The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

วิชาการผลิตสื่อสิ่งพิมพ์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by kotchakonkunbuala, 2023-01-17 20:44:35

วิชาการผลิตสื่อสิ่งพิมพ์

วิชาการผลิตสื่อสิ่งพิมพ์

หน่วยที่ 1 ความรู้เกี่ยวกับสื่อสิ่งพิมพ์ เนื้อหาสาระ (Content) "สื่อสิ่งพิมพ์” เป็นสื่อชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายตั้งแต่สมัยอดีตจนถึงปัจจุบัน เป็น สื่อ ที่ช่วยเผยแพร่ข่าวสาร เรื่องราวต่าง ๆ ได้อย่างกว้างขวาง ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะมีสื่อในรูปแบบอื่นๆ เข้ามา มากมาย เช่น วิทยุ โทรทัศน์ และอินเทอร์เน็ต เป็นต้น แต่สื่อสิ่งพิมพ์ยังคงได้รับความนิยมและมี การ ปรับเปลี่ยนรูปแบบให้เหมาะกับยุคสมัย สื่อสิ่งพิมพ์เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่รักการอ่าน เนื่องจากราคาถูก มีความหลากหลาย ทำให้ ดึงดูดใจนักอ่าน ไม่ว่าจะเป็นการอ่านเพื่อรับรู้ข่าวสาร เพื่อสาระความรู้ ความบันเทิง เช่น หนังสือพิมพ์ หนังสือ เรียน ตำรา นิตยสาร หนังสือการ์ตูน หนังสือนวนิยาย เป็นต้น 1.1 ความหมายของสื่อสิ่งพิมพ์ สื่อ หมายถึง ก. (กริยา) ทำการติดต่อให้ถึงกัน เช่น สื่อความหมาย ชักนำให้รู้จักกัน สื่อ หมายถึง น. (นาม) ผู้หรือสิ่งที่ทำการติดต่อให้ถึงกัน หรือชักนำให้รู้จักกัน เช่น เขาใช้จดหมาย เป็น สื่อติดต่อกัน กุหลาบแดงเป็นสื่อของความรัก เรียกผู้ที่ทำหน้าที่ชักนำเพื่อให้ชายหญิงได้แต่งงานกัน ว่า พ่อสื่อ หรือ แม่สื่อ (ศิลปะ) วัสดุต่าง ๆ ที่นำมาสร้างสรรค์งานศิลปกรรม ให้มีความหมายตามแนวคิด ซึ่งศิลปิน ประสงค์แสดงออกเช่นนั้น เช่น สื่อผสม เป็นต้น พิมพ์ หมายถึง ก. (กริยา) ถ่ายแบบ ใช้เครื่องจักรกดตัวหนังสือหรือภาพให้ติดบนวัตถุ เช่น แผ่นกระดาษ ผ้า เป็นต้น ทำให้เป็นตัวหนังสือหรือรูปรอยอย่างใด ๆ โดยการกดหรือการใช้พิมพ์หิน เครื่องกล วิธีเคมี หรือ วิธีอื่นใด อันอาจให้เกิดเป็นสิ่งพิมพ์ขึ้นหลายสำเนา พิมพ์ หมายถึง น(นาม) รูป รูปร่าง แบบ เช่น หยอดวุ้นลงในพิมพ์ หน้าตาเป็นพิมพ์เดียวกัน การพิมพ์ผ้า พิมพ์ขนมเป็นรูปต่าง ๆ เป็นต้น สิ่งพิมพ์ หมายถึง สมุด แผ่นกระดาษ หรือวัตถุใด ๆ ที่พิมพ์ขึ้น รวมตลอดทั้งบทเพลง แผนที่ แผนผัง แผนภาพ ภาพวาด ภาพระบายสี ใบประกาศ แผ่นเสียง หรือสิ่งอื่นใดอันมีลักษณะเช่นเดียวกัน


สื่อสิ่งพิมพ์ หมายถึง สิ่งพิมพ์ที่เกิดจากกรรมวิธีการพิมพ์ต่าง ๆ ลงบนวัตถุหลากหลายชนิดไม่ว่าจะ เป็นกระดาษ ผ้า แก้ว แผ่นพลาสติกหรือวัตถุใด ๆ เพื่อนำไปใช้ในการติดต่อสื่อสารกัน ทั้งทางตรงและ ทางอ้อม 1.2 ความเป็นมาของสื่อสิ่งพิมพ์ 1.2.1 ประวัติการพิมพ์ของโลก จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ศิลปะของมนุษย์สมัยก่อนประวัติศาสตร์ ในช่วงประมาณ 12,000- 17,000 ปีที่ผ่านมา ได้ปรากฏหลักฐานอยู่บนผนังถ้ำลาสครักซ์ (Lascaux) ในประเทศฝรั่งเศส อัลตามิรา (Altamira) ในประเทศสเปน นอกจากผลงานด้านจิตรกรรมที่มีคุณค่าด้านความงามของ มนุษยชาติที่ปรากฏ เหล่านี้ ผลงานแกะสลักหิน แกะสลักผนังถ้ำเป็นรูปสัตว์ลายเส้นการแกะสลักภาพ ลายเส้นบนผนังถ้ำ อาจนับ ได้ว่าเป็นพยานหลักฐานในการแกะแบบพิมพ์ของมนุษย์เป็นครั้งแรกก็ได้ 1.2.2 การพิมพ์ของประเทศทาง ตะวันออก 1.2.2 การพ์ของประเทศทางตะวันออก ในภูมิภาคแถบเอเชียตอนกลางและชาวจีน รู้จักการแกะสลักดวงตราบนแผ่นหิน กระดูกสัตว์ และ งาช้าง เพื่อใช้ประทับลงบนดินเหนียวหรือบนขี้ผึ้ง ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าเป็นต้นกำเนิดของแม่พิมพ์แบบ เลตเตอร์ เพรส (Letter Press) จะเห็นได้จากพงศาวดารจีนโบราณองค์จักรพรรดิ จะมีตราหยกเป็น ตราประจําแผ่นดิน 1.2.3 การพิมพ์ของประเทศทางตะวันตก ผู้ที่คิดค้นวิธีการพิมพ์อย่างเป็นระบบเป็นคนแรกจนได้รับการยกย่องว่าเป็นบิดาของการพิมพ์ คือ โจ ฮัน กูเตนเบิร์ก (Johann Gutenberg) เขาได้ประดิษฐ์แท่นพิมพ์ พัฒนาแม่แบบสำหรับหล่อตัวพิมพ์ โลหะเป็น ตัว ๆ สามารถที่จะเรียงเป็นคำ เป็นประโยค และเมื่อใช้พิมพ์ไปแล้ว ก็สามารถนำกลับมาเรียงใหม่ เพื่อใช้หมุนเวียนได้อีก ซึ่งเรียกว่าเป็น วิธีมูวาเบิล (Movable) ตลอดจนการคิดวิธีการทำหมึกที่ได้ผลดี สำหรับใช้กับตัวเรียงโลหะ ผลงานที่มีชื่อเสียงของโจฮัน กูเตนเบิร์ก คือคัมภีร์ 42 บรรทัด (42-Lines Bible) เมื่อปี พ.ศ. 1998


อัลเบรชท์ เดอร์เรอร์ (Albrecht Durer) ศิลปินแกะไม้ชาวเยอรมันเป็นจิตรกรช่างเขียนภาพได้ คิด วิธีการพิมพ์จากแม่พิมพ์ทองแดง (Copper plate engraving) โดยการใช้ของแหลมขูดขีดให้เป็นรอยบน แผ่น ทองแดง และเป็นการใช้วิธีการพิมพ์แบบกราวัวร์ (Gravure) ครั้งแรกในประเทศเยอรมัน ชาวเยอรมันชื่อ อลัวส์ เซเนเฟลเดอร์ (Alois Senefilder) ได้ค้นพบวิธีการพิมพ์หิน (Litho - graphy) เป็นวิธีการพิมพ์แบบพื้นราบ (Plano-graphic printing) ขึ้นเป็นครั้งแรก อิรา วอชิงตัน รูเบล (Ira Washington Rubel) ช่างพิมพ์ชาวอเมริกันได้สังเกตเห็นว่า ในการ ป้อน กระดาษเข้าพิมพ์โดยใช้แท่นพิมพ์แบบทรงกระบอก (Cylinder press) บางครั้งลืมป้อนกระดาษเข้าไป หมึกจะ พิมพ์ติดบนลูกกลิ้งแรงกด และเมื่อป้อนกระดาษแผ่นถัดไปหมึกบนตัวพิมพ์จะติดบนกระดาษ หน้าหนึ่ง แต่ หมึกบนลูกกลิ้งจะติดกระดาษอีกหน้าหนึ่ง เมื่อสังเกตดูแล้วพบว่า หมึกที่ติดบนลูกกลิ้งก่อนที่ จะติดบน กระดาษนั้นมีลักษณะสวยงามกว่าหมึกที่พิมพ์จากตัวพิมพ์ไปติดกระดาษโดยตรง จึงได้คิดวิธีพิมพ์ ระบบ ออฟเซต (Offset printing) แบบที่ใช้กันในปัจจุบัน 1.2.4 การพิมพ์ในประเทศไทย การพิมพ์ของประเทศไทยตามหลักฐานที่พบน่าจะเกิดขึ้นปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา ในช่วง รัชสมัย สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ประเทศไทยได้รับอิทธิพลของการพิมพ์จากชาวยุโรป โดยเฉพาะ อย่างยิ่งคณะ มิชชันนารีที่เข้ามาเผยแพร่คริสต์ศาสนาในประเทศไทย บุคคลที่มีบทบาทสำคัญในประวัติ การพิมพ์ของ ประเทศไทย คือ หมอแดน บีช บรัดเลย์ (Dr.Dan Beach Bradley M.D.) ซึ่งคนไทย เรียกว่า หมอบรัดเลย์


หมอบรัดเลย์ได้จัดพิมพ์หนังสือวรรณคดีออกมาหลายเรื่อง และจัดพิมพ์หนังสือสารคดี จำนวนมาก หนังสือหลายเล่มเป็นหนังสือที่หมอบรัดเลย์แปลและแต่งเอง หนังสือที่หมอบรัดเลย์ผลิต ออกมามีการเข้าเล่ม จัดทำเป็นรูปหนังสืออย่างที่ผลิตในปัจจุบัน ซึ่งนับว่าเป็นของใหม่ในเมืองไทยเพราะ แต่เดิมหนังสือไทยมี ลักษณะเป็นสมุดพับกลับไปกลับมาเรียกว่าสมุดไทย เป็นการเขียนคัดลอกกันลงบน สมุดข่อย อาจเป็นสมุด ข่อยดำหรือข่อยขาว แต่เล่มหนังสือที่หมอบรัดเลย์ผลิตขึ้นเป็นหนังสือที่มีการเย็บเล่ม เข้าปกแบบหนังสือฝรั่ง จึงเรียกว่า สมุดฝรั่ง คนไทยคนแรกที่ริเริ่มกิจการการพิมพ์ คือพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในขณะที่ยัง ดำรง พระยศเป็นสมเด็จฯ เจ้าฟ้ามงกุฎ และยังทรงผนวชอยู่ที่วัดบวรนิเวศวิหาร ทรงเห็นประโยชน์ของ หนังสือ เมื่อ คณะมิชชันนารีพิมพ์หนังสือเผยแผ่ศาสนาคริสต์ พระองค์ทรงดำริให้ใช้การพิมพ์เพื่อเผยแผ่ ศาสนาพุทธ จึง โปรดฯ ให้สั่งเครื่องพิมพ์มาตั้งที่วัดบวรนิเวศวิหาร ต่อมาเมื่อทรงขึ้นครองราชย์สมบัติเป็น พระบาทสมเด็จพระ จอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้โปรดเกล้าฯ ให้สร้างโรงพิมพ์ขึ้นอีกแห่งหนึ่งในบริเวณพระราชวัง ชั้นกลาง พระราชทาน ชื่อว่า โรงพิมพ์อักษรพิมพการ ซึ่งเป็นโรงพิมพ์หลวง ทำหน้าที่เป็นโรงพิมพ์แห่งชาติ ได้จัดพิมพ์หนังสือราช กิจจานุเบกษาอันเป็นหนังสือพิมพ์ของราชการฉบับแรก สำหรับบอกข่าวคราวใน ราชสำนัก และเก็บความจาก ประกาศของราชการต่าง ๆ พิมพ์ออกเผยแพร่ และทรงไปศึกษาดูงานเรื่อง การพิมพ์ในต่างประเทศ เพื่อนำ ความรู้ทางการพิมพ์เข้ามาปรับปรุงกิจการพิมพ์ของโรงพิมพ์หลวงให้ดีขึ้น


