fahsuay

โครงงานสหกิจศึกษา
เร่ือง จิตวิทยาการบริการในทวั ร์นกั เรียน
(Service Psychology of Student Tour)

นนั ทาวดี จดั ทาํ โดย รหสั นิสิต 58130283
เรืองพานิชภิบาล

โครงงานน้ีเป็นส่วนหน่ึงของการศึกษารายวิชา 662392 สหกิจศึกษา ภาคการศึกษาท่ี 1
หลกั สูตรบริหารธุรกิจบณั ฑิตสาขาวิชา การจดั การการท่องเท่ียว
คณะการจดั การและการท่องเท่ียว มหาวิทยาลยั บูรพา
ปี การศึกษา 2561

2

โครงงานสหกิจศึกษา
เรื่อง จิตวิทยาการบริการในทวั ร์นกั เรียน
(Service Psychology of Student Tour)

นนั ทาวดี จดั ทาํ โดย รหสั นิสิต 58130283
เรืองพานิชภิบาล

โครงงานน้ีเป็นส่วนหน่ึงของการศึกษารายวชิ า 662392 สหกิจศึกษา ภาคการศึกษาที่ 1
หลกั สูตรบริหารธุรกิจบณั ฑิตสาขาวชิ า การจดั การการท่องเที่ยว
คณะการจดั การและการท่องเท่ียว มหาวิทยาลยั บูรพา
ปี การศึกษา 2561

ก

กติ ติกรรมประกาศ

โครงงานฉบบั น้ีสาํ เร็จลุล่วงไปไดด้ ว้ ยดีดว้ ยความกรุณาช่วยเหลือ แนะนาํ และใหค้ าํ ปรึกษา
อยา่ งดี ยงิ่ จาก อาจารย์ ดร.ศกั ด์ิชยั เศรษฐอ์ นวชั อาจารยป์ ระจาํ สาขาการจดั การท่องเท่ียว คณะการ
จดั การและการ ท่องเที่ยว มหาวิทยาลยั บูรพา ที่กรุณาถ่ายทอดความรู้ แนวคิด วิธีการ คาํ แนะนาํ
และตรวจสอบ ขอ้ บกพร่องต่างๆ ดว้ ยความเอาใจใส่ ผจู้ ดั ทาํ ขอกราบขอบพระคุณเป็นอยา่ งสูง

ขอขอบพระคุณ คุณธิติวฒั น์ เลิศรัฐสุวรรณ คุณอิสรีย์ เฉิดมนูเสถียร
คุณวรารัตน์ โกยผลเตชากิตต์ิ คุณสุวทิ ย์ พลูมาลยั ทรัพย์ ตลอดจนพี่ทีมงานฟ้าสวย แทรเวล ทุกท่าน
ที่ไดม้ อบความรู้และประสบการณ์ ในการจดั นาํ เท่ียวใหไ้ ดม้ าใชป้ ระโยชน์ในโครงงานฉบบั น้ี

ขอขอบพระคุณ ท่านผปู้ กครองและญาติพี่นอ้ งทุกท่านที่คอยช่วยเหลือสนบั สนุนท้งั ทางดา้ น
กาํ ลงั ใจและกาํ ลงั ทรัพยด์ ว้ ยดีมาตลอด

ขอขอบคุณเพื่อนร่วมฝึกงานจากมหาวิทยาลยั สวนดุสิตที่คอยช่วยเหลือ ส่งเสริม สนบั สนุนและ
ใหก้ าํ ลงั ใจมาตลอด

ขอขอบคุณเพอ่ื นนิสิตสาขาการจดั การท่องเที่ยวทกุ ทา่ นที่ใหค้ าํ แนะนาํ และส่งเสริมใหก้ าํ ลงั ใจ
ตลอดมา นอกจากน้ียงั มีผใู้ หค้ วามร่วมมือช่วยเหลืออีกหลายท่าน ซ่ึงผจู้ ดั ไม่สามารถกล่าวนามใน
ท่ีน้ีได้ หมด จึงขอขอบพระคุณทุกท่านเหล่านน้นั ไว้ ณ โอกาสน้ีดว้ ย

นางสาว นนั ทาวดี เรืองพานิชภิบาล

ผจู้ ดั ทาํ

ข

บทคดั ย่อ

โครงการสหกิจศึกษา เป็นอีกหน่ึงโครงการท่ีทาํ ใหม้ ีการพฒั นาศกั ยภาพการทาํ งานของ
นิสิตท่ีกาํ ลงั จะ สาํ เร็จการศึกษาใหอ้ อกไปสู่การทาํ งานในชีวิตจริงไดอ้ ยา่ งมีคุณภาพ นอกจากน้ียงั
ทาํ ใหน้ ิสิตไดร้ ู้จกั ปรับตวั ในการอยรู่ ่วมกบั บุคคลอื่น รู้จกั การทาํ งานเป็นทีม รู้จกั หนา้ ที่และความ
รับผดิ ชอบของตนเองอีกดว้ ย

โครงงานเร่ือง จิตวทิ ยาการบริการในทวั ร์นกั เรียน มีวตั ถุเพือ่ ท่ีจะศึกษาทาํ ความเขา้ ใจ
กลุ่มลูกคา้ แตล่ ะระดบั ช้นั หรือช่วงวยั เพ่ือเป็นแนวทางในการทาํ งานในอนาคต ทาํ การศึกษาและ
เกบ็ รวบรวมขอ้ มูลเป็นระยะเวลา 16 สปั ดาห์ โดยวิธีการศึกษาจากหนงั สือ แหล่งอินเทอร์เน็ตที่
เช่ือถือได้ และทาํ การสอบถาม ร่วมกบั การสงั เกต จากแหล่งขอ้ มูลคือ ผปู้ ระกอบอาชีพมคั คุเทศก์
ของหา้ งหุน้ ส่วนจาํ กดั ฟ้าสวย แทรแวล ผไู้ ดร้ ับบริการจากมคั คุเทศก์ ผลการศึกษาพบวา่ กลุ่มลูกคา้
แต่ละระดบั ช้นั หรือช่วงวยั อายทุ ี่ต่างกนั นะ มีบุคลิกลกั ษณะท้งั ทางกายภาพ อารมณ์ ความคิดที่
แตกต่างกนั ผใู้ หบ้ ริการจึงตอ้ งมีความเขา้ ใจ เขา้ ถึง และใหบ้ ริการแตกต่างกนั ไปตามแต่ละช่วงวยั
ของกลุ่มลูกคา้ เพอ่ื ที่จะทาํ ใหท้ ้งั ผรู้ ับบริการบรรลุวตั ถุประสงคข์ องการท่องเท่ียวเชิงทศั นศึกษา
และใหผ้ ใู้ หบ้ ริการทาํ งานไดอ้ ยา่ งราบรื่น

ค

สารบญั

กิตติกรรมประกาศ...................................................................................... ก
บทคดั ยอ่ .................................................................................................. ข
บทที่ 1 .................................................................................................... 1
บทนาํ ...................................................................................................... 1

1. หลกั การและเหตุผล ........................................................................... 1
2. วตั ถุประสงคข์ องโครงงาน................................................................... 1
3. ประโยชนท์ ี่คาดวา่ จะไดร้ ับ .................................................................. 1
4. ขอบเขตการศึกษา............................................................................. 2
5. วิธีการดาํ เนินงาน.............................................................................. 2
6. ระยะเวลาและแผนการดาํ เนินงาน.......................................................... 3
บทที่ 2 .................................................................................................... 4
เอกสารและขอ้ มูลท่ีเก่ียวขอ้ ง......................................................................... 4
2.1 จิตวทิ ยาการบริการ........................................................................... 4
2.2 เจตคติและความพึงพอใจในงานบริการ (Attitude and Satisfaction In
Hospitality) .................................................................................................... 9
2.3 จิตวิทยาการดูแลเดก็ ........................................................................11
2.4 วยั เด็ก..........................................................................................12
2.5 วยั รุ่น...........................................................................................14
2.6 ช่ือและที่ต้งั สถานที่ประกอบการ........................................................16
บทท่ี 3 ...................................................................................................19
ข้นั ตอนและวธิ ีการดาํ เนินงาน.......................................................................19

ง

บทที่ 4 ...................................................................................................20

ผลการดาํ เนินงาน ......................................................................................20
4.1 การเลือกสถานท่ีใหม้ ีความเหมาะสมกบั ช่วงอายใุ นแต่ละดบั ช้นั ..................21

4.2 การรับมือในการออกทวั ร์ของเดก็ แต่ละระดบั ช้นั ....................................22
บทที่ 5 ...................................................................................................24

สรุ ปผล ................................................................................................... 24
วิเคราะห์ SWOT โครงงาน....................................................................24

สารบญั ภาพ

ภาพท่ี 1 การฝึกปฏิบตั ิงาน ณ หา้ งหุน้ ส่วน จาํ กดั ฟ้าสวยแทรเวล ...........................27
ภาพที่ 2 การฝึกปฏิบตั ิงาน ณ หา้ งหุน้ ส่วน จาํ กดั ฟ้าสวยแทรเวล............................27
ภาพที่ 3 การฝึกปฏิบตั ิงาน ณ หา้ งหุน้ ส่วน จาํ กดั ฟ้าสวยแทรเวล............................28
ภาพที่ 4 การฝึกปฏิบตั ิงาน ณ หา้ งหุน้ ส่วน จาํ กดั ฟ้าสวยแทรเวล ...........................28
ภาพท่ี 5 การฝึกปฏิบตั ิงาน ณ หา้ งหุน้ ส่วน จาํ กดั ฟ้าสวยแทรเวล ...........................29
ภาพที่ 6 การฝึกปฏิบตั ิงาน ณ หา้ งหุน้ ส่วน จาํ กดั ฟ้าสวยแทรเวล ...........................29
ภาพที่ 7 การฝึกปฏิบตั ิงาน ณ หา้ งหุ้นส่วน จาํ กดั ฟ้าสวยแทรเวล ...........................30
ภาพท่ี 8 การฝึกปฏิบตั ิงาน ณ หา้ งหุน้ ส่วน จาํ กดั ฟ้าสวยแทรเวล ...........................30
ภาพท่ี 9 การฝึกปฏิบตั ิงาน ณ หา้ งหุน้ ส่วน จาํ กดั ฟ้าสวยแทรเวล............................31
ภาพที่ 10 การฝึกปฏิบตั ิงาน ณ หา้ งหุน้ ส่วน จาํ กดั ฟ้าสวยแทรเวล ..........................31
ภาพท่ี 11 การฝึกปฏิบตั ิงาน ณ หา้ งหุน้ ส่วน จาํ กดั ฟ้าสวยแทรเวล..........................32
ภาพท่ี 12 การฝึกปฏิบตั ิงาน ณ หา้ งหุน้ ส่วน จาํ กดั ฟ้าสวยแทรเวล ..........................32
ภาพท่ี 13 การฝึกปฏิบตั ิงาน ณ หา้ งหุน้ ส่วน จาํ กดั ฟ้าสวยแทรเวล ..........................33
ภาพที่ 14 การฝึกปฏิบตั ิงาน ณ หา้ งหุน้ ส่วน จาํ กดั ฟ้าสวยแทรเวล ..........................33

จ

สารบญั ตาราง

ตารางที่ 1 ระยะเวลาการดาํ เนินงาน................................................................. 3
ตารางที่ 2 การบริการตามลกั ษณะผดู้ าํ เนินการ .......Error! Bookmark not defined.



