หลักสูตรท้องถิ่น
เรื่อง การเลี้ยงกบในกระชัง
ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงชุมชน
Sufficiency Economy Community Learning Centre (SECLC)
หมู่ที่ 3 ต าบลป่าแฝก อ าเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย
การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยต าบลป่าแฝก
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอ าเภอกงไกรลาศ
ส านักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดสุโขทัย
ค ำน ำ
ั
การศกษานอกระบบและการศึกษาตามอธยาศัยต าบลป่าแฝก ได้ด าเนินการจัดท าหลักสูตรท้องถิ่น เรื่อง
ึ
การเลี้ยงกบในกระชัง เพอใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้านการเกษตรของศูนย์เรียนรู้ เศรษฐกิจพอเพยง
ื่
ี
ชุมชน Sufficiency Economy Community Learning Centre (SECLC) หมู่ที่ 3 ต าบลป่าแฝก อาเภอกงไกรลาศ
จังหวัดสุโขทัย โดยมีวัตถุประสงค์ในการพฒนาผู้เรียนให้มีความรู้ตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพยง และ
ั
ี
สามารถน าความรู้ไปปรับใช้ในวิถีชีวิตที่เหมาะสมกับตนเองและครอบครัวได้อย่างดียิ่ง
หวังเป็นอย่างยิ่งว่าหลักสูตรท้องถิ่นเล่มนี้ จะเป็นประโยชน์ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ของศูนย์เรียนรู้
เศรษฐกิจพอเพยงชุมชน ด้านการศึกษา และหากมีข้อเสนอแนะประการใด ในเอกสารหลักสูตรท้องถิ่นเล่มนี้
ี
ึ
การศึกษานอกระบบและการศกษาตามอัธยาศัยต าบลหนองตูมจะน าไปพัฒนาต่อไป
กศน.ต าบลป่าแฝก
ึ
ศูนย์การศกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอ าเภอกงไกรลาศ
9 มิถุนายน 2563
สารบัญ
หน้า
ค าน า
สารบัญ
ค าแนะน าการใช้หลักสูตรท้องถิ่น 1
โครงสร้างหลักสูตรท้องถิ่น 2
- สาระส าคัญ 2
- ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง 2
- ขอบข่ายเนื้อหา 2
- กิจกรรมการเรียนรู้ 2
- โครงสร้างเนื้อหาหลักสูตร 3
- การจัดประสบการณ์การเรียนรู้ 3
- การวัดและประเมินผล 3
- เนื้อหาหลักสูตร 7
เรื่องที่ 1 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับสายพันธุ์กบ
เรื่องที่ 2 การเลือกพอพันธุ์และแม่พันธุ์กบ
่
เรื่องที่ 3 การท ากระชังเพาะพันธุ์กบ
เรื่องที่ 4 การเพาะพันธุ์กบ
เรื่องที่ 5 การอนุบาลกบวัยอ่อน และการเลี้ยงกบโตเต็มวัย
เรื่องที่ 6 โรคกบ วิธีการป้องกันโรคกบ
เรื่องที่ 7 ช่องทางการจัดจ าหน่าย/การตลาด
บรรณานุกรม
ภาคผนวก
คณะผู้จัดท า
1
ค ำแนะน ำกำรใช้หลักสูตรท้องถิ่น
ี
หลักสูตรท้องถิ่น เรื่อง การเลี้ยงกบในกระชัง ของศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพยงชุมชน หมู่ที่ 3 ต าบล
ป่าแฝก อาเภอกงไกรลาส จังหวัดสุโขทัย เป็นหลักสูตรที่สอดคล้องกับการด าเนินชีวิตจริงและมุ่งเน้น การ
เรียนรู้อย่างบูรณาการ ไม่แยกส่วนของกระบวนการเรียนรู้ โดยผู้เรียนเป็นผู้ร่วมกระบวนการเรียนรู้ด้วย
ตนเอง และเกษตรกรต้นแบบ (Master Trainer) จะเป็นผู้ถ่ายทอดความรู้ ให้ค าแนะน าให้ค าปรึกษา และ
ช่วยเหลืออ านวยความสะดวกในการเรียนรู้ให้แก่ผู้เรียน อันจะน าไปสู่การ คิดเป็น ท าเป็น และสามารถน าไป
ปรับใช้ในวิถีชีวิตประจ าวันตามหลักปรัชญาของ “เศรษฐกิจพอเพียง” รายละเอียดดังนี้
1. หลักสูตรท้องถิ่น เรื่อง กำรเลี้ยงกบในกระชัง ประกอบด้วย
เรื่องที่ 1 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับสายพันธุ์กบ
เรื่องที่ 2 การเลือกพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์กบ
เรื่องที่ 3 การท ากระชังเพาะพันธุ์กบ
เรื่องที่ 4 การเพาะพันธุ์กบ
เรื่องที่ 5 การอนุบาลกบวัยอ่อน และการเลี้ยงกบโตเต็มวัย
เรื่องที่ 6 โรคกบ วิธีการป้องกันโรคกบ
เรื่องที่ 7 ช่องทางการจัดจ าหน่าย/การตลาด
2. ระยะเวลำในกำรศึกษำ จ ำนวน 6 ชั่วโมง
3. วิธีกำรศึกษำ
ื่
