The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ประวัติและปฏิปทา พระพุทธพจนวราภรณ์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Pakpoom, 2022-07-05 23:39:47

ประวัติและปฏิปทา พระพุทธพจนวราภรณ์

ประวัติและปฏิปทา พระพุทธพจนวราภรณ์

ประวัติและปฏิปทา พระพทุ ธพจนวราภรณ์ (หลวงปู่จันทร์ กสุ โล)

วดั เจดีย์หลวงวรวหิ าร ตาบลพระสิงห์ อาเภอเมอื งเชยี งใหม่
จงั หวัดเชียงใหม่

ถิ่นกาเนดิ

ณ เรอื นไม้อนั ร่มร่ืนริมนำ้ ปิ ง บ้ำนทำ่ กอง้วิ ตำบลปำกบ่อง อำเภอป่ ำ
ซำง จังหวัดลำพนู ปี พ.ศ.๒๔๖๐ นำยนำริน และนำงตะ๊ แสงทอง ผู้ภรรยำ
ได้มีโอกำสรับขวญั ทำยำทเพศชำยคนท่ี ๖ ท่ำมกลำงควำมปิ ติยนิ ดขี องพ่ีชำย
และพ่ีสำวท้งั ๕ คน ในวนั จนั ทร์ ข้ึน ๑๒ ค่ำ เดือน ๑ ปี มะเสง็ ตรงกบั วนั ท่ี
๒๖ พฤศจิกำยน พ.ศ.๒๔๖๐ ทำรกเพศชำยสขุ ภำพร่ำงกำยแขง็ แรงสมบูรณ์
ผวิ พรรณสะอำดหมดจด มนี ำมว่ำ “เดก็ ชำยจันทร์ แสงทอง”

ชีวติ ปฐมวัย

หลังจำกท่โี ยมบิดำและโยมมำรดำแต่งงำนกนั ไป ได้ไปทำกำรค้ำขำย
อยู่ท่ตี ลำดทำ่ กอง้วิ ตำบลปำกบ่อง อำเภอป่ ำซำง จังหวดั ลำพูน จนกระทง่ั ให้
กำเนดิ บุตรชำยคนสดุ ท้อง (พระพุทธพจนวรำภรณ)์ เม่ือทำ่ นอำยุได้ ๘
เดือน โยมบิดำได้ถงึ แก่กรรมด้วยโรคระบำด คอื กำฬโรค หลังจำกโยมบิดำ
เสยี ชีวิตแล้ว โยมมำรดำได้ย้ำยถ่นิ ฐำนครอบครัวมำอยู่ในตลำดเมอื งลำพนู
เพ่ือทำกจิ กำรค้ำขำย ซ่ึงต่อมำเม่อื ไม่อำจท่จี ะดำเนนิ กำรค้ำขำยได้อกี ต่อไป
จึงได้ย้ำยถ่นิ ฐำนอกี ไปอยู่ท่บี ้ำนป่ ำแดด ตำบลเวยี งยอง อำเภอเมือง จังหวัด
ลำพนู

เน่อื งจำกมีปัญหำและอปุ สรรคทำงชีวติ ครอบครัวคือโยมบิดำเสยี ชีวติ
และต้องย้ำยท่อี ยู่บ่อย จึงทำให้โอกำสทำงกำรศกึ ษำผ่ำนไป จนกระท่งั อำยุ
เลยเกณฑภ์ ำคบงั คบั (โรงเรียนในสมัยน้นั ถ้ำเดก็ อำยุเลยเกณฑแ์ ล้วจะไม่
รับเข้ำเรียน) ทำ่ นจงึ ต้องใช้ชีวติ อยู่แบบชำวบ้ำน ทไ่ี ม่มโี อกำสทำงกำรศกึ ษำ
ต้องช่วยโยมมำรดำทำงำนตำมฐำนะ คอื เล้ียงวัว เล้ียงควำย ทำ่ นเล่ำให้ฟังว่ำ
สถำนท่เี ล้ียงวัวเล้ียงควำยของท่ำนในสมัยเดก็ ๆ น้นั คือบริเวณทำงรถไฟ
ต้งั แต่แม่นำ้ กวง เร่ือยไปจนถงึ บริเวณดอยติ (อนุสำวรีย์ครูบำศรวี ชิ ัยใน
ปัจจุบัน)

เม่ือปี พ.ศ.๒๔๗๔ เม่ือทำ่ นอำยุย่ำงเข้ำ ๑๔ ปี โยมมำรดำได้พำกนั
ไปฝำกเป็นศิษยว์ ดั ป่ ำแดด ตำบลเวียงยอง อำเภอเมือง จงั หวดั ลำพนู เป็น
ศิษยว์ ัดร่วมกบั พ่ีชำย (นำยบุญปั๋น แสงทอง) ซ่ึงบวชเป็นสำมเณรอยู่ท่นี ่ัน
ท่ำนได้มโี อกำสเรียนอกั ษรพ้ืนเมือง ทอ่ งบทสวดเจด็ ตำนำน และคำขอบวช
เพ่ือเตรียมตวั บวชเป็นสำมเณร ในระหว่ำงเป็นศิษย์วัด ทำ่ นเล่ำให้ฟังว่ำ ลูก
ศษิ ยท์ ่เี ป็นเพ่ือนๆ กนั เม่ือพวกเขำได้รับประทำนอำหำรเช้ำเสรจ็ แล้ว ได้ไป
โรงเรยี นกนั หมด ส่วนตวั ทำ่ นไม่ได้ไปเรียน เน่ืองจำกอำยุเลยเกณฑ์ เลยต้อง
ทำหน้ำท่ขี โยม (เป็นภำษำเหนือ หมำยถงึ ศษิ ย์วดั ) ไปเกบ็ อำหำรจำก
ชำวบ้ำนมำถวำยท่ำนสมภำร

ประมำณเดือนพฤษภำคม พ.ศ.๒๔๗๕ ขณะท่ที ำ่ นกำลังตัดไม่ไผ่จะ
ทำร้ัว พ่ีชำยได้มำตำมให้ไปอยู่ทว่ี ดั เจดยี ห์ ลวงวรวหิ ำร ตำบลพระสงิ ห์
อำเภอเมอื ง จังหวดั เชียงใหม่ เน่อื งจำกญำติท่อี ยู่ในเมอื งลำพูนจะบวชเป็น
สำมเณรอยู่ท่นี ่นั ทำ่ นจงึ ได้มีโอกำสเข้ำมำเป็นศษิ ย์วดั เจดียห์ ลวงฯ โดยได้รับ
กำรศึกษำช้ันเตรียม (ก่อนเรียนช้ันประถม) นับเป็นกำรเร่ิมต้นเรียน
ภำษำไทยของท่ำน ท่โี รงเรียนพุทธโิ สภณ (ซ่ึงในสมัยน้ันต้ังอยู่ในวัดเจดยี ์
หลวงฯทำงด้ำนเหนือของพระวิหำร ตรงท่ีเป็ นศำลำเอนกประสงค์ใน
ปัจจุบนั ) เป็นเวลำประมำณ ๔ เดอื น พออ่ำนออกเขียนได้แล้ว ทำ่ นพระ
ครสู งั ฆรักษ์ (แหวว ธมมฺ ทนิ โน - ต่อมำได้รับสมณศกั ด์ใิ นรำชทนิ นำมท่ี
พระพุทธโิ สภณ) เหน็ ว่ำอำยุมำกแล้วจึงให้บรรพชำเป็นสำมเณร นับว่ำเป็น
กำรเร่ิมต้นเข้ำส่รู ่มเงำในบวรพระพุทธศำสนำ

การบรรพชา

ทำ่ นได้บรรพชำเป็นสำมเณรเม่อื อำยุได้ ๑๕ ปี ในเดอื นตลุ ำคม พ.ศ.
๒๔๗๕ ณ วัดเจดียห์ ลวงวรวหิ ำร จงั หวัดเชียงใหม่ โดยมี พระครนู พีสพี ิศำลคุณ
(ทอง โฆษิโต)วัดเจดยี ์หลวงวรวิหำรเป็นพระอปุ ัชฌำย์

การอุปสมบท

เม่ือทำ่ นมอี ำยุครบ ๒๐ ปี บริบูรณ์ ได้เข้ำพิธอี ปุ สมบทเป็นพระภกิ ษุ
ในทำงพระพทุ ธศำสนำ เม่ือวนั ท่ี ๖ กรกฎำคม พ.ศ.๒๔๘๐ ณ วัดเจดียห์ ลวง
วรวหิ ำร ตำบลพระสงิ ห์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ โดยมี พระพุทธโิ สภณ
(แหวว ธมมฺ ทนิ โน) เม่ือคร้ังดำรงสมณศกั ด์ิท่ี พระครมู หำเจตยิ ำภบิ ำล
วัดเจดีย์หลวงวรวหิ ำร เป็นพระอปุ ัชฌำย์, สมเดจ็ พระมหำวรี วงศ์ (พิมพ์
ธมมฺ ธโร) เม่ือคร้ังดำรงสมณศักด์ิท่ี พระญำณดิลก วดั พระศรีมหำธำตุฯ เขต
บำงเขน กรงุ เทพฯ เป็นพระกรรมวำจำจำรย์ และ พระครพู ุทธโิ สภณ
(บุญปั๋น) วัดเจดียห์ ลวงวรวิหำร เป็นพระอนุสำวนำจำรย์ได้รับนำมฉำยำว่ำ
“กุสโล”ซ่ึงแปลว่ำ“ผู้ฉลำด”

