The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

โมดูล 3 สิ่งแวดล้อมทางกายภาพกับประชากรและการตั้งถิ่นฐาน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by thtown29, 2021-09-24 04:34:59

โมดูล 3 สิ่งแวดล้อมทางกายภาพกับประชากรและการตั้งถิ่นฐาน

โมดูล 3 สิ่งแวดล้อมทางกายภาพกับประชากรและการตั้งถิ่นฐาน

บทเรยี นโมดูล

สิง่ แวดล้อมทางกายภาพกับ
ประชากรและการต้ังถิน่ ฐาน

ชุดที่3

นางสาวสิรีกร ทับทิมทอง

กลุม่ สาระการเรยี นร้สู ังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม
โรงเรียนบางสะพานวทิ ยา อาเภอบางสะพาน จงั หวดั ประจวบครี ขี นั ธ์

ชุดท3ี่ บทเรียนโมดลู ก

สงิ่ แวดลอ้ มทางกายภาพกับประชากรและการตง้ั ถิน่ ฐาน

คำนำ

บทเรียนโมดูลหน่วยที่ 4 เร่ือง สิ่งแวดล้อมทางกายภาพกับประชากรและการต้ังถิ่น
ฐาน เป็นบทเรียนโมดูลสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ใช้ประกอบการ
จัดการเรียนรู้ในวิชาสังคมศึกษา รหัสวิชา ส33101 สาหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปี่ 6 โดยมี
สว่ นประกอบสาคัญของบทเรียนโมดูล ประกอบด้วย

1. คาแนะนาการใชบ้ ทเรยี นโมดูล
2. โครงสร้างบทเรยี นโมดลู
3. แบบทดสอบกอ่ นเรียน
4. เนอ้ื หา
5. กิจกรรม
6. แบบทดสอบหลงั เรียน
7. แนวการตอบกจิ กรรม
8. เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียนและหลงั เรยี น
บทเรียนโมดูลหน่วยท่ี 4 เร่ือง ส่ิงแวดล้อมทางกายภาพกับประชากรและการตั้งถ่ิน
ฐาน จัดทาขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือพัฒนาการจัด กิจกรรมการเรียนรู้ ท่ีเน้นผู้เรียนเป็น
สาคัญ และเพื่อจะช่วยให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ด้วยตนเอง ตามลาดับ ข้ันตอนอย่างเป็นอิสระ
ตามความสามารถของแตล่ ะบคุ คลอยา่ งมีความสุข และส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางการ เรียนของ
นกั เรียนสงู ข้ึนไป

สิรกี ร ทับทิมทอง
โรงเรยี นบางสะพานวิทยา

สำรบญั ข

เรอ่ื ง หนา้

คานา ก
สารบญั ข
คาแนะนาการใชบ้ ทเรยี นโมดลู 1
โครงสร้างบทเรยี นโมดูลหนว่ ยท่ี 3 1
แบบทดสอบก่อนเรยี น 2-3
กิจกรรมความรทู้ ่ี 3.1 ประชากรและการต้ังถิ่นฐาน 4-16
กิจกรรมตรวจสอบความรทู้ ่ี 3.1 17
กจิ กรรมความรูท้ ่ี 3.2 กิจกรรมทางเศรษฐกจิ 18-30
กจิ กรรมตรวจสอบความรทู้ ่ี 3.2 31
แบบทดสอบหลงั เรยี น 32-33
แนวการตอบกจิ กรรมท่ี 3.1 ประชากรและการตั้งถ่ินฐาน
แนวการตอบกจิ กรรมที่ 3.2 กิจกรรมทางเศรษฐกจิ 34
เฉลยแบบทดสอบก่อนและหลงั เรียน 35
บรรณานุกรม

ชุดที่ 3 สง่ิ แวดลอ้ มทางกายภาพกับประชากรและการตัง้ ถนิ่ ฐาน

3โครงสร้างบทเรียนโมดูลหน่วยท่ี 1

เรื่อง ส่งิ แวดลอ้ มทางกายภาพกบั ประชากรและการต้งั ถน่ิ ฐาน

หลักการและเหตุผล

โมดูลน้มี งุ่ ใหน้ ักเรียนได้เรยี นรู้ถึงสิ่งแวดลอ้ มทางกายภาพกับประชากรและการต้ังถน่ิ ฐาน

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

เมื่อนกั เรียนศกึ ษาบทเรียนโมดูลหนว่ ยท่ี 4 แลว้ นกั เรยี นสามารถ
1. อธิบายความสมั พนั ธ์ระหว่างสงิ่ แวดลอ้ มกับการดาเนนิ ชีวิตของมนษุ ยไ์ ด้

สาระการเรียนรู้ ความรพู้ ้นื ฐาน

1. ประชากรและการตัง้ ถน่ิ ฐาน นักเรยี นควรมีความเรอ่ื ง
2 กจิ กรรมทางเศรษฐกจิ ของมนุษย์ ภูมิภาคตา่ งๆของโลก

การประเมนิ ผลกอ่ นเรียน

นักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียนเร่ือง ส่ิงแวดล้อมทางกายภาพกับประชากรและการ
ตัง้ ถ่ินฐานจานวน 10 ข้อ โดยใช้เวลา 8 นาที

กิจกรรมการเรียน

นกั เรียนอา่ นบทเรียนโมดลู หนว่ ยท่ี 4 แลว้ ทากิจกรรมหากมีข้อสงสยั ไม่เข้าใจใหซ้ กั ถาม
และ ปรึกษาครผู ู้สอน นกั เรียนสามารถศกึ ษาได้ทั้งรายบุคคลหรอื รายกล่มุ โดยใชเ้ วลา 3 ชวั่ โมง

การประเมนิ ผลหลงั เรียน

นักเรียนทาแบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง สิ่งแวดล้อมทางกายภาพกับประชากรและการตั้งถ่ิน
ฐานจานวน 10 ข้อ โดยใช้เวลา 8 นาทีเพ่ือ ตรวจสอบว่าตนเองมีความรู้ผ่านเกณฑ์การ
ประเมิน โดยถ้าทาแบบทดสอบได้8 ข้อจากแบบทดสอบ 10 ข้อ ถือว่าผ่านเกณฑ์การประเมิน
รอ้ ยละ 80 และใหผ้ า่ นไปเรียนโมดลู ต่อไป

การประเมนิ ผลหลังเรียน

นักเรยี นที่ไม่ผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ หลังเรยี น ให้กลบั ไปศึกษาเน้อื หาในโมดลู อกี ครงั้ พร้อม
ทัง้ ปรึกษา และซกั ถามครจู นเกดิ ความเข้าในเนอ้ื หาแล้วทาแบบทดสอบหลงั เรียนเพ่ือประเมินผลอกี
คร้ัง

3แบบทดสอบกอ่ นเรียนโมดูลที่ 2

คาช้แื จง

1. จงเลอื กคำตอบทถี่ กู ตอ้ งเพียงคำตอบเดยี ว แลว้ ทำเครอ่ื งหมำยกำกบำท (X) ทบั ตวั อักษร ขอ้
ก, ข, ค หรือ ง ลงในกระดำษคำตอบ
2. ข้อสอบชดุ น้ี มีจำนวน 10 ข้อ คะแนนเตม็ 10 คะแนน
3. เกณฑก์ ำรให้คะแนน ตอบถูกได้ 1 คะแนน, ตอบผิด ได้ 0 คะแนน

1. ขอ้ ใดไม่ใช่ เหตุผลของกำรสรำ้ งบ้ำนด้วยหนิ ในเขตภูมอิ ำกำศแห้งแล้ง
ก เป็นวัสดุท่ีมใี นท้องถ่ิน
ข มีควำมคงทนมำกกว่ำดินเหนยี ว
ค มคี วำมคงทนต่อสภำพภมู อิ ำกำศ
ง เปน็ วัสดอุ ยำ่ งเดียวทนี่ ำมำใชไ้ ด้

2. ลกั ษณะทำงกำยภำพในข้อใดมอี ิทธิพลต่อกำรกำหนดรปู แบบกำรเพำะปลูกของประชำกร
ในแตล่ ะทอ้ งถน่ิ

ก ภูมิอำกำศ
ข ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศ
ค ทรพั ยำกรธรรมชำติ
ง ถูกทกุ ขอ้

3. พืชที่ขึน้ ในเขตโอเอซสิ ถกู นำมำใช้เป็นสว่ นประกอบใดของบ้ำนทส่ี รำ้ งในเขตแห้งแล้ง
ก พ้นื บำ้ น
ข ผนงั บำ้ น
ค ประตูบำ้ น
ง หลงั คำบำ้ น

4. ขอ้ ใดเปน็ ลกั ษณะของบำ้ นที่อยใู่ นเขตร้อนช้ืน
ก เปน็ บำ้ นชัน้ เดียวและมใี ต้ถนุ สูง
ข เป็นบำ้ นทรงส่ีเหลย่ี มทำจำกต้นสน
ค เป็นบำ้ นช้นั เดยี ว มพี นื้ ดนิ เปน็ พน้ื บำ้ น
ง เปน็ บำ้ นทรงสเี่ หลีย่ มสร้ำงจำกหนิ ทรำย

5. ในเกำะกรนี แลนด์ ประชำกรจะอำศัยอยตู่ ำมแนวชำยฝง่ั เพรำะเหตุใด
ก เพรำะมพี น้ื ทท่ี กี่ วำ้ งขวำงกวำ่
ข เพรำะชำยฝัง่ มีอำกำศแบบอบอุ่น
ค เพรำะชำยฝงั่ ได้รบั อิทธพิ ลจำกทะเลจึงประกอบอำชีพได้
ง เพรำะมพี ชื พรรณธรรมชำตจิ ำพวกตะไครข่ น้ึ เป็นจำนวนมำก

ชุดท่ี 3 สง่ิ แวดลอ้ มทางกายภาพกบั ประชากรและการต้ังถนิ่ ฐาน

3แบบทดสอบกอ่ นเรยี นโมดูลท่ี 3

คาชแ้ื จง

1. จงเลือกคำตอบทถ่ี กู ต้องเพียงคำตอบเดยี ว แลว้ ทำเครอื่ งหมำยกำกบำท (X) ทบั ตัวอกั ษร ข้อ
ก, ข, ค หรอื ง ลงในกระดำษคำตอบ
2. ข้อสอบชดุ นี้ มจี ำนวน 10 ข้อ คะแนนเต็ม 10 คะแนน
3. เกณฑ์กำรให้คะแนน ตอบถูกได้ 1 คะแนน, ตอบผดิ ได้ 0 คะแนน

6. ชนกล่มุ ใดมกี ำรประกอบอำชีพและรปู แบบของกำรผลิตท่ีแตกต่ำงจำกข้ออื่น
ก ชำวบชุ เมน
ข ชำวอำหรบั
ค ชำวปำปวน
ง ชำวเอสกโิ ม