1.3 ประเภทของสื่อสิ่งพิมพ์ การแบ่งประเภทของสื่อสิ่งพิมพ์ตามลักษณะการใช้งานแบ่งได้เป็น 6 ประเภท ดังนี้ 1.3.1 สื่อสิ่งพิมพ์ประเภทหนังสือ 1. หนังสือสารคดี ตำรา แบบเรียน (Textbook) เป็นสื่อสิ่งพิมพ์ที่แสดง เนื้อหาวิชาการใน ศาสตร์ ความรู้ต่าง ๆ ประกอบด้วยเนื้อหาการเรียนการสอน หนังสือตำรานี้อาจใช้เป็นสื่อการเรียนการสอน ในวิชานั้น โดยตรง หรืออาจใช้เป็นหนังสืออ่านประกอบหรือหนังสืออ่านเพิ่มเติมนอกเวลา เพื่อสื่อให้ผู้อ่าน เข้าใจด้วย ความรู้ที่เป็นจริง สื่อสิ่งพิมพ์ประเภทนี้จึงเป็นสื่อสิ่งพิมพ์ที่เน้นความรู้อย่างถูกต้อง 2. หนังสือบันเทิงคดี(Fiction Book) เป็นสื่อสิ่งพิมพ์ที่ผลิตขึ้นโดยใช้เรื่องราวสมมติฐา จินตนาการ ของผู้เขียน เพื่อให้ผู้อ่านได้รับความเพลิดเพลิน สนุกสนาน อาจจะสอดแทรกความรู้และ ความคิดต่าง ๆ มักมี ขนาดเล็ก เช่น นวนิยาย เรื่องสั้น หนังสือฉบับกระเป๋า (Pocket Book) หนังสือสำหรับ เด็กและเยาวชน เป็น ต้น 1.3.2 สื่อสิ่งพิมพ์เพื่อเผยแพร่ข่าวสาร 1. หนังสือพิมพ์ (Newspaper) เป็นสื่อสิ่งพิมพ์ที่ผลิตขึ้นโดยนำเสนอเรื่องราวข่าวสาร ภาพ และ ความคิดเห็น ในลักษณะของสื่อสิ่งพิมพ์แผ่นใหญ่ที่ใช้วิธีการพับรวมกัน สื่อสิ่งพิมพ์ชนิดนี้ ได้พิมพ์ออก เผยแพร่ ทั้งลักษณะหนังสือพิมพ์รายวัน รายสัปดาห์ และรายเดือน


2. วารสาร นิตยสาร (Journal/Periodical) เป็นสื่อสิ่งพิมพ์ที่ผลิตขึ้นโดยนําเสนอสาระ ความ บันเทิง ที่มีรูปแบบการนำเสนอที่โดดเด่น สะดุดตา และสร้างความสนใจให้กับผู้อ่าน มีการกำหนด ระยะเวลา การออกเผยแพร่ที่แน่นอน ทั้งรายปักษ์ (15 วัน) และรายเดือน 3. จุลสาร (Pamphlet) เป็นสื่อสิ่งพิมพ์ขนาดเล็กที่มีเนื้อหากล่าวถึงเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เพียง เรื่อง เดียวและจบบริบูรณ์ภายในเล่ม ความยาวไม่มากนัก เขียนอย่างง่าย ๆ ส่วนมากเนื้อหาจะเป็นเรื่องที่ น่าสนใจ ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง โดยจะให้ข้อมูลที่ทันสมัย รูปแบบ ลักษณะของจุลสารคือ มีความหนาอย่าง น้อย 5 หน้า แต่ไม่เกิน 48 หน้า รูปเล่มไม่แข็งแรง อาจเป็นแผ่นกระดาษพับ เพื่อสะดวกในการถือพกพา หรืออาจเป็น สิ่งพิมพ์ที่เย็บเล่มแต่ใช้ปกอ่อน เป็นเล่มบาง ๆ ผลิตขึ้นแบบไม่มุ่งหวังกำไร เพื่อให้ผู้อ่านได้ ศึกษาหาความรู้ มี กำหนดการออกเผยแพร่เป็นครั้ง ๆ แสดงเนื้อหาเป็นข้อความที่อ่านแล้วเข้าใจง่าย 4. สิ่งพิมพ์โฆษณา สิ่งพิมพ์โฆษณาเป็นสื่อสิ่งพิมพ์ที่ผลิตขึ้นเพื่อเผยแพร่โฆษณา หรือประชาสัมพันธ์ สินค้าและบริการต่าง ๆ สิ่งพิมพ์โฆษณามีหลายประเภท แต่ละประเภทมีบทบาทและ การใช้งานในด้านการ โฆษณาประชาสัมพันธ์ที่ต่างกัน ดังนี้ (1) โบรชัวร์ (Brochure) เป็นสื่อสิ่งพิมพ์ที่มีลักษณะเป็นสมุดเล่มเล็ก ๆ เย็บติดกันเป็น เล่ม จำนวน 8 หน้าเป็นอย่างน้อย มีปกหน้าและปกหลังซึ่งในการแสดงเนื้อหาจะเกี่ยวกับโฆษณาสินค้า


(2) ใบปลิว (Leaflet/Handbill) เป็นสื่อสิ่งพิมพ์ใบเดียวที่เน้นการประกาศหรือโฆษณ มักมีขนาดเท่า กระดาษ A4 (7.50 นิ้ว x 10.25 นิ้ว) เพื่อง่ายในการแจกจ่าย ลักษณะการแสดงเนื้อหาเป็น ข้อความที่อ่านแล้ว เข้าใจง่าย (3) แผ่นพับ (Folder) เป็นสื่อสิ่งพิมพ์ที่ผลิตโดยเน้นการนำเสนอเนื้อหา ซึ่งเนื้อหา ที่นำเสนอนั้นเป็น เนื้อหาที่สรุปใจความสำคัญ ลักษณะมีการพับเป็นรูปเล่มต่าง ๆ (4) ใบปิด (Poster) คือ ภาพขนาดใหญ่พิมพ์บนกระดาษออกแบบเพื่อใช้ติดหรือแขวน บนผนังหรือ กำแพง ใบปิดอาจจะเป็นภาพพิมพ์และภาพเขียน หรืออาจจะเป็นอย่างเดียวอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยเฉพาะ จุดประสงค์ก็เพื่อเน้นการนำเสนออย่างโดดเด่น ดึงดูดความสนใจและสื่อสารข้อมูล ใบปิดอาจใช้ประโยชน์ได้ หลายประการ แต่ส่วนใหญ่มักจะใช้ในการเผยแพร่เพื่อการประชาสัมพันธ์และ การโฆษณา


3. สิ่งพิมพ์เพื่อการบรรจุภัณฑ์เป็นสื่อสิ่งพิมพ์ที่ใช้ในการห่อหุ้มผลิตภัณฑ์ทางการค้าต่าง ๆ แบ่งได้ เป็น สื่อสิ่งพิมพ์หลัก ได้แก่ สิ่งพิมพ์ที่ใช้ปิดรอบขวด หรือ กระป๋องผลิตภัณฑ์การค้า สิ่งพิมพ์รอง ได้แก่ สิ่งพิมพ์ ที่เป็นกล่องบรรจุ หรือลัง 4. สิ่งพิมพ์มีค่า เป็นสื่อสิ่งพิมพ์ที่เน้นการนำไปใช้เป็นหลักฐานสำคัญต่าง ๆ ซึ่งเป็นกำหนด ตาม กฎหมาย เช่น ธนาณัติ บัตรเครดิต เช็คธนาคาร ตั๋วแลกเงิน หนังสือเดินทาง โฉนด เป็นต้น 5. สิ่งพิมพ์ลักษณะพิเศษ เป็นสื่อสิ่งพิมพ์ที่ผลิตขึ้นตามลักษณะพิเศษแล้วแต่การใช้งาน เช่น นามบัตร บัตรอวยพร ปฏิทิน บัตรเชิญ ใบส่งของ ใบเสร็จรับเงิน สิ่งพิมพ์บนแก้ว สิ่งพิมพ์บนผ้า เป็นต้น


6. สิ่งพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์เป็นสื่อสิ่งพิมพ์ที่ผลิตขึ้นเพื่อใช้งานในคอมพิวเตอร์ หรือบนระบบ เครือข่าย อินเทอร์เน็ต เช่น หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เอกสารอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น 1.4 บทบาทของสื่อสิ่งพิมพ์ สื่อสิ่งพิมพ์นับว่ามีบทบาทสำคัญในงานต่าง ๆ สามารถแบ่งได้ดังนี้ 1. บทบาทของสื่อสิ่งพิมพ์ในงานสื่อมวลชน สื่อสิ่งพิมพ์มีความสำคัญในด้านการนำเสนอข้อมูล ข่าวสาร สาระ และความบันเทิง ซึ่งเมื่องานสื่อมวลชนต้องการเผยแพร่ จึงต้องผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ อย่างเช่น หนังสือพิมพ์ วารสาร นิตยสาร เป็นต้น 2. บทบาทของสื่อสิ่งพิมพ์ในสถานศึกษา สื่อสิ่งพิมพ์ถูกนำไปใช้ในสถานศึกษาโดยทั่วไป ซึ่งทำให้ ผู้เรียน ผู้สอนเข้าใจในเนื้อหามากขึ้น เช่น หนังสือ ตำรา แบบเรียน แบบฝึกหัด เป็นต้น สามารถพัฒนาให้ เป็น เนื้อหาในระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้ 3. บทบาทของสื่อสิ่งพิมพ์ในงานด้านธุรกิจ สื่อสิ่งพิมพ์ที่ถูกนำไปใช้ในงานธุรกิจประเภทต่าง ๆ เช่น งานโฆษณา ได้แก่ การผลิตหัวจดหมาย ซองจดหมาย ใบส่งของ/ใบเสร็จรับเงิน โฆษณาหน้าเดียว นามบัตร เป็นต้น 4. บทบาทของสื่อสิ่งพิมพ์ในด้านการธนาคาร ซึ่งรวมถึงงานการเงิน และงานที่เกี่ยวกับหลักฐานทาง กฎหมาย ได้นำสื่อสิ่งพิมพ์หลาย ๆ ประเภทมาใช้ในการดำเนินงาน เช่น ใบนำฝาก ใบถอน ธนบัตร เช็ค ธนาคาร ตั๋วแลกเงิน และหนังสือเดินทาง เป็นต้น 5. บทบาทของสื่อสิ่งพิมพ์ในห้างสรรพสินค้าและร้านค้าปลีก สื่อสิ่งพิมพ์ที่ทางห้างสรรพสินค้าหรือ ร้านค้าปลีกใช้ในการดำเนินธุรกิจ เช่น แผ่นพับ ใบปลิว จุลสาร ใบปิดโฆษณาต่าง ๆ เป็นต้น


