภอเมืองสุพรรณบุรี 2. อำเภอดอนเจดีย์ 3. อำเภอเดิมบางนางบวช 4. อำเภอด่านช้าง 5. อำเภอบางปลาม้า 6. อำเภอศรีประจันต์ 7. อำเภอสองพี่น้อง 8. อำเภอสามชุก 9. อำเภออู่ทอง 10. อำเภอหนองหญ้าไซ ทั้งนี้การประเมินผลการดำเนินงานได้ใช้เกณฑ์UCCARE การประเมินการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่มีคุณภาพ ใน ประเด็นที่พื้นที่กำหนดในการพัฒนาคุณภาพชีวิต โดยมีผลลัพธ์การพัฒนาระบบสุขภาพระดับอำเภอที่สามารถ ยกระดับขึ้นหนึ่งระดับทุกข้อ หรือตั้งแต่ระดับสามขึ้นไปทุกข้อ โดยทุกอำเภอมีการประเมินตนเองและประเมิน ระดับจังหวัด การประเมินตามเกณฑ์DHS-PCA โดยใช้ แนวทาง UC–CARE พิจารณาตามเกณฑ์ 6 ด้าน ตาม UC-CARE แต่ละประเด็น 1. การทำงานร่วมกันในระดับอำเภอ (Unity District Health Team) 2. การวิเคราะห์ความต้องการผู้รับบริการ (Customer Focus) 3. การมีส่วนร่วมของชุมชนและเครือข่าย (Community participation) 4. การทำงานจนเกิดคุณค่าทั้งกับผู้รับบริการและผู้ให้บริการเอง (Appreciation) 5. การแบ่งปันทรัพยากรและพัฒนาบุคลากร (Resource sharing and human development) การพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) จังหวัดสุพรรณบุรีประจำปี2565


83 6. การให้บริการสุขภาพตามบริบทที่จำเป็น (Essential care) ทั้งนี้ผลการประเมินทุกอำเภอ ได้ผ่านเกณฑ์ประเมินในภาพรวม ตั้งแต่ระดับ 3 ขึ้นไป การถอดบทเรียนการดำเนินงาน พชอ. ได้มีการดำเนินงานดังนี้ ขั้นตอนในการดำเนินการถอดบทเรียน ขั้นที่1 พชอ. ทวนการทำงานที่ผ่านมาโดย พชอ. แต่ละอำเภอ นำเสนอผลการทำงาน พชอ.ที่ผ่านมา โดย พชอ.แต่ละอำเภอ ทั้ง 10 อำเภอ นำเสนอและแลกเปลี่ยน เรียนรู้สิ่งที่ได้ดำเนินการที่ผ่านมา โดยเข้าร่วมนำเสนอพร้อมกันในวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ.2565 ประเด็นคำถามเพื่อทบทวนกระบวนการดำเนินงาน ได้เขียนออกเป็น Flow-chart ดังนี้ คุณภาพชีวิตอำเภอเรา (ที่สำคัญตอนนี้) คืออะไร อะไรทำให้คุณภาพชีวิตคนในอำเภอแย่ เราต้องการอะไรทีจะทำให้คุณภาพชีวิตอำเภอเราดี ตอนนี้คุณภาพชีวิตอำเภอเราอยู่ในระดับไหน ทำอย่างไรคุณภาพชีวิตอำเภอเราจะเป็นอย่างที่เราตั้งใจ (ใคร อย่างไร ที่ไหน เมื่อไร) จะรู้ได้อย่างไรว่าทำแล้วคุณภาพชีวิตอำเภอเราดีขึ้นหรือไม่ การพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) จังหวัดสุพรรณบุรีประจำปี2565


84 ภาพที่ 1 ประชุมนำเสนอผลการดำเนินการ พชอ. จำนวน 10 อำเภอ ณ วันที่ 1 มีนาคม พ.ศ.2565 การพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) จังหวัดสุพรรณบุรีประจำปี2565