3.1 ท าแบบทดสอบก่อนเรียน – หลังเรียน เพอตรวจสอบความรู้ ความเข้าใจในหลักสูตร
ท้องถิ่น เรื่อง การเลี้ยงกบในกระชัง นี้เพียงใด
3.2 ผู้เรียนเป็นผู้ร่วมกระบวนการเรียนรู้ด้วยตนเอง และเกษตรกรต้นแบบ (Master
Trainer) จะเป็นผู้ถ่ายทอดความรู้ ให้ค าแนะน าให้ค าปรึกษา และช่วยเหลืออานวยความสะดวกในการเรียนรู้
ให้แก่ผู้เรียน
3.3 นอกจากศึกษาจากหลักสูตรท้องถิ่นแล้วผู้เรียนควรหาความรู้เพมเติมจากแหล่งการ
ิ่
เรียนรู้อื่น ๆ โดยแหล่งเรียนรู้ที่มีอยู่ในอ าเภอ หรือห้องสมุดประชาชน และทางเว็บไซต์ต่าง ๆ
คลิปการเลี้ยงกบ // การเลี้ยงกบในกระชังน้ า
ลิงค์ https://www.youtube.com/watch?v=Fvl3uizEF8Y
คลิปการเลี้ยงกบ // การเลี้ยงกบในกระชังน้ า ep2
ลิงค์ https://www.youtube.com/watch?v=4pwl0B9rQgU
คลิปเลี้ยงกบในกระชังลอยน้ า รายได้หลายหมื่นต่อเดือน
ลิงค์ https://www.youtube.com/watch?v=dTNHqC-A3Ps
2
โครงสร้ำงหลักสูตรท้องถิ่น
สำระส ำคัญ
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง การเลี้ยงกบในกระชัง เป็นการจัดกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียน
ได้บูรณาการทักษะต่าง ๆ ไปพร้อมกับการสร้างสถานการณ์ในการเรียนรู้ โดยมี เกษตรกรต้นแบบ (Master
Trainer) เป็นผู้ถ่ายทอดความรู้ โดยให้ผู้เรียนได้ฝึกปฏิบัติด้วยตนเองจนส าเร็จ และสามารถน าความรู้ที่ได้ไป
ปรับใช้ในวิถีชีวิตที่เหมาะสมกับตนเองและครอบครัวได้ ตามหลักปรัชญาของ “เศรษฐกิจพอเพียง”
ผลกำรเรียนรู้ที่คำดหวัง
1. เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจเบื้องต้นในการเลี้ยงกบในกระชัง
2. เพื่อให้ผู้เรียนสามารถเตรียมสถานที่ และรู้ถึงวิธีการเลี้ยงกบในกระชัง
3. เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดจ าหน่าย/การตลาด
ขอบข่ำยเนื้อหำ
เรื่องที่ 1 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับสายพันธุ์กบ
เรื่องที่ 2 การเลือกพอพันธุ์และแม่พันธุ์กบ
่
เรื่องที่ 3 การท ากระชังเพาะพันธุ์กบ
เรื่องที่ 4 การเพาะพันธุ์กบ
เรื่องที่ 5 การอนุบาลกบวัยอ่อน และการเลี้ยงกบโตเต็มวัย
เรื่องที่ 6 โรคกบ วิธีการป้องกันโรคกบ
เรื่องที่ 7 ช่องทางการจัดจ าหน่าย/การตลาด
กิจกรรมกำรเรียนรู้
ผู้เรียนเป็นผู้ร่วมกระบวนการเรียนรู้ด้วยตนเอง และเกษตรกรต้นแบบ (Master Trainer) จะเป็นผู้
ถ่ายทอดความรู้ ให้ค าแนะน าให้ค าปรึกษา และช่วยเหลืออานวยความสะดวกในการเรียนรู้ให้แก่ผู้เรียน
ั
อนจะน าไปสู่การคิดเป็น ท าเป็น และสามารถน าไปปรับใช้ในวิถีชีวิตประจ าวันตามหลักปรัชญาของ
“เศรษฐกิจพอเพียง”
3
โครงสร้ำงเนื้อหำหลักสูตร
ั
ั
ั
ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจ เบื้องต้นเกี่ยวกับสายพนธุ์กบ การเลือกพอพนธุ์และแม่พนธุ์กบ การท า
่
่
ั
ั
ั
กระชังเพาะพนธุ์กบ การเพาะพนธุ์กบ การอนุบาลกบวัยออน การเลี้ยงกบโตเต็มวัย โรคกบ วิธีการป้องกนโรค
กบ และช่องทางการจัดจ าหน่าย/การตลาด
จ ำนวน
ที่ เรื่อง ตัวชี้วัด เนื้อหำ
ชั่วโมง
1 ความรู้เบื้องต้น ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจ ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับสายพันธุ์ 15 นาที
เกี่ยวกับสายพันธุ์ เบื้องต้นเกี่ยวกับสายพันธุ์กบ กบ
กบ
่
2 วิธีการเลือกพอ ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจ การเลือกพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์กบ 30 นาที
พันธุ์และแม่พันธุ์ และสามารถเลือกพอพันธุ์/
่
กบ แม่พันธุ์กบได้อย่างถูกต้อง
3 การท ากระชัง ผู้เรียนสามารถท ากระชัง การท ากระชังเพาะพันธุ์กบ 45 นาที
เพาะพันธุ์กบ เพาะพันธุ์กบได้อย่างถูกต้อง
4 การเพาะพันธุ์กบ ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจ การเพาะพันธุ์กบ 1 ชั่วโมง
และสามารถผสมพันธุ์กบได้
