ช้นั ปรญิ ญาตรีปีท่ี ๕
ปีการศกึ ษา ๒๖๖๔
รายงาน
วชิ า ทักษะกลองยาว
วิชาเลอื กเสรี รหสั วชิ า๓๐๓๓๐๐๐๔
วิทยาลยั นาฏศลิ ปอ่างทอง สถาบนั บัณฑิตพฒั นศลิ ป์ กระทรวงวัฒนธรรม
รายงาน
เร่อื ง กลองยาว
จดั ทาโดย
นายชัยรัตน์ มงั กรทอง
นางสาวเพ็ญนภา อภเิ ดช
นายสมพล เสี่ยงวงษ์
นายเอกพัน วังครี ี
เสนอ
นายพนิ ติ ร์ กลบั ทวี
และ
นายดิษวัฒน์ ภาคฐิน
รายงานน้เี ปน็ สว่ นหนงึ่ ของการศกึ ษาในรายวชิ า ทกั ษะกลองยาว
รหัสวชิ า ๓๐๓๓๐๐๐๔
ประจาปีการศกึ ษา ๒๕๖๔
วทิ ยาลัยนาฏศลิ ปอ่างทอง สถาบันบณั ฑิตพฒั นศิลป์ กระทรวงวฒั นธรรม
คานา
รายงานเรือ่ ง กลองยาว จดั ทาขน้ึ เพือ่ ฝึกปฏบิ ัตกิ ารเขียนรายงานจากการศึกษาค้นคว้าอนั เป็น
ส่วนหน่ึงของรายวิชา ทักษะกลองยาว รหัสวิชา ๓๐๓๓๐๐๐๔ ซ่ึงสามารถนาไปใช้ประโยชน์ในการ
ประกอบวิชาชีพ ตลอดจนสามารถนาความรู้ไปใช้ต่อยอดเพ่ือเสริมสร้างประสบการณ์ได้ในอนาคต
เน้ือหาในรายงานฉบับนี้ประกอบด้วย ความหมาย ประวัติความเป็นมา ภูมิหลัง ความสาคัญ วิธีการ
ฝึก ตลอดจนบทบาทของกลองยาวในสังคม ผู้เรียบเรียงของขอบคุณครูดิษวัฒน์ ภาคฐิน ที่ให้ความรู้
และข้อเสนอแนะในการทารายงานฉบับนี้ และขอขอบคุณครูบรรณารักษ์และเจ้าหน้าที่ห้องสมุด
ตลอดจนผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน ท่ีได้ให้ความสะดวกในการค้นคว้าหาข้อมูลเพื่อประกอบการทา
รายงาน
คณะผู้จัดทา
สารบญั
เร่ือง หน้า
ประวัติความเป็นมาและความสาคัญของ กลองยาว………………………………………… 1
การละเล่นกลองยาว…………………………………………………………………………………… 4
วิธกี ารทากลองยาว…………………………………………………………………………………….. 6
ภมู ิปัญญาที่เกย่ี วขอ้ ง………………………………………………………………………………….. 9
การฝกึ ตกี ลองยาว………………………………………………………………………………………. 11
จงั หวะเพลงกลองยาว…………………………………………………………………………………. 11
ขัน้ ตอนการละเล่นรากลองยาว……………………………………………………………………. 13
บทบาทของกลองยาว............................................................................................. 15
รายการอ้างองิ ........................................................................................................ 21
๑
กลองยาว
๑. ประวตั คิ วามเป็นมาและความสาคัญของ กลองยาว
ภาพ : รากลองยาว
ทีม่ า : http://www.prapayneethai.com
ภูมิหลังของกลองยาว เช่ือกันว่ากลองยาวไดแ้ บบอย่างมาจากพม่า ในสมัยกรุงธนบุรี หรือต้น
กรุงรัตนโกสินทร์ สมัยท่ีไทยกับพม่ากาลังทาสงครามกัน เวลาพักรบ ทหารพม่าก็เล่น "กลองยาว" กัน
สนุกสนาน พวกชาวไทยได้เห็นก็จาแบบอย่างมาเล่นบ้าง แต่บางท่านก็เล่าว่า กลองยาวของพม่าแบบ
นี้ มีชาวพม่าพวกหน่ึงนาเข้ามาเล่นในงานที่มีกระบวนแห่ เช่น บวชนาค ทอดกฐิน เป็นต้น และนิยม
เล่นกันเป็นท่ีร่ืนเริง สนุกสนานในเทศกาลสงกรานต์ และเล่นกันแพร่หลายไปแทบทุกหัวบ้านหัวเมือง
วงหนึ่งๆ จะใช้กลองยาวหลายลูกก็ได้ เครื่องดนตรีที่ใช้บรรเลงร่วม มี ฉิ่ง, ฉาบเล็ก, กรับ, โหม่ง เรียก
การเล่นชนิดนี้ว่า "เถิดเทิง" หรือ "เทิงกลองยาว" ที่เรียกเช่นน้ีเข้าใจว่า เรียกตามเสียงกลองที่ตีและ
ตามรูปลกั ษณะกลองยาว
กลองยาว เป็นเครื่องตีชนิดหน่ึงของไทยท่ีเคยได้รับความนิยมอย่างมาก โดยมักใช้วงกลอง
ยาวในกระบวนแห่ตามงานรื่นเริงสนุกสนานของเทศกาลและงานมงคลต่าง ๆ ท่ีสร้างความบันเทิง
ความสนุกสนานได้เป็นอย่างดี สามารถพบการแสดงกลองยาวได้หลายภูมิภาคของประเทศไทย ท้ังใน
ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคตะวันออกและภาคใต้ นอกจากนี้ กลองยาวยังเป็นเคร่ืองดนตรี
สาคัญที่ใช้ในการแสดงรากลองยาวท่ีบ้างก็เรียกว่า “เถิดเทิง” หรือ “เทิงกลองยาว” ปัญหาสาคัญใน
ปัจจุบันท่ีพบคือ ขาดการถ่ายทอดองค์ความรู้อย่างเป็นระบบ ขาดการสืบทอดองค์ความรู้ ขาดผู้ที่จะ
สืบทอดความรู้จนไปถึงปัญหาในการผลิตกลองยาวท่ีมีคุณภาพ ฯลฯ ดังน้ันคณะกรรมการผู้ทรงวุฒิ
๒
มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม สาขาศิลปะการแสดง กรมส่งเสริมวัฒนธรรม จึงพิจารณาเห็นสมควร
ประกาศขึ้นทะเบียนกลองยาวให้เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม สาขาศิลปะการแสดงประจาปี
พ.ศ. ๒๕๕๘ โดยมนี ักวกิ ารหลายทา่ นไดก้ ลา่ วถึงกลองยาวไว้ ดงั นี้
เจริญชัย ชนไพโรชน์ (๒๕๒๙ : ๙) กล่าวถึงกลองยาว ว่า มีเครื่องดนตรีที่ใช้ประกอบการ
แสดง คือ กลองยาว กลองตุ้ม ( กลองรามะนา ) และฉาบ ( แฉ่ง ) โดยปกติจะใช้กลองยาว ๓ ใบ
รามะนา ๑ ใบ และฉาบ ๑ คู่ กลองยาวในแต่ละคณะจะเพ่ิมจานวนกลองยาวเป็น ๕ - ๑๐ ใบ ก็ได้
รามะนา นิยมใช้เพียงใบเดียว หรืออย่างมากก็ใช้ ๒ ใบ และฉาบหากใช้ ๒ คู่ นิยมใช้ฉาบเล็ก ๑ คู่
ฉาบ ใหญ่ ๑ คู่
ปัญญา รุ่งเรือง (๒๕๒๑ : ๘๑-๘๓) มนุษย์ได้อาศัยสัญญาณกลองมาอีกหลายพันปี เฉพาะ
