หลักสูตรท้องถิ่น
เรื่อง การปลูกผักเกษตรอินทรีย์
ศูนย์เรียนรู้ “เศรษฐกิจพอเพียง” ในชุมชน
Sufficiency Economy Community Learning Centre (SECLC)
หมู่ที่ 1 ต าบลกง อ าเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย
การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยต าบลบ้านกง
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอ าเภอกงไกรลาศ
ส านักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดสุโขทัย
ค ำน ำ
ั
การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธยาศัยต าบลกง ได้ด าเนินการจัดท าหลักสูตรท้องถิ่น เรื่อง
ื่
ิ
การปลูกผักเกษตรอนทรีย์ เพอใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้านการเกษตรของศูนย์เรียนรู้ “เศรษฐกิจ
พอเพยง” ในชุมชนSufficiency Economy Community Learning Centre (SECLC) หมู่ที่ 1 ต าบลกง
ี
ั
อาเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย โดยมีวัตถุประสงค์ในการพฒนาผู้เรียนให้มีความรู้ตามหลักปรัชญาของ
เศรษฐกิจพอเพียง และสามารถน าความรู้ไปปรับใช้ในวิถีชีวิตที่เหมาะสมกับตนเองและครอบครัวได้อย่างดียิ่ง
หวังเป็นอย่างยิ่งว่าหลักสูตรท้องถิ่นเล่มนี้ จะเป็นประโยชน์ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ของศูนย์
เรียนรู้ “เศรษฐกิจพอเพยง”ในชุมชนด้านการเกษตร และหากมีข้อเสนอแนะประการใด ในเอกสารหลักสูตร
ี
ท้องถิ่นเล่มนี้ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยต าบลกง จะน าไปพัฒนาต่อไป
กศน.ต าบลกง
ึ
ศูนย์การศกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอ าเภอกงไกรลาศ
9 เมษายน 2562
สารบัญ
หน้า
ค าน า
สารบัญ
ค าแนะน าการใช้หลักสูตรท้องถิ่น 1
โครงสร้างหลักสูตรท้องถิ่น 2
- สาระส าคัญ 2
- ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง 2
- ขอบข่ายเนื้อหา 2
- กิจกรรมการเรียนรู้ 2
- โครงสร้างเนื้อหาหลักสูตร 3
- การจัดประสบการณ์การเรียนรู้ 4
- การวัดและประเมินผล 4
- เนื้อหาหลักสูตร 6
เรื่องที่ 1 ความส าคัญและประโยชน์ของการปลูกผักเกษตรอินทรีย์
เรื่องที่ 2 ขั้นตอนการปลูกผักระบบเกษตรอินทรีย์
เรื่องที่ 3 ช่องทางการจัดจ าหน่าย/การตลาด
บรรณานุกรม
ภาคผนวก
คณะผู้จัดท า
1
ค ำแนะน ำกำรใช้หลักสูตรท้องถิ่น
ิ
หลักสูตรท้องถิ่น เรื่องการปลูกผักเกษตรอนทรีย์ ของศูนย์เรียนรู้ “เศรษฐกิจพอเพยง” ในชุมชน
ี
หมู่ที่ 1 ต าบลกง อาเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย เป็นหลักสูตรที่สอดคล้องกับการด าเนินชีวิตจริงและมุ่งเน้น
การเรียนรู้อย่างบูรณาการ ไม่แยกส่วนของกระบวนการเรียนรู้ โดยผู้เรียนเป็นผู้ร่วมกระบวนการเรียนรู้ด้วย
ตนเอง และเกษตรกรต้นแบบ (Master Trainer) จะเป็นผู้ถ่ายทอดความรู้ ให้ค าแนะน าให้ค าปรึกษา และ
ั
ช่วยเหลืออ านวยความสะดวกในการเรียนรู้ให้แก่ผู้เรียน อนจะน าไปสู่การคิดเป็น ท าเป็น และสามารถน าไป
ปรับใช้ในวิถีชีวิตประจ าวันตามหลักปรัชญาของ “เศรษฐกิจพอเพียง”รายละเอียดดังนี้
