คำอธิบายรายวชิ า ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5
จำนวน 1 หนว่ ยกติ
กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2565
รหัสวชิ า ว 30113 รายวิชา วิทยาการคำนวณ 2
จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
ศกึ ษาหลกั การของวทิ ยาการข้อมลู และหลกั การคดิ เชิงออกแบบเพอ่ื เพ่ิมมลู ค่าให้บริการหรอื
ผลติ ภัณฑ์ วธิ ีการเก็บขอ้ มูลและเตรียมข้อมูล การวเิ คราะหข์ ้อมูล การประมวลผลข้อมลู เครอื่ งมือทาง
เทคโนโลยี สารสนเทศทใ่ี ชใ้ นการประมวลผลขอ้ มลู การจดั เกบ็ ขอ้ มูล การนำเสนอข้อมูล การแปลงข้อมลู ให้
เปน็ ภาพ การเลือกใช้ขอ้ มลู จากฐานขอ้ มูลขนาดใหญ่ การใช้ประโยชนจ์ ากข้อมลู และตวั อยา่ งกรณศี ึกษา
รหัสตวั ชว้ี ัด
ว. 4.2 เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) รวบรวม วิเคราะหข์ อ้ มลู และใช้ความรู้ด้านวิทยาการคอมพิวเตอรส์ ือ่
ดิจิทัล เทคโนโลยสี ารสนเทศ ในการแกป้ ัญหาหรือเพมิ่ มูลคา่ ให้กบั บริการหรอื ผลิตภัณฑท์ ่ีใชใ้ นชวี ิตจริงอย่าง
สรา้ งสรรค์
รวมทงั้ หมด 1 ตัวช้วี ัด
โครงสรา้ งรายวิชา ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 5
จำนวน 1 หนว่ ยกติ
กลุม่ สาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2565
รหสั วิชา ว 30113 รายวชิ า วิทยาการคำนวณ 2
จำนวน 2 ชว่ั โมง/สัปดาห์
ลำดับ หน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐานการ สาระสำคัญ เวลา น้ำหนกั
ที่ เรยี นร้/ู ตวั ชีว้ ัด (ชม.) คะแนน
1 ขอ้ มูลมคี ุณค่า ยคุ ของขอ้ มูลและสารสนเทศ เป็นยคุ ของการใช้ 6
ข้อมูลใกล้ตัว ว 4.2 ข้อมูลทีม่ ีอยจู่ ำนวนมหาศาล มาสร้างมลู คา่ ใหเ้ กิด 2 20
2 ประโยชนก์ ับบุคคลหรือองคก์ ร
รู้จักกบั ว 4.2 วิทยาการขอ้ มูล เปน็ การศึกษาถงึ กระบวนการ 2 30
3 วทิ ยาการข้อมูล วธิ ีการ หรือเทคนิคทจี่ ะนำขอ้ มูลจำนวนมหาศาล
ว 4.2 มาประมวลผล เพ่อื ใหไ้ ดอ้ งค์ความรู้ 2 20
แนวคดิ เชิง การใช้วิทยาการข้อมูลให้เกิดประโยชน์สงู สดุ ต่อ 8
ออกแบบ ผใู้ ช้งานน้นั ตอ้ งอาศัยแนวคิดเชงิ ออกแบบ
การเกบ็ รวบรวม 6
และสำรวจ แหลง่ ข้อมลู การพิจารณาความเหมาะสมของ 2
ข้อมูล ข้อมลู และการจัดเตรียมข้อมลู
การรวบรวม เปน็ การทำความเขา้ ใจเพือ่ พจิ ารณาภาพรวมของ 12
ขอ้ มลู ขอ้ มูล เช่นข้อผิดพลาดหรือปญั หาจากการตัง้ 4
การสำรวจขอ้ มูล คำถาม 4
การวเิ คราะห์ เป็นการวิเคราะห์ขัน้ พื้นฐานที่ทำใหเ้ ห็นภาพรวม 4
ข้อมลู ของข้อมูลและความสัมพันธ์ของข้อมลู
การวิเคราะห์เชิง เปน็ การใช้ขอ้ มลู ในอดตี มาวิเคราะห์หา
พรรณนา ความสัมพันธ์ระหวา่ งชดุ ขอ้ มูลและสร้าง
การทำนายเชิง แบบจำลองในการทำนายให้ผลลัพธเ์ ปน็ ตวั เลข
ตวั เลข เป็นการทำนายข้อมลู ทไี่ ม่ใชต่ วั เลข ซึ่งจะใช้ขอ้ มลู
ในอดีตทม่ี กี ารระบหุ มวดหมมู่ าแล้ว วเิ คราะหเ์ พ่ือ
การทำนายเชงิ ทำนายข้อมูลชุดใหม่ท่ยี ังไม่ทราบหมวดหมู่
หมวดหมู่
โครงสร้างรายวชิ า ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 5
จำนวน 1 หนว่ ยกิต
กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2565
รหสั วิชา ว 30113 รายวชิ า วทิ ยาการคำนวณ 2
จำนวน 2 ชว่ั โมง/สปั ดาห์
ลำดบั หนว่ ยการเรียนรู้ มาตรฐานการ สาระสำคญั เวลา น้ำหนัก
ท่ี เรยี นรู/้ ตัวช้ีวัด (ชม.) คะแนน
4 การทำขอ้ มูลให้ กระบวนการทำขอ้ มลู ให้เปน็ ภาพ เป็นการจดั การ 14
เปน็ ภาพ ว 4.2 หรอื การแปลงขอ้ มูลให้อยู่ในรูปของแผนภาพ 2 30
การทำข้อมลู ให้ แผนภูมิ หรือกราฟทเี่ หมาะสมกับชุดขอ้ มลู ที่
เปน็ ภาพ ตอ้ งการนำเสนอ 12
เปน็ การนำกระบวนการวทิ ยาการขอ้ มลู มาจัดการ
โครงการ กับข้อมูลขนาดใหญ่จำนวนมหาศาล (Big data)
วิทยาการข้อมลู เพ่อื ใหไ้ ด้ผลลพั ธ์ท่ีนำไปสู่การเพ่ิมมลู คา่ ใหก้ ับ
บริการหรอื ผลติ ภัณฑ์
แผนการจัดการเรยี นรู้
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รหัสวิชา ว 30113 วิชา วิทยาการคำนวณ 2
ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2565
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 ข้อมลู มีคณุ คา่ ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 5
ผสู้ อน นางภาวดิ า บุตรเนียม
เรือ่ ง ข้อมูลมคี ณุ คา่ จำนวน 2 ช่วั โมง
1.ตัวช้วี ัด
รวบรวม วเิ คราะหข์ ้อมูล และใช้ความรูด้ า้ นวทิ ยาการคอมพวิ เตอร์ สอ่ื ดจิ ิทัล เทคโนโลยสี ารสนเทศใน
การแก้ปัญหาหรือเพิม่ มูลคา่ ใหก้ บั บรกิ ารหรือผลติ ภณั ฑท์ ใ่ี ช้ในชีวติ จริงอย่างสรา้ งสรรค์
2. สาระการเรยี นรู้
2.1 ยคุ ของข้อมูลและสารสนเทศ
2.2 ประโยชนห์ รือคุณคา่ ของข้อมลู
3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
3.1 ใช้ประโยชนจ์ ากข้อมลู ทอ่ี ยู่รอบตัว
3.2 ค้นหา และรวบรวมขอ้ มลู จากแหลง่ ขอ้ มูลบนเวบ็ ไซต์เพอื่ แกป้ ญั หา
3.3 ส่ือสารและนำเสนอข้อมูลผลลพั ธใ์ นรปู แบบของตนเอง
4. ทักษะและกระบวนการ
4.1 ทกั ษะการสบื ค้นขอ้ มูล
4.2 ทกั ษะการแกป้ ัญหา
4.3 ทกั ษะการสื่อสารและร่วมมอื
5. ความรเู้ ดมิ ที่นกั เรียนตอ้ งมี
-
6. สาระสำคญั
ยคุ ของข้อมูลและสารสนเทศ เป็นยคุ ของการใชข้ อ้ มลู ทม่ี อี ยู่จำนวนมหาศาล มาสรา้ งมลู ค่าให้เกิด
ประโยชนก์ บั บุคคล หรือองคก์ ร การจะใชป้ ระโยชนจ์ ากข้อมูลเพอ่ื เพมิ่ ประสทิ ธิภาพการทำงาน หรือการใช้
ชวี ติ ของตนเอง จะต้องนำข้อมูลทเี่ กบ็ รวบรวมดว้ ยตนเอง หรอื อาจนำข้อมลู ทุติยภูมิทมี่ ผี ู้รวบรวมหรือสรปุ ไว้
แลว้ มาผา่ นกระบวนการประมวลผลข้อมูลใหเ้ ปน็ สารสนเทศ นอกจากนี้การนำเสนอขอ้ มูลดว้ ยภาพและ
เร่ืองราวบนพื้นฐานของข้อมูล จะทำใหผ้ ูอ้ นื่ เขา้ ใจ เห็นความสำคัญและคณุ คา่ ของข้อมลู
7. ส่อื และอปุ กรณ์
7.1 ใบกิจกรรม
ใบกิจกรรมที่ เรือ่ ง เวลา (นาที)
1.1 ใคร ๆ กส็ ามารถใช้ขอ้ มลู ได้ 45
7.2 ใบความรู้
-
7.3 อ่นื ๆ
8. แนวทางการจัดการเรยี นรู้
8.1 การจัดเตรยี ม
8.1.1 ใบกจิ กรรมที่ 1.1 ใคร ๆ กส็ ามารถใช้ขอ้ มูลได้ ตามจำนวนกลมุ่
8.1.2 แบบประเมินการเรียนรูข้ องตนเอง ตามจำนวนผู้เรยี น
8.2 ขั้นตอนการดำเนินการ
8.2.1 ผสู้ อนนำเข้าสูบ่ ทเรยี นโดยใหผ้ ้เู รียนพจิ ารณาภาพจากคำถามชวนคดิ “รายได้เฉลย่ี ต่อครัวเรอื น”
แล้วถามผเู้ รยี นว่า
“นกั เรียนดภู าพน้แี ลว้ สามารถอธบิ ายสภาพเศรษฐกิจของประเทศไดอ้ ย่างไรบ้าง และหาก
เปน็ ผู้บริหารประเทศจะวางนโยบายในการพัฒนาประเทศอย่างไร”
และชี้ใหน้ ักเรยี นเหน็ ประโยชนข์ องผลลพั ธข์ ้อมลู (data product)
8.2.2 ผเู้ รียนศกึ ษาหวั ขอ้ ที่ 1.1 ยคุ ของขอ้ มลู และสารสนเทศ แลว้ ผู้สอนตั้งคำถามเพือ่ ตรวจสอบความ
เข้าใจ เช่น
* เหตใุ ดขอ้ มูลจงึ มคี า่ ดง่ั นำ้ มันดิบ
* การทีเ่ ราแชรข์ ้อมลู ของตนเอง เช่น ภาพสว่ นตัว อเี มล การโพสต์ขอ้ ความ จะมีผนู้ ำข้อมูล
ของเราไปใช้ประโยชน์ต่อเราอยา่ งไรบา้ ง
8.2.3 แบ่งผูเ้ รยี นออกเปน็ กลมุ่ กลมุ่ ละ 4 คน ผเู้ รียนแต่ละกล่มุ ทำใบกจิ กรรมท่ี 1.1 ใคร ๆ กส็ ามารถ
ใชข้ อ้ มลู ได้
8.2.4 ผสู้ อนให้ผเู้ รียนแตล่ ะกลุม่ ออกมานำเสนอโปรแกรมรักสุขภา และผูเ้ รียนร่วมกนั โหวตว่ากลมุ่ ใด
เล่าเร่อื งราวได้นา่ สนใจ นา่ เชอ่ื ถอื และเข้าใจไดง้ า่ ย
8.2.5 ผู้สอนให้ผู้เรียนชว่ ยกนั ยกตัวอยา่ งเพม่ิ เติมเก่ยี วกบั แนวทางการใช้ข้อมูลเพอื่ เพ่ิมประสิทธิภาพ
ในการทำงาน หรือการใช้ชวี ิตประจำวัน
8.2.6 ผสู้ อนและผู้เรียนรว่ มกันสรุปความรจู้ ากการทำกิจกรรม และการใช้ประโยชนจ์ ากข้อมลู และ
