The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

โครงสร้างและแผนการจัดการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ ประถมศึกษาปีที่ 1

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by รัฐศาสตร์, 2022-05-20 02:06:44

โครงสร้างและแผนการจัดการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ ประถมศึกษาปีที่ 1

โครงสร้างและแผนการจัดการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ ประถมศึกษาปีที่ 1

กล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา
ศาสนา และวฒั นธรรม
(ประวตั ศิ าสตร์)

ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 1

แผนกประถมศึกษา
โรงเรยี นขจรเกียรตพิ ัฒนา

โครงสร้างการสอนวิชาประวัตศิ าสตร์ ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 1
ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา ......... เวลา 20 ช่ัวโมง

หนว่ ยที่ ชือ่ หนว่ ยการ มาตรฐาน/ตวั ชี้วดั สาระสาคัญ เวลา น้าหนัก
เรยี นรู้ (ชั่วโมง) คะแนน

1 ช่วงเวลา และ มาตรฐานท่ี ส 4.1 บอกวัน เดอื น ปตี ามปฏิทนิ 2 10

การเรยี ง เขา้ ใจความหมาย ความสาคัญของเวลา ทีใ่ ช้ในชีวติ ประจาวันได้ (ส.1-ส.2)

ลาดับ และยคุ สมัยทางประวตั ิศาสตร์ สามารถ

เหตุการณ์ ใชว้ ิธีการทางประวตั ศิ าสตร์มาวเิ คราะห์

(รจู้ ักปฏทิ นิ ) เหตกุ ารณต์ ่าง ๆ อยา่ งเป็นระบบ

ตัวชวี้ ัดท่ี ป.1/1

บอกวนั เดือน ปี และการนับช่วงเวลา

ตามปฏิทินทีใ่ ช้ในชีวติ ประจาวัน

1 ช่วงเวลา และ มาตรฐานท่ี ส 4.1 ปฏทิ ินทใี่ ชใ้ นชวี ติ ประจาวัน 1 5

การเรยี ง เขา้ ใจความหมาย ความสาคญั ของเวลา น้ันสามารถใชบ้ อกวนั ตาม (ส.3)

ลาดับ และยคุ สมัยทางประวตั ิศาสตร์ สามารถ แบบสุริยคติ

เหตุการณ์ ใชว้ ธิ กี ารทางประวตั ศิ าสตร์มาวิเคราะห์

(วนั แบบ เหตุการณต์ า่ ง ๆ อยา่ งเป็นระบบ

สุรยิ คต)ิ ตัวช้ีวดั ท่ี ป.1/1

บอกวัน เดอื น ปี และการนับชว่ งเวลา

ตามปฏทิ ินทใ่ี ชใ้ นชวี ติ ประจาวัน

1 ช่วงเวลา และ มาตรฐานท่ี ส 4.1 ปฏทิ นิ ที่ใชใ้ นชวี ติ ประจาวัน 1 5

การเรียง เขา้ ใจความหมาย ความสาคญั ของเวลา นนั้ สามารถใชบ้ อกเดอื นตาม (ส.4)

ลาดบั และยุคสมยั ทางประวัติศาสตร์ สามารถ แบบสรุ ิยคติ

เหตุการณ์ ใช้วธิ ีการทางประวัตศิ าสตร์มาวิเคราะห์

(เดอื นแบบ เหตุการณต์ ่าง ๆ อย่างเปน็ ระบบ

สุรยิ คต)ิ ตวั ชี้วัดท่ี ป.1/1

บอกวัน เดอื น ปี และการนับช่วงเวลา

ตามปฏทิ ินทีใ่ ชใ้ นชวี ติ ประจาวัน

โครงสร้างการสอนวชิ าประวตั ศิ าสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 1

ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา ......... เวลา 20 ชว่ั โมง

หน่วย ชอ่ื หน่วยการ มาตรฐาน/ตวั ชี้วัด สาระสาคญั เวลา น้าหนกั
ที่ เรียนรู้ (ชัว่ โมง) คะแนน

1 ชว่ งเวลา และ มาตรฐานท่ี ส 4.1 ปฏิทินที่ใช้ใน 1 5

การเรียงลาดบั เข้าใจความหมาย ความสาคัญของเวลา ชีวติ ประจาวนั นัน้ (ส.5) 5

เหตกุ ารณ์ และยุคสมัยทางประวัตศิ าสตร์ สามารถใช้ สามารถใชบ้ อกวนั เดอื น 10

(เวลาแบบ วิธกี ารทางประวตั ิศาสตร์มาวเิ คราะห์ ปี และการนบั ช่วงเวลา

จนั ทรคต)ิ เหตุการณ์ต่าง ๆ อย่างเปน็ ระบบ ตามแบบจันทรคติ

ตวั ชวี้ ัดท่ี ป.1/1

บอกวัน เดอื น ปี และการนบั ช่วงเวลาตาม

ปฏิทินทใ่ี ชใ้ นชวี ติ ประจาวัน

1 ชว่ งเวลา และ มาตรฐานที่ ส 4.1 การนับเวลาแบบสรุ ิยคติ 1

การเรียงลาดับ เขา้ ใจความหมาย ความสาคญั ของเวลา และจนั ทรคติมีประโยชน์ (ส.6)

เหตกุ ารณ์ และยุคสมยั ทางประวัติศาสตร์ สามารถใช้ ตอ่ การบอกวัน เดอื น ปี

(การนบั เวลา วธิ ีการทางประวัติศาสตรม์ าวเิ คราะห์ และเป็นการนบั ชว่ งเวลา

แบบสุรยิ คติ เหตุการณต์ ่าง ๆ อย่างเปน็ ระบบ ตามปฏิทนิ ท่ใี ชใ้ น

และจันทรคติ) ตวั ชว้ี ดั ที่ ป.1/1 ชวี ติ ประจาวัน

บอกวัน เดือน ปี และการนับชว่ งเวลาตาม

ปฏิทินทใ่ี ชใ้ นชวี ิตประจาวนั

1 ชว่ งเวลา และ มาตรฐานท่ี ส 4.1 ปฏิทินมคี วามสาคญั ใน 2

การเรยี งลาดบั เข้าใจความหมาย ความสาคญั ของเวลา การบอกวนั สาคัญต่างๆ (ส.7-ส.8)

เหตกุ ารณ์ และยคุ สมัยทางประวตั ิศาสตร์ สามารถใช้ เพ่ือใหเ้ รารู้และเขา้ รว่ ม

(ปฏทิ ินบอก วธิ ีการทางประวัตศิ าสตร์มาวิเคราะห์ กิจกรรมในวันสาคญั นั้น

ความสาคญั ของ เหตกุ ารณ์ตา่ ง ๆ อย่างเป็นระบบ ได้ถกู ตอ้ ง

วนั สาคัญ) ตวั ชว้ี ัดที่ ป.1/1

บอกวัน เดอื น ปี และการนบั ช่วงเวลาตาม

ปฏิทินทใ่ี ชใ้ นชวี ิตประจาวนั

โครงสร้างการสอนวชิ าประวัตศิ าสตร์ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 1

ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา ......... เวลา 20 ชั่วโมง

หนว่ ย ชอื่ หนว่ ยการ มาตรฐาน/ตวั ชวี้ ดั สาระสาคัญ เวลา น้าหนกั
ที่ เรยี นรู้ (ชว่ั โมง) คะแนน

1 ช่วงเวลา และ มาตรฐานที่ ส 4.1 ปฏทิ นิ มคี วามสาคัญในการ 2 10

การเรียงลาดับ เข้าใจความหมาย ความสาคญั ของเวลา บอกวนั เดอื น ปี และการ (ส.9-ส.

เหตกุ ารณ์ และยคุ สมัยทางประวัติศาสตร์ สามารถ นบั ช่วงเวลาเพอ่ื เตอื น 10)

(ปฏทิ นิ ใชช้ ว่ ย ใช้วธิ ีการทางประวตั ศิ าสตรม์ าวเิ คราะห์ ความจาในชีวติ ประจาวัน

เตอื นความจา เหตกุ ารณต์ ่าง ๆ อยา่ งเปน็ ระบบ

เรา) ตวั ชว้ี ดั ท่ี ป.1/1

บอกวัน เดือน ปี และการนับชว่ งเวลา

ตามปฏิทินท่ใี ช้ในชวี ติ ประจาวัน

สอบกลางภาคเรยี นที่ 1 (ส.10) ………………………………… คะแนน

2 ประวตั คิ วาม มาตรฐานที่ ส 4.1 การสืบค้นประวตั คิ วาม 2 10

เป็นมาของ เขา้ ใจความหมาย ความสาคญั ของเวลา เป็นมาของตนเองและ (ส11-ส12)

ตนเองและ และยุคสมยั ทางประวัตศิ าสตร์ สามารถ ครอบครัวโดยสอบถาม

ครอบครัว ใชว้ ธิ กี ารทางประวัติศาสตรม์ าวิเคราะห์ ผ้เู กี่ยวข้องจะทาให้เรา

(เราเป็นใคร) เหตุการณ์ตา่ ง ๆ อย่างเป็นระบบ รสู้ ึกผกู พันและภมู ใิ จใน

ตวั ชี้วัดท่ี ป.1/3 ครอบครวั ของเรา

บอกประวัตคิ วามเปน็ มาของตนเองและ

ครอบครวั โดยสอบถามผู้เกีย่ วขอ้ ง

2 ประวัติความ มาตรฐานท่ี ส 4.1 การบอกประวัตคิ วาม 2 10

เปน็ มาของ เขา้ ใจความหมาย ความสาคัญของเวลา เปน็ มาของตนเองทาให้เรา (ส13-ส14)

ตนเองและ และยคุ สมยั ทางประวตั ิศาสตร์ สามารถ รู้จกั ตนเอง

ครอบครัว ใช้วิธีการทางประวตั ิศาสตรม์ าวเิ คราะห์

(ความเปน็ มา เหตกุ ารณ์ตา่ ง ๆ อย่างเปน็

ของตวั เราเอง) ระบบ

โครงสร้างการสอนวชิ าประวัติศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 1

ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา ......... เวลา 20 ชั่วโมง

หน่วย ชือ่ หนว่ ยการ มาตรฐาน/ตัวชี้วดั สาระสาคญั เวลา นา้ หนกั
ที่ เรยี นรู้ (ชั่วโมง) คะแนน

ตวั ช้ีวัดที่ ป.1/3

บอกประวตั คิ วามเปน็ มาของตนเองและ

ครอบครัวโดยสอบถามผู้เก่ยี วข้อง

2 ประวตั คิ วาม มาตรฐานที่ ส 4.1 การบอกประวัตคิ วามเป็นมา 2 10

เปน็ มาของ เข้าใจความหมาย ความสาคญั ของเวลา ของครอบครัวทาใหเ้ รารจู้ กั (ส15-ส

ตนเองและ และยุคสมัยทางประวตั ิศาสตร์ สามารถ ครอบครัว 16)

ครอบครวั ใชว้ ิธกี ารทางประวัตศิ าสตร์มาวิเคราะห์

(ความเป็นมา เหตกุ ารณต์ ่าง ๆ อยา่ งเปน็ ระบบ

ของ ตัวชี้วัดที่ ป.1/3

ครอบครัว) บอกประวตั ิความเป็นมาของตนเองและ

ครอบครวั โดยสอบถามผ้เู ก่ยี วขอ้ ง

3 การดาเนนิ มาตรฐานท่ี ส 4.2 ชีวติ ของคนในแต่ละช่วงเวลา 1 5

ชีวติ ในอดีต เข้าใจพฒั นาการของมนุษยชาติจากอดีต มคี วามแตกต่างกันและ (ส.17)

