The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รายงานประจำปีมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ๒๕๖๕

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by panyabalo, 2023-04-18 12:07:34

Annual report Mahamakut Buddhist University 2023

รายงานประจำปีมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ๒๕๖๕

Keywords: Annual report,รายงานประจำปี,มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย,มมร,มหามกุฏราชวิทยาลัย,Mahamakut Buddhist university,Mbu

MBU รายงานประจำาปี ๒๕๖๕ MAHAMAKUT BUDDHIST UNIVERSITY มหาวิทยาลัย มหามกุฏราชวิทยาลัย 2022 ANNUAL REPORT


พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหามงกุฎ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช รัชกาลที่ ๔ พระผู้เป็นที่มาแห่งนาม “มหามกุฏราชวิทยาลัย”


พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ พระผู้สถาปนามหามกุฏราชวิทยาลัย


สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส พระผู้ก่อตั้งมหามกุฏราชวิทยาลัย


พระนิรันตราย พระพุทธรูปประจำ�มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ขนาดหน้าตัก ๘๐ นิ้ว สูง ๖.๘๕ เมตร นำ�หนัก ๘,๐๐๐ กิโลกรัม พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหามงกุฎ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช ทรงออกแบบให้มีพุทธลักษณะเป็นพระพุทธรูปประทับนั่ง ขัดสมาธิเพชร เบื้องหลังทำ เป็นซุ้มเรือนแก้วรูปต้นโพธิ์ มีอักษรขอม จำหลักในรูปวงกลีบบัว เบื้องหน้า ๙ เบื้องหลัง ๙ แทนพระพุทธคุณ ทั้ง ๙ ประการของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ยอดเรือนแก้วมีรูปมงกุฎ และทรงถวายพระนามว่า "พระนิรันตราย" หมายถึง พระผู้รอดพ้น อันตรายจากหมู่ชน ปัจจุบัน พระนิรันตรายองค์นี้ ประดิษฐาน ณ อาคารธรรมสถาน มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย


