หน่วยท่ี 4 หนูทำได้ ชน้ั อนุบำลปีที่ 1 – 3 ภำคเรยี นที่ 1
โรงเรียนประชำสำมคั คี สำนกั งำนเขตพืน้ ท่ีกำรศกึ ษำประถมศึกษำสุรินทร์เขต ๓
รำยกำร อนุบำลปีท่ี 1 อนุบำลปที ี่ 2 อนบุ ำลปที ่ี 3
สำระทค่ี วรเรียนรู้ 1. การระวงั รกั ษาความสะอาดของรา่ งกาย 1. ระวงั รกั ษาความสะอาดของร่างกายและ 1. วธิ รี ะวงั รกั ษารา่ งกายใหส้ ะอาดมีสุขอนามัยทด่ี ี
2. การชว่ ยเหลอื ตัวเองในกจิ วตั ร การมสี ุขอนามัยที่ดี 2. การชว่ ยเหลอื ตนเองในกิจวัตรประจาวัน
มำตรฐำน ประจาวัน 2. การช่วยเหลอื ตนเองในกจิ วตั รประจาวัน - การแตง่ กาย
ตวั บ่งชี้ - การล้างมอื - การล้างมือ - การล้างมอื ทถี่ ูกวธิ ี
สภำพท่ีพงึ ประสงค์ - การแปรงฟัน - การแตง่ กาย - การรับประทานอาหาร
- การรับประทานอาหาร - การรบั ประทานอาหาร - การใชห้ ้องนาหอ้ งสว้ ม
- การใช้หอ้ งนา หอ้ งส้วม - การใชห้ อ้ งนาห้องสว้ ม - การเกบ็ ของใชส้ ว่ นตวั
- การเก็บของใชส้ ว่ นตวั - การปูและเก็บเครือ่ งนอน
- การปแู ละเกบ็ เครอื่ งนอน
มฐ 1 ตบช 1.2 (1.2.2) มฐ 1 ตบช 1.2 (1.2.2) มฐ 1 ตบช 1.2 (1.2.2)
มฐ 1 ตบช ๑.๓ (๑.๓.๑) มฐ 1 ตบช 1.3 (1.3.1) มฐ 1 ตบช 1.3 (1.3.1)
มฐ 2 ตบช 2.1 (2.1.1) มฐ 2 ตบช 2.1 (2.1.1) มฐ 2 ตบช 2.1 (2.1.๑)
มฐ 1 ตบช 2.2 (2.2.2) มฐ 1 ตบช 2.2 (2.2.๒) มฐ 1 ตบช 2.2 (2.2.๒)
มฐ 4 ตบช 4.1 (4.1.1) มฐ 4 ตบช 4.1 (4.1.1) มฐ 4 ตบช 4.1 (4.1.๓)
มฐ 6 ตบช ๖.๑ (6.1.2) (6.1.3) มฐ 6 ตบช 6.1 (6.1.1) (6.1.3) มฐ 6 ตบช 6.1 (6.1.1) (6.1.2) (6.1.3)
มฐ 9 ตบช 9.1 (9.1.1) มฐ 9 ตบช 9.1 (9.1.1) มฐ 1 ตบช 6.๒ (6.๒.1)
มฐ 1 ตบช 9.2 (9.2.1) มฐ 1 ตบช 9.2 (9.2.1) มฐ 9 ตบช 9.1 (9.1.1)
มฐ 10 ตบช 10.1 (10.1.1) มฐ 10 ตบช 10.1 (10.1.2) มฐ 1 ตบช 9.2 (9.2.1)
มฐ 10 ตบช 10.1 (10.1.2)
รำยกำร อนบุ ำลปที ี่ 1 อนบุ ำลปีที่ 2 อนุบำลปที ี่ 3
ประสบกำรณ์สำคญั ร่ำงกำย ร่ำงกำย ร่ำงกำย
1.1.1 (2) การเคลอื่ นไหว เคลื่อนท่ี
1.1.1 (2) การเคลอื่ นไหว เคลื่อนท่ี 1.1.1 (2) การเคล่อื นไหวเคลอื่ นท่ี 1.1.1 (3) การเคล่ือนไหวรา่ งกายพรอ้ มอุปกรณ์
1.1.1 (2) การเขยี นภาพ
๑.๑.๒ (2) การเขยี นภาพ 1.1.1 (๓) การเคล่ือนไหวรา่ งกายพร้อม 1.1.1 (3) การปน้ั
1.1.3 (1) การปฏบิ ตั ติ นตามสุขอนามยั สขุ นิสัย
๑.๑.๒ (3) การปัน้ 1.1.1 อุปกรณ์ 1.1.1 ทด่ี ีในกิจวัตรประจาวัน
1.1.4 (3) การเล่นเครื่องเลน่ อยา่ งปลอดภยั
1.1.3 (1) การปฏิบัติตามสุขอนามัยสุขนิสัยที่ดีใน ๑.๑.๒ (2) การเขยี นภาพ อำรมณ์
1.2.4 (3) การเคล่ือนไหวตามเสยี งเพลง/ดนตรี
๑.๑.๒ กิจวตั รประจาวัน 1.1.1 (3) การปั้น สงั คม
1.3.1 (1) การชว่ ยเหลือตนเองในกิจวัตร
1.1.๔ (๓) การเลน่ เครื่องเล่นอย่างปลอดภัย 1.1.3 (1) การปฏบิ ัติตนตามสุขอนามัย 1.1.1 ประจาวัน
1.3.๔ (๓) การรว่ มมือในการปฏิบัติกจิ กรรมต่างๆ
อำรมณ์ สขุ นสิ ยั ที่ดใี นกจิ วัตรประจาวนั สตปิ ัญญำ
1.4.1 (2) การฟังและปฏิบตั ิตามคาแนะนา
1.2.4 (๕) การทางานศิลปะ 1.1.๔ (๓) การเล่นเครื่องเล่นอยา่ งปลอดภัย 1.1.1 (3) การฟังเพลง นิทาน คาคล้องจอง
1.1.1 (4) การพูดแสดงความคดิ เหน็ ความร้สู ึก
สังคม 1.1.๕ (๕) การเคล่ือนไหวโดยควบคุมตนเอง 1.1.1 และความต้องการ
1.1.1 (๙) การพูดเรยี งลาดบั คาเพ่ือใช้ในการ
1.3.1 (1) การชว่ ยเหลือตนเองในกจิ วัตรประจาวัน ไปในทิศทาง ระดบั และพืนที่ 1.1.1 ส่อื สาร
สตปิ ญั ญำ อำรมณ์
1.4.1 (2) การฟังและปฏบิ ตั ิตามคาแนะนา 1.2.4 (๕) การทางานศิลปะ
๑.๑.๒ (3) การฟงั เพลงนทิ าน สงั คม
๑.๑.๒ (4) การพูดแสดงความคดิ ความรู้สกึ และ 1.3.1 (1) การช่วยเหลอื ตนเองในกจิ วัตร
๑.๑ .๒ ความต้องการ ประจาวนั
๑.๑.๒ (10) การอา่ นหนงั สือภาพ นทิ าน สติปัญญำ
1.4.1 (2) การฟังและปฏบิ ตั ิตามคาแนะนา
(3) การฟงั เพลง นทิ าน คาคลอ้ งจอง
(4) การพูดแสดงความคดิ เห็น
ความร้สู กึ และความตอ้ งการ
รำยกำร อนบุ ำลปีที่ 1 อนบุ ำลปีท่ี 2 อนบุ ำลปที ี่ 3
1.4.2 (1) การสังเกตลักษณะของสง่ิ ตา่ งๆ โดยใช้ (10) การอา่ นหนงั สอื ภาพ นิทาน (10) การอา่ นหนงั สอื ภาพ นทิ าน
ประสาทสมั ผัสอย่างเหมาะสม 1.4.2 (1) การสงั เกตลกั ษณะของสิง่ ต่างๆ (๑๒) การเหน็ แบบอยา่ งการอ่านทถี่ ูกตอ้ ง
(๑๙) การเห็นแบบอย่างของการเขยี นท่ี
โดยใช้ประสาทสัมผสั อย่าง
เหมาะสม ถูกต้อง
1.4.2 (๘) การนับและแสดงจานวนสิง่ ของตา่ งๆ
ในชวี ิตประจาวนั
(13) การจบั คู่ การเปรียบเทยี บ
ความเหมือนความตา่ ง
คณิตศำสตร์ 1. การนบั ปากเปล่า 1 – 5 1. การนับปากเปลา่ 1 – 10 1. การนับปากเปล่า 1 – 20
2. จบั คขู่ องจรงิ ท่เี หมอื นกนั 2. การนับและแสดงจานวน 2 2. การนับและแสดงจานวน 1 – 5
(สิง่ ของรอบตวั เดก็ ) 3. จับคู่ เปรียบเทียบของจริงและภาพ 3. จบั คูเ่ ปรียบเทยี บภาพส่ิงของต่างๆรอบตัวเด็ก
สง่ิ ของที่เกี่ยวข้องกับตัวเดก็
วทิ ยำศำสตร์ - ทักษะการสงั เกต - ทักษะการสงั เกต
(ประสาทสมั ผัสทงั 5) - ทกั ษะการสังเกต (ประสาทสมั ผสั ทงั 5)
พั ฒ น ำ ก ำ ร ท ำ งภ ำ ษ ำ (ประสาทสมั ผสั ทัง 5) 1. การฟังและปฏิบตั ิตามคาแนะนา
และกำรรูห้ นังสือ 1. การฟังและปฏิบตั ิตามคาแนะนา 2. การคาดคะเน เร่อื งจากปกหนงั สอื
2. การฟังเพลง นิทาน คาคลอ้ งจอง 1. การฟงั และปฏบิ ตั ิตามคาแนะนา 3. การเหน็ แบบอยา่ งการอา่ นทถี่ ูกต้อง
3. การอ่านหนงั สือภาพ 2. การอา่ นหนังสอื ภาพ นิทาน 4. การรอจังหวะท่ีเหมาะสมในการพดู
3. การเห็นแบบอยา่ งการอ่านที่ถูกต้อง 5. รจู้ ักส่วนประกอบหนังสอื ปกหน้า ปกใน
4. การรอจงั หวะทเี่ หมาะสมในการพูด ช่อื ผู้แตง่ ผูว้ าด เนอื เรอื่ ง
5. ร้จู กั ส่วนประกอบหนงั สือ ปกหน้า ปกใน 6. การตงั คาถามในเรื่องทส่ี นใจ
ชือ่ ผ้แู ตง่ ผ้วู าดภาพ เนอื เรอ่ื ง 7. การเห็นแบบอย่างการเขยี นทถ่ี ูกต้อง
6. การเห็นแบบอยา่ งการเขียนทถ่ี ูกตอ้ ง
หนว่ ยกำรจดั ประสบกำรณท์ ี่ ๔ หนทู ำได้ ช้นั อนบุ ำลปีที่ ๓
โรงเรยี นประชำสำมัคคี สำนักงำนเขตพ้นื ทีก่ ำรศกึ ษำประถมศึกษำสุรนิ ทร์เขต ๓