และปัจจบุ ัน จนถึงปจั จบุ นั ในดา้ นความสมั พนั ธ์และ เปลยี่ นแปลงไดต้ ลอดเวลาตาม

(ความเปล่ียน การเปล่ียนแปลงของเหตกุ ารณอ์ ยา่ ง วนั เวลาทีผ่ ่านไป เราจงึ ตอ้ ง

แปลงของ ตอ่ เน่อื ง ตระหนักถึงความสาคัญและ ปรับตวั ให้ทนั สงิ่ ใหม่ๆ และ
สภาพแวด- สามารถ วิเคราะหผ์ ลกระทบท่เี กิดขนึ้ ยอมรบั ความเปลยี่ นแปลง
ตัวชีว้ ดั ท่ี ป.1/1 เพ่ือให้ชีวติ มีความสุข
ลอ้ ม) บอกความเปล่ยี นแปลงของ

สภาพแวดล้อม สิ่งของ เครอ่ื งใช้ หรือ

การดาเนินชีวิตของ

โครงสรา้ งการสอนวิชาประวตั ศิ าสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 1
ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา ......... เวลา 20 ช่ัวโมง

หนว่ ย ชื่อหน่วยการ มาตรฐาน/ตัวชี้วดั สาระสาคัญ เวลา น้าหนัก
ที่ เรียนรู้ (ชวั่ โมง) คะแนน

3 การดาเนิน มาตรฐานที่ ส 4.2 การเปลี่ยนแปลงทเ่ี กดิ ขนึ้ ใน 1 5

ชีวติ ในอดตี เขา้ ใจพฒั นาการของมนษุ ยชาติจาก ครอบครวั เป็นสง่ิ ใกล้ตวั ท่ี (ส.18)

และปจั จบุ นั อดีตจนถงึ ปจั จุบนั ในดา้ น เกิดขึ้นตามความ

(ความ ความสัมพนั ธ์และการเปล่ยี นแปลง เปลี่ยนแปลงของ

เปล่ียนแปลง ของเหตุการณอ์ ย่างตอ่ เน่ือง ตระหนกั สภาพแวดลอ้ ม เราจงึ ต้อง

ของ ถึงความสาคญั และสามารถ ปรบั ตัวให้ทันสิ่งใหมๆ่ และ

ครอบครวั ) วเิ คราะห์ผลกระทบทเ่ี กิดขนึ้ ตวั ชว้ี ัดที่ ยอมรบั ความเปล่ียนแปลง

ป.1/1 เพ่ือให้ชวี ติ มีความสุข

บอกความเปลย่ี นแปลงของ

สภาพแวดลอ้ ม สิ่งของ เคร่ืองใช้ หรือ

การดาเนินชีวิตของ

3 การดาเนิน มาตรฐานท่ี ส 4.2 การเปลย่ี นแปลง 2 10

ชีวิตในอดตี เขา้ ใจพฒั นาการของมนษุ ยชาติจาก สภาพแวดล้อมมสี าเหตุและ (ส.19-ส.

และปัจจุบัน อดีตจนถงึ ปัจจุบนั ในดา้ น ผลของการเปลี่ยนแปลงของ 20)

(สาเหตแุ ละ ความสัมพันธ์และการเปลยี่ นแปลง สงิ่ ต่างๆ ตามกาลเวลา เราจึง

ผลของการ ของเหตุการณอ์ ยา่ งต่อเน่ือง ตระหนัก ต้องปรับตัวให้ทันสิง่ ใหมๆ่

เปลย่ี นแปลง) ถงึ ความสาคญั และสามารถ และยอมรบั ความ

วเิ คราะหผ์ ลกระทบทเ่ี กดิ ขึ้นตัวชว้ี ดั ที่ เปลย่ี นแปลงเพ่อื ใหช้ วี ิตมี

ป.1/1 ความสขุ

บอกความเปล่ยี นแปลงของ

สภาพแวดลอ้ ม สง่ิ ของ เครอ่ื งใช้ หรือ

การดาเนินชวี ิตของ

สัปดาหท์ ี่ 20 ................................. สอบปลายภาคเรียนท่ี 1 20 100

รวมตลอดปี / ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา ............

สปั ดาหท์ ี่ 1-2

โรงเรียนขจรเกียรติพัฒนา

แผนการจัดการเรียนรู้

ภาคเรียนท่ี ……1…/………... ชือ่ ผสู้ อน ….………………………….........................………………….

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ประวตั ิศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 1 จานวน 2 คาบ

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 ชว่ งเวลาและการเรยี งลาดับเหตกุ ารณ์ เร่อื ง รู้จกั ปฏทิ นิ

1. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตวั ชว้ี ัด
มาตรฐาน ส 4.1 เข้าใจความหมาย ความสาคญั ของเวลาและยุคสมัยทางประวตั ศิ าสตร์ สามารถใช้

วิธีการทางประวตั ิศาสตรม์ าวเิ คราะห์เหตุการณ์ตา่ งๆ อย่างเป็นระบบ
ตวั ชว้ี ดั ป.1/1 ใชค้ าระบเุ วลาทแ่ี สดงเหตุการณใ์ นอดีต ปจั จบุ นั และอนาคต

2. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด
บอกวัน เดือน ปีตามปฏิทนิ ทใ่ี ช้ในชีวติ ประจาวนั ได้

3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
1. บอกวนั เดอื น ปตี ามปฏทิ ินที่ใช้ในชวี ติ ประจาวนั ได้ (K)
2. บอกวัน เดือน ปีตามปฏทิ ินท่ใี ช้ในชวี ติ ประจาวนั ได้ (A)
3. นกั เรยี นสามารถบอกวนั เดอื น ปตี ามปฏิทนิ ที่ใชใ้ นชวี ิตประจาวันได้ (P)

4. สาระการเรียนรู้

สาระการเรยี นร้แู กนกลาง สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถนิ่

1)ชอื่ วัน เดอื น ปี ตามระบบสุริยคติทปี่ รากฏใน พจิ ารณาตามหลักสูตรของสถานศกึ ษา

ปฏทิ ิน

2)ชื่อ วัน เดอื น ปี ตามระบบจนั ทรคตทิ ี่ปรากฏ

ในปฏทิ ิน

3)ช่วงเวลาที่ใช้ในชีวติ ประจาวัน เช่น วนั นี้ ตอน

เช้า ตอนเยน็

5. กิจกรรมการเรยี นรู้

คาบที่ 1

ขัน้ นา

ข้ันกระต้นุ ความสนใจ

1. ครใู หน้ ักเรียนดูปฏทิ นิ รูปแบบต่างๆ ดังนี้
– ปฏิทินแบบแขวน
– ปฏิทินแบบต้งั โตะ๊
– ปฏิทนิ แบบพกพา

2. ครแู ละนักเรียนร่วมกันสนทนาเก่ียวกบั ปฏทิ นิ รูปแบบตา่ งๆ ตามประเด็นทกี่ าหนด ดงั นี้
1) วันน้ีเป็นวันทเี่ ทา่ ไร
2) วันนีต้ รงกับวัน เดือน ปอี ะไร
3) ปฏิทินทค่ี รนู ามาให้นักเรยี นดูมรี ูปแบบใดบ้าง
4) ท่บี ้านของนักเรยี นมีปฏทิ นิ รปู แบบใด

3. นกั เรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคิด
4.ครอู ธบิ ายเชอ่ื มโยงความคดิ ของนกั เรยี นเพ่ือให้เหน็ ถงึ ความสาคัญของปฏิทินท่ีใช้ในชวี ติ ประจาวัน

ขัน้ สอน

ขั้นสารวจคน้ หา

1. นักเรยี นแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน ตามความสมคั รใจ แล้วใหแ้ ต่ละกลมุ่ ร่วมกนั ศกึ ษาความรู้เรอื่ ง รู้จกั
ปฏทิ นิ จากหนงั สือเรยี น

2.นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคิด

ขนั้ สรปุ

ข้นั ขยายความเขา้ ใจ
1. ครูและนกั เรยี นร่วมกนั สรุปความร้เู กย่ี วกบั การใชค้ าบอกชว่ งเวลาในอดตี ปจั จบุ นั และอนาคต
2. นักเรียนตอบคาถามกระตนุ้ ความคิด

คาบท่ี 2
ขนั้ นา

ขน้ั กระตนุ้ ความสนใจ
1. นักเรียนแต่ละกลุ่มนาความรูท้ ไี่ ดจ้ ากการศึกษาเกย่ี วกับปฏทิ ิน

มาอภปิ รายร่วมกนั ภายในกลมุ่
2. ครูแจกปฏิทนิ ให้นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ จากนน้ั ให้แตล่ ะกล่มุ ร่วมกัน

สงั เกตปฏทิ นิ ของกลุ่มตนเอง แล้วแข่งขันกนั ตอบคาถามตามประเดน็ ทีก่ าหนด ดงั นี้
1) ปฏทิ ินมีสว่ นประกอบอะไรบ้าง
2) ปฏทิ นิ มที ัง้ หมดกี่เดอื น
3) วนั แรกของปใี นปฏิทินคอื วันทีเ่ ท่าไร เดอื นอะไร
4) วนั สุดท้ายของปใี นปฏิทนิ คือวนั ที่เท่าไร เดอื นอะไร
3. นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ชว่ ยกนั ทาใบงานที่ 1.1 เรือ่ ง การใช้ปฏทิ นิ

ขัน้ สอน
ขั้นสารวจคน้ หา

1. ครใู ห้นักเรยี นนาความรู้ที่ไดจ้ ากการศกึ ษาเก่ยี วกบั ปฏิทิน มาวเิ คราะห์ถงึ ความสาคัญและประโยชน์
ของปฏิทนิ ที่ใช้ในชวี ิตประจาวัน

2. นกั เรยี นตอบคาถามกระตุ้นความคดิ

ขน้ั สรุป

ขน้ั ขยายความเขา้ ใจ
1. ครูและนักเรียนร่วมกนั เฉลยคาตอบในใบงานท่ี 1.1
2. ครูและนักเรียนร่วมกันสรปุ ความร้เู ก่ยี วกับปฏิทนิ
3. นักเรยี นตอบคาถามกระต้นุ ความคิด ข้อ 1-2

6. การวดั และประเมนิ ผล

การวดั และประเมนิ ผล วิธกี ารวดั ผล เครื่องมอื วัด เกณฑ์การ
จุดประสงค์ ประเมนิ ผล
ร้อยละ 60 ผา่ น
ความรู้ความ ตรวจใบงานท่ี 1.1 ใบงานท่ี 1.1 เกณฑ์
เข้าใจ (K) ระดับคุณภาพ
ทักษะ/ สงั เกตพฤติกรรมการทางาน แบบสงั เกตพฤติกรรม รอ้ ยละ 60 ผ่าน
กระบวนการ (P) รายบุคคล การทางานรายบคุ คล เกณฑ์
ระดับคุณภาพ
คณุ ลกั ษณะนสิ ยั (A) สงั เกตความมีวินยั ใฝ่เรียนรู้ และมี แบบประเมิน รอ้ ยละ 60 ผ่าน
เกณฑ์
จิตสาธารณะ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ

ประสงค์

7. สือ่ /แหลง่ การเรยี นรู้
7.1 ส่ือการเรยี นรู้

1) หนงั สอื เรียน ประวตั ศิ าสตร์ ป.1
2) ปฏทิ ิน
3) ใบงานท่ี 1.1 เรือ่ ง การใช้ปฏิทิน
7.2 แหลง่ การเรยี นรู้
1) ห้องเรยี น
2) ห้องสมดุ
3) อินเทอร์เนต็

8. กจิ กรรมเสนอแนะ
-

ลงชื่อ............................................ครผู ู้สอน ลงชอื่ ...................................................ฝ่ายวชิ าการ

(...........................................................) (...........................................................)