1. หลักสูตรท้องถิ่น เรื่องกำรปลูกผักเกษตรอินทรีย์ประกอบด้วย
เรื่องที่ 1 ความส าคัญและประโยชน์ของการปลูกผักเกษตรอินทรีย์
เรื่องที่ 2 ขั้นตอนการปลูกผักระบบเกษตรอินทรีย์
เรื่องที่ 3 ช่องทางการจัดจ าหน่าย/การตลาด
2. ระยะเวลำในกำรศึกษำ จ ำนวน 6 ชั่วโมง
3. วิธีกำรศึกษำ
3.1 ท าแบบทดสอบก่อนเรียน – หลังเรียน เพอตรวจสอบความรู้ ความเข้าใจในหลักสูตร
ื่
ท้องถิ่น เรื่องการปลูกผักเกษตรอินทรีย์ นี้เพียงใด
3.2 ผู้เรียนเป็นผู้ร่วมกระบวนการเรียนรู้ด้วยตนเอง และเกษตรกรต้นแบบ (Master Trainer)
จะเป็นผู้ถ่ายทอดความรู้ ให้ค าแนะน าให้ค าปรึกษา และช่วยเหลืออานวยความสะดวกในการเรียนรู้ให้แก่
ผู้เรียน
3.3 นอกจากศึกษาจากหลักสูตรท้องถิ่นแล้วผู้เรียนควรหาความรู้เพิ่มเติมจากแหล่งการเรียนรู้
อื่น ๆ เช่น แหล่งเรียนรู้ที่มีอยู่ในอ าเภอ เว๊ปไซต์ต่าง ๆ หรือห้องสมุดประชาชน
2
โครงสร้ำงหลักสูตรท้องถิ่น
สำระส ำคัญ
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องการปลูกผักเกษตรอินทรีย์ เป็นการจัดกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้
บูรณาการทักษะต่าง ๆ ไปพร้อมกับการสร้างสถานการณ์ในการเรียนรู้โดยมี เกษตรกรต้นแบบ (Master
Trainer) เป็นผู้ถ่ายทอดความรู้ โดยให้ผู้เรียนได้ฝึกปฏิบัติด้วยตนเองจนส าเร็จ และสามารถน าความรู้ที่ได้ไป
ปรับใช้ในวิถีชีวิตที่เหมาะสมกับตนเองและครอบครัวได้ ตามหลักปรัชญาของ“เศรษฐกิจพอเพียง”
ผลกำรเรียนรู้ที่คำดหวัง
1. ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความส าคัญและประโยชน์ของการปลูกผักเกษตรอินทรีย์
ู
2. ผู้เรียนสามารถปลูกผักเกษตรอินทรีย์ตามขั้นตอนได้ถกต้อง
3. ผู้เรียนสามารถรู้ช่องทางการจ าหน่ายผลผลิต เพื่อเป็นรายได้ในการด ารงชีพ
ขอบข่ำยเนื้อหำ
เรื่องที่ 1 ความส าคัญ และประโยชน์ของการปลูกผักเกษตรอินทรีย์
เรื่องที่ 2 การปลูกผักเกษตรอินทรีย์
2.1 การปรับปรุงดินโดยใช้สารอินทรีย์
2.2 การดูแลรักษา
เรื่องที่ 3 ช่องทางการจัดจ าหน่าย/การตลาด
กิจกรรมกำรเรียนรู้
ผู้เรียนเป็นผู้ร่วมกระบวนการเรียนรู้ด้วยตนเอง และเกษตรกรต้นแบบ (Master Trainer) จะเป็นผู้
ถ่ายทอดความรู้ ให้ค าแนะน าให้ค าปรึกษา และช่วยเหลืออานวยความสะดวกในการเรียนรู้ให้แก่ผู้เรียน อน
ั
จะน าไปสู่การคิดเป็น ท าเป็น และสามารถน าไปปรับใช้ในวิถีชีวิตประจ าวันตามหลักปรัชญาของ “เศรษฐกิจ
พอเพียง”
โครงสร้ำงเนื้อหำหลักสูตร
จ ำนวน
ที่ เรื่อง ตัวชี้วัด เนื้อหำ
ชั่วโมง
1 ความส าคัญและ ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจ 1.ความส าคัญและประโยชน์ของการ 1
ประโยชน์ของการปลูก เกี่ยวกับความส าคัญและ ปลูกผักเกษตรอินทรีย์
ผักเกษตรอินทรีย์ ประโยชน์ของการปลูกผัก
เกษตรอินทรีย์
2 การปลูกผักเกษตร ผู้เรียนสามารถปลูกผักเกษตร 2.การปลูกผักเกษตรอินทรีย์ 4
อินทรีย์ อินทรีย์ตามขั้นตอนได้ถูกต้อง 2.1 การปรับปรุงดินโดยใช้
สารอินทรีย์
2.2 การดูแลรักษา
3
จ ำนวน
ที่ เรื่อง ตัวชี้วัด เนื้อหำ
ชั่วโมง