ช่วงปีที่ผ่านมา มีการประกาศกฎกระทรวงการจัดกลุ่มสถาบันอุดมศึกษา พ.ศ. ๒๕๖๔ เป็น ๕ ประเภท โดยในกลุ่มพัฒนาปัญญาและคุณธรรมด้วยหลักศาสนา เป็นการจัดการเรียนการสอนที่ผสานหลักศาสนากับหลัก วิชาการ โดยเน้นการวิจัยและการสร้างนวัตกรรมตามหลักศาสนา ให้เหมาะกับสังคมที่เปลี่ยนไป และสร้างหลัก วิชาการกับหลักศาสนาเป็นทางเลือกคู่กับหลักวิชาการของประเทศตะวันตก โดยน าหลักธรรมมาน าสังคมเพื่อมุ่ง พัฒนาจิตใจ สติ ปัญญา และพฤติกรรมของประชาชนให้เกิดสันติสุขและความสามัคคีของคนในชาติ สภามหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัยได้มีมติให้ด าเนินการตามแผนพัฒนามหาวิทยาลัยระยะ ๕ ปี พ.ศ. ๒๕๖๔ – ๒๕๖๘ เพื่อใช้เป็นกรอบในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของมหาวิทยาลัย ส าหรับการปฏิบัติการของ แต่ละหน่วยงานให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นรูปธรรม โดยค านึงถึงเป้าหมายการพัฒนาประเทศในกรอบ ยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี และสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ด้านอื่น ๆ ตามสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ในโลกปัจจุบัน ทั้งสอดรับการเป็นมหาวิทยาลัยในกลุ่มพัฒนาปัญญาและคุณธรรมด้วยหลักศาสนา โดยเฉพาะการ เผยแผ่พระพุทธศาสนาในระดับนานาชาติส าหรับเปิดโอกาสให้พลเมืองโลกอันมีความหลากหลายทางชาติพันธุ์และ วัฒนธรรม สามารถเข้าถึงหลักธรรมของพระพุทธศาสนา เพื่อพัฒนาคนให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ด้วยภูมิปัญญา (Human Wisdom) รวมทั้งการเยียวยาฟื้นฟูจิตใจให้มีคุณธรรมจริยธรรมมากขึ้น เพื่อพัฒนามหาวิทยาลัยสู่วิสัยทัศน์ ที่ว่า “ร่วมพัฒนาพลเมืองโลก ด้วยการผสานแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาที่มั่นคงให้ด ารงอยู่ในฐานะโครงสร้างพื้นฐาน ทางปัญญาของมนุษย์ในอนาคต” ปีพุทธศักราช ๒๕๖๔ นี้เป็นอภิลักขิตสมัยครบ ๑๐๐ ปีแห่งการสิ้นพระชนม์ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส องค์ปฐมบูรพาจารย์ผู้ทรงพระคุณูปการเป็นอเนกปริยาย มหาวิทยาลัยได้ร่วมเฉลิม พระเกียรติคุณสมเด็จพระมหาสมณเจ้าพระองค์นั้น โดยจัดตั้ง “สถาบันวชิรญาณวโรรส” และองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติได้ร่วมเฉลิมฉลองและน้อมร าลึกในพระกรุณา จึงถือได้ว่าพระองค์ ได้ทรงวางรากฐานการศึกษาของประเทศ และการบริหารคณะสงฆ์ไว้อย่างเป็นรูปธรรมนับเป็นทิฏฐานุคติอันอนุชน ควรได้อนุสร และสืบสานพระปณิธานสืบไป แม้การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมอย่างต่อเนื่อง แต่ข้อมูลทางระบาดวิทยาบ่งชี้ว่าเป็นสายพันธุ์ที่ไม่รุนแรงมาก มหาวิทยาลัยได้มีการปรับรูปแบบการเรียนการสอนและ การปฏิบัติหน้าที่ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ มุ่งพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นและพร้อมสู่การพัฒนาตามแนวทาง “ความเป็นเลิศ ทางวิชาการตามแนวพระพุทธศาสนา” และแนวคิด “ร่วมพัฒนา มมร. ไปด้วยกัน” โอกาสนี้ ขอกราบขอบพระคุณ ขอบคุณ ขอบใจ และขออนุโมทนา กรรมการสภามหาวิทยาลัย ผู้ทรงคุณวุฒิ และบุคลากรทุกท่าน ที่ได้เสียสละร่วมแรงร่วมใจในการร่วมพัฒนามหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ด้วยกัน มา ณ ที่นี้และขออ านาจคุณพระศรีรัตนตรัย และพระบารมีธรรมแห่งเจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก จงปกปักคุ้มครองรักษาทุกท่านให้เจริญในธรรมตลอดไป (พระเทพวัชรเมธี, ผศ.ดร.) อธิการบดี ในปีพุทธศักราช ๒๕๖๕ ที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัยได้ดำ เนินการตามพันธกิจของมหาวิทยาลัย ในกลุ่มพัฒนาปัญญาและคุณธรรมด้วยหลักศาสนาซึ่งได้เข้าร่วมกลุ่มนี้อย่างเป็นทางการ เป็นปีแรกการจัดการเรียนการสอน จึงเริ่มมีการปรับเปลี่ยน โดยผสานหลักศาสนากับหลักวิชาการเน้นการวิจัยและการสร้างนวัตกรรมตามหลักศาสนาให้เหมาะกับ สังคมที่เปลี่ยนไป มุ่งพัฒนาจิตใจ สติปัญญา และพฤติกรรมของประชาชนให้เกิดสันติสุขและความสามัคคีของคนในชาติ ปีพุทธศักราช ๒๕๖๕ เป็นโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๙๐ พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรม ราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัยได้จัดพิมพ์หนังสือ “อภินิหารการประจักษ์” พระนิพนธ์ในสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสมงคลสมัยที่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงเจริญพระชนมายุ๙๕ พรรษา มหาวิทยาลัยได้เรียบเรียงหนังสือ“คืนธรรมชาติสู่ธรรม”และ“กระบวนทัศน์พระพุทธศาสนา ในโลกดิจิทัล” เพื่อถวายปฏิการะสนองพระคุณ คืนธรรมชาติสู่ธรรม (Green Buddhism for Sustainable Development) เป็นโครงการตาม พระดำ ริที่ได้ ประมวลหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา และการประยุกต์ใช้กับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติป่าไม้พัฒนาแหล่งนํ้าให้เกิด ความยั่งยืน ในส่วนกระบวนทัศน์พระพุทธศาสนาในโลกดิจิทัล (Buddhist Paradigms in the Digital World) นั้น เป็นการ สนองพระดำ ริด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนาที่เหมาะสมกับสังคมยุคปัจจุบัน การสอนพระพุทธศาสนา ให้เยาวชนคนรุ่น ใหม่ได้เกิดปัญญาและปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมในบริบทสังคม ที่เปลี่ยนแปลงไป ถือเป็นการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ทาง พระพุทธศาสนาให้เหมาะสมกับโลก ยุคดิจิทัล