ลั ง ก า ว ต า ร สู ต ร
ห นั ง สื อ ร อ ง ทุ ก ข ข อ ง สั ต ว เ ด รั จ ฉ า น
คํานาํ
สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจา ทรงเปยมลนไปดวยพระมหาเมตตากรุณาธิคุณ ตอเวไนยสัตวท่ัวไป แตละ
ชีวิตมีคายิ่งนัก สัตวโลกทั้งหลายมีความรักตัวกลัวตาย เกลียดความทุกข รักความสุข ไมยอมใหผูอ่ืนใดมารังแก
ขมเหง ถาแมนวาผูอื่นใดมารังแกขมเหง มันก็จะตอสูอยางสุดความสามารถทีเดียว อันความสํานึกเชนน้ีนั้น อยู
ในสํานึกของสามัญสัตวท่ัวไป ดังน้ัน พระพุทธองคจึงไดทรงบัญญัติสิกขาขอปาณาไว เพ่ือคุมครองความสวัสดิ
ภาพแหง ชวี ิตทั้งมวล จะดวยตนเองฆาก็ดี จะดว ยเสยี้ มสอนใหผ อู ่นื ฆากด็ ี จะดว ยเหน็ ดเี ห็นชอบในการฆากด็ ี ท้ัง
สามขอน้ีเปนการกระทําท่ีละเมิดผิดตอพุทธสิกขาบัญญัติ ฉะน้ัน ทานผูเจริญท้ังหลายควรละเวนพฤติกรรม
เหลา นีเ้ สีย
หวังวาหนังสือเลมน้ี จะมีสวนชวยเปดความเมตตาที่ปดตายมานาน หากทานไมเจริญเมตตาจิต ไมมี
ความรูสึกเห็นอกเหน็ ใจ แลว จะเรยี กรองขอความเห็นใจจากใครได
สารบัญ เนือ้ หา
ลังกาวตารสูตร ทา นพุทธทาสภกิ ขุ
ขอ คดิ พิจารณาธรรม ทานพุทธทาสภกิ ขุ
ความเจบ็ ปวดของสัตว โดย ลอ่ี ีเ้ จง
หนงั สือรองทกุ ขข องสัตวเดรัจฉาน
สารจากยมบาล
ภาพแหงความเมตตา
บทกลอนเตอื นใหก นิ เจ
คาํ เตือนจากพระอนิ ทร
พระสัมมาสัมพุทธเจา ทรงตรัสพระสูตรน้ีไวท่ีเกาะลังกา เพื่อท่ีจะโปรดคนใหไดสติสํานึกรูถึงเวรภัยแหง
การฆาฟน และเบียดเบียนชีวิตเลือดเน้ือซึ่งกันและกัน ทานอริยะครูหลายๆ ยุค ทานกลาววา ถาใครอานพระ
สูตรนี้ครบ ๑๐ จบ แลวจิตใจไมเ ศราสลด ยังแข็งกระดางอยู ใจยังไมออนลงแลว บุคคลน้ัน ชาติหนาจะมีหวังที่
จะเกดิ เปนมนุษยอ กี หรอื ?
กรรมผูกมัดกายเน้ือ ดึงดูดวิญญาณธรรมชาติแหงจิต หรือกรรมรวมบังคับตัวไวแลว ลังกาวตารสูตรเปน
พระคัมภีรหลักของพุทธศาสนาฝายมหายาน เปนหนึ่งในเกาคัมภีร ซึ่งเปนคัมภีรสําคัญท่ีเรียกวา “สูตร” สูตร
หนึ่งน้ันมใิ ชส ้นั ๆ เชน ทีเ่ ราเขาใจกนั แตเ ปน หนังสอื เลม ขนาดใหญหรอื คมั ภรี หน่งึ นัน่ เอง ลงั กาวตารสตู รพมิ พข้ึน
เปนภาษาสันสกฤต เม่ือ ค.ศ.๑๗๒๒ โดยทาน Bunyin Nangio. M.A. (oxon) D. Litt. Kvoto. สูตรน้ีแปลเปน
ภาษาจีนคร้ังแรก เม่ือค.ศ.๔๓๓ โดยทานคุณภัทรแหงอินเดีย คร้ังที่สองเมื่อ ค.ศ.๕๑๓ โดยทานโพธิรุจิแหง
1
อินเดีย และครั้งท่ีสามเมื่อ ค.ศ.๗๐๐ โดยทานศึกษานันทะแหงอินเดียเชนกัน เปนสูตรที่วาดวยศึกษาดวย
ศลี ธรรมลวนๆ
ภาคที่แปดแหงลังกาวตารสูตรน้ี กลาวถึงเร่ืองการกินเน้ือสัตวโดยเฉพาะ เรียกวา ภาคมางสภักษนป
ริวรรต จากขอความในภาคน้ี ยอมเปนการพิสูจนไวอยางเตม็ ที่วา สาวกในพระพุทธศาสนาจะเปน บรรพชิตหรือ
ฆราวาสก็ตาม จะไมรับประทานเนอื้ ปลาหรอื เน้ือสตั ว ชนดิ ใดชนดิ หนงึ่ เลย
ตอไปนี้เปนขอความบางตอน ซ่ึงตัดตอนมาจากขอความในภาคนั้นๆ โดยเห็นวาพวกเราแมเปนฝายเถร
วาท (หนิ ยาน) กค็ วรไดอ านฟงกันไวบ า งเปนการประกอบการศึกษาเรอ่ื งนี้ ดวยใจอนั เปน อิสระ
ขอความในพระสูตรนั้นมีดังนี้ :- พระตถาคตเจา ผูทรงอรหันตไดตรัสรูอยางดีถวนแลว และไดตรัสความ
เปนกุศลหรืออกุศลแหงการบริโภคเนื้อสัตวแกเรา เพ่ือวาเราและสาวกอ่ืนๆ ในพระพุทธศาสนา ท้ังในปจจุบัน
และอนาคต จะไดประกาศสัจธรรมอันนี้แกเขาเหลาน้ัน ผูบริโภคเนื้อสัตวเพ่ือเปนการทําลายความอยากใน
เนื้อสัตวข องเขาเหลา น้ันเสยี
พระผูมีพระภาคเจาไดตรัสวา :- โอ...มหาบัณฑิต! ดวยน้ําหนักแหงเหตุผลอันมากมายเหลือจะประมาณ
บงแสดงวาเนื้อสัตวทุกชนิดเปนส่ิงท่ีควรปฏิเสธ โดยสาวกแหงพระพุทธศาสนา ผูมีใจเปยมดวยความกรุณา
สาํ หรับเขาเหลาน้ัน เราจักกลา วแตโ ดยยอๆ ดังน.้ี ..
โอ...มหาบณั ฑิต! ในวฏั ฏสงสารอันไมมีใครทราบที่สุดในเบื้องตนน้ี สตั วผมู ีชีพไดพากันทองเท่ียวไปในการ
วายเวียนตายเกิด ไมมีสัตวแมแตตัวเดียวที่ในบางสมัยไมเคยเปนแมพอ พ่ีนองชาย พี่นองหญิง ลูกชายลูกหญิง
หรือเครือญาติอยางอื่นๆ แกกัน สัตวตัวเดียวกันยอมถือปฏิสนธิในภพตางๆ เปนกวางหรือสัตวสองเทา สัตวส่ี
เทาอ่ืนๆ หรือเปนนก ฯลฯ ซ่ึงยังนับไดวาเปนเครือญาติของเราโดยตรง สาวกแหงพระพุทธศาสนา จะทําลงไป
ไดอยางไรหนอ จัดเปนผูสําเร็จแลวหรือยัง? เปนสาวกธรรมดาอยูก็ตาม ผูเห็นอยูวาสัตวเหลาน้ีท้ังหมดเปน
ภราดร*1 ของตนแลว จะเชือดเน้อื เถอื หนังของมนั อีกหรือ?
*1 ภราดร คอื พช่ี าย นอ งชาย ภราดรภาพ คือ ความเปน ฉันพี่นอ งกัน
โอ...มหาบัณฑิต! เนื้อสุนัข เนื้อลา อูฐ มา โค และเน้ือมนุษย ฯลฯ เหลาน้ีเปนเน้ือท่ีผูคนไมรับประทาน
แมกระนั้นเนื้อของสัตวเหลานี้ถูกนํามาปลอมขาย ในนามของเนื้อแกะ ฯลฯ เพราะเห็นแกเงิน ดวยเหตุนี้
เนื้อสัตวจ งึ เปนสิง่ ที่ไมค วรกนิ โดยสาวกแหงพระพุทธศาสนา
โอ...มหาบัณฑิต! เพราะวาเน้ือยอมเกิดมาจากเลือดและนํ้าอสุจิ เพราะฉะนั้นมันจึงเปนสิ่งไมควรบริโภค
สําหรับสาวกแหงพระพุทธศาสนาผูประสงคตอธรรมอันบริสุทธิ์ และเปนการสรางความหวาดกลัวใหเกิดข้ึนใน
ระหวา งกนั และกัน
โอ...มหาบัณฑิต! เพราะฉะนั้นเนื้อจึงเปนของที่ไมควรบริโภค โดยบรรพชิตแหงพระพุทธศาสนา ผู
ประสงคเพื่อนมิตรภาพในสัตวดวยกันถวนหนา ตัวอยางอันประจักษ เชน เม่ือสัตวไดเห็นนายพรานปา
ชาวประมงหรือนักกินเน้ืออ่ืนๆ เดินมาแมในระยะอันไกล สัตวทั้งหลายก็สะดุงกลัวเสียแลว บางครั้งสัตวบาง
ชนิดก็ขาดใจตายเพราะความกลัว เน่ืองจากมันรูดีวาเขาจะฆามัน ทํานองเดียวกันกับสัตวตัวนอยอ่ืนๆ ใน
ทองฟา บนบก หรือในน้ําก็ตาม เมื่อไดเห็นนักกินเนื้อแตท่ีไกลหรือไดกล่ิน ดวยจมูกอันไวของมันก็จะพากันว่ิง
2
หนีไปไกล พรอมกับความรูสึกอยูในใจวา เขาเหลานั้นเปนผี ยักษ อสุรกาย*2 ผูลางผลาญ นั่นเปนเพราะความ
กลัวตอความตายของมัน เนื้อเปนส่ิงที่ควรกินสําหรับผูใจดําอํามหิต เปนส่ิงที่มีกลิ่นอันนารังเกียจ เปนตนเหตุ
แหง ความเสื่อมเสยี และเปนสิง่ ท่จี ะถกู หามกันโดยสตั บุรษุ
*2 อสุรกาย คอื สัตวท ่ีเกิดในอบายภูมพิ วกหน่ึง คลา ยเปรต
โอ...มหาบัณฑิต! เนื้อน้ีเปนของไมควรบริโภคโดยพุทธสาวก โอ...มหาบัณฑิต! สัตบุรุษยอมบริโภคแต
อาหารที่สมควรแดทานผูบริสุทธิ์ ไมยอมบริโภคเนื้อและเลือด เพราะฉะนั้น... ควรที่สาวกแหงพระพุทธศาสนา
จะตองไมบริโภคเนื้อสัตวเลย พระพุทธเจา ผูซ่ึงเยือกเย็นไปดวยพระมหากรุณา มีพระทัยเปยมลนไปดวยความ
เปนท่ีพ่ึง ที่ปองกันแกดวงใจของปวงสัตวนอยใหญ และมีพระสัมปชัญญะ*3 สมบูรณ พอที่จะไมปลอยใหเปน
โอกาสสาํ หรบั ความเสื่อมเสยี ระบาดขนึ้ ไดเลยน้ัน ยอมจะทรงบัญญัติเนือ้ สัตววาเปน สิ่งไมค วรบริโภค
*3 สมั ปชญั ญะ คอื ความรูตัวอยูเ สมอ ความไมเ ผลอตวั
โอ...มหาบัณฑิต! ในโลกน้มี คี นอันมาก ซึ่งกลาวคําเท็จเทียมตอพระพุทธดํารัส ใหผิดไปจากความจริง เขา
กลาวกันวา บรรดาผูซึง่ คัดคานอาหารอันสมควรแดท านผูบริสุทธิ์ แหง สมัยบรรพกาลนั้น ก็กนิ อาหารเหมือนนัก
กินเน้ือเชนนี้แลว พวกเขายอมเที่ยวสรางความทุกขความเจ็บปวดใหแกสัตวนอยใหญ ท่ีมีชีวิตอยูในอากาศ บน
บก และในนํ้า พวกเขารบกวนรังควานมันอยูเสมอ สมณภาพ*4 ของเขาถูกทําลายเสียยอยยับแลว พราหมณ
ภาพของเขาถูกทําใหเศราหมองเสียแลว เขามิไดประกอบดวยศรัทธาและสมาจาร*5 คนชนิดน้ีแหละที่กลาวคํา
เท็จเทยี มมากมายหลายชนดิ แกพ ระพทุ ธวจนะ
*4 สมณภาพ คอื ภาวะผสู งบกิเลสแลว
*5 สมาจาร คอื ความประพฤตทิ ีด่ ี ธรรมเนียม ประเพณี
โอ...มหาบัณฑิต! มีกล่ินท่ีนารังเกียจไมนาบริโภคอยูในเน้ือสัตว เชนเดียวกันกับกล่ินแหงศพ แมเหตุผล
เพยี งเทา น้ี เน้อื สตั วก็เปนส่ิงของไมควรบริโภค สาํ หรบั พทุ ธศาสนกิ ชนอยแู ลว ถา หากวาศพถูกเผา และเนือ้ สตั ว
อยา งใดอยา งหน่ึงถูกเผา มันก็จะมกี ล่ินอนั นารงั เกียจไมแ ตกตางอะไรกนั เลย
ดังน้ัน บรรพชิตในพระพุทธศาสนาผูหวังความบริสุทธ์ิจะไมบริโภคเน้ือใดๆ เลย เพราะวามันเปนสิ่งที่ถูก
รังเกียจกันแลว สําหรับทานผูบริสุทธิ์และสาวกของทาน ในกรณีท่ีจะพยายามเพื่อโมกษะและความตรัสรู
เพราะฉะน้ันสาวกผูเดินตามทางอันสูงย่ิงนี้ ทั้งครอบครัวลูกหญิงชายยอมอยูอยางเต็มใจ วามันเปนสิ่งท่ีถูก
รงั เกยี จกันในทกุ ๆ กรณีที่พยายามเพ่อื สมาธิ
โอ...มหาบัณฑิต! เพราะฉะนั้น เน้ือทุกชนิดเปนสิ่งที่ไมควรบริโภคสําหรับพุทธศาสนิกชน ซ่ึงเปนผูท่ี
ปรารถนาจะมีสาธุคุณในทางจิตท้ังเพ่ือตนเองและผูอ่ืน นักกินเน้ือยอมเปนเหย่ือแหงโรคหลายชนิด เชน โรค
ไสเ ดือน โรคพยาธิ โรคเรือ้ น โรคเจบ็ ในทอง ฯลฯ
โอ...มหาบัณฑิต! เรากําลังประกาศวาการกินเนื้อสัตว เปนการกินเน้ือบุตรของตนเองอยู ดังนี้แลว จะ
กลาวไปอยางไรไดที่เราจะบัญญัติใหสาวกของเรากินเนื้อสัตว ซึ่งเปนของจัดไวตอนรับของพวกคนใจอํามหิต
เปนของควรหามโดยทานสัตบุรุษทั่วไป เต็มไปดวยมลทินปราศจากคุณใดๆ ไมเหมาะท่ีจะบริโภคสําหรับผู
บริสทุ ธิ์ และเปน ของควรหา มเดด็ ขาดโดยประการท้ังปวง
3
โอ...มหาบัณฑิต! เราไดบัญญัติไวแลววา สําหรับอาหารอันสมควร ซ่ึงไดกําหนดนิยมกันมาแลว โดย
บรรดาทานบริสุทธิ์แหงสมัยบรรพกาลไดแ ก อาหารท่ีปรุงขึ้นจากขาว ลูกเดือยขาว สาลี สารแหงหญามุญชะ*6
อูรทะและมสรุ นมสม น้ํานม นํ้าตาลสด น้ําตาลกรวด ฯลฯ
*6 มุญชะ คือ พชื จาํ พวกหาู ปลอ ง
โอ...มหาบัณฑิต! ในกาลกอนมีพระราชาครองราชยสมบัติอยางผาสุก พระองคหนึ่งนามวา ราชาสิงหะ
เสาทโส ตอมาไดกลายเปนผูละโมบในการบริโภคเน้ือ จนในที่สุดถึงกับใชเน้ือคนเปนอาหาร เนื่องจากความ
อยากเปนไปแกกลาหนักเขา เพราะเหตุน้ีพระองคจึงถูกปลดออกจากความเปนพระราชา โดยพระสหาย
เสนาบดีและพระประยูรญาติของพระองคเอง พรอมท้ังคนอ่ืนๆ จนกระท่ังตองสละราชสมบัติ และถูกเนรเทศ
ออกไปจากแควนของพระองค โดยประชาชนตองรบั ทกุ ขท รมานอนั ใหญห ลวง เน่อื งจากเนือ้ สัตวเปนเหตุ
โอ...มหาบณั ฑิต! กใ็ นปจ จุบนั ชาตินเี้ องเขาเหลาน้ัน ซึ่งเคยชนิ กบั การกินเน้ือสัตวใ นมาตรฐานนี้ เมอ่ื ความ
อยากเปนไปรุนแรงเขาก็กินเน้ือคนได ยอมเปนผูละโมบในการกินและเปนเหมือนยักษ ปศาจราย ครั้นถึง
อนาคตกาลเพราะอํานาจจิตติดฝงแนนในการอยากกินเน้ือสัตว เขายอมตกไปสูกําเนิดแหงสัตวท่ีกินเนื้อเปน
อาหาร เชน สิงโต เสือ จระเข สนุ ัขจงิ้ จอก แมว นกเคา แมว ฯลฯ
โอ...มหาบัณฑิต! มิใชเพราะเน้ือจะเปนของตองกินหรือการฆาเปนของตองทําก็หามิได ในกรณีน้ันๆ
สวนมากท้ังหมดเปนเพราะการเห็นแกเงินจึงฆาสัตวที่มีชีวิต ถึงแมจะเปนสัตวเชื่องและปราศจากอันตรายแต
อยา งใดก็ถกู ฆา การฆา เพราะเหตุอ่ืนนั้นมีนอยทส่ี ุด มนั เปนการทรมานเขามาก ในเมื่อใจเต็มไปดวยความอยาก
กินเน้ืออยางแรงกลา คนก็กินเน้ือคนไดอยูเสมอจะตองกลาวไปทําไมกับเน้ือสัตว เน้ือนก ฯลฯ โดยสวนมาก ก็
เน่อื งจากความโงเขลาเขาใจผดิ มนุษยจ งึ ไดรบั กรรมเกิดความกระวนกระวาย โดยความอยากในเนอ้ื สัตว คนฆา
นก ฆาแกะ และปลา โดยใชขายหรือเครื่องกลการฆามันเหลานั้น ซึ่งเปนสัตวที่เช่ืองและหาอันตรายมิได น่ันก็
เพื่อหวังจะใหไ ดเ งิน
โอ...มหาบัณฑติ ! กรณีแหง อาหารท่ีเราไดบญั ญัติแกสาวกนั้น มใิ ชเน้อื สตั วชนิดใดชนิดหนง่ึ เลยซึ่งเปนของ
ควรกิน สตั วซี่งเปนของไมควรกิน ไมเ ปน เหตุควรถูกกนิ ไมใ ชส งิ่ ทค่ี วรสมมุติวาควรกิน ในอนาคตกาลสงฆสาวก
ของเราจะเกิดมีคนบางคน ซึ่งกําลังสมาทานขอปฏิบัติแหงบรรพชิตและกําลังปฏิญาณตนเปนศากยบุตร กําลัง
ครองผากาสาวพัตรสีแดงหมน จะเปนผูมัวเมาและประกอบตนคลุกเคลา อยูในความเพลิดเพลิน เขาจะมีจิตท่ี
เต็มไปดวยความปรารถนาลามกบญั ญตั ิขอปฏิบตั ทิ ีผ่ ดิ แบบแผนขึน้ ใหม เขาเหลานั้นเปน ผอู ยากเสพเพราะติดรส
และจะเรียบเรียงพระคัมภีรใหมีขอความเท็จ อันจะเปนเคร่ืองยืนยัน และโตแยงอยางพอเพียงสําหรับการกิน
เนื้อสตั วก ัน เขาจะบญั ญตั ิส่งิ ทีต่ ถาคตมไิ ดบ ญั ญัตไิ ว เขาจะกลาวขอความที่สง เสริมการกนิ เน้ือสัตว เขาจะกลาว
วาเราตถาคตไดบัญญัติไวในเร่ืองน้ี และวา เราตถาคตนับมันเขาไวในสิง่ ทั้งหลายที่ควรกิน และวาพระภควันต*7
กไ็ ดทรงเสวยเนอ้ื สัตวโดยพระองคเ อง
*7 ภควันต... ภควา... ภควาน... ภควตั นามพระผเู ปนเจา
แต โอ...มหาบณั ฑิต! เรามิไดเ คยบัญญตั เิ น้ือสตั วไวในสูตรใดๆ หรอื กลา ววา มันเปนของควรกนิ หรือนับมัน
เขาในประเภทของดีที่ควรกิน โอ...มหาบัณฑิต! อริยสาวกท้ังหลายไมบริโภคแมแตสิ่งที่คนธรรมดาชอบกินนิยม
4
กันวา ดี เขาเหลา น้นั จะมาบรโิ ภคเนื้อและเลือดซึง่ เปนของควรปฏิเสธไดอยา งไรเลา ? เหลา สาวกของตถาคตเปน
ผูเ ดนิ ตามแนวสจั ธรรม คนผูมีปญญาเปนเคร่ืองคิดคนของตนเอง และบรรดาพทุ ธศาสนิกชนทั้งหลายอืน่ ๆ (แหง
พระพุทธเจา องคอืน่ ๆ) กเ็ ปน เชนเดยี วกัน เขาเหลา นั้นมใิ ชผูกนิ เนื้อสัตว พระตถาคตเจาท้งั หลายในกาลกอ นๆ
ขอ คดิ พจิ ารณาธรรม โดยทานพุทธทาสภกิ ขุ
ก็เปนด่ังนี้ พระตถาคตเจาทั้งหลายมีสัจธรรมเปนพระกายของพระองค ทรงดํารงพระชนมชีพอยูดวยสัจ
ธรรมไมทรงดํารงกายดวยเน้ือสัตว ทานเหลาน้ันไมเคยเสวยเนื้อสัตว พระองคทรงเพิกถอนความอยากในโลกีย
วัตถุไดท้ังหมดแลว ทานเหลานั้นปราศจากมลจิตอันเปนมูลแหงความทุกข ทานเต็มเปยมไปดวยปรีชาญาณอัน
ไมของขัด ในอันจะหย่ังทราบสิ่งซึง่ เปนกุศลและอกุศล ทรงทราบส่ิงท้ังปวงเห็นแจงส่ิงท้ังปวง พระองคทรงมอง
ไปที่สรรพสัตว คลายกับบุตรของพระองคเองทรงกอปรดวยมหาเมตตา มหากรุณา โดยทํานองเดียวกัน เรา
ตถาคตเห็น สรรพสัตวเชนเดียวกับบุตรของเราเอง เราจะบัญญัติใหสาวกของเรา บริโภคเนื้อลูกของเราได
อยา งไรเลา และเราเอง ก็จะบริโภคมันไดอยา งไรเลา มนั ไมมีขอควรสงสยั เลย ในเรอ่ื งทีว่ าเราไดบัญญตั ใิ หสาวก
บริโภคหรอื เราไดบ ริโภคมันโดยตนเองหรอื ไม?