5 การอนุบาลกบวัย ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจ การอนุบาลกบวัยอ่อนและการเลี้ยง 2 ชั่วโมง
อ่อน และการเลี้ยง สามารถอนุบาลลูกกบวัย กบโตเต็มวัย
ู
กบโตเต็มวัย อ่อนได้อย่างถกวิธีและ
สามารถดูแลและเลี้ยงกบ
ู
เต็มวัยได้อย่างถกต้อง
6 โรคกบ วิธีการ ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจ โรคกบ/วิธีการป้องกันโรคกบ 1 ชั่วโมง
ป้องกันโรคกบ เกี่ยวกับโรคที่เกิดกับกบ
และวิธีการป้องกันโรคกบ
ตามโรคที่เกิด
7 ช่องทางการจัด ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจ ช่องทางการจัดจ าหน่าย/การตลาด 30 นาที
จ าหน่าย/การตลาด เกี่ยวกับช่องทางการจัด
จ าหน่าย/การตลาด
4
กำรจัดประสบกำรณ์กำรเรียนรู้
ควรจัดในลักษณะของการบูรณาการทักษะต่าง ๆ ไปพร้อมกับการสร้างสถานการณ์ในการเรียนรู้
ั
ื่
เพอฝึกให้ผู้เรียนได้ศึกษาคุณธรรมเพอพฒนาสังคมไทยและมีเจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้ด้วยตนเองที่ท าให้การ
ื่
เรียนรู้ด้วยตนเองประสบความส าเร็จ และน าความรู้ไปใช้ในวิถีชีวิตให้เหมาะสมกับตนเอง และชุมชน สังคม
หลักปรัชญาของ “เศรษฐกิจพอเพียง”
กำรวัดและประเมินผล
ใช้การประเมินจากการท าแบบทดสอบ สังเกตจากการปฏิบัติ และสภาพจริงของผู้เรียนที่แสดงออก
5
แบบทดสอบก่อนเรียน -หลังเรียน
ค ำชี้แจง : โปรดท ำเครื่องหมำย × หน้ำค ำตอบที่ถูกต้อง
1. กบจัดเป็นสัตว์ประเภทใด
ก. สัตว์เลื้อยคลาน
ข. สัตว์ครึ่งน้ าครึ่งบก
ค. สัตว์น้ า
ง. สัตว์บก
2. เพศของกบสำมำรถสังเกตได้จำกอวัยวะส่วนใดของกบ
ก. กล่องเสียง
ข. ท้อง
ค. ปอด
ง. ก้น
3. ฤดูใดเหมำะสมกับกำรเพำะพันธุ์กบมำกที่สุด
ก. ใบไม้ร่วง
ข. ฤดูร้อน
ค. ฤดูหนาว
ง. ฤดูฝน
4. ฤดูใดไม่ควรเพำะพันธุ์กบ
ก. ฤดูร้อน
ข. ใบไม้ร่วง
ค. ฤดูฝน
ง. ฤดูหนาว
5. ข้อดีของกำรเลี้ยงกบในกระชังบกคืออะไร
ก. ถ้าเลิกเลี้ยงต้องรื้นถอนกระชังออก และต้องซื้อดินมาถมบ่อ สิ้นเปลืองมากๆ
ี
ข. เลี้ยงในบริเวณบ้าน หรือมพื้นที่ทุ่งไร่ ทุ่งนาได้ดีมากๆ
ี
ค. ต้องรื้อถอนและท ากระชังใหม่เมื่อครบระยะเวลา 2 – 3 ปี ท าให้ต้องลงทุนค่ากระชังอกครั้ง
ง. ลงทุนสูงกว่าเลี้ยงกบในบ่อดินธรรมดา แต่ต้นทุนยังน้อยกว่าการสร้างบ่อปูน
6
6. กำรป้องกันกำรติดเชื้อของกบลักษณะบ่อควรมีลักษณะอย่ำงไร
ก. ให้อาหารผสมยาป้องกันโรคตลอดระยะเวลาในการเลี้ยง
ข. บ่อที่เลี้ยงต้องสะอาดมีแสงแดดส่อง น้ าในบ่อสามารถถ่ายเทได้สะดวก
ค. หาปลาดุกมาเลี้ยงเพื่อที่จะให้น้ าสะอาดอยู่เสมอ
ง. ถูกทุกข้อ
7.ข้อดีของกำรเลี้ยงกบในกระชังคืออะไร
ื้
ก.เลี้ยงในบริเวรบ้าน หรือมีพนที่ทุ่งไร่ทุ่งนาได้ดีมากๆ
ข.ลงทุนสูงกว่าในบ่อดินธรรมดา แต่ต้นทุนยังน้อยกว่าการสร้างบ่อปูน
ค.ต้องรื้อถอนและท ากระชังใหม่เมื่อครบระยะเวลา 2 ปี – 3 ปี ท าให้ต้องลงทุนค่ากระชังอีกครั้ง
ง.ถ้าเลิกเลี้ยงต้องลื้อถอนกระชังออก และต้องซื้อดินมาถมบ่อ สิ้นเปลืองมากๆ
8.กำรป้องกันกำรติดเชื้อของกบลักษณะบ่อควรมีลักษณะอย่ำงไร
ก.บ่อที่เลี้ยงต้องสะอาดมีแสงแดดส่อง
ข.น้ าในบ่สามารถถ่ายเทได้สะดวก
ื่
ค.หาปลาดุกมาเลี้ยงเพอที่จะให้น้ าสะอาดอยู่เสมอ
ง.ถูกทุกข้อ
9.กบจะออกไข่ช่วงฤดูใด
ก.ฤดูหนาว
ข.ฤดูร้อน
ค.ฤดูฝน
ง.ฤดูใบไม้ร่วง
10.โรคท้องบวมในกบมสำเหตุมำจำกอะไร
ี
ก.การติดเชื้อแบคทีเรีย
ข.การเปลี่ยนน้ าอย่างรวดเร็ว
ค.การให้อาหารมากจนเกินไป
ง.การมีโพโทซัวในทางเดินอาหาร
เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน –หลังเรียน
1. ข 2. ก 3. ง 4. ง 5. ง
6. ข 7. ก 8. ง 9. ค 10. ข
7
เนื้อหำหลักสูตร
เรื่องที่ 1 ควำมรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับสำยพันธุ์กบ
ี
กบที่เหมาะสมจะน ามาท าการเพาะเลี้ยงนี้ ซึ่งถาเลี้ยงอยางถูกตองตามวิธีการและใชเวลาเพยง 4-5
เดือน จะไดกบขนาด 4-5 ตัว/กก. เปนกบที่มีความเจริญเติบโตเร็ว โดยมีอัตราการแลกเปลี่ยนอาหาร 3-4 กก.
