The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ 12 สารประกอบอินทรีย์และการนำไปใช้ประโยชน์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by phummisak.129, 2020-11-14 05:17:20

แผนการจัดการเรียนรู้ 12 สารประกอบอินทรีย์และการนำไปใช้ประโยชน์

แผนการจัดการเรียนรู้ 12 สารประกอบอินทรีย์และการนำไปใช้ประโยชน์

แผนการจัดการการเรียนร้ทู ่ี 12

กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ า เคมีเพม่ิ เตมิ รหสั วชิ า ว33201

ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2563

หนว่ ยการเรยี นรู้ ท่ี12 เคมีอินทรยี ์ เวลาเรียน 40 ชั่วโมง

เรื่อง สารประกอบอนิ ทรียใ์ นชีวติ ประจําวันและการนาํ ไปใชป้ ระโยชน์ เวลาเรยี น 1 ชว่ั โมง

ผสู้ อน นายภูมิศักด์ิ สิงห์ขันธ์ วันท่ี 30 เดือน กนั ยายน พ.ศ. 2563

1. ผลการเรยี นรู้
ผ.1 สืบค้นข้อมูลและนําเสนอตัวอย่างสารประกอบ อินทรีย์ท่ีมีพันธะเด่ียว พันธะคู่ หรือพันธะ

สาม ทพี่ บในชวี ติ ประจําวนั

ผ.3 วิเคราะหโ์ ครงสรา้ ง และระบปุ ระเภท ของสารประกอบอินทรียจ์ ากหมู่ฟงั กช์ ัน
ผ.10 สืบค้นข้อมูล และนําเสนอตัวอย่างการนํา สารประกอบอินทรีย์ไปใช้ประโยชน์ในชีวิต
ประจาํ วนั และอุตสาหกรรม

2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
2.1 ดา้ นความรู้ (K)
1 นักเรียนอธิบายและนาํ เสนอตวั อย่างสารประกอบ อนิ ทรยี ท์ มี่ พี ันธะเดยี่ ว พนั ธะคู่ หรอื

พนั ธะสาม ทีพ่ บในชวี ติ ประจาํ วัน
2. นักเรียนอธิบายและวิเคราะหโ์ ครงสร้าง และระบุประเภท ของสารประกอบอนิ ทรยี ์

จากหมฟู่ งั ก์ชัน

3. นกั เรยี นอธบิ ายสารประกอบอินทรีย์ในชีวติ ประจาํ วนั และการนําไปใชป้ ระโยชน์
2.2 ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ/กระบวนการคดิ (P)

1. ทกั ษะการลงความเหน็ จากข้อมลู และลงขอ้ สรุป

2. ทักษะการวเิ คราะห์จําแนกประเภทของสารประกอบอินทรยี ์ในชีวิตประจาํ วันและการ
นําไปใช้ประโยชน์
2.3 ด้านคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (A)

1. มีวนิ ัย เข้าเรยี นตรงเวลา
2. ใฝเ่ รยี นรู้ ตงั้ ใจเรยี นและต้งั ใจทํากิจกรรม
3. มุ่งม่นั ในการทํางาน ต้งั ใจทํางานทีไ่ ด้รบั มอบหมาย

3. สาระสาคญั
สารประกอบอินทรีย์เป็นสารประกอบของคาร์บอน ส่วนใหญ่พบในธรรมชาติและจากการ

สังเคราะห์ และมีการนําสารประกอบอินทรีย์ไปใช้ประโยชน์อย่าง สารประกอบอินทรยี ์สามารถนําไปใช้

ประโยชน์ได้มากมายในชีวติ ประจําวนั รวมทัง้ นาํ ไปใช้ เป็นสารตัง้ ต้นและตัวทาํ ละลายในอุตสาหกรรมดา้ น
ต่าง ๆ เช่น อุตสาหกรรมเช้ือเพลงิ และพลังงาน อตุ สาหกรรมอาหารและยา อตุ สาหกรรมเกษตร
4. สาระการเรยี นรู้

สารประกอบอินทรีย์เปน็ สารประกอบ มีโครงสร้างหลากหลายและแบ่งได้หลายประเภท และมี
การนําสารประกอบ อินทรีย์ไปใช้ประโยชน์อย่างหลากหลาย สารประกอบอินทรยี ์มีหลายประเภท การ
พจิ ารณา ประเภทของสารประกอบอินทรยี ์อาจใช้หมู่ฟังกช์ นั เป็นเกณฑไ์ ดเ้ ปน็ แอลเคน แอลคนี แอลไคน์

อะโรมาติกไฮโดรคารบ์ อน แอลกอฮอล์ อเี ทอร์ เอมีน แอลดไี ฮด์คีโตน กรดคารบ์ อกซิลิก เอสเทอรเ์ อไมด์
สารประกอบอนิ ทรียส์ ามารถนาํ ไปใชป้ ระโยชน์ ได้มากมายในชวี ิตประจาํ วนั รวมท้ังนําไปใชเ้ ปน็ สารต้งั ตน้
และตัวทําละลายในอตุ สาหกรรม ดา้ นต่างๆเช่น อตุ สาหกรรมเชอื้ เพลงิ พลงั งาน , อตุ สาหกรรมอาหารและ
ยา , อุตสาหกรรมเกษตร

5. การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้
ขัน้ ตอนกระบวนการจัดการเรียนรู้ : การสบื เสาะหาความรู้ (5E)

5.1 ข้ันสรา้ งความสนใจ (Engagement)
1. ครูให้นกั เรยี นทาํ แบบทดสอบก่อนเรยี น
2. สร้างความสนใจตอ่ ผเู้ รยี น โดยครตู ้งั โจทย์คําถามเพื่อนาํ เขา้ สู่บทเรยี น
- สารประกอบอินทรยี ์หรอื สารเคมีในชีวิตประจําวันที่นักเรียนรู้จักพร้อมบอก