(ในทส่ี ุด ไดตรสั คําทีผ่ ูกเขาเปนคาถา ซ่งึ จะยกมาในทน่ี ้ีแตบางคาถา มีใจความวา )
โอ...มหาบัณฑติ ! พระชนิ วรไดตรสั ไวแ ลววา สุรา เนอื้ และหอม กระเทยี ม เปนส่ิงทีพ่ ทุ ธศาสนิกชนไมควร
บริโภค บรรพชิตควรเวนเสมอจากเนื้อสัตว หัวหอม กระเทียม และนานาประภทแหง เครื่องด่มื อันมึนเมา เขาผู
ฆาสตั วชนิดใดๆ ก็ตามเพ่อื เงนิ และเขาผูซึ่งจา ยเงินเพื่อซ้ือเน้อื น้ัน ทง้ั สองพวกไดช อ่ื วา เปนผปู ระกอบอกศุ ลธรรม
และจกั จมลงสูโรรวุ ะนรกและนรกอืน่ ๆ
เราบญั ญัตหิ า มกินเนอ้ื สัตวไวใ นขอความแหงคัมภีร เหลานี้ คอื ๑.หัสติกักสยะ ๒. มหาเมฆะ ๓.นิรวาณาง
คลีมาลิกา ๔.ลังกาวตารสูตร ฉันเดียวกันกับท่ีความถูกพันธนาการเปนขาศึกของความหลุดพนเปนอิสรภาพ
เนื้อสัตว สุรา ฯลฯ ก็เปนขาศึกของนิรวาณ (นิพพาน) ฉันนั้น ดังน้ัน เนื้อสัตวซ่ีงเปนของดูนากลัวแกสรรพสัตว
และเปน อุปสรรคแกก ารปฏิบตั เิ พอื่ วิมุตติ จงึ เปน ของไมค วรกินน่คี ือธงชัยแหงอารยชน
ทําไมเราจึงไมควรกินเน้ือสัตว? เพราะเปนการปฏิบัติเพื่อยึดเอาประโยชนท้ังฝายโลกและฝายธรรม การ
ไมก ินเนอ้ื สตั วเ ปน ทางกา วหนา ของสัมมาปฏิบัติอยา งหนึ่ง ซึง่ ไดผ ลมากโดยลงทนุ ทางวัตถุนอ ยทีส่ ดุ แตใหผลมาก
ทางใจ ประโยชนทางฝา ยธรรม
ขอท่ี ๑ เปนการเลี้ยงงายยิ่งขึ้น เพราะพวกพืชผักเปนของหางายในหมูคนยากจนเข็ญใจ ซ่ึงมีการปรุง
อาหารดวยผักเปนพ้ืน นักกินผักยอมไมมีเวลาไปกระวนกระวาย เพราะอาหารไมคอยจะถูกปากถูกลิ้นนักเลย
ในขณะที่นักกินเนื้อมักตองเลียบๆ เคียงๆ เพ่ือใหไดมาซ่ึงภัตตาหารเน้ือบอยๆ ญาติโยมเสียไมไดในทาทีก็
พยายามหามาถวาย (ขอคิดพจิ ารณาธรรมทา นพุทธทาสภิกขุ แหง สวนโมกข จังหวัดสรุ าษฎรธานี)
ศรัทธาญาติโยมท่ีมีใจเปนกลาง เคยปรารภกับขาพเจาหลายตอหลายคร้ังวา เขาสามารถจะเล้ียงพระได
ถึง ๕๐ รูป โดยไมรูสึกลําบากอะไรเลย หากเปน อาหารที่ไมเ กย่ี วกับเนือ้ กบั ปลา แตที่ผา นมาตองฝนใจทําเปนไม
รูไมช้ีอยางมากๆ ไมใชวาจะคิดวา เนื้อมีราคาแพงกวาผัก แตเปนเพราะรูวาสัตวถูกฆาตาย เพื่อการทําบุญเลี้ยง
พระของเรา มีอีกหลายคน ที่ทีแรกคานวาการทําอาหารมังสวิรัติวุนวายลําบาก แตเม่ือไดทดลองทําไป ๒-๓
5
ครั้ง กลับสารภาพวาเปนการงายเสียยิ่งกวางาย เพราะบางคราวไมตองไปตดิ ไฟเลยก็มี ตัณหาของนักกินผกั กบั
กินเน้ือมีความแตกตางกันอยางไร จะกลาวในขอหลัง เฉพาะขอน้ีขอจงทราบไววา “คนกินเนื้อสัตว เพราะแพ
รสตณั หา กนิ เพราะตัณหา ไมใชเพราะเลี้ยงงาย”
ขอที่ ๒. เปนการฝกในสวน “สัจธรรม” คนเราหางไกลจากความพนทุกขก็เพราะมีนิสัยเหลวไหลตอ
ตัวเอง สัจจะในการกินผักนั้น เปนแบบฝกหัดที่นาเพลินบริสุทธิ์ ไดผลสูงเกินกวาท่ีคนไมเคยทดลองจะคาดถึง
พืชผักเปนอาหารท่ีจะหลอเล้ียง “ดวงธรรมแหงสัจจะ” ในใจของเราใหสมบูรณแข็งแรง ดังน้ันการฝกกินผัก
อาหารพืชผักจึงเปนแบบฝกหัดสําหรับผูปฏิบัติธรรมท่ียอดเยี่ยมกวาแบบฝกหัดอยางอื่นๆ เพราะแบบฝกหัด
บางอยา งคอนขางงา ย แตบางอยางกย็ ากเกินจะฝก ทาํ ใหไ มสามารถนํามาเปนเกมฝกหดั ประจําทุกๆ วนั แตเ รา
ผูปฏิบัติธรรมตองฝกทุกวันจึงจะไดผลเร็ว เหตุฉะนี้การฝกใจดวยเรื่องอาหารอันเปนสิ่งที่เราตองบริโภคอยูทุก
วันจงึ เหมาะมาก อยา ลมื พระพทุ ธภาษติ ทม่ี ใี จความวา “สัจจะเปนคกู ับผากาสาวพัสตร”
ขอที่ ๓.เปนการฝกในสวน“ทมะ”ธรรม “ทมะ” คือ การขมใจใหอยูในอํานาจ คนเราเปนทุกขเพราะ
ตัณหาอนั ไดแก ความอยากทีข่ มใจไวไ มอ ยู มีขอ พิสูจนเ ฉพาะเร่ืองผักกับเน้อื งายๆ เชน ขาพเจาเคยเห็นชาวบาน
ที่มาจากปาดอนสงู ๆ อุตสาหห าบเอาพวกพืชผกั ลงมาแลกปลาแหง ๆ จากชาวบานแถบรมิ ทะเลขึน้ ไปกิน ทงั้ ๆ ท่ี
ตองเสียเวลาเปนวนั ๆ ในขณะที่กลางบานของเขาก็มีอาหารพวกพืชผัก เผือก มัน ฟก มะพราว ฯลฯ อยางอุดม
สมบูรณ อีกท้ังอาหารเหลานี้ยังเปนของสด สามารถบํารุงรางกายไดมากกวาปลาแหงๆ และข้ึนราที่พวกเขาสู
อตุ สาหล งมาหามหว้ิ ขน้ึ ไปเก็บไวกนิ เปนไหนๆ
ดังน้ัน... ผูที่ไมมีการขมรสตัณหาจักตองเปนทาสของความทุกข และถอยหลังตอการปฏิบัติธรรม เหตุนี้
การขมจติ ดวยเรอ่ื งอาหารการกนิ จึงเหมาะมาก เพราะจะมีการขม ไดท ุกวันการขมจิตอยเู สมอเปน ของคูกบั ผากา
สาวพัสตรเชนกัน โปรดทราบ! วามันเปนการยากยิ่งท่ีคนแพลิ้นจะขมตัณหา โดยพยายามเลือกกินแตผักจาก
จานอาหารท่เี ขาปรุงดวยเนอื้ และผกั ปนกันมา จงยึดเอาเกมกฬี าฝกขม จิต ท่เี ปน เครอ่ื งชนะตนอันนเ้ี ถดิ
การเลยี้ งพระในงานตางๆ ขา พเจา เคยเห็นเคยไดยนิ เสียงเอด็ ตะโร เรยี กเอาแตอาหารเน้ือ สว นอาหารผัก
ลวนดูเหมือนวาเปนการยากที่จะถูกเลือกกับเขา มิหนําซํ้ายังเหลือกลับไปอีก แมกระทั่งอาหารที่ปรุงระคนกัน
มาก็หายไปแตช้ินเน้ือคงเหลือแตผกั ตดิ จานกลับไป และยิ่งไปกวาน้ัน ก็คือควรรูไวดวยวาบรรดาพอครัวแมครัว
และเจาภาพเขารูตวั กอนดวยซ้ําไป จึงปรุงอาหารเนื้อสัตวเอาไวใหมากกวาอาหารผักหลายเทานัก ท้ังนี้ก็เพราะ
ตัณหาทง้ั ของฝา ยแขกเหรอื่ ชาวบา น และฝายบรรพชติ ทั้งหลายรวมมอื กัน “แบงอทิ ธพิ ล”
ขอที่ ๔. เปนการฝกในสวน “สันโดษ” สันโดษ คือ ความพอใจเฉพาะส่ิงที่มีอยูตามฐานะของตน
โดยทว่ั ไปชีวิตของผูอ อกบวชยอมดาํ รงอยดู ว ยอาหารชั้นเลว ทวา ขา พเจาเคยเหน็ บรรพชติ บางรปู เวน ไมย อมรับ
อาหารจากคนจนเพราะเห็นวาเลวเกินไป คือเปนเพียงผักหรือผลไมช้ันต่ํา และถึงแมจะรับมาก็เพื่อท้ิง น่ีเปน
ตัวอยางของผูที่ไมเคยมีความสันโดษหรือถอมตน ดังน้ัน... การฝกเปนนักกินผัก กินอาหารอยางงายๆ จะแกไ ด
หมด “สนั โดษเปนทรัพยอ ยา งเอกของบรรพชิต”
ขอที่ ๕. เปนการฝกในสวน “จาคะ” จาคะ คือ การสละสิ่งที่เปนขาศึกตอความสงบหรือความพนทุกข
นักกินผักท่ีแทจริงมีดวงจิตบริสุทธิ์ผองใส เกินกวาที่จะมีใจนึกอยากในเร่ืองจะบริโภคอาหารที่มีรสหลากหลาย
6
เพราะผักไมย่ัวในการบริโภคมากไปกวากินเพื่ออยาใหตาย ซึ่งตางไปจากเนื้อสัตวที่ย่ัวใหติดรสและมัวเมาอยู
เสมอความอยากในรสที่เกินจําเปนของชีวิต ความหลงใหลในรส ความหงุดหงิด เมื่อไมมีเนื้อท่ีอรอยมาเปน
อาหาร ฯลฯ เรือ่ งเหลา นี้ขาพเจารบั รองไดว า ไมม ดี วงจิตของนักกินผักเลย สวนนกั กนิ เนื้อนน้ั ทา นจะทราบของ
ทา นไดเองเปน ปจจัตตัง เชน เดียวกบั ธรรมะอยางอน่ื ๆ
ขอท่ี ๖. เปนการฝกในสวน “ปญญา” ปญญา คือ ความรูเทาทันดวงจิตที่กลับกลอก การใชปญญา
พิจารณาใหเหน็ โทษของการยึดมั่น และใหใ จละวางความยดึ ม่นั ในการกินอาหาร แบบฝกหัดทยี่ ากและเปนกาว
ที่ใหญของการปฏิบัติธรรมเชนน้ี ไมมีอะไรดีไปกวาการฝกบริโภคอาหารผัก ท่ีจะเปนอารมณอันบังคับใหทาน
ตองใชพิจารณาตัวเองอยูเสมอทุกมื้อ เพราะเน้ือทําใหหลงในรส สวนผักทําใหยกใจขึ้นไป ซ่ึงเหมาะแกสันดาน
ของสัตวผ ูมกี ิเลสยอมใจจนจบั แนน เปนนํ้าฝาดมาแตเ ดิม ปญญาของทา นตองรูอยูเสมอวา ไมใชจะไปนิพพานได
เพราะกินผัก เปนแตการกินผักจะชวยขัดเกลากิเลสทุกๆ วัน แทจริงแลวขาพเจาไมไดมีความเห็นวา ฝายที่จะ
ชวยขัดเกลาจิตใจตองเปนผัก ความจริงอาจจะถือวา ผักเปนอาหารช้ันเลวหรือไมประณีตก็พอแลว แตเม่ือมา
พิจารณาใครครวญใหดีแลวมนั มาตรงกบั อาหารผัก เพราะจะทําอยางไร เน้ือก็เปนของชวนกนิ เพียงแตต มเฉยๆ
พอไดกล่ินมันก็ย่ัวตัณหาอยูดี! เพราะฉะน้ันฝายท่ีจะปราบตัณหา จึงกลายเปนเกียรติยศของผักไป อาหารผัก
เปนอาหารที่ขมตัณหาได และมีแตความบริสุทธิ์จึงเหมาะสม สําหรับผูที่ระแวงภัย และต้ังอยูในความไม
ประมาทอยูเ สมอ
ผลดีในฝายโลก อาหารผักมีคุณประโยชนตอรางกายยิ่งกวาเนื้อสัตวหรือไม? เร่ืองน้ีวิทยาศาสตรใน
ปจจุบัน ก็บอกแกเราชัดแจงอยูแลววา อาหารผักจะทําใหผบู ริโภคมีกําลังแขง็ แรง โรคนอย ดวงจิตสงบ ชวยให
ความกระหาย ในความอยาก ความโกรธ ความมัวเมา บรรเทาลงเปนอันมาก
ความเจบ็ ปวดของสตั ว โดย ล่ีอี้เจง
๑. คณุ ธรรมอนั ย่ิงใหญข องฟาดนิ คอื “ชวี ิต” ความโหดรา ยอนั มหนั ตของมนุษยโลก คือ “ฆา” ซ่ึงเปน คํา
กลาวทกี่ ระจา งท่ีสดุ ของคนโบราณ เปนคาํ พูดท่สี ้ันและเขาใจงา ยท่สี ุด เปน คําพูดท่เี จ็บปวดท่ีสดุ พวกเราควรจะ
รูวาชีวิตเปนสิ่งที่มีคุณคาท่ีสุด การฆาเปนสิ่งท่ีโหดรายเจ็บปวดท่ีสุดเหมือนกัน พวกเราเคยอานหนังสือถึงโทษ
ทัณฑท่ีหนกั ท่สี ดุ ของมนษุ ย ก็คอื “ตาย” เทา น้ัน
ก็จะรูถึงความชั่วรายที่กอไว ความโหดรายแมจะทวมทนเลวทรามที่สุด เมื่อตายลงแลวทุกอยางก็สิ้นสุด
ไมสามารถจะเพิ่มโทษไดม ากกวา นี้อกี แลว แตกลบั กนั พวกสตั วท ่ไี มมีพษิ รา ยตอ ผคู น ถึงมโี ทษก็ไมถึงตาย ฟา ดิน
ยังอภัยโทษใหได ผูคนกับไมคํานึงถึงสิ่งใดๆ จับมาฆาแกงทารุณกรรมอยางโหดราย แลวก็กินมันเขาไปแทบถือ
เปนเรอื่ งธรรมดา (ความเจ็บปวดของสตั วโ ดย ลอี่ ้เี จง)
เฮอ ! โลกนี้ ชางโหดรา ย ไรเหตุผล ยังมอี ะไรหนกั มากยิ่งไปกวานีบ้ างไหม? ทุกชวี ติ ของสตั วท่มี อี ยูใ นโลกนี้
ต้ังแตมนุษยจนกระทั่งสัตวบกสัตวนํ้า ถึงแมจะมีความแตกตางกันท้ังรูปราง และนํ้าหนักแตวิญญาณน้ัน
เหมือนกัน หรอื จะกลาวอีกแบบหนงึ่ คือ สัตวแมไมม รี ปู รา งเหมือนกัน แตก ม็ นี ํ้าจติ นํ้าใจเหมอื นคน ตา งกร็ ูจักรัก
ชีวิตของตน รูจักกลัวรูสึกเจ็บปวด ดังน้ัน คนควรมีอัธยาศัยตอสัตว เหมือนมีอัธยาศัยตอคน ไมควรเห็นความ
7
แตกตางจากรางกายสังขาร เปนขออางในการแบงแยกในจุดนี้ อยางนอยท่ีสุดพวกเราตองจดจําวา มูลฐานของ
ชีวิตตางกม็ ชี ีวิตขึน้ ตรงตอฟา ดนิ ตา งก็สง กระแสจิตติดตอกัน ไมอ าจท่ีจะดูหมน่ิ เหยยี ดหยามกนั ได
เธอลองคิดดูซิวา เวลาเราถอนขนสักเสนหน่ึง เราจะรูสึกสะดุงสะเทือนไปทั้งตัวเพียงไร เข็มแทงอันเดียว
ซึ่งเปนเพียงสวนหนึ่งของรางกายเทาน้ัน หาใชรางท้ังรางก็ไม นั้นก็คือ ทุกชีวิตก็มีชีวิตเหมือนตัวเราเอง เลือด
เน้ือก็เหมือนกัน ความเจ็บปวดทรมานจะตางกันอยางไร? ที่ยกยองกันวา มนุษยเปนสัตวประเสริฐ มีคุณธรรม
ยอมไมมีเหตุผลพอท่ีจะกินสรรพสัตวได ควรจะรูวาฟาดินไดใหกําเนิดชีวิตที่โงเขลาเฉลียวฉลาด ตั้งช่ือวา
“มนษุ ย” แลว กใ็ หก ําเนดิ ชีวติ ทีโ่ งเขลาเบาปญญา ต้งั ชือ่ วา “สัตว” ทง้ั สองอยรู ว มกัน เพยี งแตต า งกันเหมอื นกับ
ชีวิตของคนท่ีมีลูกคนโต แลวมีลูกคนเล็กถัดๆ กันไป แมมีความตางกันเปนพี่เปนนอง แตก็มีเลือดเน้ือ มีความ
สนิทสนมดุจเดียวกัน หากแตวา คนมีสติปญญาและพละกําลังสมบูรณสมกับชีวิตสัตวประเสริฐ พวกที่หลงงม
งาย และเขาขางตัวเองก็ทึกทักเอาวา สวรรคสงสรรรพสัตวมาใหคนกิน คําพูดเหลาน้ีมีหลักฐานอะไร? ถาอยาง
นน้ั เวลาเสือมันมาเจอคนเขา มันกก็ นิ คนเลย ก็นาจะพูดวา สวรรคสง คนมาใหเสอื กินบา ง
การดํารงชีพของคน มีธัญพืชหลายชนิดมากเกินพอสําหรับดํารงชีพ ฟาดินประทานใหมากมายขนาดน้ี
แลว ยังมีเหตุผลอะไรอีกหรือท่ีอาหารการกินของคนเรา จําเปนตองพ่ึงชีวิตของสัตวอีก? พูดถึงคําท่ีวา ทุกชีวิต
คือรา งเดยี วกัน ผูคนคงรูส ึกวาตนเองใหญท่สี ุดแลว แตละคนก็มีรา งของแตละคน จะเปนรา งเดียวกนั ไดอยา งไร?
ที่แทแลวในครอบครัวหนึ่ง ก็เหมือนรางเดียวกัน เชนแมลูกเปนตน นี่เปนความจริงที่แนแท แตปจจุบัน จะไป
แลดูไดอ ยา งไรวา ทุกชวี ิตจะมีรา งกายอนั เดียวกนั ? ถาอยา งนน้ั เมอ่ื รา งของแมเ ห็นลกู นอยดใี จ แมก ็ดีใจดวย ถา
หากลูกนอยเจ็บปวด แมก็รูสึกเจ็บปวดดวย ถาลูกนอยเกิดเจ็บปวยและตายไป ถาเปนไปไดแมก็พรอมจะ
เจ็บปวยและตายแทน ภายใตจักรวาลน้ี คนท่ีเปนแมจะไมนับวาลูกนอยและตนเองมีรางดจุ เดียวกัน ดุจเชนผทู ่ี
รักบา น รกั ชาติ รักประเทศดุจเดียวกนั ซึ่งก็เปนเหตุผลเดียวกับการรกั มนุษยชาตริ กั ผคู น เมง จอื้ กลาววาพระเจา
แผนดิน “อู” เห็นไพรฟาจมน้ํา ก็เหมือนกับตนเองจมน้ําดวย พระเจาแผนดิน “เจ็ก” เห็นไพรฟาอดอยาก ก็
เหมอื นตนเองอดอยากดว ย
พระกษิติครรภมหาโพธิสัตว กลาววา “ถาผูคนยังไมสําเร็จเปนพระอรหันต ขาก็จะไมเขาสูพระนิพพาน”
ดว ยเหตุอันนกี้ ็เชน เดียวกับแมทคี่ อยดูแลลกู นอ ย ทมี่ คี วามจรงิ ใจคอยเฝาหวงใย ประดุจมชี ีวติ อนั เดียวกนั ซ่ึงไม
สามารถจะแบงแยกความสัมพันธอนั น้ีได คนๆ นี้ คนๆ นน้ั และอกี หลายๆ คน กม็ ดี วงจติ ท่เี หมือนกนั เพยี งแต
วาบนรางกายนั้น ภายใตหนังท่ีหมุ อยู ถาเอาเน้ือที่หนักไมก่ีสิบกิโลกรัมออกเสีย ก็จะกลายเปน วา น่ีเปนของฉนั
นั่นเปนของเขา ในกรณีที่เราไมสามารถแยกหนังออกมาได ถามีโอกาส ก็เอาสวนที่มีคุณสมบัติเหมือนกันมา
รวบรวมกันเขา จากความนอยนิดของฉัน ก็เพิ่มใหมันใหญขึ้น เพิ่มเขาไปอีกเร่ือยๆ จนใหญคับฟากลายเปน
“ฉันแทๆ ” ไมบกพรองเลย! ส่ิงท่ีตองรูก็คือ เมื่อเปรียบเทียบสวนที่ใหญของฉัน กับความประพฤติท่ีสูงหรือต่ํา
กร็ วู าคนที่เลวทรามทส่ี ดุ ก็คอื คนท่เี อาเนอื้ ไมกส่ี ิบกโิ ลกรมั นัน้ มาเปนของฉนั น่นั แหละ ดงั นน้ั พฤติกรรมของเขา
ก็จะกลายเปนความเห็นแกตัวอยางท่ีสุด ความช่ัวรายขนาดไหน ก็ทํามาแลว ความชั่วรายท่ีฆาชีวิต ก็เนื่องจาก
ขาดความเห็นอกเหน็ ใจ อนั สืบเนอื่ งมาจากความคดิ เหน็ ของผูคนไมมีรา งเปน ดุจอนั เดียวกนั !
8
๒. ไมวาใครฆา ใครกต็ าม มันเปน เร่ืองทีไ่ มค วรจะมีขึ้น แตช าวโลกมคี วามเห็นที่ไมตรงกัน “การฆา ” มีคน
ฆา คน คนฆา สัตว และสตั วฆ า คน ๓ ชนิด แตผูคนกลับเหน็ วา “คนฆาคน” เปนเรื่องรา ยแรงทสี่ ดุ “คนฆา สัตว ”
เปนเร่ืองธรรมดาท่ีสุด “สัตวฆาคน” เปนเรื่องนากลัวและแตกต่ืนมาก! ขาอยากใหพวกเราเปดใจ ใหสอบถาม
สักหนอยดูซิวา นาจะมีการแบงประเภทการฆา หรือไมพูดออกอยางจริงใจ โดยท่ีจริงแลวคนฆาสัตวน้ันดุราย
กวาคนฆา คนมาก ยงั ดรุ า ยกวาสัตวฆา คนดวย! เปน เพราะอะไรหรือ? เพราะวา คนฆา คนอาจเกิดจากการคดโกง
ทางกฎหมาย หรือไมก็เพ่ือปองกันตนเอง หรือไมก็ดวยสาเหตุอ่ืนๆ สัตวแมจะฆากันก็ยังมีขอบเขตจํากัด เชน
เสือก็ไมอาจทํารายพวกนกได สัตวนํ้าก็ไมสามารถทําลายสัตวบก เปนตน มีแตคนท่ีฆาสัตว ฆาไดแมแตอยูใน
อากาศ อยใู นทองทะเลลึก ในปา และบนภเู ขา ไมมีท่ีไหน ทไ่ี มถ ูกฆา ทกุ ชนดิ ถูกฆา มาเพือ่ บําเรอปากทองท้ังส้ิน
กอใหเกิดส่ิงนาเศราสะเทือนใจ ทําใหนกไรเพ่ือน บินโดดเด่ียว สัตวปาหลงฝูง นาสมเพชยิ่ง ลิ้นคนแลบถึงฟา
และทะเลลึก การกระทําของคนเชนน้ี กฎหมายก็ไมสามารถเอาโทษได แตยังไดรับการยกยองจากคนพวก
เดยี วกันอีก
การเขนฆาของสัตวยังมีขอบเขต แตการฆาของคนน้ัน ไรขอบเขตจริง ๆ เม่ือพิจารณาจากสิ่งเหลานี้แลว
จะเห็นวา “คนฆาสัตว” นั้นดุรายกวา “คนฆาคน” อยางโหดเหี้ยมท่ีสุดใชไหม? แลวยังมีนํ้าหนายกยองตนเอง
วา เปน สัตวประเสริฐ นาจะเรียกวาสัตวโ หดเหีย้ มจะเหมาะกวา? นา สงั เวชที่ช่ัวชีวติ ของคนเรานี้ ตั้งแตเ ล็กจนโต
ต้ังแตโตจนแกไ มเคยที่ไมพนการฆาต้ังแตแรกเร่ิมคลอดจากครรภมารดา ก็ถือโอกาสเล้ียงฉลองดวยการฆาชีวิต
เพียงไมนานพอเด็กอายุครบเดือน ก็ฆาชีวิตเลี้ยงกันอีก พอครบขวบปก็ฆาชีวิตอีก จนกระท่ังเติบโตไดเวลา
แตงงาน ถือวาเปนงานมงคลก็ฆาชีวิตอีก โดยถือโอกาสไหวเจาฆาชีวิต แตงงานก็ฆาชีวิต ซ่ึงวนเวียนไปวนเวียน
มา ฆา กันตลอดศก ลว นแลว แตส งั เวยปากทองท้ังน้ัน
ตลอดชีวิตสะสมแตบาปเวร ชีวิตท่ีถูกเราฆาน้ันไมรูจักกี่รอยกี่พัน ยังมีอีกตอนท่ีเจ็บปวยก็อยากตอชีวิต
รองขอชีวิตอยู แตกลับทําลายชีวิต แลวอยางน้ีจะมีชีวิตยืนยาวไดอยางไร ชีวิตการแตงงาน เปนชีวิตคูท่ีเร่ิมรัก
สมานฉันท เหตุไฉนกลับเชือดเฉือนพรากใหมันจากกัน การใหกําเนิดบุตรน้ันถือวาเปนนิมิตอันดี แตเหตุไฉน
ตองฆาแม (ไก) พรากลูกมันมีเหตุผลอะไรหรือ? โดยปกติคนเราเม่ือมีงานมงคล ก็ควรที่หาฤกษยามและปฏิบัติ
ส่ิงที่เปนสิริมงคล จึงจะถูกตอง เชน อวยพรงานวันเกิด ควรใชคําอวยพรใหอายุยืนยาวเหมือนเตา เหมือนนก
กระเรียน ถาอวยพรเพื่อใหเพิ่มบุตร ควรใชคําพูดวามีบุญวาสนามีโชค ไดบุตรประเสริฐรุงเรืองสืบสกุล ในขณะ
ท่ีเราอยูในความคิดที่ดๆี ก็เกิดมีการฆากันอยางมากๆ ข้ึนมา ก็จะบ่ันทอนอายุที่ยืนยาวใหสั้นเขา พวกที่ลูกมาก
ก็มักจะดาวาลูกใหฉิบหายตายเร็ว หนาบานก็กลาวอวยพรกันเอิกเกริก หลังบานก็เปนแดนประหาร เสียงรอง
อยางตระหนกตกใจ เม่ือจวนจะตายมันนาฉงนจริงๆ ชีวิตบางชีวิต เหมือนตัวละครถูกฆาชีวิต บางชีวิตอยูดีๆ ก็
ถูกฆา บางชีวติ กท็ รงอํานาจแลว ถกู ฆา นาแปลกแทๆ
ลองมาดูกันวาอาหารม้ือหนึ่งๆ ของคนเรากไ็ มพนจากการฆาชีวิต เชน นกกระจาบจานหนึง่ ๆ ไมน อยกวา
สิบชีวิต พวกหอย พวกกุง เปนรอยชีวิต จึงจะไดสักมื้อหนึ่ง แคน้ันยังไมพอ ตองแตงกลิ่น แตงรส หาวิธีปรุง
อาหารตา งๆ เพือ่ ใหรสชาตเิ หมาะชวนกนิ บางอยางกก็ ินกันสดๆ เลอื ดสดๆ กนิ กันอยางพสิ ดาร กินกนั อิ่มแลวก็
พออกพอใจ ถาหากทํามาชาหนอยก็พาลอารมณเสีย ไมเคยคิดถึงบุญคุณของของท่ีอยูในจาน ลวนมาจาก
9
ความเครียดแคน ความทุกขแสนสาหัส เพื่อปรนเปรอความสุขข้ันสุดยอดของทาน โดยกลืนกินชิ้นสวนของมัน
ไมเคยคิดถึงกรรมจะสนองอยางไร? เราลองคิดใหลึกซึ้งอีกนิด วาฉากแหงความเหี้ยมโหดเกิดข้ึนขนาดไหน?
เพื่อสนองความตองการของปากทอง ดงั น้นั เม่อื ฟาเริ่มสางของทุกๆ วัน เพชฌฆาตทน่ี ับจํานวนไมถวนมือถือมีด
เพียงไมถึงช่ัวยาม ชีวิตของสรรพสัตวเปนแสนเปนลานตองดับจมลง ถาเอาซากศพมันมากองก็จะไดภูเขาสูง
มหึมา แลวเลือดของมันมารวมกันก็จะไหลหล่ัง สามารถยอมแมน้ําไดทั้งสายทีเดียว ดูสภาพอนาถเวทนาย่ิงนัก
พวกมันทุกขย่ิงกวาถูกโจรปลนผลาญลางเมือง ฟงเสียงรองของพวกมัน สะเทือนย่ิงกวาเสียงฟารอง ต้ังแตเชา
จรดคํ่าจะพบแตคมมีดกรีดแหวะทอง ปลายมีดท่ิมแทงหัวใจ ถลกหนัง ถอดกระดูก ถอดเกล็ด เชือดคอลอก
คราบ เอานํ้ารอนตมตุน อีกทั้งเกลือเหลาหมักดองท้ังหอย กุง ปู ปลา ฟาเอย! นาสงสารเจ็บซํ้ายิ่งนัก ยากที่จะ
หาทางระบายออกมาได นาเอน็จอนาถสุดทนได สรางบาปมหันต จมปรักอยูในความแคนนับหม่ืนๆ ชาติ ซ่ึง
สบื เนื่องแตป ากทองทําใหก อเวรกรรมขนึ้
๓.ความมีพรหมวิหารสี่ ความจงรักภักดี ความมีสัมมาคารวะ ความมีปญญา และความดีสัจจะเปนสิ่งที่
มนษุ ยควรมีไวประจาํ ตวั คุณธรรม ๕ ประการนี้ ถารกั ษาไดเ ปน ปกติ กจ็ ะไมละอายใจตนเองเปน บุคคลที่สงาผา
เผย อันชีวิตมนุษยที่อยูภายใตฟาดนิ น้ี มีสังขารเล็กๆ เพียงแคเจ็ดฟุต เมื่อยืนหยัดอยูกับความกวางใหญของฟา
ดนิ ทแ่ี ทอาศยั กับอะไรเลา ? มนษุ ยท ่ียกยอ งวา เปน สัตวประเสริฐ พ่งึ พงิ อยูก ับอะไร? ก็เพราะมนุษยม คี ณุ ธรรมหา
ประการ ที่สามารถยืนหยัดอยูกับฟาดินโดยไมละอายใจ และไมละอายใจที่ยกยองตนเองเปนสัตวประเสริฐเลย
แตทวาถาขาดศีลขอ หามฆาสัตว เกิดการฆาชีวิตขึ้น ก็เปนการทําลายความเปนมนุษยท่ีมีคุณธรรมประจําใจ
เชน ฆา ตวั เขาเพ่อื ความอว นทว นของตัวเรา ก็จะขาดพรหมวหิ ารส่ี พรากญาตขิ าดมติ รเขา เพ่ือเลยี้ งดเู พือ่ นพอง
ตนเอง ก็เปนผูขาดความจงรักภักดี ถาเอาเนื้อหนังมันมาไหวเจา ก็จะขาดคุณธรรมขอสัมมาคารวะ และที่ยก
ยองวาชะตาชีวิตลํ้าเลิศ ตองเสพกินคาวเลือด ก็เปนผูท่ีขาดสติปญญา เอาเหยื่อลอหลอกใหเหย่ือติดกับก็เปนผู
ไรสจั จะ
เฮอ! มันอาศัยอยูในโลกกิเลส ถาไมรักษาคุณธรรมท้ังหา ก็จะไรความเปนมนุษยไป เม่ือเปรียบเทียบกับ
สัตวเดรัจฉานแลว มันจะแตกตางกนั มากนอยเทาไร จิวอันสือ กลาววา “ความมีพรหมวิหารสี่เปนธรรมขอแรก
ของคณุ ธรรมความรกั เมตตาเกดิ กอนบญุ กุศลทั้งหลาย” ถาหากเราตองการเปนคนทมี่ ีคุณสมบตั ิครบถวน กค็ วร
ปลกุ ใจเรา ใหม ีพรหมวิหารและการใหอ ภัย อะไรคอื พรหมวิหารอะไรคือการใหอ ภัย? นน่ั คอื ทาํ จติ ใจเราใหเผ่ือ
แผไปยังสัตวทั้งหลาย คิดเพ่ือมันถา หากทําได แมแตคนท่ีใจคอโหดเหี้ยมก็จะรูสึกหว่ันไหวออ นลงได เม่ือทนทํา
ตอสังคมไมได ก็ย่ิงทนทําตอคนดวยกัน ก็เมตตาตอสัตวดวยเชนกัน ผูท่ีมีจิตใจรักสัตวก็ยอมมีจิตใจรักคน
ทั้งหลายดว ย ดงั นนั้ จะพดู แทนสตั ววา ใจที่ไมท นทาํ ส่ิงเลวรายไดน ี้ จะเห็นคนทงั้ หลายดงั่ พีน่ องรว มทอ งเดียวกัน
กจ็ ะพน ภัยพบิ ตั กิ ารฆาฟน กนั ไดอยรู วมกนั อยา งสงบสุข!
ทานลองหวนคิดดูซิ ตอนที่จะจับมันฆา มันตกใจกลัวขนาดไหน ถาบินหนีไดก็จะบินหนี ถามุดดินไดก็จะ
มุด มันก็จะโทษฟาดินไมปราณีมันเชนเดียวกัน ถาเราถูกโจรจับ ขวัญหนีดีฝอ มันมีอะไรตางกันเลา? มันก็นา
สงสารเหมือนกับพวกสัตวอยางเดียวกัน ฆาไกสักตัวหนึ่ง ฝูงไกท่ีเหลือก็กลัวลาน ฆาหมูสักตัวหนึ่ง หมูที่เหลือก็
ไมยอมกินอาหาร ถาพวกเราถูกโจรมันขังท้ังบานก็จะตกใจกลัวหรือหากมีใครตายลง ญาติมิตรของเรารองไหท่ี
10
ตอ งตายจากกัน มันกไ็ มต างกนั ใชไ หม? ใหคดิ ถงึ ทกุ ชีวติ ตอนทถี่ ูกฆา เสยี งรอ งจะโหยหวน หวงั จะไดร อดชีวิตมา
แมนเลือดจะหยุดหยด ลมหายใจจะขาดลง แตเสียงรองจะยังไมหยุดลงทันที เหมือนกับพวกเรายามตองโทษ
ประหาร ก็หวังที่ใหเทพเจาชวยเหลือใหพ ระคุมครอง จิตวญิ ญาณกําลังแยกจากกัน ในเสี้ยววินาทีนั้นก็ยังหวังที่
จะรอดชีวิต ส่ิงเหลาน้ีจะมีอะไรแตกตางกันไหม? ถาหากคนกินเน้ือพูดวาสัตวมันพูดไมได ถาเชนนั้น พวกใบก็
นาจะถูกฆาดว ยใชไ หม? ถา พูดวาสัตวมันมีบาปตกตํ่าลง ถา เชนน้ันพวกยากจนตกต่าํ กค็ วรฆาใชไ หม?
โอ! มนุษยหนอ? ชอบโทษวามันเปนสัตวตางประเภทตองถูกกิน ตอนที่กินมันก็ถือวาฉันเกงกวามัน แต
ตอนท่ีจะชดใชกรรมมันก็นาจะพูดวา มันถูกตองฉันนั้นผิดเอง ควรรูไววาคนและสัตว ก็เหมือนกันรักชีวิตกลัว
ตาย รักใครเพ่ือนพอ ง ถา ถกู ฆา กร็ สู กึ ทุกขร อนเหมือนกัน ท่ีตางกนั กค็ ือ คนมปี ญ ญา สัตวโงเ ขลา คนพดู ได สตั ว
พูดไมได คนเกงกวาสัตวเชนน้ีเปนตน คนถาหากไมมีปญญา ก็ไมสามารถปองกันตัวได ถาพูดไมได ก็บอกกัน
ไมได ถาหากเทียบพละกําลังกัน ถานอยกวาเราก็จะถือวาแตกตางกันอยางนั้นหรือ? ก็ควรถูกฆาเอามากินใช
ไหม? พูดแบบน้ีไมมีเหตุผล ผิดคณุ ธรรม แตคนก็พูดออกมาได! ชาวโลกเม่ือประสพภัยจวนตวั ไมมีใครท่ีไมรอง
ขอใหช ว ยชีวิต จะหยุดตอเมือ่ ตามองไมเ หน็ ถาไดรบั อนั ตรายจากมีดหรอื ปน หรอื พวกโจรผูรา ย จะไมตัวส่ันขวญั
ผวาหรือถาหากพบวาโจรมันใจออนลง ก็อดไมไดจะดีใจ แตก็ตกใจ เกิดบังเอิญมีคนชวยเหลือชีวิตรอดมาได ก็
จะรูสึกขอบคุณจนโศกสะอื้น จดจําบุญคุณไมลืมจนวันตาย แตถาจับสัตวมาได ความสมเพชเวทนาตางๆ
จนกระทง่ั เสียงรองอันโหยหวน กเ็ หมือนกับไมไ ดยนิ ไมไ ดฟ ง เลย นาสมเพชคนพวกนี้ เม่อื ถกู ยงุ กดั ก็เกดิ รําคาญ
แตสัตวที่อยูบนเขียงน้ัน ก็ไมเวทนาสงสาร แตพอปวดหลัง ปวดตาเขาหนอย ก็รีบหาหมอหายา หรือไดรับ
บาดเจ็บจากมีด เข็มหรือไฟลวก ก็รองโอดโอย ขอความชวยเหลือ รักตัวสงวนชีวิตถึงเพียงนี้ แลวทําไมตอสัตว
กลับไมใหความเวทนาสงสารบาง ฆาแกงไดตามอําเภอใจเรา จะไมพูดถึงกฎแหงกรรม จะไมพูดถึงการหามฆา
สัตวของพุทธศาสนา เราพูดกฎแหงกรรมรักตนเอง แตไมรูไมมจี ิตใจของความรักสัตว ความไมมีเมตตาอารแี ละ
อภัยเชนนี้ รูแตผลประโยชนสวนตนเห็นแกตัวที่สุด สุภาพบุรุษผูท่ีรักศักด์ิศรีของตนเองอยูบาง ก็ไมควร
ประพฤติแบบน้ี ผูคนหากอยูในสภาพที่โงกวา หรือออนแอกวา ขณะนั้นจิตใจก็อยากใหมคี นสงสาร ถึงแมโจรจะ
เหี้ยมโหด เสือ หมาปา จะโงเขลาคนก็ยังหวังวาในตอนน้ัน ในเวลาน้ัน ก็เปลี่ยนสภาพไปอีกแบบหน่ึงไมยอมให
ความสงสารแกผูที่ออ นแอกวาตนละ ! นาหัวเราะ คนเราท่ีกลัวคนดรุ าย แตกลับไปรังแกคนท่ีดๆี ใจในก็เกิดการ
ดูหม่ินและรังแกคนดี ตลอดชีวิตท่ีชอบรังแกคนดีๆ แตกลัวคนดุราย มักไมคอยรูสึกตัว และไมมีปญญาไป
ปราบปรามคนดุราย กจ็ บั คนดไี ปรังแกแทน วธิ ีท่ใี ชกําลังทีเ่ หนือกวาไปรังแกคนทอ่ี อ นแอกวา หรอื อาศัยจาํ นวน
คนที่มากกวาไปรังแกคนท่ีจํานวนนอยกวา จิตใจท่ีเลวทรามชั่วชาเชนน้ี ลวนแลวแตเปนบอเกิดของการสราง
บาปกอ เวร
เราเร่ิมสังเกตพวกมนษุ ยจ ากจุดนี้ วาแตกตางจากสัตวหรือไม บางทีมนุษยแยกวามันดว ยซาํ้ ไป เปนสิ่งนา
ละอายใจของมนษุ ยแ ทๆ ดังน้นั ศาสดาเมื่อจะเรมิ่ สอนคน กจ็ ะเร่มิ ดว ยความเมตตา และใหอ ภัย เมตตา และให
อภยั ก็คอื เอาตนเองไปเปรยี บเสมือนผอู นื่ เมตตาตอ ผคู นและมจี ติ ใจรกั สตั วไงละ!