แนวคิด
ฉนั ดแู ลตัวเองและทากิจวตั รประจาวันงา่ ย ๆ ได้ เช่น แปรงฟัน แต่งตัว ลา้ งมือ รบั ประทานอาหาร ใชห้ ้องนาห้องสว้ มอยา่ งถูกวิธี ปูและเก็บ
เคร่ืองนอนด้วยตนเอง ฉันภาคภูมใิ จทสี่ ามารถดแู ลตนเองได้
มำตรฐำนหลักสตู รปฐมวัย สภำพทพ่ี งึ ประสงค์ จดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้ สำระกำรเรยี นรู้
มำตรฐำน ตวั บง่ ช้ี ประสบกำรสำคญั สำระท่ีควรเรยี นรู้
มาตรฐานท่ี 1 ร่างกาย 1.2 สขุ ภาพอนามัย 1.2.2 ล้างมือกอ่ น 1. ล้างมอื กอ่ น 1.1.3 การรกั ษาสุขภาพ เรื่องราวเก่ียวกับตัวเดก็
เจรญิ เตบิ โตตามวยั และ สุขนสิ ัยที่ดี 1. วธิ รี ะวงั รักษารา่ งกายให้
มสี ขุ รับประทานอาหาร รบั ประทานอาหาร อนามัยส่วนตน สะอาดมีสุขอนามยั ทด่ี ี
นสิ ัยทด่ี ี 1.3 รักษาความ - การล้างมือถกู วธิ ี
ปลอดภยั ของตนเองและ และ และหลังจากใช้ (1) การปฏิบตั ติ นตาม 2. การช่วยเหลอื ตนเองใน
ผ้อู ่นื กจิ วัตรประจาวนั
หลังจากใช้ห้องนา ห้องนาห้องสว้ มด้วย สขุ อนามัย สุขนิสยั ท่ีดีใน -การแตง่ ตัว
- การรับประทานอาหาร
หอ้ งส้วมดว้ ยตนเอง ตนเองได้ กจิ วตั รประจาวนั - การใช้ห้องนาหอ้ งสว้ ม
- การเก็บของใช้ส่วนตัว
2.เล่นและทากจิ กรรม 1.1.๔ การรกั ษาความ - การปูและเกบ็ เคร่อื งนอน
1.3.1เลน่ และทา อยา่ งปลอดภัยด้วย ปลอดภยั
กิ จ ก ร ร ม อ ย่ า ง ตนเองได้ (๓) การเล่นเครื่องเล่นอย่าง
ปลอดภยั ปลอดภัย
ดว้ ยตนเอง 1.2.2 การเล่น
(3) การเล่นตามมมุ
ประสบการณ์
มำตรฐำนหลกั สูตรปฐมวัย สำระกำรเรียนรู้
ตวั บง่ ชี้ สภำพทพี่ งึ ประสงค์ จดุ ประสงค์กำรเรียนรู้
มำตรฐำน ประสบกำรสำคัญ สำระที่ควรเรียนรู้
ม า ต ร ฐ า น ที่ 2 ๒.๑ เคลื่อนไหวรา่ งกาย 2.1.1 เดนิ ต่อเทา้ ไป 3. เดนิ ต่อเทา้ ไป 1.1.1การใช้กลา้ มเนอื ใหญ่
ก ล้ าม เนื อ ให ญ่ แ ล ะ อยา่ งคลอ่ งแคลว่ ข้างหน้าเป็นเส้นตรง ข้างหน้าเป็นเส้นตรง (2)การเคลื่อนไหวเคลื่อนท่ี
กล้ามเนือเล็กแข็งแรง ประสานสมั พันธแ์ ละ ไดโ้ ดยไมต่ ้องกางแขน ได้ (3) การเคลื่อนไหวพร้อม
ใช้ได้คล่องแคล่วและ ทรงตวั ได้ โดยไม่ตอ้ งกางแขน วัสดอุ ุปกรณ์
ประสานสัมพันธก์ นั 1.1.5 การตระหนักรู้
เกย่ี วกบั ร่างกายตนเอง
2.2. ใช้มือและตา 2 .2 .๒ เขี ย น รู ป 4. เขียนรูปสเ่ี หลี่ยมได้ (1) การเคล่ือนไหวโดย
ประสานสัมพนั ธ์ สี่เหลี่ยม อยา่ งมมี มุ ชัดเจน ควบคมุ ตนเองไปในทิศทาง
ตามแบบไดอ้ ยา่ งมมี ุม ระดับและพนื ที่
ชัดเจน
1.1.2 การใช้กล้ามเนอื เล็ก
มาตรฐานท่ี 4 ชน่ื ชม 4.1 สนใจมคี วามสุข ๔ . ๑ . ๓ ส น ใ จ มี 5. สนใจมีความสุข (2) การเขยี นภาพและ
และแสดงออกทาง และ ความสุขและแสดง และ การเลน่ กบั สี
ศลิ ปะดนตรแี ละการ แสดงออกผ่านงานศิลปะ ท่าทาง/เคลื่อนไหว แสดงท่าทาง (3) การปนั้
เคลอ่ื นไหว ดนตรแี ละการ ประกอบเพลงจังหวะ เคลอ่ื นไหวประกอบ (5) การฉีก การตัด การปะ
เคลื่อนไหว และดนตรี เพลงจงั หวะและดนตรี
1.2.๔ การแสดงออกทาง
อารมณ์
(๓) การเคล่ือนไหวตาม
เสียงเพลง/ดนตรี
มำตรฐำนหลักสูตรปฐมวัย จุดประสงค์กำรเรียนรู้ สำระกำรเรยี นรู้
มำตรฐำน ตวั บง่ ช้ี สภำพท่พี ึงประสงค์ ๖.แต่งตวั ดว้ ยตนเอง ประสบกำรสำคัญ สำระท่คี วรเรยี นรู้
ได้
มำตรฐำนที่ 6 มีทักษะ 6.1 ชว่ ยเหลอื ตนเองใน ๖.๑.๑ แต่งตวั ดว้ ย ๗. รับประทาน 1.3.1 การปฏิบตั กิ ิจวตั ร
อาหารดว้ ยตนเองได้ ประจาวัน
ชวี ิต การปฏิบัตกิ จิ วตั ตนเอง ๘. ใชห้ ้องนาหอ้ งสว้ ม (1) การชว่ ยเหลอื ตนเองใน
ดว้ ยตนเองได้ กจิ วตั รประจาวัน
และปฏิบัตติ นตามหลกั ประจาวัน 6.1.2 รับประทาน
๙. ฟงั ผู้อ่นื พดู จนจบ
ปรัชญาของเศรษฐกิจ อาหารดว้ ยตนเอง และสนทนาโต้ตอบ
สอดคล้องกับเร่ืองที่
พอเพยี ง 6.1.3. ใชห้ อ้ งนาห้อง ฟังได้
ส้วมด้วยตนเอง 1.4.1 การใช้ภาษา
(๓) การฟังนทิ าน
9.1 สนทนาโต้ตอบและ (๔) การพูดแสดงความคิด
ความรสู้ ึกและความต้องการ
เลา่ เรือ่ งใหผ้ อู้ น่ื เข้าใจ 9.1.1 ฟงั ผู้อื่นพูดจน (5) การพูดกบั ผู้อ่ืนเก่ียวกบั
ประสบการณ์ของตนเอง หรือ
จบ พดู เล่าเรื่องราวเกีย่ วกบั ตนเอง
และสนทนาโตต้ อบ
สอดคลอ้ งกับเรื่องที่
ฟงั
มำตรฐำนที่ 9 9.2 อ่านเขยี นภาพและ 9.2.1 อ่านภาพ ๑0. อ่านภาพ (10) การอา่ นหนังสอื ภาพ
สัญลักษณ์ คา พร้อม สัญลักษณ์ คา พรอ้ ม นิทาน
ใช้ ภ า ษ า ส่ื อ ส า ร ได้ สัญลกั ษณ์ได้ ทงั ชีหรือกวาดตามอง ทงั ชหี รือกวาดตามอง (12) การเห็นแบบอย่างของ
ข้อความตามบรรทัด ข้อความตามบรรทัด การอา่ นทถ่ี ูกต้อง
เหมาะสมกบั วยั ได้
มำตรฐำนหลักสตู รปฐมวัย สำระกำรเรยี นรู้
ตวั บ่งชี้ สภำพทพี่ งึ ประสงค์ จดุ ประสงคก์ ำรเรยี นรู้
มำตรฐำน ประสบกำรสำคญั สำระท่คี วรเรยี นรู้
มาตรฐานที่ 10 มี 10.1 มคี วามสามารถใน 10.1.1 บอกลกั ษณะ 1๑.จบั คภู่ าพเหมือน 1.4.2 การคดิ รวบยอด การคิด
เชงิ เหตุผล การตดั สนิ ใจและ
ความสามารถในการคิด การคดิ รวบยอด ส่วนประกอบการ ได้ แก้ปัญหา
(13) การจับคู่ การเปรียบเทียบ
ที่ เป็ น พื น ฐ า น ใ น ก า ร เปลี่ยนแปลง หรอื สิง่ ตา่ ง ๆ ตามลักษณะกายภาพ
(8) การนับและแสดงจานวน
เรียนรู้ ความสมั พันธข์ อง ของส่ิงตา่ ง ๆ ในชีวิตประจาวัน
ส่งิ ต่าง ๆจากการ
สังเกตโดยใช้ประสาท
สมั ผัสทังห้า
กำรวำงแผนกจิ กรรมรำยหน่วยกำรจดั ประสบกำรณ์
หน่วยท่ี 4 หนทู ำได้ ช้ันอนบุ ำลปีท่ี ๓
โรงเรียนประชำสำมัคคี สำนักงำนเขตพน้ื ท่ีกำรศกึ ษำประถมศกึ ษำสุรินทร์เขต ๓
วันท่ี เคลอ่ื นไหวและจังหวะ กิจกรรม
1 การเคลื่อนไหวตามบท เสรมิ ประสบกำรณ์ ศิลปะสร้ำงสรรค์ กำรเลน่ ตำมมมุ กำรเล่นกลำงแจ้ง เกมกำรศึกษำ
เพลง“ต่ืนเชา้ ” การเล่นนา
1. พัฒนำกำรทำงภำษำ 1. การเขียนรูปสีเ่ หลี่ยม มุมประสบการณ์ เกมจบั คู่ภาพเหมือนกบั
และกำรรหู้ นงั สือ 2. ปั้นดินนามันอิสระ อย่างน้อย ๔ มมุ โครงรา่ งเส้นประอุปกรณ์
1.1 การอา่ นรว่ มกนั จาก สาหรับล้างมือ
หนงั สือเรอ่ื งหนูทาได้
1.2 การคาดคะเนชื่อ
เรือ่ งจากปก
2. การลา้ งมอื
2 การเคลอ่ื นไหวพรอ้ ม 1. พัฒนำกำรทำงภำษำ 1.พิมพภ์ าพด้วยวัสดทุ ่ี มุมประสบการณ์ การเลน่ ทราย เกมจบั คภู่ าพทสี่ มั พนั ธก์ ัน