1

บทที่ 1

บทนา

1. หลกั การและเหตุผล
“ธุรกิจนาํ เท่ียว” หมายความวา่ ธุรกิจเกี่ยวกบั การนาํ นกั ท่องเท่ียวเดินทางไปท่องเท่ียว
หรือเดินทางไปเพอ่ื วตั ถุประสงคอ์ ่ืน โดยจดั ใหม้ ีบริการหรือการอาํ นวยความสะดวกอยา่ งใด
อยา่ งหน่ึงหรือหลายอยา่ ง

รูปแบบการนาํ เท่ียวที่สาํ คญั อยา่ งหน่ึง คือ การนาํ เที่ยวเพือ่ การศึกษา หรือเป็นท่ีรู้จกั กนั ใน
ช่ือวา่ ทศั นศึกษา โดยการนาํ เที่ยวส่วนใหญ่ ของหา้ งหุน้ ส่วนจาํ กดั ฟ้าสวย แทรเวล เป็นการนาํ เที่ยว
เพ่อื การศึกษา เพราะตระหนกั เห็นถึงความสาํ คญั ในเรื่องของการศึกษานอกสถานที่ ความรู้ไม่ใช่มี
เพยี งแต่ในหอ้ งเรียน สถานท่ีรอบตวั กย็ งั มีเรื่องราวมากมายท่ีมีความน่าสนใจ ท้งั สถานท่ี
ประวตั ิศาสตร์ที่ถูกสร้างมาต้งั แต่ในสมยั ก่อน บุคคลสาํ คญั ในแต่ละที่ ยงั รวมถึงสถานท่ีที่มีกิจกรรม
สร้างความรู้ต่างๆใหแ้ ก่นกั เรียน ดงั น้นั ลูกคา้ ของเราคือกลุ่มนกั เรียน ซ่ึงมีดว้ ยกนั หลายช่วงวยั
เพือ่ ใหล้ ูกคา้ บรรลุวตั ถุประสงคข์ องการทศั นศึกษา ผใู้ หบ้ ริการอยา่ งเราจึงตอ้ งเขา้ ใจ เขา้ ถึงลูกคา้

เน่ืองดว้ ย หา้ งหุน้ ส่วนจาํ กดั ฟ้าสวย แทรเวล มีการบริการจดั นาํ เท่ียวในรูปแบบทศั นศึกษา
เพ่ือใหบ้ ุคลากรที่ทาํ งานไดเ้ ขา้ ใจรูปแบบการทาํ งาน เขา้ ใจลูกคา้ และเลง็ เห็นความสาํ คญั ของการ
บริการลูกคา้ น้ี ขา้ พเจา้ จึงจดั ทาํ โครงงานน้ีข้ึนมาโดยผา่ นการเห็นชอบจากพนกั งานท่ีปรึกษาให้
ขอ้ มูลและคาํ แนะนาํ อยา่ งดี

2. วตั ถุประสงค์ของโครงงาน
- เพื่อศึกษาทาํ ความเขา้ ใจกลุ่มลูกคา้ ทวั ร์นกั เรียน
- เพอ่ื ประยกุ ตใ์ ชใ้ นการทาํ งานจริงในอนาคต

3. ประโยชน์ทคี่ าดว่าจะได้รับ
- เขา้ ใจ และรับมือกลุ่มลูกคา้ ทวั ร์นกั เรียนได้
- ประยกุ ตใ์ ชไ้ ดจ้ ริงในการทาํ งาน

2

4. ขอบเขตการศึกษา
ระยะเวลาการดาํ เนินงาน เริ่มทาํ การศึกษาเรื่อง จิตวทิ ยาการบริการในทวั ร์นกั เรียน
ต้งั แต่ วนั ที่ 1 สิงหาคม 2561 – 30 พฤศจิกายน 2561 รวมระยะเวลาในการดาํ เนินงาน 16 สัปดาห์
หรือ 4 เดือน

5. วธิ ีการดาเนินงาน
โครงงานเร่ือง “จิตวทิ ยาการบริการในทวั ร์นกั เรียน” ฉบบั น้ี เป็น โครงงานประเภท
สาํ รวจ โดยมีวิธีการดาํ เนินงาน เร่ิมจากการสงั เกตและหาขอ้ สงสยั ในการทาํ งานของตนเอง จนพบ
กบั ส่ิงที่ตอ้ งการทาํ การศึกษา จึงทาํ การศึกษาหาขอ้ มูลจากแหล่งขอ้ มูลต่างๆ เช่น หนงั สือ
แหล่งขอ้ มูลทางอินเทอร์เน็ตที่เชื่อถือได้ เป็นตน้ แลว้ จึงเริ่มทาํ การเกบ็ ขอ้ มูลโดยวิธีการ สอบถาม
ร่วมกบั การสงั เกต จากท้งั ตนเองและผปู้ ระกอบอาชีพมคั คุเทศกแ์ ละบุคคลในอุตสาหกรรมการ
ท่องเที่ยว เมื่อไดข้ อ้ มูลแลว้ จึงทาํ การวิเคราะห์และสรุปผล จดั ทาํ รูปเล่มโครงงาน

3

6. ระยะเวลาและแผนการดาเนินงาน

กิจกรรมการดาํ เนินงาน ระยะเวลาในการดาํ เนินงาน (สปั ดาห์ที่)
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16

1.ศึกษา/ทบทวนเอกสารและรายงานที่
เก่ียวขอ้ ง
2.เกบ็ รวบรวมขอ้ มูล
3.จดั ทาํ โครงงาน
4.วเิ คราะห์ขอ้ มูลและสรุปผล
5.เรียบเรียงและตรวจสอบ
6.ส่งโครงร่างโครงงานฉบบั สมบูรณ์
7.จดั ทาํ โครงงานฉบบั สมบูรณ์

ตารางที่ 1 ระยะเวลาการดาเนินงาน

4

บทท่ี 2
เอกสารและข้อมูลทเ่ี กยี่ วข้อง

2.1 จิตวทิ ยาการบริการ

2.1.1 แนวความคดิ พืน้ ฐานเกย่ี วกบั จิตวทิ ยาบริการ
การบริการ (Service or Hospitality) หมายถึง กิจกรรมหรือกระบวนการดาํ เนินการอยา่ ง
ใดอยา่ งหน่ึงของบุคคลหรือ องคก์ ร เพื่อตอบสนองความตอ้ งการของบุคคลอื่นและก่อใหเ้ กิดความ
พึงพอใจจากผลของการกระทาํ น้นั ซ่ึงการบริการท่ีดีจะเป็นการกระทาํ ท่ีสามารถสนองตอบความ
ตอ้ งการของผทู้ ี่แสดงเจตจาํ นง ใหไ้ ดต้ รงกบั สิ่งที่บุคคลคาดหวงั พร้อมท้งั ทาํ ใหบ้ ุคคลดงั กล่าวเกิด
ความรู้สึกท่ีดีและประทบั ใจต่อสิ่งที่ไดร้ ับ
จิตวทิ ยา (Psycho + Logos) = (Psychology) หมายถึง วิชาที่ศึกษาถึงพฤติกรรมของมนุษย์
และสตั ว์ โดยมีวตั ถุประสงคส์ าํ คญั ท่ีมุ่งทาํ ความเขา้ ใจพฤติกรรมของมนุษยแ์ ละปัจจยั ท่ีเก่ียวขอ้ งกบั
การทาใหเ้ กิดพฤติกรรมหรือการกระทาํ ตา่ งๆของอินทรียด์ ว้ ยกระบวนการศึกษาคน้ ควา้ ทาง
วิทยาศาสตร์ เพ่ือใหไ้ ดข้ อ้ เทจ็ จริงอยา่ งเป็นระบบและสามารถนาํ ไปใชอ้ ธิบาย ทาํ นาย และควบคุม
การกระทาํ ต่างๆ ของมนุษยใ์ นการดาํ รงชีวติ ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสม
จิตวิทยาบริการ (Service Psychology) หมายถึง การศึกษาพฤติกรรมของบุคคลท่ี
เก่ียวขอ้ งกบั กระบวนการบริการและการจดั การระบบการบริการ เพือ่ ใหไ้ ดม้ าซ่ึงการบริการท่ีมี
คุณภาพและประสิทธิภาพโดยการศึกษาวเิ คราะห์เพอื่ อธิบาย ทาํ นาย และควบคุมพฤติกรรมของ
บุคคลหรือกลุ่มบุคคลซ่ึงเกี่ยวขอ้ งกบั การกระทาํ ในอนั ท่ีจะตระหนกั ถึง และตอบสนองความ
ตอ้ งการและความคาดหวงั ของบุคคลอื่น เพ่ือใหไ้ ดร้ ับความพงึ พอใจสูงสุดและเกิดความประทบั ใจ
จากผลของการกระทาํ น้นั
อา้ งอิง http://www.elfms.ssru.ac.th/chutima_kl/file.php/1/2-2557/6.pdf

5

2.1.2 ความสาคญั ต่อผู้ปฏิบตั งิ านให้บริการ
1. ช่วยใหผ้ ปู้ ฏิบตั ิงานใหบ้ ริการเขา้ ใจตนเองมากข้ึน กล่าวคือ รู้ถึงศกั ยภาพและ

คุณสมบตั ิของตนเองวา่ มีอยมู่ ากนอ้ ยเพียงใด ตลอดจนรู้จุดอ่อนจุดแขง็ ของตนเอง ทาํ ใหส้ ามารถใช้
ประโยชนจ์ ากศกั ยภาพและคุณสมบตั ิท่ีตนเองมีอยไู่ ดอ้ ยา่ งเตม็ ที่ และสามารถปรับปรุงจุดดอ้ ยของ
ตนเอง ทาํ ใหส้ ามารถปรับตวั แกไ้ ขปัญหาไดอ้ ยา่ งรวดเร็วได้

2. ช่วยใหผ้ ปู้ ฏิบตั ิงานใหบ้ ริการเขา้ ใจพฤติกรรมของผรู้ ับบริการไดด้ ียง่ิ ข้ึน ตามปกติ
พฤติกรรมของผรู้ ับบริการจะมีความหลากหลายท้งั ในดา้ นความตอ้ งการ ความคาดหวงั และ
พฤติกรรมการแสดงออก ความรู้ทางดา้ นจิตวทิ ยาจะช่วยใหผ้ ปู้ ฏิบตั ิงานใหบ้ ริการสามารถวิเคราะห์
ความตอ้ งการ ความคาดหวงั ของผรู้ ับบริการไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งมากข้ึน สามารถสร้างความพึงพอใจ
อยา่ งสูงสุดใหก้ บั ผรู้ ับบริการได้

3.ช่วยใหเ้ ขา้ ใจคุณคา่ และความสาํ คญั ของผรู้ ับบริการและการบริการท่ีเป็นเลิศ ความรู้
ทางดา้ นจิตวทิ ยาช่วยใหผ้ ใู้ หบ้ ริการเขา้ ใจและเห็นความสาํ คญั วา่ ผรู้ ับบริการ คือ ลูกคา้ ของ
หน่วยงาน ซ่ึงเป็นผทู้ ่ีทาํ ใหผ้ ใู้ หบ้ ริการมีงานทาํ ตราบใดที่ผใู้ หบ้ ริการยงั สามารถสร้างความพงึ พอใจ
สูงสุดใหแ้ ก่ผรู้ ับบริการได้ ผใู้ หบ้ ริการน้นั กย็ งั มีงานทาํ

2.1.3 พฤติกรรมมนุษย์
พฤติกรรมมนุษยน์ ้นั มีความซบั ซอ้ น เน่ืองจากมีปัจจยั ต่างๆที่เก่ียวขอ้ งและมีอิทธิพลใน
การกาํ หนดลกั ษณะพฤติกรรม ซ่ึงปัจจยั เหล่าน้นั ประกอบดว้ ย

2.1.3.1 ปัจจยั พ้นื ฐานดา้ นชีวภาพ
- พนั ธุกรรม
-การทาํ งานของระบบร่างกาย
-ระบบต่อมไร้ท่อ

2.1.3.2 ปัจจยั พ้ืนฐานดา้ นจิตวิทยา
1.) แรงจูงใจ คอื แรงผลกั ดนั จากภายในท่ีทาํ ใหม้ นุษยเ์ กิดพฤติกรรมตอบสนอง

อยา่ งมีทิศทางและเป้าหมาย จาํ แนกไดส้ องประเภท ไดแ้ ก่
-แรงจูงใจทางกาย เช่น เม่ือกระหายน้าํ จะหาน้าํ มาดื่ม เม่ือหนาวจะหา

เคร่ืองนุ่งห่มมาสวมใส่ เป็นตน้
- แรงจูงใจทางจิต เช่น ความตอ้ งการความสาํ เร็จ เงิน อาํ นาจ การยอมรับ

จาคนส่วนมาก เป็นตน้

6

ปัจจยั ท่ีทาํ ใหเ้ กิดแรงจูงใจของมนุษย์
1. ปัจจยั ทางชีวภาพ ไดแ้ ก่ ความตอ้ งการในการดาํ รงชีวติ
2. ปัจจยั ทางอารมณ์ ความรู้สึก เช่น ความตื่นเตน้ ความเกลียด เป็นตน้
3. ปัจจยั ทางความคิด
4. ปัจจยั ทางสงั คม