การนาํ ไปใช้ประโยชน์ ไดแ้ ก่สารใดบา้ ง ใหน้ ักเรียนยกตัวอย่าง)
(แนวคําตอบ ไดแ้ ก่ CH3-CH2-OH (Ethanol)
- เอทานอลเขม้ ขน้ 70% .ใช้ฆ่าเชอื้ โรค ใช้เปน็ แอลกอฮอล์ลา้ งแผล ใช้ทําสรุ าชนิดต่างๆ

เบยี ร์ ไวน์ เป็นต้น
CH3-OH (Methanol)
- ใช้เปน็ เชือ้ เพลิง ใช้เปน็ ตัวทําละลายในอตุ สหกรรมและทําเจลล้างมอื
CH3COOH (กรดอะซติ กิ ) หรอื นํา้ สม้ สายชู
NaCl (โซเดยี มคลอไรด์) หรอื เกลอื แกง
NaOH (โซเดยี มไฮดรอกไซด์) หรอื โซดาดาไฟ
C12H25C6H4SO3Na (โซเดียมซัลโฟเนตของไฮโดรคาร์บอน) หรือ ผงซักฟอก
C12H22O11 (ซโู ครส) หรือ นํา้ ตาลทรายซโู ครส น้าํ ตาลโมลเลกลุ ค)ู่

5.2 ขั้นสารวจและค้นหา (Exploration)
1. ครูยกตัวอย่างสารประกอบอนิ ทรีย์ในชีวิตประจาํ วันหรือ ท่ีนําไปใช้ประโยชน์ พร้อม

ระบวุ ่าเป็นสารประกอบอินทรยี ์ประเภทใด
- แสดงประเภทและตัวอยา่ งของสารประกอบอินทรยี เ์ มื่อจาํ แนกตามหมฟู่ งั กช์ ่ัน

สารประกอบอินทรีย์ (Organic Compound) หมายถึงสารประกอบที่มีอะตอมของ
คาร์บอนเป็นองค์ประกอบหลัก โดยคําว่าอินทรีย์มาจากคําว่า Organic หมายถึงร่างกาย หรือ
ส่ิงมีชีวิต ดังนั้น สารประกอบอินทรีย์จึงเป็นสารประกอบที่เก่ียวข้องกับส่ิงมีชีวิต ในสมัยก่อน
นักวทิ ยาศาสตรเ์ ช่อื วา่ สารอินทรยี ์ ไดม้ าจากส่งิ มชี ีวิตเท่าน้ัน แต่เมอื่ ฟรดิ ริด วูหเ์ ลอร์ นักเคมีชาว
เยอรมนั ไดส้ งั เคราะหย์ เู รยี ซงึ่ พบในปัสสาวะของส่งิ มชี วี ติ จากการเผาแอมโมเนยี มไซยาเนต
( NH4OCN ) ซึง่ เปน็ สารอนินทรยี ไ์ ด้ ความเชื่อน้นั จึงเปลย่ี นไป

ตัวอยา่ งสารประกอบอนิ ทรยี ์ เชน่
แอลกอฮอล์ (Alcohol)

1.)

-ใช้เปน็ เชอ้ื เพลิง
-ใชท้ ําเจลลา้ งมอื

-ใช้เปน็ ตัวทําละลายในอตุ สาหกรรม

2.)
-ใช้ทาํ สรุ าชนดิ ต่างๆ เบียร์ ไวน์ เป็นต้น
-ใช้ฆา่ เช้อื โรคได้ สายละลายเอทานอลเขม้ ข้น

ฟนี อล (phenol)

- สารยจู ีนอล (Euqenol) พบในกานพลู
เป็นนา้ํ มันหอมระเหย

-ผลิตสมุนไพรใหก้ ลิ่นหอม

อเี ทอร์ (Ether)

-เป็นยาสลบ ซึ่งนิยมเรียกสารน้ีว่าอีเทอร์ โดยสารนจี้ ะ
อ อ ก ฤ ท ธ์ิ ก ด ป ร ะ ส า ท ส่ ว น ก ล า ง จ น ทํ า ใ ห้ ห ม ด ส ติ

(CH3CH2OCH2CH3)

กรดคาร์บอกซิลกิ (Carboxylic acid)

(Formic acid)

- พบในมด , แมลง
- ใช้เป็นสารที่ช่วยใหเ้ น้อื ยางในนํ้ายางดิบรวมตวั กนั เปน็ ก้อน

(Acetic acid)
- กรดนาํ้ สม้ หรือ กรด อะซติ ิก
- ไดจ้ ากการหมักนาํ้ ตาล , ผลไม้ หรอื จากการหมักเอทานอล

- ใช้ปรงุ แต่งอาหาร

2. ครูให้ความรู้เก่ียวกับประโยชน์ของสารประกอบอินทรีย์อื่น ๆ ที่น่าสนใจ ตาม
รายละเอียดในหนงั สือเรียน

ตวั อย่างสารประกอบอนิ ทรยี ์ เชน่
สเตอรอยด์ (steroid)
เป็นสารประกอบอินทรีย์ท่ีมีโครงสร้างพ้ืนฐานวงคาร์บอนหกเหลี่ยมและห้า

เหล่ยี มเชื่อมตอ่ กนั

คอเลสเตอรอล วติ ามนิ ดี 3

กรดซาลิซิลกิ (salicylic acid)
สามารถนําไปใช้เป็นสารตั้งต้นในการสังเคราะห์กรดแอซีติก และ ซาลิซิลิก

(แอสไพริน) ใช้เป็นยาบรรเทาอาการปวด ลดไข้ และแก้อักเสบการสงั เคราะห์แอสไพรินเปน็ การ
ทาํ ปฏกิ ริ ยิ าเอสเทอรฟิ เิ คชัน

