49 2. ผู้กู้ยืมที่กำลังศึกษาอยู่และไม่ได้กู้ยืมเงินติดต่อกันเป็นเวลา 2 ปี และไม่ได้แจ้งสถานภาพการเป็น นักเรียนหรือนักศึกษาให้ธนาคารทราบ ถือว่าเป็นผู้ครบกำหนดชำระหนี้ ก่อนวันที่ 5 กรกฎาคมของปีที่ครบ กำหนดชำระหนี้ ผู้กู้ยืมจะได้รับหนังสือจากธนาคาร เพื่อแจ้งเงินต้นทั้งหมด จำนวนเงินที่ต้องชำระหนี้ งวดแรก ค่าธรรมเนียม การชำระหนี้ รวมทั้งตารางการชำระหนี้ของแต่ละปี ให้ผู้กู้ยืมทราบ 3. ผู้กู้ยืมที่ครบกำหนดชำระหนี้จะต้องชำระหนี้งวดแรกภายในวันที่ 5 กรกฎาคมของปีที่ครบกำหนด ชำระหนี้ 4. ผู้กู้ยืมต้องชำระหนี้เงินต้นพร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อปีของเงินต้นคงค้างของปีที่ 1 เป็นต้นไป โดยจะต้องชำระหนี้ภายในวันที่ 5 กรกฎาคม ของทุกปีและจะต้องชำระหนี้ให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลา 15 ปี นับจากวันครบกำหนดชำระหนี้งวดแรก 5. ผู้กู้ยืมสามารถเลือกผ่อนชำระหนี้เป็นรายปีหรือรายเดือนได้แต่ระยะเวลารวมกันต้องไม่เกิน 15 ปี 6. หากผู้กู้ยืมไม่ชำระหนี้ได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด คือภายในวันที่ 5 กรกฎาคมของทุกปี ถือว่า ผู้กู้ยืมผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งผู้กู้ยืมจะต้อง เสียเบี้ยปรับเฉพาะเงินต้นที่ค้างชำระในอัตราดังนี้ - ค้างชำระ 1-12 เดือน เสียเบี้ยปรับร้อยละ 12 ต่อปี - ค้างชำระเกิน 12 เดือน เสียเบี้ยปรับร้อยละ 18 ต่อปี 7. ผู้กู้ยืมอาจชำระหนี้ทั้งหมดหรือบางส่วนก่อนถึง กำหนดชำระได้โดยไม่เสียดอกเบี้ย 5. การเรียนนักศึกษาวิชาทหาร ● ต้องมีขนาดร่างกายตามที่กรมรักษาดินแดนกำหนด ● ต้องผ่านเกณฑ์การทดสอบสมรรถภาพทางร่างกายตามระเบียบของกรมรักษาดินแดน ● ค่าใช้จ่ายชั้นปีที่ 1 ประมาณ 2,000 – 2,500 บาท (ชั้นปีที่ 2 – 3 คนละ 1,000 บาท / ปี ) การรับสมัคร ติดต่อผู้กำกับนักศึกษาวิชาทหารของโรงเรียนภายในวันที่ 16 พฤษภาคมเพื่อรับทราบรายละเอียด ที่สำคัญเพิ่มเติมและเตรียมหลักฐานและสภาพร่างกายให้ทันการสมัครในปลายเดือนพฤษภาคม หากพ้น กำหนดนี้จะหมดสิทธิ์การรับสมัคร นักศึกษาวิชาทหารที่ย้ายมาจากโรงเรียนอื่นให้รีบติดต่อผู้กำกับนักศึกษา วิชาทหารของโรงเรียน 6. งานห้องสมุด สถานที่ตั้ง : ชั้นล่างอาคารเรียน 3 จัดให้บริการ 1. บริการให้อ่านหนังสือและค้นคว้า 2. บริการให้ยืมหนังสือ – จองหนังสือ 3. บริการห้องสมุดศึกษาค้นคว้าและจัดเป็นห้องเรียนอิสระ
50 ระเบียบการใช้ห้องสมุด ** หมายเหตุ ** ครูที่ต้องการนำนักเรียนเข้าศึกษาค้นคว้านอกเวลาทำการจะต้องทำเรื่องจองก่อนล่วงหน้า ในสมุดการใช้ห้องสมุด 1. การยืมและส่งคืนหนังสือสิ่งพิมพ์ 1.1 หนังสือทั่วไป ยืมได้ครั้งละ 2 เล่ม มีกำหนด 7 วัน 1.2 หนังสือจอง ยืมได้ครั้งละ 1 – 2 เล่ม มีกำหนด 1 วัน 1.3 หนังสืออ้างอิงวารสารเย็บเล่มไม่อนุญาตให้ยืมออกเว้นแต่จะนำไปถ่ายเอกสารในเวลาราชการ 1.4 งดยืมตั้งแต่ก่อนสอบปลายภาคเรียน 1 สัปดาห์ 2. การปรับ หนังสือทั่วไป ปรับวันละ 2 บาท / เล่ม 3. เวลายืมหนังสือ - เช้า 07.00 น. – 07.40 น. - กลางวัน 11.00 น. – 12.50 น. 4. การรับสมัครเป็นสมาชิก นักเรียนต้องทราบระเบียบและข้อปฏิบัติการใช้ห้องสมุด นำรูปขาวดำหรือสีขนาด 1 นิ้วจำนวน 2 รูป และเขียนชื่อ – สกุล เลขรหัสไว้ด้านหลังของรูปให้ชัดเจน เพื่อขอ ทำบัตรสมาชิก มารับบัตรห้องสมุดได้ที่บรรณารักษ์เวลา 12.00 น. ของวันรุ่งขึ้น 5. ข้อควรปฏิบัติการใช้ห้องสมุด 1. ไม่นำกระเป๋าแฟ้ม ถุงย่ามและสิ่งพิมพ์อื่นๆ เข้าห้องสมุด 2. ไม่นำอาหารของขบเคี้ยวและเครื่องดื่มเข้ามาในห้องสมุด 