2. )การเรียนรู้ เป็นกระบวนการเปล่ียนแปลงพฤติกรรมของมนุษย์ ท่ีเกิดจาก
ประสบการณ์หรือการมีปฏิสมั พนั ธก์ บั บุคคลและส่ิงแวดลอ้ มรอบดา้ น การเรียนรู้เกิดจากประสาท
สมั ผสั ท้งั หา้ ดา้ น ไม่วา่ จะเป็น การมองเห็น การสมั ผสั การไดย้ นิ การไดก้ ล่ิน และการลิ้มรส มนุษย์
จะเรียนรู้วา่ พฤติกรรมใดท่ีทาํ ใหพ้ ึงพอใจ กม็ ีแนวโนม้ ที่จาํ ทาํ พฤติกรรมน้นั ต่อไป พฤติกรรมใดที่
ทาํ แลว้ ไม่เป็นท่ีพอใจกม็ ีแนวโนม้ จะยตุ ิพฤติกรรมน้นั ลง นอกจากน้ีการศึกษาเร่ืองพฤติกรรมมนุษย์
ยงั พบวา่ พฤติกรรมมนุษยส์ ่วนใหญ่เกิดจากการสงั เกต “ตวั แบบ” และมกั จะลอกเลียนพฤติกรรม
ของตวั แบบที่มีผลในเชิงบวกหรือความพึงพอใจของตนเอง การลอกเลียนแบบน้ีอาจไม่ไดท้ าํ
ในทนั ที แต่จะผา่ นกระบวนการจดจาํ ไตร่ตรอง หรือทดสอบดูก่อนกไ็ ด้

2.1.3.3 ปัจจยั พ้นื ฐานดา้ นสงั คมวทิ ยา ประกอบดว้ ย
1.) อิทธิพลของสิ่งแวดลอ้ ม
2.) กระบวนการสงั คมประกิต
3.) อิทธิพลของกลุ่ม

2.1.4 ลกั ษณะของการบริการ

2.1.4.1 การบริการเป็นส่ิงที่จบั ตอ้ งได้ (Intangibility) การบริการไม่มีรูปร่างและตวั ตน

เหมือนกบั สินคา้ อื่น ดงั น้นั การตดั สินใจใชบ้ ริการจึงข้ึนอยกู่ บั การความรู้สึกนึกคิด เจตคติ คาํ บอก
เล่า และประสบการณ์เดิมท่ีเคยมี

2.1.4.2 การบริการไม่มีความคงท่ีแน่นอน (Heterogeneity) เนื่องจากคุณภาพและลกั ษณะงาน

บริการข้ึนอยกู่ บั ผใู้ หบ้ ริการซ่ึงเป็นมนุษยท์ ี่ตามปกติแลว้ มกั มีพฤติกรรมไม่คงที่อนั เป็นผลมาจาก บุคลิกภาพ
อารมณ์ สภาพแวดลอ้ ม และปัจจยั อื่นๆอีกมากมาย ในหน่วยงานหน่ึงซ่ึงมีผปู้ ฏิบตั ิงานหลายคน ผใู้ หบ้ ริการแตล่ ะ
คนยอ่ มใหบ้ ริการไม่เหมือนกนั เช่น อาจมีวธิ ีการพดู หรือการแกไ้ ขปัญหาท่ีแตกต่างกนั หรือแมก้ ระทงั่ ผู้
ใหบ้ ริการคนเดียวกนั แต่เม่ือใหบ้ ริการตา่ งเวลาและวาระกนั อาจมีลกั ษณะการบริการท่ีแตกตา่ งกนั

2.1.4.3 การบริการไม่สามารถเกบ็ รักษาไวไ้ ด้ (Perishability) หากไม่มีผมู้ าใชบ้ ริการ
ในช่วงระยะเวลาใดเวลาหน่ึงหรือสถานที่ใดท่ีหน่ึงที่กาํ หนด กจ็ ะทาํ ใหก้ ารบริการท่ีจดั เตรียมไวเ้ กิด
ความสูญเปล่า

7

2.1.4.4 การบริการไม่สามารถแสดงความเป็นเจา้ ของได้ (Non-ownership) การบริการ
เป็นกิจกรรม ท่ีเกิดข้ึนระหวา่ งผรู้ ับบริการและผใู้ หบ้ ริการในช่วงระยะเวลาใดเวลาหน่ึงและสถานที่
หน่ึงเท่าน้นั เมื่อพน้ ระยะเวลาน้นั ไปแลว้ หรือสถานที่น้นั ไปแลว้ ไมเ่ อ้ือต่อการอาํ นวยบริการแลว้
ผรู้ ับบริการจะไม่สามารถนาํ การบริการดงั กล่าวติดตวั ไปดว้ ยได้

2.1.4.5 การบริการตอ้ งอาศยั “คน” เป็นหลกั เน่ืองจากผรู้ ับบริการเป็น “คน” ท่ีเกิดมา
พร้อมกบั ความตอ้ งการไม่มีขีดจาํ กดั และเปล่ียนแปลงตลอดเวลาตลอดจนมีอารมณ์ความรู้สึกต่างๆ
ดงั น้นั สิ่งท่ีจะสามารถเขา้ ใจและตอบสนองความตอ้ งการไดด้ ีท่ีสุดกค็ ือ “คน” นนั่ เอง

2.1.4.6 คุณภาพของการบริการมกั จะตอ้ งอาศยั องคป์ ระกอบทางกายภาพ เช่น เมื่อไปพกั
โรงแรมใดโรงแรมหน่ึง นอกจากตอ้ งพจิ ารณาการบริการของพนกั งานโรงแรมแลว้ เรามกั จะ
พิจารณาที่องคป์ ระกอบทางกายภาพดว้ ย เช่น ท่ีนอนนิ่มและดีหรือไม่ เครื่องปรับอากาศทาํ งานดี
หรือไม่ เป็นตน้ หากการบริการดี พนกั งานยมิ้ แยม้ แจ่มใส สุภาพ แต่องคป์ ระกอบทางกายภาพไม่ดี
กจ็ ะลดระดบั คุณภาพการบริการลงไปดว้ ย

2.1.4.7 การบริการมกั ตอ้ งใหผ้ รู้ ับบริการเขา้ มามีส่วนร่วมในกระบวนการผลิตหรือ
กระบวนการบริการ เช่น การใหบ้ ริการนาํ เที่ยวของมคั คุเทศกใ์ นระหวา่ งการชมสถานท่ีท่องเท่ียว
นกั ท่องเท่ียวจะมีส่วนร่วมในกระบวนการใหบ้ ริการดว้ ย โดยการรับฟังหรือถามคาํ ถาม เป็นตน้

2.1.5 ประเภทของการบริการ
2.1.5.1 จาํ แนกตามความสาํ คญั ของการบริการในฐานะท่ีเป็นผลิตภณั ฑ์
-การบริการท่ีเป็นผลิตภณั ฑห์ ลกั ของหน่วยงาน
-การบริการที่เป็นผลิตภณั ฑเ์ สริมท่ีผนวกมากบั การขายสินคา้ หลกั อื่นๆ
2.1.5.2 จาํ แนกตามระดบั ความคาดหวงั ของผรู้ ับบริการ
1.) การบริการหลกั (Core Service) กิจกรรมหรือการบริการท่ีเป็นหนา้ ท่ีความ

รับผดิ ชอบโดยตรงของหน่วยงาน
2.) การบริการที่คาดหวงั (Expected Service) กิจกรรมหรือกระบวนการตลอดจน

ส่ิงอาํ นวยความสะดวกทางกายภาพท่ีผรู้ ับบริการคาดหวงั วา่ จะไดร้ ับนอกเหนือการบริการหลกั
3.) การบริการพเิ ศษเพ่มิ เติม กิจกรรมตลอดจนสิ่งอาํ นวยความสะดวกทางกายภาพ

ที่ผรู้ ับบริการไม่ไดค้ าดหวงั มาก่อนวา่ จะไดร้ ับ และเมื่อไดร้ ับแลว้ ทาํ ใหเ้ กิดความประทบั ใจ
2.1.5.3 จาํ แนกตาม World Trade Organization (WTO)
1.) การบริการดา้ นธุรกิจอาชีพ
2.) การบริการดา้ นส่ือสารคมนาคม

8

การท่องเที่ยว 3.) การบริการดา้ นการก่อสร้างและวศิ วกรรม
4.) การบริการดา้ นการจดั จาํ หน่าย
5.) การบริการดา้ นการศึกษา
6.) การบริการดา้ นสิ่งแวดลอ้ ม
7.) การบริการดา้ นการเงิน
8.) การบริการท่ีเกี่ยวเนื่องกบั สุขภาพและการบริการสงั คม
9.) การบริการดา้ นการท่องเท่ียวและการบริการดา้ นการเดินทางท่ีเก่ียวเน่ืองกบั

10.) การบริการดา้ นนนั ทนาการ วฒั นธรรม และการกีฬา
11.) การบริการดา้ นการขนส่ง
12.) การบริการดา้ นอื่นๆ

2.1.6 องค์ประกอบการบริการ
2.1.6.1 ผรู้ ับบริการ หรือ ลูกคา้ หากไม่มีผรู้ ับบริการแลว้ องคป์ ระกอบอื่นยอ่ มไม่

เกิดข้ึน
2.1.6.2 หน่วยงานบริการ หน่วยงานที่ถูกจดั ข้ึนเพอื่ ผลิตงานบริการในดา้ นต่างๆ อาจ

ดาํ เนินการในลกั ษณะเจา้ ของคนเดียว หา้ งหุน้ ส่วน หรือบริษทั กไ็ ด้
2.1.6.3 ผใู้ หบ้ ริการ ผทู้ ่ีดาํ เนินการบริการหรือลงมือใหบ้ ริการต่อผรู้ ับบริการโดยตรง
2.1.6.4 ผลิตภณั ฑบ์ ริการ เป็นกระบวนการหรือวิธีการนาํ เสนอหรือคุณคา่ ต่างที่มอบ

ใหก้ บั ผรู้ ับบริการ
2.1.6.5 ลกั ษณะทางกายภาพและสภาพแวดลอ้ มการบริการ คือ สิ่งต่างๆที่ผรู้ ับบริการ

สามารถสมั ผสั ไดด้ ว้ ยประสาทสมั ผสั ท้งั หา้

2.1.7 ความคาดหวงั ของผู้รับบริการเกย่ี วกบั คุณภาพของการบริการ
1.) ปัจจยั พ้ืนฐานท่ีมีอิทธิพลต่อการกาํ หนดพฤติกรรมมนุษย์
2.) ประสบการณ์เดิม ท่ีเคยใชบ้ ริการประเภทใดประเภทหน่ึงมาแลว้
3.) ขอ้ มูลขา่ วสารที่ไดร้ ับมาระหวา่ งการตดั สินใจใชบ้ ริการ

9

2.1.8 คุณสมบตั ิของผ้ปู ฏิบัตงิ านบริการ
1. บุคลิกลกั ษณะที่เหมาะสม

1.1 สุขภาพแขง็ แรง
1.2 อธั ยาศยั ที่ดี
1.3 มีจิตสาํ นึกของการบริการ
1.4 มีความสามารถในการปรับตวั
2. มีความรู้และทกั ษะ

2.1.9 เกณฑ์การพจิ ารณาคุณภาพการบริการของผู้รับบริการ
1. ลกั ษณะของการบริการ (Appearance)
2. ความไวว้ างใจ (Reliability)
3. ความกระตือรือร้น (Responsibility)
4. ความเช่ียวชาญ (Competence)
5. ความมีอธั ยาศยั นอบนอ้ ม (Courtesy)
6. ความปลอดภยั (Security)
7. การเขา้ ถึงการบริการ (Access)
8. การติดต่อส่ือสาร (Communication)
9. ความเขา้ ใจลูกคา้ (Understanding of customer)

2.2 เจตคตแิ ละความพงึ พอใจในงานบริการ (Attitude and Satisfaction In Hospitality)
เจตคติ (Attitude) (พจนานุกรมฉบบั ราชบณั ฑิตยสถาน พ.ศ. 2525) คือ ท่าทีหรอ
ความรู้สึกของบุคคลต่อส่ิงใดสิ่งหน่ึง
เจตคติ (Attitude) ; (Allport) กล่าววา่ เจตคติ หมายถึง สภาวะความพร้อมทางความคิดและ
ความรู้สึก ซ่ึงก่อตวั จากผลของประสบการณ์ มีอิทธิพลในการกาํ หนดทิศทางของปฏิกิริยา
ตอบสนองของบุคคลท่ีมีต่อทุกส่ิง และทุกสถานการณ์ท่ีเกี่ยวขอ้ งดว้ ย
เจตคติ (Attitude) ; (Fishbein and Aizen) หมายถึง ความโนม้ เอียงที่เกิดจากการเรียนรู้
เพื่อที่จะตอบสนองต่อส่ิงหน่ึงส่ิงใด ดว้ ยการแสดงออกถึงความชอบหรือไม่ชอบ ส่ิงน้นั อยา่ งคงที่
สม่าํ เสมอ

10

เจตคติในการบริการ หมายถึง ความรู้สึกนึกคิดของบุคคลในการประเมินการบริการ อนั
ส่งผลใหบ้ ุคคลมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อการบริการท่ีมีความโนม้ เอียงไปในทางใดทางหน่ึงดว้ ยการ
แสดงออกทางบวก หรือทางลบได้

