ชนชาติ
แถบเอเชียไมเนอร์
เปอร์เซีย
เอเชียไมเนอร์
หมายถึง ดินแดนที่อยู่ใน
ภูมิภาคเอเชียตะวันตกเฉียงใต้
อยู่ระหว่างทะเลดำกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
ในปัจจุบันได้แก่ ดินแดนปาเลสไตน์ ตุรกี และซีเรีย
นอกจากแหล่งอารยธรรมเก่าแก่
ในดินแดนเมโสโปเตเมียและอียิปต์แล้ว
ชนชาติเก่าแก่บางกลุ่มในเอเชียไมเนอร์
และดินแดนใกล้เคียงได้มีส่วนสำคัญในการ
เสริมสร้างอารยธรรมตะวันตกเช่นเดียวกัน
เปอร์เซีย
อารยธรรมเปอร์เซีย
เมื่อประมาณ 1,000 ปีก่อนคริสตกาล ชนเผ่าเปอร์เซีย
ซึ่งเป็นกลุ่มชนที่ใช้ภาษาอินโด-ยุโรเปียน
มีถิ่นฐานเดิมอยู่บริเวณทางเหนือของทะเลดำ
ได้ก่อตัวและขยายอำนาจครอบครองอารยธรรมโบราณอื่นๆ
และได้ก้าวขึ้นมามีบทบาทเป็นศูนย์กลางของความเจริญรุ่งเรือง
ของโลกยุคโบราณ ภายใต้การปกครองของพระเจ้าไซรัสมหาราช
พระองค์ได้ดำเนินนโยบายขยายดินแดนของเปอร์เซียออกไป
อย่างกว้างขวาง ได้ขยายอำนาจเข้ายึดครองจักรวรรดิบาบิโลน
ของพวกแคลเดียน ดินแดนเมโสโปเตเมีย เอเชียไมเนอร์และอียิปต์
ในสมัยพระเจ้าดาริอุสหรือเดอไรอัสมหาราช (Darius the Great)
เปอร์เซียได้ขยายอิทธิพลเข้าไปในดินแดนตะวันออกถึงลุ่มแม่น้ำสินธุ
ของอินเดียและทางตะวันตกถึงตอนใต้ของยุโรป แม้ว่าเปอร์เซีย
ไม่ประสบความสำเร็จในการทำสงครามเพื่อยึดครองนครรัฐกรีก
แต่จักรวรรดิเปอร์เซียในขณะนั้นก็มีอำนาจยิ่งใหญ่ที่สุด
จักรวรรดิเปอร์เซีย
เปอร์เซียเป็นจักรวรรดิใหญ่ที่ครอบคลุมดินแดนของชนชาติต่างๆ
จึงต้องจัดการปกครองให้มีประสิทธิภาพ ผู้ปกครองใช้หลักความยุติธรรมในการจัดเก็บภาษี
และการศาล รวมทั้งการกระจายอำนาจการปกครองให้แก่ท้องถิ่นและดินแดนต่างๆ
โดยรับวิธีควบคุมอำนาจปกครองตามแบบพวกแอสซีเรียน ได้แก่ การสร้างถนนเชื่อม
ดินแดนต่างๆเพื่อรองรับการเดินทัพ การสื่อสารและไปรษณีย์ ถนนสายสำคัญ
ได้แก่ เส้นทางหลวงเชื่อมเมืองซาร์ดิสในเอเชียไมเนอร์ (ปัจจุบันอยู่ในประเทศตุรกี)
และนครซูซา เป็นเมืองหลวงแห่งหนึ่งของจักรวรรดิเปอร์เซีย ถนนสายนี้ไม่เพียงแต่
มีความสำคัญด้านยุทธศาสตร์ หากยังมีความสำคัญต่อการค้าระหว่างดินแดนต่างๆ
ภายในจักรวรรดิ และเป็นเส้นทางสำคัญในการติดต่อระหว่างตะวันออกและตะวันตก