3 ช่องทางการจัดจ าหน่าย/ ผู้เรียนสามารถรู้ช่องทางการ 3. ช่องทางการจัดจ าหน่าย และ 1
การตลาด จ าหน่ายผลผลิต เพื่อเป็น การตลาด
รายได้ในการด ารงชีพ
กำรจัดประสบกำรณ์กำรเรียนรู้
ควรจัดในลักษณะของการบูรณาการทักษะต่าง ๆ ไปพร้อมกับการสร้างสถานการณ์ในการเรียนรู้ เพอ
ื่
ั
ื่
ฝึกให้ผู้เรียนได้ศึกษาคุณธรรมเพอพฒนาสังคมไทยและมีเจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้ด้วยตนเองที่ท าให้การเรียนรู้
ด้วยตนเองประสบความส าเร็จ และน าความรู้ไปใช้ในวิถีชีวิตให้เหมาะสมกับตนเอง และชุมชน สังคมหลัก
ปรัชญาของ “เศรษฐกิจพอเพียง”
กำรวัดและประเมินผล
ใช้การประเมินจากการท าแบบทดสอบ สังเกตจากการปฏิบัติ และสภาพจริงของผู้เรียนที่แสดงออก
4
แบบทดสอบก่อนเรียน -หลังเรียน วิชำ กำรปลูกผักเกษตรอินทรีย์
ค ำชี้แจง : โปรดท ำเครื่องหมำย × หน้ำค ำที่ถูกต้อง
1. มาตรฐานการเกษตรอินทรีย์ จัดท าขึ้นเพื่อประโยชน์อะไร
ิ
ก. ใช้ก าหนดแนวทางในการส่งเสริมการเกษตรอนทรีย์
ุ
ข. ใช้ควบคุมระบบการผลิตเกษตรอินทรีย์ให้มีคณภาพ
ค. ก าหนดชนิดของพืชที่สามารถเพาะปลูกได้
ง. การเกษตรอินทรีย์ต้องท าเพื่อการส่งออก
2.ข้อใดกล่าวถึงความหมายของการเกษตรอินทรีย์ได้ถูกต้องที่สุด
ก. การเกษตรที่ลดการใช้ปัจจัยการผลิตจากภายนอก
ข. การเกษตรที่เป็นสากล
ค. การเกษตรที่หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมี
ง. การเกษตรตามวิถีการด ารงชีวิต และวัฒนธรรม ของคนในท้องถิ่น
3. การท าการเกษตรอินทรีย์หากต้องการพัฒนาคุณภาพ และเพมผลผลิตทางการเกษตรท่านควรศึกษาข้อมูลใน
ิ่
ด้านใดมากที่สุด
ก. ข้อมูลตนเอง
ข. ข้อมูลทางสังคม
ค. ข้อมูลทางสิ่งแวดล้อม
ง. ข้อมูลทางวิชาการ
ิ
4.หากต้องการท าการเกษตรอนทรีย์ เกษตรกรควรพัฒนาการเรียนรู้ด้านใด
ก. การแก้ปัญหาชีวิตประจ าวัน
ข. ศึกษาการลดการใช้สารเคมี
ค. การเลือกใช้สารเคมีเพื่อการเกษตร
ง. ธรรมชาติและการบริหารจัดการงานเกษตรกรรม
5.ข้อใดเป็นการลดต้นทุนในการผลิตที่เหมาะสมที่สุด
ก. ใช้สารเคมีสังเคราะห์ในการจ ากัดศัตรูพืชและฮอร์โมน
ข. เน้นการใช้เครื่องจักรแทนการใช้แรงงาน
ค. การปรับปรุงบ ารุงดินด้วยอินทรีย์วัตถุ
ง. การไถพรวนดินหลายๆครั้งเพื่อก าจัดวัชพืช
6.การปลูกพืชหลายชนิดท าให้มีความหลากหลายทางชีวภาพและมีแมลงหลากหลายชนิดส่งผลดีต่อการเกษตรอย่างไร
ก. แมลงที่ตายสามารถน ามาท าปุ๋ยอินทรีย์ได้
ข. แมลงหลากหลายชนิดจะท าให้พืชมีผลผลิตมากขึ้น
ค. เกิดการแพร่ขยายของแมลงที่กินแมลงศัตรูพืช
ง. มีแมลงที่เป็นศัตรูพืชเพมมากขึ้น
ิ่
5
7.ประโยชน์ของการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ในการปลุกพืช
ก. เป็นแหล่งธาตุอาหารรองและจุลธาตุแก่พืช
ข. มีจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์
ค. เป็นทางเลือกให้กับเกษตรกรในการทดแทนปุ๋ยเคม ี
ง. ข้อ ก.ข. และ ค.ถูก
8.ข้อเด่นของปุ๋ยอินทรีย์ที่เหนือกว่าปุ๋ยเคมี คือข้อใด
ก.ปุ๋ยอินทรีย์ไนโตรเจนแต่ปุ๋ยเคมีไม่ม ี
ข.ปุ๋ยอินทรีย์มีธาตุไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และ โพแทสเซียม แต่ปุ๋ยเคมีไม่มี