85 ตารางผลการสรุปประเด็นการทำงาน พชอ. 10 อำเภอ ที่ผ่านมา COVID-19 อุบัติเหตุ การพัฒนาคุณภาพ ชีวิตผู้สูงอายุ อาหารปลอดภัย ขยะ สิ่งแวดล้อม ออก กำลัง กาย พัฒนาก ารเด็ก TB 1. อ เมือง -ยุทธการขนม ครก -setting เรือนจำ -COVOD Free setting 1. อ.เดิม บางนาง บวช -ทีมกู้ชีพ 1. อ เมือง -การดูแล LTC -ผสอ.depress - การใช้กองทุน ตำบล -ภาคการเมืองมา ช่วย -มีรูปแบบการดูแล สหสาขาวิชาชีพ 1. อ.ด่านช้าง -สร้างความ มั่นคงทาง อาหาร 90 วัน สวนผัก -ใช้กองทุน หมู่บ้าน 1. อ.เดิมบางนาง บวช -ขยะริมคลอง -การใช้เครือข่าย -4ช 1. อ. ด่านช้าง - running วิ่งเก็บ ขยะ จักรยาน ท่องเที่ย ว 1. อ. สองพี่ น้อง - learnin g group -สูงดีสม ส่วน 1. อ. สองพี่ น้อง - ใช้ เงินกอง ทุน -x-rays สุ่ม 2. อ.เดิมบาง นางบวช -รพ.สนาม cluster ต่างชาติ โรงเรียน 2. อ.ด่าน ช้าง -ถนนหลัก ลดลง ถนน ย่อยเพิ่ม -ท้องถิ่นร่วม ดำเนินการ 2. อ.บางปลาม้า -CG,CM 2. อ.บางปลา ม้า -ปัญหาวัยเรียน อ้วน -ปลูกผัก ครัวเรือน -รางวัลตำบล จัดการคุณภาพ ชีวิต 2. อ.บางปลาม้า -เผาฟางข้าว -ขยะหลุม ขยะre cycle -ขยะดำเนินการ ต่อเนื่อง มีการ พัฒนาต่อยอด 3. อ.ด่านช้าง -ผู้ป่วยมาก -เปิด รพ.สนาม ได้เร็ว 3. อ.บาง ปลาม้า -วิเคราะห์ จุดเสี่ยง มี ภาพชัดเจน 3. อ.ศรีประจันต์ -ไม่ทอดทิ้งกัน -ท้องถิ่นเข้าร่วม LTC ยังไม่ครบอีก 2 แห่ง 3. อ.สองพี่น้อง - เกษตรแปลง ใหญ่ -ส่งผักให้ รพ. 3. อ.สามชุก -จัดการขยะใน ครัวเรือน (อสม.) 4. อ.บางปลา ม้า -flow การ ดำเนินงานการ มีส่วนร่วมแบบ บูรณาการ ชัดเจน 4. อ.ศรี ประจันต์ -จุดเสี่ยง ถนนใหญ่ -ร่วมกับ ศจร. 4. อ.สองพี่น้อง -ศูนย์กายอุปกรณ์ -นอภ เยี่ยมบ้าน 4. อ.สามชุก -ปลูกผักปลอด สารพิษกินเอง -ได้รางวัลรอง ชนะเลิศ 4. อ.หนองหญ้า ไซ - ขยะริมทาง ขยะ ในครัวเรือน -ร่วมกับพัฒนา ชุมชน ทำปุ๋ย -ทำธนาคารขยะ การพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) จังหวัดสุพรรณบุรีประจำปี2565


86 COVID-19 อุบัติเหตุ การพัฒนาคุณภาพ ชีวิตผู้สูงอายุ อาหารปลอดภัย ขยะ สิ่งแวดล้อม ออก กำลัง กาย พัฒนาก ารเด็ก TB 5. อ.สามชุก -บริการฉีด วัคซีน -รพ.สนาม -เตรียมพร้อม เปิดเรียน 5. อ.สองพี่ น้อง -ร่วมมือ ค้นหาจุด เสี่ยง -หมวก กันน็อค 5. อ.สามชุก - LTC ให้ครบ 100 ยังขาด 1 ตำบล -บูรณาการการดูแล ผสอ. - ผสอ.มีหลาย โครงการ 5. อ.ดอนเจดีย์ -ส่งเสริม อสม ปลูกผัก -street food ผลประเมิน ระดับดีมาก 6. อ.ดอนเจดีย์ -ปิดตลาด ทั้งหมด -ดอนเจดีย์ไม่ทิ้ง กัน 6. อ.อู่ทอง - แยก กลุ่มเป้าหมา ย -มีเป้าหมาย ชัดเจน advance 6. อ.ดอนเจดีย์ - ภาคีเครือข่าย 7. อ.อู่ทอง - รายแรก มีติด เชื้อต่อเนื่อง 7. อ.หนอง หญ้าไซ -หมวก กันน๊อค 8. อ.หนอง หญ้าไซ - ค้นหา ทำงาน ประสาน บูรณา การ แบ่งหน้าที่ -facebook page การพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) จังหวัดสุพรรณบุรีประจำปี2565