เรียบเรียงและประมวลหลักธรรมที่เกี่ยวข้องจัดเป็นองค์ความรู้หรือทฤษฎีที่ จำแนกได้เป็นหมวดหมู่ผสานเข้ากับศาสตร์และศิลป์สมัยใหม่หลายแขนงอันจะนำ ไปสู่การปรับประยุกต์ใช้อย่างเป็นรูปธรรม การดำ เนินโครงการข้างต้น ถือเป็นตัวอย่างหนึ่งของแนวทางการพัฒนามหาวิทยาลัยตามแนวทางการจัดกลุ่มสถาบัน อุดมศึกษา โดยเฉพาะการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในระดับนานาชาติสำ หรับเปิดโอกาส ให้พลเมืองโลกอันมีความหลากหลาย ทางชาติพันธุ์และวัฒนธรรม สามารถเข้าถึงหลักธรรมของพระพุทธศาสนาเพื่อพัฒนาคนให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ด้วยภูมิปัญญา (Human Wisdom) เยียวยาฟื้นฟูจิตใจให้มีคุณธรรมจริยธรรมมากขึ้น เพื่อพัฒนามหาวิทยาลัยสู่วิสัยทัศน์ที่ว่า “ร่วมพัฒนา พลเมืองโลกด้วยการผสานแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาที่มั่นคงให้ดำ รงอยู่ในฐานะโครงสร้างพื้นฐานทางปัญญาของมนุษย์ใน อนาคต” การพัฒนามหาวิทยาลัยเพื่อ“ความเป็นเลิศทางวิชาการตามแนวพระพุทธศาสนา”และแนวคิด“ร่วมพัฒนา มมร ไปด้วยกัน” ที่ได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนมาตลอดได้เข้าสู่ปีที่ ๔ แล้ว เป็น ๔ ปีที่มุ่งเน้น การสืบสานพระปณิธานของ บูรพาจารย์ บริหารจัดการเพื่อวางระบบบริหารงานภายในให้ได้มาตรฐานสากลของสถาบันอุดมศึกษา และปรับปรุงแก้ไข ต่อยอดในส่วนที่ขาดให้บริบูรณ์ยิ่งขึ้น เพื่อการต่อยอดจากรากฐานที่มั่นคง ให้เกิดความไพบูลย์สืบไป โอกาสนี้ขอกราบขอบพระคุณ ขอบคุณ ขอบใจ และขออนุโมทนา กรรมการสภามหาวิทยาลัย ผู้ทรงคุณวุฒิ และบุคลากรทุกท่าน ที่ได้เสียสละร่วมแรงร่วมใจในการร่วมพัฒนามหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัยด้วยกัน มา ณ ที่นี้ ขออำ นาจคุณพระศรีรัตนตรัยและพระบารมีธรรมแห่งสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก จงอภิบาล คุ้มครอง รักษาทุกท่าน ให้เจริญในธรรมของสมเด็จพระบรมศาสนายิ่งขึ้นทุกทิพาราตรีเทอญ ช่วงปีที่ผ่านมา มีการประกาศกฎกระทรวงการจัดกลุ่มสถาบันอุดมศึกษา พ.ศ. ๒๕๖๔ เป็น ๕ ประเภท โดยในกลุ่มพัฒนาปัญญาและคุณธรรมด้วยหลักศาสนา เป็นการจัดการเรียนการสอนที่ผสานหลักศาสนากับหลัก วิชาการ โดยเน้นการวิจัยและการสร้างนวัตกรรมตามหลักศาสนา ให้เหมาะกับสังคมที่เปลี่ยนไป และสร้างหลัก วิชาการกับหลักศาสนาเป็นทางเลือกคู่กับหลักวิชาการของประเทศตะวันตก โดยน าหลักธรรมมาน าสังคมเพื่อมุ่ง พัฒนาจิตใจ สติ ปัญญา และพฤติกรรมของประชาชนให้เกิดสันติสุขและความสามัคคีของคนในชาติ สภามหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัยได้มีมติให้ด าเนินการตามแผนพัฒนามหาวิทยาลัยระยะ ๕ ปี พ.ศ. ๒๕๖๔ – ๒๕๖๘ เพื่อใช้เป็นกรอบในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของมหาวิทยาลัย ส าหรับการปฏิบัติการของ แต่ละหน่วยงานให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นรูปธรรม โดยค านึงถึงเป้าหมายการพัฒนาประเทศในกรอบ ยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี และสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ด้านอื่น ๆ ตามสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ในโลกปัจจุบัน ทั้งสอดรับการเป็นมหาวิทยาลัยในกลุ่มพัฒนาปัญญาและคุณธรรมด้วยหลักศาสนา โดยเฉพาะการ เผยแผ่พระพุทธศาสนาในระดับนานาชาติส าหรับเปิดโอกาสให้พลเมืองโลกอันมีความหลากหลายทางชาติพันธุ์และ วัฒนธรรม สามารถเข้าถึงหลักธรรมของพระพุทธศาสนา เพื่อพัฒนาคนให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ด้วยภูมิปัญญา (Human Wisdom) รวมทั้งการเยียวยาฟื้นฟูจิตใจให้มีคุณธรรมจริยธรรมมากขึ้น เพื่อพัฒนามหาวิทยาลัยสู่วิสัยทัศน์ ที่ว่า “ร่วมพัฒนาพลเมืองโลก ด้วยการผสานแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาที่มั่นคงให้ด ารงอยู่ในฐานะโครงสร้างพื้นฐาน ทางปัญญาของมนุษย์ในอนาคต” ปีพุทธศักราช ๒๕๖๔ นี้เป็นอภิลักขิตสมัยครบ ๑๐๐ ปีแห่งการสิ้นพระชนม์ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส องค์ปฐมบูรพาจารย์ผู้ทรงพระคุณูปการเป็นอเนกปริยาย มหาวิทยาลัยได้ร่วมเฉลิม พระเกียรติคุณสมเด็จพระมหาสมณเจ้าพระองค์นั้น โดยจัดตั้ง “สถาบันวชิรญาณวโรรส” และองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติได้ร่วมเฉลิมฉลองและน้อมร าลึกในพระกรุณา จึงถือได้ว่าพระองค์ ได้ทรงวางรากฐานการศึกษาของประเทศ และการบริหารคณะสงฆ์ไว้อย่างเป็นรูปธรรมนับเป็นทิฏฐานุคติอันอนุชน ควรได้อนุสร และสืบสานพระปณิธานสืบไป แม้การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมอย่างต่อเนื่อง แต่ข้อมูลทางระบาดวิทยาบ่งชี้ว่าเป็นสายพันธุ์ที่ไม่รุนแรงมาก มหาวิทยาลัยได้มีการปรับรูปแบบการเรียนการสอนและ การปฏิบัติหน้าที่ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ มุ่งพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นและพร้อมสู่การพัฒนาตามแนวทาง “ความเป็นเลิศ ทางวิชาการตามแนวพระพุทธศาสนา” และแนวคิด “ร่วมพัฒนา มมร. ไปด้วยกัน” โอกาสนี้ ขอกราบขอบพระคุณ ขอบคุณ ขอบใจ และขออนุโมทนา กรรมการสภามหาวิทยาลัย ผู้ทรงคุณวุฒิ และบุคลากรทุกท่าน ที่ได้เสียสละร่วมแรงร่วมใจในการร่วมพัฒนามหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ด้วยกัน มา ณ ที่นี้และขออ านาจคุณพระศรีรัตนตรัย และพระบารมีธรรมแห่งเจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก จงปกปักคุ้มครองรักษาทุกท่านให้เจริญในธรรมตลอดไป (พระเทพวัชรเมธี, ผศ.ดร.) อธิการบดี (พระเทพวัชรเมธี, ผศ.ดร.) อธิการบดี


