The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Teerapap Suktam, 2022-07-04 21:39:30

โครงสร้างภายนอกของรากและลำต้น

วิชาชีววิทยา 3 ว30243

1

คำชแี้ จงสำหรับผู้เรยี น

เอกสารประกอบการเรยี น รายวชิ าชีววทิ ยา 3 ว30243 กลุม่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เล่มที่ 1 เรื่อง โครงสร้างภายนอกของพืชดอก : รากและลำต้น สร้างขึ้นเพ่ือ
เปน็ ส่ือประกอบการจัดการเรียนการสอน รายวิชาชีววทิ ยา 3 ว30243 ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 5 ที่
มุง่ เน้นให้ผเู้ รียนศึกษาด้วยตนเอง โดยผเู้ รียนจะเกดิ การเรยี นรู้ตามจุดประสงค์ทต่ี ั้งไว้ ด้วยการ
ปฏบิ ัติตามคำแนะนำต่อไปนี้

1. ผู้เรยี นศึกษาผลการเรยี นรูแ้ ละจุดประสงคก์ ารเรียนรใู้ หเ้ ข้าใจ
2. ผเู้ รยี นตอ้ งศึกษาเอกสารประกอบการเรยี นด้วยตนเอง
3. ผเู้ รียนรว่ มอภปิ รายเกี่ยวกับประเด็นความรู้ในเนื้อหากบั ครูผสู้ อน และซกั ถาม
ข้อสงสัย
4. เมอ่ื ผู้เรยี นศกึ ษาเน้ือหาจนเขา้ ใจแล้ว ทำแบบฝกึ หดั และแบบทดสอบ แล้วตรวจ
คำตอบจากเฉลยในภาคผนวก บันทกึ คะแนนทไี่ ดใ้ นแบบบนั ทกึ คะแนน
5. ประเมินตนเองด้วยคะแนนจากแบบฝึกหัดและคะแนนจากแบบทดสอบ ต้องได้
คะแนนไม่น้อยกว่ารอ้ ยละ 80 หากยังทำคะแนนไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนด ให้ผู้เรียนศึกษาเน้ือหา
ในเอกสารประกอบการเรยี นและทำแบบทดสอบซำ้ จนผา่ นเกณฑ์

2

ผลการเรยี นรู้

5. สงั เกตและวเิ คราะห์เปรยี บเทียบโครงสรา้ งภายนอกของราก ลำต้น ใบ ดอก และผล
ของพชื ดอกได้

6. วิเคราะห์ลกั ษณะลำตน้ ของพืชแลว้ ระบลุ กั ษณะวิสัยของพืชได้
7. นำความรู้เกย่ี วกับลักษณะโครงสร้างภายนอกของพชื ดอก ไปใช้ในการสำรวจ
ตรวจสอบ และวิเคราะหพ์ ืชตัวอย่างได้

จดุ ประสงค์ เร่อื ง โครงสรา้ งภายนอกของพืชดอก : รากและลำต้น

1. อธบิ ายโครงสร้างภายนอกของรากและลำต้นได้
2. เปรียบเทียบโครงสร้างภายนอกของรากและลำต้นของพืชชนิดต่างๆได้
3. บอกลักษณะวิสัยของพืชได้
4. สำรวจรากและลำต้น วิเคราะห์และอธิบายโครงสร้างภายนอกของรากและลำต้นของ

พืชตัวอย่างได้

“พรอ้ มแลว้ ใชม่ ยั้ จ๊ะ ไปศกึ ษาเน้อื หา
กนั ก่อนจา้ แลว้ ค่อยทาแบบฝึกหดั นะ

จะ๊
หนูพฤกษเ์ อาใจช่วยจา้ ลยุ !!!”

3

โครงสรา้ งภายนอกของพชื ดอก

โครงสร้างภายนอกของพืชดอก ประกอบด้วย ราก ลำต้น ใบ ดอก ผลและเมล็ด
(ภาพที่ 1) ซึ่งมีความคล้ายคลึงหรือแตกตา่ งกัน เป็นลักษณะสำคัญทีน่ กั อนุกรมวิธานนำมาใช้
ในการจัดจำแนกพืชดอกและการบรรยายลักษณะรูปพรรณสัณฐาน ดังนั้น การเรียนรู้ถึง
ลกั ษณะโครงสร้างภายนอกของพืช จึงจำเปน็ อย่างย่งิ ในการศกึ ษาด้านอนกุ รมวธิ าน

ภาพที่ 1 โครงสรา้ งของพืชดอก
ทม่ี า : ภาพโครงสร้างของพืชดอก, 2561 : เว็บไซต์

ราก ( Root)

ราก เป็นโครงสร้างของพืชที่เจริญลงสู่ดินตามแรงโน้มถ่วงของโลก ไม่มีข้อและปล้อง
ส่วนใหญ่ไม่มีคลอโรฟิลด์ ยกเว้นรากพืชบางชนิดที่ดัดแปลงไปมีสีเขียวทำหน้าท่ี
สงั เคราะหด์ ว้ ยแสง เชน่ รากกลว้ ยไม้

หนา้ ท่ขี องราก
1. ทำหน้าท่ียดึ ลำตน้ ให้ตั้งตรง
2. ดดู นำ้ และธาตอุ าหารต่างๆ จากดนิ
3. ลำเลยี งน้ำและแร่ธาตุ รวมทั้งสารอาหารทีส่ ะสมไวใ้ นรากขน้ึ ไปส่สู ว่ นตา่ งๆ

ของลำตน้

4

4. เปน็ สว่ นสบื พนั ธแุ์ บบไม่อาศัยเพศ
5. หน้าทพี่ เิ ศษตามลกั ษณะของรากทเี่ ปล่ยี นแปลงไป เช่น เกบ็ สะสมอาหาร
สงั เคราะห์ด้วยแสง และหายใจ เปน็ ต้น
ระบบรากของพืช
รากของพืชดอก สามารถแบง่ เป็น 2 ระบบ ได้แก่
1. ระบบรากแก้ว (primary root system) เป็นระบบรากที่พบในพืชใบเลี้ยงคู่และ
พืชเมล็ดเปลือย ประกอบด้วยรากที่เจริญจากรากแรกเกิด (radicle) มีขนาดใหญ่เจริญลง
ดา้ นลา่ งในแนวดงิ่ เรยี กวา่ รากแกว้ และมรี ากแขนง (lateral root) เจริญออกจากรากแกว้ ซึ่ง
มีขนาดเลก็ ลดหลนั่ กนั (ภาพท่ี 2ก)
2. ระบบรากฝอย (fibrous root system) เป็นระบบรากที่พบในพืชใบเลี้ยงเดี่ยว
ส่วนใหญ่ และพชื ใบเลี้ยงคู่บางชนิด เช่น ตอ้ ยติง่ มนั เทศ มนั แกว เปน็ ตน้ ซึง่ พชื กลุ่มนี้มีรากแก้ว
เม่ืองอกจากเมลด็ แตจ่ ะสลายไป แลว้ มีรากฝอยแตกออกเปน็ กระจุกบรเิ วณใกล้กับโคนของ ลำ
ตน้ เจริญขนานไปกบั พนื้ ดิน มีขนาดของรากใกลเ้ คยี งกัน (ภาพท่ี 2ข)

ภาพท่ี 2 ระบบรากของพืช ก. ระบบรากแกว้ ข. ระบบรากฝอย
ที่มา : ภาพระบบรากของพชื , 2561 : เวบ็ ไซต์

5

ชนิดของราก
รากพืชจำแนกเป็น 3 ชนดิ ตามแหลง่ กำเนดิ ดังน้ี
1. รากแก้ว (primary root) เป็นรากแรกของพืชที่งอกอกจากเมล็ด มีกำเนิดและ
เจริญมาจากรากแรกเกดิ บริเวณโคนของรากจะมีขนาดใหญแ่ ละค่อยๆเรยี วเลก็ หย่งั ลกึ ลงไปใน
ดนิ ในแนวดง่ิ (ภาพท่ี 3)
2. รากแขนง (secondary root) เปน็ รากทเี่ จรญิ จากรากแก้วแผอ่ อกไปในแนวขนาน
กับพื้นดนิ (ภาพที่ 3)