ประเมนิ ตนเองโดยใช้แบบประเมนิ การเรยี นรขู้ องตนเอง
9. การวัดและประเมินผล
9.1 ประเมินจากใบกจิ กรรม
9.2 แบบประเมินการเรียนรู้ของตนเอง
10. ส่อื และแหล่งขอ้ มูล
10.1 https://oorrunningblog.blogspot.com/2014/09/how-long-should-i-run-10k.html
10.2 https://www.lokehoon.com/app.php?q_id=calculate_bmr_tdee
11. ข้อเสนอแนะ
11.1 ผูส้ อนอาจใช้กระดานแสดงความคิดเหน็ ออนไลน์ เชน่ Padlet เพ่ือเกดิ การแลกเปลี่ยนเรยี นรแู้ ละ
กระตนุ้ ความสนใจผเู้ รยี นผ่านสือ่ การสอนในรปู แบบตา่ ง ๆ
11.2 กิจกรรมน้ีตอ้ งการให้นักเรยี นเข้าใจหลักการเบ้ืองต้นของการใชป้ ระโยชนจ์ ากขอ้ มูล และนำเสนอ
ผลลัพธข์ องขอ้ มลู จากความรูเ้ ดิมของผูเ้ รยี น จากน้ันจงึ เช่ือมโยงผู้เรยี นใหเ้ ข้าใจหลกั การของวทิ ยาการขอ้ มลู ใน
การเรียนรู้ครัง้ ตอ่ ไป
แผนการจดั การเรยี นรู้
กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รหสั วชิ า ว 30113 วิชา วิทยาการคำนวณ 2
ภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา 2565
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 1 ข้อมลู มีคณุ คา่ ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 5
ผสู้ อน นางภาวดิ า บตุ รเนียม
เร่ือง รู้จกั กบั วิทยาการขอ้ มูล จำนวน 2 ชั่วโมง
1.ตวั ชี้วดั
รวบรวม วเิ คราะห์ข้อมูล และใชค้ วามรูด้ ้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ สื่อดจิ ิทลั เทคโนโลยีสารสนเทศใน
การแกป้ ัญหาหรือเพิ่มมลู คา่ ให้กับบริการหรอื ผลติ ภณั ฑท์ ใี่ ชใ้ นชวี ติ จรงิ อย่างสรา้ งสรรค์
2. สาระการเรยี นรู้
2.1 ความหมายและบทบาทของวิทยาการข้อมูล
2.2 หลกั การและกระบวนการวทิ ยาการขอ้ มูล
3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
3.1 สำรวจและเหน็ ตวั อย่างของการใช้วทิ ยาการขอ้ มูลจากแหลง่ เรยี นรู้ หรือเวบ็ ไซตต์ ่าง ๆ
3.2 อธบิ ายความหมายและความสำคัญของวทิ ยาการขอ้ มูล
3.3 อธบิ ายกระบวนการวิทยาการข้อมลู
4. ทกั ษะและกระบวนการ
4.1 ทกั ษะการรูส้ ารสนเทศ
4.2 ทกั ษะการแก้ปัญหา
4.3 ทกั ษะการสอื่ สารและร่วมมือ
5. ความรู้เดิมทน่ี กั เรยี นตอ้ งมี
-
6. สาระสำคญั
“วทิ ยาการขอ้ มลู ” เปน็ การศกึ ษาถงึ กระบวนการ วธิ ีการ หรอื เทคนคิ ทนี่ ำข้อมูลจำนวนมหาศาล มา
ประมวลผล เพ่ือให้ได้องคค์ วามรู้ เข้าใจปรากฎการณ์ สามารถตีความ ทำนายหรือพยากรณ์ คน้ หารปู แบบหรอื
แนวโนม้ จากข้อมูล เพอ่ื นำมาวเิ คราะหต์ อ่ ยอดและแนะนำทางเลอื กท่เี หมาะสมในการตัดสนิ ใจ
กระบวนการวิทยาการข้อมูลประกอบด้วย การตั้งคำถาม การเก็บรวบรวมขอ้ มูล การสำรวจขอ้ มลู
การวิเคราะห์ขอ้ มลู การสือ่ สารและการทำผลลัพธ์ให้เปน็ ภาพ เพ่อื เผยแพร่ขอ้ มลู สผู่ ้ใู ชก้ ลมุ่ เป้าหมาย
7. ส่ือและอปุ กรณ์
7.1 ใบกจิ กรรม
ใบกิจกรรมที่ เรอื่ ง เวลา (นาที)
2.1 ข้อมูลเปลี่ยนมมุ มอง 10
2.2 ข้อมลู ชว่ ยชมุ ชนและโลกอย่างไร 10
2.3 (ก) เวลาของฉนั 50
2.3 (ข) Surprise!!!!
2.3 (ค) ฝน
2.3 (ง) ไดโนเสาร์
7.2 ใบความรู้
-
7.3 อ่นื ๆ
- วีดิทัศน์อาชีพนกั วิทยาศาสตร์ขอ้ มลู โดย Kenan Institute Asia
https://www.youtube.com/watch?v=Au65nEnQEZA
- วีดทิ ัศน์อาชพี นกั วิทยาศาสตร์ข้อมลู โดย สสวท.
https://www.facebook.com/ipst.thai/videos/483657335467347/
- แหลง่ เรยี นรู้ออนไลน์เก่ียวกับวิทยาการขอ้ มูล https://tuvalabs.com
8. แนวทางการจัดการเรยี นรู้
8.1 การจดั เตรยี ม
8.1.1 ใบกิจกรรมท่ี 2.1 ขอ้ มลู เปล่ียนมมุ มอง ตามจำนวนกลมุ่
8.1.2 ใบกจิ กรรมที่ 2.2 ขอ้ มลู ชว่ ยชมุ ชนและโลกอยา่ งไร ตามจำนวนกลุ่ม
8.1.3 ใบกจิ กรรมท่ี 2.3 (ก) เวลาของฉัน
2.3 (ข) Surprise!!!!
2.3 (ค) ฝน
2.3 (ง) ไดโนเสาร์ ตามจำนวนกลุม่
8.1.4 แบบสอบถามนักวิทยาศาสตร์ข้อมูล แบบออนไลน์
8.2 ขน้ั ตอนการดำเนนิ การ
8.2.1 ผู้สอนนำเขา้ สบู่ ทเรยี นโดยเปดิ วีดทิ ศั น์ “นกั วทิ ยาศาสตข์ อ้ มลู ” เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการ
เรยี นรเู้ กี่ยวกบั วทิ ยาการขอ้ มูลให้กับผู้เรียน และต้ังคำถามว่า นักวทิ ยาศาสตรข์ อ้ มลู คอื ใคร ทำหน้าที่เกี่ยวกบั
อะไร รอู้ ะไรเก่ียวกับนักวิทยาศาสตร์ขอ้ มูลบา้ ง
8.2.2 ผู้สอนใหผ้ เู้ รยี นทำแบบสอบถามออนไลน์ เพือ่ ตรวจสอบคุณลกั ษณะการเป็นนกั วทิ ยาศาสตร์
ขอ้ มูลของตนเอง
8.2.3 แบง่ ผเู้ รยี นออกเป็นกล่มุ กลมุ่ ละ 4 คน ศึกษาหัวข้อที่ 1.2 วทิ ยาการข้อมูล และให้แต่ละคนใน
กลุ่มศึกษากรณศี ึกษาคนละ 1 ตวั อย่าง จากนนั้ ให้ผลดั กันเลา่ ให้เพอื่ นในกลมุ่ ฟัง
8.2.4 ผเู้ รยี นในแตล่ ะกล่มุ ช่วยกันทำใบกิจกรรมที่ 2.1 ขอ้ มลู เปล่ียนมมุ มอง และใบกจิ กรรมที่ 2.2
ขอ้ มลู ช่วยชมุ ชนและโลกอยา่ งไร
8.2.5 ผสู้ อนสมุ่ ผ้เู รยี นนำเสนอคำตอบของใบกจิ กรรมท่ี 2.1 และ 2.2 จากนน้ั รว่ มกันสรปุ ความหมาย
บทบาท และความสำคัญของวิทยาการขอ้ มลู
8.2.6 ผู้เรยี นศกึ ษาหัวข้อท่ี 1.3 กระบวนการวิทยาการข้อมลู
8.2.7 ผสู้ อนให้ผูเ้ รยี นแต่ละกลุ่มรว่ มกันทำกิจกรรมเกยี่ วกับแนวคดิ ของวทิ ยาการขอ้ มูล โดยเลือกทำ
เร่ืองใดเรื่องหน่งึ ดงั น้ี
1. ใบกิจกรรมที่ 2.3 (ก) เวลาของฉัน
2. ใบกิจกรรมที่ 2.3 (ข) Surprise!!!!
3. ใบกิจกรรมที่ 2.3 (ค) ฝน
4. ใบกจิ กรรมที่ 2.3 (ง) ไดโนเสาร์
8.2.8 ผู้สอนสมุ่ ผู้เรยี นนำเสนอใบกิจกรรมให้ครบทุกกจิ กรรม และสรุปแนวคิดกระบวนการวทิ ยาการ
ขอ้ มูลรว่ มกบั ผเู้ รยี น
9. การวดั และประเมนิ ผล
9.1 ประเมินจากใบกจิ กรรม
9.2 สังเกตพฤติกรรมจากการทำงานกลมุ่
10. ส่อื และแหล่งขอ้ มลู
10.1 https://www.youtube.com/watch?v=Au65nEnQEZA
10.2 https://www.facebook.com/ipst.thai/videos/483657335467347/
11. ขอ้ เสนอแนะ
11.1 กจิ กรรมนีม้ จี ำนวนใบกจิ กรรมและใชเ้ วลาในการดำเนินการคอ่ นข้างมาก จงึ ควรควบคุมเวลาในการ
ทำกจิ กรรม
11.2 สำหรบั เปา้ หมายของใบกจิ กรรมท่ี 2.3 ต้องการให้นกั เรยี นเขา้ ใจหลักการเบื้องต้นของกระบวนการ
วิทยาการข้อมลู โดยการฝึกปฏิบัตจิ ากกิจกรรม
- ใบกจิ กรรม 2.3 (ก) เวลาของฉนั เปน็ หลกั การเบ้อื งตน้ ของวิธีการวิเคราะหเ์ ชิงทำนายแบบตวั เลข
- ใบกจิ กรรม 2.3 (ข) Surprise!!!! เปน็ หลกั การเบอื้ งตน้ ของวิธีการวิเคราะหเ์ ชิงทำนายแบบ decision
tree
- ใบกิจกรรม 2.3 (ค) ฝน เปน็ หลักการเบื้องตน้ ของวิธีการวิเคราะหเ์ ชงิ ทำนายแบบ K-NN
- ใบกิจกรรม 2.3 (ง) ไดโนเสาร์ เปน็ หลักการเบื้องตน้ ของการทำขอ้ มลู ให้เป็นภาพ (visualization)
แผนการจัดการเรียนรู้
กล่มุ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รหสั วิชา ว 30113 วชิ า วิทยาการคำนวณ 2
ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2565
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 ขอ้ มลู มคี ุณค่า ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ 5
ผ้สู อน นางภาวิดา บุตรเนียม
เรอ่ื ง แนวคดิ เชิงออกแบบ จำนวน 2 ชัว่ โมง
1.ตัวชี้วัด
รวบรวม วิเคราะห์ขอ้ มลู และใชค้ วามรู้ดา้ นวทิ ยาการคอมพิวเตอร์ สอ่ื ดิจทิ ลั เทคโนโลยีสารสนเทศใน
การแกป้ ญั หาหรอื เพ่มิ มลู คา่ ให้กับบรกิ ารหรือผลติ ภัณฑท์ ใ่ี ช้ในชีวิตจรงิ อย่างสร้างสรรค์
2. สาระการเรยี นรู้
2.1 แนวคิดเชิงออกแบบ
2.2 การนำแนวคดิ เชงิ ออกแบบมาใชก้ บั กระบวนการวิทยาการขอ้ มลู
3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