ไบโอดีเซล (biodiesel)
เปน็ พลังงานทดแทน เพ่ือลดการพง่ึ พาพลงั งานจากแหล่งปิโตรเลยี ม ไบโอดเี ซล

เป็นสารประกอบเอสเทอรท์ ่ได้จากปฏิกิรยิ าทรานส์เอสเทอริฟิเคชันของไขมันกบั แอลกอฮอล์เช่น เมทา
นอล ดังสมการเคมี

พาราควอต (paraquat) สตวี โิ อไซด์ (Stevioside)

3. ครูแจกใบกิจกรรมท่1ี เรอ่ื ง สารประกอบอินทรีย์ในชวี ิตประจาํ วนั และการนําไปใช้
ประโยชน์ ให้นกั เรยี นทํา

4. นักเรยี นทาํ ใบกจิ กรรมท่ี1 โดยใหน้ กั เรยี นตอบคาํ ถามในใบกจิ กรรมใหเ้ รียบรอ้ ยแล้ว

5.3 ขั้นอธิบายและลงขอ้ สรปุ (Explanation)
1. ครตู รวจความเรยี บรอ้ ยว่านักเรียนทกุ คนทาํ ใบกิจกรรมท่ี1 เสรจ็ เรียบรอ้ ย

- 2. ครูและนักเรียนร่วมกันเฉลยใบกิจกรรมท่ี1 เรื่อง สารประกอบอินทรีย์ใน

ชวี ติ ประจําวนั และการนําไปใชป้ ระโยชน์
3. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันสรปุ เนอ้ื หาท้ังหมดที่เรียนในช่ัวโมงนี้
- สารประกอบอินทรยี น์ ้ันมีมากมายหลายชนิดสารประกอบอินทรีย์ทัง้ ท่ีได้จาก

ธรรมชาติ และสังเคราะห์อาจเปน็ พษิ และเป็นอันตราย ได้ ดังน้ันจึงควรมกี ารทดสอบความเป็น
พษิ หรอื ตรวจสอบขอ้ มูล เพือ่ การนาํ ไปใช้อยา่ ง เหมาะสม และการจําแนกประเภทสารประกอบ
อินทรีย์น้ันสามารถแบ่งตามหมู่ฟังก์ชันของสาร ซึ่งหมู่ฟังก์ชันจะเป็นตัวบอกสมบัติเฉพาะใน

โมเลกลุ ของสารประกอบอินทรีย์ สมบัติการเกิดปฏิกิริยาของสารประกอบอินทรยี จ์ ะเปน็ ไปตาม
หมฟู่ งั กช์ นั่ ท่ีเปน็ องค์ประกอบของสารเหลา่ นั้น

- ประโยชน์ของสารประกอบอินทรีย์ คือเป็นโครงสร้างของส่ิงมีชีวิตท้ังหลาย

รวมทั้งยังมีระบบการทํางานที่มหัศจรรย์ทม่ี ีผลให้สิ่งมีชีวิตดําเนินชีวิตอยู่โดยปกติสขุ ได้ มนุษย์
ดําเนินชีวิตได้โดยอาศัยปัจจัยส่ีคือ อาหาร ที่อยู่อาศัย เครื่องนุ่งห่ม และยารักษาโรค เราคง

ปฏิเสธไม่ได้ว่าปัจจัยส่ีมาจากสารอินทรีย์ อาหารจากพืชและสัตว์ ที่อยู่อาศัยจากพืช
เครื่องนุ่งห่มจากทั้งพืชและสัตว์ และยารักษาโรค มีการใช้ในชีวิตประจําวันและการนําไปใช้
ประโยชน์ได้มากมาย
5.4 ข้ันขยายความรู้ (Elaboration)

- ปฏิกิริยาทรานส์เอสเทอริฟิเคชันเหมือนและแตกต่างจากปฏกิ ิรยิ าเอสเทอรฟิ ิ
เคชัน
อยา่ งไร

ความเหมือน
1. ใชแ้ อลกอฮอล์เป็นสารตง้ั ตน้
2. ไดผ้ ลติ ภณั ฑเ์ ปน็ เอสเทอร์
3. ใชค้ วามร้อนและตวั เรง่ ปฏกิ ิรยิ า
4. เปน็ ปฏกิ ิรยิ าควบแนน่

ความแตกตา่ ง
1. ใชเ้ อสเทอรเ์ ปน็ สารตงั้ ตน้ แทนกรดคารบ์ อกซิลิก
2. ใหผ้ ลติ ภัณฑ์พลอยได้เปน็ แอลกอฮอล์ (เชน่ กลีเซอรอล) แทนนาํ้

- ครูให้นักเรียนช่วยกันตอบโครงสร้างสารประกอบอินทรีย์ละบอกประโยชน์
แลว้ ข้อควรระวงั บนกระดาน ดังนี้
ตัวอยา่ งสารประกอบอนิ ทรีย์

- เมทิลเบนโซเอต- โครงสร้าง

- ประโยชน์
เป็นสารใหก้ ล่ินหอม ใชเ้ ติมแตง่ อาหารหรอื ทํา นาํ้ หอม

- อันตรายและข้อควรระวงั
เมทิลเบนโซเอตเป็นสารท่ีระคายเคอื งตอ่ ตา ระบบทางเดนิ หายใจ และผิวหนงั

ให้เข้าตา ไม่ควรสัมผสั สดู ดม หรือบรโิ ภคสารทมี่ ีความเขม้ ข้นสงู
- มอนอโซเดียมกลตู าเมต

- โครงสรา้ ง

- ประโยชน์
เปน็ สารปรุงแตง่ รสชาตอิ าหาร ทํา ใหอ้ าหารมีรสชาติโดยรวมดีขึน้

- อันตรายและขอ้ ควรระวงั
หากรับประทานในปรมิ าณท่ีมากเกินไป จะมีผลต่อระบบการรกั ษาสมดุลของ