สารบัญ MAHAMAKUT ข้อมูลมหาวิทยาลัย ๐๑ ๔๕ รางวัลเชิดชูเกียรติ ในรอบปี พ.ศ. ๒๕๖๕ มหาวิทยาลัยกับการสนองพระดำ ริ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ๖๑ ผลการดำ เนินงานตามประเด็นกลยุทธ์ ๖๗ ของมหาวิทยาลัย ข้อมูลสารสนเทศ ๙๗ รายงาน ทางการเงิน ๑๒๑


Annual Report Mahamakut Buddhist University 2022 ประวัติความเป็นมาของ มหาวิทยาลัย ยุคที่ ๑ : ยุคเป็นวิทยาลัย (พ.ศ. ๒๔๓๖ – ๒๔๘๘) ประวัติความเป็นมาของมหาวิทยาลัยมหามกุฏราช วิทยาลัย อาจจำ แนกตามระยะเวลาที่ได้พัฒนามาจนถึง ปัจจุบัน (พ.ศ. ๒๕๖๕) ได้ ๓ ยุค ดังนี้ “มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย” เดิมเป็นวิทยาลัย เรียกว่า “มหามกุฏราชวิทยาลัย” สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส เมื่อครั้งยังดำ รงพระอิสริยยศที่ พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นวชิรญาณวโรรส ทรงก่อตั้งขึ้น แล้วได้รับพระบรมราชานุญาตจากพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ เมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม ร.ศ. ๑๑๒ (พ.ศ. ๒๔๓๖) ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหามงกุฎ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช รัชกาลที่ ๔ และได้พระราชทานนามว่า “มหามกุฏราชวิทยาลัย” เพื่อถวายเป็นพระบรมราชานุสรณ์เฉลิมพระเกียรติแด่สมเด็จ พระบรมชนกนาถ ผู้ทรงเป็นปราชญ์ทางพระพุทธศาสนา ที่สำ คัญพระองค์หนึ่งของไทย ดังความในวัตถุประสงค์ ของการสถาปนา “มหามกุฏราชวิทยาลัย” ตอนหนึ่งว่า “เพื่อเป็นที่เล่าเรียนศึกษาพระปริยัติธรรมของภิกษุสามเณร” ในแจ้งความของกระทรวงธรรมการ ลงวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๓๖ (ร.ศ. ๑๑๒) ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๐ หน้า ๕๒๖ หอสมุดมหามกุฏราชวิทยาลัย อาคารเรียนเมื่อแรกก่อตั้ง สภาการศึกษามหามกุฏ ราชวิทยาลัย 1


รายงานประจำ ปี ๒๕๖๕ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ยุคที่ ๒ : ยุคเป็นสภาการศึกษา มหาวิทยาลัย พระพุทธศาสนา (พ.ศ. ๒๔๘๘ – ๒๕๔๐) ในยุคนี้เริ่มจากปี พ.ศ. ๒๔๘๘ โดยกรรมการมหามกุฏราช วิทยาลัย ซึ่งมีสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ ขณะทรงดำ รงสมณศักดิ์ที่สมเด็จพระวชิรญาณวงศ์ สมเด็จ พระสังฆราช ทรงเป็นนายกกรรมการ ได้มีมติให้จัดตั้ง มหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนาขึ้น เรียกว่า “สภาการศึกษา มหามกุฏราชวิทยาลัย มหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนา แห่งประเทศไทย” กล่าวได้ว่า มหามกุฏราชวิทยาลัยพัฒนาขึ้น เป็นมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนา อันเป็นไปตามที่สมเด็จ พระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ทรงพระดำ ริไว้ เมื่อครั้งที่พระองค์ยังทรงพระชนม์อยู่ และได้เปิดทำ การสอน ในรูปแบบของมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนา เมื่อวันที่ ๑๖ กันยายน พ.ศ. ๒๔๘๙ และมีวัตถุประสงค์ตามที่สมเด็จ พระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ทรงตั้งไว้ ๓ ประการ คือ (๑) เพื่อเป็นสถานที่ศึกษาพระปริยัติธรรมของพระสงฆ์ (๒) เพื่อเป็นสถานที่ศึกษาวิทยา ซึ่งเป็นของชาติภูมิและ ต่างประเทศแห่งกุลบุตรทั้งหลาย (๓) เพื่อเป็นสถานที่จัดสั่งสอนพระพุทธศาสนา จากวัตถุประสงค์ดังกล่าวนี้ แสดงให้เห็นว่า สมเด็จ พระมหาสมณเจ้าฯ ทรงมีพระดำ ริในเรื่องการศึกษาที่กว้างไกล ทรงเห็นว่าพระภิกษุสามเณรนั้นควรจะได้ศึกษาทั้งความรู้ทาง พระศาสนาและความรู้อื่น ๆ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อการดำ เนิน ชีวิตอยู่ในสังคม ซึ่งทรงเรียกว่า “วิทยา” อันเป็นของชาติภูมิ และต่างประเทศ เพราะความรู้ดังกล่าวนี้ แม้จะไม่เป็น ประโยชน์ต่อการพระศาสนาโดยตรง แต่ก็จะเป็นสื่อกลางและ ปัจจัยเกื้อหนุนต่อการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ทั้งในระดับชาติ และนานาชาติ และเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง ไม่ว่าพระภิกษุ สามเณรนั้นจะยังคงอยู่ในสมณเพศ หรือลาสิกขาออกไปเป็น พลเมืองของชาติ 2