เมืองไทย แม้แต่ในสมัยรัชกาลท่ี ๔ ของกรุงเทพฯเรานี้เอง เรายังใช้ตีบอกเวลา จนต่อมาทรงเห็นว่า
การกาหนดเวลาโดยอาศัยความเคยชินแล้วตีกลองบอกน้ัน เป็นเร่ืองฟ่ันเฟือนเสียแล้ว จึงทรงออก
ประกาศ พระราชกาหนดเรื่องนาฬิกาข้ึนไวส้ าหรับประชาชน ดงั นั้นจะไดค้ ัดข้อความมาลงล่างน้ี เพื่อ
ต้องการให้เห็นพระราชวินิจฉัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯในเรื่องความเจริญของเทคโนโลยี
สมัยใหม่ ซ่ึงขณะนั้นเพ่ิงแพร่เข้ามาเมืองไทย โดยเฉพาะพระมหากษัตริย์พระองค์น้ี ทรงออกประกาศ
เรื่องต่าง ๆ มากมาย ช้ีแจงเหตผุ ลและอุปมาอุปไมยอย่างละเอียด “มีพระราชกาหนดบังคับไว้แก่กรม
พระโหรหน้า และโหรหลงั ในพระบรมราชวัง และชาว พนกั งานรักษานาฬิกาตีท่มุ ยามในที่ทกุ แห่ง ให้
รู้แน่ในลักษณะที่จะหมุนนาฬิกาผ่อนทุ่มยามให้เป็นไป ๑๓ ตามเทศจารีด แลฤดูพระอาทิตย์ท่ียักย้าย
ไปสมควรแก่ประเทศนี้ ให้ฟังรู้ความชี้แจงก่อน แต่เดิมที่คน โบราณในประเทศนี้ มีสติที่จะสังเกตแล
ปญั ญาท่ีจะรเู้ หตุผลในท่ีจะกาหนดกาลเวลาทุม่ โมงให้เรียบร้อย แน่นอนนั้น ยังหยาบนัก รู้จักแต่ว่ามืด
เป็นกลางคืน สว่างเป็นกลางวัน แลว่ากลางคืนเป็น ๑๒ ทุ่ม แล กลางวันเป็น ๑๒ โมง เท่ากันเป็นนิจ
จึงไดต้ ั้งแบบอย่างเป็นตารารู้ทวั่ กันเปน็ อันขาดมาเสยี ให้ตกี ลางคืน ๑๒ ทุ่ม กลางวนั ๑๒ โมง เสมอไป
สว่างเมอื่ ไรจึงยา่ รุง่ ตอ่ มดื เมื่อไรจงึ ยา่ ค่าได้ จนวันไรมืดฝนเวลา เยน็ ก็ดว่ นย่าค่าเรว็ ไป มดื ฝนเวลาจวน
รุ่งก็ย่ารุ่งสายไปบ้าง ไม่แน่นอน ว่าท่ีแท้กลางคืนกลางวนั ไม่ เท่ากันทุกฤด.ู ..” เม่ือกลองถูกลดบทบาท
จากการตีบอกข่าวแจ้งเหตุและบอกเวลา จึงมาทาหน้าที่ให้จังหวะ ให้ ความบันเทิงแก่หมู่ชน ตรงน้ี
ต้องขอสันนิษฐานขัดแย้งว่าบางท่ีอาจจะพร้อมกับการทาหน้าท่ีแจ้งข่าว ด้วยซ้าไป เพราะคนป่าแทบ
ทุกเผ่าใช้กลองเป็นเคร่ืองกากับจังหวะในการเต้นระบา ไม่วา่ เต้นระบาใน พธิ ีของเผ่าหรือระบาในงาน
ร่ืนเริงก็ตามดี แต่ถ้าว่าถึงในสังคมที่เจริญแล้ว การนากลองมากากับจังหวะ อย่างเป็นทางการ คงจะ
เกิดขึ้นในตอนหลังมาน้ีเช่นเดียวกับในหมู่คนไทย ถ้าพูดให้แคบเข้าเพื่อที่จะได้ สานเป็นเรื่องต่อไป ก็
ขอลัดตัดความมาว่ากลองท่ีคนได้รู้จักมากท่ีสุดเห็นจะเป็นกลองยาว ซ่ึงเราน่าจะ ได้รับแบบอย่างมา
จากพม่าผา่ นทางภาคเหนอื ของไทย
๓
ธวัช วิวัฒนปฐพี (๒๕๓๘ : ๒๓) กล่าวถึง วงกลองยาว เป็นการประสมวงกลอง ยาว
ประกอบด้วยกลองยาวประมาณ ๓ - ๔ กลองรามะนาใหญช่ าวบ้านเรียกวา่ กลองตุม้ ใบและฉาบ ๑ คู่
ตีทานอง และจังหวะแบบอีสาน ชาวบ้านมักร้องเป็นทานองว่า เปิ้ด เป่ง ฮ่ึม เป่ง เปิ้ด เป่ง เป่ง เป้ิด
เป่ง เป่ง เป่ง เปิ้ด เป่ง ฮ่ึม กลองยาวนิยมใชบ้ รรเลงในขบวนแห่ตามงานบุญตา่ ง ๆ โดยเฉพาะอย่างย่ิง
การแหก่ นั หลอน ในงานผเวส
โพไซ สุนนะลาด (๒๕๓๘ : ๕๑) กล่าวว่า กลองหาง เป็นกลองขนาดกลาง มี ๒ ชนิด คือ
กลองหางตวั ผู้และกลองหางตัวเมีย กลองหางตวั ผู้จะมีหน้ากลองกว้างประมาณ ๒๐ - ๒๒ เซนตเิ มตร
สูง ประมาณ ๑๒๐ - ๑๔๕ เซนติเมตร รูปร่างเพรียวบางเล็กว่า กลองหางตัวเมียจะมีหน้ากลองกว้าง
ประมาณ ๒๕ - ๒๘ เซนติเมตร สูงประมาณ ๘๐ - ๑๑๐ เซนติเมตร รูปร่างลักษณะคล้ายกลองยาว
ภาคอีสาน การบรรเลงใชม้ ือตที ั้งสองข้าง นาไปใช้งานรื่นเริงต่าง ๆ เชน่ แหน่ าค แหก่ ฐิน เป็นต้น
สมชัย สุวรรณไตร (๒๕๓๙ : ๙๓ - ๙๔) กล่าวถึง การเล่นลายกลอง การเล่นลายกลอง เป็น
การเล่นอย่างหน่ึงที่ชาวโส้นิยมเล่นกันในเทศกาลต่าง ๆ ท่ีสืบต่อกันมานานแล้ว ในการเล่นลายกลอง
ของ ชาวโส้ จะใช้กลองเส็งจาสองใบวางนอนกับพื้นดิน โดยให้หัวท้ายกลองท้ังสองวางสลับกัน ผู้เล่น
ลาย กลองก็คือ คนที่ตีกลองท่ีวางอยู่บนพ้นื อย่างมีลีลา ท่าทาง การเล่นลาบกลองอาจจะเล่นคนเดียว
หรือเล่น คู่ก็ได้ ในการเล่นลาลกลองเป็นการเล่นที่ต้องความสามารถลีลาเฉพาะตัวท่ีสวยงาม การแต่ง
กายของผู้ เล่นลายกลอง คนเล่นลายกลอง คนเล่นกั้บแก้บ นุ่งผ้าสีแดงหรือสีม่วงแบบกระโจงเบน มี
ผ้าขาวม้าคาด เอว แต่นุ่งให้รัดกุม ไม่สวมเสื่อ แต่ศรีษะจะมัดด้วยผ้าขาวม้าอีกผืน ตามตัวจะสักลาย
หรอื สกั ยนั ต์ ลาย ต่าง ๆ แบบคนโบราณ สว่ นคนอ่ืน ๆ นุง่ ผ้าโสร่ง ใสเ่ สือ่ ดาหม้อฮอ่ มแบบชาวโส้
๔
๒. การละเลน่ กลองยาว
ภาพ : การละเล่นกลองยาว
ทีม่ า : https://mgronline.com/local/detail/๙๖๑๐๐๐๐๐๘๑๐๐๖
การเล่นกลองยาว มักใช้กลองจานวน ๑๐ ลูก ๑๔ ลูก ๒๐ ลูกบ้างท่ีเป็นวงกลองยาวโดยมี
การตกี ลองประสานกันไปเร่ือย ๆ ในจังหวะซ้า ๆ กนั อย่างสนุกสนานและมีเครือ่ งดนตรีอ่ืน ๆ เช่น ฉิ่ง
ฉาบ กรับ โหม่ง มาร่วมบรรเลงด้วยผสมผสานเสียงโห่ร้อง ทาให้เกิดความสนุกสนาน ทั้งยัง มีการร่าย
ราร่วมไปในวงกลองยาวได้อีกด้วยข้ันตอนการบรรเลงกลองยาวน้ัน เร่ิมจากการ โหสามลา โหม่งตีให้
จังหวะสิบครั้ง จากนั้นกลองยาวจะเริ่มตีกลอง และอาจมีผู้ร้องทานองต่าง ๆ สอดแทรกเข้าไปตาม