1.5 ข้อดีและข้อจำกัดของสื่อสิ่งพิมพ์ 1.5.1 ข้อดีของสื่อสิ่งพิมพ์ 1. กระบวนการในการผลิตสื่อสิ่งพิมพ์สามารถจะทำได้หลายแบบ เปิดโอกาสให้เลือกรูปแบบ ที่ เหมาะสมกับสถานการณ์นั้น ๆ เช่น การพิมพ์เป็นเอกสารโรเนียว เป็นต้น หากต้องการให้มีคุณภาพดียิ่งขึ้นก็ใช้ การพิมพ์ด้วยเครื่องพิมพ์ ซึ่งสามารถเลือกพิมพ์เป็นขาวดำหรือสีได้ 2. สามารถจัดพิมพ์ได้หลายรูปแบบตามวัตถุประสงค์ที่จะนำไปใช้ เช่น ใบปิด จดหมายเวียนหรือ เอกสารเผยแพร่ เป็นต้น 3. สามารถเลือกจัดพิมพ์ให้มีระยะเวลาการใช้งานต่าง ๆ กัน เช่น พิมพ์เพื่อใช้งานระยะสั้น อ่านแล้ว ทิ้งไป หรือพิมพ์เพื่อเก็บไว้ใช้อย่างถาวร เป็นต้น สามารถออกแบบให้ใช้เฉพาะบุคคล ใช้เป็นกลุ่ม หรือเป็น มวลชนได้ 4. สิ่งพิมพ์สามารถผลิตเพื่อใช้ให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายเฉพาะด้านได้ 5. สิ่งพิมพ์เข้าถึง กลุ่มเป้าหมายได้อย่างกว้างขวาง ในทุกระดับของสังคม 6. การใช้สื่อสิ่งพิมพ์เป็นไปอย่างอิสระ ในการศึกษาสิ่งพิมพ์ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีพิเศษหรือ เครื่อง อำนวยความสะดวกอย่างอื่นเข้ามาช่วยแต่อย่างใด 7. ผู้อ่านสามารถใช้สื่อสิ่งพิมพ์ในการเรียนรู้และอ่านซ้ำ ๆ กันได้หลาย ๆ ครั้ง 8. สื่อสิ่งพิมพ์มีราคาถูก หาซื้อได้ง่าย 9. สื่อสิ่งพิมพ์มีอายุยาวนาน มีความคงทนถาวรสามารถเก็บรักษาไว้ได้นาน 1.5.2 ข้อจํากัดของสื่อสิ่งพิมพ์ 1. ไม่สามารถเข้าถึงผู้อ่านที่อ่านหนังสือไม่ออก และผู้ที่มีปัญหาทางด้านสายตา เช่น คนตาบอด หรือ ผู้สูงอายุที่สายตาไม่ดี เป็นต้น 2. วัสดุที่ใช้ผลิตมีความบอบบางและฉีกขาดได้ง่าย 3. เก็บรักษายากเนื่องจากมีลักษณะ รูปทรง และขนาดแตกต่างกันมาก 4. การพิมพ์ในระบบที่มีคุณภาพต้องใช้การลงทุนสูงมาก โดยเฉพาะการพิมพ์ในระบบสี่สี


5. ปัญหาในการเผยแพร่แจกจ่าย เนื่องจากต้องมีการขนส่งถ้าหากการขนส่งไม่สามารถส่งถึง กลุ่มเป้าหมายได้ การรับรู้ข่าวสารต่าง ๆ ก็จะขาดตอนลง สรุปสาระสําคัญ สื่อสิ่งพิมพ์เป็นสื่อที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในทุกยุคสมัย ถึงแม้จะมีสื่อในรูปแบบ อื่น ๆ เข้า มามากมายเพื่อเป็นตัวเลือกให้แก่ผู้บริโภค เช่น สื่อโทรทัศน์ สื่ออินเทอร์เน็ตสื่อวิทยุ เป็นต้น แต่สื่อสิ่งพิมพ์ก็ได้ มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายเพื่อดึงดูดใจผู้บริโภคให้มากขึ้น เมื่อศึกษาจาก วิวัฒนาการของสื่อสิ่งพิมพ์ที่มีความเป็นมายาวนานก่อนสมัยคริสตกาล จากหลักฐานต่าง ๆ ที่ค้นพบและ เผยแพร่ไปทั่วโลก จนมาถึงประเทศไทย ซึ่งได้มีการพัฒนาระบบการพิมพ์เรื่อยมา จนมี ความก้าวหน้าทันสมัย อย่างเช่นในปัจจุบัน สื่อสิ่งพิมพ์แต่ละประเภทเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันหลากหลายรูปแบบ เช่น การทำธุรกรรม ต่าง ๆ ที่ต้องใช้เอกสาร การซื้อขายสินค้า การติดตามข่าวสาร เป็นต้น เพราะฉะนั้นสื่อสิ่งพิมพ์จึงยังคงมี บทบาทสำคัญ และยังมีคุณค่าเสมอ


หน่วยที่ 2 การออกแบบและกระบวนการผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ เนื้อหาสาระ (Content) การออกแบบมีความสำคัญในการผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ เพราะการออกแบบคือการวางแผนในการทำงาน ซึ่งเป็นขั้นตอนหนึ่งที่สำคัญของกระบวนการผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ให้ประสบผลสำเร็จ การออกแบบในลักษณะใด ก็ ตามต้องอาศัยส่วนประกอบของงานศิลป์อันได้แก่ เส้น รูปร่าง รูปทรง สี ลักษณะผิว เพื่อนำมาประกอบกัน เป็นผลงานที่มีความสวยงาม เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ จนทำให้เกิดเป็นผลงานที่มีรูปแบบที่ดี สื่อสิ่งพิมพ์ที่จะบรรลุจุดมุ่งหมายได้นั้น นอกจากการออกแบบที่มีประสิทธิภาพแล้ว กระบวนการผลิต สื่อ สิ่งพิมพ์ที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง ทั้งในด้านการวางแผน การเตรียมการก่อนพิมพ์ การจัดทำต้นฉบับ การเลือก ประเภทของการพิมพ์เพื่อให้เหมาะสมกับสื่อสิ่งพิมพ์ และส่งผลให้การผลิตสื่อสิ่งพิมพ์สำเร็จตาม จุดมุ่งหมาย 2.1 การออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ การออกแบบเป็นการนำองค์ประกอบมูลฐานมาจัดหรือรวบรวมเข้าไว้ด้วยกันอย่างมีระบบในงาน ออกแบบ ไม่ว่าจะเป็นตัวอักษร ภาพ หรือพื้นที่ว่าง ๆ เพื่อให้การออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ ต้องการ 2.1.1 วัตถุประสงค์ของการออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ 1. ใช้เป็นแนวทางในการผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ เพื่อรับรู้รูปแบบ รูปร่าง ลักษณะ และส่วนประกอบ 2. เพื่อสร้างความงามทางศิลป์ของสื่อสิ่งพิมพ์ ในการพิมพ์ 3. เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้พบเห็นและผู้อ่าน 4. เพื่อเสนอข่าวสารและง่ายต่อการจดจําเนื้อหา 5. เพื่อปิดบังความด้อยต่อคุณภาพสื่อสิ่งพิมพ์ 6. เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสาร


2.1.2 หลักการออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ การออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ให้มีความน่าสนใจ และสะดุดตาแก่ผู้อ่าน สามารถทำได้ตามหลักการ ออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ ดังนี้ 1. ออกแบบให้ดึงดูดความสนใจของผู้อ่านและผู้พบเห็น สื่อสิ่งพิมพ์นั้นจะเป็นการชักนำให้ ผู้อ่าน ติดตามรายละเอียดต่อไป เช่น การออกแบบโปสเตอร์จะต้องให้มีลักษณะดึงดูด สะดุดตา น่าสนใจ ทั้งด้านสี รูปร่าง ขนาดและเนื้อความ เป็นต้น 2. ออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ให้เป็นที่สังเกตหรือจดจำได้ง่าย การออกแบบที่ดีจะทำให้ผู้อ่าน หรือผู้ดูสื่อ สิ่งพิมพ์สังเกตเห็นและจดจำสื่อสิ่งพิมพ์นั้น ๆ ได้ดีขึ้น ซึ่งจะเป็นผลให้เกิดการติดตาม อยากรู้ อยากเห็นต่อไป อาจทำให้โดยการใช้สี รูปแบบหรือข้อความที่สะดุดตา 3. นำข่าวสารไปสู่ผู้อ่าน ด้วยการออกแบบที่มีลักษณะของการเสนอเนื้อหาในรูปแบบที่ สวยงาม และ สะดวกต่อการทำความเข้าใจในเนื้อหา ฉะนั้นจึงต้องออกแบบให้อ่านได้ง่ายและชวนติดตาม 4. ใช้ศิลปะของการออกแบบปิดบังความด้อยในคุณภาพของวัสดุพิมพ์ เช่น เมื่อจำเป็นต้องใช้ กระดาษไม่ดีพิมพ์งาน ก็อาจใช้วิธีการออกแบบให้มีสีสัน ลวดลายสวยงาม สะดุดตาปิดบังไว้ จะทำให้ดู เหมือนว่าเป็นสิ่งที่มีค่าได้ เป็นต้น 5. ให้ผู้อ่านเข้าใจเนื้อหาได้ง่ายและสะดวกขึ้น 6. เป็นการออกแบบที่มีลักษณะเหมาะสม ตรงกับความมุ่งหมายตามประโยชน์ใช้สอยมีความกลมกลืน ตามหลักเกณฑ์ความงามของสังคม และสามารถปรับปรุงเปลี่ยนแปลงได้ 7. เป็นการออกแบบที่มีลักษณะง่าย มีจำนวนผลิตผลตามความต้องการของสังคมและมี กระบวนการผลิตไม่ยุ่งยากซับซ้อน 8. มีสัดส่วนที่ดี มีความกลมกลืนกันทั้งส่วนรวม เช่น รูปแบบ ลักษณะผิว เส้น สี เป็นต้น และ มี สัดส่วนที่เหมาะสมในการใช้งาน 9. มีความเหมาะสมกับวัสดุและวิธีการ มีคุณภาพ มีวิธีการใช้ง่ายสะดวก สามารถผลิตได้ตรงตามความต้องการของสังคมปัจจุบัน