การศึกษาพระปริยัติธรรม

ในปี พ.ศ.๒๔๗๔ ทำ่ นได้เข้ำเรียนภำษำไทยทโ่ี รงเรียนพุทธโสภณ
ซ่ึงต้งั อยู่ในบริเวณวดั เจดียห์ ลวงฯ ด้วยควำมท่เี ป็นเดก็ ว่ำนอนสอนง่ำย
พดู จำสภุ ำพอ่อนน้อม กริ ิยำมำรยำทเรียบร้อย มคี วำมมำนะพยำยำมขยัน
ทอ่ งบทสวดมนตแ์ ละเรียนนกั ธรรม

ซ่ึงทำ่ นสอบนักธรรมช้ันตรีได้เม่ือปี พ.ศ.๒๔๗๖, ในปี พ.ศ.๒๔๗๗
สอบได้บำลไี วยกรณ,์ ในปี พ.ศ.๒๔๗๘ สอบได้นักธรรมช้ันโท, ในปี พ.ศ.
๒๔๘๑ ทำ่ นได้ย้ำยไปเรียนท่วี ดั บรมนวิ ำส ท่กี รงุ เทพฯ สอบได้เปรียญธรรม
๓ ประโยค, ในปี พ.ศ.๒๔๘๒ สอบได้นกั ธรรมช้ันเอก และเปรียญธรรม ๔
ประโยค, ในปี พ.ศ.๒๔๘๓ ท่ำนได้ย้ำยกลับมำจำพรรษำอยู่ท่วี ดั เจดียห์ ลวง
วรวิหำรและสอบได้เปรียญธรรม๕ประโยค

หลงั จำกน้นั ท่ำนได้พยำยำมลงไปสอบเปรียญธรรม ๖ ประโยค ท่ี
กรงุ เทพฯ อยู่หลำยปี แต่ไม่ผ่ำน เน่อื งจำกในสมัยน้นั เตม็ ไปด้วยปัญหำ
อปุ สรรคนำนัปกำร เพรำะว่ำอยู่ช่วงของสงครำมโลก อกี ท้งั กำรตดิ ต่อส่อื สำร
กนั ลำบำกมำกโดยเฉพำะกำรเดนิ ทำงจำกเชียงใหม่ไปกรงุ เทพฯ

ลาดับสมณศกั ด์ิ

วันท่ี ๕ ธนั วำคม พ.ศ.๒๔๙๖
ได้รับพระรำชทำนสมณศักด์เิ ป็นพระครสู ญั ญำบัตร ในรำชทนิ นำมท่ี
“พระครวู นิ ยั โกศล”

วนั ท่ี ๕ ธนั วำคม พ.ศ.๒๕๑๒
ได้รับพระรำชทำนสมณศกั ด์เิ ป็นพระรำชำคณะช้ันรำช ในรำชทนิ นำมท่ี
“พระรำชวนิ ยำภรณ์ สนุ ทรธรรมสำธติ ยตคิ ณสิ สร บวรสงั ฆำรำม คำมวำสี”

วันท่ี ๕ ธนั วำคม พ.ศ.๒๕๒๖
ได้รับพระรำชทำนสมณศกั ด์ิเป็นพระรำชำคณะช้ันเทพ ในรำชทนิ นำมท่ี
“พระเทพกวี เมธธี รรมโฆษติ อรรถกจิ จำทร ยตคิ ณสิ สร บวรสงั ฆำรำม
คำมวำส”ี

วันท่ี ๑๒ สงิ หำคม พ.ศ.๒๕๓๕
ได้รับพระรำชทำนสมณศกั ด์เิ ป็นพระรำชำคณะช้ันธรรม เป็นกรณพี ิเศษ
ในรำชทนิ นำมท่ี “พระธรรมดิลก ธรรมสำธก วจิ ติ รำภรณส์ นุ ทร พิพิธธรรม
วำที ตรีปิ ฎกวภิ สู ติ ธรรมมิกคณสิ สร บวรสงั ฆำรำม คำมวำสี”

วนั ท่ี ๕ ธนั วำคม พ.ศ.๒๕๔๔
ได้รับพระรำชทำนสมณศักด์เิ ป็นพระรำชำคณะช้ันหิรัญบัฏหรือรองสมเดจ็
พระรำชำคณะ ในรำชทนิ นำมท่ี “พระพุทธพจนวรำภรณ์ อดิศรวุฒิโสภณ
วิมลศลี ำจำรวัตร วิสทุ ธธิ รรมปฏบิ ัตวิ นิ ยวำท พุทธศำสนค์ ณำธกิ ร ธรรมยุต
ติกคณสิ สร บวรสงั ฆำรำม คำมวำส”ี

ลาดบั งานปกครองคณะสงฆ์

พ.ศ.๒๔๘๗ ได้รับกำรแต่งต้งั เป็นคณะกรรมกำรสงฆป์ ระจำอำเภอเมือง จงั หวัดเชียงใหม่ และเจ้ำ
คณะอำเภอ จังหวัดเชียงใหม่-ลำพนู -แม่ฮ่องสอน (ธรรมยุต)

พ.ศ.๒๔๘๘ ได้รับกำรแต่งต้งั เป็นพระวินยั ธรช้ันต้น ภำค ๕ เขต ๑
พ.ศ.๒๔๙๕ ได้รับกำรแต่งต้งั เป็นเจ้ำคณะธรรมยุตผู้ช่วย จงั หวัดเชียงใหม่-ลำพนู -ลำปำง-อุตรดติ ถ์
พ.ศ.๒๕๐๒ ได้รับกำรแต่งต้งั เป็นพระอุปัชฌำย์
พ.ศ.๒๕๑๒ ได้รับกำรแต่งต้งั เป็นรองเจ้ำอำวำสวัดเจดีย์หลวงวรวิหำร อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
พ.ศ.๒๕๑๔ ได้รับกำรแต่งต้งั เป็นครูใหญ่โรงเรียนพระปริยตั ธิ รรม แผนกสำมญั ศึกษำ โรงเรียน

สำมัคควี ิทยำทำน
พ.ศ.๒๕๑๖ ได้รับกำรแต่งต้งั รักษำกำรเจ้ำอำวำสวดั ป่ ำดำรำภิรมย์ อำเภอแม่ริม จงั หวัดเชียงใหม่
พ.ศ.๒๕๒๒ ได้รับกำรแต่งต้งั เป็นเจ้ำคณะจงั หวัดเชียงใหม่-ลำพนู -แม่ฮ่องสอน (ธรรมยุต)
พ.ศ.๒๕๒๔ ได้รับกำรแต่งต้งั เป็นเจ้ำอำวำสวัดป่ ำดำรำภิรมย์ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
พ.ศ.๒๕๓๐ ได้รับกำรแต่งต้งั เป็นอนุกรรมกำรคณะธรรมยุต และเป็นประธำนกรรมกำรโรงเรียนพระ

ปริยตั ิธรรม และโรงเรียนธรรมสำธติ ศึกษำ จงั หวัดลำพนู
พ.ศ.๒๕๓๔ ได้รับกำรแต่งต้งั เป็นรองเจ้ำคณะภำค ๔-๕-๖-๗ (ธรรมยุต) และเป็นรองเลขำธกิ ำร

สภำกำรศึกษำมหำมกุฎรำชวิทยำลัย วิทยำเขตล้ำนนำ
พ.ศ.๒๕๓๕ ได้รับกำรแต่งต้งั เป็นเจ้ำอำวำสวัดเจดยี ์หลวงวรวิหำร (พระอำรำมหลวง) อำเภอเมอื ง

จงั หวัดเชียงใหม่ และเป็นกรรมกำรผู้ทรงคุณวุฒิกำรศกึ ษำ กำรศำสนำ กำรวัฒนธรรม
เขตกำรศกึ ษำ ๘
พ.ศ.๒๕๓๖ ได้รับกำรแต่งต้งั เป็นผู้รักษำกำรแทนเจ้ำคณะภำค ๔-๕-๖-๗ (ธรรมยุต)
พ.ศ.๒๕๓๗ ได้รับกำรแต่งต้งั เป็นเจ้ำคณะภำค ๔-๕-๖-๗ (ธรรมยุต)