อุปกรณ์ “ผา้ เชด็ หนา้ ” และกำรรู้หนงั สอื เป็นรปู สเี่ หล่ียม อย่างน้อย ๔ มุม
1.1 การอา่ นร่วมกันจาก 2.ขดดนิ นามนั เปน็ รปู
หนังสอื เรื่องหนูทาได้ ส่เี หลี่ยม
1.2 สว่ นประกอบของ
หนังสอื
2. การแตง่ ตวั
วนั ที่ เคล่อื นไหวและจงั หวะ กจิ กรรม
เสรมิ ประสบกำรณ์ ศลิ ปะสรำ้ งสรรค์ กำรเล่นตำมมุม กำรเลน่ กลำงแจ้ง เกมกำรศกึ ษำ
3 การเคล่อื นไหวเคลื่อนท่ี 1. พัฒนำกำรทำงภำษำ 1.เขียนภาพรอบวัสดุท่ี มมุ ประสบการณ์ การเดินต่อเทา้ ไป เกมจบั คู่ภาพเหมือน
ไปในทิศทางระดับและ และกำรรู้หนังสอื เปน็ รูปสเี่ หล่ยี มแลว้ อย่างน้อย ๔ มมุ ข้างหนา้ เป็นเสน้ ตรง อุปกรณ์ในการรับประทาน
พืนที่ 1.1 การอา่ นร่วมกนั จาก ตกแต่งให้สวยงาม อาหาร
หนังสอื เร่ืองหนูทาได้ ๒.ปั้นดินนามนั อยา่ ง
1.2 เตมิ คาด้วยปากเปล่า อิสระ
2. การรับประทานอาหาร
๔ การเคลือ่ นไหวตาม 1. พัฒนำกำรทำงภำษำ 1.ฉกี กระดาษสีเป็นรูป มมุ ประสบการณ์ การเลน่ เครอ่ื งเล่นสนาม เกมจบั คภู่ าพเหมือนของใช้
จินตนาการ และกำรรู้หนังสอื ส่เี หล่ยี ม อยา่ งน้อย ๔ มมุ ในหอ้ งนา
1.1 การอ่านรว่ มกันจาก 2. ปนั้ ดนิ นามันอยา่ ง
หนงั สอื เร่ืองหนูทาได้ อสิ ระ
1.2 ทายคาท่ีปิดไว้
2.การใช้ห้องนาหอ้ งสว้ ม
๕ การเคลอ่ื นไหวท่าทาง 1. พัฒนำกำรทำงภำษำ 1 การฉีก ตัด ปะภาพ มุมประสบการณ์ การเลน่ เครือ่ งเลน่ สนาม เกมจบั คู่ภาพจานวน 1 – 2
เปน็ ผู้นา-ผู้ตาม และกำรรหู้ นงั สอื เครือ่ งนอนเปน็ รูป อย่างน้อย ๔ มมุ
1.1 การอา่ นรว่ มกันจาก สเ่ี หลย่ี ม
หนังสือเรอ่ื งหนูทาได้ 2.การพับสนี า
1.2 อาสาสมคั รผลัดกัน
อา่ นนา
2.การปแู ละเกบ็ เครื่องนอน
ผงั ควำมคิดแผนกำรจัดประสบกำรณห์ น่วยหนูทำได้ ชน้ั อนบุ ำลปที ่ี 2
1. กจิ กรรมเคล่ือนไหวและจังหวะ ๒. กจิ กรรมเสรมิ ประสบกำรณ์ ๓. กิจกรรมศิลปะสร้ำงสรรค์
๑. การเคลื่อนไหวตามบทเพลง “ตนื่ เช้า” ๑. การล้างมอื
๒. การเคลอื่ นไหวพร้อมอปุ กรณ์ ๒. การแตง่ ตัว ๑. การเขียนรูปส่ีเหล่ยี ม
“ผา้ เชด็ หน้า” ๓. การรบั ประทานอาหาร -ปั้นดนิ นามันอสิ ระ
๓. การเคลอ่ื นไหวทา่ ทางตามขอ้ ตกลง ๔. การใชห้ อ้ งนา หอ้ งสว้ ม ๒. พิมพ์ภาพวสั ดุทเี่ ป็นรปู สี่เหลย่ี ม
๔. การเคลื่อนไหวตามจนิ ตนาการ ๕. การปูและเกบ็ เครอื่ งนอน การเกบ็ ของใชส้ ว่ นตัว -ขดดินนามันเปน็ รปู ส่ีเหลี่ยม
๕. การเคล่ือนไหวท่าทาง เป็นผู้นา ผูต้ าม ๓. เขยี นภาพวัสดุท่เี ปน็ รูปสเ่ี หลี่ยม
หนว่ ย - ปั้นดินนามันอสิ ระ
๔. กจิ กรรมเล่นตำมมุม หนทู ำได้ ๔. ฉีกกระดาษสีเป็นรูปสี่เหลีย่ ม
การเล่นตามมุมประสบการณ์ - ปั้นดินนามนั อิสระ
๕. การฉีก ตดั ปะ เครื่องนอนเป็นรูป
สเี่ หล่ียม
- การระบายสีอสิ ระ
๕. กิจกรรมกำรเลน่ กลำงแจ้ง ๖. กจิ กรรมเกมกำรศึกษำ
๑. การเลน่ นา ๑. จับคูภ่ าพเหมอื นอปุ กรณ์ในการล้างมือ
๒. การเลน่ ทราย ๒. จับคภู่ าพทีส่ ัมพันธ์กัน
๓. การเดินตอ่ เทา้ ไปข้างหน้าเป็น ๓. เกมจับคู่ภาพเหมือนอุปกรณใ์ นการรับประทานอาหาร
เส้นตรง ๔. เกมจบั คภู่ าพเหมือนของใชใ้ นหอ้ งนา
๔. การเล่นเคร่ืองเลน่ สนาม 5. เกมจับคภู่ าพจานวน 1-2 กับบตั รเลข
๕. การเล่นเคร่ืองเลน่ สนาม
แผนกำรจดั ประสบกำรณร์ ำยวนั วันที่ 1 หนว่ ยท่ี ๔ หนูทำได้ ชน้ั อนบุ ำลปที ี่ 2
โรงเรียนประชำสำมคั คี สำนักงำนเขตพื้นทกี่ ำรศกึ ษำประถมศึกษำสุรนิ ทร์เขต ๓
จุดประสงค์ สำระกำรเรยี นรู้ กิจกรรมกำรเรยี นรู้ ส่อื กำรประเมิน
พฒั นำกำร
กำรเรยี นรู้ ประสบกำรณ์สำคัญ สำระทีค่ วรเรียนรู้
สงั เกต
กิจกรรมเคลื่อนไหว (๓) การเคลอื่ นไหว 1. แนะนาเพลงตื่นเชา้ โดยรอ้ งให้เด็กฟงั 1 รอบ เพลงตนื่ เช้า ความสนใจมีความสุข
แล้วใหเ้ ด็กรอ้ งตามทลี ะวรรค จนจบเพลง และแสดงออกผ่าน
และจงั หวะ ตามเสียงเพลง/ดนตรี ๒. เด็กร้องเพลงพรอ้ มครู การเคลือ่ นไหว
๓. เด็กทาท่าทางประกอบเพลงอย่างอิสระ
สนใจมีความสุข ๔. ใหเ้ ดก็ นัง่ ลงตบมอื ๑0 ครงั นับพรอ้ มกัน
๑ – ๑0
และแสดงออกผา่ น
งานศิลปะ ดนตรี
และการเคล่ือนไหว
กจิ กรรมเสรมิ (3) การฟังนิทาน 1. พัฒ นาการทาง 1.พฒั นาการทางภาษาและการรูห้ นงั สือ ๑. หนังสือเรื่องหนู สังเกต
ประสบกำรณ์ (4) การพูดแสดง
๑.ฟงั ผ้อู น่ื พดู จน ความคิด ความรสู้ กึ ภาษา 1.1นาหนงั สอื เร่ือง หนทู าได้ มาใหเ้ ดก็ ดหู น้าปก ทาได้ 1.การฟงั ผอู้ ืน่ พดู จนจบ
จบและสนทนา และความตอ้ งการ
โตต้ อบสอดคล้อง (5) การพูดกบั ผ้อู ืน่ และการร้หู นงั สอื 1.2 ใหเ้ ด็กคาดคะเนเรอื่ งจากปกว่าเป็นเรื่อง ๒. อ่างล้างมือ ๒ ใบ และสนทนาโตต้ อบ
กับเรื่องที่ฟงั ได้ เกย่ี วกับประสบการณ์
๒.ล้างมือก่อน ของตนเองหรือพดู เลา่ 2 . วิ ธี ระ วั งรั ก ษ า เกี่ยวกบั อะไร ใส่นาเปล่า ๑ ใบ ใส่ สอดคลอ้ งกบั เร่อื งทฟ่ี งั
รบั ประทานอาหาร เรือ่ งราวเก่ยี วกับ
และหลงั จากใช้ ตนเอง ร่างกายให้สะอาดมี 1.3.จดบนั ทกึ ชอื่ เด็ก พร้อมข้อความท่ีเดก็ นาสบู่ ๑ ใบ ๒.การล้างมือกอ่ น
หอ้ งนาห้องส้วม (10) การอ่านหนงั สือ
ด้วยตนเองได้ ภาพ นทิ าน สุขอนามัยทดี ี คาดคะเน รับประทานอาหารและ
- การล้างมือถูกวธิ ี 1.4. ครูอา่ นหนังสือเร่ืองหนูทาได้จนจบ โดยชคี า หลังจากใช้ห้องนาหอ้ ง
ตรงกับเสียงอา่ น สว้ มดว้ ยตนเอง
1.5 ครอู า่ นข้อความทเ่ี ด็กคาดคะเนไวแ้ ละถาม (ดกู ารปฏบิ ตั ิของเดก็
ความเห็นเรอ่ื งชอื่ ของนิทานอกี ครังหน่ึง ตลอดป)ี
1.6 ครอู า่ นชื่อเรือ่ งนิทานให้เดก็ ฟงั และให้เดก็
อา่ นตาม
2.สนทนาเกีย่ วกบั เรื่องท่ีอ่านโดยใชค้ าถามดังนี
จุดประสงค์ สำระกำรเรียนรู้ กิจกรรมกำรเรียนรู้ ส่ือ กำรประเมิน
กำรเรียนรู้ พัฒนำกำร
ประสบกำรณ์สำคัญ สำระท่คี วรเรียนรู้ เดก็ ๆ ทาอะไรเองไดบ้ า้ ง
กิจกรรมศิลปะ - เดก็ ๆ ลองบอกวิธีลา้ งมือให้สะอาดวา่ จะต้องทา
สรำ้ งสรรค์ ( 1 2 ) ก า ร เ ห็ น อย่างไร แล้วรไู้ ดอ้ ย่างไรว่าสะอาด
เขียนรปู สเ่ี หลี่ยมได้ แบบอย่างของการอ่าน 3. ครูสาธิตวธิ ลี า้ งมือที่ถกู ต้องใหเ้ ดก็ ดู แลว้ ให้เด็ก