เมื่อไมกี่ปมานี้ มีขอความที่หามการฆาสัตวของสมาคม “อี่เกย” สาระสําคัญของขอความน้ีคือ เอาใจเรา
ไปเปรียบใจสัตวเพื่อนํ้าใจอันดีงามที่ถูกปดตายดวยประตูเหล็ก บุรุษนิรนามพวกนี้ต้ังคําถาม ๑๐ ขอ ถามใจท่ี
11
ถูกปดดวยประตเู หลก็ แรงดลใจของเขาใหญหลวงนัก เขาตองการใหป ระตเู หลก็ เปดออก จะไดเห็นใจอนั งามอกี
คร้งั หนึ่ง ดงั น้ี
๓.๑.ในสมัยสงคราม พวกเราตองหนีภัยสงคราม อาศัยโชคดีท่ีสุด ก็รอดชีวิตมา ถาหากในเวลานั้น ถูก
ศตั รไู ลต ามเขามาทกุ ๆ ระยะ เมือ่ รวู า ไมมโี อกาสจะรอดแน จติ ใจขณะนั้นไมแ ตกต่ืนผวาขึ้นมาบา งหรอื ?
๓.๒.ในขณะน้ัน ถาถูกจับได ลากเดินเหมือนลากหมู ลากหมา รูแนวาตองถูกฆา จิตใจอยูในสภาพอะไร?
ไมแ ตกกระเจงิ หรอกหรอื ?
๓.๓.ในขณะน้ัน ถาพบคูชีวิต กําลังถูกโจรเชือดเฉือนเลือดไหลเนืองนอง จิตใจเราจะอยูในสภาพอยางไร?
ไมขวญั หนดี ีฝอ หรอกหรือ?
๓.๔.ในขณะนั้น ถาพบวาเพ่ือนฝูงญาติมิตรกําลังถูกโจรมัด หมดทางชวยเหลือ จิตใจเราจะเปนอยางไร?
จะไมร สู ึกสงสารเจบ็ ปวดบา งหรือ?
๓.๕.ในขณะน้ัน ถาเราถูกฆา กําลังถูกชําแหละ เสียงรองเจ็บปวดโหยหวน ชีวิตยังไมส้ินอยากใหตาย
โดยเร็ว จิตใจเราขณะนน้ั เปนอยา งไร? ไมโ กรธแคนหรอกหรอื ?
๓.๖.ในขณะนั้น เราตองถูกฆาแนนอน เกิดมีโจรหนึ่งใจดีปลอยเราไป จิตใจของเราขณะนั้นเปนอยางไร?
ไมรสู ึกดีใจหรอกหรือ?
๓.๗.และแลว มอี กี โจรหนง่ึ ไมเ คยมีเร่ืองบาดหมางกันมากอน เขา มาหามปรามไมใหปลอย ตอ งการฆาเรา
ลกู เดียว จิตใจเราขณะน้ันเปนอยางไร ไมเ คยี ดแคนบา งหรอกหรือ?
๓.๘.อกี แบบหนงึ่ คือ โจรทกุ คนใหปลดปลอยนกั โทษหมด ผูถูกจับมาก็มหี วงั รอดตายไดแ ตบงั เอิญมโี จรอีก
คนหนึ่งวา พวกเรานั้นเกิดมามีเคราะหกรรมควรฆาใหหมด ใจเราขณะน้ันเปนอยางไร? ไมรูสึกโกรธเคืองหรอก
หรือ?
๓.๙.ในขณะนนั้ คูช วี ติ ของเรากําลังเจบ็ ปวยอยู ท่ีจริงควรปลอยตัวเราไป แตมโี จรหนึ่งคดั คานพูดวา ปวย
หนกั อยางนี้ ฆาเสียดกี วา เพือ่ หมดปญ หา อยากรวู าใจเราขณะนน้ั ไมเคียดแคน บางหรอกหรือ?
๓.๑๐.อีกอยา งหนง่ึ ในบรรดาญาตมิ ติ รเรากวาครง่ึ เปน เด็กอยู ท่จี ริงควรปลอ ยไป แตม ีโจรหนึ่งคดั คา นขึน้
พดู วา ชีวิตนอ ยๆ อยา งนไี้ มฆ ากต็ องตาย เอามาฆาแกงกินจะไมอรอ ยปากหรอื ? ใจเราขณะนั้นรูสกึ อยางไร? จะ
ไมเจ็บชา้ํ ปวดรา วหรอกหรือ? เม่อื เปน เชนน้แี ลว เขาเรยี กเราใหถามใจเราเองดว ยขอคดิ ตา งๆ ถามใจเราวา เพื่อ
ปากทองของเรา ไปเชือดเฉือนจับแกงพวกสัตว พวกกุง หอย ปู ปลา เม่ือถูกจับมาอยูเคียงขางหมอนํ้ารอนมัน
ตอ งเจ็บปวดแสนสาหัส อกี ไมน านมันกต็ องจากคูครอง ญาติมติ ร ตอ งจบชีวติ ลงแสนทรมาน ปากกพ็ ูดไมได ดนิ้
รนรอดตายเทียบสภาพตางๆ ท่ีตนถูกโจรจับปลนในขณะน้ันและความนึกคิดในเวลานั้น จะมีอะไรแตกตาง
กันเอาใจเราไปใสใจเขา เอาใจเขามาใสใจเรากับคําพูดของขาที่วา บังเอิญเจอะโจรปลนฆาตายเสียเกาคน รอด
ตายมาไดหน่ึงคนจากการปลดปลอย แตเกิดมีโจรหน่ึงขัดขวาง ในที่สุดก็ตองถูกฆาสภาพตางๆ ที่เกิดข้ึน นึกคดิ
ดวู า เหมือนกบั ตอนนหี้ รือไม? สดุ ทายน้ขี อพูดวา พวกเราทกุ คน ภาวนาหามฆาสัตว ไมใ ชข อบญุ ไมใชห ลีกเล่ียง
ภัย คือ เพอ่ื ตวั เอง รเู จบ็ กลวั ตาย ใจนยี้ ากท่จี ะปกปด พดู แทนสตั ว ใหเปรยี บเทียบตัวเรา คิดไปคดิ มาไมอ าจทน
ได ใจนท้ี ําไมไดจ ริงๆ ใจอนั ประเสรฐิ ของเรานี้ ควรตืน่ จากภวังคไดแ ลว
12
๔.ถาหากชาวโลก ยังไมทําใจใหงดฆาสัตวได ก็ควรจะพิจารณาดูสัตวท่ีถูกปลอยรอดชีวิตมาได ก็
เหมือนกับตัวเองสามารถรอดชีวิตมาได ก็ดุจเชนเดียวกับสรรพสัตว ท่ีไมตองแตกต่ืนตกใจ หากเปนไปไดวัน
หนึ่งๆ ๒๔ ชั่วโมง คิดแตจะปลอยชีวิตโดยไมคิดลังเล อยาใหสัตวตองถูกขังนาน จนทนไมไหว อยาไดไหววาน
ผอู ื่น เด๋ยี วจะไดรับอนั ตราย และอยาไดกาํ หนดวันเวลา เพราะจะมผี คู อยดักจับสตั ว และอยาไดก าํ หนดสถานท่ี
เพราะมีคนคอยสบื รู ไปคอยดกั จบั เอาเปน วา เม่อื ตาไดพ บเห็น กซ็ อ้ื ปลอ ยทนั ที ปลอยยังทท่ี เ่ี ปล่ยี ว ยิ่งไกลยง่ิ ดี
นานๆ เขา ใจท่ีอยากฆาสัตว ก็จะสูญหายไป โอกาสเกิดของสัตวก็มากข้ึน ทุกชีวิตอยูอยางสันติ ไมเพียงแตใน
โลกนี้เทานั้น แมแตทุกตารางนิ้วของภายในของเรา โดยอยาคิดวา ฆาชีวิตเพียงเล็กๆ แลวจะไมเปนไร อยาคิด
วาการปลอยชีวิตนอยๆ ก็ไมมีประโยชนอะไร อยาคิดวายุงยากลําบาก จงคิดถึงแตกุศลทาเดียว และอยาเปน
เพราะราคาสูง เลยละทิ้งการสรางกุศล ควรรูไววาชีวิตหน่ึงก็ไมใชนอย แมสรรพสัตวชีวิตก็ไมใชมาก แมมดยุง
ชีวิตก็ไมใชเล็ก วัวควาย ก็ไมใชชีวิตใหญ เงินเหรียญเดียวก็ไมพอเพียง แมเงินหม่ืนแสนก็ไมใชมาก ขอเพียง
จิตใจตนเอง มีจิตตั้งมั่นแนวแน เราควรตระหนักถึงชีวิตอันละเอียดออน ยอมถูกฆาไดงายขึ้น ดังนั้นเม่ือตนเอง
งดฆาสัตวแลว ยังตองใชวาจาสุภาพมาตักเตือนเพ่ือนฝูงพี่นอง ทําใหทุกคนมีจิตเวทนา ก็จะเปนการสรางบุญ
กุศลอันย่ิงใหญ โดยใชปากเทานั้น ผูคนมักพูดวา ใจดีก็พอแลว ทําไมตองกินเจอีกเลา? อยากถามวาฆามันแลว
กินเนื้อของมัน ภายใตฟาดินนี้ยังมีใครโหดเห้ียมอํามหิตเกินกวานี้อีกบางไหม? แลวใจดีที่แทอยูท่ีไหนกัน? โดย
ปกติใจที่ทนดูไมไดนั้น ใครๆ ก็มีอยู ดังนั้น เม่ือใครเห็นผูรายมือสังหาร แนนอนทีเดียว เราตองเกลียดเขาเปน
พิเศษ แตวาเมื่อแลเห็นกอนเน้ือในมือสังหาร ก็ทําใหนํ้าลายหกอยากจะกินข้ึนมาแลว แลวก็พากันพูดวาชีวิต
คนเรามันหลีกเล่ียงไมได หรือคิดแตวาจะเอาบาปกรรมปายใหเขาไป ขาขอเพียงแตอรอยปากอิ่มทองก็พอแลว
ทําไมไมค ดิ วาผูซ ื้อถา เลกิ กนิ เนอื้ แลว ผูขายก็ยอ มจะหยุดฆาลงเอง
ควรจะรูดวยวาฟาดิน ไดบันดาลใหอาหารแกคนนั้น มีทั้งขาวตางๆ ผลไม และผักทั้งบนบก และในนํ้าก็
มากเกินพอ มนุษยก็ยังสามารถหาวิธีตางๆ ในการปรุงแตงรสไดอีกมากเกินพอเสียดวยซ้ํา ทําไมยังตองฆาแกง
สัตวท่ีมีเลือดเนื้อเชนเรา ซ่ึงมีชีวิตท่ีมีความรูสึกอยางเดียวกัน จับมากินเพ่ือความอรอยปากช่ัวประเดี๋ยวเดียว
เพียงวางชอนสอมลงรสชาติก็หมดไป แตบาปกรรมน้ันคงอยู ซ่ึงไมควรทําผิดแบบนี้เลย ผูคนเสียเงินเปนหม่ืน
เพราะรสชาติ เพียงขยับนิ้วหลายพันชีวิตก็จบลง หากเอาอาหารเจมาแทนเน้ือ ก็จะแทนการตายไดมาก ผลได
กับผลเสียนี้ ไมอ าจคํานวณไดถ ูกตองเลย!
ถาหากกินเจกันจริงๆ ใจของเราก็จะมีความ สงบสุขอยางไรขอบเขต ท้ังยังคุณประโยชนตอรางกายเปน
อยางยิ่ง ไมก่ีปมาน้ีแตละประเทศ มีผูหันมานิยมบริโภคกันมาก สาเหตุเน่ืองมาจากวิทยาการกาวหนา มีการ
คนควาคุณคาในการบริโภคอาหารเจ กับอันตรายที่เกิดจากการบริโภคเนื้อสตั ว ซึ่งมีหลักฐานท่ีจะพิสูจนไ ดและ
มีขาวรายตางๆ ที่จะแจงใหทราบ ชีวิตของแตล ะบุคคลยอมรักและหวงแหน ดังน้ัน การกินอาหารเจเริ่มถือเปน
เรื่องธรรมดา ความนิยมการกินอาหารเจน้ี ท่ีประเทศอเมริกันต่ืนตัวมากท่ีสุด การกินอาหารเจน้ีมีการอธิบาย
และแสดงความเห็น ถึงแมจะไมเดด็ ขาด แตเปนการเปล่ียนแปลงอุปนิสัย การบริโภคไปในแงด ีของสังคม ถึงแม
ชีวิตจะตอ งดับลง เราก็ตองยดึ หลกั ไวโดยไมยอมบรโิ ภคเนื้อสตั ว และกไ็ มไดขึ้นกบั ทีว่ า จะถกู หลักอนามัย หรอื
13
ไมถูกหลักอนามัย มาเปนขออางในการบริโภคเน้ือสัตวหรือไมมีการวิจารณอยางหนักแนน บริโภคผักมี
ประโยชนอยางแนนอนเชนกัน ดังนั้นการหามฆาสัตวก็มีพื้นฐานที่ไดจัดต้ังขึ้นแลว เสียงโศกเศราโหยหวนของ
สัตวที่ถูกฆา ไดสะทานสะเทือนจิตคนไดงายท่ีสุด ในหลักวิทยาศาสตรไดมีการพิสูจนถึงผลราย ในการบริโภค
เนือ้ สตั ว ขาใครน าํ เอา “พิษ” ตางๆ ในการบรโิ ภคเน้อื สตั วมาอธบิ ายเปนขอๆ ดังนี้
ขอ ที่ ๑.นักวทิ ยาศาสตรชาวฝร่งั เศส นายชารส คนพบวา ภายในเนื้อของสตั ว มีสารพิษอยูชนดิ หน่ึง ตอนที่
สัตวไดรบั ความเจ็บปวดทรมาน กจ็ ะเพ่มิ สารพษิ มากข้ึนเปนลําดับ แลว ก็จะแผซา นไปท่ัวรางกาย ถา หากเรากิน
เนอื้ ชนิดนแ้ี ลว กจ็ ะไดรับอนั ตรายอยางมาก มีนักวทิ ยาศาสตรชาวอเมรกิ า ชอ่ื วา ไอด มาไคร กลา ววา “ตอนท่ี
รางกายคนเรามอี ารมณเปลย่ี นแปลงขนาดหนักอยูนั้น ก็จะมสี ารหลายชนิดระบายออกจากรางกาย เชน ตอนที่
มีโทสะโกรธอยูนั้น เหงื่อที่ไหลออกมา ก็จะมีสีแตกตางจากเหงื่อท่ีไหลตอนที่รางกายกําลังโศกเศรา แมแตลม
หายใจที่เปาออกจากรางกาย กจ็ ะมสี ารตางๆ ออกมาดว ย เขาเองไดท ดลองเปาลมหายใจ เขา ไปในหลอดแกวที่
แชเย็น แลวสงั เกตดูพบวา ตอนท่ีเขามีรา งกายปกติก็จะมหี ยดน้ําทีป่ ราศจากสี แตตอนท่ีกาํ ลงั โกรธจัดๆ หยดนํ้า
ท่ีไดก็ไมเหมือนกัน หลังจากเปาลมเขาไปหลอดแกวไดหานาที หยดน้ําท่ีไดจะมีสีและสารขุนๆ น่ันก็แสดงวา
ตอนท่ีรางกายมีอารมณโกรธก็จะมีสารบางชนิดเกิดข้ึน เขาก็เลยใชวิธีดังกลาว ทดลองสภาพของจิตตางๆ ก็
พบวา ตอนท่ีจิตใจโกรธก็จะมีสารสีฝามัว ในขณะเศราเสียใจ รางกายจะขับสารสีเทาขาว และขณะเจ็บแคน
รางกาย จะขับสเี ขยี วไผออกมา ตอ มาเขาก็ไดท ดลองตอไปพบวา ถา เอาสารฝา มวั ที่อารมณโกรธของนาย ก. ฉีด
เขาไปใหนาย ข. หรือสัตวทดลอง นาย ข. จะมีอารมณโกรธขึ้นมา แนนอนสัตวก็จะแสดงอารมณโกรธข้ึนมา
ทันทีเชนกัน เขาเอาสารท่ีเปาออกจากคน ท่ีมีอารมณเศราเสียใจ ฉีดเขาไปใหหนูและหมู ภายในไมกี่นาที
สตั วทดลองก็ตายลง
จากการทดลองตางๆ พอสรุปไดด งั นี้ ถารางกายมีอารมณเคยี ดแคน จะสูญเสียพลังงานไปมากทีเดียว ถา
สารพิษที่ปะปนกัน ย่ิงมีหลายชนิดพิษรายก็ยิ่งมาก ในขณะท่ีทารกกําลังดูดนมมารดา ประเหมาะมารดาเกิดมี
อารมณเปล่ียนแปลงอยางรุนแรงภายหลังดูดนม ทารกนอยจะเกิดอาการไมสบายเจ็บปวยลง อันน้ีก็สืบเน่ือง
จากการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ รางกายก็จะปลอยพิษรายออกมาอยางแนนอน ดวยเหตุฉะนี้ เน้ือสัตวที่เรา
รับประทานเขาไปในทองทุกๆ วัน ซึ่งมีพิษรายอยางแนนอน สัตวยอมเกิดความเคียดแคน และเจ็บปวดอยาง
แสนสาหัส ยอมมีสารพิษข้ึนและเจอื ปนอยูในเน้ืออยางแนนอน กินเขาไปแลวจะมีอะไรบํารุงอีกหรอื ? อันตราย
จริงๆ
ขอที่ 2.ปจจบุ นั วิทยาศาสตรก ารแพทยคน พบวา ภายใตก ลอ งจุลทรรศนทีส่ องลงบนเนือ้ สตั ว จะพบจุลชีพ
ชนิดตางๆ จุลชพี รายเหลานี้เมื่อเขาไปในรา งกาย กม็ ผี ลไมน อ ยตอ รางกาย อยางเบาๆ ก็ทาํ ใหเกดิ ความเจ็บปวย
อยางหนักๆ ก็ถึงแกชีวิต ในเน้ือหมูเน้ือวัวมีเช้ือหนอนเปนเสนๆ อยูไมนอย ดังน้ันจากการสํารวจของประเทศ
สหรฐั อเมริกา เชือ้ หนอนเสน ของคนที่เปนได ติดมาจากเนื้อหมูและเนื้อวัว ๙๐% และยังตรวจพบวา วัวควายท่ี
เปนโรคปอดมีกวาคร่ึง และสาเหตุคนเปนโรคปอด ก็ติดมาจากเน้ือวัวเปนสวนใหญ ในโรคทองเสีย (อหิวาต)
เชอื้ นไี้ ดรบั จากเนอื้ หมูในประเทศอังกฤษ มีโรคลมอาการปวดมาก
14
สมัยกอนคิดวามาจากพิษเหลา แตปจจุบันพบแลววามาจากบริโภคเน้ือสัตวมาก และยังพบอีกวาพวก
บริโภคเนื้อ มักเปนโรคเบาหวาน การสูบฉีดของเลือดไมดี เปนผลทําใหสมองผิดปกติ ซ่ึงทําใหเกิดการช็อคขึ้น
เปนลมหมดสติไป การบริโภคเนือ้ ไดล ดสารตอตานโรคมะเร็ง จึงเกิดเปนมะเร็งกันมาก บริโภคเนื้อดมื่ เหลามาก
ไป เกิดโรคไตอักเสบไดงาย เอาเถอะ! ขาจะไมพูดเรื่องการแพทยกับทานมากนัก ขาเพียงแตอยากใหพวกทาน
ไดรูวา ปจจุบันมีความจริงมีหลักฐานที่พิสูจนกนั ได เพ่ือแสดงใหเหน็ วา การบริโภคเน้ือมีโทษอยางแนนอน มิใช
พูดลอยๆ โดยไมมีหลักฐาน ในฤดูรอนเน้อื ก็เนาเสียไดง าย พูดไปพูดมาไมพนกินเนอ้ื มีอันตรายมาก ซ่ึงเปนเร่อื ง
พื้นๆ ไมจําเปนตองพูดมาก เนื้อที่เกิดหนอนขึ้นเปนประจําน้ี ก็เขาไปในปากของเราทุกๆ วัน ระวังเถอะ สักวัน
หนึ่งก็จะเจอดขี นึ้ นา กลัวจรงิ ๆ !
ขาจะพูดเก่ียวกับการกินเจอีกครัง้ หน่งึ การกินการดมื่ มปี จจัยที่สาํ คัญคือ เพ่ือการดํารงชีวิต ดังนัน้ อาหาร
ท่ีเรารับประทาน จําเปนตองสรรหาส่ิงที่มีคุณคาดานพลังงาน สิ่งควรรูก็คือ พลังงานที่ไดเปนพลังงานจากดวง
อาทิตย ซ่ึงเปนพลังงานความรอน ภายใตฟาดินน้ีก็มีเพียงธัญพืชที่เติบโตภายใตแสงอาทิตย สามารถดูดซึม
พลังงานไดมากท่ีสุด และสามารถใหพลังไดสูงสุดก็คือพืชพวกใหเมล็ด ถาหากเราแยกธาตุตางๆ จากเน้ือสัตว
เราจะพบกรดอะมิโน แลคโตด และเกลือแรตางๆ พวกพืชท่ีใหเมล็ด เชน ขาว ขางสาลี และถั่วตางๆ ก็มีธาตุ
ตางๆ เหลาน้ีอยูครบถวน แถมยังมีกรดอะมโิ นซงึ่ เปนพวกโปรตีนถงึ ๔๐% มากกวาในเนื้อสัตวเสียอีกซงึ่ มเี พียง
๒๐% เทานน้ั โปรตีนในเนื้อสตั วยอ ยลําบาก เนอื่ งจากโครงสรา งประกอบการขนึ้ เปน เน้ือของสตั ว และมีคุณคา
ดอยกวา ในการใหความเจริญเติบโตแกร างกาย เม่ือเปรียบเทียบความใหมกวา ดีเลวระหวางโปรตีนของพชื กับ
เน้ือสัตวแลว ทานกจ็ ะเห็นไดอ ยางกระจางชัด! อาหารการกินของเราท่ีจริงควรเลือกจากใหมสดมใิ ชห รอื ภายใต
ฟาดินนี้ การเจริญเติบโตของธัญพืชอาศัยแสงอาทิตย ฝนฟาซ่ึงบริบูรณพอในการเล้ียงชีวิต ไมจําเปนตองไปกนิ
ของเกา ทเ่ี นาเปอยงาย และไรคณุ คา อยา งเนอื้ สัตวนนั้ เลย!
ถาหากเปรยี บเทียบ การกนิ เจกับกินเนอื้ แลวละก็ เราจะเห็นความแตกตางไดหลายๆ อยาง เชน คนกินเจ
จะมีอายุยืนยาวกวา พวกกินเนื้อสัตวจะออนแองาย การบริโภคเนื้อสัตวกอใหเกิดกามราคะมากกวาการกินเจ
พวกกินเจจะมปี ระสาทท่ีสดช่ืน การบริโภคเนอ้ื ประสาทจะขุน เครียด ผกู นิ เจจะมสี มองทีฉ่ บั ไว สวนผบู รโิ ภคเน้ือ
สมองจะทือ่ ทบึ กินเจจะมีพลังวังชายาวนาน เลอื ดจะสดใส ทําใหมีความตานทานโรคสงู ผูบรโิ ภคเนอื้ พลงั วังชา
จะนอย และเสนเลือดจะขุนขนและทําใหเจ็บปวยงาย ในการแขงขันกีฬานานาชาติ ผูท่ีไดรับชัยชนะสวนใหญ
จะเปน ผบู รโิ ภคพชื ผกั ซงึ่ กเ็ ปน หลกั ฐานยนื ยนั ได เราจะพบวา ผทู ี่สามารถตั้งตวั ได ไมวาสว นบุคคลหรือสว นรวม
สวนใหญจะเปนคนที่ไมมีเลือดรอน อารมณรุนแรงคนโบราณกลาวไดดีวา “ผูบริโภคเนื้อคนช้ันต่ํา” ถาหากเรา
จะเปนคนที่มีสงาราศีดลี ะก็ ตองขจัดการบริโภคเนือ้ เสีย หันมากินเจมันไมเ พียงแตม ีประโยชนส ูงสุดตอรางกาย
เทานน้ั มันยงั กอใหเกิดสันติสุขอันไรข อบเขตของจิตใจดว ย
๕.ตอนนี้เปนบทสุดทายแลว ขาเปนพุทธศาสนิกชน ขาใครขอวิจารณเกี่ยวกับศีลขอหามการฆาสัตวตัด
ชวี ติ มิใชมเี พียงแตศ าสนาพุทธเทา น้ัน มันเปน หลักขอสําคัญท่มี อี ยูในธรรมของหลกั ศาสนาอื่นทั่วๆ ไป เปน หลัก
ปฏิบตั ิทส่ี ําคัญของมนุษยธ รรม ดวยศาสนาพทุ ธมีขอหามฆา สตั วตัดชวี ติ มเี หตผุ ลที่เครงครัด ไมว า ศลี ๕ ศีล ๑๐
หรือศีล ๒๒๗ หรือศีลโพธิสัตว ตางก็มีศีลหามฆาสัตวตัดชีวิตเปนขอแรกดวยกันทั้งน้ัน ถาพรอมที่จะกอกุศล
15
ตอ งเริม่ จากศีลขอนี้ อนั วา ผคู นในโลกนี้ ทกุ ๆ คนก็ลวนแลว แตบริโภคเนอ้ื กนั ทัง้ น้ัน และก็ไมไ ดรับโทษเพม่ิ อะไร
เลย จะไปกลวั อะไรกนั ? เฮอ! คนทม่ี ใี จแบบนี้ ก็ไมต อ งไปถามอะไรเขาอกี แลว ลองพิจารณาจากพื้นจิตของพวก
เขา ถา หากปลอ ยปะละเลยศีลขอนี้ เรอ่ื งเก่ียวกับชีวติ ก็ไมอ ยใู นสายตาเชนกัน แนน อนเราตองเขา ใจการหามฆา
และการคุมครอง ซ่ึงตองมีอยูในทุกตารางนิ้วของจิตใจ โดยไมตอ งคํานึงวา ขางนอกจะมีกฎการหามฆาหรือไม?
หากไมถือโอกาสนี้ ทดสอบพ้ืนจิตตนใหแผเมตตาจิตออกไปละก็ สักวันหน่ึงโอกาสนี้จะสูญไปเม่ือถึงเวลานั้น
หนาตาเปลี่ยนไป (เกิดเปนสัตว) แมจะมีรางกายก็จะทําอะไรได? แมจะมีหูมีตาก็ไมสามารถจะเห็นจะไดยินได
แมมีความในใจก็ไมสามารถจะเปดเผยออกมาได ทานทั้งหลาย! อยาคิดวามีอายุยืนไดถึงรอยป ช่ัวพริบตาก็จะ
เปล่ียนชาตกิ าํ เนดิ คิดแลว ใจหาย! ทุกคนรูเพียงวาชาตินี้ขาเกดิ มาเปน คน หารไู มว า ชาตทิ แี่ ลวมาไดเกิดเปนสัตว
อืน่ ประเภทไหนบาง แลว ชาตติ อ ไปขา งหนา จะไปเกดิ เปน อะไรอีกเลา ?
ดังน้ัน พระพุทธเจาจึงกลาว “สัตวที่ถูกฆาตายในชาตินี้ ก็เปนญาติมิตรของขาในชาติกอน” กลาวอยาง
เชือดเฉือนท่ีสุด มิไดกลาวเท็จ พุทธพจนที่วา “คนมีความคิดความจําดุจผืนนากุศล และอกุศลที่เกิดขึ้นเปน
เมล็ดพันธุ หากมีจิตคิดฆาเกิดขึ้น เมล็ดพันธุน้ีก็จะฝงเขาไปในผืนนาแหงความคิด ความจํา กลายเปนเคราะห
กรรม ท่ีตองเวียนเกิดเวียนตายไปตลอด” สรรพสัตวที่ถูกฆา ก็จะเกิดความเคียดแคน ขึ้น ก็จะถูกฝงเขา ไปในผืน
นาแหงความคิดความจําน้ี กลายเปนเวรกรรมที่เคียดแคนไปตลอดไมมีส้ินสุด ชาติแลวชาติเลา ดวยกฎแหง
กรรมนี้ จะตามลางตามสนองซงึ่ กนั และกัน โดยไมมเี วลาทีจ่ ะสิน้ สุดลง
พระแหง สระปทมุ กลาววา “ขา รอ งตอผคู นวา ไมก ลาบังคับเจากนิ เจ แตจ ะเตอื นเจาหา มฆา สตั ว ครอบครัว
ทีไ่ มฆ า สัตว เทวดาคุม ครองเคราะหก รรมลบลางไป อายยุ นื ยาว ลูกหลานกตญั ู ทุกส่งิ เปนสริ มิ งคล” ซึ่งไมอ าจ
กลาวไดหมด คําพูดที่กลาวมาน้ี ไมใชเอาใจคน ความจริงเปนกฎแหงกรรม อะไรคือกฎแหงกรรม ขาจะกลาว
เปนการปด ทายรายการนี้!
เหตุการณท่ีเกิดข้ึนในโลกน้ี ลวนแลวแตเปนผลของกรรมเก่ียวของ การเกิดการตายในชีวิตของคนเราน้ัน
บุญมากหรือบุญนอยเจริญรุงเรืองหรือเสื่อมลง อยูในประเทศหนึ่งหรือท่ีที่หน่ึงที่เจริญหรือเสื่อมลง มิใชเกิดขึ้น
โดยการบังเอิญ และไมใชเกิดจากการวางเปลา ด่ังคนโบราณกลาววา ส่ังสมบุญกุศลเปนสิริมงคลเหลือลน สั่ง
สมอกุศลรับเคราะหกรรมเหลือลน คําวาสั่งสมกับเหลือลนก็เปนธรรมะของกฎแหงกรรม แลวธรรมขอนี้กับกฎ
การคาํ นวณเหมือนกัน หน่งึ บวกหนง่ึ ตอ งเปนสอง สามคณู สามยอ มไดเ กา ซ่ึงไดผ ลลัพธท่แี นนอน เม่ือมเี หตดุ ังน้ี
ก็ตอ งมผี ลดงั นี้ เนือ่ งจากเหตุท่ีมีอยู ผลท่ีไดยอ มปรากฏปรมิ าณของผลท่ไี ดยอ มสมดุลกับเหตุที่มีอยู ดว ยเหตุผล
งายๆ ของกฎแหงกรรมน้ี หวังวาผูคนคงเขาใจ เหตุและผลท่ีสับสนก็ไมอาจเขาใจได เหตุอันหนึ่งท่ีปลูกลงไปไว
แลว เมื่อถึงเวลาหากไมสนองตอบมาใหน้ัน ยอมตองมีเหตุการณอ่ืนสรางไวปะปนเขาไป แตก็ไมพนการ
สนองตอบใหเชนเดียวกัน ทําใหเหตุผลอันน้ีไมใชเ หตผุ ลอันเดียวกัน แตกลายเปนเหตุและผลหลายๆ อันสับสน
กันเทาน้ันแหละ การเปล่ียนแปลงสบั สนรอยแปดของคนในโลกนี้ กับการเปล่ียนแปลงรอยแปดของใจคนน้ัน มี
การเก่ียวพันสนองตอบซึ่งกันและกัน ดังน้ันในชองทางเกิดท้ังหกชองทางน้ัน จึงมีสภาพตางๆ ปรากฏขึ้น
เนือ่ งจากเหตกุ ารณค วามนกึ คดิ ของจิตใจคนนั้น ไมเคยหยดุ ยัง้ เลย จึงเกิดมผี ลดแี ละผลรา ยสนองตอบซง่ึ กันและ
กนั
16
ดงั น้นั กรรมดีหรอื กรรมรายที่สนองตอบกอนหลัง ลวนมาจากเหตกุ ารณก ระทําท่ีเปลยี่ นแปลง จะเปลี่ยน
ตามไปดวย เหตุของกรรมเม่อื มีโอกาสเปลี่ยนไปตามกาลเวลา ผลการตอบสนองก็เปล่ยี นไปตามกาลเวลา ถงึ แม
การเปล่ียนแปลงนน้ั จะมีการสับสนแตเ หตุและผลเปรียบเสมือนเจาหนี้มาทวงหนี้ ฝายใดมีกําลังกวาก็ดงึ เอาไป
กอนเทานั้น ดังคําท่ีวา ช่ัวหรือดียอมตอบสนองในท่ีสุด เพียงแตจะเร็วหรือชาเทานั้น เหมือนปลูกแตงยอมได
แตง ปลูกถว่ั ยอ มไดถ ่วั เปน ส่งิ แนแ ทท ี่สดุ
เน่ืองจากพระพุทธเจามีทิพยเนตร สองไดท่ัวทุกทิศแจงทะลุท้ังสามโลก ไมมีสิ่งบดบัง จึงกลาววา การ
ตอบสนองตามกฎแหงกรรม ลวนยึดหลกั ที่แทจริง เน่ืองจากพระพุทธเจาทรงแลเห็นอยางน้ัน เนื่องจากไดหลดุ
พนจากกาลสมัย ไกลสุดถึงความเปน มาของเคราะหกรรม เห็นไดชัดเจนเหมือนเราแลเห็นสิ่งของตางๆ ตอหนา
ตอตา แตตาเน้ือของเราเห็นเพียงส่ิงของที่วางอยูตอหนาเทาน้ัน ซ่ึงไมสามารถเห็น เหตุผลท่ีอยูเหนือกาลเวลา
ตาเน้ือแลเห็นส่ิงของ ไมวาจะชัดเจนเพียงไร ถามีกระดาษมาค่ันกลาง ก็ไมสามารถเห็นของไดอีกแลว อยาวา
เหตุผลที่อยูเหนือกาลเวลาเลย ยิ่งไมตองพูดถึง เนื่องจากสรรพสัตวอยูในวัฏฏสงสาร เวียนตายเวียนเกิด
ติดตอกันไป ความจํากัดก็เปลี่ยนแปลงไป ขันธหาบดบัง เหมือนกระดาษบงั ตา รูแ ตช าตินี้ ชาตทิ ่ีแลว หารไู ม เรา
ควรรูวา ปญญากับความรูนั้นตางกัน ปญญาเกิดจากบรรลุฉับพลัน ฉายสองไมมีบดบัง ทุกส่ิงทุกอยางท่ีเกิดข้ึน
ในโลกน้ี ไมมีที่ไมรูเร่ืองของความรู จะเปนเร่ืองท่ีมีขอบเขต เปนเรื่องธรรมดาท่ีสามารถจะตรึกตรองนึกคิด ซ่ึง
คนธรรมดาสามารถมองเห็นจบั ตอ งได และคิดถึงได ปจจุบันน้ีความรูท้ังหลายนี้ เชน วิทยาศาสตร วิชาปรัชญา
เราเปน พุทธศาสนกิ ชน ที่ศรัทธาไมมีขอ ขดั แยง ยังตองยนิ ดีสง เสริมดวยซา้ํ !