10. มีลักษณะของการตกแต่งอย่างพอดี ไม่รกรุงรัง 11. มีโครงสร้างที่เหมาะสมกลมกลืนกับวัฒนธรรมและความต้องการของสังคม 12. ไม่ควรสิ้นเปลืองเวลามากจนเกินไป 2.1.3 หลักในการพิจารณาออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ ก่อนที่ผู้ออกแบบจะตัดสินใจผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ ผู้ออกแบบจำเป็นจะต้องพิจารณาองค์ประกอบ ของการ พิมพ์เป็นข้อมูลสำคัญต่อการออกแบบองค์ประกอบในการพิมพ์ ดังนี้ 1. วัตถุประสงค์ของงานพิมพ์การกำหนดเป้าหมายของสื่อสิ่งพิมพ์ว่า เป็นสื่อสิ่งพิมพ์ สำหรับบุคคล วัยใด หนังสือสำหรับเด็กหรือผู้ใหญ่ เพศใด สำหรับผู้หญิงหรือผู้ชาย การศึกษาระดับใด ลักษณะของสื่อสิ่งพิมพ์ ได้แก่ หนังสือทางวิชาการ สารคดี ร้อยแก้ว ร้อยกรอง ปัจจัยเหล่านี้เป็นตัว กำหนดการผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ เช่น หนังสือวิชาการย่อมมีการเก็บรักษาเป็นเวลานาน ดังนั้น กระดาษที่ใช้ใน การพิมพ์ควรเป็นกระดาษชนิดที่ ดีกว่าหนังสือบันเทิงคดี ซึ่งมีระยะเวลาในการอ่านสั้นกว่า เป็นต้น นอกจากนี้ ระดับวัย เพศ การศึกษาของ กลุ่มเป้าหมาย ย่อมมีผลต่อการออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์เป็นอย่างยิ่ง 2. รูปร่างของสื่อสิ่งพิมพ์ตามปกติมักมีรูปร่างมาตรฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าตามลักษณะ รอง กระดาษขนาดมาตรฐาน ดังนั้น การกำหนดสื่อสิ่งพิมพ์ให้มีรูปร่างสี่เหลี่ยมผืนผ้าจึงไม่ทำให้กระดา เสียเศษ ซึ่ง มีทั้งสี่เหลี่ยมผืนผ้าแนวตั้ง และสี่เหลี่ยมผืนผ้าแนวนอน ในกรณีที่ผู้ออกแบบต้องการหลีกเลี่ยง ความน่าเบื่อ อาจออกแบบให้มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส หรือเป็นรูปร่างภายนอกของภาพสัตว์ สิ่งของ เช่น รูปร่างของ หนังสือสำหรับเด็ก หนังสือนิทาน เป็นต้น


3. ตำแหน่งจุดแห่งความสนใจในสื่อสิ่งพิมพ์โดยปกติผู้ออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์มักจะให้ ความสำคัญแก่ ปกหน้าเป็นพิเศษมากกว่าส่วนอื่น ทั้งนี้เพราะเป็นจุดดึงดูดสายตา และสามารถสร้าง ความน่าสนใจแก่ผู้ดูใน กรณีที่มีการแข่งขันกับสื่อสิ่งพิมพ์อื่น ๆ สำหรับการจัดหน้าภายในหนังสือนั้น สมัยก่อนมักให้ความสำคัญแก่ หน้าขวามือ หรือหน้าที่ ได้แก่ หน้า 1, 3, 5, 7 ไปตามลำดับ แต่ในปัจจุบัน จากผลการวิจัยพบว่าผู้อ่านให้ ความสำคัญแก่หน้าหนังสือทางซ้ายมือเท่ากับหน้าขวามือ ดังนั้น ในการ จัดหน้าจึงควรออกแบบให้มีความ น่าสนใจเท่า ๆ กัน ในบางครั้งอาจออกแบบให้รูปภาพคาบเกี่ยวทั้ง หน้าซ้ายมือและหน้าขวามือ เช่น ในการทำ จุลสาร การทำหนังสือสำหรับเด็ก เป็นต้น ในการจัดสื่อสิ่งพิมพ์สองหน้า นิยมจัดให้ชอบในแคบกว่าขอบนอก ขอบด้านบนจะกว้า กว่าขอบ ด้านล่างเล็กน้อย และขอบด้านล่างจะมีความกว้างมากที่สุด สำหรับการออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์หน้า เดียว พบว่าผู้ ดูจะมีความสนใจต่อสิ่งที่อยู่ด้านบนมากกว่าสิ่งที่อยู่ด้านล่างเสมอ เช่น ในการดูการแต่งกาย ของมนุษย์ ผู้ดูส่วน ใหญ่จะสนใจต่อส่วนบนของร่างกายมากกว่าส่วนล่างของร่างกาย เป็นต้น จุดที่น่าสนใจ ที่สุดอยู่ที่แนวแกน กลางเหนือเส้นกลางหน้าแนวนอนครึ่งหนึ่งเรียกว่า " จุดรวมสายตา " (Optical Center) 4. ขนาดของสื่อสิ่งพิมพ์ขนาดของสื่อสิ่งพิมพ์ย่อมขึ้นอยู่กับขนาดของกระดาษเป็นสำคัญ จะเห็นได้ ว่าหนังสือขนาด 8 หน้ายก (7.5 นิ้ว x 10.25 นิ้ว) ที่พิมพ์ในปัจจุบันมีขนาดรูปเล่มที่แท้จริง ไม่เท่ากัน ทั้งนี้ เนื่องจากขนาดของกระดาษที่ใช้พิมพ์ไม่เท่ากัน ได้แก่ กระดาษขนาด 31 นิ้ว x 43 นิ้ว และกระดาษขนาด 24 นิ้ว x 35 นิ้ว


2.1.4 องค์ประกอบในการออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ โดยทั่วไปในการสร้างสื่อสิ่งพิมพ์ จะประกอบด้วยองค์ประกอบสำคัญหลายอย่าง ได้แก่ ตัวอักษร ข้อความ ภาพประกอบ ที่ว่าง รูปร่าง รูปทรง และส่วนประกอบอื่น ๆ ดังนั้น ในการจัดวางองค์ประกอบ ต่าง ๆ เข้าด้วยกันจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก ในการออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์จะต้องคำนึงถึงการจัดวางองค์ประกอบ เพื่อให้เกิด ความสมบูรณ์ โดยใช้หลักการดังนี้ 1. การวางตำแหน่ง การวางตำแหน่งหน้าสื่อสิ่งพิมพ์สามารถจัดวางให้อยู่หน้าขวา หรือหน้าซ้ายก็ได้ ซึ่งการจัด ตำแหน่ง หน้าจะมีผลต่อความสนใจในสื่อสิ่งพิมพ์ (1) ให้ความสำคัญของสิ่งที่อยู่ขวามือมากกว่าซ้ายมือ (2) การจัดหน้าขวามือเป็นหน้าที่ จึงมีความสำคัญกว่าหน้าคู่ เพราะเป็นตำแหน่งความสนใจในสื่อ สิ่งพิมพ์ 2 รูปร่าง รูปร่าง คือ เส้นรอบนอกทางกายภาพของวัตถุ จะเป็นรูป 2 มิติ คือ ความกว้างและความยาว ไม่มี ความหนาหรือความลึก รูปร่างแบ่งออกเป็น 3 แบบ (1) รูปร่างตามธรรมชาติ (Natural Shape) รูปร่างต่าง ๆ ที่พบเห็นได้จากสิ่งรอบ ๆ ตัวที่ เกิดขึ้นโดย ธรรมชาติ ได้แก่ คน สัตว์ พืช หรือเรียกอีกนัยหนึ่งว่ารูปร่างที่ได้จากสิ่งที่มีชีวิต (Organic) (2) รูปร่างเรขาคณิต (Geometric Shape) หมายถึง รูปร่างที่มนุษย์สร้างขึ้น โดยอาจจะมี ที่มาจาก ธรรมชาติแล้วนำมาดัดแปลง รูปร่างเรขาคณิตนี้จะมีโครงสร้างแน่นอน วัดระยะได้ ได้แก่ รูปร่าง วงกลม รูปร่าง สามเหลี่ยม รูปร่างสี่เหลี่ยม ฯลฯ (3) รูปร่างนามธรรม (Abstract Shape) หมายถึง รูปร่างที่เปลี่ยนแปลง อาจเป็นรูปร่าง ที่มาจาก ธรรมชาติ เรขาคณิต หรือจากจินตนาการ ซึ่งรูปร่างลักษณะนี้อาจมองคล้ายกับรูปร่างอะไรหรือไม่ สามารถ ระบุได้ว่าเป็นรูปร่างอะไร อาจเรียกรูปร่างชนิดนี้ว่า รูปร่างไม่แสดง เนื้อหาหรือรูปร่างอิสระ ซึ่งเป็น รูปร่างที่ เกิดขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องอ้างอิงธรรมชาติหรือเรขาคณิต 3. ขนาด ขนาดของสื่อสิ่งพิมพ์เกิดจากการเปรียบเทียบสัดส่วนกับพื้นที่ที่มอง เพื่อทำให้เกิด การรับรู้ในเรื่อง ระยะและขนาด เปรียบเทียบสิ่งที่เกิดขึ้นในกรอบภาพการจัดองค์ประกอบในสื่อสิ่งพิมพ์ ให้มีสัดส่วนที่ต่างกัน จะเรียกความสนใจและดูแปลกตาได้มากกว่าการที่มีสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน


4. เส้น เส้นเกิดจากจุดหลาย ๆ จุดที่เรียงติดต่อกันไป ส่วนที่เป็นขอบรอบนอกของพื้นที่วัตถุ เส้น เป็นรากฐาน ของศิลปะทุกประเภท เมื่อนำเส้นมาประกอบกันจะทำให้เป็นรูปที่ต้องการ เส้นแต่ละเส้นจะให้ ความรู้สึก แตกต่างกันไปเป็นการสื่ออารมณ์หรือสามารถช่วยนำสายตา 5. แสง สี เงา สีมีความสำคัญในการออกแบบ สามารถบ่งชี้ลักษณะของภาพ มีอิทธิพลเหนือจิตใจมนุษย์ ทุกคนจะ รู้สึกในอารมณ์ทันทีที่เห็น สีมีอิทธิพลกับความรู้สึกของมนุษย์ สามารถให้ความรู้สึกทางประสาท โดยตรง เช่น สีเทาให้ความรู้สึกเศร้า สงบนิ่ง สีขาวให้ความรู้สึกบริสุทธิ์ สะอาด เป็นต้น 6. พื้นผิว พื้นผิวของวัตถุมีความสำคัญต่อความงามในด้านสุนทรียภาพ พื้นผิวที่เรียบนั้นจะให้ ความรู้สึก คล่องตัว รวดเร็ว ในขณะเดียวกันพื้นผิวขรุขระหยาบหรือเป็นเส้นนูนสูงต่ำ ก็จะให้ความรู้สึกที่ มันคงแข็งแรง เป็นต้น 2.1.5 การจัดองค์ประกอบศิลป์ในสื่อสิ่งพิมพ์ โดยทั่วไปในกรสร้างสื่อสิ่งพิมพ์ จะประกอบด้วยองค์ประกอบสำคัญหลายอย่าง ได้แก่ ตัวอักษร ข้อความ ภาพประกอบ ที่ว่าง รูปร่าง รูปทรง และส่วนประกอบอื่น ๆ ดังนั้นในการจัดวาง องค์ประกอบต่าง ๆ เข้าด้วยกันจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก ในการออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์จะต้องคำนึงถึงการจัดวาง องค์ประกอบเพื่อให้เกิด ความสมบูรณ์ โดยใช้หลักการดังนี้ 1. ทิศทางและการเคลื่อนไหว (Direction & Movement) เมื่อผู้รับสารมองดูสื่อสิ่งพิมพ์ จะ เกิด การรับรู้ขึ้นเป็นลำดับ ตามการมองเห็น กล่าวคือเกิดขึ้นตามการกวาดสายตาจากองค์ประกอบหนึ่งไป ยังอีก องค์ประกอบหนึ่ง จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการดำเนินการวางแผนกำหนดและชักจูง สายตาของ ผู้รับสารให้เคลื่อนไหวไปในทิศทางที่ถูกต้อง ตามลำดับขององค์ประกอบที่ต้องการให้รับรู้ ก่อนหลัง โดยทั่วไป หากไม่มีการสร้างจุดเด่นขึ้นมา สายตาของผู้รับสารก็จะมองดูหน้ากระดาษที่เป็นสื่อ สิ่งพิมพ์ในทิศทางของ ตัวอักษร (Z) ในภาษาอังกฤษ คือจะเริ่มมองที่มุมบนด้านขวา แล้วไล่ลำดับลงมายัง มุมล่างด้านซ้าย ไปจบที่มุม ล่างด้านขวา ตามลำดับการจัดองค์ประกอบที่สอดคล้องกับธรรมชาติของ การมองนี้เป็นส่วนช่วยให้เกิดการ รับรู้ตามลำดับที่ต้องการ