ลงช่อื ................................................... ผบู้ รหิ าร
(...........................................................)

ใบงานที่ 1.1 เรือ่ ง การใชป้ ฏิทิน

คำชี้แจง ใหน้ กั เรยี นสงั เกตปฏทิ นิ ปีพทุ ธศกั ราช 2555 แลว้ เตมิ คาตอบลงในช่องวา่ ง

1. วนั แรกของปีในปฏทิ นิ คอื วนั ท่ี เดอื น

2. วนั สดุ ทา้ ยของปีในปฏทิ นิ คอื วนั ท่ี เดอื น

3. ใน 1 ปี มที งั้ หมด เดอื น

4. วนั ท่ี 12 เดอื นสงิ หาคมของปฏทิ นิ ตรงกบั วนั

5. เดอื นทล่ี งทา้ ยดว้ ยคาวา่ “คม” เชน่ มกราคม มนี าคม พฤษภาคม จะมี วนั
วนั
6. เดอื นทล่ี งทา้ ยดว้ ยคาวา่ “ยน” เชน่ เมษายน มถิ ุนายน กนั ยายน จะมี วนั

7. เดอื น ในปฏทิ นิ จะมจี านวนวนั แตกต่างจากเดอื นอน่ื ๆ คอื มี

8. เดอื นทม่ี ี 31 วนั มที งั้ หมด เดอื น

9. เดอื นทม่ี ี 30 วนั มที งั้ หมด เดอื น

10. เดอื นทม่ี ี 29 วนั มที งั้ หมด เดอื น

ใบงานท่ี 1.1 เรื่อง การใชป้ ฏิทิน เฉลย

คำชี้แจง ใหน้ กั เรยี นสงั เกตปฏทิ นิ ปีพทุ ธศกั ราช 2555 แลว้ เตมิ คาตอบลงในชอ่ งวา่ ง

1. วนั แรกของปีในปฏทิ นิ คอื วนั ท่ี 1 เดอื น มกราคม

2. วนั สดุ ทา้ ยของปีในปฏทิ นิ คอื วนั ท่ี 31 เดอื น ธนั วาคม

3. ใน 1 ปี มที งั้ หมด 12 เดอื น

4. วนั ท่ี 12 เดอื นสงิ หาคมของปฏทิ นิ ตรงกบั วนั อาทติ ย์

5. เดอื นทล่ี งทา้ ยดว้ ยคาวา่ “คม” เชน่ มกราคม มนี าคม พฤษภาคม จะมี 31 วนั
วนั
6. เดอื นทล่ี งทา้ ยดว้ ยคาวา่ “ยน” เชน่ เมษายน มถิ ุนายน กนั ยายน จะมี 30 วนั

7. เดอื น กุมภาพนั ธ์ ในปฏทิ นิ จะมจี านวนวนั แตกต่างจากเดอื นอน่ื ๆ คอื มี 29

8. เดอื นทม่ี ี 31 วนั มที งั้ หมด 7 เดอื น

9. เดอื นทม่ี ี 30 วนั มที งั้ หมด 4 เดอื น

10. เดอื นทม่ี ี 29 วนั มที งั้ หมด 1 เดอื น

สัปดาหท์ ่ี 3

โรงเรยี นขจรเกียรติพฒั นา

แผนการจัดการเรยี นรู้

ภาคเรยี นท่ี ……1…/………... ช่ือผสู้ อน ….………………….........................………………………….

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ประวตั ิศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 1 จานวน 1 คาบ

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 1 ช่วงเวลาและการเรยี งลาดบั เหตกุ ารณ์ เร่ือง วนั แบบสุรยิ คติ

1. มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตวั ชว้ี ัด
มาตรฐาน ส 4.1 เขา้ ใจความหมาย ความสาคัญของเวลาและยุคสมัยทางประวัตศิ าสตร์ สามารถใช้

วิธกี ารทางประวตั ศิ าสตรม์ าวิเคราะหเ์ หตกุ ารณ์ตา่ งๆ อยา่ งเปน็ ระบบ
ตัวชว้ี ดั ป.1/1 ใชค้ าระบเุ วลาทีแ่ สดงเหตุการณใ์ นอดีต ปจั จุบัน และอนาคต

2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
ปฏิทนิ ทใ่ี ชใ้ นชวี ติ ประจาวันน้นั สามารถใชบ้ อกวนั ตามแบบสุรยิ คติ

3. จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. ชอ่ื วัน เดอื น ปี ตามระบบสุรยิ คตทิ ปี่ รากฏในปฏิทิน(K)
2. ชอ่ื วัน เดือน ปี ตามระบบสุรยิ คติทป่ี รากฏในปฏทิ นิ (A)
3. นกั เรียนสามารถชือ่ วนั เดอื น ปี ตามระบบสรุ ิยคติท่ปี รากฏในปฏทิ ิน(P)

4. สาระการเรียนรู้

สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง สาระการเรียนรูท้ อ้ งถ่นิ

1)ชอ่ื วนั เดอื น ปี ตามระบบสุริยคติทป่ี รากฏใน พจิ ารณาตามหลกั สตู รของสถานศกึ ษา

ปฏทิ ิน

2)ชื่อ วัน เดอื น ปี ตามระบบจันทรคตทิ ่ปี รากฏ

ในปฏทิ นิ

3)ชว่ งเวลาทใ่ี ช้ในชีวิตประจาวนั เช่น วนั น้ี ตอน

เช้า ตอนเยน็

5. กจิ กรรมการเรยี นรู้

คาบท่ี 1

ขั้นนา

ขน้ั กระตุ้นความสนใจ

1. ครูให้นกั เรียนดปู ฏทิ ินขนาดใหญท่ แ่ี สดงเดอื นครบทั้ง 12 เดอื น ของปีปัจจบุ ัน แล้วให้นักเรียนรว่ มกนั
ตอบคาถามตามประเดน็ ที่กาหนด ดังน้ี
I. ปฏทิ ินนีเ้ ป็นปฏทิ นิ ปพี ทุ ธศักราชใด และตรงกบั ครสิ ต์ศักราชใด
II. ปฏิทนิ นม้ี ีท้ังหมดกีเ่ ดอื น อะไรบา้ ง

III. ใน 1 สัปดาห์ มีทงั้ หมดกีว่ นั อะไรบา้ ง
IV. วันแรกของสัปดาห์คอื วนั อะไร และวันสุดทา้ ยของสปั ดาห์ คอื วนั อะไร
2. ครูใหน้ กั เรียนดบู ตั รคาช่ือวันทัง้ 7 วันใน 1 สัปดาห์ แล้วให้นกั เรยี นฝกึ อา่ น 1 รอบ
3. นักเรียนตอบคาถามกระตุ้นความคดิ

ขัน้ สอน

ขัน้ สารวจคน้ หา

1. นักเรียนศกึ ษาความรู้เกยี่ วกบั วนั ตามแบบสุรยิ คติ จากหนังสือเรยี น จากนนั้ ให้นักเรยี นแบง่ กลุม่
กลมุ่ ละ 7 คน ตามวันเกิดของตนเอง โดยเรยี งลาดับจากวนั อาทิตย์-วนั เสาร์ แล้วนง่ั รวมกนั เป็นแถว

2. ครนู าบตั รคาชอื่ วนั ใน 1 สัปดาห์ มาติดทีห่ นา้ แถวของนกั เรียนตาม วันทน่ี กั เรียนเกิด
3. ครูแจง้ ใหน้ กั เรยี นทราบถงึ ชือ่ เกม “วันเกิดของฉัน” แล้วช้ีแจงกตกิ า และข้นั ตอนการเล่นเกม
4. ครสู าธติ การเลน่ เกมวันเกิดของฉัน โดยใหน้ ักเรียนรว่ มกนั ร้องเพลง และปรบมอื ตามจังหวะ

ปรบมือ 3 ครัง้ ปรบให้ดงั กว่านี้
ปรบใหมอ่ ีกที ปรบให้ดกี วา่ เดมิ

5.ครูเปลีย่ นจงั หวะการปรบมอื เปน็ 1, 3, 5 คร้ัง ตามความเหมาะสม โดยใหน้ ักเรยี นฝกึ ซ้อมการเลน่ เกม 2-3
ครั้ง กอ่ นเลน่ เกม

ขั้นสรุป

ข้นั ขยายความเข้าใจ
ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปความรทู้ ่ีได้จากการปฏบิ ัตกิ ิจกรรมวา่ ทาใหส้ ามารถนบั วนั ตามแบบสุริยคตไิ ด้

6. การวัดและประเมนิ ผล

การวดั และประเมนิ ผล วิธีการวดั ผล เคร่ืองมอื วดั เกณฑ์การ
จุดประสงค์ ประเมนิ ผล
ร้อยละ 60 ผ่าน
ความร้คู วาม การทากิจกรรม การทากิจกรรม เกณฑ์
เข้าใจ (K) ระดบั คณุ ภาพ
ทักษะ/ สังเกตพฤตกิ รรมการทางาน แบบสงั เกตพฤติกรรม รอ้ ยละ 60 ผา่ น
กระบวนการ (P) รายบคุ คล การทางานรายบคุ คล เกณฑ์
ระดับคณุ ภาพ
คณุ ลกั ษณะนิสยั (A) สังเกตความมวี ินยั ใฝเ่ รียนรู้ และมี แบบประเมนิ รอ้ ยละ 60 ผา่ น
เกณฑ์
จิตสาธารณะ คุณลักษณะอนั พึง

ประสงค์

7. ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้
7.1 ส่ือการเรยี นรู้

1) หนงั สือเรียน ประวัตศิ าสตร์ ป.1
2) เอกสารประกอบการสอน
3) ปฏิทิน
4) บัตรคา
7.2 แหล่งการเรียนรู้
1) หอ้ งเรียน
2) หอ้ งสมุด
3) อินเทอร์เนต็
8. กิจกรรมเสนอแนะ
-

ลงช่อื ............................................ครูผู้สอน ลงชอ่ื ...................................................ฝ่ายวชิ าการ

(...........................................................) (...........................................................)

ลงชื่อ................................................... ผบู้ รหิ าร
(...........................................................)