3. หากต้องการใช้ห้องสมุดเป็นห้องเรียนต้องแจ้งบรรณารักษ์ให้ทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วัน 4. ผู้ใดตัดหรือฉีกสิ่งพิมพ์ในห้องสมุดจะได้รับโทษตามระเบียบของโรงเรียนดังนี้ - เชิญผู้ปกครองมารับทราบซื้อหนังสือเล่มนั้นคืนห้องสมุดถ้าซื้อไม่ได้ให้ซื้อหนังสือ เล่มอื่นที่มีคุณค่าเท่าเทียมกัน - ถ้าไม่ปฏิบัติตามจะส่งชื่อไปที่ผู้อำนวยการสถานศึกษาลงประวัติไว้ในใบรับรอง ความประพฤติและผลการเรียน 5. การอ่านหนังสือพิมพ์หรือวารสารควรเลือกอ่านทีละ 1 – 2 ฉบับเท่านั้น เมื่ออ่านเสร็จแล้ว ควรรีบนำเก็บเข้าที่ เพื่อที่ผู้อื่นจะได้มีโอกาสอ่านต่อไป เมื่อลุกออกจากที่นั่งควรเลื่อนและจัดเก้าอี้เข้าที่เก็บให้ เรียบร้อยเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยของห้องสมุด 6. ให้ถอดรองเท้าวางไว้อย่างเป็นระเบียบที่หน้าห้องสมุดที่จัดไว้ให้ด้วย 7. ห้ามนอนอ่านหนังสือตามชั้นเก็บหนังสือ
51 ค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ 1. มีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ 2. ซื่อสัตย์ เสียสละ อดทน มีอุดมการณ์ในสิ่งที่ดีงามเพื่อส่วนรวม 3. กตัญญูต่อพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครูบาอาจารย์ 4. ใฝ่หาความรู้ หมั่นศึกษาเล่าเรียนทั้งทางตรง และทางอ้อม 5. รักษาวัฒนธรรมประเพณีไทยอันงดงาม 6. มีศีลธรรม รักษาความสัตย์ หวังดีต่อผู้อื่น เผื่อแผ่และแบ่งปัน 7. เข้าใจเรียนรู้การเป็นประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขที่ถูกต้อง 8. มีระเบียบวินัย เคารพกฎหมาย ผู้น้อยรู้จักการเคารพผู้ใหญ่ 9. มีสติรู้ตัว รู้คิด รู้ทำ รู้ปฏิบัติตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 10. รู้จักดำรงตนอยู่โดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว รู้จักอดออมไว้ใช้เมื่อยามจำเป็น มีไว้พอกินพอใช้ ถ้าเหลือก็แจกจ่ายจำหน่าย และพร้อมที่จะ ขยายกิจการเมื่อมีความพร้อม เมื่อมีภูมิคุ้มกันที่ดี 12. มีความเข้มแข็งทั้งร่างกาย และจิตใจ ไม่ยอมแพ้ต่ออำนาจฝ่ายต่ำ หรือกิเลส มีความละอาย เกรงกลัวต่อบาปตามหลักของศาสนา 13. คำนึงถึงผลประโยชน์ของส่วนรวม และของชาติมากกว่าผลประโยชน์ของตนเอง
52 ที่ปรึกษา : คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนหนองตาคงพิทยาคาร คณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครองนักเรียน นายชานนท์ ปานเดชา ผู้อำนวยโรงเรียน นายนพดล ธงชัย รองผู้อำนวยการโรงเรียน นางสาวจารุวรรณ สะมานี หัวหน้ากลุ่มบริหารงานงบประมาณ นางกิตติวรา มะไหย์ หัวหน้ากลุ่มบริหารงานบุคคล นายนายวุฒิชัย ทีขะระ หัวหน้ากลุ่มบริหารทั่วไป นายสุทธิพร พันธ์ชาติ หัวหน้ากลุ่มบริหารงานวิชาการ นายฐิติ เรืองฤทธิ์ หัวหน้ากลุ่มบริหารงานกิจการนักเรียน คณะผู้จัดพิมพ์ : นายฐิติ เรืองฤทธิ์ หัวหน้ากลุ่มบริหารงานกิจการนักเรียน นางสาวศิริรักษ์ สุภาพ หัวหน้างานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน นายธนารักษ์ ศรีจันทร์ หัวหน้างานส่งเสริมประชาธิปไตยและกิจกรรมนักเรียน นายณัฐธกฤษ สุขวังไทร หัวหน้างานพัฒนาพฤติกรรมนักเรียน นายศตวรรษ เห็มราช หัวหน้างานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด และงานจราจร นางสาวกมลวรรณ มากเจริญ หัวหน้างานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม นางสาวอริสา เราะหมัด หัวหน้างานสารสนเทศกลุ่มบริหารงานฯ นางสาวดวงใจ ศรีคงรักษ์ หัวหน้างานเลขานุการกลุ่มบริหารงานฯ
53