The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

โครงสร้างและแผนการจัดการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ ประถมศึกษาปีที่ 1

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by รัฐศาสตร์, 2022-05-20 02:06:44

โครงสร้างและแผนการจัดการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ ประถมศึกษาปีที่ 1

โครงสร้างและแผนการจัดการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ ประถมศึกษาปีที่ 1

3. สม้ ฉุนจะมาเยย่ี มคุณยายเมอ่ื ไรจ๊ะ
และตรงกบั ชว่ งเวลาแบบจนั ทรคตทิ เ่ี ทา่ ใด

วนั อาทติ ยท์ ี่12 สงิ หาคม 2555
ตรงกบั วนั แรม 10 คา่ เดอื น 8 คะ่

4. วนั พธุ ท่ี 15 สงิ หาคม 2555 ตรงกบั ชว่ งเวลาแบบ
จนั ทรคตทิ เ่ี ทา่ ใด และเรานดั กนั ไปไหนคะ

วนั แรม 13 คา่ เดอื น 8
และเรานดั กนั ไปทศั นศกึ ษากบั โรงเรยี น

คะ่
5.

วนั แรม 9 ค่า เดอื น 8 ทเ่ี ราจะไปเทย่ี วสวนสนุกกนั
ตรงกบั ชว่ งเวลาแบบสรุ ยิ คตทิ เ่ี ทา่ ใดจ๊ะ

วนั เสารท์ ี่11 สงิ หาคม 2555 จ๊ะ

ช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
ปฏิทินชีวิต

คำชี้แจง ใหน้ กั เรยี นแต่ละคนจดบนั ทกึ เหตุการณ์ต่างๆ ทเ่ี กดิ ขน้ึ ในชวี ติ ประจาวนั ลงในปฏทิ นิ เป็นเวลา 1 เดอื น
แลว้ นามาเขยี นเล่าเรอ่ื งราวเรยี งตามลาดบั เหตุการณ์กอ่ น-หลงั

(ตดิ ปฏทิ นิ )

ใน 1 เดอื นทผ่ี า่ นมา มเี หตุการณ์ต่างๆ เกดิ ขน้ึ กบั ฉนั
เรม่ิ จาก

การประเมนิ ช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด)

แบบประเมินปฏิทินชีวิต

ลำดบั ท่ี รำยกำรประเมิน ระดบั คะแนน
321

1 การบนั ทกึ เหตุการณ์ต่างๆ ลงในปฏทิ นิ
2 การเขยี นเล่าเรอ่ื งราวตามลาดบั เหตุการณ์
3 การระบุเวลาแบบสรุ ยิ คติ
4 การระบุเวลาแบบจนั ทรคติ

รวม

ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ
............../.................../................

เกณฑก์ ำรให้คะแนน 3
2
ดี = 1
พอใช้ =
ปรบั ปรงุ =

เกณฑก์ ำรตดั สินคณุ ภำพ ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภำพ
10 - 12 ดี
6-9
ต่ากวา่ 6 พอใช้
ปรบั ปรงุ

ใบงานที่ 8.1เรื่อง การแบง่ ช่วงเวลาใน 1 วนั

ตอนที่ 1
คำชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเตมิ คาบอกช่วงเวลาลงในชอ่ งวา่ งใหถ้ กู ตอ้ ง

1. เราต่นื นอน อาบน้า ไปโรงเรยี น
ตอน

2. เรารอ้ งเพลงชาตแิ ละเรยี นหนงั สอื
ตอน

3. ตอน เราวง่ิ เล่น

4. เราวาดรปู ตอน

5. ตอน เราเลกิ เรยี น กลบั บา้ น

ทาการบา้ น ชว่ ยทางานบา้ น และกนิ อาหารเยน็

6. เราเขา้ นอนแต่

7. เรานอนหลบั ในตอน

ตอนที่ 2
คำชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเขยี นกจิ วตั รประจาวนั ของตนเองทท่ี าในชว่ งเวลาต่างๆ ใน 1 วนั

1. ชว่ งเวลาเชา้

2. ชว่ งเวลาสาย

3. ชว่ งเวลาเทย่ี ง

4. ชว่ งเวลาบา่ ย

5. ชว่ งเวลาเยน็

6. ชว่ งเวลาหวั ค่า

7. ชว่ งเวลาดกึ

ใบงานที่ 8.1เรื่อง การแบ่งช่วงเวลาใน 1 วนั เฉลย

ตอนที่ 1
คำชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเตมิ คาบอกช่วงเวลาลงในชอ่ งวา่ งใหถ้ กู ตอ้ ง

1. เราต่นื นอน อาบน้า ไปโรงเรยี น
ตอน เชา้

2. เรารอ้ งเพลงชาตแิ ละเรยี นหนงั สอื
ตอน สาย

3. ตอน เทยี่ ง เราวงิ่ เลน่

4. เราวาดรปู ตอน บ่าย

5. ตอน เยน็ เราเลกิ เรยี น กลบั บา้ น

ทาการบา้ น ชว่ ยทางานบา้ น และกนิ อาหารเยน็

6. เราเขา้ นอนแต่ หวั คา่

7. เรานอนหลบั ในตอน ดกึ

ตอนที่ 2
คำชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเขยี นกจิ วตั รประจาวนั ของตนเองทท่ี าในชว่ งเวลาต่างๆ ใน 1 วนั

1. ชว่ งเวลาเชา้

2. ชว่ งเวลาสาย
3. ชว่ งเวลาเทย่ี ง
4. ชว่ งเวลาบา่ ย
5. ชว่ งเวลาเยน็

6. ชว่ งเวลาหวั ค่า
7. ชว่ งเวลาดกึ

(พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดุลยพนิ ิจของครผู สู้ อน)

สปั ดาห์ที่ 11-12

โรงเรยี นขจรเกยี รตพิ ฒั นา

แผนการจดั การเรยี นรู้

ภาคเรียนที่ ……1…/………... ชอื่ ผู้สอน ….……………………….........................…………………….

กลุม่ สาระการเรียนรู้ ประวตั ศิ าสตร์ ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 1 จานวน 2 คาบ

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2 ประวตั ิความเปน็ มาของตนเองและครอบครัว เร่ือง เราเป็นใคร

1. มาตรฐานการเรียนร้/ู ตัวชวี้ ัด
มาตรฐาน ส 4.1 เข้าใจความหมาย ความสาคัญของเวลาและยุคสมยั ทางประวตั ิศาสตร์ สามารถใช้

วธิ กี ารทางประวัติศาสตรม์ าวเิ คราะหเ์ หตกุ ารณ์ต่างๆ อยา่ งเป็นระบบ
ตวั ชวี้ ัด ป.1/3 บอกประวตั ิความเป็นมาของตนเองและครอบครัวโดยสอบถามผูเ้ กยี่ วข้อง

2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การสืบคน้ ประวัตคิ วามเปน็ มาของตนเองและครอบครวั โดยสอบถามผู้เก่ยี วข้องจะทาให้เรารู้สึกผกู พัน

และภมู ิใจในครอบครัวของเรา
3. จุดประสงค์การเรียนรู้

1. บอกวิธีการสบื ค้นประวตั ิความเปน็ มาของตนเองและครอบครวั อย่างง่ายได้ (K)
2. บอกวธิ กี ารสืบค้นประวตั คิ วามเปน็ มาของตนเองและครอบครัวอย่างงา่ ยได้ (A)
3. นกั เรียนสามารถบอกวิธกี ารสบื คน้ ประวตั คิ วามเปน็ มาของตนเองและครอบครวั อยา่ งง่ายได้ (P)

4. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ท้องถิ่น
สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง พิจารณาตามหลักสตู รของสถานศึกษา

1)วิธกี ารสบื ค้นประวัติความเป็นมาของตนเอง
และครอบครัวอยา่ งงา่ ยๆ

5. กิจกรรมการเรยี นรู้ คาบที่ 1
ขน้ั นา

ขน้ั กระตนุ้ ความสนใจ

1. ครถู ามคาถามนักเรยี นเกย่ี วกบั ภาพถ่ายในอดตี เชน่
- นกั เรียนเคยเหน็ ภาพถา่ ยของพ่อแม่ตอนเดก็ ๆ หรือไม่ และภาพถ่ายนน้ั มีลักษณะอย่างไร
- นักเรยี นเคยเหน็ ภาพถา่ ยของตนเองตอนเดก็ ๆ หรอื ไม่ และภาพถา่ ยนนั้ มีลกั ษณะอย่างไร

- เมือ่ นักเรียนเห็นภาพถ่ายในอดตี แลว้ นกั เรียนมีความรสู้ ึกอยา่ งไร
2. นกั เรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ
ครูสุม่ เรยี กนักเรยี น 2-3 คน ออกมาเล่าประวัตคิ วามเป็นมาของตนเองและครอบครวั ใหเ้ พือ่ นฟังหน้าช้นั เรยี นพอ
สังเขป

