รายงานวิจัยในชัน้ เรียน
การใชแ้ บบฝกึ ทกั ษะการอา่ นอลั กรุ อานเบอื้ งต้น
เพือ่ พัฒนาผลสมั ฤทธิท์ างการเรยี นของผเู้ รียนวชิ าอิสลามศึกษา
ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 5
นางใขรยี่ ะ มา่ เหรม็
ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะครูชานาญการ
ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศกึ ษา 2564
กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม
โรงเรยี นกาแพงวทิ ยา อาเภอละงู จังหวัดสตลู
สานักงานเขตพนื้ ท่ีการศกึ ษามัธยมศกึ ษาสงขลา สตลู
ก
ช่อื เรอื่ ง การใชแ้ บบฝกึ ทักษะการอา่ นอัลกรุ อานเบ้ืองตน้ เพือ่ พัฒนาผลสมั ฤทธิท์ างการเรียนของ
ผูเ้ รยี นวิชาอิสลามศกึ ษาช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 5
ผวู้ จิ ยั นางใขร่ยี ะ ม่าเหร็ม
กลุ่มสาระฯ
ปกี ารศกึ ษา สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม
2564
บทคดั ย่อ
งานวจิ ยั คร้ังนม้ี วี ัตถปุ ระสงคเ์ พ่ือเปรียบเทยี บผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี น เรื่อง อลั กรุ อาน ของนกั เรยี นช้ัน
มธั ยมศกึ ษาปีที่ 5 ก่อนเรียนและหลังเรียนโดยการใชแ้ บบฝึกทักษะการอ่านอลั กุนอานเบ้อื งตน้
กลุม่ ตวั อยา่ งท่ีใช้ในการวจิ ัยครัง้ น้ี เปน็ นักเรียนชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 5/1 โรงเรียนกาแพงวิทยา อาเภอละงู
จงั หวัดสตูล ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศกึ ษา 2564 จานวน จานวน 30 คน ใช้เวลาทดลองทัง้ สน้ิ 3 คาบ คาบละ 50
นาที เครื่องมอื ที่ใชใ้ นการวจิ ับครั้งน้ปี ระกอบดว้ ย 1.แผนการจดั การเรยี นรู้ จานวน 1 แผน 2. นวตั กรรมท่ีใชค้ ือ
แบบฝกึ ทักษะการอ่านอัลกรุ อานเบือ้ งต้น 3. แบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นรายวิชาอิสลามศึกษา การ
วิเคราะหข์ อ้ มลู โดยการหาคา่ ร้อยละ และคา่ เฉลย่ี ผลการวิจัยสรปุ ไดด้ ังนี้
1. คะแนนหลังเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านกุรอานเบื้องต้น นักเรียนมีค่าเฉล่ียเท่ากับและ
มากกวา่ ร้อยละ60 ทุกคน
2. คะแนนก่อนเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านอัลกุรอานเบ้ืองต้น นักเรียนทาคะแนนสูงสุดได้ 8
คะแนน คะแนนตา่ สุดได้ 0 คะแนน คะแนนเฉล่ยี 4.03 และหลังเรยี นด้วยการใชแ้ บบฝกึ ทักษะการ
อ่านอัลกุรอานเบ้ืองต้น นักเรียนทาคะแนนสูงสุดได้ 10 คะแนน และคะแนนต่าสุดได้ 6 คะแนน
คะแนนเฉล่ีย 8.27 คะแนน แสดงให้เห็นวา่ หลังการเรียนรู้โดยการใช้แบบฝกึ ทักษะการอ่านอัล
กรุ อานเบ้ืองต้น นกั เรียนมผี ลสมั ฤทธ์ิหลงั เรยี นสูงกวา่ ก่อนเรยี น
ข
สารบญั
หนา้
บทคดั ย่อ………………………………………………………………………………………………………………………………………. ก
สารบัญ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ข
สารบัญตาราง…………………………………………………………………………………………………….………………………… ค
บทที่ 1 บทนา……………………………………………………………….…………………………………………….………………… 1