ความสาํ คญั ของเจตคติในการบริการ
การศึกษาเจตคติในการบริการเป็นเรื่องสาํ คญั เพราะความเขา้ ใจในเรื่องน้ีจะนาํ มาซ่ึงการ
จดั การระบบการบริการไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและมีประสิทธิภาพ เนื่องจากเจตคติเป็นตวั การสาํ คญั ท่ีชกั
จูงผบู้ ริโภคเขา้ สู่ระบบการบริการ
ความสาํ คญั ของเจตคติต่อผใู้ หบ้ ริการ
1. เป็นตวั บ่งบอกความตอ้ งการของลูกคา้ หรือผรู้ ับบริการ
2. ใชใ้ นการแบ่งส่วนตลาดและการเลือกส่วนตลาดท่ีเป็นตลาดเป้าหมาย
3. เป็นตวั แปรสาํ คญั ในการประเมินคุณภาพของการบริการ
ความสาํ คญั ของเจตคติต่อผรู้ ับบริการ
1. เป็นตวั ผลกั ดนั ความตอ้ งการใหม้ ีการแสดงออก
2. ช่วยกาํ หนดการตดั สินใจซ้ือบริการของบุคคล

2.2.1 องค์ประกอบของเจตคติในการบริการ
1. องคป์ ระกอบทางความคิด (Cognitive component) เป็นองคป์ ระกอบที่เกี่ยวขอ้ งกบั การ
รับรู้ข่าวสาร ขอ้ มูล ความเช่ือและความคิดเห็นเก่ียวกบั สิ่งต่างๆ ท่ีบุคคลไดม้ าจากประสบการณ์การ
เรียนรู้ท้งั ทางตรงและทางออ้ ม
2. องคป์ ระกอบดา้ นความรู้สึก (Affective component) เป็นองคป์ ระกอบที่เกี่ยวขอ้ งกบั การ
แสดงความรู้สึก และอารมณ์ของบุคคลท่ีมีความสมั พนั ธก์ บั การเรียนรู้และความเขา้ ใจต่อสิ่งต่างๆ
อนั เป็นผลเนื่องมาจากการท่ีบุคคลประเมินคา่ ส่ิงต่างๆและเกิดความรู้สึกในทางบวกหรือทางลบ
ออกมา
3. องคป์ ระกอบดา้ นความโนม้ เอียงของพฤติกรรม (Behavior component) เป็น
องคป์ ระกอบที่เกี่ยวขอ้ งกบั ความโนม้ เอียงที่บุคคลจะประพฤติปฏิบตั ิตนตอบสนองส่ิงต่างๆไป
ในทางใดทางหน่ึงคือ เมื่อบุคคลมีความรู้เชิงประเมินคา่ และมีความรู้สึกชอบหรือไมช่ อบต่อส่ิง
ต่างๆ แลว้ ผลที่ตามมาคือ ความพร้อมท่ีจะกระทาํ หรือปฏิบตั ิตอบสนองต่อสิ่งใดส่ิงหน่ึงท่ี
สอดคลอ้ งกบความเชื่อถือความรู้สึกท่ีมีตอ่ สิ่งน้นั

11

2.3 จติ วทิ ยาการดูแลเด็ก
2.3.1 ทกั ษะการส่ือสาร
การส่ือสาร หมายถึง กระบวนการถ่ายทอดขา่ วสาร ขอ้ มูล ความรู้ ประสบการณ์
ความรู้สึก ความคิดเห็น ความตอ้ งการจากผสู้ ่งสารโดยผา่ นสื่อต่าง ๆ ท่ีอาจเป็นการพดู การเขียน
สญั ลกั ษณ์อื่นใด การแสดงหรือการจดั กิจกรรมต่าง ๆ ไปยงั ผรู้ ับสาร ซ่ึงอาจจะใชก้ ระบวนการ
สื่อสารที่แตกต่างกนั ไปตามความเหมาะสม หรือความจาํ เป็นของตนเองและคู่ส่ือสาร โดยมี
วตั ถุประสงคใ์ หเ้ กิดการรับรู้ร่วมกนั และมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อกนั บริบททางการสื่อสารที่
เหมาะสมเป็น ปัจจยั สาํ คญั ที่จะช่วยใหก้ ารส่ือสารสมั ฤทธ์ิผล
2.3.2 องค์ประกอบการส่ือสาร
1. ผสู้ ่งสาร (sender) หรือ แหล่งสาร (source) หมายถึง บคุ คล กลุ่มบุคคล หรือ หน่วยงาน
ที่ทาํ หนา้ ที่ในการส่งสาร หรือเป็นแหล่งกาํ เนิดสาร ท่ีเป็นผเู้ ร่ิมตน้ ส่งสารดว้ ยการแปลสารน้นั ใหอ้ ยู่
ในรูปของสญั ลกั ษณ์ที่มนุษยส์ ร้างข้ึนแทนความคิด ไดแ้ ก่ ภาษาและอากปั กิริยาต่าง ๆ เพอ่ื ส่ือสาร
ความคิด ความรู้สึก ขา่ วสาร ความตอ้ งการและวตั ถุประสงคข์ องตนไปยงั ผรู้ ับสารดว้ ยวิธีการใด ๆ
หรือส่งผา่ นช่องทางใดกต็ าม จะโดยต้งั ใจหรือไม่ต้งั ใจกต็ าม เช่น ผพู้ ดู ผเู้ ขียน กวี ศิลปิ น นกั
จดั รายการวทิ ยุ โฆษกรัฐบาล องคก์ าร สถาบนั สถานีวิทยกุ ระจายเสียง สถานีวทิ ยโุ ทรทศั น์
กองบรรณาธิการหนงั สือพมิ พ์ หน่วยงานของรัฐ บริษทั สถาบนั ส่ือมวลชน เป็นตน้

2.3.3 คุณสมบตั ิของผู้ส่งสาร
1. เป็นผทู้ ี่มีเจตนาแน่ชดั ที่จะใหผ้ อู้ ื่นรับรู้จุดประสงคข์ องตนในการส่งสาร แสดง

ความคิดเห็น หรือวจิ ารณ์ ฯลฯ
2. เป็นผทู้ ่ีมีความรู้ ความเขา้ ใจในเน้ือหาของสารท่ีตอ้ งการจะส่ือออกไปเป็นอยา่ งดี
3. เป็นผทู้ ่ีมีบุคลิกลกั ษณะที่ดี มีความน่าเชื่อถือ แคล่วคล่องเปิ ดเผยจริงใจ และมีความ

รับผดิ ชอบ ในฐานะเป็นผสู้ ่งสาร
4. เป็นผทู้ ี่สามารถเขา้ ใจความพร้อมและความสามารถในการรับสารของผรู้ ับสาร
5. เป็นผรู้ ู้จกั เลือกใชก้ ลวิธีท่ีเหมาะสมในการส่งสารหรือนาํ เสนอสาร

2. สาร (message) หมายถึง เร่ืองราวที่มีความหมาย หรือสิ่งต่าง ๆ ที่อาจอยใู่ นรูปของ
ขอ้ มูล ความรู้ ความคิด ความตอ้ งการ อารมณ์ ฯลฯ ซ่ึงถ่ายทอดจากผสู้ ่งสารไปยงั ผรู้ ับสารให้
ไดร้ ับรู้ และแสดงออกมาโดยอาศยั ภาษาหรือสญั ลกั ษณ์ใด ๆ ที่สามารถทาํ ใหเ้ กิดการรับรู้ร่วมกนั

12

ได้ เช่น ขอ้ ความท่ีพดู ขอ้ ความที่เขียน บทเพลงที่ร้อง รูปที่วาด เรื่องราวท่ีอ่าน ท่าทางท่ีส่ือ
ความหมาย เป็นตน้

2.1 รหสั สาร (message code)ไดแ้ ก่ ภาษา สญั ลกั ษณ์ หรือสญั ญาณท่ีมนุษยใ์ ชเ้ พ่ือ
แสดงออกแทนความรู้ ความคิด อารมณ์ หรือความรู้สึกต่าง ๆ

2.2 เน้ือหาของสาร (message content) หมายถึง บรรดาความรู้ ความคดิ และ
ประสบการณ์ท่ีผสู้ ่งสารตอ้ งการจะถ่ายทอดเพื่อการรับรู้ร่วมกนั แลกเปลี่ยนเพ่อื ความเขา้ ใจร่วมกนั
หรือโตต้ อบกนั

2.3 การจดั สาร (message treatment) หมายถึง การรวบรวมเน้ือหาของสาร แลว้ นาํ มา
เรียบเรียงใหเ้ ป็นไปอยา่ งมีระบบ เพื่อใหไ้ ดใ้ จความตามเน้ือหา ที่ตอ้ งการดว้ ยการเลือก ใชร้ หสั สาร
ท่ีเหมาะสม

3. ส่ือ หรือช่องทาง (media or channel) เป็นองคป์ ระกอบที่สาํ คญั อีกประการหน่ึงในการ
ส่ือสาร หมายถึง สิ่งท่ีเป็นพาหนะของสาร ทาํ หนา้ ท่ีนาํ สารจากผสู้ ่งสารไปยงั ผรู้ ับสาร ผสู้ ่งสาร
ตอ้ งอาศยั ส่ือหรือช่องทางทาํ หนา้ ท่ีนาํ สารไปสู่ผรู้ ับสาร

4. ผรู้ ับสาร (receiver) หมายถึง บุคคล กลุ่มบุคคล หรือมวลชนท่ีรับเร่ืองราวข่าวสาร
จากผสู้ ่งสาร และแสดงปฏิกิริยาตอบกลบั (Feedback) ต่อผสู้ ่งสาร หรือส่งสารต่อไปถึง
ผรู้ ับสารคนอื่น ๆ ตามจุดมุ่งหมายของผสู้ ่งสาร เช่น ผเู้ ขา้ ร่วมประชุม ผฟู้ ังรายการวิทยุ กลุ่ม
ผฟู้ ังการอภิปราย ผอู้ ่านบทความจากหนงั สือพิมพ์ เป็นตน้
อา้ งอิง https://sites.google.com/site/thaicommunication83/bth-thi-1-kar-suxsar

2.4 วยั เดก็
จติ วทิ ยาการดูแลเด็กวยั 0-12 ปี ตามแนวทางของอรี ิค อรี ิคสัน (Erik Erikson)
อีริค อีริคสัน (Erik Erikson) ผเู้ ป็นนกั จิตวทิ ยาท่ีคิดทฤษฎีพฒั นาการทางบุคลิกภาพของ
เดก็ และคน้ พบวา่ เดก็ ตามช่วงวยั ต่าง ๆ น้นั มีการพฒั นาบุคลิกภาพท่ีแตกต่างกนั ซ่ึงหากผเู้ ล้ียงดูมี
ความเขา้ ใจพฒั นาการบุคลิกภาพของเดก็ ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง กจ็ ะช่วยเสริมสร้างใหเ้ ดก็ มีพฒั นาการที่
เหมาะสม มีความสุข เกิดการพฒั นาทกั ษะต่าง ๆ ไดเ้ ป็นอยา่ งดี

13

วยั 0-2 ปี เป็นช่วงเวลาแห่งการพฒั นาความไวว้ างใจ (Sense of Trust VS. Sense of
Mistrust)

เมื่อเดก็ วยั น้ีไดร้ ับความรัก ความอบอุ่น อาหาร การดูแลเอาใจใส่ท่ีเหมาะสม เพียงพอ
และสม่าํ เสมอ เช่น เมื่อหิว กม็ ีคนใหน้ ม เมื่อร้องโยเยไมส่ บายตวั กม็ ีคนมาอุม้ มาดูแล เม่ือร้องไห้ ก็
มีคนคอยปลอบโยน เม่ือขบั ถ่ายออกมา กม็ ีคนดูคอยดูแลทาํ ความสะอาดให้ เดก็ กจ็ ะเกิดความ
เช่ือมน่ั ไวว้ างใจในตวั คนท่ีดูแล และไวว้ างใจต่อสภาพแวดลอ้ มของตน รู้สึกวา่ โลกน้ีปลอดภยั
สามารถไวว้ างใจได้ เกิดความมน่ั คงทางใจ ทาํ ใหเ้ ดก็ มีอารมณ์ดี และมีการปรับตวั ท่ีดี