87 ขั้นที่ 2 พชอ.แต่ละอำเภอ หลังมีการนำเสนอ และรับฟังข้อเสนอแนะ แนวทางการพัฒนาต่อ มีการกลับไป ทบทวน และคัดสรรผลงานเด่น ด้านการทำงาน พชอ. ของแต่ละอำเภอที่ผ่านมา โดยการคัดเลือกประเด็นเด่น จำนวน 1-2 ประเด็น เพื่อนำมาใช้ถอดบทเรียนร่วมกันอีกครั้ง ทั้งนี้ผลการทบทวนผลงานเด่น หรือ ผลงานที่ประสบ ความสำเร็จ แต่ละอำเภอจากการทบทวน ได้ประเด็นหัวข้อดังนี้ ขั้นที่ 3 พชอ. แต่ละอำเภอ ทั้ง 10 อำเภอ ดำเนินการถอดบทเรียนเรียนรู้ร่วมกัน (Peer Assist) แบบเรื่องเล่า (Storytelling) และร่วมวิเคราะห์ถอดบทเรียนร่วมกัน ณ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุพรรณบุรี และนำเสนอผล การถอดบทเรียนการทำงาน พชอ.แต่ละอำเภอ ในวันที่ 16 มีนาคม พ.ศ.2565 ภาพที่ 2 ประชุมถอดบทเรียนผลการดำเนินการ พชอ. จำนวน 10 อำเภอ ณ วันที่ 16 มีนาคม พ.ศ.2565 การพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) จังหวัดสุพรรณบุรีประจำปี2565


88 ขั้นที่4 พชอ. ทั้ง 10 อำเภอ ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และร่วมสรุปผลการถอดบทเรียน โดยมีทีมวิทยากร ที่มีความ เชี่ยวชาญด้านการถอดบทเรียนได้เข้าร่วม กระบวนการถอดบทเรียนตั้งแต่เริ่มต้น จนถึงขั้นสรุปผลการเรียนรู้ แต่ละ ประเด็นการเรียนรู้ร่วมกัน ผลการถอดบทเรียนได้ประเด็นการเรียนรู้ร่วมกันดังนี้ ประเด็นที่ 1: การจัดการปัญหาด้านโรคติดต่อโควิด-19 ผู้ร่วมถอดบทเรียน: 1) ทีม พชอ.เมือง 2) ทีม พชอ.เดิมบางนางบวช และ 3) ทีม พชอ.ด่านช้าง ผลการถอดบทเรียน: ก.จุดเริ่มต้น: จากสถานการณ์การแพร่ระบาดทั่วของโควิด-19 เป็นการระบาดทั่วโลก รวมทั้ง ประเทศไทย และเข้าสู่จังหวัดสุพรรณบุรี โดยปัญหาดังกล่าวเริ่มต้นขึ้นในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2562 และ เริ่มระบาดรุนแรงในปี 2563 จนถึงปัจจุบัน ที่ พชอ. ทุกอำเภอในจังหวัดสุพรรณบุรี ต้องมีการจัดระบบ เพื่อการป้องกันการระบาดนี้ซึ่งถือว่าเป็นภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข ข.บริบทสำคัญของการจัดการแก้ไขปัญหา: เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดที่รวดเร็ว รวมทั้งบริบทของพื้นที่ พชอ. 3 แห่ง มีความแตกต่างกัน โดย พชอ. เมือง เป็นสังคมเมือง ชุมชนเมือง ส่งผลทำให้ติดง่าย ส่วน พชอ. ด่านช้าง และเดิมบางนางบวช เป็นชุมชนชนบทส่วนใหญ่ ซึ่งปัญหาที่พบคือ การไม่ขอรับการฉีดวัคซีน การไม่ใส่หน้ากากอนามัยในบ้าน การ์ดตก หรือ ชุมชน การแพร่กระจายรวดเร็ว สิ่งที่พบเช่น Cluster ดื่มสุราในหมู่บ้าน ทั้งนี้ยังพบว่านโยบายมีการเปลี่ยนแปลงบ่อย ๆ เกณฑ์มีการ ปรับเปลี่ยนทำให้การทำงาน ต้องปรับตาม บางที่ขาดแคลนงบประมาณ เจ้าหน้าที่บุคลากรน้อย ถึงแม้จะ การพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) จังหวัดสุพรรณบุรีประจำปี2565


