บุญสารทเดือนสิบ
คอนศรีฯ
“หลบคอน
มานอน
บ้าน”
สารทเดือนสิบงานบุญใหญ่เมืองคอนศรี
ประเพณีเลื่องลือไกลใคร่กล่าวขาน
กำเนิดมาแต่โบราณเนิ่นนานกาล
ไทยสืบสานเชิดชูค่าประเพณี
ในทุกปีลูกหลานเหลนหวนคืนกลับ
มายกหมรับตายายตามวีถี
เพื่อรู้คุณบรรพบุรุษกตเวที
ขอชีวีมีแต่สุขทุกคืนวัน
พิมพ์
๑๘.๑๐.๖๕
ประเพณี
เดือนสิบ
บุ ญสารเดื อนสิ บ
เป็นประเพณีของคนทางภาคใต้ในทุกจังหวัด แต่จังหวัดที่เชิดชูทางวัฒนธรรม
ประเพณีให้เห็นโดดเด่นที่สุดคือ จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองพุ ทธ
เมืองประวัติศาสตร์ที่ส่งเสริมและสืบสานเอกลักษณ์วัฒนธรรมประเพณีส่งเสริม
ภูมิปัญญาท้องถิ่นและการท่องเที่ยว
ประเพณีบุญสาทเดือนสิบมีจุดมุ่งหมายเพื่ อเป็นการอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้แก่
ดวงวิญญาณของบรรพบุรุษที่ล่วงลับ โดยเชื่อว่าในวันแรม 1 ค่ำ เดือน 10 ของทุกปี
ดวงวิญญาณจะได้รับการปล่อยตัวออกมาจากนรกที่ตัองจองจำอยู่ เนื่องจากผลกรรม
ที่ได้กระทำไว้ตอนที่ยังมีชีวิตอยู่เพื่ อมายังโลกมนุษย์ มาขอส่วนบุญกุศลจากลูกหลาน
ญาติพี่ น้องและยังเป็นการแสดงถึงความกตัญญูกตเวทีต่อบรรพบุรุษที่ล่วงลับ
และหลังจากนั้นก็จะกลับไปยังนรกในวันแรม 15 ค่ำ เดือน 10
ชาวจังหวัดนครศรีธรรมราชถือกันว่า…
ประเพณีบุญสารทเดือนสิบมีความสำคัญเป็น อย่าง
มากมีการยึดถือปฏิบัติมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษใน
ช่วงเดือนสิบของทุกปี ลูกหลานที่อยู่ต่างถิ่นห่างไกล
จะกลับบ้านมารวมตัวกันเพื่อจัดเตรียมไปทำบุญ
ที่วัดโดยประเพณีบุญสารทเดือนสิบจะมีวันสำคัญ
หลัก ๆ อยู่ด้วยกัน คือ “วันรับตายาย” ซึ่งจะเป็น
วันที่ลุกหลานจะต้องไปวัดทำบุญรับดวงวิญญาณ
บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว กลับมายังโลกมนุษย์
ในวันนั้น “วันส่งตายาย” จะเป็นวันทำบุญใหญ่
ในประเพณีนี้ ลูกหลานจะรวมตัวกันไปทำบุญที่วัด
เพื่อร่วมกันส่งดวงวิญญาณของบรรพบุรุษกลับ
ไปยังโลกของตนและ “วันแห่หมรับ” ซึ่งจะจัดขึ้น
ก่อนวันส่งตายายหนึ่งวัน
จังหวัดนครศรีธรรมราชได้จัดพิธีแห่หฺมฺรับและ
ประกวด หฺมฺรับ เพื่อชิงรางวัลหฺมฺรับทองคำ
พระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยาม
บรมราชกุมารี อย่างยิ่งใหญ่และสมเกียรติ
ของความเป็นชาวนครเมืองพุทธในทุก ๆ ปี
ซึ่งจะจัดขึ้นบริเวณถนนราชดำเนินหน้าสนาม