7. ข้อใด ไมใ่ ช่ ประโยชน์ของกำรศึกษำประชำกร
ก. สำมำรถวำงแผนตลำดแรงงำน
ข. ทรำบสำเหตขุ องกำรเพิ่มจำนวนประชำกร
ค. ทรำบถึงวิวฒั นำกำรของมนุษยต์ ้ังแตอ่ ดีตจนถึงปจั จบุ นั
ง. ทรำบถงึ สภำวะประชำกรและปัญหำทเี่ กิดจำกกำรเพ่ิมประชำกร

8. ผลกระทบอนั ดับแรกที่เกิดขน้ึ เนอื่ งจำกกำรเพิ่มขึ้นของประชำกรมนุษย์คือข้อใด
ก. ปัญหำสังคม
ข. ปัญหำมลภำวะต่ำงๆ
ค. ปัญหำกำรประกอบอำชพี
ง. ปัญหำกำรขำดแคลนทรพั ยำกร

9. จุดมุ่งหมำยของกำรทอ่ งเท่ยี วเชงิ นิเวศ คอื อะไร
ก. มแี หลง่ ท่องเท่ียวธรรมชำติท่ีมีเอกลักษณ์เฉพำะถ่ิน
ข. มีแหลง่ ทอ่ งเท่ียวสำหรบั ชำวต่ำงประเทศ
ค. มแี หล่งท่องเที่ยวท่ีรักษำธรรมชำติ
ง. มแี หลง่ ทอ่ งเทีย่ วในเชงิ ประวัติศำสตร์

10. “Eco-tourism” หมำยถึงกำรท่องเท่ียวแบบใด
ก. กำรท่องเทย่ี วเชงิ นิเวศ
ข. กำรท่องเท่ียวระบบนิเวศ
ค. กำรทอ่ งเทย่ี วแบบผจญภัย
ง. กำรท่องเท่ยี ววัฒนธรรม

ชุดท่ี 3 ส่งิ แวดล้อมทางกายภาพกับประชากรและการตั้งถนิ่ ฐาน

3บทเรียนโมดลู หน่วยท่ี 4

สงิ่ แวดล้อมทางกายภาพกับประชากรและการตัง้ ถิน่ ฐาน

ใบความร้กู จิ กรรม ท่ี 3.1 ประชากรและการต้ังถน่ิ ฐาน

สิง่ แวดลอ้ มทางกายภาพ ทั้งส่งิ ที่เกิดขน้ึ เองตำมธรรมชำติและส่ิงที่มนุษย์สร้ำงขึ้น ล้วน
มีอิทธิพลต่อกำรดำเนินชีวิตของมนุษย์ในกำรตั้งถิ่นฐำน วิถีกำรดำเนินชีวิต กิจกรรมทำง
เศรษฐกิจและกำรพัฒนำทำงเศรษฐกิจ ส่ิงแวดล้อมทำงกำยภำพที่ไม่เหมือนกันส่งผลให้กำร
ดำเนินชีวติ ของประชำกรในพ้นื ท่ีมคี วำมแตกตำ่ งกันไปดว้ ย

1. ประชากรและการต้ังถน่ิ ฐาน

ประชากร หมายถึง จำนวน ประชำกรมนุษย์ ทั้งหมดท่ียัง
ดำรงชีวิตอยู่บนโลก ณ ช่วงเวลำใดเวลำหน่ึง กระจำยตัวอยู่ตำม
ภูมิภำคต่ำง ๆ ของโลก ซึ่งปัจจุบันองค์กำรสหประชำชำติ (UN)
ประมำณกำรวำ่ ประชำกรโลกมีจำนวนรำว ๆ 7,865 ล้ำนคน ณ เดือน
พฤษภำคม ค.ศ. 2021 และจะเพิ่มจำนวนเป็น 8,500 ล้ำนคนใน
ปี ค.ศ. 2030 และ 11,200 ล้ำนคนในปี ค.ศ. 2100

แผนภมู ิประชากรโลก

ทีม่ า : https://socialyrc.files.wordpress.com/2019/07

แผนท่ีแสดงความหนาแนน่ ประชากรโลก

ชดุ ที่ 3 ส่ิงแวดลอ้ มทางกายภาพกับประชากรและการต้ังถ่นิ ฐาน

3บทเรยี นโมดลู หนว่ ยที่ 5

สิ่งแวดล้อมทางกายภาพกบั ประชากรและการตัง้ ถิ่นฐาน

2. การเปลย่ี นแปลงประชากร

กำรเปลย่ี นแปลงของประชำกรโลกทม่ี ีแนวโนม้ เพ่มิ ขนึ้ เรื่อยๆ น้ัน เป็นปรำกฎกำรณ์อย่ำง
หนง่ึ ท่เี กดิ จำกปจั จยั หลักเพยี ง 2 ประกำรคอื กำรเกดิ และกำรตำย ซง่ึ แตกต่ำงจำกกำรเปล่ียนแปลง
ของประชำกรในภูมภิ ำคยอ่ ยๆ เชน่ ทวีป หรอื ประเทศ ท่ีมปี ัจจยั หลกั นอกจำกกำรเกดิ และกำรตำย
แลว้ ยงั มกี ำรยำ้ ยถิน่ ของประชำกรเข้ำมำเกย่ี วข้องดว้ ย

(ทม่ี ำ :http://service.nso.go.th/nso/nsopublish/service/ind)

2.1 อัตราการเกิด(birth rate)
อัตราเกิด หมายถงึ จำนวนกำรเกิดมีชีพตอ่ ประชำกร 1,000คน ในปีใดปีหนึ่ง ใน

ค.ศ. 2017อัตรำเกดิ ประชำกรโลกเทำ่ กับ 20แสดงวำ่ ในปีนนั้ ประชำกรโลกมีทำรกแรกเกิดรอด 20คน
สำหรบั ประชำกรทุก 1,000คน

ประเทศที่มีอตั รำกำรเกดิ สูงที่สุดในโลก 10 อันดับแรก เปน็ ประเทศในทวีปแอฟรกิ ำ ไดแ้ ก่
ไนเจอร์ (6.91คน) แองโกลำ (5.9 คน) คองโก (5.7 คน) มำลี (5.63 คน) ชำด (5.57 คน) เบนนิ
(5.47คน) ยกู ันดำ (5.45 คน) เซำทซ์ ดู ำน (5.43 คน) โซมำเลีย (5.41คน) และบุรนุ ดี (5.10 คน)
ตำมลำดบั

ทวีปแอฟรกิ า มอี ัตรำเกิดสูงที่สดุ คอื 35 คนต่อประชำกร 1,000 คน และมอี ัตรำเจรญิ พนั ธ์ุ
รวม(total fertility rate) สงู ทส่ี ดุ คือ 4.6ขณะทีอ่ ตั รำเจรญิ พนั ธ์รุ วมของโลกคือ 2.5ทวปี ยุโรปมีอัตรำ
เกิดตำ่ สดุ คอื 11คนต่อประชำกร 1,000คน

ชดุ ท่ี 3 สิ่งแวดล้อมทางกายภาพกบั ประชากรและการต้ังถิ่นฐาน

3บทเรยี นโมดูลหน่วยที่ 6

สิ่งแวดลอ้ มทางกายภาพกับประชากรและการต้ังถน่ิ ฐาน

ทวีปเอเชีย เป็นทวปี ทม่ี ปี ระชำกรมำกที่สุด แต่อัตรำเกิดต่อประชำกรของทวีปแอฟริกำสูงที่สุด
สหประชำชำติคำดกำรณ์ว่ำระหว่ำง ค.ศ. 2017-2050 กำรเพ่ิมของจำนวนประชำกรในทวีปแอฟริกำ
มำกท่ีสุดถึง 1.3 พันล้ำนคน รองลงมำคือ ทวีปเอเชีย 750 ล้ำนคนทวีปยุโรปเป็นทวีปที่มีประชำกร
ลดลง

ประเทศไทย มอี ตั รำเกดิ 11 คนตอ่ ประชำกร 1,000 คน จดั อยูใ่ นกลมุ่ ประเทศทีม่ อี ตั ราเกดิ ต่า

2.2 อตั ราตาย (death rate)
อตั รำกำรตำยหมำยถงึ จำนวนผเู้ สียชีวติ ต่อประชำกร 1,000 คน ในปีใดปีหน่ึง ใน ค.ศ.
2017 อัตรำตำยประชำกรโลกเท่ำกับ 8 แสดงวำ่ ในปีนน้ั ประชำกรโลกมีผเู้ สยี ชีวติ 8 คนตอ่ ประชำกร
ทุก 1,000 คน

ทวีปยโุ รป มีอัตรำตำยคอื 11คนตอ่ ประชำกร 1,000คน สงู กวำ่ อัตรำตำยของประชำกร
โลกคือ 8 คน เนือ่ งจำกมีประชำกรกลุ่มผู้สงู อำยุมำก

ทวปี อเมริกาใต้ มอี ตั รำตำยคือ 6คนตอ่ ประชำกร 1,000คน
ประเทศไทย มีอตั รำตำยต่อประชำกร 1,000คน อยู่ที่ 8คน ซึ่งมีค่ำเทำ่ กบั อัตรำตำยต่อ
ประชำกร 1,000คนของโลก
แบบรปู กำรณต์ ำยในภำพรวมโลกจะพบว่ำ ประเทศทมี่ ีระดบั กำรพฒั นำสงู และประเทศท่ี
กำลงั พฒั นำมแี บบรูปกำรตำยไม่ตำ่ งกนั เน่ืองจำกควำมสำมำรถในกำรผลิตอำหำรท่ีเพ่มิ ขึน้ เพียงพอ
ต่อประชำกร และควำมเจรญิ กำ้ วหนำ้ ทำงกำรแพทยแ์ ละสำธำรณสขุ ทมี่ ำกข้ึน
ทำให้สำมำรถควบคุมกำรระบำดของโรคติดเชอ้ื ได้อย่ำงมีประสทิ ธภิ ำพมำกข้นึ

ชดุ ที่ 3 ส่งิ แวดล้อมทางกายภาพกบั ประชากรและการตั้งถ่นิ ฐาน

3บทเรียนโมดลู หน่วยที่ 7

สิ่งแวดลอ้ มทางกายภาพกับประชากรและการตัง้ ถ่นิ ฐาน

2.3. การย้ายถนิ่ (migration)

การย้ายถ่ิน หมำยถึง กำรเคลื่อนย้ำยของบุคคล
หรือกลุ่มคนจำกสถำนที่ท่ีอำศัยอยู่เดิมไปยัง
สถำนท่ีใหม่ทั้งแบบถำวรและกึ่งถำวร กำรย้ำยถิ่น
เป็นอีกสำเหตุหนึ่งท่ีทำให้เกิดกำรเปล่ียนแปลง