ภาพที่ 3 รากแกว้ และรากแขนง
ท่ีมา : ภาพรากแก้วและรากแขนง, 2561 : เวบ็ ไซต์

3. รากพิเศษ หรือรากวิสามัญ (adventitious root) เปน็ รากที่ไม่ได้เกิดจากราก
แรกเกิดแต่อาจเกิดที่ลำต้นหรือใบ รากฝอยก็จัดเป็นรากพิเศษชนิดหนึ่ง เนื่องจากเป็นรากที่
เกดิ จากลำต้น (ภาพท่ี 4)

6

ภาพที่ 4 รากพเิ ศษของเงินไหลมา
ที่มา : กาญจนา คงเอยี ด, 2561 : ถา่ ยภาพ

รากทเี่ ปลยี่ นแปลง (modified root)
พชื บางชนิดมรี ากทเ่ี ปล่ียนแปลงรปู ร่าง หรอื ลักษณะโครงสร้างไปเพ่อื ใหเ้ หมาะสมกับ
หน้าท่ีพเิ ศษหรือเหมาะสมกบั สิง่ แวดลอ้ มที่เจริญอยู่ ได้แก่
1. รากอากาศ (aerial root) เป็นรากที่ทำหน้าที่ดูดความช้ืนและอากาศ ที่ผิวรากมี
เนื้อเยือ่ สำหรับเก็บความชนื้ เชน่ รากกลว้ ยไม้ รากไทร (ภาพท่ี 5)

ภาพท่ี 5 รากอากาศของไทร
ท่ีมา : ภาพรากอากาศของไทร, 2561 : เวบ็ ไซต์

7

2. รากเกาะ (climbing root) เปน็ รากที่แตกออกจากข้อของลำต้น ทำหน้าทีย่ ดึ
เกาะกบั ส่ิงท่ีพืชไปเจรญิ อยหู่ รือไม้อื่น เช่น รากของพลู พริกไทย เงินไหลมา (ภาพที่ 6)

ภาพท่ี 6 รากเกาะของเงินไหลมา
ที่มา : กาญจนา คงเอียด, 2561 : ถา่ ยภาพ

3. รากปรสิต (parasitic root) เป็นรากของพืชที่ไปเกาะพืชอื่น โดยแทงรากลงไป
ในพืชน้นั เพอ่ื ดูดน้ำ อาหารและแรธ่ าตุ เชน่ รากฝอยทอง รากกาฝาก (ภาพที่ 7)

ภาพท่ี 7 รากปรสิตของกาฝาก
ทม่ี า : ภาพรากปรสิตของกาฝาก, 2561 : เว็บไซต์

8

4. รากหายใจ (pneumatophore) เป็นรากที่แทงตั้งฉากขึ้นมากจากผิวดินและ
ผิวน้ำเพื่อทำหน้าที่แลกเปลี่ยนแก๊ส พบในพืชป่าชายเลนหรือบริเวณที่น้ำเค็มขึ้นถึง เช่น
รากลำแพน รากลำพู (ภาพท่ี 8)

ภาพท่ี 8 รากหายใจของลำพู
ท่มี า : ภาพรากหายใจของลำพู, 2561 : เวบ็ ไซต์

5. รากสังเคราะห์ด้วยแสง (photosynthetic root) เป็นรากที่แตกจากลำต้นหรอื
กิ่ง มีสเี ขียว สงั เคราะห์ดว้ ยแสงได้ เช่น รากข้าวโพด รากกลว้ ยไม้ (ภาพท่ี 9)

ภาพที่ 9 รากสงั เคราะห์ด้วยแสงของกล้วยไม้
ทม่ี า : กาญจนา คงเอยี ด, 2561 : ถ่ายภาพ

9

6. รากค้ำจุน (prop root) เป็นรากที่แตกจากข้อของลำต้นที่อยู่เหนือพื้นดินแล้ว
แทงลงสูด่ ินเพ่อื คำ้ ยนั ลำตน้ เช่น รากเตย รากไทรย้อย รากโกงกาง (ภาพท่ี 10)

ภาพที่ 10 รากค้ำจุนของโกงกาง
ทม่ี า : ภาพรากคำ้ จนุ ของโกงกาง, 2561 : เวบ็ ไซต์

7. รากสะสมอาหาร (storage root) เป็นรากทที่ ำหน้าทเ่ี กบ็ สะสมอาหาร มลี กั ษณะ
อวบอาจเปล่ียนแปลงมาจากรากแก้ว เชน่ รากผักกาดขาว รากผกั กาดแดง รากแครอท (ภาพท่ี
11) หรือเปลย่ี นแปลงมาจากรากฝอย เช่น รากต้อยตง่ิ รากกระชาย (ภาพที่ 12)

ภาพที่ 11 รากแกว้ สะสมอาหารของแครอท
ท่มี า : ภาพรากแกว้ สะสมอาหารของแครอท, 2561 : เว็บไซต์

10

ภาพที่ 12 รากฝอยสะสมอาหารของกระชาย
ท่ีมา : กาญจนา คงเอยี ด, 2561 : ถ่ายภาพ

“ไมย่ ากเลยนะ มาทดสอบ
ความเขา้ ใจกนั หน่อยดกี วา่
เรม่ิ ทาแบบฝึกหดั ท่ี 1 เลยจา้ ”

11

แบบฝกึ หดั ที่ 1
โครงสร้างภายนอกของพืชดอก : ราก

คำชแี้ จง จงตอบคำถามต่อไปนี้ให้ถกู ตอ้ ง (10 คะแนน)

1. “รากฝอยจดั เป็นรากพิเศษชนิดหนึ่ง”
นักเรียนเหน็ ด้วยกับคำกล่าวนี้หรอื ไม่ เพราะเหตใุ ด
ตอบ…………………………………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………..
2. พืชในภาพมรี ากเป็นรากพเิ ศษชนดิ ใด

ตอบ………………………………………………………………………………………………………….…………………

3. รากของพลูดา่ งกับรากของกาฝากแตกตา่ งกนั อย่างไร
ตอบ…………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………..………
…………………………………………………………………………………………………………………..………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………..

12

4. นักเรียนศึกษาภาพของพชื ท่กี ำหนดให้ แลว้ เตมิ ข้อมูลในตารางให้ครบถ้วน

พชื รากทีเ่ ปลยี่ นแปลง ชนิดของราก
1. โกงกาง รากค้ำจนุ รากวิสามญั

2. ลำแพน ……………………….. ………………………..
3. มันสำปะหลัง
4. พรกิ ไทย รากสะสมอาหาร รากวิสามญั

……………………….. ………………………..

5. กลว้ ยไม้แวนด้า

……………………….. ………………………..

13

5. จงเขียนผังมโนทัศน์แสดงความคดิ รวบยอดเก่ียวกบั โครงสรา้ งรากของพืช

14

ลำตน้ (stem)

เป็นสว่ นของพืชท่ีเจรญิ เปน็ แกนกลางของพืช ส่วนใหญ่เจรญิ ในทศิ ตา้ นแรงโน้มถว่ งของโลก

หนา้ ที่ของลำตน้

1. ชกู ่ิงกา้ นและใบ
2. ลำเลยี งนำ้ แรธ่ าตุ และอาหารระหว่างรากและใบ
3. เปลี่ยนแปลงไปทำหนา้ ท่พี เิ ศษตามลักษณะลำต้นที่เปล่ียนแปลงไป เชน่
สะสมอาหาร ยึดเกาะ

ส่วนประกอบของลำต้น

ประกอบดว้ ย 3 สว่ น ได้แก่
1. ข้อ (node) คือ บรเิ วณท่ใี บยึดติดกับลำต้น เป็นเขตเจรญิ ของลำตน้ คือ

