โลกดาราศาสตร์ และอวกาศ Nitinan.Mint ชั้นชั้มัธมัยมศึกาาปีที่ 4
คำ นำ รายงานเล่มนี้ รายวิชวิา600-320 สื่อสื่ดิจิดิทัจิ ทัลและนวัตวักรรมเพื่อพื่การ เรียรีนรู้ กลุ่มลุ่สาระการเรียรีนรู้เรู้ทคโนโลยีสยีารสนเทศนักนัศึกษาชั้นชั้ ปีที่ปี ที่1 เป็นป็ เนื้อนื้เกี่ยวกับทางวิชวิาการในเรื่อรื่ง ดาราศาสตร์ ดวงดาวรายงานเล่มนี้ เน้นน้การสร้าร้งความรู้แรู้ละคำ อธิบธิายเกี่ยวกับดวงดาว รายงานเล่มนี้จั นี้ ดจั ทำ เพื่อพื่ ให้สห้อดคล้องกับหลักสูตสูรการสอนภายในโรงเรียรีนตามความ เหมาะสม และหวังวัว่าว่รายงานเล่มนี้จ นี้ ะเป็นป็ ประโยชน์ต่น์ ต่อการหาความรู้ไรู้ดอย่าย่งมี ประสิทสิธิภธิาพ เป็นป็ ไปตามหลักการและจุดมุ่งมุ่หมาย ขอขอบคุณคุเว็บว็ ไซต์ ที่ให้ข้ห้อข้มูลในการทำ รายงานเล่มนี้ในี้ ห้สำห้สำเร็จร็ลุล่ลุล่วงด้วด้ยดีไดีว้ ณ โอกาสนี้
ส า ร บั ญ บั เ รื่ อ รื่ ง ห น้ า น้ ที่ บ ท ที่ 1 4 บ ท ที่ 2 6 บ ท ที่ 3 1 2 อ้ า ง อิ ง 1 8
บทที่ 1 โครงสร้า ร้ งโลก โลกเกิดมาได้อย่าย่งไร สมมติฐานเนบิวบิลาร์ ระบบสุริสุยริะเกิดจาก การหมุนของฝุ่นฝุ่แก๊สหรือรืฝุ่นฝุ่ร่อร่นที่ เรียรีกว่าว่เนบิวบิลาร์ใร์นอวกาส หมุนรอบตัวเองจากแรงโน้มน้ถ่วง ทำ ให้ทั้งหมด ยุบตัวเข้าข้สู่ศุสู่ ศุนย์กย์ลาง เกิดดวงอาทิตย์ ดาวเคราะห์ และ โลก -ยุคแรก โลกเป็น ป็ หินเหลวหนืดนืต่อมาธาตุเตุบาเร่มร่ลอย อุณหภูมิภูมิลด ต่ำ มันมัแข็ง ข็ ตัว เกิดสิ่งสิ่มีชีมีวิชีตวิ 1.การศึกษาโครงสร้าร้งโลก -นิวนิตัน หาความหนาแน่นน่ โลก เป็น ป็ ประมาร 2 เท่าของความหนา แน่นน่หินบนผิวผิโลก -ทางเดินของคลื่นไหวสะเทือน 1)คลื่นปฐมภูมิภูมิPrinary wave (คลื่น P) คลื่นตามยาว อนุภนุาคในตัวกลางเคลื่อนไหวแบบอัดและขยาย ใน แนวเดียวกัน ผ่าผ่นตัวกลางได้ทุกทุสถานะ เร็ว ร็ 6-8 km/s 2)คลื่นทุติทุติยภูมิภูมิSeconday wave (่ คลื่น S) คลื่นตามขวาง อนุภนุาคในตัวกลางเคลื่อนที่แบบตั้งฉากกับทิศทางที่ เคลื่อนผ่าผ่น ผ่าผ่นได้แค่ตัวกลางเป็น ป็ ของแข็ง ข็