3.1 อธิบายหลกั การของแนวคดิ เชงิ ออกแบบ
3.2 ประยุกตก์ ารคดิ เชงิ ออกแบบกบั วทิ ยาการข้อมลู ในการแกป้ ัญหา
4. ทักษะและกระบวนการ
4.1 ทกั ษะการคดิ เชงิ ออกแบบ
4.2 ทกั ษะการคิดสรา้ งสรรค์
4.3 ทกั ษะการแก้ปญั หา
4.4 ทกั ษะการส่อื สารและรว่ มมือ
5. ความรเู้ ดมิ ที่นักเรียนตอ้ งมี
-
6. สาระสำคญั
การใชว้ ิทยาการขอ้ มลู ให้เกิดประโยชน์สูงสดุ ตอ่ ผู้ใชง้ านนั้น ตอ้ งอาศยั แนวคดิ เชงิ ออกแบบ (design
thinking) หลกั การพื้นฐานของแนวคดิ เชิงออกแบบ ได้แก่ การมองในมมุ มองของผ้ใู ช้ การลองผดิ ลองถกู การ
เรียนรผู้ า่ นการทดลองกบั กล่มุ ผ้ใู ชจ้ ริง การทำซ้ำและปรับปรุง
7. ส่ือและอปุ กรณ์
7.1 ใบกจิ กรรม
ใบกิจกรรมท่ี เรอื่ ง เวลา (นาที)
3.1 คดิ แบบนักออกแบบ 40
3.2 โครงงานวิทยาการข้อมลู ของฉัน 40
7.2 ใบความรู้
ใบความรทู้ ี่ 3.1 เรอ่ื ง เกมเป่ายิงฉบุ
7.3 อน่ื ๆ
- สลากแบง่ กลุ่มผู้เรียน ออกเปน็ กล่มุ ผู้ซ้อื กล่มุ ผู้ขาย และกลุม่ นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล
- บตั รคำถามสำหรับนกั วิทยาศาสตร์ขอ้ มลู ในการสัมภาษณผ์ ูซ้ อ้ื
- บัตรคำถามสำหรบั นกั วิทยาศาสตร์ข้อมลู ในการสัมภาษณผ์ ู้ขาย
- แบบฟอรม์ การเกบ็ ขอ้ มลู ผซู้ ้อื
- แบบฟอรม์ การเกบ็ ข้อมลู ผ้ขู าย
- เกมเปา่ ยงิ ฉุบ กับ Markov
- แบบทดสอบบทท่ี 1 ข้อมลู มคี ณุ ค่า
8. แนวทางการจดั การเรยี นรู้
8.1 การจดั เตรยี ม
8.1.1 ใบกิจกรรมท่ี 3.1 คดิ แบบนักออกแบบ ตามจำนวนกลุ่ม
8.1.2 ใบกจิ กรรมที่ 3.2 โครงงานวทิ ยาการข้อมลู ของฉัน ตามจำนวนกลุ่ม
8.1.3 บตั รคำถามสำหรับนักวิทยาศาสตร์ขอ้ มลู ในการสมั ภาษณ์ผู้ซ้อื ตามจำนวนนกั วทิ ยาศาสตร์ขอ้ มลู
8.1.4 บตั รคำถามสำหรับนกั วิทยาศาสตรข์ อ้ มูลในการสมั ภาษณ์ผู้ขาย ตามจำนวนนักวิทยาศาสตร์
ขอ้ มูล
8.1.5 แบบฟอร์มการเก็บข้อมลู ผซู้ ื้อ ตามจำนวนนักวิทยาศาสตรข์ อ้ มลู
8.1.6 แบบฟอรม์ การเก็บขอ้ มูลผู้ขาย ตามจำนวนนกั วิทยาศาสตร์ข้อมลู
8.1.7 แบบทดสอบบทท่ี 1 ขอ้ มลู มีคุณค่า แบบออนไลน์
8.2 ขั้นตอนการดำเนินการ
8.2.1 ผู้สอนนำเข้าส่บู ทเรียนโดยเปิดเว็บไซต์ CODAP และหาอาสาสมัครเล่นเกม Markov และ
หลงั จากเพ่อื นเลน่ จนจบเกม ผสู้ อนต้ังคำถาม เชน่
- นกั เรยี นคดิ ว่าการเป่ายิงฉุบ ของ Dr.Markov เป็นการสุ่มหรือไม่ เพราะเหตใุ ด
- นกั เรียนคดิ วา่ นักเรียนจะสามารถเปา่ ยงิ ฉุบ ชนะอย่างตอ่ เน่ืองโดยไมแ่ พ้เลยได้หรอื ไม่
- เวบ็ ไซตน์ ี้ช่วยการเรยี นร้วู ิทยาการข้อมลู อยา่ งไร
- ในมมุ มองของนักเรียนคดิ ว่าเว็บไซต์นใ้ี ช้งานงา่ ยหรอื ไม่ มแี นวคดิ การออกแบบอยา่ งไร
- มีจดุ ใดบา้ งในเวบ็ ไซต์น้ีท่ตี ้องปรับปรงุ เพือ่ ชว่ ยใหน้ ักเรยี นเรียนรู้ได้ดขี นึ้
8.2.2 ผู้เรียนศกึ ษาหวั ข้อที่ 1.4 การคดิ เชงิ ออกแบบ สำหรบั วทิ ยาการข้อมลู
8.2.3 แบ่งผู้เรยี นออกเปน็ 3 กล่มุ ได้แก่ (1) กลมุ่ ผซู้ อ้ื (2) กลมุ่ ผูข้ าย (3) กล่มุ นกั วทิ ยาศาสตร์ขอ้ มูล
โดยการจับสลาก
8.2.4 จัดกลุม่ ใหมโ่ ดยให้แตล่ ะกลมุ่ มีผซู้ ้อื 2 คน ผขู้ าย 2 คน และนักวิทยาศาสตรข์ อ้ มลู 2 คน ให้
นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ แสดงบทบาทสมมติตามสลากที่จับได้
8.2.5 ผสู้ อนแจกบตั รคำถามสำหรบั นกั วิทยาศาสตรข์ ้อมลู ในการสมั ภาษณ์ผซู้ อ้ื บตั รคำถามสำหรบั
นกั วทิ ยาศาสตร์ขอ้ มูล ในการสมั ภาษณผ์ ู้ขาย แบบฟอรม์ การเกบ็ ขอ้ มูลผซู้ อ้ื แบบฟอรม์ การเก็บข้อมูลผู้ขาย
ใหแ้ ก่นกั เรยี นทแ่ี สดงบทบาทเปน็ นกั วิทยาศาสตรข์ ้อมลู คนละ 1 ชดุ (1 ชุด ประกอบด้วย 2 บัตรคำถาม และ
2 แบบฟอร์ม)
8.2.6 ผเู้ รียนแต่ละกลุ่มทำใบกจิ กรรมที่ 3.1 คิดแบบนักออกแบบ เพ่อื ฝึกทักษะการคิดเชิงออกแบบ
ให้ได้ส่ิงทีด่ ขี น้ึ เช่น การเพ่มิ มูลค่าใหก้ บั บรกิ ารหรือผลิตภณั ฑ์ โดยนักวิทยาศาสตร์ข้อมลู สัมภาษณ์ผซู้ อ้ื และ
ผู้ขาย ตามบตั รคำถามและกรอกลงในแบบฟอรม์ ขา้ งต้น พรอ้ มทง้ั ออกแบบบริการหรอื ผลิตภณั ฑ์ ลงในใบ
กจิ กรรมที่ 3.1
8.2.7 ให้สมาชิกแต่ละคนของแตล่ ะกลุม่ นำเสนอคำตอบในใบกจิ กรรมท่ี 3.1 ตามบทบาททต่ี นเอง
ไดร้ บั
8.2.8 ผ้สู อนและผเู้ รียนร่วมกันสรุปการใชแ้ นวคิดเชิงออกแบบทเ่ี หมาะสมกับสถานการณ์ในใบ
กิจกรรมที่ 3.1
8.2.9 แบง่ ผู้เรียนออกเปน็ กล่มุ กลุ่มละ 4 คน ทำใบกจิ กรรมท่ี 3.2 โครงงานวิทยาการข้อมลู ของฉัน
โดยใหเ้ ลือกหวั ขอ้ ท่ีแต่ละกลมุ่ สนใจ ในประเดน็ ท่กี ำหนด
8.2.10 ผ้เู รยี นทำแบบทดสอบบทที่ 1 ขอ้ มลู มคี ณุ ค่า เพอื่ ประเมินความเข้าใจ
9. การวดั และประเมินผล
9.1 ประเมินจากใบกิจกรรม
9.2 สังเกตพฤติกรรมจากการทำงานกล่มุ
9.3 แบบทดสอบบทที่ 1 ขอ้ มลู มีคุณคา่
10. ส่ือและแหล่งข้อมูล
10.1 -
10.2 ‐
11. ข้อเสนอแนะ
11.1 ผสู้ อนอาจให้ผู้เรียนศึกษาเวบ็ ไซต์ CODAP เพ่มิ เตมิ โดยใช้ใบความรู้ที่ 3.1 เกมเปา่ ยิงฉุบ เพือ่ ศึกษา
ความร้เู รอ่ื งวิทยาการขอ้ มลู
11.2 เนอื่ งจากผูเ้ รยี นอาจยังไมส่ ามารถเลือกหัวขอ้ โครงงานวิทยาการข้อมูลท่สี นใจ จงึ เป็นไปได้ท่ผี ูเ้ รยี น
อาจมีการเปลย่ี นแปลงหัวข้อของตนเองในภายหลงั ผสู้ อนจึงอาจแนะนำในการเลือกหวั ขอ้ โครงงานของผู้เรียน
อกี ครั้ง เมื่อผ้เู รียนมปี ระสบการณ์จากการเรยี นวชิ านี้มากขึ้น
แผนการจดั การเรยี นรู้
กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รหสั วชิ า ว 30113 วชิ า วทิ ยาการคำนวณ 2
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 2 การเก็บรวบรวมและสำรวจข้อมูล ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2565
เรื่อง การรวบรวมขอ้ มูล จำนวน 6 ชว่ั โมง ผสู้ อน นางภาวิดา บตุ รเนยี ม
1.ตัวช้ีวัด
รวบรวม วิเคราะห์ขอ้ มลู และใชค้ วามรู้ด้านวทิ ยาการคอมพิวเตอร์ สื่อดจิ ิทลั เทคโนโลยีสารสนเทศใน
การแกป้ ญั หาหรอื เพม่ิ มูลค่าใหก้ ับบรกิ ารหรอื ผลิตภณั ฑท์ ใี่ ช้ในชวี ติ จรงิ อย่างสร้างสรรค์
2. สาระการเรยี นรู้
2.1 การรวบรวมข้อมูล
2.2 การจดั เตรยี มขอ้ มลู
3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
3.1 รวบรวมขอ้ มลู ทุติยภูมิตามวตั ถปุ ระสงค์
3.2 เลอื กแหลง่ ขอ้ มูลสาธารณะทเี่ ชอื่ ถือได้
3.3 จดั เตรียมขอ้ มลู ก่อนการประมวลผล
4. ทักษะและกระบวนการ
4.1 ทกั ษะการคิดวเิ คราะห์
4.2 ทกั ษะการรสู้ ารสนเทศ
4.3 ทกั ษะการแก้ปัญหา
5. ความรู้เดมิ ท่ีนักเรยี นต้องมี
5.1 ขอ้ มูลปฐมภมู ิ และการเกบ็ รวบรวมข้อมูลปฐมภมู ิ
5.2 การใช้โปรแกรมสำเรจ็ รปู เช่น โปรแกรมตารางทำงาน หรือการเขยี นโปรแกรมภาษา เช่น
โปรแกรมภาษา R โปรแกรมภาษาไพทอน เพ่ือใช้ในการจัดการขอ้ มลู สรา้ งกราฟ และแผนภูมิ
6. สาระสำคญั
ข้อมลู ทตุ ยิ ภูมทิ ่ีเผยแพร่บนอนิ เทอรเ์ นต็ มอี ยู่หลากหลายรปู แบบ เชน่ xls, xlsx, odp, csv หรอื อยู่
ในรูปแบบรายงานหรือตารางบนเวบ็ ไซต์ แหล่งข้อมูลทุตยิ ภมู ิ เชน่ เว็บไซตใ์ ห้บริการข้อมลู ของสำนกั งาน
พัฒนารัฐบาลดจิ ทิ ัล data.go.th สำนกั งานสถิติแห่งชาติ www.nso.go.th
การพิจารณาความเหมาะสมของแหล่งข้อมลู สามารถใชม้ มุ มองท้ัง 5 ด้าน ไดแ้ ก่ ความทันสมยั ของ
ขอ้ มลู ความสอดคลอ้ งกบั การใชง้ าน ความนา่ เช่อื ถอื ของแหล่งข้อมลู ความถูกตอ้ งแมน่ ยำ และจดุ มงุ่ หมาย
ของแหล่งขอ้ มลู
การจัดเตรยี มข้อมลู (data preparation) เพือ่ เตรยี มพรอ้ มสำหรับการประมวลผล ประกอบด้วย การ
ทำความสะอาดข้อมลู (data cleansing) การแปลงขอ้ มูล (data transformation) และการเชื่อมโยงขอ้ มลู