จะมกี งิ่ ใบ หรือดอกเจรญิ ออกมา
2. ปลอ้ ง (internode) คือ ส่วนของลำต้นที่อย่รู ะหวา่ งข้อ
3. ตา (bud) คือ ส่วนของลำตน้ ทีย่ ังไม่เจริญ เมอื่ เกดิ แล้วจะพักตัวอยู่ระยะหน่ึง

แลว้ จงึ เจรญิ ไปเป็นตน้ กิง่ ใบ หรือดอก ข้ึนกบั ชนดิ ของตาน้ัน ตาท่ีเกิดบริเวณปลายยอด เรยี กวา่
ตายอด (terminal bud) ส่วนตาที่เกิดด้านข้างของลำต้น ซอกกิ่งหรือซอกใบ เรียกว่า ตาข้าง
(axillary bud) (ภาพที่ 13)

15

ภาพที่ 13 ส่วนประกอบของลำต้น
ท่ีมา : Stern, 1994 : 69

ลกั ษณะวสิ ยั ของพืช (plant habit)

ลำต้นของพืชดอกแตกต่างกันทั้งขนาด อายุ เป็นลักษณะวิสัยที่ปรากฏให้เห็น
ตา่ งกนั ดงั น้ี

1. ไม้ล้มลุก (herb) เป็นพืชที่มีลำต้นอ่อนนุ่ม ไม่มีเนื้อไม้ หรือมีเนื้อไม้เพียง
เล็กน้อยบริเวณโคนต้น ลำต้นจะตายไปเมื่อหมดฤดูการเจริญเติบโต จำแนกเป็น 3 ประเภท
ไดแ้ ก่

1.1 พืชปีเดียว (annual herb) เป็นพืชอายุไม่เกิน 1 ปี เมื่อออกดอกออก
ผลแลว้ จะตาย เช่น ดาวเรือง บานชน่ื หงอนไก่

1.2 พชื สองปี (biennial herb) เป็นพชื ทม่ี อี ายุ 2 ปี โดยปีแรกจะเจรญิ เติบโต
ทางด้านลำต้นและใบ แล้วออกดอกออกผลในปีที่ 2 จึงจะตาย เช่น กล้วยประดับ ผกั กาดแดง

1.3 พืชหลายปี (perennial herb) เป็นพชื ลม้ ลกุ ท่ีมอี ายุมากกวา่ 2 ปีและ
ออกดอกออกผลทุกปี เช่น บัว บานเชา้ บานเย็น พทุ ธรักษา พลบั พลึง (ภาพท่ี 14)

16

ภาพที่ 14 ลกั ษณะวิสยั ของพลบั พลงึ
ที่มา: กาญจนา คงเอยี ด, 2561

2. ไมพ้ ุ่ม (shrub) เปน็ พืชทม่ี ีเนือ้ ไม้ มักมีหลายลำต้นแตไ่ ม่มลี ำตน้ หลัก แตกกิ่ง
บริเวณโคนตน้ มอี ายหุ ลายปี เช่น กระดังงาสงขลา โมกบา้ น (ภาพท่ี 15)

ภาพที่ 15 ลักษณะวิสัยของโมกบ้าน
ทีม่ า : กาญจนา คงเอยี ด , 2553 : ถ่ายภาพ

17

3. ไม้ต้น (tree) เป็นพืชที่มีเนื้อไม้ มีลำต้นหลักเพียงหนึ่งต้นเห็นไดช้ ัด มีอายุ
หลายปี เช่น มะขาม จามจุรี ทุเรยี น สา้ นใหญ่ (ภาพที่ 16)

ภาพที่ 16 ลักษณะวิสัยของส้านใหญ่
ที่มา : กาญจนา คงเอียด, 2561 : ถา่ ยภาพ

4. ไมเ้ ลอ้ื ยหรอื ไมเ้ ถา (climber) เปน็ พชื ลำต้นไมม่ เี นื้อไมห้ รอื มเี นอ้ื ไม้ อายุปี
เดียวหรอื หลายปี ลำต้นเลื้อยไปตามดินหรือเกาะพนั ส่ิงท่ีอยูใ่ กล้เคยี งหรือมอี วัยวะพิเศษสำหรับ
ยึดเกาะ เช่น ราก มือเกาะ และขอเกี่ยว ไม้เถาไม่มีเนื้อไม้ เช่น ผักบุ้ง เสาวรส กระเทียมเถา
(ภาพที่ 17) ไม้เถามีเน้อื ไม้ เช่น การเวก สะบ้า

ภาพที่ 17 ลักษณะวสิ ยั ของกระเทียมเถา
ทมี่ า : ภาพกระเทยี มเถา, 2561 : เว็บไซต์

18

5. ไม้รอเลื้อย (scandent) เป็นไม้พุ่มกึ่งไม้เถา มีกิ่งก้านทอดเอนไปบนต้นไม้
หรือสิ่งอืน่ ทีอ่ ยู่ใกล้เคียง แต่เมื่อขึ้นอยู่ตามลำพงั ก็ทรงตัวอยู่ได้ดูคล้ายเป็นไม้พุ่ม เช่น นมแมว
เฟื่องฟา้ (ภาพที่ 18)

ภาพท่ี 18 ลักษณะวสิ ยั ของเฟ่อื งฟ้า
ทมี่ า : ภาพลักษณะวสิ ยั ของเฟ่ืองฟ้า, 2561 : เว็บไซต์

ลำต้นทเ่ี ปล่ยี นแปลงไป (modified stem)
ลำตน้ ของพืชบางชนดิ เปลีย่ นแปลงรูปรา่ งและหนา้ ทไี่ ปได้ ซ่ึงมีท้ังลำตน้ ใตด้ นิ

(subterranean stem) และลำต้นเหนอื ดนิ (aerial stem) ดังนี้
1. ลำต้นใต้ดินที่เปลีย่ นแปลงไป
1.1 เหงา้ (rhizome) เป็นลำตน้ ใต้ดินทเ่ี จริญทอดขนานไปกับพื้นดิน ต้น

แตกแขนงได้มาก มขี ้อและปล้องสั้นๆ มีใบเกลด็ คลุมทขี่ อ้ มตี าทข่ี อ้ ซึ่งเติบโตเป็นใบแทงขึ้นมา
เหนือดินได้ เชน่ ขมิน้ ขงิ ขา่ (ภาพที่ 19)

19

ภาพที่ 19 เหง้าของข่า
ทม่ี า : กาญจนา คงเอยี ด, 2561 : ถ่ายภาพ

1.2 หวั แบบมนั ฝรงั่ (tuber) ลำตน้ มแี ขนงใตด้ นิ ปลายแขนงพองออกเป็น
หัวเพื่อเก็บสะสมอาหาร มีขอ้ และปลอ้ งเรียงตัวไมเ่ ป็นระเบยี บ มีตาท่สี ามารถเจรญิ เป็นต้นใหม่
ได้ เชน่ มนั ฝรง่ั (ภาพที่ 20)

ภาพท่ี 20 หวั แบบมันฝร่งั
ทม่ี า : กาญจนา คงเอียด, 2561 : ถ่ายภาพ

1.3 หัวแบบเผอื ก (corm) เปน็ ลำตน้ ใต้ดินที่เจรญิ ต้ังตรง มีลักษณะเป็นหัว
เก็บสะสมอาหารจำพวกแป้ง ส่วนกลางมักพองโต ข้อและปล้องสั้นมาก มีใบเกล็ดบางๆ หุ้มท่ี
ขอ้ ตรงปลายมตี ายอดอย่ซู ่ึงจะเจรญิ เปน็ ใบ เช่น แหว้ เผอื ก (ภาพที่ 21)

20

ภาพที่ 21 หัวแบบเผือก
ทม่ี า : ภาพหัวแบบเผือก, 2561 : เว็บไซต์

1.4 หัวแบบหอม (bulb) ลำตน้ ขนาดเล็ก มปี ลอ้ งสน้ั มาก ตายอดหรือตา
ข้างห่อหุ้มด้วยใบเกล็ดซ้อนกันหลายชั้น โคนใบหนาเพราะมีอาหารสะสม แต่ใบเกล็ดด้านนอก
บาง เพราะไม่มอี าหารสะสม มีรากงอกจากขอ้ เช่น ลำตน้ ของพลบั พลงึ กระเทียม หอม (ภาพ
ที่ 22)