ไดเนื้อกบ 1 กก. กบตัวผูเมื่อจับพลิกหงายขึ้นจะเห็นมีกลองเสียง อยูใตคางแถวๆมุมปากลางทั้งสองขาง ในชวง
ฤดูผสมพันธุกบตัวผูจะเปนผูสงเสียงรอง และในขณะที่รองนั้นสวนของกลองเสียงจะพองโตและใส สวนตัวเมีย
ั
นั้นจะมองไมเห็นสวนของกลองเสียงดังกลาว ถาอยูในชวงฤดูผสมพนธุ กบตัวเมียที่มีไขแกจะสังเกตเห็นสวน
ของทองบวมและใหญกวาปกติ ถึงอยางไรสีของกบจะเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพสิ่งแวดลอมและที่อยูอาศัย
เรื่องที่ 2 กำรเลือกพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์กบ
โดยธรรมชาติ กบจะเริ่มจับคู ผสมพนธุและวางไขในฤดูฝน และพอพนธุ์ แม่พนธุ์ที่ดีต้องมีอายุอย่าง
ั
ั
่
ั
น้อย 1 ป ขึ้นไป กบตัวผู้ จะเห็นกลองเสียงอยูใตคางทั้งสองขาง ขากรรไกร เปนลักษณะวงกลมสีคล ้า เมื่อถึง
ฤดูผสมพนธุ กบตัวผูจะสงเสียงรอง สวนของกลองเสียงนี้จะพองโปน แตลักษณะนี้จะไมมีในกบตัวเมีย ซึ่งตัว
ั
เมียนั้น เมื่อถึงฤดูผสมพนธุที่สวนทองจะขยายใหญ และกบตัวเมียที่ยังมีไขอยูในทองจะมีความสากขางล าตัว
ั
ทั้งสองดาน เมื่อใชนิ้วสัมผัสจะรูสึกได และเมื่อไขออกจากทองไปแลว ปุมสากเหลานี้ก็จะหายไป อนึ่งกบตัว
เมียก็จะสงเสียงรองเชนกัน แตเปนเสียงที่เบามาก และกบตัวเมียที่รูตัววามีไขแกอยูในทองจะเปนผูเดินทางมา
หาตัวผูตามเสียงรอง
8
เรื่องที่ 3 กำรท ำกระชังเพำะพันธุ์กบ
ี
กระชังเพาะพันธุ์กบ ภายใน ศูนย์เรียนรู้ “เศรษฐกิจพอเพยง” ในชุมชน Sufficiency Economy
Community Learning Center (SECLC) หมู่ที่ 3 ต าบลป่าแฝก อ าเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย จะท า
โดยมีวิธีการดังนี้
1. เตรียมลี้ไนลอนขนาดประมาณ 35×20 เมตรขึ้นไป ลึก 80-100 เซนติเมตร
2. น าหลี่ไนลอนมาเย็บติดกัน ตามขนาดตามที่ต้องการ เพื่อท าให้หลี่ไนลอนนั้นเป็นพื้นของกระชัง
เพาะพันธุ์กบ
เรื่องที่ 4 กำรเพำะพันธุ์กบ
เมื่อเตรียมกระชังเพาะพนธุ์กบแล้ว ภายกระชังควรมีพชน ้า เชน ผักบุง ผักตบชวาเล็ก ๆ และน้ า แต
ื
ั
ั
ไมควรมีน ้าสูงเกิน 5 ซ.ม. กบจะผสมพนธุและวางไขในชวง 04.00 - 06.00 น. เมื่อเห็นวากบออกไข แลวจึง
น าพอแมพนธุออกจากบอเพาะ เพอปองกันไมใหแพไขแตก เนื่องจากการเคลื่อนไหวของกบ บอ ผสมพนธุนี้
ื่
ั
ั
เมื่อปลอยพอแมกบ ลงไปแลว ไมควรไปรบกวนหรือมีสิ่งอื่นใดท าใหกบตกใจ ซึ่งเปนเหตุใหกบไมผสมพันธุ และ
ออกไขได้
9
ั
เรื่องที่ 5 กำรอนุบำลกบวยอ่อนและกำรเลี้ยงกบโตเต็มวย
ั
เมื่อไขกบฟกออกเปนตัวออนแลว ชวงระยะ 2 วันแรกไมตองใหอาหารเพราะลูกออดยังใชไขแดงที่ติด
มาเลี้ยงตัวเอง หลังจากนั้นจึงเริ่มใหอาหาร เป็น ไขแดงตม ลูกออดจะมีอายุ 20-30 วัน จึงเปนลูกกบเต็มวัย
ื่
ในชวงนี้จะตองหาไมกระดาน ขอนไมหรือแผนโฟมลอยน ้าเพอใหลูกกบเต็มวัยขึ้นไปอาศัยอยู และให้อาหาร
เป็นอาหารเม็ดส าหรับลูกกบ ส่วนการเลี้ยงลูกออดเมื่อเจริญเติบโตเปนกบเต็มวัยแลว มันจะขึ้นจากน ้าไป
อาศัยอยูบนบกหรือวัสดุอื่น ๆที่ลอยน ้า เมื่อคัดขนาดน าไปเลี้ยงในบอแลวตองเตรียมอาหารให ถาเปนลูกออดที่
เคยใหอาหารเม็ดกินแตแรก ก็สามารถใหอาหารเม็ดดังกลาวกินไดตอไป การเลี้ยงกบในกระชังนี้สืบ
เนื่องมาจากการเพาะพนธุกบ คือ เมื่อเพาะกบและเลี้ยงลูกออดจนเปนกบเต็มวัยแลวจึงคัดขนาดลูกกบน าไป
ั
เลี้ยงในบอซีเมนตหรือในกระชังอนๆ หรือจ าหน่าย สวนที่เหลือก็เลี้ยงตอในกระชังตอไป พนที่ใตกระชังใชแผ
ื่
ื้
นกระดานหรือแผนโฟมสอดดานลาง เพอใหเกิดสวนนูนในกระชังและกบไดขึ้นไปอยูอาศัยสวนรอบๆ หรือขุด
ื่
หลุมตรงกลางกระชัง เพื่อให้เกิดที่ให้น้ าขังและภายนอกกระชังใชวัสดุ เชน แฝกหญาคา หรือทางมะพราว เพอ
