The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by wichuda1345, 2022-04-10 04:15:24

การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การเคลื่อนที่แนวตรง ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนก าแพงวิทยา ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ โดยใช้การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ร่วมกับชุดฝึกทักษะ

ครูศรีวรรณ

46

v = u + at ความเร็วทเ่ี ป็นฟงั ก์ชันของเวลา

u+v การกระจัดทเ่ี ปน็ ฟงั กช์ ันของความเรว็
∆x = ( 2 ) t

∆x = ut + 1 at2 การกระจัดท่เี ป็นฟังก์ชนั ของเวลา
2 ความเร็วทีเ่ ปน็ ฟงั ก์ชนั ของการกระจดั

v2 = u2 + 2a∆x

อธบิ ายความรู้ (Explain)

1. ครูให้นักเรียนร่วมกันศึกษาโจทย์ตัวอย่างของวิธีการคานวณจากสมการการเคลื่อนท่ีกรณีความเร่งคง

ตัวจากตวั อยา่ งที่ 2.13 ในหนังสอื เรียน หน้า 62 โดยครอู ธิบายเสริมเพอ่ื ใหน้ ักเรยี นเขา้ ใจมากขน้ึ

2. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มศึกษาตัวอย่างที่ 2.14 2.15 และ 2.16 ในหนังสือเรียนหน้า 62-63 ตาม

ขั้นตอนการแก้โจทยป์ ัญหา ดงั นี้

 ขนั้ ที่ 1 ครใู ห้นกั เรียนทกุ คนทาความเขา้ ใจโจทยต์ วั อย่าง

 ขน้ั ที่ 2 ครูถามนกั เรียนว่า ส่ิงท่ีโจทย์ตอ้ งการถามหาคืออะไร สง่ิ ท่โี จทยก์ าหนดให้คืออะไร และ

จะหาสงิ่ ทโี่ จทยต์ อ้ งการ ตอ้ งใชส้ มการใด

 ข้ันที่ 3 ครูใหน้ กั เรยี นดูวิธที าในการคานวณหาคาตอบ

 ขน้ั ที่ 4 ตรวจสอบคาตอบของโจทย์ตวั อย่างว่าถกู ต้อง หรอื ไม่

3. นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายเก่ียวกับวิธีการคานวณจากสมการการเคล่ือนที่กรณีความเร่งคงตัว

เพ่ือใหน้ ักเรียนสรุปสาระสาคญั ลงในสมุดจดบนั ทึก

3. ขั้นสรุป

ขยายความเข้าใจ (Elaborate)

1. ครเู ปิดโอกาสให้นักเรยี นสอบถามเนื้อหาเร่ือง การเคลื่อนที่ของวัตถุกรณีความเรง่ คงตวั วา่ มีส่วนไหนท่ี

ยงั ไมเ่ ข้าใจและใหค้ วามรูเ้ พมิ่ เตมิ ในส่วนนนั้

2. ครใู ห้นกั เรียนรว่ มกนั ทาใบงานท่ี 2.5 เรอื่ ง การเคล่อื นท่ีด้วยความเรง่ คงตวั

ตรวจสอบผล (Evaluate)

1. ครปู ระเมนิ ผล โดยการสังเกตการตอบคาถาม การร่วมกนั ทาผลงาน และจากการนาเสนอผลงาน

2. ครตู รวจสอบผลจากใบงานที่ 2.5 เรื่อง การเคล่อื นที่ด้วยความเรง่ คงตัว

8. สื่อ/แหลง่ เรยี นรู้

8) หนังสือเรยี น ฟสิ ิกส1์ หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2

9) ใบงานท่ี 2.5 เรือ่ ง การเคล่ือนทข่ี องวัตถดุ ว้ ยความเรง่ คงตัว

10) PowerPoint หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2

9. การวัดผลประเมนิ ผล

การประเมนิ ผล วธิ ีการวดั เครือ่ งมอื เกณฑ์ท่ใี ชป้ ระเมนิ
-ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
1. อธิบายความสัมพันธ์ - ตรวจใบงานที่ 2.5 - ใบงานที่ 2.5
ระหว่างการกระจัด เวลา
ความเรว็ ความเรง่ ของการ สงั เกตพฤตกิ รรมท่ี แบบประเมนิ คุณลักษณะ นักเรียนมีคุณลกั ษณะอัน
เคลื่อนท่เี ส้นตรงได้ (K)
พึงประสงค์ อันพงึ ประสงค์ พึงประสงค์

