การวเิ คราะหโ์ ครงสร้างหนว่ ยการจัดการประสบการณ์ตามหลกั สูตรการศกึ ษาปฐมวัย พุทธศกั ราช 2560
หน่วยท่ี 6 อาหารดมี ีประโยชน์ ชนั้ อนบุ าลปที ี่ ๑ – ๓ ภาคเรียนที่ ๑
โรงเรยี นประชาสามคั คี สานักงานเขตพน้ื ท่กี ารศกึ ษาประถมศึกษาสุรนิ ทร์เขต ๓
รายการ อนุบาลปีท่ี 1 อนุบาลปีที่ 2 อนบุ าลปที ี่ 3
สาระทีค่ วรเรียนรู้ 1. ชอ่ื ของอาหาร และสว่ นประกอบของอาหาร 1. อาหารหลกั 5 หมู่ 1. อาหารหลกั 5 หมู่
2. อาหารทค่ี วรรบั ประทานและอาหารทไ่ี ม่ควร 2. อาหารแตล่ ะชนดิ มรี สชาติทีแ่ ตกต่างกัน 2. อาหารที่มปี ระโยชนแ์ ละอาหารที่ไม่มี
มาตรฐาน
ตวั บ่งชี้ รับประทาน เชน่ ขม หวาน เปรย้ี ว เค็ม เผด็ ประโยชน์
สภาพทีพ่ งึ ประสงค์ 3. อุปกรณใ์ นการรับประทานอาหาร 3. สขุ นิสัยและมารยาทท่ดี ีในการรับประทาน 3. ประโยชน์ของอาหาร
4. มารยาทในการรบั ประทานอาหาร 4. อาหารประจาภาคทงั้ 4 ภาค คือ ภาคเหนอื
5. เวลาในการรับประทานอาหาร อาหาร
6. ประโยชน์ของอาหาร 4. ประโยชน์ของอาหาร ภาคกลาง ภาคอีสาน และภาคใต้
7. การประกอบอาหารไข่เจียวหมสู ับ 5. วิธกี ารประกอบอาหาร เชน่ ตม้ ผดั แกง 5. การประกอบอาหารไทย ประเภท สม้ ตาไทย
6. การจาแนกและจดั กลมุ่ อ้วน – ผอม
มฐ 1 ตบช. 1.3 (1.3.1) ทอด 7. การจาแนกและจดั กลมุ่ ภาพกบั สญั ลักษณ์
มฐ 2 ตบช. 2.2 (2.2.1) 6. การประกอบอาหารตม้ จืดเต้าหู้หมูสบั
มฐ 3 ตบช. 3.2 (3.2.1) 7. การจาแนกและจัดกลุ่มอาหารแต่ละชนิด มฐ 1 ตบช. 1.3 (1.3.1)
มฐ 4 ตบช. 4.1 (4.1.1) (4.1.3) มฐ 2 ตบช. 2.2 (2.2.1)
มฐ 6 ตบช. 6.1 (6.1.2) ออกเปน็ หมู่ มฐ 3 ตบช. 3.2 (3.2.1)
มฐ 8 ตบช. 8.2 (8.2.1) 8. การเรยี งลาดบั สง่ิ ของหรอื เหตกุ ารณ์ มฐ 4 ตบช. 4.1 (4.1.1) (4.1.3)
มฐ 9 ตบช. 9.1 (9.1.1) มฐ 8 ตบช. 8.2 (8.2.1)
มฐ 10 ตบช. 10.1 (10.1.1) มฐ 1 ตบช. 1.3 (1.3.1) มฐ 1 ตบช. 8.3 (8.3.2)
มฐ 1 (10.1.2) (10.1.3) (10.1.4) มฐ 1 ตบช. 2.1 (2.1.4) มฐ 9 ตบช. 9.1 (9.1.1)
มฐ 2 ตบช. 2.2 (2.2.1) มฐ 10 ตบช. 10.1 (10.1.2)
มฐ 3 ตบช. 3.2 (3.2.1) มฐ 1 (10.1.3) (10.1.4)
มฐ 4 ตบช. 4.1 (4.1.1) (4.1.3)
มฐ 6 ตบช. 6.1 (6.1.2)
มฐ 8 ตบช. 8.2 (8.2.1)
มฐ 1 ตบช. 8.3 (8.3.2)
มฐ 10 ตบช. 10.1 (10.1.1)
มฐ 1 (10.1.2) (10.1.3) (10.1.4)
รายการ อนบุ าลปที ่ี 1 อนุบาลปีท่ี 2 อนุบาลปีท่ี 3
ประสบการณ์สาคัญ รา่ งกาย รา่ งกาย ร่างกาย
1.1.1 (1) การเคลอ่ื นไหวอยู่กบั ท่ี 1.1.1 (1) การเคลอ่ื นไหวอยูก่ ับที่ 1.1.1 (1) การเคลื่อนไหวอยู่กบั ท่ี
1.1.1 (2) การเคลอื่ นไหวเคลื่อนที่ 1.1.1 (2) การเคลอื่ นไหวเคล่อื นท่ี 1.1.1 (2) การเคลอ่ื นไหวเคลอื่ นที่
1.1.1 (3) การเคลื่อนไหวพรอ้ มวัสดุอุปกรณ์ 1.1.1 (3) การเคลื่อนไหวพร้อมวสั ดอุ ปุ กรณ์ 1.1.2 (2) การเขียนภาพและการเล่นกบั สี
1.1.2 (2) การเขียนภาพและการเลน่ กับสี 1.1.1 (4) การเคลื่อนไหวทใี่ ชป้ ระสาน 1.1.1 (3) การปั้น
1.1.1 (3) การปน้ั 1.1.1 สมั พนั ธข์ องการใชก้ ลา้ มเนือ้ 1.1.1 (4) การประดิษฐ์ส่ิงตา่ งๆ ด้วยเศษวัสดุ
1.1.1 (5) การหยิบจบั การใชก้ รรไกร การฉีก 1.1.1 ใหญ่ ในการขว้าง การจับ การโยน 1.1. (5) การหยิบจับ การใช้กรรไกร การฉีก
1.1.1 การตัด การปะ และการรอ้ ยวสั ดุ 1.1.1 การเตะ 1.1.1 การตัด การปะ และการร้อยวัสดุ
1.1.4 (1) การปฏิบตั ติ นใหป้ ลอดภยั ในกจิ วตั ร 1.1.2 (2) การเขยี นภาพและการเล่นกบั สี 1.1.4 (1) การปฏิบตั ิตนให้ปลอดภัยในกิจวตั ร
1.1.1 ประจาวัน 1.1.1 (3) การปนั้ 1.1.1 ประจาวัน
1.1.1 (3) การเล่นเครอ่ื งเล่นอยา่ งปลอดภยั 1.1.1 (5) การหยิบจับ การใชก้ รรไกรการฉีก 1.1.1 (3) การเล่นเคร่ืองเล่นอยา่ งปลอดภัย
อารมณ์ 1.1.1 การตดั การปะ และการรอ้ ยวัสดุ อารมณ์
1.2.1 (1) การฟังเพลง การร้องเพลงและการแสดง 1.1.4 (1) การปฏิบัติตนให้ปลอดภัยใน 1.2.1 (1) การฟงั เพลง การร้องเพลงและการ
1.1.1 ปฏกิ ิริยาโต้ตอบเสียงดนตรี 1.1.1 กิจวตั รประจาวนั แสดงปฏิกริ ิยาโตต้ อบเสียงดนตรี
1.1.1 (3) การเคลื่อนไหวตามเสยี งเพลง/ดนตรี 1.1.1 (3) การเลน่ เครอ่ื งเลน่ อย่างปลอดภัย 1.1.1 (3) การเคลอื่ นไหวตามเสยี งเพลง/ดนตรี
1.2.2(3)การเลน่ ตามมมุ ประสบการณ์/มมุ เล่นต่างๆ อารมณ์ 1.2.2 (1) การเล่นอสิ ระ
1.2.4 (2) การเลน่ บทบาทสมมุติ 1.2.1 (1) การฟงั เพลง การรอ้ งเพลงและ 1.1.1 (3) การเล่นตามมุมประสบการณ์/มุมเล่น
1.1.1 (๕) การทางานศลิ ปะ 1.1.1 การแสดงปฏิกิริยาโต้ตอบ 1.1.1 ตา่ งๆ
1.1.1 เสียงดนตรี
1.1.1 (3) การเคลื่อนไหวตามเสียงเพลง/
1.1.1 ดนตรี
รายการ อนุบาลปที ่ี 1 อนุบาลปีท่ี 2 อนบุ าลปที ่ี 3
สังคม 1.1.1 (4) การเลน่ บทบาทสมมุติ 1.2.4 (2) การเลน่ บทบาทสมมตุ ิ
1.3.1 (1) การช่วยเหลอื ตนเองในกิจวัตรประจาวัน 1.2.2 (1) การเลน่ อสิ ระ 1.1.1 (๕) การทางานศลิ ปะ
1.3.3 (3) การประกอบอาหารไทย 1.1.1 (3) การเลน่ ตามมุมประสบการณ์/ สังคม
1.3.5 (2) การเลน่ และการทางานรว่ มกบั ผอู้ ื่น 1.1.1 มมุ เล่นตา่ ง ๆ 1.3.3 (3) การประกอบอาหารไทย
สตปิ ัญญา 1.2.4 (2) การเลน่ บทบาทสมมุติ 1.3.4 (2) การปฏิบตั ิเป็นสมาชิกท่ีดีของ
1.1.4 (3) การฟังเพลง นทิ านคาคลอ้ งจอง 1.1.1 (๕) การทางานศลิ ปะ 1.1.1 หอ้ งเรยี น
1.1.1 บทร้อยกรอง หรอื เรอื่ งราวตา่ งๆ สังคม 1.3.5 (2) การเลน่ และการทางานรว่ มกับผ้อู ่ืน
1.1.1 (๔) การพูดแสดงความคิดเห็นความรู้สึกและ 1.3.1 (1) การชว่ ยเหลอื ตนเองใน 1.1.1 (3) การทาศลิ ปะแบบรว่ มมือ
1.1.1 ความตอ้ งการ 1.1.1 กจิ วตั รประจาวัน สตปิ ัญญา
1.1.1 (6) การพูดอธิบายเกี่ยวกับส่ิงของ เหตุการณ์ 1.3.3 (3) การประกอบอาหารไทย 1.1.4 (3) การฟงั เพลง นิทานคาคลอ้ งจอง
1.1.1 และความสัมพันธข์ องสงิ่ ต่างๆ 1.3.4 (2) การปฏิบัตเิ ป็นสมาชิกทดี่ ขี อง 1.1.1 บทร้อยกรองหรอื เร่อื งราวตา่ งๆ
1.1.1 (19) การเห็นแบบอยา่ งการเขยี นที่ถูกต้อง 1.1.1 หอ้ งเรยี น 1.1.1 (๔) การพูดแสดงความคิดเหน็ ความร้สู กึ
1.4.2 (1) การสังเกตลักษณะส่วนประกอบการ 1.3.5 (2) การเล่นและการทางาน 1.1.1 และความต้องการ
เปล่ยี นแปลงและความสมั พันธข์ องสงิ่ ตา่ งๆ โดยใช้ ร่วมกบั ผอู้ ่นื 1.1.1 (6) การพูดอธบิ ายเกย่ี วกับสิ่งของ
ประสาทสัมผัสอย่างเหมาะสม สตปิ ญั ญา 1.1.1 เหตุการณ์ และความสัมพันธ์
1.1.1 (5) การคัดแยก การจัดกลุ่ม และการจาแนก 1.1.4 (3) การฟังเพลง นิทาน คาคล้องจอง 1.1.1 ของส่งิ ตา่ งๆ
1.1.1 ส่งิ ตา่ งๆ ตามลกั ษณะและรูปรา่ ง รปู ทรง 1.1.1 บทรอ้ ยกรอง หรอื เรื่องราวตา่ งๆ 1.4.2 (5) การคัดแยก การจัดกลุ่ม และการ
1.1.1 (๔) การพดู แสดงความคดิ เห็น 1.1.1 จาแนกสงิ่ ตา่ งๆ ตามลกั ษณะและ
1.1.1 ความรสู้ กึ และความตอ้ งการ 1.1.1 รูปรา่ ง รูปทรง
1.1.1 (6) การพดู อธบิ ายเก่ยี วกบั ส่ิงของ 1.1.1 (6) การต่อของชิ้นเล็กเติมในชน้ิ ใหญใ่ ห้