แต่ถา้ เดก็ ในช่วงวยั น้ีไมไ่ ดร้ ับความรักและการดูแลเอาใจใส่อยา่ งสม่าํ เสมอเพียงพอ เดก็
จะรู้สึกวา้ เหวไ่ ม่ไวว้ างใจคน ไม่วางใจโลก รู้สึกวา่ โลกน้ีไม่ปลอดภยั ทาํ ใหเ้ ดก็ หวาดระแวง ข้ีกลวั
รู้สึกไม่มน่ั คงทางจิตใจ ซ่ึงความรู้สึกไม่ไวใ้ จ ไม่มน่ั คงทางจิตใจน้ี หากไม่ไดร้ ับการแกไ้ ข กจ็ ะ
ส่งผลเสียต่อพฒั นาการของเดก็ ในวยั ต่อ ๆ มา และทาํ ใหเ้ ดก็ เติบโตข้ึนเป็นผใู้ หญ่ที่มีปัญหาเร่ืองการ
ไวว้ างใจในที่สุด

วยั 2-3 ปี เป็นช่วงเวลาของการพฒั นาความเป็นอิสระ ความรู้สึกเช่ือมน่ั ในตนเอง
(Sense of Autonomy VS. Sense of Doubt and Shame)

ในช่วงวยั น้ี เดก็ จะมีพฒั นาการทางกลา้ มเน้ือท่ีแขง็ แรงข้ึน สามารถควบคุมเคลื่อนไหว
ร่างกายไดด้ ีข้นึ และควบคุมการขบั ถ่ายของตนไดด้ ีข้นึ ทาํ ใหเ้ ดก็ รู้สึกวา่ ตนเองมีอิสระที่จะทาํ ในสิ่ง
ท่ีตอ้ งการได้ ซ่ึงหากเดก็ วยั น้ีไดร้ ับอิสระในการสาํ รวจส่ิงแวดลอ้ ม มีอิสระในการเลือก คิด
ตดั สินใจ เช่น การเล่นอิสระที่เดก็ เลือกเล่นเอง การฝึกทดลองทาํ สิ่งต่าง ๆ ดว้ ยตนเอง กจ็ ะทาํ ใหเ้ ดก็
รู้สึกมีอิสระ มีความมนั่ ใจในความสามารถของตนเอง รู้สึกเป็นตวั ของตวั เอง สามารถควบคุมตนเอง
ได้ รู้สึกภาคภูมิใจในความสามารถของตนเอง

ส่ิงเหล่าน้ีจะเกิดข้ึนไดด้ ว้ ยการสนบั สนุน ใหโ้ อกาส ใหอ้ ิสระแก่เดก็ ในการทดลองทาํ ส่ิง
ต่าง ๆ ดว้ ยตนเองภายใตก้ ารดูแลของผปู้ กครองดว้ ยความรักความเอาใจใส่ อยา่ งไม่บีบบงั คบั หรือ
จูจ้ ้ีกบั เดก็ มากเกินไป แต่ถา้ หากเดก็ ไม่ไดร้ ับการสนบั สนุนความเป็นอิสระน้ี หรือถูกบงั คบั ควบคุม
อยา่ งเขม้ งวดมากเกินไป เดก็ กจ็ ะรู้สึกละอาย คบั ขอ้ งใจ จนอาจมีพฤติกรรมถดถอยเหมือนเบบี๋เลก็ ๆ
อีกคร้ัง เกิดความสงสยั อบั อาย ไม่แน่ใจในความสามารถของตน มีพฤติกรรมยอมตามผอู้ ื่นเร่ือยไป
กลายเป็นเดก็ ที่ไม่มนั่ ใจในตนเองในที่สุด

14

วยั 3-5 ปี เป็นวยั แห่งการพฒั นาความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ (Sense of Initiative VS. Sense
of Guilt)

เดก็ ในวยั น้ีจะพยายามแสดงความสามารถใหม่ๆ ออกมา ซ่ึงถา้ เดก็ ไดร้ ับการส่งเสริมใหม้ ี
อิสระและความมน่ั ใจ ดว้ ยการใหเ้ ดก็ ไดค้ ดิ ริเริ่มทาํ สิ่งต่างๆ ดว้ ยตนเอง เช่น แต่งตวั เอง ติดกระดุม
เส้ือเอง ส่งเสริมใหเ้ ดก็ ไดเ้ ล่น ไดป้ ระดิษฐ์ ไดฝ้ ึกการใชค้ วามคิดสร้างสรรคแ์ ละจินตนาการ ไดร้ ิเริ่ม
สร้างสรรคก์ ารเล่นดว้ ยตนเอง กจ็ ะช่วยพฒั นาความคิดริเริ่มสร้างสรรคข์ องเดก็ เป็นการฝึกใหเ้ ดก็ มี
ความคิดริเร่ิม เป็นผนู้ าํ ในการตดั สินใจต่างๆ แมจ้ ะพบกบั ปัญหาหรือความลม้ เหลว เดก็ กจ็ ะต้งั ตน้
ใหม่ไดเ้ ร็ว เพราะมีความคิดริเริ่มสร้างสรรคท์ ่ีจะแกไ้ ขปัญหา

แต่หากเดก็ ไม่ไดร้ ับการส่งเสริมส่ิงเหล่าน้ี หรือถูกตาํ หนิ บงั คบั ควบคุมมากจนเกินไป
เดก็ กจ็ ะเกิดความรู้สึกผดิ ไม่กลา้ ทาํ อะไรดว้ ยตนเอง เพราะกลวั ทาํ ผดิ ซ้าํ อีก ทาํ ใหเ้ ดก็ ขาดความเป็น
ผนู้ าํ ขาดความคิดริเร่ิมสร้างสรรคใ์ นการทาํ สิ่งใหม่ ๆ แสดงความสามารถใหม่ ๆ ออกมาอยา่ งน่า
เสียดาย

วยั 6-12 ปี เป็นช่วงวยั ของการพฒั นาความอุตสาหะพยายาม (Sense of Industry VS.
Sense of Inferiority)

ในวยั น้ี หากเดก็ ไดร้ ับการสนบั สนุนใหพ้ ยายามทาํ ส่ิงตา่ งๆ จนสาํ เร็จลุล่วง เช่น ลา้ งจาน
ทาํ การบา้ น ต่อตวั ต่อไดส้ าํ เร็จ เดก็ กจ็ ะมีความภาคภูมิใจในตนเอง รู้สึกดีต่อตนเอง รวมท้งั เป็นการ
บ่มเพาะใหเ้ ดก็ เกิดความพากเพยี ร ไม่ทอ้ ถอยต่อความยากลาํ บากหรืออุปสรรคต่างๆ ดว้ ยคะ่ แต่ถา้
เดก็ ในวยั น้ีไม่ไดร้ ับการสนบั สนุนใหม้ ีความเพียรพยายาม ไม่ไดร้ ับกาํ ลงั ใจ หรือใหท้ าํ งานที่ยาก
เกินไป เดก็ กจ็ ะเกิดความรู้สึกดอ้ ยต่อตนเอง รู้สึกวา่ ตนเองไม่เก่งพอ หรือไม่ดีพอ

2.5 วยั รุ่น
2.5.1 ลกั ษณะทส่ี าคญั ของวยั รุ่น
1. ตอ้ งการความเป็นอิสระวยั รุ่นชอบที่จะมีความเป็นส่วนตวั ตรงน้ีไมไ่ ดห้ มายความวา่
เขาแยกตวั แต่เป็นความรู้สึกอยากมีความเป็นส่วนตวั อยากมีหอ้ งของตนเอง ท่ีจะทาํ อะไรไดต้ าม
อิสระ ไม่ชอบการตรวจเชก็ ไม่ชอบการตรวจคน้ ตรงจุดน้ีพอ่ แม่คงตอ้ งใหว้ ยั รุ่นมีความเป็นอิสระ
ตามสมควร แต่ไม่ใช่ปล่อยอยา่ งอิสระจนไม่มีขอบเขต เพราะถึงแมว้ า่ จะโตเป็นวยั รุ่นแลว้ กต็ าม
วยั รุ่นกย็ งั ตอ้ งการคาํ แนะนาํ ในส่ิงท่ีควรหรือไม่ควรเพื่อจะไดเ้ ป็นบรรทดั ฐาน ของชีวติ แตก่ าร

15

แนะนาํ น้นั ตอ้ งแนะนาํ กนั ดว้ ยเหตุผลและอยบู่ นพ้นื ฐานของสมั พนั ธภาพอนั ดี ต่อกนั ระหวา่ งพอ่ แม่
และวยั รุ่น

2. มีลกั ษณะต่อตา้ นผใู้ หญ่การต่อตา้ นผใู้ หญ่กบั ความตอ้ งการความเป็นอิสระน้นั ดูจะเป็น
ส่ิงท่ีเกิดข้ึนสอด คลอ้ งกนั คือเม่ือตอ้ งการความเป็นอิสระกจ็ ะรู้สึกต่อตา้ นการควบคุม ต่อตา้ น
ผใู้ หญ่ วยั รุ่นมกั จะไม่ฟังคาํ แนะนาํ ส่ิงที่เราพดู ใหฟ้ ัง วยั รุ่นจะคิดวา่ ไปสงั่ สอนเขา ส่ิงท่ีพอ่ แม่จุกจิก
บ่นกบั วยั รุ่น วยั รุ่นกจ็ ะบอกวา่ ถูกพอ่ แม่ด่าอีกแลว้ การต่อตา้ นผใู้ หญ่น้ีเอง ทาํ ใหผ้ ใู้ หญ่หงุดหงิด
และเกิดความรู้สึกเขา้ ใจผดิ บ่อยๆ วา่ เดี๋ยวน้ีลูกไม่เคารพพอ่ แม่แลว้ เด๋ียวน้ีปี กกลา้ ขาแขง็ แลว้ หรือ
เป็นเดก็ ที่ไม่สาํ นึกบุญคุณท่ีพอ่ แม่เล้ียงดูมาแต่ออ้ นแต่ออกเสียแลว้ ในที่สุดพอ่ แม่อาจจะคิดนอ้ ยใจ
และมีเจตคติไม่ดีต่อวยั รุ่น เช่น ไม่อยากมองหนา้ ไม่อยากพดู คุยดว้ ย เป็นตน้

3. ไวต่อความรู้สึกมาก อ่อนไหวต่อความรู้สึกมากต่อการถูกตาํ หนิเลก็ ๆ นอ้ ยๆ ในเร่ืองที่
ผใู้ หญ่ไม่เห็นดว้ ย วยั รุ่นจะมีความรู้สึกมากและมกั จะยอ้ นถามอยใู่ นใจของวยั รุ่นเสมอวา่ แคน่ ้ีทาํ ไม
ถึงใหไ้ ม่ได้ เร่ืองเลก็ นิดเดียวไม่เห็นสลกั สาํ คญั อะไร ไม่เห็นจะเป็นสิ่งสาํ คญั ในชีวติ สกั หน่อย ทาํ ไม
ถึงไดค้ อยตาํ หนิติเตียนกนั อยรู่ ่าํ ไป

4.เก่ียวกบั ธรรมชาติของความรู้สึกอ่อนไหว ไวต่อความรู้สึกน้นั เราสามารถพบลกั ษณะ
อีกอยา่ งหน่ึงคอื ความรู้สึกสองจิตสองใจ ตดั สินใจอะไรไม่คอ่ ยได้ ตดั สินใจอะไรไม่คอ่ ยแน่ คิด
แลว้ ตดั สินใจแลว้ ประเด๋ียวเดียวกเ็ ปล่ียนอีกแลว้ ลกั ษณะน้ีผใู้ หญ่คงตอ้ งเขา้ ใจ ตอ้ งทาํ ใจ และ
อดทนต่ออารมณ์ของตนเอง ในท่ีสุดเมื่อเขาโตข้ึนความรู้สึกสองจิตสองใจน้ีจะคอ่ ยๆ หายไป

5. มีความรู้สึกวา่ เพ่อื นมีความสาํ คญั กบั เขามาก ลกั ษณะน้ีเป็นพฒั นาการตามปกติท่ีวยั รุ่น
ทุกคนจะตอ้ งพฒั นามาถึงจุดท่ีเขามี ความรู้สึกวา่ เพอ่ื นมีอิทธิพลกบั เขามาก จนดูเหมือนวา่ จะมี
ความสาํ คญั มากกวา่ พอ่ แม่เสียอีก อะไรๆ กจ็ ะบอกวา่ เพอ่ื นเขาทาํ กนั อยา่ งน้นั เพือ่ นเขาคิดกนั อยา่ งน้ี

16

2.6 ช่ือและท่ตี ้งั สถานทป่ี ระกอบการ
ชื่อหา้ งหุน้ ส่วนจาํ กดั ฟ้าสวย แทรเวล
สถานที่ต้งั 261 ถ.ประชาอุทิศ เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร
โทรศพั ท์ 02 871 9398
เวป็ ไซต์ http://www.fahsuay.com , http://www.facebook.com/Fahsuay11