ตาแหน่งงานอนื่ ๆ

พ.ศ.๒๕๐๒ เป็นประธำนกรรมกำรมูลนิธเิ มตตำศกึ ษำ ได้ก่อต้งั โรงเรียนเมตตำศึกษำ ซ่ึงเป็น
โรงเรียนเอกชนท่รี ับเดก็ เรียนดี แต่ขำดแคลนทุนทรัพย์ และมีควำมประพฤตเิ รียบร้อย เข้ำเรียนโดย
ไม่เกบ็ ค่ำเล่ำเรียน ในระดับมัธยมศึกษำปี ท่ี ๑-๓ ดำเนินงำนมำจนถึงปัจจุบนั โดยอำศัยทุนทรัพย์จำก
ผู้มีจิตศรัทธำ ภำยใต้กำรดำเนนิ งำนของมูลนธิ เิ มตตำศกึ ษำ ต้ังอยู่ท่บี ริเวณภำยในวัดเจดีย์หลวง
วรวิหำร อำเภอเมือง จงั หวัดเชียงใหม่

พ.ศ.๒๕๑๗ เป็นประธำนกรรมกำรมูลนิธศิ ึกษำพัฒนำชนบท โดยจดั ต้งั มูลนธิ ศิ กึ ษำพัฒนำ
ชนบท ซ่ึงมสี ำนกั งำนต้ังอยู่ท่วี ัดป่ ำดำรำภิรมย์ (พระอำรำมหลวง) เลขท่ี ๕๑๔ หมู่ท่ี ๑ ตำบลริมใต้
อำเภอแม่ริมจงั หวัดเชียงใหม่

พ.ศ.๒๕๑๘ เป็นประธำนคณะกรรมกำรส่วนภมู ิภำค ภำค ๕ ของสภำสงั คมสงเครำะห์แห่ง
ประเทศไทย(ฝ่ ำยบรรพชิต),เป็นประธำนชมรมศำสนิกสมั พันธเ์ ชียงใหม่

พ.ศ.๒๕๒๑ เป็นอำจำรย์พิเศษของสถำบนั อุดมศึกษำต่ำง ๆ ในจงั หวัดเชียงใหม่ ท้งั ระดบั
ปริญญำตรีและปริญญำโท อำทิ คณะศึกษำศำสตร์, มนุษยศำสตร์, สงั คมศำสตร์, พยำบำลศำสตร์
มหำวิทยำลัยเชียงใหม่และสหวิทยำลัยครูเชียงใหม่

พ.ศ.๒๕๒๕ เป็นกรรมกำรท่ปี รึกษำชมรมยำพ้ืนบ้ำนล้ำนนำไทย ซ่ึงเป็นกำรรักษำและอนุรักษ์
ยำพ้ืนบ้ำนของไทย

พ.ศ.๒๕๒๖เป็นกรรมกำรอปุ ถัมภ์โรงเรียนพุทธโิ สภณ
พ.ศ.๒๕๒๗ เป็นกรรมกำรท่ปี รึกษำหน่วยงำนสำกล ท่ใี ห้กำรส่งเสริมควำมร่วมมอื และ
ประสำนงำนกำรพัฒนำชนบททุกระดับในประเทศไทย,เป็นกรรมกำรอุปถมั ภ์มูลนิธสิ ่งเสริม
โภชนำกำรสถำบันวิจัยวทิ ยำศำสตร์สขุ ภำพ
พ.ศ.๒๕๓๒ เป็นกรรมกำรอปุ ถัมภ์ชมรมธรรมำนำมยั ศูนย์เชียงใหม่, เป็นกรรมกำรวำงแผน
กำรศึกษำกำรศำสนำและศิลปวัฒนธรรมประจำจังหวัดเชียงใหม่
พ.ศ.๒๕๓๔ ร่วมกบั มูลนธิ มิ หำมกุฏรำชวิทยำลัย ในพระบรมรำชูปถัมภ์ กรงุ เทพฯ จดั ต้ัง
มหำวิทยำลัยสงฆท์ ำงพระพุทธศำสนำข้นึ ณ วัดเจดียห์ ลวงวรวิหำร จงั หวัดเชียงใหม่ มชี ่ือว่ำ “สภำ
กำรศึกษำมหำกุฎรำชวิทยำลัยวิทยำเขตล้ำนนำ”
พ.ศ.๒๕๓๕ เป็นกรรมกำรผู้ทรงคุณวุฒิกำรศกึ ษำ กำรศำสนำ และกำรวัฒนธรรม เขต
กำรศึกษำ๘

งานเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนา

พ.ศ.๒๔๘๑ ให้กำรศึกษำอบรมทำงด้ำนจติ ใจแก่ประชำชน รับนิมนตไ์ ปแสดงธรรมตำมวัด
และ สถำนท่ตี ่ำง ๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดใกล้เคยี ง และต่ำงจังหวัด, แสดงพระธรรมเทศนำและ
ข้อคดิ เหน็ อกี ท้งั คตเิ ตอื นใจ ทำงสถำนีวิทยุกระจำยเสยี งและทำงสถำนโี ทรทศั น์ ตำมรำยกำรดงั น้ี

- พ.ศ.๒๔๙๘ พระธรรมเทศนำ รำยกำร ๓๐ นำที ทุกวันพระข้ึน ๑๕ ค่ำ เวลำ ๐๙.๓๐-
๑๐.๐๐น.สถำนีวิทยุกระจำยเสยี งทหำรอำกำศเชียงใหม่ภำคAM

- พ.ศ.๒๕๐๓ ข้อคิดประจำวัน รำยกำร ๕ นำที ทุกวันก่อนปิ ดสถำนวี ิทยุ วปถ. ๒ ค่ำยกำวิละ
เชียงใหม่ (ออกอำกำศอยู่ ๑ ปี ) ภำยหลังเปล่ียนเป็นรำยกำร ๑๕ นำที ทุกวนั เวลำ ๐๕.๔๕-๐๖.๐๐ น.
สถำนีวิทยุทหำรอำกำศเชยี งใหม่ต้งั แต่ปี พ.ศ.๒๕๐๘-พ.ศ.๒๕๕๑

- พ.ศ.๒๕๐๔ สนทนำธรรม รำยกำร ๓๐ นำที ทุกวันอำทติ ย์ เวลำ ๑๙.๐๐-๑๙.๓๐ น. ทำง
สถำนวี ิทยุกระจำยเสยี งทหำรอำกำศเชียงใหม่

- พ.ศ.๒๕๒๕ พระธรรมยำมเยน็ เป็นรำยกำรชีวิตสอดแทรกธรรมะ ๓๐ นำที ออกอำกำศทุก
วันเสำร์- อำทติ ย์ เวลำ ๑๘.๐๐-๑๘.๓๐ น. ทำงสถำนวี ิทยุกระจำยเสยี งส่อื สำรมวลชน คณะมนุษย์
ศำสตร์มหำวิทยำลัยเชียงใหม่

- พ.ศ.๒๕๒๘ ชีพจรลงเท้ำ เป็นรำยกำร ๓๐ นำที ถ่ำยทอดทำงสถำนโี ทรทศั น์ ช่อง ๗,
แผ่นดนิ ธรรมเป็นรำยกำย๓๐นำทถี ่ำยทอดทำงสถำนโี ทรทศั นช์ ่อง๓

- พ.ศ.๒๕๒๙ ธรรมสวนะ เป็นรำยกำร ๓๐ นำที ถ่ำยทอดทำงสถำนีโทรทศั น์ ช่อง ๓ และ
ช่อง๑๑(ช่อง๘ลำปำงเดิม)

- พ.ศ.๒๕๓๐ ระเบียบวินยั คอื หัวใจของชำติ เป็นรำยกำร ๓๐ นำที เดอื นละคร้ัง ทำงสถำนี
วิทยุกรมประชำสมั พันธ์ กรงุ เทพฯ และรำยกำรธรรมะ ๕ นำที เป็นรำยกำร ๕ นำที ทุกวันก่อนเข้ำ
ห้องเรียนโรงเรียนแม่ริมวทิ ยำคมอำเภอแม่ริมจังหวัดเชียงใหม่

- พ.ศ.๒๕๓๒ บทบำทของพระสงฆก์ บั กำรพัฒนำชนบท รำยกำร ๔๕ นำที ถ่ำยทอดทำงสถำนี
โทรทศั นช์ ่อง๑๑(ช่อง๘ลำปำงเดิม)

- พ.ศ.๒๕๓๓ กำรแสดงปำฐกถำและร่วมประชุมสมั มนำ “เกษตรสนทนำ” นอกจำกน้นั ทำ่ น
ยงั ได้รับนิมนต์ไปแสดงปำฐกถำและร่วมประชุมสมั มนำเก่ยี วกบั งำนท่ที ำ โดยเฉพำะงำนด้ำนสภำพ
ปัญหำกบั กำรพัฒนำชนบท งำนเก่ยี วกบั มูลนธิ ศิ ึกษำพัฒนำชนบท ท่ที ำ่ นดำรงตำแหน่งเป็นประธำน
อยู่และงำนเสริมสร้ำงคุณภำพชีวิตตำมสถำนท่ตี ่ำงๆท้งั ในประเทศและต่ำงประเทศ

งานเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนา

ผลงานในประเทศไทย
พ.ศ.๒๔๙๔ สถำบนั กำรศกึ ษำทุกระดบั ในจงั หวัดเชียงใหม่ และจงั หวัดใกล้เคยี ง อำทิ เป็น