1.1.1 เหตุการณ์ และความสัมพันธ์ของ 1.1.1 สมบูรณ์และการแยกชิ้นส่วน
1.1.1 สง่ิ ตา่ งๆ 1.1.1 (13) การจบั คู่ การเปรยี บเทยี บและ
1.4.2 (1) การสงั เกตลักษณะสว่ นประกอบ 1.1.1 การเรียงลาดบั สิ่งตา่ งๆ ตาม
การเปล่ียนแปลง และการเปลยี่ นแปลง และ
รายการ อนุบาลปีที่ 1 อนบุ าลปีท่ี 2 อนุบาลปที ี่ 3
1.1.1 (13) การจบั คู่ การเปรยี บเทียบและการ 1.1.1 ความสมั พันธข์ องส่ิงต่างๆโดยใช้ 1.1.1 ลักษณะ ความยาว/ความสูง น้าหนัก
1.1.2 เรยี งลาดบั สง่ิ ตา่ งๆ ตามลักษณะ
1.1.3 1.1.1 ความยาว/ความสูงนา้ หนัก ปริมาตร 1.1. 1 ประสาทสัมผสั อย่างเหมาะสม 1.1. 1 ปริมาตร
1.1.1 (14) การบอกและเรียงลาดบั กจิ กรรมหรือ 1.1.1 (5) การคัดแยก การจัดกลุม่ และ 1.1.1 (14) การบอกและเรยี งลาดับกิจกรรมหรือ
1.1.2 เหตกุ ารณต์ ามช่วงเวลา
1.1.1 การจาแนกสงิ่ ตา่ งๆ ตามลกั ษณะ 1.1.1 เหตุการณต์ ามชว่ งเวลา
1.4.3 (2) การแสดงความคิดสรา้ งสรรค์ผา่ นภาษา
1.1.1 ท่าทางการเคลือ่ นไหวและศลิ ปะ 1.1.1 และรูปร่าง รปู ทรง 1.4.3 (2) การแสดงความคิดสรา้ งสรรคผ์ า่ น
1.1.1 (6) การต่อของช้ินเล็กเติมในช้ินใหญ่ 1.1.1 ภาษาทา่ ทางการเคลือ่ นไหวและศิลปะ
1.1.1 ใหส้ มบูรณ์และการแยกช้ินส่วน
1.1.1 (13) การจบั คู่ การเปรยี บเทยี บและ
1.1.1 การเรียงลาดบั สิง่ ต่างๆตาม
1.1.1 ลักษณะ ความยาว/ความสูง
1.1.1 นา้ หนกั ปรมิ าตร
1.1.1 (14) การบอกและเรียงลาดบั
1.1.1 กจิ กรรมหรือเหตุการณ์ตาม
1.1.1 ช่วงเวลา
1.4.3 (2) การแสดงความคิดสร้างสรรค์
1.1.1 ผ่านภาษาท่าทางการเคล่ือนไหว
1.1.1 และศิลปะ
คณติ ศาสตร์ 1. นับปากเปล่า 1-5 1. นับปากเปลา่ 1-10 1. นบั ปากเปลา่ 1-20
2. นับแสดงจานวน 1 : 1
2. นับและแสดงจานวน 3 2. นับและแสดงจานวน 6
3. จับค่แู ละเปรียบเทียบ 3. จับคู่เปรยี บเทยี บจานวน
4. การรวมและการแยก
วิทยาศาสตร์ -ทกั ษะการสังเกต -ทกั ษะการสงั เกต 1. ทักษะการสังเกต
2. อธิบายเช่อื มโยงสาเหตแุ ละผลที่
เกิดขึ้นในเหตกุ ารณ์หรอื การกระทา
พั ฒ น า ก า ร ท า งภ า ษ า
และการรหู้ นงั สือ
รายการ อนบุ าลปีท่ี 1 อนุบาลปที ี่ 2 อนุบาลปที ี่ 3
พั ฒ น า ก า ร ท า งภ า ษ า 1. การฟังและปฏิบตั ิตามคาส่งั คาแนะนา 1. การฟังและปฏิบัติตามคาส่ัง คาแนะนา 1. การฟงั และปฏิบัติตามคาสั่ง คาแนะนา
และการรหู้ นังสือ 2. การฟงั เพลง นทิ าน คาคลอ้ งจองบทร้อยกรอง 2. การฟังเพลง นทิ าน คาคล้องจอง 2. การฟังเพลง นทิ าน คาคลอ้ งจองบทร้อยกรอง
หรอื เรื่องราวตา่ งๆ บทรอ้ ยกรองหรอื เรื่องราวตา่ งๆ หรือเร่ืองราวต่างๆ
3. การเห็นแบบอย่างการเขียนทถี่ กู ต้อง 3. การพูดแสดงความคดิ เห็นความรู้สกึ 3. การพูดแสดงความคดิ เห็นความรสู้ ึกและ
4. การพดู แสดงความคดิ เหน็ ความรสู้ ึกและ
และความตอ้ งการ ความต้องการ
ความต้องการ 4. การพดู อธบิ ายเกี่ยวกบั ส่ิงของเหตกุ ารณ์ 4. การพดู อธบิ ายเกย่ี วกับสง่ิ ของเหตุการณ์ และ
5. การพดู อธบิ ายเกีย่ วกบั สิง่ ของเหตกุ ารณ์ และ
และความสัมพันธ์ของสงิ่ ต่างๆ ความสมั พันธข์ องสิ่งตา่ งๆ
ความสัมพันธข์ องสิง่ ต่างๆ
หนว่ ยการจัดประสบการณท์ ่ี 6 อาหารดมี ปี ระโยชน์ ชนั้ อนบุ าลปีท่ี ๒
โรงเรียนประชาสามคั คี สานกั งานเขตพื้นทก่ี ารศกึ ษาประถมศึกษาสรุ ินทรเ์ ขต ๓
แนวคดิ
อาหารมีหลากหลายชนดิ สามารถจาแนกออกเปน็ 5 หมู่ อาหารแตล่ ะหมู่ล้วนมปี ระโยชน์ต่อร่างกายคนเราทั้งส้นิ และอาหารแตล่ ะชนิดมีรสชาติที่แตกต่างกัน ใน
การรับประทานอาหาร เราควรรับประทานอาหารท่ปี รงุ เสร็จใหมๆ่ และเปน็ อาหารที่สะอาด การปรุงอาหารมีหลายวธิ ี เช่น ต้ม ผัด แกง ทอด เป็นตน้
มาตรฐานหลักสูตรปฐมวัย สภาพท่พี ึงประสงค์ จุดประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้
มาตรฐาน ตวั บ่งชี้ ประสบการสาคัญ สาระทีค่ วรเรียนรู้
มาตรฐานที่ 1 รา่ งกาย 1.3 รกั ษาความ 1.3.๑ เล่นและทา 1. เล่นและทา 1.1.4 การรกั ษาความปลอดภัย ๑. สมาชกิ ในครอบครวั (เครือญาต)ิ
เจริญเติบโตตามวัยและ ปลอดภยั ของตนเองและ กิ จ ก ร ร ม อ ย่ า ง กิจกรรมอย่าปลอดภยั (๑) การปฏิบัตติ นให้ปลอดภยั ๒. จานวนสมาชิกในครอบครัว
มีสขุ นสิ ยั ที่ดี ผู้อ่ืน ปลอดภยั ได้ด้วยตนเอง ในชวี ติ ประจาวนั ๓. บทบาทหน้าทีส่ มาชิกใน
ดว้ ยตนเอง (๓) การเลน่ เครื่องเล่นอย่าง ครอบครวั
ปลอดภัย ๔. การปฏิบัติตนตอ่ บคุ คลใน
ครอบครัว
๕. อาชีพของบุคคลในครอบค1.
อาหารหลกั 5 หมู่
2. อาหารแตล่ ะชนดิ มรี สชาตทิ ่ี
แตกต่างกัน เช่น ขม หวาน เปรย้ี ว
เคม็ เผด็
3. สขุ นิสัยและมารยาทที่ดใี นการ
รับประทานอาหาร
4. ประโยชนข์ องอาหาร
5. วิธกี ารประกอบอาหาร เชน่ ตม้
ผดั แกง ทอด
มาตรฐานหลักสตู รปฐมวัย จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้
มาตรฐาน ตวั บ่งชี้ สภาพทพ่ี งึ ประสงค์ ประสบการสาคัญ สาระที่ควรเรยี นรู้
มาตรฐานที่ 2 ๒.๑ เคลอื่ นไหวร่างกาย 2.1.4 รับลูกบอลโดย ๒. กระโดดขาเดียวอยู่ 1.1.1 การใชก้ ลา้ มเนอ้ื ใหญ่ 6. การประกอบอาหารต้มจืดเต้าหู้
หมสู ับ
กลา้ มเน้ือใหญ่และ อยา่ งคลอ่ งแคล่ว ใช้มอื ทั้ง 2 ข้าง กับทีได้โดยไม่เสียการ (4) การเคล่ือนไหวท่ีใช้ 7. การจาแนกและจดั กลุ่มอาหาร
แตล่ ะชนิดออกเป็นหมู่
กลา้ มเน้อื เล็กแขง็ แรง ประสานสัมพันธ์และ ทรงตวั ประสานสมั พนั ธ์ของการใช้ 8. การเรยี งลาดบั สงิ่ ของหรือ
เหตกุ ารณ์
ใช้ได้คล่องแคล่วและ ทรงตัวได้ 2.2.1.ใชก้ รรไกรตัด ๓ . ใช้ ก ร ร ไก ร ตั ด กลา้ มเน้ือใหญ่ 9. นบั ปากเปลา่ 1 – 10
10. นบั และแสดงจานวน 3
ประสานสมั พันธก์ นั 2.2 ใช้มอื -ตา กระดาษตามแนว ก ร ะ ด า ษ ต า ม แ น ว ในการขวา้ ง การจับ การโยน 11. จบั คแู่ ละเปรียบเทยี บรวั
ประสานสมั พันธ์กนั เส้นตรงได้ เสน้ ตรงได้ การเตะ
1.1.2 การใชก้ ล้ามเนื้อเลก็
(5) การหยบิ จับ การใช้
กรรไกรการฉีก การตัด การ
ปะ และการร้อยวสั ดุ
มาตรฐานหลกั สตู รปฐมวัย จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้
มาตรฐาน ตวั บ่งช้ี สภาพทีพ่ ึงประสงค์ ประสบการสาคญั สาระท่คี วรเรยี นรู้
มาตรฐานที่ 3
มีสุขภาพจติ ทด่ี แี ละมี 3.2 มคี วามรูส้ กึ ทด่ี ตี อ่ 3.2.1 กลา้ พูดกล้า 4. กล้าพดู 1.4.1 การใชภ้ าษา
ความสุข ตนเองและผู้อ่ืน แสดงออกอยา่ ง กล้าแสดงออกอย่าง (๔) การพูดแสดงความคดิ เหน็
เหมาะสมบาง เหมาะสมไดบ้ าง ความรสู้ ึกและความต้องการ
มาตรฐานที่ 4 สถานการณ์ สถานการณ์ (6) การพูดอธบิ ายเกย่ี วกับ
ช่ืนชมและแสดงออก สง่ิ ของ
ทางศลิ ปะดนตรแี ละ 4.1 สนใจมคี วามสขุ 4.1.1 สนใจมี 5. สนใจมีความสขุ เหตกุ ารณ์ และความสัมพนั ธ์
การเคลอ่ื นไหว และแสดงออกผ่าน ความสุขและ และแสดงออกผ่าน ของส่ิงตา่ งๆ
งานศลิ ปะ ดนตรีและ แสดงออกผา่ นงาน งานศลิ ปะ