ภาพที่ 22 หวั แบบหอม
ทม่ี า : กาญจนา คงเอียด, 2561 : ถ่ายภาพ

21

2. ลำต้นเหนือดนิ ทเี่ ปลย่ี นแปลงไป
2.1 ไหล (stolon หรือ runner) เปน็ ลำตน้ ทที่ อดราบไปตามพ้นื ดิน มีปล้อง

สัน้ หรือยาว ราก ใบ ดอก เกิดท่ีข้อ เชน่ บัวบก แว่นแก้ว (ภาพท่ี 23)

ภาพท่ี 23 ไหลของแวน่ แกว้
ทีม่ า : กาญจนา คงเอยี ด, 2561 : ถา่ ยภาพ

2.2 ลำต้นคล้ายใบ (phylloclade หรือ cladophyll) เป็นบางส่วนของ
ลำต้นหรือลำต้นเปลีย่ นแปลงไปเป็นแผ่นแบนคล้ายใบ มีสีเขียว ทำหน้าที่สังเคราะห์ด้วยแสง
เช่น ลำตน้ ของกระถินณรงค์ กระบองเพชร สลดั ได (ภาพที่ 24)

ภาพที่ 24 ลำตน้ คล้ายใบของกระถินณรงค์
ที่มา : กาญจนา คงเอยี ด, 2561 : ถ่ายภาพ

22

2.3 มือพัน (stem tendril) เป็นส่วนของก่ิงหรือลำต้นที่เปลี่ยนไปทำหนา้ ท่ี
สำหรับยึดเกาะ จะสังเกตเห็นขอ้ และปล้องซึง่ ไม่พบในมือพันทีเ่ ปลีย่ นแปลงมาจากใบ เช่น มือพัน
ขององนุ่ (ภาพท่ี 25)

ภาพที่ 25 มอื พนั ขององ่นุ
ที่มา: ภาพมือพนั ขององุ่น, 2561 : เว็บไซต์

2.4 ลำต้นเกีย่ วพัน (twinning stem) เปน็ ลำต้นท่พี ันรอบสงิ่ ท่ีอยูใ่ กล้
โดยไมม่ มี อื เกาะ หนามหรอื ส่ิงพเิ ศษอื่นๆ เช่น ลำต้นของถว่ั ฝกั ยาว บอระเพด็ (ภาพท่ี 26)

ภาพท่ี 26 ลำตน้ เกี่ยวพนั ของถว่ั ฝกั ยาว
ทมี่ า : กาญจนา คงเอยี ด, 2561 : ถ่ายภาพ

23

แบบฝกึ หัดท่ี 2
โครงสรา้ งภายนอกของพชื ดอก : ลำตน้

คำช้แี จง จงตอบคำถามตอ่ ไปนีใ้ ห้ถูกตอ้ ง (10 คะแนน)
1. ลำตน้ ประกอบด้วยโครงสรา้ งใดบ้าง แตกต่างจากรากอย่างไร

ตอบ……………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………..………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………

2. จงเติมข้อมูลลกั ษณะวิสยั ของพชื ท่ีกำหนดใหใ้ นตาราง พร้อมบอกเหตุผล

ชนดิ พชื ลักษณะวสิ ัย เหตุผลประกอบการพจิ ารณา

1. มนั เทศ

……………………………… …………………………………………

…………………………………………

………………………………………..
…………………………………………

2. มะละกอ

……………………………… …………………………………………
…………………………………………
………………………………………..
…………………………………………

3. ยางพารา

……………………………… …………………………………………
…………………………………………
………………………………………..

ชนดิ พชื ลักษณะวิสยั 24
4. กระเจี๊ยบแดง
เหตผุ ลประกอบการพจิ ารณา
5. สายหยดุ …………………………………………

……………………………… …………………………………………
…………………………………………
………………………………………..
…………………………………………

……………………………… …………………………………………
…………………………………………
………………………………………..
…………………………………………

3. มนั ฝรั่งแตกต่างจากมันเทศอยา่ งไร
ตอบ……………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………..………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………
4. กำหนดพืชตอ่ ไปน้ี

“หอมใหญ่ กระถนิ ณรงค์ บอระเพ็ด ขิง”
ถ้านักเรียนได้รับมอบหมายให้นำเสนอหน้าชั้นเรียนเกี่ยวกับโครงสร้ างลำต้นชนิดลำต้น
สงั เคราะห์ดว้ ยแสง นกั เรยี นจะเลอื กพืชชนิดใดเปน็ ตวั แทนในการนำเสนอ เพราะเหตุใด
ตอบ……………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………..………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………

25

ศึกษาสถานการณต์ อ่ ไปน้ี แลว้ ตอบคำถามข้อ 5

“บ้านของนรากรปลูกผักสวนครัวไว้หลายชนิด วันหนง่ึ แม่ให้เขาไปขุดกระชายมาใส่ใน
แกงกะทิ เมื่อเขานำมาให้แม่ในครัว แม่บอกให้เขาไปขุดใหม่ เนื่องจากเขาได้ขมิ้นมา
เขาจึงตอ้ งกลับไปขดุ ใหม่อกี คร้งั ”

5. จากสถานการณ์ข้างต้น นักเรียนจะบอกนรากรให้เขาสังเกตความแตกต่างของขม้ินและ
กระชายไดอ้ ย่างไร
ตอบ……………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………..………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………

“ไมย่ ากเลยใชม่ ยั้ จะ๊ เพือ่ นๆ
เก่งอยูแ่ ลว้ ถึงเวลาทดสอบ
ความร้กู นั แล้วจ้า ลุยกนั

เลย”

26

แบบทดสอบ
เร่ือง โครงสรา้ งภายนอกของพชื ดอก : รากและลำต้น

คำช้แี จง 1. แบบทดสอบฉบับน้มี ี 10 ขอ้ คะแนนเต็ม 10 คะแนน (ใช้เวลา 20 นาที)
2. ทำเครือ่ งหมาย X ลงในกระดาษคำตอบ ใหต้ รงกับคำตอบที่ถกู ต้องท่สี ดุ

จุดประสงค์ท่ี 1 อธิบายโครงสรา้ งภายนอกของรากและลำต้นได้
1. สว่ นทเี่ หน็ จดั เปน็ โครงสรา้ งใดของเผอื ก เพราะเหตุใด

ก. ราก เพราะเจรญิ ใต้ดินและไม่มสี เี ขียว
ข. ราก เพราะทำหน้าที่ดูดนำ้ และแรธ่ าตุจากดิน
ค. ลำต้น เพราะมีขอ้ ปล้อง และมตี า
ง. ลำต้น เพราะเจริญในทศิ ตามแรงโนม้ ถ่วงของโลก
2. วนั ชาติ เขียนบรรยายลกั ษณะโครงสร้างรากและลำต้นของผกั กาดขาว ดังน้ี

ผักกาดขาว
ราก เปน็ ระบบรากฝอย สขี าว เรยี วยาว
ลำตน้ เปน็ ลำต้นใต้ดนิ สขี าว อวบนำ้ เป็นส่วนสะสมน้ำและอาหาร

27

นักเรียนเหน็ ด้วยกบั คำบรรยายของวนั ชาตหิ รือไม่ เพราะเหตุใด
ก. เห็นดว้ ย เพราะผกั กาดขาวเป็นพชื ใบเลยี้ งเด่ียว มรี ะบบรากฝอย
ข. เห็นดว้ ย เพราะลำตน้ ของผกั กาดขาวเปน็ ลำตน้ ชนิดลำตน้ สะสมอาหาร
ค. ไมเ่ หน็ ดว้ ย เพราะผักกาดขาวมรี ะบบรากฝอย แต่ลำตน้ เป็นลำตน้ เหนือดนิ
ง. ไม่เห็นด้วย เพราะรากของผกั กาดขาวเป็นรากแก้วสะสมอาหาร ลำตน้ เป็นเหง้า ส้ัน