Annual Report Mahamakut Buddhist University 2022 ในยุคที่ ๒ (ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๑๖) เมื่อนักศึกษาเพิ่มมากขึ้น สภาการศึกษามหามกุฏราชวิทยาลัย จึงได้ขยายการศึกษาจาก ส่วนกลางออกสู่ส่วนภูมิภาค โดยจัดตั้งเป็นวิทยาเขต ๗ แห่ง และ วิทยาลัย ๑ แห่ง รวมเป็น ๘ แห่ง คือ (๑) วิทยาเขตมหาวชิราลงกรณราชวิทยาลัย ตั้งอยู่ที่ จังหวัด พระนครศรีอยุธยา (๒) วิทยาเขตสิรินธรราชวิทยาลัย ตั้งอยู่ที่ จังหวัดนครปฐม (๓) วิทยาเขตอีสาน ตั้งอยู่ที่ จังหวัดขอนแก่น (๔) วิทยาเขตล้านนา ตั้งอยู่ที่ จังหวัดเชียงใหม่ (๕) วิทยาเขตศรีธรรมาโศกราช ตั้งอยู่ที่ จังหวัดนครศรีธรรมราช (๖) วิทยาเขตร้อยเอ็ด ตั้งอยู่ที่ จังหวัดร้อยเอ็ด (๗) วิทยาเขตศรีล้านช้าง ตั้งอยู่ที่ จังหวัดเลย (๘) มหาปชาบดีเถรีวิทยาลัย ตั้งอยู่ที่ จังหวัดนครราชสีมา ครั้นต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๓๐ มหาวิทยาลัยได้ตระหนักว่าวิชาการทางพระพุทธศาสนา เป็นสิ่งจำ เป็น และมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเผยแผ่พระพุทธศาสนา และผู้เผยแผ่พระพุทธศาสนาจำ เป็นต้องมีความรู้ ความสามารถในการสอนธรรมะที่ทันสมัย และทันต่อความเปลี่ยนแปลงของสังคมโลกและวิทยาการ ด้านต่าง ๆ จึงอนุมัติให้เปิดดำ เนินการจัดตั้งโครงการบัณฑิตศึกษาขึ้น เพื่อเปิดสอนในระดับปริญญาโท และปริญญาเอก เรียกว่า “บัณฑิตวิทยาลัย สภาการศึกษามหามกุฏราชวิทยาลัย” เมื่อวันที่ ๒๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๐ โดยได้เปิดสอนในระดับปริญญาโท ครั้งแรกเมื่อวันที่ ๓ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๓๑ คณาจารย์และพระนักศึกษา สภาการศึกษามหามกุฏ ราชวิทยาลัย ทำ สามีจิกรรม สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร ครั้งยังดำ รงพระยศที่ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ณ ห้องประชุมตึกสภาการศึกษา มหามกุฏราชวิทยาลัย เนื่องในเทศกาลเข้าพรรษา พ.ศ. ๒๕๓๓ 3


รายงานประจำ ปี ๒๕๖๕ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ...การส่งเสริมพระปริยัตินั้น เป็นอุปกรณ์ ให้ศาสนธรรมของสมเด็จพระบรมศาสดา แผ่ขยายไป เป็นปัจจัยให้เกิดการปฏิบัติ ซึ่งย่อมส่งผลให้ได้ปฏิเวธ เพราะฉะนั้น การวางศิลาฤกษ์สถานศึกษาในวันนี้จึงเป็น ที่เข้าใจว่า มิใช่เพียงเป็นรากฐานแห่งปริยัติ อย่างเดียว แต่มุ่งให้เกิดปฏิบัติและปฏิเวธ โดยลำ�ดับ ขอให้ความเข้าใจดังกล่าวนี้ จงมีในท่านทั้งหลาย เพื่อช่วยกันส่งเสริม ให้เป็นการดำ�เนินไปถูกต้องตามความ ประสงค์นี้... 4


