E-book ศาสนาพราหมณ์ - ฮินดู (ล่าสุด)

ศาสนาพราหมณ์ - ฮนิ ดู

By…ครูนัท

ศาสนาที่เกดิ ขึ้นในเอเชียใต?้

เอเชียใต้

➢ อนิ เดียเป็นแหล่งแห่งศาสนาทีย่ ิง่ ใหญม่ ี
ศาสนาต่าง ๆ มากมายทีเ่ กิดขึ้นในอนิ เดีย

➢ เช่น ศาสนาพราหมณ์-ฮนิ ดู พุทธ เชน
ซิกข์ นอกนั้นยงั เปน็ บ่อเกิดแห่งลทั ธทิ าง
ปรัชญาต่าง ๆ อกี มากมาย

แมน่ ้ำคงคำเป็นแม่น้ำศักดิส์ ิทธิ์

ชาวฮนิ ดอู าบน้าในแม่น้าแห่งนี้
เพราะความเชอื่ ว่าจะทา้ ให้จติ วิญญาณ
สะอาดบรสิ ทุ ธ์ิ

- อาบ, ดมื่ - กนิ
- เผาศพท่ีริมฝัง
- โปรยขเ้ี ถา้ ลงในน้า
ท้าใหไ้ ด้ชอ่ื ว่าเปน็ แม่น้าที่มคี วาม
สกปรกและมลพิษมากทส่ี ดุ ในโลก

แมน่ ้ำคงคำ

ประวตั ิควำมเปน็ มำ

ศำสนำพรำหมณ์ - ฮนิ ดู

ศำสนำท่เี กำ่ แกท่ ส่ี ุดในโลก

เกิดประมาณ 950 ปีก่อนศาสนาพุทธ
ไมม่ ีศาสดาทีเ่ ปน็ มนษุ ยธ์ รรมดา

ศำสนำพรำหมณ์ - ฮินดู

ควำมหมำยของค้ำว่ำ พรำหมณ์ - ฮินดู

พราหมณ์ แปลวา่ คาสอนของพราหมณาจารย์ พระฤๅษผี ูศ้ กั ด์สิ ทิ ธ์ิ
ฮนิ ดู หมายถงึ วถิ แี หง่ การดาเนนิ ชวี ติ

เดมิ มชี อ่ื วา่ สนาตนธรรม หมายถงึ ศาสนาอนั เป็นนริ นั ดร์

เดมิ เป็นศาสนาประเภทเอกเทวนิยม

นบั ถอื เทพเจา้ สูงสุดองคเ์ ดยี ว คือ

พระพรหม

ปัจจบุ นั เปน็ พหุเทวนิยม นบั ถือพระเจ้าหลายองค์ คือ
พระพรหม พระศิวะ พระวษิ ณุ เรียกว่า ตรมี ูรติ

จดุ มุ่งหมำยสงู สดุ

คือ

กำรหลดุ พน้ จำกกำรเวียนวำ่ ยตำยเกดิ
กลับไปรวมกบั วิญญาณสากล หรือ
ปรมาตมนั เรียกการหลุดพ้นนี้ว่า

กำรบรรลโุ มกษะ

ยคุ ของ

ศำสนำพรำหมณ์ - ฮนิ ดู

1. ยคุ ความเช่ือเดมิ (อรยิ กะ) = กอ่ นพทุ ธ 1,000 ปี

ชำวอำรยัน

ชำวดรำวเิ ดียน

• ดรำวิเดียน (มิลักขะ/แขกดำ้ ) บูชำธรรมชำติเบอื งต่ำ้ เชน่ แผน่ ดนิ
ภูเขำ ต้นไม้ สัตว์ น้ำ และไฟ เปน็ ตน้

• อำรยันบชู ำ (อริยกะ/แขกขำว) บชู ำเทพเจำ้ สี่องค์ คือ อินทร์
สุริยำ วรุณ และยม

• ชำวอำรยนั เชื่อวำ่ เชือชำติของตนสงู กว่ำชำวพืนเมืองดรำวิเดยี น

2. ยคุ สมยั พระเวท

• ชาวอารยันนบั ถือพระพรหมสูงสดุ เพียงผเู้ ดยี ว
• เกดิ การรวบรวมบทสวดมนต์ตา่ ง ๆ ขึ้นเป็นคัมภีร์พระเวท หรือเรียกวา่

ไตรเวท ประกอบด้วย ฤคเวท ยชุรเวท สามเวท

3. ยคุ สมยั พราหมณ์

• พวกพราหมณ์ ผกู ขาดความรู้ในการประกอบพิธีกรรมติดต่อเทพเจ้า จึง
เรียกว่ายคุ พราหมณ์