การเคลอ่ื นไหว ศลิ ปะ 6.สนใจ มีความสุข 1.4.3 จนิ ตนาการและ
4.1.3 สนใจ มี และแสดงท่าทาง ความคิดสรา้ งสรรค์
ความสุข เคล่อื นไหวประกอบ (2) การแสดงความคดิ
และแสดงท่าทาง/ เพลง จงั หวะ สรา้ งสรรคผ์ า่ น
เคล่อื นไหวประกอบ ดนตรี คาสั่ง คา สอื่ วัสดตุ า่ งๆผา่ นภาษาทา่ ทาง
เพลง จงั หวะและ บรรยายได้ การเคลอ่ื นไหวและศลิ ปะ
ดนตรี
๑.๒.๔ การแสดงออกทาง
อารมณ์
(2) การเลน่ บทบาทสมมุติ
(๕) การทางานศลิ ปะ
1.1.2 การใชก้ ลา้ มเนื้อเลก็
(2) การเขียนภาพและการ
เล่นกับสี
(3) การป้นั
มาตรฐานหลักสตู รปฐมวัย จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ สาระการเรียนรู้
ประสบการสาคญั
มาตรฐาน ตัวบ่งช้ี สภาพทีพ่ งึ ประสงค์ สาระท่ีควรเรยี นรู้
มาตรฐานท่ี 6 6.1 ชว่ ยเหลอื ตนเอง 6.1.2 รับประทาน 7. รบั ประทานอาหาร 1.1.1 การใชก้ ล้ามเนอ้ื ใหญ่
มีทักษะชวี ติ และ ในการปฏิบัติกจิ วตั ร อาหารด้วยตนเอง ดว้ ยตนเองได้ (1) การเคลื่อนไหวอยกู่ ับท่ี
ปฏบิ ัตติ นตามหลกั ประจาวัน (2) การเคลื่อนไหวเคลื่อนที่
ปรชั ญาของ (3) การเคล่ือนไหวพรอ้ มวสั ดุอปุ กรณ์
เศรษฐกิจพอเพยี ง 1.4.1 การใชภ้ าษา
(3) การฟังเพลง นิทาน คาคล้องจอง
บทร้อยกรองหรือเร่อื งราวต่างๆ
1.2.1 สุนทรภี าพ ดนตรี
(1) การฟังเพลง การรอ้ งเพลง และ
การแสดงปฏกิ ิริยาโต้ตอบเสียงดนตรี
(3) การเคลื่อนไหวตามเสยี งเพลง/
ดนตรี
(4) การเล่นบทบาทสมมตุ ิ
1.4.3 จินตนาการและความคดิ
สร้างสรรค์
(2) การแสดงความคดิ สร้างสรรค์ผา่ น
สือ่ วสั ดตุ า่ งๆผา่ นภาษาท่าทางการ
เคลอ่ื นไหวและศิลปะ
1.3.1 การปฏิบตั ิกจิ วัตรประจาวนั
(1) การชว่ ยเหลือตนเองในกจิ วัตร
ประจาวัน
มาตรฐานหลักสตู รปฐมวัย จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้
มาตรฐาน ตวั บง่ ชี้ สภาพท่ีพึงประสงค์ ประสบการสาคญั สาระท่คี วรเรยี นรู้
มาตรฐานท่ี 8 อยู่ 8.2 มีปฏิสัมพันธ์ทดี่ ี 8.2.1 เลน่ หรอื 8. เล่นหรือทางาน 1.2.2 การเลน่
รว่ มกบั ผอู้ ่ืนไดอ้ ยา่ ง กบั ผูอ้ นื่ ทางาน รว่ มกับเพ่ือนเป็นกลุ่ม (1) การเลน่ อสิ ระ
มีความสขุ และปฏิบัติ รว่ มกับเพื่อนเปน็ กลุ่ม ได้ (3) การเล่นตามมมุ
ตนเปน็ สมาชกิ ทด่ี ี 8.3 ปฏบิ ัติตน ประสบการณ/์ มมุ เลน่ ตา่ ง ๆ
ของสงั คมในระบอบ เบอ้ื งต้นในการเป็น 8.3.2 ปฏิบตั ติ นเป็น 9. ปฏบิ ัตติ นเปน็ ผูน้ า 1.3.5 การเลน่ และทางาน
ประชาธปิ ไตย อันมี สมาชิกที่ดขี องสงั คม ผนู้ าและผตู้ ามได้ด้วย และผู้ตามไดด้ ้วย แบบรว่ มมือรว่ มใจ
พระมหากษัตริย์ทรง ตนเอง ตนเอง (๒) การเล่นและการทางาน
เป็นประมขุ รว่ มกับผอู้ นื่
1.3.4 การมปี ฏิสมั พนั ธ์ มี
วินัย มีส่วนรว่ มและบทบาท
สมาชกิ ของสงั คม
(2) การปฏบิ ัติตนเป็นสมาชิก
ท่ดี ขี องและสังคม
มาตรฐานท่ี 10 10.1 มีความสามารถใน 10.1.1 บอกลกั ษณะ 10. บอกลกั ษณะและ 1.4.2 การคิดรวบยอด การ
มีความสามารถในการ การคิดรวบยอด และส่วนประกอบของ ส่วนประกอบของสิ่ง คดิ เชงิ เหตุผล การตดั สนิ ใจ
คิดท่ี สิ่งตา่ งๆจากการ ตา่ งๆจากการสงั เกต และแก้ปัญหา
เป็ น พื้ น ฐ า น ใน ก า ร สังเกตโดย โดยใชป้ ระสาทสัมผัส (1) การสังเกตลักษณะ
เรียนรู้ ใช้ประสาทสัมผสั ส่วนประกอบการเปลี่ยนแปลง
และความสมั พันธ์ของ
สงิ่ ตา่ งๆโดยใชป้ ระสาทสัมผสั
อยา่ งเหมาะสม
มาตรฐานหลักสูตรปฐมวัย จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้
มาตรฐาน ตัวบ่งชี้ สภาพทพ่ี งึ ประสงค์ ประสบการสาคญั สาระท่ีควรเรียนรู้
10.1.2 จับคแู่ ละ 12. จบั คูแ่ ละ 1.4.2 การคดิ รวบยอด การคิดเชิง
เปรียบเทยี บความ
แตกตา่ งหรือความ เปรยี บเทียบความ เหตผุ ล การตัดสินใจและแกป้ ัญหา
เหมอื นของส่งิ ต่างๆ
โดยใชล้ ักษณะที่ แตกต่างหรือความ (13) การจบั คู่ การเปรียบเทียบ
สงั เกตพบ
เพยี งลักษณะเดยี ว เหมือนของสง่ิ ต่างๆได้ และ
การเรยี งลาดับส่งิ ต่างๆตามลักษณะ
11. จาแนกและจัด ความยาว/ความสงู นา้ หนกั ปรมิ าตร
กลมุ่ อาหารได้ (6) การต่อของชน้ิ เลก็ เติมในช้นิ ใหญ่
ใหส้ มบรู ณ์ และการแยกช้นิ ส่วน
10.1.3 จาแนกและ 13. ประกอบอาหาร 1.4.2 การคดิ รวบยอด การคิดเชิง
จดั กลุ่มสิ่งต่างๆ โดย
ใช้ตงั้ แต่สองลักษณะ ต้มจืดเต้าห้สู บั เหตุผล การตดั สินใจและแก้ปัญหา
ขึน้ ไปเป็นเกณฑ์
ตามลาดบั ข้นั ตอนได้ (5) การคดั แยก การจัดกล่มุ และ
14. เรียงลาดับสง่ิ ของ การจาแนกสิ่งต่างๆ ตามลักษณะ
หรือเหตกุ ารณไ์ ด้อยา่ ง และรปู รา่ งรูปทรง
10.1.4 เรยี งลาดับ นอ้ ย 4 ลาดับ 1.4.2 การคดิ รวบยอด การคิดเชงิ
ส่ิงของหรือเหตุการณ์
อยา่ งน้อย 4 ลาดับ เหตผุ ล การตัดสนิ ใจและแก้ปัญหา
(14) การบอกและเรียงลาดบั
กจิ กรรมหรือเหตุการณ์ตามช่วงเวลา
1.3.3 การปฏบิ ตั ิตามวฒั นธรรม
ท้องถ่นิ และความเป็นไทย
(3) การประกอบอาหารไทย
การวางแผนกิจกรรมรายหน่วย การจัดประสบการณ์
หน่วยที่ 6 อาหารดีมปี ระโยชน์ ช้นั อนุบาลปีที่ 2
โรงเรียนประชาสามคั คี สานกั งานเขตพ้นื ท่ีการศึกษาประถมศึกษาสรุ ินทร์เขต ๓
วันท่ี เคลอ่ื นไหวและจังหวะ กจิ กรรม
เสริมประสบการณ์ ศิลปะสร้างสรรค์ การเลน่ ตามมมุ การเล่นกลางแจ้ง เกมการศึกษา
เล่นเครอื่ งเล่นสนาม
1 - เคล่ือนไหวพื้นฐาน -เดก็ นาเสนออาหารท่ี -ระบายสีภาพอาหาร -เล่นมุม เกมจาแนกอาหารหลัก
5 หมู่
- การปฏบิ ัติตนเป็น เตรยี มมาจากบ้าน หลัก 5 หมู่ ประสบการณ์ใน
ผ้นู าผูต้ าม -สนทนาเกยี่ วกับอาหาร -ทาสมุดภาพรปู ผลไม้ ห้องเรยี น
หลกั 5 หมู่
-ครูนาแกงจืดตาลงึ หมู
สับใหเ้ ดก็ แยกสว่ นประกอบตาม
อาหารหลกั 5 หมู่
2 - การเคลอ่ื นไหว - เดก็ ชมิ อาหารชนดิ -พมิ พภ์ าพด้วยน้วิ มอื เลน่ มมุ เลน่ เกมอาหารรวมกลุ่ม เกมบิงโกอาหารหลัก
-ทาสมดุ ภาพรปู ผกั ประสบการณ์ใน 5 หมู่
พื้นฐาน ตา่ ง ๆ คอื นา้ ซุปต้ม
หอ้ งเรียน
- การปฏิบัติตามคาสงั่ มะระ น้าเช่ือม นา้ เกลือ
พริกไทย และน้ามะนาว
-สนทนาสรปุ เก่ยี วกับ
รสชาติของอาหาร
3 - การเคลื่อนไหว -สนทนามารยาทในการ -พบั สี เล่นมุม เลน่ โยนบอล รบั บอล เกมภาพตัดต่อมารยาท
-ปั้นดินน้ามัน ประสบการณ์ใน ในการรบั ประทาน
พืน้ ฐาน รับประทานอาหาร หอ้ งเรยี น อาหาร
- ทาทา่ ทางตาม -แสดงบทบาทสมมตุ ิ
จนิ ตนาการประกอบคา เก่ียวกบั มารยาทในการรับประทาน
บรรยาย อาหาร
-จาแนกกลุ่มจัดทาแผนภมู ิสขุ นิสัย
และมารยาททีด่ ีและไม่ดใี นการ
รบั ประทานอาหาร
วนั ที่ กิจกรรม
เคลือ่ นไหวและจงั หวะ เสรมิ ประสบการณ์
ศิลปะสร้างสรรค์ การเล่นตามมมุ การเลน่ กลางแจง้ เกมการศึกษา
4 - การเคล่ือนไหว -วทิ ยากรบรรยาย เลน่ เกมปิดตาหาเพ่ือน
พื้นฐาน ประโยชน์ของอาหาร -วาดภาพดว้ ยสีน้า เลน่ มมุ เกมเรยี งลาดับ
- การเคล่อื นไหว -อภปิ รายเกี่ยวกบั -ตัดภาพทา ประสบการณ์ใน เหตุการณ์
ประกอบอปุ กรณ์ ประโยชนข์ องอาหาร เมนอู าหาร หอ้ งเรียน
