The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

8. การตอบสนองของพืช

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by wichuda1345, 2022-06-13 06:20:14

8. การตอบสนองของพืช

8. การตอบสนองของพืช

การตอบสนอง
ของพืช

วิชาชีววทิ ยาพ้ืนฐาน

ครูวิชุดา พรหมคงบุญ

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

ด้านความรู้ (K)
อธิบายการตอบสนองของพชื ต่อสงิ่ เรา้ ในรูปแบบต่าง ๆ ทม่ี ผี ลตอ่ การ
ดารงชีวิต

ด้านทักษะกระบวนการ (P)
นกั เรยี นสามารถทางานเปน็ กลมุ่ ร่วมกับผู้อนื่ ได้

ดา้ นคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ (A)
1. มีวินัย
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มุ่งมั่นในการทางาน

นกั เรยี นลองยกตวั อยา่ งพชื ชนิดอ่นื ๆที่เล้อื ยพนั โครงสรา้ งตา่ งๆแบบพวงชมพู

Back

แบง่ นั กเรียนกลุ่มละ 5–6 คน
ทากิจกรรมการตอบสนองของ

พืชตอ่ ส่ิงเรา้

Start now!

นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันจัดกลุ่มประเภทของการตอบสนองของพืช พร้อมท้ัง
อภิปรายเกย่ี วกบั ความสาคัญของการตอบสนองของพชื ต่อการดารงชวี ิต

ตรวจสอบความเข้าใจ

นักเรียนใชเ้ กณฑ์อะไรในการ
จดั รปู แบบของการตอบสนองของพชื

การตอบสนองของพืช
(plant perception หรือ plant response)

การตอบสนองของพืชต่อส่ิงเร้าภายนอกและส่ิงเร้าภายใน
เป็นกลไกท่ีเกิดข้ึนจากการทางานของฮอร์โมนพืช หรือกลไก
ต่าง ๆ ของเซลล์ ทาใหพ้ ชื เกิดการเคลื่อนไหว

สงิ่ เรา้ (Stimulus)

สิ่งท่ีมีผลและมีอิทธิผลเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการโต้ตอบแสดง
พฤติกรรมต่างๆออกมาเพื่อเป็นการตอบสนองต่อสิ่งเร้า
นั้นๆ ส่ิงมีชีวิตบนโลกน้ีต้องมีการตอบสนองต่อสิ่งเร้า เพื่อ
ปรับตัวให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและเพื่อเป็นดารง
เผา่ พันธใ์ุ หอ้ ยรู่ อดตอ่ ไป ซงึ่ มกี ารแสดงออกแตกต่างกัน

สิ่งเรา้ (Stimulus)

แบง่ ออกเปน็ 2 กลุ่ม

สิง่ เรา้ จากภายใน (Internal Stimulator) เชน่ ฮอร์โมน พชื (สาร
ควบคมุ การเจริญเตบิ โตของพืช) และ พันธุกรรม

สงิ่ เร้าจากภายนอก (Outernal Stimulator) เช่น แสง อุณหภมู ิ
นา้ และการสมั ผสั

ประเภทของการตอบสนองตอ่ สิ่งเรา้

การเคล่ือนไหวที่มีทิศทางสัมพันธ์กับทิศทางของสิ่งเร้า
(Tropic movement)
การเคลอ่ื นไหวของพืชโดยมที ิศทางไม่สัมพนั ธ์กบั ทิศทาง
ของสิ่งเรา้ (Nastic movement หรอื Nasty)
การเคล่ือนไหวทเ่ี กิดจากความเต่งของเน้อื เยอ่ื
(turgor movement)
การเคลอื่ นไหวแบบปลายยอดส่ันหรอื โยกไปมา (mutation)

1. การเคลือ่ นไหวท่มี ที ิศทางสัมพนั ธก์ ับทศิ ทาง
ของส่ิงเรา้ (Tropic movement)

 การเบนตามแสง (Phototropism)
การเคลื่อนไหวแบบน้ีมีสาเหตุมาจากการเจริญเติบโต

แบ่งเป็น 2 แบบ คอื
1) positive tropism เคลื่อนไหวเขา้ หาแสงเกิดจากการ

เจริญเติบโตโดยท่ีปลายยอดพืชหรือปลายยอดเมล็ดท่ีกาลัง
งอกจะมกี ารสร้าง ฮอร์โมนออกซนิ

1. การเคลอ่ื นไหวท่ีมีทิศทางสัมพันธก์ ับทิศทาง
ของสงิ่ เร้า (Tropic movement)

 การเบนตามแสง (Phototropism)
การเคลื่อนไหวแบบนี้มีสาเหตุมาจากการเจริญเติบโต

แบ่งเป็น 2 แบบ คอื
2) negative tropism เคล่ือนไหวหนีออกจากแสงเกิดที่

รากและปลายรากกาลังงอก

1. การเคลื่อนไหวทมี่ ีทศิ ทางสัมพันธ์กับทิศทาง
ของสิ่งเร้า (Tropic movement)

 การเบนเน่ืองจากความโนม้ ถ่วง (Gravitropism)
การเคลื่อนไหวแบบน้ีมีสาเหตุมาจากการเจริญเติบโต

