The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ประวัติอำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by MYname View, 2024-02-01 03:55:15

อำเภอแม่อาย

ประวัติอำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่

อำ เภอ แม่อ ม่าย พระบูร บู พา เขมญาโณ รหัสหั นัก นั ศึก ศึ ษา : 6510530411052 สาขาการปกครอง คณะสัง สั คมศาสตร์ มหาวิท วิ ยาลัย ลั มหามกุฏกุ ราชวิท วิ ยาลัย ลั วิท วิ ยาเขตล้านนา


เหนืนื นื อนื อสุสุสุ ด สุ ดเวีวี วี ยวี ยงเชีชีชี ยชี ยงใหม่ม่ ม่ ยิ่ยิ่ ยิ่ งยิ่ งใหญ่ญ่ ญ่ ด ญ่ ดอยฟ้ฟ้ฟ้ า ฟ้ าห่ห่ ห่ ม ห่ มปก แม่ม่ ม่ น้ำ ม่ น้ำน้ำน้ำกกแหล่ล่ ล่ ง ล่ งชีชีชี วิชี วิ วิ ตวิ ต ศัศัศั ก ศั กดิ์ดิ์ ดิ์สิดิ์สิสิ ทสิ ทธิ์ธิ์ ธิ์ พธิ์ พระธาตุตุตุ ส ตุ สบฝาง เมืมื มื อมื องพระนางมะลิลิ ลิ กลิ กา เด่ด่ ด่ น ด่ นสง่ง่ ง่ า ง่ าวัวั วั ด วั ดท่ท่ ท่ า ท่ าตอน ลืลื ลื อลื อขจรผลไม้ม้ ม้ไม้ ทย มากมายหลายเผ่ผ่ ผ่ า ผ่ าชน


คํานํา รายงานเล่มนี้จัดจัทําขึ้นขึ้เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา GE 4005 เทคโนโลยีสยีารสนเทศเพื่อการศึกษาค้นคว้า โดยมีวัตวัถุประสงค์เพื่อให้ทราบถึงวัฒวันธรรม ประเพณี และวิถีการใช้ชีวิตความเป็นอยู่ของคนในชุมชนอําอํเภอแม่อายและ ประวัติวั ติความเป็นมาของอําอํเภอแม่อายและวัดวั โบราณสถาน ผู้จัดจัทําหวังวัว่า รายงานเล่มนี้จะเป็นประโยชน์กับกัผู้อ่าน หรือ นักเรียน นักศึกษา ที่กําลังลัหาข้อมูลเรื่องนี้อยู่ ได้นําไปใช้ให้เกิด ผลประโยชน์สูงสุดต่อไป ขอขอบพระคุณดร.ชาลี ภักภัดี อาจารย์ที่ปรึกษาในรายวิชานี้ ที่ได้ให้คําแนะนํา ทําให้รายงานเล่มนี้เกิดความสมบูรณ์และสําเร็จ ลุล่วงไปได้ด้วยดี ขอขอบคุณไว้ ณ โอกาสนี้ ก


สารบัญบั เรื่อรื่ง หน้า น้ คำ นำ ก สารบัญบัข ตำ นานคำ บอกเล่า 1 ประวัติวั ติเจ้าจ้แม่มม่ะลิกา 2 วิถีวิ ถีชีวิชีตวิของคนในชุมชน 3 ประเพณีแณีละวัฒวันธรรม 4 -ประเพณีต๋ณี ต๋านก๋วยสลา 5 -ประเพณียี่ณีเ ยี่ ป็ง ป็ 6 พิธีพิทธีรงน้ำ เจ้าจ้แม่มม่ะลิกแห่ไห่ม้ก้ำม้ ก้ำ 7 -วัดวั โบราณสถาน 8 -วัดวัแม่อม่ายหลวง 9 -วัดวัท่าตอนวัดวัดงส้มส้สุกสุ 10 แม่น้ำม่ น้ำกกและพระธาตุสตุบฝาง 11 บรรณานุกนุรม 12 ข