2.6.1 ข้อมูลทว่ั ไป
หา้ งหุน้ ส่วนจาํ กดั ฟ้าสวย แทรเวล
ไดก้ ่อต้งั ข้ึนเมื่อปี พ.ศ. 2544 ไดถ้ ือกาํ เนิดข้ึนจากความมุ่งมน่ั และต้งั ใจ รวมท้งั มีใจรักใน
งานดา้ นบริการ จึงมีการรวมตวั ของบุคลากรท่ีมีประสบการณ์ ในดา้ นการท่องเท่ียวและการบริการ
ทาํ งานกนั อยา่ งมืออาชีพ และยงั ดาํ รงความเช่ือมน่ั ในดา้ นธุรกิจท่องเที่ยวมาจวบจนปัจจุบนั ไดร้ ับ
ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนาํ เท่ียว
เลขที่ 11/04662 เป็นผดู้ าํ เนินธุรกิจท่องเท่ียว โดยเริ่มจากการดาเนินธุรกิจท่องเท่ียว
ภายในประเทศ (DOMESTIC TOUR) รับจดั ทวั ร์เป็นหมู่คณะ ท้งั บริษทั เอกชนและหา้ งร้าน รวมท้งั
จดั กิจกรรม อบรม สมั มนาและศึกษาดูงานใหก้ บั องคก์ รภาครัฐต่างๆ จดั กิจกรรมเช่ือมความสมั พนั ธ์
ในองคก์ ร Walk Rally , Team Building , Sport Day , Event งานเล้ียง งานสงั สรรค์
ดว้ ยศกั ยภาพในการติดต่อประสานงาน จากทีมงานมืออาชีพ พร้อมใหบ้ ริการจดั นาํ เที่ยว
เสน้ ทางต่างๆ รอบโลก ไม่วา่ จะเป็น ทวั ร์จีน, ทวั ร์ไตห้ วนั , ทวั ร์พม่า, ทวั ร์อินเดีย, ทวั ร์เวยี ดนาม,
ทวั ร์สิงคโปร์, ทวั ร์เกาหลี, ทวั ร์ญี่ป่ ุน, ทวั ร์ยโุ รป, ทวั ร์อเมริกา, ทวั ร์ออสเตรเลีย, ทวั ร์อียปิ ต,์ ทวั ร์
รัสเซีย และอีกหลาย ๆ ประเทศทวั่ โลก(OUT BOUND) เรากพ็ ร้อมยนิ ดีใหบ้ ริการ ไม่วา่ แบบกรุ๊ป
เหมา ดูงาน พกั ผอ่ น ฮนั นีมนู
อีกท้งั เรายงั มี (STUDENT TOUR) ใหบ้ ริการดา้ นทศั นศึกษาสาํ หรับเยาวชน ต้งั แต่ระดบั
อนุบาล ถึงระดบั อุดมศึกษา ส่งเสริมการเรียนรู้นอกหอ้ งเรียนแบบบูรณาการ เพื่อใหเ้ กิด
ประสิทธิภาพสูงสุดในดา้ นการส่งเสริมการเรียนรู้และการจดจาํ ทาํ ใหเ้ ยาวชนเกิดความเขา้ ใจในการ
เรียน การสอน มากยงิ่ ข้ึน ภายใตก้ ารดูแล จากทีมงานท่ีมีความรู้และความสามารถ พร้อมสร้างความ
สนุกสนานตลอดการเดินทาง

17

2.6.2 งานบริการของ ฟ้าสวย แทรเวล
-Inbound Travel Tour
-Package Tour ในประเทศ
-รับจดั การประชุมสมั มนาใหห้ น่วยงานราชการ, องคกร์ รัฐบาลต่างๆ, รัฐวิสาหกิจ,

บริษทั เอกชนและหา้ งร้านตา่ งๆในประเทศ โดยจดั สรรดา้ นหอ้ งพกั หอ้ งประชุมสมั มนา รวมถึงหอ้ ง
จดั เล้ียงและเรื่องของดา้ นอาหารและเครื่องดื่ม

-รับจดั Package Tour สาํ หรับนกั ท่องเท่ียวท่ีชอบเดินทางไปชมทศั นียภาพตาม
สถานท่ีงดงามต่างๆ ในประเทศ ท้งั ทางบก ทางเรือ เช่น ป่ าไม้ ภูเขา ทะเล น้าํ ตก เกาะต่างๆ และ
เขื่อน เป็นตน้

-รับจองโรงแรม ที่พกั และสถานที่สาํ หรับจดั งานเล้ียงต่างๆ
-บริการใหเ้ ช่ารถบสั ปรับอากาศ ช้นั 1 และรถตูป้ รับอากาศ
-บริการดา้ นมคั คุเทศกท์ ่ีชาํ นาญภาษาต่างประเทศและมีประสบการณ์และความรู้ใน
สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศเป็นอยา่ งดี
-รับจองตวั๋ เคร่ืองบิน
2.6.3 การบริการของ ฟ้าสวย แทรเวล สาหรับนักเรียน
ในการจดั ทศั นศึกษาสาํ หรับนอ้ งๆนกั เรียนในโรงเรียนดว้ ยทีมงานท่ีมีคุณภาพและ
ประสบการณ์ ดา้ นเฉพาะ ทีมงานฟ้าสวย แทรเวล ดูแลเอาใจใส่ ถ่ายทอดความรู้ท่ีตรงตามหลกั สูตร
ของนอ้ งๆนกั เรียน รวมถึงเกร็ดความรู้เพิม่ เติมจากสถานท่ีท่องเท่ียวพร้อมกบั มอบความสนุกสนาน
เพลิดเพลินจากกิจกรรมสนั ทนาการ ความบนั เทิงต่างๆตลอดการเดินทาง
2.6.4 สิ่งอานวยความสะดวกทฟ่ี ้าสวย แทรเวล มอบให้ท่านอาจารย์และน้องๆนักเรียน
1. รถโคช้ ปรับอากาศ 2 ช้นั สาํ หรับนกั เรียน 50-55 ท่ีนง่ั และท่านอาจารยฟ์ รี 2 ท่าน
-รถบสั พดั ลม สาํ หรับนกั เรียน 60 ท่ีนง่ั และท่านอาจารยฟ์ รี 3 ท่าน
2. มคั คุเทศกผ์ บู้ รรยายรายละเอียดแต่ละสถานท่ี 1 ท่าน และผชู้ ่วยดูแลเอาใจใส
3. บริการอาหารวา่ งเชา้
4. น้าํ ด่ืมเยน็ ๆ ตลอดการเดินทาง
5. เอกสารสรุปคาํ บรรยาย
6. กระเป๋ ายาปฐมพยาบาลข้นั พ้ืนฐานสาํ หรับทุกคนั
7. ของท่ีระลึกสาํ หรับกิจกรรมในการเดินทางสาํ หรับนกั เรียนและอาจารย์
8. ประกนั อุบตั ิเหตุในการเดินทาง สาํ หรับนกั เรียนและอาจารย์

18

9. มีตาํ รวจนาํ ขบวน ( ในกรณีที่มีรถในขบวน 7 คนั ข้ึนไป )
10. อภินนั ทนาการ CD บนั ทึกภาพนิ่งระหวา่ งเดินทางพร้อมแฟ้มการเดินทาง 1 ชุด

19

บทท่ี 3

ข้นั ตอนและวธิ ีการดาเนินงาน

การทาํ โครงงาน เรื่อง จิตวทิ ยาการบริการในทวั ร์นกั เรียน มีข้นั ตอนดงั น้ี
1. ศึกษาและทบทวนเอกสารทเี่ กย่ี วข้อง การทาํ โครงงานฉบบั น้ีเริ่มต้งั แตก่ ารศึกษา
กระบวนการจดั รูปแบบโครงงานสหกิจศึกษา ต้งั แต่ บทที่ 1 - บทที่ 5 พร้อมท้งั ศึกษาเน้ือหา
ขอ้ มูลท่ีมีความเกี่ยวขอ้ งกบั โครงงานสหกิจศึกษา ระยะเวลาการปฎิบตั ิงาน
2. วเิ คราะห์ข้อมูล ศึกษาคน้ ควา้ ขอ้ มูลทางอินเตอร์เน็ต เพอื่ ศึกษาขอ้ มูลรวมถึงเลือกเน้ือหาท่ี
เกี่ยวขอ้ งกบั โครงงาน แลว้ นาํ มาวเิ คราะห์ขอ้ มูล เพอ่ื เลือกใส่เน้ือหาท่ีเก่ียวขอ้ งกบั โครงงาน
ระยะเวลาการปฏิบตั ิงาน
3. เริ่มจัดทาโครงงาน นาํ เน้ือหาเอกสารที่ทบทวนซ่ึงเกี่ยวขอ้ งกบั โครงงานนาํ มาพิมพใ์ น
โครงงาน รวมถึงคดั แยกขอ้ มลู ที่เกี่ยวขอ้ งโครงงาน เร่ิมจดั พมิ พโ์ ครงงาน บทท่ี 1 – บทที่ 2
พร้อมขอคาํ ปรึกษาจาก พีท่ ่ีปรึกษา และไดร้ ับคาํ ปรึกษาจากเพอ่ื นของนิสิต ระยะเวลา
ปฏิบตั ิงาน
4. วเิ คราะห์ข้อมูลและสรุปผล นาํ ขอ้ มูลมาวเิ คราะห์ พร้อมมีการปรับเปล่ียนเน้ือหาใหม้ ี
ความสอดคลอ้ งกบั โครงงาน โดยไดร้ ับคาํ แนะนาํ จาก อาจาร์ยท่ีปรึกษาและพี่ๆทีมงาน ฟ้าสวย
เพือ่ ใหไ้ ดข้ อ้ มูลที่ถูกตอ้ ง
5. เรียบเรียง/ตรวจสอบ มีการตรวจสอบความถูกตอ้ งของเน้ือหาโครงงานในแต่ละบท
เร่ิมดาํ เนินทาํ การจดั พมิ พต์ ามรูปแบบโครงงานจากท่ีศึกษา เพอ่ื การจดั ทาํ รูปแบบโครงงานที่
ถูกตอ้ ง
6. จดั ส่งร่างโครงงานฉบบั สมบูรณ์ เสนอร่างโครงงานใหแ้ ก พีท่ ี่ปรึกษาสหกิจศึกษา เพือ่
ตรวจสอบความถูกตอ้ งของเน้ือหา
7. จดั ทาโครงงานฉบับสมบูรณ์ ศึกษาการจดั ทาํ รูปแบบการเรียบเรียงโครงงาน มีการเพ่ิม
บทคดั ยอ่ กิตติกรรมประกาศ พร้อมจดั ทาํ โครงงานฉบบั สมบูรณ์ตามรูปแบบ รวมถึงการเรียบ
เรียงภาษาและตรวจสอบเน้ือหาความถูกตอ้ ง

20

บทที่ 4

ผลการดาเนินงาน

การจดั ทาํ โครงงานเรื่อง จิตวิทยาการบริการในทวั ร์นกั เรียน มีวตั ถุประสงคเ์ พ่อื ใหไ้ ด้
เขา้ ใจ เขา้ ถึงลูกคา้ กลุ่มทวั ร์นกั เรียนมากยง่ิ ข้ึน และสามารถเอาไปประยกุ ตใ์ ชก้ บั การทาํ งานจริงใน
อนาคต เนื่องจาก หา้ งหุน้ ส่วน จาํ กดั ฟ้าสวย แทรเวล ลูกคา้ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มนกั เรียน เป็นการ
ท่องเที่ยวเชิงทศั นศึกษา โดยเป็นการเดินทางแบบไปเชา้ เยน็ กลบั หรือท่ีเรียกกนั วา่ วนั เดย์ ทริป
(One day Trip) ซ่ึงเป็นการจดั นาํ เท่ียวในแหล่งท่องเที่ยวหรือสถานที่ใกลๆ้ หรือไม่ไกลจากสถานที่
ของนกั ท่องเท่ียวมากนกั โดยการพากลุ่มนกั เรียน หรือลูกคา้ ของเราน้นั ซ่ึงมีหลากหลายช่วงวยั ไป
ทศั นศึกษานอกสถานที่ ตามท่ีต่างๆน้นั ตอ้ งมีการดูแลและใส่ใจเป็นพเิ ศษ จากการศึกษาสามารถ
แบ่งกลุ่มลูกคา้ ไดต้ ามระดบั ช้นั หรือช่วงอายไุ ด้ ดงั น้ี