รา่ งกายใน ระยะยาว อาจทาํ ใหเ้ ป็นโรคไต โรคความดนั และโรคอน่ื ๆ ดงั นั้นจึงไมค่ วร
รบั ประทาน ในปการแบง่ ประเภทของสารประกอบอนิ ทรยี ์นน้ั นอกจากจะแบ่งตามชนิด
ของหมฟู่ ังก์ชัน่ แลว้ ยังสามารถแบ่งกลุ่มไดต้ ามชนิดของธาตุองค์ประกอบ ได้แก่

- สารประกอบไฮโดรคารบ์ อน ไดแ้ กส่ ารทีป่ ระกอบไปด้วยอะตอมไฮโดรเจนและ
คาร์บอนเท่านนั้

สารอนิ ทรีย์ทีม่ ีออกซิเจนเปน็ องค์ประกอบ ได้แก่ สารจําพวกแอลกอฮอล์ แอลดี
ไฮด์ กรดอนิ ทรยี ์ อเี ทอร์ เอสเทอร์ และคีโตน เปน็ ต้น

สารอินทรีย์ทม่ี ีไนโตรเจนเป็นองค์ประกอบ ได้แก่ เอมีน
สารอนิ ทรยี ท์ ่ีมีท้งั ออกซิเจนและไนโตรเจนเปน็ องค์ประกอบ ได้แก่ เอไมด์รมิ าณ
ทม่ี ากเกินไป
เพนนซิ ลิ ิน
- โครงสรา้ ง

- ประโยชน์
เปน็ ยาปฏิชีวนะ นาํ มาใชร้ ักษาอาการติดเชอ้ื ต่าง ๆ เชน่ เชือ้ แบคทเี รยี

- อนั ตรายและขอ้ ควรระวัง

อาจเกิดการแพ้ซ่ึงอาจเกิดผ่ืนหรือมีอาการอื่นที่รุนแรงอย่างเฉียบพลัน เช่น
คลื่นไส้ อาเจียน ดังนั้นผู้ท่ีต้องการรับประทานหรือใช้ยาเพนนิซิลินต้องปรึกษาแพทย์
หรือเภสัชกร รวมทั้ง ศกึ ษาข้อบง่ ชใี้ นการใช้ยา

ไคโตซาน
- โครงสร้าง

- ประโยชน์
เป็นสารกระตุ้นการเจริญเติบโตและเพ่ิมผลผลิตพืช สามารถนํา ไปใช้ในการ

ป้องกันโรคที่เกดิ จากจุลินทรีย์ และเชือ้ ราบางชนิด
- อันตรายและขอ้ ควรระวัง

ไคโตซานได้มาจากเปลอื กกุ้ง กระดองปู หรือจากสตั วอ์ น่ื ๆ ซง่ึ ไคโตซานที่ได้มา
อาจมีการปนเป้ือนจากส่งิ แวดล้อม เชน่ จากแหลง่ น้าํ ทมี่ กี ารปนเป้ือนของโลหะหนัก
สารเคมี หรือยาปฏิชีวนะ ดังน้นั การนาํ ไคโตซานไปใช้ต้องพิจารณาความจํา เป็นและ
ความ เหมาะสมกบั พืชแต่ละชนิด
5.5 ขนั้ ประเมิน (Evaluation)
1. ครูให้นักเรียนทําแบบทดสอบเร่ือง สารประกอบอินทรีย์ในชีวิตประจําวันและการ
นาํ ไปใช้ประโยชน์หลังเรยี น
2. การตอบคาํ ถามและแสดงความคิดเหน็ ในชัน้ เรยี น
3 นักเรียนแต่ละคนพิจารณาเรื่องที่เรียนในคาบว่ามีเร่ืองใดที่ยังไม่เข้าใจหรือยังมีข้อ
สงสยั

- ถ้านักเรียนมขี อ้ สงสยั ครูชว่ ยอธบิ ายเพ่มิ เติมใหน้ ักเรียนเขา้ ใจ

6. การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้

6.1 วธิ กี ารวดั และประเมินผล

การประเมนิ เครอื่ งมอื ทใี่ ชป้ ระเมิน วิธวี ัด เกณฑ์การประเมนิ
- ตรวจใบกจิ กรรมที่1 เรือ่ ง ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 60
1.ด้านความรู้ (K) - ใบกิจกรรมที1่ เร่ือง สารประกอบอินทรีย์ใน
ชวี ิตประจาํ วนั และการ ระดับคุณภาพ 2ผ่าน
2 . ด้ า น ทั ก ษ ะ / สารประกอบอนิ ทรียใ์ น นาํ ไปใช้ประโยชน์ เกณฑ์
- ตรวจแบบทดสอบกอ่ น
ก ร ะ บ ว น ก า ร / ชวี ิตประจาํ วนั และการ เรียน/หลงั เรยี น
- แบบสังเกตพฤติกรรม
กระบวนการคดิ (P) นําไปใช้ประโยชน์ รายบุคคล

- แบบทดสอบกอ่ นเรียน/หลงั - ตรวจสมดุ จดบันทกึ ผู้เรยี น
- แบบสงั เกตพฤติกรรม
เรยี น รายบคุ คล

- สงั เกตจากการตอบคาํ ถาม

และการแสดงความคิดเหน็ ใน

ช้ันเรียน

3.ด้านคุณลักษณะอัน - สมุดจดบนั ทกึ ผเู้ รียน

พงึ ประสงค์(A) - สงั เกตพฤติกรรม การให้

ความรว่ มมือในการแสดง

ความคิดเห็นในช้นั เรียน

6.2 เกณฑ์การวัดและประเมนิ ผลกิจกรรม
- ใบกิจกรรมท่ี1 เร่ือง สารประกอบอินทรยี ์ในชีวิตประจาํ วันและการนาํ ไปใช้ประโยชน์