ความเปน็ มาและความสาคัญของปัญหา…………….…………………………………………………………………….. 1
วัตถุประสงคข์ องการวิจัย…………………………………..…………………………………………………………………… 1
สมมตฐิ านของงานวิจยั ………………………………………..……………………………………………….………………… 1
ขอบเขตของการวจิ ยั ……………………………………………..………………………………………………………………. 1
บทท่ี 2 เอกสารและงานวิจัยทีเ่ ก่ียวขอ้ ง……………….………………………………………………………………………… 3
เอกสารเก่ยี วกบั แบบฝึกทกั ษะ………………………………………………………………………………………………… 3
งานวิจยั ที่เก่ียวข้อง………………………………………………………………………………………………………………… 5
บทท่ี 3 วิธีดาเนินการวจิ ยั ………………………….………………………………………………………..………………………… 6
รูปแบบการวจิ ัย…………………………………………………………………………………………………………………….. 6
ประชากรและกลุ่มตัวอยา่ ง…………………………………………………………………………………………………….. 6
เคร่ืองมอื ที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมลู …………………………………………………………………………………….. 6
ขั้นตอนการสรา้ งและพัฒนาเครื่องมือ………………………………………………………………………………………. 6
การเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล……………………………………………………………………………………………………………. 8
การวเิ คราะหข์ ้อมูล………………………………………………………………………………………………………………… 8
บทที่ 4 ผลการวเิ คราะหข์ อ้ มูล………………………………………………………….……………………………………………. 9
ผลการวิเคราะหข์ อ้ มูล…………………………………………………………………………………………………………….. 9
บทที่ 5 สรปุ อภิปรายผล และขอ้ เสนอแนะ……………………..…………………………………………….……………….. 13
สรุปผลการวจิ ัย……………………………………………………………………………………………………………………… 13
อภปิ รายผล…………………………………………………………………………………………………………………………… 13
ขอ้ เสนอแนะ…………………………………………………………………………………………………………………………. 13
บรรณานกุ รม……………………………………………………………………………………………………………………………….. 15
ภาคผนวก……………………………………………………………………………….…………………………………………….……… 16
ภาคผนวก ก แผนการจดั การเรียนรู.้ ..................................……………………………..………………………….. 17
ค
สารบญั ตาราง
ตารางที่ หน้า
1. แสดงคะแนนหลงั เรียนโดยการใชแ้ บบฝึกทักษะการอ่านอลั กรุ อานเบือ้ งต้นเทยี บกบั เกณฑ์รอ้ ยละ60 9
2. แสดงค่าพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นกอ่ นและหลงั เรยี นโดยใชแ้ บฝกึ ทกั ษะการอา่ นอัลกุรอาน
เบ้ืองต้น 11
1
บทที่ 1
บทนา
ความเปน็ มาและความสาคญั ของปัญหา
อัลกรุ อานเปน็ บทบัญญตั ิทอี่ ลั ลอฮ์ทรงประทานลงมาแก่มนษุ ยชาตโิ ดยผ่านญิบรีลซึ่งเป็นเทวฑตู และมี
ท่านศาสดามุฮาหมัดเป็นสอื่ ในการเผยแผ่ การเรยี นการสอนอัลกุรอานมีความสาคัญอย่างย่ิงเพราะอัลกุรอานถอื
เปน็ ธรรมนูญแหง่ ชวี ติ ทีม่ สุ ลิมทกุ คนต้องศรทั ธาและมีความเชื่อมัน่ ในการปฏบิ ัติ ตอ้ งมีความสามารถในการอ่าน
รู้ความหมายเพื่อสามารถนาไปสูก่ ารปฏบิ ัตอิ ยา่ งถกู ต้อง
การจดั กจิ กรรมการเรยี นรทู้ จี่ ะชว่ ยให้เกิดประสทิ ธภิ าพ ควรจดั ให้ผูเ้ รยี นได้ มสี ่วนรว่ มในการจัด