ื่
ไมใหกบมองเห็นทิวทัศนนอกกระชัง มิฉะนั้นกบจะหาหนทางหลบหนีออกโดยกระโดดและชนผืนอวนกระชัง
เปนเหตุใหปากเปนบาดแผลและเจ็บปวดจนกินอาหารไมได สวนดานบนกระชังก็มีวัสดุพรางแสงให้
เรื่องที่ 6 โรคกบนำ วิธีกำรป้องกันโรคกบนำ
ปญหาโรคกบที่เกิดขึ้นนั้นโดยสวนใหญแลวจะเปนปญหาที่สืบเนื่องมาจากความผิดพลาด ทางดานการ
เลี้ยง ท าใหมีการหมักหมมของเสียตาง ๆ เกิดขึ้นในบอเลี้ยงกันอยางหนาแนน มีการใหอาหารมาก ประกอบกับ
การขาดความเอาใจใส และไมเขาใจในเรื่องความสะอาดของบอรวมถึงน ้าที่เลี้ยงโอกาสที่กบจะเปนโรคติดเชื้อ
แบคทีเรียจึงมีมากขึ้น แบงออกไดดังนี้
1. โรคติดเชื้อแบคทีเรีย เปนโรคที่ท าความเสียหายใหกับผูเลี้ยงกบมากที่สุด ทั้งในชวงที่
เปนลูกออด และกบเต็มวัย ซึ่งในที่นี้จะแยกออกเปน 2 ลักษณะคือ
1.1 โรคติดเชื้อแบคทีเรียในระยะลูกออด พบไดตั้งแตระยะที่ไขฟกเปนตัวจนกระทั่ง
พัฒนาเปนตัวเต็มวัย อาการที่สังเกตไดคือ ลูกออดจะมีล าตัวดาง คลายโรคตัวดางในปลาดุกจากนั้นจะเริ่มพบ
อาการทองบวมและตกเลือดตามครีบหรือระยางคตางๆสาเหตุของการเกิดโรคมักจะมาจากการปลอยลูกออด
ในอัตราหนาแนนเกินไปมีการใหอาหารมากท าใหคุณภาพน ้าไมเหมาะสม
10
1.2 โรคติดเชื้อแบคทีเรียในระยะเต็มวัย พบทั้งในกบขนาดเล็ก และขนาดใหญ
องคประกอบที่จะท าใหอาการของโรครุนแรงมากหรือนอยคือ สายพันธุของเชื้อแบคทีเรีย Aeromonas และ
Pseudomonas และระยะเวลาของการเปนโรคอาการของโรคโดยทั่วไปที่พบไดแก การเกิดแผลที่มีลักษณะ
เปนจุดแดง ๆ ตามขาและผิวตัวโดยเฉพาะดานทอง จนถึงแผลเนาเปอยบริเวณปาก ล าตัวและขา เปนตน
ดังนั้นจึงควรจัดการท าความสะอาดเปลี่ยนถายน ้าบอย ๆ ควบคุมปริมาณอาหารใหพอเหมาะ และอยาปล
อยกบลงเลี้ยงหนาแนนเกินไป
2. โรคที่เกิดจากโปรโตซัวในทางเดินอาหาร โดยทั่วไปจะพบในกบเล็กมากกวากบโต อาการ
ทั่วไปจะพบวากบไมคอยกินอาหาร ผอม ตัวซีด เมื่อตรวจดูในล าไสจะพบโปรโตซัว การติดเชื้อโปรโตซัวใน
ทางเดินอาหารนี้ถาเปนติดตอกันเปนเวลานานก็จะท าใหกบตายได การรักษาควรจะใชยา Metronidazole
ผสมอาหารใหกินในอัตรา 3-5 กรัม/อาหาร 1 กิโลกรัม กินติดตอกันครั้งละ3 วัน แลวเวนระยะ 3-4 วัน แลวให
ี
ยาซ ้าอก 2-3 ครั้ง หรือจนวากบจะมีอาการดีขึ้น และกินอาหารตามปกติ
3. โรคทองบวม โดยทั่วไปจะเกิดกับลูกออดในฟารมที่ใชน ้าบาดาล การเปลี่ยนน ้าอยางรวด
เร็วโดยใชน ้าบาดาลที่ไมไดพกไวกอน จะท าใหความดันกาซที่ละลายอยูในน ้าลดต ่าลงอยางเฉียบพลัน มีผลให
ั
รางกายของลูกออดตองปรับความดันกาซในตัวเองลงมาใหเทากับความดันของกาซในน ้า ท าใหเกิดฟองกาซขึ้น
ในชองวางของล าตัว ทองลูกออดจึงบวมขึ้นมา การแกไขจะกระท าไดยากมากจึงควรปองกันโดยระมัดระวังใน
เรื่องการถายน ้าอยาเปลี่ยนน ้าปริมาณมาก ๆ ในเวลาสั้น ๆ และควรจะมีการพักน ้าและเติมอากาศใหดีกอน
น ามาใชโดยเฉพาะอยางยิ่งน ้าบาดาล
วิธีการป้องกันโรคกบนา
การเลี้ยงกบที่จะลดอัตราการแพรของเชื้อโรคนั้น ความส าคัญอยูที่ลักษณะของ
บอเลี้ยงที่จะตองสะอาด มีแสงแดดสองลงถึงพื้นได ถึงแมจะมีการพรางแสงไวมุมใดมมหนึ่งก็ตาม น ้าในบ
ุ
อเลี้ยงตองสามารถถายเทได้ถึงอยางไรก็ตามไมควรเลี้ยงกบหนาแนนจนเกินไป และถาพบกบตัวใดมีอาการ
ผิดปกติควรจับแยกออกเลี้ยงตางหาก
11
เรื่องที่ 7 ช่องทำงกำรจัดจ ำหน่ำย/กำรตลำด
ส าหรับผูเลี้ยงกบหากหลีกเลี่ยงชวงที่มีการจับกบในแหลงธรรมชาติก็จะชวยลดปญหาดานราคาตกต ่า
แตอยางไรก็ตามจากการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดลอมท าใหแหลงที่อยูอาศัยเลี้ยงตัวตามธรรมชาติของกบลดลง