ประชำกร

ปจั จัยสา่ คัญทที่ า่ ให้เกดิ การย้ายถ่นิ ไดแ้ ก่
1. ปจั จัยผลัก เป็นปจั จยั ท่ีทำให้ประชำกรตัดสนิ ใจย้ำยถิ่นออกจำกถ่ินฐำนเดมิ เช่น เกิด
สงครำม โรคระบำด เกดิ ควำมแร้นแค้นทำงเศรษฐกจิ สภำพแวดลอ้ มเส่ือมโทรมมำก ขำดแคลนท่ีดิน
ทำกนิ เกิดภัยพบิ ตั ิรนุ แรง เกดิ ควำมไม่สงบ
2. ปัจจยั ดึง เปน็ ปัจจยั ที่ทำให้ประชำกรตัดสินใจย้ำยไปยงั ถ่นิ ฐำนใหม่ เชน่ โอกำสทำง
เศรษฐกิจ สูงข้นึ ปลอดภยั จำกภำวะสงครำม สภำพแวดลอ้ มทเ่ี หมำะสม ไม่มีโรคระบำด มีควำมมน่ั คง
ทำงกำรเมือง มีสิ่งแวดทีด่ ี

การอพยพย้ายถ่ินของชาวโรฮิงยา
(ทมี่ า :https://www.matichon.co.th/article/news_1645647)

ชดุ ที่ 3 สง่ิ แวดลอ้ มทางกายภาพกับประชากรและการตั้งถ่ินฐาน

3บทเรยี นโมดูลหนว่ ยที่ 8

สิ่งแวดลอ้ มทางกายภาพกบั ประชากรและการต้งั ถนิ่ ฐาน

3. โครงสรา้ งประชากรโลก

โครงสร้ำงประชำกร เป็นกำรจำแนกสัดส่วน
ประชำกรตำมอำยุและเพศ เรียกว่ำพีระมิดประชำกร
ซ่ึงช่วยให้เห็นสัดส่วนประชำกร สำมำรถคำดคะเน
แนวโน้มของประชำกรในประเทศน้ันๆได้ แบ่ง
ออกเป็น 4 รปู แบบ ดังน้ี

3.1 รูปแบบที่ 1 พีระมิดฐำนกว้ำงยอด
แหลม หรือ พีระมิดแบบขยำยตัว (Expansive
Pyramid) แสดงถึงโครงสร้ำงประชำกรที่มีอัตรำ
เพ่ิมขึ้นอย่ำงรวดเร็ว โดยสำมำรถพบโครงสร้ำงของ
ป ร ะ ช ำ ก ร ลั ก ษ ณ ะ นี้ ไ ด้ ใ น ป ร ะ เ ท ศ กั ว เ ต ม ำ ล ำ
ซำอุดีอำระเบีย และประเทศในทวีปแอฟริกำ เช่น
เคนยำ และไนจีเรีย เป็นต้น

3.2 รูปแบบท่ี 2 พีระมิดทรงกรวยปำกแคบ
หรือ พีระมดิ แบบคงท่ี (Stationary Pyramid)
แสดงถึงโครงสร้ำงของประชำกรที่มีอัตรำ
เพ่ิมข้ึนอย่ำงช้ำ ๆ มีรูปแบบของอัตรำกำรเกิด
และอัตรำกำรตำยของประชำกรที่ค่อนข้ำงต่ำ
สำมำรถพบโครงสร้ำงอำยุประชำกรลักษณะนี้
ได้ในประเทศสหรัฐอเมริกำ ออสเตรเลีย
แคนำดำ และไทย เปน็ ตน้

ชดุ ท่ี 3 สง่ิ แวดล้อมทางกายภาพกับประชากรและการต้ังถนิ่ ฐาน

3บทเรียนโมดลู หน่วยท่ี 9

สิ่งแวดลอ้ มทางกายภาพกบั ประชากรและการตั้งถนิ่ ฐาน

3.3 รูแบบท่ี 3 พีระมิดทรงระฆังคว่ำ
หรือ พีระมิดแบบเสถียร (Stable Pyramid)
แสดงถึงโครงสร้ำงของประชำกรท่ีมีอัตรำกำร
เกิดและอัตรำกำรตำยไม่เปล่ียนแปลงไปมำกนัก
สำมำรถพบโครงสร้ำงอำยุประชำกรลักษณะน้ี
ได้ในประเทศสเปน เดนมำร์ก อินโดนีเซีย และ
ออสเตรยี

3.4 รูปแบบที่ 4 พีระมิดทรงดอก
บัวตูม หรือ พีระมิดแบบหดตัว (Constrictive
Pyramid) แสดงถงึ โครงสร้ำงของประชำกรท่ีมี
อั ต ร ำ ล ด ล ง จ ำ ก จ ำ น ว น ก ำ ร เ กิ ด ที่ ต่ ำ
เช่นเดียวกับจำนวนกำรตำย โดยสำมำรถพบ
โ ค ร ง ส ร้ ำ ง อ ำ ยุ ป ร ะ ช ำ ก ร ลั ก ษ ณ ะ นี้ ไ ด้ ใ น
ประเทศเยอรมัน ญ่ีปุ่น บัลแกเรีย และ
สงิ คโปร์ เปน็ ต้น

(ที่มำ : https://ngthai.com/science/31113/human-population/)

กำรคำดกำรณ์พีระมิดประชำกรไทย จะ
เห็นได้ว่ำ พีระมิดมีฐำนแคบท่ีสุด กลุ่มประชำกร
วัยแรกเกิดถึง 24 ปี มีจำนวนใกล้เคียงกัน มี
อัตรำเกิดประชำกรต่ำ แสดงถึงแนวโน้ม
ประชำกรลดลง กลุ่มประชำกรวัยทำงำนมี
สัดสว่ นสูง และกลุ่มประชำกรวัยสูงอำยุมีสัดส่วน
เพิ่มขึ้น แสดงถึงแนวโน้ม การเข้าสู่สังคม
ผู้สูงอายุ ซึ่งจะส่งผลต่อกำรพัฒนำประเทศและ
กำรเตรียมควำมพร้อมรองรับสถำนกำรณ์สังคม
ผสู้ ูงอำยุของภำครฐั ต่อไป

ชดุ ที่ 3 สง่ิ แวดลอ้ มทางกายภาพกับประชากรและการตั้งถน่ิ ฐาน

3บทเรยี นโมดูลหน่วยที่ 10

ส่งิ แวดล้อมทางกายภาพกบั ประชากรและการต้ังถิน่ ฐาน

4. การตัง้ ถนิ่ ฐาน

การตั้งถ่ินฐาน หมำยถึง กำรสร้ำงที่
อยู่อำศัยของมนุษย์ โดยอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม
เป็นหมู่บ้ำน และเมือง ในกำรตั้งถิ่นฐำนจะมี
ส่วนประกอบที่สำคัญ คือ คน และพ้ืนท่ี
ส่วนประกอบที่สำคัญรองลงมำ คือ กำรติดต่อ
ระหว่ำงกันและกัน กำรใช้บริกำรต่ำงๆ เพ่ือ
ตอบสนองควำมต้องกำรของคนในกลุ่มชนนั้นๆ

สิ่งแวดล้อมท่ีมีอิทธิพลต่อกำรตั้งถ่ินฐำนของมนุษย์ ได้แก่ ทรัพยำกรธรรมชำติ เช่น ป่ำไม้ แร่ ซึ่ง
นำมำใช้เป็นวัสดุในกำรก่อสร้ำงท่ีอยู่อำศัย และภูมิอำกำศ ซ่ึงสัมพันธ์กับกำรกำหนดรูปแบบของท่ีอยู่
อำศัย ดังน้ัน บริเวณท่ีมีทรัพยำกรธรรมชำติและส่ิงแวดล้อมที่ต่ำงกัน วัสดุท่ีใช้ในกำรสร้ำงบ้ำนและ
รปู แบบของบำ้ นก็แตกตำ่ งกนั ดว้ ย สำหรับกำรตั้งถ่ินฐำนและรูปแบบท่ีอยู่อำศัยท่ีสัมพันธ์กับส่ิงแวดล้อม
และทรัพยำกรธรรมชำติ มดี ังนี้
1. การตัง้ ถ่ินฐานในบรเิ วณทีม่ ภี ูมิอากาศแห้งแลง้

บริเวณท่ีมีภูมิอำกำศแห้งแล้งของโลก ได้แก่ เขตทะเลทรำยและทุ่งหญ้ำชำยขอบของทะเลทรำย
พชื พรรณธรรมชำตขิ น้ึ ได้เฉพำะบรเิ วณโอเอซสิ มีระดับน้ำใต้ดินต้ืน เช่น ไม้พุ่ม ไม้หนำม หญ้ำใบแข็ง ซ่ึง
เป็นพืชพรรณขนำดเล็ก ไม่สำมำรถนำมำสร้ำงบ้ำนได้ โดยกำรต้ังถ่ินฐำนในเขตภูมิอำกำศแห้งแล้งมี
ควำมสัมพัน์ธ์กบั ทรพั ยำกรธรรมชำติและส่งิ แวดลอ้ ม ดังน้ี

ชดุ ที่ 3 สงิ่ แวดล้อมทางกายภาพกบั ประชากรและการตั้งถ่นิ ฐาน

3บทเรยี นโมดูลหน่วยท่ี 11

ส่งิ แวดลอ้ มทางกายภาพกับประชากรและการต้ังถ่นิ ฐาน

1) การสร้างบ้านดว้ ยโคลนหรือดินเหนียว ดินเหนียวเป็นวัสดุชนิดเดียวในเขตแห้งแล้งท่ี
เหมำะแก่กำรนำมำสร้ำงท่ีอยู่อำศัย ส่วนรูปแบบของบ้ำนในเขตแห้งแล้ง นิยมใช้รูปทรงส่ีเหล่ียม
หรือทรงกลม เป็นบ้ำนช้ันเดียวอยู่ติดพื้น ฝำบ้ำนนิยมใช้ดินเหนียวมำทำเป็นแผ่น ผ่ึงแดดให้แห้ง
แล้วนำมำเรียงต่อกันแล้วใช้โคลนฉำบแทนปูนซีเมนต์เพื่อให้แผ่นดินเหนียวและโคลนเช่ือมต่อเป็น
เน้ือเดียวกัน สำหรับหลังคำอำจใช้ฟำง หรือพืชขนำดเล็ก หรือหญ้ำเพ่ือบังแดดกันควำมร้อน ท้ังนี้
เพรำะเขตแห้งแลง้ มีฝนตกน้อยมำก โคลนและดินเหนียวจึงเป็นวัสดุที่คงทนได้นำน เช่น บ้ำนเรือน
ในประเทศซเี รยี มำลี ซดู ำน เอธโิ อเปีย

2) การสร้างบ้านด้วยหิน หินท่ีนำมำใช้ในกำรสร้ำงบ้ำนในเขตแห้งแล้ง ได้แก่ หินปูน หิน
ทรำย ซ่ีงทนทำนต่อสภำพภูมิอำกำศ รูปทรงบ้ำนมักเป็นทรงส่ีเหลี่ยมหรือทรงกลมชั้นเดียวอยู่ติด
พื้นฝำบ้ำนนิยมใช้หินมำวำงเรียงต่อกัน ส่วนหลังคำอำจใช้หินหรือหญ้ำ กำรสร้ำงบ้ำนด้วยหินมี
ควำมแข็งแรงทนทำนกวำ่ ดนิ เหนยี ว แต่ตอ้ งใช้แรงงำนละค่ำใช้จ่ำยสูงกว่ำ เช่น บ้ำนของชำวชนบท
ในประเทศกรีซ เปรู เนปำล