ถาหากคิดจะเอาความรู มาตําหนิพุทธศาสนา ตีคุณคาของพุทธพจน หรือกลาวรายตอพระธรรมซึ่งไม
สมควร และไมมีความสามารถดวย พวกเราเขาใจหลักของวิทยาศาสตร ซึ่งหนักไปทางดานพิสูจนได จึงจะ
เช่ือถือ แลว เอาวธิ ีการอะไรพิสจู นละ ? กค็ งไมพ น อวยั วะทงั้ หาบนใบหนาไปพิสจู นใชไหม? วธิ ีพิสูจนจ ะละเอียด
แคไหน ก็ไมพ นจากอวยั วะท้ังหา นี้ ขอถามหนอ ยเถอะวา อวัยวะทงั้ หานเ้ี ชือ่ ถอื ไดแ คไ หน? ตวั อยา งอจุ จาระ คน
จะรสู ึกเหม็นจนไมอยากเขาใกล แตสนุ ัขสามารถกนิ ได จะพบวา ล้ินท่ใี ชช ิมรสก็ไมสามารถเปนมาตรฐานได แลว
รอยเทาท่ีคนเดินผานไป สุนัขสามารถดมตามกลิ่นได แตคนมีความสามารถไหม? ท่ีเหลืออีกมากมาย ก็
เชนเดียวกัน เมื่อมองดูแลว คําถามคําตอบของวิทยาศาสตร ก็ลวนอาศัยอวัยวะทั้งหาไปคนควา จะมี
ความสามารถไปเสียทุกอยา ง ใครเช่อื กบ็ า ละ? ถาเราถอยหลงั มาพูดวา เชื่อถือวทิ ยาศาสตรท ่ีคนควา มาน้นั เปน
สิ่งท่ีแนแท แตวาฟาดินกวางใหญไพศาล สภาพของคนน้ันเล็กจนไมอาจเทียมกันได ย่ิงความคิดเห็นของท่ีมีมา
ยิ่งมีขอบเขตจํากัดเหลือเกิน แถมดวยความคิดเห็นอันจํากัดแคน้ี ยังยึดมั่นเช่ือถือไมไดดวย? ฉะนั้นจึงตองใช
ปญญาธรรมจึงจะยืนยันได และใหความสวางแจงถึงกฎเกณฑของทุกอยางในโลกที่เกิดขึ้นมา หากใชเอาแต
ความรู จะทําไมไ ดแ นนอน
ยังมคี นอกี จาํ นวนหนึ่ง ท่ไี มย อมเชอื่ กฎแหงกรรม กย็ ังคงยึดถอื หลักของวทิ ยาศาสตร ทตี่ อ งพสิ จู นไ ดจงึ จะ
เช่ือ แตถา พูดถึงการพสิ ูจน ไมค วรเพียงพิสูจนโดยหแู ละตาเทา นั้น ควรจะเชื่อผลพิสูจนจ ากสว นรวมท่กี วางใหญ
หลักฐานก็ควรเอาคํากลาวอางของนักปราชญ ต้ังแตโบราณจนถึงนักปราชญปจจุบัน มาเปนหลักฐานถึงจะ
ถูกตอ ง ตง้ั แตโบราณมามหี ลักฐานมากมายกายกองใหเราไดเ หน็ ถา หากยงั เหลอื ขอสงสยั ยงั ตองรอใหตนเองไป
17
พิสูจนคนพบแลวจึงจะเช่ือ แมจะมีหลักฐานยืนยันแลว ก็ยังมีขอสงสัยไมยอมเชื่องั้นหรือ? พระอิ้งกวงกลาววา
“การสนองของกฎแหง กรรม มีมากมายในคัมภีร นา เสียดายทีน่ ักปราชญไ มยดึ ถือ เปนเร่อื งเกดิ เร่ืองตาย ดังนน้ั
การไดเห็นก็ถือวาไมเห็น เพราะฉะนั้น ผูท่ีมีพ้ืนบุญกุศลดีอยูแลว ก็ไมจําเปนตองมีหลักฐานจึงจะยอมเชื่อถือ
สว นพวกท่ีมีบาปหนักถึงแมม หี ลกั ฐานก็ตามกย็ ังไมเชื่อถือ แตจ ะเช่ือหรือไมเปน เร่ืองแตละคน หลักฐานกย็ ังเปน
หลักฐาน กรรมตามสนองเปนของจริงที่แนแท ไมใชวาไมเชื่อแลวไมยอมรับ แลวจะสามารถเปล่ียนแปลง
กฎเกณฑได ชาวบานสวนใหญเหน็ เปนเร่ืองยุงยากเฉพาะหนา ในที่สุดก็ไมส ามารถจะหลีกเล่ียงผลกรรมทกี่ อ ไว
ไดน าอนาถจริงๆ
เจาแมถือมังสว�รตั ิ อยา ฆาสตั วต ัดช�วต� เอามาเซนไหว
ประวัติเจาแมเปนชาวเมืองมี้จิว อําเภอโปวชั้ง มณฑลฮกเฮ้ียน ในสมัยราชวงศซอง ช่ือ ฮุงมิก แซลิ้ม
ต้ังแตเล็กก็กินเจสวดมนตไหวพระ ฝกฝนความเพียรจนบรรลุนิพพาน ไดรับราชโองการจากเง็กอวงฮองเต ให
เปนเจาแมแหงสรวงสวรรค โดยปกติมักอวตารมาชวยชาวประมงอยูเปนนิจ ดวยเหตุฉะน้ีชาวเมืองทางมณฑล
ตะวันออกเฉียงใต จึงนับถือยิ่งนัก เจาแมมีความเมตตากรุณา ผูสวดออนวอนมักจะไดรับการชวยเหลือ มี
ปรากฏเปนหลักฐานสืบทอดกันมานับรอยๆ ป จึงเปนท่ีนับถือของชาวประมงทางทิศตะวันออกเฉียงใต
ชาวประมงจงึ เซน ไหวแ ละนบั ถือเปน “เจาแหง ทองสมุทร”
ไมกี่ปมานี้ ดวยการปกครองของรัฐบาลไตหวัน ทําใหเศรษฐกิจเจริญรุงเรืองประชาชนม่ังมีศรีสุข ถึงแม
วิทยาศาสตรกาวหนาก็ตาม แมแตชาวเมืองท่ีไมไดเปนชาวประมง ก็พากันเคารพนับถือมากมายนับไมถวน
เนื่องจากคมนาคมสะดวก ศาลเจาทุกแหงจะมีพวกนับถือไปกราบไหวมากมาย โดยเฉพาะวันคลายวันเกิดใน
วันท่ี ๒๓ เดือนสาม ของปฏิทินจันทรคติ จะคลาคลํ่าไปดวยผูคนมากมาย อยางไรก็ตาม พวกที่นับถืออยาง
จริงใจ ก็ยังมีความผิดพลาดที่มหันตอยูอันหนึ่ง น้ันก็คือเม่ือเจาแมยังมีชีวิตอยู เจาแมถือมังสวิรัติ แตปจจุบัน
พวกสาธุชน ก็ยังคงฆาสัตวตัดชีวิตเอาสัตวไปเซนไหวเจาแม แมจะไดรับการเซนไหวเชนนี้ แตเจาแมรับไมไดย งั
ไมพอ เจาแมทุกขโศกหล่ังน้ําตา สงสารสัตวเหลาน้ันที่ถูกฆา อันนี้เปนนิสัยที่สืบทอดมา และก็ไมมีใครแนะนํา
ชักจูงใหใชดอกไมสด และผลไมมาเซนไหวก็พอ เน่ืองจากเจาแมมีมหาเมตตากรุณา ชวยเหลือมวลมนุษย
มากมาย ใหพนจากเคราะหกรรม ถาหากพวกเราจะตอบแทนบุญคุณเจาแม นับถือเจาแมละก็ พยายามทํา
ความดีกอกุศล ชวยเหลือผูอื่น ชวยสังคม จึงจะเปนท่ีตองประสงค ประกอบความเพียร และกินเจ ถาจะมา
กราบไหวที่ศาลเจา ก็ควรกินเจอาบนํ้าใหสะอาด จิตใจผองใส สํารวมมารยาท เพียงคํานับหรือไหว หรือคุกเขา
ไหวก็ตาม จิตใจเต็มไปดวยความนับถือ เทานี้ก็เปนการเพียงพอแลว ทําไมตองตัดชีวิตสัตวมาเซนไหว? หรือ
พวกท่ีอยากจะขอความเมตตา ใหชวยเหลือเพียงธูปเทียนดอกไม และผลไมแลวนั่งอธิษฐานแสดงความในใจ
เจาแมก็จะรับรู ก็เปนการเพียงพอแลว ทําไมตองฆาสัตวอีกเลา? หากวาระลึกถึงบุญคุณ เม่ือเขามายังศาลเจา
แลว กลาวถวายสิ่งท่ีปฏิบัติดี คุณธรรมที่สรางไว กราบเรียนตอหนาเจาแม ก็จะเปนที่ช่ืนชมของเจาแมมาก?
ดีกวาตองเสียเงินเสียทองไปซื้อกระดาษเงินกระดาษทองมาไหวเจาแม ซึ่งทานไมไดใช? หากจะฉลองวันคลาย
วันเกิดของเจาแม ยิ่งไมควรฆาสัตวตัดชีวิตเปนอันขาด มีประวัติกลาววา ตอนเจาแมมีชีวิตอยูในโลกเปนลูกที่
กตัญูมาก วันลาโลกของแม จะตองสวดมนตส ักการบูชาพระ เพ่ืออุทิศกุศลใหพอแมมีอายุยืนยาว แตทุกวนั นี้
18
เมื่อถึงวันคลายวันเกิดเจาแม มีการฆาสัตวเปนการใหญ เปนวันที่สูญเสียชีวิตสัตว แลวเอาสัตวนั้นมาไวบนโตะ
บูชา เพ่ือขอพรใหอายุพอแมยืนยาว หรือขอพรกับเจาแม หรือเอามาแกบนตอเทพเจา ยิ่งดูนาเศราสลด แมแต
มดนอยตัวหนึ่งท่ีไรปญญา เจาแมก็ยังเมตตาไมถือโทษ เจาแมผูมีมหาเมตตาจะไมเศราสลดใจไดอยางไร? กับ
การกระทาํ ขางตนนี้
เจริญพร! สวรรคอยากเอยแตไมมีวจี อยากพูดก็ไมมีเสียง มีใครรูบางไหมวาวันคลายวันเกิด เจาแม
เพงมองมายังเบื้องลาง สรรพสัตวไมยอมฝกฝนความเพียร เอาแตเลหเหล่ียมตมตุนเงินทอง ไมสะสมบุญบารมี
ตรงกันขามก็เอาแตข อใหพระชวยเหลือ หรือถามหมอดูวุนวายไมห ยุดหยอน สูญเปลาไปชั่วชีวิต ตกอยูในทะเล
ทุกขวนเวียนไมจบ ตอนน้ีจิตของเจาแมคงทุกขโศกยิ่งมิใชหรือ? และยิ่งไดเห็นวันคลายวันเกิดของตนเอง ผูคน
กลบั สรา งบาปกอเวรหนกั ย่ิงขนึ้ (ฆาสตั วเ อามาเซนไหว) ชาวบานไมเ ขาใจ “กฎแหงกรรม” กนั เลย ตรงขา มซาก
สตั วบ นโตะ บชู า เอามาขอบุญตอชีวติ เจาแมก ็ไดแ ตเศรา เสียใจหล่งั นา้ํ ตามใิ ชห รือ?
ดังน้ัน จึงใครวิงวอนผูคนท่ีอยากกราบไหวเจาแม จงประพฤติแตกรรมดี ออมอกสวรรคแผกรุณา
โดยเฉพาะผทู ่ีจะตอบแทนเจาแม ควรประพฤติดีตอ สังคม สรางคุณงามความดี ตัดโลภ โกรธ หลง เคารพฟาดิน
เคารพเจาเทวดา เคารพพอแม เคารพบัณฑิต ตองไมพูดกลาวราย พูดแตความดี อยาพูดปลิ้นปลอน อยาพูด
สอ เสียด จงพดู แตหลกั ธรรมตักเตือนใหผูอ่นื ประพฤตดิ ี รกั ษาศีล ประกอบความเพยี ร ถาจะสรา งบุญบารมี กจ็ ง
บริจาค ขาว โลงศพ สรางสะพาน สรางทาง ซอมสรางศาลเจา วัดวาอาราม สรางพระ พิมพหนังสือธรรมะ
บรจิ าคทรัพยอ ยา ข้ีเหนียว ออกแรงกไ็ มบน ไมคดิ ใหผ ลตอบแทน ไมตอ งใหคนรู ทาํ บุญอยูตลอด ถา หากอวยพร
ใหสิ่งศักดิ์สิทธ์ิ ก็ใชแตมังสวิรัติ เชน ขนมทอ เสนหม่ี ผลไม ถาหากใครใชสัตว ก็ใชถั่วทํารูปจําลองรางสัตว ไม
ควรฆาสัตวตางๆ เหลาน้ี แมจะไมขอพรสวรรคก็บันดาลใหเจาแมก็คุมครองดวย ถาหากจิตศรัทธา ก็ใชอาหาร
เจและผลไม
ถาหากทานอยากจะเล้ียงแขก ท่ีกินเจสักคนหนึ่ง แตทานก็เอาอาหารเนื้อสัตวมาเลี้ยง ทานลองคิดดูซิวา
แขกผูนั้นจะกลากินหรือ? การกระทําเชนน้ีจะมีความเกรงใจหรือไม? เหตุผลก็เชนเดียวกัน ถาหากเธอรูวาเจา
แมเปนผูถือมังสวิรัติ แลวเราเอาอาหารเน้ือไปเซนไหว เธอคิดดูวาเจาแมจะรับหรอื ? แลวเรายังนับวาเคารพนับ
ถือหรือ? แตก็มีคนพูดวา ลูกศิษยลูกหาของเจาแมอาจกินเน้ือ แตช่ือท่ีเราเซนไหวก็คงเปนช่ือของเจาแม มิใช
หรือ? ดังน้ัน “ถาหากเปนเทพเทวดา ก็ตองไมเสพเน้ือสัตว” เทพเทวดาท่ีเที่ยงธรรม ยอมพอใจลูกศิษยลูกหา
กราบไหวแตของเจ งดเวน การฆาสตั ว เพ่ือตอบแทนฟา ดนิ ทีร่ กั ทุกชวี ติ เมื่อเจาแมถ ือเจ ลูกศิษยลูกหายอ มไดร ับ
การขัดเกลา อบรมบมนิสัยจากเจาแมมานานแลว ก็ยอมไมชอบเสพเน้ือ มิฉะน้ันจะไดรับเปนลูกศิษยเจาแม
หรอกหรอื ดังนั้น เมือ่ เธอมจี ิตศรทั ธาจรงิ กจ็ งใชอาหารเจไหวพระ ยอมไดรับการคุมครองจากพระแนน อน
ถามไมต อบ เนอ่ื งจากไมค วรใชซากสัตว
ประมาณ ๒ ป ไดยินเขาเลาวา ในหมูบานฮกเฮงมบี านแซอ ้ึง เปนครอบครัวท่ีซ่ือสตั ว และประพฤตธิ รรม
อันดีงาม มีแมผัวและลูกสะใภ ๒ คน ใชอาหารเจไหวพระ เนื่องจากในครอบครัวมีคนกินเนื้ออยูมาก ปนั้นวัน
คลายวันเกดิ ของเจาแม ลกู สะใภคนเลก็ ของตระกูลอึ้ง ไดเตรียมเปด ไกไปไหวเจาแมชุดหนึ่ง ไปไหวเจาแมท่ีศาล
เจา พอไหวเสร็จก็เอาไมปวย (คือไมคูรูปรางคลายรูปไตผา ซีกมกั วางไวบนโตะบูชา ใกลๆ กับกระบอกเซียมซี มี
19
ไวใชถามเจาวาดีหรือวาไมดี ไดหรือไมได โดยการโยนไมคูข้ึนไปบนอากาศ แลวปลอยใหตกลงมายังพ้ืน ถาไม
ขางหนึ่งหงาย อีกขางหน่ึงควํ่า ก็ถือวาเจาเห็นดวย หรือวาดี หรือได แลวแตคําถามถาไมออกมาในรูปควํ่าทั้ง
สองอนั แสดงวาไมตอบ ถา ไมห งายท้งั คูแสดงวาไมเหน็ ดวย) ขนึ้ มาทาํ ทา ไหว แลวก็ถามเจา แมไ ปวาของท่ีนํามา
ไหวนี้ พอใจหรือไม ผลปรากฏวาไมทรงตอบ แมจะโยนสักก่ีคร้ังๆ ก็คงเหมือนเดิม เลยถามวากระดาษเงิน
กระดาษทองนอยไปหรือ? ก็ไมใช เพราะลืมเอาเหลามาถวายใชหรือไม? ก็ไมตอบ หรือไกท่ีนํามาไหวเล็กไป
หรือ? ก็ไมใช หรือเพราะของทีน่ ํามาไหวน อยไปหรอื ? ก็ไมใ ช ถามไปถามมา คดิ ไมอ อกฉับพลันจิตใตส ํานึก กฉ็ ุก
คดิ ขึน้ มาได เลยถามไปวา “เปนเพราะวาศิษยกับแมย า กนิ เจ แลวนาํ อาหารสตั วม าไหว เจา แมไ มพอใจใชหรอื ไม
ถา ใชกโ็ ปรดตอบ” พอถามเสร็จกโ็ ยนไมป วย ปรากฏวาไมควา่ํ หงายอนั แสดงวา “ใช” เธอรูส กึ กลวั เลยบอกวา
ถาง้ันก็ขออภัยและคราวตอไปจะงดอาหารเสัตวมาไหว จะนําอาหารเจมาไหว ดังน้ันสองปที่ผานมาน้ี ลูกสะใภ
บานแซอ ้งึ กน็ าํ แตของเจมาไหว อาหารเน้อื สัตวห มูเหด็ เปดไกเตม็ โตะ เจา ไดรบั แตเพยี งอาหารเจชดุ เดยี ว
มตี ระกลู แซจ ัง ในเมืองจง้ั ฮัว ตงั้ แต ปยู า จนถงึ ลกู หลายตางกก็ ินเจทงั้ สามชัว่ โคตร ทง้ั ครอบครวั มสี ขุ บญุ
บารมีลนฟา มีวันหนึ่งเปนวันคลายวันเกิดของเจาองคหน่ึง ผูคนนําหมู เห็ด เปด ไก ไปไหวกันเต็มโตะไปหมด
ยังกับแขงขัน แสดงอวดกัน คุณนายจังไปทีหลัง เน่ืองจากครอบครัวกินเจ ก็เลยใชถ่ัวลิสงทําเปนรูปสัตวตางๆ
กัน ชุดเล็กๆ หน่ึงชุดมาไหว ตอนนี้บนโตะกเ็ ต็มไปดวยเปด ไก ไมมีที่จะวางได คนเฝาศาลเห็นดังน้ัน ก็เลยชวย
นําอาหารเจชุดน้ีไปวางไวเหนือโตะ พอดีลูกสะใภตระกูลจังมาถึง แลเห็นวา อาหารของบานตนเปนอาหารชุด
เล็กๆ เปนที่สนใจของผูพบเห็น ในใจรูสึกไมคอยสบายใจ แตวาไมนานนัก พอเจาเขาทรงเขียนออกมาวา ใน
บรรดาของที่นาํ มาไหวมากมาย เจา ไดร ับเพียงอาหารเจชดุ เดยี วเปน ของศิษยตระกูลจัง ทาํ ใหบ รรดาเทพเทวดา
ตางยินดีเปนอยางย่ิง จากจุดน้ีเอง ทําใหรูวาเทพเทวดาไมตองการใหผูคนฆาสัตวตดั ชีวิต ดีใจที่คนเอาอาหารเจ
มาไหว ดังนั้นที่ๆ เทพเทวดาอยูจะปราศจากคาวโลกีย ก็ยอมพอใจ ความสะอาดของอาหารเจ เกลียดอาหาร
เหมน็ คาวของเน้ือสตั ว
สารจากยมบาล
ผูคนอยาดูเพียงชาติน้ีชาติเดียว ควรพิจารณาวากฎแหงกรรมนั้นมีจริง ผลท่ีรับในชาติน้ีสืบเน่ืองจากการ
กระทาํ ในชาตกิ อน ดังนั้นผูท่ยี ากจน หรือมโี รคมาก กจ็ งอยาโทษฟาดินหรือคนอนื่ ควรรบี สรางบุญสรางกุศล ผู
ท่ีมีบุญวาสนา ก็ย่ิงตองรักบุญกุศล สะสมบุญบารมีอีก มิฉะนั้น พอหมดบุญลง เคราะหกรรมมาถึงก็จะไดล ิ้มรส
ผลชั่วของตนเองตลอดชีวิตของคน ตอนท่ีใกลจะตายใหสังเกตอวัยวะทั้งหา วาเปลี่ยนแปลงไปอยางไร รางกาย
แขง็ ทื่อหรือออ นน่มิ ใบหนาปกติหรือไม จะไดร ูว า ผูตายจะไปสูสุคตหิ รอื ลงสูข ุมนรก ใหพ ิจารณาดดู งั น้ี :-
๑.ตอนตายใหมๆ ถาหากหนาตาปกติ รางกายออนน่ิม สีหนาเหมือนคนมีชีวิตอยู ก็เนื่องจากไดบรรลุ
ธรรม ดวงวิญญาณจะไปสูส คุ ติ
๒.ตอนตายใหมๆ ถาหากรางกายแข็งทื่อ หนาตาซีดเผือดเหมือนคนตกใจ น่ันแสดงวา วิญญาณไดตกสู
นรกแลว
๓.ถาตอนตายใหมๆ รางกายแข็งท่ือ หนาตานากลัวเพราะความตกใจกลัว ทําใหเน้ือกายเปล่ียนไป ซ่ึง
เรียกวาเปล่ียนลักษณะ จะไปเกิดเปนสตั วส ี่ชนิดดวยกัน เรากด็ ูไดจาก “ตา หู จมูก ปาก” เปน ทหารทงั้ สี่ ท่ดี วง
20
วิญญาณจะไปเกิด เพราะตามีน้ําตา หูก็มีข้ีหู จมูกก็มีนํ้ามูก ปากก็มีนํ้าลาย เปนทวารที่ไมสะอาด ๔ ชองทาง
ดังน้ันเม่ือตายลงแลว ถาวิญญาณออกจากทวารตางๆ น้ี ชาติหนาไปเกิดเปนสัตวสี่ประเภทคือ สัตวเกิดจากรก
เกิดจากไข เกดิ เปนสัตวน ํา้ และเกิดเปนพวกแมลง
“ตา” พวกท่หี ลงกามคุณมากเกินไป พอจวนจะตายดวงตาจะเบกิ กวาง วญิ ญาณจะออกจากรา งทางทวาร
ตา ชาติหนาจะไปเกิดเปนสัตวปก (เกิดจากไข) เชน พวกนกตาง ๆ อันไดแก นกเหยี่ยว นกพิราบ นกนางแอน
ฯลฯ เปน ตน พวกน้ีตาจะไดเห็นทั่วท้งั สีท่ ิศ
“หู” พวกที่ชอบฟงเรื่องราวไมดี เร่ืองรายๆ ตางๆ มากมาย พอตายลงหูท้ังสองขางจะชันข้ึน วิญญาณ
ออกจากทวารหู ชาติหนาก็เกิดเปนสัตวท่ีเกิดจากรก ไดแก ชาง มา วัวควาย หูจะเขาใจภาษาคน ใหคนได
เรยี กใชส อย
“ปาก” พวกท่ีกลาวรายทําลายผูอ่ืน พูดจาเสียดสีนินทา กลาวหาเกินเลย กอนจะตาย ปากจะอากวางไม
หบุ วญิ ญาณออกทวารปาก จะไปเกดิ เปนพวกสัตวน ํ้า เชน กงุ หอย ปู ปลา เปนตน ปากจะล้มิ รสของเหม็นของ
สกปรก
“จมูก” พวกทช่ี อบหลงไหลกบั กลิ่นหอม ชอบหาเงนิ ทีส่ กปรก กอนจะตายจมูกจะเบกิ กวาง วิญญาณออก
ทางจมูก ชาติหนาจะเกิดเปนพวกแมลง เชน ยุง แมลงวัน มด หนอนตางๆ เปนตน เพราะจมูกชอบดมของ
เหม็นทส่ี กปรก ชอบอกชอบใจตนเอง พวกนีเ้ กิดในที่ชื้นแฉะ มีการเปลยี่ นแปลง เนือ่ งจากบาปหนกั วิญญาณจะ
ถกู ตแี ตกกระจายไปเกดิ เปน แมลงตางๆ
เวลาคนตายลง วิญญาณท่ีออกทางทวาร “ตา หู จมูก ปาก” น้ี ลวนมีเคราะหรายมากกวาเคราะหดี
เนื่องจากทวารทงั้ สี่เปนทวารสํารองทค่ี อยชว ยเหลือ “เจาของธาตแุ ท” ถาหากใชทวารทง้ั สไ่ี ปในทางทีถ่ ูกตอง ก็
จะเปน “ผูเที่ยงตรงทั้งส่ี” หากใชในทางตรงขามก็จะกลายเปน “สี่มหาโจร” ซึ่งจะทําลายเจาของ ในเวลาปกติ
ถาใชทวารทั้งสี่ในทางเลวราย พอตายลง วิญญาณก็จะออกทางทวารเหลาน้ีโดยธรรมชาติ ทําใหไปเกิดเปนสตั ว
ตา งๆ ๔ ประเภท จากหนาตาของผูวายชนม ก็สามารถหยง่ั รทู างไปของเขา แตก็ตองอาศยั เหตตุ นผลกรรม และ
บาปบุญคุณโทษท่ีมีอยูมาชําระคดีความ จึงสามารถไดผลที่ถูกตอง แตสวนใหญแลวจากรูปลักษณกอนตาย ก็
สามารถทีจ่ ะรูไดถ ึงท่ที างทเี่ ขาจะไดไปดีหรอื รา ยอยา งไร
ดังน้ัน ทิศทางหมุนเวียนของคนก็ข้ึนอยูกับตัวของคนเอง ผูท่ีมีตาทิพยยอมเห็นไดเองโดยตลอด ขอให
ผูคนเดินในทางตรง (สรางบุญกุศล) อยาเดินทางออม (กอกรรมทําเข็ญ) ตอนจะจากโลกน้ีไปจะไดเดินทางโดย
สวัสดภิ าพ
บทกลอน : ประภาพรรณ เสนห มติ ร
ภ า พ แ ห ง ค ว า ม เ ม ต ต า
ภาพความนา รักของเพอื่ น (เกิด แก เจ็บ ตาย) หยดุ การเขนฆา กนิ เจกันเถอะ! สัตวก็มหี วั ใจ
สัตวก็แสดงความรกั ได สัตวเ ขามคี รอบครวั นา รกั
สตั วก ร็ กั ลกู เหมือนเรา เขาก็งวงนอนเหมอื นเรา
เขาก็เพือ่ นเหมอื นเรา สกุ รและมนษุ ยน ้ี มีชวี ติ
21
ถกู ลิขิต จากกรรม ที่ทาํ ไว มีเจ็บปวด มกี ลัวตาย มจี ติ ใจ
เหตุไฉน จึงประหาร ทุกวารวัน เปน อาหาร ของมนุษย สุดอรอ ย
เพือ่ บาํ รุง นาํ้ ยอ ย ชางหฤหรรย เปน รอ ยพัน สรรมาฆา พรรวยกนั
แตก รรมนั้น ใครไดร บั ไวกับคน ยามส้นิ ชีพ ทรมา หนาอดสู
ตอ งมารอ ง เสยี งเหมือนหมู ดสู บั สน มีสภาพ คลายสตั ว ไมเหมือนคน
กรรมใหผล ในชาตินี้ น่ขี องจริง เวไนยค ือเรา เราคือเวไนย
รักสตั ว ไยจงึ กินเน้ือสัตว สกุ รไก แพะโค กงุ เปดปลา
ตา งตองมา เปนอาหาร รับทานลิ้น สตั วทัง้ หลาย ถูกฆา ตาย กายถมดนิ
ชางชาชนิ กนิ เลือดเนอ้ื ไมเบอ่ื กนั คนกับสตั ว มีชีวิต รักชวี ี
ตางก็มี ความรสู ึก มโี ศกศัลย เปลย่ี นพฤตกิ รรม การกนิ เสยี ใหมพ ลนั
รับทาน มังสวริ ตั ิกัน ไมก อ เวร
คาํ่ คื น อั น เ ง� ย บ เ ห ง า
ทกุ ราตรี มีไกข ัน กนั เซ็งแซ ชา งเงียบแท ตหี า พาเปลา เปลีย่ ว
เจาคงเลอื ดนอง เปอนมีด พนั เลม เทยี ว เขาคงเคี้ยว แกลม สรุ า พาเพลิดเพลนิ
เปนเพราะวา คนื นี้ สง ปเกา สงั หารเจา ทกุ ครัวเรือน ไมขัดเขิน
ชีวิตสตั ว นา สงสาร เสียเหลือเกิน เพราะบังเอิญ คนเหน็ เปนธรรมดา
ถามนุษย หยุดฆา สัตว ตัดชวี ติ เปลย่ี นความคดิ ทีผ่ ิด กนั ทัว่ หนา
รบั ทาน มงั สวิรตั ิ ชั่วชวี า มศี ีลหา บริสทุ ธ์ิ หยดุ สรา งกรรม
ข น ข อ ง แ ม
แมเพ่ิงคลอด ลูกน้ี สี่ชีวิต คนอาํ มหิต ปลดิ ชวี ี แมดบั ส้ิน
เหลือแตก อง ขนไก บนพื้นดนิ ลกู จาํ กลน่ิ แมไ ด ไมคลายจาง
ตอ นีไ้ ป จะมใี คร กางปก ปก ลกู มีอก แมอุน ไมเ คยหาง
โอแ มจ า ลูกมแี ม เคยนาํ ทาง ลูกอา งวาง เพราะใครหนอ เขากอ เวร
ลู ก แ ม
โอล ูกแม อยไู หน ใครรูบา ง แมอ างวา ง วา เหว ถวลิ หา
เคยกกไข ดวยยินดี เสมอมา อนจิ จาเขา เอาไปกิน กันอิม่ ใจ
เห็นเปลือกไข จาํ ได ใชลกู ฉัน ทุกคืนวัน เคยกอดกก และชดิ ใกล
มมี ือมาร ประหารลกู จากแมไ ป มนษุ ยธรรม อยูทไี่ หน ชว ยบอกที
ทุ ก ข ท ร ม า น จ น ต า ย
ความเจบ็ ปวด รวดราว ถูกเชอื ดคอ จะรอ งขอ ความปราณี ไดท ่ไี หน
ตอ งดาวด้ิน หลายนาที จึงส้นิ ใจ โอเ ปด ไก ยามถกู เชอื ด เลอื ดไหลนอง
ชางเปนภาพ ทเี่ วทนา นาเศรา นัก โปรดตระหนกั ภาพพจน สยดสยอง
เม่อื รับประทาน สตั วท ุกครั้ง ควรตรกึ ตรอง เขาท้งั หลาย คือพีน่ อง รวมโลกเรา
22
ไดโ ปรด! ไวช ีวติ ฉนั เถดิ เสียงทอดถอน โทมนัล พอ โคเฒา
นั่งคกุ เขา วอนเพชรฆาต ขอชวี ิต มดี ขาววับ ระดับคอ รอชีพปลดิ
ในดวงจติ ปวดราว น้าํ ตารนิ เคยรบั ใช ไถนา มานานป
ไมเคยมี ความชอบ ชางลมื ส้ิน ตอ งถูกฆา เปน อาหาร ใหเขากนิ
ชั่วชวี นิ ววั ควาย อาหารคน
รู คุ ณ ไ ม เ บี ย ด เ บี ย น
คนในภาพ เปนชาวนา กลั ยาณจิต ชวั่ ชีวติ มสี ัจจะ จิตใจสูง
มเี มตตา กรณุ า คอยชักจูง ใจนน้ั มงุ แทนพระคุณ การณุ ธรรม
เม่ือเยาวว ัย ไดอ าศยั ด่ืมนมโค ยามเติบโต เลี้ยงไวั ใหอ ่ิมหนํา
อันโคน้ี เคยใชง าน อยางตรากตรํา ถึงแกเฒา ก็ไมนาํ ไปฆากนิ
เขาเขาใจ ในหลกั กฏแหง กรรม ไมกระทาํ ช่วั ซํา้ ใหผ ดิ ศีล
เขารับทาน มังสวริ ตั ิ เปนอาจิณ ชั่วชีวนิ กตัญู รูพระคณุ
ลกู จา! แมล ากอน ภาพแมแพะ ถูกจูง ไปเขน ฆา
เหมือนรูว า ตองพราก จากลกู ขวญั แมก ับลกู ตา งมองหนา กนั และกัน
ตางโศกศลั ย เศรา นัก ความรักเรา แมจ า อยา ไป อยาไป ใหเขาฆา
จงกลบั มา อยูกบั ลูก ใหค ลายเหงา ในท่ีสุด แมต อ งไป จากพวกเรา
เปนเรือ่ งเศรา พลัดพราก ตายจากกนั ถามนษุ ย หยุดฆา หยุดรบั ทาน
คงไมต อง ถูกประหาร อยา งหฤหรรษ คงไมตอง เห็นภาพ บาดชวี นั
ดวยยึดมน่ั ศีลขอ หนงึ่ พงึ จดจํา โอเพ่ือนเอย เคยเหน็ ทกุ เย็นคาํ่
ฉันเคยนํา เอาหญา มาเลยี้ งเจา เจา แพะนอ ย ตวั นดิ เพ่ือนชดิ เรา
เคยคลอเคลา เคลยี ขา พากนั เดิน เราคอื เพอ่ื น รใู จ กันนานป
คงไมมี ใครมาพราก ใหหางเหนิ เคยวิ่งเลน ทุกเย็นเชา อยา งเพลิดเพลิน
ชางบงั เอญิ มีเหตกุ ารณ ประหารใจ อนจิ า เจาโดนฆา คอถกู เชอื ด
เหน็ กองเลือด และศพเจา เศราไฉน เจาตองกลาย เปนอาหาร ทาํ ทานไป
ตัง้ สัจจะไว ไมก ินเจา เราเพ่อื นกนั อาลยั เจา เพ่อื นยาก
นาํ้ มื อ ค น
เกลด็ ของปลา เปรียบเสมอื น เล็บมนุษย
