The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

สื่อสิ่งแวดล้อมพาเพลิน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by สุนิสา เปี้ยอุ๊ด, 2020-08-03 02:11:03

สื่อสิ่งแวดล้อมพาเพลิน

สื่อสิ่งแวดล้อมพาเพลิน

ส่งิ แวดล้อม
พาเพลิน

มนุษย์ย่อมเกี่ยวข้องและสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม โดยที่สิ่งแวดล้อมเป็นตัวกำหนดแบบแผน
ชีวิตความเป็นอยู่ที่แตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ แต่ขณะเดียวกันมนุษย์ก็เป็นตัวการสำคัญ
ที่ทำให้สิ่งแวดล้อมเปลี่ยนแปลงไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งสาเหตุจากการเพิ่มจำนวนประชากร
อย่างรวดเร็ว ทำให้มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างมากมีผลให้ความต้องการใช้ทรัพยากร
เพิ่มอย่างรวดเร็วตามไปด้วย ประกอบกับปัจจุบันได้มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในกระบวนการผลิต
และความก้าวหน้าของเทคโนโลยีสมัยใหม่ ทำให้ทรัพยากรสิ้นเปลืองอย่างรวดเร็วและยังส่งผล
กระทบตอ่ สง่ิ แวดล้อมทำใหเ้ กิดปัญหามลพษิ (Pollution) ในสิ่งแวดลอ้ ม

ความหมายของสิ่งแวดล้อม

สิ่งแวดล้อมหมายถึง สิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ และที่มนุษย์สร้างขึ้นอยู่รอบ ๆ ตัวเรา
ทั้งที่มี ลกั ษณะกายภาพทเ่ี ห็นไดแ้ ละไม่สามารถเหน็ ได้

ประเภทของสง่ิ แวดล้อม

จากความหมายของสิ่งแวดล้อมดังกล่าวสามารถแบ่งสิ่งแวดล้อมได้เป็น 2 ประเภท
คือ สิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ (Natural environment) และสิ่งแวดล้อมที่มนุษย์สร้างข้ึน
(Man-Mode Environment)

1. สิง่ แวดล้อมทางธรรมชาติ ( Natural Environment)
แบ่งออกเป็น 2 ประเภทย่อย คือ สิ่งแวดล้อมทางกายภาพ (หรือสิ่งแวดล้อมที่ไม่มีชีวิต)
และสงิ่ แวดลอ้ มที่มชี ีวิต

1. 1 ส่ิงแวดล้อมทางกายภาพ (Physical Environment) หรอื สงิ่ แวดล้อมท่ไี ม่มีชวี ิต
(Abiotic Environment) แบง่ ไดด้ งั นี้

1.1.1 บรรยากาศ (Atmosphere) หมายถงึ อากาศทีห่ อ่ หุ้มโลก ประกอบด้วย
กา๊ ซ ๙ ชนิดเช่น โอโซน ไนโตรเจน ออกซิเจน อารก์ อน คารบ์ อนไดออกไซด์ ฝนุ่ ละออง และไอนำ้

1.1.2 อุทกภาค (Hydrosphere) หมายถึงส่วนที่เป็นน้ำทั้งหมดของ
พ้นื ผวิ โลก ได้แก่ มหาสมทุ ร ทะเล แม่นำ้ ฯลฯ

1.1.3 ธรณีภาค หรือ เปลือกโลก(Lithosphere) หมายถึง ส่วนของโลก
ทีเ่ ปน็ ของแข็งหอ่ หมุ้ อยรู่ อบนอกสุดของโลกประกอบด้วยหนิ และดนิ

2. สิ่งแวดล้อมที่มีชีวิต (Biotic Environment) ได้แก่ พืช สัตว์ และมนุษย์สิ่งแวดล้อม
ทีม่ นษุ ยส์ ร้างข้ึน(Man-Mode Environment) แบง่ ได้ 2 ประเภทดงั นี้

2.1 สิ่งแวดล้อมที่เป็นรูปธรรม (Concrete Environment) ได้แก่ บ้านเรือน ถนน
สนามบิน เข่ือน โรงงาน วัด

2 . 2 ส ิ ่ ง แ ว ด ล ้ อ ม ท ี ่ เ ป ็ น น า ม ธ ร ร ม ( Abstract Environment)
ได้แก่ ขนบธรรมเนยี ม ประเพณี วัฒนธรรม ศาสนา กฎหมายระบบเศรษฐกิจ การเมอื ง การปกครอง
เป็นตน้