แบง่ เป็น 2 แบบ คอื
1) Positive gravitropism รากของพืชจะเจริญไปในทศิ

เดียวกับแรงโน้มถ่วงของโลก

1. การเคลอ่ื นไหวที่มที ศิ ทางสัมพนั ธก์ ับทศิ ทาง
ของสง่ิ เร้า (Tropic movement)

 การเบนเนอ่ื งจากความโน้มถ่วง (Gravitropism)
การเคลื่อนไหวแบบนี้มีสาเหตุมาจากการเจริญเติบโต

แบง่ เป็น 2 แบบ คอื
2) Negative gravitropism ลาต้นของพืชจะเจริญไปใน

ทิศตรงข้ามกบั แรงโน้มถว่ งของโลกเสมอ

1. การเคลือ่ นไหวที่มีทศิ ทางสัมพนั ธ์กบั ทศิ ทาง
ของสิ่งเรา้ (Tropic movement)

 การเบนเนือ่ งจากสารเคมี (Chemotropism)
เช่น การงอกของละอองเรณบู นสว่ นยอดของ

รงั ไขเ่ ข้าหาไขโ่ ดยมีสารเคมีบางอย่าง เชน่ กลโู คส
หรือกรดมาลกิ (malic acid) เป็นสิ่งเร้า พวกราจะ
เคลื่อนไหวเข้าหาสารเคมีพวกเพปโทน (peptone)
หรือแอสพาราจีน (asparagine) ซึง่ เปน็ อาหารเสมอ

1. การเคลื่อนไหวท่มี ที ศิ ทางสัมพนั ธ์กบั ทศิ ทาง
ของสงิ่ เรา้ (Tropic movement)

 การเบนเน่อื งจากการสมั ผสั (Thigmotropism)
เปน็ การเคล่อื นไหวของพชื โดยมกี ารสมั ผัสเป็น

ส่ิงเร้า การเจรญิ ของโครงสร้างทยี่ ื่นไปพนั หลักที่
เรยี กวา่ มอื เกาะ (tendril) ซ่งึ จะเคลือ่ นไปพันหลกั
หรือเกาะต้นไมอ้ นื่ เชน่ มอื เกาะของตาลึง กระทกรก
พืชตระกลู แตง และมะระขีน้ ก

1. การเคลื่อนไหวทีม่ ีทิศทางสัมพันธก์ บั ทศิ ทาง
ของสงิ่ เร้า (Tropic movement)

 การโนม้ ตอบสนองอุณหภูมิ (Thermotropism)
เป็นการเคลอ่ื นไหวของพชื โดยมีอณุ หภูมิเปน็ ส่งิ เรา้ เชน่ ราก

ของพืชจะเจริญเขา้ หาความชนื้ หรอื น้าเสมอ ซ่ึงจะทาใหพ้ ชื เจรญิ เตบิ โต
ได้ดี เพราะน้า มคี วามจาเป็นและสาคญั ตอ่ การเจริญเตบิ โตของพืช

1. การเคล่อื นไหวทีม่ ีทิศทางสัมพันธ์กบั ทศิ ทาง
ของสิง่ เรา้ (Tropic movement)

 การเบนเข้าหาน้า (Hydrotropism)
เป็นการเคล่อื นไหวของพืชโดยมีอณุ หภมู เิ ปน็ สิ่งเรา้ เชน่

รากพชื จะเจรญิ เข้าหาความช้ืนหรอื น้าเสมอ ซง่ึ จะทาใหพ้ ชื
เจริญเติบโตไดด้ ี

2. การเคลอื่ นไหวของพืชโดยมที ศิ ทางไมส่ ัมพนั ธก์ ับ
ทิศทางของสง่ิ เรา้ (Nastic movement หรอื Nasty)

เก่ียวข้องกับการเจริญเติบโตเช่นกัน โดยมีสิ่งเร้าจาก
ภายนอกมากระตุ้น ส่ิงเร้าท่ีกระตุ้นส่วนต่าง ๆ ของพืชใน
ปริมาณท่ีเท่ากัน แต่พืชตอบสนองได้ไม่เท่ากัน มักเกิดกับ
ส่วนท่ีเบนของพืช เช่น ใบ และกลีบดอก ตอบสนองโดยการ
หบุ และการบาน

3. การเคล่อื นไหวทเ่ี กดิ จากความเต่งของเนือ้ เย่อื
(turgor movement)

ได้แก่
3 . 1 ก า ร หุ บ แ ล ะ ก า ง ใ บ ข อ ง
ไมยราบ

3. การเคล่อื นไหวทเ่ี กิดจากความเต่งของเน้อื เยอ่ื
(turgor movement)

ได้แก่
3.2 การหุบใบในตอนพลบค่าของต้นก้ามปู จามจุรี กระถิน
แค มะขาม และพืชตระกูลถั่ว หรือ ต้นไม้นอน (sleep
movement)

3. การเคลื่อนไหวทีเ่ กิดจากความเตง่ ของเน้อื เย่อื
(turgor movement)

ได้แก่
3.3 การเปิดปิดของปากใบ
(guard cell movement)

สรปุ


Click to View FlipBook Version