ค.ปุ๋ยอินทรีย์มีทั้งชนิดน้ าและชนิดเม็ด
ง.ปุ๋ยอินทรีย์มีจุลธาตุที่จ าเป็นต่อจุลินทรีย์ในดินและพืช
9.ปัญหาต้นทุนในการผลิตสูงในภาคการเกษตรมีสาเหตุข้อใด
ก. ค่าครองชีพสูง
ข. สภาพฝนฟ้าอากาศ
ค. มีการแข่งขันกันในตลาดโลก
ง. พึ่งพาอาศัยปัจจัยภายนอกในการผลิต เช่น น้ ามัน ปุ๋ยสารเคมีฆ่าแมลง
10.ข้อใดคือการเกษตรปลอดสารพิษหรือการท าเกษตรอินทรีย์
ก. ปุ๋ยเคมีเพอบ ารุงต้นพืช
ื่
ข. การใช้ยาฆ่าแมลงในการก าจัดศัตรูพืช
ค. ใช้วัสดุธรรมชาติในการปลูกทุกขั้นตอน
ง. ใช้สารเคมีก าจัดวัชพืช
เฉลย แบบทดสอบ ก่อนเรียน/หลังเรียน
1 ข 2 ค 3 ง 4 ง 5 ค
6 ค 7 ง 8 ง 9 ง 10 ค
6
เนื้อหำหลักสูตร
ี่
เรื่องท 1 ควำมส ำคัญและประโยชน์ของกำรปลูกผักเกษตรอินทรีย์
ิ
เกษตรอนทรีย์คือ ระบบการผลิตที่ค านึงถึงสภาพแวดล้อมรักษาสมดุลของธรรมชาติและความ
หลากหลายของทางชีวภาพโดยมีระบบการจัดการนิเวศวิทยาที่คล้ายคลึงกับธรรมชาติ และหลีกเลี่ยงการใช้สาร
ื
สังเคราะห์ไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยเคมีสารเคมีก าจัดศัตรูพชและฮอร์โมนต่างๆ และไม่ใช้พชหรือสัตว์ที่เกิดจากการตัด
ื
ิ
ื
ิ
ั
ต่อทางพนธุกรรมที่อาจเกิดมลพษในสภาพแวดล้อมเน้นการใช้อนทรีย์วัตถุ เช่น ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยพชสด
และปุ๋ยชีวภาพในการปรับปรุงบ ารุงให้มีความอดมสมบูรณ์เพอให้ต้นพชมีความแข็งแรงสามารถ ต้านทานโรค
ื่
ุ
ื
และแมลงด้วยตนเองรวมถึงการน าภูมิปัญญาชาวบ้านมาใช้ประโยชน์ด้วยผลผลิตที่ได้จะปลอดภัยจากสารพษ
ิ
ตกค้างท าให้ปลอดภัยทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภคและไม่ท าให้สภาพแวดล้อมเสื่อมโทรม เกษตรอนทรีย์ เป็นการท า
ิ
ิ
การเกษตรที่เลียนแบบธรรมชาติ โดยการท าการเกษตรที่ไม่ใช้สารเคมีใด ๆหัวใจของการท าการเกษตรอนทรีย์
อยู่ที่ดิน โดยใช้กระบวนการปรับปรุงดินที่ตายแล้วคืนสู่ดินมีชีวิต ซึ่งเกษตรกรต้องมีความตั้งใจแน่วแน่ที่จะ
เปลี่ยนจากเกษตรกรรมเคมีมาสู่เกษตรกรรมที่มีผลต่อสุขภาพพลานามัย หรือคุณภาพชีวิตที่ดี ทั้งนี้เพราะความ
เจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีชีวภาพท าให้การเปลี่ยนแปลงตามปกติ เป็นการเปลี่ยนแปลงแบบก้าวกระโดดเมื่อ
ปฏิบัติไปได้สักระยะหนึ่ง เมื่อดินได้ถูกปรับสภาพแล้วผลผลิตของเกษตรอนทรีย์จะผิดไปจากเกษตรกรรมเคมี
ิ
ั
ิ
โดยสิ้นเชิง คือ รสชาติอร่อยเก็บไว้ได้นาน น้ าหนักดี สีสวย ไร้สารพษ ปราศจากอนตรายต่อชีวิตผู้ผลิตและ
ผู้บริโภค ผลไม้บางชนิด และหลายชนิด เมื่อดินถูกปรับสภาพจะท าให้ผลผลิตดกตลอดปเเศรษฐกิจดีกว่าเก่า
ปัญหาโรคแมลงศัตรูพืชจะลดลงเพราะจุลินทรีย์จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันภูมิต้านทานธรรมชาติ
ประโยชน์ของการปลูกผักเกษตรอินทรีย์
ี
ิ
- อาชีพการปลูกผักเกษตรอนทรีย์ สามารถท าเป็นอาชีพได้อกอาชีพหนึ่ง เป็นอาชีพที่มีการลงทุน
น้อย ได้ผลผลิตเร็ว
- การปลูกผักเกษตรอนทรีย์เป็นประโยชน์ด้านสุขภาพ ผักเกษตรอนทรีย์ จะมีความเสี่ยงจาก
ิ
ิ