3. ขอ้ ใดไม่ถูกต้องเกี่ยวกบั รากของพืช
ก. รากแก้วเป็นรากทเ่ี จริญจากรากแรกเกิด
ข. โครงสร้างของรากประกอบด้วยข้อและปล้อง
ค. รากจัดเป็นส่วนสืบพันธุ์แบบไมอ่ าศัยเพศของพืช
ง. รากพืชบางชนิดเจริญในทศิ ตา้ นแรงโน้มถ่วงของโลก

จุดประสงคท์ ี่ 2 เปรยี บเทยี บโครงสรา้ งภายนอกของรากและลำตน้ ของพชื ชนดิ ตา่ งๆได้
4. จากรูป ขอ้ ใดไมถ่ กู ตอ้ งเกีย่ วกบั ลกั ษณะโครงสรา้ งรากของกลว้ ยไม้และขา้ วโพด

ก. รากกลว้ ยไม้และรากข้าวโพดเป็นรากฝอย
ข. รากกลว้ ยไม้และรากขา้ วโพดเปน็ รากแขนง
ค. รากกล้วยไม้และรากข้าวโพดเปน็ รากสังเคราะห์ด้วยแสง
ง. รากกลว้ ยไมเ้ ป็นรากอากาศ รากขา้ วโพดเป็นรากคำ้ จุน

28

5. ศรัญยท์ ำแบบฝกึ หดั เกยี่ วกบั ลำต้นพชื ทเ่ี ปล่ยี นแปลงไป นกั เรยี นจะชว่ ยศรัญย์เตมิ ขอ้ มูลใน
ช่องว่างไดด้ ังข้อใด

พืช ชนิดของลำตน้

1. ………………………………….

2. หวั แบบหอม
3. .......................................

4. .......................................

ก. 1= ไหล 3= ลำตน้ เกี่ยวพัน 4= เหงา้

ข. 1= เหงา้ 3= ลำตน้ เก่ยี วพนั 4= ไหล

ค. 1= ลำต้นสังเคราะห์ด้วยแสง 3= ลำตน้ เกยี่ วพนั 4= เหงา้

ง. 1= ลำตน้ สังเคราะห์ดว้ ยแสง 3= ลำต้นเกย่ี วพนั 4= ไหล

29

6. ศกึ ษาตารางเปรียบเทียบลักษณะของระบบรากแก้วและระบบรากฝอย

ระบบรากแกว้ ระบบรากฝอย
1. พบในพืชใบเลี้ยงคแู่ ละพืชเมลด็ เปลือย 1. พบในพชื ใบเลย้ี งเดย่ี วสว่ นใหญ่ และพชื
ใบเล้ียงค่บู างชนดิ
2. เจรญิ จากรากแรกเกดิ 2. เจริญจากลำต้น จดั เปน็ รากพิเศษ
(adventitious root)
3. มรี ากขนาดใหญ่ 1 ราก คอื รากแกว้ 3. มรี ากขนาดใกลเ้ คยี งกันจำนวนมาก แตก
เจริญลงดา้ นล่างในแนวดงิ่ เปน็ กระจกุ ใกลโ้ คนต้น เจรญิ ขนานไปกับ
พืน้ ดิน

ขอ้ ใดจัดกลมุ่ พืชต่อไปนี้ตามระบบรากไดถ้ กู ตอ้ ง
ดาวเรอื ง ทุเรียน ขา้ วโพด กระเจ๊ยี บ กลว้ ย ขม้ิน

ระบบรากแก้ว ระบบรากฝอย
ก. ดาวเรือง ทเุ รยี น กระเจย๊ี บ ข้าวโพด กลว้ ย ขมน้ิ
ข. ดาวเรือง ขมน้ิ กระเจี๊ยบ ทเุ รยี น ข้าวโพด กล้วย
ค. กล้วย ข้าวโพด ขมิ้น ดาวเรือง ทเุ รยี น กระเจ๊ียบ
ง. กระเจ๊ยี บ กลว้ ย ขมนิ้ ดาวเรอื ง ทุเรียน ขา้ วโพด

จดุ ประสงคท์ ่ี 3 บอกลักษณะวสิ ยั ของพืชได้
7. ข้อใดไมถ่ กู ต้องเก่ียวกบั ลักษณะวสิ ยั ของพชื

ก. ไมเ้ ถาเปน็ พืชที่มเี นอ้ื ไมห้ รอื ไม่มีเน้อื ไมก้ ไ็ ด้
ข. ไม้ล้มลุกไม่มเี น้ือไม้ มีอายเุ พยี งปเี ดียวเทา่ นน้ั
ค. ไมร้ อเลือ้ ยเปน็ ไม้ที่มีเนอื้ ไม้ แตไ่ ม่สามารถยนื ต้นได้เอง ต้องเกาะยดึ กบั สง่ิ ทอี่ ยูใ่ กล้เคียง
ง. ไม้พมุ่ และไมต้ น้ ต่างมีเนือ้ ไม้ แต่ไมพ้ ุม่ ไมม่ ีลำต้นหลัก สว่ นไม้ต้นมลี ำต้นหลกั เพียงต้นเดียว

30

8. พชื ในขอ้ ใดที่มีลักษณะวิสยั เชน่ เดยี วกับพชื ในภาพท่กี ำหนดให้

ก. ฟกั ทอง ตะไคร้ มะนาว
ข. ขม้นิ มะละกอ เผอื ก
ค. กระเพรา ถ่วั ฝักยาว มะเขือ
ง. ผักบุ้ง พริกไทย กระเทยี ม

31

จดุ ประสงค์ที่ 4 สำรวจรากและลำต้น วิเคราะห์และอธิบายโครงสร้างภายนอกของรากและ
ลำต้นของพืชตัวอย่างได้
9. ข้อใดบรรยายลกั ษณะรากและลำต้นของพชื ในภาพได้ถกู ต้องทีส่ ุด

ก. ไมล้ ม้ ลุก ระบบรากแก้ว สีนำ้ ตาลปนเขียว รากพเิ ศษชนิดรากสังเคราะห์ด้วยแสง
ลำต้นเหนอื ดิน ไม่มีเนื้อไม้ สีเขียว ลำตน้ พิเศษชนิดลำต้นสงั เคราะหด์ ว้ ยแสง

ข. ไม้ล้มลกุ ระบบรากฝอย สีนำ้ ตาลปนเขียว รากพิเศษชนิดรากเกาะ
ลำต้นเหนอื ดิน มีเนื้อไม้ สเี ขยี ว ลำตน้ พิเศษชนดิ ลำตน้ สังเคราะหด์ ้วยแสง

ค. ไม้เถา ระบบรากแกว้ สีน้ำตาลปนเขยี ว รากพเิ ศษชนิดรากสังเคราะหด์ ว้ ยแสง
ลำต้นเหนือดนิ มีเน้ือไม้ สีเขียว ลำต้นพเิ ศษชนิดลำต้นเกีย่ วพนั

ง. ไม้เถา ระบบรากฝอย สีน้ำตาลปนเขยี ว รากพเิ ศษชนิดรากเกาะ
ลำตน้ เหนือดิน ไม่มีเนอื้ ไม้ สีเขียว ลำตน้ พเิ ศษชนิดลำตน้ สงั เคราะหด์ ้วยแสง

32

10. คำบรรยายลกั ษณะรากและลำตน้ ต่อไปน้ี เปน็ คำบรรยายพืชชนิดใด
“ไมล้ ้มลกุ ระบบรากฝอย รากพิเศษชนิดรากสะสมอาหาร ลำต้นแบบเหง้า”

ก. มันเทศ

ข. กระชาย

ค. ขมน้ิ
ง. มนั สำปะหลัง

33

บรรณานุกรม

กอ่ งกานดา ชยามฤต. (2541). คมู่ ือการจำแนกพรรณไม้. กรุงเทพฯ : บริษทั ประชาชน จำกดั .
ชอ่ ทิพย์ ปรุ ินทวรกุล. (2548.). อนุกรมวิธานของพืชดอก (พรรณไมใ้ บเลยี้ งคู่). สงขลา : หนว่ ย

โสตทัศนศกึ ษา คณะวทิ ยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์.
เต็ม สมิตนิ ันทน์. (2544). ช่ือพรรณไมแ้ ห่งประเทศไทย. กรงุ เทพมหานคร: บริษทั ประชาชนจำกดั .