ตองหาหมอ ทาํ แผล ดแู ลกัน ถาเล็บหลดุ สุดเจ็บปวด อยา งมหนั ต
เราขอดเกลด็ ปลาเปน เห็นธรรมดา แตส ัตวน นั้ ไมม ีปญ ญา รกั ษาตน
ตอ งเกลือกกล้ิง ด้นิ หนี น้ํามือคน แตอ นิจา หารูไม เขาเจบ็ ลน
ถามนุษย หยุดทาํ รา ย ทําลายสตั ว สุดจะทน ภาพเชนนี้ มที ุกวัน
โลกคงจดั อยใู นทาง ท่ีสรา งสรรค
ยึดมั่น อยใู นศลี ชั่วชวี ัน รับทาน มังสวิรัตกิ นั ท้ังครอบครัว
23
ลานประหาร
สตั วน า้ํ ทกุ ชวี ิต ถกู ปลดิ ชพี ตา งกร็ ีบ เอาตวั รอด ด้ินรนหนี
มดี ฟนขาด สองทอ น ยงั อยูดี แหวกวายหนี มือมาร กลัวการตาย
บางชวี ติ นาํ ไปทอด ในกระทะ ก็ยงั จะ ดิน้ ได นา ใจหาย
เขารักชีวี หวงชวี ติ หวงรางกาย โปรดละอาย อยา ฆา สัตว วิรตั กิ รรม
เ สี ย ง จ า ก กั น ช่ั ว นิ รั น ดร
ยามสายณั ห ตะวนั รอน จวนลับฟา เจา ปกษา ผัวเมยี บินเริงรา
ชา งไมร ู อันตราย ตดิ ตามมา ตางปรารถนา ในรัก สลักใจ
ธนพู ิษ มือเพชฌฆาต บังอาจนกั มาพรากรัก พวกเรา เศราไฉน
เสยี งบอกเจา บาดเจบ็ จนขาดใจ เสียงราํ่ ไห พี่จา นอ งลาที
แ ม ใ ก ล จ ะ ก ลั บ แ ล ว
สน้ิ เสยี งปน ดงั ลน่ั สนัน่ ปา ถกู แมน ก ตกลงมา ชวี าส้นิ
เหตมุ ัวมอง หาเหยื่อ เพอ่ื ลกู กิน กายพังภนิ ท เพราะมนุษย สุดบรรยาย
แสนสงสาร ลกู นกนอ ย เฝา คอยแม ตา งชะแง ชูคอรอ น รอรอหาย
พปี่ ลอบนอง อยา รอ งไห ใจวุนวาย ตอนสายสาย แมคงกลับ รับขวญั เรา
โปรดยตุ ิ การสรา งกรรม และทําราย สัตวท ั้งหลาย คงเปน สุข ไมโศกเศรา
ชว ยพิทกั ษ รักสัตวด ว ย สองมือเรา คนรุนเยาว คงเอาอยาง ในทางดี
เ พ ช ฌ ฆ า ต เ ลื อ ด เ ย็ น
ผาตวนแพร ตา งถกั ทอ ดว ยใยไหม เราสวมใส ดวยนิยม สมศักด์ศิ รี
ถา จะคดิ ใหล ึกซึง้ คงทราบดี ผา สวยนี้ กรรมวิธี มเี ชนไร
เขาใชไหม มชี วี ติ ใสห มอ ตม สัตวต ายลม เพราะแพรพรรณ อันสดใส
ตองพลชี ีพ เพือ่ ความนยิ ม ใหส มใจ โปรดคดิ ใหม ใชใ ยรัก ถกั ทอแทน
ชีวิตใคร ใครกร็ ัก กิเลน สตั วโบราณ จติ เมตตา
มักกรุณา สตั วตัวนอย อยูเสมอ ยามเดินไป ในถนน ไดเ จอะเจอ
เขาไมเ ผลอ เหยียบตาย ใหว ายปราณ มนษุ ยเรา ยกตน เปนคนฉลาด
เหตไุ ฉน จึงพฆิ าต อยา งอาจหาญ มนุษยธรรม น้ันอยไู หน ใครตองการ
โปรดไขขาน คําตอบ จะขอบคณุ
เ ห็ น ผิ ด เ ป น ช อ บ
พวกเด็ก ไรเ ดยี งสา ทรมานสัตว ชอบใชพ ดั ตบตี พวกผเี สื้อ
แมห ่ิงหอย ตัวเลก็ ตายเปน เบือ เขาไมเชอื่ บาปเวร เพราะเยาวว ยั
พอแม ควรสอนลูก ปลกู ความคิด ใหม ีจิต เมตตา อยาสงสยั
สัตวท ้งั หลาย รกั ชีวี ลวนหนีภัย สรางปจจยั คอื ความดี มีคณุ ธรรม
ฉดุ ชวยเขา เราพน เคราะห ไมส มควร จับแมลง มาฆา เลน
24
เปน บาปเวร กอ กรรม อนั ย่งิ ใหญ เม่อื เหน็ สตั ว จะจมนํ้า รีบชว ยไว
ดว ยจติ ใจ เมตตา พน ภัยพาล สตั วห รือคน รักชวี ติ เชน เดยี วกัน
ตางหนีพลัน ความตาย กลวั ประหาร โปรดพิทกั ษ อนุรกั ษไว ใหอยูน าน
พวกลกู หลาน ตามแบบอยาง ทางทด่ี ี
เ พ ร� ย ก พ ร อ ง ร อ ง รา่ํ
เหน็ นกนอย ถกู ขัง คงโศกเศรา ดวยตวั เจา น้ันยังมี ซึ่งพี่นอ ง
มพี อแม เมียลกู เคยคมุ ครอง แตเ จา ตอ ง มาพราก จากมือคน
เขาฟง เสียง นกรอ ง รนื่ รมยห ู เขาไมร ู วา เจาน้ี ชา งสบั สน
คิดถึงลูก คิดถงึ แม แสนมืดมน ตองทุกขทน เหมือนนักโทษ โปรดเห็นใจ
ถามนุษย ถกู พราก จากของรัก คงตอ งจกั เจบ็ จน ทนไมไหว
กรณุ าให อภัยทาน สราญใจ ปลอยเขาไป จากกรง คงหมดกรรม
สาํ นึ ก ข อ ข ม า
มเี มตตา ไมฆ า สตั ว ตัดชวี ติ ดวยดวงจิต แนวแน ไมแปรผนั
จะรบั ทาน มงั สวิรตั ิ ช่ัวชวี ัน เปดศักราช อนั แจมจรัส เพ่อื ตดั กรรม
มีหริ ิ โอตตปั ปะ สละช่ัว ไมเ กลือกกลัว้ กลวั บาปเกา มากลายกล้าํ
ตงั้ แตน้ี ตอ ไป จะใฝธ รรม อโหสกิ รรม ชาตนิ ้ี อยามีเวร
บ ท ก ล อ น เ ตื อ น ใ จ ใ ห กิ น เ จ
ประนมกราบ แทบบาทพระ อธิษฐาน ขอพบพาน แตสงิ่ ดี ที่ประสงค
กม สกั การ ไมด อกผล จติ มนั่ คง หากปลิดปลง ชพี สตั ว อยาหวงั บญุ
เร่อื งเวียนวา ย ตายเกดิ เจา ไมเชือ่ ญาติมิตรเม่ือ สน้ิ ชพี ลง กรรมนาํ หนุน
ก.ฆาไก เหมอื นฆา ลูก สุดทารณุ ข.ฆาหมู สุดเนรคณุ ฆามารดา
พระกวนอมิ โปรดเจ ไมใ ชเหลา พทุ ธเจา เกลยี ดท่สี ุด คือฆา สัตว
พระเจา ลวนมีจิต โพธสิ ตั ว จงปฏิบตั ิ ตามรอย พุทธธรรม
เวนแต เจามาร หลงลาภปาก แตทาํ บาป หลอกลวง ผดิ ศลี ธรรม
ขอเตือนอยา เซน ไหวสตั ว ทําบาปกรรม นอ มจิตนาํ จุดธปู เพียงสามดอก
บรจิ าค ทรพั ยสนิ ชว ยคนยาก บญุ จะมาก ลูกหลาน สุขสบาย
กินเจ มีประโยชน ท้ังกายใจ หมดมารราย อยูส ุข ทกุ ฤดู
ขา กวนอู ผูเ ลศิ ในทางรบ ไดคนพบ สัจธรรม อันเลิศลํ้า
แมท าง วทิ ยาศาสตร อันเกรียงไกร ยอมรับ ใหช าวโลก บรโิ ภคเจ
ถือศีลหา กนิ เจ จะจําเรญิ อยา เพลิดเพลิน หลงทาง ท่ีหักเห
เบียดเบยี น สตั วไรส ขุ ทุกขทงั้ เพ อยารวนเรเรงทาํ แตกรรมดี
อันเนือ้ สัตว สะสม อมเช้อื โรค ควรบรโิ ภค พชื ผัก จกั สขุ ี
25
ขากวนอู รับประกัน ในความดี เพราะขา มี เมตตา จงึ กลา เตอื น
ขา เปน ชาย นกั รบ เจนจบสนิ้ นํา้ ตารนิ ไหลอาบ ดงั ดาบเฉือน
การกระทํา ของมนุษย สดุ แชเชือน จักตักเตอื น ใชหลอก บอกความจริง
คําเตอื นจากพระอนิ ทร พระผเู ปนเจา บนสวรรค (พระเจา กวนอู)
ป ร ะ วั ติ เ ท ศ ก า ล กิ น เ จ
九皇大帝誕
Nine Emperor Gods Festival
เทศกาลกินเจ หรอื กินแจ (อักษรจนี : 九皇勝會 Jiǔ huán Shèng huì; ฮกเก้ียน : กว้ิ อองเซง โหย ; อังกฤษ
: Nine Emperor Gods Festival หรือ อักษรจีน : 九皇大帝誕; ฮกเกี้ยน: ก้ิวอองไตเตตั้น) หรือบางแหง
เรียกวา ประเพณีถือศีลกินผัก เปนประเพณีแบบลัทธิเตารวม 9 วัน กําหนดเอาวันตามจันทรคติ คือ เร่ิมตน
ตั้งแตวันข้ึน 1 ค่ํา ถึง ข้ึน 9 คํ่า เดือน 9 ตามปฏิทินจีนของทุกป มีจุดเร่ิมตนจากประเทศจีนมานานแลว โดยมี
ตํานานเลาขานกนั หลายตาํ นาน ปจจบุ นั เทศกาลกนิ เจจัดขึ้นในประเทศเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต ไดแก สงิ คโปร
มาเลเซีย และไทย ตลอดจนหมูเกาะเรียวในอินโดนีเซียและอาจมีในบางประเทศเอเชีย เชน ภูฏาน ญี่ปุน
เกาหลี และประเทศจีน (ประกอบดวยฮองกงและมณฑลไตหวัน) ซึ่งการกินเจในเดือน 9 น้ี เช่ือกันวานาจะ
เกิดขน้ึ เมอ่ื ราว พ.ศ.2170 ตรงกับสมัยอาณาจักรอยธุ ยา
ป ร ะ วั ติ
ประเพณถี ือศลี กินเจหรือกินเจซึ่งเปนพิธียนั ตรกรรมบูชาทย่ี ่ิงใหญที่สดุ โดยอาศยั พระแมแหงดวงดาวมารี
จี (摩利支) ในแบบของพระพุทธศาสนานิกายมหายาน แตในทางลัทธิเตาเรียกวา เตาโบหงวนกุนหรือเตาโบ
เทียนจุนในภาษาฮกเก้ียน (斗姆元君,斗姆天尊) เปนศูนยกลางสมมติของพิธีศักด์ิสิทธ์ินี้ มักอิงประวัติผูกติด
อยูก ับฝา ยตํานานเทพแหงดาวนพเคราะหมากกวา ซง่ึ เปนศาสตรแ หงลัทธิเตา ตอมาเมอื่ พระพทุ ธศาสนาเผยแผ
เขาสูเมืองจีน นับจากน้ันเปนตนมาเม่ือพระพุทธศาสนาเจริญขึ้น จึงปรากฏตํานานความเช่ือที่ผูกโยงกับ
พระพุทธเจา 9 พระองคและพระโพธิสัตวอกี 2 พระองค เรียกวา กิ้วอวงฮุดโจว ในภาษาจีนแตจ ิ๋ว (九皇佛祖)
โดยคติความเช่ือในประเพณีของชาวจีน โดยเฉพาะลัทธิขงจื้อ ซ่ึงเนนในเรื่องบรรพบุรุษและความกตัญู
บรรดาบูรพกษัตริยท่ีเคยอุทิศตนเพื่อใหประชาชนมีความเจริญโดยใชหลักเมตตาธรรม ก็จะเปนบุคคลผูไดรับ
การสรรเสริญจากประชาชน ตามตํานานสามารถรวบรวมได 9 พระองค ซึ่งอยูในยุคสมัยตางๆกัน ทั้ง 9
พระองครวมเรียกวาพระราชาธิราช 9 พระองค ในภาษาจนี ฮกเกีย้ นเรียกวา : กวิ๋ ออ งไตเ ต, (九皇大帝) ซงึ่ ชาว
จนี เชื่อวา ทกุ ส่ิงทุกอยางในโลกเปนธรรมชาติและดาํ เนนิ ไปตามวิถแี หง สวรรค อาศัยตามความเชอื่ ในลัทธิเตา จงึ
สง ผลใหเ กิดการนับถือดวงวิญญาณที่สถติ อยูในสรวงสวรรค พระเจา แผนดินทั้งเกาพระองคเมือ่ อยูในโลกมนุษย
ไดประกอบกรรมดีมากมาย เมื่อสิ้นพระชนมแลวจึงไดจุติเปนเทพเจาประจําดาวนพเคราะห ทําหนาที่คุมครอง
มวลหมปู ระชาราษฎรใหบังเกดิ ความรม เยน็ สบื ไป
ช่� อ เ ร� ย ก อื่ น ๆ
26
九皇大帝聖誕千秋 (ตัวยอ : 九皇大帝圣诞千秋, พินอิน : Jiǔ huáng dàdì shèngdàn qiānqiū จิ้วห
วงตาต่เี ซงิ ต้ันเชยี นชิว, ฮกเกย้ี น : กิ๋วฮองไตเตเซงตัน๋ เชียนชิว) แปล วันประสตู ิพระจักพรรดิ 9พระองค
九皇勝會 (ตัวยอ : 九皇胜会, พินอิน : Jiǔ huáng shèng huì จ้ิวหวงตาต่ีเซิงตั้นเชียนชิว, ฮกเก้ียน: กิ๋ว
ฮองเซงหว ย)
九皇節 (ตวั ยอ : 九皇节, พินอิน : Jiǔ huáng Jié จิว้ หวงเจีย่ , ฮกเก้ยี น: กว๋ิ ฮองจว ย)
ตํา น า น
บางแหงเช่อื กันวา กนิ เจ เพอื่ ถวายเปนพุทธบชู าแดพระมหาโพธสิ ตั วกวนอิม สว นความเชื่ออื่นๆ ที่เก่ียวกับ
เทศกาลกินเจนัน้ มดี งั นี้
ตาํ นานท่ี 1 ราํ ลึกถึงนกั รบ “หงห่ี ว่ั ทวง”
กลา วกันวา การกินเจเร่ิมขึ้นเพื่อราํ ลึกถงึ นกั รบ “หง่หี วั่ ทว ง” ซงึ่ เปน ทหารชาวบานของจีนทตี่ อ สตู านทาน
กองทัพแมนจูอยางกลาหาญ ฝายแมนจูมีปนไฟของชาวตะวันตกท่ีฝายจีนไมมี นักรบหงี่ห่ัวทวงเหลานี้จะ
ประกอบพิธีกรรมนุงขาวหมขาว ไมกินเน้ือสัตวและผักท่ีมีกลิ่นฉุน และทองบริกรรมคาถาตามความเชื่อของจีน
เช่ือกันวาจะสามารถปองกันปนไฟได แตก็ไมประสบผล คร้ันจีนพายแพแมนจู ชายชาวจีนถูกบังคับใหไวผม
อยางชาวแมนจู ซึ่งสรางความคับแคนใหแกชาวจีนอยางมาก ชาวจีนจึงรําลึกถึงนักรบหงี่ห่ัวทวงเหลาน้ีดวย
สาํ นกึ ในบุญคณุ
ตาํ นานที่ 2 สักการบชู าพระพทุ ธเจา
เพ่ือเปนการประกอบพธิ ีกรรมสักการบูชาพระพุทธเจาในอดีตกาล 7 พระองค และพระมหาโพธสิ ตั วอกี 2
พระองค รวมเปน 9 พระองคดวยกัน หรืออีกนัยหน่ึงเรียกวา “ดาวนพเคราะห” ทั้ง 9 ไดแก พระอาทิตย
พระจันทร พระอังคาร พระพุธ พระพฤหัสบดี พระศุกร พระเสาร พระราหู และพระเกตุ ในพิธีกรรมบูชาน้ี
สาธชุ นในพระพทุ ธศาสนาสละเวลาทางโลก มาบาํ เพญ็ ศีล งดเวน เนอ้ื สตั ว และแตง กายดวยชุดขาว
ตาํ นานที่ 3 พระพุทธศาสนาฝายมหายาน
ผูถือศีลกินเจในพระพุทธศาสนาฝายมหายาน ที่ปฏิบัติสืบตอกันมาของชาวจีนในประเทศไทย เพื่อ
สักการบูชาพระพุทธเจาในอดีตกาล 7 พระองค ดังมีในพระสูตร ปกเตาโกว ฮุดเชียวไจเอียงช่ัวเมียวเกง กลาว
ไวคือ พระวิชัยโลกมนจรพุทธะ พระศรีรัตนโลกประภาโมษอิศวรพุทธะ พระเวปุลลรัตนโลกวรรณสิทธิพุทธะ
พระอโศกโลกวิชัยมงคลพุทธะ พระวิสุทธิอาศรมโลกเวปุลลปรัชญาวภิ าคพุทธะ พระธรรมมติธรรมสาครจรโลก
มโนพุทธะ พระเวปุลลจันทรโภคไภสัชชไวฑูรยพุทธะ และพระมหาโพธิสัตวอีก 2 พระองค คือ พระศรีสุขโลก
ปทมอรรถอลังการโพธิสัตวและพระศรีเวปุลกสังสารโลกสุขอิศวรโพธิสัตว รวมเปน 9 พระองค (หรือ เกาออง)
ทรงตั้งปณิธานจักโปรดสัตวโ ลก จึงไดแบงกายมาเปนเทพเจา 9 พระองคดวยกนั คือ ไตอวยเอ๊ียงเมงทัมหลงั ไท
แชกุน ไตเจียกอิมเจ็งก้ือม้ึงงวนแชกุน ไตกวนจิงหย้ิงลุกชงเจงแชกุน ไตฮ่ังเฮี่ยงเมงมงเคียกนิวแชกุน ไตปกตัง
งวนเนี้ยบเจงกงั แชกนุ ไตโ พว ปกเกกบูเอยี กก่ีแชกนุ ไตเ พยี วเทยี นกวนพวั กุงกวนแชกนุ ไตตั่งเมงง่วั คูแชกุน ฮุยก
วงไตเพียกแชกุน เทพเจาท้งั 9 พระองค ทรงอํานาจตบะอนั เรอื งฤทธ์บิ รหิ ารธาตุดนิ น้าํ ลม ไฟ และทอง ท่ัวทกุ
พภิ พนอ ยใหญส ารทิศ
27
ตาํ นานที่ 4 บชู า “กษตั ริยเ ปง ”
กินเจเพ่ือเปนการบูชา “กษัตริยเปง” ซึ่งเปนกษัตริยองคสุดทายของราชวงศซอง ซ่ึงสิ้นพระชนมโ ดยทรง
ทําอตั วนิ บิ าตกรรม (การฆา ตวั ตาย) ในขณะทเี่ สด็จไตห วันโดยทางเรือ เมื่อมพี ระชนนมายุได 9 พรรษา พิธีบชู า
เพื่อระลึกถึงราชวงศซองนี้ มีแตเฉพาะในมณฑลฮกเก้ียนซ่ึงเปนดินแดนผืนสุดทายของราชวงศซอ งเทาน้ัน โดย
ชาวฮกเก้ียนไดจัดทําพิธีดังกลาวน้ีขึ้น ดวยการอาศัยศาสนาบังหนาการเมือง การท่ีเผยแผมาสูเมืองไทยไดนั้น
เพราะชาวจนี จากฮกเกยี้ นนาํ มาเผยแผ
ตํานานที่ 5 เลาเอ๋ยี
1,500 ปมาแลว มณฑลกังไสเปนดินแดนที่เจริญรงุ เรืองมาก ฮองเตเมืองน้ีมพี ระราชโอรส 9 พระองค ซึ่ง
เปนเลิศทั้งบุนและบู จึงทําใหหัวเมืองตางๆ ยอมสวามิภักด์ิ ยกเวนแควนกงเล้ียดที่มีอํานาจเขมแข็งและมีกอง
กําลังทหารท่ีเหนือกวา ทั้งสองแควนทําศึกกันมาถึงครั้งท่ี 4 แควนกงเล้ียดชนะโดยการทุมกองกําลังทหารที่มี
ท้ังหมดท่ีมากกวา หลายเทาตวั โอบลอ มกองทัพพระราชโอรสท้ังเกาไวทุกดาน แตก องทัพกงเลยี้ ดไมส ามารถบุก
เขาเมืองไดจึงถอยทพั กลบั
จนวันหน่ึงชาวกังไสเกิดความแตกสามัคคีและเอาเปรียบกัน เทพยดาทราบวาอีกไมนานกังไสจะเกิดภัย
พิบัติ จึงหาผูอาสาชวย แตชาวบานจะพนภัยได ก็ตอเม่ือไดสรางผลบุญของตนเอง ดวงวิญญาณพระราชโอรส
องคโตรับอาสาและเพงญาณเห็นวา ควรเร่ิมท่ีบานเศรษฐีใจบุญ ลีฮ้ัวกาย คืนวันหนึ่งคนรับใชแจงเศรษฐีลีฮ้ัว
กายวา มีขอทานโรคเรื้อนมาขอพบ เศรษฐีจึงมอบเงินจํานวนหนึ่งใหเปนคาเดินทาง แตขอทานไมไปและ
ประกาศใหชาวเมืองถือศีลกินเจเปนเวลา 9 วัน 9 คืน ผูใดทําตามภัยพิบัติจะหายไป เศรษฐีนํามาปฏิบัติกอน
และผูอ่นื จงึ ปฏิบัติตาม จนมกี ารจดั ใหม ีอุปรากรเปนมหรสพในชวงกนิ เจดวย
เลาเอ๋ียเกิดศรัทธาประเพณีกินเจของมณฑลกังไส จึงไดศึกษาตําราการกินเจของเศรษฐีลีฮ้ัวกายที่บันทึก
ไว แตไ ดด ดั แปลงพธิ กี รรมบางอยางใหรัดกมุ ยิง่ ขึน้ และใหม ีพธิ เี ชี้ยยกออ งสองเต (พธิ เี ชิญเงก็ เซยี นฮอ งเตม าเปน
ประธานในพิธี)
ตาํ นานท่ี 6 พระโพธสิ ัตวก วนอิม
ชายขเี้ มานามวา “เลาเซง็ ” เขา ใจผิดคดิ วาแมตนตายไปเพราะเปน โรคขาดสารอาหาร จนคนื หนงึ่ แมไดมา
เขาฝนบอกวา แมตายไปไดรับความสุขมาก เพราะแมกินแตอาหารเจ และตอนนี้แมอยูบนเขาโพถอซัว ตั้งอยู
บนเกาะนา่ํ ไฮ ในมณฑลจิ๊ดเจยี ง ถา ลูกอยากพบแมใหไ ปท่ีนัน่
ครั้นถึงเทศกาลไหวพระโพธิสัตวกวนอิมที่เขาโพถอซัว เลาเซ็งอยากไปแตไปไมถูก จึงตามเพ่ือนบานที่จะ
ไปไหวพระโพธิสัตว เพ่ือนบานเห็นเลาเซ็งสัญญาวา จะไมกินเหลาและเน้ือสัตวจึงใหไปดวย ระหวางทางเดิน
สวนกับคนขายเน้ือ เลา เซง็ ลืมสัญญาทใี่ หไวเ พอ่ื นบานก็หนีไป โชคดีที่มีหญิงสาวคนหนึง่ เดนิ ผา นมาและตอ งการ
ไปไหวพระโพธิสตั ว เลา เซง็ จงึ ขอตามนางไป
เม่ือถึงเขาโพถอซัว ขณะท่ีเลาเซ็งกมลงกราบไหวพระโพธิสัตวน้ัน เขาเห็นแมลอยอยูเหนือกระถางธูปท่ี
คนอ่ืนมองไมเห็น ขณะเดินทางกลับเขาไดแยกทางกับหญิงสาว และไดพบเด็กชายคนหน่ึงยืนรองไหอยู จึงเขา
28
ไปถามไถไดความวา เปนลูกของเขากับภรรยาที่เลิกกันไปนานแลว เขาจึงพาไปอยูดวย แลววันหน่ึงหญิงสาวท่ี
นําทางไปเขาโพถอ ซวั มาขออาศัยอยดู ว ย ทง้ั สามอยดู วยกนั อยา งมคี วามสุข
หญิงสาวผูน้ันเปนสาวบริสุทธิ์ ประพฤติตนเปนคนดีอยูในศีลธรรม และถือศีลกินเจอยูเนืองนิตย นางรูวา
ใกลถึงวันตายของนางแลว จึงบอกเลาเซ็ง เม่ือถึงวันนั้นนางอาบน้ําแตงตัวดวยอาภรณที่ขาวสะอาด แลวน่ัง
สักครูก็สิ้นลม เลาเซ็งเห็นการจากไปดวยดีของนางคลายกับแม จึงเกิดศรัทธายกสมบัติใหลูกชายแลวประพฤติ
ตนใหม เมื่อตายไปจะไดบังเกดิ ผลเชนเดียวกับแมและหญงิ สาว และประเพณกี ินเจจงึ เรม่ิ ขนึ้
ตํานานที่ 7 กนิ เจทีภ่ เู ก็ต
มคี ณะงว้ิ จากเมืองจนี มาเปด การแสดงท่ีอําเภอกระทนู านเปนแรมป บังเอญิ ชวงนัน้ เกดิ โรคระบาดขนึ้
คณะงิ้วจงึ จัดใหม พี ธิ ีกนิ เจ และสรางศาลเจาขึน้ เพ่อื สะเดาะเคราะห หลงั จากน้ันโรคระบาดก็หาย ชาวกะทูเกิด
ความศรทั ธาจงึ ปฏิบัติตาม หลังจากประกอบพิธีอยูป ระมาณ 2-3 ป ก็มผี ูคนเล่ือมใสมากขน้ึ เร่ือยๆ ประกอบกบั
อยากไดพ ธิ ีกนิ เจทส่ี มบูรณแบบตามประเพณีมณฑลกังไส ประเทศจีน จึงไดส ง ตวั แทนไปนาํ ควันธปู (เหี่ยว
เอย้ี น) จากกงั ไสใหลอยมาถึงภูเกต็ โดยในการเดินทางกลบั จะตองคอยจดุ ธปู ตอ กันมิใหดบั มอด ศาลเจากะทูจงึ
ไดช ื่อวาเปนตน ตาํ รบั ของพิธกี ินเจในปจจุบัน
สาํ หรับเมืองไทยความเชื่อเรอ่ื งการกินเจ เปนไปในแนวทางของการละเวน การเอาชวี ติ ของสตั ว เพือ่ เปน
สักการะบูชาแกพ ระพทุ ธเจา และมหาโพธสิ ัตวก วนอิม อาจเนื่องจากการแพรห ลายของการละเวนการกินเนอ้ื
ววั ในกลุมคนท่นี บั ถือ “เจาแมกวนอมิ ” การกินเจจงึ เปนอกี หน่งึ พิธีกรรมเพือ่ สักการะ
จังหวัดภูเกต็ เปนจังหวดั ที่จัดประเพณีการกินเจอยา งยิง่ ใหญทุกๆ ป โดยมาจากรากฐานความเชอื่ เดยี วกัน
คนจนี เรยี ก “เจเดอื นเกา ” แตถ านับตรงกับเดือนไทยก็จะไดต รงกับเดอื น 11 ดงั น้ันเทศกาลกนิ เจท่ีภูเกต็ จงึ มขี น้ึ
หลงั เทศกาลกินเจท่วั ๆ ไป บางครั้งเราจงึ มกั ไดยนิ ช่อื เรยี กของเทศกาลกินเจทภ่ี ูเก็ตวา เปนเทศกาลกนิ ผกั ซึง่
แทจ รงิ แลวก็คอื การกนิ เจในรปู แบบ และระยะเวลา 9 วันเชน เดียวกนั
ความหมายของเจ
ธงท่ีใชประดับหนารานอาหารเจ มีตัวอักษรจีนสีแดง 齋 บนพื้นสีเหลือง หรือใชคําวา “เจ” แทนก็ได คํา
วา เจ ในภาษาจีนทางพุทธศาสนานิกายมหายาน มีความหมายเดียวกับคําวา อุโบสถ ดังนั้นการกินเจก็คือการ
รับประทานอาหารกอนเที่ยงวัน เหมือนกับที่ชาวพุทธในประเทศไทยท่ีถืออุโบสถศีล หรือรักษาศีล 8 โดยไม
รับประทานอาหารหลังจากเท่ียงวันไปแลว แตเน่ืองจากการถืออุโบสถศีลของชาวพุทธนิกายมหายานท่ีไมกิน
เนื้อสัตว จึงนิยมนําการไมกินเนื้อสัตวไปรวมกันเขากับคําวากินเจ กลายเปนการถือศีลกินเจ ในปจจุบันผูที่
รับประทานอาหารท้ัง 3 ม้ือแตไมกินเนื้อสัตว ก็ยังคงเรียกวากินเจ ฉะน้ันความหมายก็คือคนกินเจมิใชเพียงแต
ไมกนิ เนือ้ สตั ว แตย งั ตอ งดํารงตนอยูในศีลธรรมอนั ดีงาม มคี วามบริสุทธ์ิ สะอาด ท้ังกาย วาจา ใจ
ในภาษาจีนมีคําหรือวลีท่ีใชอักษรแจ (เจ, 齋/斋) เปนตัวประกอบรวมดวยหลายคํา แตคําวาโปยกวนแจ
ไก (八關齋戒) แปลวา ศีลบริสุทธิ์แปดประการ อันหมายถึง อุโบสถศีล ซ่ึงเปนศัพทของทางพุทธศาสนา การ
แปลและเขาใจคลาดเคลื่อนดังกลาว ยังถูกใชเปนบรรทัดฐานในการอธิบายวัตรปฏิบัติของการกินเจผิดตามไป
ดวยวา “การกินเจตองถือศีลขอวิกาลโภชน” หรือการงดกินของขบเค้ียวหลังเท่ียงวันไปแลว ซึ่งเปนศีลขอหนง่ึ
29
ในศีลแปด ท้ังๆ ที่โรงครัวของศาลเจาหรือโรงเจท่ีเปดเล้ียงผูคนในชวงเทศกาลกินเจลวนแตมีอาหารม้ือเย็น
ใหกับผูเขาไปกิน ยิ่งวันที่มีการประกอบพิธีกรรมในตอนคํ่า ยังมีอาหารม้ือค่ําบริการเสริมใหเปนพิเศษดวย ที่
เปนเชนนั้นเพราะในชวงเทศกาลกินเจน้ัน เขาถือเพียงศีลหาท่ีเปนนิจศีล ไมไดครองศีลแปดอยางที่หลายคน
เขา ใจ (เวนแตผูตงั้ จิตอธษิ ฐานวา จะครองศีลแปดเปนการสวนตัวเทา นัน้ )
ในทางอักษรศาสตรจีน อักษรตัว “แจ” มีพัฒนาการมาจาก ตัวอักษร ฉี “齊” ซ่ึงแปลวาบริบูรณ,
เรียบรอย อักษรแจเกิดจากการเพ่ิมเสนตั้งและสองจุด (小) เขาไปกลางอักษรฉี ทําใหเกิดตัว ซื (示) ซ่ึงแปลวา
การสักการะ อยใู นแกน กลางของตวั ฉี
แจ (齋) จึงมีความหมายวา การรักษาความบริสุทธ์ิ (ท้ังกายและใจ) เพ่ือการสักการะ หรือ การปฏิบัติ
บูชาถวายเทพยดา ซึง่ การอธบิ ายในแนวทางนจี้ ะสอดคลองกบั คําวา “齋醮” ในลัทธิเตา ซึง่ ยอมาจากคาํ วา 供
齋醮神 ท่ีแปลวา การบําเพญ็ กายใจใหบ รสิ ทุ ธิ์ เพื่อเปน สกั การบชู าเทพยดา
ค ว า ม ห ม า ย ข อ ง แ จ ใ น ศ า ส น า อิ ส ล า ม
ศัพทคําวา ศีลแจ / 齋戒 ในภาษาจีน นอกจากใชในลัทธิเตาและศาสนาพุทธแลว ยังหมายถึง “ศีลอด”
ท่ีถือปฏิบัติในเดือนถือศีลอดของชาวจีนอิสลาม สาระของศีลก็คือการหามรับประทานอาหารใดๆ ในระหวาง
เวลาท่ีพระอาทิตยขน้ึ จวบจนลบั ขอบฟา ตลอดเดือนถอื ศลี อด
แ จ ใ น วั ฒ น ธ ร ร ม ด่ั ง เ ดิ ม ข อ ง จ� น
ศัพท แจ พบในเอกสารจีนเกาท่ีมีอายุกวาสองพันปหลายฉบับ เชน 禮記, 周易, 易經, 孟子, 逸周
書 (เอกสารที่อางน้ีปจจุบันถือวาเปนคัมภีรในลัทธิหยู) เอกสารเหลานั้นยังใชอักษรตัวฉี (齊) แตเวลาอานออก
เสียง กลับตองอานออกเสียงวา ไจ เชน คําวา ไจเจ๋ีย / 齊潔 หรือ ไจเจี้ย / 齊戒 ซ่ึงก็คือการออกเสียงแจใน