89 แก้ไขโดยทำ OT แต่เป็นปัญหาระยะเวลานานและต่อเนื่องจึงทำให้บุคลากรทำงานหนัก รวมทั้งพบว่ามี ข่าว Fake News และคุณภาพของอุปกรณ์ป้องกันโรคไม่ได้คุณภาพ ค. วัตถุประสงค์ในการดำเนินการ: การจัดการแก้ไขปัญหา มุ่งเน้นการลดการแพร่ระบาดของ โรคโควิด-19 การมุ่งเน้นให้ประชาชนได้ตระหนักถึงความสำคัญของการป้องกันการแพร่ระบาด ง. ความชัดเจนในการทำงานที่เห็นได้ชัด: จากการถอดบทเรียนของ พชอ.3 อำเภอ พบว่า สิ่งที่ทำให้ประสบความสำเร็จคือ 1) มีการสร้างความร่วมมือร่วมใจ ในการทำงานของผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างเข้มแข็ง โดยใช้ รูปแบบคณะกรรมการในการทำงานร่วมกัน ตั้งแต่ภาคการสาธารณสุข ภาคท้องถิ่นชุมชน ภาคการเมือง แม้แต่ภาคประชาชนเอง ได้เข้ามาร่วมกันทำงาน เห็นความสำคัญ โดยการจัดทำเครือข่ายการทำงาน มหาดไทยเป็นการบริหารจัดการเรื่อง สถานที่ศูนย์พักฟื้นต่างๆ กำลังคนในพื้นที่ อาสาสมัคร ภาคการ สาธารณสุขเข้ามาในประเด็นการรักษา ฟื้นฟู การจัดระบบส่งต่อ 2) ผู้นำทุกภาคส่วนเห็นความสำคัญ ไม่ว่าจะเป็น ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ผอ. โรงพยาบาล สาธารณสุขอำเภอ ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน เห็นความสำคัญ ต่อการแก้ไขปัญหา 3) บุคลากร เจ้าหน้าที่มีศักยภาพในการจัดการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ สิ่งที่เห็นได้ชัดคือระบบการทำงานที่รวดเร็ว มีการจัดการเป็นระบบ การส่งต่อผู้ป่วย ถูกต้อง มีคุณภาพ ลดการแพร่กระจายเชื้อ เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด และมีการจัดการแก้ไขปัญหาที่ ครอบคลุม จ. ข้อเสนอแนะในการพัฒนา: 1) การสร้างความเข้าใจ การรอบรู้ในการปฏิบัติตนป้องกันโรคโควิด-19 ให้แก่ประชาชนใน ชุมชน ตั้งแต่เริ่มแรกจะเป็นการดำเนินงานเชิงรุกที่มีประสิทธิภาพ ทั้งนี้จะช่วยลดอัตราการเกิดโรค อัตรา ป่วย และอัตราเสียชีวิต 2) กระบวนการทำงานควรเริ่มที่การสร้างความร่วมมือของชุมชน ไม่ควรมองแค่การแก้ไข ปัญหาปลายเหตุ แต่ควรเริ่มที่จุดสำคัญคือตัวประชาชน และการสร้างความร่วมมือร่วมใจของประชาชน เอง อันจะเป็นกำแพงหลัก ที่สามารถป้องกันโรคที่จะเกิดขึ้นในชุมชนของตน การพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) จังหวัดสุพรรณบุรีประจำปี2565