Annual Report Mahamakut Buddhist University 2022 พระดำ รัสสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ ในพิธีวางศิลาฤกษ์ตึกสภาการศึกษามหามกุฏราชวิทยาลัย วันที่ ๒๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๙๘ 5


รายงานประจำ ปี ๒๕๖๕ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ครั้งยังดำ รงพระราชอิสริยยศที่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำ เนินทอดพระเนตรนิทรรศการ ๘๔ ปี มหามกุฏราชวิทยาลัย 6


Annual Report Mahamakut Buddhist University 2022 ยุคที่ ๓ : ยุคเป็นมหาวิทยาลัย ในกำ กับของรัฐ (พ.ศ. ๒๕๔๐ - ปัจจุบัน) มหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนา อันมีนามว่า “สภาการ ศึกษามหามกุฏราชวิทยาลัย” ได้พัฒนามาเป็นมหาวิทยาลัย ในกำ กับของรัฐ ได้นามใหม่ว่า “มหาวิทยาลัยมหามกุฏ ราชวิทยาลัย” โดยพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙ ทรงมีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งมหาวิทยาลัย มหามกุฏราชวิทยาลัยและให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นเรียกว่า “พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย พ.ศ. ๒๕๔๐” กล่าวได้ว่า มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติดังกล่าว เป็นนิติบุคคล และ เป็นมหาวิทยาลัยในกำ กับของรัฐ มีวัตถุประสงค์ในการ ให้การศึกษาที่กว้างกว่าเดิม คือ ให้การศึกษา วิจัย ส่งเสริม และให้บริการทางวิชาการพระพุทธศาสนาแก่พระภิกษุ สามเณรและคฤหัสถ์ รวมทั้งทะนุบํารุงศิลปวัฒนธรรม (มาตรา ๖) ในยุคที่ ๓ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย เปิดการสอนในระดับปริญญาเอกเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ ๑๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๘ และในปี พ.ศ. ๒๕๔๙ ได้ขยาย การศึกษาจากวิทยาเขตร้อยเอ็ด โดยจัดตั้งเป็นวิทยาลัยเพิ่ม อีก ๒ แห่ง คือ (๑) วิทยาลัยศาสนศาสตร์ยโสธร ตั้งอยู่ที่จังหวัดยโสธร (๒) วิทยาลัยศาสนศาสตร์เฉลิมพระเกียรติกาฬสินธุ์ ตั้งอยู่ที่จังหวัดกาฬสินธุ์ 7


รายงานประจำ ปี ๒๕๖๕ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานปริญญาบัตร ประจำปี ๒๕๖๔ และ ๒๕๖๕ ณ หอประชุม อาคารสุชีพ ปุญญานุภาพ วันที่ ๑๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ 8


Annual Report Mahamakut Buddhist University 2022 บัณฑิตวิทยาลัย ศาสนาและ ปรัชญา มนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ ศึกษาศาสตร์ ปัจจุบัน มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ได้เปิดสอนตามหลักสูตร สาขาวิชาต่าง ๆ ตั้งแต่ระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และ ปริญญาเอก คณะวิชา ๕ คณะ คือ 9


พระมหามงกุฎ และอุณาโลม สื่อความหมายถึง พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหามงกุฎ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช รัชกาลที่ ๔ พระผู้ทรงเป็นที่มาแห่งนาม “มหามกุฏราชวิทยาลัย” พระเกี้ยวยอด สื่อความหมายถึง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ พระผู้พระราชทาน พระบรมราชานุญาตให้จัดตั้ง “มหามกุฏราชวิทยาลัย” หนังสือ สื่อความหมายถึง คัมภีร์และตำ ราทางพระพุทธศาสนา เพื่อการศึกษาค้นคว้า และเผยแผ่พระพุทธศาสนา ปากกาปากไก่ ดินสอ และม้วนกระดาษ สื่อความหมายถึง อุปกรณ์ในการศึกษาเล่าเรียน การพิมพ์เผยแพร่คัมภีร์และการผลิตตำ ราทางพระพุทธศาสนา เพราะมหามกุฏราชวิทยาลัยทำหน้าที่เป็นทั้งสถาบันการศึกษา และแหล่งผลิตตำ ราทางพระพุทธศาสนา ช่อดอกไม้แย้มกลีบ สื่อความหมายถึง ความเบ่งบานแห่งสติปัญญา และวิทยาการในทางพระพุทธศาสนา และหมายถึง กิตติศัพท์กิตติคุณที่ฟุ้งขจรไป ดุจกลิ่นหอมแห่งดอกไม้ ธงชาติไทย สื่อความหมายถึง อุดมการณ์ของมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ที่มุ่งพิทักษ์สถาบันหลักทั้ง ๓ คือ ชาติไทย พระพุทธศาสนา และพระมหากษัตริย์ วงรัศมี สื่อความหมายถึง แสงสว่างแห่งปัญญา วิสุทธิ สันติ และกรุณา ที่มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย มุ่งสาดส่องไปทั่วโลก แพรแถบสีส้มระบุนามมหาวิทยาลัย สื่อความหมายถึง มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย อันเป็นสถาบันการศึกษาทางพระพุทธศาสนา ระดับอุดมศึกษา ตราสัญลักษณ์ ประจำ มหาวิทยาลัย ปรัชญามหาวิทยาลัย “ความเป็นเลิศทางวิชาการตามแนวพระพุทธศาสนา” “Academic Excellence based on Buddhism”