• พราหมณ์ได้รบั การยกยอ่ งอยู่ในฐานะสูงสดุ
• ยคุ นีก้ าหนดใหพ้ ระพรหมเป็นผสู้ รา้ งโลกและเทวดาและมนษุ ย์
• เชื่อในลัทธิ “ตรีมรู ต”ิ คือความคดิ ทีเ่ ชื่อว่ามพี ระเจา้ สูงสุดเพียงพระองค์

เดียว แบง่ ออกเปน็ 3 ภาค ได้แก่ พระพรหม(ผสู้ ร้าง) พระศิวะ(ผู้ทาลาย)
พระนารายณ์(ผู้รกั ษา)
• เกิดการกาหนดหนา้ ที่ของวรรณะท้ัง 4 คอื พราหมณ์-กษัตริย์-แพศย์-ศทู ร

4. ยคุ สมยั ฮนิ ดู

• กาเนิดเทพใหม่ ๆ เชน่ พระพิฆเนศ พระสรุ สั วดี พะลักษมเี ทวี พระอมุ าเทวี
• เชื่อเรือ่ งของกรรม และการเกิดใหม่ เช่นเดียวกบั พระพทุ ธศาสนา
• เชื่อเรือ่ งวนั สิ้นโลก การล้างโลกและสรา้ งโลกขึ้นมาใหม่
• เชือ่ ในอมตะของวิญญาณ ไมแ่ ตกดับ เรียกวา่ อาตมนั หรือ ชีวาตมัน
• มกี ารบงั คับให้คนในวรรณะตง้ั อยใู่ นหลักอาศรม 4
• เชือ่ เรื่องเทพเจ้าอวตารลงมาเปน็ วรี บุรษุ เพื่อปราบทุกข์เขน็ ในโลกมนษุ ย์

คัมภีร์

ศำสนำพรำหมณ์ - ฮนิ ดู

คมั ภีรศ์ รุติ (รบั มาจากพระเจ้าโดยตรง เป็นสัจนริ ันดร์)

ฤคเวท ยชรุ เวท

เก่าแก่ทีส่ ุด ใช้ในการสวดสรรเสริญเทพเจา้ ใช้ในการบวงสรวง บชู ายญั
ประกอบพิธีตา่ ง ๆ
สามเวท ของชาวดราวิเดียน

รวมรวมบทสวดมนต์ ใหส้ วดในพิธีกรรมถวายน้า อาถรรพเวท
โสมแด่พระอินทรแ์ ละเทพเจา้ องค์อื่น ๆ
เกิดขึ้นหลงั สุด เป็นบทสวดเกี่ยวกบั
เวทมนตค์ าถาอาคมตา่ ง ๆ

คัมภีร์พระเวท เป็นคัมภีร์ทีส่ าคัญทีส่ ุด เดิมมี 3 คัมภีร์ เรียกวา่ “ไตรเวท”
และต่อมาคัมภรี ์อาถรรพเวทถกู เพิม่ ขน้ึ ภายหลัง

คมั ภีร์สมฤติ คือ เหลา่ พราหมณไ์ ดย้ นิ มาเพิ่มเตมิ ทีหลงั

มนูธรรมศาสตร์ = กฎหมายของบา้ นเมือง (มนศู าสตร์)
อิติหาส = เรอ่ื งเล่ามหากาพย์ (รามายณะ มหาภารตะ)
ปุราณะ = อธิบายการสร้างโลก การทาลาย การกาเนิดเทพเจา้
อุปนิษัท = บทสรุปพระเวทว่าด้วยวิญญาณ จกั รวาล กฎแห่งกรรม
ภควัทคีตา = การกระทาโดยไมห่ วังสิง่ ตอบแทน

สญั ลกั ษณ์

ศำสนำพรำหมณ์ - ฮนิ ดู

โอม

อกั ษร มะ

พระพรหม (มะ)

อักษร อะ

พระศิวะ (พระอิศวร)

อักษร อุ

พระวิษณุ (พระนารายณ์)

พิธีกรรม

ศำสนำพรำหมณ์ - ฮนิ ดู

พิธีสงั สการ พิธีศราทธ์ พิธบี ูชาเทพเจ้า

ทาให้เกิดความบรสิ ุทธิ์ พธิ กี ารทาบุญอุทิศให้ มีเจ้าลกั ษมีชายา
ต้ังแตพ่ ิธีการตั้งครรภ์ บรรพบรุ ุษทีล่ ่วงลบั ไปแลว้ พระวิษณุ , เจา้ แม่กาลี
คลอด เลย้ี งดูจนถึงแต่งงาน
ชายาพระศิวะ

กฎวรรณะ ววิ าหะ

การกาหนดอาชีพ พธิ แี ต่งงาน

การแตง่ งานของวรรณะต่าง ๆ เมื่อเด็กหน่มุ จบการศึกษา
หา้ มปะปนกนั แล้วเขา้ สอู่ าศรมที่ 2