เอกสารประกอบการสอน

เกมวนั เกดิ ของฉนั

ขนั้ ตอนกำรจดั กิจกรรม

1. นกั เรยี นแบ่งกลุ่ม กลุม่ ละ 7 คน ตามวนั เกดิ ของตนเอง โดยเรยี งลาดบั จากวนั อาทติ ย-์ วนั เสาร์ จากนนั้
นงั่ รวมกนั เป็นแถว แลว้ ครนู าบตั รคาประจาวนั เกดิ ไปตดิ ทห่ี น้าแถวของนกั เรยี น

2. ครฝู ึกใหน้ กั เรยี นปรบมอื ตามจงั หวะเพลงทค่ี รรู อ้ ง ดงั น้ี
“ปรบมอื 3 ครงั้ ปรบใหด้ งั กวา่ น้ี ปรบใหมอ่ กี ที ปรบใหด้ กี วา่ เดมิ ”

3. ครสู าธติ การเลน่ เกม โดยใหน้ กั เรยี นทเ่ี กดิ ในวนั ตา่ งๆ เตรยี มพรอ้ มปรบมอื ตามจงั หวะเพลงและตามวนั ท่ี
ตนเองเกดิ

4. ครเู ปลย่ี นจงั หวะการปรบมอื เป็น 1, 3, 5 ครงั้ ไดต้ ามความเหมาะสม โดยใหน้ กั เรยี นฝึกซอ้ มการเลน่ เกม
2-3 ครงั้ ก่อนเลน่ เกม

5. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั รอ้ งเพลงและปรบมอื เขา้ จงั หวะ
“ปรบมอื 5 ครงั้ ปรบใหด้ งั กวา่ น้ี ปรบใหมอ่ กี ที ปรบใหด้ กี วา่ เดมิ ”

6. ครรู อ้ งเพลง โดยใชค้ าวา่ “ใครเกดิ วนั อาทติ ย”์ แทนคาวา่ “ปรบมอื 5 ครงั้ ” แลว้ ใหน้ กั เรยี นทเ่ี กดิ วนั อาทติ ย์
ยนื ขน้ึ ปรบมอื ดงั น้ี
“ใครเกดิ วนั อาทติ ย์ ปรบใหด้ งั กวา่ น้ี ปรบใหมอ่ กี ที ปรบใหด้ กี วา่ เดมิ ”

7. ครรู อ้ งเพลง โดยใชค้ าวา่ “ใครเกดิ วนั พธุ ” แทนคาวา่ “ปรบมอื 5 ครงั้ ” แลว้ ใหน้ กั เรยี นทเ่ี กดิ วนั พธุ ยนื ขน้ึ
ปรบมอื ดงั น้ี
“ใครเกดิ วนั พธุ ปรบใหด้ งั กวา่ น้ี ปรบใหมอ่ กี ที ปรบใหด้ กี วา่ เดมิ ”

8. ครรู อ้ งเพลง โดยใชค้ าวา่ “ใครเกดิ วนั ศุกร”์ แทนคาวา่ “ปรบมอื 5 ครงั้ ” แลว้ ใหน้ กั เรยี นทเ่ี กดิ วนั ศกุ รย์ นื ขน้ึ
ปรบมอื ดงั น้ี
“ใครเกดิ วนั ศกุ ร์ ปรบใหด้ งั กวา่ น้ี ปรบใหมอ่ กี ที ปรบใหด้ กี วา่ เดมิ ”

9. ครรู อ้ งเพลงเชน่ น้ีจนครบทกุ วนั หรอื อาจเรยี กซ้า หรอื ปรบั จงั หวะเพลงใหเ้ รว็ ขน้ึ ไดต้ ามความเหมาะสม
10. ครสู งั เกตการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมของนกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ วา่ นกั เรยี นสามารถปฏบิ ตั กิ จิ กรรมไดเ้ รว็ ชา้

พรอ้ มเพรยี ง หรอื ไมพ่ รอ้ มเพรยี ง (ถา้ หากนกั เรยี นกลุม่ ใดปฏบิ ตั กิ จิ กรรมไดช้ า้ หรอื ไมพ่ รอ้ มเพรยี ง
จะตอ้ งออกมารอ้ งเพลงเป็ด พรอ้ มแสดงท่าทางประกอบ)

บตั รคา 

วนั อำทิตย์
วนั จนั ทร์
วนั องั คำร
วนั พธุ
วนั พฤหสั บดี
วนั ศกุ ร์
วนั เสำร์

สปั ดาห์ท่ี 4

โรงเรียนขจรเกียรติพฒั นา

แผนการจัดการเรยี นรู้

ภาคเรียนที่ ……1…/………... ช่อื ผสู้ อน ….…………………………………….........................……….

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ประวตั ศิ าสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 1 จานวน 1 คาบ

หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 1 ชว่ งเวลาและการเรยี งลาดบั เหตกุ ารณ์ เรอ่ื ง เดือนแบบสรุ ยิ คติ

1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชวี้ ัด
มาตรฐาน ส 4.1 เข้าใจความหมาย ความสาคัญของเวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ สามารถใช้

วธิ กี ารทางประวตั ิศาสตรม์ าวิเคราะหเ์ หตุการณ์ต่างๆ อย่างเปน็ ระบบ
ตวั ชว้ี ดั ป.1/1 ใช้คาระบเุ วลาที่แสดงเหตกุ ารณ์ในอดีต ปัจจบุ นั และอนาคต

2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด

ปฏิทนิ ทีใ่ ชใ้ นชีวติ ประจาวนั นน้ั สามารถใช้บอกเดอื นตามแบบสรุ ิยคติ

3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
1. อ่านชอื่ เดอื นตามแบบสรุ ิยคตไิ ด้(K)
2. อธิบายเดอื นแบบสุรยิ คติได้ (A)
3. นกั เรียนสามารถอธบิ ายเดอื นแบบสรุ ยิ คติได้ (P)

4. สาระการเรยี นรู้

สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรียนร้ทู ้องถน่ิ

1)ช่อื วนั เดอื น ปี ตามระบบสรุ ยิ คตทิ ่ีปรากฏใน พจิ ารณาตามหลกั สตู รของสถานศกึ ษา

ปฏทิ ิน

2)ชอ่ื วนั เดอื น ปี ตามระบบจันทรคตทิ ่ปี รากฏ

ในปฏทิ นิ

3)ชว่ งเวลาท่ีใช้ในชวี ติ ประจาวนั เชน่ วันน้ี ตอน

เช้า ตอนเยน็

5. กจิ กรรมการเรยี นรู้

คาบที่ 1

ขัน้ นา

ขน้ั กระตุ้นความสนใจ

1. ครูให้นักเรียนดปู ฏทิ ินขนาดใหญ่ท่แี สดงเดือนครบทง้ั 12 เดือน

ของปีปัจจบุ ัน

2. ครใู หน้ กั เรยี นรว่ มกันสังเกต แล้วตอบคาถามตามประเดน็ ท่กี าหนด ดงั น้ี

1.ปฏทิ นิ นี้เปน็ ปฏิทินปพี ุทธศักราชใด และตรงกบั คริสต์ศกั ราชใด

2.ใน 1 ปี มีกเ่ี ดือน อะไรบา้ ง

3.เดือนแรกของปีในปฏิทนิ คอื เดือนอะไร

4.เดอื นสดุ ทา้ ยของปใี นปฏทิ นิ คอื เดอื นอะไร

3. ครูอธิบายใหน้ กั เรียนเข้าใจว่า ใน 1 ปี มี 12 เดอื น ดงั น้ี

1) เดือนมกราคม 2) เดือนกมุ ภาพันธ์

3) เดือนมนี าคม 4) เดือนเมษายน

5) เดอื นพฤษภาคม 6) เดอื นมิถุนายน

7) เดอื นกรกฎาคม 8) เดอื นสงิ หาคม

9) เดือนกันยายน 10) เดอื นตลุ าคม

11) เดอื นพฤศจิกายน 12) เดือนธันวาคม

ขน้ั สอน

ข้นั สารวจคน้ หา

1. ครูตดิ บัตรคาช่ือเดือนทง้ั 12 เดอื น ลงบนกระดานด้านซา้ ยมือจากน้นั ใหน้ ักเรียนฝึกอ่านตาม 1 รอบ แล้ว
ตอบคาถามตามประเดน็ ท่กี าหนด ดงั น้ี
1) เดอื นใด มี 28 หรือ 29 วนั
2) เดือนใด มี 30 วัน
3) เดือนใด มี 31 วนั

2.ครูให้นกั เรียนนาบัตรคาช่อื เดือนท้ัง 12 เดือน บนกระดานด้านซ้ายมอื มาตดิ บนกระดานด้านขวามอื โดยคดั
แยกเปน็ 3 กลุ่ม คอื เดอื นทม่ี ี 28 หรอื 29 วนั เดือนท่มี ี 30 วนั และเดอื นทม่ี ี 31 วัน

3. ครใู ห้นกั เรยี นสงั เกตความสมั พนั ธข์ องจานวนวนั กับคาลงท้ายของแต่ละเดือน

4. นกั เรยี นตอบคาถามกระตุน้ ความคดิ ข้อ 1-2
5. นกั เรยี นศกึ ษาความรเู้ กยี่ วกบั เดอื นแบบสรุ ิยคติ จากหนงั สือเรียน แลว้ ทาใบงานท่ี 3.1 เร่ือง เดือนแบบ
สรุ ิยคติ โดยให้นกั เรียน แตล่ ะคนคิดหาคาตอบด้วยตนเองก่อน แล้วจึงจับคกู่ ับเพอื่ นเพือ่ อภิปรายคาตอบ
6.ครูสุ่มเรียกนักเรียน 2-3 คู่ ออกมานาเสนอคาตอบในใบงานท่ี 3.1 หนา้ ชน้ั เรียน โดยครแู ละเพื่อนเป็น
ผ้ตู รวจสอบความถกู ต้อง

ขน้ั สรปุ

ขนั้ ขยายความเขา้ ใจ

1. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั สรปุ ความรเู้ กี่ยวกับเดือนแบบสุรยิ คติจนไดว้ า่ เดือนแบบสรุ ิยคติมีทัง้ หมด 12
เดอื น เริ่มนับเดือนมกราคมเป็นเดือนแรกและนบั เดือนธนั วาคมเป็นเดอื นสุดทา้ ย โดยแตล่ ะเดอื น จะมี
จานวนวันแตกตา่ งกันไปซึง่ สามารถสังเกตไดจ้ ากคาลงท้ายของเดอื น ดังน้ี
1) เดือนทลี่ งทา้ ยดว้ ยคาวา่ “พันธ์” จะมี 28 หรอื 29 วัน
2) เดอื นที่ลงท้ายดว้ ยคาวา่ “ยน” จะมี 30 วัน
3) เดือนท่ีลงทา้ ยดว้ ยคาว่า “คม” จะมี 31 วัน

2. นกั เรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคิด
6. การวัดและประเมินผล

การวัดและประเมนิ ผล วธิ ีการวัดผล เคร่ืองมือวดั เกณฑก์ าร
ประเมนิ ผล
7. จุดประสงค์ การทากจิ กรรม ร้อยละ 60 ผา่ น
ใบงานท่ี 3.1 เกณฑ์
ความรคู้ วาม การทากิจกรรม แบบสังเกตพฤตกิ รรม ระดบั คณุ ภาพ
เขา้ ใจ (K) ใบงานท่ี 3.1 การทางานรายบุคคล ร้อยละ 60 ผา่ น
ทกั ษะ/ สังเกตพฤตกิ รรมการทางาน เกณฑ์
กระบวนการ (P) รายบุคคล ระดับคณุ ภาพ
รอ้ ยละ 60 ผา่ น
คณุ ลกั ษณะนิสัย (A) สังเกตความมวี นิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ และมี แบบประเมนิ เกณฑ์

จติ สาธารณะ คุณลักษณะอนั พงึ

ประสงค์

สือ่ /แหลง่ การเรียนรู้
7.1 สื่อการเรียนรู้

1) หนงั สอื เรียน ประวตั ิศาสตร์ ป.1
2) ปฏิทิน
3) บตั รคา
4) ใบงานท่ี 3.1 เรอ่ื ง เดือนแบบสรุ ิยคติ
7.2 แหลง่ การเรียนรู้
1) หอ้ งเรยี น
2) ห้องสมุด
3) อนิ เทอร์เน็ต
8. กจิ กรรมเสนอแนะ
-

ลงชอื่ ............................................ครผู สู้ อน ลงชอ่ื ...................................................ฝ่ายวชิ าการ

(...........................................................) (...........................................................)