สําเนียงแตจิ๋วนั่นเอง อักษรฉีในเอกสารน้ันนักอักษรศาสตรตีความวา แทจริงแลวก็คืออักษรตัวแจหรือใชแทน
ตัวแจ แจท่ีวาน้ีหาไดหมายถึงการงดกินของสดคาว หรือ การงดรับประทานอาหารหลังเที่ยง หากหมายถึงการ
ชําระลางรางกาย สงบจิตใจ และสวมใสเส้ือผาใหมสะอาด เปนการเตรียมกายและใจใหบริสุทธิ์ เพ่ือประกอบ
พธิ ีกรรมสักการบชู า ขอพร หรือแสดงความขอบคณุ ตอเทพยดาแหงสรวงสวรรค
แ จ เ พ่ื อ ก า ร จาํ แ น ก ค ว า ม เ ค ร ง ค รั ด ข อ ง ภิ ก ษุ ฝ า ย ม ห า ย า น
ศีลของภิกษุฝายมหายาน ในสวนเกี่ยวกับการฉันของภิกษุแตกตางจากฝายเถรวาท ท้ังมีการจําแนกเปน
สองลกั ษณะตามสาํ นักศึกษา ไดแ ก
เหลา ทีถ่ อื ม่นั ในศลี วกิ าลโภชนและฉันอาหารเจ จะไมฉนั อาหารหลงั อาทติ ยเ ท่ียงวนั เรียก ถแ่ี จ /持齋
เหลาทถี่ ือมัน่ แตการฉันอาหารเจ เรยี กถสี่ ู /持素
เจียะแจ (食齋) เปนการออกเสียงตามสําเนียงถ่ินแตจ๋ิว ศัพทคํานี้ใชและเปนที่เขาใจแตทางตอนใตของ
จีนโดยเฉพาะแถบลุมอารยธรรมหล่ิงหนาน (領南) ในมณฑลกวางตุง อันเปนแหลงอาศัยดั้งเดิมของคนแคะ
แตจ๋ิว กวางตุง และไหหนํา ซ่ึงเปนชาวจีนกลุมใหญในประเทศไทย เจียะหรือเจ๊ียะ (食) ในภาษาถ่ินใต แปลวา
กิน สวน แจ (齋) แปลวา บริสุทธิ์ (อางตามปทานุกรมพุทธศาสนาฉบับ วัดฝอกวงซัน ไตหวัน) เจียะแจตรงกับ
คําวา ชอื ซู (吃素) ในภาษาจนี กลาง และตรงกบั คําไทยที่นยิ มใชกันวา กินเจ จึงแปลวา การกนิ อาหารท่บี ริสุทธิ์
30
ตามความเชื่อ (ในลัทธิกินเจ) คําวาเจียะแจน้ีชาวจีนฮกเกี้ยนทางปกษใตแถบจังหวัดภูเก็ตเรียกตางออกไปวา
เจียะฉาย (食菜) ท่ีแปลตามตัวอักษรไดวา กินผัก แตมีนิยามหรือความหมายตรงกับคําวาเจียะแจท่ีกลาว
ขางตน
จุ ด ป ร ะ ส ง ค ข อ ง ก า ร กิ น เ จ
ผทู กี่ ินเจอาจจะมีจดุ เริม่ ตน ที่แตกตางกนั ไป แตจุดประสงคห ลักสามารถแบงไดเ ปน 3 ประเภท ดงั น้ี
1.กินเพ่ือสุขภาพ อาหารเจเปนอาหารประเภทชีวจิต เม่ือกินติดตอกันไปชวงเวลาหนึ่ง จะทําให
รางกายเกิดการปรับตัวใหอยูในสภาวะสมดุล สามารถขับพิษของเสียตางๆ ออกจากรางกายได ปรับระบบ
ไหลเวยี นโลหิต ระบบทางเดนิ อาหารใหม ีเสถยี รภาพ
2.กินดวยจิตเมตตา เนื่องจากอาหารท่ีเรากินอยูในชีวิตประจําวนั ประกอบดวยเลอื ดเนื้อของสรรพ
สัตว ผูมีจิตเมตตา มีคุณธรรมและมีจิตสํานึกอันดีงาม ยอมไมอาจกินเลือดเนื้อของสัตวเหลาน้ัน ซึ่งมีเลือดเน้ือ
จิตใจ และท่ีสําคญั มคี วามรักตัวกลวั ตายเชนเดียวกบั คนเรา
3.กินเพื่อเวนกรรม ผูที่เขาใจอยางลึกซ้ึงยอมตระหนักวา การกินซึ่งอาศัยการฆาเพื่อเอาเลือดเนื้อ
ผูอ่ืนมาเปนของเราเปนการสรางกรรม แมวาจะไมไดเปนผูลงมือฆาเองก็ตาม การซ้ือจากผูอื่นก็เหมือนกับการ
จางฆา เพราะถาไมมีคนกินก็ไมมีคนฆามาขาย (ถาไมฆาไมขายก็ไมมีคนกิน) กรรมที่สรางนี้จะติดตามสนองเรา
ในไมชา ทาํ ใหส ุขภาพรา งกายอายขุ ยั ของเราสน้ั ลง เปนบอ เกิดของโรคภัยไขเ จ็บ เมื่อผูหยั่งรูเรื่องกฎแหงกรรมน้ี
จึงหยุดกินหยุดฆา หันมารับประทานอาหารเจ ซึ่งทําใหรางกายเติบโตไดเหมือนกัน โดยไมเห็นแกความอรอย
ชว งเวลาสน้ั ๆ เพียงแคอาหารผา นลน้ิ เทานน้ั
อาหารเจ
อาหารเจเปน อาหารท่ีปรุงขึน้ โดยไมมเี นอ้ื สตั ว หรอื ผลิตภัณฑท่ไี ดจากสัตว (เชน นม ไข นาํ้ ผึง้ นา้ํ ปลา เจ
ลาติน คอลลาเจน ) และไมปรุงดวยผักที่มีกลิ่นฉุน ไดแก กระเทียม หอม (ทุกชนิดอาทิ ตนหอม หัวหอม
หอมแดง) หลักเกียว กยุ ชาย และผกั ชี
บางก็รวมผักชีและเครื่องเทศรสเผ็ดรอนเขามาดวย เพราะผักเหลาน้ีสงผลกระทบตอธาตุในรางกาย บาง
เช่ือวาผักเหลานี้เพิ่มความกําหนัด หรือมาจากเลือดของสัตวตามตํานานจีน ทําใหอาหารเจไมมีกล่ินคาว
เนื่องจากการงดเน้ือสัตว ทําใหผูที่กินเจหันมาบริโภคธัญพืชในธรรมชาติ เพ่ือใหไดมาซ่ึงโปรตีน ซึ่งสวนใหญ
ไดแก ผลิตภัณฑจากถ่ัวเหลือง โดยในประเทศจีน พบวามีภัตตาคารบางแหง ซึ่งบริการ "ปรุงอาหารตามใบส่ัง
แพทย" (กลาวคือ ผูที่เขามารับประทาน จะตองไดร ับใบสั่งอาหารของแพทยเสียกอน) โดยลูกคาของภัตตาคาร
ดังกลาวเปนคนไขท่ีกําลังเขารับ “การบําบัดโรคดวยอาหารตามหลักเวชศาสตรโบราณ” หลังเขารับการตรวจ
วนิ จิ ฉัยจากแพทยแ ลว
ห ลั ก ธ ร ร ม ใ น ก า ร กิ น เ จ
ในทัศนะของคนกินเจ การกินที่ทําใหชีวิตผูอื่นตองเดือดรอนลมตายนั้น “มันมากเกินไป” ทั้งๆ ท่ีมนุษย
กินแตอาหารพืชผัก ก็สามรถมีชีวิตอยูได การกินเจต้ังม่ันอยูบนหลักธรรมสําคัญ 2 ประการ คือ ดํารงชีวิตอยู
ดวยอาหารทไี่ มเ บียดเบียนตนเอง และดํารงชีวติ อยดู วยอาหารท่ีไมเบยี ดเบียนผูอ น่ื กลาวคือ
31
ไมเอาชีวติ ของสตั วท ั้งหลายมาตอเตมิ บาํ รุงเลยี้ งชีวิตของตน
ไมเอาเลือดของสตั วทัง้ หลายมาเปนเลอื ดของตน
ไมเอาเนอ้ื ของสัตวท ง้ั หลายมาเปนเน้ือของตน
การรับประทานสิ่งใดก็ตาม ท่ีทําลายสุขภาพรางกายของตนใหทรุดโทรม คือ การเบียดเบียนตนเอง
ปจจบุ ันวิทยาการเจรญิ กาวหนาไดพ ิสูจนยนื ยนั วา เลอื ดและเนื้อของสัตวท่ีถูกฆาตายเต็มไปดว ยพิษภัยมากมาย
ดังนั้นการกินเจจึงไมใชเพ่ือใหเกดิ ผลดีตอจิตใจเทาน้ัน แตยังครอบคลุมไปถงึ การมีสุขภาพพลานามยั ที่ดีอีกดว ย
รางกายและจิตใจเปนของคูกัน มีความสัมพันธสงผลถึงกัน คนเรายอมไมอาจจะรูสึกเบิกบานสดช่ืนราเริงได
ในขณะทรี่ า งกายเจ็บปว ยทรดุ โทรมยา่ํ แย
ก า ร ป ฏิ บั ติ ต น ใ น ช ว ง กิ น เ จ
ในชวงเทศกาลกินเจ 9 วัน 9 คืน ผูที่ตองการกินเจอยางครบถวนสมบูรณตามประเพณีการกินเจ จะตอง
ปฏบิ ัติ ดงั น้ี
รับประทาน “อาหารเจ” งดอาหารรสจัด ซึ่งหมายถึงอาหารเผ็ด หวานมาก เปร้ียวมาก เค็มมาก
งดผกั ทมี่ ีกล่นิ ฉนุ ทั้งหลาย แยกภาชนะสาํ หรับอาหารเจเทา น้นั
รักษาศีลหา รักษาจิตใจใหบริสุทธิ์ รักษาอารมณ ไมพูดคําหยาบคาย รวมถึงงดการมีเพศสัมพันธ
ทําบญุ ทําทาน ไหวพ ระ สวดมนต
นุง ขาวหม ขาวตลอดเทศกาลกินเจ และควรแตง กายชดุ ขาวเขา รวมพิธีกรรมตางๆ ในแตล ะศาลเจา
สําหรับผูท่ีเครงครัดเพ่ือการกินเจใหเปนไปอยางบริสุทธ์ิโดยแท จะเพ่ิมการปฏิบัติโดยการกินอาหาร
เฉพาะท่ีคนกินเจดวยกันเปนผูปรุงเทาน้ัน รวมถึงจะลางหมอไหจนสะอาดเอ่ียม แยกภาชนะสําหรับการปรุง
อาหารเจไวโดยเฉพาะ นอกจากนย้ี งั จดุ ตะเกียงไว 9 ดวงตลอดชว งเทศกาลกินเจ 9 วัน โดยไมป ลอยใหดับ เพื่อ
เปนพทุ ธบชู าและรําลกึ ถงึ บุญคุณของพอ แมญ าติพ่นี อง ตลอดจนผทู ี่มบี ญุ คุณตอ ผืนแผนดนิ เกดิ
สี ใ น เ ท ศ ก า ล กิ น เ จ
สีแดง เปนสีท่ีชาวจีนเช่ือวาเปนสีศิริมงคล ดังจะเห็นไดวาในงานมงคลตางๆ ของคนจีนไมวาจะเปนงาน
แตง วันตรษุ จีน
สีเหลือง เปนสีสําหรับใชในราชวงศ ซ่ึงอนุญาตใหใชไดเพียงคนสองกลุมเทานั้น กลุมแรกคือกษัตริยซึ่ง
เห็นไดจากหนังจีน เครื่องแตงกายและภาชนะตางๆ เปนสีเหลืองหรือทอง ซึ่งคนสามัญหามใชเด็ดขาด กลุมท่ี
สองคอื อาจารยปราบผี ถา ทา นสงั เกตในหนงั ผีจีน จะเห็นวา เขาแตงกายและมียนั ตสีเหลือง
สขี าว ตามธรรมเนียมจนี สขี าว คอื สีสาํ หรบั การไวท กุ ข สดี ําทเ่ี ราเห็นกันอยใู นขณะนเ้ี ปน การรบั วฒั นธรรม
ตะวนั ตก ถา ทานสงั เกตในพธิ งี านศพของจีน จะเห็นลกู หลานแตง ชดุ สีขาวอยู
ความหมายของ “ธงเจ”
ในชวงเทศกาลกินเจ เราจะสังเกตเห็นธงประจาํ เทศกาล โดยมีพ้ืนธงเปนสีเหลือง ซ่ึงเปนสีที่อนุญาตใหใช
กับคนสองกลุมเทาน้ัน คือกลุมกษัตริย ราชวงศ และกลุมอาจารยปราบผี ดังจะเห็นจากยันตสีเหลืองตาม
ภาพยนตรจ ีน ดังนั้นสเี หลืองจึงเปนสีของพุทธศาสนา หรือผูทรงศีล บนธงจะเขยี นตวั อกั ษรสแี ดง อานวา “ไจ”
32
หรือ “เจ” มีความหมายวา “ของไมมีคาว” เหตุที่ใชสีแดง เพราะชาวจีนเชื่อวา เปนสีมงคล สรางความเจริญ
ใหแกชีวิต ธงเจนอกจากจะเปนสัญลักษณของอาหารเจแลว ยังเปนการเตือนใหพุทธศาสนิกชนท่ีปฏิบัติตนถือ
ศลี กินเจ ไดตระหนักถงึ การไมเบียดเบยี นชีวติ สัตว และการต้ังอยูใ นศีลตลอดชว งกินเจ
ก า ร ป ฏิ บั ติ ตั ว ช ว ง เ ท ศ ก า ล กิ น เ จ
งดเวน เน้ือสตั ว หรือทาํ อนั ตรายตอ สัตว
งดเวน นม เนย หรือนาํ้ มนั จากสัตว
งดเวน อาหารรสจดั หมายถึง อาหารรสเผด็ มาก เค็มมาก หวานมาก เปรย้ี วมาก
งดเวน ผักกลน่ิ ฉุน 5 ชนิด คอื
1.กระเทียม รวมทงั้ ตน กระเทียมดว ย
2.หัวหอม รวมท้ัง ตนหอม ใบหอม หอมแดง หอมขาว หอมหัวใหญ
3.หลักเกยี ว หรือกระเทยี มโทนจนี ลกั ษณะคลา ยหัวกระเทยี ม แตมีขนาดทเี่ ล็กและยาวกวา
4.กุยฉาย ใบคลา ยใบหอม แตแบนเล็กกวา
5.ใบยาสูบ บุหร่ี ยาเสน ของเสพตดิ มนึ เมา
เน่ืองจากผักดงั กลาวนั้น เปนผักที่มีกลิ่นเหม็นคาวรุนแรง ฉุน รสเขมหนัก นอกจากนี้ ยังมีพิษทําลายพลงั
ธาตุทัง้ ๕ ของรา งกาย ทาํ ใหอวยั วะในรางกายทํางานผิดปกติ
ผักท้งั ๕ ชนดิ ทําลาย อวัยวะหลกั ท้งั ๕ กระทบตอ ธาตุสาํ คัญ
1.กระเทยี ม การทาํ งานของ หัวใจ ธาตุไฟ ในกาย
2.หวั หอม การทํางานของ ไต ธาตุน้าํ ในกาย
3.หลกั เกียว การทํางานของ มาม ธาตุดนิ ในกาย
4.กยุ ฉา ย การทาํ งานของ ตบั ธาตไุ ม ในกาย
5.ใบยาสบู การทํางานของ ปอด ธาตุโลหะ ในกาย
หลักการกินเจนั้น จึงมิใชเพื่อใหเกิดผลดีตอรางกายอยางเดียวเทานั้น แตยังสงผลดีตอดานจิตใจสดชื่น
เบกิ บาน ราเรงิ ไดในขณะเดยี วกัน โดยยงั มอี ีก ๗ วนั ทีค่ นจีน บางสวน นิยมงดเนอ้ื สัตว กนิ เจ คอื
1.วนั เกดิ ของตนเอง
2.วนั เกดิ ของลกู หลาน
3.วันแตง งาน
4.วันจัดเลีย้ งเพ่ือนฝงู ญาติมติ ร
5.วันเซน ไหวบรรพบรุ ษุ
6.วนั ทําบุญสรา งกศุ ล
7.วันขอพรสิง่ ศักดสิ์ ทิ ธ์ิ
พิธีกรรมถือศีลกินเจ ไมเสพเน้ือสัตว และการบูชาดาวนพเคราะห ทําบุญแจกทานแกคนทุกขยากจนนี้
เปนที่นิยมมาแตโบราณกาล การถือศีลกินเจเดือนเกาเปนพิธีกรรมที่ศักด์ิสิทธ์ิ ไดแผเมตตา กรุณาถึง ๙ วัน ๙
33
คืนนั้นควรคาแกการอนุรักษสืบทอดตอไปพิธีกรรมถือศีลกินเจ ไมเสพเนื้อสัตว และการบูชาดาวนพเคราะห
ทําบุญแจกทานแกคนทุกขยากจนนี้ เปนท่ีนิยมมาแตโบราณกาล การถือศีลกินเจเดือนเกา รักษาจิตใจให
บริสทุ ธิ์ รกั ษาอารมณใหคงที่ ทําบญุ ทําทาน บางคนที่เครง อาจนงุ ขาว หม ขาว
"อาหารเจ" เปนอาหารที่ปรุงข้ึนจากพืชผักธรรมชาติลวนๆ ไมมีเน้ือสัตวปน และที่สําคัญตองไมปรุงดวย
ผักฉุนทั้ง 5 ตามความเช่ือทางการแพทยจีน ของผักเหลานี้มีรสหนัก กลิ่นรุนแรง เปนเหตุใหอวัยวะหลักสําคัญ
ภายในท้ัง 5 ทํางานไมป กติ
สําหรับคนที่กินเจอยางเครงครัด นอกจากจะ "ถือศีล-กินเจ" แลว ยังตองเลือกผูปรุงอาหารเจท่ีกินเจดว ย
เพื่อให "อาหารเจ" นั้นบริสุทธ์ิจริงๆ บางคนจะคัดแยกภาชนะบรรจุหรือปรุงอาหาร จากที่ใชใสอาหารที่มี
เน้ือสัตวอยางเด็ดขาด และในบางแหงอาจพบวามีการจุดตะเกียงเกาดวงไวเปนเวลา 9 วันตลอดระยะเวลากิน
เจ เพือ่ รําลึกถงึ บญุ คุณพอ แมญ าตพิ ี่นอง และเพอ่ื เปนพทุ ธบชู า
การกินเจทําได 2 แบบ คือ
1.กินเปน กจิ วตั ร คอื ละเวนการกนิ เนื้อสัตวท้ัง 3 มือ้ ทกุ วัน
2.กินเฉพาะชว งกินเจ คือ กินเจชว งวันขนึ้ 1 ถงึ 9 ค่าํ เดือน 9 ตามปฏทิ นิ จีน
กนิ เจเพอื่ อะไร จดุ ประสงคหลักของการกนิ เจ แบงออกไดเปน 3 ประเภท คือ
1.กินเพื่อสุขภาพ เพราะอาหารเจเปนอาหารชีวจิต เมื่อกินติดตอกัน จะทําใหรางกายสมดุล สามารถขับ
พษิ ของเสยี ตา งๆ ออกจากรางกายได และปรบั ระบบตางๆ ในรางกายใหมเี สถยี รภาพ
2.กินดวยจิตเมตตา เนื่องจากทุกๆ วัน อาหารที่เรากินประกอบดวยเลือดเน้ือของสรรพสัตว ผูท่ีมีจิตใจดี
งามจงึ ไมสามารถกนิ เน้ือของสตั วเหลาน้นั ได
3.กินเพ่ือเวนกรรม เพราะการฆาเอาเลือดเนอื้ ผูอน่ื มาเปนของเราเปนการสรางกรรม แมจะไมไดลงมือฆา
เองก็ตาม เพราะการซื้อผูอื่นเทากับการจางฆา ถาไมมีคนกินก็ไมมีคนฆามาขาย ผูท่ีเขาใจเรื่องกฎแหงกรรมจึง
หยุดกิน หันมารับประทานอาหารเจแทน โดยไมเห็นแกความอรอยในชวงเวลาส้ันๆ เพียงแคใหอาหารผานลิ้น
เทาน้นั
ป ร ะ โ ย ช น ข อ ง ก า ร กิ น เ จ
การกินอาหารเจ นอกจากจะเปนการถือศีลรักษาประเพณี และละเวนชีวิตแลว ยังใหประโยชนตอ
รา งกาย ดงั นี้
1.รางกายสามารถขับถายของเสียออกไดหมดทําให ไมมีสารพิษตกคางอยูภายใน เพราะสารอาหารจาก
พืชผกั และผลไมจะชว ยใหร ะบบขบั ถายและการยอ ยเปนปกติ
2.เม่ือรับประทานเปนประจํา โลหิตจะถูกฟอกใหสะอาดขึ้นเร่ือยๆ เซลลตางๆ ของรางกายเสื่อมสลายชา
ลง ทาํ ใหอายุยืนยาวมผี ิวพรรณสดชนื่ ผอ งใส รา งกายแข็งแรงรูสึก มสี ุขภาพดี
3.อวัยวะหลักสําคัญภายใน ไดแก หัวใจ ไต มาม ตับ ปอด และอวัยวะประกอบคือ ลําไสใหญ ลําไสเล็ก
กระเพาะปส สาวะ กระเพาอาหาร ถุงนา้ํ ดี แขง็ แรงทาํ งานไดเปน ปกติสมบรู ณ
34
4.รางกายสามารถตานทานตอสารพิษตางๆ ไดแก สารเคมี ยาฆาแมลง มลภาวะ และกาซพิษท่ีเกิดจาก
การเผาไหมในอุตสาหกรรม ไอเสียจากเครื่องจักร เครื่องยนต ซึ่งสารอาหารในพืชผัก จะชวยใหเซลลตางๆ ใน
รา งกายสามารถทนตอ การทําลายจากรังสีตา งๆ ได
5.สามารถตานทานสารพิษไดสูงกวาคนปกติ ในบรรดาผูท่ีทานเจมักไมปรากฎโรครุนแรงหรือเร้ือรัง เชน
โรคมะเร็ง โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง เสนเลือดตีบ ไขมันอุดตันในเสนเลือด โรคไต ฯลฯ โดยเฉพาะโรคที่
เก่ียวกับระบบขับถาย ยอยอาหารและทางเดินอาหาร เชน โรคริดสีดวงทวาร มะเร็งในกระเพาะและลําไส โรค
กระเพาะ อาหารไมยอ ย โรคเหลา น้จี ะไมพ บเลยในกลุมคนผูที่รบั ประทานอาหารเจ อาหารพืชผักและผลไมเปน
ประจํา
6.การกินเจทําใหเกิดความเมตตา เกิดความสงบสุขุม อารมณไมฉุนเฉียว ไมโมโหงาย ซึ่งจะชวยเก้ือกูล
สงเสรมิ ใหบ ารมีธรรมสูงขึ้นเรอ่ื ยๆ
7.หยดุ การสรา งบาป เวรกรรม ทําใหไ มเกิดการอาฆาต พยาบาท จึงปราศจากศตั รทู ั้งมนุษยและสตั วท่ีคิด
มงุ ทํารา ยตามจองเวร
อ า ห า ร เ จ เ พื่ อ สุ ข ภ า พ
ชวงนี้เปนชวงเทศกาลกินเจ จึงไดหาขอมูลเก่ียว การกินเจเพ่ือคุณๆ ทั้งหลาย คําวา "เจ" หรือ "แจ" ใน
ภาษาจีนมีความหมายในทางพุทธศาสนาฝายมหายานวา อุโบสถ และแปลได อีกอยางหน่ึงวา ไมมีคาว ซ่ึง
ความหมายท่ีแทจริงของคําวา "กินเจ" คือ การรับประทาน อาหารกอนเที่ยงวัน หรือท่ีชาวพุทธในไทยถือ
"อุโบสถศีล" หรือคือ "การรกั ษาศลี 8 " โดยหลัง จากเทีย่ งวันแลว จะไมรบั ประทานอาหารอกี
แตเนื่องจากการถืออุโบสถศีลของชาวพุทธฝายมหายานไมกินเนื้อสัตว จึงนิยม"การไมกิน เน้ือสัตว" ไป
รวม กับคําวา "กินเจ" ซึง่ เปนการถือศลี ไปดวยทกุ วันนี้ถงึ แมจ ะรบั ประทานอาหาร ทงั้ 3 มอื้ แตไ มกนิ เนอ้ื สัตวก็
ยังคงเรียกวา "กินเจ" ฉะนั้นความหมายกค็ ือ "คนท่ีกินเจ" ไมใชเพียงแตไมกินเน้อื สัตว แตคนกนิ เจยังตอง ดํารง
ตนใหอ ยูในศลี ธรรมอนั ดีงาม มคี วามบริสุทธิส์ ะอาดงดงามท้ังกาย วาจา และใจ และเปนการถอื ศีลบําเพญ็ ธรรม
ไปดวยพรอ มกันจึงเรยี กวา "กินเจทีแ่ ทจรงิ "
วั น เ ว ล า ข อ ง ก า ร กิ น เ จ
เราสามารถแบง การกินเจได 2 แบบ คือ
1.การกินเปนกจิ วัตร คอื การละเวน การกินเน้ือสัตวท ้งั 3 มื้อ เปน ประจาํ ทุกวัน
2.การกินเฉพาะชวงประเพณีกินเจ คือ การกินเจในชวงวันขึ้น ๑ ค่ําถึง ๙ ค่ํา เดือน ๙ ตามปฏิทินจีน ซ่ึง
วันเวลา ของการกินเจทั้ง 9 วันน้ัน จะมีช่ือเรียกดังน้ีคือ ชิวอิก ชิวย่ี ชิวซา ชิวสี่ ชิวโหงว ชิวลัก ชิวฉิก ชิวโปย
และชวิ เกา ดว ย
โดยท่ีเจอิ๊วหรือผูรวมพิธีกินเจจะมีการทําบุญในระหวาง 9 วันท่ีเรียกวา "เจคี้" หรือ "ซาลักเกา" ซ่ึง
ประกอบดว ย วนั ชิวซา ชิวลัก และชวิ เกาดว ย โดยการนาํ โหงวกว ยหรอื ซากวย ผลไม 5 หรอื 3 อยางมาไหว ซ่งึ
มักนิยมใชผลไม ท่ีมีความหมายเปนมงคล เชน สม ซ่ึงในภาษีจีนเรียกวา ไตกิก แปลวา โชคดี องุน หรือ พูทอ
หมายถงึ งอกงาม สบั ปะรด หรืออั้งไล แปลวา มโี ชค และกลว ย ทห่ี มายถงึ การมีลูกหลานสืบสกุล
35
ก า ร กิ น เ จ อ ย า ง ถู ก ต อ ง
"อาหารเจ" เปนอาหารที่ปรุงขึ้นมาจากพืชผักธรรมชาติลวนๆ ไมมีเน้ือสัตวปน และท่ีสําคัญตองไมปรุง
ดวย ผักฉุนท้ัง 5 อันไดแก กระเทียม หัวหอม หลักเกียว กุยฉาย ใบยาสูบ เนื่องจากผักดังกลาวเหลานเี้ ปนผักที่
มี รสหนัก กลิ่นเหม็นคาวรุนแรง นอกจากนี้ยังมีพิษทําลายพลังธาตุท้ัง 5 ในรางกาย เปนเหตุใหอวัยวะหลัก
สาํ คญั ภายในท้งั 5 ทาํ งานไมป กติ ซึ่งผทู ี่กนิ เจถอื วา
กระเทียม ซ่ึงรวมไปถึง หัวกระเทียม ตนกระเทียม จะไปทําลายการทํางานของหัวใจและ
กระทบกระเทือนตอธาตุไฟในกาย ถึงแมวากระเทียมจะมีสารท่ีสามารถละลายไขมันใน เสนเลือด (คลอ
เลสเตอรอล) ได แตกระเทียมก็มีความระคายเคืองสูง ผูที่เปนโรคกระเพาะหรือกระเพาะอาหารเปนแผลและ
โรคตับจึงไมควรรบั ประทานมาก
หัวหอม ซึ่งรวมไปถึงตนหอม ใบหอม หอมแดง หอมขาว หอมหัวใหญ ตามหลักเวชศาสตรและเภสัช
ศาสตร โบราณของจีนถือวา หัวหอมจะไปทําลายการ ทํางานของไตและกระทบกระเทือนตอธาตุน้ําในกาย
ถึงแมวา หอมแดงจะชวยขับพยาธิ ขับลม แกทองอืดแนน ปวดประจําเดือน และอาการบวมน้ําได แตการ
บริโภคเปน ประจําหรือ มากเกินไป จะทําใหเกิดอาการหลงลืมงาย ประสาทเสีย มีกลิ่นตัว ฟนเสีย เลือดนอย
และนัยตาฝา มวั
หลักเกียว คือ กระเทียมโทนจีน ลักษณะคลายหัวกระเทียม แตมีขนาดเล็กและยาวกวา ในประเทศไทย
ไมพบวา มีการปลูกแพรหลาย ซึ่งหลักเกียวจะไปทําลายการ ทํางานของตับและกระทบกระเทือนตอธาตุไมใน
กาย
ใบยาสูบ ซึ่งหมายถึง บุหรี่ ยาเสน ของเสพติดมึนเมาโดยใบยาสูบจะไปทําลายการทํางาน ของปอด และ
กระทบกระเทอื นตอ ธาตโุ ลหะในกาย
ป ร ะ โ ย ช น ข อ ง ก า ร กิ น เ จ ใ น มุ ม ม อ ง ต า ง ๆ
ในมมุ มองของศาสนา จะมองประโยชนข องการกินเจในแงข องชวี ิตและจิตใจ ซง่ึ ไดแ ก
1.บังเกิดเมตตาจิต เกิดความสงบ สุขุม เยือกเย็น อารมณไมฉุนเฉียว ไมหุนหันพลันแลน โมโหงาย ดวง
ธรรมญาณอนั บรสิ ทุ ธ์ิจะปรากฏออกมาซึ่งจะชว ยเกอ้ื กูลสง เสริม ใหบารมี ธรรมสงู ขน้ึ เรอ่ื ยๆ
2.ทําใหมีสติม่ันคง มีสมาธิแนวแน ไมประมาทเลินเลอ เปนประโยชนตอการดําเนิน ชีวิตและการทํางาน
สามารถรอดพน จากภัยตางๆ เชน ภัยธรรมชาติ ภยั จากสัตว ภยั จากเคราะหกรรม เม่อื วิญญาณออกจาก ราง ก็
จะไปสภู พภมู ิท่ีดี
3.หยุดการทําบาป ตัดเวรกรรมท่ีผูกพัน ทําใหไมเกิดการอาฆาตพยาบาท ทําใหปราศจากศัตรูทั้งมนุษย
และสตั วท ่ีคดิ มงุ รายตามจองเวร
4.ส่ิงไมดีจะถูกขับออกไป ความรูสึกขุนมัว มืดมนจะหมดไป หลังจากกินเจตอเน่ืองกัน เปนระยะเวลา
นานๆ ความสดใสจะปรากฏขน้ึ ในจติ ใจ และถายทอดออกไปสใู บ หนาใหมีความสะอาดสดใส
36
5.ผูท่ีกินเจ รวมท้ังครอบครัวและบุตรหลาน และคนในปกครองจะเกิดความรุงเรืองในชีวิต มีเหตุใหเกิด
อยูในดินแดนอารยะ มีแตความอุดมสมบรู ณ ปราศจากการทํารายรบราฆาฟน ไมมุงรายทําลายชีวิตซ่ึงกนั และ
กนั
6.ทาํ ใหจ ิตใจสะอาดไมฟุง ซาน จิตใจทสี่ ะอาดทาํ ใหม องเหน็ กายอนั แทจ รงิ สามารถสนู พิ พานไดในทส่ี ดุ
7.เทวดาและสิ่งศกั ดิ์สิทธใิ์ หความคมุ ครองอารกั ขาไมใ หสิ่งเลวรายหรือวิญญาณช้ันตํ่าเขามาทําราย
ผูที่มองประโยชนของการกินเจในแงของศาสนา จะมีการปฏิบัตทิ ่ีเครงครัดวา การมองประโยชนของการ
กินเจในแงอื่น ซ่ึงมักจะใหผลท่ีสามารถมองเห็นไดอยางเกินคาด เกินความคิดคํานึงพ้ืนฐานของคนท่ัวไป เชน
การลยุ ไฟ การใชเหลก็ เสยี บแทงตนเอง หรอื มาทรงตางๆ ในเทศกาลกนิ เจทีจ่ ังหวัดตรัง น่ันคอื ความเชอื่ อันแรง
กลา ทาํ ใหเ กิดสงิ่ ที่ตนคดิ วาเปน ไปไมไดเ สมอ
ประโยชนของการกินเจ ในมมุ มองของแพทยแผนปจจบุ นั และแผนโบราณ ซง่ึ ไดแก
1.ใหพ ลังเย็น โดยไดร บั พลังงานจากฟรุกโตส ซึ่งมีในผัก ผลไม เปน พลงั ท่ีไมทาํ รา ยรา งกาย
2.ชวยขับถายของเสียออกจากรางกาย ทาํ ใหไมมีสารพิษตกคาง เพราะกากใยในพชื ผกั ผลไม ชวยระบบ