อยา่ งมมี มุ ชัดเจน ที่ถกู ตอ้ ง ฝกึ ปฏบิ ตั ิ
(1) การปฏบิ ตั ิตน 4. อาสาสมคั ร ๒คนคนแรกลา้ งมือในอา่ งนาเปล่า
ตามสุขอนามัย สุขนิสัย คนที่สอง ล้างมือในอ่างนาสบู่ก่อนทจ่ี ะล้างนาเปลา่
ทีด่ ีในกิจวัตร ใหเ้ พอ่ื นๆ ชว่ ยกันตรวจสอบวา่ มือของใครสะอาด
ประจาวัน กวา่ กนั เพราะเหตใุ ด
5. เด็กและครรู ว่ มกันสรปุ การล้างมือด้วยสบู่สะอาด
กว่าลา้ งดว้ ยนาเปลา่ ควรลา้ งมือก่อนรับประทาน
อาหารและหลงั จากใช้หอ้ งนาหอ้ งสว้ ม
(๒) การเขียนภาพ 1. ครสู าธติ การเขยี นภาพรอบวัสดุของเล่นของใช้ใน 1. สเี ทียน สงั เกต
และการเล่นกบั สี
(๓) การปัน้ หอ้ งเรยี นทเ่ี ปน็ รูปส่เี หล่ียมให้เด็กดู 2. กระดาษวาดภาพ การเขยี นรูปสีเ่ หล่ยี ม
(๕) การทากิจกรรม
ศลิ ปะต่าง ๆ 2. เดก็ ปฏิบัติกจิ กรรมการเขยี นภาพรอบวัสดุของ 3. วสั ดรุ ูปส่เี หล่ียม อย่างมีมมุ ชัดเจน
เลน่ ของใช้ทเ่ี ปน็ รปู สีเ่ หล่ียมแลว้ ระบายสอี ยา่ งอิสระ 4. ดินนามนั
3. เด็กป้ันดนิ นามันอิสระ ครูสอนวธิ ีเก็บดินนามัน 5 . ไม้ ร อ ง ป้ั น ดิ น
เม่อื เสรจ็ กจิ กรรม นามนั
4. เด็กทาทัง 2 กจิ กรรมทาเสรจ็ นาเสนอผลงาน
จุดประสงค์ สำระกำรเรียนรู้ กิจกรรมกำรเรียนรู้ สอ่ื กำรประเมิน
กำรเรยี นรู้ ประสบกำรณ์สำคัญ สำระทคี่ วรเรียนรู้ พัฒนำกำร
1. เด็กเลือกกจิ กรรมเลน่ ในมุมประสบการณต์ าม
กจิ กรรมเลน่ ตำมมุม (๓) การเลน่ ตามมุม ความสนใจ มุมประสบการณ์ในห้องควรมีอย่าง อุ ป ก ร ณ์ มุ ม สงั เกต
เล่นและทากิจกรรม นอ้ ย ๔ มมุ เชน่
อยา่ งปลอดภัยด้วย - มุมธรรมชาตศิ กึ ษา - มุมหนังสือ ประสบการณ์ การแลน่ และทากิจกรรม
ตนเองได้ - มุมบลอ็ ก - มมุ เกมการศกึ ษา
- มุมบทบาทสมมตุ ิ - มุมเครื่องเล่นสมั ผัส ในหอ้ งเรียน อยา่ งปลอดภัยด้วยตนเอง
2. เมอ่ื หมดเวลาเดก็ เกบ็ ของเข้าท่ใี หเ้ รียบร้อย
กจิ กรรมกลำงแจง้ (3) การเล่นเคร่อื ง 1. นาอปุ กรณส์ าหรบั เล่นนาไปพนื ทเี่ ลน่ นาเพื่อให้ 1. พนื ทเ่ี ล่นนา สังเกต
เลน่ อย่างปลอดภยั เลน่ อยา่ งปลอดภยั เด็กได้รูจ้ ักธรรมชาตขิ องนา การตวงวัด การเท 2. อุปกรณ์ เล่นนา การเล่นอย่างปลอดภัย
ด้วยตนเองได้ การตกั นา เช่นขวด กระป๋ อง ดว้ ยตนเอง
2. เลน่ เสร็จแล้วเก็บอุปกรณ์ทาความสะอาด กรวย เหยือก
อุปกรณ์ และทาความสะอาดตนเอง
เกมกำรศกึ ษำ (13) การจบั คู่ 1. แนะนาเกมจับคภู่ าพเหมือนกับโครงรา่ ง เกมจับคู่ภาพเหมือน สงั เกต
จับคภู่ าพเหมอื นกับ เส้นประอปุ กรณ์สาหรับล้างมอื เช่น สบู่ อ่างล้าง กับโครงร่างเส้นประ การจบั คภู่ าพเหมอื นกับ
โครงร่างเสน้ ประ มือ ผ้าเชด็ มือฯลฯ อุปกรณ์สาหรับล้าง โครงรา่ งเส้นประอปุ กรณ์
อุปกรณส์ าหรับลา้ ง 2. เดก็ เลน่ เกม และเก็บเกมเข้าทีห่ ลังเลกิ เลน่ มอื สาหรบั ลา้ งมอื
มอื ได้
แผนกำรจดั ประสบกำรณ์รำยวัน วันที่ 2 หนว่ ยที่ ๔ หนทู ำได้ ชัน้ อนบุ ำลปีที่ 2
โรงเรียนประชำสำมคั คี สำนักงำนเขตพน้ื ที่กำรศึกษำประถมศกึ ษำสรุ นิ ทร์เขต ๓
จุดประสงค์ สำระกำรเรียนรู้ กจิ กรรมกำรเรยี นรู้ ส่อื กำรประเมนิ
กำรเรียนรู้ ประสบกำรณ์สำคญั สำระทีค่ วรเรียนรู้ พฒั นำกำร
กิจกรรมเคลอื่ นไหว (๑) การเคล่ือนไหว ๑. เด็กหยิบผ้าเช็ดหน้าของตนมาคนละ ๑ ผืน แลว้ ให้เด็ก 1. เทปเพลง สงั เกต
และจังหวะ โดยควบคมุ ตนเองไป ทุกคนเคลื่อนที่ไปรอบ ๆ ห้อง เล่นกับผ้าเช็ดหน้าในกิริยา 2. ผ้าเชด็ หนา้ การเคลอื่ นไหว
สนใจมคี วามสขุ และ ในทิศทาง ระดบั และ ท่าทางต่าง ๆ กันตามจังหวะดนตรีโดยไม่ชนกัน เม่ือ
แสดงออกผ่านงาน พนื ท่ี ดนตรีหยุดให้โบก ผ้าเช็ดหน้าไปด้านหน้า และนับปาก
ศิลปะ ดนตรี และ เปล่า ๑ – ๑๐ ไปพรอ้ มกัน
การเคลื่อนไหว ๒. เดก็ ปฏิบตั กิ จิ กรรมในข้อ ๑ ซา อีก ๒ - ๓ ครัง
เสรมิ ประสบกำรณ์ (3) การฟังนิทาน 1. พัฒนาการทาง ๑.พัฒนาการทางภาษาและการรหู้ นงั สือ 1. หนังสือหนูทาได้ สังเกต
๑. ฟงั ผูอ้ ืน่ พดู จนจบ (4) การพดู แสดง
และสนทนาโตต้ อบ ความคิด ความรูส้ ึก ภ า ษ า แ ล ะ ก า ร รู้ 1.1.เด็กและครูอ่านหนังสือเร่ือง หนูทาได้ พร้อมกันจน 2. เสอื กระโปรง 1. การฟังผู้อ่ืนพูดจน
สอดคลอ้ งกบั เรือ่ งที่ และความตอ้ งการ
ฟงั ได้ (5)การพูดกบั ผูอ้ น่ื หนังสือ จบ 1 รอบ กางเกง ของเด็กแต่ จบและสนทนาโต้ตอบ
๒. แตง่ ตวั ดว้ ย เก่ียวกบั
ตนเองได้ ประสบการณ์ของ 2. การช่วยเหลือ 1.2 ครูแนะนาส่วนประกอบหนังสือทีละหน้าได้แก่ ปก ละคน สอดคล้องกับเร่ืองท่ี
ตนเอง หรอื พดู เล่า
เรือ่ งราวเกย่ี วกับ ต น เอ งใน กิ จ วัต ร หนา้ ปกใน ชื่อผ้แู ต่ง ผ้วู าดภาพ เนอื เรอื่ ง ฟงั
ตนเอง
(10)การอ่านหนงั สอื ประจาวนั 1.3 ครูชักชวนให้เด็กตังคาถามเก่ียวกับเร่ืองท่ีอ่านและ 2. การแต่งตัวด้วย
ภาพ นทิ าน
- การแตง่ ตัว เปดิ โอกาสใหเ้ พือ่ นในห้องช่วยกนั ตอบโดยใชค้ าถามดังนี ตนเอง
- ใครแตง่ ตัวเองได้บา้ ง ทาอย่างไรลองเลา่ ใหเ้ พอื่ น
ฟัง
2. เด็กนั่งเป็นรูปวงกลม ครูขอให้เด็กลองจับเสือ กางเกง
กระโปรงของเพอ่ื นทน่ี ัง่ ขา้ งกัน
จุดประสงค์ สำระกำรเรียนรู้ กิจกรรมกำรเรียนรู้ สื่อ กำรประเมิน
กำรเรยี นรู้ ประสบกำรณส์ ำคัญ สำระทคี่ วรเรียนรู้ พัฒนำกำร
(12) การเห็น เสือ กระโปรง กางเกง เหมือนกันหรือต่างกันหรือไม่
แบบอย่างของการ อย่างไร
อ่านท่ีถูกต้อง 3. เด็กแต่งตัวดว้ ยตนเองโดยเด็กผ้หู ญิงฝกึ รูดซปิ
(1) การชว่ ยเหลอื กระโปรงและตดิ ตะขอ (ไม่ตอ้ งถอดกระโปรง)
ตนเองในกจิ วัตร เดก็ ผชู้ ายฝกึ ติดกระดุมเสือนกั เรียน
ประจาวัน 4. เด็กและครูร่วมกันสรปุ ขนั ตอนในการแต่งตัว
คือ สวมเสือ สวมกระโปรงหรือกางเกง สวมถงุ เท้า
และสวมรองเทา้
กจิ กรรมศิลปะ (2) การเขียนภาพ 1. ครูแนะนาขนั ตอนในการพิมพ์ภาพดว้ ยวสั ดุที่ 1. สนี า สงั เกต
สร้ำงสรรค์ การเลน่ สี เปน็ รูปสเี่ หลย่ี มในห้องเรียน
ขดดนิ นามันเปน็ รปู (3) การปน้ั 2. เด็กปฏิบัติกจิ กรรมการพิมพภ์ าพดว้ ยวัสดุท่ี 2. กระดาษ การขดดินนามัน
สี่เหลี่ยมได้ เป็นรปู ส่เี หลย่ี มแลว้ นาไปผึ่งใหแ้ ห้ง เด็กนาภาพที่
แห้งแลว้ มาตกแตง่ ให้สวยงามตามความคิด 3 . ถ า ด ใ ส่ สี น า เปน็ รปู สเี่ หล่ียม