ชุดท่ี 3 สิง่ แวดล้อมทางกายภาพกบั ประชากรและการตั้งถนิ่ ฐาน

3บทเรียนโมดลู หน่วยที่ 12

ส่งิ แวดล้อมทางกายภาพกับประชากรและการต้งั ถ่ินฐาน

2. การตัง้ ถ่ินฐานในบริเวณที่มีภูมิอากาศรอ้ นชื้น
เขตภูมิอำกำศร้อนชื้น คือ พ้ืนท่ีอยู่ระหว่ำงเส้นทรอปิกท้ังสอง เป็นบริเวณที่มีอุณหภูมิสูง

ตลอดปี เดือนที่มีอุณหภูมิต่ำที่สุดกว่ำ 18 องศำเซลเซียส และมีปริมำณฝนสูง ฝนตกตลอดปี พืช
พรรณธรรมชำตปิ ระกอบดว้ ยปำ่ ไมน้ ำนำชนิด กำรสร้ำงบ้ำนในเขตนจี้ ึงใช้ไมเ้ ป็นวสั ดุที่สำคัญในกำร
สรำ้ งบ้ำนเป็นสว่ นใหญ่ เชน่ ใชฝ้ ำบ้ำน พ้ืน เสำ หน้ำต่ำงๆ สว่ นหลงั คำจะใช้ไม้เป็นโครงและใช้วัสดุ
อ่ืนประกอบ เช่น ใบหญ้ำ ใบจำก กระเบ้ือง สังกะสี รูปแบบของบ้ำนมักจะเป็นบ้ำนชั้นเดียวใต้ถุน
สูงซ่ึงช่วยให้หนีพ้นจำกน้ำท่วมและสัตว์เล้ือยคลำนท่ีอำจจะเป็นอันตรำยได้ นอกจำกนี้ยังใช้ใต้ถุน
สูงเป็นท่ีเก็บเคร่ืองมือทำงกำรเกษตร เล้ียงสัตว์ พักผ่อน จักสำน ทอผ้ำ หรือป้ันหม้อ กำรต้ังถ่ิน
ฐำนของเมืองในเขตร้อนช้ืนแตกต่ำงไปจำกชนบท โดยใช้วัสดุประเภทคอนกรีตเสริมเหล็กติด
กระจก ทั้งนี้เปน็ เพรำะในเมืองไม่มีป่ำไม้จึงต้องสั่งไม้มำจำกแหล่งอ่ืน และแม้เขตเมืองที่เคยมีป่ำไม้
อดุ มสมบูรณใ์ นอดีตก็ถูกทำลำยจนเกือบหมด ไม้ท่ีใช้สำหรับกำรก่อสร้ำงจึงหำยำกหรือมีรำคำแพง
ทำใหต้ ้องพยำยำมหำวัสดุอ่นื มำใช้ทดแทน

ชดุ ท่ี 3 ส่งิ แวดล้อมทางกายภาพกับประชากรและการตั้งถ่นิ ฐาน

3บทเรียนโมดลู หนว่ ยที่ 13

สง่ิ แวดลอ้ มทางกายภาพกบั ประชากรและการต้ังถนิ่ ฐาน

3. การตง้ั ฐานในบรเิ วณทีม่ อี ุณหภมู อิ บอุ่น
บริเวณท่ีมีภูมิอำกำศอบอุ่น คือ พื้นที่ท่ีอยู่ระหว่ำงเส้นทรอปิกออฟแคนเซอร์ถึงเส้น

อำร์กติกเซอร์เคิลทำงซีกโลกเหนือ และเส้นทรอปิกคอร์นถึงเส้นแอนตำร์กติกทำงซีกโลกใต้ เป็น
บริเวณที่มีภูมิอำกำศไม่ร้อนหรือหนำวเย็นจนเกินไป พืชพรรณธรรมชำติประกอบไปด้วยป่ำไม้
ประเภทไมเ้ น้อื แขง็ และไม้สน

ลักษณะกำรตั้งถ่ินฐำนในชนบทของเขตอบอุ่นนิยมใช้วัสดุที่หำได้ง่ำยในท้องถิ่น เช่น ไม้สน
ส่วนรูปแบบของบ้ำนนิยมทรงส่ีเหล่ียมและมีหน้ำจั่ว ใช้ต้นสนท์ี่มีลำต้นตรงมำเรียงต่อกัน ซ่ึงเป็น
กำรสร้ำงท่ีไม่ส้ินเปลืองค่ำใช้จ่ำยและสร้ำงได้ง่ำย บ้ำนประเภทนี้มีลักษณะคล้ำยกระท่อม เรียกว่ำ
บ้ำนไม้ซุง พบทำงตอนเหนือของประเทศรัสเซีย คำบสมุทรแกนดิเนเวีย แคนำดำ และตอนเหนือ
ของสหรฐั อมรกิ ำ

สำหรับกำรต้ังถ่ินฐำนในเมืองเป็นบ้ำนท่ีนิยมใช้คอนกรีตเสริมเหล็ก อิฐ กระจก และ
กระเบ้อื ง เปน็ วัสดุสำคัญ ส่วนรูปแบบบำ้ นมลี ักษณะเป็นตึกทีม่ ผี นังคอ่ นข้ำงหนำ เพื่อป้องกันหนำว
เย็นของอำกำศ

ชุดที่ 3 ส่ิงแวดล้อมทางกายภาพกบั ประชากรและการต้ังถ่นิ ฐาน

3บทเรยี นโมดูลหนว่ ยที่ 14

สง่ิ แวดลอ้ มทางกายภาพกับประชากรและการตัง้ ถิ่นฐาน

4. การต้ังถ่ินฐานในเขตภมู อิ ากาศหนาว
บริเวณที่มีภูมิอำกำศหนำวเย็นที่มนุษย์อำศัยอยู่ ได้แก่ ดินแดนเหนือเส้นอำร์กติกเซอร์เคิล

ขึ้นไปถงึ ข้วั โลกเหนือ เช่น ตอนเหนือของทวีปเอเชียและยุโรป เกำะกรีนแลนด์ และตอนเหนือของ
ทวีปอเมริกำเหนือ มีภูมิอำกำศหนำวเย็น อุณหภูมิของเดือนที่ร้อนท่ีสุดเฉลี่ยไม่เกิน 10 องศำ
เซลเซียส พืชพรรณธรรมชำติส่วนใหญ่เป็นพืชพรรณขนำดเล็กจำพวกตะไคร้ที่มีระยะเวลำกำร
เจริญเติบโตในช่วงฤดูร้อน เป็นเขตท่ีมีประชำกรอำศัยเบำบำงมำก ส่วนใหญ่อำศัยอยู่ในเขตพื้นที่
ชำยฝัง่ ซ่งึ ได้รับอทิ ธิพลจำกทะเล ทำใหภ้ มู อิ ำกำศไมห่ นำวเย็นจนเกินไปนัก

ลักษณะของบ้ำนเรือนในเขตหนำวมีควำมคล้ำยคลึงกันคือ มีฝำบ้ำนหนำทึบและมิดชิด
หลงั คำแขง็ แรงทรงสงู เพ่ือรองรบั กำรทบั ถมของหมิ ะส่วนเขตภูมิอำกำศหนำวเป็นแบบทุ่งน้ำแข็งที่มี
หิมะปกคลุมตลอดเวลำ ไมม่ ปี ระชำกรอำศัยอยู่ถำวร แต่เป็นบ้ำนช่ัวครำวที่สร้ำงด้วยหิมะ โดยกำร
ตัดหิมะเป็นก้อนสี่เหล่ียมมำเรียงต่อกัน ลักษณะคล้ำยกระโจมหลังคำรูปโค้ง เรียกว่ำ อิกลู และใช้
ในบำงโอกำส เชน่ เมอื่ ออกไปลำ่ สตั ว์ หรอื นำนักสำรวจไปสำรวจข้วั โลกหรอื ไปต้ังค่ำยพักแรม

(ทม่ี ำ : https://th.wikipedia.org/wik)

ชดุ ที่ 3 สิง่ แวดล้อมทางกายภาพกบั ประชากรและการต้ังถนิ่ ฐาน

3บทเรียนโมดูลหน่วยท่ี 15

สง่ิ แวดล้อมทางกายภาพกับประชากรและการต้ังถิ่นฐาน

การต้งั ถ่ินฐานของมนุษยม์ ี 2 แบบรปู ดังนี้

1. กำรตั้งถน่ิ ฐำนแบบชุมชนชนบท
2.กำรตงั้ ถน่ิ ฐำนแบบชมุ ชนเมอื ง

1. ขนาดของการตั้งถิน่ ฐาน
กำรตง้ั ถิน่ ฐำนสำมำรถจดั เรยี งลำดบั จำกขนำดเล็กไปขนำดใหญ่ โดยพิจำรณำจำกจำนวน
ประชำกรได้จำกตำรำง

2. แบบรปู การกระจายของการตง้ั ถิ่นฐาน
2.1 กำรตั้งถิ่นฐำนแบบชนบท คือ กำรตั้งถิ่นฐำนอยู่นอกเขตเมืองหรือเขตเทศบำล
ประชำกร ส่วนใหญ่ประกอบอำชีพเกษตรกรรม มีแบบรูปกำรต้ังถ่ินฐำนแบ่งออกเป็น 2ลักษณะ
คอื กำรต้ังถนิ่ ฐำนแบบรวมกลุ่ม และกำรตั้งถ่นิ ฐำนแบบกระจำย
2.2 กำรตั้งถิ่นฐำนแบบเมือง ชุมชนเมืองเป็นชุมชนที่มีจำนวนและควำมหนำแน่น
ประชำกรมำก บำ้ นเรอื นต้ังอยหู่ นำแน่น ประชำกรส่วนใหญ่ประกอบอำชีพอุตสำหกรรม พำณิชยก
รรม และกำรบริกำร มีสภำพแวดล้อมส่วนใหญ่เป็นส่ิงที่มนุษย์สร้ำงขึ้น เช่น ท่ีอยู่อำศัย เส้นทำง
คมนำคม ส่งิ อำนวยควำมสะดวก กำรบริกำรต่ำง ๆ

ชดุ ท่ี 3 สิ่งแวดล้อมทางกายภาพกับประชากรและการตั้งถนิ่ ฐาน

3บทเรียนโมดูลหนว่ ยท่ี 16

ส่งิ แวดลอ้ มทางกายภาพกับประชากรและการตง้ั ถ่นิ ฐาน

ทวีปอเมริกำใต้ ทวีปอเมริกำเหนือ ทวีปยุโรป ทวีปออสเตรเลียและโอเชียเนีย มีร้อยละ
ประชำกรเมืองสูงกว่ำร้อยละประชำกรชนบท ขณะที่ทวีปเอเชียและทวีปแอฟริกำ มีร้อยละ
ประชำกรชนบทสงู กวำ่ ประชำกรเมือง

จำกแผนท่ีร้อยละประชำกรท่ีอำศัยในเมือง พ.ศ. 2560 จะเห็นได้ว่ำ ประเทศที่มีร้อยละ
ของประชำกรอำศัยอยู่ในเมืองในสัดส่วนสูง ได้แก่ ประเทศแคนำดำ สหรัฐอเมริกำ บรำซิล
อำร์เจนตินำ สวีเดน สหรำชอำณำจักร เยอรมนี อิตำลี ลิเบีย ซำอุดีอำระเบีย ญ่ีปุ่น เกำหลีใต้
ออสเตรเลยี และนวิ ซแี ลนด์

(ที่มา :https://socialyrc.files.wordpress.com/2019/07/)

ชดุ ท่ี 3 สิ่งแวดล้อมทางกายภาพกบั ประชากรและการตั้งถ่ินฐาน

กิจกรรมตรวจสอบใบความร้ทู ี่ 3.1 17

คาช้ืแจง

ให้นกั เรียนรวมกลุ่มละ 5 6 คน วิเครำะหพ์ รี ะมิดประชำกรประเทศไทยในประเด็นดังต่อไปน้ี
1. ให้วิเครำะหแ์ นวโน้มกลมุ่ ประชำกรไทยอีก 10 ปีข้ำงหนำ้

-แนวโน้มอัตรำกำรเกิด
-ประชำกรวยั ทำงำน
-ประชำกรผูส้ ูงวัย
2. ผลกระทบของกำรเปลีย่ นแปลงทำงประชำกรในประเทศไทย
3. ขอ้ เสนอแนะ

.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................