หน้าเมืองนครศรีธรรมราชมีหน่วยงานทุกภาคส่วน
จัดรถแห่หมฺรับกันอย่างสวยงามมาร่วมพิธี
จำนวนมาก โดยจะแห่จากสนามหน้าเมืองไปยัง
วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารเพื่อเตรียมสมโภชน์
และร่วมบุญส่งตายายในวันรุ่งขึ้น
หฺมฺรับ
การจัดหฺมฺรับมักจะจัดเฉพาะ
ครอบครัวหรือจัดรวมกันในหมู่ญาติ
และจัดเป็นกลุ่มภาชนะที่ใช้จัด
หฺมฺรับใช้กระบุงหรือเข่งสานด้วย
ด้วยตอกไม้ไผ่ขนาดเล็กหรือใหญ่
ขึ้นอยู่กับความประสงค์ของเจ้าของ
หฺมฺรับ ปัจจุบันใช้ภาชนะที่ประดิษฐ์
ขึ้นมาเป็นกรณีพิเศษ การจัดหมรับ
คือ การบรรจุและประดับด้วย
สิ่งของ อาหาร ขนมเดือนสิบ
ลงภายในภาชนะที่เตรียมไว้
การจัดเตรียมสิ่งของที่ใช้จัดหมฺรับ เริ่มขึ้นในวันแรม ๑๓ ค่ำ วันนี้เรียกกันว่า
"วันจ่าย" ตลาดต่างๆ จึงคึกคักและคลาคล่าไปด้วยฝูงชนชาวบ้านจะซื้ออาหารแห่งพืช
ผักที่เก็บไว้ได้นานข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันและขนมที่เป็นสัญลักษณ์ของสารท
เดือนสิบ จัดเตรียมไว้สาหรับใส่หมฺรับและ สำหรับนำไปมอบให้ผู๎ใหญ่ที่ตนเคารพนับถือ
ขนมสารทเดือนสิบ
ขนมสารทเดือนสิบ ขนมวันสารทไทย หรือ ของเซ่นไหว้สำคัญ 5 อย่าง
ที่จัดไว้ให้เปรต (หรือผู้ล่วงลับ) จะถูกจัดอยู่ใน หฺมฺรับ (อ่านว่า หมับ แปล
ว่า สำรับ) ประกอบด้วยอาหารคาวหวานต่างๆ ที่ผู้ตายชอบทาน
และที่จะขาดไม่ได้ก็คือขนม 5 อย่างต่อไปนี้
เดือขนนมสิบ
ขนมลา
(เครื่องนุ่งห่ม)
ขนมพอง
(พาหนะ)
ขนมดีซำ
(เงิน)
ขนมบ้า
(ลูกสะบ้า)
ขนมไข่ปลา
(เครื่องประดับ)
ขนมลา
ขนมลา เป็นขนมที่ทำจากแป้งและน้ำตาลมะพร้าว นำมาโรย
เป็นสายเล็กๆ ในกระทะที่มีน้ำมัน ปัจจุบันขนมลามีทั้งแบบกรอบ
และแบบนิ่มที่สามารถแผ่เป็นผืนใหญ่ ที่มีลักษณะเป็นเส้นใย
สื่อความหมายแทนแพรพรรณเครื่องนุ่มห่ม
ขนมพอง
ขนมพองหรือข้าวพอง ทำจากข้าวเหนียวที่ผ่านการแช่น้ำ 1 คืน
เมื่อนึ่งจนสุกแล้วตักใส่ในพิมพ์วงกลมและนำไปไปตากแดด
เมื่อข้าวเหนียวแห้งดีแล้วนำไปทอด ขนมพองเป็นสัญลักษณ์
แทนแพหรือพาหนะ ให้บรรพบุรุษใช้ในการเดินทาง
ขนมดีซำ
บางพื้นที่จะเรียกขนมเจาะหูว่าขนม
เจาะรูหรือขนมดีซำ เป็นขนมที่ทำจาก
แป้งข้าวเจ้าผสมแป้งข้าวเหนียวนวด
กับน้ำตาลโตนด ปั้นแป้งให้เป็นรูแล้ว
นำลงทอดในน้ำมันจนเหลืองทอง
จะได้ขนมเจาะหูที่กรอบนอกนุ่มใน
หอมน้ำตาลโตนด เป็นสัญลักษณ์
แทนเงินไว้ใช้จ่าย