ปณิธาน มุ่งเน้นให้มีการเรียนรู้ตลอดชีวิต ผลิตบัณฑิตให้มีความเป็นเลิศทาง วิชาการตามแนวพระพุทธศาสนา พัฒนากระบวนการดำ รงชีวิต ในสังคมด้วยศีลธรรม ชี้นำ และแก้ปัญหาสังคมด้วยหลักพุทธธรรม ทั้งในระดับชาติและนานาชาติ วิสัยทัศน์ ร่วมพัฒนาพลเมืองโลก ด้วยการผสานแก่นแท้ของพระพุทธศาสนา ที่มั่นคง ให้ดำ รงอยู่ในฐานะโครงสร้างพื้นฐานทางปัญญาของมนุษย์ หมายถึง สีประจำ วันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จ พระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหามงกุฎ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช Pantone 1655 C Florida Orange RGB : (255, 77, 20) CMYK color : 0%, 70%, 92%, 0% HEX : #ff4d14 สีแสด สีประจำ มหาวิทยาลัย


พันธกิจ ให้การศึกษา วิจัย ส่งเสริม และให้บริการวิชาการทางพระพุทธศาสนา แก่พระภิกษุสามเณร และคฤหัสถ์ รวมทั้งการทำนุบำ รุงศิลปวัฒนธรรม


วัตถุประสงค์หลัก ๑. ผลิตบัณฑิตที่เป็นคนดี มีความเป็นเลิศทางวิชาการ ตามแนวทางพระพุทธศาสนาทั้งในระดับชาติ และนานาชาติ มีความเป็นผู้นำ และสร้างสังคมไทยให้เป็น "สังคมแห่ง ภูมิปัญญา การเรียนรู้ และเป็นศูนย์กลางทางวิชาการ พระพุทธศาสนาเถรวาท" ๒. พัฒนาองค์ความรู้ ผลิตผลงานวิจัย และวิชาการ สร้างสรรค์ นวัตกรรม บูรณาการศิลปวัฒนธรรม เพื่อนำพาสังคมด้วย องค์ความรู้บนวิถีธรรมตามศาสตร์สาขาของตน อันจะเป็น ประโยชน์ต่อสังคมโลกในที่สุด ๓. เผยแผ่องค์ความรู้ ภูมิปัญญาด้านพระพุทธศาสนาที่แท้จริง ให้แก่พลเมืองโลก สืบสาน ส่งต่อ โดยศาสนทายาทที่เข้มแข็ง แตกฉานในพระธรรมขององค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ให้ดำ รงทรงไว้ในฐานะสมบัติที่ล้ำ ค่าของโลก ๔. บริการวิชาการ บริการสังคม ด้วยสรรพกำลัง และทุกองคาพยพ ของพระพุทธศาสนาให้เกิดผลสัมฤทธิ์ที่เจริญวัฒนาสถาพร เป็นประจักษ์ชัดเจนต่อสังคมไทยและสังคมโลก ๕. สร้างพลวัต ในการพัฒนามหาวิทยาลัยและเครือข่าย ภาคีพุทธฯ ให้มีโครงสร้าง ระบบ และกระบวนการบริหาร จัดการที่มีคุณภาพ เน้นการควบคุมกระบวนการสำ คัญ สู่ผลลัพธ์และผลสัมฤทธิ์ที่มีประสิทธิผล ประสิทธิภาพ คุ้มค่า และสมประโยชน์


ศาสนสุภาษิต ประจำ มหาวิทยาลัย วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน โส เสฏฺโ เทวมานุเส ผู้สมบูรณ์ด้วยความรู้และความประพฤติ เป็นผู้ประเสริฐในหมู่เทพและมนุษย์


อัตลักษณ์ บัณฑิตมีความรอบรู้ในหลักพระพุทธศาสนาและ สามารถเผยแผ่พระพุทธศาสนาแก่สังคมในระดับ ชาติหรือนานาชาติ เอกลักษณ์ บริการวิชาการพระพุทธศาสนาแก่สังคมในระดับ ชาติหรือนานาชาติ


คติพจน์ ประจำ มหาวิทยาลัย ระเบียบ สามัคคี บำ�เพ็ญประโยชน์


ต้นไม้ประจำ มหาวิทยาลัย ต้นไม้ที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ประทับนั่งตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ภายใต้ร่มเงาของต้นพระศรีมหาโพธิ์ ต้นโพธิ์


โครงสร้างมหาวิทยาลัย Organization chart MAHAMAKUT BUDDHIST UNIVERSITY สภามหาวิทยาลัย อธิการบดี กองตรวจสอบ ภายใน กองงาน สภามหาวิทยาลัย สำ นักงาน อธิการบดี กองบริหารกลาง กองเทคโนโลยี สารสนเทศ กองบริหาร ทรัพยากรบุคคล กองกิจการนักศึกษา กองนโยบาย และแผน กองพัฒนาคุณภาพ กองคลัง กองนิติการ กองวิเทศสัมพันธ์ กองโครงสร้างพื้นฐาน และสิ่งแวดล้อม กองบริหาร ทรัพย์สิน