ลงช่ือ................................................... ผบู้ ริหาร
(...........................................................)

บตั รคา กมุ ภำพนั ธ์ 
เมษำยน
มกรำคม มิถนุ ำยน
มีนำคม สิงหำคม
พฤษภำคม ตลุ ำคม
กรกฎำคม ธนั วำคม
กนั ยำยน
พฤศจิกำยน

ใบงานที่ 3.1 เรือ่ ง เดือนแบบสุริยคติ

คำชี้แจง ใหน้ กั เรยี นหาช่อื เดอื นแบบสรุ ยิ คติ จากนนั้ ระบายสคี าตอบ แลว้ ตอบคาถามใหถ้ กู ตอ้ ง
ตุ อ ป ธั น ว า ค ม ร ก จ กุ ม ภ า พั น ธ์ ง
ล น ถุ ย บ ล ฟ ห ก ด เ ธั า ส ว ง เ ผ ป แ
า อ น ท สิ ง ห า พ ม น สิ ใ ฝ ร น ม ด อ า
ค ถ ก ต ใ เ า ค ฤ พ แ ง ฤ ฉ อ ย ฉ มี ข น
ม ก ร า ค ม ฏ ย ษ ม ภ ห ม ถ น ย น น ด กั
ค ข ก น ช ษ า ย ภ ฉ อ า ไ ใ มิ ถุ น า ย น
มพฎษฤาญฐ า ดนคม เ ษามคนย
กบา รสยคมคมธมรกรฎคมาา
อ ค ค ร ข น พ พ ม ะ ไ ม ธั ว า ค ม น ถุ ย
น ก ม ฤ ศ จิ ก า ย น ส ม พ ฤ ศ จิ ก า ย น

เดอื นทม่ี ี 30 วนั มเี ดอื นอะไรบา้ ง

เดอื นทม่ี ี 31 วนั มเี ดอื นอะไรบา้ ง

เดอื นทม่ี ี 28 หรอื 29 วนั คอื เดอื นอะไร

ใบงานท่ี 3.1 เรื่อง เดือนแบบสุริยคติ เฉลย

คำชี้แจง ใหน้ กั เรยี นหาช่อื เดอื นแบบสรุ ยิ คติ จากนนั้ ระบายสคี าตอบ แลว้ ตอบคาถามใหถ้ ูกตอ้ ง

ตุ อ ป ธั น ว า ค ม ร ก จ กุ ม ภ า พั น ธ์ ง
ล น ถุ ย บ ล ฟ ห ก ด เ ธั า ส ว ง เ ผ ป แ
า อ น ท สิ ง ห า พ ม น สิ ใ ฝ ร น ม ด อ า
ค ถ ก ต ใ เ า ค ฤ พ แ ง ฤ ฉ อ ย ฉ มี ข น
ม ก ร า ค ม ฏ ย ษ ม ภ ห ม ถ น ย น น ด กั
ค ข ก น ช ษ า ย ภ ฉ อ า ไ ใ มิ ถุ น า ย น
มพฎษฤาญฐ า ดนคม เ ษามคนย
กบา รสยคมคมธมรกรฎคมาา
อ ค ค ร ข น พ พ ม ะ ไ ม ธั ว า ค ม น ถุ ย
น ก ม ฤ ศ จิ ก า ย น ส ม พ ฤ ศ จิ ก า ย น

เดอื นทม่ี ี 30 วนั มเี ดอื นอะไรบา้ ง
เมษายน มถิ ุนายน กนั ยายน พฤศจกิ ายน

เดอื นทม่ี ี 31 วนั มเี ดอื นอะไรบา้ ง
มกราคม มนี าคม พฤษภาคม กรกฎาคม สงิ หาคม ตุลาคม ธนั วาคม

เดอื นทม่ี ี 28 หรอื 29 วนั คอื เดอื นอะไร
กุมภาพนั ธ์

สปั ดาห์ท่ี 5

โรงเรียนขจรเกียรติพฒั นา

แผนการจัดการเรียนรู้

ภาคเรยี นท่ี ……1…/………... ชอ่ื ผสู้ อน ….………………………….........................………………….

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ประวตั ศิ าสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 1 จานวน 1 คาบ

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1 ช่วงเวลาและการเรยี งลาดับเหตุการณ์ เรอื่ ง เวลาแบบจันทรคติ

1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชวี้ ัด
มาตรฐาน ส 4.1 เข้าใจความหมาย ความสาคัญของเวลาและยคุ สมัยทางประวัติศาสตร์ สามารถใช้

วิธีการทางประวัตศิ าสตรม์ าวเิ คราะห์เหตุการณต์ ่างๆ อยา่ งเป็นระบบ
ตวั ชวี้ ดั ป.1/1 ใช้คาระบเุ วลาทแ่ี สดงเหตกุ ารณ์ในอดตี ปัจจบุ นั และอนาคต

2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
ปฏิทินที่ใช้ในชีวติ ประจาวันนนั้ สามารถใช้บอกวนั เดือน ปี และการนบั ช่วงเวลาตามแบบจันทรคติ

3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
1. บอกชอื่ วนั แบบจันทรคติได้ (K)
2. บอกช่ือเดือนแบบจนั ทรคตไิ ด้(A)
3. นกั เรียนสามารถบอกช่อื วนั และบอกช่ือเดือนแบบจันทรคตไิ ด้(P)

4. สาระการเรียนรู้

สาระการเรยี นร้แู กนกลาง สาระการเรียนรทู้ อ้ งถิน่

1)ช่ือ วนั เดอื น ปี ตามระบบสรุ ิยคตทิ ป่ี รากฏใน พิจารณาตามหลักสตู รของสถานศึกษา

ปฏทิ นิ

2)ชือ่ วัน เดอื น ปี ตามระบบจนั ทรคติท่ีปรากฏ

ในปฏทิ นิ

3)ชว่ งเวลาท่ใี ช้ในชวี ติ ประจาวัน เช่น วนั นี้ ตอน

เช้า ตอนเยน็

5. กิจกรรมการเรยี นรู้

คาบท่ี 1

ข้ันนา

ขน้ั กระตุ้นความสนใจ

1. ครใู หน้ กั เรยี นดูบัตรภาพการเกิดข้างข้นึ ข้างแรม แลว้ ให้นกั เรียนรว่ มกนั แสดงความคิดเห็นตามประเดน็
ทีก่ าหนด ดงั น้ี
-นกั เรยี นเคยสงั เกตดวงจันทรใ์ นแต่ละวนั หรือไม่
-ดวงจนั ทร์มีลักษณะอย่างไร
-นักเรยี นเหน็ การเปล่ียนแปลงของดวงจนั ทรห์ รอื ไม่ อย่างไร

2. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคิด

ขั้นสอน

ข้ันสารวจคน้ หา

1. นกั เรยี นศึกษาความรู้เรือ่ ง ร้จู กั ปฏทิ นิ : แบบจนั ทรคติ จากหนังสือเรยี น
2. ครูให้นกั เรียนดบู ตั รภาพการโคจรรอบโลกของดวงจันทร์ แลว้ ให้นกั เรยี นชว่ ยกันอธิบายและตอบคาถาม

ตามประเด็นทีก่ าหนด ดงั น้ี
1) ดวงจนั ทร์ในวันขา้ งขน้ึ มลี กั ษณะอยา่ งไร
2) ดวงจันทร์ในวันข้างแรม มลี กั ษณะอย่างไร
3) ดวงจันทร์ในวนั เพญ็ หรือวันขนึ้ 15 ค่า มีลักษณะอย่างไร
4) ดวงจนั ทรใ์ นวันแรม หรอื วนั เดือนดับ หรอื วนั แรม 15 ค่า มีลกั ษณะอย่างไร

ข้ันสรุป

ขั้นขยายความเข้าใจ

1. ครเู ขยี นตารางลงบนกระดานหนา้ ช้ันเรียน ดงั นี้

เดอื นแบบจันทรคติ เดอื นแบบสรุ ิยคติ

2. นกั เรยี นชว่ ยกันนาบัตรคาชื่อเดือนแบบจันทรคติและบัตรคา ชอ่ื เดือนแบบสุรยิ คติทัง้ 12 เดอื น มาตดิ
เรยี งลาดบั ลงในตารางใหถ้ กู ตอ้ ง โดยครูนาปฏิทนิ มาให้นักเรียนดูประกอบ นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้
ความคิด ข้อ 1-2

6. การวดั และประเมนิ ผล

การวดั และประเมินผล วธิ กี ารวดั ผล เคร่ืองมอื วัด เกณฑก์ าร
จุดประสงค์ ประเมนิ ผล
ร้อยละ 60 ผ่าน
ความรคู้ วาม การทากจิ กรรม การทากจิ กรรม เกณฑ์
เข้าใจ (K) ระดับคุณภาพ
ทักษะ/ สังเกตพฤตกิ รรมการทางาน แบบสังเกตพฤตกิ รรม รอ้ ยละ 60 ผ่าน
กระบวนการ (P) รายบุคคล การทางานรายบคุ คล เกณฑ์
ระดบั คณุ ภาพ
คณุ ลักษณะนิสยั (A) สังเกตความมวี นิ ัย ใฝเ่ รียนรู้ และมี แบบประเมนิ รอ้ ยละ 60 ผา่ น
เกณฑ์
จติ สาธารณะ คุณลักษณะอนั พึง

ประสงค์

7. ส่ือ/แหลง่ การเรยี นรู้
7.1 สื่อการเรยี นรู้

1) หนังสอื เรยี น ประวัตศิ าสตร์ ป.1
2) บัตรภาพการเกิดข้างข้นึ ข้างแรม
3) บตั รภาพการโคจรรอบโลกของดวงจันทร์
4) บตั รคา
7.2 แหลง่ การเรียนรู้
1) ห้องเรยี น
2) หอ้ งสมุด
3) อนิ เทอร์เนต็

8. กิจกรรมเสนอแนะ
-

ลงชอ่ื ............................................ครผู ู้สอน ลงชอ่ื ...................................................ฝ่ายวชิ าการ

(...........................................................) (...........................................................)

ลงชอ่ื ................................................... ผบู้ ริหาร
(...........................................................)