สิ่งแวดล้อม มีคุณสมบัติเฉพาะตัวในแต่ละประเภท สิ่งแวดล้อมนั้น ๆ อยู่ร่วมกับสิ่งแวดล้อมอื่น ๆมี
ความเกี่ยวเนื่องและสัมพันธ์ต่อกันเป็นลูกโซ่ เมื่อทำลายสิ่งแวดล้อมหนึ่งย่อมส่งผลกระทบต่อ
สิ่งแวดลอ้ มอืน่ ๆ เนอ่ื งจากสง่ิ แวดล้อมจะมลี ักษณะที่ทนทานต่อการถูกกระทบแตกต่างกัน

สิ่งแวดล้อมแต่ละประเภทมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมีกลไกควบคุมการเกิดขึ้น สิ่งแวดล้อมน้นั
จะไม่อยู่โดดเดี่ยวในธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมหนึ่งมีความต้องการสิ่งแวดล้อมอื่นเสมอ เช่น
ปลาต้องการน้ำเพื่อการอยู่รอดหรือต้องการรักษาสภาพตนเอง หากขาดสิ่งแวดล้อมอื่นที่จำเป็น
อาจสญู สลายได้

สิ่งแวดล้อมจะอยู่กันเป็นกลุ่ม เรียกกลุ่มของสรรพสิ่ง (ระบบนิเวศ) ภายในระบบนิเวศ
มีองค์ประกอบหลากหลายชนิด แต่ละชนิดจะมีหน้าที่เฉพาะ การอยู่ร่วมกันมีกลไกสิ่งแวดล้อม
ควบคมุ กระบวนการตา่ ง ๆแสดงออกเปน็ การทำงานร่วมกัน

สิ่งแวดล้อมมีความเกี่ยวเนื่องเป็นลูกโซ่ ดังนั้นเมื่อทำลายสิ่งแวดล้อมหนึ่งย่อมสง่ ผลกระทบ
ต่อสิ่งแวดล้อมอื่นเป็นลูกโซ่เสมอ สิ่งแวดล้อมแต่ละประเภทมักมีลักษณะทนทาน และเปราะบาง
ตอ่ การถูกกระทบต่างกนั

สิ่งแวดล้อมมีการเปลี่ยนแปลงตามกาลเวลาที่เปลี่ยนไป ซึ่งอาจเป็นการเปลี่ยนแปลงช่วยคราว
หรือถาวรก็ได้

มิติสิ่งแวดลอ้ ม (environmental dimensions) แบ่งเปน็ 4 มติ ิ

- มิตขิ องเสียและมลพิษ
- มิตทิ รพั ยากร
- มิติเทคโนโลยี
- มติ ิสง่ิ แวดลอ้ ม
- มิตเิ ศรษฐสงั คม/มติ ิมนุษย์

1. มิติทรัพยากร resources dimensions หมายถึง ทรัพยากรทั้งที่เป็นธรรมชาติและที่มนุษย์
สร้างขึ้น เป็นมิติที่สำคัญเพราะมีบทบาทต่อมนุษย์ในการเอื้อประโยชน์ด้านอาหาร ที่อยู่อาศัยและ
ยารักษาโรค เคร่อื งนุ่งห่ม มติ ิทางทรัพยากรมี 4 มติ ิ

(1.) ทรพั ยากรกายภาพ เปน็ ทรพั ยากรพน้ื ฐานของระบอบสิง่ แวดล้อม
(2.) ทรัพยากรชีวภาพ เป็นมิติพื้นฐานในการดำรงชีวิตของมนุษย์ เช่น ป่าไม้ สัตว์ป่า พืช
เป็นทรัพยากรที่มีบทบาทสำคัญในการควบคุมระบบสิ่งแวดล้อมและ เป็นตัวฟื้นฟูความเสื่อมโทรม
ของระบบ
(3.) คุณค่าการใช้ประโยชน์ของมนุษย์สิ่งแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลงเป็นการที่มนุษย์ใช้
เทคโนโลยีท่เี หมาะสมมาสร้างคุณค่าการใช้ประโยชน์ของมนุษย์ เช่น เกษตรกรรม พลงั งงาน
(4.) คณุ คา่ คุณภาพชีวติ เปน็ กลุ่มทรพั ยากรท่ีเก่ียวข้องทางเศรษฐสงั คม ผลท่ีเกิดจากการใช้
ทรัพยากรจะเป็นตัวชี้ประเด็นว่าสภาพของสิ่งแวดล้อมจะเป็นอย่างไร มิติทรัพยากรที่เป็น
องค์ประกอบท่ีสำคญั ทใ่ี ช้การจัดการความย่งั ยืนของระบบส่งิ แวดลอ้ ม