และ แบบทดสอบก่อน/หลงั เรียน
7. สอื่ อปุ กรณ์ และแหลง่ การเรยี น

1. กระดานไวท์บอร์ด

2. ใบกิจกรรมท่ี1 และ แบบทดสอบก่อน/หลังเรียน เรื่อง สารประกอบอินทรีย์ในชีวิตประจาํ วนั
และการนาํ ไปใช้ประโยชน์ และแบบทดสอบกอ่ น/หลงั เรยี น

3. หนงั สือเรยี นรายวิชาเคมี ม.6 เล่ม 5

4. แหล่งค้นหาอินเตอรเ์ น็ตต่างๆ

8. บนั ทกึ ผลหลังการจดั การเรยี นรู้
8.1 ดา้ นความรู้

.......................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................

8.2 ด้านทักษะ กระบวนการ
.......................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................

8.3 ดา้ นคุณลักษณะอนั พึงประสงค์
.......................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................

9. ปัญหา ขอ้ เสนอแนะการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ หรอื สิ่งท่จี ะตอ้ งปรบั ปรงุ การวางแผน การจดั การเรียนรู้
ครง้ั ตอ่ ไป
.......................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................... ..
......................................................................................................................................................................
10. ขอ้ เสนอแนะ ความคิดเหน็ ของครพู ี่เล้ยี ง ครูทไี่ ดร้ บั มอบหมายจากทางโรงเรยี น
.......................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื .....................................................ผูส้ อน ลงชื่อ....................................................ครพู ่เี ล้ียง
(..............................................................) (........................................................................)
วันที.่ .................................................
วนั ท่ี......................................................

แบบสกั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล

คาชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด √ ลงใน

ชอ่ งวา่ งท่ตี รงกับช่องคะแนน

เลข ชื่อ-สกลุ มุ่งม่นั ใน มวี ินยั ใฝเ่ รียนรู้ มีความ รวม15
ที่ กาทางาน รบั ผดิ ชอบ คะแนน

32132132132 1

1 นายปาลพล พ่อครวงค์

2 นางสาวรัตน์นดิ า ราชราชา

3 นายตะวนั เชษฐาเหนอื

4 นายณรงคฤ์ ทธิ์ ไพจันทร์

5 นายวีระชาติ ญาตโิ สม

6 นางสาวพชิ ญาภา ศรอี าจ

7 นายพรี ะพฒั น์ คาํ สวสั ดิ์

8 นายสรุ นันต์ อินทนพ

9 นางสาวจุฑาภทั ร แก้วทอง

10 นางสาวญาณิศา บญุ เฮา้

11 นางสาวพกาวรรณ กุดวงศ์
แกว้

12 นางสาวกรกนก คาํ ชมพู

13 นางสาวชญาดา พรหมสาขา
ณ สกลนคร

14 นางสาวมณีจนั ทร์ ชัยะโสตถิ

15 นางสาวอลิษษ เหลา่ ทับ

16 นายสปิ ปกร แสงวงค์

17 นางสาวฐิตยิ า กองโพธช์ิ ยั

18 นายนฤพล วงษแ์ สนอาจ

19 นายธราเทพ ดากาวงศ์

20 นายพรี ภทั ร์ ฮมภาราช

21 นายภูมินทร์ จนั ทะรงุ ศรี

22 นางสาวฐานิดา คนล่ํา

23 นางสาวเนตรดาว จนั ทรังษี

24 นางสาวภสั ฉณี สอนระวตั ร

25 นางาสวรชั ฎาพร ไขประภาย

26 นางสาวอไุ รภรณ์ สนี วนจนั ทร์

27 นางสาวปภัสสร พลนารี

28 นางสาวฌาณิกา อินปากดี ลงชือ่ ........................................................ผู้ประเมิน
29 นางสาวอรศิ รา ภูมี
(..................................................)
เกณฑก์ ารใช้คะแนน(15) วันที.่ ................./............../...............
ปฏิบัติแสดงพฤติกรรมอยา่ งสม่ําเสมอ
ปฏบิ ตั ิแสดงพฤติกรรมบอ่ ยคร้ัง ให้ 3 คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพ
ปฏบิ ตั ิแสดงพฤติกรรมบางครัง้ ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
12-15 ดี
8-11 พอใช้
ตา่ํ กว่า8 ปรบั ปรุง

ใบกจิ กรรมท่1ี

สารประกอบอินทรียใ์ นชีวติ ประจําวนั และการนําไปใช้ประโยชน์

ตอนที่1 คาช้ีแจง เตมิ คาํ ลงในช่องวา่ งใหถ้ ูกต้อง

สตู รโมเลกลุ ชอ่ื สาร

1. CH3COOH
2. C12H22O11
3.NaOH

4. C12H25C6H4SO3Na
5. KMnO4

ตอนที่2 คาชี้แจง พจิ ารณาข้อความตอ่ ไปน้ถี า้ ถูกตอ้ งใหใ้ ส่เครอื่ งหมาย √ ถ้าผิดให้ใส่เคร่ืองหมายผดิ ×

_____1. Formic acid พบในมด , แมลง
_____2. Methanol สามารถเปน็ เชื้อเพลิง
_____3. Ethanol เมื่อรับประทานหรอื สูดดมอาจทําให้อนั ตรายถงึ ชีวติ ได้

_____4. สรุ า เบียร์ ทาํ มาจากกรดเอซติ ิก
_____5. NaHCO3 (โซเดยี มไฮโดรเจนคาร์บอเนต) สามารถดบั ไฟปา่ ได้
_____6. CaCO3 (หนิ ปนู ) เมื่อใส่ลงในดินจะทําให้ดินเปร้ยี ว