ขน้ั สอน

ขั้นสารวจคน้ หา

1. นกั เรยี นตอบคาถามกระต้นุ ความคิด
2.นกั เรยี นแบ่งกลุ่ม กลมุ่ ละ 4 คน ตามความสมัครใจ แลว้ ให้ แตล่ ะกลุ่มรว่ มกนั ศึกษาความรู้เรื่อง เราเป็น

ใคร จากหนงั สอื เรยี น

ขน้ั สรปุ

ขน้ั ขยายความเขา้ ใจ

1. นักเรียนแต่ละคนในกล่มุ นาความรทู้ ี่ไดจ้ ากการศึกษามาเปน็ พ้ืนฐานในการตอบคาถาม เช่น
- ปู่ ย่า ตา ยายของนกั เรียนชอ่ื วา่ อะไร และประกอบอาชพี อะไร
- พอ่ แม่ของนักเรียนเกดิ ทไี่ หน และเรยี นท่ไี หน
- นักเรยี นมญี าติพ่ีน้องกค่ี น และอยทู่ ไ่ี หนบ้าง
- นักเรยี นเกดิ ท่ีไหน และใครเป็นคนตง้ั ชอื่ ให้นกั เรียน
- พอ่ แมข่ องนักเรียนทางานทไี่ หน และทางานเกีย่ วกบั อะไร

2. ครสู ่มุ เรียกตวั แทนของแตล่ ะกลมุ่ ออกมานาเสนอคาตอบหนา้ ชั้นเรยี น
3. นักเรยี นแต่ละคนทาใบงานที่ 1.1 เร่อื ง ช่อื นั้นสาคญั ไฉน
นักเรียนตอบคาถามกระตุ้นความคดิ

คาบท่ี 2

ขั้นนา

ขั้นกระตนุ้ ความสนใจ
นักเรยี นแต่ละคนผลดั กนั นาเสนอคาตอบในใบงานที่ 1.1 ให้สมาชกิ ภายในกลมุ่ ฟัง แลว้ ผลัดกันอธิบายความรู้

ที่ไดจ้ ากการศึกษาให้สมาชิก ทกุ คนในกลุ่มมคี วามเข้าใจตรงกนั

ขน้ั สอน

ขัน้ สารวจคน้ หา
นกั เรยี นร่วมกนั สรุปความรู้เรอ่ื ง เราเปน็ ใคร โดยครเู ป็นผู้ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง และอธิบายเพม่ิ เติมในส่วน

ทบ่ี กพรอ่ ง

ข้ันสรุป

ขั้นขยายความเข้าใจ
1. ครมู อบหมายให้นกั เรียนนาความรทู้ ี่ไดจ้ ากการศึกษาเรื่อง เราเป็นใคร ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นการเรยี นรู้
เก่ียวกบั ความเปน็ มาของตนเองและครอบครัวในช่ัวโมงตอ่ ไปนกั เรยี นตอบคาถามกระต้นุ ความคิด

6. การวัดและประเมินผล

การวัดและประเมนิ ผล วิธกี ารวัดผล เคร่ืองมือวดั เกณฑก์ าร
จุดประสงค์ ประเมนิ ผล
รอ้ ยละ 60 ผา่ น
ความรคู้ วาม ตรวจใบงานท่ี 1.1 ใบงานที่ 1.1 เกณฑ์
เขา้ ใจ (K) ระดับคณุ ภาพ
ทกั ษะ/ สังเกตพฤตกิ รรมการทางาน แบบสังเกตพฤติกรรม รอ้ ยละ 60 ผ่าน
กระบวนการ (P) รายบุคคล การทางานรายบุคคล เกณฑ์
ระดบั คุณภาพ
คณุ ลกั ษณะนิสยั (A) สังเกตความมีวินยั ใฝเ่ รยี นรู้ และมี แบบประเมนิ รอ้ ยละ 60 ผ่าน
เกณฑ์
จิตสาธารณะ คณุ ลกั ษณะอนั พึง

ประสงค์

7. สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้
7.1 สื่อการเรียนรู้

1) หนังสอื เรยี น ประวตั ิศาสตร์ ป.1
2) ใบงานที่ 1.1 เรอ่ื ง ชือ่ นั้นสาคัญไฉน

7.2แหลง่ การเรยี นรู้
1) หอ้ งเรียน
2) ห้องสมดุ
3) อนิ เทอร์เน็ต

8. กิจกรรมเสนอแนะ
-

ลงชือ่ ............................................ครูผสู้ อน ลงชอื่ ...................................................ฝ่ายวชิ าการ

(...........................................................) (...........................................................)

ลงชื่อ................................................... ผูบ้ รหิ าร
(...........................................................)

ใบงานที่ 1.1 เรื่อง ชือ่ น้นั สาคญั ฉฉน

คำชี้แจง ใหน้ กั เรยี นสบื คน้ ขอ้ มลู เกย่ี วกบั ช่อื นามสกุล และประวตั คิ วามเป็นมาของตนเอง แลว้ บนั ทกึ ขอ้ มลู
พรอ้ มตดิ ภาพประกอบ

ช่อื (ตดิ ภาพ)
ชอ่ื ของฉนั มคี วามหมาย คอื นามสกุล

ทม่ี าของช่อื

ทม่ี าของนามสกุล

สถานทเ่ี กดิ
สถานทอ่ี ยู่
สถานทศ่ี กึ ษา อนุบาล

ประถม

ใบงานท่ี 1.1 เรื่อง ชือ่ น้นั สาคญั ฉฉน เฉลย

คำชี้แจง ใหน้ กั เรยี นสบื คน้ ขอ้ มลู เกย่ี วกบั ชอ่ื นามสกุล และประวตั คิ วามเป็นมาของตนเอง แลว้ บนั ทกึ ขอ้ มลู
พรอ้ มตดิ ภาพประกอบ

(ตดิ ภาพ)

ช่อื นามสกุล
ช่อื ของฉนั มคี วามหมาย คอื

ทม่ี าของชอ่ื

ทม่ี าของนามสกุล

สถานทเ่ี กดิ
สถานทอ่ี ยู่
สถานทศ่ี กึ ษา อนุบาล

ประถม

(พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพนิ ิจของครผู สู้ อน)

สัปดาห์ที่ 13-14

โรงเรยี นขจรเกยี รติพัฒนา

แผนการจัดการเรียนรู้

ภาคเรียนที่ ……1…/………... ช่อื ผสู้ อน ….……………….........................…………………………….

กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 1 จานวน 2 คาบ

หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 2 ประวัตคิ วามเป็นมาของตนเองและครอบครัว เรื่อง ความเป็นมาของตนเอง

1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชวี้ ดั

มาตรฐาน ส 4.1 เข้าใจความหมาย ความสาคญั ของเวลาและยคุ สมัยทางประวัตศิ าสตร์ สามารถใช้

วิธกี ารทางประวตั ศิ าสตรม์ าวิเคราะห์เหตุการณ์ตา่ งๆ อยา่ งเป็นระบบ

ตวั ช้ีวัด ป.1/3 บอกประวัตคิ วามเปน็ มาของตนเองและครอบครัวโดยสอบถามผู้เกี่ยวขอ้ ง

2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด

การบอกประวตั ิความเป็นมาของตนเองทาให้เราร้จู ักตนเอง

3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

1. บอกประวตั คิ วามเป็นมาของตนเองได้ (K)

2. บอกประวตั คิ วามเป็นมาของตนเองได้ (A)

3. นกั เรยี นสามารถบอกประวตั ิความเป็นมาของตนเองได้ (P)

4. สาระการเรยี นรู้

สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้ทอ้ งถน่ิ

1)การบอกเล่าประวัตคิ วามเป็นมาของตนเอง พิจารณาตามหลักสูตรของสถานศกึ ษา

5. กจิ กรรมการเรียนรู้ คาบที่ 1
ขั้นนา

ขั้นกระตุ้นความสนใจ

1. ครูให้นักเรยี นออกมาเล่าเร่ืองของตนเองหน้าช้ันเรยี น ตามประเด็นที่กาหนด ดังนี้

1) ช่อื -นามสกลุ 2) วนั เดือน ปีเกดิ

3) ท่อี ย่ปู จั จบุ ัน 4) สมาชกิ ในครอบครวั

5) อาหารท่ชี อบรบั ประทาน 6) สัตวท์ ่ีชอบ

7) สที ่ชี อบ 8) งานอดิเรก

นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ

ขน้ั สอน

ขัน้ สารวจคน้ หา
1.นกั เรยี นรวมกลุม่ เดมิ (จากแผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 1) แลว้ ให้แตล่ ะกลุม่ ร่วมกันศึกษาความร้เู รอ่ื ง ความ

เป็นมาของตนเอ จากหนงั สอื เรยี น นักเรยี นแต่ละคนทาใบงานท่ี 2.1 เรอ่ื ง ประวตั ขิ องฉัน เสรจ็ แลว้ นาสง่ ครู
ตรวจ

ขน้ั สรปุ

ข้นั ขยายความเขา้ ใจ
1.นักเรยี นแตล่ ะคนนาความรู้ทไ่ี ด้จากการศึกษามาอธิบายร่วมกันภายในกลุ่ม
2.ครูใหน้ กั เรียนดูสตู ิบตั รและบัตรประจาตวั ประชาชนของครู จากนน้ั ให้นักเรยี นแต่ละกลมุ่ รว่ มกันวิเคราะห์