(combining data)
7. สอ่ื และอปุ กรณ์
7.1 ใบกจิ กรรม
ใบกิจกรรมท่ี เรอื่ ง เวลา (นาท)ี
4.1 ขอ้ มูลตอบโจทย์ 30
4.2 ผจู้ ัดการขอ้ มูล 100
7.2 ใบความรู้
ใบความรทู้ ี่ 3.1 เรื่อง เกมเป่ายงิ ฉุบ
7.3 อื่น ๆ
- วีดโิ อ เรอื่ ง Big data คอื อะไร จำเปน็ ต่อองคก์ รหรอื ไม?่
https://www.youtube.com/watch?v=QuGlZrXPjiI
- ชุดข้อมูลจาก data.programmig.in.th
8. แนวทางการจัดการเรียนรู้
8.1 การจดั เตรยี ม
8.1.1 ใบกิจกรรมท่ี 4.1 ข้อมลู ตอบโจทย์ ตามจำนวนกลุม่
8.1.2 ใบกิจกรรมที่ 4.2 ผู้จัดการข้อมลู ตามจำนวนผู้เรียน
8.2 ข้นั ตอนการดำเนินการ
8.2.1 ผูส้ อนนำเข้าสบู่ ทเรยี นโดยอธิบายเรื่องข้อมูลขนาดใหญ่ หรือ Big Data ซึ่งในปัจจบุ นั มี
ความสำคญั มากตอ่ องค์กรภาครัฐ และเอกชนในการนำข้อมลู ขนาดใหญม่ าช่วยในการวางแผน หรือตดั สนิ ใจ
โดยเปดิ วีดิโอเรื่อง “Big Data คืออะไร จำเปน็ ตอ่ องคก์ รหรือไม่”
8.2.2 ผ้สู อนชแี้ จงเพิม่ เตมิ วา่ สำหรับในระดบั ช้นั ของนักเรียน ให้เข้าใจกระบวนการของการนำขอ้ มูลมา
วเิ คราะห์ อาจไม่จำเป็นตอ้ งใชข้ อ้ มูลขนาดใหญ่ แตน่ ักเรยี นตอ้ งสามารถค้นหาขอ้ มลู เพอ่ื นำมาวเิ คราะห์ และ
ตอบคำถามที่ตนเองสนใจได้ พร้อมทัง้ อธบิ ายจุดประสงคข์ องการเรียนครงั้ นี้
8.2.3 ผูส้ อนอธิบายเรื่องขอ้ มูลทุตยิ ภูมิ และใหผ้ ูเ้ รียนยกตวั อย่างข้อมลู ทตุ ยิ ภูมิ พร้อมทงั้ ระบุ
แหลง่ ขอ้ มูล
แนวการตอบ ตวั อยา่ งเช่น
- ขอ้ มลู จำนวนนกั เรยี น ค้นหาไดจ้ ากฝา่ ยทะเบยี น
- ขอ้ มูลผลการเรยี นของนกั เรียน ค้นหาไดจ้ ากฝ่ายวิชาการ
- ข้อมูลจำนวนประชากรในอำเภอ คน้ หาไดจ้ ากฝ่ายทะเบียนทว่ี า่ การอำเภอ
- ข้อมูลอัตราการทำเกษตรกรรมในอำเภอ ค้นหาได้จากสำนักงานเกษตรอำเภอ
8.2.4 ผเู้ รียนศกึ ษาหัวขอ้ ที่ 2.1 การเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล
8.2.5 ผ้สู อนตงั้ ประเดน็ คำถาม “รายไดเ้ ฉลย่ี ตอ่ ครวั เรือนของจงั หวัดของตนเองและจังหวัดใกล้เคยี ง 5
จังหวัด มีความสมั พนั ธก์ บั ปจั จยั ใดได้บ้าง” ให้ผูเ้ รยี นต้ังประเด็นท่ีสนใจแล้วตัง้ สมมติฐานเกี่ยวกับประเด็นนั้น
แนวการตอบ ตัวอย่างเช่น
- คำถาม : รายได้เฉลีย่ ตอ่ ครัวเรอื นสมั พันธก์ บั อตั ราการว่างงานหรอื ไม่
- สมมติฐาน : ถา้ อัตราการวา่ งงานสูงข้ึนจะทำใหร้ ายได้เฉลย่ี ต่อครวั เรือนต่ำลง
- คำถาม : รายไดเ้ ฉลยี่ ต่อครัวเรอื นมคี วามสมั พนั ธก์ บั จำนวนสมาชกิ ในครวั เรือนหรือไม่
- สมมติฐาน : ถา้ จำนวนสมาชิกในครวั เรือนมาก รายไดเ้ ฉลย่ี ตอ่ ครัวเรือนจะสูงข้ึน
- คำถาม : รายไดเ้ ฉลีย่ มีความสมั พนั ธ์กับจำนวนหนส้ี นิ หรอื ไม่
- สมมติฐาน : ถา้ รายไดเ้ ฉลี่ยต่อครวั เรือนสูงขนึ้ จะมจี ำนวนหนีส้ ินลดลง
8.2.6 ผ้เู รียนคน้ หาขอ้ มูลทตุ ยิ ภูมขิ องปัจจยั ท่ีนักเรียนเลือกในการตอบประเด็นในข้อ 8.2.5 โดย
แนะนำผ้เู รยี นเพ่มิ เติมว่า ควรจะหาข้อมลู ทมี่ คี ่าเป็นตวั เลข เพอื่ ใหส้ ามารถนำไปใชใ้ นการวเิ คราะห์ข้อมลู ต่อได้
พรอ้ มทั้งบนั ทึกไฟลท์ ีส่ ืบคน้ ไว้ในเคร่อื งคอมพวิ เตอรข์ องตนเอง
8.2.7 ผูเ้ รียนแตล่ ะกลมุ่ ทำใบกิจกรรมท่ี 4.1 ข้อมลู ตอบโจทย์ แล้วนำเสนอความเหมาะสมของ
แหลง่ ข้อมลู ที่ผเู้ รยี นไดส้ บื คน้ มา
8.2.8 ผู้สอนและผเู้ รียนรว่ มกนั สรุปกิจกรรมท่ี 4.1
8.2.9 ผเู้ รยี นศึกษาหวั ขอ้ ท่ี 2.2 การเตรียมข้อมลู (data preparation)
8.2.10 ผสู้ อนถามผเู้ รียนจากคำถามชวนคิด “การตรวจสอบข้อมลู ระเบียนผปู้ ่วยของโรงพยาบาลแหง่
หน่ึง” ในหวั ขอ้ 2.2.1 การทำความสะอาดข้อมูล โดยใหผ้ เู้ รียนรว่ มกนั หาข้อผดิ พลาดของขอ้ มูล และอธิบาย
เหตผุ ล
8.2.11 ผเู้ รียนแต่ละคนทำใบกิจกรรมที่ 4.2 ผ้จู ัดการขอ้ มลู จากเว็บไซต์ data.programming.in.th
8.2.12 ผสู้ อนและผ้เู รียนรว่ มกนั สรุปกิจกรรมที่ 4.2
9. การวัดและประเมนิ ผล
9.1 ประเมินจากใบกิจกรรม
9.2 สังเกตพฤติกรรมจากการทำงานกล่มุ
10. สือ่ และแหล่งขอ้ มูล
10.1 เวบ็ ไซต์ https://www.youtube.com/watch?v=QuGlZrXPjiI
10.2 เว็บไซต์ data.programmig.in.th
11. ข้อเสนอแนะ
11.1 ในการคน้ หาข้อมูลทตุ ยิ ภูมิ เพอ่ื นำมาใชใ้ นกจิ กรรม ควรแนะนำใหผ้ ู้เรยี นคน้ หาขอ้ มลู ท่เี ป็นตวั เลข
เพอ่ื สามารถนำมาใชใ้ นการวิเคราะหเ์ ชงิ ตัวเลขต่อไป
11.2 ข้อมูลทุตยิ ภูมิในประเทศไทย สว่ นมากเปน็ ขอ้ มูลท่ีสรุปมาแลว้ อาจจะไม่สามารถใช้ในการฝึกเรอ่ื ง
การทำความสะอาดขอ้ มลู และยากต่อการนำมาใชใ้ นการวิเคราะหเ์ ชิงทำนายในบทที่ 3 ส่วนใหญ่จะใช้ได้ใน
การวิเคราะห์เชงิ พรรณนาเพ่ือศึกษาภาพรวมของข้อมูลเทา่ นน้ั นอกจากนี้ในการจัดเตรยี มขอ้ มูลทตุ ิยภมู ิทำได้
ยาก เพราะข้อมูลที่จะสามารถนำมาใช้ได้ อาจมาจากหลายแหลง่ ซ่ึงมรี ปู แบบท่ีแตกต่างกนั ดงั นั้น ผูส้ อนควรให้
คำแนะนำเปน็ ระยะ ๆ และให้เวลาผ้เู รียนในการจดั เตรียมขอ้ มูลเพ่ือตอบคำถามทตี่ นเองสนใจ
11.3 โดยทัว่ ไปขอ้ มลู ทุตยิ ภูมขิ องตา่ งประเทศจะสามารถนำมาใช้ในการวิเคราะหข์ อ้ มลู ได้ดีกว่า ผู้สอนอาจ
แนะนำใหน้ กั เรยี นใช้ข้อมลู ทตุ ิยภมู จิ ากตา่ งประเทศ เพื่อฝกึ ขั้นตอนของการทำความสะอาดและข้นั ตอนอื่น ๆ
รวมทั้งอาจเลือกเป็นหวั ข้อโครงงานของตนเอง แตโ่ ดยทั่วไปข้อมลู ทตุ ิยภูมขิ องตา่ งประเทศจะเปน็ ข้อมลู ขนาด
ใหญ่ ทำใหก้ ารดขู อ้ มลู ผิดปกตดิ ้วยตาจะทำได้ยาก ดังนั้นในการทำกจิ กรรมผู้สอนควรแนะนำให้นักเรียนสำรวจ
ข้อมูลโดยใช้ฮิสโทแกรม แผนภาพการกระจาย หรือแผนภาพกล่อง
11.4 กิจกรรมนีป้ ระกอบด้วยใบกิจกรรม 2 ใบ ใชเ้ วลา 6 ช่ัวโมง ใหผ้ ู้สอนพจิ ารณาแบ่งเวลาการทำ
กจิ กรรมตามความเหมาะสม
แผนการจดั การเรียนรู้
กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รหัสวชิ า ว 30113 วชิ า วทิ ยาการคำนวณ 2
หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 2 การเกบ็ รวบรวมและสำรวจขอ้ มูล ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 5 ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2565
เรอ่ื ง การสำรวจขอ้ มูล จำนวน 6 ช่ัวโมง ผู้สอน นางภาวดิ า บตุ รเนยี ม
1.ตัวช้วี ัด
รวบรวม วเิ คราะห์ข้อมลู และใชค้ วามรดู้ ้านวิทยาการคอมพวิ เตอร์ สื่อดิจิทัล เทคโนโลยสี ารสนเทศใน
การแกป้ ัญหาหรอื เพ่ิมมลู คา่ ให้กบั บริการหรอื ผลติ ภัณฑ์ทใ่ี ช้ในชวี ติ จรงิ อยา่ งสรา้ งสรรค์
2. สาระการเรยี นรู้
2.1 การสำรวจข้อมลู โดยใชก้ ารวาดภาพ แผนภูมิ กราฟ
2.2 เครื่องมือท่ใี ช้ในการสำรวจข้อมูล เชน่ โปรแกรมตารางทำงาน โปรแกรมภาษา และโปรแกรม
เฉพาะสำหรบั งานดา้ นวทิ ยาการขอ้ มลู
3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
3.1 สำรวจข้อมลู เพอื่ ทำความเข้าใจ รูปแบบ ความสัมพนั ธ์ และผลลัพธเ์ ชงิ พรรณนาเบ้ืองต้นเกยี่ วกบั
ขอ้ มูล
3.2 เลอื กใช้เครื่องมอื ในการสำรวจข้อมูลตามความถนัด
4. ทกั ษะและกระบวนการ
4.1 ทกั ษะการคิดวิเคราะห์
4.2 ทกั ษะการรสู้ ารสนเทศ
4.3 ทกั ษะการแกป้ ญั หา
5. ความรู้เดิมทีน่ กั เรียนตอ้ งมี
การจัดการขอ้ มลู การสร้างกราฟและแผนภมู ิ การใช้โปรแกรมสำเรจ็ รูป เช่น โปรแกรมตารางทำงาน
และการเขียนโปรแกรมภาษา เช่น ภาษา R หรือภาษาไพทอน
6. สาระสำคญั
การสำรวจขอ้ มูล (data exploration) เปน็ การทำความเข้าใจเพือ่ พจิ ารณาภาพรวมของข้อมูล โดย
อาจใชแ้ ผนภาพ หรอื กราฟของข้อมลู ในรูปแบบตา่ ง ๆ ระหว่างการสำรวจ อาจจะพบข้อผดิ พลาดหรือปญั หา