การประเมนิ ผล วิธกี ารวดั เครอื่ งมือ 47

2. มีทักษะการคานวณหา เกณฑท์ ่ใี ช้ประเมนิ
ปรมิ าณท่ีเกยี่ วขอ้ งกับการ
เคล่ือนท่ีในแนวตรง (P)
3. ทางานรว่ มกบั ผ้อู น่ื อยา่ ง
สรา้ งสรรค์ ยอมรบั ความ
คิดเหน็ ของผู้อ่ืนได้ (A)

48

10. ความเหน็ ของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………….…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงช่อื ………………………………………..
(นายหม่สู า ผิดไรงาม)

หัวหน้ากลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

11. ความคดิ เห็นรองผู้อานวยการกลุ่มบริหารวชิ าการ
 องค์ประกอบของแผนการจดั การเรียนร้.ู ............................................................................
 มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตัวชวี้ ดั /ผลการเรยี นรสู้ อดคล้อง.......................................................
 สาระสาคัญครอบคลมุ ชดั เจน.............................................................................................
 สาระการเรยี นรมู้ ีความถูกต้องตามหลกั วิชาการ................................................................
 จุดประสงค์การเรียนรู้มคี วามชดั เจนครอบคลุม (K/P/A).....................................................
 สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น................................................................................................
 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค.์ ................................................................................................
 ระบุภาระงาน/ชนิ้ งาน........................................................................................................
 กิจกรรมการเรียนรู้เนน้ ผู้เรียนเปน็ สาคัญ...........................................................................
 สื่อและอุปกรณ์การเรยี นรู้.................................................................................................
 การวดั และการประเมนิ ผลตามจุดประสงค์การเรียนร้.ู ..........................................................
 เสนอส่งแผนการจัดการเรียนรตู้ ามขั้นตอนระบบงาน........................................................
 บันทึกหลังสอน.................................................................................................................

(นายอับดลรอศักด์ิ มณโี ส๊ะ)
รองผู้อานวยการกล่มุ บริหารวชิ าการ

12. ความคดิ เหน็ ผ้อู านวยการโรงเรยี น

 อนุญาตใหใ้ ชจ้ ัดการเรียนการสอนได้
 ควรปรบั ปรุง คอื ................................................................................................................
............................................................................................................................. .....................

(นายสริ วุฒิ ยนุ ยุ้ )
ผอู้ านวยการโรงเรียนกาแพงวิทยา

49

13. บนั ทกึ หลงั การจดั กจิ กรรมการเรยี นร้แู ผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 6
13.1 ผลการจัดการเรียนรู้ (ตามจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู)้

13.2 แนวทางแกป้ ัญหานกั เรียนทีไ่ ม่ผา่ นตวั ชี้วัด/ผลการเรียนรหู้ รอื จุดประสงค์การเรยี นรู้

ลงชอื่ …………………………………….…………………
(นางสาวศรีวรรณ สุวรรณวงค์)
ครูผสู้ อน

วนั ที่………เดือน……………………… พ.ศ. ……………….

50

ใบงานท่ี 2.5

เร่ือง การเคลอ่ื นท่ีดว้ ยความเรง่ คงตวั

คาชแ้ี จง : ให้นกั เรยี นแสดงวิธีทาและหาคาตอบจากคาถามตอ่ ไปนี้
1. นักกรีฑาวิ่งออกจากจุดสตาร์ทด้วยความเร็ว 6 เมตรต่อวินาที และสามารถเร่งความเรว็ ได้ 4 เมตรต่อวินาที2 จงหา
วา่ เมอื่ เวลาผา่ นไป 5 วนิ าที จะวงิ่ ได้ระยะทางเทา่ ใด

2. ถ้าเคร่อื งบินต้องใชเ้ วลาในการเร่งเคร่อื ง 20 วินาที จากหยุดน่ิง และใช้ระยะทาง 400 เมตร กอ่ นที่จะข้ึนจากรันเวย์
ได้จงหาอัตราเรว็ ของเครอ่ื งบนิ ขณะท่ขี ้ึนจากรันเวยเ์ ท่ากับก่ีเมตรต่อวนิ าที