ตำ นานและคำ บอกเล่า ล่ “แม่อายเมือมืงเจ้าแม่มะลิกลิา”คำ นามซึ่งเป็นที่มที่าของชื่อชื่อำ เภอแม่อายในปัจปัจุบัจุนบันั้นนั้มีตำมีตำนานและคำ บอกเล่า สืบสืต่อกันกัมาจากตำ นานเวียวีงมะลิกลิาเนื่อนื่งจากพื้นพื้ที่เดิมดิของเวียวีงมะลิกลิาตั้งตั้อยู่ในเขตอำ เภอแม่อายเวียวีงมะลิกลิาตั้งตั้อยู่ ณเส้นละติจูติดจู20 องศา 2ลิปลิดา 21 ฟิลิปลิดาเหนือนืลองติจูติดจู99องศา18ลิปลิดา14ฟิลิปลิดาตะวันวัออกปัจปัจุบัจุนบัอยู่ใน เขตหมู่ที่8ตำ บลมะลิกลิาอำ เภอแม่อายมีทมีางแยกออกจากทางหลวงแผ่นดินดิสายฝาง-ท่าตอนผ่านโรงพยาบาลแม่อาย ไปทางทิศทิเหนือนืมีแมีนวคูเคูมือมืงและซากอิฐอิกำ แพงดินดิเป็นที่สัที่งสัเกตได้ราษฎรถือถืเป็นโบราณสถานศักศัดิ์สิทสิธิ์ร่องรอย ของเวียวีงมะลิกลิาที่เห็นห็ ได้ในปัจปัจุบัจุนบัคือคืแนวกำ แพงนูนนูสูงสู๒ชั้นชั้มีคูมีเคูมือมืงอยู่ระหว่างกลางเป็นแนวล้อมรอบเมือมืงมีรูมี ปรู ร่างคดเคี้ยคี้วไปตมลักลัษณะของเนินนิดินดิอาณาเขตของเวียวีงมะลิกลิามีพื้มีนพื้ที่ปที่ระมาณ321 ไร่ลักลัษณะพื้นพื้ที่ภที่ายในส่วน ใหญ่เป็นที่รที่าบ2ระดับดัพื้นพื้ที่รที่ะดับดัสูงสูประมาณ520เมตรจากระดับดัน้ำ ทะเล๗๐เมตรจากที่รที่าบลุ่มแม่น้ำ ฝางพื้นพื้ที่ ระดับดัต่ำ สูงสูประมาณ480เมตรจากระดับดัน้ำ ทะเลโดยมีแมีนวติดติต่อ เวียวีงมะลิกลิาเป็นเมือมืงโบราณขนาดเล็กล็ ซึ่งสร้างขึ้นขึ้ประมาณปีพ.ศ.๒๑๕๐ตรงกับกัจ.ศ.๙๑๙ปีระกาเดือดืน๔ เหนือนืถึงถึพ.ศ.๒๑๙๑มีอมีายุเยุพียพีง๔๑ปีคือคืช่วงที่พที่ระนางมะลิกลิาปกครองอยู่เท่านั้นนั้ซึ่งตามตำ นานเรื่อรื่งของพระนาง มะลิกลิาเป็นเรื่อรื่งราวที่ไที่ม่ปรากฏว่ามีกมีารจดบันบัทึกทึไว้เป็นหลักลัฐานเป็นเพียพีงเรื่อรื่งที่ไที่ด้มีกมีารเล่าสืบสืต่อกันกัมาจากผู้อาวุโวุส และอาศัยศัสิ่งสิ่แวดล้อมอื่นอื่ๆเช่นโบราณสถานโบราณวัตวัถุบ้ถุ บ้ างสันสันิฐนิานบ้างและจากบรรดาที่พที่บเห็นห็อภินิภิหนิารของเจ้า แม่มะลิกลิาที่บัที่นบัดาลให้ปรากฏไว้กับกั ใครต่อใครบ้างตลอดจนวิเวิคราะห์จากประวัติวัขติองพระเจ้าฝางอุดอุมสินสิและพระนาง สามผิวผิผู้เป็นพระราชบิดบิา–มารดาผู้ครองเมือมืงฝาง พระนามของพระนางมะลิกลิาตามความเห็นห็ของชาวบ้านทั่วทั่ๆไปมักมัจะเรียรีกว่า“เจ้าแม่มะลิกลิา”มากกว่าจะ เรียรีก“พระนางมะลิกลิา”เจ้าแม่มะลิกลิาเป็นราชบุตบุรีใรีนพระเจ้าฝางอุดอุมสินสิกับกัพระนางสามผิวผิพระนางสามผิวผิพระราช มารดาของพระนางมะลิกลิานี้ทรงพระสิริสิ โริฉมงดงามยิ่งยิ่นักนัดังดัมีคำมีคำกล่าวที่ว่ที่ ว่ ามีพมีระวรกายอวบท้วมเปล่งปลั่งลั่เป็นน้ำ เป็น นวลดวงพระเนตรดำ ขลับลัดั่งดั่นัยนัน์ตาเนื้อนื้สมันมัพระเกษายาวสลวยดำ สนิทนิเหมือมืงขนกาน้ำ พระนาสิกสิ ได้สัดสัส่วนรับรั กับกัพระโอษฐ์อันอัจิ้มจิ้ลิ้มลิ้พริ้มริ้เพราพระโขนงโก่งดังดัคันคัธนูศินูลศิ ป์มีคมีวามงามเป็นเลิศลิแห่งยุคยุเพียพีบพร้อมด้วย เบญจกัลกัยาณียากที่จที่ะหาหญิงญิ ใดมาเทียทีบนอกจากนั้นนั้ยังยัมีปมีรากฏการณ์ประหลาดเกิดกิขึ้นขึ้กับกัพระนางอันอัเป็นที่ ประจักจัษ์แก่คนเมือมืงฝางนั้นนั้คือคืวันวัหนึ่งนึ่ๆสีขสีองพระวรกาย(ผิวผิ )ของพระนางจะเปลี่ยลี่นไปถึงถึ๓สีคือคืตอนเช้าจะมีพมีระ ฉวีเวีป็นสีขสีาวนวลบริสุริทสุธิ์ผุธิ์ดผุผ่องดังดัน้ำ นมพอตกเที่ยที่งจะแปรเปลี่ยลี่นเป็นสีชสีมพูอ่พู อ่ อนดุจดุดอกบัวบัจงกลณีพอเวลาเย็นย็จะ เปลี่ยลี่นแปลงเป็นสีแสีดงระเรื่อรื่ดุจดุดอกกุหกุลาบจึงจึเป็นที่มที่าของพระนาม “พระนางสามผิวผิ ”