แลว้ ตอบคาถามตามประเด็นที่กาหนด ดังน้ี
1) นักเรยี นร้จู ักส่งิ ท่ีครนู ามาให้ดหู รือไม่ คอื อะไร
2) ส่งิ ทีค่ รนู ามาใหด้ ูมีความสาคัญอยา่ งไร
3) สงิ่ ท่คี รูนามาให้ดูสามารถบอกอะไรไดบ้ ้าง

3.ตัวแทนนักเรยี นแตล่ ะกลุ่มออกมานาเสนอคาตอบหน้าชนั้ เรียน นักเรยี นตอบคาถามกระตุ้นความคดิ

คาบท่ี 2

ขน้ั นา

ขนั้ กระตนุ้ ความสนใจ
1.นักเรยี นแต่ละกล่มุ รว่ มกนั วิเคราะห์ความสาคัญของการสืบค้นประวัติความเป็นมาของตนเอง
2.ตัวแทนนักเรยี นแต่ละกลมุ่ ออกมานาเสนอผลการวเิ คราะห์หนา้ ชั้นเรียน โดยครูเป็นผู้ตรวจสอบความ

ถูกต้อง และเสนอแนะเพิม่ เตมิ ในสว่ นทบ่ี กพรอ่ ง
3.นกั เรยี นตอบคาถามกระต้นุ ความคดิ ครอู ธบิ ายให้นักเรียนเข้าใจถงึ ความสาคญั และความจาเป็นทเ่ี รา

จะตอ้ งรู้จักตนเองและที่มาของตนเอง

ขั้นสอน

ข้ันสารวจค้นหา
1.นักเรยี นตอบคาถามกระตุ้นความคดิ ครอู ธบิ ายให้นักเรียนเขา้ ใจถงึ ความสาคัญและความจาเป็นทเี่ รา

จะต้องรูจ้ กั ตนเองและท่มี าของตนเอง

ข้ันสรปุ

ข้นั ขยายความเข้าใจ
1. ครปู ระเมินผลนกั เรียนจากการทาใบงานที่ 2.1
2. นกั เรยี นรว่ มกันสรปุ ความรเู้ กยี่ วกับความเป็นมาของตนเอง โดยครูเปน็ ผตู้ รวจสอบความถกู ต้อง และ
อธิบายเพ่มิ เติมในสว่ นทบี่ กพรอ่ ง

6. การวดั และประเมินผล

การวดั และประเมินผล วิธีการวดั ผล เครอ่ื งมือวัด เกณฑ์การ
จดุ ประสงค์ ประเมนิ ผล
ใบงานที่ 2.1 ร้อยละ 60 ผ่าน
ความรคู้ วาม ตรวจใบงานท่ี 2.1 เกณฑ์
เข้าใจ (K) แบบสังเกตพฤตกิ รรม ระดับคณุ ภาพ
ทักษะ/ สังเกตพฤติกรรมการทางาน การทางานรายบคุ คล รอ้ ยละ 60 ผา่ น
กระบวนการ (P) รายบุคคล เกณฑ์
ระดบั คุณภาพ
คุณลักษณะนิสัย (A) สังเกตความมีวินัย ใฝเ่ รยี นรู้ และมี แบบประเมิน รอ้ ยละ 60 ผา่ น
เกณฑ์
จิตสาธารณะ คุณลักษณะอนั พึง

ประสงค์

7. ส่ือ/แหลง่ การเรยี นรู้
7.1 ส่อื การเรยี นรู้

1) หนงั สือเรียน ประวตั ศิ าสตร์ ป.1
2) สูติบัตร
3) บตั รประจาตวั ประชาชน
4) ใบงานที่ 2.1 เร่ือง ประวัตขิ องฉนั

7.2แหลง่ การเรยี นรู้
1) หอ้ งเรียน
2) ห้องสมดุ
3) อนิ เทอร์เน็ต

8. กิจกรรมเสนอแนะ
-

ลงชือ่ ............................................ครูผสู้ อน ลงชอื่ ...................................................ฝ่ายวชิ าการ

(...........................................................) (...........................................................)

ลงชื่อ................................................... ผูบ้ รหิ าร
(...........................................................)

ใบงานที่ 2.1 เรือ่ ง ประวตั ิของฉนั

คำชี้แจง ใหน้ กั เรยี นบนั ทกึ ขอ้ มลู เกย่ี วกบั ตนเอง ตามประเดน็ ทก่ี าหนด พรอ้ มกบั ตดิ ภาพ

(ตดิ ภาพ)

ชอ่ื นามสกุล พ.ศ.
เกดิ วนั ท่ี เดอื น
ทอ่ี ยปู่ จั จบุ นั

คตปิ ระจาใจของนกั เรยี น

อาหารทน่ี กั เรยี นชอบ โรงเรยี น
สที น่ี กั เรยี นชอบ
สตั วท์ น่ี กั เรยี นชอบ
สถานทท่ี อ่ งเทย่ี วทน่ี กั เรยี นชอบ
นกั เรยี นอยากประกอบอาชพี
นกั เรยี นกาลงั ศกึ ษาอยชู่ นั้

ใบงานท่ี 2.1 เรื่อง ประวตั ิของฉนั เฉลย

คำชี้แจง ใหน้ กั เรยี นบนั ทกึ ขอ้ มลู เกย่ี วกบั ตนเอง ตามประเดน็ ทก่ี าหนด พรอ้ มกบั ตดิ ภาพ

(ตดิ ภาพ)

ชอ่ื นามสกุล พ.ศ.
เกดิ วนั ท่ี เดอื น
ทอ่ี ยปู่ จั จุบนั

คตปิ ระจาใจของนกั เรยี น

อาหารทน่ี กั เรยี นชอบ โรงเรยี น
สที น่ี กั เรยี นชอบ
สตั วท์ น่ี กั เรยี นชอบ
สถานทท่ี อ่ งเทย่ี วทน่ี กั เรยี นชอบ
นกั เรยี นอยากประกอบอาชพี
นกั เรยี นกาลงั ศกึ ษาอยชู่ นั้

(พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพนิ ิจของครผู สู้ อน)

สปั ดาหท์ ี่ 15-16

โรงเรยี นขจรเกียรติพัฒนา

แผนการจัดการเรยี นรู้

ภาคเรยี นท่ี ……1…/………... ช่ือผสู้ อน ….……….........................…………………………………….

กลุ่มสาระการเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 1 จานวน 2 คาบ

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 ประวัติความเปน็ มาของตนเองและครอบครวั เรอื่ ง ความเปน็ มาของครอบครวั

1. มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตัวชว้ี ัด

มาตรฐาน ส 4.1 เขา้ ใจความหมาย ความสาคญั ของเวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ สามารถใช้

วิธีการทางประวัติศาสตรม์ าวิเคราะหเ์ หตกุ ารณต์ ่างๆ อยา่ งเปน็ ระบบ

ตวั ชวี้ ดั ป.1/3 บอกประวัติความเป็นมาของตนเองและครอบครัวโดยสอบถามผู้เกี่ยวข้อง

2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด

การบอกประวตั ิความเปน็ มาของครอบครวั ทาให้เราร้จู กั ครอบครวั

3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

1. บอกประวตั คิ วามเป็นมาของครอบครัวได้ (K)

2. บอกประวตั ิความเป็นมาของครอบครวั ได้ (A)

3. นกั เรียนสามารถบอกประวัตคิ วามเป็นมาของครอบครัวได้ (P)

4. สาระการเรียนรู้

สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถนิ่

1)การบอกเลา่ ประวตั คิ วามเปน็ มาของครอบครวั พิจารณาตามหลกั สตู รของสถานศึกษา

5. กจิ กรรมการเรยี นรู้ คาบที่ 1
ขั้นนา

ขั้นกระตุ้นความสนใจ

1. ครใู หน้ ักเรยี นดภู าพถา่ ยครอบครัวของครู แล้วเลา่ เร่ืองเกีย่ วกับประวตั คิ วามเปน็ มาของครอบครัวให้
นักเรียนฟงั

2. ครถู ามคาถามให้นกั เรียนช่วยกนั ตอบ เชน่
- นักเรียนเคยเหน็ ภาพถ่ายของพอ่ แมต่ อนเด็กๆ หรือไม่
- ภาพถ่ายน้ันมลี กั ษณะอยา่ งไร

- นักเรยี นมีความร้สู กึ อย่างไร เมอ่ื เห็นภาพถา่ ยเหล่านั้น
- ครอบครวั ของนักเรียนมีญาตพิ ่นี ้องก่ีคน ใครบ้าง
- ครอบครัวของนักเรยี นตั้งถน่ิ ฐานอยูท่ ่ีใด