อื่น ๆ จากการตั้งคำถาม หรือการรวบรวมขอ้ มูล ซงึ่ ทำให้ต้องกลับไปดำเนินการแก้ไขใหถ้ ูกต้อง เครอ่ื งมือทใี่ ช้
ในการสำรวจขอ้ มลู อาจใช้โปรแกรมสำเรจ็ รปู หรอื การเขียนโปรแกรมภาษา
7. สอ่ื และอปุ กรณ์
7.1 ใบกิจกรรม
ใบกิจกรรมท่ี เร่ือง เวลา (นาที)
5.1 นักสำรวจ 40
7.2 ใบความรู้
ใบความรทู้ ่ี 3.1 เร่ือง เกมเป่ายิงฉุบ
7.3 อ่นื ๆ
- เว็บไซต์ https://data.programming.in.th/
- แบบทดสอบบทท่ี 2 การเก็บรวบรวมและสำรวจขอ้ มูลแบบออนไลน์
8. แนวทางการจดั การเรยี นรู้
8.1 การจัดเตรยี ม
8.1.1 ใบกจิ กรรมที่ 5.1 นกั สำรวจ ตามจำนวนผเู้ รยี น
8.1.2 ชุดขอ้ มลู สำหรับทำกจิ กรรมเพิ่มเติมจากเวบ็ ไซต์ https://data.programming.in.th/ เช่น ชดุ
ข้อมูลไดโนเสาร์ สนิ ค้าอุปโภคบริโภคของไทย
8.1.3 แบบทดสอบบทท่ี 2 การเกบ็ รวบรวมและสำรวจข้อมลู แบบออนไลน์
8.2 ข้นั ตอนการดำเนินการ
8.2.1 ผูส้ อนทบทวนกระบวนการในการจดั เตรียมข้อมูลจากกจิ กรรมทผี่ า่ นมา และตรวจสอบผูเ้ รียนใน
การจัดเตรยี มชุดข้อมูลดงั น้ี
- income.xls
- average-income.xls และ average-income.csv
- expense58.xls
- income-expense.xls และ income-expense.csv
- ชุดข้อมลู จงั หวดั ตนเองและจังหวดั ใกล้เคียง 5 จงั หวดั และปจั จัยทีไ่ ดเ้ ลอื กไว้
8.2.2 ผู้เรียนศกึ ษาหัวข้อที่ 2.3 การสำรวจขอ้ มูล
8.2.3 ผเู้ รียนแตล่ ะคนทำใบกจิ กรรมท่ี 5.1 นกั สำรวจ และระหว่างทำกิจกรรมใหศ้ กึ ษาเครอื่ งมือที่ใช้ใน
การสำรวจขอ้ มลู เพิ่มเติมจากเวบ็ ไซต์ https://data.programming.in.th/
8.2.4 ผสู้ อนใหผ้ ูเ้ รียนโพสต์ผลลัพธข์ องข้อมูลจากการสำรวจของตนเองลงบน Padlet หรอื อาจใช้
โปรแกรมอืน่ ตามความเหมาะสม
8.2.5 ผู้เรยี นทำแบบทดสอบบทท่ี 2 การเกบ็ รวบรวมและสำรวจข้อมลู เพื่อประเมนิ ความเขา้ ใจ
9. การวัดและประเมนิ ผล
9.1 ประเมนิ จากใบกจิ กรรม
9.2 สงั เกตพฤตกิ รรมจากการทำงานกลุ่ม
9.3 แบบทดสอบบทที่ 2 การเก็บรวบรวมและสำรวจขอ้ มลู
10. สอื่ และแหลง่ ขอ้ มูล
10.1 เวบ็ ไซต์ data.programmig.in.th
11. ข้อเสนอแนะ
11.1 ผ้สู อนอาจเตรยี มชุดขอ้ มูลในการทำกจิ กรรมไว้ ในกรณีทผ่ี ้เู รียนบางคนจดั เตรียมข้อมูลไม่เรยี บรอ้ ย
โดยดาวนโ์ หลดจาก https://data.programming.in.th/
11.2 ผสู้ อนควรแนะนำผ้เู รยี นให้เลอื กใช้เครือ่ งมอื ในการสำรวจขอ้ มลู ตามถนัด และแนะนำแหลง่ ศึกษา
ความรเู้ พมิ่ เติม
- บทเรียนออนไลน์การเขยี นโปรแกรมภาษา R และภาษาไพทอนสำหรับงานดา้ นวทิ ยาการขอ้ มูล เชน่
https://datarockie.com
- วดี ิโอสอนการทำขอ้ มลู ใหเ้ ป็นภาพ (visualization)
- วดี ิโอสอนการใชโ้ ปรแกรม Microsoft Excel เพือ่ ทำ Pivot table และสร้างกราฟ หรอื แผนภมู ิ
- วีดิโอสอนการใช้โปรแกรม Tableau
11.3 โดยท่ัวไปขอ้ มลู ทุติยภูมขิ องต่างประเทศจะสามารถนำมาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมลู ได้ดกี วา่ ผ้สู อนอาจ
แนะนำใหน้ กั เรยี นใชข้ อ้ มูลทตุ ิยภูมจิ ากต่างประเทศ เพื่อฝกึ ขนั้ ตอนของการทำความสะอาดและขัน้ ตอนอื่น ๆ
รวมทั้งอาจเลือกเป็นหัวข้อโครงงานของตนเอง แตโ่ ดยทั่วไปขอ้ มูลทุตยิ ภูมิของตา่ งประเทศจะเป็นข้อมลู ขนาด
ใหญ่ ทำใหก้ ารดูขอ้ มลู ผดิ ปกติดว้ ยตาจะทำไดย้ าก ดังนนั้ ในการทำกจิ กรรมผู้สอนควรแนะนำใหน้ กั เรียนสำรวจ
ข้อมลู โดยใชฮ้ สิ โทแกรม แผนภาพการกระจาย หรือแผนภาพกล่อง
11.4 กิจกรรมนีป้ ระกอบดว้ ยใบกจิ กรรม 2 ใบ ใชเ้ วลา 6 ช่วั โมง ใหผ้ ู้สอนพิจารณาแบ่งเวลาการทำ
กิจกรรมตามความเหมาะสม
แผนการจัดการเรียนรู้
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รหสั วชิ า ว 30113 วชิ า วทิ ยาการคำนวณ 2
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 3 การวเิ คราะห์ข้อมูล ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 5 ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2565
เร่อื ง การวเิ คราะห์เชิงพรรณนา จำนวน 4 ช่วั โมง ผูส้ อน นางภาวิดา บตุ รเนยี ม
1.ตัวชีว้ ดั
รวบรวม วิเคราะห์ข้อมลู และใช้ความรู้ดา้ นวิทยาการคอมพิวเตอร์ สื่อดิจทิ ัล เทคโนโลยีสารสนเทศใน
การแก้ปัญหาหรอื เพ่ิมมูลคา่ ใหก้ บั บรกิ ารหรอื ผลิตภณั ฑ์ทใี่ ชใ้ นชวี ิตจริงอย่างสรา้ งสรรค์
2. สาระการเรยี นรู้
2.1 การวิเคราะห์ขอ้ มูลเชงิ พรรณนา
2.2 สถติ สิ ำหรบั วิเคราะหข์ อ้ มูล เช่น ค่ากลาง ค่าตำ่ สุด สงู สดุ เพอ่ื อธบิ ายขอ้ มูลเชิงพรรณนา
2.3 การหาความสัมพนั ธ์ของข้อมูลโดยใช้แผนภาพการกระจาย
3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
3.1 อธบิ ายหลกั การวเิ คราะหข์ อ้ มลู เชิงพรรณนา
3.2 เลือกใชค้ า่ สถติ ทิ ่เี หมาะสมในการวิเคราะหข์ ้อมูลเชงิ พรรณนา
3.3 การหาความสัมพันธ์ของขอ้ มูลโดยใชแ้ ผนภาพการกระจาย
3.4 อธิบายผลการวเิ คราะห์ขอ้ มูลเชงิ พรรณนา
4. ทักษะและกระบวนการ
4.1 ทกั ษะการคิดวเิ คราะห์
4.2 ทกั ษะการแกป้ ัญหา
4.3 ทกั ษะการส่อื สารและร่วมมอื
5. ความรเู้ ดิมท่นี ักเรยี นต้องมี
สถติ พิ ื้นฐาน เชน่ การวัดแนวโนม้ เขา้ สสู่ ว่ นกลาง สว่ นเบยี่ งเบนมาตรฐาน
6. สาระสำคญั
การวิเคราะห์เชิงพรรณนา (descriptive analytics) เปน็ การวิเคราะห์ขน้ั พนื้ ฐาน ทีท่ ำใหเ้ ห็น
ภาพรวมของข้อมูล และความสัมพนั ธ์ระหวา่ งข้อมลู ชว่ ยอธบิ ายวา่ เกิดอะไรขนึ้ บา้ งในชว่ งทผ่ี า่ นมา และอาจ
นำมาช่วยในการตัดสนิ ใจ โดยอาจใช้สถติ ิ เชน่ การหาสดั สว่ นหรอื รอ้ ยละ การวดั คา่ กลางของข้อมลู (central
tendency) การหาความสัมพนั ธ์ของชุดข้อมลู (correlation)
7. ส่ือและอุปกรณ์
7.1 ใบกจิ กรรม
ใบกิจกรรมที่ เร่อื ง เวลา (นาที)
6.1 ขอ้ มลู นมี้ ีอะไร 100
6.2 สมั พนั ธ์กนั หรอื ไม่ 100
7.2 ใบความรู้
-
7.3 อื่น ๆ
- ชดุ ข้อมูลไฟป่า สนิ คา้ อุปโภคบรโิ ภคของไทย และคะแนนสอบ O-NET จากเว็บไซต์
https://data.programming.in.th/
8. แนวทางการจัดการเรียนรู้
8.1 การจดั เตรยี ม
8.1.1 ใบกิจกรรมที่ 6.1 ข้อมลู นี้มีอะไร ตามจำนวนผู้เรยี น
8.1.2 ใบกิจกรรมที่ 6.1 สมั พนั ธก์ นั หรือไม่ ตามจำนวนกลมุ่
8.2 ขนั้ ตอนการดำเนินการ
8.2.1 ผ้สู อนนำเขา้ สบู่ ทเรยี นโดยทบทวนเร่อื งการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลและสำรวจข้อมลู และชีแ้ จงการ
เรยี นในบทนโ้ี ดยใชส้ ถานการณข์ องสิงโตและสุนขั จงิ้ จอก และเชอ่ื มโยงการวิเคราะห์ขอ้ มลู 3 ประเภท
8.2.2 ผเู้ รียนศกึ ษาหวั ข้อที่ 3.1 การวเิ คราะห์เชงิ พรรณนา หัวข้อยอ่ ย 3.1.1 และ 3.1.2
8.2.3 ผู้เรยี นจบั ค่กู ันทำใบกจิ กรรมที่ 6.1 ขอ้ มลู มีอะไร โดยให้โพสตภ์ าพคำตอบไวบ้ น Padlet และให้
รางวลั สำหรบั คทู่ ่ีทำเสรจ็ ไดเ้ ร็วทส่ี ุด
8.2.4 ผูเ้ รยี นพจิ ารณาคำตอบของคู่อน่ื และรว่ มกนั โหวตว่าการแสดงผลลพั ธข์ องคำตอบของกลมุ่ ใด
แสดงผลการวิเคราะห์ได้ชัดเจนทสี่ ุด
8.2.5 ผสู้ อนและผเู้ รียนรว่ มกนั สรุปและเปรียบเทยี บความเหมาะสมของผลของการวเิ คราะหข์ ้อมูลเชงิ
พรรณนา
8.2.6 ผเู้ รียนศกึ ษาหัวขอ้ ที่ 3.1.3
8.2.7 แบ่งผูเ้ รยี นออกเปน็ กลมุ่ กลมุ่ ละ 3 คน ชว่ ยกันทำใบกิจกรรมที่ 6.2 สมั พันธก์ นั หรอื ไม่
8.2.8 ใหแ้ ต่ละกลุ่มเลือกโพสตค์ ำตอบ 1 คำตอบที่ตนเองพบเจอความสัมพันธ์ของชดุ ขอ้ มลู ท่ศี ึกษา
และเขยี นอธบิ ายไว้บน Padlet
8.2.9 ผเู้ รียนรว่ มกนั โหวตวา่ คำตอบของกลุ่มใดนา่ สนใจมากท่ีสดุ
8.2.10 ผสู้ อนและผเู้ รยี นรว่ มกันสรปุ การวิเคราะหเ์ ชงิ พรรณนา