ประวัติ วั เ ติ จ้าแม่มะลิก ลิ า บุตบุรีทรีรงวุฒิวุจำฒิจำเริญริขึ้นขึ้พระเจ้าฝางทรงเกรงเป็นที่ลที่ะอายแก่ไพร่ฟ้าพลเมือมืงจึงจึทรงสร้างสวนหลวงขึ้นขึ้ทาง ทิศทิเหนีอนีเวียวีงสุโสุท(ใกล้กับกัเมือมืงฝาง)และสร้างคุ้มหลวงประกอบด้วยคูและปราการล้อมรอบประทานราชบุตบุรี ให้เป็นที่ปที่ระทับทัสำ ราญสวนหลวงแห่งนั้นนั้จึงจึได้ชื่อชื่ว่า “เวียวีงมะลิกลิา”เชื่อชื่ว่าเวียวีงมะลิกลิาไม่มีบุมีรุบุษรุเพศเลยผู้คนล้วน แต่สตรีเรีพศพระแม่เจ้าทรงฝึกฝนสตรีผู้รีผู้กำ ยำ เป็นทะแกล้วคนหาญของเวียวีงมะลิกลิาจนเป็นที่ลืที่อลืชาปรากฏว่าเวียวีง มะลิกลิามีคมีนหาญการธนูที่นูแที่กร่งกล้ายิงยิแม่นนักนักาลต่อมามีรมีาชบุตบุรของเจ้าผู้ครองเวียวีงภูก่ำภูก่ำ (แคว้นไตใหญ่)ได้สดับดั ข่าวเกี่ยกี่วกับกัพระเจ้าแม่มะลิกลิาแรงแห่งบุพบุเพสันสันิวาสเกิดกิขึ้นขึ้ ในราชบุตบุรพระราชบุตบุรได้ทรงอ้อนวอนพระเจ้าภูก่ำภูก่ำ ขอเสด็จด็ไปเวียวีงมะลิกลิาเยี่ยยี่งสามัญมั ชนคนค้าขายพระเจ้าภูก่ำภูก่ำ ทรงอนุยนุาตแล้วดำ รัสรัสั่งสั่อำ มาตย์คย์นสนิทให้ตระ เตรียรีมม้าต่างอัญอัมณีเป็นสินสิค้าโดยเสด็จด็พระราชบุตบุรข่าวการเสด็จด็ฯของพระราชบุตบุรทราบถึงถึเจ้าแม่มะลิกลิา พระองค์ก็ค์เก็กิดกิอางขนางในวันวัที่พที่ระราชบุตบุรกำ หนดเข้าเฝ้าถวายอัญอัมณีแม่เจ้าก็เก็สด็จด็หลีกลีลี้ไลี้ปสรงสนานน้ำ ห้วย และแต่งให้พระพี่เลี้ยลี้งนางเหลี่ยลี่วอยู่เวียวีงมะลิกลิารับรัเสด็จด็พระราชบุตบุรเมื่อมื่พระราชบุตบุรในรูปรูของพ่อค้านายวาณิชเข้า เฝ้าพระพี่เลี้ยลี้งก็กก็ล่าวว่าแม่เจ้าไม่ทรงปรารถนาพบเห็นห็ ชายใดๆและไม่ต้องประสงค์ใค์นการได้ยินยิเรื่อรื่งเช่นนี้ พ่อค้าจำ แลงก็ลก็ากลับลัเวียวีงภูก่ำภูก่ำ ด้วยความโทมนัสนัขณะที่พที่ระนางมะลิกลิาสรงสนานอยู่่น้ำ ในลำ ห้วยก็กก็ลายเป็นสี เลือลืดด้วยละอายพระทัยทัคนทั้งทั้หลายจึงจึเรียรีกน้ำ ห้วยนั้นนั้ว่า“แม่อาย”จึงจึได้ชื่อชื่ตำ บลนี้ว่นี้ ว่ า“แม่อาย”