_____7. KMnO4 (โพแทสเซียมเปอร์แมงกาเนต) ใชล้ า้ งผกั ได้ หรอื เชือ้ โรคจลุ นิ ทรยี ต์ า่ งๆได้
_____8. นํ้าตาลทราย คอื นํา้ ตาลกลูโครส เปน็ นาํ้ ตาลโมเลกลุ คู่
_____9. กรดอะซติ กิ มีคุณสมบัติ เปน็ เบส เพราะมีรสเปรีย้ ว

_____10. เอสเทอร์ ท่ีพบในธรรมชาติ เช่น นํา้ หอมดอกไม้

เฉลยใบกจิ กรรมที1่

สารประกอบอินทรีย์ในชีวติ ประจําวนั และการนําไปใช้ประโยชน์

ตอนที่1 คาช้ีแจง เตมิ คําลงในชอ่ งวา่ งใหถ้ กู ตอ้ ง

สูตรโมเลกลุ ชือ่ สาร
1. CH3COOH
2. C12H22O11 กรดอะซติ ิก หรือ น้าํ ส้มสายชู
3.NaOH ซูโครส หรอื นาํ้ ตาลทราย
4. C12H25C6H4SO3Na โซเดียมไฮดรอกไซท์ หรือ โซดาไฟ

5. KMnO4 โซเดียมซัลโฟเนตของไฮโดรคาร์บอน หรือ
ผงซกั ฟอก

โพแทสเซียมเปอรแ์ มงกาเนต หรือ ด่างทับทิม

ตอนท่ี2 คาชแ้ี จง พิจารณาข้อความตอ่ ไปนี้ถา้ ถกู ตอ้ งใหใ้ สเ่ ครอื่ งหมาย √ ถ้าผดิ ใหใ้ สเ่ ครอื่ งหมายผดิ ×

__√__1. Formic acid พบในมด , แมลง
__√___2. Methanol สามารถเป็นเชอื้ เพลิง

__×___3. Ethanol เมือ่ รบั ประทานหรือสดู ดมอาจทําใหอ้ ันตรายถึงชวี ิตได้

เพราะ Ethanol สามารถรบั ประทานไดเ้ ม่อื สูดดมอาจไม่ทําใหอ้ ันตรายถึงชีวิต

__×___4. สุรา , เบียร์ ทํามาจากกรดอะซติ ิก

เพราะ สรุ า , เบียร์ ทาํ มาจาก Ethanol ส่วนกรดอะซติ ิก คือ นํ้าส้มสายชู

__√___5. NaHCO3 (โซเดียมไฮโดรเจนคารบ์ อเนต) สามารถดับไฟป่าได้
เพราะ NaHCO3 โดนความรอ้ น CO2 จะเข้าไปแทนทท่ี ําใหไ้ ฟปา่ ดับ เมื่อไมม่ ี O แลว้ ไฟปา่ จึงดับลง

__×___6. CaCO3 (หนิ ปูน) เมื่อใสล่ งในดินจะทาํ ให้ดินเปรี้ยว

เพราะ หินปูนมคี ุณสมบตั เิ ป็นกรด เม่อื ใสล่ งในดินจะทาํ ให้แก้ความเป็นกรดของดิน หรอื ดินเปรย้ี วได้
__√___7. KMnO4 (โพแทสเซยี มเปอร์แมงกาเนต) ใช้ลา้ งผักได้ หรอื เช้อื โรคจุลินทรยี ต์ ่างๆได้

__×___8. น้ําตาลทราย คือ น้าํ ตาลกลูโครส เปน็ นาํ้ ตาลโมเลกุลคู่

เพราะ นํ้าตาลทรายท่เี รากินทุกวันคอื นา้ํ ตาลซโู ครส เป็นน้ําตาลโมเลกลุ คู่ ที่ประกอบด้วยนํ้าตาลโมเลกลุ
เดยี่ ว2ชนิดคอื 1.นาํ้ ตาลกลูโครส และ 2.น้ําตาลฟรกั โทส ส่วน นาํ้ ตาลกลูโครสจะอย่ใู นคารโ์ บไฮเดรต เปน็
น้ําตาลโมเลกุลเดี่ยว

__×___9. กรดอะซิตกิ มีคุณสมบตั ิ เปน็ เบส เพราะมรี สเปร้ียว

เพราะ กรดอะซิติก มีคณุ สมบัติ เป็นกรด เพราะมรี สเปรย้ี ว
__√___10. เอสเทอร์ ที่พบในธรรมชาติ เชน่ นาํ้ หอมดอกไม้

แบบทดสอบกอ่ นเรยี น
เรอื่ ง สารประกอบอนิ ทรยี ใ์ นชีวิตประจําวนั และการนาํ ไปใชป้ ระโยชน์

คาชี้แจง แบบทดสอบต่อไปน้ีเป็นแบบเลือกตอบชนิด4 ตัวเลือก มีจํานวน10ข้อ ให้นักเรียน
เลือกตัวเลอื กทถ่ี กู ที่สุดเพียงตัวเลือกเดยี ว

1. ขอ้ ใดคือประโยนช์ของ เมทานอล (Methanol)
ก. ใชผลติ สมนุ ไพรใหห้ อม
ข. ใช้เปน็ เพลิง
ค. ใช้เปน็ สารทํายาสลบ
ง. ใช้เป็นวตั ถดุ ิบในการผลติ พลาสติกบางชนิด

2. สารประกอบอนิ ทรีย์ชนิดใด สามารถรับประทานได้แลว้ ใช้ผลติ สรุ าชนิดต่างๆ
ก. เอทานอล (Ethanol)
ข. กรดฟอร์มิก (Formic acid)
ค. กรดอะซติ ิก (Acetic acid)
ง. อะซติ ามิโนเฟน (Acetaminophen)