2. เอกภาพและความกลมกลืน (Unity & Harmony) คือ ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ซึ่งในการ จัดทำเลย์เอาต์ (Layout) หมายถึง การนำองค์ประกอบที่แตกต่างกันมาวางไว้ในพื้นที่ หน้ากระดาษเดียวกันได้ อย่างกลมกลืน ทำหน้าที่สอดคล้องส่งเสริมกันในการสื่อสารความคิดรวบยอด และ บุคลิกภาพของสื่อสิ่งพิมพ์ นั้น การสร้างเอกภาพนี้สามารถทำได้หลายวิธี ได้แก่ (1) การสร้างความต่อเนื่องกันให้องค์ประกอบ เช่น การจัดให้พาดหัว วางทับ บนภาพ การใช้ตัวอักษร ที่เป็นข้อความล้อตามทรวดทรงของภาพ เป็นต้น (2) การเลือกใช้องค์ประกอบอย่างสม่ำเสมอ เป็นการเลือกใช้แบบตัวอักษรเดียวกัน การเลือกใช้ภาพขาวดาทั้งหมด (3) การเว้นพื้นที่ว่างรอบองค์ประกอบทั้งหมด จะทำให้พื้นที่ว่างนั้นทำหน้าที่เหมือน กรอบสีขาว ล้อมรอบองค์ประกอบทั้งหมดไว้ภายใน ช่วยให้องค์ประกอบทั้งหมด ดูเหมือนว่าอยู่กันอย่างเป็น กลุ่มเป้นก้อน


3. ความสมดุล (Balance) การจัดวางองค์ประกอบทั้งหมดในพื้นที่หน้ากระดาษ จะต้อง ไม่ขัดกับ ความรู้สึก คือจะต้องไม่ดูเอนเอียงหรือหนักไปด้านใดด้านหนึ่ง โดยไม่มีองค์ประกอบมาถ่วงในอีก ด้าน การจัด องค์ประกอบให้เกิดความสมดุลแบ่งได้เป็น 3 ลักษณะ คือ (1) สมดุลแบบสมมาตร (Symmetrical Balance) เป็นการจัดวางอง ประกอบ โดย ให้องค์ประกอบ ทางด้านซ้ายและด้านขวาของพื้นที่หน้ากระดาษมีลักษณะเหมือนกัน ทั้งสองข้าง ซึ่งองค์ประกอบที่มีเหมือนกัน ในแต่ละด้านนี้จะถ่วงน้ำหนักกันและกันให้เกิดความรู้สึกสมดุล (2) สมดุลแบบอสมมาตร (Asymmetrical Balance) เป็นการจัดวางองค์ประกอบโดยให้องค์ประกอบ ในด้านซ้ายและด้านขวาของพื้นที่ในกระดาษ มีลักษณะไม่เหมือนกันทั้งสองข้างแม้องค์ประกอบจะไม่ เหมือนกันในแต่ละด้าน แต่ก็จะถ่วงน้ำหนักกันและกันให้เกิดความสมดุล (3) สมดุลแบบรัศมี (Radial Balance) เป็นการจัดองค์ประกอบโดยให้องค์ประกอบแผ่ไปทุกทิศทุก ทางจากจุดศูนย์กลาง 4. สัดส่วน (Proportion) การกำหนดสัดส่วนนี้เป็นการกำหนดความสัมพันธ์ในเรื่องของ ขนาด ซึ่งมี ความสำคัญ โดยเฉพาะในหน้ากระดาษของสื่อสิ่งพิมพ์ที่ต้องการให้มีจุดเด่น เช่น หน้าปก หนังสือ เป็นต้น เพราะองค์ประกอบที่มีสัดส่วนแตกต่างกันจะดึงดูดสายตาได้ดีกว่าการที่ใช้องค์ประกอบ ทั้งหมดในสัดส่วนที่ ใกล้เคียงกัน ในการกำหนดสัดส่วนจึงจะต้องพิจารณาองค์ประกอบทั้งหมดในพื้นที่ หน้ากระดาษไปพร้อม ๆ กันว่าควรจะเพิ่มหรือลดองค์ประกอบส่วนใด ไม่ใช่ค่อย ๆ ทำไปทีละองค์ประกอบ 5. ความแตกต่าง (Contrast) การจัดองค์ประกอบในสื่อสิ่งพิมพ์ให้มีความแตกต่างกันได้ ด้วยการจัด วางองค์ประกอบที่มีความแตกต่างกันโดยขนาด ความแตกต่างโดยรูปร่าง ความแตกต่างโดย ความเข้ม และ ความแตกต่างโดยทิศทาง ดังนี้ (1) ความแตกต่างโดยขนาด เป็นวิธีการที่ง่ายที่สุดโดยการเน้นการจัดองค์ประกอบใด องค์ประกอบ หนึ่งให้เด่นขึ้นมา ด้วยการเพิ่มขนาดให้ใหญ่กว่าองค์ประกอบอื่น ๆ โดยรอบ ซึ่งโดยธรรมชาติ แล้วผู้ดูจะเลือก มองดูองค์ประกอบที่ใหญ่กว่าก่อน


(2) ความแตกต่างโดยรูปร่าง เป็นวิธีที่เน้นให้องค์ประกอบใดองค์ประกอบหนึ่งเด่นขึ้น ด้วยการใช้ รูปร่างที่แตกต่างออกไปจากองค์ประกอบอื่นในหน้ากระดาษ (3) ความแตกต่างโดยความเข้ม เป็นวิธีที่เน้นให้องค์ประกอบใดองค์ประกอบหนึ่งเด่น ขึ้นมาด้วยการ ใช้การเพิ่มหรือลดความเข้ม หรือน้ำหนักขององค์ประกอบนั้นให้เข้มหรืออ่อนกว่าองค์ประกอบ อื่นที่อยู่ร่วมกัน ในหน้ากระดาษ (4) ความแตกต่างโดยทิศทาง วิธีการนี้เป็นการเน้นที่องค์ประกอบใดองค์ประกอบหนึ่ง ให้เด่นขึ้นมา ด้วยการวางองค์ประกอบที่ต้องการจะเน้นให้อยู่ในทิศทางที่แตกต่างจากองค์ประกอบอื่น ๆ ที่อยู่ร่วมกันใน หน้ากระดาษ เช่น การวางภาพเอียง 45 องศา ในหน้ากระดาษ ที่เต็มไปด้วยตัวอักษรที่เรียง เป็นแนวนอน เป็น ต้น 6. จังหวะ ลีลา และการซ้ำ (Rhythm & Repetition) การจัดวางองค์ประกอบหลาย ๆ ชิ้นโดย กำหนดตำแหน่งให้เกิดมีช่องว่างเป็นช่วง ๆ ตอน ๆ อย่างมีการวางแผนล่วงหน้า ทำให้เกิดจังหวะและ ลีลาขึ้น หากว่าองค์ประกอบหลายชิ้นนั้นมีลักษณะซ้ำกันหรือใกล้เคียงกัน ก็จะยิ่งเป็นการเน้นให้เกิดจังหวะ และลีลา ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ลักษณะตรงกันข้ามกับแบบแรก จังหวะและลีลาลักษณะนี้จะก่อให้เกิดความรู้สึก ที่ตื่นเต้น ดู เคลื่อนไหวและมีพลัง 2.2 กระบวนการพิมพ์ กระบวนการพิมพ์ คือ ขั้นตอนวิธีการในการผลิตสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ เช่น หนังสือ จุลสาร แผ่นพับ ฉลาก สินค้า โปสเตอร์โฆษณา เป็นต้น โดยในการผลิตต้องกำหนดรูปแบบและจำนวนที่ต้องการ กระบวนการ พิมพ์ เริ่มต้นจากการรับต้นฉบับที่เป็นอาร์ตเวิร์ก (ต้นฉบับสำหรับส่งไปพิมพ์จริงและสิ้นสุดเป็นชิ้นงาน กระบวนการ พิมพ์มีขั้นตอนดังนี้


2.2.1 กระบวนการก่อนการพิมพ์ (Prepress Process) กระบวนการนี้ได้ถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่มีการนำเครื่องคอมพิวเตอร์มาใช้ในการ ออกแบบ และ ควบคุมขบวนการทำแม่พิมพ์ในปัจจุบันต้นฉบับ/อาร์ตเวิร์กมักเป็นรูปแบบของไฟล์ดิจิตอล กระบวนการก่อน การพิมพ์ที่กล่าวในที่นี้จะอิงระบบดิจิตอลในการทำงาน ประกอบด้วย .2.2 กระบวนการการพิมพ์ (Press/Printing Process) mm. climateur เมื่อได้แม่พิมพ์ที่สมบูรณ์ ก็เริ่มเข้าสู่กระบวนการพิมพ์ กระบวนการพิมพ์มีความสำคัญมาก ชิ้นงานจะ ออกมาดีหรือไม่ขึ้นอยู่กับการพิมพ์เป็นหลักใหญ่ และจะพบว่าปัญหาส่วนใหญ่ที่เกิดระหว่าง ลูกค้ากับโรงพิมพ์ มักมาจากการพิมพ์ เช่น สีไม่เหมือน พิมพ์เหลื่อม ข้อความไม่ชัด เป็นต้น ดังนั้น การ ควบคุมการพิมพ์จึงเป็น เรื่องสำคัญ 2.2.3 กระบวนการหลังการพิมพ์ (After Press Process) งานพิมพ์ที่พิมพ์เสร็จสิ้นแล้วโดยทั่วไปยังไม่สมบูรณ์เป็นชิ้นงานตามที่ต้องการ จึงต้องผ่าน กระบวนการต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ 1. การตกแต่งผิวชิ้นงาน (Surface Decoration) งานพิมพ์บางงานต้องการการเคลือบผิวเพื่อ จุดประสงค์ต่าง ๆ กัน เช่น เพื่อป้องกันการขีดข่วน ป้องกันความชื้น ต้องการความสวยงาม เป็นต้น 2. การขึ้นรูป (Forming) การขึ้นรูปสามารถทำได้หลายรูปแบบ ได้แก่ (1) การติดเจียน เช่น งานทําฉลาก เป็นต้น (2) การขึ้นเส้นสำหรับพับ การปั้มเป็นรูปทรง/การไดคัท เช่น งานกล่อง งานเจาะหน้าต่าง เป็นรูปต่าง ๆ เป็นต้น (3) การพับ การม้วน เช่น งานทํากระป๋อง เป็นต้น (4) การทากาวหรือทําให้ติดกัน เช่น งานทํากล่อง งานทําซอง เป็นต้น (5) การหุ้มกระดาษแข็ง เช่น งานทำปกแข็ง งานทำฐานปฏิทิน เป็นต้น 3. การทำรูปเล่ม (Book Making) เป็นขบวนการสำหรับทำงานประเภทสมุด หนังสือ ปฏิทิน เป็นต้น โดยมีขั้นตอนคือ (1) การตัดแบ่ง เพื่อแบ่งงานพิมพ์ที่ซ้ำกันในแผ่นเดียวกัน (2) การพับ เพื่อพับแผ่นพิมพ์เป็นหน้ายก (3) การเก็บเล่ม เพื่อเก็บรวมแผ่นพิมพ์ที่พับแล้ว หน้ายกมาเรียงให้ครบเล่มหนังสือ