วิถี วิชีถี วิ ชี ต วิ ของคนในชุม ชุ ชน วิถีวิชีถีวิชีตวิของคนในชุมชุชนแม่อายจะใช้ชีวิชีตวิกันกัแบบเรียรีบง่ายประกอบอาชีพชีค้าขายและทำ ไร่ทำ สวนปลูกลู ข้าวเป็นหลักลัพื้นพื้ที่ส่ที่ ส่ วนใหญ่เป็นหุบหุเขาและมีพื้มีนพื้ที่รที่าบพื้นพื้ที่สูที่งสูปลูกลูข้าวทำ ไร่พื้นพื้ที่รที่าบอุดอุมสมบูรบูณ์ปลูกลูข้าวและ พืชพือื่นอื่ๆได้ดีระบบเศรษฐกิจกิเป็นแบบผลิตลิเพื่อพื่ให้พออยู่พอกินกิ ไม่ว่าจะเป็นการปลูกลูพืชพืไว้ทานเองในสวนหลังลั บ้านหรือรืปลูกลูแทรกตามคันคันาซึ่งการทำ การปลูกลูพืชพืไว้กินกิเองเหมือมืนดั่งดั่บรรพชนที่สืที่บสืทอดกันกัมาส่วนการค้าขาย ของคนแม่อายก็จก็ะมีตมีลาดสดตอนเช้าและทุกทุวันวัพุธพุจะมี“กาดพุธพุ”หรือรืถนนคนเดินดิแม่อายทุกทุวันวัพุธพุภายในตลาด จะมีตมีลาดที่เหมือมืนตลาดทั่วทั่ ไปตั้งตั้อยู่การจับจัจ่ายใช้สอยของคนแม่อายจึงจึเป็นแต่พอเพียพีงชีวิชีตวิของผู้คนเต็มต็ไปด้วย ความสบายมีน้ำมี น้ำ ใจแก่กันกั ใช้ชีวิชีตวิพอเพียพีงกินกิง่ายอยู่ง่ายไม่ฟุ่มเฟือยทุกทุคนเอื้ออื้เฟื้อเผื่อผื่แผ่บ้านใดมีงมีานหรือรืจัดจังาน เนื่อนื่งในโอกาสต่างๆหรือรืกิจกิกรรมทางศาสนาทุกทุคนต่างรวมใจช่วยเหลือลืเป็นอันอัหนึ่งนึ่อันอัเดียดีวกันกัเปรียรีบเสมือมืน เป็นหน้าที่ที่ที่ทุที่กทุคนต่างเต็มต็ ใจที่จที่ะช่วยกันกัทำ คนในชุมชุชนแม่อายนิยมปลููกลููบ้านอยู่รวมกันกัเป็นกลุ่มเป็นหมู่บ้าน พื้นพื้ที่อุที่ดอุมสมบูรบูณ์เหมาะแก่การทำ นาช่วงเดือดืนพฤษภาคมเป็นฤดูเดูหมาะเเก่กาารปลูกลูข้าวของคนในชุมชุชน


ประเพณีและวัฒ วั นธรรม ประเพณีตานก๋วยสลากประเพณีต๋านก๋วยสลากเป็นประเพณีที่มีที่มมีาตั้งตั้แต่ครั้งรั้พุทพุธกาลได้มีกมีารปฏิบัฏิติบัสืติบสื ต่อกันกัมายาวนานคือคืการถวายอาหารแต่ภิกภิษุโษุดยวิธีวิกธีารจับจัสลากใช้ในกรณีที่หที่าอาหารได้ยากแต่ปัจปัจุบัจุนบัแม้จะมี อาหารสมบูรบูณ์แล้วก็ยัก็งยันิยมทำ บุญบุตามประเพณีอยู่ผลที่ปรากฏคือคืคนมาร่วมงานทำ บุญบุกันกัมากเป็นงานบุญบุที่ รวมคนได้เป็นอย่างดีได้เห็นห็ ฝีมืฝีอมืการตกแต่งต้นสลากภัตภัที่สที่วยงามเป็นการอนุรันุกรัษ์ช่างฝีมืฝีอมืพื้นพื้บ้านและชาวบ้าน ได้สนุกนุสนานร่วมกันกั


ประเพณียี่เ ยี่ป็ง(วัน วั เพ็ญ พ็ เดือ ดื นยี่)ยี่ หรือ รื งานลอยกระทง คือคื ประเพณีลอยกระทงแบบล้านนาโดยคำ ว่า“ยี่”ยี่แปลว่าสองส่วน“เป็ง”แปลว่าเพ็ญพ็ หรือรืคืนคืจันจัทร์เร์ต็มต็ ดวงซึ่งหมายถึงถึประเพณีในวันวัเพ็ญพ็เดือดืนสองของสาวล้านนาซึ่งตรงกับกัเดือดืนสิบสิสองของไทยในช่วงวันวัยี่เยี่ป็งจะมี การประดับดัตกแต่งวัดวับ้านเรือรืนทำ ประตูป่ตู ป่ าด้วยต้นกล้วยต้นอ้อยใบมะพร้าวดอกไม้ตัวตัช่อประทีปทีและชักชัโรม ยี่เยี่ป็งแบบต่างๆขึ้นขึ้เป็นพุทพุธบูชบูาและมีกมีารจุดจุถ้วยประทีปที (การจุดจุผางปะติี๊บติี๊)เพื่อพื่บูชบูาพระรัตรันตรัยรัและมีกมีารจุดจุ โคมลอยปล่อยขึ้นขึ้สู่ท้องฟ้าเพื่อพื่บูชบูาพระเกตุแตุก้วจุฬจุามณีบนสรวงสรรค์ชั้ค์ ชั้นชั้ดาวดึงดึ