สร้างสรรคข์ องตนเอง
2. ปนั้ ดินนามันเปน็ เสน้ ยาวแลว้ ขดเป็นรปู สาหรับ
สเ่ี หลีย่ ม
3. เดก็ ทาทงั 2 กจิ กรรมเสรจ็ แลว้ นาเสนอผลงาน พมิ พภ์ าพ
4. ดนิ นามัน
5. ไม้รองปน้ั
จดุ ประสงค์ สำระกำรเรยี นรู้ กิจกรรมกำรเรยี นรู้ สือ่ กำรประเมิน
กำรเรยี นรู้ ประสบกำรณ์สำคญั สำระท่คี วรเรียนรู้ พฒั นำกำร
กจิ กรรมเล่นตำมมุม (๓) การเล่นตามมมุ 1. เด็กเลอื กกิจกรรมเล่นตามมุมประสบการณ์
เลน่ อย่างปลอดภยั ประสบการณ์ ตามความสนใจ มุมประสบการณ์ควรมีอย่างน้อย
ดว้ ยตนเองได้ 4 มุม เชน่
- มมุ ธรรมชาตศิ ึกษา - มมุ หนังสือ
กจิ กรรมกลำงแจ้ง - มมุ บล็อก - มมุ เกมการศึกษา
เล่นอย่างปลอดภยั - มมุ บทบาทสมมติ - มุมเครอ่ื งเล่นสัมผัส
ดว้ ยตนเองได้ 2. เม่ือหมดเวลาเด็กเก็บของเขา้ ท่ีให้เรยี บรอ้ ย
(4) การเลน่ เครือ่ ง 1. นาเด็กลงเล่นพืนท่ีเล่นทราย ฝึกให้เด็กค้นหาส่ิงที่ฝังไว้ 1. พืนทเ่ี ลน่ ทราย สังเกต
เล่นอยา่ งปลอดภยั
ในทราย เช่น เปลือกหอย หนุ่ จาลอง 2. อุปกรณ์แบบพมิ พ์ การเล่น เค ร่ือ งเล่ น
2. เลน่ ทรายกบั อปุ กรณ์แบบพมิ พ์รปู ตา่ งๆ รูปต่าง ๆ สนามอย่างปลอดภัย
3. การกอ่ ทรายเป็นรปู ทรง อย่างอสิ ระ 3. อปุ กรณ์ใช้ ฝังใน ด้วยตนเอง
4. เม่ือหมดเวลาเด็กเก็บอุปกรณ์และทาความสะอาด ทราย เช่น เปลือก
ร่างกาย หอยหุน่ จาลองต่าง ๆ
เกมกำรศกึ ษำ (13) การจับคู่ 1. แนะนาเกมใหม่ เกมจับคู่ภาพเคร่ืองแต่งตัวที่สัมพันธ์ 1 . เก ม จั บ คู่ ภ า พ สังเกต
จบั คู่ภาพเหมอื น
ขันตอนการแตง่ ตัว กนั เค รื่ อ ง แ ต่ ง ตั ว ท่ี การจับคู่ภาพเครื่อง
ได้
2. แบ่งกลุ่มเด็กตามความสมัครใจมอบเกมใหม่ สมั พันธก์ นั แต่งตวั
ให้เดก็ 1 กล่มุ ไม่ซากลมุ่ เดมิ กลมุ่ อื่นเล่นเกมทม่ี ี 2 . เก ม ที่ เค ย เล่ น ท่สี ัมพันธ์กัน
อยแู่ ล้วหมุนเวียนจนหมดเวลา มาแล้ว
3. เดก็ เก็บเกมการศึกษาเข้าท่ี
แผนกำรจัดประสบกำรณ์รำยวัน วันที่ ๓ หน่วยที่ ๔ หนูทำได้ ช้นั อนบุ ำลท่ี 2
โรงเรียนประชำสำมคั คี สำนักงำนเขตพน้ื ทีก่ ำรศกึ ษำประถมศึกษำสุรนิ ทร์เขต ๓
จุดประสงค์ สำระกำรเรียนรู้ กจิ กรรมกำรเรยี นรู้ สอื่ กำรประเมนิ
กำรเรยี นรู้ ประสบกำรณ์สำคญั สำระที่ควรเรียนรู้ พฒั นำกำร
กจิ กรรมเคลือ่ นไหว (2) การเคล่อื นไหว 1. ครตู กลงกบั เด็กวา่ เม่ือดนตรีเริม่ ให้เด็ก เทปเพลง สงั เกต
และจงั หวะ เคล่อื นที่ เคลือ่ นไหวไปในทศิ ทางต่าง ๆ กัน ทาตวั ใหอ้ ยู่ใน ความสนใจ มีความสขุ
สนใจ มคี วามสขุ และ (๑) การเคล่อื นไหวโดย ระดับสูง หรือกลาง หรือต่า สลบั กนั ไป โดยไม่ และแสดงออกผา่ น
แสดงออกผา่ นงาน ควบคุมตนเองไปใน ชนกนั และจนิ ตนาการว่ากาลงั เดินอยู่บนพืนหญ้า การเคล่ือนไหว
ศลิ ปะ ดนตรี และ ทิศทาง ระดับและพนื ที่ ทน่ี ่มุ เขยี วขจีเมอ่ื ดนตรหี ยดุ ให้น่ังลงและนบั
การเคลอ่ื นไหว ปากเปลา่ 1 – 10 พร้อมกนั
2. ปฏิบัติกจิ กรรมตามขอ้ 1 ซาอีก 2 - 3 ครงั
กิจกรรมเสรมิ (3) การฟังนทิ าน 1. พัฒนาการทาง 1.พฒั นาการทางภาษาและการรู้หนงั สือ 1. หนังสือเรื่องหนู สงั เกต
ประสบกำรณ์ 1.1 เดก็ และครอู า่ นหนังสอื เรื่องหนูทาไดพ้ รอ้ ม ทาได้ 1.การฟังผอู้ ่ืนพดู จนจบ
1.ฟงั ผู้อ่ืนพดู จนจบ (4) การพูดแสดง ภาษาและการรู้ กันจนจบ ฝึกเติมคาด้วยปากเปล่า เมอ่ื อา่ นถงึ คาท่ี 2. ข้าวเหนียวและ และสนทนาโตต้ อบ
และสนทนาโตต้ อบ พบบอ่ ย หนา้ สอดคลอ้ งกับเรอ่ื งท่ีฟงั
สอดคลอ้ งกบั เรอื่ งที่ ความคิด ความรสู้ กึ และ หนังสอื 1.2 ทากิจกรรมเติมตัวอักษรในคาทพ่ี บบอ่ ย ขา้ วเหนียวชนดิ ตา่ งๆ 2.การรับประทานอาหาร
ฟัง เชน่ - นู (หน)ู 3. ถ้วยพลาสติกใส ดว้ ยตนเอง
2.รับประทาน ความตอ้ งการ 2. การชว่ ยเหลือ 2. สนทนาเกยี่ วกับเรอ่ื งราวในหนงั สอื โดยใช้ และช้อนพลาสติก (การปฏิบัติจริงของเด็ก
อาหารด้วยตนเองได้ คาถามดงั นี
(5) การพูดกับผ้อู ืน่ ตนเองในกิจวตั ร - ใครรบั ประทานอาหารด้วยตนเองไดบ้ า้ ง ตลอดป)ี
ทาอยา่ งไร ลองเลา่ ให้เพ่อื นฟัง
เก่ยี วกบั ประสบการณ์ ประจาวนั 3. แบ่งนกั เรยี นเปน็ กล่มุ ยอ่ ย
ของตนเอง หรือพูดเลา่ - การรบั ประทาน
เร่อื งราวเกยี่ วกบั ตนเอง อาหาร
(10) การอา่ นหนงั สือ
ภาพ นิทาน
(๑๒)การเหน็ แบบอย่าง
การอ่านท่ถี ูกตอ้ ง
จดุ ประสงค์ สำระกำรเรียนรู้ กิจกรรมกำรเรยี นรู้ สือ่ กำรประเมนิ
กำรเรียนรู้ ประสบกำรณส์ ำคญั สำระท่ีควรเรียนรู้ พฒั นำกำร
4. นาจานใสข่ า้ วเหนยี วใบเตย ข้าวเหนยี วดอก
(1) การช่วยเหลอื อญั ชัน หนา้ สงั ขยา หนา้ ปลาแหง้ และหน้าก้งุ ให้
ตนเองในกจิ วัตร แตล่ ะกลมุ่ ๆละ 1 ชดุ
ประจาวัน 5. นาถ้วยพลาสติกใสใบเลก็ และช้อนพลาสตกิ ให้
แต่ละกลุม่
6. เดก็ จดั ขา้ วเหนียวและหน้าข้าวเหนียวใสถ่ ้วย
พลาสตกิ ใสใบเล็ก ตามความคดิ สรา้ งสรรคข์ อง
เด็ก
7. เด็กสังเกตดว้ ยการดู ดม ชิมรสชาตอิ าหารและ
บอกครู
หมายเหตุ
ครูผู้สอนสามารถปรับกิจกรรมการทดลอง
ทาอาหารง่ายๆได้ตามความเหมาะสม
กจิ กรรมศิลปะ (๒) การเขยี นภาพ ๑. เขียนภาพรอบวัสดุทีเ่ ปน็ รูปสีเ่ หลี่ยมใน ๑. สเี ทียน สงั เกต
สรำ้ งสรรค์ และการเล่นกบั สี หอ้ งเรยี นแล้วตกแต่งใหส้ วยงามตามความคิด ๒. กระดาษ การเขยี นภาพรอบวสั ดุท่ี
เขียนภาพรอบวัสดุที่ (๓) การป้นั สร้างสรรค์ของตน ๓. ดนิ นามนั เป็นรูปสี่เหลีย่ มตามแบบ
เปน็ รูปสเ่ี หล่ยี มได้ ๒. ปั้นดินนามันอยา่ งอสิ ระ ๔. กระดานรองปัน้ ได้อย่างมีมมุ ชัดเจน
๓. เดก็ ทาทงั ๒ กิจกรรมและนาเสนอผลงาน
จดุ ประสงค์ สำระกำรเรียนรู้ กจิ กรรมกำรเรียนรู้ สือ่ กำรประเมิน
กำรเรยี นรู้ ประสบกำรณ์สำคญั สำระท่ีควรเรยี นรู้ พัฒนำกำร
อุปกรณ์
กจิ กรรมเล่นตำมมมุ (๓) การเล่นตามมมุ 1. เดก็ เลือกกิจกรรมเล่นตามมุมประสบการณต์ ามความ มมุ ประสบการณ์ใน สังเกต
เล่นและทากจิ กรรม ประสบการณ์ สนใจมุมประสบการณ์ในห้องควรมอี ย่างนอ้ ย ๔ มมุ เช่น ห้องเรยี น ก า ร เ ล่ น แ ล ะ ท า
อย่างปลอดภัยดว้ ย - มมุ ธรรมชาตศิ ึกษา - มมุ หนังสือ กิจกรรม
ตนเอง - มุมบล็อก - มมุ เกมการศึกษา อ ย่ า ง ป ล อ ด ภั ย ด้ ว ย