(4) การเข้าเล่ม เพื่อทำให้หนังสือยึดติดกันเป็นเล่ม มีวิธีต่าง ๆ คือ การเย็บด้วยลวด เย็บ มุงหลังคา การไสสันทากาว การเย็บกี่ทากาว การเย็บที่หุ้มปกแข็ง การเจาะรูร้อยห่วง เมื่อผ่านการยึดเล่ม ติดกัน ก็นำ ชิ้นงานมาตัดเขียนขอบสามด้านให้เรียบเสมอกันและได้ขนาดที่ต้องการ 4. การบรรจุหีบห่อ (Packing) เมื่อได้ชิ้นงานสำเร็จตามที่ต้องการ ทำการตรวจสอบชิ้นงาน แล้ว บรรจุหีบห่อพร้อมส่งไปยังจุดหมายปลายทางต่อไป 2.3 การผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ด้วยคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ พิมพ์สิ่งพิมพ์ประเภทต่าง ๆ ในยุคก่อนนั้นต้องผ่านกระบวนการต่าง ๆ มากมายหลายขั้นตอน ที่เรียการ : การ เรียงพิมพ์ โดยที่จะต้องมีผู้ตัดต่อรูปภาพ วาดกรอบของภาพหรือกรอบหัวเรื่อง เขียนข้อความ และนำข้อความ ภาพ กรอบมาประกอบกันตามที่ออกแบบไว้ การทำงานที่ยุ่งยากเหล่านี้นี่เองที่ทำให้ เอกสารเหล่านั้นมีราคา แพง แต่ในปัจจุบันนี้มีเพียงเครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องพรินเตอร์และโปรแกรมเท่านั้น ก็สามารถที่จะออกแบบ งานหรือเอกสารให้เป็นที่น่าสนใจได้ โดยโปรแกรมจะมีความสามารถด้านการ ดการเอกสาร ความสามารถด้าน การเรียงพิมพ์ Publishing) 2.3.1 ความหมายของการผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ด้วยคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ (Desktop Desktop Publishing) Desktop Desktop Publishing ความหมายในหนังสือ ศัพท์คอมพิวเตอร์ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2538 บัญญัติไว้ว่า "การจัดพิมพ์ด้วยคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ" โดยใช้ตัวย่อ ดีทีพี (DTP) หมายถึง การนำ ภาพและข้อความมาจัดวางไว้ด้วยกันบนจอภาพในตำแหน่งที่สวยงาม ดูแล้วสบายตา มักใช้เป็นต้นแบบ ของ เอกสารสื่อสิ่งพิมพ์ เป็นการจัดเตรียมต้นฉบับเอกสารสื่อสิ่งพิมพ์ กระบวนการจัดพิมพ์โดยใช้เครื่อง คอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ แทนที่จะเป็นการตัดปะอย่างสมัยก่อน มีระบบการผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ที่มีต้นทุนไม่สูง มาก มีการนำโปรแกรมสำเร็จรูปช่วยในการเรียงข้อความ การทำภาพกราฟิก เช่น การใช้โปรแกรม อโดบี อินดี ไซน์ (Adobe InDesign) โปรแกรม อโดบี เพจเมคเกอร์ (Adobe PageMaker) เป็นต้น เพื่อผลิต สิ่งพิมพ์ หลากหลายประเภทได้อย่างประหยัด และสวยงาม เป็นที่นิยมใช้ในปัจจุบัน จากความหมายดังกล่าวข้างต้นสรุปได้ว่า การใช้คอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะในที่นี้ไม่ได้ หมายความ เฉพาะคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดพอที่จะวางอยู่บนโต๊ะทำงานเท่านั้น แต่รวมถึงคอมพิวเตอร์ที่มี ขนาดเล็ก เช่น แล็ปท็อป (Laptop) โน้ตบุ๊ก (Notebook) เป็นต้น ซึ่งถึงแม้จะเครื่องจะมีขนาดที่เล็กกว่า แต่ ประสิทธิภาพใน การทํางานไม่ได้ด้อยไปกว่า จึงเป็นที่นิยมใช้กันมากในปัจจุบัน


2.3.2 องค์ประกอบของการจัดพิมพ์ด้วยคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ การผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ด้วยคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะประกอบด้วย 1. เครื่องคอมพิวเตอร์ ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยทำให้ประสิทธิภาพการทํางานที่ดีขึ้นความ นิยมในการ ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ก็เปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าจะเป็นโน้ตบุ๊ก เครื่องแมคฯ และมีการพัฒนาอย่าง ต่อเนื่อง จน ปัจจุบันมีความก้าวหน้าและสามารถผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ที่มีคุณภาพได้ทัดเทียมกับโรงพิมพ์ 2. โปรแกรมสำเร็จรูปในการจัดหน้า สื่อสิ่งพิมพ์ที่มีคุณภาพดีจะต้องอาศัยโปรแกรม สำเร็จรูปหลาย โปรแกรมประกอบกัน ซึ่งในปัจจุบันมีให้เลือกใช้มากมายหลายโปรแกรม แต่ละโปรแกรมจะ มีคุณสมบัติที่ แตกต่างกันไป ได้แก่ โปรแกรมพิมพ์ข้อความและวาดภาพกราฟิกแบบง่าย โปรแกรมวาดภาพ โปรแกรม ตกแต่งภาพ และโปรแกรมสำหรับการจัดหน้า การเลือกใช้โปรแกรมได้เหมาะสมจะทำให้การผลิต สื่อสิ่งพิมพ์ ทำได้สะดวก และง่ายดาย ผลงานที่ออกมาก็จะมีคุณภาพที่ดี 3. เครื่องพิมพ์ เครื่องพิมพ์เป็นอุปกรณ์ต่อพ่วงกับเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อใช้แสดงผลลัพธ์ ออกมาทาง กระดาษ เครื่องพิมพ์ในปัจจุบันมีหลายชนิด แต่ที่นิยมใช้มากในปัจจุบัน คือ เครื่องพิมพ์แบบ พ่นหมึก (Inkjet) และเครื่องพิมพ์แบบเลเซอร์ (Laser) ในการผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ผู้ผลิตสามารถเลือกใช้ เครื่องพิมพ์แบบใดก็ได้ ตาม ความถนัดและเหมาะสม สรุปสาระสำคัญ การออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์เป็นกระบวนการหนึ่งที่จะส่งผลให้การผลิตสื่อสิ่งพิมพ์สำเร็จบรรลุตาม จุดมุ่งหมาย โดยการออกแบบจะคำนึงถึงวัตถุประสงค์และหลักการในการผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ เพื่อจะนำไปสู่ ขั้นตอนกระบวนการพิมพ์ในลำดับต่อไป กระบวนการพิมพ์ คือขั้นตอนวิธีการในการผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ ประกอบด้วย 3 กระบวนการ ได้แก่ กระบวนการก่อนการพิมพ์ กระบวนการการพิมพ์ และกระบวนการ หลัง การพิมพ์ ทั้ง 3 กระบวนการนี้เป็นกระบวนการผลิตที่ผ่านโรงพิมพ์ นอกจากการผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ที่ผลิต ผ่านโรง พิมพ์แล้ว ผู้ผลิตที่ต้องการสร้างงานพิมพ์ด้วยตนเองโดยใช้กระบวนการพิมพ์ด้วยคอมพิวเตอร์แบบ ตั้งโต๊ะก็ สามารถทำได้ง่ายเพียงแค่มีเครื่องคอมพิวเตอร์ โปรแกรมสำเร็จรูปสำหรับจัดหน้าสื่อสิ่งพิมพ์ และ เครื่องพิมพ์ ก็สามารถผลิตสิ่งพิมพ์ที่มีคุณภาพได้ และการพิมพ์แบบนี้ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน


หน่วยที่ 3 เริ่มต้นใช้งานโปรแกรมผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ เนื้อหาสาระ (Content) สื่อสิ่งพิมพ์ประเภทต่าง ๆ ที่เราใช้กันทุกวันนี้ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน จนบางครั้งผู้ใช้ อาจลืม สังเกตว่าสิ่งนั้นเป็นสื่อสิ่งพิมพ์ งานด้านสื่อสิ่งพิมพ์ผลิตขึ้นมาให้มีหลากหลายประเภทเพื่อ สนองตอบกับความ ต้องการของผู้ใช้ ได้แก่ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร วารสาร โบชัวร์ แผ่นพับ และหนังสือ ประเภทต่าง ๆ โดยที่มา ของสื่อสิ่งพิมพ์เหล่านี้อาจจะมาจาก โรงพิมพ์ขนาดใหญ่ที่มีอุปกรณ์เครื่องมือครบ ครัน หรือมาจากการผลิต ด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์และเครื่องพริ้นเตอร์แบบธรรมดา เรียกว่าเป็นการพิมพ์ แบบเดสก์ทอปพับลิชชิ่ง ที่มีใช้ กันโดยทั่วไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการคุณภาพ ขนาด และปริมาณของ งานพิมพ์ ในการผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ผู้ใช้จำเป็นต้องออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์นั้น ให้ตรงกับวัตถุประสงค์ที่จะนำไปใช้ และเลือกใช้ โปรแกรมสำเร็จรูปสำหรับการผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ให้เหมาะสม เช่น โปรแกรมอโดบี เพจเมกเกอร์ ( Adobe Pagemaker) โปรแกรม อโดบี อินดีไซน์ (Adobe Indesign) โปรแกรมอโดบี โฟโตชอป (Adobe Photoshop) และโปรแกรมอโดบี อิลลัสเตรเตอร์ (Adobe Illustrator) เป็นต้น เพื่อให้ได้งานพิมพ์ตาม ต้องการ 3.1 การเข้าสู่โปรแกรมอโดบี อินดีไซน์ ซีเอส 6 โปรแกรมอโดบี อินดีไซน์ ซีเอส 6 เป็นโปรแกรมเพื่อการจัดหน้าสื่อสิ่งพิมพ์แบบมืออาชีพสำหรับ งาน สื่อสิ่งพิมพ์ในระบบดิจิตอล ใช้ออกแบบโครงหน้าหรือเลย์เอาต์ของงานพิมพ์ที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็น งานพิมพ์ หนังสือ วารสาร นิตยสาร โปรแกรมนี้ได้รับความนิยมจากผู้ใช้เพราะมีเครื่องมือในการอำนวย ความสะดวก ช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้ง่ายขึ้น 1. ดับเบิลคลิกที่สัญลักษณ์ชอร์ตคัต อโดบี อินดีไซน์ ซีเอส 6) บนหน้าเดสก์ทอป (Desktop) 2. คลิกที่ปุ่มสตาร์ต> อโดบี อินดีไซน์ ซีเอส 6 (All Programs > Adobe InDesign CS6) หน้าต่างเทมเพลตมีไว้สำหรับช่วยในการสร้างไฟล์งานได้สะดวกมากขึ้น ซึ่งจะให้แสดงหรือไม่แสดง หน้าต่างนี้ก็ได้ การใช้งานหน้าต่างเทมเพลตเพื่อเข้าสู่การเริ่มต้นการสร้างชิ้นงาน มีดังนี้