พิธี พิ ท ธี รงน้ำ เจ้าแม่มะลิก ลิ า เดือดืนเมษายของทุกทุ ๆปีนายอำ เภอแม่อายพร้อมด้วยหัวหัหน้าส่วนราชการหัวหัหน้าหน่วยงานรัฐรัวิสวิาหกิจกิ ผู้บริหริารสถานศึกศึษาผู้บริหริารองค์กค์รปกครองส่วนท้องถิ่นถิ่กำ นันนัผู้ใหญ่บ้านแพทย์สารวัตวัรและประชาชนชาว อำ เภอแม่อายร่วมพิธีพิบธีวงสรวงศาลหลักลัเมือมืงและสรงน้ำ เจ้าแม่มะลิกลิาณบริเริวณอนุสนุาวรีย์รีเย์จ้าแม่มะลิกลิา ซึ่งเป็นประเพณีที่จัที่ดจัขึ้นขึ้ทุกทุปีเพื่อพื่เป็นการอนุรันุกรัษ์และสืบสืสานขนบธรรมเนียนีมวัฒวันธรรมประเพณีอันอัดีงดีามของ ท้องถิ่นถิ่พร้อมทั้งทั้เป็นการแสดงออกถึงถึความเคารพศรัทรัธาต่อเจ้าแม่มะลิกลิาซึ่งเป็นสิ่งสิ่ศักศัดิ์สิทสิธิ์คู่ธิ์ คู่เมือมืงแม่อาย ชาวอำ เภอแม่อายได้ยึดยึถือถืปฏิบัฏิติบักัตินกัมาแต่ยาวนานในช่วง"ปี๋ใหม่เมือมืง"เพื่อพื่ความเป็นศิริศิมริงคลความสงบ ร่มเย็นย็เป็นสุขสุ


แห่ไม่ค่ำ โพธิ์ห ธิ์ รือ รื แห่ไม้ก้ำ ประเพณีแห่ไม้ค้ำ สะหลีหลีรือรืต้นโพธิ์เป็นประเพณีที่สืที่บสืทอดต่อกันกัมาอย่างยาวนานของภาคเหนือนืตอนบน ซึ่งมีคมีวามเชื่อชื่ว่าต้นไม้สะหลีหลีรือรืต้นโพธิ์เป็นต้นไม้ศักศัดิ์สิทสิธิ์อธิ์ยู่คู่พระพุทพุธศาสนามายาวนานเนื่อนื่งจากเป็นต้นไม้ ที่พที่ระพุทพุธเจ้าประทับทัอาศัยศัร่มเงาในคืนคืที่ทที่รงพิจพิารณาสภาวธรรมและก่อนการตรัสรัรู้เป็นพระสัมสัมาสัมสัพุทพุธเจ้า และระหว่างวันวัที่15–18เมษายนในทุกทุตำ บลของอำ เภอเวียวีงหนองล่องได้ร่วมกันกัจัดจักิจกิกรรมแห่ไม้ค้ำ โพธิ์แธิ์ละ ถือถืว่าเป็นหนึ่งนึ่ในกิจกิกรรมที่สำที่สำคัญคั ในวันวัสงกรานต์ที่เสริมริสร้างความสามัคมัคีขคีองคนในชุมชุชนในการจัดจัแห่ไม้ค้ำ โพธิ์ขธิ์องวัดวับ้านดงหลวงตำ บลวังวัผางอำ เภอเวียวีงหนองล่องจังจัหวัดวัลำ พูนพูได้มีกมีารจัดจัขบวนรถแห่ไม้ค้ำ โพธิ์ที่ธิ์ที่ ตกแต่งประดับดัประดาอย่างสวยงามพร้อมเครื่อรื่งสักสัการะเช่นหมากสุ่มหมากเบ็งบ็ต้นผึ้งผึ้ต้นเทียทีนเป็นต้นมีกมีารแต่ง กายด้วยชุดชุพื้นพื้เมือมืงนอกจากนี้ในี้นขบวนแห่ยังยัมีกมีารแสดงออกถึงถึวิถีวิชีถีวิชีตวิภูมิภูปัมิญปัญาท้องถิ่นถิ่และความหลากหลาย ของไม้ง่ามนั้นนั้เรียรีกว่า“ไม้ค้ำ โพธิ์”ธิ์หรือรื “ไม้ค้ำ สะหลี”ลีซึ่งนอกจากจะเป็นการค้ำ ยันยักิ่งไม่ให้ล้มแล้วยังยัมีคมีวามหมาย ไปถึงถึการค้ำ ชูพชูระพุทพุธศาสนาให้ยืนยืยาวสืบสืต่อไปสุขสุ