การยอยและระบบขับถาย ทําใหไมเปนโรคเกี่ยวกับลําไส รวมถึงโรคที่เกิด จากระบบขับถายผิดปกติตางๆ เชน
โรครดิ สดี วงทวาร
3.หากรับประทานประจําจะชวยฟอกโลหิตในรางกายใหสะอาด เซลลตางๆ ในรางกายจะเส่ือมชาลง ทํา
ให ผิวพรรณผองใส มีอายุยืนยาว สายตาดี แววตาสดใส รางกายแข็งแรงมีความตานทานโรค มีความคลอง ตัว
รสู กึ เบาสบายไมอ ดึ อดั
4.ทาํ ใหป ราศจากโรครายตางๆ เชน โรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคเสน เลือดหัวใจตบี ตัน โรคตับ โรคลาํ ไส โรค
เกาต ฯลฯ เพราะไดรบั อาหารธรรมชาตทิ มี่ ี ประโยชน ซ่ึงไมเ ปนสาเหตุ แุ ละยังชว ยปองกันโรคเหลา นี้
5.อวัยวะหลักของรางกาย และอวัยวะเสริมท้ัง 5 ทํางานไดอยางเต็มสมรรถภาพอวัยวะหลัก ไดแก หัวใจ
ไต มา ม ตบั ปอด อวยั วะเสริมทัง้ 5 ไดแ ก ลาํ ไสใ หญ ลาํ ไสเล็ก กระเพาะปสสาวะ กระเพาะอาหาร ถงุ นาํ้ ดี
6.ผูท่ีกินเจจะมีรางกายท่ีสามารถตานทานตอสารพิษตางๆ ไดสูงกวาคนปกติท่ัวไป ซึ่งไดแก ยากําจัด
ศัตรูพืช ยาฆาแมลง หรือสารเคมีท่ีเปนอันตรายอ่ืนๆ มลภาวะท่ีเกิดจากการ เผาไหมของเคร่ืองยนต ท้ังจาก
รถยนตและโรงงานอุตสาหกรรม ฯลฯ ซึ่งมีปะปนอยูในอากาศ รวมถึงแหลงอาหารและนํ้าด่ืม จะเห็นไดวา
ในทางกานแพทยน้ัน การกินเจมีประโยชนในการรักษา ท่ีสามารถพิสูจนและ มองเห็นไดชัดเจน กวาประโยชน
ในทางศาสนา แมว าการปฏบิ ตั จิ ะไมเ ครงครัดเทา กับความ ตองการประโยชนท างดา นศาสนา
ประโยชนข องการกนิ เจ ในมุมมองทางดา นโภชนาการ
มักมีการสงสัยกันอยูเสมอวา การกินเจ จะไดสารอาหารครบทั้ง 5 หมูหรือไม โดยเฉพาะ โปรตีน ซึ่งคน
สวนใหญมักเขา ใจวาโปรตนี ในเน้ือสัตวเปน โปรตีน ที่มีคุณภาพดีมากกวา โปรตีนในพืช ซ่ึงเปนความ เขาใจท่ไี ม
ถูกตองนกั เพราะแทท ีจ่ รงิ แลว โปรตีนในผัก มีคุณคา ที่ใกลเคียงกัน ในสวนของอาหารหลัก 5 หมู เปนสิง่ ท่กี ังวล
กนั อกี ประการ หนงึ่ วา จะไดค รบหรอื ไม ถา คดิ ในทางกลบั กัน ส่งิ ทคี่ ดิ วาจะขาดมาก ท่สี ดุ คือโปรตีน ในอาหารเจ
ยงั มคี รบ จงึ ไมนาเปน หว งวาจะขาดสารอาหารในหมูอ่ืน เพราะนอกจากโปรตีน แลว สารอาหาร หมอู น่ื จะมีอยู
37
ใน พืชผักผลไมทั้งส้ิน ดังน้ัน การจะขาดสารอาหาร จึงนาจะขึ้นอยูกับพฤติกรรม การบริโภคมาก กวา วาเปน
คนเลือกกิน หรือไม สวนสารอาหารที่ไดจากการกินเจในท่ีน้ี จะขอกลาวถึงเฉพาะ สวนของโปรตีนเทานั้น
เนื่องจากเปน ขอมูลที่มีผูส งสัยมากทสี่ ดุ วา โปรตนี จากพืชจะ ทดแทน โปรตีนจาก สตั วไ ดห รอื ไม
โปรตนี ทจ่ี ําเปนตอ รางกายคนเรา มีมากในอาหารประเภทถ่ัว
โปรตนี คือ สารอาหารทจ่ี าํ เปน ตอรางกาย มอี ยูในเน้อื สตั วทวั่ ไป รวมทั้งในไขข าวและผัก และจะมมี ากใน
ถั่วชนิดตางๆ เชน ถั่วเหลือง ถ่ัวเขียว ถ่ัวลิสง และถั่วอ่ืนๆ โปรตีนท่ีจําเปนตอรางกายจริงๆ มีอยู 10 ชนิด ซึ่งมี
อยูทั้งในเนื้อสัตวและถ่ัวตางๆ ท่ีแตกตางกันก็คือ ในเน้ือสัตวจะมีไขมันมากกวาถ่ัวตางๆ เมื่อกินโปรตีนจาก
เน้ือสัตวจึงไดรับไขมันมากขึ้นไปดวย ทําใหอวนรวมไปถึงระบบการยอยอาหาร ก็ตองทํางานหนักข้ึนไปดวย
ตางจากโปรตีนท่ีไดจากถั่วซ่ึงมีปริมาณไขมันนอยกวา และรางกายสามารถนําไปใชไดพอดี โดยไมเหลือเปน
สวนเกนิ และยังมีกากใยชวยทาํ ใหร ะบบขบั ถายดขี น้ึ และทสี่ ําคัญ ไมมีคลอเลสเตอรอลเหมอื นในเน้อื สัตว
โปรตีนทีม่ คี วามสําคัญตอรา งกายของคนเรา 10 ชนิด ซงึ่ มอี ยคู รบในถ่ัวตา งๆ คือ
1.ไลซนี มหี นาที่สรางความเจริญเติบโต และสรา งความตา นทานใหแ กรางกาย หากขาดไลซนี รา งกายจะ
แสดงอาการผิดปกติ เชน มอี าการออนเพลีย ไมมีแรง เปน ตน
2.กลตู ามกิ เปน กรดอะมโิ นท่บี ํารุงรักษาความเปน ปกติของเซลลส มอง หากขาด กลตู ามกิ จะเกิด อาการ
ผิดปกติทางสมองควบคุมความรูสึกและจิตใจตนเอง ลําบากจะมีอาการเฉยเมย และซึมเศรา แกเร็ว ไมสดใส
รางกายไมเจริญเตบิ โต
3.วาลีน เปนกรด อะมิโนที่สรางความเปน ปกติแกสมองอีกชนิดหนงึ่ รวมถงึ กลามเนือ้ ระบบประสาท การ
รับรู ความรสู กึ นึกคิด ซ่ึงข้ึนอยกู ับกรดอะมิโนชนดิ นี้
4.อารจีนีน เปนสวนประกอบของอสุจิในเพศชาย หากขาดจะทําใหมีโอกาสเปนหมัน เพราะเชื้ออสุจิไม
แข็งแรง ทําใหไมสามารถเขาไปผสมกับไขของเพศหญิงได นอกจากนี้ยังทําใหรางกายไมสดใส ไมมีความ
กระชุมกระชวย จติ ใจไมผ องใส ทาํ ใหแ กเรว็
5.ซิสตีน เปนกรด อะมิโนที่รางกายนํามาใชสรางเซลลเสนผมและอินซูลิน ทําใหรางกายตอตานสิ่งที่เปน
พิษไดดีข้ึน สรางภูมิตานทานและส่ิงแปลกปลอมที่เขามา ทางลมหายใจ ผูที่ขาดซิสตีนจะเกิดอาการ เปนกังวล
หงดุ หงิด ตับผดิ ปกติ เสน ผมหลดุ รวง
6.ฟนายอะลานีน หากขาดกรด อะมิโนตัวนี้จะทําใหควบคุมตนเองไมอยูในเรื่อง การรับประทานอาหาร
จะทําใหรับประทานอาหารไมหยุด ทําใหเกิดโรคอวนและอาการมึน ซึม หรือปวดหัว ฟนายอะลานีนสามารถ
นาํ มาสรางฮอรโ มนไทร็อกซนี ของตอ มไธรอยดไดอีกดวย
7.ทรีโอนีน มีความสําคัญตอระบบทางเดินอาหารและระบบยอยอาหาร หากขาดทรีโอนีนจะเกิดปญหา
ในการยอยอาหาร ทําใหเกิดอาการทอ งอืด ทองเฟอ จุกเสียด เรอเปรี้ยว
8.อิสติดีน ชวยดูแลรักษาทําใหประสาทหูทํางานเปนปกติ หากขาดอิสติดีนจะเกิด ความเสียหายกับ
ประสาทหู และเกิดอาการหอู ้อื หูตึง ความสามารถในการไดยินลดลง
38
9.ทริปโตเฟน ทําหนาที่ในการยอยอาหารรวมกับทรีโอนีน นอกจากน้ียังชวยสรางเสนผม ทําใหเสนผมไม
หลุดรวงงาย รากผมแข็งแรง นอกจากน้ียังทําใหผิวพรรณผองใส และชวยสรางเม็ดโลหิตอีกดวย 10. เมทีโอนนี
ชว ยดแู ลรกั ษาตับ ขบั ของเสียออกจากตับ ขจดั สารพิษออกจากรางกาย หากขาดจะทําใหเสนตับผดิ ปกตริ วมถึง
ไตดวย นอกจากนั้นยังทาํ ใหเสน ผมหลุดรวงงา ย รา งกายไมส ดชน่ื ผิวพรรณหมองคลํ้า
ป ร ะ วั ติ ก า ร กิ น เ จ เ ดื อ น เ ก า ( กิ ว อ ว ง เ จ )
พธิ ีการกนิ เจเดอื นเกาตามปฏทิ ินจนี ทุกๆ ป มีกาํ หนด ๙ วันน้นั ลทั ธมิ หายานในพทุ ธศาสนามีอรรถาธิบาย
วา เปนการประกอบพธิ กี รรมสกั การบูชาพระพุทธเจา ๗ พระองค กบั พระโพธิสตั วอ ีก ๒ พระองค รวม เปน ๙
พระองคดวยกนั หรือนัยหนึ่งเรียกวา ดาวพระเคราะหท ั้ง ๙ อันมี พระอาทิตย พระจันทร ดาวพระอังคาร ดาว
พระพุทธ ดาวพฤหัสบดี ดาวพระศุกร ดาวพระเสาร พระราหู และพระเกตุ พิธีเกาอวงเจน้ี กําหนดเอา วันขึ้น
๑ ค่ํา ถึง ขึ้น ๙ ค่ํา เดือน ๙ ตามปฏิทินจีน รวม ๙ วัน ๙ คืน พิธีกรรมสักการบูชา พระพุทธเจา ๗ พระองค
กับพระโพธิสัตว ๒ พระองคนี้ ผูมีจิตศรัทธาในพุทธศาสนา ตางสละโลกียวัตรและบําเพ็ญศีลสมาทานกินเจ
บรโิ ภคแตอ าหารผัก และผลไม งดเวนไมก ระทํากิจใดๆ อนั นาํ มาซ่งึ การเบยี ดเบยี นสัตวท ้งั ปวง ไดแก
๑.ไมเอาชวี ติ ของสัตวม าเติมตอ บํารุงชีวิตของเรา
๒.ไมเ อาเลอื ดของสัตวมาเปน เลอื ดของเรา
๓.ไมเ อาเน้อื ของสตั วมาเปนเน้อื ของเรา
ซักฟอกมลทินออกจาก รางกาย วาจา และใจ สวมเส้ือผาสีชาวสะอาดบริสุทธิป์ ราศจากจุดดา งพรอย พา
กนั สวู ัดวาอารามพรอมดอกไม ธูปและเทียน ไปนมัสการบูชาพระสมั มาสมั พทุ ธเจา และพระพุทธเจา ๗ พระองค
กับพระโพธิสัตว ๒ พระองค ท้ังจัดหาเคร่ืองกระดาษ ทําเปนรูปเครื่องทรงเส้ือผา หมวก รองเทา กระดาษเงิน
กระดาษทองตางๆ ไปนอมถวายเปนเครอื่ งสักการะ เปนกุศลสมาทาน ขอพรเพ่อื ความเจริญสมบูรณพนู สุข
เบอ้ื งตนแหงพิธีกรรมเกาอว งเจมีอรรถาธบิ ายไว ดงั น้ี
ในกาลสมัยหน่ึง สมเด็จพระบรมศาสดาทรงประทับอยู ณ. ศิวาลัยรัตนสถาน มีบรรดาพระโพธิสัตว ทาว
มหาพรหม ทาวสักกะ ยักษ เทพเจา นาค คนธรรม กินนร ฯลฯ ไดพากันมาเฝาพระพุทธองค และในขณะน้ัน
พระมัญชุศรีโพธิสัตว ไดทลู ถามตอพระผมู พี ระภาคเจาวา “ขาแตพระองคผ ูเจรญิ อนั พระเทพสตั ตเคราะหท งั้ ๗
พระองค ไดม กี ุศลสะสมอยางไร กับมปี จจยั เหตมุ าอยางไร จงึ ไดเสวยทิพยผลรุง เรืองเพรยี บพรอ มไปดว ยยศและ
อํานาจในเทวภพนี้” พระบรมศาสดาจึงมีพุทธดํารัสตอบวา “ดูกร มัญชุศรี อันดาวเทพสัตตเคราะหทั้ง ๗ นั้น
แทจริงเปนพระอวตารภาพแหงอดีตพระพุทธ ๗ พระองค ทรงแบงภาคมาแสดงใหปรากฏ กับพระโพธิสัตวอีก
๒ พระองค ก็แบงภาคมาเปนดาวพระราหูและดาวพระเกตุ รวมเปนดาวพระเคราะหทั้ง ๙ ฉะน้ัน จึงสมบูรณ
ดวยอลังการแหงยศและอาํ นาจ อนั ไมมีปริมาณเหน็ เปน ฉะน้”ี
ในพระสูตร ปกเตาโกวฮุดเซียวไจเอียนซิ่วเมียวเกง เรียกพระนามพระพุทธเจา ๗ พระองค กับพระ
โพธิสัตว ๒ องค ไวดงั ตอไปนี้ อนั ไดแก
1.พระวชิ ยั โลกมนจรพุทธะ (ดาวไทเอ้ยี งแช คอื พระอาทิตย)
2.พระศรีรัตนโลกประภาโมษอศิ วรพทุ ธะ (ดาวไทอิมแช คือ พระจนั ทร)
39
3.พระเวปุลลรตั นโลกวรรณสทิ ธพิ ุทธะ (ดาวฮวยแช คอื ดาวอังคาร)
4.พระอโศกโลกวิชยั มงคลพทุ ธะ (ดาวจุยแช คอื ดาวพระพุทธ)
5.พระวิสทุ ธิอาศรมโลกเวปุลลปรัชญาวภิ าคพุทธะ (ดาวบกั แช คอื ดาวพฤหสั บดี)
6.พระธรรมมติธรรมสาครจรโลกมโนพทุ ธะ (ดาวกมิ แช คอื ดาวพระศุกร)
7.พระเวปุลลจันทรโภคไภสัชชไวฑรู ยพทุ ธะ (ดาวโทวแช คือ ดาวพระเสาร)
และพระมหาโพธสิ ัตวอกี 2 พระองค คอื
1.ใพระศรีสุขโลกปทมอรรถอลังการโพธสิ ัตว (ดาวลอ เกาแช คอื พระราหู)
2.พระศรเี วปลุ กสังสารโลกสุขอศิ วรโพธิสัตว (ดาวโกยโตวแช คือ พระเกต)ุ
พระพุทธเจาท้ัง ๗ กับพระโพธิสัตวท้ัง ๒ ทรงตั้งพระปณิธานจักโปรดสัตวโลก จึงไดแบงภาคมาเปนเทพ
เจา ๙ พระองค ไดแก
๑.ไตขว ยเอี๊ยงเมงทมั หลังไทแชกนุ
๒.ไตเจียกอมิ เจง็ กอื้ มึ้งงวนแชกุน
๓.ไตกวนจงิ หยงิ้ ลกชุงเจงแชกนุ
๔.ไตฮงั้ เฮยี่ งเมง บุงเคยี กนวิ แชกนุ
๕.ไตปก ตังงวนเนยี้ มเจงกงั แชกุน
๖.ไตโพว ปก เกกบเู คียกก่แี ชกุน
๗.ไตเ พยี วเทียนกวนพว่ั กุงกวนแชกนุ
๘.ตัง่ เมง งัว่ หูแชกนุ
๙.ฮยุ กวงไลเพีย๊ กแชกุน
และเทพเจาท้ัง ๙ พระองคนี้ ทรงอํานาจตบะอันเรืองฤทธ์ิบริหาร ธาตุดิน ธาตุนํ้า ธาตุไฟ ธาตุลม ธาตุ
ทอง ทั่วทุกพิภพในทุกสารทิศ จึงทรงแบงภาคตอจากนี้อีกวาระหนึ่ง เปนดาวนพเคราะห (ดาวพระเคราะห ๙
ดวง) อนั ไดแ ก
ในตาํ ราโหราศาสตรจ ีน วางหลักดาวนพเคราะหไ วเ ปนหมวด ดังน้ี ๑.ดาวทวมิ หาเคราะห คือ พระอาทิตย
กับพระจันทร ๒.ดาวทวิกําลัง คือ พระราหุ กับพระเกตุ ๓.ดาวปญจลักขณะ คือ ดาวพระอังคาร ดาวพระพุธ
ดาวพฤหสั บดี ดาวพระศกุ ร และดาวพระเสาร
เทพเจาทั้งเกาพระองค ทรงเคร่ืองทรงแบบพระมหากษัตริย ประชาชนจึงถวายพระนามวา เกาอวง หรือ
กิวอวง แปลวา นพราชา กําหนดเวลาทุกปตามปฏิทินจีน ขึ้น ๑ คํ่า ถึง ขึ้น ๙ ค่ํา เดือน ๙ เทพเจาประจําดาว
นพเคราะหจะทรงผลัดเปลี่ยนกันลงมาตรวจโลกตลอดทั้งกลางวันและกลางคนื บุคคลใดมีความประพฤตติ ั้งอยู
ในกุศลกรรมวิถี กจ็ ะทรงประทานพรอาํ นวยความสมบูรณพูนสขุ ให หากบคุ คลใดประพฤตใิ นทางอกุศลกรรมวิถี
ก็จะลงโทษตามสมควร เทพเจาแหงดาวนพเคราะหทรงมีพระคุณตอโลกเปนเอนกประการ โดยเฉพาะอยางยิ่ง
คือ ธาตุดิน ธาตุน้ํา ธาตุไฟ ธาตุลม และธาตุทอง ท่ีพระองคไดประทานมาใหแกมวลสรรพส่ิงในโลก ลวนเปน
สงิ่ จาํ เปนในสรรพสังขาร มนษุ ย ถา หากไมมีธาตุลม ก็ถงึ แกค วามตาย มัจฉาชาติ ถา หากไรธาตุนา้ํ เปน ที่อาศัย ก็
40
ตองตาย พฤกษาชาติ ถา หากหมดธาตุดิน กอ็ ับเฉากง่ิ ใบแหง เห่ียวตาย สตั วโลก ถา หากสญู ส้ินธาตุไฟในรางกาย
กม็ ชี ีวติ อยไู มไ ด เศรษฐกจิ การคา อนั เปนหวั ใจสาํ คญั ของมนษุ ยใ นโลกปจจบุ ัน ถาหากขาดธาตทุ องก็ไมสามารถ
ดําเนินกิจการลุลว งไปได
ปวงสรรพสิ่งในโลกไมวา มาจากอุปปตติกําเนิด (เกิดขนึ้ เอง) ชลาพชุ ะกาํ เนดิ (เกดิ จากน้าํ ) อณั ฑชะกาํ เนิด
(เกิดจากฟองไขแลวฟกเปนตัว) โยนิกําเนิด (เกิดในมดลูก) รวมท้ังสรรพสังขารอันไดแก อุปาทินนกสังขาร
(สังขารทมี่ ใี จครอง) และ อนปุ าทินนกสงั ขาร (สงั ขารทไี่ มม ีใจครอง) ลวนอยภู ายใตการบงั คบั บญั ชาของเทพเจา
ท้ัง ๙ ท้ังสิน้
บุคคลทุกคนนับต้ังแตพระราชา ตลอดลงมาจนถึงสามัญชน ถามีความประพฤติไปในทางอกุศลดังกลาว
ขา งตน มีพฤติการณปลกู เหตอุ กศุ ล กจ็ กั ไดรบั ผลอกศุ ล ท่ีไดห วา นไวนน้ั เอง เชน
๑.พระราชาไมทรงต้ังอยูในทศพิธราชธรรม โดยปราศจากเมตตากรุณาตอขาราชบริพารและราษฎร ใน
ท่สี ุดกต็ อ งสญู เสียราชบลั ลังก ท้ังนกี้ เ็ นอื่ งดว ยพระองคปลูกเหตุอกศุ ลไว ก็ทรงรบั ผลอกุศลตามสนอง
๒.ขาราชบริพารไมภกั ดซี ื่อสัตยตอ ประเทศชาตแิ ละพระมหากษัตริย ฉอราษฎรบังหลวง ในท่ีสุดก็ตองถูก
ยึดทรพั ยส ้นิ ทั้งนีเ้ พราะตนไดปลกู เหตุอกุศลไว และผลอกศุ ลนนั้ ตามสนอง
๓.บิดาไมความอุปการะแกบุตร ไมรับรองหรือไมเลี้ยงดูบุตรตามสถานะ ในที่สุดก็เปนผูปราศจาก
ลกู หลานชว ยเหลอื
๔.บุตรไมมีความกตัญูกตเวทีตอผูใหกําเนิด ในท่ีสุดบุตรของตัวเองจะสนองตนดวยความอกตัญู
เชนกัน
๕.พี่ไมมีความอารีอารอบเอ็นดูตอนอง ในที่สุดก็จะยังผลรายให คือตัดมือตัดเทาตนเอง จะไปหาใครหรอื
ผอู ื่นท่มี ีความสนทิ สนมไววางใจไดเทากบั นองไมมอี กี แลว
๖.นอ งไมเ คารพนับถือยําเกรงพ่ี ผูท เ่ี คยเออื้ เฟอ มาแตนอยอีกท้ังมีอาวุโสกวา และดืม่ นมมารดามาดวยกัน
ในท่ีสดุ บรรดาวงศาคณาญาตกิ ็ตดั ขาดจากตน
๗.สามีไมเลี้ยงดูภริยาอยางเปนธรรม ไมนําพากิจในครอบครัว เอาแตสนุกเท่ียวเตร ด่ืมเหลาเมายา ใน
ท่ีสดุ เรอื นท่ีตนเองพาํ นักอยนู น้ั จะทะลายลง
๘.ภริยาไมครองตนเปนแมบาน ประพฤติเลนการพนัน สามีหาเงินมาเทาใดไมพอใช กลับเที่ยวหยิบยืม
ผอู นื่ มีหน้สี ิน ในทีส่ ดุ ก็เปน คนมเี สนียดเปน ท่รี ังเกยี จทว่ั ไป
๙.มิตรไมซื่อตรง ไมม ีความจริงใจตอเพ่อื น และ
๑๐.สหายคิดคดทรยศตอ เกลอ ทั้งสองประเภทนใ้ี นทสี่ ุดก็จะถกู ตัดออกจากหมูสังคมไป
ความวา พระราชาก็ดี ขา ราชบริพารก็ดี บุคคลท่วั ไปก็ดี ควรจะลดละอกศุ ลกรรมที่กลาวมาเบื้องตน และ
เพียรสะสมแตสงิ่ ท่ีดงี าม เพ่อื รบั พรจากเทพเจาท้ัง ๙ พระองค อันจักนาํ มาซึง่ ความรุงเรอื งผาสุกยิ่งๆ ขึน้ ไป
เทพเจาทั้ง ๙ พระองคนี้ ทรงมีนํ้าพระทัยเต็มเปยมไปดวยพระเมตตา ทรงควบคุมดาวนพเคราะหใหเดิน
ตามวิถโี คจรดว ยความบรบิ รู ณ ทัง้ ทรงธรรมเนตรสอดสอ งควบคมุ ทกุ ขส ุขของสตั วโลกดวย
41
บณั ฑิตในโบราณ จงึ ไดบัญญัตไิ วใ หม กี ารทาํ พธิ ีกรรมบูชาดาวนพเคราะหน ้ี เพ่อื เปนการแสดงความเคารพ
ในพระเมตตากรุณาธิคุณ เปนงานประจําปใหบรรดาพุทธบริษัทไดมาประชุม เพ่ือบําเพ็ญกุศลวัตรถวายพระ
พทุ ธ บริโภคกินเจ รักษาศลี สดับฟงพระอภิธรรมและพระธรรมเทศนา บรจิ าคไทยทานท้ิงกระจาด ลอยกระทง
แผกุศลแกสัตวที่ตกทุกขไดย ากในนรกอเวจี อันมีพวกเปรตอสุรกายเปนอาทิ และปลอยสัตว เชน นก ปลา เตา
เหลานเ้ี ปน ตน
ในลทั ธมิ หายานยงั มอี รรถาธิบายวา ดาวพระเคราะหท้ัง ๙ น้ี ตา งทําหนาทหี่ มุนเวียนธาตุท้ัง ๕ ใหแกม วล
มนษุ ยน ับเปน เวลาหลายๆ ลา นป โดยมไิ ดหยดุ พกั เลย กเ็ นอื่ งดว ยทรงบญั ชาบริรกั ษควบคุมอยูและทรงเล็งทิพย
ญาณวา ถาหากดาวนพเคราะหจะหยุดพักแมเพียงขณะใดขณะหน่ึงเล็กนอยเทาน้ัน ก็จะเกิดมหันตภัยอยาง
ใหญหลวงสุดจะประมาณได โลกมนุษยก็จะถึงซ่ึงความพินาศสลายลง มนุษยกับสัตวโลกจะตายหมด จะไมมี
แมแ ตล ะอองธลุ ขี องสังขารเหลอื อยูเลย
อันพิธีกรรมบูชาดาวนพเคราะหน ั้น นับวามีอานิสงสมากมาย ทั้งเปนกรรมคติและเกิดธรรมนิมิตสูบรรดา
พระพุทธบรษิ ัทท้ังหลาย ไดม ีโอกาสกระทาํ การวิสสาสะกนั ในยามทีต่ างคนตางมีจติ เบกิ บานผอ งแผว ถือศลี กนิ
เจ นงุ ขาว หม ขาว อันเปนปจจัยเตอื นตนเองใหส ํานึกวา ตนเปนคนบรสิ ทุ ธ์ขิ าวสะอาด ทง้ั กาย วาจา และใจ อยู
ในศีลธรรม และสามัคคีธรรม พร่ังพรอมอยูแลวท่ีจะใหอโหสิกรรมซ่ึงกันและกัน รวมกันนอมนมัสการเทพเจา
ทั้ง ๙ พระองคน้ี เปนการแสดงความเคารพในพระเมตตากรุณาธิคุณ และรวมกันถวายเคร่ืองสักการบูชา
พระองคทั้ง ๙ เปนการบูชาพระเมตตาคุณท่ีทรงไวซึ่งธาตุท้ัง ๕ ใหแกโลกทุกโลกดํารงอยูตามจักรราศีย่ังยืน
ตลอดมา จึงพรอมกันนอมขอพระกรุณาธิคุณไดโปรดประทานพระพรอภิบาลรักษาพระมหากษัตริยองคอมร
พรอมทงั้ ทวยนิกรใหอยูเยน็ เปน สุข และขอพระองคท รงประสทิ ธปิ์ ระสาทพระพรไชย
ใหฝนตกตองตามฤดกู าล พืชธัญญาหารงอกงามพนู ผล
พระราชาทรงพพิ ฒั นมงคล ราชปริสชนสวสั ดสิ์ ถาพร
ชาวนาชาวไรส มคั รสโมสร มวลราษฎรระเรงิ ร่นื ยนื ยง
เศรษฐกจิ ทั่วเขตตขนั ฑม ่นั คง การศกึ ษาดาํ รงวทิ ยาพนู
ประเทศชาติเรอื งรุงไพบูลย พทุ ธศาสนาจํารูญกาลนิรันดร
อันเปนพระทศพรไชยสิทธิ์วิเศษ สบิ ประการสมดงั ปรารถนาดว ยเทอญ
42
佛說天中北斗古佛消災延壽妙經
อุ ต ร เ ค ร า ะ ห น� ร� น ต ร า ย จิ ร า ยุ ว� ฒ น สู ต ร
พระวศิ วภัทร เซ่ยี เกี๊ยก แปล วันพุธที่ 31 สิงหาคม 2554
พระสูตรบทนี้ หาไมมีปรากฏอยูในพระไตรปฎกฝายมหายาน แตมีเน้ือความใกลเคียง กับพระสูตรช่ือ
อุตรเคราะหสัปตดารกาอายุวัฒนสูตร (佛說北斗七星延命經) ที่พราหมณผูมาบวชเปนสงฆจดจําและนําเขา
มาในสมัยราชวงศถัง มีบันทึกอยูในพระไตรปฎกมหายานหมวด คุหยนิกาย (密教部) ซึ่งพระสูตรเลมนี้ มี
เนือ้ ความไมม าก รายชอ่ื ของพระเคราะหท ัง้ 7 กร็ ะบไุ วเ พยี งส้นั ๆ เชน 貪狼星,巨門星,祿存星 เปนตน แต
มีกลาวถึงพระนามของพระพุทธเจา 7 พระองค ตรงกับฉบับที่แพรหลายในประเทศไทย จะมีก็แตชื่อโลกธาตุ
ของพระพุทธเจาองคท่ี 3 และ 7 ที่เขียนตางกัน และพระนามของพระพุทธเจาองคที่ 5 ท่ีเขียนตางกัน จุดละ
หนึง่ ถงึ สองตวั อกั ษรเทานั้น
ซ่งึ พระสตู รทก่ี ลา วถึงนี้ กลาววา ดาวเหนือทั้ง 7 ดวง เปนนริ มาณกายของพระพุทธเจา 7 พระองค มพี ระ
นามใกลเคียงกับพระพุทธเจาที่มีระบุในพระสูตรอีกเลมชื่อ ไภษัชยคุรุไวฑรู ยประภาสัปตพุทธปูรวปณิธานวเิ ศษ
สตู ร (藥師琉璃光七佛本願功德經) ท่ีพระตรีปฎ กธราจารยอ ้จี ิง (義淨) ในราชวงศถ ัง เปนผูแปล แตพระสูตร
ทง้ั 2 เลม ทีไ่ ดกลาวมาแลวน้นั ไมม ีพระนามพระโพธิสัตวอีก 2 พระองค
แตทวา พระสูตรท่ีแพรหลายในประเทศไทยนี้ (北斗消災延壽妙經) ก็มีการจัดเรียงเนื้อความที่เปน
ระบบ มีโศลก มคี าถา และมีนามของพระเคราะหท ้ัง 7 ครบถวน และยังเพิม่ เตมิ นามของพระเคราะหเขาไปอีก
2 องค ซึ่งกลาววาเปนนิรมาณกายของพระโพธิสัตวอีก 2 องค รวมเปน 9 องค เหมือนกับคัมภีรเตา จึงทําให
เขาใจกันวาเปนดาวนพเคราะห ทั้งๆ ท่ีช่ือพระสูตรระบุวาเปนดาวเหนือ (北斗) ที่มีเพียง 7 ดวงเทาน้ัน ซึ่งมี
ขอความเหมือนกับคัมภีรเตาช่ือ อวินจี๋ชีเฉียน เลมที่ 24 (雲笈七簽) ท่ีกลาววายังมีดาวอีก 2 ดวงท่ีซอนไวไม
ปรากฏคือ ดาวฟูและดาวป (輔星、弼星) เลากันวาหากใครไดเห็นดาวที่ซอนไวทั้ง 2 นี้ จะไดรับพรใหมีอายุ
ยนื ยาว เรยี กเปนสาํ นวนวา เจด็ ปรากฏ สองซอ นเรน (七現二隐) ซึ่งดาวทั้ง 2 น้ี ก็คือ ดาวราหูและดาวเกตุ
ตอมาจึงทราบวา นามของพระเคราะหท้ัง 9 ท่ีมีระบุอยูในพระสูตรฉบับที่แพรหลายในประเทศไทยน้ี มี
ความใกลเคียงกับนามของเทพดาวเหนือในคัมภีรของเตาช่ือ 全真禮斗清静科儀 เปนอยางมาก และในคัมภรี
เตาชื่อ 太上玄靈北斗本命延生妙經 ก็มีนามของพระเคราะหทั้ง 9 น้ีเชนกัน แตมีตัวอักษรที่แตกกันบางใน
บางที่เทานั้น ซ่ึงจะขอกลาวอธิบายเพื่อใหทราบที่มา ไดตั้งขอสังเกตไวและไดแปลเพ่ือใหทราบความหมายใน
บทสวดท่แี พรหลาย เพื่อเปน การเสรมิ สติปญญาแตเพยี งคราวๆ มา ณ โอกาสน้ี
อนึง่ พระสตู รเลมน้ี ทางโรงพิมพไ ดขอใหแ ปลสูภาคภาษาไทย โดยไดมีบางทานไดแปลสภู าคภาษาไทยมา
กอนหนาน้ีบางแลว ขาพเจาจึงขออนุญาตแปลขนึ้ อีกสํานวนหน่ึง เพื่อประกอบกับบทสวดท่ีจะพิมพข้นึ ในการนี้
โดยเฉพาะ ในพระสูตรเลมน้ีมีหลายศัพทท่ีไมใชศัพทสํานวนทางพระสูตรฝายพุทธ แตกลับมีหลายศัพทที่มีอยู
ในคมั ภีรเตา ซึง่ ขาพเจา อาจจะแปลไดไ มถกู ตองเทา ไรนกั จึงขออภัยสาธุชนผใู ฝศกึ ษา และขอใหผ รู เู มตตาชแ้ี นะ
สง่ั สอนดว ย จะเปน กุศลอยา งยิ่ง.