9. การวดั และประเมนิ ผล
9.1 ประเมนิ จากใบกิจกรรม
9.2 สงั เกตพฤติกรรมจากการทำงานกลุม่
10. ส่ือและแหล่งขอ้ มูล
10.1 วดี โิ อสอนการใช้ Pivot Table ในการสรา้ งกราฟ
10.2 วีดโิ อการใช้ Tableau ในการสรา้ งกราฟ
10.3 วดี ิโอการเขียนโปรแกรมภาษา R ในการสรา้ งกราฟ และหาค่าความสัมพันธ์
10.4 วดี ิโอการเขยี นโปรแกรภาษาไพทอนในการสร้างกราฟและหาคา่ ความสมั พันธ์
11. ข้อเสนอแนะ
11.1 ผูส้ อนสามารถแนะนำใหผ้ ูเ้ รยี นเลอื กใชเ้ ครือ่ งมอื ในการวเิ คราะหข์ อ้ มูลตามความถนัดของผู้เรียน โดย
ผ้เู รียนอาจเลือกใช้โปรแกรมสำเร็จรปู หรอื โปรแกรมภาษา
11.2 สำหรบั ใบกิจกรรมที่ 6.1 และ 6.2 อาจให้ผเู้ รียนเลือกชดุ ขอ้ มูลเพียงชุดเดียว เชน่ ข้อมูลไฟปา่ และ
ตอบคำถามท่เี ก่ียวขอ้ งให้ครบทุกประเด็น
11.3 สำหรบั ขอ้ 4 ในใบกิจกรรมที่ 6.1 ใหผ้ ้เู รยี นที่สนใจศึกษาวิธีการทำจากเว็บไซต์
https://data.programming.in.th/
11.4 กิจกรรมนป้ี ระกอบด้วยใบกิจกรรม 2 ใบ ใชเ้ วลา 6 ชั่วโมง ให้ผู้สอนพจิ ารณาแบ่งเวลาการทำ
กิจกรรมตามความเหมาะสม
แผนการจดั การเรียนรู้
กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รหสั วชิ า ว 30113 วชิ า วทิ ยาการคำนวณ 2
หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 3 การวเิ คราะหข์ อ้ มลู ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 5 ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2565
เรอื่ ง การทำนายเชงิ ตัวเลข จำนวน 4 ชัว่ โมง ผู้สอน นางภาวิดา บุตรเนียม
1.ตัวช้วี ัด
รวบรวม วิเคราะหข์ ้อมลู และใชค้ วามร้ดู ้านวทิ ยาการคอมพิวเตอร์ สอื่ ดจิ ทิ ลั เทคโนโลยีสารสนเทศใน
การแกป้ ัญหาหรือเพิม่ มลู คา่ ให้กับบรกิ ารหรอื ผลติ ภณั ฑท์ ใี่ ชใ้ นชวี ิตจรงิ อยา่ งสร้างสรรค์
2. สาระการเรยี นรู้
2.1 ความหมายของการทำนายเชงิ ตัวเลข
2.2 การทำนายคา่ จากเสน้ แนวโน้มโดยใชก้ ราฟและใชส้ มการเชิงเส้น
2.3 การหาค่าความคลาดเคล่ือนในการทำนาย
2.4 การสรา้ งเสน้ แนวโนม้ และสมการเชงิ เส้นโดยใชโ้ ปรแกรมสำเร็จรูป หรือการเขียนโปรแกรม
3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
3.1 อธิบายหลกั การวิเคราะห์ขอ้ มูลเชงิ ทำนายโดยใชต้ วั เลข
3.2 ทำนายคา่ โดยใช้สมการเชิงเส้น และคำนวณค่าความคลาดเคล่ือนในการทำนาย
3.3 ใช้โปรแกรมสำเร็จรปู หรอื โปรแกรมภาษาในการทำนายเชิงตัวเลข
3.4 อธบิ ายผลการทำนายเชงิ ตัวเลข
4. ทักษะและกระบวนการ
4.1 ทกั ษะการคดิ วิเคราะห์
4.2 ทกั ษะการแกป้ ญั หา
4.3 ทกั ษะการส่อื สารและร่วมมอื
5. ความรเู้ ดิมทน่ี ักเรียนต้องมี
ระบบสมการเชงิ เสน้
6. สาระสำคญั
การวิเคราะห์เชิงทำนาย (predictive analysis) เป็นการวิเคราะหข์ อ้ มูลในอดตี เพือ่ หารปู แบบ
ความสัมพันธ์ในชดุ ข้อมลู ทสี่ ามารถนำมาเปน็ ต้นแบบในการทำนาย การคาดการณผ์ ลหรอื สง่ิ ทีน่ า่ จะเกดิ ขึน้ ใน
อนาคต ซึ่งจะชว่ ยใหบ้ คุ คลหรือองคก์ ร สามารถตดั สินใจไดอ้ ย่างมปี ระสิทธภิ าพ
การทำนายขอ้ มูลเชงิ ตวั เลข (numeric prediction) เปน็ การใชข้ อ้ มูลในอดีตมาวิเคราะห์หา
ความสัมพันธ์ระหว่างชุดข้อมูลและสรา้ งแบบจำลองในการทำนายทใี่ ห้ผลลัพธ์เป็นตัวเลข โดยท่วั ไปมวี ธิ ีการ
ทำนาย 2 วิธีคอื การทำนายโดยใชก้ ราฟและการทำนายโดยใชส้ มการเชงิ เส้น
7. ส่ือและอุปกรณ์
7.1 ใบกจิ กรรม
ใบกจิ กรรมท่ี เรอื่ ง เวลา (นาท)ี
7.1 ยอดวิว 30
7.2 ผลทำนายใครแมน่ 50
7.3 รู้แลว้ รวย 50
7.2 ใบความรู้
-
7.3 อื่น ๆ
- ชุดข้อมูลวัวป่าและม้าลาย จากเวบ็ ไซต์ https://data.programming.in.th/
- ชดุ ข้อมูลทองคำ
8. แนวทางการจดั การเรยี นรู้
8.1 การจัดเตรยี ม
8.1.1 ใบกจิ กรรมท่ี 7.1 ยอดววิ ตามจำนวนผูเ้ รียน
8.1.2 ใบกจิ กรรมท่ี 7.2 ผลทำนายใครแมน่ ตามจำนวนผู้เรียน
8.1.3 ใบกจิ กรรมที่ 7.3 รู้แลว้ รวย ตามจำนวนผเู้ รียน
8.1.4 ไฟลต์ ารางคำนวณคา่ ความคลาดเคลือ่ น
8.2 ข้ันตอนการดำเนินการ
8.2.1 ผสู้ อนนำเข้าส่บู ทเรยี นโดยทบทวนเร่ืองการต้ังคำถามสำหรบั การวเิ คราะหเ์ ชงิ ทำนาย โดยใช้
สถานการณส์ งิ โตและสุนขั จงิ้ จอก และเพม่ิ สถานการณอ์ น่ื ๆ เพือ่ ยกตัวอยา่ งการทำนายเชิงตัวเลข เช่น
- นกั เรยี นคิดว่าเวลาทน่ี ักเรียนใชใ้ นการอ่านหนังสอื สอบสามารถทำนายเกรดของนกั เรียนได้
หรือไม่
- นักเรียนคดิ วา่ อณุ หภูมิสามารถทำนายยอดขายไอศกรมี ไดห้ รอื ไม่
8.2.2 ผ้เู รียนศกึ ษาหัวขอ้ ท่ี 3.2 การวเิ คราะหเ์ ชิงทำนาย และหัวขอ้ ย่อย 3.2.1 การทำนายเชิงตัวเลข
8.2.3 ผเู้ รียนจบั ค่กู ันทำใบกิจกรรมที่ 7.1 ยอดวิว
8.2.4 สุม่ ผ้เู รียนนำเสนอคำตอบ และใหเ้ ปรยี บเทยี บกบั คำตอบกับค่อู นื่ ว่าเหมอื นหรอื ต่างกันอยา่ งไร
8.2.5 ผูเ้ รยี นคเู่ ดิมทำใบกจิ กรรมที่ 7.2 คำทำนายใครแมน่
8.2.6 ผูส้ อนและผ้เู รยี นร่วมกันอภิปรายข้อดีข้อเสียของการทำนยค่าจากเส้นแนวโนม้ โดยใช้กราฟ
สมการเชิงเส้น โปรแกรมสำเร็จรูป หรอื การเขียนโปรแกรมภาษา
8.2.7 ผู้สอนเปดิ ไฟล์ราคาทองคำ และรว่ มกนั อภปิ รายกับผเู้ รียนวา่ เราจะจดั เตรยี มไฟล์ราคาทองคำ
อย่างไร ถึงจะสามารถทำนายไดว้ า่ เดือนที่เราเกิดในปีหนา้ ราคาทองคำจะเป็นเท่าไร
8.2.8 ผู้เรยี นแตล่ ะคนทำใบกจิ กรรมท่ี 7.3 รแู้ ลว้ รวย
8.2.9 ใหผ้ ู้เรยี นเขียนสรปุ เรอื่ งราวและผลลพั ธข์ ้อมลู ท่ีไดจ้ ากใบกจิ กรรมที่ 7.3 ลงใน Padlet
8.2.10 ผเู้ รยี นร่วมกันอา่ นเร่ืองราวของเพ่อื นและแสดงความคิดเหน็ ในเชงิ บวก
8.2.11 ผสู้ อนและผ้เู รียนร่วมกันสรุปการวเิ คราะหก์ ารทำนายเชิงตัวเลข
9. การวดั และประเมินผล
9.1 ประเมนิ จากใบกิจกรรม
9.2 สังเกตพฤติกรรมจากการทำงานกลมุ่
10. สือ่ และแหลง่ ขอ้ มลู
10.1 เวบ็ ไซต์ https://data.programming.in.th/
11. ขอ้ เสนอแนะ
11.1 ผู้สอนแนะนำใหผ้ ู้เรียนเลอื กใชเ้ ครอ่ื งมือการวเิ คราะห์ข้อมลู ตามความถนดั โดยอาจเลอื กใช้โปรแกรม
สำเร็จรูปหรือการเขยี นโปรแกรมภาษา
11.4 กจิ กรรมนีป้ ระกอบด้วยใบกจิ กรรม 3 ใบ ใช้เวลา 4 ชั่วโมง ใหผ้ สู้ อนพจิ ารณาตามความเหมาะสมใน
การแบง่ การทำกิจกรรมในแตล่ ะสัปดาห์ หรอื ใหท้ ำใบกิจกรรมที่ 7.3 รแู้ ลว้ รวยนอกเวลาเรยี น
แผนการจดั การเรยี นรู้
กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รหสั วชิ า ว 30113 วชิ า วทิ ยาการคำนวณ 2
หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 3 การวเิ คราะหข์ ้อมลู ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 5 ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2565
เรอื่ ง การทำนายเชงิ หมวดหมู่ จำนวน 4 ชั่วโมง ผู้สอน นางภาวดิ า บตุ รเนยี ม
1.ตวั ชว้ี ดั
รวบรวม วิเคราะห์ข้อมลู และใช้ความรู้ดา้ นวิทยาการคอมพวิ เตอร์ สือ่ ดิจิทัล เทคโนโลยีสารสนเทศใน
การแก้ปญั หาหรือเพมิ่ มลู คา่ ใหก้ ับบริการหรอื ผลติ ภณั ฑ์ทใี่ ชใ้ นชีวติ จรงิ อยา่ งสรา้ งสรรค์
2. สาระการเรยี นรู้
2.1 ความหมายของการทำนายเชิงหมวดหมู่
2.2 การทำนายโดยใช้ K-NN เพ่ือจำแนกขอ้ มลู
2.3 การประเมนิ ความถูกต้องในการจำแนกขอ้ มูล
3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
3.1 อธบิ ายหลกั การทำนายเชิงหมวดหมูด่ ้วยวธิ ี K-NN
3.2 ประเมนิ ความถกู ตอ้ งในการจัดกลุ่มขอ้ มูล
4. ทกั ษะและกระบวนการ
4.1 ทกั ษะการคิดวิเคราะห์
4.2 ทกั ษะการแก้ปญั หา
4.3 ทกั ษะการส่อื สารและร่วมมอื
5. ความรูเ้ ดมิ ทน่ี กั เรียนต้องมี
-
6. สาระสำคญั