วัด วั โบราณสถาน วัดวัแม่อายหลวงตำ บลแม่อายอ.แม่อายจังจัหวัดวัเชียชีงใหม่ วัดวัแม่อายหลวงเป็นวัดวัเก่าแก่อายุกยุว่า90ปีเป็นสถาปัตปัยกรรมของชาวไทยใหญ่มีคมีวามงดงามและเป็น ศูนศูย์รย์วมของชาวไทยใหญ่สร้างเมื่อมื่ปีพ.ศ.2469โดยมีพ่มี พ่ อแก่ซอมหาวันวัเป็นผู้ริเริริ่มริ่สร้างวัดวัโดยใช้ชื่อชื่วัดวัแม่อาย หลวงตามชื่อชื่ของหมู่บ้านภายหลังลัได้ไปเชิญชิเจ้าอธิกธิารสิงสิห์แห์ก้วมาเป็นเจ้าอาวาสและได้ร่วมกับกัญาติโติยมช่วยกันกั สร้างวิหวิารทรงไทยใหญ่ขึ้นขึ้จนสำ เร็จร็เป็นวิหวิารใหญ่โตรูปรูทรงสวยงามด้วยศิลศิปะแบบไทยใหญ่หลังลัคาสูงสูเป็นชั้นชั้ แบบปราสาทเพื่อพื่ใช้ประกอบศาสนพิธีพิ ธีและยังยัเป็นสถานที่ปที่ฏิบัฏิติบัธติรรมของพี่น้พี่ น้องชาวไทยใหญ่และชาวไทยพื้นพื้เมือมืง ได้รับรัอนุญนุาตตั้งตั้เป็นวัดวัพ.ศ.2469และรับรัพระราชทานวิสุวิงสุคามสีมสีาเมื่อมื่พ.ศ.2536เป็นวัดวัพัฒพั นาตัวตัอย่างได้รับรั รางวัลวัในปีพ.ศ.2536มีปมีระเพณีที่สำที่สำคัญคัคือคืงานประเพณีบูชบูาไหว้พระอุปอุคุตคุโดยเริ่มริ่วันวัขึ้นขึ้ 14ค่ำ เดือดืน12เหนือนื วันวัที่สิ้ที่นสิ้สุดสุวันวัแรม1ค่ำ เดือดืน12เหนือนืพระอุปอุคุตคุองค์ใค์หญ่สีขสีาวทองกราบสักสัการะขอพรตามความเชื่อชื่ของชาวล้าน นาว่าใครที่บูที่ชบูากราบขอพระพระอุปอุคุตคุจะเป็นผู้มีกิมีนกิมีใมีช้ไม่มีวัมีนวัหมดบางตำ นานเชื่อชื่ว่าเป็นพระอรหันหัต์ที่ต์ ที่เฝ้ารอย พระพุทพุธบาทณแม่น้ำ คงคา(จะเห็นห็ว่าในเทศกาลลอยกระทงชาวล้านนาจะมีขมีอขมาพระแม่คงคาบูชบูารอย พระพุทพุธบาทและบูชบูาพระอุปอุคุตคุเป็นต้น)รูปรูปั้นปั้พระแม่ธรณีตามตำ นานปรากฏในพุทพุธประวัติวัว่ติ ว่ าครั้งรั้ที่ พระพุทพุธเจ้าตรัสรัรู้เป็นสัมสัมาสัมสัพุทพุธเจ้าได้เผชิญชิกับกัพญามารธิดธิาพญามารแต่สุดสุท้ายมารเหล่านั้นนั้ก็พ่ก็ พ่ ายแพ้เพราะ มีพมีระแม่ธรณีบีบบีมวยผมปล่อยน้ำ ทำ ให้มารเหล่านั้นนั้ต้องพ่ายแพ้ไป


วัด วั ท่าตอน วัดวัท่าตอนเป็นวัดวัร้างมานานหลายร้อยปีมีพมีระเจดีย์ดีเย์ก่าชำ รุดรุอยู่หนึ่งนึ่องค์ล้อมรอบด้วยป่าหนาทึบทึ ไม่ ปรากฏหลักลัฐานว่าสร้างในสมัยมัใดตามตำ นานสุวสุรรณดำ แดงกล่าวว่ากลุ่มคนไทยที่อที่พยพเข้ามาอยู่ตอนกลาง ของเชียชีงใหม่ประมาณหลังลัปีพ.ศ.1700นั้นนั้เป็นผู้นับนัถือถืพุทพุธศาสนานักนัประวัติวัศติาสตร์หร์ลายท่านได้มีคมีวามเห็นห็ว่า บริเริวณลุ่มน้ำ ต่างๆเช่นแม่น้ำ กกเป็นที่ตั้ที่งตั้ของชุมชุชนที่มีที่วัมีฒวันธรรมอยู่มาก่อนก่อนที่จที่ะสร้างเมือมืงเชียชีงใหม่ในปี พ.ศ.1839ห่างจากวัดวัท่าตอนไปทางทิศทิตะวันวัออกประมาณ6กิโกิลเมตรเป็นที่ตั้ที่งตั้ของเมือมืงเก่าชื่อชื่เวียวีงแข่ยังยัคงมี คูเคูมือมืงปรากฏอยู่เป็นเมือมืงที่เจริญริรุ่งเรือรืงในสมัยมัใดนั้นนั้ ไม่เป็นที่ปที่รากฏหลักลัฐานจากการค้นคว้าคำ จารึกรึในฐาน พระพุทพุธรูปรูเก่าที่สุที่ดสุที่พที่บในเขตอำ เภอแม่อาย(วัดวัศรีบุรีญบุเรือรืง)จุลจุศักศัราช221(พ.ศ.1403)พระพุทพุธรูปรูทอง สัมสัฤทธิ์โธิ์บราณที่พที่บตามวัดวัร้างในท้องนาและริมริแม่น้ำ ฝางซึ่งวัดวัต่างๆในท้องที่เก็บก็รักรัษาไว้บางส่วนขนย้ายไป จังจัหวัดวัเชียชีงราย(วัดวัมุงมุเมือมืง)และส่วนกลาง(พ.ศ.2424คาร์ลร์บ็อบ็คมาสำ รวจเมือมืงฝางขนไปบ้าง)แสดงให้เห็นห็ถึงถึ ร่องรอยแห่งความเจริญริรุ่งเรือรืงที่ผ่ที่ ผ่ านมาหลายศตวรรษของถิ่นถิ่นี้ในี้นอดีตดีแม้ในจุลจุศักศัราช636(พ.ศ.1818)พระยามังมั รายเสด็จด็มาเสวยราชสมบัติบัใตินเมือมืงฝางก็มิก็ ไมิด้ปรากฏว่าพระองค์สค์ร้างเมือมืงขึ้นขึ้ ใหม่ฝางและอำ เภอใกล้เคียคีง(เวียวีงไชย เวียวีงแข่เมือมืงงามเป็นต้น)คงเป็นเมือมืงที่มีที่คมีวามเจริญริรุ่งเรือรืงมาก่อนแล้วในตำ นานเมือมืงเหนือนืกล่าวว่า“อันอัเมือมืง ฝางนั้นนั้เป็นเมือมืงที่สที่ร้างมาแต่โบราณกาลแล้วหากจะพูดพูตามตำ นานก็สก็ร้างมาแต่สมัยมัพระเจ้าลวะจังจักราชปฐม กษัตษัริย์ริรย์าชวงศ์ลศ์าวจกและต่อมาในสมัยมัพระเจ้ามังมัรายบ้านเมือมืงเดิมดิก็คก็งชำ รุดรุทรุดรุโทรมไปตามกาลเวลาแต่ด้วย เป็นที่อุที่ดอุมสมบูรบูณ์พระเจ้ามังมัรายจึงจึได้บูรบูณะขึ้นขึ้อีกอีครั้งรั้หนึ่งนึ่”