จังหวะ โดยเนื้อร้องของวงกลองยาวจะมีจุดเด่นในเชิงหยอกล้อเกี้ยวพาราสี ระหว่างหญิงชาย มี
ลกั ษณะสองแงส่ องง่าม สามารถใช้ในขบวนแหต่ า่ ง ๆ เพอ่ื เปน็ การเพิ่มความสนุกสนานใหม้ ากขน้ึ
ภาพ : ราเถดิ เทิง
ทีม่ า : กรมศิลปากร
๕
ในการรากลองยาว หรือเถิดเทิง จะประกอบด้วยผู้แสดงทั้งหญิงและชาย โดยแต่งกายแบบ
ชาวบ้าน คือชายใส่กางเกงสวมเส้ือแขนสั้นคอพวงมาลัย มีผ้าคาดเอวคาดศีรษะ ส่วนผู้หญิงนุ่งโจง
กระเบนหรือผ้าถุงยาวสวมเส้ือแขนกระบอก ห่มสไบเฉียงไหล่คาดเข็มขัดใส่สร้อยคอ ตุ้มหู สร้อยตัว
กาไลข้อมือ ปล่อยผมทัดดอกไม้ในการแสดงนั้นจะแบ่งผู้แสดงเป็น ๓ กลุ่ม กลุ่มที่หน่ึง ทาหน้าที่ตี
กลองเรียกว่า“กลองยืน” คอยตีท่วงทานองจังหวะต่าง ๆ ซ่ึงนิยมใชก้ ลองต้ังแต่ ๔ ใบขึ้นไป กลุ่มท่ี ๒
ทาหน้าท่ี ท่ีเคร่ืองประกอบจังหวะให้ประสานสัมพันธ์กับจังหวะกลอง ไดแ้ ก่ ฉิ่ง ฉาบ กรับ โหม่ง โดย
ใช้ผู้ที่เครื่องมอื ละ ๑ คน อาจเพ่ิมกรับเป็น ๔ คนขึ้นไป เพื่อให้เกิดเสียงท่ีดงั ขึ้น กลุ่มที่ ๓ จะทาหน้าที่
ตกี ลองยาว และราเรียกวา่ “กลองรา” ซึ่งจะใชผ้ แู้ สดงเป็นคขู่ ้นึ ไป ก่อนจะเริ่มแสดงผูน้ าวงจะร้องโห่ ๓
ครง้ั แลว้ ผทู้ อี่ ยู่ในขบวนก็จะเป็นลกู คูร่ ้องรบั ผู้ตกี ลอง ฉ่ิง ฉาบ กรบั โหมง่ จะรัวรับ ๓ ครง้ั ประสานกับ
การตีกลองยาวเป็นจังหวะต่าง ๆ ต้นเสียงในวงกลองยาวจะร้องเพลงที่มีเนื้อหาส้ัน ๆ ง่าย ๆ แล้วลกู คู่
ในขบวนก็จะร้องซ้าหรือร้องรับคาท้ายเพ่ือให้เกิดความสนุกสนานอาทิ “มาละเหวยมาละวามา แต่
ของเขาของเราไมม่ าตะละล้าฯ” “ต้อนไวต้ อ้ นไว้ เอาไปบา้ นเราพอ่ ก็แก่แมก่ ็เฒ่าเอาไปหุงข้าวให้ พวก
เรากินตะละล้า” และ “ใครมีมะกรูดมาแลกมะนาวใครมีลูกสาวมาแลกลูกเขยเอาวะเอาเหวยลูกเขย
กลองยาวตะละล้า” ผู้ท่ีฉาบจะออกมาทาท่าราผสมผสานกับการตีฉาบและ หกคะเมนตีลังกา ทาท่า
ลอยหน้าตา แล้วไปโค้งผู้ตีกลองราให้ราออกมาจากขบวนโดยตกี ลองสวนสลับแถวไปมา หลอกล่อกัน
ในท่าต่าง ๆ เช่น ตีกลองแล้วป้องหน้ามองกัน ใช้ศอกกระดุ้งกลองกระโดดแล้ว ใช้เข่าตีเข่าไปที่กลอง
แบกกลองขึ้นเหนือศีรษะ หรือโยนกลองข้ึนแล้วรับ จากนั้นกลองราแต่ละข้างจะตกี ลองเดินไปรับผู้รา
หญิงที่จะออกมาราคู่ด้วย ผู้หญิงจะรานาหน้าให้ผู้ชายต้อนไปมาอยู่ด้านหลังเป็นเชิงเก้ียวพาราสี ด้วย
ท่าราส่าย ท่าอาย ท่าสอดสร้อยมาลา ท่าบัวฝักท่าตีกลอง ท่าลงศอกท่ีกลอง ท่าเปล้ืองมือ เป็นต้น
บางครั้งอาจจะมีวงปี่พาทย์มาบรรเลงเพลงให้เข้ากับจังหวะของกลอง เช่น เพลงพม่ากลองยาว เพลง
พม่าทุงเล เม่ือราจนจบกระบวนท่าแล้วผู้รากลองรา จะราต้อนคู่ราเข้าเวที ผู้ที่ตีกลองยืนและเคร่ือง
ประกอบจังหวะจะเดนิ ตามเข้าไปพร้อมกับการตกี ลองยาวไปด้วย แล้วจึงลงจบเพลงที่ด้านในของเวที
เป็นการจบการแสดง
๖
๓. วธิ ีการทากลองยาว
๓.๑วสั ดทุ ีใ่ ชใ้ นการผลิต
๑. ต้นขนุนแก่ๆ มีอายุประมาณ ๒๐ ปี
๒. หนงั วัว ใชห้ นงั วัวเพศเมีย เพราะหนงั บาง เสยี งดี
๓. เชอื ก สาหรบั นามาร้อยหนังววั หน้ากลองใหต้ งึ และแน่น
๓.๒ เครอ่ื งมือทใ่ี ช้ในการผลติ
๑. ขวานโยน หรอื ขวานถาก
๒. เลื่อย
๓. ตะขอ สาหรับขดู เนื้อไมใ้ นโพรงกลอง
๔. ค้อน สว่ิ ขนาดเล็ก กลาง และใหญ่ กระดาษทราย
๕. แล็คเกอร์
๓.๓ ขน้ั ตอนกระบวนการผลิตและวธิ ีทา
๑. ขั้นเตรยี มการ
๑.๑ ตัดตน้ ขนุนทต่ี ้นแก่ ๆ อายุประมาณ ๒๐ ปี กาลังดี
๑.๒ ตดั ต้นขนุนเปน็ ทอ่ น ๆ ทอ่ นละ ๙๐ เซนติเมตร
๑.๓ เล่ือยเปลือก หรอื ถากเปลอื กออกให้รอบทุกทอ่ น
๒. ขน้ั ตอนการผลติ มี ๕ ขัน้ ตอน คอื
๒.๑. ข้ันตอนการทาเอวกลองและฐานกลองดา้ นลา่ ง
๒.๑.๑ นาท่อนขนุนท่ีถากเปลือกนอกออกแล้ว วัดตั้งแต่ขอบหน้ากลองลง
ไปประมาณ ๑ ฟุต ใชด้ นิ สอขดี เสน้ รอบไว้ ตง้ั แตส่ ว่ นนีเ้ รยี กว่า เอวกลอง
๒.๑.๒ เร่ิมถากต้ังแต่เอวงลงไปถึงปลายฐานด้านล่าง โดยใช้ขวานโยนถาก
ช่วงปลายฐานด้านล่างถากบานออกเพื่อสาหรับกลองวางได้ ความกว้างของหน้า
กลองกบั ฐานกลองเทา่ กัน
๗
๒.๒. ขัน้ ตอนการขดุ โพรงกลองยาว
ภาพ : การขุดโพลงกลองยาว
ที่มา : http://xn--e๓ca๔anygl๐jlp๗c๘h.blogspot.com/๒๐๑๓/๐๑/blog-
post.html
๒.๒.๑ เมอื่ ถากได้เอวกลองและฐานกลองเสร็จ แลว้ วางไมก้ ลองตง้ั ขนึ้ เพอื่
วัดจุดศูนย์กลางของหน้ากลอง และวัดขอบกลอง โดยใช้ไม้แบน วางบนหน้ากลอง
ตอกตะปู ๑ ตัว ตรงกลาง และขอบริมหน้ากลอง ๒ ตัว ตะปู ๒ ตัว ท่ีขอบห่างกัน
ประมาณ ๒ น้วิ (ตอกตะปู ใหป้ ลายตะปูโผล่ตดิ ไม้หน้ากลอง)
๒.๒.๒ หมุนไม้วดั ให้รอบหน้ากลอง ปลายตะปจู ะขีดหน้ากลองเปน็ รอยเสน้
ลึกพอประมาณ รอยเส้นจะมที ีข่ อบ ๒ เสน้ และจดุ กลาง ๑ จุด
๒.๒.๓ นาส่ิว และค้อน ขดุ เนื้อตรงกลางหน้ากลองออก ขุดไปเรื่อยๆ จนถึง
เส้นขอบ ที่วัดไว้ และขุดให้ลึก จนกระทั่งทะลุ ส่ิวใช้ตัวเล็ก ไล่ไปตัวกลาง และตัว