5 -เคลื่อนไหวพ้ืนฐาน -นาภาพอาหารที่ -วาดภาพการทาต้ม เล่นมมุ -เล่นน้า เลน่ ทราย เกมจาแนกอาหารตาม
จดื ประสบการณ์ใน วธิ ีการประกอบอาหาร
- การเคลอ่ื นไหวหลบ ประกอบอาหารดว้ ย เตา้ หหู้ มสู บั หอ้ งเรยี น
-หยดสี
ส่งิ กดี ขวาง วิธกี าร ต้ม ผดั แกง
ทอด ใหเ้ ด็กดู
-สนทนาถงึ วธิ กี าร
ประกอบอาหาร
-ลงมอื ประกอบอาหาร
ต้มจดื เตา้ หูห้ มสู ับตาม
ขัน้ ตอน
ผังความคิดแผนการจดั ประสบการณ์ หน่วยที่ 6 อาหารดีมีประโยชน์ ชน้ั อนบุ าลปีท่ี ๒
1.กิจกรรมเคลื่อนไหวและจงั หวะ ๒. กิจกรรมเสริมประสบการณ์ ๓. กิจกรรมศลิ ปะสรา้ งสรรค์
1. การปฏิบตั ิตนเป็นผนู้ าผู้ตาม 1. อาหารหลัก 5 หมู่ 1. ระบายสีภาพอาหารหลัก 5 หมู่ ทาสมุด
2. การเคล่ือนไหวตามคาส่ัง 2. รสชาติของอาหาร ภาพรูปผลไม้
3. การทาทา่ ทางตามจินตนาการ 3. สขุ นิสยั และมารยาทในการรับประทานอาหาร 2. พมิ พ์ภาพดว้ ยนิว้ มือ ทาสมุดภาพรปู ผกั
ประกอบ 4. ประโยชน์ของอาหาร 3. พบั สี ปั้นดนิ น้ามนั
คาบรรยาย 5. วิธกี ารประกอบอาหาร 4. ภาพด้วยสีนา้ ตัดภาพทาเมนอู าหาร
4. การเคลอ่ื นไหวประกอบอุปกรณ์ 6. การประกอบอาหารต้มจืดเต้าหู้หมสู ับ 5. วาดภาพการทาตม้ จืดเต้าหหู้ มสู บั หยดสี
5. การเคลอ่ื นไหวหลบสิ่งกีดขวาง
๔. กจิ กรรมเล่นตามมุม หนว่ ย ๖. กิจกรรมเกมการศึกษา
การเล่นตามมุมประสบการณ์ อาหารดมี ปี ระโยชน์
ชัน้ อนบุ าลปที ่ี 2 1. เกมจาแนกอาหารหลกั 5 หมู่
2. เกมบงิ โกอาหารหลัก 5 หมู่
๕. กิจกรรมการเลน่ กลางแจ้ง 3. เกมภาพตดั ต่อมารยาทในการรบั ประทานอาหาร
4. เกมเรยี งลาดบั เหตุการณ์
1. การเลน่ เครอื่ งเล่นสนาม 5. เกมจาแนกอาหารตามวิธกี ารประกอบอาหาร
2. การเลน่ เกมอาหารรวมกลุ่ม
3. การเลน่ โยนบอล รับบอล
4. การเลน่ เกมปดิ ตาหาเพอ่ื น
5. การเลน่ นา้ เล่นทรายเลน่ เครอ่ื ง
เลน่ สนาม
แผนการจัดประสบการณ์รายวัน วนั ท่ี 1 หนว่ ย อาหารดมี ปี ระโยชน์ ช้นั อนบุ าลปีท่ี 2
โรงเรียนประชาสามัคคี สานกั งานเขตพื้นทก่ี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาสรุ นิ ทรเ์ ขต ๓
จุดประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สอื่ การประเมนิ
พัฒนาการ
การเรยี นรู้ ประสบการณส์ าคัญ สาระท่ีควรเรยี นรู้
สังเกต
กจิ กรรมเคล่ือนไหว (2) การปฏบิ ตั ติ น 1. กจิ กรรมเคล่อื นไหวพื้นฐาน ใหเ้ ด็กเคลอ่ื นไหว เครื่องเคาะจงั หวะ การปฏิบตั ติ นเป็น
รา่ งกายไปท่วั บรเิ วณอย่างอิสระตามจังหวะ ผู้นาผตู้ าม
และจังหวะ เป็นสมาชิกทด่ี ขี อง เมอื่ ได้ยนิ สัญญาณหยดุ ให้หยดุ เคล่อื นไหวใน 1. อาหารของจริง
ท่านั้นทนั ที หมทู่ ่ี 1 ได้แก่ นม สังเกต
ปฏิบัติตนเป็นผู้นาและ และสังคม 2. เด็กออกเป็น 2 กลุ่ม แต่ละกลุ่มยนื เปน็ วงกลม เนื้อหมู ไข่ -การจาแนกและจัด
หันหนา้ เข้ากลางวงแล้วเลือกอาสาสมัครของ หมู่ที่ 2 ขา้ ว แป้ง กลุ่มอาหาร
ผ้ตู ามได้ด้วยตนเอง แต่ละวงออกมายืนตรงกลางเปน็ ผู้นาทาทา่ ทาง ขนมปัง
ตามจงั หวะที่ครเู คาะ ให้เด็กอื่นทาตามผ้นู าของ หมู่ท่ี 3 กะหลา่ ปลี
กิจกรรมเสรมิ (5) การคัดแยก 1. อาหารหลัก 5 ตนเมือ่ ไดย้ นิ สญั ญาณหยุดให้ผนู้ าทัง้ 2 กลบั ไป ผักบงุ้ แครอท
ประสบการณ์ การจัดกลุม่ และ หมู่ ที่เดมิ หมนุ เวยี นใหเ้ ด็กอนื่ ออกมาเป็นผ้นู าทา หมทู่ ่ี 4 ส้ม กลว้ ย
-จาแนกและจดั กล่มุ การจาแนกสง่ิ ตา่ งๆ หมู่ 1 เนอ้ื สัตว์ ไข่ ท่าทางบ้าง แอปเปลิ้
อาหารได้ ตามลักษณะและ ถว่ั นม หมทู่ ี่ 5 นา้ มันพืช
รปู ร่าง รูปทรง หมู่ 2 ข้าว แปง้ 1. เด็กนาอาหารมาจากบา้ นคนละ 1 ชนดิ มา
นา้ ตาล เผือก มนั นาเสนอให้เพื่อนฟงั ว่าช่อื อาหารอะไร
หมู่ 3 ผักต่างๆ 2. ครูนาอาหารของจริงมาวางไว้ 5 กอง กองละ
หมู่ 4 ผลไมต้ า่ งๆ ละ 3 ชนดิ พรอ้ มให้เด็กช่วยกนั นับวา่ อาหารแต่
หมู่ 5 ไขมนั จาก ละกองมีจานวนเท่าไร สนทนาเก่ียวกบั อาหาร
สตั ว์และพืช แตล่ ะหมู่ วา่ แตล่ ะหมมู่ อี ะไรบา้ ง
2. นบั และแสดง 3. ครนู าแกงจดื ตาลึงหมูสับมาแยกสว่ นประกอบ
จานวน 3 ออกตามอาหารหลกั 5 หมู่ให้เดก็ ดู คือ ตาลงึ
เปน็ ผักใหเ้ กลอื แร่และวติ ามิน วุ้นเส้นเปน็ แปง้ ให้
คารโ์ บไฮเดรต หมูเป็นเน้ือสตั วใ์ ห้โปรตีน
จุดประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมิน
การเรียนรู้ ประสบการณ์สาคญั สาระทคี่ วรเรยี นรู้ พัฒนาการ
กระเทียมเจียวมนี ้ามันให้ไขมัน จากน้นั ใหเ้ ดก็ ๆ เนย กะทิ
กจิ กรรมศลิ ปะ (๕) การทางาน ทดลองแยกส่วนประกอบของอาหารทเ่ี ด็กนามา 2. ภาพอาหารหลัก สังเกต
สร้างสรรค์ ศลิ ปะ ออกตามอาหารหลกั 5 หมู่ ทง้ั 5 หมู่ การใช้กรรไกรตัด
ใชก้ รรไกรตดั กระดาษ (2) การเขยี นภาพ 4. ครนู าแผนภาพอาหารหลัก 5 หมู่ใหเ้ ด็กดู กระดาษตามแนว
ตามแนวเสน้ ตรงได้ และการเล่นกับสี บอกเด็กว่าในแตล่ ะหมู่มีอาหารชนิดใดบ้าง และมี 1. กระดาษ A4 เสน้ ตรง
(5) การหยบิ จับ ประโยชนอ์ ย่างไร 2. ภาพ อาหารหลัก
การใช้กรรไกร 5 หมู่
การฉีก การตัด 1. ครเู ตรยี มอปุ กรณก์ ิจกรรม 2 กิจกรรม ไดแ้ ก่ 3. สไี ม้
การปะ และการ ระบายสภี าพอาหารหลัก 5 หมู่ การทาสมุดภาพรูป 4. กระดาษสี
ร้อยวัสดุ ผลไม้ 5. กาว
2. ครแู นะนากิจกรรมใหม่ “การทาสมดุ ภาพรปู 6. รูปผลไม้
ผลไม”้ 7. กรรไกร
3. ใหเ้ ด็กเลอื กทากิจกรรมสร้างสรรค์ 1-2
กจิ กรรมตามความสนใจ
4. เดก็ ร่วมกนั เก็บอปุ กรณแ์ ละส่งผลงานพรอ้ ม
เล่าผลงาน
จดุ ประสงค์ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ ส่อื การประเมิน
การเรยี นรู้ พัฒนาการ
ประสบการณส์ าคญั สาระทค่ี วรเรยี นรู้ 1. เด็กเลอื กกิจกรรมเสรตี ามมมุ ประสบการณ์
กิจกรรมเลน่ ตามมมุ ตามความสนใจ เชน่ - มมุ ประสบการณ์ใน สงั เกต
เลน่ หรือทางานรว่ มกับ (1) การเล่นอิสระ - มมุ ธรรมชาตศิ กึ ษา - มุมหนังสอื
เพ่อื นเปน็ กลมุ่ ได้ (3) การเล่นตามมมุ - มมุ บล็อก - มมุ เกมการศึกษา ห้องเรยี น การเลน่ ร่วมกบั เพือ่ น
ประสบการณ/์ มมุ - บทบาทสมมติ - มมุ เครือ่ งเล่นสมั ผสั
กิจกรรมกลางแจง้ เลน่ ต่าง ๆ 2. เมอ่ื หมดเวลาเดก็ เก็บของเขา้ ทใ่ี หเ้ รียบรอ้ ย เป็นกล่มุ
เลน่ และทากิจกรรม (๒) การเลน่ และ
อย่างปลอดภัยด้วย การทางานร่วมกบั 1. ครูแนะนาข้อตกลงในการเล่นเคร่อื งเล่นสนาม เครื่องเลน่ สนาม สงั เกต
ตนเอง ผู้อื่น แต่ละชนดิ พรอ้ มท้ังแนะนาวธิ กี ารเลน่ อยา่ ง การเล่นอยา่ ง
(1) การปฏบิ ตั ิตน ปลอดภยั ปลอดภัยดว้ ยตนเอง
เกมการศกึ ษา ใหป้ ลอดภยั ใน 2. เดก็ เลน่ เครอื่ งเลน่ สนามโดยมคี รดู แู ลอย่าง
จาแนกและจดั กลุม่ กิจวตั รประจาวนั ใกลช้ ิด
อาหารได้ (3) การเล่นเครือ่ ง 3. เมอื่ ครใู หส้ ัญญาณหมดเวลาใหเ้ ด็กเขา้ แถว
เล่นอย่างปลอดภยั และทาความสะอาดรา่ งกาย
1. ครูแนะนาเกมจาแนกอาหารหลัก 5 หมู่
(5) การคัดแยก การจาแนกและ 2. แบง่ เด็กเปน็ 5 กลมุ่ ให้เด็ก 1 กลมุ่ รบั เกมท่ี 1. เกมจาแนกอาหาร สงั เกต