2. มติ ิเทคโนโลยี เป็นการนำความรทู้ างวิทยาศาสตรม์ าใช้เพือ่ ความเปน็ อยขู่ องมนษุ ยค์ วามผิดพลาด
ของการนำเทคโนโลยมี าใชอ้ าจสง่ ผลกระทบต่อสงิ่ แวดล้อม

3. มติ ขิ องเสยี และมลพษิ ส่งิ แวดลอ้ ม แบง่ ออกเป็น 4 กลมุ่
- ของแข็ง ได้แก่ กากสารพิษ ขยะ ฝุน่ ละออง
- ของเหลว น้ำ นำ้ มัน ไขมัน
- ก๊าซ อากาศทีป่ นเป้ือนดว้ ยสารพิษ เขม่าควันออกไซดข์ องไนโตรเจน ฯลฯ
- มลพษิ ทางฟสิ ิกส์ เสยี ง มลพิษของความรอ้ น แสงสวา่ ง รังสี

4. มิติเศรษฐสังคม/มิติมนุษย์ หมายถึงส่ิงแวดล้อมทางเศรษฐกจิ และสังคมท่ีเป็นองค์ประกอบภาค
ในสิ่งแวดล้อมที่ถูกสร้างขึ้นโดยมนุษย์เช่น ประชากร กฎระเบียบ วัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม
ท่ีเกี่ยวกบั มนุษย์

ความสำคญั ของนิเวศวิทยาตอ่ สง่ิ แวดลอ้ ม

นเิ วศวทิ ยาหากเสอ่ื มจะส่งผลต่อความไม่สมบรู ณ์ของเศรษฐกิจและสงั คมมนุษย์ จึงมีการแก้ไข
เพื่อสร้างความสมดุลระหว่างสิ่งแวดล้อมกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยการจัดการทรัพยากร
ธรรมชาติเพ่อื เอื้ออำนวยประโยชนต์ อ่ ความจำเป็นพืน้ ฐานในการดำรงชีวติ ของมนษุ ย์

1. กลไกส่ิงแวดล้อมและความสมดลุ ยใ์ นธรรมชาติ
กลไกสิ่งแวดล้อม( environmental mechanism) หมายถึงตัวจักรที่ควบคุมการ

เปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมจากสภาพหนึ่งไปสู่อีกสภาพหนึ่ง อาจเป็นสิ่งแวดล้อมธรรมชาติ
หรือสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น กระบวนการทางนิเวศวิทยาเป็นรากฐานของกระบวนการทางสิ่งแวดล้อม
เพราะมีจุดกำเนิดและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา กลไก สิ่งแวดล้อมจะควบคุมกระบวนสิ่งแวดล้อมจน
เข้าสู่ช่วงของความสมดุลและตลอดไป กลไกสิ่งแวดล้อมสามารถนำไปประยุกต์ใช้วางแผนการ
จัดระบบสิ่งแวดล้อมให้มีประสิทธิภาพได้ ตัวควบคุมกลไกสิ่งแวดล้อมเป็น เครื่องมือ อุปกรณ์
หลักการ ทฤษฎีหรือเทคโนโลยี ขึ้นอยู่กับจะควบคุมคุณภาพสิ่งแวดล้อมภายหลังการเปลี่ยนแปลง
อย่างไร
2. ความหลากหลายทางชวี ภาพท่ีมตี อ่ ส่ิงแวดล้อมธรรมชาติ

(1.) ความหมายและคุณค่าความหลากหลายทางชวี ภาพ
(2.) การสูญเสียความหลากหลายและแนวโนม้
(3.) อนุสัญญาวา่ ด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ
(4.) ประเทศไทยกับการเข้ารว่ มในอนสุ ญั ญาวา่ ด้วยความหลากหลายทางชวี ภาพ

นิยามของความหลากหลายทางชีวภาพ ความหลากหลายทางชีวภาพ หมายถึง การที่มี
สิ่งมีชีวิตมากมายหลากหลายสายพันธุ์และชนิดในบริเวณหนึ่งบริเวณใด ประเภทของความ
หลากหลายทางชีวภาพ มีองคป์ ระกอบอยู่ดว้ ยกนั 3 อยา่ ง คือ