ใหญ่สุด เพราะตอ้ งขดุ ใหเ้ ปน็ รทู ะลุลงไปถึงฐานล่าง
๒.๒.๔ เมื่อขุดทะลุแล้ว ส่วนนี้เรียกว่า โพรงกลองยาว ภายในต้องใช้เหล็ก
ตะขอคมขูดใหเ้ รียบ และสม่าเสมอทกุ ส่วนจากด้านบน และจากดา้ นล่าง
๒.๒.๕ เม่ือขูดในโพรงกลองเสร็จแล้ว ตกแต่งภายนอกโดยใช้กบไสให้ได้
รูปทรงทีส่ วยงาม ขดั กระดาษทราย ขดั ให้ผิวเรียบ
๒.๒.๖ เมื่อขัดเสร็จแล้ว เจาะตรงขอบเอวกลอง ให้มีความห่างประมาณ ๑
นิ้ว แตล่ ะช่อง โดยใชส้ ิ่วเจาะให้ลกึ พอประมาณ เพ่ือสาหรับไว้ร้อยเชือก ขัดกระดาษ
๘
ทรายละเอยี ดทาแลค็ เกอร์ ๑ ถงึ ๒ คร้ัง ทาเฉพาะผิวไม้ดา้ นนอก แตง่ ขอบฐานกลอง
ใช้อลมู ิเนยี มรัดเป็นวงกลมเพอ่ื ไมใ่ หฐ้ านกลองแตกรา้ ว
๒.๓. ขน้ั ตอนการใสห่ น้ากลองยาว
ภาพ : การขงึ หนา้ กลอง
ที่มา : http://xn--e๓ca๔anygl๐jlp๗c๘h.blogspot.com/๒๐๑๓/๐๑/blog-
post.html
๒.๓.๑ หนังวัวตากแดดให้แห้งสนิท นาหนังวัว วัดเส้นผ่าศูนย์กลาง
ประมาณ ๑๕ นวิ้ ตดั เปน็ วงกลม โดยให้เหลอื ขอบ
๒.๓.๒ เจาะรูหนังวัวตามขอบท่ีเส้นขีดไว้ โดยใช้เหล็กเจาะตอกด้วยค้อน
ตะปู เจาะให้เป็นรจู นรอบวงกลม แตล่ ะรูหา่ งกันประมาณ ๑ นิว้ เจาะรู ๒ แถว
๒.๓.๓ เมื่อเจาะรูเสร็จแล้ว นาเชือกมาร้อย โดยใส่ลวดเส้นเล็ก ระหว่างรูที่
เจาะไวห้ ่างกันประมาณ ๑ นิว้ ลวดใสส่ าหรับยึดใหแ้ ขง็ แรง
๒.๓.๔ เม่ือเจาะรูเสร็จแล้ว นาเชือกมาร้อย โดยใส่ลวดเส้นเล็ก ระหว่างรูที่
เจาะไวห้ า่ งกันประมาณ ๑ นิ้ว ลวดใส่ระหวา่ งของรทู ร่ี อ้ ยเชอื กสาหรับยดึ ให้แข็งแรง
๒.๓.๕ นาลวดทาเป็นวงกลม ใส่รัดไว้ที่เอวกลอง จะมีบ่าไม้เพ่ือไม้ให้ลวด
เลือ่ นหลดุ ใส่ลวดรอบเอวกลองเพือ่ สาหรบั ร้อยเชือกดงึ ยึดหน้ากลองให้ตงึ
๒.๓.๖ เมื่อใส่ลวดเอวกลองเสร็จแล้ว นาหน้ากลองที่สานเชือกขอบไว้เสร็จ
แลว้ วางไวบ้ นปากหน้ากลอง เพื่อรอ้ ยเชอื กดงึ ยดึ หน้ากลองให้ตึง
๒.๓.๗ เม่ือร้อยเชือกจนรอบกลองแล้ว นากระดาษทรายละเอียดขัดหน้า
กลอง ให้เรยี บและสะอาด
๙
๒.๔. ขั้นตอนการทาใหก้ ลองยาวมเี สียงดงั ทไี่ ดม้ าตรฐาน
เมื่อขัดหน้ากลองเสร็จแล้ว ผสมขนมโก๋กับน้านวดให้เหนียวนิ่ม (สมัย
โบราณใช้ข้าวสุกบดผสมข้ีเถ้า) เพื่อสาหรับแปะหน้ากลอง และทดลองตี ถ้าใส่มาก
เสียงใหญ่ ใช้ไม่ได้ ถ้าใส่น้อยเสียงแหลม ใช้ไม่ได้ ใส่พอประมาณ โดยทดลองตีและ
ฟังเสียง (ถ้ากลองยาวไม่ได้นาไปใช้งาน ให้แกะขนมโก๋ที่แปะทิ้งทุกคร้ัง เพื่อไม่ให้
แมลงกัดแทะหน้ากลอง)
๒.๕ ขนั้ ตอนการแตง่ ตวั ให้กลองยาว
การแต่งตัวให้กลองยาว เพ่ือเพ่ิมความสวยงาม โดยใส่เส้ือให้ ส่วนใหญ่จะ
เป็นแบบลวดลายเดียวกันท้ัง ๗ ลูก และใส่สายสะพายตามที่ต้องการ เพื่อสาหรับไว้
สะพายเวลาเดิน ตีกลองยาว
๓. ขน้ั หลงั การผลิต
๓.๑ ตรวจความละเอียดของชิ้นงานแตล่ ะช้ินท่เี สร็จสมบรู ณ์
๓.๒ พร้อมนาไปใช้งาน
๔. ภมู ิปญั ญาทเ่ี กย่ี วขอ้ ง
๔.๑ ภูมิปัญญาในการคดิ ประดษิ ฐก์ ลอง
เสียงเกิดจากการสั่นสะเทือนของวัตถุด้วยการนาหนังสัตว์มาขึงให้ตึงแล้วตี จะเกิด
การส่ันสะเทือนเป็นเสียงขึ้น แต่ความดังก็ไม่มากนัก ตอ้ งมีโพรงช่วยสะท้อนเสียง มนุษย์อาจ
คิดได้จากการที่อาศัยอยู่ในถ้า เวลาพูดหรือทาให้เกิดเสียงจะก้องกังวานดังไกล จึงเห็นได้ว่า
เคร่ืองดนตรีเกือบทุกชนิดจะต้องมีโพรง แต่โพรงที่ทาเคร่ืองดนตรีในยุคแรกก็ได้มาจาก
ธรรมชาติ เช่น เขาสัตว์ กระดูกสัตว์ กระบอกไม้ไผ่ซ่ึงมีขนาดเล็ก แต่กลองมีขนาดใหญ่กว่าก็
ใช้โพรงจากตน้ ไม้ แต่ก่อนไม่มีเคร่ืองมือในการขุดก็จะใช้ต้นมะพร้าว ต้นตาล เม่ือแห้งแล้วไส้
ในจะผุจึงใช้ไฟสุมเผาไส้ในให้เหลือแต่เปลือกเป็นโพรงลักษณะเดียวกับการขุดเรืออีโปงใน
สมัยก่อนน่ันเอง ตอ่ มาในยุคโลหะมนุษย์สามารถคิดเคร่ืองมือจากโลหะที่แข็งกว่าไม้ได้ จึงนา
มาเป็นเครื่องมือ เจาะ คว้าน สับ ถากไม้แก่นให้เป็นรูปทรงตามต้องการได้ เกิดเป็นอุปกรณ์
เคร่ืองใช้ต่าง ๆ มากมาย รวมไปถึงเครื่องดนตรีต่าง ๆ ด้วยลักษณะของกลองยาว เป็นกลอง
ขึงหนังหน้าเดียว ตัวกลองด้านบนท่ีขึงหนังจะป่องเป็นโพรง ส่วนกลางเล็กเรียวเป็นท่อกลวง
ส่วนปลายบานคลา้ ยดอกลาโพง ในแตล่ ะสว่ นของกลองมคี วามสาคัญต่อการเกิดเสยี งท้ังสน้ิ
๑๐
- ตัวกลองส่วนบนท่ีขึงหนังป่องเป็นโพรงช่วยในการสะท้อนเสียง ทาให้เสียงก้องกังวาน
กระห่ึมมากขนึ้
- ตอนกลางเลก็ เรยี วเป็นท่อ ช่วยระบายลมและเสยี งให้พ่งุ ไปไกล
- ตอนปลายบานออกคลา้ ยดอกลาโพง ช่วยกระจายเสยี งใหก้ ว้างข้ึน
จากภูมิปัญญาเหล่าน้ี ยังสมารถนามาใช้ในการต่อตู้ลาโพงในปัจจุบันด้วย ก่อนจะตีกลองจะ
ใช้ข้าวสุกหรือข้าวเหนียวบดผสมขี้เถ้า ปัจจุบันอาจใช้ขนมโก๋ ติดตรงกลางหน้ากลอง ข้าวสุกมีความ
เหนียวยึดติดหนังกลองได้ดี ส่วนขี้เถ้าผสมไม่ให้เละและติดมือ การติดข้าวสุกเพอื่ ปรับเสียงถ้าติดมาก
เสียงจะทุ้มเกินไปต้องเทียบเสียงให้เข้ากันในวง และยังช่วยให้หนังกลองกระพือนานขึ้นชว่ ยเพ่ิมความ