โครงสร้า ร้ งโลก ทวีปวี 35+km. ประกอบด้วด้ย si และ Mg มหาสมุทร 5-10 km.ประกอบด้วด้ย si และ Mg ตอนบนเป็นป็อัลตราเมพิกพิ ประกอบด้วด้ย Si,Ai,Mg,Ni 2.การแบ่งบ่ โครงสร้าร้งโลก -โดยใช้ องค์ประทางเคมี เป็นป็เกณฑ์ 1)เปลือกโลก 2)แนวแบ่งบ่เขตโมโฮโรวชิกชิ รอยต่อระหว่าว่งเปลือกโลกกับเนื้อนื้ โลก 3)เนื้อนื้ โลก 4)แก่นโลก Fe โดย 80% ที่เหลือเป็นป็ Ni,O,Si,S -โดยใช้ ลักณะทางกายภาพ เป็นป็ เกณฑ์ 1)ธรณีภณีาค (ลิโทสเฟียฟีร์)ร์ ลึก 100 km 2)ฐานธรณีภณีาค (แอสทีโนสเฟียฟีร์)ร์ เขตคลื่นความเร็วร็ลดลง 100-400 km 3)มีโมีซเฟียฟีร์ ลึก 660-2900 km 4)แก่นโลกชั้นชั้นอก ลึก 2900-5140 km (แบ่งบ่ โยแนวแบ่งบ่เลย์แย์มน) 5)แก่นโลกชั้นชั้ ใน ลึก 5140-6371 km
พัน พั เจีย จี พื้น พื้ ดินดิบนโลกเคยเป็น ป็ แผ่น ผ่ ดินดิ เดีย ดี บวกัน เรีย รี กว่า ว่ พัน พั เจีย จี แปลว่า ว่ แผ่น ผ่ ดินดิทั้ง ทั้ หมด บทที่ 2 โลกและการ เปลี่ยนแปลง
หลักฐานที่สนับ นั สนุน นุ 1) รอยต่อของทวีปวี -การเชื่อชื่มต่อของทวีปวีต่างๆที่แยกออกจากกันนั้นนั้สามารถ นำ มาต่อกันได้ตด้ามทฤษฎีของเวเกเนอร์ที่ร์ ที่ บอกว่าว่แต่ก่อนนั้นนั้ ทวีปวีต่างๆเป็นป็ผืนผืเดียดีวกันคือพันพัเจียจีแต่ต่อได้แด้บบไม่ สมบูรณ์เณ์พราะผลจากการกัดเซาะและการสะสมตัวของ ตะกอน 2)ความคล้ายคลึงขิงขิกลุ่มลุ่หินหิและแนวภูเภูขา 3)การสะสมตัวของตะกอนธารน้ำ แข็งข็ -สมัยมันำ้ แข็งข็ ปลายมหายุคฟาลีโอโซอิก เรีบรีก สมัยมัน้ำ แข็งข็คะ งู 4)ซากดึกดึดำ บรรพ์
1) แผ่น ผ่ ธรณีภณีาค 1.แผ่น ผ่ ธรณี ยูเรเซียซี 2.แผ่น ผ่ ธรณี อามริกริา 3.แผ่น ผ่ ธรณี แปซิฟิซิกฟิ 4.แผ่น ผ่ ธรณี อินเดียดี 5.แผ่น ผ่ ธรณี แอนตาร์กร์ติกา 6.แผ่น ผ่ ธรณี แอฟริกริา 2)รอยแยกแผ่น ผ่ ธรณีภณีาคกลางมหาสมุทร 3)อายุหินหิพื้นพื้มหาสมุทร 4)ภาวะแม่เ ม่ หล็กโลกบรรพกาล หลักฐานและข้อ ข้ มูล ทางธรณีภาคอื่นๆ
กระบวนการทำ ให้เ ห้ กิดการ เคลื่อนที่ของธรณี สารร้อ ร้ นลดอุณหภูมิภูลมิง (ความหนาแน่น น่ สูงสู ) มุดตัวลงบริเริวณร่อ ร่ งมหาสมุทร สารร้อ ร้ น ไหลเป็น ป็ วงจร เรียรีกว่า ว่ วงจรความร้อ ร้ น
ลักษณะการเคลื่อนที่ ของแผ่น ผ่ ธรณี 1) แยกออกจากกัน : เกิดหุบหุเขาทรุดรุ 2)เคลื่อนที่เข้าข้หากัน 2.1 แผ่นผ่ธรณีภณีาคภาคพื้นพื้ทวีปวีชนกับแผ่นผ่ธรณีภณีาคภาคพื้นพื้ทวีปวี 2.2 มหาสมุทร + ทวีปวี