การจัดกล่มุ และ จดั กลุม่ อาหาร แนะนาไปเล่น กลุม่ อนื่ ๆ เลน่ เกมการศกึ ษาชุด
การจาแนกสิ่งตา่ งๆ เดิม หลกั 5 หมู่ -การจาแนกและ
ตามลักษณะและ 3. เด็กเล่นเกมโดยหมนุ เวียนสลับเปล่ยี นกันใน
รูปร่าง รปู ทรง แต่ละกลมุ่ โดยทกุ กลุ่มได้เลน่ เกมจาแนกอาหาร 2. เกมการศกึ ษาชดุ จัดกลุ่มอาหาร
หลกั 5 หมู่
4. ครใู ห้สัญญาณหมดเวลา เดก็ เกบ็ เกม เดิม
การศึกษา
แผนการจดั ประสบการณร์ ายวนั วนั ท่ี 2 หนว่ ยอาหารดมี ีประโยชน์ ช้นั อนบุ าลปีที่ 2
โรงเรยี นประชาสามัคคี สานกั งานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศกึ ษาสุรินทร์เขต ๓
จดุ ประสงค์ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอื่ การประเมนิ
พัฒนาการ
การเรยี นรู้ ประสบการณ์สาคญั สาระที่ควรเรียนรู้
กิจกรรมเคลอ่ื นไหว (1) การเคล่ือนไหว 1. กิจกรรมเคลื่อนไหวพนื้ ฐาน ให้เด็กเคลือ่ นไหว เครอ่ื งเคาะจังหวะ สงั เกต
เคาะจังหวะ อย่กู บั ที่ ร่ า ง ก า ย ไป ท่ั ว บ ริ เว ณ อ ย่ า ง อิ ส ร ะ ต า ม จั ง ห ว ะ เมื่ อ ได้ ยิ น
สนใจ มีความสุข และ (2) การเคล่ือนไหว สัญญาณหยุด ให้หยุดเคลอ่ื นไหวในทา่ นัน้ ทนั ที การแสดงพฤตกิ รรม
แ ส ด ง ท่ า ท า ง เคลือ่ นท่ี 2. สมมตุ ิ 3 มมุ ในห้องเรียนเปน็ สวนผลไม้ ความสนใจ
เคล่ือนไหว (4) การเลน่ สวนผกั เล้าไก่ มีความสขุ และแสดง
ประกอบเพลง จงั หวะ บทบาทสมมุติ 3. ให้เด็กสมมุติตนเองเป็นไข่เคลื่อนไหวตามจังหวะเม่ือได้ ทา่ ทางเคล่อื นไหว
ด น ต รี ค า สั่ ง ค า ยนิ สัญญาณหยุดให้หยุดเคล่ือนไหวแล้วฟังคาส่ังจากครู เช่น ประกอบคาสั่ง
บรรยายได้ ถ้าครูพูดว่าจะรับประทานส้มหรือไปเก็บมะม่วง ให้ทุกคน
เข้าไปนั่งในมมุ สวนผลไม้ ถา้ ครพู ูดวา่ ไปเกบ็ ผักบงุ้ หรอื
ไปปลูกผักคะน้าให้ทุกคนเข้าไปน่ังในมุมสวนผักถ้าครูว่าไป
เก็บไข่หรือทาเสยี งร้องไก่ ใหท้ ุกคนเข้าไปนั่งในมุมเล้าไก่
4. ใหเ้ ด็กทากจิ กรรมในข้อ 2 ซ้าอีก 2-3 ครง้ั
กิจกรรมเสรมิ (1) การสงั เกต รสชาตขิ องอาหาร 1. เดก็ และครูสนทนาเก่ียวกบั รสชาตอิ าหาร 1. นา้ ซุปต้มมะระ สังเกต
ประสบการณ์ ลักษณะ เชน่ ขม หวาน ต่างๆ ทเี่ ด็กเคยรับประทาน 2. นา้ เชอื่ ม การบอกรสชาติ
บอกลกั ษณะและ สว่ นประกอบ การ เปรยี้ ว เคม็ เผด็ 2. เด็กๆ ชมิ อาหารชนดิ ต่างๆ ท่คี รูนามา คือ น้า 3. นา้ เกลอื อาหารทช่ี ิม
สว่ นประกอบของสงิ่ เปลย่ี นแปลง และ ซุปต้มมะระ น้าเช่ือม นา้ เกลอื พรกิ ไทย และนา้ มะนาว 4. พรกิ ไทย
ต่างๆจากการสังเกต ความสัมพนั ธข์ อง 3. เด็กๆ บอกรสชาติที่ตนเองได้ชิมว่ามีรสอะไรบ้าง และ 5. น้ามะนาว
โดย ส่ิงต่างๆโดยใช้ประสาท เมอ่ื ได้ชมิ รสชาติตา่ งๆ แล้วนึกถึงอาหารชนิดใด เช่น เคม็ นึก 6. ชอ้ นแจกเด็ก
ใชป้ ระสาทสัมผสั ได้ สัมผสั อยา่ งเหมาะสม ถึงเกลือ น้าปลาหวาน คนละ1คนั
นึกถงึ นา้ ตาล 7. ภาพอาหาร
4. เด็กและครสู รุปเกีย่ วกบั รสชาตขิ องอาหารว่ามี ชนิดตา่ ง ๆ เช่น
รสหวาน รสขม รสเคม็ รสเปร้ยี ว และรสเผด็ มะระอ้อย เกลอื
พริกไทย
จุดประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ
การเรยี นรู้ ประสบการณส์ าคัญ สาระท่ีควรเรยี นรู้ พฒั นาการ
1. กระดาษ A4
กิจกรรมศิลปะ (๕) การทางาน 5. ครูและเดก็ ร่วมกันสรปุ วา่ เม่ือชมิ รสชาตหิ วาน 2. สโี ปสเตอร์ สังเกต
สรา้ งสรรค์ ศิลปะ อาหารที่เรานึกถงึ คือ น้าตาล รสเปร้ียวคอื 3. กระดาษสี การใช้กรรไกรตัด
ใชก้ รรไกรตัด (2) การแสดง มะนาว รสเค็มคือเกลือ รสขมคอื มะระ รสเผ็ดคอื 4. กาว กระดาษตามแนว
กระดาษตามแนว ความคิดสร้างสรรค์ พริก และอาหารบางชนิดเราจะมีเครอื่ งปรุงไว้ 5. พู่พัน เสน้ ตรง
เส้นตรงได้ ผา่ นสื่อวัสดุต่างๆ สาหรบั ปรงุ รสอาหารให้อร่อยขึน้ ถูกปากเรามาก 6. จานสี
ผา่ นภาษาท่าทาง ขนึ้ เชน่ กว๋ ยเตีย๋ ว เคร่อื งปรุงทใ่ี ช้สาหรับปรงุ 7. รูปผกั
การเคลื่อนไหวและ อาหาร คอื นา้ ตาล น้าปลา พรกิ ป่น นา้ ส้มสายชู 8. กรรไกร
ศิลปะ
(2) การเขียนภาพ 1. ครูเตรยี มอปุ กรณ์กิจกรรม 2 กจิ กรรม ไดแ้ ก่
และการเล่นกบั สี การพมิ พภ์ าพด้วยนวิ้ มือ การทาสมดุ ภาพรปู ผัก
(5) การหยิบจับการใช้ 2. ครูแนะนากิจกรรมใหม่ “การทาสมุดภาพรปู ผัก”
กรรไกรการฉีก การตดั 3. ให้เดก็ เลอื กทากจิ กรรมสรา้ งสรรค์ 1-2
การปะ และ กจิ กรรมตามความสนใจ
การรอ้ ยวสั ดุ 4. เด็กรว่ มกนั เกบ็ อุปกรณ์และสง่ ผลงานพรอ้ ม
เล่าผลงาน
จุดประสงค์ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมิน
พฒั นาการ
การเรยี นรู้ ประสบการณ์สาคญั สาระท่คี วรเรียนรู้
กจิ กรรมเล่นตามมุม (1) การเลน่ อิสระ 1. เด็กเลอื กกจิ กรรมเสรีตามมมุ ประสบการณ์ - มุมประสบการณใ์ น สงั เกต
เ ล่ น ห รื อ ท า ง า น (3) การเล่นตามมมุ ตามความสนใจ เช่น
รว่ มกับ ประสบการณ/์ มุม - มมุ ธรรมชาตศิ ึกษา - มมุ หนังสอื ห้องเรยี น การเลน่ ร่วมกับ
เพอ่ื นเปน็ กลุ่มได้ เลน่ ตา่ ง ๆ - มมุ บล็อก - มมุ เกมการศกึ ษา
- บทบาทสมมติ - มมุ เครื่องเลน่ สัมผัส เพ่ือนเปน็ กลุม่
(๒) การเล่นและ 2. เมื่อหมดเวลาเดก็ เก็บของเข้าท่ีให้เรียบรอ้ ย
การทางานร่วมกับผอู้ ืน่
กิจกรรมกลางแจง้ (1) การปฏบิ ตั ติ น 1. ครูแนะนาขอ้ ตกลงในการเล่นเกมเกมอาหาร เกมอาหารรวมกลมุ่ สงั เกต
เล่นและทากจิ กรรม ให้ปลอดภัยใน รวมกลุ่ม พร้อมทั้งแนะนาวิธกี ารเลน่ อย่างปลอดภยั การเลน่ และทา
อย่างปลอดภยั ได้ดว้ ย กิจวตั รประจาวัน 2. แบง่ เดก็ ออกเปน็ 2 กลุ่ม โดยกลุ่มที่ 1 ช่ือต้ม กจิ กรรมอย่าง
ตนเอง (3) การเล่นเครอ่ื ง ยากงุ้ กล่มุ ที่ 2 ชอื่ ผัดไทย ปลอดภัย
เลน่ อยา่ งปลอดภัย 3. ครอู อกคาสง่ั “อาหารรวมกลุม่ 5 คน” ให้
กลุม่ ที่ 1 และกลุ่มที่ 2 รวมกนั ใหค้ รบ 5 คน
แลว้ นั่งลงและใน 5 คน ต้องมเี ด็กกลมุ่ ที่ 1 และ
กลุม่ ที่ 2 รวมกนั ถา้ เปน็ กลุ่มท่ี 1 ท้ังหมดหรือ
กลมุ่ ท่ี 2 ท้ังหมดถอื ว่าผดิ กตกิ าใหต้ ดั ออกจากเกม
5. เมื่อครใู ห้สัญญาณหมดเวลาเด็กเขา้ แถวและ
ทาความสะอาดรา่ งกาย
จุดประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ ส่อื การประเมนิ
พัฒนาการ
การเรยี นรู้ ประสบการณส์ าคัญ สาระทคี่ วรเรยี นรู้ 1. เกมบงิ โกอาหาร
หลัก 5 หมู่ สังเกต
กิ จ ก ร ร ม เ ก ม (13) การจบั คู่ การจับคู่และ 1. ครแู นะนาเกมบิงโกอาหารหลกั 5 หมู่ 2. เกมการศกึ ษาชดุ การจับค่แู ละ
เปรียบเทียบ 2. แบ่งเด็กเป็น 5 กลุ่ม ใหเ้ ด็ก 1 กลมุ่ รับเกมที่ เดิม เปรยี บเทียบความ
การศกึ ษา การเปรียบเทยี บ แนะนาไปเล่น กลมุ่ อน่ื ๆ เลน่ เกมการศึกษาชดุ เดมิ แตกตา่ งหรอื ความ
3. ใหเ้ ดก็ เก็บเกมการศกึ ษา เหมอื นของสิ่งต่างๆ
จับคแู่ ละเปรยี บเทียบ และการเรยี งลาดบั
ความแตกต่างหรือ สงิ่ ต่างๆตาม
ความ ลกั ษณะ ความยาว/
เหมือนของสง่ิ ต่างๆได้ ความสงู น้าหนัก
ปริมาตร
แผนการจัดประสบการณร์ ายวัน วันที่ 3 หน่วยอาหารดีมปี ระโยชน์ ชั้นอนุบาลปีที่ 2