- ระดบั อนุบาล หรือ ช่วงอายุ 4 – 6 ปี เป็นวยั แห่งการพฒั นาความคิดสร้างสรรค์ ชอบการ
ทดลอง การทาํ อะไรดว้ ยตนเอง ช่างพดู ช่างถาม มีความอยากรู้อยากเห็น

- ระดบั ประถม หรือ ช่วงอายุ 7 – 12 ปี เป็นวยั แห่งการเรียนรู้ อยากรู้อยากเห็น อยาก
ทดลอง กลา้ คิดกลา้ ทาํ มีความมนั่ ใจในตนเอง

- ระดบั มธั ยมตน้ หรือ ช่วงอายุ 13 -15 ปี วยั น้ีเริ่มมีความคิดเป็นของตวั เอง รู้จกั คดิ รู้จกั
การปฏิเสธ มีอารมณ์อ่อนไหว ติดเพ่อื น

- ระดบั มธั ยมปลาย หรือ ช่วงอายุ 16 – 18 ปี วยั น้ีรักความเป็นอิสระ ไม่ชอบติดอยใู่ น
กรอบ ไม่ชอบการบงั คบั ติดเพอื่ น มีอารมณ์อ่อนไหว ต่อตา้ นผใู้ หญ่ ไม่ชอบการถูกสง่ั

สถานที่ท่องเท่ียวสาํ หรับแต่ละวยั กม็ ีความแตกต่างกนั โดยปกติแลว้ ทางสถาน
ประกอบการจะทาํ การนาํ เสนอโปรแกรมการท่องเท่ียวและกิจกรรมที่เหมาะกบั นอ้ งๆนกั เรียนใน
ระดบั ช้นั ต่างๆที่เสนอขาย รวมถึงมีการนาํ เสนอยานพาหนะที่ใชใ้ นการเดินทาง รายการอาหารท้งั
อาหารวา่ งในตอนเชา้ อาหารกลางวนั และเคร่ืองดื่มในการเดินทาง โดยทางโรงเรียนจะเป็นฝ่าย
ตดั สินใจวา่ ตอ้ งการโปรแกรมใดที่ เหมาะกบั นอ้ งๆนกั เรียน ซ่ึงนกั เรียนแต่ละโรงเรียนกจ็ ะมีความ
แตกต่างกนั ในระดบั ช้นั ไดแ้ ก่ ระดบั ช้นั อนุบาล ประถมศึกษา และมธั ยมศึกษา เป็นตน้

21

4.1 การเลือกสถานทใี่ ห้มคี วามเหมาะสมกบั ช่วงอายุในแต่ละดับช้ัน

สาํ หรับนกั เรียนระดบั ช้นั อนุบาลเป็นระดบั ช้นั ที่ตอ้ งดูแลเอาใส่เป็นพิเศษมากวา่ ระดบั ช้นั
อื่นๆ ต้งั แต่การเดินจากโรงเรียนไปข้ึนรถ การข้ึนลงบนั ไดรถ การนง่ั รถ การทานอาหาร การเขา้ หอ้ ง
นา้ การเท่ียวชมในสถานท่ีตา่ งๆและตอ้ งใชร้ ะยะเวลาในการเดินทางไม่นาน สถานท่ีท่ีท่องเที่ยวตอ้ ง
อยไู่ ม่ไกลจากโรงเรียนมากนกั ซ่ึงหลกั ๆแลว้ ระดบั ช้นั อนุบาลจะตอ้ งกลบั ถึงโรงเรียนไม่เกิน 14.00
น. โปรแกรมท่ีเหมาะกบั ระดบั อนุบาล โดยบริษทั นาํ เสนอขายโปรแกรม ไดแ้ ก่ Sea Life Bangkok
สยามพารากอน ,สวนสัตวด์ ุสิต ,ซาฟารี เวลิ ด,์ พิพธิ ภณั ฑเ์ ดก็ (กรุงเทพฯ), Funarium เป็นตน้
สาํ หรับนกั เรียนระดบั ช้นั ประถมศึกษาซ่ึงมีการแบ่งเป็น 2 ช่วง คือ

1.ระดบั ช้นั ประถมศึกษาตอนตน้ เป็นช่วงท่ีเร่ิมการปรับตวั จากระดบั ช้นั อนุบาล จะเริ่มมี
ความสนใจในการเรียนรู้และมีการตอบรับต่อการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆยงั ไม่รวดเร็วมากนกั ส่วนในเรื่อง
ของการดูแลในระดบั ช้นั ประถมศึกษาตอนตน้ จะคลา้ ยคลึงกบั ระดบั ช้นั อนุบาล โปรแกรมที่บริษทั
นาํ เสนอขาย ไดแ้ ก่ สวนสามพรานโรสการ์เดน้ จ.นครปฐม, สวนสตั วด์ ุสิต (เขาดิน), Sea Life
Bangkok, Madame Tussauds,ทอ้ งฟ้าจาํ ลองกรุงเทพฯ,พพิ ิธภณั ฑเ์ ดก็ ,สวนสตั วเ์ ปิ ดเขาเขียว จ.ชลบุรี
เป็ นตน้

2.ระดบั ช้นั ประถมศึกษาตอนปลาย เป็นช่วงระดบั ช้นั ท่ีมีความสนใจมากต่อการเดินทาง
รวมถึงมีการตอบรับต่อการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว เป็นช่วงวยั ใฝ่ เรียนรู้ รับรู้ไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว
ในเรื่องของการดูแลมีความง่ายกวา่ ระดบั ช้นั ประถมศึกษาตอนตน้ โดยโปรแกรมที่บริษทั เสนอขาย
ไดแ้ ก่ สวนสตั วด์ ุสิต (เขาดิน), Sea Life Bangkok, Madame Tussauds , Kidzania ,ทอ้ งฟ้าจาํ ลอง
กรุงเทพฯ,องคก์ ารพพิ ิธภณั ฑว์ ทิ ยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.),สวนสามพรานโรสการ์เดน้ พพิ ิธภณั ฑ์
หุ่นข้ีผ้งึ ไทย จ.นครปฐม,สวนสัตวเ์ ปิ ดเขาเขียว จ.ชลบุรี,วดั วงั โบราณ,ศูนยศ์ ึกษาประวตั ิศาสตร์ จ.
อยธุ ยา,เมืองโบราณ จ.สมุทรปราการ เป็นตน้

สาํ หรับนกั เรียนระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาเป็นระดบั ช้นั ท่ีอยใู่ นช่วงอายทุ ่ีสามารถดูแลตวั เอง
ไดแ้ ลว้ เพราะฉะน้นั จึงทาํ ไหก้ ารบริการทาํ ไดแ้ ค่ดูแลอยหู่ ่างๆ ซ่ึงเป็นวยั ที่สามารถเรียนรู้และรับรู้ได้
ดีมากแลว้ ประกอบกบั เป็นวยั ที่มีความสนุกสนานและในช่วงอายจุ ะมีการใหค้ วามสาํ คญั กบั เพือ่ น
เป็นส่ิงสาํ คญั ดว้ ย ด้งั น้นั โปรแกรมท่ีจะนาํ เสนอขาย ไดแ้ ก่ ศูนยศ์ ิลปาชีพบางไทร วดั ใหญ่ชยั มงคล
วงั โบราณ+วหิ าร วดั ชยั วฒั นาราม ตลาดน้าํ อโยธยา ศูยนศ์ ึกษาประวตั ิศาสตร์ จ.พระนครศรีอยธุยา,
บึงฉวาก,ตลาดร้อยปี สามชุก จ.สุพรรณบรุ ี, พพิ ิธภณั ฑห์ ุ่นข้ีผ้งึ ไทย องคพ์ ระปฐมเจดีย์ จ.นครปฐม,
ตลาดน้าํ 4 ภาค Art In Paradise จ.ชลบุรี วดั + วงั กรุงเทพฯ เป็นตน้

22

4.1.1 การบริการในทัวร์นักเรียน
ในการออกทวั ร์แต่ละคร้ังจะมีการเตรียมของสาํ หรับออกทวั ร์ดงั น้ี
- ถาด สาํ หรับเสิร์ฟของวา่ ง และน้าํ
- ท่ีตกั น้าํ แขง็
- ถุงพลาสติก สาํ หรับแขวนหรือเสียบหนา้ เบาะที่นงั่ ของรถบสั
- ถุงขยะ
- ของรางวลั (ตุก๊ ตา พดั ลมมือถือ ปากกา กระบอกน้าํ ฯลฯ) สาํ หรับกิจกรรมนนั ทนาการ
บนรถ
- ใบงานความรู้
- ทิชชู่
- กระเป๋ ายา

ก่อนการออกทวั ร์ในแต่ละวนั สตาฟประจาํ แต่ละคนั รถจะมีการเตรียมส่ิงของดงั ขา้ งตน้ ที่
กล่าวไวก้ ่อนไปรับลูกคา้ หรือนกั เรียน ซ่ึงในการทาํ ทวั ร์นกั เรียนทางสตาฟน้นั จะตอ้ งคอยเช็คช่ือ
เดก็ ๆและจาํ นวนก่อนออกเดินทาง

4.2 การรับมือในการออกทัวร์ของเด็กแต่ละระดับช้ัน
ระดบั ช้นั อนุบาล : ตอ้ งคอยดูแล ระมดั ระวงั เร่ืองการเดินแถวของเดก็ เพราะเดก็ วยั น้ีจะ
โดนดึงดูดจากส่ิงรอบขา้ งไดง้ ่าย ไม่คอ่ ยจดจ่อกบั อะไรนาน เวลาเดินมกั จะไม่คอ่ ยมองทาง ทาํ ให้
เกิดอุบตั ิเหตุไดง้ ่าย โดยเฉพาะการเดินข้ึน – ลงบนั ไดของรถทวั ร์ เน่ืองจากบนั ไดรถทวั ร์ส่วนใหญม่ ี
ข้นั บนั ไดท่ีสูง แลว้ เป็นแนวโคง้ ในบางคร้ัง สตาฟตอ้ งคอยอุม้ เดก็ เพอ่ื ข้ึน-ลงรถทวั ร์ คอยส่งเสียง
บอกทางหรือเตือนเร่ืองการมองทางเป็นระยะเวลาลงตามสถานที่ต่างๆ สตาฟตอ้ งคอยเป็นหูเป็นตา
ดูเดก็ ๆไม่ใหห้ ลงทางในกลุ่มนกั ท่องเที่ยว เพราะเดก็ วยั น้ีบางคนยงั ไม่รู้ทิศหรือไม่รู้จกั ซา้ ย-ขวา ทาํ
ใหต้ อ้ งระมดั ระวงั เป็นพิเศษ เม่ือถึงเวลารับประทานอาหาร ตอ้ งคอยดูแลเร่ืองขา้ วกล่อง คอย
สอบถามจากคุณครูหรือผปู้ กครองที่มาดว้ ยถึงอาการแพอ้ าหาร วา่ แพอ้ าหารชนิดไหนบา้ ง เดก็ บาง
คนยงั รับประทานอาหารเองไม่เป็น สตาฟตอ้ งมีหนา้ ที่สอนและดูแล เดก็ บางคนตอ้ งรับประทานยา
ก่อน-หลงั อาหาร คอยดูแลเรื่องน้าํ เปิ ดขวดน้าํ ใหเ้ ดก็ ๆ เม่ืออยบู่ นรถบสั ตอ้ งรัดเขม็ ขดั นิรภยั ใหเ้ ดก็ ๆ
ทุกท่ีนง่ั เพอื่ ความปลอดภยั กนั เดก็ เดินไปมาขณะรถว่ิง กรณีมีเดก็ ไม่สบายหรือป่ วย ควรใหเ้ ดก็ ทาน
ยาน้าํ หรือ ยาเมด็ แบ่งคร่ึง

23

เดก็ วยั น้ีเม่ือเวลาไปทศั นศึกษามกั จะสนใจสิ่งรอบตวั อยแู่ ลว้ จึงไม่คอ่ ยเป็นปัญหาสาํ หรับ
มคั คุเทศกห์ รือวิทยากรท่ีพดู อธิบายแลว้ เดก็ ไม่ฟัง เพราะวยั น้ีเมื่อเจอสิ่งใหม่ๆ ไดอ้ อกมาเรียนรู้นอก
หอ้ งเรียนมกั จะต่ืนเตน้ ใหค้ วามสนใจเป็นพิเศษ และใหค้ วามร่วมมือเป็นอยา่ งดี