Open... เปิดไฟล์งานเดิมที่มีอยู่แล้ว (Open) Document สร้างไฟล์งานใหม่ (Document) Book สร้างไฟล์งานแบบบุ๊ก (Book) เหมาะสำหรับเอกสารที่มีจำนวนหลาย ๆ หน้า Library สร้างไฟล์แบบไลบรารี (Library) เมื่อไม่ต้องการให้แสดงหน้าต่างเทมเพลต ให้คลิกที่กรอบสี่เหลี่ยมหน้าข้อความ Don't show again จะปรากฏเครื่องหมาย ] เมื่อเข้าสู่โปรแกรมครั้งต่อไป จะไม่แสดงหน้าต่างเทมเพลตนี้ 3.2 การออกจากโปรแกรมอโดบี อินดีไชน์ ซีเอส 6 การออกจากโปรแกรมอโดบี อินดีไซน์ ซีเอส 6 ทำได้ดังนี้ 1. คลิกที่ปุ่ม X (Close) บริเวณปุ่มควบคุมการทำงาน (มุมบนด้านขวามือ) จะปิดชิ้นงานและ ปิดโปรแกรม 2. คลิกค้าส่งไฟล์ (File) > ออกจากโปรแกรม (Exit) 3.3 ส่วนประกอบต่าง ๆ ของโปรแกรมอโดบี อินดีไซน์ ซีเอส 6 เมื่อเข้าสู่การทำงานของโปรแกรมอโดบี อินดีไซน์ ซีเอส 6 จะปรากฏหน้าจอของโปรแกรม ซึ่ง ประกอบด้วยส่วนประกอบต่าง ๆ ทั้งที่เป็นแถบเครื่องมือ แถบคำสั่ง และพื้นที่ในการทำงาน 3.3.1 ส่วนประกอบของหน้าต่างโปรแกรมอโดบี อินดีไซน์ ซีเอส 6 ส่วนประกอบบนหน้าจอสามารถแบ่งได้เป็น 7 ส่วน ได้แก่ 1 แถบสั่ง (Meru Bar) คำสั่งหลักและคำสั่งบ่อยของ ปรแกรม 2 แถบคอนโทรลพาเนล (Control Panel) ใช้สำหรับกำหนดคุณสมบัติของวัตถุ และข้อความ 3 ปุ่มควบคุมการทำงานปิด ย่อ ขยาย หน้าต่าง หมายเลข 4 ปุ่มเรียกใช้งานโปรแกรมอโดบีบริดจ์ (Adobe Bridge) 5 กล่องเครื่องมือ (Toolbox) เก็บเครื่องมือที่ใช้ในการสร้าง ปรับแต่งและข้อความ 6อาร์ทบอร์ด (Atcard) พื้นที่การทำงาน 7ดอกพาเนล (Dock Panel) พาเนลต่าง ๆ ที่รวบรวมคุณสมบัติการทำงาน แถบคำสั่งเป็นแถบเมนูที่ใช้เก็บคำสั่งหลักของโปรแกรม ในคำสั่งหลักบางคำสั่งจะมีสัญลักษณ์ - แสดง อยู่ด้านขวามือ เมื่อเรียกใช้คำสั่งหลักจะมีสั่งย่อยแสดงขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง


3.3 กล่องเครื่องมือ(Toolbox) เสียงเครื่องมือเป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรมอโดบี อินดีไซน์ ซีเอส 6 ที่เก็บรวบรวมเครื่องมือที่ ในการ สร้างชิ้นงาน การปรับแต่งแก้ไขข้อความและรูปภาพ ซึ่งเครื่องมือที่เรียกใช้อยู่ในรูปแบบของไอคอ ให้ผู้ใช้ สามารถเรียกใช้งานได้ง่ายและสะดวกรวดเร็ว การปรับเปลี่ยนรูปแบบกล่องเครื่องมือสามารถทำได้ด้วยการคลิกที่สัญลักษณ์รูปสามเหลี่ยม ซึ่งการปรับ รูปแบบของกล่องเครื่องมือขึ้นอยู่กับต้องการของผู้ใช้ 3.3.4 พาเนล (Panel) พาเนลเป็นที่รวบรวมคุณสมบัติของเครื่องมือต่าง ๆ เพื่อความสะดวกในการเรียกใช้งานใน โปรแกรมอโดบี อินดีไซน์ ซีเอส 6 1. รูปแบบของพาเนล (Panel) พาเนลสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบได้ 3 รูปแบบ คือ (1) แบบพาเนล (2) แบบไอคอนและชื่อพาเนล (3) แบบไอคอน การเปลี่ยนรูปแบบพาเนลสามารถทำได้ด้วยการคลิกที่สัญลักษณ์ด้านบนของพาเนลบริเวณแถบ 2. ควบคุมการเปิด/ปิดพาเนล วิธีที่ การเปิด/ปิดพาเนล สามารถทำได้ด้วยการใช้เมนูคำสั่ง วินโดว์ (Window) เพื่อ เลือกให้มีการ แสดง/ไม่แสดงรายการพาเนล ตามชื่อของพาเนล (1) เมื่อมีการผลิตมาเพื่อเลือกไม้แสดงจะปรากฏเครื่องหมาย ถูก หน้าชื่อพาเนล 2) เมื่อต้องการปิดหรือยกเลิกพาเนล ให้ทำการคลิกเมาส์ที่ชื่อพาเนลเพื่อให้ เครื่องหมาย ถูก หายไป 3.3.5 คอนโทรลพาเนล (Control Panel) คอนโทรลพาเนลเป็นแถบเครื่องมือที่ใช้ในการกำหนดค่า ให้กับข้อความ ตัวอักษร และวัตถุ โดยเครื่องมือจะเปลี่ยนไปตามการทำงานในขณะนั้นว่าเป็นข้อความหรือกับ โต ถ้าเป็นการทำงานกับ ข้อความ ผู้ใช้จะสามารถกำหนด ขนาดตัวอักษร การจัดตำแหน่งข้อความ ถ้าเป็นการ ทำงานกับวัตถุ จะสามารถกำหนดคุณสมบัติต่าง ๆ ของวัตถุ เช่น การจัดวาง การปรับแต่งภาพ เป็นต้น คอนโทรลพาเนล เป็นเครื่องมือที่ทำให้การใช้งานสะดวกและรวดยิ้งขึ้น


เมื่อทำงานเกี่ยวกับตัวอักษรหรือข้อความ มีการใช้เครื่องมือไทยทูล (Type Tool หรือ ไทป์ออนอะ พาธทูล (Type on a path tool) คอนโทรลพาเนลจะปรากฏดังนี้ สร้างไฟล์งานด้วยโปรแกรมอโดบี อินดีไซน์ ซีเอส 6 สามารถสร้างไฟล์งานได้ ดังนี้ การสร้างไฟล์งาน จากดอกอิวเมนท์ เซตอัพ (Document Setup) ผู้ใช้สามารถกำหนดค่าต่าง ๆ และรูปแบบของชิ้นงานตามที่ ผู้ใช้ต้องการ เช่น การกำหนดค่าระยะขอบกระดาษ แนววางกระดาษ เป็นต้น โดยผู้ใช้สามารถเรียกสร้างไฟล์ งานจากซิวเมนท์ เซตอัพ ได้ดังนี้ 3.4.1 เรียกใช้งานจากคำสั่งไฟล์บนแถบเมนู 1. เมื่อเข้าสู่โปรแกรมอโดบี อินดีไซน์ ซีเอส 6 แล้ว ให้คลิกเลือกคำสั่งไฟล์ > นิ้ว > ดอกอิวเมนท์ (File > New > Document) 2. ปรากฏหน้าต่างนิวดอกยิวเมนท์ (New Document) ขึ้นมา เพื่อให้ผู้ใช้สามารถกำหนด รูปแบบของหน้าเอกสารและสร้างไฟล์งานในขั้นต่อไป 3.4.2 เรียกใช้จากค่า งลัด (Ctrl+N) 1. เมื่อเข้าสู่โปรแกรมอโดบี อินดีไซน์ ซีเอส 6 ให้กดปุ่มบนคีย์บอร์ด คือปุ่มคอนโทรล + เป็น(Ctrl + N) 2. ปรากฏหน้าต่างนิวดอคอิวเมนท์ (New Document) ขึ้นมา เพื่อให้ผู้ใช้สามารถกำหนดรูปแบบของ หน้าเอกสาร 3.5 การตั้งค่าในหน้าต่างดอคอิวเมนท์ เซตอัพ 3.5.1 การกำหนดรูปแบบหน้าเอกสาร ผู้ผลิตสื่อสิ่งพิมพ์สามารถกำหนดค่าหน้าเอกสารคัด การตั้งค่า ในหน้าต่างตอคคิวเมนท์ เซตอัพ ดังนี้ 1. ดอกอิวเมนท์ พรีเซต (Document Preset) ผู้ใช้สามารถเลือกกำหนด การตั้งค่า หน้าเอกสารได้ จากหน้าต่างดอกฮิวเมนท์ พรีเซต 2. นัมเบอร์ ออฟ เพจ (Number of Pages) กำหนดจำนวนหน้าในเอกสาร 3. สตาร์ต เพจ นัมเบอร์ (Start Page No.) หมายเลขหน้าเอกสารที่ต้องการเริ่มต้น 4. เฟซชิ่ง เพจ (Facing Page) กำหนดการแสดงรูปแบบของหน้ากระดาษ หน้าที่ หรือหน้าคู่ การตั้งค่า 5. มาสเตอร์ เท็กซ์ เฟรม (Master Text Frame) กำหนดกรอบข้อความในหน้ามาสเตอร์ เพจ (Master Page) 6. เพจไซส์ (Page Size) กำหนดขนาดของหน้ากระดาษ


7. คอลัมน์ (Columns) การแบ่งพื้นที่บนกระดาษออกเป็นส่วน ๆ ตามแนวตั้ง 8. มาร์จินส์ (Margins) กำหนดระยะขอบหน้ากระดาษ 3.5.2 ตัวอย่างการสร้างไฟล์งานจากดอกอิวเมนท์ เซตอัพ การสร้างไฟล์งานจากดอกอิวเมนท์ เซตอัพ มีขั้นตอนการทำดังนี้ 1. คลิกเลือกคำสั่งไฟล์ (File) - นิว (New) - ดอกยิวเมนท์ (Document) 2. ปรากฎหน้าต่าง นิว ดอคอิวเมนท์ (New Document) 3. กำหนดค่าต่าง ๆ ในหน้าต่างดอกอิวเมนท์ตามต้องการ 4. คลิกปุ่มตกลง (OK) 5. จะได้หน้าเอกสารที่กำหนดค่าพร้อมที่จะสร้างงานพิมพ์ 3.6 การบันทึกไฟล์งาน เมื่อมีการสร้างไฟล์งาน ผู้ใช้ย่อมมีความจำเป็นที่จะต้องบันทึกไฟล์งาน (Save) เพื่อเก็บไว้ใช้ใน ต่อไป หรือแจกจ่ายต้นฉบับของไฟล์งานไปยังบุคคลอื่น การบันทึกไฟล์งานจึงมีความสำคัญในการทำงา ทุกครั้ง ซึ่งใน การบันทึกไฟล์งานผู้ใช้สามารถปฏิบัติได้ดังนี้ 1. เลือกคำสั่งไฟล์บนแถบเมนู มีคำสั่งการบันทึก 2 คำสั่ง ได้แก่ (1) บันทึก (Save) ใช้ในการบันทึกไฟล์งานในชื่อเดิม ที่ผู้ใช้เรียกมาแก้ไข แล้วบันทึกในชื่อเดิม หรือ การบันทึกไฟล์งาน เป็นครั้งแรก (2) บันทึกแฟ้มเป็น (Save as) ใช้ในการบันทึกไฟล์ งานเป็นครั้งแรก บันทึกไฟล์งานเดิมเป็นชื่อใหม่ หรือบันทึกในรูปแบบของฟอร์แมตใหม่ 3.7 การเปิดไฟล์งาน การเปิดไฟล์งานเป็นการเปิดไฟล์งานที่ผู้ใช้ได้บันทึกไว้แล้ว เพื่อนำมาใช้งานหรือแก้ไขงาน ทำได้ดังนี้ 1. เลือกคำสั่งไฟล์บนแถบเมนู 2. คลิกเลือกค้าสั่งเปิด (Open) หรือ คีย์คอนโทรล + โอ (Ctrl + O) บนคีย์บอร์ดเลือกตำแหน่งที่เก็บ ไฟล์ พิมพ์ชื่อไฟล์ที่ต้องการเปิด 3. ปรากฏหน้าต่างเปิด (Open a File) (1) มองหาใน (Look In) เลือกตำแหน่งที่เก็บไฟล์