ขนมบ้า
ขนมบ้า เป็นส่วนผสมระหว่างมัน แป้งและ
น้ำตาล จากนั้นปั้นขนมเป็นรูปทรงกลมๆ
แบนๆ นำมาทอดจนกรอบ เป็นสัญลักษณ์
แทนลูกสะบ้า สำหรับเล่นรับวันสงกรานต์
เพื่อสร้างความเพลิดเพลินให้แก่บรรพบุรุษ
ขนมไข่ปลา
ขนมไข่ปลา ขนมโบราณ
ทำจากถั่วเขียวผ่าซีกนำมา
บดละเอียดและปั้น เป็นรูป
คล้ายกงจักร หรือไข่ปลา
แล้วนำไปชุบแป้งทอดจน
กรอบเป็นสัญลักษณ์แทน
เครื่องประดับ สำหรับ
ตกแต่งร่างกายให้แก่
บรรพบุรุษ
ความเชื่อ
ในประเพณีบุญสารทเดือนสิบ
เตรียมขนมส่วนหนึ่งตั้นนอกวัด
สำหรับเปรตบาปหนา
เมื่อพระสวดจบให้รอที่ศาลา
เพื่อ “ชิงเปรต”
ใครได้กินขนมในพพิธีีชิงเปรต
จะได้กุศลแแรง
ชิงให้ดี มีเงินซ่อนอยู่
“ในวันสารทเดือนสิบ ลูกหลานจะนำขนมเดือนสิบและอาหารต่าง ๆ ไปวางไว้ในบริเวณที่เรียก
ว่า “หลาเปรต” หรือศาลาเปรตซึ่งมีสายสิญจน์ที่พระสงฆ์จับเพื่อบังสุกุลและแบ่งขนมบาง
ส่วนวางไว้หน้ากำแพงวัดสำหรับบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วแต่มีบาปหนาหรือเปรตไร้ญาติที่
เข้าวัดไม่ได้ เมื่อพระสงฆ์สวดบังสุกุลเสร็จก็จะถึงช่วงที่เรียกว่า "ชิงเปรต" ลูกหลานทุกคน
ทั้งคนแก่และเด็ก ๆ จะไปแย่งขนมและสิ่งของที่ศาลาเปรตอย่างตั้งใจ เพราะมีความเชื่อว่า
หากใครได้กินของที่เหลือจากการเซ่นไหว้บรรพบุรุษ จะเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตและครอบครัว”
ขนมเดือนสิบที่นำไปวางไว้เพื่อให้
บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วแต่มีบาปหนา
หรือเปรตไร้ญาติที่เข้าวัดไม่ได้
การตั้งเปรตหรือตั้งตายาย การทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่
บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว
การทำขนมไข่ปลาของงชาวบ้าน
ในช่วงเทศกาลบุญสารทเดือนสิบ
"คอนโดมิเนียม
ติดธรรมชาติ
ใจกลางเมือง
คุ้มค่าทุก
การลงทุน"
Fauget ตัวอย่างห้อง 33 ตรม.
CONDOMINIUM BANGKOK
การทำขนมไข่ปลา
ในช่วงเทศกาลบุญสารทเดือนสิบ
การทำขนมบ้าและขนมดีซำ
ในช่วงเทศกาลบุญสารทเดือนสิบ
คณะผู้จัดทำ
นางสาวอินทิรา รัตนบุรี
นางสาวจุฑาทิพย์ สุวรรณ์
นางสาวพฤษา ใหม่เจริญ
นายธนชิต มัจฉาชาญ
“เมืองประวัติศาสตร์ พระธาตุทองคำ ชื่นฉ่ำธรรมชาติ แร่ธาตุอุดม
เครื่องถมสามกษัตริย์ มากวัดมากศิลป์ ครบสิ้นกุ้งปู”
วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร
จังหวัดนครศรีธรรมราช