-มมุ บทบาทสมมติ - มมุ เคร่อื งเลน่ สมั ผสั ตนเอง
2. เม่อื หมดเวลาเดก็ เก็บของเขา้ ท่ีใหเ้ รียบรอ้ ย
กิจกรรมกลำงแจง้ (๒) การเคล่ือนไหว 1. เด็กยืนเปน็ แถวตอน 2 แถว สนามเด็กเล่น สงั เกต
2. ครูสาธติ วิธีเดินต่อเทา้ ไปขา้ งหน้าตามเสน้ ตรงทีค่ รู ก า ร เดิ น ต่ อ เท้ า ไป
เดินต่อเท้าไปข้างหน้า เคลอื่ นที่ กาหนดไว้ ขา้ งหน้า
- ปลายเท้าชไี ปขา้ งหน้า ไม่ออกดา้ นข้าง เป็นเส้นตรงได้โดยไม่
เป็นเส้นตรง (1) การเคล่อื นไหวโดย - ลาตัวตรงมองไปขา้ งหนา้ มือและแขนเคลื่อนไหว ต้อง
สัมพันธก์ บั ขา กางแขน
ได้ โด ย ไม่ ต้ อ งก าง ควบคมุ ตนเองไปใน 3. เด็กปฏบิ ัติตามเดินตอ่ เทา้ ตามเส้นตรงไปข้างหนา้
ทีละคน
แขน ทศิ ทาง ระดับ และ 4. เดก็ ปฏิบตั ิกจิ กรรมซาอีกครัง
พนื ที่
เกมกำรศึกษำ (๑๓) การจับคู่ การจับคู่ 1. แนะนาเกมจบั คภู่ าพเหมือนอุปกรณ์ในการ 1. เกมจับคู่ สังเกต
จับค่ภู าพเหมอื น ภาพเหมือน รบั ประทานอาหาร ภาพเหมือนอปุ กรณ์ การจบั คภู่ าพเหมอื น
อุปกรณใ์ นการ 2. แบ่งกลมุ่ เด็กเลน่ เกมใหม่ และเกมเดิมทีม่ ีอยู่แลว้ ในการรับประทาน อุ ป ก ร ณ์ ใ น ก า ร
รับประทานอาหาร หมุนเวียนกนั อาหาร รบั ประทาน
3. เด็กเก็บเกมการศกึ ษาเขา้ ท่ี 2.เกมเดิมท่มี ีอยูแ่ ลว้ อาหาร
แผนกำรจัดประสบกำรณ์รำยวนั วนั ท่ี ๓ หน่วยท่ี ๔ หนทู ำได้ ชั้นอนบุ ำลปที ่ี 2
โรงเรียนประชำสำมคั คี สำนักงำนเขตพ้นื ทก่ี ำรศกึ ษำประถมศึกษำสุรินทร์เขต ๓
จดุ ประสงค์ สำระกำรเรยี นรู้ กจิ กรรมกำรเรยี นรู้ สอื่ กำรประเมนิ
กำรเรียนรู้ ประสบกำรณส์ ำคัญ สำระที่ควรเรียนรู้ พฒั นำกำร
1. การเลน่ หรือแสดงท่าทางตามคาบรรยาย เคร่ืองเคาะจังหวะ
กจิ กรรมเคล่ือนไหว (๑) การเคลอื่ นไหวโดย เด็กตนื่ นอนแต่เชา้ เก็บทนี่ อน แปรงฟนั ล้างหนา้ สงั เกต
และจังหวะ ควบคุมตนเองไปใน อาบนา แตง่ ตัว รับประทานอาหาร รีบไป ความสนใจมคี วามสุขและ
สนใจมคี วามสขุ และ ทศิ ทาง ระดบั และพนื ท่ี โรงเรยี น เมอื่ ไดย้ ินสัญญาณหยดุ ให้นั่งลงและนบั แสดงออกผา่ นการ
แสดงออกผ่านการ ปากเปลา่ ๑-๑๐ เคลอื่ นไหว
เคล่ือนไหว 2. ปฏิบตั กิ จิ กรรมในข้อ ๑ ซา อกี ๒ - ๓ ครัง
กิจกรรมเสริม (10) การอ่านหนังสือ 1. พฒั นาการทาง 1. พัฒนาการทางภาษาและการรู้หนังสือ 1. หนังสือเรื่องหนู สังเกต
ประสบกำรณ์ 1.1 เดก็ และครอู า่ นหนงั สอื เร่อื งหนูทาได้ พร้อม ทาได้ 1. การอา่ นภาพ/
1. อา่ นภาพ/ ภาพ นิทาน ภาษาและการรู้ กนั จนจบ 1 รอบ 2. กระดาษสาหรับ สญั ลกั ษณ/์ คาพรอ้ มทงั ชี
สญั ลกั ษณ/์ คาพร้อม 1.2 อา่ นพรอ้ มกนั อกี ครังโดยครูใช้กระดาษปดิ คา ปิดคา หรือกวาดตามองข้อความ
ทงั ชีหรือกวาดตา (๑๒)การเหน็ แบบอย่าง หนงั สือ ให้เด็กทาย เม่อื อ่านคาท่ีทายแล้ว ให้เดก็ เปดิ ดวู ่า 3. ห้องนาห้องส้วม ตามบรรทัด
มองข้อความตาม ถกู ต้องหรอื ไม่ ของชนั อนบุ าล 2. การใช้หอ้ งนาหอ้ งสว้ ม
บรรทัดได้ ของการอ่านที่ถูกตอ้ ง 2. การช่วยเหลอื 1.3 ใหเ้ ด็กเลือกปดิ คาเองและใหเ้ พอ่ื นทาย
2.ใชห้ ้องนาห้องส้วม 2. สนทนาซกั ถามเกี่ยวกับการใชห้ ้องนาหอ้ งสว้ ม ดว้ ยตนเอง
ด้วยตนเองได้ (1 ) ก า ร ช่ ว ย เห ลื อ ตนเองในกิจวัตร โดยใช้คาถามตอ่ ไปนี
- เด็กๆร้ไู ด้อยา่ งไรว่าหอ้ งนาหอ้ งสว้ มสะอาดหรือ
ตนเอง ประจาวัน สกปรก
- เด็ก ๆจะรกั ษาหอ้ งนาหอ้ งสว้ มให้สะอาดได้
ในกิจวัตรประจาวนั - การใชห้ ้องนา อยา่ งไร
ห้องส้วม
จุดประสงค์ สำระกำรเรยี นรู้ กิจกรรมกำรเรยี นรู้ สือ่ กำรประเมนิ
กำรเรยี นรู้ ประสบกำรณส์ ำคัญ สำระที่ควรเรียนรู้ พัฒนำกำร
เดก็ ๆชว่ ยกันบอกขันตอนการใช้ห้องนาหอ้ งสว้ ม
กิจกรรมศิลปะ ๓. เดก็ ทุกคนแสดงบทบาทสมมุติการใช้หอ้ งนา
สรำ้ งสรรค์ ห้องส้วมทถี่ ูกต้อง
ฉกี กระดาษเป็นรปู
ส่ีเหล่ียมได้ (5) การฉกี การตดั ๑. ครูแนะนาขันตอนในการฉีก ตดั ปะ ๑. กระดาษเอ๔ สี สังเกต
การปะ ๒. ให้เด็กจบั คู่ทากิจกรรมฉีกกระดาษสีเปน็ รูป ขาว การฉีกกระดาษเป็นรปู
กจิ กรรมเลน่ ตำมมุม (๓) การป้ัน สี่เหล่ียมขนาดประมาณ ๒ x ๒ นิวนาไปตดิ ลงใน ๒. กระดาษสีตา่ ง ๆ สเ่ี หลย่ี ม
เลน่ และทากจิ กรรม กระดาษเอ๔สีขาวเปน็ รูปต่างๆ ขนาดครึง่ เอ๔
อยา่ งปลอดภยั ด้วย (3) การเล่นตามมมุ ๓. ปั้นดินนามนั อย่างอสิ ระ ๓. ดินนามัน
ตนเองได้ ประสบการณ์ ๔. เด็กทา ๒ กิจกรรมเสร็จแลว้ นาเสนอผลงาน ๔.แผน่ รองปน้ั
1. เดก็ เลอื กกจิ กรรมเลน่ ตามมุมประสบการณ์ อปุ กรณ์ สังเกต
ตามความสนใจมมุ ประสบการณ์ควรมีอย่างน้อย
๔ มุม เช่น มุมประสบการณ์ใน การเล่นและทากจิ กรรม
- มุมธรรมชาติศึกษา - มมุ หนงั สือ
- มุมบล็อก - มมุ เกมการศึกษา ห้องเรยี น อย่างปลอดภัยด้วยตนเอง
- บทบาทสมมติ - มมุ เคร่อื งเลน่ สัมผสั
2. เม่อื หมดเวลาเด็กเก็บของเขา้ ทีใ่ หเ้ รียบร้อย
จดุ ประสงค์ สำระกำรเรียนรู้ กจิ กรรมกำรเรยี นรู้ สอื่ กำรประเมนิ
กำรเรียนรู้ ประสบกำรณ์สำคญั สำระทค่ี วรเรยี นรู้ พฒั นำกำร
1. เด็กเลอื กเลน่ อุปกรณใ์ นสนามเดก็ เลน่ ตาม สนามเดก็ เลน่
กิจกรรมกลำงแจ้ง (3) การเลน่ เครอื่ งเล่น ความสนใจอย่างอิสระ สงั เกต
เลน่ อยา่ งปลอดภัย อยา่ งปลอดภัย 2. เม่อื หมดเวลา ทาความสะอาดรา่ งกาย ล้างมอื การเล่นอย่างปลอดภัย
ด้วยตนเองได้ กลับเข้าห้องเรยี น ด้วยตนเอง
เกมกำรศึกษำ (๑๓) การจบั คู่ 1. แนะนาเกมจับคูภ่ าพเหมอื นของใชใ้ นห้องนา 1. เกมจับคู่ สงั เกต
จับคู่ภาพเหมือน 2. แบง่ เด็กเปน็ กลุ่ม ๒ - ๓ คนตามความสมคั รใจ ภาพเหมอื น การจับคู่ภาพเหมือนของ
ของใชใ้ นหอ้ งนาได้ มอบเกมใหมใ่ ห้เด็ก ๑ กลุ่ม กลุ่มอื่น ๆ เลน่ เกมทมี่ ี ของใช้ในห้องนา ใช้ในหอ้ งนา
อยแู่ ลว้ 2. เกมทเ่ี ล่นมาแลว้
3. หมนุ เวยี นกันเล่นจนหมดเวลา
4. เด็กเก็บเกมการศึกษาเข้าท่เี ดมิ
แผนกำรจัดประสบกำรณร์ ำยวนั วนั ที่ ๔ หน่วยท่ี ๔ หนูทำได้ ชั้นอนุบำลปที ี่ 2
โรงเรยี นประชำสำมคั คี สำนักงำนเขตพ้ืนที่กำรศกึ ษำประถมศกึ ษำสุรินทร์เขต ๓
จดุ ประสงค์ สำระกำรเรยี นรู้ กิจกรรมกำรเรียนรู้ ส่อื กำรประเมนิ