ครูสอนพิเศษวิชำศีลธรรมช้ันประถมศกึ ษำปี ท่ี ๖ โรงเรียนวัฒโนทยั พำยพั , เป็นครูสอนพิเศษวิทยำลัย
คร,ู วิทยำลัยอำชีวศึกษำ และมหำวิทยำลัย ฯลฯ และกำรบรรยำยพิเศษแก่นักศกึ ษำคณะพยำบำล
ศำสตร์เป็ นต้ น

พ.ศ.๒๔๙๖ เผยแผ่ธรรมทำงส่อื มวลชนคอื สถำนีวิทยุกระจำยเสยี งและทำงสถำนีโทรทศั น์
พ.ศ.๒๕๑๓ องค์กรเอกชน อำทิ สภำสงั คมสงเครำะห์แห่งประเทศไทย (บรรยำยงำนมูลนธิ ิ
เมตตำศกึ ษำและมูลนิธศิ ึกษำพัฒนำชนบทในกำรไปร่วมประชุมสมั มนำ)
พ.ศ.๒๕๒๗ หน่วยงำนรัฐบำล เช่นท่ที ำเนียบรัฐบำล (บรรยำยเก่ยี วกบั กำรพัฒนำชนบท ปี ละ
คร้ังในระยะ๓ปี ติดต่อกนั ระหว่ำงพ.ศ.๒๕๒๗-พ.ศ.๒๕๒๙)

ผลงานในต่างประเทศ
พ.ศ.๒๔๙๙ ร่วมประชุมสงั คำยนำพระไตรปิ ฎก คร้ังท่ี ๖ ณ ประเทศพม่ำ ในงำนฉลอง ๒๕

พทุ ธศตวรรษ
พ.ศ.๒๕๒๓ ร่วมอภิปรำยในหัวข้อ “อทิ ธพิ ลของศำสนำและวัฒนธรรมในกำรพัฒนำชนบท”

ในกำรประชุมสมั มนำองคก์ ำรเซนดร้ำ ณ ประเทศอนิ โดนเี ซีย โดยรับนมิ นต์จำกสมำคม Y.M.C.A.
เชียงใหม่

พ.ศ.๒๕๒๓ ร่วมอภิปรำยในหัวข้อ “บทบำทของพระสงฆก์ บั กำรพัฒนำชนบท” กบั สถำบนั
ฝึกผู้ประสำนงำนพัฒนำ และสมำคม Y.M.C..A. เชียงใหม่ ณ ประเทศมำเลเซีย
พ.ศ.๒๕๒๕ รับนมิ นต์ไปแสดงปำฐกธรรม ณ วัดไทยในรัฐต่ำง ๆ ของประเทศสหรัฐอเมริกำ เช่น ท่ี
ลอสแองเจลิส, ชิคำโก, นวิ ยอร์ก, วอชิงตนั ดี.ซี. ฯลฯ

การไปศึกษาและดูงานดา้ นศาสนาในตา่ งประเทศ

พ.ศ.๒๔๙๗ และ ๒๔๙๘ ประเทศสงิ คโ์ ปร์และปี นัง
พ.ศ.๒๔๙๙ ประเทศพม่ำ
พ.ศ.๒๕๑๐ และ ๒๕๓๕ ประเทศญ่ีป่ ุน
พ.ศ.๒๕๑๑ ประเทศอนิ เดยี
พ.ศ.๒๕๒๑ ประเทศอนิ โดนีเซีย
พ.ศ.๒๕๒๕ ประเทศสหรัฐอเมริกำ
พ.ศ.๒๕๒๖ และ ๒๕๒๙ ประเทศศรีลังกำ
พ.ศ.๒๕๓๑ ประเทศออสเตรเลีย
พ.ศ.๒๕๓๕ ประเทศจีน (สบิ สองปันนำ), ประเทศอนิ โดนเี ซีย
พ.ศ.๒๕๓๗ ประเทศอเมริกำและยุโรป
พ.ศ.๒๕๓๙ ประเทศจีน
พ.ศ.๒๕๔๐ ประเทศจีน

การพฒั นาการศึกษาและชนบท

พ.ศ.๒๕๐๒ จัดต้งั “มูลนิธเิ มตตำศึกษำ” และโรงเรียนเมตตำศึกษำ ณ วัดเจดียห์ ลวงวรวิหำร
จงั หวัดเชียงใหม่ โดยควำมร่วมมือของเจ้ำหน้ำท่ปี กครองระดับท้องถ่ิน อำทิ นำยอำเภอ, ศึกษำธกิ ำร
อำเภอ,นกั ธรุ กจิ และกรรมกำรยุวพทุ ธกิ สมำคมเชียงใหม่เป็นต้น

วัตถุประสงค์หลักของกำรจดั ต้งั มูลนธิ เิ มตตำศกึ ษำน้นั เพ่ือช่วยแก้ไขปัญหำอำชญำกรรมซ่ึง
เกดิ ข้ึนในวัยรุ่น อกี ท้งั ช่วยปลูกฝงั และส่งเสริมศีลธรรมไปพร้อมๆ กนั ตลอดจนช่วยให้เดก็ ชนบทท่ี
เรียนดแี ต่ยำกจน ได้มีโอกำสเรียนต่อ หลังจำกท่จี บจำกกำรศกึ ษำภำคบงั คบั แบบให้เปล่ำ คือ
นอกจำกจะไม่เกบ็ ค่ำเล่ำเรียนและค่ำบำรุงใดๆ แล้ว มูลนิธเิ มตตำศกึ ษำยงั ให้ควำมช่วยเหลือนกั เรียน
ท่ผี ่ำนกำรคัดเลือดเป็นกรณพี ิเศษ ท้งั ในด้ำนจดั หำทุนเรียน, จัดหำผู้อปุ กำระ, ท่พี ักอำศยั , ให้ขอยืม
แบบเรียนและกรณจี ำเป็นอ่นื ๆ

พ.ศ.๒๕๑๒ จดั ต้งั “มูลนธิ ศิ ึกษำพัฒนำชนบท” ด้วยวัตถุประสงค์หลักท่จี ะให้โอกำสแก่
เยำวชนชำยหญิงในชนบทท่ตี ้องกำรศกึ ษำ และคนชนบทท่ยี ำกจนได้รับกำรพัฒนำ จนกระท่งั ถึงระดับ
ท่ชี ่วยเหลือตนเองและชุมชนได้ ท้งั ในด้ำนงำนอำชีพทำงเกษตรและงำนฝีมอื ต่ำงๆ ตลอดจนส่งเสริม
แนวทำงกำรอนุรักษ์ทำงศลี ธรรม-วัฒนธรรมของชำตแิ ละท้องถ่นิ ไปพร้อมๆ กนั กล่ำวคือ เป็นกำร
พัฒนำชนบทตำมแนวคิดและวัตถุประสงค์ของกำรจัดต้งั มูลนิธทิ ่วี ่ำ “เศรษฐกจิ จิตใจ ต้องแก้ไข
พร้อมกนั ”

พ.ศ.๒๕๓๔ จดั ต้งั “สภำกำรศกึ ษำมหำกุฎรำชวิทยำลัย วิทยำเขตล้ำนนำ” ให้เป็น
มหำวิทยำลัยทำงพระพทุ ธศำสนำในเขตภำคเหนือ มีสถำนท่ตี ้ังอยู่ ณ วัดเจดีย์หลวงวรวิหำร จงั หวดั
เชียงใหม่ โดยได้รับควำมร่วมมอื จำกทำงมูลนธิ มิ หำมกุฏรำชวิทยำลัย ในพระบรมรำชูปถัมภ์
กรงุ เทพฯ

ผลงานด้านหนังสอื ธรรมะและสง่ิ พมิ พ์

พ.ศ.๒๕๐๐ หนงั สอื ธรรมำนุภำพ พิมพ์ท่สี ำนกั พิมพ์คลิงวิทยำ กรงุ เทพฯ หนำ ๓๗๖ หน้ำ
เป็นหนงั สอื ธรรมะและประเพณีต่ำงๆของล้ำนนำไทย

พ.ศ.๒๕๐๓ หนงั สอื ธรรมะจำกส่งิ แวดล้อม พิมพ์ท่ี ห.จ.ก.ฤทธกิ ำรพิมพ์ กรงุ เทพฯ หนำ ๖๔
หน้ำ เป็นหนงั สอื เล่ำเร่ืองกำรเดินทำงท่ใี ห้ข้อคิดทำงธรรมะ จำกอำเภอเมอื งไปอำเภอฝำง จงั หวัด
เชียงใหม่

พ.ศ.๒๕๐๙, ๒๕๒๒, และ ๒๕๒๔ หนงั สอื ข้อคดิ ประจำวัน พิมพ์คร้ังท่ี ๑ สำนักพิมพ์คลัง
วิทยำ กรุงเทพฯ, พิมพ์คร้ังท่ี ๒ และ ๓ ท่โี รงพิมพ์มหำมกุฎรำชวิทยำลัย กรงุ เทพฯ หนำ ๔๓๐ หน้ำ
เป็นหนงั สอื รวบรวมรำยกำรข้อคิดประจำวัน ซ่ึงเป็นข้อคิดทำงธรรมะ ท่อี อกอำกำศทำงสถำนี
วิทยุกระจำยเสยี งทหำรอำกำศเชียงใหม่