สารเคมี น้อยมากและเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
- อนุรักษ์และปรับปรุงสภาพแวดล้อมที่เสื่อมโทรมให้สมบูรณ์ ท าให้ห่วงโซ่อาหารที่ถูกท าลายไป
โดยสารเคมีกลับฟื้นคืนดี ท าให้ประชาชนมีอาหารที่เกิดจากธรรมชาติ เช่น กุ้ง หอย ปู ปลา กบ เขียด นก ฯลฯ
- ลดต้นทุนการผลิต ท าให้เกษตรกรได้ก าไรมากขึ้น เกษตรกรที่ยากจนสามารถปลดเปลื้องหนี้สินให้
ลดลงและหมดไปได้
ั
- ผลผลิตปลอดภัยต่อผู้บริโภค ท าให้อตราการป่วยไข้และเสียชีวิตของประชาชนลดจ านวนลง และ
ประชาชนมีสุขภาพพลานามัยดีขึ้น ท าให้รัฐสามารถประหยัดเงินงบประมาณในการรักษาพยาบาลลงได้มาก
เรื่องที่ 2 กำรปลูกผักเกษตรอินทรีย์
ื
การปลูกพชหลายชนิดเป็นการจัดสภาพแวดล้อมในไร่นาซึ่งจะช่วยลดการระบาดของโรคและแมลง
ื
ื
ศัตรูพชได้เนื่องจากการปลูกพชหลายชนิดจะท าให้มีความหลากหลายทางชีวภาพมีแหล่งอาหารที่หลากหลาย
ื
ของแมลง จึงมีแมลงหลากหลายชนิดมาอาศัยอยู่ร่วมกันในจ านวนแมลงเหล่านี้จะมีทั้งแมลงที่เป็นศัตรูพชและ
ื
แมลงที่เป็นศัตรูธรรมชาติที่จะช่วยควบคุมแมลงศัตรูพชให้คล้ายคลึงกับธรรมชาติในดินที่อดมสมบูรณ์นั่นเอง
ุ
การปลูกพืชหลายชนิดสามารถท าได้หลายรูปแบบ ดังนี้
7
ิ
ต้องเริ่มจากการเตรียมดิน เราสามารถปลูกผักเกษตรอนทรีย์ได้ตลอดทั้งปเและเจริญเติบโตได้ในทุก
ิ
สภาพดิน แต่ดินที่ดีที่สุดในการปลูกผักเกษตรอนทรีย์ คือดินร่วนปนทราย ซึ่งความต้องการในการเจริญเติบโต
ื
ิ
ของผักเกษตรอนทรีย์ นั้น ต้องมีความชื้นในดินที่เหมาะสม เพราะผักต่างๆเป็นพชชนิดที่มีระบบราก
ละเอียดอ่อน จึงต้องการดินที่มีความชื้นพอสมควรแต่ต้องเป็นดินที่มีการระบายน้ าที่ดีด้วย
ขั้นตอนแรก ควรไถพรวนหน้าดินให้มีความลึก
ประมาณ 25 ซม. เสร็จแล้วให้ตากดินโดยดูว่าแสงแดดแรง
หรือไม่ ถ้าแสงแดดดี ก็ให้ตากทิ้งไว้ประมาณ 4-5 วัน แต่ถ้าเป็น
้
ช่วงฟาปิดก็ให้ดูตามความเหมาะสม เพราะการตากหน้าดินนั้น
ี
จะมประโยชน์ในการฆ่าเชื้อโรคหรือไข่แมลงต่างๆที่เป็นศัตรูกับ
ผักเษตรอินทรีย์ หลังจากไถพรวนหน้าดินเรียบร้อย
ขั้นตอนที่สอง ให้เก็บวัชพืชต่างๆออกให้หมดและให้
โรยปุ๋ยหมัก หรือ ปุ๋ยคอก ในสัดส่วน ประมาณ 3 ตันต่อไร่โดย
ควรโรยปูนขาวร่วมด้วย ในสัดส่วนประมาณ 400 กิโลกรัมต่อไร่
แล้วไถพรวนหน้าดิน พร้อมตากดินนานประมาณ 3 วัน อีกครั้ง
ิ
ขั้นตอนที่สำม หลังจากนั้นยกร่องแปลงปลูกผักเกษตรอนทรีย์ ให้มีขนาดกว้างประมาณ 90 ซม. และ
ยาวขนานกับพื้นที่ดินที่เรามี การเตรียมเมล็ดพนธุ์ สามารถหาซื้อเมล็ดพนธุ์ได้ตามตลาดทั่วไป แต่ต้องคัดเมล็ด
ั
ั
ั
พนธุ์ที่ดีและ สมบูรณ์พร้อมปลูก หลังจากนั้นเอามาคัดเมล็ดที่
แตกออกแล้วแช่น้ า ผสมน้ ายาฆ่าเชื้อรา ประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่ง
ในระหว่างแช่น้ าหากมีเมล็ดที่ลอยน้ าให้คัดออกอีกรอบหนึ่ง
ขั้นตอนกำรปลูก โดยการขุดหลุมให้มีความลึก
ประมาณ 10 ซม. แต่ละหลุมให้ห่างกันตามความเหมาะสม
ิ
แล้วให้ใส่ใบคูนแห้ง ที่ก้นหลุม และใส่ปุ๋ยอนทรีย์รองก้นหลุม
เล็กน้อย หยอดเมล็ดผัก 3-4 เมล็ด แล้วกบดินในหลุมหนาประมาณ 3-4 ซม. พร้อมรดน้ าทันที ระยะแรก ควร