การวิเคราะหเ์ ชิงหมวดหมู่ เป็นการทำนายขอ้ มูลทส่ี นใจทไี่ ม่ใชข่ อ้ มลู ตัวเลข ซึ่งจะใช้ขอ้ มูลในอดีตที่มี
การระบุหมวดหมมู่ าแลว้ มาวิเคราะห์เพื่อทำนายข้อมูลชดุ ใหม่ท่ยี งั ไมท่ ราบหมวดหมู่ หน่งึ ในเทคนคิ ทใ่ี ช้ในการ
จัดหมวดหมทู่ ีเ่ ป็นที่รูจ้ กั กันดี คอื วิธีการคน้ หาเพือ่ นบ้านใกล้เคียงทสี่ ดุ K ตัว (K-Nearest Neighbors : K-NN)
7. สื่อและอุปกรณ์
7.1 ใบกจิ กรรม
ใบกจิ กรรมท่ี เร่ือง เวลา (นาที)
8.1 ชีวิตฉันคล้ายใคร 20
8.2 ตัวนี้ พวกไหนดี 30
8.3 K ใครแม่นกว่ากัน 40
7.2 ใบความรู้
7.2.1 ใบความร้ทู ี่ 8.1 เรอ่ื ง การสรา้ งกราฟเรดาร์ ใน Google Sheets
7.3 อน่ื ๆ
8. แนวทางการจดั การเรยี นรู้
8.1 การจัดเตรยี ม
8.1.1 ใบกิจกรรมท่ี 8.1 ชวี ิตฉันคลา้ ยใคร ตามจำนวนผเู้ รียน
8.1.2 ใบกจิ กรรมที่ 8.2 ตัวนี้ พวกไหนดี ตามจำนวนผ้เู รียน
8.1.3 ใบกิจกรรมท่ี 8.3 ใครแม่นกว่ากนั ตามจำนวนผ้เู รียน
8.1.4 แบบทดสอบบทที่ 3 การวิเคราะหข์ อ้ มลู แบบออนไลน์
8.2 ขน้ั ตอนการดำเนนิ การ
8.2.1 ผสู้ อนนำเข้าสูบ่ ทเรียนดว้ ยการถามคำถามชวนคดิ “นกั เรยี นฟังเพลงสากลหรือไม่ และชอบฟงั
เพลงสากลประเภทใด” และคำถาม “หากมเี พลงใหม่เข้าส่ตู ลาด นักเรยี นจำแนกได้อยา่ งไรว่าเพลงนั้น เป็น
เพลงประเภทใด” ใหผ้ ุ้เรยี นแสดงความคดิ เห็นตามอิสระ
8.2.2 ให้ผ้เู รียนแบง่ กล่มุ กลมุ่ ละ 8 คน แลว้ ทำใบกจิ กรรมท่ี 8.1 ชีวติ ฉนั คล้ายใคร หลงั จากนนั้ ผสู้ อน
สุ่มผูเ้ รยี นนำเสนอกราฟเรดาร์ของตัวเอง และใหเ้ ปรยี บเทยี บกับเพ่ือนคนอืน่ ๆ วา่ เหมือนหรือตา่ งกนั อย่างไร
8.2.3 ผ้เู รยี นศกึ ษาหัวข้อยอ่ ยที่ 3.2.2 การทำนายเชิงหมวดหมู่
8.2.4 ผู้เรียนจบั คู่ทำใบกจิ กรรมที่ 8.2 ตัวน้ี พวกไหนดี โดยใชข้ นั้ ตอนวธิ ีของ K-NN
8.2.5 ผเู้ รียนทำใบกิจกรรมที่ 8.3 K ใครแมน่ กวา่ กนั โดยผูส้ อนแบ่งกลมุ่ ผูเ้ รยี นตามคา่ K ทเ่ี ลือก (K =
3, K = 5 หรือ K = 7) แล้วทำการเปรียบเทยี บกับเพอื่ นท่เี ลือกค่า K อืน่ ๆ เพื่อเปรยี บเทยี บว่า คา่ K ใด
เหมาะสมที่สดุ
8.2.6 ผู้สอนและผู้เรียนรว่ มกนั สรปุ การวิเคราะห์การทำนายเชงิ หมวดหมู่
8.2.7 ผเู้ รยี นทำแบบทดสอบบทท่ี 3 การวิเคราะห์ข้อมลู เพ่ือทดสอบความเขา้ ใจ
9. การวัดและประเมนิ ผล
9.1 ประเมนิ จากใบกจิ กรรม
9.2 สงั เกตพฤติกรรมจากการทำงานกลุ่ม
9.3 แบบทดสอบบทท่ี 3 การวเิ คราะหข์ อ้ มูล
10. สอ่ื และแหล่งข้อมูล
10.1 เว็บไซต์ https://data.programming.in.th/
10.2 เว็บไซต์ https://www.babelcoder.com/blog/posts/k-nerest-neighbors
11. ข้อเสนอแนะ
11.1 กจิ กรรมนเ้ี ป็นการวเิ คราะหข์ อ้ มลู เชิงทำนาย โดยใชก้ ารวิเคราะหเ์ ชิงหมวดหมู่ ซงึ่ ข้อมลู ท่ีไดห้ รอื
ผลลัพธจ์ ากการทำนาย จะไมใ่ ชต่ วั เลข แต่จะไดเ้ ป็นขอ้ มูลทบ่ี อกวา่ ข้อมูลนน้ั อยู่ในกล่มุ ใด
11.2 ใบกิจกรรมที่ 8.3 ผูส้ อนอาจแนะนำใหผ้ ู้เรยี นใชไ้ ฟลข์ ้อมูลชอ่ื K-NN.xlsx ทจ่ี ัดเตรยี มไว้ในการทำ
กจิ กรรม
แผนการจดั การเรยี นรู้
กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รหสั วชิ า ว 30113 วชิ า วิทยาการคำนวณ 2
ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 5
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 4 การทำข้อมลู ใหเ้ ปน็ ภาพ และการสอ่ื สารดว้ ยขอ้ มูล
ผสู้ อน นางภาวดิ า บุตรเนยี ม
ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2565
เรื่อง การทำขอ้ มูลใหเ้ ปน็ ภาพ จำนวน 2 ชั่วโมง
1.ตัวชวี้ ดั
รวบรวม วเิ คราะหข์ ้อมูล และใชค้ วามรดู้ ้านวิทยาการคอมพวิ เตอร์ สือ่ ดิจทิ ัล เทคโนโลยสี ารสนเทศใน
การแกป้ ัญหาหรือเพ่มิ มลู ค่าให้กับบริการหรอื ผลิตภณั ฑท์ ใ่ี ช้ในชีวิตจรงิ อย่างสร้างสรรค์
2. สาระการเรยี นรู้
2.1 ความหมายของการทำขอ้ มลู ใหเ้ ปน็ ภาพ
2.2 วิธกี ารทำขอ้ มูลใหเ้ ปน็ ภาพ
2.3 การทำข้อมูลให้เปน็ ภาพอย่างเหมาะสม
2.4 การเล่าเรอื่ งราวจากขอ้ มลู
3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
3.1 อธิบายหลกั การและจุดประสงค์ของการทำข้อมลู ให้เปน็ ภาพ
3.2 เลือกใชว้ ิธีการทำขอ้ มลู ให้เปน็ ภาพไดอ้ ย่างเหมาะสม
4. ทกั ษะและกระบวนการ
4.1 ทกั ษะการคิดวเิ คราะห์
4.2 ทกั ษะการคดิ สร้างสรรค์
4.3 ทกั ษะการแกป้ ญั หา
4.4 ทกั ษะการสอ่ื สารและรว่ มมือ
5. ความร้เู ดมิ ทีน่ กั เรียนต้องมี
5.1 การสร้างกราฟ แผนภมู ิ แผนภาพแบบตา่ ง ๆ
5.2 การวิเคราะหเ์ ชงิ พรรณนาและเชิงทำนาย
6. สาระสำคญั
กระบวนการทำขอ้ มูลใหเ้ ปน็ ภาพ เปน็ การจัดการหรอื แปลงขอ้ มูลาให้อยู่ในรปู ของแผนภาพ แผนภูมิ
หรือกราฟท่ีเหมาะสมกบั ชดุ ขอ้ มลู ที่ต้องการนำเสนอ โดยสามารถเลือกใชต้ ัวแปรในการมองเห็นทท่ี ำให้ผู้รับ
สารเข้าใจถกู ตอ้ ง ตรงประเด็น ชัดเจน และดงึ ดดู ความสนใจ
7. สอื่ และอปุ กรณ์
7.1 ใบกิจกรรม
ใบกิจกรรมท่ี เรื่อง เวลา (นาท)ี
9.1 นำเสนออย่างมืออาชีพ 30
9.2 แบบน้ีใช้รเึ ปลา่ 40
7.2 ใบความรู้
-
7.3 อ่ืน ๆ
- เวบ็ ไซต์ data.programming.in.th
8. แนวทางการจัดการเรียนรู้
8.1 การจัดเตรยี ม
8.1.1 ใบกจิ กรรมท่ี 9.1 นำเสอนอยา่ งมอื อาชพี ตามจำนวนกลมุ่
8.1.2 ใบกจิ กรรมที่ 9.2 แบบนี้ใชร้ เี ปล่า ตามจำนวนกลุม่
8.2 ขน้ั ตอนการดำเนินการ
8.2.1 ผู้สอนนำเขา้ ส่บู ทเรียนด้วยการให้ผเู้ รยี นดูรูปภาพข้อมูลการวิง่ ของคนในนิวยอรค์ โดยเส้นท่ีมีสเี ขม้
หมายถึงเส้นทางท่ีมคี นวงิ่ จำนวนมาก จากนั้นตงั้ คำถามถามผูเ้ รียน เชน่ “ถา้ นักเรียนเปน็ ตำรวจจราจรจะนำ
ภาพนีไ้ ปใช้ประโยชน์ในงานได้อยา่ งไร” “ถ้านกั เรยี นเป็นเจา้ ของรา้ นอาหารไทยในนวิ ยอรค์ จะนำภาพนไ้ี ปใช้
ในการวางแผนจัดการรา้ นของตนเองอยา่ งไร”
8.2.2 ให้ผสู้ อนแบ่งผู้เรียนออกเปน็ กลุม่ กลมุ่ ละ 4 คน ศกึ ษาตัวอยา่ งการทำขอ้ มลู ใหเ้ ป็นภาพจาก
เว็บไซต์ https://www.tableau.com/learn/articles/best-beautiful-data-visualization -examples
โดยแต่ละกลุ่มเลอื กภาพมา 1 ภาพ ไม่ซ้ำกนั และนำเสนอใหเ้ พือ่ นกลมุ่ อน่ื ฟงั ว่าภาพของกลุ่มตนเองมีจดุ เดน่
ของการนำเสนออยา่ งไร
8.2.3 ผู้เรยี นศกึ ษาหัวขอ้ ท่ี 4.1 การสอ่ื สารดว้ ยขอ้ มูล แลว้ ผู้สอนและผ้เู รยี นรว่ มกนั อภิปราย
เปรียบเทียบการนำเสนอข้อมูลด้วยตารางและภาพ
8.2.4 ผู้เรยี นศกึ ษาหวั ขอ้ ท่ี 4.2 การทำข้อมลู ให้เปน็ ภาพ โดยอาจแบง่ กลมุ่ ในการศกึ ษาดังน้ี
- กล่มุ ที่ 1 และ 5 ศกึ ษาแผนภูมริ ปู วงกลม
- กลุ่มที่ 2 และ 6 ศกึ ษาแผนภูมิแทง่
- กลมุ่ ท่ี 3 และ 7 ศกึ ษากราฟเส้น
- กลุม่ ที่ 4 และ 8 ศึกษาแผนภาพการกระจาย
ใหแ้ ต่ละกลมุ่ ทำความเข้าใจ วเิ คราะหจ์ ัดเด่น จุดดอ้ ยและความเหมาะสมในการนำแผนภาพ
แผนภูมิ หรือกราฟไปใช้ หลังจากน้ันสุม่ เลอื กตัวแทนกลุ่มออกมานำเสนอ
8.2.5 ผู้เรียนแตล่ ะกลมุ่ ทำใบกจิ กรรมที่ 9.1 นำเสนออยา่ งมอื อาชีพ เมือ่ ทำเสร็จแลว้ ผสู้ อนสุ่มผ้เู รียน
ออกมานำเสนอคำตอบ และรว่ มกนั อภิปรายสรปุ การเลอื กแผนภาพ แผนภมู ิ หรือกราฟ ทเี่ หมาะสมกับข้อมูล
8.2.6 ผเู้ รยี นศกึ ษาหวั ขอ้ ท่ี 4.3 การทำข้อมลู ใหเ้ ป็นภาพอย่างเหมาะสม แล้วผสู้ อนและผเู้ รียนรว่ มกนั
สรปุ เทคนคิ ต่าง ๆ ทีน่ ำมาใชใ้ นการทำข้อมลู ให้เป็นภาพทนี่ า่ สนใจ
8.2.7 ผเู้ รยี นแต่ละกลุ่มทำใบกจิ กรรมที่ 9.2 แบบนใ้ี ชร่ เี ปลา่
8.2.8 ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ นำภาพทอ่ี อกแบบไวไ้ ปตดิ ไวท้ ผ่ี นงั หอ้ ง เพือ่ ให้เพ่ือนกลมุ่ อ่นื ใหค้ วามเห็นว่าภาพท่ี