โรงเรียนประชาสามคั คี สานกั งานเขตพ้นื ทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษาสรุ นิ ทร์เขต ๓
จดุ ประสงค์ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ ส่อื การประเมิน
พัฒนาการ
การเรียนรู้ ประสบการณส์ าคัญ สาระทคี่ วรเรียนรู้
สงั เกต
กิจกรรมเคลื่อนไหว (1)การเคล่ือนไหว 1. กจิ กรรมเคลอื่ นไหวพนื้ ฐาน ใหเ้ ดก็ เคล่ือนไหว เครอ่ื งเคาะจังหวะ การแสดงพฤติกรรม
รา่ งกายไปท่วั บริเวณอยา่ งอิสระตามจงั หวะ เมือ่ ความสนใจ มี
และจงั หวะ อยู่กับท่ี ไดย้ นิ สัญญาณหยุด ใหห้ ยดุ เคลอื่ นไหวในท่านั้น ความสุข และแสดง
ทันที ท่าทางเคลื่อนไหว
สนใจ มีความสุข และ (2)การเคลือ่ นไหว 2. ใหเ้ ด็กทาทา่ ทางตามจินตนาการโดยครู ประกอบคาบรรยาย
บรรยายวา่ “วนั นีเ้ ดก็ ๆจะต้องไปเกบ็ ผลไม้ใน
แ ส ด ง ท่ า ท า ง เคลอื่ นท่ี สวน จึงไปหยบิ ตะกร้าแล้วเดินข้ามท้องร่องเข้าไป
เกบ็ ผลไมใ้ ส่ตะกร้าทีละผล1,2,3,4,5,6,7,
เคลือ่ นไหว (2)การแสดง 8,9,10 เมอ่ื ได้ผลไม้ครบ 10 ผล ก็แบกขึ้นบ่า
เดินกลบั บา้ นดว้ ยความระมัดระวงั เมือ่ ถงึ บา้ นก็
ประกอบเพลง จงั หวะ ความคิดสรา้ งสรรค์ เหนื่อยค่อยๆวางตะกร้าลงแล้วไปอาบนา้ แตง่ ตัว
มานอนพกั ”
ด น ต รี ค า ส่ั ง ค า ผา่ นส่ือวัสดุต่างๆ
บรรยายได้ ผ่านภาษาทา่ ทาง
การเคลื่อนไหวและ
ศลิ ปะ
กิจกรรมเสริม (1) การชว่ ยเหลือ สขุ นิสยั และ 1. ท่องคาคล้องจอง อาหารมปี ระโยชน์ 1. คาคลอ้ งจอง สังเกต
2. ครนู าภาพสุขนิสัยท่ีดีและไม่ดีในการ อาหารมีประโยชน์ -ก า ร รั บ ป ร ะ ท า น
ประสบการณ์ ต น เอ ง ใ น กิ จ วั ต ร มารยาทในการ รบั ประทานอาหารมาให้ดู 2. รูปภาพมารยาท อาหารดว้ ยตนเอง
3. ครูสนทนากับเด็กว่าเวลารับประทานอาหาร และสขุ นสิ ัยที่ดี และ
รับประทานอาหารดว้ ย ประจาวัน รับประทานอาหาร เราควรปฏิบตั ติ นอย่างไร และไม่ควรปฏิบตั ิตน มารยาทและสขุ นิสยั
อย่างไร ที่ ไ ม่ ดี ใ น ก า ร
ตนเองได้ (2) การเลน่ 4. เดก็ ๆ จาแนกภาพมารยาททด่ี ใี นการ รับประทานอาหาร
รบั ประทานอาหาร 3. อปุ กรณ์ในการ
บทบาทสมมุติ รบั ประทานอาหาร
จดุ ประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ สอื่ การประเมนิ
การเรยี นรู้ ประสบการณ์สาคญั สาระทีค่ วรเรยี นรู้ พัฒนาการ
5. เด็กอาสาสมคั รออกมาแสดงบทบาทสมมตุ ิ 4.โต๊ะอาหาร และ
เก่ียวกบั มารยาทในการรบั ประทานอาหาร โดย อาหารต่างๆ
ให้เดก็ คนอืน่ ๆ สังเกตการปฏิบัตติ นตามมารยาท
ในการรบั ประทานอาหารว่ามคี วามถกู ต้องหรอื ไม่
6. ครแู ละเด็กชว่ ยกันสรุปสขุ นิสยั และมารยาทที่
ดีในการรับประทานอาหาร โดยการจาแนกภาพ
และจัดทาชาร์ตสุขนสิ ยั และมารยาทที่ดใี นการ
รับประทานอาหาร
กจิ กรรมศลิ ปะ (๕) การทางานศลิ ปะ 1. ครเู ตรียมอุปกรณ์กจิ กรรม 2 กจิ กรรม ไดแ้ ก่ 1. กระดาษ A4 สังเกต
การพบั สี และการป้ันดนิ น้ามนั รูปผลไม้ 2. สโี ปสเตอร์ 1. พฤตกิ รรมความ
สรา้ งสรรค์ (2) การเขยี นภาพ 2. ครแู นะนากิจกรรมใหม่ “การพับสี” 3. พกู่ นั สนใจมีความสุขและ
3. ใหเ้ ดก็ เลอื กทากิจกรรมสร้างสรรค์ 1-2 4. จานสี แสดงออกผ่านงานศลิ ปะ
1. สนใจมีความสขุ และ และการเล่นกบั สี กิจกรรมตามความสนใจ 5. ดนิ น้ามนั 2. การกลา้ แสดงออก
4. เดก็ ร่วมกนั เก็บอุปกรณแ์ ละส่งผลงานพร้อม 6. กระดานรองปั้น ในการเลา่ เรื่องเพ่อื
แ ส ด งอ อ ก ผ่ าน งาน (3) การปนั้ เล่าผลงาน นาเสนอผลงาน
ศลิ ปะ (๔) การพูดแสดง 1. เด็กเลือกกจิ กรรมเสรีตามมมุ ประสบการณ์
ตามความสนใจ เช่น
2. กล้าพูด กลา้ ความคิดเหน็ - มุมธรรมชาตศิ กึ ษา - มมุ หนังสอื
- มมุ บลอ็ ก - มุมเกมการศึกษา
แสดงออกอย่าง ความรสู้ กึ และ - บทบาทสมมติ - มมุ เครื่องเลน่ สมั ผัส
2. เมื่อหมดเวลาเด็กเกบ็ ของเขา้ ทใี่ ห้เรยี บรอ้ ย
เหมาะสมบาง ความต้องการ
สถานการณ์
กิจกรรมเลน่ ตามมมุ (3) การเลน่ ตามมมุ - มุมประสบการณใ์ น สังเกต
เล่นหรือทางานรว่ มกับ ประสบการณ/์ มมุ ห้องเรยี น การเล่นร่วมกับ
เพ่อื นเป็นกลุ่มได้ เลน่ ต่าง ๆ เพื่อนเปน็ กลุ่ม
(๒) การเล่นและ
การทางานรว่ มกบั
ผู้อ่นื
จุดประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ส่อื การประเมิน
พฒั นาการ
การเรียนรู้ ประสบการณ์สาคัญ สาระที่ควรเรยี นรู้ 1. ครูแนะนาขอ้ ตกลงในการเลน่ เกมโยนบอล รับ
บอล พร้อมท้ังแนะนาวธิ ีการเล่นอยา่ งปลอดภัย
กจิ กรรมกลางแจ้ง (4) การเคลอื่ นไหว 2. แบ่งเดก็ ออกเปน็ 2 ฝ่ายเท่าๆ กนั ใหฝ้ ่ายท่ี 1 เกมโยนบอล รับบอล สงั เกต
โยนลูกบอลให้ฝา่ ยตรงข้าม ถ้าฝ่ายตรงขา้ มรับ การรบั ลูกบอลโดยใช้
-รับลูกบอลโดยใช้มือ ทใี่ ชป้ ระสาน บอลได้แสดงวา่ ได้ 1 คะแนน มอื ทง้ั สองข้าง
3. สลบั กนั โยนลกู บอลจนครบ 10 ลกู ทีมใดรับ
ท้งั สองขา้ งได้ สัมพนั ธข์ องการใช้ ไดม้ ากกว่าถอื วา่ ชนะ
4. เมื่อครใู หส้ ญั ญาณหมดเวลาเดก็ เขา้ แถวและ
กล้ามเนือ้ ใหญ่ ใน ทาความสะอาดรา่ งกาย
การขวา้ ง การจบั
การโยน การเตะ
กจิ กรรมเกม (6) การต่อของชิน้ การนาช้นิ สว่ นของ 1. ครูแนะนาเกมภาพตดั ต่อมารยาทในการ 1. เกมภาพตดั ตอ่ สังเกต
ภาพมาตอ่ ให้เปน็ รบั ประทานอาหาร มารยาทในการ การจบั คแู่ ละ
การศกึ ษา เลก็ เตมิ ในชนิ้ ใหญ่ ภาพทีส่ มบรู ณ์ 2. แบ่งเด็กเปน็ 5 กลุ่ม ใหเ้ ด็ก 1 กลุ่มรับเกมที่ รบั ประทานอาหาร เปรยี บเทียบความ
แนะนาไปเล่น กลุ่มอ่นื ๆ เล่นเกมการศกึ ษาชุดเดมิ 2. เกมการศึกษาชดุ แตกต่างหรอื ความ
จบั คแู่ ละเปรยี บเทียบ ให้สมบูรณ์ และ 3. ใหเ้ ดก็ เก็บเกมการศกึ ษา เดิม เหมือนของสิ่งต่างๆ
ค ว าม แ ต ก ต่ างห รือ การแยกช้นิ ส่วน
ความ
เหมอื นของสง่ิ ต่างๆได้
แผนการจดั ประสบการณ์รายวัน วันท่ี ๔ หน่วยอาหารดมี ปี ระโยชน์ ชนั้ อนบุ าลปีที่ 2
โรงเรียนประชาสามัคคี สานกั งานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษาประถมศึกษาสรุ นิ ทร์เขต ๓
จุดประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมิน
พฒั นาการ
การเรยี นรู้ ประสบการณ์สาคญั สาระทีค่ วรเรยี นรู้
กิจกรรมเคล่ือนไหว (1) การเคล่อื นไหว 1. กจิ กรรมเคลือ่ นไหวพ้ืนฐาน ให้เด็กเคล่ือนไหว 1. เครอ่ื งเคาะจังหวะ สังเกต
และจังหวะ อย่กู ับที่ ร่างกายไปท่ัวบริเวณอย่างอิสระตามจงั หวะ 2. จานกระดาษ การแสดงความสนใจ
สนใจ มคี วามสขุ และ (2) การเคล่อื นไหว เม่ือไดย้ นิ สญั ญาณหยดุ ให้หยุดเคลือ่ นไหวในท่า มคี วามสขุ และแสดง
แ ส ด ง ท่ า ท า ง เคลื่อนท่ี นนั้ ทนั ที ท่าทางเคลื่อนไหว
เคล่ือนไหวประกอบ (3) การเคล่อื นไหว 2. ครแู จกจานกระดาษใหเ้ ดก็ คนละ 1 ใบ และ ประกอบจงั หวะและ
เพ ลง จังห วะดน ต รี พร้อมวัสดอุ ปุ กรณ์ ให้เดก็ เคลื่อน-ไหวรา่ งกายประกอบจานกระดาษ ดนตรี
คาสัง่ คาบรรยายได้ (3) การเคลือ่ นไหว และห้ามให้จานกระดาษตกพน้ื