ประนอม จันทรโณทยั . (2554). อนกุ รมวธิ านพชื . ขอนแก่น : หจก. โรงพมิ พ์คลังนานาวิทยา.
ประสงค์ หลำสะอาด และจิตเกษม หลำสะอาด. (2549). คู่มือสาระการเรยี นร้พู ื้นฐานและ

เพ่ิมเติม กลุม่ สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์ ชีววทิ ยา ม.5 เลม่ 4. กรงุ เทพมหานคร:
พ.ศ. พฒั นา จำกดั .
ภาพโครงสร้างของพืชดอก (online). http://www.chaiyawat.th.gs/Meanandpartsof
thaiherb.html, 14 สงิ หาคม 2561.
ภาพมอื พนั ขององนุ่ (online). http://www.nana-bio.com/e-learning/plant%20organ/
stem02.html, 14 สงิ หาคม 2561.
ภาพรากแก้วและรากแขนง. (online). http://www.ppp.uiuc.edu/newppp_2001/
resourses/plant/mainplants1.htm, 14 สงิ หาคม 2561.
ภาพรากแก้วสะสมอาหารของแครอท. (online). http://decor.mthai.com/garden/
12582.html, 14 สงิ หาคม 2561.
ภาพรากค้ำจุนของโกงกาง (online). http://thaimisc.pukpik.com/freewebboard/php/
vreply.php?user=patumwan_net&topic=101&page=2, 14 สิงหาคม 2561.
ภาพรากปรสติ ของกาฝาก (online). http://www.parasiticplants.siu.edu/Terms.html,
14 สงิ หาคม 2561.
ภาพหายใจรากลำพู (online). http://pantip.com/topic/31535529,/ 12 กรกฎาคม 2561.
ภาพลกั ษณะวิสัยของเฟอื่ งฟ้า (online). http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=
memorable&month=23-03-2005&group=24&gblog=3, 14 สงิ หาคม 2561.
ภาพลกั ษณะวสิ ัยของกระเทียมเถา (online). http://topicstock.pantip.com/jatujak/
topicstock/2008/05/J6633940/J6633940.html, 17 กรกฎาคม 2561.
ภาพรากอากาศของไทร (online). https://www.l3nr.org/posts/501332,
17 กรกฎาคม 2561.

34

ศภุ ณัฐ ไพโรหกุล. (2561). Essential Biology. กรุงเทพมหานคร. บริษทั ธนาเพลส จำกัด
Stern,K.R., Bidlack,J. E. and Jansky,S.H. (2008). Introductory Plant Biology,

11th ed. New York: McGraw-Hill.

.

35

36

เฉลยแบบฝึกหดั ที่ 1
โครงสร้างภายนอกของพชื ดอก : ราก

การใหค้ ะแนน : ตอบถูกไดข้ อ้ ละ 2 คะแนน แน

1. “รากฝอยจัดเป็นรากพเิ ศษชนดิ หนง่ึ ”
นักเรียนเห็นด้วยกับคำกล่าวนหี้ รอื ไม่ เพราะเหตใุ ด
ตอบ เห็นด้วย เพราะรากฝอยเป็นรากทีไ่ ม่ได้เกดิ จากรากแรกเกิด แตแ่ ตกออกจากโคนของลำต้น
จงึ จัดเปน็ รากพิเศษชนดิ หนึ่ง

2. พืชในภาพมรี ากเปน็ รากพเิ ศษชนดิ ใด

ตอบ รากอากาศ และรากคำ้ จนุ

3. รากของพลดู า่ งกบั รากของกาฝากแตกต่างกันอยา่ งไร
ตอบ รากของพลูดา่ งจัดเป็นรากพิเศษชนิดรากเกาะ ทำหน้าท่ียึดเกาะกับพืชท่ีไปเจริญอยู่ โดยไม่
แทงรากเข้าไปในเนื้อไม้ของต้นพืชที่ไปเกาะอยู่ด้วย แต่รากกาฝากจัดเป็นรากพิเศษชนิด
รากปรสิต เน่อื งจากแทงรากเข้าไปในเนื้อไมเ้ พ่อื ดูดนำ้ เลย้ี งจากพชื ที่ไปยดึ เกาะอยู่

37

4. นักเรียนศกึ ษาภาพของพืชท่กี ำหนดให้ แลว้ เติมขอ้ มลู ในตารางให้ครบถว้ น

พชื รากทเ่ี ปลี่ยนแปลง ชนิดของราก
1. โกงกาง รากคำ้ จุน รากวิสามญั

2. ลำแพน รากหายใจ รากวิสามัญ
3. มันสำปะหลงั รากสะสมอาหาร รากฝอย
4. พริกไทย รากวสิ ามญั
รากเกาะ

5. กลว้ ยไมแ้ วนด้า

รากสังเคราะห์ดว้ ยแสง รากวสิ ามญั

38

5. จงเขยี นผงั มโนทศั น์แสดงความคิดรวบยอดเกีย่ วกบั โครงสร้างรากของพืช

ราก

ระบบราก ชนิดของราก รากทเี่ ปลย่ี นแปลง
ระบบรากแก้ว
ระบบรากฝอย รากแกว้ รากอากาศ
รากฝอย รากพพู อน
รากวิสามญั รากเกาะ
รากปรสิต
รากหายใจ
รากค้ำจนุ
รากสะสมอาหาร

39

เฉลยแบบฝึกหดั ท่ี 2
โครงสรา้ งภายนอกของพชื ดอก : ลำต้น

การใหค้ ะแนน : ตอบถกู ได้ข้อละ 2 คะแนน แนกพืชและชือ่ วทิ ยาศาสตรข์ องพืช

1. ลำต้นประกอบด้วยโครงสร้างใดบ้าง แตกตา่ งจากรากอย่างไร
ตอบ ลำต้นประกอบด้วยข้อ ปล้องและตา ซึ่งเป็นส่วนที่จะเจริญไปเป็นต้น กิ่ง ใบ หรือดอก
แต่รากไม่มขี อ้ ปล้อง และตา การเจรญิ ของลำต้นมีทิศต้านแรงโน้มถ่วงของโลกส่วนการเจริญ
ของรากมีทศิ ตามแรงโนม้ ถว่ งของโลก
2. จงเติมขอ้ มูลลักษณะวสิ ัยของพืชท่กี ำหนดใหใ้ นตาราง พร้อมบอกเหตุผล

ชนิดพชื ลกั ษณะวิสยั เหตผุ ลประกอบการพจิ ารณา
1. มันเทศ

ไม้เลอื้ ย/ ลำต้นไม่มีเนื้อไม้ ทอดเลื้อยไปตาม

ไม้ลม้ ลุกไมม่ ีเน้อื ไม้ พ้ืนดนิ

2. มะละกอ ไม้ลม้ ลุกไมม่ เี นื้อไม้อายุ ลำตน้ ไมม่ ีเนือ้ ไม้ แตม่ ีอายุมากกว่า
3. ยางพารา หลายปี 2 ปแี ละออกดอกออกผลตลอดปี

ไมต้ น้ ลำต้นมีเนื้อไม้ มีลำต้นหลักเพียง
หนึ่งต้น มีอายุหลายปี

ชนิดพืช ลักษณะวิสยั 40
4. กระเจ๊ยี บแดง
เหตผุ ลประกอบการพิจารณา

ไมล้ ม้ ลุกมีเนอ้ื ไม้ปีเดียว ลำต้นมีเนื้อไม้อ่อน แต่มีอายุเพียง
1 ปี เมื่อออกดอกออกผลต้นแก่ก็
ตายไป