วัด วั ดงส้มสุก สุ วัดวัดงส้มสุกสุนับนัเป็นอีกอีการค้นพบที่น่ที่ น่ าสนใจมากเมื่อมื่กรมศิลศิปากรได้ดำ เนินการขุดขุแต่งทางโบราณคดี โบราณสถานวัดวัส้มสุกสุตำ บลมะลิกลิาอำ เภอแม่อายจังจัหวัดวัเชียชีงใหม่ผลปรากฏพบจารึกรึอักอัษรฝักฝัขามบนแผ่นอิฐอิ หน้าวัววัและอิฐอิรูปรูสี่เสี่หลี่ยลี่มผืนผืผ้าโดยจารึกรึโบราณเหล่านั้นนั้มีทั้มีงทั้ที่จที่ารเป็นอักอัษร1-2ตัวตัจารเป็นข้อความและภาพ ลายเส้นเป็นลวดลายต่างๆรวมแล้วมากกว่า200ก้อนจารึกรึเหล่านี้เนี้ป็นหลักลัฐานสำ คัญคั ในการยืนยืยันยัอิทอิธิพธิล วัฒวันธรรมสุโสุขทัยทัที่แที่พร่เข้าสู่ดินดิแดนล้านนาโบราณเมื่อมื่กว่า600ปีมาแล้วได้เป็นอย่างดีและจากการค้นพบจารึกรึ จำ นวนมากนี้ก็นี้ทำก็ ทำ ให้โบราณสถานวัดวัส้มสุกสุซึ่งเป็นแหล่งโบราณสถานขนาดใหญ่ที่สุที่ดสุในแอ่งที่รที่าบฝางกลาย เป็นวัดวัที่มีที่จมีารึกรึมากที่สุที่ดสุในประเทศไทยสำ หรับรักรมศิลศิปากรได้ดำ เนินโครงการขุดขุแต่งโบราณสถานวัดวัส้มสุกสุ โดยใช้งบประมาณปี2564เพื่อพื่ดำ เนินงานต่อจากระยะแรกเมื่อมื่ปี2558ในขณะนี้มีนี้ โมีบราณสถานที่ดำที่ ดำเนินการขุดขุ ค้นแล้วได้แก่เจดีย์ดีย์ประธานทรงระฆังฆัมีช้มี ช้ างล้อมรอบฐานวิหวิารขนาดใหญ่ซึ่งพบร่องรอยการปฏิสัฏิงสัขรณ์3ครั้งรั้ ,ซุ้ม ประตูโตูขงและอาคารใหญ่น้อยอีกอีประมาณ10หลังลัซึ่งได้พด้บโบราณวัตวัถุสำถุ สำคัญคั ได้แก่พระพิมพิพ์เพ์นื้อนื้ชินชิมีจมีารึกรึคาถา “จะภะกะสะ ”ซึ่งเป็นคาถาที่ปที่รากฏในคัมคัภีร์ภีวิร์ ชวิรสารัตรันสังสัคหะรจนาโดยพระรัตรันปัญปัญาเถระภิกภิษุใษุนนิกายวัดวัสวน ดอกเมื่อมื่พ.ศ.2078และล่าสุดสุคือคืการค้นพบจากรึกรึโบราณทั้งทั้นี้นันี้กนัโบราณคดีไดีด้จำ แนกจารึกรึโบราณบนก้อนอิฐอิที่ พบออกเป็น2กลุ่มได้แก่กลุ่มที่เขียขีนเป็นข้อความส่วนใหญ่ระบุชื่บุอชื่บุคบุคลที่อที่าจหมายถึงถึผู้ปั้นปั้หรือรืผู้บริจริาคอิฐอิก้อน นั้นนั้ๆและอีกอีกลุ่มคือคืจารึกรึที่เขียขีนเป็นตัวตัอักอัษร1-2ตัวตัซึ่งส่วนใหญ่พบบนอิฐอิหน้าวัววัที่ปที่ระกอบกันกัเป็นเสาอาคารมี ข้อสังสัเกตว่าในเสาต้นเดียดีวกันกัส่วนใหญ่จะเป็นการจารึกรึตัวตัอักอัษรตัวตัเดียดีวกันกัเบื้อบื้งต้นนักนัโบราณคดีสัดีนสันิษฐานว่า อาจเกี่ยกี่วข้องกับกัการให้รหัสหัสำ หรับรัการก่อสร้างหรือรืเทคนิคการผลิตลิหรือรือาจหมายถึงถึกลุ่มบุคบุคล กลุ่มข้าวัดวัหัวหัวัดวัหรือรืศรัทรัธาวัดวัของแต่ละหมู่บ้านที่ร่ที่ ร่ วมแรงร่วมใจกันกัซ่อมสร้างวัดวัโบราณแห่งนี้ขึ้นี้นขึ้