กิจกรรมให้มากท่ีสุด ครูผู้สอนควรจดั กจิ กรรมท่ีเน้นให้ผูเ้ รียนได้ฝึกฝนดว้ ยตนเอง มลี าดับขั้นตอนจากง่ายไปหา
ยาก มีจิตวิทยาในการจดั การเรียนรู้
จากความสาคญั ดังกล่าวผู้สอนจงึ ไดค้ ิดคน้ หาวธิ ีในการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ เพอื่ ให้สอดคลอ้ งกบั ปัญหา
ท่ีเกิดขึน้ นั่นก็คอื นกั เรยี นช้ันม. 5/1 ร้อยละ 50 มคี วามร้พู ้ืนฐานในการอา่ นอัลกรุ อานค่อนข้างต่า โดยสร้างแบบ
ฝึกทักษะการอ่านอัลกรุ อานเบ้ืองต้นขึ้นซงึ่ เปน็ วธิ กี ารหนึ่งที่ทาใหผ้ ู้เรียนมที กั ษะการอ่านท่ีถูกตอ้ ง และมีผลทาให้
ผลสัมฤทธิท์ างการเรยี นสงู ขึ้นอีกดว้ ย
วตั ถุประสงคข์ องการวจิ ัย
เพอื่ เปรียบเทยี บผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นเรือ่ ง อัลกรุ อาน ของผู้เรยี นชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5/1 กอ่ นเรยี น
และหลังเรียนด้วยแบบฝกึ ทักษะการอา่ นอลั กรุ อานเบอ้ื งต้น
สมมติฐานของงานวิจยั
นักเรียนช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 5/1 มผี ลสัมฤทธท์ิ างการเรียน ในรายวิชาอิสลามศกึ ษา เรือ่ ง อลั กุรอานโดย
ใชแ้ บบฝึกทักษะการอา่ นอลั กุรอานเบื้องตน้ สูงกวา่ ก่อนเรียน
ขอบเขตของการวจิ ยั
ประชากร
ประชากรที่ใช้ในการวจิ ัยไดแ้ กน่ ักเรยี นช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี 5/1 โรงเรยี นกาแพงวิทยา อาเภอ
ละงู จังหวัดสตูล จานวน 30 คน
กลมุ่ ตัวอยา่ ง กลมุ่ ตวั อย่างที่ใช้ในการวจิ ัย ได้แกน่ กั เรยี นช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 5/1 ทเ่ี รยี นวิชาอสิ ลามศกึ ษา
จานวน 30 คน
2
เนอ้ื หาที่ใช้ในการวิจยั
เนื้อหารายวิชาอิสลามศกึ ษา เร่ืองการอ่านกุรอานเบอ้ื งต้น
ระยะเวลาทใ่ี ช้
ดาเนินการทดลองในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 จานวน 3 สัปดาห์ๆละ 1 คาบ รวม 3
คาบๆ ละ 50 นาที โดยในการดาเนินการ ทาการทดสอบก่อนเรยี น ฝกึ ฝนการอา่ นจากแบบฝึกเสริมทกั ษะ และ
ทาแบบทดสอบหลังเรียน จานวน 3 คาบ
ตัวแปรทศี่ ึกษา
ตัวแปรต้น แบบฝึกทกั ษะการอ่านอลั กรุ อานเบื้องต้น
ตวั แปรตามคอื ผลสัมฤทธท์ิ างการเรยี น
3
บทท่ี 2
เอกสารและงานวิจยั ท่ีเกี่ยวขอ้ ง
การใช้แบบฝึกเสริมทักษะเรื่อง การอ่านอัลกรุ อานเบื้องต้น เพ่ือพัฒนาผลการสัมฤทธิ์วิชาอิสลามศึกษา
ของนักเรยี นชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 5/1 ผวู้ จิ ยั ไดศ้ ึกษาค้นควา้ เอกสารและงานวจิ ัยตา่ งๆ ดงั นี้
1. เอกสารเกย่ี วกับแบบฝกึ เสริมทักษะ
2. งานวจิ ัยทเี่ ก่ยี วขอ้ ง
1. เอกสารเกี่ยวกบั แบบฝกึ เสรมิ ทกั ษะ
1.1 ความหมาย
การฝึกทกั ษะในการเรยี นอลั กรุ อานเป็นสิ่งจาเปน็ มาก เพราะต้องอาศัยการฝึกฝน
จนเกิดความชานาญ แบบฝึกทกั ษะมีช่ือเรียกต่าง ๆ กัน เชน่ ชุดฝกึ แบบฝึก เปน็ ตน้ การศึกษา
คน้ คว้ามผี ใู้ ห้ความหมายของแบบฝกึ ทักษะ ดังนี้
ไพบูลย์ มูลดี (2546, หนา้ 48) ให้ความหมายของแบบฝึกทักษะวา่ แบบฝกึ ทักษะเปน็ ชุดการเรยี นร้ทู ่คี รู
