41
หาแนวคำตอบในการตอบคำถามของนักเรียนเตรียมเอาไว้หลายๆ แนวทาง และเป็นควรเป็นตัวอย่างท่ีนักเรียน
เคยพบเห็นในสถารการณ์จริงเพ่อื เปน็ การตรวจสอบความเข้าใจวา่ นกั เรียนไมไ่ ด้เกดิ ความเข้าใจทผ่ี ดิ ประเดน็ ที่ครู
ต้องการให้นักเรยี นรู้การจัดการเรียนรู้ที่ต่างกัน ดงั น้ันครูผู้สอนจะต้องมีความเข้าใจ เพ่ือจะไดจ้ ัดการเรียนรู้อย่าง
ถกู ตอ้ งและเหมาะสม
3. การจัดการเรยี นรู้ที่ส่งเสริมสมรรถนะวทิ ยาศาสตร์ตามแนวทาง PISA ตอ้ งมกี ารจดั เตรียมสถานการณ์
ท่ีเอ้ือต่อการเรียนรู้ของนักเรียน โดยการจัดการเรียนรู้ในแต่ละขั้นน้ันจะต้องคำนึงถึงบริบทของนักเรียน
เน่ืองจากว่านักเรียนแต่ละที่มีบริบทที่ต่างกัน จึงความต้องศึกษาก่อนทำการจัดการเรียนรู้และสถานการณ์ท่ี
นำมาใช้ต้องเปน็ สถานการณท์ ่ใี กลต้ ัวเพือ่ ทจ่ี ะใหน้ กั เรียนเกิดการเรียนรูไ้ ดง้ ่ายข้นึ
42
บรรณานกุ รม
จริ าพร โบสทิ ธพิ เิ ชฏฐ์ และ มนสั นันท์ นำ้ ส้มบรู ณ์. (2558). “การพัฒนาผลสมั ฤทธทิ์ างการเรียนและ
กระบวนการคดิ แกป้ ัญหา เรื่อง สังคมไทยของนักเรียนระดบั ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้การ
จดั การเรียนรู้ด้วยกระบวนการเผชญิ สถานการณ์”. วารสารวิชาการ Veridian E-Journa ปที ี่ 8,
ฉบบั ท่ี (พฤษภาคม – สิงหาคม ) : 1624
ชนฐิ ฆ์ศรา เทพจันตา. (2557).การจดั กจิ กรรมการเรยี นรูโ้ ดยใชข้ ่าวเปน็ สอื่ เพ่ือพฒั นาสมรรถนะการอธิบาย
ปรากฏการณ์ในเชิงวทิ ยาศาสตร์และสมรรถนะการใชป้ ระจักษ์พยานทางวทิ ยาศาสตร์
เรื่องโมเมนตมั สำหรบั นกั เรยี นชั้นมัธยมศึกษา ปที ี่ 4. วทิ ยานิพนธ กศ.ม., มหาวิทยาลยั นเรศวร.
โชคชัย ยืนยง. (2550). “การใช้แนวคิดวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสังคม ในการจัดการเรียนรู้
วทิ ยาศาสตร์”. วารสารวิชาการ. 10 (2) : 29-35.
สุนีย์ คล้ายนลิ , ปรชี าญ เดชศรี และอมั พลกิ า ประโมจนีย์. (2551). ความรูแ้ ละสมรรถนะทางวทิ ยาศาสตร์
สำหรบั โลกวันพรุ่งน้ี. กรงุ เทพฯ: เซเวน่ พรน้ิ ต้ิง กร๊ปุ จำกดั .