43
佛說天中北斗古佛消災延壽妙經
อุ ต ร เ ค ร า ะ ห นิ รั น ต ร า ย จ� ร า ยุ วั ฒ น สู ต ร
如是我聞。一時佛在淨居天宫。集諸天眾。帝釋梵皇。八部四眾。廣談法要。爾時曼殊室利菩薩
。從座而起。前白佛言。世尊伏見帝皇宰輔。貴賤眾生。四象五行。含靈蠢動。莫不皆繇北斗七
元之所主宰。何故是星。于周天中。威權威德。最尊最上。惟願世尊。為眾宣說。一切天人。咸
知皈向。爾時世尊告曼殊室利菩薩。及諸大眾言。善哉善哉。吾今為汝。及末世眾生敷宣因繇。
與當來世。咸共知之。是七元尊星。福被群生。恩施萬彚。功德者也。于時世尊即說北斗七元古
佛聖號。
ขาพเจาไดสดับมาอยางนี้ สมัยหน่ึงพระพุทธองคประทับอยูที่สุธาวาสมณเฑียรสถาน พรั่งพรอมไปดวย
บรรดาเทวบริษัท อินทร พรหมราช สัตวในคติแปด และบริษัทท้ังส่ี ดวยจะทรงประกาศพระธรรมเทศนาให
ไพบูลย ในกาลน้ัน พระมัญชุศรีโพธิสัตว ไดลุกข้ึนจากอาสนะ แลวทูลพระพุทธองคย ังเบื้องพระพักตรวา ขาแต
พระผมู ีพระภาค ขา พระองคไ ดเห็นสรรพสัตวผูไดเปนกษัตริย อาํ มาตย ผูร ่ํารวยสงู สง ผยู ากจนต่าํ ตอ ย ลกั ษณะ
ทั้งสี่ (เปนสํานวนของคัมภีรเตา เชน คัมภีรอ้ีจิง มีหลายความหมาย เชน หมายถึง มังกรเขียวดานตะวันออก
เสือขาวดานตะวันตก นกยงู แดงดานใต เตา ดําดานเหนอื และยังหมายถงึ ลักษณะของธรรมชาติท่แี ปลเปลี่ยนไป
ในฤดูกาลท้ังส่ี คือ ใบไมผลิ รอน ใบไมรวง หนาว) ความเปนไปท้ังหา (หมายถึงธาตุทั้งหาที่มีระบุในคัมภีรของ
เตา คือ ทอง ไม น้ํา ไฟ ดิน) บรรดาสรรพวิญญาณและส่ิงมีชีวิต อันไมมีส่ิงใดเลยที่จะไมอยูใตอํานาจอิทธิพละ
แหงอุตรเคราะห (ดาวเหนือ) ทั้งเจ็ด ดวยเหตุใดฤๅ ท่ีดาวพระเคราะหนี้ ในหมูเทพยดาทั้งหลายนั้น จึงมี
อานุภาพและคุณวิเศษมหาศาล จึงมีศักด์ิและมีฐานะท่ีสูงสุดอยางนี้ ขอพระผูมีพระภาคเจา โปรดแสดงแก
มหาชน เพือ่ มนุษยแ ละเทวดาจะไดรบั ทราบและนอมเปนทพี่ ึ่ง ดวยเถดิ พระพุทธเจาขา
คร้ังน้ัน จึงมีพุทธดํารัสกับพระมัญชุศรีโพธิสัตวและมหาชนทั้งหลายวา สาธุๆ ตถาคตจะกลาวแสดงเหตุ
แหงอิทธิพละอํานาจน้ัน ใหเธอและสรรพสัตวในอนาคตไดทราบ อันดารกาเทพทั้งเจ็ดน้ี ไดปกแผบุญวาสนา
ใหแกสรรพชีวิต ไดมีพระคุณแผไปยังสรรพสิ่งท้ังมวล ดวยมีคุณอันอุดมเชนน้ีแล เวลานั้น พระพุทธองคไดตรัส
พระนามของดาวพระเคราะหทัง้ เจ็ด อนั เปน นิรมาณของพระพุทธเจาในอดีต วา...
北斗第一大魁陽明貪狼太星君。 是東方最勝世界運意通證如來
北斗第二大勺陰精巨門元星君。 是東方妙寶世界光音自在如來
北斗第三大雚真人祿存貞星君。 是東方圓珠世界金色成就如來
北斗第四大行玄冥文曲紐星君。 是東方無憂世界最勝吉祥如來
北斗第五大畢丹元廉貞罡星君。 是東方淨住世界廣逹智慧如來
北斗第六大甫北極武曲紀星君。 是東方法意世界法海游戲如來
北斗第七大票天關破軍關星君。 是東方滿月世界藥師琉璃光如來
北斗第八洞明外輔星君。 是西方妙喜世界華藏莊嚴菩薩
北斗第九隱光內弼星君。 是西方妙圓世界安樂自在菩薩
ดาวอุตรเคราะหท ห่ี นึ่ง คอื ดาวทานหลาง ซงึ่ กค็ อื พระสปุ ริกีรติตนามศรตี ถาคต แหง ชยะประภาโลกธาตุ
ดาวอุตรเคราะหท่ีสอง คือ ดาวจวี้เหมิน ซึ่งก็คือ พระรัตนศิขินตถาคต แหง สุรัตนะโลกธาตุ ดาวอุตรเคราะหท่ี
สาม คือ ดาวลฉู วุน ซึง่ กค็ อื พระสวุ รรณภัทรวมิ ลรัตนประภาสตถาคต แหง ปริบรู ณคนั ธาลยะโลกธาตุ ดาวอตุ ร
เคราะหท่ีส่ี คือ ดาวเหวินชวี่ ซึ่งก็คือ พระอโศโกตตมศรีตถาคต แหง อโศกาโลกธาตุ ดาวอุตรเคราะหท่ีหา คือ
ดาวเหรียนเจิน ซ่ึงก็คือ พระธรรมกีรติสาครโฆษตถาคต แหง ธรรมธวัชโลกธาตุ ดาวอุตรเคราะหท่ีหก คือ ดาว
44
อูชวี่ ซึ่งก็คือ พระอภิฌาราชตถาคต แหง สถิตรัตนสาครโลกธาตุ ดาวอุตรเคราะหท่ีเจ็ด คือ ดาวพวอจวิน ซึ่งก็
คอื พระไภษัชยครุ ไุ วฑรู ยประภาตถาคต แหง ศุทธไิ วฑูรยโลกธาตุ ดาวอุตรเคราะหทีแ่ ปด คอื ดาวหมิงไหว ซ่งึ ก็
คือ พระปุณฑริกครรภอลังการโพธิสัตว แหง อภิรตีโลกธาตุ ดาวอุตรเคราะหที่เกา คือ ดาวกวงเนย ซ่ึงก็คือ
พระผาสุกอิศวรโพธิสัตว แหง สุปรู ณะโลกธาตุ
***(พระนามของพระพทุ ธเจา เจ็ดพระองคนี้ คดั มาจาก ไภษชั ยคุรุไวฑูรยประภาสัปตพทุ ธปูรวปณธิ านวเิ ศษสูตร
หรอื 藥師琉璃光七佛本願功德經)***
於是曼殊室利菩薩及諸大眾。聞佛開演。如上星真。皆是過去。吉祥善逝。大悲世尊。普為眾生
。化身示現。各各歡喜。得未曾有。稽首稱讚。而說偈曰。
大聖諸善逝。 無上吉祥尊。
過去已修證。 離欲超世間。
垂慈四劫後。 憐愍諸群有。
化身天中主。 北極七元尊。
輔弼共權衡。 主宰於萬彚。
善哉釋迦師。 為眾故宣說。
我等今已聞。 願廣於末世。
如是經功德。 求佛盡宣揚。
爾時佛告大眾。若有善男信女。於每年正月人日。七月七曰。九月九日。每月七九日。本命生辰
日。着新淨衣服。對星像前。志心稱念。七佛二菩薩。星真聖號。隨心所求。克念感應。更能布
燈如斗。設淨水香花。于夜分時。虔誠祈禱。咸得遂意。佛告曼殊室利菩薩。世間宰官居士。僧
尼道俗。若貴若賤。但有識情。皆屬北斗所主。若聞此經。受持讀誦。設像布斗。香花供養。如
是之人。祿位崇高。壽命延長。獲福無量。若有先亡。遠年近日。未能超度。恐滯幽途。若能持
誦斯經。授梓印施。亡者生天。現存獲福。若有男女。或被邪魔所侵。鬼魅為害。惡夢驚惕。心
神昏亂。受持此經。專心供養。邪鬼退藏。即得安樂。若有災年月厄。疾病纏身。受持此經。兼
持齋戒。即得災厄消除。病源脫體。若有命逢惡曜。運值威星。暴赤熱眼。翳膜遮睛。官事牽連
。獄囚禁繋。午夜惡夢。百怪禽鳴。但能布燈北斗之前。香花淨水。課持此經。七遍至七七遍。
凶殄殃滅。諸作吉祥。若有男子。求嗣科名。能於靜夜。焚香北斗之前。拜誦此經。七遍至百遍
。祝嗣即生聰慧之男。祝名即登龍虎之榜。若有田園六畜。耕耨少成。可於淨室。焚香拜誦此經
。即得田蠶倍獲。畜養成群。或有女人。累傷胎甲。臨產至時。心懷憂慮。但能香花供養。持誦
此經。即得冤家解釋。易於分娩。母子團圓。男女端正。佛言善男子。須知北斗古佛。弘大慈悲
。示現天中主張年命。統領乾坤。上至帝王。以及黎庶。天地山河。禽獸草木。一切皆遵。七元
星君之所管照。若有災衰危急。即當布燈虔告。持誦此經。即獲護祐。如意吉祥。若有國土。臨
於戰敵。能持是經。心無間斷。設立聖相。如法供養。即得斗氣加威。天罡順照。將勝兵強。鋒
端馬勇。隨所至方。應呼尅伏。佛言如是七元如來。感應無量。窮劫難宣。即於是中而說咒曰:
唵。曷那。檀那。吒吒帝。摩訶帝叱吒。叱吒帝。曷鉢那曳。娑婆訶。佛說此經已。曼殊室利菩
薩。及諸大衆。天龍八部。星真鬼神。恭敬作禮。信受奉行。佛說天中北斗古佛消災延壽妙經
ในเวลาน้ัน พระมัญชุศรีโพธิสัตวและบรรดามหาชนทั้งหลายท่ีไดยลยินพระพุทธเทศนา ดั่งเรื่องของดาร
กาเทพขางตนน้ันแลว อันลวนแตเปนพระสุคตเจาผูประเสริฐในอดีต เปนที่พึ่งแหงโลกและทรงไวซึ่งมหากรุณา
ดว ยเพ่อื สรรพสตั วจ ึงทรงนิรมาณกายใหปรากฏ (อันผทู ่ีไดยนิ อยางนี้) ตางกป็ ตโิ สมนัส ไดบรรลถุ ึงสิ่งที่ยังไมเคย
เกิดมมี ากอ น ไดน อ มศีรเศยี รลงแลว สรรเสรญิ สดดุ ี ดว ยโศลกวา ...
พระสคุ ตมหาอริยเจา ทั้งปวง ผเู ปนอนตุ ระและประเสริฐเลศิ ทส่ี ดุ
ผูไดตรัสรแู จมแจง มาแลวแตอ ดตี ไดไ กลจากราคะและกาวพนจากโลก
ธํารงไวซง่ึ พระเมตตาในกัลปหลงั ทัง้ สี่ ทรงเมตตาสงสารเวไนยสัตวทง้ั ปวง
45
ทรงนริ มาณกายเปนเทวบดี ทงั้ เจด็ องค แหง ขอบฟา ดานอุดรทิศ
ดาวฟู ดาวป รวมพจิ ารณาสอดสอ ง ดูแลปกครองสรรพสิ่ง
สาธุ พระศากยมุนพี ุทธเจา เพื่อสรรพสัตวเปนเหตุใหตรัสแสดง
ขา พระองคท้ังหลายไดสดับแลว จะขอยังใหแ พรห ลายไปในโลก
อันอานสิ งสข องพระธรรมน้ี ขอพระพทุ ธองคโปรดแสดงใหหมดสิ้นดวยเถดิ .
สมัยน้นั พระพทุ ธองคต รัสกับมหาชนวา หากมชี ายหญงิ ผูมีศรทั ธา ตามป เดือน วันของโลกมนษุ ย คอื ใน
วันท่ีเจ็ดเดือนเจ็ด วันท่ีเกาเดือนเกา วันที่เจ็ด วันที่เกาของทุกเดือน หรือในวันเกิดของตน ไดสวมใสอาภรณที่
สะอาด สรรเสริญภาวนาถึงพระนามของพระพุทธเจาเจ็ดพระองค พระโพธิสัตวสองพระองค และเทพพระ
เคราะห ดวยความต้ังใจจริง ทุกสิ่งท่ีปรารถนาก็จะสําเร็จไดดั่งใจ และสัมฤทธ์ิผลตามประสงค พึงจุดประทีป
อปุ มาวาเปนดวงดาว แลวตั้งน้ําสะอาด ของหอม ดอกไม ในแตล ะยามแหงราตรี กจ็ งอธิษฐานดวยความศรัทธา
จริงใจ ทกุ สง่ิ กจ็ ะสาํ เร็จด่งั ใจ
พระพทุ ธองคตรัสกับพระมญั ชุศรโี พธิสัตววา บรรดาขุนนาง อาํ มาตย บัณฑิตผูมีปญ ญา ภกิ ษณุ ี ผถู ือบวช
ผูค รองเรอื น แมรํา่ รวย แมย ากจนตํา่ ตอย เพียงเปนผมู ีจติ วญิ ญาณ ก็ลวนแตอยูใตอ ํานาจของอตุ รเคราะหทั้งสิ้น
หากไดฟงพระธรรมสูตรนี้ แลวจดจํา อานทอง จัดต้ังรูปเคารพ จุดดวงประทีป ถวายของหอม ดอกไมแลวไซร
บุคคลนี้จะมีวาสนาสูงสง อายุขัยยืนยาว ไดรับความสุขไมมีประมาณ หากมีผูท่ีสิ้นชีพไปกอนแลว เปนเวลา
หลายป หรือไมกี่วัน แตก็ไมไดรับการชวยเหลือ เกรงวาจะติดอยูในยมโลก หากสามารถจดจํา สาธยายพระ
ธรรมสูตรน้ี แกะสลักจารึกหรือพิมพพระสูตรน้ีแจกจายไป ผูที่สิ้นชีพก็จะไปเกิดยังเทวโลก ผูยังมีชีวิตอยูก็จะ
ไดรับบุญกุศล หากมีชายหญิง บางที่ตองอาถรรพ มารกระทํา ถูกภูติและปศาจทําราย ใหฝนรายหวาดผวา
จติ ใจสับสนงนุ งง เม่อื จดจาํ พระธรรมสูตรนี้ แลว ตงั้ ใจถวายบูชา ปศาจรายจะหลกี เรนหนีไป จงึ ไดร ับความผาสุก
หากตองโทษแหงป ภัยแหงเดือน มีโรครุมเรารางกาย เม่ือจดจําพระธรรมสูตรนี้ พรอมท้ังสมาทานอุโบสถศีล
เคราะหภัยก็จะสูญส้ินไป โรคท่ีรุมเราก็จะออกไปจากกาย หากชีวิตเผชิญกับอิทธิพลของดาวที่ใหโทษ หรือ
ประสบกบั ดาวที่ทรงอํานาจ ทําใหเ กิดโรค เปา ชอื เรอ เหยียน (暴赤熱眼:ชอ่ื ของโรคชนิดหน่ึง ที่เกดิ ทางตา
โดยมีสาเหตุจากความรอนของหัวใจและตับ ทําใหความรอนกระจายอยูในเลือด สงผลใหเกิดโรคทางตาชนิด
หนึ่ง) โรค อ๊ี หมอ เจอ จิง (翳膜遮睛:โรคท่ีเกิดจากลมรอนในตับ ที่นานๆ จะกําเริบข้ึนสักคร้ัง) มีคดีพิพาท
ข้ึนศาลตัดสิน ถูกคุมขังในเรือนจํา ฝนรายติดตอกันหาราตรี เกิดอาเพศนับรอยประการ สัตวรองผิดปกติ เพียง
สามารถจุดประทีปท่ีเบ้ืองหนา พระอตุ รเคราะห ถวายของหอม ดอกไม นาํ้ สะอาด อา นทอ งพระธรรมสูตรน้ีเจ็ด
จบ จนถึงส่ีสบิ เกาจบ สง่ิ อปั มงคลเภทภยั ก็จะดับส้นิ ไป จะกอเกดิ เปน สริ มิ งคล
หากกุลบุตรปรารถนาทายาทและชื่อเสียง แลวในราตรีที่เงียบสงบสามารถจุดธูปบูชาเบื้องหนาของพระ
อุตรเคราะห กราบไหวอานทองพระธรรมสูตรน้ีเจ็ดจบจนถึงรอยจบ ก็จะใหกําเนิดทายาทเปนชายที่เฉลียว
ฉลาด มีชือ่ เสียงและมยี ศถาบรรดาศกั ดิ์สูงสง หากมีเรือกสวนไรนา สัตวเล้ียงท้ังหก (คอื มา, วัวควาย, แพะแกะ
, สุกร, สุนัข, ไก) การเพาะปลูกใหผลนอย ก็พึงจุดธูปบูชา อานทองพระธรรมสูตรนี้ในหองที่สะอาด ก็จะยังให
ผลิตผล เพิ่มพูนเปนทวีคูณ สัตวเลี้ยงก็ตกลูก หากสตรีผูเจ็บปวดทรมานในการคลอดบุตร ในจิตก็วิตกกังวล
46
เพียงสามารถนําของหอม ดอกไม มาสักการะ อานทองพระธรรมสูตรน้ี ก็จะไดรอดพนจากเจากรรมนายเวร
ยังใหค ลอดงา ย แมแ ละบุตรตา งก็ปลอดภยั แขง็ แรง ไมว าบตุ รจะเปนชายหรอื หญิง
ยังมีพุทธดํารัสอีกวา ดูกอนกุลบุตร พึงทราบเถิดวาพระอุตรเคราะหอันเปนบุราณพุทธะ ทรงไวซ่ึงมหา
เมตตากรุณา ปรากฏขึ้นแลวในหมูเทวดา เปนใหญในดวงชะตา เปนผูควบคุมฟาดิน (อาจหมายถึง หญิงชาย ก็
ได) กระทัง่ เจา พระยามหากษัตริย กับทัง้ ประชาราษฎรท้ังมวล ฟา ดิน สิงขร ชลธาร สา่ํ สตั ว ตฤณชาติ พฤกษา
ลวนตองปฏิบัติตามบัญชาของเทพพระเคราะหทั้งเจ็ดนี้ทั้งส้ิน หากมีภัยพิบัติ อุบัติเหตุ ก็จงจุดประทีปเพื่อ
อธิษฐาน แลวอานทองพระธรรมสูตรนี้ ก็จะไดรับการปกปองคุมครอง ไดสมปรารถนาและมีสิริมงคล หากพล
โยธีของชาติ จะกระทําสงคราม แลวสามารถจดจําพระธรรมสูตรน้ีไวในจิตสืบไปไมขาดสิ้น จัดตัง้ พระรูปปฏมิ า
กระทําบูชาตามวิธี ก็จะไดร ับอานุภาพแหงดวงดาวอาํ นวยใหมเี ดช ไดรับชัยชนะ พลโยธีแกลวกลา แมกระบวน
อาชาทพั หนา ลุยังแหงใด กส็ ามารถปราบไดท ้งั สิ้น
มีพุทธดํารัสวา ปาฏิหาริยของพระพุทธเจาทั้งเจ็ดพระองคเปนอยางนี้ แมจะเปนเวลาหลายกัลปจนหาท่ี
ส้นิ สดุ และไมมีประมาณก็ยากทจี่ ะกลา วพรรณนาได ในครง้ั นน้ั จึงตรสั พระคาถาวา...
งัน ฮอนอ ทนั นอ จาจาตี มอฮอจอื จา จอื จาตี ฮอปอนออี ซอพอฮอ
เม่ือพระพุทธองคตรัสพระธรรมสูตรนี้จบแลว พระมัญชุศรีโพธิสัตวและบรรดามหาชนทั้งปวง อันมี เทพ
นาค สัตวในคติแปด ดารกาเทพ ภูติ ปศ าจ ไดแสดงความเคารพนอบนอม เกดิ ศรัทธาแลว นอ มปฏิบัตสิ บื ไป.
จบ อตุ รเคราะหนิรันตรายจริ ายุวัฒนสตู ร
ประวตั ิยอ ของพระคาถาไภษัชยครุ พุ ทุ ธเจา
เม่ือสมัยที่พระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาตถาคตเจา ไดตรัสรูพระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณแลวน้ัน ดวยปณิธาน
พละคร้ังอดีตท่ีเคยทรงประกาศไว ยังใหทรงพิจารณาในสรรพสัตวทั้งปวง ทรงพบสรรพสัตวผูเปนทุกขเวทนา
ดวยโรคาพาธชนดิ ตา งๆ ทง้ั อาถรรพ คณุ ไสย และผมู ีอายุขยั ส้ัน มรณะกอ นเวลาอนั ควร ฯลฯ จงึ มพี ุทธประสงค
จะกําจัดโรคาทกุ ขเ หลา นั้นใหสูญสนิ้ ไป ยงั ใหสรรพสิ่งปรารถนาไดบ รบิ รู ณ
ในครั้งนั้นพระไภษชั ยครุ พุ ทุ ธเจา ทรงเจรญิ สมาธนิ ามวา สรฺวสตั วทกุ ฺขภินฺทนา (แปลวาการกําจดั ทุกขข อง
สรรพสัตวใ หส้ินไป) เม่ือทรงออกจากสมาธิบนพระพุทธอุษณีษะ (คอื กอนเน้ือบนพระเศียรของพระพุทธเจา คอื
มหาบรุ ุษลักษณะอยางหนึ่ง) กไ็ ดบ งั เกิดเปนมหาประภาสรัศมมี หาศาล ทามกลางแสงประภาสน่ันเอง ไดบงั เกิด
เปนมหาธารณี ดงั น้.ี ..
นาํ มอ ปอแคฟาตี ปซาแซ ลวิ ลเู ผก็ ลิวลี
南謨 薄伽伐帝﹐鞞殺社﹐窶嚕薜琉璃﹐
นโม- ภควเต- ไภษชฺย คุร-ุ ไวฑรู ยฺ ปอลาพอ ฮอลาแซแย ตันทอกิตตอแย
伯囉婆﹐喝囉闍也﹐怛他揭多耶﹐
ปรภา ราชาย- ตถาคตาย ออลาหอตี ซาํ เมยี วซําปูทอแย ตันจีทอ
阿囉訶帝﹐三藐三菩陀耶﹐怛姪他﹐
อรหฺ เต สมยฺ กฺ สํพุทธฺ าย- ตทฺยถา- งัน ปซาซอื ปซาซอื ปซ าแซ ซาํ มกกิดตี ซอฮอ
唵﹐鞞殺逝﹐鞞殺逝﹐鞞殺社﹐三沒揭帝 莎訶。
โอม- ไภษชฺเย- ไภษชฺเย- ไภษชฺย สมทุ ฺคเต สวฺ าหา
47
ครงั้ น้นั เม่อื แสดงมหาธารณีทามกลางรัศมีแลว มหาปฐพีกส็ ่นั สะเทือนบังเกดิ เปนมหารัศมีสวางไสวไปทั่ว
โรคาทุกขของสรรพสัตวลวนมลายสิ้นไป ไดบรรลุถึงความความสุขเกษมศานติทั่วกัน ดูกอนมัญชุศรี หากพบ
กุลบุตรกุลธิดาผูมีโรครุมเรา พึงมีจิตแนวแนกระทําตอเขาดังนี้ ใหผูปวยนั้นชําระกายใหสะอาด และนําอาหาร
โอสถหรือนํ้าที่ปราศจากสิ่งสกปรกมาเสกดวยธารณีนี้ 108 จบแลวใหบริโภค โรคาภัยบรรดามีจะมลายส้ินไมมี
เหลือ หากมีความปรารถนาสิ่งใดแลวภาวนาซึ่งธารณีนี้ ก็ยอมจะสมมโนจินตและปราศจากโรคาอายุสิริวัฒนา
เม่ือส้ินชีพก็จะไปอุบัติยังศุทธิไวฑูรยพุทธเกษตรแหงพระไภษัชยคุรุพุทธเจา เปนผูไมเส่ือมถอยตราบถึงพระ
โพธญิ าณ
ดวยเหตุนี้ มัญชุศรี หากมีกุลบุตรกุลธิดา ไดมีจิตศรัทธา ถวายสักการะตอพระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภา
ตถาคตเจาพระองคน น้ั ดวยความเปน ที่สดุ ของใจแลว ไซร กพ็ งึ สาธยายธารณมี นตรนอี้ ยา ไดลืมเลอื น.
***จาก 《藥師琉璃光七佛本願功德經 卷下》《大正經》第十四冊頁414 中-下
หากมีผูรับปฏิบัติในธารณีมนตรนี้ จะสามารถยังใหอกุศลกรรมของสังสารวัฏท้ังปวง ท่ีมีในปจจุบันชาติน้ี
และในอดีตชาติ ไมอาจยังใหตกสูอบายภูมิ 3 ไกลหางจากความมรณะ 9 ประการ ลวงพนจากความทุกขทั้ง
ปวง.
***จาก 《藥師如來念誦儀軌》《大正經》第十九冊頁30 中
หั ว ใ จ คํา ส อ น ข อ ง พ ร ะ พุ ท ธ อ ง ค
จงมีสติ ตามรู ตามดู
ผู รู กั บ สิ่ ง ท่ี ถู ก รู
ท า ง อ า ย ต น ะ ทั้ ง ห ก
วามันเกิดข้ึน ตั้งอยู แลวก็ดับไป
มีเหตุก็เตองกิดข้ึน หมดเหตุก็ตองดับไป
เปนอนัตตา อนิจจัง ทุกขัง
ไมใชเรา ไมใชของ ของเรา
สั ก แ ต ว า เ ป น ธ ร ร ม ช า ติ ที่ ว า ง เ ป ล า
48