ตามเสยี งเพลง/ 3. ครใู ห้จงั หวะโดยการตกี ลองถา้ ตีชา้ ให้
ดนตรี เคลอ่ื นไหวช้า ถ้าตีเรว็ ให้เคลอื่ นไหวเร็ว ถ้าเคาะ
2 ครง้ั ตดิ กันให้หยดุ นงิ่
กิจกรรมเสรมิ (3) การฟังเพลง ประโยชน์ของ 1. เดก็ และครูรว่ มกนั รอ้ งเพลง“อาหารดีมี 1. เพลง อาหารดีมี สงั เกต
ประสบการณ์ นทิ าน คาคล้องจอง อาหาร
กล้าพูดกลา้ แสดงออก บทรอ้ ยกรองหรือ - เนื้อสัตว์ ไข่ นม ประโยชน์”และใหเ้ ดก็ บอกชนดิ ของอาหารท่ีมีใน ประโยชน์ -การกลา้ พดู
อยา่ งเหมาะสมไดบ้ าง เร่อื งราวตา่ งๆ ช่วยให้ร่างกาย
สถานการณ์ (6) การพูดอธิบาย เจริญเติบโตและ เพลงวา่ มีอะไรบ้าง 2. คาคลอ้ งจอง กลา้ แสดงออก
เกี่ยวกับสิ่งของ ช่วยซอ่ มแซมส่วนท่ี
เหตุการณ์ และ สกึ หรอ 2. ครูแนะนาวิทยากร (คณุ หมอ สาธารณสขุ อาหารของเรา
ความสัมพนั ธข์ อง - ข้าว แป้ง นา้ ตาล
สิ่งต่างๆ ใหพ้ ลังงานแก่ นักโภชนาการ) ให้เด็กๆ ร้จู กั และใหเ้ ดก็ ๆ 3. วทิ ยากร(คุณหมอ
รา่ งกาย
- น้ามัน เนย ให้ แนะนาตัวเอง สาธารณสขุ นัก
พลังงานและความ
3. วิทยากรและเด็กสนทนาร่วมกันว่าอาหารแต่ละ โภชนาการ)
ชนิดมปี ระโยชนต์ ่อร่างกายของเราแตกตา่ งกนั
4. วิทยากรสรปุ เก่ยี วกับประโยชน์ของอาหาร
แตล่ ะชนิดท่ีมีผลตอ่ การเจรญิ เติบโตของร่างกาย
พรอ้ มท้งั ตอบขอ้ ซกั ถามของเดก็
จุดประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมิน
การเรียนรู้ พฒั นาการ
ประสบการณส์ าคัญ สาระทค่ี วรเรยี นรู้ 5. เดก็ ๆ ร่วมกันทอ่ งคาคลอ้ งจอง “อาหารของ
กิจกรรมศลิ ปะ เรา” และให้อาสาสมคั รออกมากล่าวขอบคุณ 1. กระดาษ A4 สงั เกต
สร้างสรรค์ อบอุ่นแก่ร่างกาย วทิ ยากร ทม่ี าใหค้ วามรู้แกเ่ ด็กๆ 2. พกู่ นั การใช้กรรไกรตดั
-ใชก้ รรไกรตดั กระดาษ - ผักและผลไม้ ช่วย 3. สนี า้ กระดาษตามแนว
ตามแนวเส้นตรงได้ ปอ้ งกนั โรค ช่วยให้ 1. ครแู นะนากจิ กรรมสร้างสรรค์ ประกอบด้วย 4. แผ่นภาพโฆษณา เส้นตรง
ขับถ่ายได้สะดวก วาดภาพด้วยสนี ้า การตดั ภาพทาเมนอู าหาร ของหา้ งร้าน
กิจกรรมเลน่ ตามมมุ และชว่ ยบารงุ 2. ให้เดก็ เลอื กทากิจกรรมสรา้ งสรรค์ 1-2 5. กาว
เล่นหรือทางานรว่ มกับ ผวิ พรรณ กิจกรรมตามความสนใจ 6. กรรไกร
เพอ่ื นเป็นกล่มุ ได้ 3. ให้เดก็ 4-5 คน นาผลงานออกมานาเสนอ ให้
(2)การแสดง เพ่อื นถามคาถามหรอื แสดงความคิดเห็น - มมุ ประสบการณ์ใน สังเกต
ความคิดสร้างสรรค์
ผา่ นสื่อวสั ดุต่างๆ 1. เด็กเลือกกจิ กรรมเสรีตามมุมประสบการณ์ หอ้ งเรียน การเล่นหรอื ทางาน
ผา่ นภาษาทา่ ทาง ตามความสนใจ เช่น
การเคล่ือนไหวและศลิ ปะ - มุมธรรมชาติศึกษา - มมุ หนงั สือ รว่ มกับเพ่ือนเปน็ กล่มุ
(๕) การทางานศิลปะ - มุมบลอ็ ก - มุมเกมการศึกษา
(2) การเขียนภาพ - บทบาทสมมติ - มมุ เครือ่ งเลน่ สัมผัส
และการเล่นกบั สี 2. เมือ่ หมดเวลาเดก็ เกบ็ ของเข้าที่ให้เรยี บรอ้ ย
(5) การหยิบจับ
ก า ร ใ ช้ ก ร ร ไก ร ก า ร ฉี ก
การตัดการปะ และการ
รอ้ ยวัสดุ
(1) การเล่นอิสระ
(3) การเล่นตามมุม
ประสบการณ์/มุม
เลน่ ตา่ ง ๆ
(๒) การเลน่ และ
การทางานรว่ มกับผ้อู ื่น
จุดประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สื่อ การประเมนิ
การเรยี นรู้ ประสบการณส์ าคญั สาระทีค่ วรเรยี นรู้ พัฒนาการ
1. ใหเ้ ด็กเคล่อื นไหวรา่ งกายด้วยการสะบดั มอื ผา้ ปดิ ตา
กจิ กรรมกลางแจ้ง (1) การปฏบิ ัติตน เท้า หมนุ ไหล่ ยนื ปลายเท้า กระโดด เพอ่ื อบอนุ่ สงั เกต
เลน่ และทากิจกรรม ใหป้ ลอดภยั ใน ร่างกาย การเล่นและทา
อย่างปลอดภยั ด้วย กจิ วตั รประจาวนั 2. ใหเ้ ดก็ 1 คน ยืนกลางวง และใชผ้ า้ ปดิ ตา กิจกรรมอย่าง
ตนเอง เด็กทีเ่ หลือยืนเปน็ วงกลมล้อมรอบคนทมี่ ผี ้าปดิ ตา ปลอดภัยดว้ ยตนเอง
3. คนทม่ี ีผา้ ปิดตาต้องเดนิ ไปจับเพ่อื นทีย่ นื
ลอ้ มรอบ และทายว่าคนทต่ี นเองจบั น้นั คอื ใคร
4. กอ่ นทายใหค้ นที่มผี ้าปิดตาถามคาถามคนที่
โดนจบั ได้ เช่น เธอเปน็ คนทชี่ อบทานไขเ่ จยี วใช่
หรือไม่ เธอตวั โตท่ี สดุ ในหอ้ งใชห่ รอื ไม่ คนท่ี
เพือ่ นจับต้องตอบคาถามท่ี เพ่อื นถามดว้ ย
เกมการศกึ ษา (14) การบอกและ การเรยี งลาดับ 1. ครแู นะนาเกมเรียงลาดับเหตุการณ์เกย่ี วกับ 1. เกมเรยี งลาดบั สังเกต
-เรยี งลาดบั สิง่ ของหรอื เรียงลาดับกจิ กรรมหรือ เหตุการณ์ อาหาร เหตกุ ารณ์เก่ยี วกบั -การเรียงลาดับ
เหตุการณไ์ ด้อยา่ งนอ้ ย เหตุการณ์ตาม 2. แบ่งเดก็ เปน็ 5 กล่มุ ใหเ้ ด็ก 4 กลุ่มรบั เกมที่ อาหาร ส่ิงของหรอื เหตกุ ารณ์
4 ลาดับได้ ชว่ งเวลา แนะนาไปเลน่ กล่มุ ที่เหลือ เลน่ เกมการศกึ ษาชดุ 2. เกมการศกึ ษาชดุ ได้อยา่ งน้อย 4 ลาดับ
เดิม เดิม
3. ให้เด็กเก็บเกมการศกึ ษา
แผนการจัดประสบการณ์รายวัน วันที่ 5 หนว่ ยอาหารดีมปี ระโยชน์ ชนั้ อนบุ าลปีท่ี 2
โรงเรยี นประชาสามัคคี สานกั งานเขตพน้ื ที่การศกึ ษาประถมศกึ ษาสรุ ินทร์เขต ๓
จุดประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สื่อ การประเมิน
พัฒนาการ
การเรียนรู้ ประสบการณ์สาคญั สาระทคี่ วรเรยี นรู้
กิจกรรมเคล่ือนไหว (2) การเคลอื่ นไหว 1. กจิ กรรมเคลอ่ื นไหวพ้ืนฐาน ใหเ้ ดก็ เคลอ่ื นไหว 1. ขวดนา้ 10 ขวด สังเกต
และจังหวะ เคลอ่ื นท่ี ร่างกายไปท่ัวบริเวณอย่างอิสระตามจังหวะ เมื่อได้ 2. เคร่อื งเลน่ เพลง การแสดงความสนใจ
สนใจ มีความสขุ และ (1) การฟังเพลง ยินสญั ญาณหยดุ ใหห้ ยดุ เคล่ือนไหวในทา่ นนั้ ทันที 3. เพลง กินผกั ผลไม้ มคี วามสขุ และแสดง
แ ส ด ง ท่ า ท า ง การร้องเพลง และ 2. ครจู ัดเตรียมวางขวดนา้ ไว้ ในบริเวณท่เี ด็กทา ทา่ ทางเคลอ่ื นไหว
เคล่ือนไหวประกอบ การแสดงปฏกิ ริ ิยา กจิ กรรม จานวน 10 ขวด ใหเ้ ด็กๆช่วยกันนับ ประกอบเพลง
เพ ลง จังห วะดน ต รี โต้ตอบเสยี งดนตรี จานวนขวดน้า จังหวะและดนตรี
คาสงั่ คาบรรยายได้ (3)การเคล่อื นไหว 3. ให้เดก็ ๆ เคลอ่ื นไหวร่างกายตามจงั หวะเพลง
ตามเสยี งเพลง/ กินผกั ผลไม้ ขณะเคล่ือนไหวต้องระวังไมใ่ หโ้ ดน
ดนตรี สิ่งกีดขวางท่คี รูวางไว้
3. เมื่อเพลงหยดุ ใหเ้ ดก็ ๆ หยุดนิ่ง
กจิ กรรมเสริม (3) การประกอบ 1. วิธกี ารประกอบ 1. ครูนาภาพผดั ผกั รวมมติ ร แกงจดื เต้าหหู้ มสู บั 1. เตาแกส๊ สังเกต
ประสบการณ์ อาหารไทย อาหาร เชน่ ต้ม ผัด ปลาททู อด ต้มยากุ้ง มาใหเ้ ดก็ ดู 2. หม้อ -การประกอบอาหาร
-ประกอบอาหารต้มจดื (14) การบอกและ แกง ทอด 2. สนทนาเก่ียวกับชอื่ อาหาร ส่วนประกอบ และ 3. กระบวย ต้มจดื เต้าหู้หมสู บั
เ ต้ า หู้ ห มู สั บ ต า ม เรยี งลาดบั 2. การประกอบ วธิ กี ารปรงุ อาหาร 4. หมูสับ ตามข้ันตอน
ข้นั ตอนได้ กิจกรรมหรือ อาหารตม้ จดื เตา้ หู้ 3. เด็กและครูตกลงร่วมกันวา่ วนั นีจ้ ะทาอาหาร 5. ผักกาดขาว
เหตุการณต์ าม หมูสบั ประเภทต้มคอื “แกงจดื เตา้ หู้หมสู บั ” 6. เต้าห้ไู ข่
ช่วงเวลา 4. เดก็ รว่ มกันแนะนาสว่ นประกอบในการทา 7. ํนา้ ปลา