ระดบั ช้นั ประถมศึกษาตอนตน้ : คอยดูแลและระมดั ระวงั เรื่องการเดินในสถานที่
ท่องเท่ียวที่มีนกั ท่องเท่ียวพลุกพล่าน เพราะเดก็ วยั น้ีเป็นวยั แห่งความคึกคะนอง ซุกซน อยไู่ ม่นิ่ง
ตื่นเตน้ กบั สิ่งที่เจอ พร้อมจะเขา้ หาส่ิงท่ีตวั เองสนใจโดยไม่สนใจคนรอบขา้ ง แต่ถา้ เราสามารถดึง
ความสนใจจากเขาใหม้ าอยทู่ ี่เราได้ เขาจะต้งั ใจฟัง ใหค้ วามร่วมมือในการทาํ กิจกรรมต่างๆเป็นอยา่ ง
ดี เม่ือลงสถานท่ีท่องเที่ยวท่ีตอ้ งฟังขอ้ มูล เดก็ วยั น้ีสามารถมีสมาธิจดจ่อไดร้ ะยะนึง แลว้ กค็ วรปล่อย
ใหเ้ ดก็ วยั น้ีไดท้ ดลอง หรือสมั ผสั ประสบการณ์ดว้ ยตนเองดว้ ย

ระดบั ช้นั ประถมศึกษาตอนปลาย : เป็นวยั ที่พดู รู้เร่ือง ส่ือสารเขา้ ใจง่าย ไม่คอ่ ยน่าเป็น
ห่วงในเร่ืองของการเดินต่างๆ แต่ในปัจจุบนั เคร่ืองมือสื่อสารมีอิทธิพลอยา่ งมากกบั ชีวิตประจาํ วนั
ซ่ึงเดก็ ในวยั น้ีเริ่มมีการพกเคร่ืองมือส่ือสารหรือสมาร์ทโฟนกนั บา้ งแลว้ ส่ิงที่สตาฟตอ้ งระวงั และ
ดูแลคือ การที่เดก็ สนใจกบั โทรศพั ทม์ ากเกินไป ไม่ฟังขอ้ มูลจากทางมคั คุเทศกห์ รือวทิ ยากร หรือติด
ถ่ายรูปตามสถานที่ต่างๆ สตาฟมีหนา้ ที่เตือน หรือคอยเป็นหูเป็นตา ระมดั ระวงั เวลาเดก็ ๆถ่ายรูป
ตามที่ต่างๆแลว้ อาจเดินหลงหรือตามกลุ่มเพอ่ื นหรือพม่ี คั คุเทศกไ์ ม่ทนั หรือถา้ หากเดก็ ๆติด
โทรศพั ทม์ ากเกินไป สตาฟกอ็ าจจะยนื่ ขอ้ เสนอ เช่น ฟังพีว่ ิทยากรพดู จบแลว้ จะถ่ายรูปให้ เป็นตน้

ระดบั ช้นั มธั ยมศึกษา : เป็นวยั ท่ีไม่ชอบการโดนบงั คบั รักอิสระ ติดเพือ่ น การทศั นศึกษา
นอกสถานท่ีสาํ หรับวยั น้ีคือการไปเที่ยวกบั เพ่อื น ดงั น้นั เดก็ วยั น้ีจะไมค่ ่อยรับฟังขอ้ มูลมากนกั ติด
ถ่ายรูป ชอบการเป็นอิสระในการเดินเท่ียวเอง ไม่พ่ึงพามคั คุเทศกห์ รือสตาฟ การทาํ งานกบั เดก็ วยั น้ี
คือตอ้ งใชค้ วามอดทน ความเขา้ ใจซ่ึงกนั และกนั ทาํ ใหเ้ ขาเห็นถึงคุณคา่ ของการมาทศั นศึกษา ยน่ื
ขอ้ เสนอหรือขอ้ ตกลง เช่น ฟังพ่ีวทิ ยากรพดู จบแลว้ จะถ่ายรูปให้ หรือปล่อยเดินอิสระ เป็นตน้
หนา้ ท่ีของสตาฟเมื่อพาเดก็ กลุ่มน้ีออกทศั นศึกษาคือ ทาํ ตวั เองใหเ้ หมือนเป็นเพื่อนพวกเขา ไม่บงั คบั
ไม่ออกคาํ สงั่ พดู คุยกนั ดว้ ยเหตุผล ถา้ หากปล่อยเดก็ ใหเ้ ที่ยวอิสระกค็ วรย้าํ เรื่องเวลาและสถานที่นดั
หมายใหช้ ดั เจน ถา้ หากเราสามารถเขา้ กบั เดก็ วยั น้ีไดเ้ ร็วมากเท่าไหร่ การทาํ งานของเรากจ็ ะราบร่ืน
ท้งั การทาํ กิจกรรมบนรถกจ็ ะสนุกสนาน การลงสถานที่ต่างๆกจ็ ะเรียบร้อย

24

บทที่ 5

สรุปผล

จากผลการดาํ เนินโครงงาน เร่ือง จิตวิทยาการบริการในทวั ร์นกั เรียน สรุปผลได้ ดงั น้ี
กลุ่มลูกคา้ หรือนกั เรียนในแต่ละช่วงวยั หรือช่วงอายมุ ีลกั ษณะท้งั ทางกายภาพ อารมณ์

และความคิดที่แตกต่างกนั ดงั น้นั การทาํ ความเขา้ ใจ การเอาใจใส่ การดูแล และการบริการจึง
แตกต่างกนั

ระดบั ช้นั อนุบาล เป็นวยั ที่เลก็ ที่สุด ตอ้ งไดร้ ับการดูแลและใส่ใจเป็นพเิ ศษในทกุ ๆดา้ น
ส่ิงสาํ คญั ที่สุดคือการสื่อสาร ตอ้ งมีการย้าํ หลายๆรอบเพื่อใหเ้ ดก็ เขา้ ใจ เป็นวยั ที่ไม่คอ่ ยจดจ่อกบั
อะไรนานๆ ไม่ค่อยมีสมาธิ ตอ้ งคอยเรียกหรือดึงดูดความสนใจบ่อยๆ

ระดบั ช้นั ประถมศึกษาตอนตน้ เป็นวยั คึกคะนอง วยั กาํ ลงั ซน มีอาการด้ือบางตามประสา
รู้จกั คิด ช่างถาม ข้ีสงสยั คุยเก่ง สนใจสิ่งรอบตวั หนา้ ท่ีของเราคือตอ้ งพดู คุยกบั เดก็ ใหม้ าก ตอบ
คาํ ถามเขา ใส่ใจเขา ไม่เมินหรือทาํ เป็นไมส่ นใจเขาไม่ได้ เพราะจะทาํ ใหเ้ ขาไมเ่ ชื่อฟังเราหรืออาจ
ต่อตา้ น

ระดบั ช้นั ประถมศึกษาตอนปลาย เป็นวยั ที่เริ่มมีสมาธิจดจ่อกบั อะไรไดน้ านมากข้ึน พดู รู้
เรื่อง รู้จกั ทาํ ความเขา้ ใจ คิด วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างๆได้ แยกแยะเป็น สามารถทาํ ตามกฎระเบียบ
ของสถานท่ีหรือการอยรู่ ่วมกนั ไดด้ ี

ระดบั ช้นั มธั ยมศึกษา เป็นวยั ที่รักอิสระ เป็นตวั ของตวั เอง ไม่ชอบการถูกสงั่ หรือบงั คบั
ไม่ชอบการถูกตีกรอบ ดงั น้นั การพาเดก็ วยั น้ีออกทศั นศึกษาจึงจะมีช่วงเวลาที่ใหเ้ ขาไดม้ ีอิสระ
หนา้ ที่ของเราคือ ปฏิบตั ิหรือพดู คุยกนั เหมือนเพือ่ น แลกเปล่ียนความคิดเห็นแลว้ ทาํ ขอ้ ตกลงดว้ ยกนั

วเิ คราะห์ SWOT โครงงาน
-จุดแขง็ เน้ือหาเกี่ยวขอ้ งกบั งานท่ีผจู้ ดั ทาํ ไดล้ งมือทาํ จริงๆ ทาํ ใหข้ อ้ มูลของโครงงานส่วนหน่ึงมา
จากการทาํ งานหรือประสบการณ์ของผจู้ ดั ทาํ จริง
–จุดอ่อน โครงงานยงั ขาดเน้ือหาขอ้ มูลอีกหลายส่วนท่ีเก่ียวกบั สถานประกอบการ เพราะขอ้ มูล
บางส่วนของสถานประกอบการไม่สามารถเปิ ดเผยได้ ทาํ ใหข้ อ้ มูลอาจจะยงั ไม่ครบและดีพอ และ
เน้ือหาในส่วนของการบริการกบั ลูกคา้ ท่ีเป็นวยั นกั เรียนมีขอ้ มูลท่ีค่อนขา้ งนอ้ ย ทาํ ใหห้ าขอ้ มูลไดไ้ ม่
ครบถว้ น

25

–โอกาส จากผจู้ ดั ทาํ ไดม้ ีโอกาสมาฝึกงานท่ีสถานประกอบการแห่งน้ีทาํ ใหไ้ ดร้ ับความรู้เก่ียวกบั
การบริการ การรับมือลูกคา้ ในรูปแบบต่างๆ สามารถมาใชก้ บั โครงงานไดจ้ ริง
–อุปสรรค ผจู้ ดั ทาํ ทาํ งานออกทวั ร์นกั เรียนแทบทุกวนั ทาํ ใหไ้ ม่คอ่ ยมีเวลาในการทาํ โครงงานอาจมี
เน้ือหาที่บกพร่อง

26

ภาคผนวก

27

ประมวลภาพการฝึ กปฏบิ ตั งิ าน ณ ห้างหุ้นส่วนจากดั ฟ้าสวย แทรเวล

ภาพที่ 1 การฝึ กปฏิบตั งิ าน ณ ห้างหุ้นส่วน จากดั ฟ้าสวยแทรเวล
ภาพที่ 2 การฝึ กปฏบิ ตั งิ าน ณ ห้างหุ้นส่วน จากดั ฟ้าสวยแทรเวล

28

ภาพที่ 3 การฝึกปฏิบตั ิงาน ณ หา้ งหุน้ ส่วน จาํ กดั ฟ้าสวยแทรเวล
ภาพที่ 4 การฝึ กปฏบิ ตั งิ าน ณ ห้างหุ้นส่วน จากดั ฟ้าสวยแทรเวล

29

ภาพท่ี 5 การฝึ กปฏบิ ตั งิ าน ณ ห้างหุ้นส่วน จากดั ฟ้าสวยแทรเวล
ภาพท่ี 6 การฝึ กปฏบิ ัตงิ าน ณ ห้างหุ้นส่วน จากดั ฟ้าสวยแทรเวล

30

ภาพท่ี 7 การฝึ กปฏบิ ตั งิ าน ณ ห้างหุ้นส่วน จากดั ฟ้าสวยแทรเวล
ภาพท่ี 8 การฝึ กปฏบิ ัตงิ าน ณ ห้างหุ้นส่วน จากดั ฟ้าสวยแทรเวล

31

ภาพที่ 9 การฝึ กปฏิบตั งิ าน ณ ห้างหุ้นส่วน จากดั ฟ้าสวยแทรเวล
ภาพที่ 10 การฝึ กปฏบิ ตั งิ าน ณ ห้างหุ้นส่วน จากดั ฟ้าสวยแทรเวล

32

ภาพที่ 11 การฝึ กปฏิบตั งิ าน ณ ห้างหุ้นส่วน จากดั ฟ้าสวยแทรเวล
ภาพท่ี 12 การฝึ กปฏบิ ตั งิ าน ณ ห้างหุ้นส่วน จากดั ฟ้าสวยแทรเวล

33

ภาพท่ี 13 การฝึ กปฏบิ ตั งิ าน ณ ห้างหุ้นส่วน จากดั ฟ้าสวยแทรเวล
ภาพที่ 14 การฝึ กปฏิบตั งิ าน ณ ห้างหุ้นส่วน จากดั ฟ้าสวยแทรเวล

34

บรรณนุกรม

[ระบบออนไลน]์ . แหล่งที่มา. http://www.elfms.ssru.ac.th/chutima_kl/file.php/1/2-2557/6.pdf

(8 ตุลาคม 2561)

[ระบบออนไลน]์ . แหล่งท่ีมา. https://sites.google.com/site/thaicommunication83/bth-thi-1-kar-

suxsar

[ระบบออนไลน]์ . แหล่งที่มา. http://meoy.blogspot.com/2013/09/blog-post_6.html

[ระบบออนไลน]์ . แหล่งที่มา. http://www.rakluke.com/article/24/128/303/เขา้ ใจนิสยั วยั รุ่น
[ระบบออนไลน]์ . แหล่งที่มา

http://www.trueplookpanya.com/knowledge/content/56125/-parinf-par-
parpres-parsch-