ให้น้ าทุกวัน วันละ 1 ครั้ง ประมาณ 1 สัปดาห์ หรือให้ดูตามความเหมาะสม
2.1 กำรปรับปรุงดินโดยใช้สำรอินทรีย์ การน าเอามูลสัตว์ต่างๆ เช่น มูลวัว, ควาย, มูลไก่, มูลค้างคาว
รวมกับ กระดูกป่น,ปลาป่น, ร าข้าว, แกลบ และแคลเซียมฟอสเฟตแมกนีเซียมโดยการน ามาหมักรวมกันและ
เพิ่มหัวเชื้อจุลินทรีย์EM เพื่อท าให้ได้ปุ๋ยอนทรีย์ที่มีคุณภาพดี โดยจะมีธาตุ ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม
ิ
สูง เหมาะกับการปลูกผักเกษตรอินทรีย์เป็นอย่างยิ่ง และจะเป็นการลดสารเคมีที่จะตกค้างอยู่ในดินได้เป็นอย่าง
ดีพร้อม ยังสามารถลดต้นทุนในการบ ารุงได้อกทางด้วย ปุ๋ยพชสดเป็นปุ๋ยอนทรีย์ชนิดหนึ่งที่ได้จากการตัดสับ
ิ
ี
ื
ุ
หรือไถกลบพชตระกูลถั่วขณะออกดอกลงไปในดินโดยมีจุดประสงค์เพอปรับปรุงดินบ ารุงดินให้มีความอดม
ื
ื่
สมบูรณ์หลังจากนั้นต้องปล่อยให้เกิดการย่อยสลายประมาณ 2 สัปดาห์จะให้ธาตุอาหารพืชและเพมอนทรีย์วัตถุ
ิ่
ิ
8
แก่ดินวิธีการบ ารุงดินเพื่อเพิ่มผลผลิตในการบ ารุงดินให้ได้ผลผลิตที่ดี และท าให้ดินมีคุณภาพดีนั้นท าได้หลายวิธี
ื
ื
ไม่ว่าจะเป็นการใช้ปุ๋ยคอก การใช้ปุ๋ยหมัก การใช้ปุ๋ยพชสด หรือการปลูกพชคลุมดินชนิดต่างๆ การใช้วัสดุคลุม
ดิน การใช้เศษเหลือของพืชหรือสัตว์ หรือการปลูกพืชหมุนเวียนต่างๆ ล้วนแต่ท าให้คุณภาพของดินดีขึ้น แต่การ
ิ
ี
ปรับปรุงบ ารุงดินที่ดีและมีคุณภาพนั้น ควรใช้หลายวิธีรวมกัน เนื่องจากการใช้ปุ๋ยอนทรีย์ต่างๆ หากใช้เพยง
ิ
ชนิดเดียวท าให้ต้องใช้ปริมาณที่มาก จึงควรพจารณาปริมาณการใช้ตามก าลังความสามารถที่มี แต่ถ้าใช้การ
ปรับปรุงบ ารุงดินหลายวิธีร่วมกัน ปริมาณที่ใช้ในแต่ละชนิดก็ลดลง จะช่วยลดค่าใช้จ่ายลงได้มาก และควรมีการ
ื่
ปฏิบัติบ ารุงดินอย่างต่อเนื่องทุกปเ เพอรักษาระดับความอดมสมบูรณ์ของดินให้สูงอยู่เสมอ เพอ
ุ
ื่
ประโยชน์ต่อการผลิตพืชผลทางการเกษตรในระยะยาวต่อไป
2.2 กำรดูแลรักษำ ผักเกษตรอนทรีย์นั้นถือว่าเป็นพชเศรษฐกิจ เพราะคนนิยมรับประทานกันมาก
ื
ิ
ิ
และเมื่อปลูกแล้วก็พบปัญหาแมลงและวัชพืชต่างๆเกิดขึ้นมากมาย ปัญหาหลักจากการปลูกผักเกษตรอนทรีย์ใน
ื
แปลงปลูกคือแมลงศัตรูพชชนิดเพลี้ยกระโดดซึ่งมักจะระบาดในแปลงผักเป็นประจ าทุกปเวิธีการก าจัด ใช้
ถุงพลาสติกสีเหลืองความหนาพอประมาณทาบริเวณผิวภายนอกด้วยกาวดักแมลงที่มีจ าหน่ายตามร้านเคมี
เกษตรทั่วไป น าไปครอบขวดน้ าที่มีน้ าบรรจุอยู่หรือวัสดุที่มีลักษณะเป็นทรงกลมขนาดพอดีกับถุงพลาสติกตั้งไว้
ิ
ในแปลงผักที่ปลูก วางระยะห่างประมาณ 50-100 เซนติเมตร หรือใช้กาวเหนียวติดกับแผ่นฟวเจอร์บอร์ดสี
ุ
เหลืองขนาด 5x6นิ้ว ปักในแปลงปลูกผักให้สูงกว่าระดับยอดผักประมาณ 1 ฟต 15 - 20 กับดัก/ไร่ เมื่อมีการ
ระบาดเพลี้ยกระโดดจะมีปฏิกิริยากระโดดเข้าหาถุงพลาสติกสีเหลืองท าให้เพลี้ยกระโดดติดกาวที่เราทาไว้ใช้
เวลาไม่เกิน 2 วันเพลี้ยกระโดดที่ระบาดจะติดกาวจนหมด น าเพลี้ยกระโดดที่ติดกาวไปก าจัดโดยวิธีการเผาและ
ฝังกลบลงดินได้ นอกจากเพลี้ยกระโดดแล้วสามารถก าจัดเพลี้ยไฟ หนอนชอนใบ ผีเสื้อหนอนใบผัก หนอน