ชดุ ที่ 3 ส่ิงแวดลอ้ มทางกายภาพกบั ประชากรและการต้ังถนิ่ ฐาน

3บทเรยี นโมดูลหน่วยท่ี 18

สิ่งแวดล้อมทางกายภาพกบั ประชากรและการต้งั ถิน่ ฐาน

ใบความรู้ที่ 3.2 เร่อื งกจิ กรรมทางเศรษฐกจิ ของมนษุ ย์

กจิ กรรมทางเศรษฐกจิ
เป็นกิจกรรมที่มนุษย์ดำเนินกำรเพื่อให้เกิดประโยชน์ทำงเศรษฐกิจและได้ผลตอบแทน

กิจกรรมทำงเศรษฐกิจในแต่ละพ้ืนที่ขึ้นอยู่กับสภำพแวดล้อม ทรัพยำกรธรรมชำติ ควำมรู้
ควำมสำมำรถด้ำนกำรผลิตหรือกำรนำทรัพยำกรมำจัดสรร และใช้ควำมก้ำวหน้ำทำงเทคโนโลยี
แบง่ ออกเป็น 3ประเภท ไดแ้ ก่ เกษตรกรรม อุตสำหกรรมกำรผลติ กำรบรกิ ำรและกำรทอ่ งเที่ยว

1. เกษตรกรรม
1.1 ความหมายของเกษตรกรรม หมำยถึง กำรดำเนินกิจกรรมบนท่ีดินเพื่อกำร

เพำะปลกู และเลี้ยงสตั ว์ เพ่ือตอบสนองควำมต้องกำรของมนุษย์
1.2 ประเภทของเกษตรกรรม เกษตรกรรมแบง่ ออกเปน็ 2 ประเภท ได้แก่
1) เกษตรกรรมแบบยังชีพ เป็นกิจกรรมกำรเกษตรที่มุ่งเน้นเพ่ือเป็นแหล่ง

อำหำรและใชใ้ นครัวเรือน ไมไ่ ด้มุ่งเน้นกำรผลิต เพื่อจำหนำ่ ยสร้ำงรำยได้
2) เกษตรกรรมแบบกำรค้ำ เป็นกิจกรรมกำรเกษตรที่มุ่งเน้นผลิตอำหำรหลัก

เพียงไม่กี่ชนิด ให้ผลผลิตสูง ผลผลิตป้อนโรงงำนอุตสำหกรรม ผลปริมำณมำก คุณภำพดี
สำมำรถแข่งขนั ในตลำดโลก

1.3 การเพาะปลูกพืชทส่ี ่าคญั ของโลก
1) ข้าวเจา้

ข้ำวเป็นพืชท่สี ำคัญในกำรดำรงชีวิตของมนุษย์ มีกว่ำ 3,000 ล้ำนคนทั่วโลกบริโภคข้ำว
เป็นอำหำรหลัก ภูมิภำคเอเชียมีพื้นที่ปลูกข้ำวคิดเป็นสัดส่วน 90% ของพื้นที่ปลูกข้ำวทั่วโลก
มำกเป็นอันดับ 1 รองลงมำคือ แอฟริกำและทวีปอเมริกำตำมลำดับ สำหรับประเทศที่มีพื้นที่
ปลกู ข้ำวมำกทส่ี ดุ และมีปรมิ ำณกำรผลติ มำกที่สุดคือจนี และอนิ เดีย

https://www.smartsme.co.th/content/75053 พื้นที่กำรผลิตข้ำวท่ีสำคัญของเอเชีย
ได้แก่ ประเทศจีน ประเทศในแถบเอเชีย
ใต้และประเทศในฝ่ังบ้ำนเรำอย่ำง AEC
โดยจีนมีผลผลิตข้ำวครองสัดส่วน 38%
ของเอเชียทั้งหมด ในขณะที่ประเทศใน
แถบเอเชียใต้มีผลผลิตข้ำวครองสัดส่วน
29% ของเอเชีย ส่วนประเทศแถบ AEC
มีผลผลิตข้ำวครองสัดส่วน 25% ของ
เอเชียเพียงเท่ำนั้น และอีก 8% เป็นของ
ประเทศผผู้ ลิตข้ำวอน่ื ๆในเอเชยี

ชดุ ที่ 3 สงิ่ แวดลอ้ มทางกายภาพกบั ประชากรและการตั้งถนิ่ ฐาน

3บทเรยี นโมดูลหนว่ ยที่ 19

ส่ิงแวดลอ้ มทางกายภาพกับประชากรและการต้ังถิ่นฐาน

2) ข้าวโพด
ข้ำวโพดสำมำรถปลูกได้อย่ำงกว้ำงขวำงท่ัวโลก ต้ังแต่ละติจูดที่ 58 องศำ ในประเทศ
แคนนำดำ ผ่ำนเขตโซนร้อนลงมำจนถึงเขตตอนใต้ประมำณละติจูดที่ 35-40 องศำ ข้ำวโพด
สำมำรถเจริญเตบิ โตได้ดีบนพ้ืนที่ ซ่งึ มรี ะดับเดียวกับน้ำทะเลไปจนถึงพ้ืนท่ีระดับสูงกว่ำน้ำทะเล
3,000-3,900 เมตร
แหล่งผลิตข้ำวโพดที่สำคัญคือ ประเทศสหรัฐอเมริกำ เป็นประเทศท่ีปลูกและผลิต
ข้ำวโพดได้มำกท่ีสุดของโลก รองลงมำคือ สำธำรณรัฐประชำชนจีน บรำซิล สหภำพยุโรป อำร์
เจนติน่ำ เม็กซิโก ยเู ครน อินเดยี แอฟริกำใต้ และแคนำดำ

ภำพกรำฟแสดงสัดสว่ นของกำรผลติ ขำ้ วโพดเลยี้ งสัตวข์ องโลกปี ค.ศ. 2012-2013
(ทมี่ ำ : https://www3.rdi.ku.ac.th)

3) ยางพารา กำรปลูกยำงพำรำ เป็นพ้ืนท่ีท่ีมีระดับควำมสูงจำกระดับน้ำทะเล ไม่ควรเกิน 600 เมตร
พื้นที่รำบหรือมีควำมลำดเอียงไม่เกิน 35 องศำ หำกมีควำมลำดเอียงเกิน 15 องศำ ต้องทำข้ันบันได
หรือปลกู พืชคลมุ ดนิ เพอ่ื ป้องกนั กำรพังทลำยของหน้ำดนิ เป็นพ้ืนท่ีไมม่ นี ำ้ ทว่ มขัง กำรระบำยน้ำและกำร
ถำ่ ยเทอำกำศดี

ประเทศที่สำมำรถผลิตยำงพำรำได้มำก
ที่สุด 5 อันดับแรกของโลก ได้แก่ 1. ไทย 2.
อนิ โดนีเซยี 3. เวยี ดนำม 4. มำเลเซยี 5. อินเดีย

ประเทศที่มีพ้ืนที่ปลูกยำงพำรำมำกที่สุด 5
อันดับแรกของโลก ได้แก่ 1. อินโดนีเซีย 2. ไทย 3.
มำเลเซีย 4. จนี 5. อนิ เดยี

(ที่มำข้อมลู : http://www.ionique.co.th/TH)

ชดุ ที่ 3 สง่ิ แวดลอ้ มทางกายภาพกับประชากรและการต้ังถน่ิ ฐาน

3บทเรียนโมดลู หนว่ ยที่ 20

สง่ิ แวดล้อมทางกายภาพกับประชากรและการต้งั ถ่ินฐาน

4) ขา้ วสาลี(Wheat) (ที่มาข้อมูล :https://www.facebook.com/grainbakershop/photos)
เป็นพืชจำพวกธัญพืช ปลูกมำก

ในแถบประเทศตะวันออกกลำง เหนือเส้น
ศูนยส์ ตู ร หรือในเขตอบอุ่น หรือเขตหนำว
บำงเขต พื้นท่ีควรเป็นที่ดอน ซึ่งมีควำม
อุดมสมบูรณ์สูง ดินไม่เป็นกรด อำกำศ
หนำวเยน็ มหี มอกตกมำก

ประเทศท่ีมีพื้นท่ีปลูกข้ำวสำลี
มำกท่ีสุดในโลกคือ สำธำรณรัฐประชำชน
จนี รองลงมำคืออินเดยี และสหรฐั อเมริกำ

5) กาแฟ (Coffee)
กำแฟเจริญเติบโตและให้ผลผลิตได้ดีในแหล่งที่มีอำกำศหนำวเย็นท่ีอุณหภูมิระหว่ำง 20-25

องศำเซลเซยี ส ควำมชื้นสัมพัทธ์มำกกว่ำ 60 % ดังนั้นพื้นที่ท่ีเหมำะสมกับกำรปลูกจึงเป็นพื้นที่ท่ีสูงกว่ำ
ระดบั น้ำทะเลปำนกลำงตง้ั แต่ 800 เมตรขึน้ ไป

(ท่ีมาขอ้ มูล :https://marketeeronline.co/archives/164620)

ชดุ ท่ี 3 ส่ิงแวดล้อมทางกายภาพกบั ประชากรและการต้ังถน่ิ ฐาน

3บทเรียนโมดลู หน่วยท่ี 21

สิง่ แวดล้อมทางกายภาพกับประชากรและการต้งั ถ่นิ ฐาน

2. อตุ สาหกรรม
2.1 ความหมายของอตุ สาหกรรม
หมำยถึง กิจกรรมท่ีต้องใช้ทุนและแรงงำนเพ่ือผลิตสิ่งของหรือบริกำรในกิจกำรขนำดใหญ่