นำเสนอตรงกับจุดประสงค์ของผู้นำเสนอหรอื ไม่ ตอ้ งปรับปรุงแก้ไขอยา่ งไร
8.2.9 ผูส้ อนและผเู้ รียนรว่ มกันสรปุ เกย่ี วกับการทำข้อมูลให้เปน็ ภาพอย่างเหมาะสม
9. การวดั และประเมินผล
9.1 ประเมนิ จากใบกจิ กรรม
9.2 สงั เกตพฤติกรรมจากการทำงานกลุ่ม
10. สือ่ และแหลง่ ขอ้ มลู
-
11. ข้อเสนอแนะ
11.1 ขอ้ 8.2.2 หากผสู้ อนไม่สามารถเขา้ ถงึ เวบ็ ไซต์ได้ ใหผ้ สู้ อนจัดหาภาพตวั อยา่ งจากเวบ็ ไซต์อน่ื หรืออาจ
ตัดข้ันตอนการดำเนนิ กจิ กรรมนอ้ี อกได้
11.2 ข้อ 8.2.4 ถา้ จำนวนกลมุ่ ของผเู้ รยี นไมเ่ ท่ากบั 8 กลมุ่ ใหผ้ ู้สอนดำเนนิ การแบ่งกลุม่ ตามความ
เหมาะสม
แผนการจดั การเรียนรู้
กลุม่ สาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รหสั วิชา ว 30113 วชิ า วทิ ยาการคำนวณ 2
ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 5
หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 4 การทำขอ้ มลู ใหเ้ ปน็ ภาพ และการสอ่ื สารดว้ ยขอ้ มลู
ผสู้ อน นางภาวดิ า บุตรเนียม
ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2565
เร่ือง โครงงานวทิ ยาการขอ้ มูล จำนวน 12 ชัว่ โมง
1.ตวั ชี้วดั
รวบรวม วิเคราะหข์ ้อมลู และใช้ความรู้ดา้ นวิทยาการคอมพิวเตอร์ สื่อดจิ ิทลั เทคโนโลยีสารสนเทศใน
การแก้ปัญหาหรอื เพิ่มมลู คา่ ให้กบั บรกิ ารหรอื ผลติ ภัณฑ์ทใ่ี ชใ้ นชวี ติ จรงิ อยา่ งสร้างสรรค์
2. สาระการเรยี นรู้
2.1 กระบวนการวิทยาการข้อมูล
2.2 การทำขอ้ มูลให้เปน็ ภาพ
2.3 การเล่าเรอื่ งราวจากขอ้ มลู
3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
3.1 ใชก้ ระบวนการวทิ ยาการข้อมลู เพ่มิ มลู ค่าใหก้ ับบริการหรือผลติ ภณั ฑ์
3.2 นำเสนอขอ้ มูลด้วยภาพ
3.3 เลา่ เรือ่ งราวจากขอ้ มลู ได้เหมาะสมกับเน้ือหา
4. ทกั ษะและกระบวนการ
4.1 ทกั ษะการคดิ วิเคราะห์
4.2 ทกั ษะการคิดสรา้ งสรรค์
4.3 ทกั ษะการนำเสนอ
4.4 ทกั ษะการส่ือสารและร่วมมอื
5. ความรู้เดมิ ทนี่ กั เรียนต้องมี
5.1 กระบวนการวิทยาการขอ้ มลู
5.2 การทำขอ้ มูลใหเ้ ปน็ ภาพ
6. สาระสำคญั
โครงงานวทิ ยาการขอ้ มลู เป็นการนำกระบวนการวทิ ยาการข้อมูลมาจัดการกับข้อมูลขนาดใหญ่
จำนวนมหาศาล (Big data) เพ่อื ให้ไดผ้ ลลพั ธท์ ่ีนำไปสกู่ ารเพม่ิ มูลค่าใหก้ บั บริการหรือผลติ ภณั ฑ์ นอกจากนี้
การนำเสนอด้วยการเลา่ เรอื่ งราวจากขอ้ มูลท่กี ระชับ ตรงประเด็น และมจี ุดเดน่ ของการนำเสนอทีน่ า่ สนใจ จะ
ทำใหข้ ้อมูลผลลพั ธม์ คี ณุ คา่ และเปน็ ประโยชน์ต่อสาธารณะมากย่งิ ข้ึน
7. สอื่ และอปุ กรณ์
7.1 ใบกจิ กรรม
ใบกิจกรรมท่ี เรอ่ื ง เวลา (นาท)ี
10.1 รอ้ ยเรียงเรือ่ งราวสู่สงั คม 12
7.2 ใบความรู้
-
7.3 อืน่ ๆ
- เวบ็ ไซต์ data.programming.in.th
8. แนวทางการจดั การเรียนรู้
8.1 การจดั เตรยี ม
8.1.1 ใบกจิ กรรม 10.1 รอ้ ยเรียงเร่อื งราวสสู่ งั คม ตามจำนวนกลมุ่
8.1.2 แบบติดตามความกา้ วหนา้ การทำโครงงาน ตามจำนวนกลุม่
8.1.3 แบบประเมินการทำข้อมลู ใหเ้ ปน็ ภาพ ตามจำนวนกลุ่ม
8.1.4 แบบทดสอบบทท่ี 4 การทำขอ้ มูลใหเ้ ปน็ ภาพและการสอื่ สารด้วยขอ้ มลู แบบออนไลน์
8.2 ขน้ั ตอนการดำเนนิ การ
8.2.1 ผ้สู อนนำเขา้ สบู่ ทเรยี นโดยใหด้ ูตวั อย่างเก่ยี วกบั การเล่าเร่ืองราวจากข้อมลู (data storytelling)
จากเวบ็ ไซต์ https://verticl-leap.uk/blog/what-is-data-storytelling/ แลว้ ต้งั คำถามว่า “จากตวั อยา่ งมี
การใช้ขอ้ มูลในการเล่าเร่อื งราวอย่างไรให้น่าสนใจและน่าติดตาม”
8.2.2 ผูเ้ รียนศกึ ษาหัวข้อที่ 4.4 การเล่าเร่อื งราวจากขอ้ มลู และสรุปร่วมกนั เกี่ยวกับการเลา่ เรือ่ งราว
จากขอ้ มลู ใหน้ า่ สนใจ
8.2.3 ผูเ้ รียนศกึ ษาหัวขอ้ ท่ี 4.5 ขอ้ ควรระวงั ในการนำเสนอข้อมลู และผสู้ อนต้ังคำถาม เพือ่ ทดสอบ
ความเขา้ ใจเก่ยี วกับข้อควรระวงั ในการนำเสนอข้อมูลดว้ ยภาพ
8.2.4 ผสู้ อนชแ้ี จงเกณฑก์ ารประเมินการทำขอ้ มลู ให้เปน็ ภาพ เพอ่ื ใหผ้ ู้เรียนทราบและเข้าใจตรงกัน
8.2.5 ผูส้ อนนำตวั อยา่ งการนำเสนอข้อมูลที่ดี ในการทำโครงงานวิทยาการขอ้ มูลจากเวบ็ ไซต์
https://www.facebook.com/datacafethailand/photos/pcb.1181415348093/1181409918681476
/?type=3&theater เพ่อื ใหผ้ ู้เรยี นศึกษาเป็นแนวทาง
8.2.6 ผู้เรียนแต่ละกลมุ่ ทำโครงงานวิทยาการข้อมูล และบนั ทึกลงในใบกจิ กรรมที่ 10.1 รอ้ ยเรยี ง
เรื่องราวสู่สังคม โดยผูส้ อนคอยใหค้ ำแนะนำ ในขณะทผ่ี ู้เรยี นทำโครงงานใหป้ ระเมนิ ความกา้ วหนา้ ของกลุ่ม
ตนเอง แล้วบนั ทกึ ลงในแบบติดตามความก้าวหน้าการทำโครงงาน
8.2.7 ผู้เรียนแตล่ ะกลมุ่ นำเสนอโครงงานวิทยาการข้อมูล จากท่ีได้บนั ทกึ ในกิจกรรมท่ี 10.1 หน้าชัน้
เรยี น แลว้ ผ้เู รยี นแตล่ ะกล่มุ ใหค้ ะแนนเพือ่ นกลุ่มอ่นื โดยใชแ้ บบประเมนิ การทำขอ้ มลู ให้เป็นภาพ ตามเกณฑท์ ่ี
กำหนดไว้
8.2.8 ผู้สอนให้คะแนนผเู้ รยี นทุกกลมุ่ โดยใช้แบบประเมินการทำขอ้ มลู ให้เป็นภาพตามเกณฑ์ทก่ี ำหนด
ไว้
8.2.9 ผู้สอนสรุปคะแนนของแตล่ ะกล่มุ จากแบบประเมินของผ้สู อนและผเู้ รยี นทุกกลมุ่
8.2.10 ผสู้ อนและผู้เรียนร่วมกนั อภปิ รายสรุปผลงานทแี่ ต่ละกลุ่มนำเสนอ วา่ มีจดุ เด่น จดุ ดอ้ ยอย่างไร
8.2.11 ผู้เรยี นทำแบบทดสอบบทที่ 4 การทำขอ้ มลู ให้เปน็ ภาพและการส่อื สารด้วยข้อมลู เพ่อื ทดสอบ
ความเข้าใจ
9. การวัดและประเมินผล
9.1 สงั เกตพฤติกรรมจากการทำงานกล่มุ
9.2 แบบติดตามความกา้ วหนา้ การทำโครงงาน
9.3 แบบประเมินการทำขอ้ มลู ให้เปน็ ภาพ
9.4 แบบทดสอบบทที่ 4 การทำข้อมูลใหเ้ ปน็ ภาพ และการสอ่ื สารดว้ ยข้อมูล
10. สื่อและแหล่งข้อมลู
10.1 เวบ็ ไซต์ data.programming.in.th
11. ขอ้ เสนอแนะ
11.1 ผู้สอนใหค้ ำแนะนำผู้เรยี นแตล่ ะกล่มุ ตง้ั แต่เรื่องการต้ังประเด็นคำถาม การเกบ็ รวบรวมข้อมูลจาก
แหล่งข้อมลู ทตุ ิยภูมิ จดั เตรียมข้อมูล (การทำความสะอาดขอ้ มลู การแปลงข้อมูล และการเช่ือมโยงขอ้ มูล) การ
สำรวจข้อมูล การวเิ คราะห์ขอ้ มูล การทำขอ้ มลู ให้เปน็ ภาพ และการเล่าเรื่องราวจากข้อมูล
11.2 ผูส้ อนแนะนำเรอื่ งการทำความสะอาดขอ้ มลู โดยใหผ้ เู้ รียนพิจารณาวา่ ข้อมูลทเ่ี ก็บรวบรวมมาน้นั อยู่
ในรูปแบบทีเ่ ปน็ โครงสรา้ งหรอื ไม่ แตล่ ะแอตทรบิ วิ ตม์ รี ปู แบบของข้อมลู ตรงกันหรอื ไม่ และขอ้ มูลแตล่ ะแถวมี
ข้อมูลครบถ้วนหรอื ไม่ ส่วนทยี่ งั ไมค่ รบคอื อะไร และจะสามารถหามาเติมได้หรือไม่ หรอื อาจตอ้ งตดั ข้อมลู แถว
นั้นทิ้งไป
11.3 ผู้สอนแนะนำเร่ืองการแปลงข้อมลู โดยให้ผเู้ รียนพจิ ารณาเปา้ หมายวา่ สง่ิ ทีต่ ้องการคอื อะไร ประเดน็ ที่
สำคัญคืออะไร และจะตอ้ งแปลงข้อมลู ใหไ้ ดใ้ นสิ่งท่ตี อ้ งการ อาจจะตอ้ งตัดข้อมูลบางสว่ นทไ่ี ม่เกี่ยวข้องออกไป
หรืออาจจะต้องเพิ่มข้อมลู บางส่วนท่ีสำคัญและจำเปน็ เข้ามา หรืออาจจะตอ้ งจัดกลมุ่ ขอ้ มลู ให้เปน็ หมวดหมู่
ตามที่ต้องการ
11.4 ผูส้ อนแนะนำเร่อื งการเชือ่ มโยงขอ้ มลู โดยใหผ้ เู้ รียนพิจารณาว่ามกี ารเกบ็ ข้อมลู จากหลายแหลง่
ขอ้ มูลอาจจะไม่ได้อยู่ในรูปแบบเดยี วกัน จะตอ้ งนำมาจัดการใหอ้ ยใู่ นรปู แบบเดียวกนั เพื่อใหส้ ามารถเช่อื มโยง
ข้อมูลได้
11.5 ผู้สอนแนะนำเร่อื งการสำรวจข้อมลู โดยอาจใช้เคร่อื งมอื สร้างกราฟเสน้ ฮสิ โทแกรม กราฟกลอ่ งหรอื
แผนภาพการกระจาย ซึ่งขึ้นอยู่กบั ลักษณะของข้อมลู เมอ่ื สำรวจด้วยกราฟหรอื แผนภาพแล้ว อาจพบค่า
ผดิ ปกติ ซง่ึ จะตอ้ งกลบั ไปตรวจสอบข้อมลู อีกครง้ั แล้วทำการสำรวจโดยวาดกราฟหรอื แผนภาพใหม่