กังวานอกี ดว้ ย ซึ่งสามารถสงั เกตได้จากเคร่ืองดนตรอี ีกหลายชนิดท่ีติดข้ีถ่วง เช่น ระนาด ฆอ้ ง เป็นต้น
หลังจากเลิกใช้งานต้องแกะทิ้งทุกครั้งเพ่ือมิให้เน่าบูด มดมากัดกิน นอกจากนี้ยังต้องมีการนุ่งผ้าให้
กลองหรือเรียกว่าแต่งตัว โดยจะตัดผ้าลายดอกหุ้มตั้งแต่หน้ากลองถึงเอวกลอง เสริมจีบคล้าย
กระโปรงโดยรอบสวยงามเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของกลองยาว และยังบ่งบอกถึงการได้รับอิทธิพล
จากมอญหรือพมา่
๔.๒ ภมู ิปญั ญาในการเลอื กวสั ดุ
- ไม้ที่ใช้ทากลองยาวคือไม้ขนุน ไม้มะม่วง ที่นิยมคือไม้ขนุนอายุมากกว่า ๒๐ ปี เป็นพันธุ์ไม้
ผลพื้นบ้านท่ีหมดอายุให้ผลแล้ว ไม่ต้องตัดไม้ทาลายป่า แก่นไม้ท่ีมีอายุมากจะทนทานไม่แตกร้าว สี
สวยงาม ลักษณะเฉพาะของไม้แก่นขนุนคือมีความเบากว่าไม้อื่น เน้ือไม้ขุดง่าย สะท้อนเสียงได้ดีกว่า
ไม้อน่ื ๆ
- หนังสัตว์ที่ใช้ทากลองยาว เป็นหนังวัวตัวเมียเน่ืองจากหนังวัวบางกว่าหนังควาย เน้ือเนียน
กว่าแต่แข็งแรงทนทานไม่ขาดงา่ ยทนต่อแรงดึงให้ตงึ และการตี โดยเฉพาะหนังวัวตัวเมียจะบางกว่าวัว
ตวั ผู้ บางแหง่ ใชห้ นังลกู ววั แต่จะทนทานนอ้ ยกวา่ หนังทบ่ี างจะกระพอื ได้ดีและเวลาตจี ะไมเ่ จบ็ มือ
ภูมปิ ญั ญาในการประดษิ ฐเ์ ครือ่ งมือการขดุ กลองยาว
- ขวานโยน เป็นขวานดา้ มยาวหนา้ ขวานขวางกบั ตวั ดา้ มคล้ายจอบแตม่ หี น้าแคบและน้าหนัก
มากกว่า สามารถใช้ยืนถากและช่วยผ่อนแรงได้ดี เหมาะกับการทางานหยาบๆคือการโกลนขึ้นรูป
(โกลน คอื การขึน้ รูปให้เป็นหุ่นกลองแบบหยาบๆ) หรอื อาจเรยี กอีกอยา่ งวา่ เหลา
- ส่ิวดา้ มยาว ในการเจาะสว่ นกลางท่ีมลี ักษณะเปน็ ท่อใหท้ ะลถุ งึ กนั กบั สว่ นปลาย
- เหล็กตะขอ ลักษณะเหมือนส่ิวแต่งอย้อนกลับทางใช้สาหรับลากขุดตกแต่งผิวด้านในโพรง
ให้เรยี บกอ่ นขดั ด้วยกระดาษทรายอกี ครั้ง
๑๑
๕. การฝึกตีกลองยาว
การฝึกตกี ลองยาวนั้นจะต้องเริ่มจากการฝึกเสยี งพ้ืนฐาน ซง่ึ เปน็ สง่ิ จาเปน็ มากสาหรบั การฝึก
ตีกลองยาว มีด้วยกัน ๓ เสียง ได้แก่ เสียงป๊ะ เสียงเพ่ิง และเสียงบ่อม เม่ือฝึกตี ๓ เสียงนี้
ชานาญแล้วก็สามารถตีให้เข้ากับเคร่ืองประกอบจังหวะอื่น ๆ ได้ง่ายข้ึน ในบทเรียนนี้จะได้ศึกษา
เก่ียวกับ พน้ื ฐานการฝึกกลองยาวและเคร่ืองประกอบจังหวะต่าง ๆ ได้แก่ โหม่ง ฉิ่ง ฉาบเล็ก ฉาบ
ใหญ่ และกรับ ซ่ึงจะมวี ิธฝี กึ แต่ละเครื่องมือ วิธกี ารตกี ลองยาวพร้อมเครือ่ งประกอบจงั หวะ อธิบาย
ไวอ้ ยา่ งชัดเจน และเพือ่ ให้ครบองคป์ ระกอบทสี่ าคญั จงึ ไดบ้ รรจุเน้อื ร้องเพลงประกอบการแสดงกลอง
ยาวไวใ้ นภาคผนวก ก.
๕.๑ หลักการตีกลองยาวเบือ้ งต้น
หลักการตีกลองยาวเบื้องต้นนั้นจะต้องฝึกตีเสียงพื้นฐานให้ได้ซ่ึงมี ๓ เสียง ได้แก่ เสียงป๊ะ
เสียงเพ่งิ และเสียงบ่อม แตล่ ะเสียงมีวธิ ีการและหลกั การตี ดงั น้ี
เสยี งป๊ะ
เป็นเสียงที่เกิดจากการตีกลองยาวโดยใช้ปลายนิ้วมือขวาท้ัง ๔ นิ้ว ได้แก่น้ิวชี้ น้ิวกลาง
นิ้วนาง และน้ิวก้อย ยกเว้นหัวแม่มือ ตีกดลงบนหน้ากลอง โดยใช้ฝ่ามือตีท่ีตรงกลางของกลองแบ
แฉลบ ๆ แล้วใช้น้ิวมือท้ัง ๔ กดให้แน่นกับหน้ากลอง จะทาให้เกิดเสียง ป๊ะ ส่วนมือซ้ายพกั ไวท้ ี่ขอบ
กลอง
เสยี งเพ่งิ
เสียงเพ่ิง คือ เสียงท่ีเกิดจากการตีเปิดมือโดย ใช้มือขวาบริเวณโคนน้ิวถึงปลายนิ้ว โดยให้นิ้ว
ทง้ั สเี่ รยี งชดิ ตดิ กันตลี งทบี่ นหนากลองยาวบริเวณระหว่างขอบกลองกบั ใจกลางหน้ากลอง
เสียงบอม
เสียงบอม คอื เสยี งทม่ี ีใช้มากสา หรบั การตีกลองยาว จะใช้ในตอนแรกหลงั จากโหส่ ามลาแลว้
โหม่งขึ้นต้ังจังหวะ ต่อจากน้ันจึงตีเป็นเสียงบอม สาหรับการบังคับมือ คือ ให้กามือขวาแล้วตีลงบน
หน้ากลองบริเวณท่ีติดข้าวสุกหรือกล้วยตากบด เม่ือตีแล้วให้ผู้ตียกมือขึ้นเล็กน้อยจากหนากลองทันที
เพื่อชว่ ยใหเ้ สียงที่ตแี ล้วนัน้ ดงั กงั วานและเกดิ เปน็ เสยี งบอมตามทตี่ อ้ งการ
๖. จังหวะเพลงกลองยาว
จังหวะเพลงกลองยาว หมายถงึ กระสวนจังหวะกลองยาวท่ีมีการตีวนซ้าไปมา โดยใช้เสียง
พื้นฐานทั้ง ๓ เสียง ที่ฝึกมาแล้วในตอนต้น คือ เสียงป๊ะ เสียงเพ่ิง และเสียงบ่อม มาผูกเป็นเพลง
ต่าง ๆ และเขียนออกมาในรูปแบบของโน้ตเพลงไทยเดิม กรมศิลปากรได้มีการกาหนดจังหวะเพลง
กลองยาวและท่าราไว้อย่างเป็นระเบียบแบบแผนท่ีแน่นอน คุณกระจ่าง พุทธศรี ครูภูมิปัญญาไทย
๑๒
รุ่นท่ี ๓ สาขาศิลปกรรม (การแสดงพ้ืนบ้านกลองยาว) ซึ่งกาหนดสาหรับการแสดง ๑ ชุด มี ๑๒
เพลงดว้ ยกนั ดงั นี้
๑. จังหวะเพลงกลองยาวฟ้อนรา หมายถึง เพลงตีจังหวะกลองยาวในลาดับท่ี
๑ ดงั นี้ - - - บอ่ ม/ - เพ่ิง - -/ - เพ่ิง - -/ - เพ่ิง – บอ่ ม/ จะต้องตีเสียงดังกล่าว
นี้ให้ครบ ๘ จังหวะ แล้วลงจบจังหวะด้วยเสียง - - ป๊ะ ป๊ะ/ - - - บ่อม/- - - บ่
อม/ - - - บอ่ ม/
๒. จังหวะเพลงกลองยาวชาวทุ่ง หมายถึง เพลงตีจังหวะกลองยาวในลาดับที่