พ.ศ.๒๕๐๙ หนงั สอื เคร่ืองหมำยคนดี พิมพ์ท่สี ำนักพิมพ์คลังวิทยำ กรงุ เทพฯ เป็นหนงั สอื ท่ี
รวบรวมบทควำมทำงธรรมะซ่ึงเป็นรำยกำรท่บี รรยำยทำงสถำนวี ทิ ยุวปถ.๒

พ.ศ.๒๕๑๒ หนังสอื พระไทยไปญ่ีป่ ุน พิมพ์ท่โี รงพิมพ์ไทยเขษม กรงุ เทพฯ หนำ ๔๑๑ หน้ำ
เป็นหนงั สอื สำรคดีทอ่ งเท่ยี วญ่ีป่ ุนทำงเรือท่แี ทรกธรรมะ และบรรยำยหรือพรรนำด้วยบทร้อยแก้ว
และร้อยกรอง

พ.ศ.๒๕๒๔ หนงั สอื มงคลชีวิต พิมพ์ท่กี ลำงเวียงกำรพิมพ์ จังหวัดเชียงใหม่ รวมท้งั ส้นิ ๑๕
คร้ัง คอื ปี พ.ศ.๒๕๒๔, ๒๕๒๖, ๒๕๒๗, ๒๕๒๙, ๒๕๓๐, ๒๕๓๑, ๒๕๓๒, ๒๕๓๓, ๒๕๓๔,
๒๕๓๕, ๒๕๓๖, ๒๕๓๗, ๒๕๓๘, ๒๕๓๙, ๒๕๔๐ เป็นหนงั สอื ท่รี วบรวมขัอคิดคตเิ ตือนใจ และศำ
สนพิธตี ่ำงๆ โดยย่อจำกหนงั สอื ธรรมบรรณำกำรท่พี ิมพ์แจกเป็น ส.ค.ส. ต้ังแต่ปี พ.ศ.๒๕๐๔ จนถึง
ปัจจุบัน และหนงั สอื Wisdom Of Ven Phra Thepdkawee แปลมำจำกหนงั สอื มงคลชีวิต สำหรับแจก
ชำวต่ำงประเทศ

พ.ศ.๒๕๒๘ หนงั สอื ชีวิตโยมแม่ เป็นหนังสอื งำนท่รี ะลึกฌำปนกจิ ศพโยมแม่แสง แสงทอง
พิมพ์ท่กี ลำงเวียงกำรพิมพ์จงั หวัดเชียงใหม่

พ.ศ.๒๔๓๐ หนังสอื พัฒนำชนบท พิมพ์ท่กี ลำงเวียงกำรพิมพ์ จังหวัดเชียงใหม่ เป็นหนงั สือ
รวบรวมประวัตกิ ำรดำเนินกำรและผลงำนของมูลนธิ เิ มตตำศกึ ษำ และมูลนิธศิ กึ ษำพัฒนำชนบท

พ.ศ.๒๕๓๕ หนังสอื รวมบทร้อยกรองทป่ี ระพันธข์ ้ึนในโอกำสต่ำงๆ จดั พิมพ์เป็นท่รี ะลึกใน
งำนถวำยปริญญำพัฒนำบริหำรศำสตร์ ดุษฎีบณั ฑติ กติ ตศิ ักด์ิ ทำงพัฒนำสงั คมของสถำบนั บณั ฑติ
พัฒนบริหำรศำสตร์(นิด้ำ)เม่อื วันท่๒ี ๒มิถุนำยน๒๕๓๕

พ.ศ.๒๕๓๖ หนังสอื มูลนิธศิ กึ ษำพัฒนำชนบท พิมพ์ท่ี ห.จ.ก.ฤทธศิ รีกำรพิมพ์ กรงุ เทพฯ
หนำ ๑๑๖ หน้ำ เป็นหนงั สอื ท่รี ะลึกเน่ืองในโอกำสท่สี มเดจ็ พระเทพรัตนรำชสดุ ำฯ สยำมบรมรำช
กุมำรี เสดจ็ ฯ มำทรงเป็นองคป์ ระธำนเปิ ดอำคำร ซี.ฟริส เยสเปอร์เซ๋น ณ วัดป่ ำดำรำภิรมย์ อำเภอ
แม่ริมจังหวัดเชียงใหม่

พ.ศ.๒๕๓๗ หนังสอื พระเชียงใหม่ไปอเมริกำ-มำยุโรป พิมพ์ท่โี รงพิมพ์ครองช่ำงกำรพิมพ์
จงั หวัดเชียงใหม่หนำ๑๙๒หน้ำเป็นหนังสอื ร้อยแก้วและร้อยกรอง

พ.ศ.๒๕๓๙ หนงั สอื พระเชียงใหม่ไปอเมริกำ-มำยุโรป ออกแบบและจัดรปู เล่มใหม่โดยพระ
อธนิ ันท์ ปุญญฺ นนโฺ ท พิมพ์ท่โี รงพิมพ์กลำงเวียงกำรพิมพ์ จงั หวัดเชียงใหม่ หนำ ๑๓๖ หน้ำ จำนวน
๓,๐๐๐ เล่ม, หนังสอื เคร่ืองหมำยของคนดี ออกแบบและจดั รปู เล่มใหม่โดยพระอธนิ นั ท์ ปุญญฺ นนโฺ ท
พิมพ์ท่โี รงพิมพ์กลำงเวียงกำรพิมพ์ จงั หวัดเชียงใหม่ หนำ ๒๘๐ หน้ำ จำนวน ๓,๐๐๐ เล่ม

พ.ศ.๒๕๔๐ หนังสอื ชีวิตกบั กำรรักษำจติ พิมพ์ท่โี รงพิมพ์นันทพันธ์ จงั หวัดเชียงใหม่ จำนวน
๓,๐๐๐ เล่ม, หนงั สอื ชีวิตท่มี คี วำมสขุ เล่ม ๑ และ ๒ พิมพ์ท่โี รงพิมพ์นนั ทพันธ์ จงั หวัดเชียงใหม่
จำนวน ๖,๐๐๐ เล่ม, หนังสอื ยอดของควำมสขุ พิมพ์ท่โี รงพิมพ์นนั ทพันธ์ จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน
๓,๐๐๐ เล่ม, หนังสอื คู่มือปฏบิ ัตธิ รรม พิมพ์ท่โี รงพิมพ์ประชำชน กรงุ เทพฯ จำนวน ๓,๐๐๐ เล่ม,
หนงั สอื คำกลอนสอนใจ พิมพ์ท่โี รงพิมพ์กลำงเวียงกำรพิมพ์ จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน ๓,๐๐๐ เล่ม

ผลงานดเี ด่นและเกียรตคิ ุณท่ีไดร้ บั ยกย่อง

พ.ศ.๒๕๐๒-พ.ศ.๒๕๕๑ ริเร่ิมงำนพัฒนำคุณภำพชีวิตด้วยระบบมูลนธิ ฯิ และกำรจัด
กำรศึกษำในลักษณะแบบให้เปล่ำแก่เดก็ ยำกจนท่ไี ม่มโี อกำส คือ มูลนิธเิ มตตำศกึ ษำและโรงเรียน
เมตตำศกึ ษำ ได้มีศรัทธำจำนวนมำกท้งั ส่วนบุคคล และองคก์ รท้งั ของรัฐและเอกชนในประเทศ และ
ต่ำงประเทศ ได้ร่วมกนั บริจำคสร้ำงตกึ เรียน, หอประชุมมีช่ือว่ำ “วินยำภรณ์” (ต้งั ช่ือเป็นเกยี รตแิ ก่
พระพุทธพจนวรำภรณ์ (จันทร์ กุสโล) เม่ือคร้ังดำรงสมณศักด์ิเป็น พระรำชวินยำภรณ์ ด้วยเงิน
บริจำคจำกองค์กร NOVIB ประเทศเนเธอร์แลนด)์ และช่วยให้นกั เรียนท่นี อกจำกจะไม่เสยี ค่ำเล่ำ
เรียน และค่ำบำรุงใดๆ แล้วยงั ได้รับควำมช่วยเหลือตำมควำมจำเป็นด้ำนต่ำงๆ อำทิ ค่ำอำหำร
กลำงวัน, ค่ำรถไปโรงเรียน, ค่ำอุปกรณก์ ำรเรียน นอกจำกน้ี นกั เรียนยงั มีโอกำสได้ทำงำนพิเศษ เพ่ือ
เสริมรำยได้ให้ครอบครัว นอกเวลำเรียน และระหว่ำงปิ ดภำคเรียน ตลอดจนมโี อกำสแข่งขันชิงทุน
ของมูลนิธเิ มตตำยำมำโมโต (มูลนธิ ทิ ่จี ัดต้ังข้นึ จำกข้อตกลงร่วมกนั ระหว่ำง Mr.Munio Yamamoto
ชำวญ่ีป่ ุน ท่ศี รัทธำต่อพระพุทธพจนวรำภรณ์ (จันทร์ กุสโล) เม่ือคร้ังดำรงสมณศกั ด์เิ ป็น พระธรรม
ดิลก เม่ือปลำยปี พ.ศ.๒๕๒๘) หลังจำกท่จี บกำรศกึ ษำของโรงเรียนในระดับมัธยม ๖ แล้ว เพ่ือเข้ำรับ
กำรศกึ ษำและฝึกทกั ษะกำรใช้ภำษำญ่ีป่ ุนเป็นเวลำ ๑ ปี เตม็ ในประเทศ หรือบำงปี กไ็ ด้ไปเรียนและ
ฝึกงำนในบริษัทของผู้ให้ทุนผ่ำนมูลนธิ ฯิ มำ เช่น ณ ประเทศญ่ีป่ ุน เป็นเวลำ ๖ เดือนเตม็ เป็นต้น
ผลสำเรจ็ สงู สดุ ของผู้ได้รับทุนน้คี ือทุกคนได้รับกำรจองตวั หรือได้งำนดี และได้รับเงินเดือนสงู กว่ำ
ระดับปริญญำ