3. แอลกอฮลส์ ําหรบั ล้างแผลต้องทีม่ ปี ริมาณแอลกอฮอล์เอทานอลผสมอยู่กเ่ี ปอร์เซ็น
ก. 20%
ข. 50%
ค. 70%
ง. 100%

4.
โครงสรา้ งนเี้ ป็นสารประกอบอนิ ทรยี ์ชนดิ ใด

ก. นโิ คติน (Nicotine)
ข. อะซิโตน (acetone)

ค. ยเู รีย (Urea)
ง. ยูจนี อล (Eugenol)
5. จากข้อ4 นาํ ไปใช้ประโยชน์ไดอ้ ย่างไรบ้าง
ก. ใชท้ าํ ยา , สยี อ้ มผม
ข .ใชท้ ําน้ํามนั หอมระเหย ผลติ สมนุ ไพรใหม้ กี ลิ่นหอม
ค. ใชเ้ ป็นสารตง้ั ต้นในการผลิตสาร เชน่ กรดแอซฺติก
ง. ใชถ้ นอมอาหารไมใ่ ห้บดู เรว็ หรือหมดอายเุ รว็
6.

โครงสร้างนี้สามารถพบในไหน

ก. พบในมด , แมลง
ข. พบในการหมักน้าํ ตาล
ค. พบในกานพลู
ง. พบในนํา้ มันระกํา
7. โครงสร้างข้อ6 นํามาใชป้ ระโยชนอ์ ะไรไดบ้ า้ ง
ก. ใช้ผลิตสีทาบ้าน , สีย้อมผา้
ข. ใชเ้ ปน็ สารทชี่ ว่ ยให้เน้ือยางในนาํ้ ยางดบิ รวมตัวกนั เป็นกอ้ น
ค. ใช้ทํานํา้ ยาลา้ งเล็บ
ง. ใช้เปน็ ยาบรรเทาอาการปวดเม่อื ยกล้ามเนื้อ
8.

โครงสร้างเอมีนน้ีมีชื่อเรียกว่าอะไร และใช้ประโยชน์
อยา่ งไร
ก. แอมเฟตาลนี ใชเ้ ปน็ สว่ นผสมในยาอี , ยาบ้า , ยาไอซ์
ข. เฮกสะเมทเทอร์ลีน ไดเอมีน ใช้ทําเส้นใยสังเคราะห์ เช่น ไนล่อน

ค. โนโคตนิ เป็นสารเสพติด ใช้ทําบุรี่ยาเส้น

ง. ถูกทง้ั ขอ้ ก. และ ค

9. โครงสรา้ งสารประกอบอินทรีย์ต่อไปนี้ ข้อใดเปน็ โครงสรา้ งสเตอรอย (steroid)

(ใชต้ อบ ขอ้ 9-10)

1 . 2. 3. 4.

ก. 1 ข. 2

ค. 1 , 2 ง. 3

10. โครงสรา้ งใดเปน็ กรดซาลซิ ิลกิ

ก. 2 , 3 ค. 1 , 3

ข. 3 , 4 ง. 4

แบบทดสอบหลังเรยี น
เรอ่ื ง สารประกอบอนิ ทรยี ์ในชีวิตประจําวันและการนาํ ไปใชป้ ระโยชน์

คาช้ีแจง แบบทดสอบต่อไปน้ีเป็นแบบเลือกตอบชนิด4 ตัวเลือก มีจํานวน10ข้อ ให้นักเรียน
เลอื กตวั เลือกท่ีถกู ท่ีสุดเพยี งตวั เลือกเดียว

1. ข้อใดคอื ประโยนชข์ อง เมทานอล (Methanol)
ก. ใชผลิตสมนุ ไพรใหห้ อม
ข. ใชเ้ ป็นสารทาํ ยาสลบ
ค. ใช้เป็นเพลงิ
ง. ใชเ้ ป็นวัตถุดิบในการผลติ พลาสติกบางชนดิ

2. สารประกอบอนิ ทรยี ์ชนดิ ใด สามารถรบั ประทานได้แล้วใช้ผลิตสรุ าชนิดตา่ งๆ
ก. อะซติ ามโิ นเฟน (Acetaminophen)
ข. กรดฟอร์มกิ (Formic acid)
ค. กรดอะซติ ิก (Acetic acid)
ง. เอทานอล (Ethanol)

3. แอลกอฮลส์ าํ หรับล้างแผลต้องทม่ี ปี ริมาณแอลกอฮอล์เอทานอลผสมอยู่กเ่ี ปอร์เซน็
ก. 70%
ข. 50%
ค. 100%
ง. 20%

4.
โครงสร้างน้ีเปน็ สารประกอบอินทรีย์ชนิดใด

ก. นโิ คตนิ (Nicotine)
ข. ยูจนี อล (Eugenol)

ค. ยูเรยี (Urea)
ง. อะซโิ ตน (acetone)
5. จากขอ้ 4 นําไปใช้ประโยชน์ไดอ้ ย่างไรบา้ ง
ก. ใช้ทําน้าํ มันหอมระเหย ผลติ สมนุ ไพรใหม้ ีกล่ินหอมใ
ข .ช้ทาํ ยา , สีย้อมผม
ค. ใชเ้ ป็นสารตัง้ ตน้ ในการผลิตสาร เชน่ กรดแอซตฺ ิก
ง. ใชถ้ นอมอาหารไม่ใหบ้ ูดเร็วหรือหมดอายุเร็ว
6.