ข้ันสอน
ขนั้ สารวจคน้ หา

1.นกั เรียนตอบคาถามกระตุ้นความคดิ
2.นักเรียนรวมกลมุ่ เดิม (จากแผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี 1) แล้วให้แตล่ ะกลุม่ ร่วมกนั ศกึ ษาความรู้เร่ือง ความ
เป็นมาของครอบครวั จากหนังสือเรยี น หรือสอบถามความรเู้ พมิ่ เติมจากพอ่ แม่หรือผ้ปู กครอง

ขั้นสรปุ

ข้นั ขยายความเขา้ ใจ
1. นกั เรียนแต่ละคนผลัดกนั อธบิ ายความรทู้ ี่ตนไดไ้ ปศึกษามาให้เพอื่ นในกลุ่มฟงั จนทกุ คนในกลุม่ มีความรู้
ความเขา้ ใจทถี่ กู ต้องตรงกัน
2.ครอู ธิบายเพ่ิมเติมใหน้ ักเรยี นเขา้ ใจเก่ียวกับความสาคญั ของการรปู้ ระวตั ิความเปน็ มาของครอบครวั

คาบท่ี 2

ขั้นนา

ขั้นกระตนุ้ ความสนใจ
1. นกั เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันทาใบงานท่ี 3.1 เร่ือง ความเป็นมาของครอบครวั โดยให้นกั เรยี นแต่ละคนคิด
หาคาตอบดว้ ยตนเองกอ่ น เสร็จแล้วจับคกู่ บั เพอ่ื นในกลุม่ ผลัดกนั อธบิ ายคาตอบของตนเองใหเ้ พ่ือนฟงั
2.นักเรียนรวมกลมุ่ 4 คน แลว้ ผลดั กันอธิบายคาตอบของคู่ตนเองใหเ้ พ่อื นอกี ค่หู น่งึ ในกล่มุ ฟังจนไดม้ ตขิ อง
กลุ่ม เขียนคาตอบลงใน ใบงานที่ 3.1

ขนั้ สอน
ขั้นสารวจคน้ หา

1.ตัวแทนของแตล่ ะกลุ่มออกมานาเสนอคาตอบในใบงานท่ี 3.1 หน้าชัน้ เรยี น โดยครูเป็นผูต้ รวจสอบความ
ถูกตอ้ ง

ขั้นสรุป

ขั้นขยายความเข้าใจ
1. ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั สรุปความรูเ้ กี่ยวกบั ความเปน็ มาของครอบครวั
2. นกั เรียนตอบคาถามกระตุน้ ความคิด

6. การวดั และประเมินผล

การวัดและประเมนิ ผล วิธีการวัดผล เคร่ืองมอื วดั เกณฑก์ าร
จุดประสงค์ ประเมนิ ผล
รอ้ ยละ 60 ผา่ น
ความรู้ความ ตรวจใบงานที่ 3.1 ใบงานท่ี 3.1 เกณฑ์
เข้าใจ (K) ระดบั คุณภาพ
ทักษะ/ สงั เกตพฤติกรรมการทางาน แบบสงั เกตพฤติกรรม รอ้ ยละ 60 ผ่าน
กระบวนการ (P) รายบคุ คล การทางานรายบุคคล เกณฑ์
ระดับคณุ ภาพ
คุณลกั ษณะนสิ ยั (A) สงั เกตความมวี นิ ัย ใฝเ่ รยี นรู้ และมี แบบประเมนิ รอ้ ยละ 60 ผ่าน
เกณฑ์
จิตสาธารณะ คณุ ลักษณะอนั พึง

ประสงค์

7. ส่ือ/แหลง่ การเรียนรู้
7.1 ส่ือการเรียนรู้

1) หนงั สอื เรยี น ประวัตศิ าสตร์ ป.1
2) ภาพถา่ ย
3) ใบงานท่ี 3.1 เร่ือง ความเปน็ มาของครอบครวั

7.2แหล่งการเรยี นรู้
1)ห้องเรียน
2)ห้องสมดุ
3)อินเทอร์เนต็

8. กิจกรรมเสนอแนะ
-

ลงช่ือ............................................ครผู ้สู อน ลงชอื่ ...................................................ฝ่ายวิชาการ

(...........................................................) (...........................................................)

ลงชอ่ื ................................................... ผู้บรหิ าร
(...........................................................)

ช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
สมุดเล่มเล็ก เรือ่ ง ความเป็ นมาของเรา

คำชี้แจง ใหน้ กั เรยี นแตล่ ะคนทาสมดุ เลม่ เลก็ เรอ่ื ง ความเป็นมาของเรา โดยสบื คน้ ขอ้ มลู ตามประเดน็ ทก่ี าหนด
(ตดิ ภาพ)

ประวตั คิ วามเป็นมาของตนเอง

ประวตั คิ วามเป็นมาของครอบครวั

การประเมนิ ช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด)

แบบประเมินสมุดเล่มเล็ก เรือ่ ง ความเป็ นมาของเรา

ลำดบั ท่ี รำยกำรประเมิน ระดบั คะแนน 1
32

1 การบอกประวตั คิ วามเป็นมาของตนเอง
2 การบอกประวตั คิ วามเป็นมาของครอบครวั

รวม

ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ
............../.................../................

เกณฑก์ ำรให้คะแนน 3
2
ดี = 1
พอใช้ =
ปรบั ปรงุ =

เกณฑก์ ำรตดั สินคณุ ภำพ ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภำพ
5-6 ดี
3-4
พอใช้
ต่ากวา่ 3 ปรบั ปรงุ

ใบงานท่ี 3.1 เรื่อง ความเป็ นมาของครอบครวั

คำชี้แจง ใหน้ กั เรยี นอา่ นเรอ่ื ง ครอบครวั ของนิภา แลว้ ตอบคาถาม

ครอบครวั ของนิภำ

เยน็ วนั หน่ึงแมพ่ านิภาไปบา้ นตา บา้ นตาเป็นรา้ นขายของอยใู่ นตลาด แมส่ อนใหเ้ รยี กตาวา่ อากง
ตายม้ิ และบอกวา่ “เพราะตากบั ยายเป็นคนเช้อื สายจนี นิภาเป็นหลานคนจนี จงึ เรยี กตาวา่ อากง เรยี กยายวา่
อามา่ ”
นิภาถามวา่ “เราอยปู่ ระเทศไทย ทาไมเราจงึ เป็นคนเช้อื สายจนี คะ”
อากงบอกวา่ “เพราะพอ่ ของอากง คอื ทวดของนิภาเป็นคนจนี ทเี่ ดนิ ทางมาอยทู่ เี่ มอื งไทย” แลว้ อากงจงึ ใหน้ ิภา
ดรู ปู ถา่ ยของทวดทส่ี มดุ ภาพ นิภาเหน็ ทวดมผี วิ สขี าว ตาเรยี วเลก็ และมผี มเปียยาว นิภาถามตาวา่ “ทวดชอื่ อะไร
ทาไมมผี มเปียคะ”
อากงบอกวา่ “ทวดชอื่ กมิ ทวดไวผ้ มเปีย เพราะชว่ งนนั้ คนจนี ทอี่ พยพมาจากเมอื งจนี ไวผ้ มเปียกนั ”
นิภาถามวา่ “ทวดมาทาอะไรทเี่ มอื งไทยคะ”
อากงเล่าวา่ “ทวดมาหางานทาในเมอื งไทย ตงั้ แต่ 70 ปีก่อน”
นิภาถามต่อไปวา่ “ทวดทางานอะไรคะ”
อากงเล่าวา่ “ทวดทางานหลายอยา่ ง ทงั้ รบั จา้ ง แบกหาม ลากรถ ทาสวนผกั และหาบเรข่ ายอาหารจะ้ ”
นิภาบอกวา่ “ทวดทางานมากจงั เลยนะคะ”
อากงบอกวา่ “ทวดขยนั อดทนทางาน จงึ ทาใหเ้ ล้ยี งดลู ูกๆ หลายคนได”้

คำถำม
1. นิภาทราบประวตั คิ วามเป็นมาของครอบครวั ตนเองไดอ้ ยา่ งไร

2. หากนกั เรยี นเป็นนิภา นกั เรยี นจะรสู้ กึ อยา่ งไรกบั เรอ่ื งทต่ี าเล่าใหฟ้ งั เพราะเหตุใด

3. นิภาควรยดึ คณุ ธรรมของทวดในเรอ่ื งใดเป็นแบบอยา่ ง

4. นกั เรยี นเรยี กตาวา่ อากง และเรยี กยายวา่ อามา่ เหมอื นอยา่ งนิภาหรอื ไม่ เพราะเหตุใด