พ.ศ.๒๕๐๒-พ.ศ.๒๕๕๑ ใช้ควำมสำมำรถเชิงกวีนพิ นธ์ เชิงปลูกฝงั คุณธรรม ท่ใี ห้ข้อคดิ ใน

กำรดำรงชีวิตประจำวันของคนทว่ั ไป โดยได้เร่ิมเผยแพร่ออกส่สู ำยตำประชำชนในรปู ของกวีนพิ นธ์

“มงคลชีวิตประสทิ ธ์ิพร” ท่จี ัดพิมพ์ลงในบัตรส่งควำมสขุ ในแต่ละปี เร่ิมต้งั แต่ปี พ.ศ.๒๕๐๔ เป็นต้น

มำ คำพรข้อคดิ ส้นั ๆ ท่พี ระพุทธพจนวรำภรณ์ (จันทร์ กุสโล) เม่ือคร้ังดำรงสมณศักด์ิเป็น พระเทพ

กวี ได้ร้อยกรองข้นึ น้ี มีผู้กล่ำวขวัญและนิยมกนั มำก คอื ได้มีผู้รวบรวมจัดพิมพ์เผยแพร่ในลักษณะ

ของจุลสำร, หนังสอื ชำร่วยท่แี จกในโอกำสต่ำงๆ และได้นำออกรำยกำรข้อคดิ ประจำวันทำงสถำนีวิทยุ

ทหำรอำกำศ และสถำนีวิทยุประชำสมั พันธเ์ ชียงใหม่ ทุกวัน และในปี พ.ศ.๒๕๓๑ ได้มผี ู้นำกวีนิพนธ์

“มงคลชีวิตประสทิ ธ์ิพร” มำแปลเป็นภำษำองั กฤษ ทำให้ผลงำนเชิงกวีนิพนธท์ ่เี ป็นคติเตือนใจหรือ

สอนใจน้ี แพร่หลำยเป็นท่นี ิยมยกย่องในต่ำงประเทศอกี ด้วย

ผลงานด้านพฒั นาชนบท

ริเร่ิมงำนพัฒนำชนบทแบบผสมผสำนและครบวงจร ในระดับหมู่บ้ำนของ ๓ จงั หวัด
ภำคเหนอื จงั หวัดเชียงใหม่-ลำพนู -แม่ฮ่องสอนคือกำรก่อต้งั มูลนธิ ศิ ึกษำพฒั นำชนบท

พ.ศ.๒๕๒๓

- มผี ลกำรพัฒนำดีเด่น เป็นข้อควำมท่ปี ระกำศยกย่องไว้ในวำรสำรเศรษฐกจิ และสงั คม ปี ท่ี
๑๘ ฉบบั ท่ี ๒ เดอื นมนี ำคม-เมษำยน พ.ศ.๒๕๒๔ โดยฝ่ ำยเผยแผ่กำรพัฒนำกองศกึ ษำภำวะ
เศรษฐกจิ สำนักงำนคณะกรรมกำรเศรษฐกจิ และสงั คมแห่งชำติ ท่ไี ด้สรุปผลงำนของ “พระพทุ ธพ
จนวรำภรณ์ (จันทร์ กุสโล) เม่ือคร้ังดำรงสมณศกั ด์ิเป็น พระธรรมดิลก” ซ่ึงได้กล่ำวมำแล้ว และใคร่
ขอยกคำตอบสมั ภำษณข์ องประธำนกรรมกำรมูลนิธฯิ แห่งแรก ท่ไี ด้แสดงควำมคดิ เหน็ เก่ยี วกบั มูลนธิ ิ
ศกึ ษำพัฒนำชนบทว่ำ “มูลนิธฯิ น้ไี ด้ช่วยเหลือพวกเรำซ่ึงยำกจนแร้นแค้น ให้ลืมตำอ้ำปำกได้ พวกผม
ทุกคนร้สู กึ ซำบซ้ึงในพระคุณของหลวงพ่อมำกทำ่ นเป็นพระมำโปรดพวกเรำแท้ๆ”

พระพทุ ธพจนวรำภรณ์ (จันทร์ กุสโล) มีผลงำนทำงวิชำกำรดีเด่น ได้รับกำรถวำย
ประกำศนียบตั ร “ประกำศเชิดชูเกยี รตคิ ุณ” จำกคณะศกึ ษำศำสตร์ มหำวิทยำลัยเชียงใหม่ เม่อื วันท่ี
๘ กนั ยำยน พ.ศ.๒๕๒๓ ท่ไี ด้อุทศิ เวลำ กำลังกำย กำลังใจ กำลังควำมคิด และได้บำเพญ็ ประโยชน์ ใน
กำรส่งเสริมกำรศึกษำแกป่ ระชำชน และท้องถ่นิ ยงั ให้เกดิ ควำมเจริญม่นั คง และดำรงคุณธรรมดเี ด่น
แก่สงั คมโดยส่วนรวม สมควรเป็นแบบอย่ำงแก่อนุชนคนร่นุ หลังและหมู่คณะ ในทำงส่งเสริมควำม
เจริญก้ำวหน้ำแก่ประเทศชำติบ้ำนเมืองสบื ต่อไป

พ.ศ.๒๕๒๔

- ได้รับเลือกให้เป็นนกั สงคมสงเครำะห์ดเี ด่นประจำปี พ.ศ. ๒๕๒๔ สำขำ “สงั คม
อำสำสมคั ร” จำกกรมประชำสงเครำะห์ ร่วมกบั สภำสงั คมสงเครำะห์แห่งประเทศไทย สมำคมนัก
สงั คมสงเครำะห์แห่งประเทศไทย, คณะสงั คมสงเครำะห์ศำสตร์ มหำวิทยำลัยธรรมศำสตร์, สภำสตรี
แห่งชำติ และมูลนธิ ศิ ำสตรำจำรยป์ กรณ์ องั ศุสงิ ห์ เม่อื วันท่ี ๑๘ กรกฎำคม พ.ศ.๒๕๒๔ โดย ฯพณฯ
นำยสญั ญำ ธรรมศกั ด์ิ ประธำนองคมนตรี ได้เป็นผู้ถวำยโล่รำงวัลดเี ด่นประจำสำขำ เพ่ือสรรเสริญ
เกยี รติคุณณหอประชุมกองทพั บก

พ.ศ.๒๕๒๕

- ได้รับเลือกให้เป็นผู้มคี วำมอตุ สำหะวิริยะ นำพระภิกษุสำมเณร อบุ ำสกอบุ ำสกิ ำ ศิษยำนุ
ศษิ ย์กระทำกำรพัฒนำวัดถึงข้ันสำเรจ็ ผลท้งั สถำนท่ี บุคคล และกจิ กรรม อำนวยผลสถติ ยสถำพรแก่
บวรพระพทุ ธศำสนำ ตำมโครงกำรพัฒนำวัดทว่ั รำชอำณำจกั รของรัฐบำลโดยกรมกำรศำสนำ สมเดจ็
พระอริยวงศำคตญำณ สมเดจ็ พระสงั ฆรำช สกลมหำสงั ฆปริณำยก (วำสน์ วำสโน) สมเดจ็
พระสงั ฆรำชพระองค์ท่ี ๑๘ แห่งกรงุ รัตนโกสนิ ทร์ ทรงพอพระทยั จึงได้ประทำน “ประกำศนียบัตร
พัฒนำและวัดพัฒนำ” ไว้เพ่ือเชิดชูเกยี รติของพระพุทธพจนวรำภรณ์ (จันทร์ กุสโล) เม่ือคร้ังดำรง
สมณศกั ด์ิเป็น พระธรรมดลิ ก เม่อื วันท่ี ๒๖ พฤษภำคม พ.ศ.๒๕๒๕ ท้งั น้เี พ่ือเป็นตวั อย่ำงแก่วัด
พระพุทธศำสนำในรำชอำณำจกั รไทยสบื ต่อไป