กระทู้หอม หนอนคืบ หนอนกินใบ และแมลงหวี่ขาว นอกจากนี้ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการป้องกันก าจัด
ศัตรูพืชอีกด้วย
่
ขั้นตอนการดูแลรักษายอดออนหลังจากให้น้ ามา 1 สัปดาห์แล้ว จะเห็นยอดออนเริ่มงอกออกมาจาก
่
เมล็ดปล่อยให้เห็นใบจริงสัก 3-4 ใบก่อน แล้วให้ถอนแยกเก็บเอาเฉพาะต้นที่ดีและแข็งแรงไว้สัก 2-3 ต้น ต่อ
หลุม พร้อมทั้งโรยแกลบกลบรอบโคนหลุม และเก็บวัชพชต่างๆออกก่อน รดน้ าให้ฉ่ าแต่ไม่ควรแช่มากเกินไป
ื
วิธีการให้น้ าในระยะที่ผักก าลังเจริญเติบโตควรให้น้ าทุกๆ 3-5 วันต่อครั้ง หรือให้พจารณาตามความชื้นในดิน
ิ
และฤดูการปลูกให้เหมาะสม โดยจะตักน้ ารดโดยตรงหรือจะปล่อยน้ าเข้าตามร่องสวนก็ได้
9
เรื่องที่ 3 ช่องทำงกำรจัดจ ำหน่ำย/กำรตลำด
1.ส ารวจความต้องการของผู้บริโภคที่อยู่บริเวณใกล้เคียง หรือ ตลาดนัดส่วนใหญ่จะอยู่ในท้องถิ่น
หรือหัวเมืองใหญ่ในต่างจังหวัด โดยส่วนมากมักจัดในสถานที่ที่มีผู้บริโภคอยู่หนาแน่น ที่ผู้บริโภคสะดวกในการ
มาหาซื้อผลผลิต โดยผู้ผลิตต้องหาข้อมูล เพื่อจะได้มีช่องทางจ าหน่ายที่หลากหลาย
2.การตลาดช่องทางเฉพาะเป็นการตลาดที่ด าเนินการโดยผู้ประกอบการที่มีนโยบายในด้านเกษตร
ิ
อนทรีย์ อาหารสุขภาพและผลิตภัณฑ์เพอสิ่งแวดล้อมที่ชัดเจน สามารถด าเนินการได้หลายรูปแบบ เช่น ร้าน
ื่
ื่
ิ
ขายผลิตภัณฑ์เพอสุขภาพและสิ่งแวดล้อมหรือซูเปอร์มาร์เก็ตเกษตรอนทรีย์การตลาดในลักษณะนี้สามารถ
เข้าถึงผู้บริโภคได้มากกว่าการตลาดระบบสมาชิก และมีผลผลิตที่หลากหลายจากเกษตรกรที่มีความเชี่ยวชาญ
ในการผลิตเฉพาะทาง รวมทั้งอาจมีการแปรรู ผลิตภัณฑ์แบบง่ายๆ มากกว่าด้วย
3. การตลาดแบบออนไลน์ ผ่านทางช่องทาง Facebook และทาง LINE
บรรณานุกรม
เกษตรอินทร์ ผสมผสาน ทฤษฏีใหม่ แบบพอเพียง http://www.eto.kasetorganic.coml (5 เมษายน 2562)
จตุรงค์, ระพพงศ์และคณะ.(2550). การเปรียบเทียบความแตกต่างของสีที่ใช้เป็นกับดักแมลงในการผลิตผักเกษตร
ี
อินทรีย์ http://www.panyathai.or.th/wiki/index.php/http://www.kasetorganic.coml (6 เมษายน 2562)
ภาคผนวก
องค์ความรู้ด้านการเกษตร เรื่องการปลูกผักเกษตรอินทรีย์ ของ เกษตรกรต้นแบบ Master Trainer
ศูนย์เรียนรู้ “เศรษฐกิจพอเพยง”ในชุมชนSufficiency Economy Community Learning Centre (SECLC)
ี
หมู่ที่ 1 ต าบลกง อ าเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย
ึ
กศน.ต าบลกง ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศกษาตามอัธยาศัยอาเภอกงไกรลาศ
จ านวนชั่วโมง
จุดประสงค์การเรียนรู้ รายละเอียดเนื้อหา วิธีการให้ความรู้ สื่อการเรียนรู้ การวัดและประเมินผล
ทฤษฎี ปฏิบัติ
1.เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ความ 1.ความส าคัญและประโยชน์ของการปลูกผัก - บรรยาย ชุดนิทรรศการ จากการท าแบบทดสอบก่อน 1 ชั่วโมง -
เข้าใจ เกี่ยวกับความส าคัญ เกษตรอินทรีย์ แผ่นพับ เรียน
และประโยชน์ของการปลูกผัก พื้นที่ปฏิบัติจริง การสังเกตจากสภาพจริง.