5. สายหยุด

ไม้รอเลอ้ื ย ลำตน้ มเี นอื้ ไม้ อยโู่ ดดเด่ยี วสามารถ
ตั้งตรงเองได้ แต่เมื่ออยู่ใกล้ต้นไม้
หรือสิ่งอื่นปลายยอดจะพันเกี่ยว
คล้ายไมเ้ ล้ือย

3. มนั ฝรง่ั แตกตา่ งจากมันเทศอย่างไร
ตอบ หัวมันฝรงั่ เป็นสว่ นของลำต้นสะสมอาหาร สว่ นหวั มนั เทศเป็นรากสะสมอาหาร

4. กำหนดพืชตอ่ ไปนี้
“หอมใหญ่ กระถินณรงค์ บอระเพด็ ขงิ ”

ถ้านักเรียนได้รับมอบหมายให้นำเสนอหน้าชั้นเรียนเกี่ยวกับโครงสร้างลำต้นชนิดลำต้น
สงั เคราะห์ด้วยแสง นกั เรยี นจะเลอื กพชื ชนิดใดเปน็ ตวั แทนในการนำเสนอ เพราะเหตใุ ด

ตอบ กระถินณรงค์ เพราะใบกระถินณรงค์เป็นส่วนที่เปลี่ยนแปลงมาจากลำต้นที่มี
ลักษณะแบน บาง ทำหน้าที่ในการสังเคราะห์ดว้ ยแสงแทนใบท่ลี ดรูปไป

41

ศึกษาสถานการณ์ตอ่ ไปนี้ แลว้ ตอบคำถามขอ้ 5

“บา้ นของนรากรปลกู ผกั สวนครัวไว้หลายชนิด วนั หนงึ่ แมใ่ หเ้ ขาไปขุดกระชายมาใส่ใน
แกงกะทิ เมื่อเขานำมาให้แม่ในครัว แม่บอกให้เขาไปขุดใหม่ เนื่องจากเขาได้ขมิ้นมา
เขาจึงต้องกลบั ไปขุดใหม่อกี คร้งั ”

5. จากสถานการณ์ข้างต้น นักเรียนจะใชค้ วามรู้เรื่องรากและลำต้น บอกนรากรให้เขาสังเกต
ความแตกต่างของขมนิ้ และกระชายได้อย่างไร
ตอบ นรากรตอ้ งสังเกตลักษณะของหวั ขมิ้นและหัวกระชาย โดยในหวั ขม้ินเป็นส่วนลำต้น สังเกต
จากการมองเห็นขอ้ และปล้อง แตห่ ัวกระชายเป็นส่วนของราก ไม่มีข้อและปลอ้ ง ผวิ เรยี บ

42

เฉลยแบบทดสอบ
เรื่อง โครงสร้างภายนอกของพืชดอก : รากและลำต้น

ขอ้ คำตอบ ขอ้ คำตอบ
1 ค 6ก
2 ง 7ข
3 ข 8ข
4 ข 9ง
5 ก 10 ข

“8 คะแนนขน้ึ ไป ถอื ว่ายอดเย่ียมจะ๊
เพอื่ นๆ บนั ทึกคะแนนในแบบบนั ทึก
คะแนนดว้ ยนะจะ๊ ขอ้ ไหนที่ยงั พลาด

ไป ศกึ ษาคาอธิบายแล้วกลบั ไป
ทบทวนอีกครงั้ จา้ ไม่ยากเกิน
ความสามารถอยู่แลว้ หนูพฤกษ์เป็น

กาลงั ใจให้นะคะ”

43

เฉลยแบบทดสอบพร้อมคำอธิบาย

จุดประสงคท์ ่ี 1 อธบิ ายโครงสรา้ งภายนอกของรากและลำตน้ ได้
1. สว่ นทีเ่ ห็นจดั เป็นโครงสรา้ งใดของเผือก เพราะเหตุใด

ก. ราก เพราะเจริญใตด้ ินและไม่มสี ีเขยี ว
ข. ราก เพราะทำหน้าทด่ี ูดน้ำและแร่ธาตจุ ากดนิ
ค. ลำตน้ เพราะมีข้อ ปล้อง และมตี า
ง. ลำตน้ เพราะเจริญในทศิ ตามแรงโนม้ ถ่วงของโลก
คำอธบิ าย : หัวของเผือกเปน็ ลำตน้ ใต้ดิน ชนิด หวั แบบเผือก สังเกตจากข้อ ปลอ้ ง และตาขา้ ง
ทีเ่ จรญิ เปน็ ตน้ ใหม่
2. วนั ชาติ เขียนบรรยายลกั ษณะโครงสรา้ งรากและลำตน้ ของผักกาดขาว ดังนี้

ผักกาดขาว

ราก เป็นระบบรากฝอย สขี าว เรียวยาว
ลำต้น เป็นลำต้นใต้ดิน สีขาว อวบน้ำ เป็นส่วนสะสมนำ้ และอาหาร

44

นักเรยี นเหน็ ด้วยกับคำบรรยายของวนั ชาตหิ รอื ไม่ เพราะเหตุใด
ก. เห็นดว้ ย เพราะผักกาดขาวเปน็ พชื ใบเลย้ี งเด่ียว มรี ะบบรากฝอย
ข. เหน็ ด้วย เพราะลำตน้ ของผกั กาดขาวเปน็ ลำตน้ ชนิดลำตน้ สะสมอาหาร
ค. ไม่เหน็ ดว้ ย เพราะผักกาดขาวมีระบบรากฝอย แตล่ ำต้นเป็นลำตน้ เหนือดนิ
ง. ไมเ่ หน็ ด้วย เพราะรากของผกั กาดขาวเป็นรากแกว้ สะสมอาหาร ลำต้นเป็นเหง้า ส้ัน

คำอธิบาย : ผกั กาดขาวเป็นพชื ใบเลี้ยงคู่ มีระบบรากแก้ว สว่ นทน่ี ำมารบั ประทานเปน็ รากแกว้
สะสมอาหาร เช่นเดียวกับแครอท สว่ นลำต้นเป็นลำตน้ ใตด้ ินชนิดเหง้า ส้ัน ดังภาพ

3. ขอ้ ใดไม่ถกู ต้องเกี่ยวกับรากของพชื
ก. รากแก้วเปน็ รากท่เี จริญจากรากแรกเกิด
ข. โครงสร้างของรากประกอบดว้ ยขอ้ และปลอ้ ง
ค. รากจัดเป็นส่วนสืบพนั ธุ์แบบไมอ่ าศยั เพศของพชื
ง. รากพืชบางชนดิ เจริญในทิศตา้ นแรงโนม้ ถว่ งของโลก

คำอธบิ าย : รากพืชไมม่ ขี อ้ และปลอ้ ง ซึง่ แตกต่างจากลำตน้ ท่ีมีขอ้ และปลอ้ ง

45

จดุ ประสงคท์ ่ี 2 เปรียบเทยี บโครงสรา้ งภายนอกของรากและลำตน้ ของพชื ชนิดตา่ งๆได้
4. จากรปู ขอ้ ใดไม่ถูกตอ้ งเกี่ยวกับลกั ษณะโครงสร้างรากของกลว้ ยไมแ้ ละข้าวโพด

ก. รากกลว้ ยไม้และรากขา้ วโพดเป็นรากฝอย
ข. รากกล้วยไมแ้ ละรากข้าวโพดเป็นรากแขนง
ค. รากกลว้ ยไม้และรากข้าวโพดเป็นรากสังเคราะห์ด้วยแสง
ง. รากกลว้ ยไมเ้ ป็นรากอากาศ รากข้าวโพดเป็นรากค้ำจุน
คำอธบิ าย : กล้วยไม้และขา้ วโพด เปน็ พืชใบเลย้ี งเดยี่ วซึง่ มีระบบรากฝอย รากมีสเี ขยี ว จดั เป็น
รากสังเคราะห์ด้วยแสง นอกจากนี้รากกล้วยไม้ยังจดั เป็นรากอากาศ ทำหน้าที่ดูดอากาศและ
ความชื้น ส่วนรากข้าวโพดยังจัดเป็นรากค้ำจุน ทำหน้าที่ค้ำจุนลำต้นให้ตั้งตรงได้ แต่ราก
กลว้ ยไมแ้ ละรากขา้ วโพดไม่ใช่รากแขนงซ่ึงเปน็ รากที่แตกจากรากแก้ว
5. ศรญั ย์ทำแบบฝึกหดั เกี่ยวกับลำตน้ พชื ท่ีเปล่ียนแปลงไป นักเรียนจะชว่ ยศรัญย์เติมข้อมูลใน
ช่องวา่ งได้ดงั ข้อใด

พืช ชนิดของลำต้น

1. ………………………………….