นิกำย

ศำสนำพรำหมณ์ - ฮนิ ดู

นิกาย

นกิ ายพรหม นกิ ายไวษณพ นกิ ายไศวะ นกิ ายศักติ

นับถือพระพรหมเป็น นบั ถือพระนารายณ์เปน็ นับถือพระศิวะเป็นสาคัญ นบั ถือมเหสีของเทพเจ้า คือ
สาคัญ เปน็ นิกายดง้ั เดิม สาคญั ผู้นิยมเรียก “ลทั ธิ บูชาศิวลึงค์ พระลกั ษมเี ทวี
(ชายาพระวิษณ)ุ
และเก่าแก่มากที่สดุ อวตาร” พระอมุ าเทวี
(ชายาพระศิวะ)
พระสรุ ัสวดีเทวี
(ชายาพระพรหม)

ศิวลึงค์

“ศิวลึงค์ สัญลักษณ์แห่งองค์พระศวิ ะ นยั แหง่ การกาเนิด”

ระบบวรรณะ

ศำสนำพรำหมณ์ - ฮนิ ดู







วรรณะพราหมณ์

• เกิดจากหวั หรือ ปาก พระพรหม
• ติดต่อกบั เทพเจา้
• บ่อเกดิ แห่งสติปัญญา
• สีประจาคือ สีขาว
• เช่น นกั บวช นกั ปราชญ์ ครู อาจารย์ นักกฎหมาย

วรรณะกษัตริย์

• เกิดจากอก หรือ แขน หรือ บ่า ของพรหม
• ปกครองบริหารประเทศ
• กาลงั ของสังคม
• เช่น กษตั ริย์ ขุนนาง ทหาร ตารวจ
• สีประจาคือ สีแดง

วรรณะแพศย์

• เกิดจากสะโพก หรือ ท้อง หรือ ขา ของพรหม
• เปน็ ชาวเมอื ง พ่อค้า
• ผู้ผลิตเลีย้ งปกท้องพลเมือง
• เช่น พอ่ ค้า นักธุรกิจ ชาวไร่ ชาวนา เลยี้ งโค
• สีประจาคือ สีเหลือง

วรรณะศทู ร (ผิวดา)

• เกิดจากเท้า หรือ ตนี ของพระพรหม
• ไม่ใช่ชาวอารยัน
• รับใช้วรรณะท้ัง 3 อย่างเดียว
• กรรมกรผใู้ ช้แรงงาน คนรับจ้าง
• สีประจาคือ สีดา

เกดิ จากการแตง่ การขา้ มวรรณะ โดยภรรยาอยู่ในวรรณะท่สี งู กวา่ สามี

ควำมรู้พืนฐำน

ศำสนำพรำหมณ์ - ฮนิ ดู

26 – 50 ปี 75 ปีขึน้ ไป
51 – 75 ปี
เกิด – 25 ปี





ตรีมรู ติ คือ การอวตารรวมของพระเปน็ เจา้ สงู สุดทง้ั สามองค์ในศาสนาฮินดู

โยคะ 3 คือ หนทางนาไปสกู่ ารหลดุ พ้นจากทุกข์ (โมกษะ)

หลักธรรม 10 ประการ

1. ธฤติ หมายถึง ความสุขความพอใจในสิ่งที่ตนมี ไม่โลภ
2. กษมา หมายถึง ความอดกลั้นโดยยึดความเมตตากรณุ าเปน็ ทีต่ ้ัง
3. ทมะ หมายถึง การข่มจิตใจให้มีสติไม่ทาความชัว่
4. อสั เตยะ หมายถึง การไม่ลกั ขโมย
5. เศาจะ หมายถึง การทาให้บรสิ ทุ ธิท์ ั้งกายและใจ
6. อินทรียนิครหะ หมายถึง การควบคมุ ประสาทความรู้สึก
7. ธี หมายถึง การมีปัญญา มีความคิด มีความรู้
8. วทิ ยา หมายถึง ความรู้ เข้าใจถึงศิลปวิทยาในแขนงต่างๆ
9. สัตยะ หมายถึง ความจริง ความซือ่ สัตว์ต่อกัน
10. อโกธะ หมายถึง ความไม่โกรธ การข่มใจ การอดทนต่อการยั่วยทุ ้ังปวง



นกั เรยี นคิดวา่ ประเทศไทยได้รับอทิ ธพิ ลจากศาสนาพราหมณ์ - ฮนิ ดู
ต่อการดำรงชีวิตประจำวันอยา่ งไรบ้าง

จบเรอื่ ง
ศาสนาพราหมณ์ - ฮินดู