3. รถยนต์แล่นบนถนนตรงโดยมีความเร็วตน้ 15.0 เมตรตอ่ วนิ าที ถา้ รถยนต์มีความเร่งคงตัว 3 เมตรต่อวินาที2
ในช่วงเวลานานเทา่ ไร จึงมคี วามเร็วเปน็ 2 เทา่ ของความเร็วตน้

4. รถของต้นติดไฟแดง พอได้รับสัญญาณไฟเขียว ต้นก็เร่งเคร่ืองออกไปด้วยความเร่งคงตัวพอไปได้ไกล 100 เมตร วัด
ความเร็วได้ 72 กโิ ลเมตรตอ่ ชว่ั โมง อยากทราบว่าความเร่งของรถเป็นเท่าใด

51

ใบงานท่ี 2.5 เฉลย

เรือ่ ง การเคลอ่ื นทด่ี ้วยความเรง่ คงตัว

คาชีแ้ จง : ให้นกั เรยี นแสดงวิธีทาและหาคาตอบจากคาถามตอ่ ไปน้ี
1. นักกรีฑาวิ่งออกจากจุดสตาร์ทด้วยความเร็ว 6 เมตรต่อวินาที และสามารถเรง่ ความเรว็ ได้ 4 เมตรต่อวินาที2 จงหา
ว่าเมอ่ื เวลาผ่านไป 5 วินาที จะวง่ิ ได้ระยะทางเทา่ ใด
วิธที า จากสมการ Δx = ut + 1 at2

2

= (6 m/s)(5 s) + (1)(4 m/s2)(5 s)2
2

Δx = 80 m
ดังนั้น นกั กรีฑาจะวงิ่ ได้ระยะทางเทา่ กบั 80 เมตร
2. ถ้าเคร่ืองบนิ ต้องใชเ้ วลาในการเรง่ เครือ่ ง 20 วนิ าที จากหยุดนิ่ง และใช้ระยะทาง 400 เมตร กอ่ นทจ่ี ะข้นึ จากรนั เวย์
ได้จงหาอัตราเร็วของเคร่ืองบินขณะที่ขึน้ จากรันเวย์เทา่ กับก่ีเมตรต่อวินาที

วธิ ีทา จากสมการ Δx = (u + v) t
2

400 m = (0 + v) 20
2

v = 40 m/s
ดงั นน้ั อัตราเร็วของเคร่ืองบินขณะท่ีขึ้นจากรันเวยเ์ ทา่ กับ 40 เมตรต่อวินาที
3. รถยนต์แลน่ บนถนนตรงโดยมีความเรว็ ต้น 15.0 เมตรต่อวินาที ถ้ารถยนตม์ คี วามเร่งคงตัว 3 เมตรต่อวินาที2
ในชว่ งเวลานานเท่าไร จึงมีความเรว็ เป็น 2 เทา่ ของความเร็วต้น
วธิ ที า จากสมการ v = u + at

30 m/s = (15 m/s) + (3 m/s2) t
t =5s

ดังนั้น รถยนตแ์ ล่นบนถนนตรงในช่วงเวลานาน 5 วนิ าที จึงมคี วามเรว็ เป็น 2 เทา่ ของความเร็วตน้ ใน
ทศิ ทางเดยี วกนั กับความเร็วต้น
4. รถของต้นติดไฟแดง พอไดร้ ับสัญญาณไฟเขียว ตน้ ก็เรง่ เครือ่ งออกไปดว้ ยความเร่งคงตวั พอไปได้ไกล 100 เมตร วดั
ความเรว็ ได้ 72 กโิ ลเมตรต่อชว่ั โมง อยากทราบว่าความเร่งของรถเป็นเทา่ ใด
วธิ ีทา จากสมการ v2 = u2 + 2aΔx

(20 m/s)2 = (0 m/s)2 + 2a(100 m)
400 = 200a
a = 2 m/s2

ดังน้ัน ความเร่งของรถเทา่ กบั 2 เมตรตอ่ วินาที2 ในทิศทางเดมิ จากเริ่มต้นออกตวั

52

แบบทดสอบเรอ่ื ง การเคล่ือนทีแ่ นวตรง

คาช้ีแจง : ใหน้ กั เรียนเลือกคาตอบท่ีถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว

1. ต้นเดินรอบสนามซ่ึงมีรัศมี 7 เมตร โดยเขาเดิน 6. การคานวณหาความเร็วเฉลี่ยของวัตถุ จะต้องได้ข้อมูล