90 ประเด็นที่ 2: การป้องกันอุบัติเหตุทางถนน ผู้ร่วมถอดบทเรียน: 1) ทีม พชอ.บางปลาม้า 2) ทีม พชอ.อู่ทอง ผลการถอดบทเรียน: ก.จุดเริ่มต้น: อุบัติการณ์ การเกิดอุบัติเหตุทางถนนที่สูงขึ้น ส่งผลทำให้เกิดการสูญเสียชีวิต และ การพิการ ทั้งนี้การเริ่มต้นการทำงาน พชอ.ตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นมาในการทบทวนปัญหาถึงปัญหา และ แนวทางการแก้ไขเพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสียจากอุบัติทางถนน ข.บริบทสำคัญของการจัดการแก้ไขปัญหา: จากการวิเคราะห์บริบทสำคัญ มอง 2 ปัจจัยหลัก ของปัญหาที่ต้องดำเนินการแก้ไข คือ 1) ปัจจัยภายใน หรือปัจจัยส่วนบุคคล ได้แก่ การไม่รู้กฎจราจร การทำผิดกฎจราจร จากการประมาท การไม่ใส่อุปกรณ์ป้องกัน เช่น หมวกกันน็อค 2) สภาพแวดล้อม บริบทสิ่งแวดล้อม เช่น ถนนใหญ่ ทำเลเป็นโรงงานติดถนน ไม่มี สะพานลอยข้าม เป็นต้น ค. วัตถุประสงค์ในการดำเนินการ: ลดอุบัติการณ์การเกิดอุบัติเหตุทางถนนให้ลดน้อยลง ง. ความชัดเจนในการทำงานที่เห็นได้ชัด: จากการถอดบทเรียนของ พชอ. 2 อำเภอ พบว่า สิ่งที่ทำให้ประสบความสำเร็จคือ 1) มีการสร้างความร่วมมือร่วมใจ ในการทำงานของผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างเข้มแข็ง โดยใช้ รูปแบบคณะกรรมการในการทำงานร่วมกัน ตั้งแต่ภาคการสาธารณสุข ภาคท้องถิ่นชุมชน ได้แก่ ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน ตำรวจ โดยใช้รูปแบบการทำงานแบบเครือข่าย พชอ. 2) ผู้นำทุกภาคส่วน ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ สาธารณสุขอำเภอ ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน ตำรวจ โรงเรียน เห็นความสำคัญ ต่อการแก้ไขปัญหา โดยมีการปรับเปลี่ยนและสร้าง ดังนี้ 2.1 มีการประชุมหารือผู้เกี่ยวข้องในการทบทวนปัญหา และการจัดระบบการ ป้องกันอุบัติเหตุทางถนนที่ผ่านมา พบว่าเรื่องสิ่งแวดล้อม ทำเล รวมทั้งความตระหนักถึงความสำคัญของ ประชาชนในกฎจราจร มีผลต่อการเกิดอุบัติเหตุ 2.2 ดำเนินการสร้างความตระหนักให้ประชาชน โดยเริ่มจากโรงเรียน โดยการ ปลูกฝังที่ลูก และขยายต่อไปสู่พ่อแม่ ครอบครัวเรื่องความรู้ในกฎจราจร และความสำคัญในการปฏิบัติ ตามกฎจราจรอย่างถูกต้องและสม่ำเสมอ 3) ความยั่งยืน สิ่งที่เห็นได้ชัดคือ 1) ปัจจุบันมีอาสาสมัครการป้องกันอุบัติเหตุในชุมชน ทุกภาคส่วน ได้แก่ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน ตำรวจ ในพื้นที่เข้ามามีส่วนร่วมในการเป็นคณะกรรมการตรวจสอบ ดูแลเรื่องความปลอดภัยทาง ท้องถนน การพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) จังหวัดสุพรรณบุรีประจำปี2565