“แกงจดื เต้าหหู้ มสู ับ” 8. ต้นหอม
5.ครูอธบิ ายขน้ั ตอนการทา “แกงจดื เตา้ หู้หมูสบั ” 9. ผักชี
จุดประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ สอื่ การประเมิน
พัฒนาการ
การเรียนรู้ ประสบการณส์ าคัญ สาระท่คี วรเรียนรู้ 6. เด็กและครรู ่วมกันทา “แกงจืดเต้าหู้หมูสับ” 10. ภาพผัดผักรวม
ตามข้นั ตอน มติ ร
7. ครูสรปุ วา่ วิธีการประกอบอาหารโดยการตม้ 11. ภาพแกงจดื
ตอ้ งใช้ภาชนะใส่นา้ ตั้งไฟให้เดือดแลว้ ใสอ่ าหาร เต้าหู้หมูสบั
ลงไป การผัด คือ การนาอาหารมาผดั กบั นา้ มนั 12. ภาพปลาทูทอด
และปรงุ รสดว้ ยเครอ่ื งปรงุ ต่าง ๆ การทอด คอื 13. ภาพต้มยากุ้ง
การนาอาหารลงไปทอดในน้ามนั ท่รี ้อน
กจิ กรรมศลิ ปะ (๕) การทางานศลิ ปะ 1. ครแู นะนากิจกรรมสรา้ งสรรค์ ประกอบด้วย 1. กระดาษ A4 สงั เกต
วาดภาพข้ันตอนการทาตม้ จืดเต้าหหู้ มสู ับ การ 2. ดินสอ 1. การแสดงความ
สรา้ งสรรค์ (2) การเขียนภาพ หยดสี 3. สไี ม้ สนใจมคี วามสุขและ
2. ใหเ้ ดก็ เลอื กทากิจกรรมสร้างสรรค์ 1-2 4. สนี ้า แสดงออกผา่ นงานศลิ ปะ
1. สนใจมีความสขุ และ และการเล่นกับสี กิจกรรมตามความสนใจ 5. จานสี 2. สงั เกตพฤติกรรม
3. ใหเ้ ด็ก 4-5 คน นาผลงานออกมานาเสนอ ให้ 6. หลอดหยด การกลา้ แสดงออกใน
แ ส ด งอ อ ก ผ่ าน งาน (๔) การพูดแสดง เพ่อื นถามคาถามหรอื แสดงความคิดเห็น การเล่าเร่ืองเพือ่
นาเสนอผลงาน
ศลิ ปะ ความคิดเหน็ 1. เดก็ เลือกกจิ กรรมเสรีตามมุมประสบการณ์
ตามความสนใจ เชน่
2. กลา้ พดู กล้า ความรู้สึกและ - มมุ ธรรมชาตศิ ึกษา - มมุ หนังสอื
- มุมบลอ็ ก - มุมเกมการศกึ ษา
แสดงออกอยา่ ง ความต้องการ - บทบาทสมมติ - มุมเครื่องเล่นสัมผัส
2. เม่อื หมดเวลาเด็กเก็บของเขา้ ทีใ่ หเ้ รียบร้อย
เหมาะสมบาง
สถานการณ์
กจิ กรรมเล่นตามมุม (1) การเล่นอิสระ - มมุ ประสบการณ์ใน สงั เกต
เล่นหรอื ทางานรว่ มกับ (3) การเลน่ ตามมมุ ห้องเรียน การเล่นรว่ มกบั
เพอ่ื นเป็นกลุม่ ได้ ประสบการณ/์ เพ่อื นเป็นกล่มุ
มมุ เล่นตา่ ง ๆ
(๒) การเลน่ และ
การทางานร่วมกบั
ผู้อ่ืน
จดุ ประสงค์ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมิน
การเรยี นรู้ พฒั นาการ
ประสบการณ์สาคัญ สาระท่ีควรเรียนรู้ 1. เด็กและครูสร้างขอ้ ตกลงในการเลน่ นา้
กจิ กรรมกลางแจง้ เล่นทราย 1. อุปกรณก์ ารเลน่ สังเกต
1.เล่นและทากิจกรรม (1) การปฏิบตั ติ น 2. เดก็ และครูร่วมกนั สนทนาถงึ การปฏบิ ตั ิตน
อยา่ งปลอดภยั ด้วย ให้ปลอดภัยใน ขณะเล่นนา้ เลน่ ทรายและการระวังอันตรายจาก น้า เช่น ขวด 1. พฤติกรรมการเลน่
ตนเอง กจิ วัตรประจาวนั การเล่นโดยสอดแทรกคุณธรรมการอดทนรอคอย
2.เล่นและทางาน (๒) การเล่นและ เอือ้ เฟ้อื แบ่งปัน พลาสตกิ เรอื ยาง และทากิจกรรม
ร่วมกบั เพ่ือนเปน็ กลุม่ การทางานรว่ มกบั 3. เด็กเลือกเลน่ น้าและทรายอยา่ งอสิ ระ โดย
ผู้อนื่ ผลดั เปลี่ยนกนั เลน่ โดยใชเ้ วลาประมาณ 30 นาที กรวย ชอ้ น ร่วมกับผูอ้ ่นื อย่าง
เกมการศกึ ษา 4. เมอ่ื ครูใหส้ ัญญาณหมดเวลาใหเ้ ดก็ เขา้ แถว
จาแนกและจดั กล่มุ และทาความสะอาดรา่ งกายและอุปกรณเ์ ล่นนา้ 2. อุปกรณเ์ ล่นทราย ปลอดภัย
อาหารได้ เล่นทราย
1. ครูแนะนาเกมจาแนกภาพอาหารตามวิธีการ เช่น แบบพิมพท์ ราย 2. การเล่นรว่ มกบั
ประกอบอาหาร โดยการนาภาพผกั ไปวางทภี่ าพ
หม้อโดยการตม้ นาภาพผลไมไ้ ปวางทภ่ี าพเหยือก ทต่ี ักทราย รถขน เพ่ือนเปน็ กลมุ่
นา้ ผลไม้
2. แบ่งเด็กเปน็ 5 กลุ่ม ให้เดก็ 1 กลมุ่ รับเกมท่ี ทราย ช้อนตกั ทราย
แนะนาไปเลน่ กลมุ่ อืน่ ๆ เลน่ เกมการศกึ ษาชดุ เดิม
3. ให้เด็กเก็บเกมการศกึ ษา 3. นกหวดี
(5) การคัดแยก การจดั กลมุ่ อาหาร 1. เกมจาแนกภาพ สังเกต
การจัดกลุ่ม และ ตามวธิ ีการ อาหารตามวธิ กี าร การจาแนกและจัด
การจาแนกสง่ิ ตา่ งๆ ประกอบอาหาร ประกอบอาหาร กลมุ่ อาหาร
ตามลักษณะและ 2. เกมการศกึ ษาชุด
รูปรา่ ง รูปทรง เดิม
1 เด็กชายจิรดนัย สายบวั แดง เลขท่ี ชอ่ื
2 เดก็ ชายณราวิชญ์ สุขจันทร์
3 เดก็ ชายธนกฤต อะสิพงษ์
4 เดก็ ชายธนเดช ผอ่ งโอย
5 เดก็ ชายธนวฒั น์ วงษศ์ รสี ังข์
6 เด็กชายธรี ภัทร สวา่ งวงศ์
7 เดก็ ชายีรศกั ด์ิ โชคดี
8 เดก็ ชายปิตวิ ฒั น์ เพชรใสดี
9 เด็กชายพงศภ์ ัค ทองใบ
10 เดก็ ชายภานวุ ัฒน์ สขุ พนิ ิจ
1.เลน่ และทากิจกรรมอย่างปลอดภัยไดด้ ว้ ยตนเอง ดา้ นร่างกาย โรงเรยี นประชาสามคั คี สานกั งานเขตพนื้ ทกี่ ารศึกษาประถมศึกษาสุรนิ ทรเ์ ขต ๓ แบบสังเกตพฤติกรรมเด็กหน่วยการจดั ประสบการณ์ท่ี 6 อาหารดีมีประโยชน์ ชัน้ อนุบาลปีที่ ๒
ตนเอง
ด้านอารมณ์
2. รบั ลกู บอลโดยใชม้ อื ทง้ั 2 ข้างได้
ดา้ นสงั คม ประเมนิ พฒั นาการ
3.ใชก้ รรไกรตดั กระดาษตามแนวเสน้ ตรงได้
ดา้ นสติปญั ญา
4.กล้าพูดกลา้ แสดงออกอย่างเหมาะสมไดบ้ าง
สถานการณ์
5. สนใจมคี วามสุขและแสดงออกผา่ นงานศลิ ปะ
6 สนใจ มีความสุข และแสดงท่าทางเคลื่อนไหว
ประกอบเพลง
7.รบั ประทานอาหารดว้ ยตนเองได้
8.เล่นหรือทางานร่วมกับเพ่อื นเปน็ กลุ่มได้
9.ปฏบิ ตั ติ นเป็นผนู้ าและผตู้ ามได้ด้วยตนเอง
10. บอกลักษณะและส่วนประกอบของสิ่งต่างๆจาก
การสังเกตโดยใช้ประสาทสัมผสั ได้
11.จาแนกและจัดกลมุ่ อาหารได้
12. จับคู่และเปรียบเทียบความแตกต่างและความ
เหมือนของสงิ่ ตา่ งได้
13.ประกอบอาหารต้มจดื เต้าหู้สบั ตามลาดับขั้นตอน
ได้
14.เรยี งลาดับสงิ่ ของหรอื เหตุการณ์ไดอ้ ย่างนอ้ ย
หมายเหตุ
11 เด็กชายสิมธินันท์ เกิดเหลี่ยม เลขที่ ชื่อ
12 เดก็ หญิงนภรัตน์ นามโคตร
13 เดก็ หญงิ นนั ทิกานต์ อินทรแ์ กว้
14 เด้กหญงิ ปรยี าภัทร ผิวนวล
15 เด็กหญงิ สุดธดิ ามณี สุขพนิ ิจ
16 เดก็ หญิงอมุ้ ลักขณา สาคะนิน
17 เด็กหญงิ ชลธิชา เพ็งสวา่ ง
1.เลน่ และทากจิ กรรมอย่างปลอดภยั ไดด้ ้วยตนเอง ด้านรา่ งกาย
ตนเอง
คาอธิบาย ครสู งั เกตพฤติกรรมเดก็ รายบุคคล จดบนั ทึกสรุปเป็นรายสปั ดาห์ระบรุ ะดับคณุ ภาพเป็น ๓ ระดบั คอื ด้านอารมณ์
ระดบั ๓ ดี ระดับ ๒ ปานกลาง ระดับ ๑ ควรส่งเสริม 2. รบั ลกู บอลโดยใช้มอื ทงั้ 2 ข้างได้
ด้านสงั คม ประเมนิ พัฒนาการ
3.ใช้กรรไกรตัดกระดาษตามแนวเสน้ ตรงได้
ด้านสติปญั ญา
4.กล้าพูดกล้าแสดงออกอยา่ งเหมาะสมได้บาง
สถานการณ์
5. สนใจมคี วามสุขและแสดงออกผ่านงานศลิ ปะ
6 สนใจ มีความสุข และแสดงท่าทางเคล่ือนไหว
ประกอบเพลง
7.รับประทานอาหารด้วยตนเองได้
8.เล่นหรือทางานรว่ มกบั เพอ่ื นเปน็ กล่มุ ได้
9.ปฏบิ ตั ิตนเป็นผ้นู าและผตู้ ามไดด้ ้วยตนเอง
10. บอกลักษณะและส่วนประกอบของสิ่งต่างๆ
จากการสงั เกตโดยใชป้ ระสาทสัมผัสได้
11.จาแนกและจดั กลมุ่ อาหารได้
12. จบั คู่และเปรยี บเทยี บความแตกต่างและความ
เหมอื นของส่ิงตา่ งได้
13.ประกอบอาหารต้มจดื เต้าหูส้ ับตามลาดบั
ข้ันตอนได้
14.เรยี งลาดบั สิ่งของหรือเหตุการณ์ไดอ้ ย่างน้อย
หมายเหตุ