ใบงานที่ 3.1 เรือ่ ง ความเป็ นมาของครอบครวั เฉลย

คำชี้แจง ใหน้ กั เรยี นอา่ นเรอ่ื ง ครอบครวั ของนิภา แลว้ ตอบคาถาม

ครอบครวั ของนิภำ

เยน็ วนั หน่ึงแมพ่ านิภาไปบา้ นตา บา้ นตาเป็นรา้ นขายของอยใู่ นตลาด แมส่ อนใหเ้ รยี กตาวา่ อากง
ตายม้ิ และบอกวา่ “เพราะตากบั ยายเป็นคนเช้อื สายจนี นิภาเป็นหลานคนจนี จงึ เรยี กตาวา่ อากง เรยี กยายวา่
อามา่ ”
นิภาถามวา่ “เราอยปู่ ระเทศไทย ทาไมเราจงึ เป็นคนเช้อื สายจนี คะ”
อากงบอกวา่ “เพราะพอ่ ของอากง คอื ทวดของนิภาเป็นคนจนี ทเี่ ดนิ ทางมาอยทู่ เี่ มอื งไทย” แลว้ อากงจงึ ใหน้ ิภา
ดรู ปู ถา่ ยของทวดทส่ี มดุ ภาพ นิภาเหน็ ทวดมผี วิ สขี าว ตาเรยี วเลก็ และมผี มเปียยาว นิภาถามตาวา่ “ทวดชอื่ อะไร
ทาไมมผี มเปียคะ”
อากงบอกวา่ “ทวดชอื่ กมิ ทวดไวผ้ มเปีย เพราะชว่ งนนั้ คนจนี ทอี่ พยพมาจากเมอื งจนี ไวผ้ มเปียกนั ”
นิภาถามวา่ “ทวดมาทาอะไรทเี่ มอื งไทยคะ”
อากงเล่าวา่ “ทวดมาหางานทาในเมอื งไทย ตงั้ แต่ 70 ปีก่อน”
นิภาถามต่อไปวา่ “ทวดทางานอะไรคะ”
อากงเล่าวา่ “ทวดทางานหลายอยา่ ง ทงั้ รบั จา้ ง แบกหาม ลากรถ ทาสวนผกั และหาบเรข่ ายอาหารจะ้ ”
นิภาบอกวา่ “ทวดทางานมากจงั เลยนะคะ”
อากงบอกวา่ “ทวดขยนั อดทนทางาน จงึ ทาใหเ้ ล้ยี งดลู กู ๆ หลายคนได”้

คำถำม
1. นิภาทราบประวตั คิ วามเป็นมาของครอบครวั ตนเองไดอ้ ยา่ งไร
จากการสอบถามจากตา จากการทตี่ าเลา่ ใหฟ้ งั และสมดุ ภาพทตี่ านามาใหด้ ู

2. หากนกั เรยี นเป็นนิภา นกั เรยี นจะรสู้ กึ อยา่ งไรกบั เรอ่ื งทต่ี าเล่าใหฟ้ งั เพราะเหตุใด
(พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพนิ ิจของครผู สู้ อน)

3. นิภาควรยดึ คณุ ธรรมของทวดในเรอ่ื งใดเป็นแบบอยา่ ง
ความขยนั อดทน และตงั้ ใจทางานอยา่ งหนกั เอาเบาสู้

4. นกั เรยี นเรยี กตาวา่ อากง และเรยี กยายวา่ อามา่ เหมอื นอยา่ งนิภาหรอื ไม่ เพราะเหตุใด
(พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดุลยพนิ ิจของครผู สู้ อน)

สปั ดาหท์ ี่ 17

โรงเรียนขจรเกยี รติพฒั นา

แผนการจัดการเรียนรู้

ภาคเรียนท่ี ……1…/………... ช่อื ผู้สอน ….……………………….........................…………………….

กล่มุ สาระการเรยี นรู้ ประวตั ิศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 1 จานวน 1 คาบ

หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 การดาเนนิ ชวี ติ ในอดตี และปจั จบุ นั เรอ่ื ง ความเปล่ยี นแปลงของสภาพแวดลอ้ ม

1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชว้ี ัด
มาตรฐาน ส 4.2 เข้าใจพฒั นาการของมนุษยชาตจิ ากอดตี จนถึงปัจจบุ ัน ในด้านความสัมพันธ์และการ

เปลย่ี นแปลงของเหตกุ ารณอ์ ย่างต่อเน่อื ง ตระหนกั ถึงความสาคญั และสามารถ วิเคราะหผ์ ลกระทบทีเ่ กดิ ขึน้
ตัวชว้ี ัด ป.1/1 บอกความเปลย่ี นแปลงของสภาพแวดล้อม สิง่ ของ เครอ่ื งใช้ หรือการดาเนินชวี ติ ของ

ตนเองกับสมัยของพ่อแม่ ปยู่ ่า ตายาย
2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด

ชวี ิตของคนในแตล่ ะชว่ งเวลามคี วามแตกต่างกันและเปล่ียนแปลงไดต้ ลอดเวลาตามวนั เวลาที่ผ่านไป เราจึง
ต้องปรับตวั ให้ทันสิ่งใหม่ๆ และยอมรบั ความเปลยี่ นแปลงเพอื่ ให้ชวี ติ มคี วามสขุ

3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. อธบิ ายความเปลยี่ นแปลงของสภาพแวดลอ้ ม สง่ิ ของ เครื่องใช้ หรอื การดาเนนิ ชวี ติ ของตนเองกบั สมยั
ของ พอ่ แม่ ป่ยู ่า ตายายได้ (K)
2. อธิบายความเปลยี่ นแปลงของสภาพแวดล้อม สิ่งของ เครือ่ งใช้ หรือการดาเนินชีวติ ของตนเองกับสมัย
ของ พอ่ แม่ ปู่ยา่ ตายายได้ (A)
3. นกั เรียนสามารถอธบิ ายความเปลยี่ นแปลงของสภาพแวดล้อม ส่ิงของ เครอื่ งใช้ หรอื การดาเนนิ ชวี ติ

ของตนเองกับสมยั ของ พอ่ แม่ ปูย่ ่า ตายายได้ (P)

4. สาระการเรียนรู้

สาระการเรียนร้แู กนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถ่นิ

1)ความเปล่ียนแปลงของสภาพแวดล้อม ส่งิ ของ พิจารณาตามหลักสูตรของสถานศึกษา

เครื่องใช้ หรือการดาเนนิ ชวี ิตของอดตี กับ

ปจั จบุ ันที่เปน็ รูปธรรมและใกลต้ วั เดก็ เชน่ การ

ใชค้ วายไถนา รถไถนา เตารดี ถนน เกวยี น

รถอแี ต๋น

5. กิจกรรมการเรียนรู้ คาบท่ี 1
ขัน้ นา

ขัน้ กระตุน้ ความสนใจ

1.นักเรียนตอบคาถามกระตุน้ ความคดิ
2.ครูใหน้ ักเรยี นดบู ตั รภาพการดาเนนิ ชีวิตของคนในชุมชนเมอื ง และการดาเนนิ ชีวิตของคนในชุมชนชนบท
แล้วร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นตามประเด็นท่ีกาหนด ดงั น้ี

- การดาเนนิ ชวี ติ ของคนในชมุ ชนเมอื งมคี วามแตกต่างกับการดาเนินชีวิตของคนในชุมชนชนบทหรือไม่
อย่างไร
- การดาเนนิ ชีวติ ของคนในชมุ ชนเมืองในปัจจบุ ันมคี วามแตกตา่ งไปจากอดตี หรือไม่ อย่างไร
- การดาเนินชีวิตของคนในชมุ ชนชนบทในปจั จบุ ันมีความแตกตา่ งไปจากอดตี หรือไม่ อย่างไร

ข้นั สอน

ขนั้ สารวจคน้ หา

1.ครูแบง่ นกั เรียนเปน็ กลมุ่ กลุ่มละ 4 คน คละกันตามความสามารถ คือ เก่ง ปานกลางค่อนขา้ งเกง่ ปาน

กลางค่อนขา้ งอ่อน และอ่อน แลว้ ให้แต่ละกลุ่มร่วมกนั ศกึ ษาความรู้เรื่อง ความเปล่ียนแปลงของสภาพแวดล้อม

จากหนงั สอื เรียน

2.นกั เรียนแต่ละกลุม่ รว่ มกันสนทนาและอธบิ ายความรูเ้ กยี่ วกับความเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม ตาม

ประเดน็ ทก่ี าหนด ดงั นี้

1)ของเลน่ 2) การเดินทาง

3) ท่อี ยอู่ าศยั 4) ยานพาหนะ

3.ครูอธิบายความรู้เก่ียวกบั ความเปลย่ี นแปลงของสภาพแวดลอ้ มเพม่ิ เติมจนนักเรียนมคี วามรู้ ความเขา้ ใจ

นกั เรียนตอบคาถามกระตุ้นความคิด

ขน้ั สรุป

ขั้นขยายความเข้าใจ
1. ครูใหน้ ักเรียนแตล่ ะกลุ่มนาความรู้ทไ่ี ดจ้ ากการศึกษามาเปน็ พ้นื ฐานในการทาใบงานท่ี 1.1 เรอ่ื ง ความ
เปลย่ี นแปลงของสภาพแวดลอ้ ม
2. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันสรุปความรเู้ รื่อง ความเปลย่ี นแปลงของสภาพ แวดลอ้ ม และข้อดี-ขอ้ เสียของความ
เปลีย่ นแปลงของสภาพแวดลอ้ ม