อุตสำหกรรมที่สำคัญของโลก เช่น อุตสำหกรรมโลหะและเครื่องจักร อุตสำหกรรม อิเล็กทรอนิกส์
อุตสำหกรรมปิโตรเคมี อุตสำหกรรมอำหำรและเคร่ืองดื่ม อุตสำหกรรมยำนยนต์ อุตสำหกรรมอำกำศ
ยำน อตุ สำหกรรมต่อเรือ อตุ สำหกรรมส่งิ ทอและเครอื่ งนุ่งห่ม

1) อุตสาหกรรมที่ส่าคัญของทวีปเอเชีย อุตสำหกรรมในทวีปเอเชียส่วนใหญ่เป็น
อุตสำหกรรมกำรแปรรูปวัตถุดิบต่ำง ๆให้เป็นผลิตภัณฑ์หรือสินค้ำสำเร็จรูป ที่สำคัญ เช่น อุตสำหกรรม
อำหำรและเคร่อื งดม่ื อุตสำหกรรมผลิตเสอื้ ผำ้ สำเร็จรูป อุตสำหกรรมยำนยนต์ อุตสำหกรรมคอมพิวเตอร์
อุตสำหกรรมปโิ ตรเคมี พบมำกใน ประเทศญี่ปุ่น จีน เกำหลใี ต้ อนิ เดยี อิสรำเอล

(ที่มา : https://www.grandprix.co.th/world-statistic)

ชุดที่ 3 สิ่งแวดลอ้ มทางกายภาพกบั ประชากรและการต้ังถ่นิ ฐาน

3บทเรียนโมดูลหนว่ ยที่ 22

สิ่งแวดลอ้ มทางกายภาพกบั ประชากรและการตั้งถ่นิ ฐาน

กำรผลิตรถยนต์ของโลก จำกตำรำง จะเห็นได้ว่ำ ประเทศผู้ผลิตรถยนต์ รำยใหญ่ของโลกใน

ค.ศ. 2015 อนั ดับ 1 คือ ประเทศจีน ซ่ึงมียอดกำรผลิตสูงกว่ำอันดับ 2 คือ ประเทศ สหรัฐอเมริกำถึง 2

เท่ำ โดยประเทศผ้ผู ลติ รถยนตร์ ำยใหญข่ องโลก สว่ นใหญ่อยู่ในทวีปเอเชีย คือ ประเทศจีน ญ่ีปุ่น เกำหลี

ใต้ อินเดีย รวมถึงไทย รองลงมำอยู่ในทวีปอเมริกำเหนือ คือ ประเทศสหรัฐอเมริกำ เม็กซิโก และ

แคนำดำ ส่วนทวีปยุโรปผลิตมำกในประเทศเยอรมนีและสเปน ทวีปอเมริกำใต้ ผลิตมำกในประเทศ

บรำซิล

ในประเทศจีน อุตสำหกรรมปิโตรเคมีมี

กำลังกำรผลิตและมีมูลค่ำสูงที่สุดของโลก ปิโตร

เคมีเป็นอุตสำหกรรมกำรผลิตท่ีต่อเนื่องจำก

อุตสำหกรรมปิโตรเลียมด้วยกำรนำผลิตภัณฑ์

ปิโตรเลียมมำเป็นวัตถุดิบตั้งต้นในกระบวนกำร

ผลิต และผลผลิตข้ันสุดท้ำยจะได้เป็นวัตถุดิบและ

สำรประกอบพื้นฐำนสำคัญของอุตสำหกรรมอ่ืน ๆ

อตุ สาหกรรมในประเทศจนี ได้แก่ เม็ดพลำสติก เส้นใยสังเครำะห์ ยำง
สังเครำะห์ สำรเคลอื บผวิ และกำว

ในประเทศเกำหลใี ต้ อุตสำหกรรม
กำรผลิตที่กำลังเติบโตและก้ำวข้ึนมำเป็น
อันดับต้น ๆ ของโ ลกในปัจจุบันคือ
อุตสำหกรรมต่อเรือบรรทุกสินค้ำแล่นข้ำม
มหำสมุทร เนื่องจำกเมื่อดูสถิติจำกตำรำง
จดั อนั ดบั ควำมย่ิงใหญด่ ำ้ นอุตสำหกรรมต่อ
เรือ 10 อันดับแรกของโลกพบว่ำ อันดับท่ี
1-5เป็น บริษัทต่อเรือของเกำหลีใต้ถึง 4
แห่ง

อตุ สาหกรรมในประเทศเกาหลี

ชดุ ที่ 3 สิง่ แวดล้อมทางกายภาพกับประชากรและการตั้งถน่ิ ฐาน

3บทเรียนโมดูลหนว่ ยท่ี 23

สิ่งแวดล้อมทางกายภาพกบั ประชากรและการตง้ั ถิน่ ฐาน

2) อุตสาหกรรมที่ส่าคัญของทวีปยุโรป อุตสำหกรรมในทวีปยุโรปมีควำมก้ำวหน้ำ
และมีชื่อเสียงเป็นท่ียอมรับโดยท่ัวไปมำยำวนำน โดยเฉพำะบริเวณยุโรปตะวันตก ยุโรปใต้ และยุโรป
เหนือ อุตสำหกรรมท่ีสำคัญ เช่น อุตสำหกรรมยำนยนต์ อุตสำหกรรมผลิตเคร่ืองบิน อุตสำหกรรม
ห่นุ ยนต์ อุตสำหกรรมคอมพิวเตอร์ อุตสำหกรรมไฟฟ้ำและอิเล็กทรอนิกส์ และอุตสำหกรรมต่อเรือและ
เดนิ เรือสมุทรประเทศอตุ สำหกรรมสำคัญเช่น เยอรมนี ฝรัง่ เศส สหรำชอำณำจักร สวเี ดน และอิตำลี

3) อุตสาหกรรมท่ีส่าคัญของทวีปอเมริกาเหนือ อุตสำหกรรมโดดเด่นใน
สหรัฐอเมรกิ ำและแคนำดำ โดยเฉพำะในสหรัฐอเมริกำอุตสำหกรรมมีควำมก้ำวหน้ำทันสมัยและมีขนำด
ใหญ่ อุตสำหกรรมท่ีสำคัญในสหรัฐอเมริกำ เช่นอุตสำหกรรมเหล็กและเหล็กกล้ำ อุตสำหกรรมต่อเรือ
เดินสมุทร อุตสำหกรรมผลิตรถยนต์ อุตสำหกรรมผลิตเคร่ืองบิน อุตสำหกรรมผลิตเครื่องจักรกล
กำรเกษตร อุตสำหกรรมไฟฟ้ำ อุตสำหกรรมคอมพิวเตอร์ และอุตสำหกรรมปิโตรเคมีอุตสำหกรรมที่
สำคญั ในแคนำดำ คอื อุตสำหกรรมกำรผลิต ยำนยนต์ นอกจำกนี้ยังมีอุตสำหกรรมอำหำรและเครื่องด่ืม
กระดำษและผลิตภัณฑจ์ ำกกระดำษ และอตุ สำหกรรมเคมภี ณั ฑ์

อตุ สาหกรรมผลิตเหล็ก

ชุดที่ 3 สิง่ แวดล้อมทางกายภาพกบั ประชากรและการต้ังถน่ิ ฐาน

3บทเรยี นโมดลู หน่วยท่ี 24

ส่ิงแวดลอ้ มทางกายภาพกับประชากรและการตั้งถน่ิ ฐาน

4) อตุ สาหกรรมที่สา่ คญั ของทวปี อเมริกาใต้ อุตสำหกรรมในทวีปอเมริกำใต้ส่วนใหญ่
เปน็ อุตสำหกรรมเบำ เป็นแปรผลผลิตทำงกำรเกษตร เช่น กำรผลิตน้ำตำล อำหำรกระป๋อง ประเทศ
ท่ีมีอุตสำหกรรมเจริญก้ำวหน้ำและมีอุตสำหกรรมขนำดใหญ่ ได้แก่ บรำซิลและอำร์เจนตินำ เช่น กำร
ผลิตเหล็กและเหลก็ กล้ำ กำรกล่ันนำ้ มนั และปิโตรเคมี กำรผลิตรถยนต์ และอุตสำหกรรมส่วนใหญ่อยู่ใน
เขตเมืองใหญห่ รือเมอื งหลวง เชน่ เซำเปำโล ริโอเดจำเนโร บเู อโนสไอเรส

5) อุตสาหกรรมท่ีสา่ คัญของทวปี แอฟรกิ า อตุ สำหกรรมของทวีปแอฟริกำโดยรวมยัง
ขำด ควำมทันสมยั ขำดเงินทุน ผเู้ ช่ยี วชำญ มอี ยู่ในบำงประเทศ เน่อื งจำกสภำพแวดลอ้ มทำงกำยภำพไม่
เอื้อต่อกำรพัฒนำอุตสำหกรรม ตลอดจนประเทศต่ำง ๆ มีระดับกำรพัฒนำด้ำนวิทยำศำสตร์และ
เทคโนโลยจี ำกัดมำก โครงสร้ำงพนื้ ฐำนท่เี ป็นปัจจัยสนับสนุนอุตสำหกรรมจงึ ยังไมเ่ พียงพอ

อุตสำหกรรมท่ีสำคัญของทวีปแอฟริกำ ได้แก่ อุตสำหกรรมน้ำมันในประเทศลิเบียและ ไนจีเรีย
อุตสำหกรรมยำนยนต์ เคมีภัณฑ์ ส่ิงทอในประเทศแอฟริกำใต้ อุตสำหกรรมจำกสัตว์น้ำเค็ม ในประเทศ
มำดำกัสกำร์ และอตุ สำหกรรมอ่ืน ๆ เช่น อำหำรแปรรูป กำแฟ นำ้ ตำล

อตุ สาหกรรมผลติ เหล็ก
โรงกลน่ั น้ามันในประเทศลเิ บีย

ชุดที่ 3 สงิ่ แวดล้อมทางกายภาพกบั ประชากรและการต้ังถน่ิ ฐาน

3บทเรียนโมดูลหนว่ ยท่ี 25

ส่งิ แวดลอ้ มทางกายภาพกับประชากรและการต้งั ถนิ่ ฐาน

6) อุตสาหกรรมที่ส่าคัญของทวีปออสเตรเลียและโอเชียเนีย อุตสำหกรรมของทวีป
ออสเตรเลียมีควำมก้ำวหน้ำในประเทศออสเตรเลีย อุตสำหกรรมที่สำคัญ เช่น อุตสำหกรรมเหล็กและ
เหลก็ กล้ำ อุตสำหกรรมเคมภี ัณฑ์ และอุตสำหกรรมยำนยนต์ อตุ สำหกรรมทีส่ ำคญั ในประเทศนิวซีแลนด์
ได้แก่ อุตสำหกรรมแปรรูปเน้ือสัตว์ นม และผลิตภัณฑ์จำกนม เน่ืองจำกมีอำกำศอบอุ่นและมีทุ่งหญ้ำท่ี
เหมำะสมต่อกำรทำฟำร์มโคเนื้อและโคนม ประเทศออสเตรเลียมีอุตสำหกรรมกำรเกษตร เช่น แปรรูป
เนื้อวัว แปรรูปขนแกะ แปรรูปข้ำวสำลี รวมท้ังผลิตเครื่องจักร ต่อเรือ โลหะ กระดำษ และเหล้ำองุ่น
ส่วนประเทศหมู่เกำะในมหำสมุทรแปซิฟิกหรือโอเชียเนียมีอุตสำหกรรมแปรรูปผลผลิตทำงกำรเกษตร
เช่น เนือ้ มะพร้ำวแหง้ อำหำรทะเล

