E-BOOK-APP
ประวัติศาสตร์
เรื่องสงครามโลกครั้งที่2
รายวิชาประวัติศาสตร์
นาย.เอกพศิษฐ์ กรเพชร ม.3/2
สารบัญ
-ความสำคัญ -เทคโนโลยี
-ความสัมพันธ์ -ผู้จัดทํา
บทที่1 ความสําคัญ
สงครามโลกครั้งที่หนึ่งนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงดินแดนอย่างใหญ่หลวง
ในยุโรป ด้วยความพ่ายแพ้ของฝ่ายมหาอำนาจกลาง รวมทั้งการล่มสลาย
ของรัฐจักรวรรดิที่สำคัญ ได้แก่ จักรวรรดิเยอรมัน จักรวรรดิออสเตรีย-
ฮังการี และจักรวรรดิออตโตมัน ตลอดจนจักรวรรดิรัสเซีย ขณะเดียวกัน
ความสำเร็จของฝ่ายสัมพันธมิตร ซึ่งประกอบด้วยสหราชอาณาจักร
ฝรั่งเศส สหรัฐอเมริกา อิตาลี เซอร์เบียและโรมาเนีย รวมไปถึงการก่อตั้ง
รัฐใหม่หลังจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี รัสเซียและออตโตมันล่มสลาย
หลังสงคราม ชาตินิยมอุดมการณ์เรียกร้องดินแดน (IRREDENTISM)
และลัทธิแก้แค้น (REVANCHISM) กลายมามีความสำคัญในหลาย
ประเทศยุโรป อุดมการณ์เรียกร้องดินแดนและลัทธิแก้แค้นแรงกล้ามาก
ในเยอรมนี เพราะเยอรมนีบังคับตามสนธิสัญญาแวร์ซายเป็นผลให้
เยอรมนีเสียดินแดนของประเทศไปร้อยละ 13 รวมทั้งอาณานิคมโพ้น
ทะเลทั้งหมด การรวมเยอรมนีเข้ากับประเทศอื่นถูกห้าม ซ้ำต้องแบก
ภาระชำระค่าปฏิกรรมสงครามมหาศาล และถูกจำกัดขนาดและขีดความ
สามารถของกองทัพอย่างมากขณะเดียวกัน สงครามกลางเมืองรัสเซียได้
นำไปสู่การก่อตั้งสหภาพโซเวียต นำโดยพรรคบอลเชวิค ภายใต้การ
ปกครองระบอบคอมมิวนิสต์
บทที่2 ความสําคัญ
ในยุคนั้น รถถังถือว่ามีบทบาทมากในเฉพาะสมรภูมิทางด้านยุโรปและในแอฟริกาเหนือ
ซึ่งรถถังที่สำคัญในสมัยนั้นก็มี รถถังทีเกอร์, พันท์เซอร์ ของนาซีเยอรมนี รถถัง T-34
ของสหภาพโซเวียต รถถัง M4 เชอร์แมน ของกองทัพสหรัฐฯ โดยที่อัตราการผลิตรถถัง
นั้นทางสหภาพโซเวียตได้มีการผลิตรถถังรุ่น T-34 ที่สูงมาก ซึ่งในแต่ละวันนั้นผลิดได้
60-70 คัน และมีอานุภาพการทำลายล้างสูง(ในระยะกลาง-ใกล้) จนกระทั่งสงครามสิ้น
สุด ก็ยังมีประจำการอยู่ประมาณ 50,000 คัน ส่วนของกองทัพสหรัฐฯ เองแม้จะมีอัตรา
การผลิตสูงก็ตาม แต่อานุภาพการทำลายล้างยังด้อยกว่ารถถังทีเกอร์กับรถถังพันท์
เซอร์(หลังได้มีการเปลื่ยนปืนเป็ยขนาด76มม.ทำให้สามารถได้สูสีขึ้น) เพราะจำนวนมาก
นี่เอง ที่ทำให้กองทัพสหรัฐฯและฝ่ายพันธมิตรสามารถเอาชนะกองทัพเยอรมันได้ ส่วน
กองทัพเยอรมันแม้ว่าจะมีรถถังที่ทรงอานุภาพมากก็ตาม แต่อัตราการผลิตยังถือว่าน้อย
มาก เพราะผลิตออกมาเพียงรุ่นละไม่เกิน 4,500 คันเมื่อเทียบกับ 2 ประเทศยักษ์ใหญ่
แล้ว เนื่องจากอุตสาหกรรมการผลิตอาวุธของเยอรมันในสมัยนั้นยังเป็นการผลิตในระยะ
สั้น จึงทำให้สามารถผลิตรถถังออกมาได้ไม่มาก ส่วนทางญี่ปุ่นนั้น จะไม่ค่อยเน้นการ
ผลิตรถถังเสียเท่าไหร่เนื่องจากทุกๆแนวรบไม่จำเป็นจะต้องใช้รถถัง การรบในจีน รถถัง
ของญี่ปุ่นเป็นต่อกองกำลังรถถังของจีน เนื่องด้วยความทันสมัยของรถถังจำนวน และ
ความสามารถของพลขับรถถังที่เก่งกว่า ซึ่งได้รับการพิสูจน์ในหลายๆที่แล้วว่า พลรถถัง
ของจีนยังถูกฝึกให้มีความสามารถสู้พลขับรถถังของญี่ปุ่นไม่ได้ จึงไม่นิยมผลิตรถถัง
จำนวนมาก การรบในแปซิฟิค ด้วยสภาพภูมิประเทศส่วนมากในแปซิฟิคเป็นป่า ยาน
ขนส่งทำการรบในป่าได้ลำบาก และส่วนมากจะรบในป่ามากกว่าที่โล่ง จีงเห็นได้ชัดว่า
ญี่ปุ่นไม่ค่อยใช้รถถังในภูมิภาคนี้มากสักเท่าไหร่ การต่อสู้กับรถถังอเมริกัน ญี่ปุ่นเห็นควร
ว่าน่าจะใช้ปืนยิงใหญ่ยิงใส่มากกว่าใช้รถถังเข้าสู้ เพราะรถถังญี่ปุ่นสู้ไม่ได้ และจำนวนยัง
น้อยกว่า เหล็กส่วนมากมักนำไปผลิตเครื่องบินกับเรือเสียส่วนมาก แต่ก็เหมาะสมต่อ
กองทัพญี่ปุ่นอยู่
แหล่งอ้างอิง
วิกิพีเดีย
https://th.m.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AA%
E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%
B2%E0%B8%A1%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%
B8%81%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E
0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B
5%E0%B9%88%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%
B8%87
ผู้จัดทำ
นาย.เอกพศิษฐ์ กรเพชร ม.3/2 เลขที่11
ชื่อเล่นดิว อายุ15ปี
โรงเรียนภูบดินทร์พิทยาลัย