ได้ครบ 3 รอบ พอดี การกระจัดที่ต้นเคล่ือนท่ี อะไรบา้ ง

ได้เปน็ เทา่ ใด 1. ระยะทางท้งั หมดและเวลา

1. 0 เมตร 2. 7 เมตร ทัง้ หมด

3. 10 เมตร 4. 21 เมตร 2. การกระจดั ท้ังหมดและเวลาท้ังหมด

2. วัตถเุ คลอ่ื นทีด่ ว้ ย “ความเรง่ คงตวั ” หมายความ 3. ระยะทางและความเร่ง

ว่าอย่างไร 4. การกระจัดและความเรง่

1. ความเรว็ ตน้ และความเรว็ ปลายของวัตถเุ ปน็ 7. โยนลูกบอลข้ึนไปในแนวดิ่ง ความเร็วของก้อนหนิ เป็นไป

ศนู ย์ ตามข้อใด ถ้า g = 10 m/s2

2. ความเรว็ ต้นและความเร็วปลายมขี นาด 1. เพม่ิ ขึ้นวนิ าทลี ะ 10 m/s

เทา่ กัน 2. ลดลงวนิ าทลี ะ 10 m/s

3. ความเร็วของวตั ถเุ ปลี่ยนแปลงตลอดเวลา 3. เป็นศนู ย์เมือ่ ถึงจดุ สงู สดุ

4. ความเรว็ ของวัตถุทเี่ ปลีย่ นไปมคี ่าเทา่ กนั ทุกๆ 4. ขอ้ 2 และ 3 ถกู
วินาที 8. จ๊ิบขับรถออกจากไฟแดงด้วยความเร่ง 4 m/s2 อยาก

3. วตั ถใุ ดต่อไปนีก้ าลังเคลอื่ นที่โดยไมม่ ีความเรง่ ทราบว่าในเวลา 5 s ต่อมารถจะมีขนาดของความเร็ว

1. บอลลูนลอยขึ้นในแนวดง่ิ ด้วยความเร็วคง เท่าใด

ตวั 1. 5 m/s 2. 10 m/s

2. รถยนตก์ าลงั แล่นดว้ ยอตั ราเรว็ สม่าเสมอ 3. 15 m/s 4. 20 m/s

ในทางโค้ง 9. ระยะทางและการกระจดั แตกต่างกันอย่างไร

3. รถยนตก์ าลังถอยหลังเขา้ จอดใน 1. มหี นว่ ยการวดั แตกต่างกนั

โรงรถ 2. ระยะทางเป็นปริมาณสเกลาร์การกระจัดเป็นปริมาณ

4. ยิงปืนจากหนา้ ผาขึน้ ไปในแนวด่ิง เวกเตอร์

4. ข้อใดต่อไปน้ไี ม่จดั เป็นปรมิ าณเวกเตอร์ 3. การกระจัดเป็นปริมาณสเกลาร์ระยะทางเปน็ ปริมาณ

1. ความเรว็ 2. ความเร่ง เวกเตอร์

3. การกระจดั 4. อตั ราเร็ว 4. ระยะทางมคี ่ามากกว่าการกระจดั เสมอ

5. โยนส้มผลหน่ึงข้ึนไปในแนวด่ิง ความเร็วและ 10. ปลอ่ ยก้อนหินให้ตกลงมาจากตึก ความเรว็ ของก้อน

ความเรง่ ของสม้ เป็นอย่างไร ขณะถงึ จดุ สงู สดุ หินเปน็ ไปตามขอ้ ใด ถา้ g = 10 m/s2

1. ทง้ั ความเรว็ และความเรง่ เป็น 1. เพม่ิ ข้นึ วนิ าทลี ะ 10 m/s 2. เปน็ ศนู ย์ ณ จดุ ปลอ่ ย

ศนู ย์ 3. มากทสี่ ุดขณะกระทบพ้ืน 4. ถูกทง้ั ข้อ 1 2 และ 3

2. ทง้ั ความเรว็ และความเรง่ ไม่เป็นศนู ย์ 11. ขอ้ ใดเป็นปรมิ าณพวกเดียวกันทัง้ หมด

3. ความเร็วเปน็ ศูนย์ แตค่ วามเรง่ ไม่เป็น 1. พลงั งาน การกระจัด ความเรว็ ความเร่ง

ศูนย์ 2. งาน ระยะทาง ความหนาแน่น ความเร็ว

4. ความเรง่ เปน็ ศนู ย์ แต่ความเร็วไมเ่ ปน็ ศูนย์ 3. ปริมาตร มวล ความยาว พลงั งาน