การแปรรูปขนแกะ

3. การบรกิ ารและการท่องเทย่ี ว
3.1การบรกิ าร
กำรบริกำรในทำงเศรษฐกิจ หมำยถึง กิจกรรมทำงเศรษฐกิจที่ไม่มีกำรผลิตสินค้ำใด ๆ แต่เป็น

กิจกรรมท่ตี อบสนองควำมต้องกำรของประชำกรในด้ำนต่ำง ๆ ท่ีสำคัญ เช่น กำรบริกำรทำงกำรค้ำ กำร
บริกำรทำงกำรเงิน กำรบริกำรด้ำนกำรคมนำคมขนส่ง กำรบริกำรประกันภัย กำรบริกำรที่เกี่ยวข้องกับ
กำรทอ่ งเที่ยว

ชุดที่ 3 สิ่งแวดล้อมทางกายภาพกบั ประชากรและการต้ังถิน่ ฐาน

3บทเรียนโมดลู หนว่ ยที่ 26

ส่งิ แวดลอ้ มทางกายภาพกบั ประชากรและการตั้งถนิ่ ฐาน

3.2 การท่องเที่ยว
กำรทอ่ งเท่ียว หมำยถงึ กจิ กรรมกำรเดนิ ทำงของมนุษย์จำกสถำนท่ีหนึ่งไปอีกสถำนที่หน่ึง แบบ
ชั่วครำว เพอื่ วตั ถปุ ระสงค์ต่ำง ๆ เชน่ กำรพกั ผ่อน กำรประกอบธรุ กิจ กำรศึกษำ กำรประชมุ สัมมนำ
1) องคป์ ระกอบของการท่องเทีย่ ว
แหลง่ ทอ่ งเทีย่ ว นกั ทอ่ งเทย่ี ว แรงจงู ใจในกำรทอ่ งเทย่ี ว กำรบริกำร สิ่งอำนวยควำมสะดวกและ
ควำมปลอดภยั รำยได้
2) สถานการณ์การทอ่ งเท่ยี ว
สถำนกำรณก์ ำรทอ่ งเท่ยี วของโลกใน พ.ศ.2560 จำกกำรจัดอันดับ 10 ประเทศท่ีมีนักท่องเที่ยว
เดินทำงมำเยือนมำกที่สุดขององค์กรกำรท่องเท่ียวโลกแห่งสหประชำชำติ (United Nation World
Tourism Organization)
ประเทศท่ีมีนักท่องเที่ยวเดินทำงเข้ำมำท่องเท่ียวมำกท่ีสุด พ.ศ. 2560 จะเห็นได้ว่ำ ประเทศ
ฝรงั่ เศสมจี ำนวนนกั ทอ่ งเที่ยวเดนิ ทำงเขำ้ มำท่องเที่ยวมำกที่สดุ ถึง 82.9 ลำ้ นคน

(ทมี่ าขอ้ มูล: https://pantip.com/topic/38055579)

ชุดที่ 3 ส่ิงแวดล้อมทางกายภาพกบั ประชากรและการตั้งถ่นิ ฐาน

3บทเรียนโมดลู หนว่ ยที่ 27

ส่งิ แวดล้อมทางกายภาพกับประชากรและการตั้งถ่นิ ฐาน

3.3 การท่องเทยี่ วในทวปี ตา่ งๆ
1) ทวีปเอเชีย ทวีปเอเชียมีขนำดกว้ำงใหญ่ท้ังตำมแนวละติจูดและลองจิจูด ทำให้มี

สภำพแวดล้อมทำงกำยภำพและวัฒนธรรมที่แตกต่ำงหลำกหลำย ด้วยสภำพแวดล้อมทำงกำยภำพและ
ส่ิงที่มนุษย์สร้ำงขึ้นหลำยแห่ง มีควำมสวยงำม น่ำสนใจ จึงทำให้ทวีปเอเชียมีแหล่งท่องเท่ียวท้ังทำง
ธรรมชำติและวัฒนธรรมท่ีมีชื่อเสียง ปรำกฏอยู่หลำยแห่ง เช่น บริเวณชำยฝ่ังทะเลเขตร้อนของเอเชีย
ตะวันออกเฉยี งใต้ แหล่งอำรยธรรมจีน แหลง่ อำรยธรรมอินเดีย

พระบรมมหาราชวงั ของไทย ทัชมาฮาลของอนิ เดยี

กา้ แพงเมอื งจนี

ชุดที่ 3 สงิ่ แวดลอ้ มทางกายภาพกับประชากรและการต้ังถน่ิ ฐาน

3บทเรยี นโมดลู หนว่ ยท่ี 28

สง่ิ แวดลอ้ มทางกายภาพกับประชากรและการตั้งถิน่ ฐาน

2) ทวีปยุโรป ลักษณะทำงกำยภำพของทวีปยุโรปมีที่ตั้งอยู่ในเขตอบอุ่นไปจนถึงเขตหนำวเย็น
ขัว้ โลกเหนือ จงึ ได้รับอทิ ธพิ ลจำกลมตะวันตกพำฝนมำตกในภำคพน้ื ทวีปและลมขั้วโลกพัดหิมะลงมำช่วง
ฤดูหนำว บริเวณด้ำนใต้ของทวีปเป็นเทือกเขำหินยุคใหม่ที่มีระดับสูงมำก ทำให้ทวีปยุโรปมีแหล่ง
ท่องเท่ียวทำงธรรมชำติท่ีมีชื่อเสียงปรำกฏอยู่หลำยบริเวณ ทวีปยุโรปยังเป็นแหล่งอำรยธรรมกรีกและ
โรมัน ทำให้มรี อ่ งรอยหลกั ฐำนทำงวฒั นธรรมปรำกฏเปน็ แหลง่ ท่องเทย่ี วทส่ี วยงำมและมชี ่ือเสยี ง

3) ทวีปแอฟริกา ทวีปแอฟริกำมีเส้นศูนย์สูตรผ่ำนบริเวณตอนกลำงของทวีป ตอนเหนือมีแนว
ทรอปิกออฟแคนเซอร์พำดผ่ำน และตอนใต้มีแนวทรอปิกออฟแคปริคอร์นพำดผ่ำน จึงมีภูมิอำกำศส่วน
ใหญ่ร้อนและแห้งแล้งมีทะเลทรำยขนำดใหญ่ทำงตอนบนและตอนล่ำงของทวีป ภูมิประเทศส่วนใหญ่
เปน็ ทรี่ ำบสงู มีแหลง่ นำ้ ผิวดนิ ประเภทแม่นำ้ สำยยำวและทะเลสำบไมม่ ำก ลักษณะทำงกำยภำพดังกล่ำว
โดยรวมจึงทำให้ทวีปแอฟรกิ ำมแี หลง่ ท่องเที่ยวทำงธรรมชำตทิ ส่ี วยงำมและขึน้ ชื่อค่อนข้ำงจำกดั

ชดุ ท่ี 3 สงิ่ แวดล้อมทางกายภาพกับประชากรและการต้ังถิน่ ฐาน

3บทเรยี นโมดลู หนว่ ยท่ี 29

สง่ิ แวดล้อมทางกายภาพกบั ประชากรและการตงั้ ถ่ินฐาน

4) ทวีปอเมรกิ าเหนอื ทวปี อเมริกำเหนือมที ำเลท่ีตง้ั ตง้ั แตเ่ ขตรอ้ นจนถึงเขตข้ัวโลก มีเทือกเขำ
สูงแถบตะวันตก มีท่ีรำบตอนกลำงต่อเนื่องไปถึงชำยฝั่งตะวันออก ลักษณะทำงกำยภำพข้ำงต้น ทำให้
ทวปี อเมรกิ ำเหนือมแี หล่งท่องเท่ียวทำงธรรมชำติและแหล่งท่องเท่ียวทำงวัฒนธรรมปรำกฏอยู่หลำยแห่ง
โดยเฉพำะในประเทศสหรฐั อเมรกิ ำ เมก็ ซโิ ก และบรเิ วณชำยฝ่ังทะเลแคริบเบยี น

ณ เมืองบฟั ฟำโล่ หนึ่งในเมืองท่ีมีชื่อเสียงท่ีสุดของรัฐนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกำ เพรำะมำจำกกำร
เปน็ ท่ีตัง้ ของ “ไนแอการา” (Niagara) น้ำตกสุดยิ่งใหญ่ของทวีปอเมริกำเหนือ ควำมจริงแล้ว ไนแอกำ
รำ คือ ชื่อแม่น้ำท่ีไหลผ่ำนน้ำตกขนำดใหญ่ท้ังสำมจุดบนเส้นแบ่งพรมแดนระหว่ำงสหรัฐอเมริกำกับ
แคนำดำ

5) ทวีปอเมริกาใต้ ทวีปอเมริกำใต้มีท่ีต้ังอยู่ในเขตร้อนและเขตอบอุ่น มีเทือกเขำสูงทำงแถบ
ตะวันตก มปี ่ำดบิ ชนื้ ผืนใหญ่ของโลกคือ ป่ำแอมะซอน บริเวณตอนบนเขตละติจูดสูงของทวีปพบชำยฝ่ัง
ทะเลจำกกำรกระทำของธำรน้ำแข็งในอดีต อเมริกำใต้เป็นดินแดนท่ีมีมนุษย์อำศัยมำยำวนำนในอดีต
รวมถงึ มีชำวยุโรปอพยพเขำ้ มำในยคุ จกั รวรรดินิยม ทำให้มรี ่องรอยของอำรยธรรมปรำกฏอยทู่ ่วั ไป

ภูเขำสำยรุ้งบนเทือกเขำแอนดีส
ภูเขำสำยรุ้งเกิดขึ้นตำมธรรมชำติจำกแร่
ธำตุและทรำยแดงที่สะสมนำนหลำยร้อย
ปี ทำให้เกิดเป็นภูเขำที่มีหลำกสีสันไล่
เรียงเฉดกันไปเหมือนสำยรุ้งนั่นเอง ภูเขำ
สำยรุ้งตั้งอยู่ที่ควำมสูงกว่ำ 5,000 เมตร
จำกระดับนำ้ ทะเล