๒ ดังนี้ /- - - บ่อม/ - - - บ่อม/ - - - บ่อม/- เพิ่ง – บ่อม/จะต้อง ตีเสียง
ดงั กล่าวน้ีให้ครบ ๘ จังหวะ แล้วลงจบจังหวะด้วยเสยี ง / - - ป๊ะ ป๊ะ/ - - - บ่
อม/ - - - บ่อม/
๓. จังหวะเพลงกลองยาวปลุกใจ หมายถึง เพลงตีจังหวะกลองยาวในลาดบั ที่
๓ ดังน้ี /- - - - / - เพ่ิง - บ่อม/ - - - เพ่ิง/ - เพ่ิง - บ่อม/ จะต้องตีเสียง
ดังกล่าวนี้ให้ครบ ๘ จังหวะ แล้วลงจบจังหวะด้วยเสียง /- - ป๊ะ ป๊ะ/- - - บ่
อม/- - - บอ่ ม/- - - บอ่ ม/
๔. จังหวะเพลงกลองยาวระทึกใจ หมายถึง เพลงตีจังหวะกลองยาวใน
ลาดบั ที่ ๔ ดังน้ี /- - - เพง่ิ / - เพ่ิง - -/ - เพ่งิ – เพ่งิ / - - - ป๊ะ/ จะตอ้ งตีเสียง
ดังกล่าวนี้ให้ครบ ๘ จังหวะ แล้วลงจบจังหวะด้วยเสียง /- - ป๊ะ ป๊ะ/- - - บ่
อม/- - - บอ่ ม/- - - บ่อม/
๕. จังหวะเพลงกลองยาวเถิดเทิง หมายถงึ เพลงตจี งั หวะกลองยาวในลาดับที่
๕ ดังนี้ /- - - - / - เพิ่ง - ป๊ะ/ - - - เพ่ิง/ - เพิ่ง - ป๊ะ/ จะต้องตเี สียงดังกล่าว
นี้ให้ครบ ๘ จังหวะ แล้วลงจบจังหวะด้วยเสียง /- - ปะ๊ ปะ๊ /- - - บ่อม/- - - บ่
อม/- - - บอ่ ม/ ดังแผนภูมิต่อไปนี
๖. จังหวะเพลงกลองยาวเร้าใจ หมายถึง เพลงตีจังหวะกลองยาวในลาดับที่
๖ ดังนี้ /- - เพ่ิง บ่อม /- เพิ่ง – บ่อม/ เพ่ิง บ่อม เพิ่ง บ่อม/ - ป๊ะ ป๊ะ ป๊ะ/
จะต้องตีเสียงดังกล่าวนี้ให้ครบ ๘ จังหวะ แล้วลงจบจังหวะด้วยเสียง /- - ป๊ะ
ป๊ะ/- - - บอ่ ม/- - - บ่อม/- - - บ่อม/ ดงั แผนภมู ติ อ่ ไปน้ี
๗. จังหวะเพลงกลองยาวไพรสวรรค์ หมายถึง เพลงตีจังหวะกลองยาวใน
ลาดับที่ ดังน้ี /- - - ป๊ะ / - เพิ่ง - ป๊ะ/ - เพิ่ง – ป๊ะ/ - เพิ่ง - เพิ่ง/ จะต้องตี
๑๓
เสียงดังกล่าวนี้ให้ครบ ๘ จังหวะ แล้วลงจบจังหวะด้วยเสียง /- - ป๊ะ ป๊ะ/- - -
บ่อม/- - - บอ่ ม/- - - บอ่ ม/ ดงั แผนภูมติ อ่ ไปนี้
๘. จังหวะเพลงกลองยาวฉลองชยั หมายถึง เพลงตีจังหวะกลองยาวในลาดับ
ที่ ๘ ดงั น้ี /- - - ปะ๊ /- เพ่ิง - ป๊ะ/- เพิ่ง -ปะ๊ / - เพิ่ง – บ่อม/ จะต้องตเี สียง
ดังกล่าวน้ีให้ครบ ๘ จังหวะ และลงจบจังหวะด้วยเสียง /- - ป๊ะ ป๊ะ/- - - บ่
อม/- - - บอ่ ม/- - - บอ่ ม/
๙. จงั หวะเพลงกลองยาวบ้านนา หมายถงึ เพลงตีจงั หวะกลองยาวในลาดับท่ี
๙ ดังน้ี /- เพิ่ง – ปะ๊ / - เพิง่ – เพงิ่ / - ปะ๊ เพง่ิ ปะ๊ / - เพิง่ เพ่ิง เพ่ิง/ จะต้องตี
เสียงดังกล่าวน้ีให้ครบ ๘ จังหวะและลงจบจังหวะด้วยเสียง /- - ป๊ะ ป๊ะ/- - - บ่
อม/- - - บอ่ ม/ - - - บอ่ ม/
๑๐. จังหวะเพลงกลองยาวกลองศึก หมายถึง เพลงตีจังหวะกลองยาวใน
ลาดับท่ี ๑๐ ดังนี้ /- - - ป๊ะ / - เพิ่ง – ปะ๊ / - - - ป๊ะ / - เพิ่ง – ปะ๊ / จะต้อง
ตเี สียงดังกล่าวนี้ให้ครบ ๘ จังหวะ แล้วลงจบจังหวะดว้ ยเสียง /- - ป๊ะ ปะ๊ / - -
- บ่อม/ - - - บ่อม/ - - - บ่อม/
๑๑. จงั หวะเพลงกลองยาวร่นื เรงิ หมายถึง เพลงตจี งั หวะกลองยาวในลาดับที่
๑๑ ดังน้ี /- - - ป๊ะ/ - - - เพ่ิง/ - - - ป๊ะ/ - - - เพ่ิง/ จะต้องตีเสียงดังกล่าวน้ี
ให้ครบ ๘ จังหวะ แล้วลงจบจังหวะด้วยเสียง /- - ปะ๊ ปะ๊ / - - - บอ่ ม/ - - - บ่
อม/ - - - บ่อม/ ดงั แผนภมู ติ ่อไปนี้
๑๒. จังหวะเพลงกลองยาวชาวไทย หมายถึง เพลงตีจังหวะกลองยาวใน
ลาดบั ที่ ๑๒ ดงั นี้ /- - - ปะ๊ / - เพิง่ – บ่อม/ - - - ปะ๊ / - เพิง่ - บอ่ ม/ จะต้องตี
เสียงดังกล่าวน้ีให้ครบ ๘ จังหวะ แล้วลงจบจังหวะด้วยเสียง /- - ปะ๊ ป๊ะ/ - - -
บอ่ ม/ - - - บอ่ ม/ - - - บ่อม/
๗. ข้นั ตอนการละเลน่ รากลองยาว
๑. ขัน้ ตอนการอบอุ่นรา่ งกาย (Warm Up)
การอบอุ่นร่างกายก่อนเล่นหรือราากลองยาวเพื่อสุขภาพมีจุดประสงค์เพ่ือเพ่ิมอัตราการ
ไหลเวียนของเลือดการทา งานของหัวใจและกล้ามเนื้อลาย เป็นการเพ่ิมอุณหภูมิของร่างกายวิธีการ
อบอุ่นร่างกายจะค่อยๆ เพ่ิมจังหวะการเคล่ือนไหวในส่วนต่างๆ ของร่างกายขึ้นไปตามลาาดับเพ่ือ
เตรียมร่างกายสาาหรับระดับการละเลน่ ท่หี นกั ขนึ้ โดยใช้ระยะเวลาประมาณ ๕-๑๐ นาที
๑๔
๒. ขั้นตอนการยืดเหยียดกล้ามเนื้อ (Stretching)
ในการละเล่นหรือรากลองยาวควรมีการยืดเหยียดกล้ามเน้ือและกายบริหารแบบเบาๆ เช่น
ข้อมือ ข้อศอก แขนหัวไหล่ ขา หลังส่วนล่าง ข้อตะโพก ขาหนีบ และส่วนต่างๆ ของร่างกายที่
เก่ียวข้องกับการทากิจกรรมเพื่อช่วยลดโอกาสการปวดเมื่อยกล้ามเน้ือและข้อต่ออันเนื่องมาจาก
อาการบาดเจ็บในระหว่างการละเลน่
๓. ขั้นตอนการอบอุ่นรา่ งกายดว้ ยอปุ กรณ์
การละเล่นกลองยาว การอบอุ่นร่างกายด้วยการตีกลอง ยาวนั้น เป็นการเตรียมความพร้อม
ของร่างกาย เพ่ือให้ร่างกายพร้อมที่จะทา การละเล่นกลองยาวโดยใช้ทักษะการของการละเล่น
อุปกรณ์นั้น ๆ และทา ให้ร่างกายพร้อมท่ีจะทา การเคล่ือนไหวในท่าทางที่ใช้เมื่อทากิจกรรมจริง
นอกจากน้ี เป็นการช่วยฝึกฝนทักษะพื้นฐานของการละเล่นกลองยาวและรากลองยาว เพื่อให้เกิด
ความเคยชิน และสร้างความพร้อมให้กับร่างกายในบริเวณกล้ามเน้ือที่จะต้องใช้ในการละเล่นรากลอง