4. แรง อตั ราเรว็ เวลา โมเมนตัม

53

12. รถยนต์คันหนง่ึ เคลื่อนทจ่ี ากหยุดนิ่งไปบน 17. รถยนต์แล่นไปทางทิศตะวันออก 30 km และเปลีย่ น

เสน้ ทางตรง เวลาผา่ นไป 4 วนิ าที มคี วามเร็วเปน็ 8 ทิศแลน่ กลับไปทางทิศตะวันตกอีก 10 km รถยนต์

เมตรต่อวนิ าที ถา้ อัตราเรว็ เพ่ิมขึน้ อยา่ งสม่าเสมอ แล่นไดร้ ะยะกระจดั เท่าใด

รถยนต์คนั น้ีมีความเรง่ เท่าใด 1.10 m 2. 20 m

1. 2 m/s2 2. 4 m/s2 3. 40 m 3.50m
3.12 m/s2 4. 14 m/s2
18.ถา้ ปลอ่ ยวตั ถใุ หต้ กในแนวด่ิงอยา่ งเสรี แลว้ ตกกระทบพ้ืน

13. วัตถุอนั หนง่ึ เคล่ือนทดี่ ้วยความเรง่ 10 m/s2 ภายในเวลา 5 วินาที ถามว่าขณะกระทบพื้นวัตถุมี

จะตอ้ งใชเ้ วลานานเทา่ ไรในการเปลี่ยนความเรว็ จาก อัตราเรว็ เท่าใด

20 m/s เป็น 50 m/s 1. 10 m/s 2. 50 m/s

1. 2 s 2. 3 s 3. 20 m/s 4. 60 m/s

3. 5 s 4. 7 s 19. นางสาวขวัญดาวออกเดินทางจากบ้านไปทางด้าน

14. รถยนต์ A เริ่มเคลื่อนทจ่ี ากหยุดน่งิ โดยมี ตะวันออก 20 กิโลเมตร แล้วเดินทาง ไปทางด้าน

ความเรว็ เพมิ่ ข้นึ 2 เมตรต่อวินาที ทกุ 1 วินาที เม่ือ ตะวนั ตกอกี 10 กโิ ลเมตร การกระจดั ตลอดการเคลื่อนท่ี

สน้ิ วนิ าทที ่ี 5 รถจะมีความเรว็ เท่าใด มคี า่ เท่าใด

1. 2 เมตรต่อวินาที 1. 0 กโิ ลเมตร 2. 10 กโิ ลเมตร

2. 5 เมตรต่อวินาที 3. 17 กโิ ลเมตร 4. 25 กโิ ลเมตร

3. 7 เมตรต่อวนิ าที 20. ข้อใดมีขนาดของการกระจัดมากทีส่ ุด

4. 10 เมตรตอ่ วนิ าที 1. เดินไปทางขวา 5 เมตรแล้วย้อนมาทางซ้าย 2 เมตร

15. สมหญงิ เดินเป็นรปู ส่ีเหล่ยี มผนื ผา้ ยาว 12 เมตร 2. เดินไปทางขวาด้วยความเร็วคงที่ 3 เมตรต่อวินาที

กว้าง 3 เมตรครบหนงึ่ รอบ ข้อใดกล่าวถูกต้อง เป็นเวลา 2 วนิ าที

1. เขาเดินไดร้ ะยะทาง 15 เมตร การกระจดั 0 3. เดินไปทางซ้ายด้วยความเร็วคงที่ 4 เมตรต่อวินาที

เมตร เปน็ เวลา 2 วินาที

2. เขาเดินได้ระยะทาง 15 เมตร การกระจัด 4. เดินไปทางซา้ ยดว้ ยความเร็วคงท่ี 5 เมตรต่อวนิ าที