RAINBOW MOUNTAIN, AUSANGATE, PERU

ชุดท่ี 3 ส่งิ แวดล้อมทางกายภาพกบั ประชากรและการต้ังถน่ิ ฐาน

3บทเรียนโมดูลหน่วยที่ 30

ส่งิ แวดล้อมทางกายภาพกับประชากรและการตั้งถ่นิ ฐาน

6) ทวีปออสเตรเลียและโอเชียเนีย ทวีป
ออสเตรเลียเป็นดินแดนซีกโลกใต้ที่มีแหล่งท่องเท่ียว
ข้ึนชื่อปรำกฏหลำยแห่งท้ังในประเทศออสเตรเลีย
และนวิ ซีแลนด์ เนื่องจำกมีลักษณะทำงกำยภำพเป็น
ปัจจัยสำคัญให้เกิดแหล่งท่องเที่ยว ขณะท่ีตำมเกำะ
ต่ำง ๆ ของประเทศโอเชียเนียส่วนใหญ่จะเป็นเกำะ
ปะกำรังท่ีมีปัจจัยดึงดูดกำรท่องเท่ียวจำกัด เพรำะ
ขนำดเกำะค่อนข้ำงเลก็ และกำรเดินทำงไม่สะดวก

ชุดท่ี 3 สิ่งแวดลอ้ มทางกายภาพกับประชากรและการต้ังถ่นิ ฐาน

กจิ กรรมตรวจสอบใบความรู้ที่ 3.2 31

คาช้แื จง

ให้นักเรยี นรวมกลมุ่ ละ 5 6 คน วเิ ครำะห์พรี ะมิดประชำกรประเทศไทยในประเด็นดงั ต่อไปน้ี
1. ให้วเิ ครำะห์แนวโนม้ กลุม่ ประชำกรไทยอีก 10 ปขี ำ้ งหน้ำ

-แนวโน้มอัตรำกำรเกดิ
-ประชำกรวยั ทำงำน
-ประชำกรผูส้ ูงวัย
2. ผลกระทบของกำรเปลยี่ นแปลงทำงประชำกรในประเทศไทย

.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................

ชุดท่ี 3 สงิ่ แวดล้อมทางกายภาพกบั ประชากรและการต้ังถนิ่ ฐาน

3แบบทดสอบหลังเรยี นโมดูลที่ 32

คาชืแ้ จง

1. จงเลือกคำตอบที่ถกู ต้องเพียงคำตอบเดยี ว แลว้ ทำเครื่องหมำยกำกบำท (X) ทับตวั อักษร ขอ้
ก, ข, ค หรอื ง ลงในกระดำษคำตอบ
2. ข้อสอบชุดนี้ มจี ำนวน 10 ข้อ คะแนนเตม็ 10 คะแนน
3. เกณฑ์กำรใหค้ ะแนน ตอบถูกได้ 1 คะแนน, ตอบผดิ ได้ 0 คะแนน

1. “Eco-tourism” หมำยถงึ กำรท่องเทยี่ วแบบใด
ก. กำรท่องเทย่ี วเชิงนเิ วศ
ข. กำรท่องเทย่ี วระบบนิเวศ
ค. กำรท่องเทยี่ วแบบผจญภยั
ง. กำรทอ่ งเทีย่ ววฒั นธรรม

2. ขอ้ ใดไม่ใช่ เหตุผลของกำรสรำ้ งบ้ำนด้วยหนิ ในเขตภูมอิ ำกำศแห้งแลง้
ก เป็นวัสดทุ ม่ี ีในท้องถ่นิ
ข มคี วำมคงทนมำกกวำ่ ดินเหนียว
ค มีควำมคงทนต่อสภำพภูมอิ ำกำศ
ง เปน็ วัสดอุ ย่ำงเดยี วทนี่ ำมำใชไ้ ด้

3. ชนกลมุ่ ใดมีกำรประกอบอำชพี และรปู แบบของกำรผลิตทแ่ี ตกตำ่ งจำกข้ออ่ืน
ก ชำวบชุ เมน
ข ชำวอำหรับ
ค ชำวปำปวน
ง ชำวเอสกิโม

4. ลักษณะทำงกำยภำพในขอ้ ใดมีอทิ ธพิ ลต่อกำรกำหนดรูปแบบกำรเพำะปลกู ของประชำกร
ในแตล่ ะทอ้ งถนิ่

ก ภมู อิ ำกำศ
ข ลักษณะภูมิประเทศ
ค ทรพั ยำกรธรรมชำติ
ง ถูกทกุ ข้อ
5. ขอ้ ใดเปน็ ลกั ษณะของบ้ำนที่อย่ใู นเขตร้อนช้ืน
ก เป็นบ้ำนชัน้ เดยี วและมใี ต้ถุนสงู
ข เป็นบำ้ นทรงสเี่ หลีย่ มทำจำกต้นสน
ค เป็นบำ้ นชัน้ เดยี ว มีพน้ื ดินเป็นพ้นื บำ้ น
ง เปน็ บ้ำนทรงสี่เหล่ียมสรำ้ งจำกหินทรำย

ชุดที่ 3 ส่งิ แวดล้อมทางกายภาพกับประชากรและการตั้งถน่ิ ฐาน

3แบบทดสอบหลังเรยี นโมดลู ท่ี 33

คาชแ้ื จง

1. จงเลอื กคำตอบท่ถี ูกตอ้ งเพียงคำตอบเดยี ว แล้วทำเครื่องหมำยกำกบำท (X) ทับตวั อักษร ข้อ
ก, ข, ค หรือ ง ลงในกระดำษคำตอบ
2. ขอ้ สอบชดุ นี้ มีจำนวน 10 ข้อ คะแนนเตม็ 10 คะแนน
3. เกณฑ์กำรให้คะแนน ตอบถกู ได้ 1 คะแนน, ตอบผดิ ได้ 0 คะแนน

6. จดุ มงุ่ หมำยของกำรท่องเท่ยี วเชงิ นิเวศ คืออะไร
ก. มีแหลง่ ทอ่ งเทย่ี วธรรมชำติทมี่ เี อกลักษณ์เฉพำะถ่ิน
ข. มีแหลง่ ทอ่ งเท่ยี วสำหรับชำวต่ำงประเทศ
ค. มีแหล่งท่องเท่ียวท่ีรกั ษำธรรมชำติ
ง. มแี หลง่ ท่องเที่ยวในเชงิ ประวตั ศิ ำสตร์

7. พืชทีข่ ึ้นในเขตโอเอซสิ ถูกนำมำใช้เปน็ สว่ นประกอบใดของบำ้ นทส่ี ร้ำงในเขตแห้งแลง้
ก พื้นบำ้ น
ข ผนังบำ้ น
ค ประตูบ้ำน
ง หลังคำบำ้ น

8. ผลกระทบอนั ดบั แรกท่เี กิดข้ึนเน่ืองจำกกำรเพิม่ ขึ้นของประชำกรมนษุ ย์คือข้อใด
ก. ปญั หำสงั คม
ข. ปญั หำมลภำวะต่ำงๆ
ค. ปัญหำกำรประกอบอำชีพ
ง. ปญั หำกำรขำดแคลนทรัพยำกร

9. ขอ้ ใด ไมใ่ ช่ ประโยชนข์ องกำรศกึ ษำประชำกร
ก. สำมำรถวำงแผนตลำดแรงงำน
ข. ทรำบสำเหตุของกำรเพ่ิมจำนวนประชำกร
ค. ทรำบถงึ วิวฒั นำกำรของมนุษยต์ ้งั แต่อดีตจนถึงปจั จบุ ัน

10. ในเกำะกรีนแลนด์ ประชำกรจะอำศยั อยู่ตำมแนวชำยฝั่งเพรำะเหตุใด
ก เพรำะมีพ้นื ทท่ี ก่ี ว้ำงขวำงกว่ำ
ข เพรำะชำยฝั่งมอี ำกำศแบบอบอ่นุ
ค เพรำะชำยฝั่งไดร้ ับอทิ ธิพลจำกทะเลจงึ ประกอบอำชีพได้
ง เพรำะมีพชื พรรณธรรมชำติจำพวกตะไคร่ขึน้ เป็นจำนวนมำก
ง. ทรำบถงึ สภำวะประชำกรและปญั หำทเี่ กดิ จำกกำรเพิ่มประชำกร

ชุดท่ี 3 สง่ิ แวดลอ้ มทางกายภาพกับประชากรและการต้ังถน่ิ ฐาน

3เฉลยแบบทดสอบหลังเรียนโมดลู ท่ี 34

กอ่ นเรยี น

1. ง
2. ง
3. ง
4. ก
5. ค
6. ข
7. ค
8. ง
9. ก
10. ก

หลงั เรียน

1. ก
2. ง
3. ข
4. ง
5. ก
6. ก
7. ง
8. ง
9. ค
10. ค

ชุดที่ 3 สงิ่ แวดลอ้ มทางกายภาพกบั ประชากรและการตั้งถ่นิ ฐาน

บรรณำนุกรม 35

กวี วรกวินและคณะ. (2560). ภูมศิ าสตร์ มธั ยมศึกษาปีที่ 4-6 .สถาบันพฒั นาคุณภาพ
วชิ าการ (พว.) : กรงุ เทพฯ.

จุลพงษ์ อดุ มพรพบิ ลู ย์.(2560).แบบฝึกทกั ษะรายวิชาพื้นฐาน ภูมศิ าสตร์ มธั ยมศึกษาปที ่ี 4-
6.สานักพิมพว์ ัฒนาพานชิ : กรุงเทพฯ

สริ ิรัตน์ พงศพ์ พิ ัฒนพนั ธ์ุ และคณะ. (2560).ภูมิศาสตร์ มธั ยมศึกษาปีที่ 4-6.สานักพมิ พ์
วฒั นาพานชิ : กรุงเทพฯ

สคุ นธ์ สินธพานนทแ์ ละคณะ . (2560).ภมู ศิ าสตร์ มัธยมศึกษาปที ่ี 4-6. สานักพมิ พ์อักษร
เจริญทศั น:์ กรุงเทพฯ.

ทมี่ า : https://socialyrc.files.wordpress.com/2019/07
ที่มา : http://service.nso.go.th/nso/nsopublish/service/ind
ทม่ี า :https://www.matichon.co.th/article/news_1645647
ท่มี า : https://ngthai.com/science/31113/human-population/
ทม่ี า : https://th.wikipedia.org/wik
ที่มา :https://socialyrc.files.wordpress.com/2019/07/
ทม่ี า : https://www.smartsme.co.th/content/75053
ท่มี า : https://www3.rdi.ku.ac.th
ท่ีมาขอ้ มูล : http://www.ionique.co.th/TH
ที่มาขอ้ มูล : https://www.facebook.com/grainbakershop/photos
ที่มาข้อมลู : https://marketeeronline.co/archives/164620
ที่มาข้อมลู : https://www.grandprix.co.th/world-statistic
ทีม่ าข้อมลู : https://pantip.com/topic/38055579

ชุดที่ 3 สงิ่ แวดล้อมทางกายภาพกบั ประชากรและการต้งั ถน่ิ ฐาน


Click to View FlipBook Version