ดังนั้นแนวโนมการเลี้ยงกบในอนาคต จึงนับไดวามีลูทางแจมใส ไมมีปญหาดานการจ าหนายและราคาก็ดีมีผล
คุมตอการลงทุน ลงแรง สามารถสงเปนสินคาออกชวยการขาดดุลใหแกผู้ที่สนใจเลี้ยง กบเปนสัตวเศรษฐกิจ
ชนิดหนึ่งซึ่งตลาดนิยมบริโภคทั้งในประเทศและตางประเทศ ซึ่งกบขนาด 4-5 ตัว/กก. ราคาจะอยู่ที่ 60 – 80
บาท/1 กิโลกรัม ถ้าขายลูกกบระยะเวลาเลี้ยง 2 เดือน ราคาจะอยู่ที่ ตัวละ 2 บาท และถ้าขายลูกกบ
ระยะเวลาเลี้ยง 3 – 4 เดือน ราคาจะอยู่ที่ ตัวละ 5 บาท ช่องทางการจัดจ าหน่าย/การตลาด แบ่งได้เป็น 2
ประเภท คือ
1.ช่องทางการจัดจ าหน่ายทางตรง คือ เป็นช่องทางที่ผู้ผลิตน าสินค้าสู่ลูกค้าโดยตรงไม่ผ่านคนกลาง
ช่องทางการจัดจ าหน่ายแบบนี้นิยมใช้ในตลาดธุรกิจมากกว่าตลาดผู้บริโภค โดยทางออนไลน์
้
2.ช่องทางการจัดจ าหน่ายทางออม คือ เป็นช่องทางที่ผู้ผลิตอาศัยคนกลางในการกระจายสินค้าไปสู่
ลูกค้า ช่องทางการจัดจ าหน่ายนี้จะเป็นที่นิยมในตลาดผู้บริโภคมากกว่าตลาดธุรกิจ
สามารถซื้อได้ที่ ศูนย์เรียนรู้ “เศรษฐกิจพอเพยง” ในชุมชน Sufficiency Economy Community Learning
ี
Center (SECLC) หมู่ที่ 3 ต าบลป่าแฝก อ าเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย
บรรณานุกรม
คลิปการเลี้ยงกบ // การเลี้ยงกบในกระชังน้้า
ลิงค์ https://www.youtube.com/watch?v=Fvl3uizEF8Y (25/05/2563)
คลิปการเลี้ยงกบ // การเลี้ยงกบในกระชังน้้า ep2
ลิงค์ https://www.youtube.com/watch?v=4pwl0B9rQgU (25/05/2563)
คลิปเลี้ยงกบในกระชังลอยน้้า รายได้หลายหมื่นต่อเดือน
ลิงค์ https://www.youtube.com/watch?v=dTNHqC-A3Ps (25/05/2563)
ภาคผนวก
องค์ความรู้ด้านการเกษตร เรื่อง การเลี้ยงกบในกระชัง ของเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer
ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงชุมชน Sufficiency Economy Community Learning Centre (SECLC)
หมู่ที่ 3 ต าบลป่าแฝก อ าเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย
กศน.ต าบลป่าแฝก : ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอ าเภอกงไกรลาศ
จ านวนชั่วโมง
จุดประสงค์การเรียน เนื้อหา วิธีการให้ความรู้ สื่อการเรียนรู้ การวัดผลและประเมินผล
ทฤษฎี ปฏิบัติ
1. เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับสายพนธุ์ - การบรรยาย 1. แผ่นพับ สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้จาก 15 นาที
ั
ความเข้าใจเบื้องต้น กบ - ศึกษาจากสภาพจริง 2. คลิปวีดีโอ สภาพจริง
เกี่ยวกับสายพันธุ์กบ 3. พื้นที่ปฏิบัติจริง
ั
่
2. เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ วิธีการเลือกพอพันธุ์และแม่พนธุ์ - การบรรยาย 1. แผ่นพับ สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้จาก - 30 นาที
ความเข้าใจและสามารถ กบ - สาธิต 2. คลิปวีดีโอ สภาพจริง
เลือกพ่อพันธุ์/แม่พันธุ์กบ - การฝึกปฏิบัติ 3. พื้นที่ปฏิบัติจริง
ได้อย่างถูกต้อง
ื่
3. เพอให้ผู้เรียนสามารถ การท ากระชังเพาะพันธุ์กบ - การบรรยาย - พื้นที่ปฏิบัติจริง จากการระดมความคิด - 45 นาที
ั
ท ากระชังเพาะพนธุ์กบได้ การตอบค าถาม
อย่างถูกต้อง
องค์ความรู้ด้านการเกษตร เรื่อง การเลี้ยงกบในกระชัง ของเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer
ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงชุมชน Sufficiency Economy Community Learning Centre (SECLC)
หมู่ที่ 3 ต าบลป่าแฝก อ าเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย
กศน.ต าบลป่าแฝก : ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอ าเภอกงไกรลาศ