91 2) ฝ่ายปกครอง ประสานตรวจสอบสภาพแวดล้อม ทำเล ที่ส่งเสริมให้เกิดอุบัติเหตุและ ดำเนินการแก้ไขทางกายภาพ โดยจัดทำสะพานลอยคนข้าม ทางม้าลาย การมีป้าย กระจก บอกทิศทาง และป้ายเตือนบริเวณที่เกิดอุบัติเหตุบ่อย ทั้งนี้ อปท.ได้มีการสนับสนุนด้านงบประมาณในการจัดการ จ. ข้อเสนอแนะในการพัฒนา: 1) การทบทวนร่วมกันถึงสาเหตุที่แท้จริง พบว่าอุบัติการณ์การเกิดอุบัติทางถนน ลดลง แต่ เนื่องจากบางปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น เรื่องการประมาท การปฏิบัติตามกฎจราจร จากบุคคล ต่างพื้นที่ การแก้ไขด้านทำเล ป้าย สภาพแวดล้อม การมีสะพานลอยคนข้าม จึงเป็นการป้องกันที่ถูกต้อง เหมาะสม และตรงประเด็น จึงควรดำเนินการตามแนวปฏิบัตินี้ต่อไป 2) ควรให้มีการวิเคราะห์ทบทวน อย่างต่อเนื่อง เพื่อลดปัญหานี้หรือทำให้หมดไป ประเด็นที่ 3: อาหารปลอดภัย ผู้ร่วมถอดบทเรียน: 1) ทีม พชอ.ดอนเจดีย์ 2) ทีม พชอ.สองพี่น้อง และ 3) ทีม พชอ.สามชุก ผลการถอดบทเรียน: ก.จุดเริ่มต้น: ต้องการจัดให้สุพรรณบุรี เป็นเมืองอาหารอร่อยอาหารปลอดภัย ข.บริบทสำคัญของการจัดการแก้ไขปัญหา: พบว่าตลาดยังขาดการจัดระเบียบ การควบคุม คุณภาพอาหาร มีการเปลี่ยนประธาน พชอ.บ่อย มีผลต่อระยะเวลาขั้นตอนการทำงาน รวมทั้งการแพร่ ระบาดของโรคติดต่อโควิด-19 ภัยธรรมชาติจากน้ำท่วม ภัยแล้ง มีผลต่อการขับเคลื่อนด้านอาหาร ปลอดภัยในพื้นที่ ค. วัตถุประสงค์ในการดำเนินการ: 1) ลดการใช้สารเคมีในพืชผัก การใส่สารเคมีป้องกันบูดในอาหารสด 2) มีจัดระเบียบตลาดให้เป็น Street food อาหารอร่อย และอาหารปลอดภัยเป็นจุด ท่องเที่ยวในจังหวัดสุพรรณบุรี 3) เพิ่มรายได้ของประชาชน ง. ความชัดเจนในการทำงานที่เห็นได้ชัด: จากการถอดบทเรียนของ พชอ.3 อำเภอ พบว่า สิ่งที่ทำให้ประสบความสำเร็จ คือ 1) มีการสร้างความร่วมมือร่วมใจ ในการทำงานของผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยอยู่ในรูปแบบ ภาคีเครือข่ายตั้งแต่ภาคประชาชน เจ้าของร้านอาหาร กลุ่มเกษตรกร ต้องการพัฒนาพื้นที่ของตนให้เป็น ตลาดสีเขียว 2) อสม. อปท. เข้ามามีส่วนร่วมในการควบคุมคุณภาพอาหารและจัดระเบียบตลาด การพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) จังหวัดสุพรรณบุรีประจำปี2565