โครงสรา้ งนส้ี ามารถพบในไหน

ก. พบในนํ้ามนั ระกาํ
ข. พบในการหมักนํ้าตาล
ค. พบในกานพลู
ง. พบในมด , แมลง
7. โครงสรา้ งขอ้ 6 นํามาใช้ประโยชน์อะไรได้บา้ ง
ก. ใช้ผลติ สีทาบา้ น , สีย้อมผ้า
ข. ใช้ทํานา้ํ ยาล้างเล็บ
ค. ใชเ้ ปน็ สารทีช่ ว่ ยให้เน้ือยางในนา้ํ ยางดิบรวมตวั กันเป็นก้อน
ง. ใชเ้ ปน็ ยาบรรเทาอาการปวดเมื่อยกลา้ มเนื้อ
8.

โครงสร้างเอมีนน้ีมีช่ือเรียกว่าอะไร และใช้ประโยชน์
อยา่ งไร
ก. เฮกสะเมทเทอร์ลีน ไดเอมนี ใช้ทําเสน้ ใยสังเคราะห์ เช่น ไนลอ่ น
ข. แอมเฟตาลีน ใช้เป็นสว่ นผสมในยาอี , ยาบ้า , ยาไอซ์

ค. โนโคติน เป็นสารเสพตดิ ใช้ทาํ บรุ ่ยี าเสน้

ง. ถกู ทั้งข้อ ก. และ ค

9. โครงสรา้ งสารประกอบอนิ ทรยี ์ตอ่ ไปน้ี ขอ้ ใดเป็นโครงสรา้ งสเตอรอย (steroid)

(ใช้ตอบ ขอ้ 9-10)

1 . 2. 3. 4.

ก. 1 , 2 ข. 2
ค. 1 ง. 3
10. โครงสร้างใดเป็นกรดซาลซิ ิลกิ
ก. 2 , 3 ค. 4
ข. 3 , 4 ง. 1 , 3

เฉลยแบบทดสอบ
เรือ่ ง สารประกอบอินทรียใ์ นชีวิตประจําวนั และการนําไปใช้ประโยชน์

คาช้ีแจง แบบทดสอบต่อไปน้ีเป็นแบบเลือกตอบชนิด4 ตัวเลือก มีจํานวน10ข้อ ให้นักเรียน
เลอื กตวั เลอื กทีถ่ ูกท่สี ุดเพียงตัวเลือกเดียว

1. ขอ้ ใดคือประโยนช์ของ เมทานอล (Methanol)
ก. ใชผลติ สมุนไพรให้หอม
ข. ใชเ้ ปน็ เพลิง
ค. ใชเ้ ป็นสารทาํ ยาสลบ
ง. ใช้เป็นวัตถดุ ิบในการผลิตพลาสตกิ บางชนดิ

2. สารประกอบอินทรยี ์ชนดิ ใด สามารถรบั ประทานไดแ้ ล้วใช้ผลติ สุราชนิดตา่ งๆ
ก. เอทานอล (Ethanol)
ข. กรดฟอร์มกิ (Formic acid)
ค. กรดอะซติ ิก (Acetic acid)
ง. อะซิตามโิ นเฟน (Acetaminophen)

3. แอลกอฮลส์ ําหรบั ล้างแผลต้องที่มปี ริมาณแอลกอฮอล์เอทานอลผสมอยกู่ ่ีเปอรเ์ ซ็น
ก. 20%
ข. 50%
ค. 70%
ง. 100%

4.
โครงสร้างนเี้ ป็นสารประกอบอนิ ทรีย์ชนดิ ใด

ก. นโิ คติน (Nicotine)
ข. อะซิโตน (acetone)

ค. ยูเรยี (Urea)
ง. ยูจนี อล (Eugenol)
5. จากข้อ4 นําไปใช้ประโยชน์ไดอ้ ย่างไรบ้าง
ก. ใช้ทํายา , สยี อ้ มผม
ข .ใช้ทาํ นํา้ มันหอมระเหย ผลิตสมุนไพรใหม้ ีกล่นิ หอม
ค. ใช้เปน็ สารตง้ั ต้นในการผลิตสาร เช่น กรดแอซตฺ กิ
ง. ใช้ถนอมอาหารไมใ่ ห้บดู เรว็ หรือหมดอายเุ ร็ว
6.

โครงสร้างน้สี ามารถพบในไหน

ก. พบในมด , แมลง
ข. พบในการหมักน้าํ ตาล
ค. พบในกานพลู
ง. พบในนาํ้ มันระกํา
7. โครงสร้างข้อ6 นํามาใชป้ ระโยชน์อะไรไดบ้ า้ ง
ก. ใชผ้ ลิตสที าบ้าน , สียอ้ มผ้า
ข. ใช้เปน็ สารทชี่ ว่ ยให้เนื้อยางในนา้ํ ยางดิบรวมตวั กนั เป็นกอ้ น
ค. ใช้ทํานํ้ายาลา้ งเล็บ
ง. ใช้เป็นยาบรรเทาอาการปวดเมอื่ ยกลา้ มเนอื้
8.

โครงสร้างเอมีนน้ีมีชื่อเรียกว่าอะไร และใช้ประโยชน์
อย่างไร
ก. แอมเฟตาลนี ใชเ้ ปน็ ส่วนผสมในยาอี , ยาบ้า , ยาไอซ์
ข. เฮกสะเมทเทอร์ลีน ไดเอมีน ใช้ทําเส้นใยสังเคราะห์ เช่น ไนลอ่ น

ค. โนโคตนิ เป็นสารเสพติด ใช้ทําบุรี่ยาเส้น

ง. ถกู ทงั้ ขอ้ ก. และ ค

9. โครงสรา้ งสารประกอบอินทรีย์ต่อไปนี้ ข้อใดเปน็ โครงสรา้ งสเตอรอย (steroid)

(ใชต้ อบ ขอ้ 9-10)

1 . 2. 3. 4.

ก. 1 ข. 2

ค. 1 , 2 ง. 3

10. โครงสรา้ งใดเปน็ กรดซาลซิ ิลกิ

ก. 2 , 3 ค. 1 , 3

ข. 3 , 4 ง. 4


Click to View FlipBook Version