(2) ชื่อแฟ้ม (File Name) พิมพ์ชื่อไฟล์ที่ต้องการเปิด (3) ประเภทไฟล์ (Files of type) ประเภทของไฟล์ (4) เปิด (Open) ปุ่มเปิดไฟล์ (5) ยกเลิก (Cancel) ยกเลิกการเปิดไฟล์ 3.8 การปิดไฟล์งาน เมื่อบันทึกไฟล์งานแล้วต้องการปิดไฟล์งาน สามารถทำได้ 2 วิธี คือ วิธีที่ 1 การใช้คำสั่งไฟล์ 1.คลิกเลือกคำสั่งไฟล์บนแถบเมนู เลือกคำสั่งปิด (Close) หรือ คอนโทรล + ดับเบิลยู (Ctrl + W) ไฟล์งานถูกปิด 2. กลับไปยังหน้าต่างเทมเพลตเพื่อเริ่มต้นการใช้งาน หรือออกจากโปรแกรม 3.9 การพิมพ์งานทางเครื่องพิมพ์ การสร้างชิ้นงานด้วยโปรแกรมอโดบี อินดีไซน์ ซีเอส 6 เมื่อสร้างชิ้นงานเสร็จสมบูรณ์แล้ว ขั้นตอน สุดท้ายคือการพิมพ์ชิ้นงานออกทางเครื่องพิมพ์ การพิมพ์ชิ้นงานออกทางเครื่องพิมพ์ มีขั้นตอนการทำดังนี้ 1. คลิกเลือกค้าสั่งไฟล์ (File) > ปรินต์ (Print) หรือคอนโทรล + พี (Ctrl + P) 2.ปรากฎหน้าต่างปรินต์ (Print) ในการกำหนดค่าในการพิมพ์ 3.กำหนดค่าทั่วไป 4.กำหนดหน้ากระดาษในการพิมพ์ 5. ออปชั่น (Options) ประกอบด้วย (5.1) พิมพ์เลเยอร์ (Print Layers) (5.2) พิมพ์แบบไม่แสดงวัตถุ (Print Non-printing Objects) (5.3) พิมพ์หน้ากระดาษเปล่า (Print Blank Pages) (5.4) พิมพ์แสดงเส้นไกด์และเส้นกริต 6. ปุ่มปรินต์ (Print) สั่งพิมพ์ชิ้นงาน 7.ปุ่มแคนเซิล (Carcel) ยกเลิกการสั่งพิมพ์ชิ้นงาน 3.10 การเพิ่มและลดจํานวนหน้า


3.10 การเพิ่มและลดจำนวนหน้า การผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ด้วยโปรแกรมอโดบี อินดีไซน์ ซีเอส 6 เมื่อผู้ใช้ได้กำหนดจำนวนหน้าเอกสารจาก หน้าต่างดอกฮิวเมนท์ เซตอัพแล้ว แต่มีความต้องการเพิ่มหรือลดจำนวนหน้าเอกสารในภายหลัง สามารถ ทำ ได้ดังนี้ 3.10.1 การเพิ่มจำนวนหน้าเอกสารในไฟล์มีขั้นตอนดังนี้ 1. เลือกคำสั่งไฟล์ (File) > ดอกอิวเมนท์ เซตอัพ (Document Setup) 2. ปรากฏหน้าต่างดอคคิวเมนท์ เซตอัพ เพื่อเพิ่มจำนวนหน้าตามที่ต้องการในตำแหน่งของ นัมเบอร์ ออฟ เพจ (Number of Pages) 4.ไฟล์งานจะมีจำนวนหน้าเพิ่มขึ้นตามที่ผู้ใช้กำหนด 3.10.2 การเพิ่มจํานวนหน้าเอกสารโดยระบุตำแหน่ง (Insert Pages) การเพิ่มจํานวนหน้าเอกสาร ผู้ใช้สามารถระบุตำแหน่งหน้าที่ต้องการเพิ่ม - 2 วิธี ดังนี้ วิธีที่ 1 การใช้คำสั่งเลย์เอาต์ 1. คลิกเลือกคำสั่งเลย์เอาต์ (Layout) บนแถบเมนู เลือกคำสั่ง เพจ - อินเสิร์ชเพจ (Page >Insert Pages) 2. ปรากฎหน้าต่างในเสิร์ชเพจ เพื่อเพิ่มจำนวนหน้าเอกสาร คำสั่งในหน้าต่างอินเสิร์ชเพจ 3.หน้าหลัก (Master) กำหนดหน้ามาสเตอร์ให้กับเอกสารที่เพิ่มใหม่ วิธีที่ 2 การใช้พาเนลเพจ 1. คลิกขวาของเมาส์บริเวณพาเนลเพจ จะปรากฏเมนูลัด ให้คลิกเลือกอินเสิร์ชเพจ 2. ปรากฏหน้าต่างอินเสิร์ชเพจ เพื่อกำหนดจำนวนหน้าเอกสาร 3.11 การลบจํานวนหน้าเอกสาร การลบจำนวนหน้าเอกสารที่ไม่ต้องการ สามารถทำได้ 2 วิธี คือ


วิธีที่ 1 การใช้คำสั่งเลย์เอาต์ 1.คลิกที่แถบเมนูเลือกคำสั่งเลย์เอาต์ > เพจ - ดีลีทเพลง (Layout > Pages > Delete Pages) 2. ปรากฏหน้าต่างดีลีทเพจ กำหนดเลขหน้าเอกสารที่ต้องการลบ (Delete Pages) วิธีที่ 2 การใช้ไอคอนรูปถังขยะ คลิกที่ไอคอนถังขยะบริเวณมุมขวาล่างของพาเนลเพจ ผู้ใช้คลิกเมาส์ในตำแหน่งหน้าเอกสาร ต้องการ ลบในพาเนลเพจ จากนั้นลากเมาส์ไปยังตำแหน่งภาพถังขยะมุมล่างขวาของพาเนลเพจหน้าเอกสารนั้นก็จะ หายไป เป็นการลบเอกสารที่ไม่ต้องการ 3.12 การย้ายหน้าเอกสาร ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนตำแหน่งหน้าเอกสาร ด้วยการวิธีการย้ายเอกสารจากตำแหน่งหนึ่งไปยังอีก ตำแหน่งที่ต้องการ สามารถทำได้ 2 วิธี ดังนี้ วิธีที่ 1 การใช้ค่าสั่งเลย์เอาต์ 1. แถบเมนูเลือกคำสั่งเลย์เอาต์ > เพจ > มูฟเพจ (Layout > Pages > Move Pages) 2. ปรากฏหน้าต่างมูฟเพจ เพื่อกำหนดการย้ายหน้าเอกสาร 3. คลิกปุมตกลง (OK) Pages Info Lavers Junke วิธีที่ 2 การใช้พาเนลเพจ การย้ายหน้าเอกสารจากพาเนลเพจ (Panel Pages) มีขั้นตอนดังนี้ 1. คลิกเลือกหน้าเอกสารที่ต้องการย้าย 2. ลากไปวางในตำแหน่งหน้าเอกสารที่ต้องการ 3 อาหารที่ร้านจะไปปรากฏในตำแหน่งหน้าที่ต้องการ วิธีที่ 2 การขยายและ 1. คลิกเลือกไอคอนแ


3.13 มุมมองเอกสาร การกำหนดมุมมองในการแสดงหน้าเอกสาร ผู้ใช้สามารถกำหนดการแสดงมุมมองในการขยาย มุมมอง ให้กว้างขึ้น หรือย่อมุมมองให้เล็กลง เพื่อให้สามารถดูองค์ประกอบโดยรวมของเอกสาร สามารถทำได้ 2 วิธี ดังนี้ วิธีที่ 1 การย่อและขยายมุมมองจากคำสั่งวิว (View) บนแถบคำสั่ง 1. คลิกเลือกคําสั่งวิว บนแถบ คำสั่ง 2. คลิกเลือกคำสั่งในการย่อและขยายมุมมอง ประกอบด้วยคำสั่งดังนี้ (1) เพิ่มขนาดมุมมอง (Zoom In) ขยายมุมมองหน้าเอกสารเพิ่มขึ้น 1 ระดับ (ปรับการขยายมอง เพิ่มขึ้นอีก 25 เปอร์เซ็นต์) (2) ลดขนาดมุมมอง (Zoom Out) ลดมุมมองหน้าเอกสารลง 1 ระดับ (ปรับการลดมุมมอง เพิ่มขึ้นอีก 25 เปอร์เซ็นต์) (3) หน้าเอกสารเดี่ยวพอดีกับหน้าต่าง (Fit Page in Window) แสดงมุมมองหน้าเอกสารเดี่ยวให้ พอดีกับหน้าต่างโปรแกรม (4) หน้าเอกสารคู่พอดีกับหน้าต่าง (Fit Spread in Window) แสดงมุมมองหน้าเอกสารคู่ให้พอดี กับหน้าต่างโปรแกรม (5) มุมมองขนาดจริง Actual Size แสดงมุมมองเอกสารที่ 100% (6) องค์ประกอบทั้งหมด (Entire Pasteboard) แสดงองค์ประกอบทั้งหมดในงานพิมพ์ วิธี2 การขยายและย่อขนาดมุมมอง โดยใช้เครื่องมือไอคอนรูปแว่นขยาย (Zoran Tool) 1.คลิกเลือกไอคอนแว่นขยาย จากกล่องเครื่องมือ 2. ตัวชี้เมาส์จะเปลี่ยนเป็นรูปแว่นขยายและเครื่องหมายบวก เพื่อขยายหน้าจอครั้งละ 25 เปอร์เซ็นต์ 3. มุมมองบนเอกสารจะถูกปรับขยายให้กว้างเพิ่มขึ้นอีก 25 เปอร์เซ็นต์ 4. การย่อขนาดมุมมอง ทำได้โดย กดคีย์ออลเทอเนท (Alt) บนแป้นพิมพ์ ตัวชี้เมาส์จะเปลี่ยนเป็นรูป แว่นขยายและเครื่องหมายลบ เพื่อลดขนาดมุมมองครั้งละ 25 เปอร์เซ็นต์ 5. มุมมองบนเอกสารจะถูกปรับย่อให้กว้างน้อยลงอีก 25 เปอร์เซ็นต์


สรุปสาระสำคัญ การผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ผู้ผลิตจําเป็นต้องออกแบบงานพิมพ์ก่อนเริ่มสร้างงาน การเลือกใช้โปรแกรมให้ เหมาะสมกับการผลิตสื่อสิ่งพิมพ์มีความสำคัญมาก โปรแกรมอโดบี อินดีไซน์ เป็นโปรแกรมที่เหมาะสําหรับ การผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ จุดเด่นของโปรแกรมนี้คือความสามารถในการจัดหน้าเอกสารได้เป็นอย่างดี ทําให้งาน พิมพ์มีคุณภาพ สวยงาม ดึงดูดใจผู้อ่าน ส่วนประกอบต่าง ๆ ของโปรแกรมอโดบี อินดีไซน์ ซีเอส 6 เป็น เครื่องมือที่จะช่วยให้ผู้ผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ทำงานได้ง่าย สะดวกและรวดเร็ว สามารถผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ได้ เหมาะสม และตรงตามวัตถุประสงค์ในการนำไปใช้งาน


Click to View FlipBook Version