1. ความหลากหลายในเรื่องชนิด (Species diversity) หมายถึง ความหลากหลายชนิด
ของส่ิงมชี ีวิต (Species) ทม่ี อี ยู่ในพน้ื ทีห่ น่งึ มีความหมาย 2 แง่ คือ

1.1 ความมากชนิด (species richness) หมายความถึง จำนวนชนิดของสิ่งมีชีวิต
ต่อหนว่ ยเนอื้ ท่ี

1.2 ความสม่ำเสมอของชนิด (species evenness) หมายถึง สัดส่วนของสิ่งมีชีวิต
ตา่ ง ๆ ที่มีอยู่

2. ความหลากหลายของพันธุกรรม (Genetic diversity) หมายถึง ความหลากหลาย
ของยีนส์ที่มีอยู่ในสิ่งมีชีวิตแต่ละชนิด สิ่งมีชีวิตชนิดเดียวกัน อาจมียีนส์แตกต่างกันตามสายพันธ์ุ
เช่น ข้าวมีสายพันธุ์นับพันชนิด มันฝรั่ง หรือพืชอาหาร ชนิดอื่น เช่น ข้าวโพด มัน พริก ก็มีมากมาย
หลายสายพันธุ์ ความหลากหลายของพันธุกรรมมีน้อยในพืชเกษตรลูกผสม ความหลากหลาย
ของยีนส์มีคุณค่ามหาศาล นักผสมพันธุ์พืชได้นำสายพันธุ์พืชป่ามาปรับปรุง เพื่อเพิ่มผลผลิต
และตา้ นทานศัตรูพืช โดยผลประโยชน์ตรงจุดน้ีกเ็ กิดกบั มนษุ ย์น่ันเอง

3. ความหลากหลายของระบบนเิ วศ (Ecosystem diversity) มีอยู่ 3 ประเดน็ คอื
3.1 ความหลากหลายของถนิ่ ตามธรรมชาติ : แต่ละถนิ่ กำเนดิ กม็ ีส่ิงมีชีวิตท่ีอาศัยอยู่

แตกต่างกันไป เช่น ลำน้ำพบควายป่า ในถ้ำมีค้างคาว เป็นต้น โดยทั่วไปแล้วที่ใดมีถิ่นกำเนิดตาม
ธรรมชาตหิ ลากหลายที่นั่นจะมชี นดิ สงิ่ มชี ีวติ หลากหลายตามไปด้วย

3.2 ความหลากหลายของการทดแทน : ในป่านั้นมีการทดแทนสังคมพืช กล่าวคือ
เมื่อป่าถูกทำลายจะโดยวิธีใดก็ตาม เช่น พายุพัดไม้ป่าหักโค่น ไฟป่า เป็นต้น พื้นที่จะเกิดที่โล่ง
ต่อมาจะมีพืชเบิกนำ เช่น หญ้าคา และเมื่อทิ้งไว้โดยไม่รบกวนจะมีเนื้อไม้อ่อนโตเร็ว เช่น กระทุ่มน้ำ
ปอหูช้าง เกิดข้นึ และต่อไปปา่ ดั้งเดิมจะกลบั มาอกี ครงั้

3.3 ความหลากหลายของภูมิประเทศ : ในท้องที่บางแห่งมีถิ่นกำเนิดตามธรรมชาติ
มากมาย เช่น ลำน้ำ บึง หาดทราย หุบเขา ภูเขา ลานหิน และมีสังคมพืช ในหลาย ๆ ยุคของการ
ทดแทน มที งุ่ หญา้ ป่าโปรง่ และปา่ ทบึ จะมสี รรพสิ่งมีชวี ิตมากมายผิดกับในเมืองหนาวที่มีต้นไม้ชนิด
เดยี วขึน้ อยูบ่ นเนอื้ ท่ีหลายรอ้ ยไร่