ยาวอีกดว้ ย
๔. ข้นั ตอนการบรรเลงกลองยาว
ขั้นตอนที่ ๑ เรมิ่ จากการโหส่ ามลา
ขัน้ ตอนท่ี ๒ โหมง่ ตใี ห้จงั หวะ โดยจะตีท้งั หมด๑๐ ครง้ั
ข้ันตอนที่ ๓ จากนน้ั กลองยาว (กลองยืน) เริ่มตีออกมาโดยการตโี หมโรงโดยมีทงั้ หมด ๒๐
มือ แตจ่ ะมีการตีให้ไดเ้ สยี งต่างๆ เปน็ ๘ จังหวะ การให้เสยี งโหม่ง ลูกแซก ทมั มาลนี ฉิ่ง ฉาบ จะให้
เสียงเปน็ จงั หวะทม่ี คี วามเร็วสม่า เสมอ สว่ นของเสียงป่ี จะใหเ้ สยี งท่ีเป็นทา นองเพลงท่วี งเลน่
๕. ข้ันตอนหลงั การละเลน่ รากลองยาว
หลังจากที่ละรา กลองยาวเล่นจบชุดการแสดงท่ารา มีความจา เป็นในการผ่อนคลากล้ามเนื้อ
แบบช้า ๆ ซึ่งจะช่วยปรับระบบการหายใจให้เป็นปกติ และรักษาระดับออกซิเจนในร่างกาย โดยอาจ
ใช้การลดระดับความหนักของท่ารา จังหวะการตีกลองและอุปกรณ์ของเคร่ืองดนตรีให้ช้าลงคล้ายๆ
กับตอนอบอุ่นร่างกายของช่วงแรก อีกท้ัง ผู้เล่นควรทาการยืดเหยียดกล้ามเนื้อท่ีคล้ายกับช่วงก่อน
การละเล่นกลองยาว ซ่ึงจะช่วยในการผ่อนคลายกล้ามเน้ือ หรือทา ให้กล้ามเน้ือกลับคืนสภาพปกติ
เพอื่ ลดอาการตึง เกร็ง ของกลา้ มเนอื้ ในวันต่อมาลดลง และไม่กอ่ ให้เกิดการบาดเจ็บได้ง่าย
๑๕
8. บทบาทของกลองยาว
กลองยาว เป็นงานดา้ นศาสตรศ์ ิลป์ท่ีสง่ ผลมบี ทบาทต่อหลากหลายด้าน ดังต่อไปน้ี
8.1 บทบาทดา้ นประเพณี
ภาพ : การแสดงกลองยาวในงานประเพณีแห่กลองยาว
ท่มี า : http://oknation.nationtv.tv/blog/poppy19/2014/12/27/entry-
ภาพ : การแสดงกลองยาวในงานประเพณีแห่กลองยาว
ที่มา : https://www.thailocalfestival.com/event/onson-kongyaw-chaw-wapi/
๑๖
มีการใช้กลองยาวในการแห่นาขบวนกิจกรรมในชุมชนที่เป็นงานบุญหรืองานมงคล ต่อมาจึง
ได้พัฒนาเป็นแบบแผนในการปฏิบัติเน่ืองจากชุมชนหรือสังคมเห็นว่าดีหรือเป็นที่ยอมรับของคนส่วน
ใหญ่ในสังคมและมกี ารปฏิบัติสืบต่อกันมา จึงทาให้บทบาทของกลองยาวเปน็ ส่วนหนงึ่ ของงาประเพณี
หรือเป็นประเพณีในท่ีสุด มีการใช้กลองยาวบรรเลงในงานประเพณีสงกรานต์ งานแตง่ งาน (แห่ขบวน
ขันหมาก) และงานบวช เปน็ ตน้
8.2 บทบาทดา้ นการศึกษา
ภาพ : การเรยี นการสอนกลองยาว
ที่มา : https://www.youtube.com/watch?v=bPMEsZCwR04
หน่วยงานด้านการศึกษาได้มองเห็นคุณค่าของศิลปะกลองยาวพื้นบ้าน จึงได้มีการบรรจุ
เนื้อหาของศลิ ปะกลองยาวพ้นื บ้านใหอ้ ย่ใู นหลักสูตรของสถานศกึ ษาในระดบั ตา่ ง ๆ มีการจัดการเรียน
การสอนตีกลองยาวและการรากลองยาวให้แก่นักเรียนนักศึกษาในสังกัด เนื่องจากเชื่อว่าการศึกษา
เปน็ กระบวนการในการสบื ทอดภูมปิ ัญญา ค่านิยม และวฒั นธรรม อันเป็นเอกลักษณ์ของสงั คมจากคน
รุ่นหนึ่งไปยังอีกรุ่นหนึ่งได้ เหตุดังกล่าวจึงทาให้นักเรียนนักศึกษาท่ีได้เรียนกลองยาวเกิดความรู้ความ
เขา้ ใจ สามารถปฏิบตั ิได้ถกู ต้องและเกิดเจตคติทด่ี ีต่อศลิ ปะกลองยาวพืน้ บ้าน
๑๗
8.3 บทบาทดา้ นการกฬี า
ภาพ : การแข่งขันกลองยาว
ทีม่ า : https://www.youtube.com/watch?v=bPMEsZCwR04
มีการนาวงกลองยาวเข้ามาใชใ้ นการแหน่ าขบวนการเดนิ แถวของนักกีฬาท่ีจดั ภายในโรงเรียน
หรือกีพาท่ีจัดภายในหน่วยงานต่าง ๆ ซ่ึงแต่เดิมแล้ว จะมีการใช้วงโยธวาทิตบรรเลงนาขบวนการเดิน
แถวของนักกีฬา ทั้งนี้อาจเน่ืองมาจากกลองยาวเป็นเครื่องดนตรีประเภทจังหวะ และการประสมวง
ของกลองยาวนั้นประกอบด้วยเคร่ืองประกอบจังหวะต่าง ๆ เช่น ฆ้อง ฉิ่ง ฉาบ กรับ และเคร่ืองดนตรี
ท่ีบรรเลงเป็นทานองคือ ปีขวาหรือปีในหรือแตรวง ดังน้ันจึงสามารถประสมวงในการดาเนินทานอง
และจังหวะดนตรีได้อย่างคร้ืนเครงสนุกสนาน อีกท้ังหน่วยงานท้ังภาครัฐและเอกชนในจังหวัด
นครสวรรค์ได้ร่วมมือกันฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรมพ้ืนบ้าน ดังน้ันจึงมีการนาเอากลองยาวมาใช้ในกิจกรรม
การเดินแถวของนักกีฬา มีการนาเอากลองยาวมาใช้เป็นการแสดงในพิธีเปิดหรือพิธีปิดการแข่งขัน
กฬี าโดยแสดงในรูปแบบของการรากลองยาวและมกี ารนากลองยาวมาตจี ังหวะประกอบการออกกาลัง
กาย
๑๘
8.4 บทบาทดา้ นการแสดงพน้ื บ้าน
การตกี ลองยาวและการรากลองยาว ในอดีตจัดเป็นการละเล่นพืน้ บา้ นซ่ึงจะเล่นตามเทศกาล
ซึ่งเปน็ ประเพณีนิยมในท้องถิ่น โดยมีจุดมุ่งหมาย ในการรับใชก้ ิจกรรมท่ีเก่ียวข้องกับพทุ ธศาสนาและ
เพื่อความรื่นเริงในฤดูกาล โดยไม่เป็นอาชีพหรือเพ่ือหารายได้เล้ียงชีพเป็นหลักต่อมาเมื่อ
สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจและสังคมเปลี่ยนไป การให้ความสาคัญของพิธีกรรมจึงเร่ิมลดน้อยลงไป
เร่ือย ๆ การละเล่นจึงได้ปรับเปลี่ยนเปน็ การแสดงที่ไม่จากัดโอกาสตามฤดูกาลดังอดตี มีการนากลอง
ยาวมาใช้แสดงในการต้อนรับบุคลหรือคณะบุคคลสาคัญ ท่ีมาเยือนหน่วยงานต่าง ๆ ในจังหวัด
นครสวรรค์
8.5 บทบาทดา้ นอาชีพ
ภาพ : คณะกลองยาว V.I.P.