เกษตรอินทรีย์
2.เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ความ 2.การปลูกผักเกษตรอินทรีย์ -บรรยาย พื้นที่ปฏิบัติจริง การสังเกตจากสภาพจริง. 4 ชั่วโมง
เข้าใจเกี่ยวกับการปลูกผัก 2.1 การปรับปรุงดินโดยใช้สารอินทรีย์ -สาธิต การมีส่วนร่วม
เกษตรอินทรีย์ 2.2 การดูแลรักษา -ปฏิบัติ
3.เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ความ 3 ช่องทางการจัดจ าหน่าย/การตลาด. - บรรยาย พื้นที่ปฏิบัติจริง การสังเกตจากสภาพจริง 1 ชั่วโมง
เข้าใจเกี่ยวกับช่องทางการจัด การท าแบบทดสอบหลังเรียน.
จ าหน่าย/การตลาด.
รูปแบบ ศูนย์เรียนรู้ “เศรษฐกิจพอเพียง”ในชุมชน Sufficiency Economy Community Learning Centre (SECLC)
หมู่ที่ 1 ต าบลกง อ าเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย เรื่องการปลูกผักเกษตรอินทรีย์
กศน.ต าบลกง : ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอ าเภอกงไกรลาศ
ผู้ถ่ายทอด
อาคาร/สถานที่ พื้นที่ปฏิบัติงาน สื่อการเรียนรู้ วัสดุ/อุปกรณ์ (Master Trainer) หมายเหตุ
“เกษตรกรต้นแบบ”
บ้านเลขที่ 46/1 หมู่ 1 แปลงปลูกผัก เพอฝึก ชุดนิทรรศการ วัสดุส าหรับท าการปลูกผัก นางอรุณรัตน์ ใจเกลี้ยง ของบประมาณสนับสนุน
ื่
ต าบลกง ปฎิบัติจ านวน 3 ไร่ แผ่นพับ เกษตรอินทรีย์ จากภาคีเครือข่าย
-พื้นที่ส าหรับรับฟังการ พื้นที่ปฏิบัติจริง -จอบ
บรรยายรองรับได้ประมาณ -เสียม
60 คน - บัวรดน้ า
-สายยาง
-สปริงเกอร์
แผนที่ศูนย์เรียนรู้ “เศรษฐกิจพอเพียง”ในชุมชน Sufficiency Economy Community Learning Centre (SECLC)
หมู่ที่ 1 ต าบลกง อ าเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย เรื่องการปลูกผักเกษตรอินทรีย์
กศน.ต าบลกง : ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอ าเภอกงไกรลาศ
หมู 1 ต.กง
่
วัดกงไกรลาศ
ตลาดเทศบาล
ไปสุโขทัย
กศน.อ าเภอกงไกรลาศ
ที่ว่าการอ าเภอกงไกรลาศ ไปพิษณุโลก
ทางเข้าไปป่าแฝก
คณะผู้จัดท ำ
ที่ปรึกษำ
1. นางสาวเรณู ลีสุวรรณ์ ผู้อ านวยการ ส านักงาน กศน. จังหวัดสุโขทัย
2. นายพงค์แสนชัย อิสระไพจิตร์ ผู้อ านวยการ กศน. อ าเภอกงไกรลาศ
3. ดร.ศรีโสภา มีเจริญ ผู้ทรงคุณวุฒิภาคประชาสังคม
ผู้เรียบเรียง
1. นายสุนทร พวงขจร ครู กศน.ต าบลกง
2. นางอรุณรัตน์ ใจเกลี้ยง เกษตรกรต้นแบบ (Master Trainer)
3. นายประมาณ ชะอุ้ม ผู้ช่วยเกษตรกรต้นแบบ (Master Trainer)
การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยต าบลกง
ั
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยอ าเภอกงไกรลาศ
ส านักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดสุโขทัย
เอกสารทางวิชาการเลขที่ 01/2562