92 3) บุคลากร ได้แก่ อสม คณะกรรมการ พชอ. เกษตรอำเภอ อปท. ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน มี การทำงานในรูปแบบภาคีเครือข่าย เป็นทีมที่มีศักยภาพในการจัดการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ สิ่งที่เห็นได้ชัดคือ ปัจจุบัน มีการดำเนินงานตามแผนที่ตั้งไว้ โดย พชอ. ได้มีการพัฒนาตลาดให้ เป็นตลาดสีเขียว มีสำรวจตรวจสอบคุณภาพอาหาร ความปลอดภัยที่ผู้บริโภคควรได้รับ การจัดสถานที่ สิ่งแวดล้อมที่สะอาด มีการพัฒนาองค์ความรู้ ด้านเกษตร มุ่งหวังว่าจะพัฒนาตลาดสดวิถีใหม่ให้เกิดขึ้นใน พื้นที่ทั้งหมด จ. ข้อเสนอแนะในการพัฒนา: 1) การสร้างความมุ่งหวังแน่วแน่ ที่จะทำพื้นที่ตลาดให้เป็นตลาดสีเขียว มีอาหารที่สะอาด ปลอดภัย เป็นความตั้งใจของคณะทำงาน ส่งผลให้เห็นการพัฒนาที่ต่อเนื่อง ซึ่งการดำเนินงานจะต่อเนื่อง ตลอดไป 2) การจัดระบบและมีการประเมินผล รวมทั้งการประเมินความพึงพอใจของผู้รับบริการ ใน เชิงปริมาณ และเชิงคุณภาพ ซึ่งสามารถนำผลมาใช้ในการพัฒนาการทำงานต่อไป ประเด็นที่ 4: คุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ ผู้ร่วมถอดบทเรียน: 1) ทีม พชอ.ศรีประจันต์ ผลการถอดบทเรียน: ก.จุดเริ่มต้น: มีการทำงานในด้านการดูแลคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุตั้งแต่การทำงาน คปสอ. ปี 2558 และมีการปรับระบบการทำงานเป็น พชอ. สืบเนื่องต่อจนเป็นคณะทำงานในปัจจุบัน ข. จำนวนผู้สูงอายุในพื้นที่ที่มากขึ้น เกิดภาวะพึ่งพา แต่ประเด็นที่สำคัญสุดคือ การมีอาหารการ กินที่ครบทุกมื้อ ผู้สูงอายุถูกทอดทิ้ง เจ็บป่วยยังขาดการดูแล ค. วัตถุประสงค์ในการดำเนินการ: 1) ตำบลเข้าร่วมเป็นคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนดูแลผู้สูงอายุให้ทุกพื้นที่ โดยเข้าร่วม ร้อยละ 100 2) ผู้สูงอายุ ปราศจากการทอดทิ้ง 100% ผลการดำเนินงาน 1) ตำบลเข้าร่วมเป็นคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนดูแลผู้สูงอายุให้ทุกพื้นที่(ในอำเภอศรี ประจันต์) โดยเข้าร่วม ร้อยละ 80 ซึ่งปัจจุบันกำลังเร่งขับเคลื่อนให้เข้าร่วม 2) ผู้สูงอายุ ปราศจากการทอดทิ้ง 100% โดยไม่มีรายงานการถูกทอดทิ้ง การพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) จังหวัดสุพรรณบุรีประจำปี2565


93 ง. ความชัดเจนในการทำงานที่เห็นได้ชัด: จากการถอดบทเรียนของ พชอ.ศรีประจันต์พบว่า สิ่งที่ทำให้ประสบความสำเร็จคือ 1) ผู้นำให้ความสำคัญอย่างมาก ทั้งผู้นำจากหน่วยราชการ และผู้นำทางธรรมชาติ โดย มีการจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือผู้สูงอายุระดับอำเภอ ในการช่วยเหลือผู้สูงอายุที่เจ็บป่วย มีการถูกทอดทิ้ง และขาดทุนทรัพย์ โดยทุกกิจกรรม ได้รับการร่วมมืออย่างดีจากทุกภาคส่วน 2) ทีมสุขภาพมองปัญหาเป็นหนึ่งเดียว ใช้การทำงานเป็นทีม จ. ข้อเสนอแนะในการพัฒนา: ความคาดหวังของการดูแลการจัดการระบบการดูแลผู้สูงอายุที่ ครบวงจร ของพื้นที่มุ่งหวังมองไปถึง 1) การจัดทำหลักสูตร /การเชื่อมผู้เกี่ยวข้องมาการจัดการดูแลผู้สูงอายุ เป็นแผนงานที่ ต้องการการขับเคลื่อนให้อยู่จริงอยู่ หากเป็นไปได้จะสามารถเกิดการทำงานดูแลคุณภาพผู้สูงอายุที่มี คุณภาพมากขึ้น และตอบสนองความต้องการของปัญหาที่พบในปัจจุบัน ในด้านการดูแล และการลดการ ทอดทิ้งผู้สูงอายุในชุมชน ประเด็นที่ 5: การกำจัดขยะ ผู้ร่วมถอดบทเรียน: 1) ทีม พชอ.หนองหญ้าไซ ผลการถอดบทเรียน: ก.จุดเริ่มต้น: เป็นปัญหาสำคัญระดับอำเภอของ อำเภอหนองหญ้าไซ ในด้านไม่มีสถานที่ทิ้งขยะ เผาขยะในพื้นที่ ขาดแคลนรถเก็บขยะ รวมทั้งประชาชนขาดความรู้การคัดแยกขยะที่ถูกต้อง ทั้งนี้ยัง พบว่า ภาคประชาชน เข้าร่วมโครงการน้อย นโยบายปรับเปลี่ยนไปตลอด จำเป็นต้องให้ชุมชนเข้ามามี ส่วนขับเคลื่อนในการแก้ไขปัญหา ข. วัตถุประสงค์ในการดำเนินการ: 1) ประชาชนมีความรู้ในการคัดแยกขยะ การกำจัดขยะอย่างถูกวิธี 2) มีสถานที่ทิ้งขยะ เช่น เตาเผาขยะ อย่างเพียงพอ ผลการดำเนินงาน มีการแก้ไขปัญหาตามประเด็นที่พบคือ 1) มีการจัดทำกองทุน ช่วยเหลือโดยมีธนาคารขยะ 2) ประชาชนมีความรู้ในด้านการคัดแยกขยะ การกำจัดขยะอย่างถูกวิธี 3) มีศูนย์การเรียนรู้ในชุมชนตำบลหนองขาม มีโครงการคัดแยกขยะแยกบุญ นำขยะมาขายได้ 4) ปริมาณขยะลดน้อยลง การพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) จังหวัดสุพรรณบุรีประจำปี2565