46

พืช ชนดิ ของลำตน้

2. หวั แบบหอม

3. .......................................

4. .......................................

ก. 1= ไหล 3= ลำตน้ เกี่ยวพนั 4= เหง้า

ข. 1= เหงา้ 3= ลำต้นเก่ยี วพัน 4= ไหล

ค. 1= ลำตน้ สงั เคราะห์ดว้ ยแสง 3= ลำต้นเก่ยี วพนั 4= เหงา้

ง. 1= ลำตน้ สังเคราะห์ดว้ ยแสง 3= ลำตน้ เกี่ยวพนั 4= ไหล

คำอธบิ าย : ผกั ตบชวามลี ำตน้ พเิ ศษแบบไหล ถั่วฝกั ยาวเป็นลำตน้ เก่ยี วพนั และข่าเปน็ ลำต้น

ใต้ดนิ แบบเหงา้

47

6. ศกึ ษาตารางเปรยี บเทียบลักษณะของระบบรากแกว้ และระบบรากฝอย

ระบบรากแกว้ ระบบรากฝอย

1. พบในพชื ใบเล้ียงคแู่ ละพชื เมลด็ เปลอื ย 1. พบในพชื ใบเลี้ยงเดยี่ วส่วนใหญ่ และพชื

ใบเลีย้ งค่บู างชนิด

2. เจริญจากรากแรกเกดิ 2. เจริญจากลำต้น จัดเป็นรากพเิ ศษ

(adventitious root)

3. มรี ากขนาดใหญ่ 1 ราก คือ รากแกว้ 3. มีรากขนาดใกล้เคยี งกนั จำนวนมาก แตก

เจริญลงด้านล่างในแนวดง่ิ เปน็ กระจุกใกลโ้ คนต้น เจริญขนานไปกับ

พนื้ ดิน

ข้อใดจดั กลุ่มพชื ตอ่ ไปน้ีตามระบบรากไดถ้ กู ตอ้ ง

ดาวเรอื ง ทุเรียน ขา้ วโพด กระเจีย๊ บ กล้วย ขมิ้น

ระบบรากแกว้ ระบบรากฝอย
ก. ดาวเรอื ง ทุเรยี น กระเจย๊ี บแดง ข้าวโพด กลว้ ย ขมิน้
ข. ดาวเรือง ขมนิ้ กระเจยี๊ บแดง ทุเรยี น ขา้ วโพด กล้วย
ค. กลว้ ย ข้าวโพด ขม้ิน ดาวเรอื ง ทุเรียน กระเจย๊ี บแดง
ง. กระเจ๊ยี บแดง กล้วย ขม้ิน ดาวเรือง ทเุ รยี น ขา้ วโพด

คำอธิบาย : ดาวเรือง ทุเรียน กระเจี๊ยบแดง เป็นพืชใบเลี้ยงคู่ทั้งหมด มีระบบรากแก้ว ส่วน
ข้าวโพด กล้วยและขมนิ้ เป็นพชื ใบเลีย้ งเดย่ี วทง้ั หมด มีระบบรากฝอย
จุดประสงคท์ ่ี 3 บอกลกั ษณะวสิ ยั ของพืชได้
7. ข้อใดไม่ถกู ต้องเก่ียวกับลกั ษณะวสิ ยั ของพชื

ก. ไม้เถาเป็นพชื ท่มี ีเน้อื ไมห้ รอื ไมม่ ีเนอ้ื ไม้กไ็ ด้
ข. ไมล้ ม้ ลุกไม่มเี นอื้ ไม้ มอี ายุเพยี งปีเดียวเทา่ นั้น
ค. ไมร้ อเลือ้ ยเป็นไม้ที่มเี น้อื ไม้ แต่ไมส่ ามารถยนื ต้นได้เอง ตอ้ งเกาะยดึ กบั สิ่งท่อี ยใู่ กลเ้ คียง
ง. ไม้พมุ่ และไมต้ น้ ต่างมีเนือ้ ไม้ แต่ไม้พุ่มไมม่ ลี ำตน้ หลกั ส่วนไมต้ ้นมลี ำต้นหลักเพียงตน้ เดียว
คำอธบิ าย : ไมล้ ้มลุกบางชนดิ มเี น้อื ไมเ้ ลก็ น้อยและมอี ายุไดห้ ลายปี เช่น มะละกอ

48

8. พืชในข้อใดท่ีมลี กั ษณะวสิ ัยเช่นเดียวกบั พชื ในภาพทกี่ ำหนดให้

ก. ฟักทอง ตะไคร้ มะนาว
ข. ขมิ้น มะละกอ เผอื ก
ค. กระเพรา ถั่วฝักยาว มะเขอื
ง. ผกั บงุ้ พริกไทย กระเทียม
คำอธิบาย : โหระพาเป็นไมล้ ้มลุก เช่นเดยี วกบั ขม้นิ มะละกอ และเผอื กทเ่ี ป็นไมล้ ้มลกุ ทง้ั หมด
ส่วนข้อ ก. มะนาวเปน็ ไม้ต้น ขอ้ ค. ถว่ั ฝักยาวเปน็ ไม้เลอ้ื ย ข้อ ง. พรกิ ไทยเปน็ ไม้เลือ้ ย

49

จุดประสงคท์ ่ี 4 สำรวจรากและลำต้น วิเคราะห์และอธิบายโครงสร้างภายนอกของรากและ
ลำต้นของพืชตัวอย่างได้
9. นกั เรยี นคนใดบรรยายลักษณะรากและลำต้นของพชื ในภาพได้ถูกต้องทสี่ ดุ

ก. ไม้ล้มลุก ระบบรากแก้ว สีน้ำตาลปนเขียว รากพเิ ศษชนดิ รากสังเคราะหด์ ้วยแสง
ลำตน้ เหนอื ดิน ไมม่ ีเนื้อไม้ สีเขยี ว ลำต้นพเิ ศษชนดิ ลำต้นสงั เคราะห์ดว้ ยแสง

ข. ไม้ล้มลุก ระบบรากฝอย สนี ำ้ ตาลปนเขยี ว รากพิเศษชนิดรากเกาะ
ลำตน้ เหนือดิน มีเนื้อไม้ สเี ขียว ลำต้นพิเศษชนิดลำต้นสังเคราะหด์ ้วยแสง

ค. ไมเ้ ถา ระบบรากแก้ว สนี ้ำตาลปนเขียว รากพเิ ศษชนิดรากสังเคราะห์ดว้ ยแสง
ลำตน้ เหนอื ดิน มีเนอื้ ไม้ สเี ขยี ว ลำตน้ พเิ ศษชนิดลำตน้ เก่ยี วพนั

ง. ไม้เถา ระบบรากฝอย สนี ้ำตาลปนเขยี ว รากพเิ ศษชนิดรากเกาะ
ลำตน้ เหนอื ดนิ ไมม่ ีเน้ือไม้ สีเขยี ว ลำต้นพเิ ศษชนดิ ลำตน้ สงั เคราะห์ด้วยแสง

คำอธบิ าย : ต้นแก้วมงั กรเป็นพชื ใบเล้ียงเดี่ยว ไมเ้ ลื้อย มีรากฝอย เปน็ รากเกาะ ลำตน้ เหนอื
ดนิ ไมม่ ีเนอ้ื ไม้ มสี เี ขียวทำหนา้ ท่ีสังเคราะห์ดว้ ยแสง


Click to View FlipBook Version