ความสำคญั ของความหลากหลายทางชวี ภาพ

ความหลากหลายทางชวี ภาพมีประโยชนท์ างตรง คอื คณุ ค่าตอ่ ทางเศรษฐกิจและสังคม
ประชากรโลกประมาณ 3 ใน 4 ใช้พืชสมุนไพรจากปา่ โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ ในประเทศทีก่ ำลังพัฒนา
ส่วนประเทศท่ีพฒั นาแล้ว มีอุตสาหกรรมผลติ ยาทส่ี กดั จากวสั ดุธรรมชาติ ด้านอาหารและวัตถุดบิ ท่ี
ใชใ้ นอตุ สาหกรรมกไ็ ดจ้ ากสง่ิ มีชวี ิตท่ีพบในธรรมชาติหรอื ท่ีมนุษย์นำมาเพาะเล้ียงนอกจากนีย้ งั ใช้เปน็
ไมป้ ระดับ

ในเชิงเศรษฐศาสตร์ คณุ คา่ ทางเศรษฐกิจของความหลากหลายทางชีวภาพคือความพึง
พอใจของมนษุ ย์ตอ่ ทรัพยากรชวี ภาพนน้ั ๆ ซงึ่ เกิดจากการบรโิ ภคทรพั ยากร หรือคุณคา่ ของการใช้
(use value) และความพึงพอใจท่ีเกดิ จากการไม่บริโภคทรัพยากรหรอื คณุ คา่ ของการเก็บ (non-
use value)

1. คุณค่าโดยตรง (direct use value) หมายถงึ นำมาใชป้ ระโยชน์ได้โดยตรง ในด้านอปุ โภค
บริโภค เช่นนำน้ำผึ้งมาใช้บริโภค การเก็บของป่า การล่าสัตว์มาเป็นอาหาร การนำพืชและสัตว์
มาเพาะเลี้ยงและขายเป็นสินค้า และนำมาใช้ประโยชน์ ในเชิงอุตสาหกรรม เช่น ทำหัตถกรรม
ในครวั เรอื น

2. คณุ ค่าทางอ้อม (indirect use value) เปน็ คณุ ค่าที่เกิดจากการอย่รู ่วมกันของส่ิงมีชีวิต
ชนิดพันธุ์ต่าง ๆ เช่น ผึ้ง นกและค้างคาวบางชนิดจะช่วยผสมเกสรให้ แก่พืช ป่าไม้ก็ให้ประโยชน์
ทางอ้อมแก่มนุษย์ เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิต ทำหน้าที่ อนุรักษ์ดิน กักเก็บน้ำ
ควบคุมน้ำท่วม รักษาวงจรของการเกิดฤดูกาล ช่วยลดปริมาณคาร์บอนในอากาศ หรือระบบนิเวศ
จะใหค้ ุณคา่ ทางอ้อมแก่มนษุ ย์

3. คุณค่าสำรอง (option value) เป็นคุณค่าของทรัพยากรชีวภาพที่มนุษย์อาจจะมองไม่เห็น
หรือยังเห็นไม่เด่นชัด จึงเก็บสำรองไว้ก่อนจนกว่าคุณค่าของทรัพยากรนั้นจะชัดเจนขึ้นในอนาคต
เช่น ปา่ เขตศูนยส์ ูตรมีความหลากหลายทางชีวภาพมากให้ความสำคญั มากดา้ นการศึกษา

เป็นคณุ ค่าของความหลากหลายทางชีวภาพท่มี นษุ ย์ยงั ไมน่ ำออกใช้แยกออกเปน็ 2 ชนิด ไดแ้ ก่
1. คุณค่ามรดก (bequest value) ต้องการเก็บรักษาทรัพยากรนั้นไว้ในสภาพสมบูรณ์
เพอื่ ให้ตกทอดไปสู่ชนรุ่นต่อไปไดม้ ีโอกาสใช้ทรัพยากรชวี ภาพน้นั
2. คุณคา่ ของการดำรงอยู่ (existence value) เปน็ คณุ คา่ ของส่งิ มีชวี ิตที่ทกุ ชวี ิต เปน็ ส่วนหนง่ึ
ของสังคม มีคุณค่าในตัวเองที่จะดำรงชีวิตอยู่ในโลกนี้ได้อย่างอิสระเช่นเดียวกับมนุษย์
คุณค่าของส่ิงแวดล้อม (total environmental value) เป็นคุณค่าทั้งหมดรวมไปถึงคุณค่าที่ประเมนิ
เป็นตวั เงินไมไ่ ด้ และคุณค่าท่มี นุษย์ไม่ไดเ้ ป็นผูก้ ำหนดเข้าไป

ทม่ี า https://sites.google.com/site/environmentbp02/khwam-hmay-khxng-sing-waedlxm


Click to View FlipBook Version