15 เมตร เปน็ เวลา 2 วินาที

3. เขาเดินได้ระยะทาง 30 เมตร การกระจัด

15 เมตร

4. เขาเดินได้ระยะทาง 30 เมตร การกระจัด 0

เมตร

16.ขณะขับรถด้วยความเร็ว 40 m/s ถ้าต้องการให้

ความเร็วเหลือ 10 m/s ในระยะ 100 เมตร

ตอ้ งเหยยี บเบรกดว้ ยความเรง่ เทา่ ใด

1. – 7.5 m/s2
2. – 15.5 m/s2

3. 5 m/s2

4. 14 m/s2

54

ชุดฝกึ ทกั ษะ เรอื่ ง การแกโ้ จทยป์ ัญหาฟิสกิ ส์ เรอ่ื ง การเคลอ่ื นท่ีแนวตรง

คาแนะนาในการใช้ชดุ ชดุ ฝึกทกั ษะ
- ศกึ ษาองคป์ ระกอบและขน้ั ตอนของชดุ การเรยี นรู้ให้เขา้ ใจก่อนเรมิ่ กจิ กรรมการเรียนรู้
- ทดสอบก่อนเรียนเพอื่ วดั ความรพู้ ้ืนฐานของนักเรยี นในแตล่ ะชุดการเรยี นรู้
- จัดกจิ กรรมการเรียนรตู้ ามกระบวนการและข้นั ตอนท่ีกาหนดไวใ้ นแผนการจัดการเรยี นรู้
- ช้ีแจงแนะนาให้นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมตามขั้นตอนเพ่ือให้บรรลุวัตถุประสงค์การเรียนรู้ในแต่ละชุดการ
เรยี นรู้
- ตรวจผลการปฏิบัติงานกิจกรรมระหว่างเรียนและบันทึกคะแนนลงในแบบประเมินตามเกณฑ์ท่ีกาหนด
ไว้
- ทดสอบหลังเรียนในแต่ละชุดเพื่อประเมินความก้าวหน้าและพัฒนาการของนักเรียนในแต่ละชุดการ
เรยี นรู้

คาแนะนาสาหรับนักเรยี น
- อ่านคาชี้แจง และคาแนะนาสาหรบั นกั เรยี นใหเ้ ขา้ ใจก่อนทล่ี งมือศึกษาชุดชุดฝกึ ทักษะ
- ทาแบบทดสอบก่อนเรยี นเพอ่ื ประเมินความรพู้ ื้นฐานเดิมของนกั เรยี น
- ศึกษาชุดฝึกทักษะ โดยปฏิบัติตามคาช้แี จงที่ได้ระบุไว้ใหค้ รบถ้วนทุกเรือ่ ง หากนักเรียนไม่เข้าใจในสาระ
การเรียนรใู้ ห้กลับไปศึกษาอีกคร้ัง และขอคาแนะนา จากครเู พ่อื ใหเ้ กดิ ความเขา้ ใจมากยิ่งข้นึ
- ทาแบบทดสอบหลังเรียนเพื่อเปรียบเทียบความก้าวหน้าในการเรียนของนักเรียน ในการทากิจกรรมให้
นกั เรียนทาด้วยความตง้ั ใจ และมคี วามซอื่ สตั ย์ตอ่ ตนเองให้มาก โดยนกั เรยี นไม่ดูเฉลยกอ่ น

55

ปริมาณทางฟิสิกส์

ปริมาณทางฟิสกิ ส์ถา้ พิจารณาขนาดและทิศทาง แบง่ ได้ 2 ปรมิ าณ คอื
1. ปรมิ าณสเกลาร์คือ ปริมาณท่ีบอกเฉพาะขนาดเท่านนั้ เชน่ ระยะทาง มวล เวลา อัตราเร็ว เปน็ ตน้
2. ปริมาณเวกเตอร์ คอื ปริมาณทบ่ี อกทัง้ ขนาดและทิศทาง เชน่ การกระจัด ความเรว็ ความเรง่ แรง นา้ หนัก โม
เมนตัม สนามไฟฟ้า สนามแมเ่ หล็ก เป็นตน้
การหาผลลพั ธ์ของปริมาณเวกเตอร์ ต้องอาศัยวิธกี ารทางเวกเตอร์โดยตอ้ งหาผลลพั ธ์ ทั้งขนาดและทศิ ทาง
ปรมิ าณเวกเตอร์

การแสดงขนาดและทิศทางของปริมาณเวกเตอร์จะใช้ลูกศรแทน โดยขนาดของปริมาณ เวกเตอร์ แทนด้วย
ความยาวของลูกศรตามอัตราส่วนที่เหมาะสม และทิศทางของปริมาณเวกเตอร์ แทนด้วยทิศทางของหัวลูกศร
สัญลักษณ์ของปริมาณเวกเตอร์ ใช้ตัวอักษรมีลูกศรคร่ึงบนชี้จากซ้ายไปขวา หรือใช้ตัวอักษรทึบแสดงปริมาณ
เวกเตอรก์ ไ็ ด้ ดงั รูป