บตั รภาพ

การเกิดขา้ งข้ ึน ขา้ งแรม 

วนั แรม 8 ค่ำ

วนั แรม 15 ค่า วนั แรม 15
ค่า

วนั ขน้ึ 15 วนั ขน้ึ 3
ค่า ค่า

วนั ขน้ึ 8 ค่า

การโคจรรอบโลกของดาวจนั ทร์

บตั รคา 

เดือนอ้ำย เดือนย่ี
เดือนสำม เดือนสี่
เดือนห้ำ เดือนหก
เดือนเจด็ เดือนแปด
เดือนเก้ำ เดือนสิบ
เดือนสิบเอด็ เดือนสิบสอง

สัปดาห์ท่ี 6

โรงเรยี นขจรเกยี รตพิ ฒั นา

แผนการจัดการเรียนรู้

ภาคเรยี นที่ ……1…/………... ช่อื ผู้สอน ….……………….........................…………………………….

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ประวตั ิศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 1 จานวน 1 คาบ

หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 1 ชว่ งเวลาและการเรยี งลาดับเหตุการณ์ เรื่อง การนับเวลาแบบสุริยคติและจนั ทรคติ

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชวี้ ดั
มาตรฐาน ส 4.1 เขา้ ใจความหมาย ความสาคัญของเวลาและยคุ สมัยทางประวตั ศิ าสตร์ สามารถใช้

วิธกี ารทางประวัติศาสตรม์ าวเิ คราะห์เหตุการณ์ต่างๆ อยา่ งเป็นระบบ
ตัวชว้ี ัด ป.1/1 ใชค้ าระบเุ วลาทแ่ี สดงเหตุการณ์ในอดตี ปจั จบุ นั และอนาคต

2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การนับเวลาแบบสุริยคตแิ ละจันทรคติมปี ระโยชน์ต่อการบอกวัน เดือน ปี และเป็นการนบั ช่วงเวลาตาม

ปฏทิ นิ ทใี่ ชใ้ นชวี ิตประจาวัน
3. จุดประสงค์การเรยี นรู้

1. อธิบายการนับเวลาแบบสรุ ิยคตแิ ละจนั ทรคติได้ (K)
2. เปรยี บเทยี บความเหมอื นและความแตกต่างของการนบั เวลาแบบสุริยคตแิ ละจนั ทรคตไิ ด(้ A)
3. นกั เรยี นสามารถนาความรเู้ กีย่ วกบั การนบั เวลาแบบสุรยิ คตแิ ละจนั ทรคติไปใช้ในชวี ิตประจาวันได(้ P)

4. สาระการเรียนรู้

สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรูท้ อ้ งถ่ิน

1)ชอื่ วนั เดอื น ปี ตามระบบสรุ ิยคติท่ีปรากฏใน พจิ ารณาตามหลกั สตู รของสถานศกึ ษา

ปฏทิ นิ

2)ชื่อ วัน เดอื น ปี ตามระบบจันทรคติท่ปี รากฏ

ในปฏทิ นิ

3)ช่วงเวลาที่ใช้ในชวี ติ ประจาวัน เชน่ วันนี้ ตอน

เช้า ตอนเยน็

5. กจิ กรรมการเรียนรู้

คาบที่ 1

ขนั้ นา

ข้นั กระตนุ้ ความสนใจ
1. ครนู านักเรียนร้องเพลงตบมอื พร้อมปรบมือประกอบเพอ่ื บริหาร สมองและฝกึ สมาธิ
ตบมอื ข้างซ้าย ตบมอื ข้างขวา ทกุ คนสนกุ เริงรา่
ตบมอื ขา้ งขวา ตบมือขา้ งซา้ ย
2. ครทู บทวนความร้เู รือ่ ง รูจ้ กั ปฏทิ นิ พรอ้ มนาปฏิทนิ มาให้นกั เรยี นดปู ระกอบ
3. นักเรียนตอบคาถามกระตุ้นความคิด

ครูนาปฏทิ นิ ทม่ี เี วลาแบบสรุ ิยคตแิ ละจันทรคตใิ นปีปัจจบุ นั มาใหน้ กั เรยี น
ดู แลว้ ให้นักเรยี นรว่ มกันสนทนาเกี่ยวกบั ปฏิทินดังกล่าว

ขน้ั สอน

ขัน้ สารวจคน้ หา
1.ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันวิเคราะห์ลกั ษณะรว่ มของการนบั เวลาแบบ

สุริยคตแิ ละจันทรคติ
2.ครใู หน้ กั เรียนดบู ัตรภาพวนั สาคญั ทางพระพทุ ธศาสนา แล้วร่วมกนั แสดงความคิดเห็นตามประเด็นทีก่ าหนด

ดงั นี้
-ภาพที่นกั เรยี นเห็นเปน็ เหตกุ ารณใ์ ด
- จากเหตกุ ารณ์ในภาพตรงกบั เวลาแบบสุรยิ คติและจนั ทรคตอิ ะไร

ครูและนกั เรยี นร่วมกนั สรปุ ความรู้เก่ียวกบั การนับเวลาแบบสุริยคติ
และจันทรคติ ดังนี้

3.การนับเวลาแบบสรุ ิยคติจะเรมิ่ นบั วันอาทติ ย์เป็นวนั แรกจนกระทง่ั
ถงึ วนั เสาร์ และเร่ิมนบั เดือนมกราคมเป็นเดอื นแรกจนกระทั่งถึงเดือนธันวาคมเปน็ เดือนสุดท้าย
การนบั เวลาแบบจันทรคตจิ ะนบั วนั แบบข้างขึน้ และขา้ งแรม และเรม่ิ นับเดือนอา้ ยเป็นเดือนแรกและนับเดือนสิบ
สองเปน็ เดอื นสดุ ท้าย

ขน้ั สรุป

ข้นั ขยายความเข้าใจ

1. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั สรุปความสาคญั และประโยชน์ของการนบั เวลาแบบสุริยคติและจนั ทรคติจนได้วา่
การนบั เวลาแบบสรุ ยิ คติ

2. และจันทรคติชว่ ยให้เรารเู้ หตกุ ารณท์ ่ีเก่ียวข้องกับชีวิตประจาวัน
3. นักเรียนแต่ละคนทาใบงานที่ 5.1 เรื่อง การนบั เวลาแบบสรุ ิยคติ

และจนั ทรคติ
4. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั เฉลยคาตอบในใบงานท่ี 5.1
5. นกั เรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ

6. การวัดและประเมนิ ผล

การวัดและประเมนิ ผล วธิ ีการวัดผล เครอ่ื งมือวดั เกณฑก์ าร
จุดประสงค์ ประเมนิ ผล
ร้อยละ 60 ผา่ น
ความรู้ความ การทากิจกรรม การทากิจกรรม เกณฑ์
เข้าใจ (K) ใบงานที่ 5.1 ใบงานท่ี 5.1 ระดับคุณภาพ
ทกั ษะ/ สังเกตพฤติกรรมการทางาน แบบสังเกตพฤติกรรม ร้อยละ 60 ผา่ น
กระบวนการ (P) รายบุคคล การทางานรายบคุ คล เกณฑ์
ระดับคณุ ภาพ
คณุ ลักษณะนิสยั (A) สังเกตความมีวนิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ และมี แบบประเมิน ร้อยละ 60 ผ่าน
เกณฑ์
จิตสาธารณะ คณุ ลักษณะอนั พึง

ประสงค์

7. สือ่ /แหลง่ การเรยี นรู้
7.1 สือ่ การเรยี นรู้

1) หนังสอื เรยี น ประวัติศาสตร์ ป.1
2) เพลงตบมอื
3) ปฏิทนิ
4) บตั รภาพวันสาคัญทางพระพทุ ธศาสนา
5) ใบงานท่ี 5.1 เรอื่ ง การนบั เวลาแบบสรุ ยิ คตแิ ละจันทรคติ

7.2 แหล่งการเรียนรู้
1) หอ้ งเรยี น
2) หอ้ งสมุด
3) อินเทอร์เนต็

8. กิจกรรมเสนอแนะ
-

ลงชอื่ ............................................ครูผสู้ อน ลงชอื่ ...................................................ฝ่ายวชิ าการ

(...........................................................) (...........................................................)

ลงชื่อ................................................... ผูบ้ รหิ าร
(...........................................................)

บตั รภาพ วันสาคัญทางพระพุทธศาสนา



ภำพท่ี 1 ภำพท่ี 2
ภำพที่ 3 ภำพท่ี 4

ใบงานท่ี 5.1 เรือ่ ง การนบั เวลาแบบสรุ ิยคติและจันทรคติ

คำชี้แจง ใหน้ กั เรยี นศกึ ษาปฏทิ นิ แลว้ ตอบคาถามใหถ้ กู ตอ้ ง

พฤศจิกำยน 2555

อำทิตย์ จนั ทร์ องั คำร พธุ พฤหสั บดี ศกุ ร์ เสำร์

123

456789 10
17
แรม 8 ค่า เดอื น 11 24

11 12 13 14 15 16 .

แรม 14 ค่า เดอื น 11

18 19 20 21 22 23

ขน้ึ 8 ค่า เดอื น 12

25 26 27 วั 28 29 30
วนั ลอยกระทง
ขน้ึ 15 ค่า เดอื น
12

1. ปฏทิ นิ น้ีเป็นเดอื น ปีพทุ ธศกั ราช .

2. เดอื นน้ีมี วนั

3. วนั ลอยกระทง ตรงกบั วนั ท่ี เดอื น .ปีพทุ ธศกั ราช
ตามแบบ .ตามแบบจนั ทรคติ
เดอื น
สรุ ยิ คติ และตรงกบั วนั .วนั ดงั น้ี

4. ในเดอื นน้ีมวี นั พระทงั้ หมด

ใบงานที่ 5.1 เรื่อง การนบั เวลาแบบสุริยคติและจนั ทรคติ เฉลย

คำชี้แจง ใหน้ กั เรยี นศกึ ษาปฏทิ นิ แลว้ ตอบคาถามใหถ้ กู ตอ้ ง

พฤศจิกำยน 2555

อำทิตย์ จนั ทร์ องั คำร พธุ พฤหสั บดี ศกุ ร์ เสำร์

123

4 5 6 7 8 9 10

แรม 8 ค่า เดอื น 11

11 12 13 14 15 16 17

แรม 14 ค่า เดอื น 11

18 19 20 21 22 23 24

ขน้ึ 8 ค่า เดอื น 12

25 26 27 วั 28 29 30
วนั ลอยกระทง
ขน้ึ 15 ค่า เดอื น
12

1. ปฏทิ นิ น้ีเป็นเดอื น พฤศจกิ ายน ปีพทุ ธศกั ราช 2555 .
พฤศจกิ ายน ปีพทุ ธศกั ราช
2. เดอื นน้ีมี 30 วนั
ตามแบบจนั ทรคติ
3. วนั ลอยกระทง ตรงกบั วนั พธุ ท่ี 28 เดอื น 2555
ตามแบบ

สรุ ยิ คติ และตรงกบั วนั ขน้ึ 15 คา่ เดอื น 12

4. ในเดอื นน้ีมวี นั พระทงั้ หมด 4 .วนั ดงั น้ี

1) แรม 8 คา่ เดอื น 11

2) แรม 14 คา่ เดอื น 11

3) ขน้ึ 8 คา่ เดอื น 12

4) ขน้ึ 15 คา่ เดอื น 12

สปั ดาห์ท่ี 7-8

โรงเรยี นขจรเกยี รติพฒั นา

แผนการจดั การเรียนรู้

ภาคเรยี นท่ี ……1…/………... ชอื่ ผู้สอน ….………………………….........................………………….

กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 1 จานวน 2 คาบ

หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 1 ช่วงเวลาและการเรยี งลาดบั เหตุการณ์ เรอื่ ง ปฏิทินบอกความสาคญั ของวนั สาคัญ

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชว้ี ดั
มาตรฐาน ส 4.1 เข้าใจความหมาย ความสาคญั ของเวลาและยุคสมัยทางประวัตศิ าสตร์ สามารถใช้

วิธกี ารทางประวัติศาสตรม์ าวเิ คราะหเ์ หตุการณ์ตา่ งๆ อย่างเป็นระบบ
ตวั ชว้ี ดั ป.1/1 ใชค้ าระบเุ วลาทแี่ สดงเหตุการณ์ในอดตี ปจั จุบัน และอนาคต

2. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด
ปฏทิ นิ มคี วามสาคัญในการบอกวันสาคัญตา่ งๆ เพอื่ ใหเ้ รารู้และเข้ารว่ มกจิ กรรมในวนั สาคัญนน้ั ได้ถกู ตอ้ ง

3. จุดประสงค์การเรียนรู้
1. อธิบายความสาคัญของปฏทิ ินในการบอกวนั สาคัญได้ (K)
2. อธิบายความสาคญั ของปฏทิ ินในการบอกวันสาคัญได้ (A)
3. นกั เรยี นสามารถอธบิ ายความสาคัญของปฏทิ นิ ในการบอกวันสาคัญได้ (P)

4. สาระการเรยี นรู้

สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนร้ทู ้องถ่นิ

1)ชือ่ วนั เดอื น ปี ตามระบบสุริยคติทปี่ รากฏใน พิจารณาตามหลักสูตรของสถานศึกษา

ปฏิทิน

2)ช่ือ วัน เดอื น ปี ตามระบบจนั ทรคติทปี่ รากฏ

ในปฏิทิน

3)ชว่ งเวลาทใ่ี ชใ้ นชวี ิตประจาวนั เชน่ วันนี้ ตอน

เช้า ตอนเย็น

5. กิจกรรมการเรียนรู้ คาบท่ี 1
ขนั้ นา

ข้ันกระตุน้ ความสนใจ

1. ครใู ห้นกั เรียนดบู ัตรภาพวนั สาคญั ตา่ งๆ แล้วรว่ มกนั วเิ คราะห์ ตามประเดน็ ทก่ี าหนด ดังน้ี
1. ภาพแต่ละภาพเป็นเหตกุ ารณใ์ ด
2. เหตุการณใ์ นภาพเกดิ ข้ึนในวนั อะไร

2. ครอู ธิบายใหน้ ักเรียนเข้าใจเกย่ี วกบั เหตุการณ์ในภาพ แล้วให้นกั เรยี นศกึ ษาปฏทิ ินทคี่ รนู ามาใหด้ ูเพ่ือ
เชื่อมโยงเหตุการณ์และวันสาคญั น้ันๆ

3.นักเรียนตอบคาถามกระตุ้นความคิด

ขน้ั สอน

ข้ันสารวจคน้ หา
1. นักเรยี นรวมกลุม่ เดมิ (จากแผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 1) แลว้ ร่วมกันศกึ ษาความรู้เร่อื ง ความสาคญั ของ
ปฏทิ ิน : ปฏิทนิ บอกความสาคัญของวนั สาคัญ จากหนังสือเรยี น
2. นกั เรยี นตอบคาถามกระตุ้นความคิด ขอ้ 1

ขน้ั สรปุ

ขน้ั ขยายความเข้าใจ
ครูให้นักเรยี นแตล่ ะกลุม่ ทาใบงานที่ 6.1 เร่อื ง วันสาคญั ของปี

คาบท่ี 2

ขน้ั นา

ขนั้ กระตุ้นความสนใจ
1.นักเรยี นแต่ละกลมุ่ รว่ มกันวิเคราะห์และประเมนิ คา่ ความรเู้ พ่ือพจิ ารณาหาคาตอบในใบงานที่ 6.1
2.ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันเฉลยคาตอบในใบงานท่ี 6.1 แล้วครูอธบิ ายเพ่มิ เตมิ จนนักเรยี นมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจ
3. นกั เรียนตอบคาถามกระตุ้นความคดิ ขอ้ 2

ขนั้ สอน

ข้นั สารวจคน้ หา
1. ครใู ห้นกั เรยี นแต่ละกลุ่มค้นหาวนั สาคัญต่างๆ ในปฏิทนิ ตัวแทนแต่ละกลุ่มออกมานาเสนอผลงานหน้าชน้ั
เรียน

ข้นั สรุป

ขัน้ ขยายความเข้าใจ
ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั สรุปความรูเ้ รอื่ ง ความสาคญั ของปฏทิ นิ : ปฏิทนิ บอกความสาคญั ของวันสาคญั

จนได้ว่า ปฏิทินช่วยใหร้ ถู้ ึงวันสาคัญต่างๆ ของปีทเ่ี กีย่ วขอ้ งกับชีวติ ประจาวนั

6. การวดั และประเมินผล

การวดั และประเมนิ ผล วิธีการวัดผล เครือ่ งมือวัด เกณฑ์การ
จุดประสงค์ ประเมนิ ผล
รอ้ ยละ 60 ผา่ น
ความรคู้ วาม ตรวจใบงานท่ี 6.1 ใบงานที่ 6.1 เกณฑ์
เข้าใจ (K) ระดบั คุณภาพ
ทกั ษะ/ สงั เกตพฤตกิ รรมการทางาน แบบสังเกตพฤติกรรม รอ้ ยละ 60 ผ่าน
กระบวนการ (P) รายบคุ คล การทางานรายบุคคล เกณฑ์
ระดบั คุณภาพ
คณุ ลกั ษณะนสิ ัย (A) สงั เกตความมวี นิ ัย ใฝเ่ รยี นรู้ และมี แบบประเมนิ รอ้ ยละ 60 ผา่ น
เกณฑ์
จิตสาธารณะ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ

ประสงค์

7. สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้

7.1 สื่อการเรยี นรู้
1) หนังสอื เรียน ประวัตศิ าสตร์ ป.1
2) บัตรภาพวนั สาคัญต่างๆ
3) ปฏทิ นิ
4) ใบงานที่ 6.1 เรอ่ื ง วนั สาคัญของปี

7.2แหลง่ การเรยี นรู้
1) หอ้ งเรียน
2) ห้องสมดุ
3) อนิ เทอร์เน็ต

8. กิจกรรมเสนอแนะ
-

ลงชือ่ ............................................ครูผสู้ อน ลงชอื่ ...................................................ฝ่ายวชิ าการ

(...........................................................) (...........................................................)

ลงชื่อ................................................... ผูบ้ รหิ าร
(...........................................................)

บตั รภาพ วันสาคัญต่างๆ 

ภำพที่ 1 ภำพท่ี 2
ภำพท่ี 3 ภำพที่ 4
ภำพท่ี 5 ภำพท่ี 6

ใบงานท่ี 6.1 เรือ่ ง วนั สาคญั ของปี

คำชี้แจง ใหน้ กั เรยี นศกึ ษาปฏทิ นิ ของปีปจั จุบนั แลว้ เตมิ คาตอบใหถ้ กู ตอ้ ง (ดจู ากปฏทิ นิ ปี 2562)

1. วนั ขน้ึ ปีใหม่ ตรงกบั วนั
2. วนั เดก็ ตรงกบั วนั
3. วนั มาฆบชู า ตรงกบั วนั
4. วนั สงกรานต์ ตรงกบั วนั
5. วนั จกั รี ตรงกบั วนั
6. วนั วสิ าขบชู า ตรงกบั วนั
7. วนั อาสาฬหบชู า ตรงกบั วนั
8. วนั แมแ่ หง่ ชาติ ตรงกบั วนั
9. วนั พอ่ แหง่ ชาติ ตรงกบั วนั
10. วนั ลอยกระทง ตรงกบั วนั

สัปดาห์ที่ 9-10

โรงเรียนขจรเกียรติพฒั นา

แผนการจัดการเรียนรู้

ภาคเรยี นที่ ……1…/………... ชื่อผู้สอน ….…….........................……………………………………….

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ประวตั ศิ าสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 จานวน 2 คาบ

หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 1 ช่วงเวลาและการเรยี งลาดบั เหตุการณ์ เรอ่ื ง ปฏิทินช่วยเตอื นความจาของเรา

1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชวี้ ดั
มาตรฐาน ส 4.1 เข้าใจความหมาย ความสาคญั ของเวลาและยุคสมัยทางประวตั ิศาสตร์ สามารถใช้

วธิ ีการทางประวัตศิ าสตรม์ าวเิ คราะหเ์ หตุการณต์ ่างๆ อยา่ งเปน็ ระบบ
ตวั ชวี้ ดั ป.1/1 ใช้คาระบเุ วลาที่แสดงเหตุการณ์ในอดตี ปัจจุบัน และอนาคต

2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
ปฏิทนิ มีความสาคญั ในการบอกวัน เดอื น ปี และการนับช่วงเวลาเพ่ือเตือนความจาในชวี ิตประจาวนั

3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. อธบิ ายความสาคัญของปฏิทินทใ่ี ช้ชว่ ยเตือนความจาของเราได้ (K)
2. เหน็ คุณค่าและความสาคัญของปฏิทนิ ที่ใช้ชว่ ยเตือนความจาของเรา(A)
3. นกั เรียนสามารถอธบิ ายความสาคัญของปฏิทนิ ท่ีใชช้ ่วยเตือนความจาของเราได้ (P)

4. สาระการเรียนรู้

สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถิน่

1)ช่ือ วัน เดอื น ปี ตามระบบสรุ ิยคติท่ีปรากฏใน พจิ ารณาตามหลกั สูตรของสถานศกึ ษา

ปฏทิ นิ

2)ช่ือ วนั เดอื น ปี ตามระบบจันทรคตทิ ่ีปรากฏ

ในปฏิทิน

3)ช่วงเวลาทใ่ี ช้ในชวี ติ ประจาวนั เชน่ วันนี้ ตอน

เช้า ตอนเย็น

5. กจิ กรรมการเรียนรู้ คาบท่ี 1

ข้ันนา
ขน้ั กระตุน้ ความสนใจ

1. ครูใหน้ กั เรียนดปู ฏิทนิ เดอื นเมษายนตามเอกสารประกอบการสอน แล้วร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นตาม
ประเดน็ ท่กี าหนด ดังน้ี
1. เดือนเมษายนตามปฏิทนิ นม้ี วี ันหยุดพเิ ศษกีว่ นั อะไรบา้ ง
2. วนั หยดุ พเิ ศษนน้ั ๆ ตรงกบั วันแบบสุริยคตแิ ละจนั ทรคติท่ีเทา่ ไร
3. วันหยุดพิเศษน้นั ๆ มีความสาคัญอย่างไร

2. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคิด
ครูอธิบายใหน้ กั เรยี นเข้าใจวา่ ปฏทิ นิ ทาให้เรารูว้ า่ เรอื่ งราวใดเกิดขนึ้ เม่ือใด ช่วยให้เราลาดบั เรื่องราวทเี่ กิดข้นึ ได้
อยา่ งถูกต้อง และเป็นเคร่อื งช่วยเตือนความจาของเราได้