94 ง. ความชัดเจนในการทำงานที่เห็นได้ชัด: จากการถอดบทเรียนของ พชอ.หนองหญ้าไซ พบว่า สิ่งที่ทำให้ประสบความสำเร็จ คือ 1) คณะทำงาน พชอ.มีความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาอย่างแท้จริง 2) กลยุทธ์การสร้างการมีส่วนร่วมที่ดีในการทำงานร่วมกัน โดยคณะทำงานได้จัดตั้ง ธนาคารขยะเกิดขึ้น เพื่อให้ประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา และผลที่ได้รับคือ ปริมาณ ขยะของชุมชนลดลง ขยะที่ขายนั้นได้นำไปสร้างบ้านผู้ยากไร้ รวมทั้งซื้อชุดเยี่ยมบ้าน ให้กับประชาชนใน พื้นที่ 3) การสร้างความร่วมมือจากภาคประชาชนให้มากสุด ดังนั้นประชาชนต้องร่วมทำ และ ร่วมได้รับผลประโยชน์จากการแก้ไขปัญหา โดยต้องเป็นรูปธรรมเห็นได้ชัด จ. ข้อเสนอแนะในการพัฒนา: 1) การพัฒนากลยุทธ์การทำงานแก้ไขปัญหาโดยใช้กระบวนการมีส่วนร่วม เป็นกลยุทธ์ที่ ช่วยให้ประชาชน ได้เข้าถึงและมีโอกาสได้เข้ามามีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาชุมชนของตน จะก่อให้เกิดแนว ทางการแก้ไขปัญหาที่ยั่งยืนต่อไป ขั้นที่ 5 การเผยแพร่ผลการถอดบทเรียน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุพรรณบุรี ได้ดำเนินการจัดทำ รายงานสรุปผลการถอดบทเรียนการ ดำเนินงานคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ จังหวัดสุพรรณบุรี(พชอ. จังหวัดสุพรรณบุรี) โดยส่ง รายงานสรุปผลการเรียนรู้ให้แก่ พชอ.ทั้ง 10 อำเภอ ทั้งนี้ผลการดำเนินงานดังกล่าวนี้ จะเป็นการถอดบทเรียนการ ดำเนินงานที่ประสบความสำเร็จ ผลงานที่มีการทำงานที่ชัดเจน กระบวนการเรียนรู้ที่เกิดร่วมกัน อันจะนำไปสู่การ พัฒนาระบบ และกลไก การทำงาน พชอ. ของจังหวัดสุพรรณบุรี ให้ประสบความสำเร็จและส่งผลต่อคุณภาพการ บริการสุขภาพที่ตรงเป้าหมายตามความต้องการของประชาชนต่อไป ******************************** การพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) จังหวัดสุพรรณบุรีประจำปี2565


ถอดบทเรียน ระดับอำเภอ • ประเด็น COVID -19 95 การพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) จังหวัดสุพรรณบุรีประจำปี2565


96 การพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) จังหวัดสุพรรณบุรีประจำปี2565


Click to View FlipBook Version