พ.ศ.๒๕๒๘

- ได้รับกำรถวำยโล่เกยี รติคุณ เพ่ือยกย่องและประกำศเกยี รติคุณในผลสำเรจ็ ของกำรพัฒนำ
หมู่บ้ำน และชุมชน ตำมอดุ มกำรณ์ “แผ่นดินธรรม-แผ่นดินทอง” จำกคณะกรรมกำรเอกลักษณ์ของ
ชำติ “แผ่นดินธรรม-แผ่นดินทอง คร้ังท่ี ๒” ซ่ึงจัดข้นึ ในระหว่ำงวันท่ี ๑ พฤษภำคม พ.ศ.๒๕๒๘ โดย
ฯพณฯ พลเอกประจวบ สนุ ทรำงกูร รองนำยกรัฐมนตรี ประธำนคณะกรรมกำรเอกลักษณข์ องชำติ
เป็นผู้ถวำยโล่รำงวัลประกำศเกยี รติคุณ

พ.ศ.๒๕๓๐

- ได้รับกำรถวำยปริญญำศิลปศำสตร์บัณฑติ กติ ตมิ ศักด์ิ สำขำพัฒนำชุมชน คณะวิชำ
มนุษยศำสตร์และสงั คมศำสตร์ ปี กำรศึกษำ พ.ศ.๒๕๒๙ จำกกำรอนุมตั ิของสภำกำรฝึกหัดครู เม่ือ
วันท่ี ๑๑ กุมภำพันธ์ พ.ศ.๒๕๓๐ ตำมคำเสนอขอของสหวิทยำลัยล้ำนนำวทิ ยำลัยครูเชียงใหม่ โดยมี
อธบิ ดีกรมกำรฝึกหัดครูเป็นผู้ถวำยปริญญำดงั กล่ำว เม่ือวันท่ี ๒๗ มีนำคม พ.ศ.๒๕๓๐ เพรำะได้
พิจำรณำเหน็ ว่ำ

“พระธรรมดิลก (จนั ทร์ กุสโล) เป็นบุคคลหรือพระภิกษุสงฆซ์ ่ึงถึงพร้อมด้วยคุณธรรมควำม
ดี และมีควำมซ่ือสตั ย์ เป็นท่เี ล่ือมใสศรัทธำของประชำชน และศิษยำนุศิษย์ อย่ำงกว้ำงขวำง เป็นผู้
ทุม่ เทกำลังกำยกำลังใจ และสตปิ ัญญำให้กบั งำนด้ำนสงั คมสงเครำะห์ ก่อให้เกดิ ประโยชนแ์ ก่สงั คม
นำนัปกำร จนเป็นท่รี ู้จกั และยอมรับกนั อย่ำงกว้ำงขวำงท้งั ชำวไทยและชำวต่ำงประเทศ เป็นตัวอย่ำง
แห่งกำรครองตน ครองคน และครองงำน สมควรท่คี นท้งั หลำยจะได้ถือเป็นเย่ียงอย่ำง ไม่ว่ำจะเป็นใน
ด้ำนให้กำรศกึ ษำอบรมทำงด้ำนจิตใจ กำรจัดต้งั มูลนิธศิ ึกษำพัฒนำชนบท ด้วยควำมเป็นผู้มเี มตตำจิต
สงู และนึกถึงประชำชนท่ยี ำกจนในท้องถ่นิ ชนบท ซ่ึงด้อยโอกำสในด้ำนกำรศกึ ษำ กำรพัฒนำตนเอง
ตลอดจนโครงกำรพัฒนำชนบทในรปู แบบต่ำงๆ ช่วยช้ีนำกำรดำเนินชีวิตแก่บุคคล สรรค์สร้ำงเอกสำร
เผยแพร่ทำงศีลธรรม เป็นบุคคลตัวอย่ำงท่คี วรช่ืนชมยนิ ดี สมควรแก่กำรยกย่องเป็นอย่ำงย่ิง ผลงำน
ท้งั หลำยของทำ่ นทรงคุณค่ำ จนไม่อำจประเมิณเปรียบเทยี บกบั ส่งิ ใดได้ นับเป็นผลงำนดีเด่นในด้ำน
กำรเผยแผ่พระพทุ ธศำสนำ ส่งเสริมกำรศึกษำ กำรพัฒนำชุมชนแก่ประชำชน และสงั คม จนเป็นท่ี
ประจกั ษ์ชัดแก่ประชำชนชำวไทยและชำวต่ำงประเทศ ต่ำงกย็ อมรับและนับถอื ศรัทธำโดยท่วั กนั ”

พ.ศ.๒๕๓๒

- ได้รับกำรยกย่องและคัดเลือกให้ได้รับรำงวัลผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพทุ ธศำสนำ ประเภท
ส่งเสริมและพัฒนำชุมชนโดยใช้หลักธรรมทำงพระพทุ ธศำสนำ โดยคณะกรรมกำรจดั งำนสปั ดำห์
ส่งเสริมพระพุทธศำสนำ เน่อื งในวันวิสำขบูชำ ประจำปี พทุ ธศกั รำช ๒๕๓๒ ในพระสงั ฆรำชูปถมั ภ์ ซ่ึง
ได้รับกำรมอบหมำยจำกสมเดจ็ พระญำณสงั วร สมเดจ็ พระสงั ฆรำช สกลมหำสงั ฆปริณำยก (เจริญ สวุ
ฑฒฺ โน) ประธำนคณะกรรมกำรจดั งำนฝ่ ำยบรรพชิต และพลเอกเชำวลิต ยงใจยุทธ ผู้บญั ชำกำร
ทหำรบก รักษำกำรผู้บัญชำกำรทหำรสงู สดุ ประธำนคณะกรรมกำรจดั งำนฝ่ ำยคฤหัสถ์, สมเดจ็
พระเทพรัตนรำชสดุ ำฯ สยำมบรมรำชกุมำรี เสดจ็ มำพระรำชทำนรำงวัลท่กี องอำนวยกำร บริเวณปะรำ
พิธที ้องสนำมหลวง กรุงเทพฯ ในวันเสำร์ท่ี ๑๓ พฤษภำคม พ.ศ.๒๕๓๒ เพ่ือเป็นกำรเชิดชูเกยี รติท่ี
พระพทุ ธพจนวรำภรณ์ (จันทร์ กุสโล) เม่ือคร้ังดำรงสมณศกั ด์ิเป็น พระธรรมดลิ ก เป็นตัวอย่ำงอนั ดี
แก่สงั คมและเยำวชนของชำติ และช่วยส่งเสริมสนบั สนุนงำนเผยแผ่พระพุทธศำสนำให้ม่ันคงสถำพร
สบื ไป

- ได้รับกำรยกย่องให้เป็นพระสงฆน์ ักพัฒนำดเี ด่น ประจำปี พ.ศ.๒๕๓๒ จำกกำรสรรหำและ
คัดเลือกของคณะกรรมกำรมูลนิธสิ มำน-คุณหญิงเบญจำ แสงมลิ สำหรับผู้มีผลงำนดีเด่นใน ๔ สำขำ
คือ ครสู อนภำษำไทย, ครสู อนสงั คมศึกษำ, ผู้บริหำรกำรศึกษำ และพระสงฆน์ กั พัฒนำ โดยทำงมูลนธิ ิ
ฯ ได้ประกำศเกยี รติคุณท่พี ระธรรมดลิ ก ได้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศำสนำ และสนับสนุน
ส่งเสริมกำรพัฒนำชุมชน โดยใช้หลักธรรมทำงพระพทุ ธศำสนำอย่ำงต่อเน่อื งถึงปัจจุบนั สมเดจ็
พระเทพรัตนรำชสดุ ำฯ สยำมบรมรำชกุมำรี ทรงพระกรุณำโปรดเกล้ำฯ ให้ผู้มผี ลงำนท้งั ๔ สำขำ เข้ำ
เฝ้ ำฯ รับพระรำชทำนรำงวัลประกำศเกยี รตคิ ุณบัตร เขม็ ท่รี ะลึกเชิดชูเกยี รติ พัด ย่ำม ฯลฯ ณ
พระรำชวังสวนจิตรลดำเม่อื วันท่๗ี สงิ หำคมพ.ศ.๒๕๓๒

- ได้รับปริญญำศลิ ปศำสตร์ดุษฎบี ณั ฑติ กติ ตมิ ศักด์ิ สำขำมนุษยศำสตร์ คณะมนุษยศำสตร์
จำกมหำวิทยำลัยเชียงใหม่ เม่ือวันท่ี ๑๗ ธนั วำคม พ.ศ.๒๕๓๒ นบั เป็นพระสงฆอ์ งค์แรกของประเทศ
ไทย ท่สี ภำมหำวิทยำลัยเชียงใหม่ได้ลงมติเป็นเอกฉันทใ์ นเกยี รตคิ ุณและผลงำนของพระพทุ ธพจนวรำ
ภรณ์ (จันทร์ กุสโล) เม่ือคร้ังดำรงสมณศกั ด์เิ ป็น พระธรรมดลิ ก ท่สี มควรยกย่องให้ปรำกฏ ไม่ว่ำจะ
เป็นกำรอุทศิ ตนเพ่ือผลงำนพัฒนำตัวมนุษย์ สงั คมชนบท และชำวเมอื ง ตลอดจนกำรประยุต์
หลักธรรมคำส่งั สอนเพ่ือปรับปรงุ วิถีชีวิตของคนไทย โดยเฉพำะคนชนบทท่ยี ำกจนไปส่เู ป้ ำหมำยของ
กำรพ่ึงตนเองได้อย่ำงสมั ฤทธ์ผิ ลในลักษณะท่ยี ่ังยืน