2.3 ทวีปวี + ทวีปวี : เกิดเทือกเขาสูงสู 3) เคลื่อนผ่าผ่นกัน : เกิดรอยเลื่อนทุกทุส่วส่น เนื่อนื่งจากอัตราการเคลื่อนตัวของแมกมาในชั้นชั้เนื้อนื้ โลกไม่ เท่ากันทำ ให้แห้ผ่นผ่ธรณีภณีาคในแต่ละส่วส่นมีอัมี อัตราการเคลื่อนที่ ไม่เม่ท่ากันด้วด้ยทำ ให้เห้ปลือกโลกใต้มหาสมุทรและบางส่วส่น ของเทือกเขาใต้มหาสมุทรไถลเลื่อนผ่าผ่นและเฉือนกันเกิด เป็นป็รอยเลื่อนเฉือนระนาบด้าด้นข้าข้งขนาดใหญ่ขึ้ญ่ ขึ้นขึ้สันสัเขา กลางมหาสมุทรถูกถูรอยเลื่อนขึ้นขึ้ตัดเฉือนเป็นป็แนวเหลื่อม กันอยู่มียู่ลัมี ลักษณะเป็นป็แนวรอยแตกแคบยาวมีทิมี ทิศทางตั้งตั้ ฉากกับเทือกเขากลางมหาสมุทรและร่อร่งใต้ทะเลลึกมักมัจะ เกิดแผ่นผ่ดินดิ ไหวรุนรุแรงในระดับดัตื้นๆ ระหว่าว่งขอบของแผ่นผ่ ธรณีภณีาคที่ซ้อซ้นเกยกันในบริเริวณภาคพื้นพื้ทวีปวีหรือรื มหาสมุทร
บทที่ 3 แผ่น ผ่ ดิน ดิ ไหว แผ่นผ่ดินดิ ไหว เป็น ป็ ผลมาจากการเคลื่อนที่ของแผ่นผ่ ธรณี ทำ ให้หิห้นหิเปลี่ยนลักษระ เลื่อนตัว แตกหักหัและ ถ่ายโอนพลังงานอย่าย่งรวดเร็ว ร็ ให้กัห้ กับชั้นชั้หินหิที่อยู่ ติดกันในรูปรูคลื่นไหวสะเทือน
สาเหตุกตุารเกิดอาจเกิดจากมือมืมนุษนุย์ เช่นช่ทดลอง ปรมาณู ระเบิดบิสำ รวจหินหิระเบิดบิทำ เขื่อขื่น เป็น ป็ ต้น หรือรือาจเกิดโดยแผ่นผ่ดินดิ ไหวเกิดจากการที่เปลือก โลกเกิดการคดโค้ง โก่งตัวอย่าย่งฉับพลัน และเมื่อมื่ วัตวัถุขถุาดออกจากกันจึงจึปลดปล่อยพลังงานออกมา ในรูปรูคลื่นแผ่นผ่ดินดิ ไหว สาเหตุก ตุ ารเกิด โดยแผ่นผ่ดินดิ ไหวมาจากการเคลื่อนตัวของรอย เลื่อน และเมื่อมื่รอยเลื่อนเคลื่อนตัวมาจุดหนึ่งนึ่วัตวัถุ จะขาดออกจากกันและเสียสีรูปรูอย่าย่งมาก พร้อร้มทั้งทั้ ปลดปล่อยพลังงานมหาศาลออกมาในรูปรูของคลื่น แผ่นผ่ดินดิ ไหว
1) คลื่นไหวสะเทือน คือพลังงานจาก แผ่น ผ่ ดินไหวปล่อยออกมาในรูป รู คลื่นไหว สะเทือน -คลื่นในตัวกลาง -คลื่นพื้นพื้ผิวผิ
2) แนวการเกิดแผ่น ผ่ ดินไหว -วงแหวนแห่ง ห่ ไฟ -รอยต่อของเทือกเขาแอลป์กัป์ กับเทือกเขา หิมหิาลัย -รอยต่อกลางมหาสมุทร
3) ขนาดและความรุน รุ แรง
4) การพยากรแผ่น ผ่ ดินไหว -ลักษณะทางกายภาพของเปลือกโลก -พฤติกรรมสัตสัว์
https://www.clearnotebooks.c om/th/notebooks/470957 อ้างอิง