กำรเรียนรู้ ประสบกำรณ์สำคญั สำระทคี่ วรเรียนรู้ พฒั นำกำร
กจิ กรรมเคลอื่ นไหว (๑) การเคลื่อนไหวโดย 1. เดก็ จดั แถวเป็นวงกลม เครือ่ งเคาะจังหวะ สงั เกต
และจังหวะ ควบคมุ ตนเองไปใน 2. อาสาสมัครออกมาเป็นผนู้ าการเคลอ่ื นไหวส่วน ความสนใจมีความสุข
สนใจมคี วามสขุ และ ทิศทาง ระดับและพนื ท่ี ตา่ งๆ ของร่างกายตามจงั หวะทีค่ รูเคาะ และ
แสดงออกผา่ นงาน (๒) การเลน่ และทางาน ๓. เม่ือได้ยินสญั ญาณหยดุ เปลีย่ นเด็กอ่นื มาเป็น แสดงออกผ่านการ
ศิลปะ ดนตรี และ ร่วมกบั ผอู้ ่ืน ผู้นาบา้ ง เคลอ่ื นไหว
การเคล่ือนไหวได้ 4. ปฏิบัติกิจกรรมในข้อ 2 และ 3 ซาอกี 2 - 3
(10) การอ่านหนังสอื 1. พัฒนาการทาง ครัง 1. หนังสือเร่ืองหนูทา สังเกต
กจิ กรรมเสริม
ประสบกำรณ์ ภาพ นทิ าน ภาษาและการรู้ 1.พฒั นาการทางภาษาและการรู้หนงั สือ ได้ ๑. การอ่านภาพ/
๑. อา่ นภาพ/ 1.1 เด็กและครูอ่านหนังสือเรอื่ งหนทู าได้พรอ้ ม
สัญลกั ษณ/์ คาพรอ้ ม (๑2) การเห็น หนังสือ กนั จนจบ 1 รอบ 2. เครื่องนอน สญั ลักษณ์/คาพรอ้ มทงั ชี
ทังชีหรือกวาดตา 1.2. ใหเ้ ด็กอาสาออกมาอ่านพรอ้ มชีขอ้ ความ ให้
มองขอ้ ความตาม แบบอยา่ ง 2. การช่วยเหลือ เพอื่ นอ่านไปพรอ้ มกัน 3. หลอดกาแฟ ห รื อ ก ว า ด ต า ม อ ง
บรรทดั ได้ 2. สนทนาเกีย่ วกบั เรอื่ งท่ีอ่านโดยใชค้ าถาม
๒. เก็บของเล่นของ ของการอ่านทถ่ี ูกตอ้ ง ตนเองในกจิ วตั ร -ถา้ เด็กๆ เล่นของเลน่ แลว้ ไม่ช่วยกันเก็บห้องเรยี น 4. บตั รจานวน 1 - 2 ขอ้ ความ
ใชเ้ ข้าทดี่ ้วยตนเอง จะเป็นอยา่ งไร
ได้ (1) การช่วยเหลอื ประจาวัน -เด็ก ๆ ปแู ละเก็บท่นี อนเปน็ หรือไมล่ องเล่าให้ ตามบรรทัด
เพอ่ื นฟงั
ตนเอง - การปูและเกบ็ 3.ครูสาธติ วธิ ีปูและเก็บทน่ี อนใหเ้ ดก็ ดใู ห้เด็กฝึก ๒. การเก็บของเล่นของ
ทาเองและเก็บเข้าท่ใี ห้เรียบรอ้ ย
ในกจิ วัตรประจาวนั เคร่อื งนอน 4. เด็กนับปากเปลา่ 1 – 10 ใช้เขา้ ทีด่ ว้ ยตนเอง
(8) การนับและแสดง 3. การนับปากเปลา่
จานวนของสิง่ ตา่ ง ๆ ใน 1 – 10
ชวี ติ ประจาวนั 4.การนับและแสดง
จานวน 1 - 2
จดุ ประสงค์ สำระกำรเรยี นรู้ กิจกรรมกำรเรยี นรู้ สอ่ื กำรประเมิน
พัฒนำกำร
กำรเรยี นรู้ ประสบกำรณ์สำคญั สำระที่ควรเรยี นรู้
- เด็ก ๆช่วยกนั บอกขนั ตอนการใช้ห้องนา
หอ้ งสว้ ม
๓. เดก็ ทุกคนแสดงบทบาทสมมุติการใช้ห้องนา
หอ้ งสว้ มทถ่ี ูกต้อง
กิจกรรมศลิ ปะ (5) การฉีก การตดั ๑. ครูแนะนาขันตอนในการฉีก ตัด ปะ ๑. กระดาษเอ๔ สี สังเกต
สร้างสรรค์ การปะ ๒. ใหเ้ ด็กจับค่ทู ากจิ กรรมฉีกกระดาษสีเปน็ รูป ขาว การฉกี กระดาษเป็นรูป
ฉีกกระดาษเปน็ รูป (๓) การป้ัน ส่ีเหลี่ยมขนาดประมาณ ๒ x ๒ นวิ นาไปติดลงใน ๒. กระดาษสีตา่ ง ๆ ส่เี หล่ยี ม
ส่เี หล่ยี มได้ กระดาษเอ๔สขี าวเปน็ รูปต่างๆ ขนาดคร่ึง เอ๔
๓. ปั้นดินนามนั อยา่ งอิสระ ๓. ดินนามัน
๔. เด็กทา ๒ กิจกรรมเสรจ็ แล้วนาเสนอผลงาน ๔.แผน่ รองป้ัน
จดุ ประสงค์ สำระกำรเรยี นรู้ กจิ กรรมกำรเรียนรู้ สือ่ กำรประเมนิ
กำรเรียนรู้ ประสบกำรณส์ ำคัญ สำระที่ควรเรยี นรู้ พัฒนำกำร
1. เดก็ เลอื กกิจกรรมเลน่ ตามมมุ ประสบการณ์ อุปกรณ์
กจิ กรรมเล่นตำมมมุ (๓) การเล่นตามมุม ตามความสนใจมุมประสบการณค์ วรมีอยา่ งนอ้ ย มมุ ประสบการณใ์ น สงั เกต
เลน่ อย่างปลอดภยั ประสบการณ์ ๔ มมุ เชน่ หอ้ งเรียน การเล่นอย่างปลอดภัย
ด้วยตนเองได้ - มมุ ธรรมชาติศกึ ษา - มมุ หนงั สอื ด้วยตนเอง
- มมุ บลอ็ ก - มุมเกมการศกึ ษา
-มุมบทบาทสมมติ - มุมเครอื่ งเลน่ สมั ผัส
2. เม่ือหมดเวลาเดก็ เกบ็ ของเขา้ ท่ใี หเ้ รยี บรอ้ ย
กิจกรรมกลำงแจ้ง (๓) การเลน่ เคร่ืองเล่น 1. เด็กเลอื กเลน่ อปุ กรณ์ในสนามเดก็ เล่นตาม เคร่ืองเลน่ สนาม สังเกต
เลน่ อย่างปลอดภยั อยา่ งปลอดภัย ความสนใจอยา่ งอสิ ระ การเล่นเครอ่ื งเล่นสนาม
ดว้ ยตนเองได้ 2. เมอ่ื หมดเวลาช่วยกันเก็บทาความสะอาดสนาม อยา่ งปลอดภยั ดว้ ยตนเอง
ลา้ งมอื กลบั เข้าหอ้ งเรยี น
จุดประสงค์ สำระกำรเรยี นรู้ กิจกรรมกำรเรียนรู้ ส่ือ กำรประเมนิ
กำรเรียนรู้ ประสบกำรณส์ ำคัญ สำระทีค่ วรเรียนรู้ พฒั นำกำร
1. แนะนาเกมจับค่ภู าพเหมอื นของใช้ในห้องนา
เกมกำรศึกษำ (๑๓) การจบั คู่ 2. แบ่งเด็กเปน็ กลุม่ ๒ - ๓ คนตามความสมัครใจ 1 . เ ก ม จั บ คู่ สงั เกต
จับค่ภู าพเหมอื น มอบเกมใหมใ่ หเ้ ดก็ ๑ กลมุ่ กลมุ่ อน่ื ๆ เลน่ เกมที่มี
ของใชใ้ นห้องนาได้ อยูแ่ ลว้ ภาพเหมือน กำรจับคู่ภาพเหมือนของ
3. หมนุ เวียนกันเลน่ จนหมดเวลา
4. เด็กเกบ็ เกมการศึกษาเข้าท่เี ดมิ ของใชใ้ นห้องนา ใช้
2. เกมที่เลน่ มาแลว้ ในหอ้ งนา
แผนกำรจัดประสบกำรณร์ ำยวนั วนั ที่ ๕ หน่วยท่ี ๔ หนูทำได้ ชั้นอนุบำลปที ี่ 2
โรงเรยี นประชำสำมคั คี สำนักงำนเขตพ้ืนที่กำรศกึ ษำประถมศกึ ษำสุรินทร์เขต ๓
จดุ ประสงค์ สำระกำรเรยี นรู้ กิจกรรมกำรเรียนรู้ ส่อื กำรประเมนิ
พฒั นำกำร
กำรเรียนรู้ ประสบกำรณส์ ำคัญ สำระทคี่ วรเรียนรู้
เคลอ่ื นไหวและจังหวะ (๑) การเคลื่อนไหวโดย 1. เด็กจดั แถวเป็นวงกลม เครือ่ งเคาะจงั หวะ สังเกต
2. อาสาสมัครออกมาเป็นผนู้ าการเคลอ่ื นไหวส่วน ความสนใจมีความสุข
สนใจมคี วามสุข ควบคุมตนเองไปใน ตา่ งๆ ของร่างกายตามจงั หวะทีค่ รูเคาะ และ
๓. เม่ือได้ยินสญั ญาณหยดุ เปลีย่ นเด็กอ่นื มาเป็น แสดงออกผา่ นการ
และแสดงท่าทาง/ ทิศทาง ระดับและพนื ที่ ผู้นาบา้ ง เคลื่อนไหว
4. ปฏิบัติกิจกรรมในข้อ 2 และ 3 ซาอกี 2 - 3
เคลื่อนไหวประกอบ (๒) การเลน่ และทางาน ครัง
เพลงจังหวะ และดนตรี รว่ มกับผู้อืน่
ได้
กจิ กรรมเสรมิ (10) การอ่านหนังสือ 1. พัฒนาการทาง 1.พัฒนาการทางภาษาและการรู้หนงั สือ 1. หนังสือเรื่องหนูทา สงั เกต
ประสบกำรณ์ 1.1 เด็กและครูอ่านหนังสอื เรอื่ งหนทู าได้พรอ้ ม
๑. อา่ นภาพ/ ภาพ นิทาน ภาษาและการรู้ กนั จนจบ 1 รอบ ได้ ๑. การอา่ นภาพ/
สัญลกั ษณ/์ คาพร้อม 1.2. ใหเ้ ด็กอาสาออกมาอ่านพรอ้ มชีขอ้ ความ ให้
ทังชหี รือกวาดตา (๑2) การเหน็ หนังสือ เพอื่ นอ่านไปพรอ้ มกัน 2. เครื่องนอน สญั ลักษณ์/คาพรอ้ มทังชี