พ.ศ.๒๕๓๓

- กรมกำรศึกษำนอกโรงเรียน กระทรวงศกึ ษำธกิ ำร มอบประกำศเกยี รติคุณให้เป็นเกยี รตแิ ด่
“มูลนธิ ศิ ึกษำพัฒนำชนบท” ท่ไี ด้ให้ควำมร่วมมอื อย่ำงดีย่ิงในกำรเผยแพร่ผลงำนขององคก์ ร เน่ืองใน
โอกำสประชุมสมชั ชำสำกลว่ำด้วยกำรศึกษำผู้ใหญ่ คร้ังท่ี ๔ ในระหว่ำงวันท่ี ๑๐-๑๑ มกรำคม ๒๕๓๓
ให้ไว้ณวันท่๘ี กนั ยำยน๒๕๓๓

- ศูนยส์ ่งเสริมพระพุทธศำสนำ และฟ้ื นฟูขนบธรรมเนียมประเพณีไทย โดยสมเดจ็ พระธรี
ญำณมุนี (สนิท เขมจำรี ป.ธ.๙) วัดปทุมคงคำ เขตสมั พันธวงศ์ กรุงเทพฯ ได้ยกย่องประกำศเกยี รติ
คุณคนดสี ร้ำงสรรค์สงั คม ร่วมมอื ในศำสนกจิ แก่ตนและส่วนรวม เป็นแบบอย่ำงอนั ดงี ำมแด่สำธุชน
ตำมนโยบำยของศูนย์ส่งเสริมพระพทุ ธศำสนำ และฟ้ื นฟูขนบธรรมเนยี มประเพณไี ทย ในวันท่ี ๑๙
พฤศจิกำยน๒๕๓๓

พ.ศ.๒๕๓๔

- ได้รับประกำศนยี บัตรชมเชย ในกำรรักษำส่งิ แวดล้อมของวัดป่ ำดำรำภิรมย์ดีเด่น จำก
สำนกั งำนคณะกรรมกำรส่งิ แวดล้อมแห่งชำติ

- ได้รับกำรถวำยประกำศเกยี รตคิ ุณ ในด้ำนมสี ำธณปู โภคดีเด่น ประจำปี พทุ ธศกั รำช ๒๕๓๔
จำกคณะสงฆจ์ ังหวัดเชียงใหม่

พ.ศ.๒๕๓๕

- ได้รับปริญญำพัฒนบริหำรศำสตร์ดุษฎบี ณั ฑติ กติ ตมิ ศกั ด์ิ จำกสถำบนั บณั ฑติ พัฒนบริหำร
ศำสตร์ (นิด้ำ) เม่ือวันท่ี ๒๒ มถิ ุนำยน พ.ศ.๒๕๓๕ ด้วยกำรยอมรับและยกย่องในเกยี รตคิ ุณและ
ผลงำนเชิงพัฒนำ ซ่ึงเป็นท่ปี ระจกั ษ์ชัดและแพร่หลำยของพระพุทธพจนวรำภรณ์ (จันทร์ กุสโล) เม่ือ
คร้ังดำรงสมณศักด์เิ ป็นพระธรรมดิลกท้งั ในประเทศและระหว่ำงประเทศ

- กระทรวงศึกษำธกิ ำร ได้ยกย่องประกำศเกยี รติคุณแด่มูลนิธศิ กึ ษำพัฒนำชนบท ในฐำนะ
องคก์ รเอกชนดีเด่น ท่จี ัดกจิ กรรมกำรศึกษำนอกโรงเรียนประจำปี ๒๕๓๕ ประเภทองคก์ รหรือ
สถำบนั เพ่ือสำธำรณประโยชน์ในวันท่๘ี กนั ยำยน๒๕๓๕

- มูลนิธศิ ำสตรำจำรยป์ ระภำศน์ อวยชัย เพ่ือกำรสงั คมสงเครำะห์และกำรพัฒนำสงั คม ถวำย
โล่เกยี รตคิ ุณ ในฐำนะผู้มีผลงำนดีเด่นในด้ำนกำรพัฒนำสงั คม ได้บำเพญ็ ประโยชน์ต่อประชำชน
สงั คม และประเทศชำติ ควรแก่กำรยกย่องและถอื เป็นแบบฉบบั ในวันท่ี ๑๘ ตลุ ำคม ๒๕๓๕

- กระทรวงศึกษำธกิ ำร ถวำยโล่เกยี รติคุณให้ไว้เพ่ือแสดงว่ำ พระพุทธพจนวรำภรณ์ (จนั ทร์
กุสโล) เม่ือคร้ังดำรงสมณศกั ด์เิ ป็น พระธรรมดลิ ก จัดบริหำรส่งเสริมสนับสนุนแนะนำและพัฒนำวัด
ให้เป็นอทุ ยำนกำรศึกษำจงั หวัดเชียงใหม่ในวันท่๑ี ๐มิถุนำยน๒๕๓๖

- มูลนิธอิ นุสรณ์หม่อมงำมจติ ต์ บุรฉัตร ถวำยโล่รำงวัลแด่ศูนย์ศึกษำพัฒนำชนบท มูลนธิ ิ
ศึกษำพัฒนำชนบท ในฐำนะองคก์ รเอกชนท่มี ผี ลงำนดเี ด่น ด้ำนส่งเสริมกำรพัฒนำชนบท ประจำปี
๒๕๓๖ในวันท่๑ี ๘ตลุ ำคม๒๕๓๖

พ.ศ.๒๕๓๘

- พระบำทสมเดจ็ พระเจ้ำอยู่หัวฯ ทรงพระกรณุ ำโปรดเกล้ำฯ พระรำชทำนโล่รำงวัล “มหิดลว
รำนุสรณ์” แก่สภำสงั คมสงเครำะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมรำชูปถมั ภ์ เพ่ือถวำยแด่พระพทุ ธ
พจนวรำภรณ์ (จันทร์ กุสโล) เม่ือคร้ังดำรงสมณศักด์เิ ป็น พระธรรมดิลก ในฐำนะผู้ได้บำเพญ็
คุณประโยชน์ต่อประชำชน สงั คม และประเทศชำติ ควรแก่กำรยกย่องและถือเป็นแบบฉบับ ถวำยใน
โอกำส“วันมหิดล”ณวันท่๒ี ๔กนั ยำยน๒๕๓๘

-มหำวิทยำลัยเกษตรศำสตร์แม่โจ้ถวำยปริญญำเทคโนโลยีกำรเกษตรดุษฎบี ัณฑติ กติ ตมิ ศกั ด์ิ
สำขำวิชำกำรวำงแผนและพัฒนำชนบทประจำปี กำรศกึ ษำ๒๕๓๘

- ได้รับกำรถวำยรำงวัลศลิ ปิ นแห่งชำติ บุคคลผุ้มีผลงำนทำงด้ำนวัฒนธรรมดีเด่น สำขำภมู ิ
ปัญญำชำวบ้ำนประจำปี ๒๕๓๘จำกสำนักงำนคณะกรรมกำรวัฒนธรรมแห่งชำติ

การมรณภาพ

พระพุทธพจนวรำภรณ์ (จนั ทร์ กุสโล) ได้มรณภำพลงอย่ำงสงบด้วยโรคถุงลมโป่ งพอง และ
โรคปอด เม่ือวันท่ี ๑๑ กรกฎำคม พ.ศ.๒๕๕๑ เวลำประมำณ ๑๘.๓๕ นำฬิกำ หลังจำกรักษำอำกำร
อำพำธมำเป็นเวลำนำน โดยคณะแพทยจ์ ำกโรงพยำบำลมหำรำชนครเชียงใหม่ได้ย้ำยกำรรักษำจำก
โรงพยำบำลมหำรำชนครเชียงใหม่ มำถวำยกำรรักษำอยู่ ณ กุฏจิ ันทร์ กุสโล ภำยในวัดเจดีย์หลวง
วรวิหำร ต้งั แต่วันท่ี ๒๗ มถิ ุนำยน พ.ศ.๒๕๕๑ เป็นต้นมำจวบจนวำระสดุ ท้ำยของชีวิต สริ ิอำยุรวมได้
๙๑ ปี พรรษำ ๗๑ ทำ่ มกลำงควำมโศกเศร้ำอำลัยเป็นย่งิ นกั ของบรรดำคณะสงฆ์ คณะศิษยำนุศษิ ย์
และสำธุชนท่วั ไปท่ไี ปเคำรพศพอย่ำงเนอื งแน่น

คดั ลอกลงิ ค์ https://shorturl.asia/LBzDd

ประมวลภาพพระพทุ ธพจนวราภรณ์
(หลวงปู่จนั ทร์ กสุ โล)
















Click to View FlipBook Version