ขนั้ สอน

ขนั้ สารวจคน้ หา

1. ครแู บง่ นกั เรียนเป็นกลุ่ม กลมุ่ ละ 4 คน คละกนั ตามความสามารถ

คือ เกง่ ปานกลางคอ่ นข้างเก่ง ปานกลางคอ่ นข้างอ่อน และอ่อน แล้วให้สมาชิกแตล่ ะคนกาหนดหมาย

เลขประจาตัว เป็นหมายเลข 1-4
2. นกั เรียนแต่ละกลมุ่ รว่ มกันศึกษาความรเู้ รื่อง ความสาคญั ของปฏทิ นิ

: ปฏทิ ินใช้ช่วยเตือนความจาของเรา จากหนงั สอื เรยี น แล้วทาใบงานที่ 7.1 เรื่อง ปฏิทินชว่ ยเตอื น
ความจา โดยใหน้ ักเรียน แต่ละกลุ่ม ช่วยกนั อธบิ ายคาตอบให้เพอ่ื นในกลมุ่ ฟังจนทุกคนมีความรคู้ วาม
เขา้ ใจท่ถี ูกต้อง ชดั เจน
3. ครสู ุม่ เรียกนักเรียนหมายเลขใดหมายเลขหนงึ่ ในแต่ละกลุม่ ออกมาอธิบายและนาเสนอคาตอบในใบงาน
ท่ี 7.1 หนา้ ชนั้ เรยี น
นักเรยี นตอบคาถามกระตุ้นความคิด

ข้นั สรปุ

ขัน้ ขยายความเขา้ ใจ

1. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันสรปุ ความรเู้ ร่อื ง ความสาคญั ของปฏิทนิ : ปฏทิ นิ ใช้ช่วยเตอื นความจาของเรา
นักเรียนตอบคาถามกระตุน้ ความคดิ

คาบท่ี 2

ขัน้ นา

ข้ันกระตุน้ ความสนใจ
1. ครูสนทนากบั นักเรยี นเกย่ี วกบั กิจวตั รประจาวนั ของนักเรยี นตงั้ แต่
ต่ืนนอนตอนเชา้ จนกระทง่ั ถึงเข้านอนตอนกลางคืน
2.ครูอธิบายใหน้ ักเรียนเข้าใจว่า การแบง่ ช่วงเวลาใน 1 วนั ตามคาบอกชว่ งเวลาจะทาให้เรารู้ลาดบั เรอ่ื งราว
ไดช้ ดั เจน และสามารถปฏบิ ตั กิ ิจกรรมต่างๆ ได้ถกู ต้อง เหมาะสมและสอดคล้องกบั ชว่ งเวลา

ข้ันสอน
ข้ันสารวจคน้ หา

1. นักเรียนรวมกลุ่มเดมิ (จากแผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 7) แล้วใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ ร่วมกันศึกษาความรู้เรอ่ื ง
การแบง่ ชว่ งเวลาใน 1 วัน จากหนงั สือเรยี น

2. นักเรียนแต่ละกลุม่ ร่วมกนั ทา ใบงานท่ี 8.1 เรอ่ื ง การแบง่ ช่วงเวลา ใน 1 วันโดยให้นักเรียนแต่ละคน
คดิ หาคาตอบดว้ ยตนเองกอ่ น จากน้นั จับคกู่ ับเพ่ือนในกลุ่ม แล้วผลัดกนั อธิบายคาตอบของตนเองให้เพ่ือน
ฟงั

3. นกั เรียนรวมกลมุ่ เดมิ 4 คน แลว้ ผลัดกันอธบิ ายคาตอบของคู่ตนเองใหเ้ พอื่ นอีกคู่หนงึ่ ฟงั เพ่อื หาขอ้ สรปุ
ของกลุม่

4. ตัวแทนแต่ละกลุม่ ออกมานาเสนอคาตอบในใบงานท่ี 8.1 หน้าชนั้ เรียน โดยครเู ป็นผตู้ รวจสอบความ
ถูกตอ้ งและอธบิ ายเพิ่มเตมิ ในส่วนทบี่ กพรอ่ ง นักเรยี นตอบคาถามกระต้นุ ความคิด

ขั้นสรุป

ขน้ั ขยายความเข้าใจ
1. ครูและนกั เรยี นร่วมกันสรปุ ความร้เู ร่อื ง การแบ่งช่วงเวลาใน 1 วัน นักเรียนตอบคาถามกระตนุ้ ความคิด

6. การวัดและประเมนิ ผล

การวัดและประเมินผล วธิ กี ารวดั ผล เครื่องมือวัด เกณฑ์การ
จดุ ประสงค์ ประเมนิ ผล
ร้อยละ 60 ผ่าน
ความรคู้ วาม ตรวจใบงานท่ี 7.1 ใบงานท่ี 7.1 เกณฑ์
เข้าใจ (K) ตรวจใบงานท่ี 8.1 ใบงานที่ 8.1 ระดับคุณภาพ
ทักษะ/ สงั เกตพฤติกรรมการทางาน แบบสงั เกตพฤตกิ รรม รอ้ ยละ 60 ผา่ น
กระบวนการ (P) รายบุคคล การทางานรายบุคคล เกณฑ์
ระดบั คณุ ภาพ
คุณลกั ษณะนสิ ยั (A) สงั เกตความมวี นิ ยั ใฝเ่ รียนรู้ และมี แบบประเมิน ร้อยละ 60 ผ่าน
เกณฑ์
จติ สาธารณะ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ

ประสงค์

7. สือ่ /แหลง่ การเรยี นรู้
7.1 สอ่ื การเรียนรู้

1) หนงั สอื เรยี น ประวัตศิ าสตร์ ป.1
2) เอกสารประกอบการสอน
3) ใบงานท่ี 7.1 เรื่อง ปฏทิ ินชว่ ยเตอื นความจา
4) ใบงานท่ี 8.1 เร่อื ง การแบง่ ช่วงเวลาใน 1 วนั

7.2แหล่งการเรียนรู้
1)หอ้ งเรยี น
2)หอ้ งสมดุ
3)อนิ เทอรเ์ นต็

8. กิจกรรมเสนอแนะ
-

ลงช่ือ............................................ครผู ้สู อน ลงชอ่ื ...................................................ฝ่ายวิชาการ

(...........................................................) (...........................................................)

ลงช่อื ................................................... ผบู้ ริหาร
(...........................................................)

เอกสารประกอบการสอน

เมษำยน 2555

อำทิตย์ จนั ทร์ องั คำร พธุ พฤหสั บดี ศกุ ร์ เสำร์
1 2 7
34 5 วนั จกั รี 6
วนั สงกรำนต1์ 4
ขน้ึ 15 ค่า เดอื น 5
แรม 8 ค่า เดอื น 5
89 10 11 12 วนั สงกรำนต์ 13
21
วนั สงกรำนต์ 15 ชดเชย 16 17 18 19 20
28
วนั สงกรำนต์ แรม 14 ค่า เดอื น 5
ขน้ึ 8 ค่า เดอื น 6
22 23 24 25 26 27

29 30

ใบงานท่ี 7.1 เรือ่ ง ปฏิทินช่วยเตือนความจา

คำชี้แจง ใหน้ กั เรยี นศกึ ษาปฏทิ นิ ตอ่ ไปน้ี แลว้ ตอบคาถามใหถ้ กู ตอ้ ง

อำทิตย์ จนั ทร์ องั คำร สิงหำคม 2555 ศกุ ร์ เสำร์
พธุ พฤหสั บดี 3 4
12
แรม 1 ค่า เดอื น 8
ขน้ึ 15 ค่า เดอื น 8

5 6 7 8 9 10 11
แรม 8 ค่า เดอื น 8
ส้มฉุนไปเที่ยว
สวนสนุกกบั
เพ่ือนๆ

12 13 14 15 16 17 18
แรม 15 ค่า เดอื น 8
ส้มฉุนไปเยี่ยม ส้มฉุนไปทศั น

คณุ ยำยที่ต่ำงจงั หวดั ศึกษำกบั โรงเรียน

19 20 21 22 23 24 25
ขน้ึ 8 ค่า เดอื น 9
ส้มฉุนไปงำน

วนั เกิดพ่ีเขม

26 27 28 29 30 31

ส้มฉุนไปเท่ียวทะเล
กบั ครอบครวั

1. สม้ ฉุนจะไปเทย่ี วทะเลกบั คุณพอ่ คุณแมเ่ ม่อื ไรครบั
และตรงกบั ชว่ งเวลาแบบจนั ทรคตทิ เ่ี ทา่ ใด

2. วนั ขน้ึ 6 ค่า เดอื น 9 สม้ ฉุนจะไปไหนครบั

3. สม้ ฉุนจะมาเยย่ี มคณุ ยายเมอ่ื ไรจ๊ะ
และตรงกบั ชว่ งเวลาแบบจนั ทรคตทิ เ่ี ทา่ ใด

4. วนั พุธท่ี 15 สงิ หาคม 2555 ตรงกบั ชว่ งเวลาแบบ
จนั ทรคตทิ เ่ี ทา่ ใด และเรานดั กนั ไปไหนคะ

5.
วนั แรม 9 ค่า เดอื น 8 ทเ่ี ราจะไปเทย่ี วสวนสนุกกนั
ตรงกบั ชว่ งเวลาแบบสรุ ยิ คตทิ เ่ี ทา่ ใดจ๊ะ

ใบงานที่ 7.1 เรื่อง ปฏิทินช่วยเตือนความจา เฉลย

คำชี้แจง ใหน้ กั เรยี นศกึ ษาปฏทิ นิ ต่อไปน้ี แลว้ ตอบคาถามใหถ้ กู ตอ้ ง เสำร์
4
อำทิตย์ จนั ทร์ องั คำร สิงหำคม 2555 ศกุ ร์
พธุ พฤหสั บดี 3
12
แรม 1 ค่า เดอื น 8
ขน้ึ 15 ค่า เดอื น 8

5 6 7 8 9 10 11
แรม 8 ค่า เดอื น 8
ส้มฉุนไปเท่ียว
สวนสนุกกบั
เพ่ือนๆ

12 13 14 15 16 17 18
แรม 15 ค่า เดอื น 8
ส้มฉุนไปเยี่ยม ส้มฉุนไปทศั น

คณุ ยำยที่ต่ำงจงั หวดั ศึกษำกบั โรงเรียน

19 20 21 22 23 24 25
ขน้ึ 8 ค่า เดอื น 9
ส้มฉุนไปงำน

วนั เกิดพี่เขม

26 27 28 29 30 31

ส้มฉุนไปเที่ยวทะเล
กบั ครอบครวั

1. สม้ ฉุนจะไปเทย่ี วทะเลกบั คณุ พอ่ คุณแมเ่ มอ่ื ไรครบั
และตรงกบั ชว่ งเวลาแบบจนั ทรคตทิ เ่ี ทา่ ใด

วนั ศกุ รท์ ี่31 สงิ หาคม 2555
ตรงกบั วนั ขน้ึ 14 คา่ เดอื น 9 คะ่

2.
วนั ขน้ึ 6 ค่า เดอื น 9 สม้ ฉุนจะไปไหนครบั

สม้ ฉุนจะไปงานวนั เกดิ พเี่ ขมคะ่


Click to View FlipBook Version