แม่น้ำ กกและน้ำ พระธาตุส ตุ บฝาง แม่น้ำ กกที่รที่าบลุ่มแม่น้ำ กกเป็นลำ น้ำ ที่ใที่หญ่ที่สุที่ดสุในเขตจังจัหวัดวัเชียชีงรายต้นกำ เนินของแม่น้ำ กกอยู่ใน รัฐรัฉานของประเทศเมียมีนมาร์และเทือทืกเขาด้านตะวันวัออกของอำ เภอฝางจังจัหวัดวัเชียชีงใหม่บริเริวณลุ่มน้ำ กกในเขต อำ เภอเชียชีงรายเป็นบริเริวณที่สำที่สำคัญคัที่สุที่ดสุเพราะมีเมีมือมืงสำ คัญคัของเชียชีงรายตั้งตั้อยู่เป็นกลุ่มหนาแน่นกว่าบริเริวณอื่นอื่ ที่มีที่กมีารค้นพบมีอมียู่11เมือมืงด้วยกันกัตั้งตั้อยู่รอบๆดอยจอมทองในตัวตัจังจัหวัดวั ปัจปัจุบัจุนบัเหลือลืเพียพีงกำ แพงและคูน้ำคูน้ำ ในบาง ส่วนเมือมืงที่มีที่คมีวามสำ คัญคั ในการปกครองตั้งตั้อยู่ทางด้านใต้ของแม่น้ำ กกและทางตะวันวัออกมีเมีมือมืงโบราณ2แห่ง อยู่ในเขตบ้านยางและบ้านเสือสืเต้นเมื่อมื่ขึ้นขึ้ไปตามลำ น้ำ กกจะมีเมีมือมืงโบราณอีกอี 3แห่งตั้งตั้อยู่ในบริเริวณใกล้เคียคีง ตั้งตั้แต่บ้านห้องฮีจนถึงถึบ้านทุ่งกอล้วนทางด้านฝั่งฝั่เหนือนืของแม่น้ำ กกยังยัพบเมือมืงโบราณอีกอี 3แห่งลำ น้ำ กกไหลไป บรรจบกับกัแม่น้ำ โขงบริเริวณบ้านสบกกจะเห็นห็ ได้ว่าที่รที่าบลุ่มแม่น้ำ กกเป็นแหล่งอารายธรรมที่สำที่สำคัญคั


บรรณานุก นุ รม Muang-krabi.(2559).สำ นักนังานพัฒพั นาชุมชุชนอำ เภอแม่อาย.(ออนไลน์).[สืบสืค้นเมื่อมื่31มกราคม2566]. จากแหล่งที่มที่า.https://shorturl.asia/LjfEx


ผู้จัดจั ทำ ชื่อชื่-นามสกุลกุ:พระบูรบูพาเขมญาโณ รหัสหันักนัศึกศึษา:6510530411052 สาขาการปกครองคณะสังสัคมศาสตร์ มหาวิทวิยาลัยลัมหามกุฏกุราชวิทวิยาลัยลัวิทวิยาเขตล้านนา ประวัติ วั ก ติ ารศึก ศึ ษา ระดับดัอนุบนุาล:โรงเรียรีนบ้านห่วงโปรงตำ บลต้าอำ เภอขุนขุตาลจังจัหวัดวัเชียชีงราย ระดับดัประถมศึกศึษา:โรงเรียรีนบ้านพระเนตรตำ บลต้าอำ เภอขุนขุตาลจังจัหวัดวัเชียชีงราย ระดับดัมัธมัยมต้น:โรงเรียรีนวัดวัป่าตาลใต้ตำ บลป่าตาลอำ เภอขุนขุตาลจังจัหวัดวัเชียชีงราย ระดับดัมัธมัยมปลาย:โรงเรียรีนวัดวัป่าตาลใต้ตำ บลป่าตาลอำ เภอขุนขุตาลจังจัหวัดวัเชียชีงราย ปัจปัจุบัจุนบั:มหาวิทวิยาลัยลัมหามกุฏกุราชวิทวิยาลัยลัวิทวิยาเขตล้านนาตำ บลศรีภูรีมิภูมิอำ เภอเมือมืง จังจัหวัดวัเชียชีงใหม่


Click to View FlipBook Version