6. การวัดและประเมนิ ผล

การวดั และประเมินผล วิธีการวดั ผล เครือ่ งมือวัด เกณฑ์การ
จดุ ประสงค์ ประเมนิ ผล
ร้อยละ 60 ผา่ น
ความรู้ความ ตรวจใบงานท่ี 1.1 ใบงานที่ 1.1 เกณฑ์
เขา้ ใจ (K) ระดับคณุ ภาพ
ทกั ษะ/ สงั เกตพฤตกิ รรมการทางาน แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ร้อยละ 60 ผ่าน
กระบวนการ (P) รายบคุ คล การทางานรายบุคคล เกณฑ์
ระดับคณุ ภาพ
คุณลกั ษณะนิสัย (A) สงั เกตความมีวนิ ัย ใฝเ่ รียนรู้ และมี แบบประเมนิ รอ้ ยละ 60 ผ่าน
เกณฑ์
จติ สาธารณะ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ

ประสงค์

7. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
7.1 สอื่ การเรยี นรู้

1) หนงั สือเรียน ประวตั ศิ าสตร์ ป.1
2) บตั รภาพการดาเนินชวี ติ
3) ใบงานท่ี 1.1 เร่อื ง ความเปล่ยี นแปลงของสภาพแวดลอ้ ม

7.2แหลง่ การเรียนรู้
1)หอ้ งเรียน
2)ห้องสมุด
3)อนิ เทอรเ์ น็ต

8. กิจกรรมเสนอแนะ
-

ลงช่ือ............................................ครูผสู้ อน ลงชอื่ ...................................................ฝา่ ยวชิ าการ

(...........................................................) (...........................................................)

ลงชื่อ................................................... ผบู้ รหิ าร
(...........................................................)

บตั รภาพ การดาเนินชีวิต



ภำพที่ 1 ภำพที่ 2
ภำพที่ 3 ภำพท่ี 4
ภำพท่ี 5 ภำพท่ี 6

ใบงานที่ 1.1 เรือ่ ง ความเปลีย่ นแปลงของสภาพแวดลอ้ ม

คำชี้แจง ใหน้ กั เรยี นสบื คน้ ขอ้ มลู เกย่ี วกบั ของเล่น ทอ่ี ยอู่ าศยั ยานพาหนะในการเดนิ ทางในสมยั ปยู่ า่ ตายาย แลว้ เขยี น
บรรยายพรอ้ มตดิ ภาพประกอบ

1. ของเลน่

2. ทอ่ี ยอู่ าศยั

3. ยานพาหนะในการเดนิ ทาง

ใบงานที่ 1.1 เรื่อง ความเปลีย่ นแปลงของสภาพแวดลอ้ ม เฉลย

คำชี้แจง ใหน้ กั เรยี นสบื คน้ ขอ้ มลู เกย่ี วกบั ของเลน่ ทอ่ี ยอู่ าศยั ยานพาหนะในการเดนิ ทางในสมยั ปยู่ า่ ตายาย แลว้ เขยี น
บรรยายพรอ้ มตดิ ภาพประกอบ

1. ของเล่น

2. ทอ่ี ยอู่ าศยั

3. ยานพาหนะในการเดนิ ทาง
(พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดุลยพนิ ิจของครผู สู้ อน)

สัปดาหท์ ่ี 18

โรงเรยี นขจรเกยี รติพัฒนา

แผนการจัดการเรยี นรู้

ภาคเรียนท่ี ……1…/………... ชื่อผู้สอน ….………….........................………………………………….

กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ประวตั ศิ าสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 1 จานวน 1 คาบ

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 3 การดาเนนิ ชวี ติ ในอดีตและปจั จบุ ัน เร่ือง ความเปลี่ยนแปลงของครอบครวั

1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชว้ี ัด
มาตรฐาน ส 4.2 เข้าใจพัฒนาการของมนษุ ยชาตจิ ากอดีตจนถึงปัจจุบัน ในดา้ นความสมั พนั ธ์และการ

เปลีย่ นแปลงของเหตกุ ารณ์อย่างตอ่ เนอื่ ง ตระหนักถงึ ความสาคัญและสามารถ วเิ คราะหผ์ ลกระทบทเ่ี กดิ ขน้ึ
ตัวชวี้ ดั ป.1/1 บอกความเปลยี่ นแปลงของสภาพแวดลอ้ ม สิง่ ของ เคร่ืองใช้ หรือการดาเนินชวี ติ ของ

ตนเองกับสมัยของพอ่ แม่ ปูย่ ่า ตายาย
2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด

การเปลี่ยนแปลงที่เกดิ ขึ้นในครอบครวั เปน็ สิ่งใกล้ตวั ทเี่ กดิ ข้นึ ตามความเปลย่ี นแปลงของสภาพแวดลอ้ ม
เราจึงตอ้ งปรับตวั ใหท้ นั สง่ิ ใหมๆ่ และยอมรับความเปล่ยี นแปลงเพ่ือให้ชวี ิตมีความสขุ

3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. อธิบายการเปล่ยี นแปลงที่เกิดขึน้ ในครอบครวั ได(้ K)
2. อธบิ ายการเปลีย่ นแปลงทเี่ กิดข้ึนในครอบครวั ได้(A)
3. นกั เรยี นสามารถอธบิ ายการเปลยี่ นแปลงทเ่ี กดิ ข้ึนในครอบครวั ได้(P)

4. สาระการเรียนรู้

สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง สาระการเรยี นรูท้ ้องถ่ิน

1)ความเปลยี่ นแปลงของสภาพแวดลอ้ ม สิง่ ของ พจิ ารณาตามหลักสตู รของสถานศกึ ษา

เครอื่ งใช้ หรอื การดาเนินชวี ติ ของอดตี กบั

ปจั จุบนั ท่เี ป็นรูปธรรมและใกล้ตัวเด็ก เช่น การ

ใชค้ วายไถนา รถไถนา เตารีด ถนน เกวยี น

รถอแี ต๋น

5. กิจกรรมการเรยี นรู้ คาบที่ 1
ขั้นนา

ขั้นกระต้นุ ความสนใจ

1. ครูใหน้ ักเรยี นดูบัตรภาพส่ิงของ เครือ่ งใช้ภายในบ้าน แลว้ ตอบคาถามตามประเด็นที่กาหนด ดังน้ี
1. นกั เรยี นรูจ้ ักสิง่ ของ เครื่องใชใ้ นภาพหรอื ไม่ คอื อะไร
2. ที่บา้ นของนักเรียนมสี ิ่งของ เคร่อื งใชใ้ นภาพหรือไม่
3. นกั เรยี นพบเหน็ สิง่ ของ เครื่องใช้ในภาพถกู ใชท้ ่ีไหนและใชอ้ ยา่ งไร

2.นกั เรียนตอบคาถามกระตุ้นความคิด

ขนั้ สอน

ข้ันสารวจคน้ หา

1. นกั เรียนรวมกลุ่มเดมิ (จากแผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 1) แลว้ ให้แตล่ ะกลุ่มร่วมกนั ศึกษาความรเู้ ร่อื ง การ

เปลี่ยนแปลงในครอบครัว จากหนังสอื เรยี น

2. ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั วิเคราะห์เกี่ยวกบั การเปล่ยี นแปลงในครอบครวั ตัง้ แตอ่ ดตี จนถงึ ปัจจุบัน ตาม

ประเดน็ ที่กาหนด ดงั นี้

1)ส่ิงของ เครือ่ งใช้ 2) อาหาร

3) วถิ กี ารดาเนนิ ชีวิต 4) สภาพแวดล้อม

3. นกั เรยี นตอบคาถามกระตุ้นความคดิ

4. นักเรียนชว่ ยกันยกตัวอยา่ งการเปล่ยี นแปลงในครอบครวั ตัง้ แตอ่ ดตี จนถึงปัจจุบนั เชน่

- เตาถ่าน  เตาแกส๊  เตาไฟฟา้

- เตารีดถา่ น  เตารดี น้ามนั ก๊าด  เตารีดไฟฟ้า

- ตะกร้าไมไ้ ผ/่ หวาย  ถุงพลาสติก/ตะกร้าพลาสติก

5. ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั แสดงความคดิ เหน็ เก่ยี วกับขอ้ ดี-ขอ้ เสยี และผลท่ีตามมาของการเปล่ยี นแปลงใน

ครอบครวั

6. นักเรยี นแต่ละกลุ่มร่วมกนั ทาใบงานท่ี 2.1 เรื่อง การเปลีย่ นแปลงในครอบครวั

7.ตวั แทนของแต่ละกลุม่ ออกมานาเสนอคาตอบในใบงานท่ี 2.1 หนา้ ชั้นเรียน โดยครูเปน็ ผู้ตรวจสอบความ