พวกเปอร์เซียรับความเจริญรุ่งเรืองจากดินแดนต่างๆ
โดยเฉพาะจากอียิปต์และเมโสโปเตเมีย หล่อหลอมเป็นวัฒนธรรมของตน
เช่น การประดิษฐ์ตัวอักษร การใช้ระบบเงินตรา การประยุกต์รูปแบบสถาปัตยกรรม
จักรวรรดิเปอร์เซียล่มสลาย เมื่อถูกพระเจ้าอะเล็กซานเดอร์มหาราชแห่งมาซิโดเนีย
ยกทัพเข้ายึดครองเมื่อปี 331 ก่อนคริสต์ศักราช
ศาสนาไซโรอัสเตอร์
ความเชื่อของชาวเปอร์เซีย มีความเชื่อเกี่ยวกับเทพเจ้าพัฒนาความคิดความเชื่อ
เกี่ยวกับเทพเจ้าขึ้นได้เป็นระบบศาสนาขึ้นมา คือ “ศาสนาโซโรอัสเตอร์” (Zoroaster)
เป็นศาสนาที่สอนให้นับถือบูชาเทพเจ้าสูงสุด ชื่อว่า “อหุระ มาสดา” (Ahura Mazda)
เป็นเทพแห่งปัญญา รวมถึงเป็นเทพเจ้าผู้สร้าง ดังคาถาที่ปรากฏในคัมภีร์อเวสตะ
ซึ่งเป็นคัมภีร์ของศาสนาโซโรอัสเตอร์ว่า “อหุระ มาสดา ผู้ทรงสร้าง มีรัศมีรุ่งโรจน์ ยิ่งใหญ่ที่สุด
ดีที่สุด งามที่สุด มั่งคงที่สุด ฉลาดที่สุด เป็นวิญญาณที่มีมหากรุณาที่สุด”
ศาสนาโซโรอัสเตอร์นี้บางครั้งเรียกว่า “ลัทธิบูชาไฟ” ในวิหารจะมีพระคอยจุดไฟศักดิ์สิทธิ์
ให้มลิุใกห้ชไ่ฟวงดัอบยไู่ดต้ ลสิอ่งดที่เไวมล่สาะอ“เาปด็นไมก่บารริจสุำทเปธิ็์นอยที่่าจเะอต้าอใสง่เรขะ้วาัไงปรัใกนษไฟาอแาคลาะจระบูต
ช้อางไฟใหไ้วส้ใตห้รดีีมแีรละะดูคออยูย่ห่ราะงวัง
จากที่บูชาไฟ 3 ก้าว” ชาวเปอร์เซียได้รับอิทธิจากคำสอนของศาสนาโวโรอัสเตอร์ว่า
โลกประกอบด้วยสิ่งสองด้าน คือ ดีและชั่ว เทพเจ้าอหุระ มาสดา คือ ตัวแทนของความดี
และเทพอาห์ริมัน (Ahriman) คือตัวแทนของความชั่วร้ายต่อสู้กัน ในที่สุดฝ่ายดี
จะเป็นฝ่ายมีชัยเหนือฝ่ายชั่ว ชะตากรรมของมนุษย์จึงขึ้นอยู่กับการเลือกว่าจะทำดีหรือชั่ว
แนวความคิดนี้มีอิทธิพลต่อศาสนายูดายหรือยิวและคริสต์ศาสนา รวมทั้งความเชื่อ
ในเรื่องเทวดา นางฟ้า วันสิ้นโลก การตัดสินครั้งสุดท้ายและการไปสู่สวรรค์และนรกในเวลาต่อ
มา และประมาณคริสต์ศตวรรษที่ 7 มุสลิมได้แผ่ขยายอำนาจเข้ามาครอบครองดินแดน
เปอร์เซีย อาณาจักรแห่งนี้จึงตกอยู่ภายใต้การปกครองของศาสนาอิสลามและแนวความคิด
จากศาสนาโซโรอัสเตอร์ก็มีผลต่อการพัฒนาแนวความคิดและหลักคำสอนของศาสนาอิสลาม
วิดิโอ
ย้อนรอยอาณาจักร
เปอร์เซีย