จ านวนชั่วโมง
จุดประสงค์การเรียน เนื้อหา วิธีการให้ความรู้ สื่อการเรียนรู้ การวัดผลและประเมินผล
ทฤษฎี ปฏิบัติ
4.เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ การเพาะพันธุ์กบ - การบรรยาย 1. แผ่นพับ สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้จาก - 1 ชั่วโมง
ความเข้าใจและสามารถ - ศึกษาจากสภาพจริง 2. คลิปวีดีโอ สภาพจริง
ผสมพันธุ์กบได้ 3. พื้นที่ปฏิบัติจริง
5.เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ การอนุบาลกบวัยอ่อน และการ - การบรรยาย 1. แผ่นพับ สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้จาก - 2 ชั่วโมง
ความเข้าใจสามารถ เลี้ยงกบโตเต็มวัย - สาธิต 2. คลิปวีดีโอ สภาพจริง
อนุบาลลูกกบวัยอ่อนได้ - การฝึกปฏิบัติ 3. พื้นที่ปฏิบัติจริง
อย่างถูกวิธีและสามารถ
ดูแลและเลี้ยงกบเต็มวัยได้
อย่างถูกต้อง
6.เพอให้ผู้เรียนมีความรู้ โรคกบ วิธีการป้องกันโรคกบ - การบรรยาย - พื้นที่ปฏิบัติจริง จากการระดมความคิด 1 ชั่วโมง -
ื่
ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคที่ การตอบค าถาม
เกิดกับกบ และวิธีการ
ป้องกันโรคกบ ตามโรคที่
เกิด
องค์ความรู้ด้านการเกษตร เรื่อง การเลี้ยงกบในกระชัง ของเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer
ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงชุมชน Sufficiency Economy Community Learning Centre (SECLC)
หมู่ที่ 3 ต าบลป่าแฝก อ าเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย
กศน.ต าบลป่าแฝก : ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอ าเภอกงไกรลาศ
จ านวนชั่วโมง
จุดประสงค์การเรียน เนื้อหา วิธีการให้ความรู้ สื่อการเรียนรู้ การวัดผลและประเมินผล
ทฤษฎี ปฏิบัติ
7.เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ ช่องทางการจัดจ าหน่าย/ - การบรรยาย 1. แผ่นพับ สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้จาก 30 นาที -
ความเข้าใจ เกี่ยวกับช่อง การตลาด 2. คลิปวีดีโอ สภาพจริง
ทางการจัดจ าหน่าย/ 3. พื้นที่ปฏิบัติจริง
การตลาด
รูปแบบ ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงชุมชน Sufficiency Economy Community Learning Centre (SECLC)
หมู่ที่ 3 ต าบลป่าแฝก อ าเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย เรื่อง การเลี้ยงกบในกระชัง
กศน.ต าบลป่าแฝก : ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอ าเภอกงไกรลาศ
ผู้ถ่ายทอด
อาคารสถานที่ พื้นที่ปฏิบัติงาน สื่อการเรียนร ู้ วัสดุอุปกรณ ์ (Master Trainer) หมายเหตุ
“เกษตรกรต้นแบบ”
ี่
ศูนย์เรียนรู้ตามหลักปรัชญา 1. สถานทเพื่อฝึกปฏิบัติ 1. แผ่นพับ วัสดุส าหรับท าการเกษตร นายสุทิน ทองเอ็ม - งบประมาณ
ของเศรษฐกิจพอเพียง จ านวน 2 ไร่ 2. ชุดนิทรรศการ - วงบ่อ สนับสนุนจากภาคี
- พื้นที่ส าหรับฟังการบรรยาย 2. สระน้ า 3. พื้นที่ปฏิบัติจริง - ท่อประปา เครือข่าย
รองรับผู้เข้าอบรมได้ประมาณ 4. คลิปวีดีโอ - หลี่ไนลอน
40 - 50 คน
- ชุดนิทรรศการ
แผนที่ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงชุมชน Sufficiency Economy Community Learning Centre (SECLC)
หมู่ที่ 3 ต าบลป่าแฝก อ าเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย เรื่อง การเลี้ยงกบในกระชัง
กศน.ต าบลป่าแฝก : ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอ าเภอกงไกรลาศ
ที่ท ำกำรอ ำเภอกง
ไกรลำศ กศน.อ ำเภอกงไกรลำศ ปั๊มน ำมัน ปตท.