ถกู ตอ้ ง และเสนอแนะเพ่มิ เตมิ ในสว่ นทีบ่ กพรอ่ ง

ขนั้ สรุป

ขัน้ ขยายความเขา้ ใจ

1. นกั เรียนแตล่ ะคนทาใบงานที่ 2.2 เรอ่ื ง การเปล่ยี นแปลงในครอบครัวของฉัน เสรจ็ แลว้ นาส่งครตู รวจ
ครูและนักเรยี นร่วมกนั สรปุ ความรูเ้ รื่อง การเปล่ียนแปลงในครอบครวั จนได้วา่ ความเปลยี่ นแปลงทเี่ กิดขน้ึ ใน
ครอบครัวเปน็ ผลมาจากความเปลยี่ นแปลงของสภาพแวดล้อมทาให้มีสิง่ ใหมเ่ กิดข้ึนแทนสง่ิ เก่า ซ่งึ มีท้ังขอ้ ดีและ
ขอ้ เสียทาใหค้ นเราต้องมกี ารปรับตวั ให้ทนั ตอ่ สิง่ ใหม่ๆ ยอมรับการเปล่ยี นแปลงเพ่อื การดารงชีวติ อยา่ งมีความสขุ

6. การวัดและประเมินผล

การวัดและประเมนิ ผล วธิ กี ารวัดผล เครือ่ งมอื วัด เกณฑก์ าร
จดุ ประสงค์ ประเมนิ ผล
ร้อยละ 60 ผ่าน
ความรูค้ วาม ตรวจใบงานท่ี 2.1 ใบงานท่ี 2.1 เกณฑ์
เข้าใจ (K) ตรวจใบงานที่ 2.2 ใบงานที่ 2.2 ระดับคุณภาพ
ทกั ษะ/ สังเกตพฤตกิ รรมการทางาน แบบสงั เกตพฤตกิ รรม รอ้ ยละ 60 ผา่ น
กระบวนการ (P) รายบคุ คล การทางานรายบุคคล เกณฑ์
ระดับคณุ ภาพ
คณุ ลกั ษณะนสิ ัย (A) สังเกตความมีวินยั ใฝเ่ รยี นรู้ และมี แบบประเมนิ รอ้ ยละ 60 ผา่ น
เกณฑ์
จติ สาธารณะ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ

ประสงค์

7. ส่อื /แหล่งการเรียนรู้
7.1 สื่อการเรยี นรู้

1) หนงั สอื เรียน ประวัติศาสตร์ ป.1
2) บตั รภาพส่ิงของ เครื่องใชภ้ ายในบา้ น
3) ใบงานท่ี 2.1 เร่อื ง การเปลยี่ นแปลงในครอบครวั
4) ใบงานที่ 2.2 เรื่อง การเปลีย่ นแปลงในครอบครวั ของฉนั
7.2แหล่งการเรียนรู้
1) ห้องเรยี น
2) หอ้ งสมดุ
3) อินเทอรเ์ นต็

8. กิจกรรมเสนอแนะ
-

ลงช่ือ............................................ครผู ู้สอน ลงชอ่ื ...................................................ฝา่ ยวชิ าการ

(...........................................................) (...........................................................)

ลงชอื่ ................................................... ผบู้ รหิ าร
(...........................................................)

บตั รภาพ ส่ิงของ เคร่ืองใช้ภายในบา้ น



ภำพที่ 1 ภำพที่ 2
ภำพท่ี 3 ภำพท่ี 4
ภำพท่ี 5 ภำพท่ี 6

ใบงานท่ี 2.1 เรื่อง การเปลยี่ นแปลงในครอบครวั

ตอนที่ 1 ก. เดนิ ทางโดยรถไฟฟ้า
คำชี้แจง ใหน้ กั เรยี นจบั คกู่ ารเปลย่ี นแปลงในครอบครวั ใหถ้ กู ตอ้ ง

1. รา้ นขายของชา

2. เตาถา่ น ข. หา้ งสรรพสนิ คา้

3. ตะเกยี ง ค. เอม็ พี 4

4. เดนิ ทางโดยเรอื ง. ไฟฉาย

5. เครอ่ื งเลน่ แผน่ เสยี ง จ. ถุงพลาสตกิ
ฉ. ไมโครเวฟ
6. กาน้า ช. หนุ่ ยนต์
7. เตารดี ถ่าน ซ. กาน้ารอ้ นไฟฟ้า
8. ตะกรา้ หวาย ฌ. เตารดี ไฟฟ้า
9. โทรเลข ญ. โทรศพั ทม์ อื ถอื
10. ขม่ี า้ กา้ นกลว้ ย

ตอนที่ 2
คำชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเตมิ ขอ้ ความลงในชอ่ งวา่ งใหส้ มั พนั ธก์ บั ขอ้ ความทางซา้ ยมอื
1. เมอ่ื ก่อนไมม่ ไี ฟฟ้าจงึ ใชจ้ ุดไฟใหส้ วา่ ง

2. ใชอ้ นุ่ อาหารไดง้ า่ ยกวา่ เตาถ่าน
3. ทาจากไมไ้ ผห่ รอื หวาย แต่ปจั จุบนั

ใชถ้ ุงพลาสตกิ แทน
4. เมอ่ื ก่อนใชถ้ ่านเป็นเชอ้ื เพลงิ

แต่ปจั จุบนั ใชเ้ ตาแก๊ส
5. ตอ้ งใชถ้ า่ นใหค้ วามรอ้ นเวลารดี เสอ้ื ผา้

6. ทาใหเ้ ดนิ ทางสะดวก รวดเรว็

7. ใหค้ วามสะดวก รวดเรว็ ในการสอ่ื สาร

ใบงานที่ 2.1 เรือ่ ง การเปลยี่ นแปลงในครอบครวั เฉลย

ตอนที่ 1 ก. เดนิ ทางโดยรถไฟฟ้า
คำชี้แจง ใหน้ กั เรยี นจบั คกู่ ารเปลย่ี นแปลงในครอบครวั ใหถ้ กู ตอ้ ง

1. รา้ นขายของชา

2. เตาถ่าน ข. หา้ งสรรพสนิ คา้

3. ตะเกยี ง ค. เอม็ พี 4

4. เดนิ ทางโดยเรอื ง. ไฟฉาย

5. เครอ่ื งเลน่ แผน่ เสยี ง จ. ถุงพลาสตกิ
ฉ. ไมโครเวฟ
6. กาน้า ช. หนุ่ ยนต์
7. เตารดี ถ่าน ซ. กาน้ารอ้ นไฟฟ้า
8. ตะกรา้ หวาย ฌ. เตารดี ไฟฟ้า
9. โทรเลข ญ. โทรศพั ทม์ อื ถอื
10. ขม่ี า้ กา้ นกลว้ ย

ตอนที่ 2
คำชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเตมิ ขอ้ ความลงในชอ่ งวา่ งใหส้ มั พนั ธก์ บั ขอ้ ความทางซา้ ยมอื

1. เมอ่ื ก่อนไมม่ ไี ฟฟ้าจงึ ใชจ้ ดุ ไฟใหส้ วา่ ง ตะเกยี งน้ามนั ก๊าด

2. ใชอ้ ่นุ อาหารไดง้ า่ ยกวา่ เตาถา่ น ไมโครเวฟ
ตะกรา้ ไมไ้ ผ/่ ตะกรา้ หวาย
3. ทาจากไมไ้ ผห่ รอื หวาย แต่ปจั จบุ นั
ใชถ้ ุงพลาสตกิ แทน เตาถ่าน
เตารดี ถ่าน
4. เมอ่ื ก่อนใชถ้ ่านเป็นเชอ้ื เพลงิ
แต่ปจั จุบนั ใชเ้ ตาแก๊ส

5. ตอ้ งใชถ้ ่านใหค้ วามรอ้ นเวลารดี เสอ้ื ผา้

6. ทาใหเ้ ดนิ ทางสะดวก รวดเรว็ รถยนต์ รถไฟฟ้า

7. ใหค้ วามสะดวก รวดเรว็ ในการสอ่ื สาร โทรศพั ทม์ อื ถอื

ใบงานที่ 2.2 เรื่อง การเปลยี่ นแปลงในครอบครวั ของฉนั

คำชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเปรยี บเทยี บความเปลย่ี นแปลงในครอบครวั สมยั ของตนเองกบั สมยั ของปยู่ า่ ตายาย
1. ความเปลย่ี นแปลงดา้ นสภาพแวดลอ้ ม

2. ความเปลย่ี นแปลงดา้ นสงิ่ ของ เครอ่ื งใช้

3. ความเปลย่ี นแปลงดา้ นการดาเนินชวี ติ

ใบงานท่ี 2.2 เรือ่ ง การเปลยี่ นแปลงในครอบครวั ของฉนั เฉลย

คำชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเปรยี บเทยี บความเปลย่ี นแปลงในครอบครวั สมยั ของตนเองกบั สมยั ของปยู่ า่ ตายาย
1. ความเปลย่ี นแปลงดา้ นสภาพแวดลอ้ ม

2. ความเปลย่ี นแปลงดา้ นสง่ิ ของ เครอ่ื งใช้

3. ความเปลย่ี นแปลงดา้ นการดาเนินชวี ติ
(พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพนิ ิจของครผู สู้ อน)

สปั ดาห์ที่ 19-20

โรงเรยี นขจรเกียรตพิ ัฒนา

แผนการจัดการเรยี นรู้

ภาคเรยี นที่ ……1…/………... ชื่อผสู้ อน ….…………………………….........................……………….

กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ประวตั ศิ าสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 1 จานวน 2 คาบ

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 3 การดาเนนิ ชวี ิตในอดีตและปัจจุบนั เร่ือง สาเหตแุ ละผลของการเปลย่ี นแปลง

1. มาตรฐานการเรียนร้/ู ตวั ชว้ี ดั

มาตรฐาน ส 4.2 เข้าใจพัฒนาการของมนษุ ยชาตจิ ากอดตี จนถึงปัจจุบัน ในด้านความสมั พันธแ์ ละการ

เปล่ียนแปลงของเหตุการณอ์ ย่างตอ่ เนอ่ื ง ตระหนักถงึ ความสาคัญและสามารถ วเิ คราะหผ์ ลกระทบท่ีเกดิ ขึน้

ตวั ชว้ี ดั ป.1/1 บอกความเปลีย่ นแปลงของสภาพแวดลอ้ ม ส่ิงของ เครื่องใช้ หรือการดาเนินชวี ิตของ

ตนเองกบั สมัยของพอ่ แม่ ปู่ย่า ตายาย

2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด

การเปล่ียนแปลงสภาพแวดลอ้ มมีสาเหตแุ ละผลของการเปลี่ยนแปลงของส่ิงต่างๆ ตามกาลเวลา เราจึง

ตอ้ งปรับตัวให้ทันส่งิ ใหม่ๆ และยอมรบั ความเปลีย่ นแปลงเพ่ือให้ชวี ิตมีความสขุ

3. จุดประสงค์การเรยี นรู้

1. อธบิ ายสาเหตุและผลของการเปล่ียนแปลงของสิ่งตา่ งๆ ตามกาลเวลาได้(K)

2. อธบิ ายสาเหตแุ ละผลของการเปลย่ี นแปลงของสิ่งต่างๆ ตามกาลเวลาได้ (A)

3. นักเรยี นสามารถอธบิ ายสาเหตุและผลของการเปลย่ี นแปลงของสิ่งตา่ งๆ ตามกาลเวลาได้(P)

4. สาระการเรยี นรู้

สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถ่ิน

1)สาเหตแุ ละผลของการเปลย่ี นแปลงของสง่ิ พิจารณาตามหลกั สูตรของสถานศกึ ษา

ตา่ งๆ ตามกาลเวลา

5. กิจกรรมการเรยี นรู้ คาบที่ 1
ขน้ั นา

ข้นั กระตุ้นความสนใจ

1. ครใู ห้นกั เรยี นดบู ัตรภาพทีพ่ ัก เช่น บ้านเรอื นไทย และคอนโดมเิ นยี ม แลว้ ตอบคาถามตามประเด็นที่
กาหนด ดังน้ี

1. บา้ นของนักเรยี นมีความแตกต่างจากในภาพหรอื ไม่ อยา่ งไร
2. ในอดีตคนนยิ มสร้างบา้ นบรเิ วณใด
3. ปจั จบุ ันคนนิยมสร้างบา้ นบรเิ วณใด
4. นกั เรยี นคดิ ว่า บ้านในอดตี และปจั จบุ ันมีความแตกตา่ งกนั หรอื ไม่ อยา่ งไร
นกั เรียนตอบคาถามกระต้นุ ความคดิ

ขนั้ สอน

ขัน้ สารวจคน้ หา

1. นกั เรยี นรวมกล่มุ เดิม (จากแผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 1) แลว้ ให้แตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั ศกึ ษาความรู้เรือ่ ง สาเหตุ
และผลของการเปลี่ยนแปลง จากหนงั สอื เรียน

นักเรยี นตอบคาถามกระตุ้นความคิด

ขั้นสรปุ

ขน้ั ขยายความเขา้ ใจ

1. นกั เรียนแต่ละกลุ่มจับคกู่ ันเป็น 2 คู่ แล้วใหแ้ ตล่ ะคนู่ าความรู้ที่ไดจ้ ากการศึกษามาเปน็ พนื้ ฐานในการทา
ใบงานที่ 3.1 เรอ่ื ง สาเหตุและผลของการเปลีย่ นแปลง

นักเรียนตอบคาถามกระตุน้ ความคิด
คาบที่ 2

ขนั้ นา

ขั้นกระตนุ้ ความสนใจ
1. นกั เรยี นแต่ละค่ผู ลัดกันนาเสนอคาตอบในใบงานท่ี 3.1 ใหส้ มาชกิ อกี คูห่ นึ่งภายในกล่มุ ฟัง แลว้ ผลัดกนั
อธบิ ายความรู้จนทุกคน ในกลุ่มมีความเข้าใจตรงกนั

นกั เรียนตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ

ขัน้ สอน

ขั้นสารวจคน้ หา
นกั เรยี นแต่ละกลุ่มร่วมกันสรปุ ความรู้เรือ่ ง สาเหตุและผลของการเปลี่ยนแปลง จนได้วา่ การเปลยี่ นแปลง

เกดิ ข้นึ ตลอดเวลา การเปลี่ยนแปลงของบา้ นเมืองและสภาพแวดลอ้ มทาให้ผู้คนเปล่ยี นแปลงไปจากอดีต ดงั นน้ั เรา
จงึ ต้องปรับตัวให้ทันตอ่ ส่งิ ใหมๆ่ ยอมรับสง่ิ ทเ่ี ปลย่ี นแปลงเพือ่ การดารง ชวี ติ อยา่ งมคี วามสขุ

ขนั้ สรปุ

ขั้นขยายความเขา้ ใจ
ครูแนะนาใหน้ กั เรียนนาความรู้ที่ไดจ้ ากการศึกษาไปประยกุ ต์ใช้ในชีวิตประจาวันเพ่อื จะไดด้ ารงชีวติ อยา่ งมี

ความสขุ
6. การวัดและประเมินผล

การวดั และประเมนิ ผล วิธีการวดั ผล เครอ่ื งมือวัด เกณฑ์การ
จุดประสงค์ ประเมนิ ผล
ใบงานท่ี 3.1 ร้อยละ 60 ผา่ น
ความรคู้ วาม ตรวจใบงานที่ 3.1 เกณฑ์
เข้าใจ (K) แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ระดับคุณภาพ
ทักษะ/ สังเกตพฤตกิ รรมการทางาน การทางานรายบุคคล รอ้ ยละ 60 ผ่าน
กระบวนการ (P) รายบคุ คล เกณฑ์
ระดบั คุณภาพ
คุณลกั ษณะนสิ ัย (A) สงั เกตความมีวนิ ัย ใฝเ่ รยี นรู้ และมี แบบประเมนิ ร้อยละ 60 ผ่าน
เกณฑ์
จติ สาธารณะ คณุ ลักษณะอนั พงึ

ประสงค์

7. ส่อื /แหล่งการเรยี นรู้

7.1 สอ่ื การเรยี นรู้
1) หนงั สือเรียน ประวัตศิ าสตร์ ป.1

2) บตั รภาพทพี่ ัก
3) ใบงานที่ 3.1 เร่อื ง สาเหตุและผลของการเปล่ยี นแปลง
7.2แหลง่ การเรียนรู้
1) หอ้ งเรียน
2) หอ้ งสมุด

3) อินเทอรเ์ น็ต
8. กิจกรรมเสนอแนะ

-
ลงช่อื ............................................ครผู ู้สอน ลงชอ่ื ...................................................ฝ่ายวิชาการ

(...........................................................) (...........................................................)

ลงช่ือ................................................... ผูบ้ ริหาร
(...........................................................)

ช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
รายงาน เรือ่ ง ชีวิตทีเ่ ปลีย่ นแปลง

คำชี้แจง ใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ สบื คน้ ขอ้ มลู ตามประเดน็ ทก่ี าหนด แลว้ จดั ทาเป็นรายงาน เรอ่ื ง ชวี ติ ทเ่ี ปลย่ี นแปลง
การอธบิ ายความเปลย่ี นแปลงของสภาพแวดลอ้ ม

การอธบิ ายความเปลย่ี นแปลงของสง่ิ ของ เครอ่ื งใช้

การอธบิ ายความเปลย่ี นแปลงของการดาเนินชวี ติ

การประเมนิ ช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด)

แบบประเมนิ รายงาน เรือ่ ง ชีวิตทีเ่ ปลีย่ นแปลง

ลำดบั ท่ี รำยกำรประเมิน ระดบั คะแนน 1
32

1 การอธบิ ายความเปลย่ี นแปลงของสภาพแวดลอ้ ม
2 การอธบิ ายความเปลย่ี นแปลงของสง่ิ ของ เครอ่ื งใช้
3 การอธบิ ายความเปลย่ี นแปลงของการดาเนินชวี ติ

รวม

ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ
............../.................../................

เกณฑก์ ำรให้คะแนน 3
2
ดี = 1
พอใช้ =
ปรบั ปรงุ =

เกณฑก์ ำรตดั สินคณุ ภำพ ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภำพ
8-9 ดี
5-7
พอใช้
ต่ากวา่ 5 ปรบั ปรงุ

บตั รภาพ ท่ีพกั 

ภำพที่ 1
ภำพที่ 2


Click to View FlipBook Version