ที่มา : http://kongyaw.blogspot.com/2011/08/blog-post.html
กลุม่ ชาวบา้ นท่มี คี วามรคู้ วามสามารถในกลองยาวไดร้ วมตัวกันจัดตั้งเป็นคณะกลองยาวอาชีพ
และรับการว่าจ้างแสดงในงานบุญงานมงคลต่าง ๆ ทั้งในจังหวัดและต่างจังหวัด โดยเฉพาะในช่วง
เทศกาลงานบวช และงานแต่งงาน งานทาบุญผ้าป่า งานทาบุญกฐิน งานประเพณีสงกรานต์ ปัจจุบัน
ความนยิ มกลองยาวลดลงและไมม่ ีผู้สบื ทอด
๑๙
8.6 บทบาทดา้ นสญั ลักษณ์ในการส่อื สาร
กลองยาวเป็นสัญลักษณ์ของการแสดงความยินดี ความสนุกสนาน และความเป็นสิริมงคล
ดังน้ันจึงพบว่าการบรรเลงกลองยาวจะบรรเลงเฉพาะในงานมงคลเท่าน้ัน การบรรเลงกลองยาวใน
ขบวนแห่ขันหมากที่ฝา่ ยชายแห่ไปบ้านของฝ่ายหญิงเพอ่ื สขู่ อแต่งงานเปน็ ภรรยาของฝา่ ยชายนั้นถือว่า
เป็นสัญญาณท่ีสื่อสารให้คนในสังคมทราบว่ามีเหตุการณ์ท่ีฝ่ายชายจะไปสู่ขอฝ่ายหญิงแต่งงาน เป็น
การประกาศให้ทราบว่างานพธิ ีนั้น ๆ จะเร่ิมขึ้นแล้ว เสียงกลองยาวที่บรรเลงรวมท้ังการร้องรับร้องส่ง
กันในวงกลองยาวน้ันเป็นเสียงท่ีดัง จึงเป็นสัญญาณท่ีแจ้งหรือเตือนให้ผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับการแต่งาน
ของท้ังฝ่ายชายและฝา่ ยหญิงสามารถรบั ทราบและอาจขัดขวางพิธดี งั กล่าวไดท้ นั ดงั น้นั หากไม่มใี ครมา
ขัดขวางกเ็ ปน็ การแสดงนยั วา่ บคุ คลตา่ ง ๆ ในสังคมนนั้ เหน็ ชอบแล้ว
8.7 บทบาทดา้ นการแสดงฐานะของบุคคล
กลองยาวเป็นเครื่องดนตรีที่นิยมใช้ในพิธีกรรมของชาวบ้านที่ต้องอาศัยชนหมู่มากร่วมแสดง
พลังแห่งความสามัคคี เฉลิมฉลอง ชืน่ ชมยินดี เช่น งานบญุ งานบวชงานแตง่ งาน และงานเฉลิมฉลอง
ถาวรวัตถุของพุทธศาสนา เป็นต้น การจัดงานใดที่มีคณะกลองยาวมาบรรเลงในงานหรือในขบวนแห่
จะบ่งบอกว่างานนั้นเป็นงานมงคล เป็นงานท่ียิ่งใหญ่และมีเกียรติ เป็นงานที่มีผู้ร่วมอนุโมทนาผลบุญ
หรอื การกระทาน้ันๆ แสดงใหเ้ หน็ สถานะทางเศรษฐกิจและสังคมของเจา้ ของงานวา่ เป็นผู้มีฐานะม่ังค่ัง
เป็นบคุ คลมชี ือ่ เสยี งหรอื เปน็ บคุ คลท่ีสาคัญในชมุ ชน
8.8 บทบาทด้านการบันเทงิ
เป็นการละเล่นพ้ืนบ้านที่ให้ความบันเทิงแก่ชุมชน เน่ืองจากเปิดโอกาสให้ประชาชนท่ัวไป
สามารถร่วมแสดงความร่ืนรมย์ยินดีกับงานมงคลหรืองานบุญต่าง ๆ ท่ีจัดได้ เช่น งานแห่นาค แห่องค์
กฐนิ แห่องคผ์ ้าปา่ และแหเ่ ทยี นเข้าพรรษา เป็นต้น
๒๐
8.9 บทบาทดา้ นพระพทุ ธศาสนา
ภาพ : การแห่นาค
ทม่ี า : https://www.youtube.com/watch?v=3eVqkIBmvL8
การใชก้ ลองยาวประกอบในพธิ กี รรมท่ีเกย่ี วข้องกับทางดา้ นศาสนา เชน่ งานบวช งาน
บญุ ผเวส งานบณุ กฐิน งานบุญผ้าปา่ เป็นต้น
๒๑
รายการอา้ งอิง
เครือจิต ศรีบญุ นาค และคณะ. (2542). สุนทรียภาพของชีวิต. กรุงเทพฯ : เธิร์ดเวฟ เอ็ดดูเค
ซั่น.
เจรญิ ชยั ชนไพโรจน.์ (2527). ดนตรีพ้ืนบ้านอีสาน. มหาสารคาม; มหาวทิ ยาลัยศรีนครินทรวิ
โรฒ มหาสารคาม.
จารุวรรณ ธรรมวัตร. (2527).รายงานวิจยั “เรื่อง การละเล่นพื้นเมือง”. มหาสารคาม :
สถาบนั วจิ ยั ศลิ ปะและวฒั นธรรมอีสาน มหาวทิ ยาลยั ศรีนครนิ ทรวโิ รฒ.
ชัยนาร์ท มาเพ็ชร, อาจารยว์ทิ ยาลยันาฏศลิป์รอ้ ยเอด็ , ผึฝู้กสอนวงกลองยาว และ
กรรมการตดสั นิวงกลองยาว. สัมภาษณ์ 2559.
ชมุ เดช เดชภมิล. ผู้เชี่ยวชาญดนตรีพ้ืนบา้ น วทิ ยาลัยดุรยิางคศลิป์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
สมั ภาษณ์ 2559.
ธิดาวรรณ ไพรพฤกษ์. (2545). พัฒนาการของลิเกกลองยาว บ้านสองห้อง อาเภอร่องคา
จังหวดั กาฬสนิ ธ์.ุ
รายงานการศึกษาคน้ ควา้ อสิ ระ. ศศ.ม. มหาสารคาม : มหาวิทยาลยั มหาสารคาม.
ธญั ญาลักษณ์ มูลสวุ รรณ. (2555). พฒั นาการของฟอ้ นกลองยาวอาเภอวาปีปทมุ จงั หวัดมหาสารคาม.
วทิ ยานพิ นธ์ศิลปศาสตรมหาบณั ฑติ มหาสารคาม : มหาวิทยาลัยมหาสารคาม,
ทรงเดช แสงนิล. (2549). การศึกษาวัฒนธรรมกับดนตรีพ้ืนบ้านอีสาน: กรณีศึกษาวงกลอง
ยาวเทพนิมิต. มหาสารคาม: มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏมหาสารคาม.
นพรัตน์ บัวพัฒน์. (2542). กลองยาวกบปั ระเพณีฮีตสิบสองของชาวบ้านยางกูอาเภอธวัชบุรี
จงั หวัดร้อยเอ็ด.
วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต มหาสารคาม : มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
พรี พงศ์ เสนไสย. (2547). สายธารแห่งฟ้อนอีสาน. ขอนแก่น : กลุ่มสาขาวิชาศิลปะการแสดง
คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั มหาสารคาม.
สมบตั ิ ทบั ทมิ ทอง. (2544). สภาพการดารงอยู่คณะกลองยาว. การศกึ ษาคน้ คว้าอิสระ ศศ.ม.
มหาสารคาม : มหาวทิ ยาลยั มหาสารคาม.
คณะผู้จดั ทำ
นำยชัยรตั น์ มังกรทอง
นำงสำวเพ็ญนภำ อภเิ ดช
นำยสมพล เส่ยี งวงษ์
นำยเอกพัน วังคีรี