การหาเวกเตอร์ลพั ธ์โดยวธิ ีการเขยี นรูป มีขั้นตอนดงั น้ี
1. เขยี นลูกศร แทนเวกเตอร์แรกตามขนาดและทิศทางที่กาหนด
2. นาหางเวกเตอรต์ ัวที่สองต่อกบั หัวลูกศรของเวกเตอร์แรก
3. ถ้ามีเวกเตอรย์ อ่ ย ๆ อกี ให้ทาตามข้นั ตอนท่ี 2 จนครบ
4. เวกเตอรล์ พั ธ์หาได้จากลากลูกศรจากหางของเวกเตอร์แรกไปยงั หัวลกู ศรของเวกเตอร์ อันสดุ ท้าย

56

57

ปรมิ าณตา่ ง ๆ ของการเคลอื่ นท่ี
การเคลื่อนที่ในแนวตรง เราจะศึกษาเกี่ยวกับตาแหน่ง ระยะทาง การกระจัด การกระจัดลัพธ์ อัตราเร็วเฉลย่ี

อตั ราเรว็ ขณะหนงึ่ ความเรว็ เฉลี่ย ความเรว็ ขณะหน่งึ และความเรง่
การเคลื่อนที่แบบเลอ่ื นท่ี

คือการเคล่ือนที่จากตาแหน่งเดิมไปยังตาแหน่งใหม่ ซ่ึงการเคล่ือนท่ีอาจเป็นแนวเส้นตรง แนวโค้ง หรือ
กลบั ไป-กลับมาซา้ แนวเดิม กไ็ ด้
ระยะทาง (Distance)

คือ ความยาวตามแนวการเคล่ือนท่ี ใช้สัญลกั ษณ์ “=” มหี นว่ ยเปน็ เมตร (m) โดยวัดจากตาแหน่ง เรมิ่ ต้นไป
ตามเส้นทางการเคลื่อนที่ของวัตถุ ถึงตาแหนง่ สดุ ทา้ ย หรอื วัดจากตาแหน่งสุดท้ายย้อนกลบั มา ตามเสน้ ทางการ
เคล่ือนท่ีถึงตาแหน่งเร่ิมต้นจะได้ระยะทางเท่ากัน จะเห็นว่าระยะทางนั้นไม่ได้คานึงถึง ทิศทางในการวัด บอก
เฉพาะขนาดเพียงอย่างเดียวก็ได้ความหมายชัดเจน เช่น นายเจเดินจาก A ไป B และเดนิ ต่อจาก B ไป C เปน็ ดัง
รูป

การกระจัด (Displacement)
คือ การเปล่ียนตาแหน่งของวัตถุ โดยวัดจากจุดเร่ิมต้นไปยังจุดสุดท้ายตามแนวเส้นตรง ใช้สัญลักษณ์ “s” มี
หน่วยเป็น เมตร (m) เช่น นายโจ เดินจาก A ไป B แล้วต่อไปที่ C แสดงว่า นายโจเปล่ียนตาแหน่งจาก A ไปยัง
C ดังรูป

แสดงว่า การกระจดั ของนายโจ คอื ระยะ AC มที ศิ จาก A ไป C (จะมีทิศจาก A ไป C เท่านน้ั )
ข้อสงั เกต ระยะทางทนี่ ายโจเดิน คือ ระยะทางจาก AB + BC ตามแนวเส้นโคง้
การบอกตาแหน่งของวัตถุ
การบอกตาแหนง่ ของวัตถุให้ได้ความหมายชดั เจนตอ้ งบอก
1. ตาแหน่งอ้างองิ หรือจุดอ้างองิ เป็นตาแหนง่ ทอ่ี ยู่นิง่ กบั ที่
2. ทิศทางที่วัตถุอยู่ ว่าอยทู่ ิศใดของตาแหนง่ อา้ งองิ
3. การกระจัด หรอื ระยะหา่ ง วา่ ห่างจากตาแหน่งอ้างองิ เทา่ ไร
ข้อสังเกตการเคล่ือนท่ีแนวเส้นตรงมีทิศอยู่ 2 ทิศ คือ ซ้ายกับขวา หรือ หน้ากับหลัง มักจะใช้ เคร่ืองหมายบวก
(+) หรอื ลบ ( - ) แทน

58

59

60

61

62


Click to View FlipBook Version