ทำงไปพิษณุโลก
สี่แยกบ้ำนกง
ทางไปสุโขทัย
วัดไพรงำม
ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงชุมชน Sufficiency
Economy Community Learning Centre
(SECLC)
หมู่ที่ 3 ต าบลป่าแฝก อ าเภอกงไกรลาศ
จังหวัดสุโขทัย เรื่อง การเลี้ยงกบในกระชัง
วิเคราะห์ความสอดคล้องกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (2 เงื่อนไข 3 หลักการ 4 มิติ)
เรื่อง การเลี้ยงกบในกระชัง
ความรู้ คุณธรรม
เราต้องใช้ความรู้ในการเตรียมงานอะไรบ้าง เพื่อให้มีความรอบร ู้ เราคิดว่าบุคคลที่เกี่ยวข้องจ าเป็นต้องมีคุณธรรมใดบ้างที่จะท าให้
และรอบคอบ ในการท างานให้ประสบผลส าเร็จ การด าเนินงานประสบความส าเร็จ
ุ์
- ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับสายพันธกบ - ความอดทน
- การเลือกพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์กบ - ความประหยัด/อดออม
- การท ากระชังเพาะพันธุ์กบ - ความขยัน
- การเพาะพันธุ์กบ - มีความยุติธรรม
- การอนุบาลกบวัยอ่อน และการเลี้ยงกบโตเต็มวัย
- โรคกบ วิธีการป้องกันโรคกบ
- ช่องทางการจัดจ าหน่าย/การตลาด
พอประมาณ มีเหตุผล มีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี
เราค านึงถึงความเหมาะสม/ ความ เรามุ่งหวังที่จะให้เกิดผลอะไร - กับใคร - เราวางแผนด้วยความรอบคอบอย่างไรบ้าง
สอดคล้อง ความพอดีกับอะไรบ้าง เช่น อย่างไร และคาดว่าจะเกิดผลอย่างไร เช่น ค านึงถึงความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นระหว่าง
ศักยภาพและความพร้อม / ความเหมาะสม เพราะเหตใดจึงจะเกิดผลเช่นนั้น การด าเนินงานหรือไม่ และเตรียมการป้องกัน
ุ
สอดคล้องกับกาลเวลา สถานที่ ชุมชน บริบท - เพื่อใช้บริโภคภายในครัวเรือน ปัญหาอย่างไร / มีแผนส ารองส าหรับการ
ทรัพยากรที่ใช้ ผู้ที่เกี่ยวข้อง - เพื่อเป็นรายได้เสริมของครอบครัว ด าเนินกิจกรรมอย่างไรบ้างเพื่อให้ประสบ
- สถานที่ ใช้พื้นที่ให้เหมาะสมกับการเพาะพันธ ุ์ - เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้ในการเพาะพันธุ์กบ ความส าเร็จ
กบ - มีการวางแผนหาสถานที่ที่จะเพาะพันธุ์กบ
ุ์
- การเลือกขนาดของกระชังเพาะ - มีการวางแผนเลือกพ่อพันธุ์ แม่พันธ ต่อการ
- การเลือกจ านวนพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ต่อการเพาะ เพาะพันธุ์กบ
- มีการวางแผนก าหนดระยะเวลาในการ
เพาะพันธุ์กบ
วิเคราะห์ผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นจากการท ากิจกรรมนี้ ว่าจะส่งผลให้ชีวิตของตนเองและบุคคลที่เกี่ยวข้อง/หน่วยงาน/ชุมชน เกิดความสมดุลและ
พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงใน 4 มิติด้านใด และอย่างไร
ด้านวัตถุ / เศรษฐกิจ : เป็นสิ่งที่จับต้องได้โดยมนุษย์สร้างขึ้น ด้านสังคม : ความเป็นสากล เป็นความสัมพันธ์ของคนกับคนใน
- ประหยัด ปัจจุบัน / การศึกษา / สาธารณสุข
- ลดรายจ่าย/เพิ่มรายได้ - มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อกัน
- การบริหารจัดการภายในครัวเรือน เหลือจากบริโภคไปจ าหน่าย - มีความสามัคคีภายในครอบครัว
- การใช้วัสดุที่มีอยู่ในท้องถิ่น - เป็นแหล่งแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในชุมชน
สมดุลและพร้ อมรับการ
เปลี่ยนแปลง ใน 4 มิติ
ด้านวัฒนธรรม : เชื่อมโยงจากอดีตสู่ปัจจุบัน ด้านสิ่งแวดล้อม : เป็นสิ่งที่จับต้องได้โดยเกิดจากธรรมชาติ ดิน
และส่งผลหรือมีความส าคัญต่ออนาคตที่มีคุณค่า น้ า ป่า อากาศ รวมเรื่องขยะเพราะมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
ต่อการสืบสานอนุรักษ์ / เอกลักษณ์เฉพาะพื้นที่ - บริเวณบ่อเพาะพันธุ์กบสะอาด ปลอดภัยและ ไม่ส่งกลิ่นเหม็นรบกวน
- เรียนรู้การเพาะพันธุ์กบจากภูมิปัญญาท้องถิ่น - การใช้วัสดุที่เหลือใช้มาท าเป็นกระชังเพาะพันธุ์กบได้ เช่น ป้ายไวนิล
- การใช้วัสดุที่มีอยู่ในท้องถิ่นและวัสดุเหลือใช เช่น ไม้ไผ่ ป้ายไวนิล
้
- น าไปประกอบเป็นอาหารประจ าพื้นบ้าน
คณะผู้จัดท ำ
ที่ปรึกษำ
1. นายประกอบ โพธิ์ราม ผู้อ านวยการ ส านักงาน กศน. จังหวัดสุโขทัย
2. นายพงค์แสนชัย อิสระไพจิตร์ ผู้อ านวยการ กศน. อ าเภอกงไกรลาศ
3. ดร.ศรีโสภา มีเจริญ ผู้ทรงคุณวุฒิภาคประชาสังคม
ผู้เรียบเรียง
1. นางสาวภณิดา เฉยเมล์ ครู กศน.ต าบลป่าแฝก
2. นายสุทิน ทองเอ็ม เกษตรกรต้นแบบ (Master Trainer)
3. นางสาวจุฑามาศ เอี่ยมสีทอง ผู้ช่วยเกษตรกรต้นแบบ (Master Trainer)
4. นางอัมพร ทองเอ็ม ผู้ช่วยเกษตรกรต้นแบบ (Master Trainer)
5. นางสาวชมัยภรณ์ เขม้น ผู้ช่วยเกษตรกรต้นแบบ (Master Trainer)
การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยต าบลป่าแฝก
ั
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยอ าเภอกงไกรลาศ
ส านักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดสุโขทัย
เอกสารทางวิชาการเลขที่ 07/2563