มองขอ้ ความตาม 2. สนทนาเกีย่ วกบั เรอื่ งท่ีอ่านโดยใชค้ าถาม
บรรทดั ได้ แบบอยา่ ง 2. การช่วยเหลือ -ถา้ เด็กๆ เล่นของเลน่ แล้วไม่ช่วยกันเก็บห้องเรยี น 3. หลอดกาแฟ ห รื อ ก ว า ด ต า ม อ ง
๒. เก็บของเล่นของ จะเป็นอยา่ งไร
ใชเ้ ข้าท่ดี ้วยตนเอง ของการอ่านท่ถี ูกต้อง ตนเองในกจิ วตั ร -เด็ก ๆ ปแู ละเก็บท่นี อนเปน็ หรือไมล่ องเล่าให้ 4. บตั รจานวน 1 - 2 ขอ้ ความ
ได้ เพอ่ื นฟงั
(1) การชว่ ยเหลือ ประจาวัน 3.ครูสาธติ วธิ ีปูและเก็บท่นี อนใหเ้ ดก็ ดใู ห้เด็กฝึก ตามบรรทดั
ทาเองและเก็บเข้าท่ใี ห้เรียบรอ้ ย
ตนเอง - การปูและเกบ็ 4. เด็กนับปากเปลา่ 1 – 10 ๒. การเก็บของเล่นของ
ในกจิ วตั รประจาวนั เคร่อื งนอน ใช้
(8) การนับและแสดง 3. การนับปากเปลา่ เข้าทีด่ ้วยตนเอง
จานวนของสง่ิ ต่าง ๆ ใน 1 – 10
ชีวติ ประจาวนั 4.การนับและแสดง
จานวน 1 - 2
จุดประสงค์ สำระกำรเรียนรู้ กิจกรรมกำรเรยี นรู้ สอ่ื กำรประเมนิ
กำรเรียนรู้ ประสบกำรณ์สำคัญ สำระท่ีควรเรยี นรู้ พัฒนำกำร
5. ครูแจกหลอดกาแฟใหเ้ ดก็ คนละ 2 หลอด
6. ครูชูบตั รเลข 1พร้อมไม้บล็อก 1 ชินครพู ดู เลข
1 จานวนหนงึ่ และใหเ้ ดก็ พดู ตามพร้อมชูหลอด
กาแฟ 1 หลอด
7. ครชู บู ัตรเลข 2พร้อมไม้บล็อก 2 ชินครูพูด
เลข 2 จานวนสองและให้เดก็ พูดตามพร้อมชู
หลอดกาแฟ 2 หลอด
8. ครูชบู ัตรจานวน 1- 2 สลบั กนั จนเดก็ ตอบได้
คลอ่ งแคลว่
9 เดก็ อาสาออกมาชูบัตรจานวนและใหเ้ พอื่ นตอบ
กิจกรรมศิลปะ (๒) การวาดภาพระบาย ๑. ครูแนะนาขนั ตอนการฉีก ตดั ปะ 1. กระดาษนิตยสาร สังเกต
สร้ำงสรรค์ สี ๒. ใหเ้ ด็กนากระดาษนติ ยสารท่คี รูเตรยี มไว้ฉกี รูป
ฉกี กระดาษเป็นรปู (๕) การหยบิ จบั การใช้ อปุ กรณ์การนอนให้เปน็ สีเ่ หล่ียมและนามาติดบน ท่มี ี การฉีกกระดาษเป็นรูป
ส่ีเหลี่ยมและตอ่ เติม กรรไกร การฉีกการตัด กระดาษวาดภาพ
ภาพอย่างอสิ ระได้ การปะ ๓. เดก็ ตกแต่งโดยการวาดภาพระบายสีอยา่ ง รูปเคร่อื งนอน ส่เี หล่ียมและตอ่ เติมภาพ
อิสระ
๔. เด็กทากจิ กรรมจนเสรจ็ และนาเสนอผลงาน 2. กระดาษวาดภาพ อยา่ งอสิ ระ
3. กาว
4. สนี า
จดุ ประสงค์ สำระกำรเรียนรู้ กจิ กรรมกำรเรยี นรู้ ส่ือ กำรประเมิน
กำรเรียนรู้ ประสบกำรณส์ ำคญั สำระท่ีควรเรียนรู้ พัฒนำกำร
1. เดก็ เลอื กกิจกรรมเลน่ ตามมุมประสบการณ์ อปุ กรณ์
กจิ กรรมเลน่ ตำมมุม (๓) การเลน่ ตามมุม ตามความสนใจมมุ ประสบการณค์ วรมอี ย่างนอ้ ย มุมประสบการณใ์ น สังเกต
เล่นอย่างปลอดภยั ประสบการณ์ ๔ มุม เช่น ห้องเรียน การเล่นอย่างปลอดภัย
ดว้ ยตนเองได้ - มมุ ธรรมชาตศิ ึกษา - มมุ หนังสอื ดว้ ยตนเอง
- มมุ บล็อก - มมุ เกมการศกึ ษา
-มุมบทบาทสมมติ - มมุ เคร่ืองเล่นสัมผสั
2. เมอ่ื หมดเวลาเด็กเก็บของเขา้ ที่ใหเ้ รยี บรอ้ ย
กจิ กรรมกลำงแจง้ (๓) การเลน่ เคร่ืองเลน่ 1. เด็กเลอื กเล่นอปุ กรณ์ในสนามเด็กเล่นตาม เคร่ืองเล่นสนาม สังเกต
เล่นอยา่ งปลอดภยั อย่างปลอดภัย ความสนใจอยา่ งอิสระ การเล่นเคร่อื งเลน่ สนาม
ดว้ ยตนเองได้ 2. เม่อื หมดเวลาชว่ ยกันเกบ็ ทาความสะอาดสนาม อย่างปลอดภัยดว้ ยตนเอง
ลา้ งมอื กลับเข้าหอ้ งเรียน
เกมกำรศกึ ษำ (๑3) การจบั คู่ภาพ 1. ใหเ้ ดก็ อา่ นบัตรภาพจานวน เกมจับคภู่ าพจานวน สังเกต
2. ให้เดก็ อา่ นบตั รเลข แล้วนาไปวางใตภ้ าพท่ีมี 1 – 2 กับบตั รเลข การจบั คภู่ าพจานวน
จับคู่ภาพจานวน จานวน 1 – 2 กับ จานวนตรงกัน
3. แบง่ กลุ่มเดก็ หมุนเวียนเล่นเกมจนครบทุกคน 1 – 2 กบั บัตรเลข
1 – 2 กับบัตรเลขได้ บัตรเลข จากนันจึงนาเกมเก็บเขา้ ที่
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมเดก็ หนว่ ยกำรจัดประสบกำรณ์ที่ ๔ หนูทำได้ ชั้นอนุบำลปที ่ี ๒
โรงเรียนประชำสำมคั คี สำนักงำนเขตพื้นท่ีกำรศึกษำประถมศกึ ษำสรุ ินทร์เขต ๓
พฒั นำกำร
ดำ้ น
ดำ้ นรำ่ งกำย อำรมณ์ ดำ้ นสังคม ดำ้ นสติปัญญำ
และจิตใจ
เลขที่ ช่อื ้ลางมือ ่กอนรับประทานอาหารและหลังจาก
ใช้ห้องนา
้หองส้วมด้วยตนเอง หมายเหตุ
2.เ ่ลนอย่างปลอดภัย ้ดวย
3.เดินต่อเท้าไปข้างห ้นาเ ็ปนเ ้สนตรงไ ้ดโดยไ ่ม
้ตองกางแขน
เ ีขยน ูรปส่ีเหล่ียมตามแบบไ ้ดอย่าง ีม ุมม ัชดเจน
5.สนใจและแสดงออก ่ผานงานศิลปะ ดนต ีร
และการเค ื่ลอนไหว
6.แต่ง ัตวด้วยตนเอง
7. ัรบประทานอาหารด้วยตนเอง
8.ใ ้ชห้องนาห้องส้วม ้ดวยตนเอง
9. ัฟง ู้ผอื่น ูพดจนจบและสนทนาโต้ตอบ
สอดคล้อง ักบเ ืร่อง ีท่ ัฟงได้
10.อ่านภาพ ัสญลักษ ์ณคาพ ้รอมทังชีห ืรอ
กวาดตามอง ้ขอความตามบรร ัทด
11.จับ ู่คภาพเห ืมอนได้
1 เด็กชายจริ ดนัย สายบวั แดง
2 เดก็ ชายณราวิชญ์ สขุ จนั ทร์
3 เด็กชายธนกฤต อะสิพงษ์
4 เดก็ ชายธนเดช ผอ่ งโอย
5 เดก็ ชายธนวฒั น์ วงษ์ศรสี งั ข์
6 เด็กชายธรี ภัทร สวา่ งวงศ์
7 เดก็ ชายีรศักด์ิ โชคดี
8 เด็กชายปิติวัฒน์ เพชรใสดี
9 เดก็ ชายพงศ์ภัค ทองใบ
10 เดก็ ชายภานวุ ัฒน์ สุขพินิจ
เลขที่ ชื่อ
11 เด็กชายสมิ ธินันท์ เกิดเหล่ยี ม
12 เดก็ หญิงนภรตั น์ นามโคตร
13 เดก็ หญงิ นนั ทกิ านต์ อนิ ทรแ์ กว้
14 เด้กหญงิ ปรียาภัทร ผวิ นวล
15 เด็กหญงิ สดุ ธิดามณี สขุ พนิ ิจ
16 เดก็ หญิงอมุ้ ลักขณา สาคะนิน
17 เด็กหญงิ ชลธชิ า เพ็งสวา่ ง
คำอธิบำย ครูสังเกตพฤติกรรมเดก็ รายบุคคล จดบันทึกสรุปเป็นรายสปั ดาหร์ ะบรุ ะดับคุณภาพเป็น ๓ ระดบั คือ ล้างมอื ก่อนรับประทานอาหารและ ด้ำนร่ำงกำย
ระดบั ๓ ดี ระดบั ๒ ปานกลาง ระดบั ๑ ควรส่งเสริม หลงั จากใชห้ อ้ งนา
ห้องส้วมดว้ ยตนเอง พฒั นำกำร
2.เล่นอยา่ งปลอดภัยดว้ ย ดำ้ น
อำรมณ์
3.เดนิ ต่อเทา้ ไปขา้ งหนา้ เป็นเสน้ ตรงได้ และจิตใจ
โดยไมต่ ้องกางแขน
ด้ำนสงั คม
เขียนรปู ส่เี หลีย่ มตามแบบไดอ้ ยา่ งมีมุม
ชัดเจน ดำ้ นสติปัญญำ
5.สนใจและแสดงออกผา่ นงานศลิ ปะ
ดนตรี และการเคลอื่ นไหว
6.แตง่ ตวั ด้วยตนเอง
7.รบั ประทานอาหารดว้ ยตนเอง
8.ใชห้ ้องนาห้องสว้ มดว้ ยตนเอง
9.ฟังผู้อื่นพูดจนจบและสนทนาโต้ตอบ
สอดคล้องกบั เรอื่ งทฟี่ งั ได้
10.อ่านภาพสัญลักษณ์คาพร้อมทังชี
หรือกวาดตามองข้อความตามบรรทัด
11.จับคภู่ าพเหมอื นได้
หมายเหตุ