คณะ คณะ ๕ คณะ วิทยาเขต วิทยาเขต ๗ แห่ง วิทยาลัย วิทยาลัย ๓ แห่ง • บัณฑิตวิทยาลัย • คณะศาสนาและปรัชญา • คณะมนุษยศาสตร์ • คณะสังคมศาสตร์ • คณะศึกษาศาสตร์ • มหาวชิราลงกรณ ราชวิทยาลัย • สิรินธรราชวิทยาลัย • อีสาน • ล้านนา • ศรีธรรมาโศกราช • ร้อยเอ็ด • ศรีล้านช้าง • มหาปชาบดีเถรีวิทยาลัย ในพระสังฆราชูปถัมภ์ • วิทยาลัยศาสนศาสตร์ยโสธร • วิทยาลัยศาสนศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติกาฬสินธุ์ สถาบันกรรมฐานศึกษา สมเด็จพระสังฆราช สถาบันวิจัย ญาณสังวร ศูนย์บริการ วิชาการ


คณะกรรมการสภา มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก นายกสภามหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย


รายงานประจำ ปี ๒๕๖๕ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย คณะกรรมการสภามหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ผู้ทรงคุณวุฒิ(บรรพชิต) สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ อุปนายกสภามหาวิทยาลัย สมเด็จพระพุทธพจนวชิรมุนี พระธรรมวชิรญาณ พระเทพโมลี 28


Annual Report Mahamakut Buddhist University 2022 คณะกรรมการสภามหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย โดยตำ แหน่ง พระเทพวัชรเมธี, ผศ.ดร. อธิการบดี นายปิยวัฒน์ ศิวรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการ ข้าราชการพลเรือน ดร.อรรถพล สังขวาสี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ดร.สุเทพ แก่งสันเทียะ เลขาธิการสภาการศึกษา นายเฉลิมพล เพ็ญสูตร ผู้อำ นวยการสำ นักงบประมาณ นายอินทพร จั่นเอี่ยม รองผู้อำ นวยการสำ นักงาน พระพุทธศาสนาแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้อำ นวยการ สำ นักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม 29


รายงานประจำ ปี ๒๕๖๕ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย คณะกรรมการสภามหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ผู้ทรงคุณวุฒิ (คฤหัสถ์) ดร.กฤษณพงศ์ กีรติกร ดร.สุชาติ เมืองแก้ว ศ.(พิเศษ) ธงทอง จันทรางศุ ศ.ดร.ชาญณรงค์ พรรุ่งโรจน์ 30


Annual Report Mahamakut Buddhist University 2022 ที่ปรึกษาสภามหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ศ.(กิตติคุณ) ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ ผศ.ดร.ประพจน์ นายสด แดงเอียด อัศววิรุฬหการ 31


รายงานประจำ ปี ๒๕๖๕ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย คณะกรรมการสภามหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ผู้บริหาร พระมหามฆวินทร์ ปุริสุตฺตโม, ผศ.ดร. พระครูสุนทรมหาเจติยานุรักษ์, ผศ.ดร. พระครูสุธีจริยวัฒน์, ผศ.ดร. พระมหาฉัตรชัย สุฉตฺตชโย, ผศ.ดร. เลขานุการสภามหาวิทยาลัย พระสุทธิสารเมธี, ผศ.ดร. พระมหาเตชินท์ อินฺทเตโช ผู้ช่วยเลขานุการสภามหาวิทยาลัย พระครูศรีวีรคุณสุนทร, ผศ.ดร. พระครูปลัดสุวัฑฒนพรหมจริยคุณ 32


Annual Report Mahamakut Buddhist University 2022 อธิการบดี รองอธิการบดี พระมหามฆวินทร์ ปุริสุตฺตโม, ผศ.ดร. นายอนันต์ ทรัพย์วารี พระศรีวินยาภรณ์, ดร. (เริ่มวาระวันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๖) พระมหาเตชินท์ อินฺทเตโช (เริ่มวาระวันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๖) พระมหาฉัตรชัย สุฉตฺตชโย, ผศ.ดร. พระธรรมศากยวงศ์วิสุทธิ์, ดร. (สิ้นสุดวาระวันที่ ๓๐ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๕) พระครูปลัดสุวัฑฒนพรหมจริยคุณ นางสาวนงนารถ เพชรสม นางสาวศิริพร เจนศิริสกุล พระเทพวัชรเมธี, ผศ.ดร. 33


รายงานประจำ ปี ๒๕๖๕ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย รองอธิการบดี วิทยาเขต พระครูสุธีจริยวัฒน์, ผศ.ดร. วิทยาเขตอีสาน พระกิตติสารสุธี วิทยาเขตมหาวชิราลงกรณราชวิทยาลัย พระครูสุนทรมหาเจติยานุรักษ์, ผศ.ดร. วิทยาเขตล้านนา พระครูสิริธรรมาภิรัต, ผศ.ดร. วิทยาเขตศรีธรรมาโศกราช พระมหาวิเชียร ธมฺมวชิโร, ดร. วิทยาเขตศรีล้านช้าง พระครูวิจิตรปัญญาภรณ์, ผศ.ดร. วิทยาเขตร้อยเอ็ด พระมงคลธรรมวิธาน, ผศ.ดร. วิทยาเขตสิรินธรราชวิทยาลัย 34


Click to View FlipBook Version