จัดทาขึ้น ให้ผู้เรียนได้ทบทวนเนอ้ื หาที่เรยี นร้มู าแลว้ เพ่อื สร้างความรู้ ความเข้าใจจะชว่ ยเพิ่มทกั ษะความชานาญ
และช่วยฝึกทักษะการคิดใหม้ ากขึน้ ท้ังยงั มปี ระโยชน์ในการลดภาระใหก้ บั ครู อีกท้ังพฒั นาความสามารถของ
ผ้เู รียนทาให้ผู้เรียนมองเห็นความก้าวหนา้ จากผลการเรยี นรู้ของตนเองได้
พนิ จิ จันทร์ซ้าย (2546, หน้า 90) ได้ใหค้ วามหมายของแบบฝกึ ทักษะวา่ แบบฝกึ ทกั ษะ หมายถึง งาน
กจิ กรรม หรือประสบการณ์ท่ีผู้สอนจัดให้ผูเ้ รยี นไดฝ้ กึ ปฏบิ ัติ เพ่อื ทบทวนความรู้ท่ีเรียนมาแล้ว ให้สมารถนา
ความร้ทู ่ีไปประยกุ ตใ์ ช้ในชีวติ ประจาวัน
ปราณี จิณฤทธิ์ (2552, หน้า 32) ได้กลา่ ววา่ แบบฝึก หมายถงึ งานทีค่ รูมอบหมายใหน้ ักเรยี นทาดว้ ย
ตนเองภายหลงั จากไดเ้ รยี นบทเรียน เพื่อเปน็ การทบทวนและฝกึ ทกั ษะในเร่อื งทเี่ รียนผ่านมาแลว้
ประภาพร ถิน่ ออ่ ง (2553, หน้า 29) ไดก้ ลา่ วว่า แบบฝึกทกั ษะ หมายถึง สอื่ การเรียนการสอนท่ีสร้างขึ้น
เพ่อื ให้นักเรยี นไดฝ้ ึกปฏิบัติด้วยตนเองจนเกดิ ความรู้ ความเข้าใจเพิ่มขนึ้ โดยที่กิจกรรมทไ่ี ด้ปฏิบตั ิในแบบฝึกน้ัน
จะครอบคลุมเน้ือหาทเี่ รียนไปแลว้ ทาใหน้ ักเรยี นมคี วามรแู้ ละทักษะมากขึ้น เพราะมรี ูปแบบหรอื ลักษณะที่
หลากหลาย
สมพร ตอยยบี ี (2554, หนา้ 32) ไดก้ ล่าวว่า แบบฝกึ ทกั ษะเป็นสื่อการเรยี นรู้ท่ชี ่วยให้ผ้เู รยี นไดฝ้ กึ ปฏบิ ตั ิ
เพอ่ื พฒั นาทักษะและความรตู้ า่ ง ๆ จนเกดิ ความชานาญ และสามารถนาความรู้ไปใช้ไดอ้ ย่างถกู ต้อง
1.2 ลกั ษณะของแบบฝึกทกั ษะท่ีดี
สาลี รักสุทธี (ม.ป.ป., หนา้ 31-32) ได้กล่าวถึง ลักษณะของแบบฝกึ ทักษะท่ีดี มีดังน้ี
1. มีคาสง่ั ชัดเจน เข้าใจ เหมาะสมกับวยั เดก็
2. มตี วั อยา่ งประกอบ ตวั อยา่ งที่ดีควรให้ผู้เรียนเกิดความคิดหลาย ๆ แนวคดิ
3. มีตัวอยา่ งประกอบเพ่อื ดึงดูดความสนใจและสื่อความหมาย
4
4. มเี น้อื ท่สี าหรบั เขียน เวน้ ให้มขี นาดเหมาะสมกับคาทีน่ ักเรียนต้องการเขียน
5. การวางรปู แบบที่ดี จะทาให้เกิดความเรียบรอ้ ย สวยงามและประหยัด
6. ควรบันทึกว่าการสอนที่สอดคลอ้ งกบั จุดมงุ่ หมายของแบบฝึกไวใ้ นคู่มือ
พินิจ จนั ทรซ์ า้ ย (2546, หนา้ 92) กล่าวถงึ ลักษณะของแบบฝกึ ที่ดี ประกอบด้วย เนอื้ หาต้องชัดเจน มี
รปู แบบ เรา้ ความสนใจ ตอบสนองการเรียนรขู้ องผู้เรยี น และทาใหผ้ ู้เรยี นมี ความสขุ ในการเรียน
อานวย เลือ่ มใส (2546, หน้า 93) กล่าวถงึ ลกั ษณะท่ีดขี องแบบฝึกทักษะ ดงั น้ี
1. ควรเกีย่ วข้องกับเรื่องทีเ่ รยี นมาแล้ว เป็นเร่อื งทมี่ ีความหมายตอ่ ผู้เรยี น และ สามารถนาไปใช้ใน
ชวี ติ ประจาวันได้
2. ตรงตามจุดมงุ่ หมายของการฝึก ลงทุนน้อย และทนั สมัยอยูเ่ สมอ
3. ภาพประกอบ ภาษา สานวนภาษา ความยากง่าย และเวลาในการฝึกมีความ
เหมาะสมกบั วยั และพน้ื ฐานความรู้ความสามารถของผเู้ รียน เพราะจะทาให้ฝกึ ได้เร็วและ สนุกสนาน
1.3 หลกั การสร้างแบบฝึกทักษะ
นติ ยา กจิ โร (2553, หน้า 40) ได้สรปุ หลักการสรา้ งแบบฝึกไว้ ดงั นี้
1. กอ่ นสร้างแบบฝึกจาเปน็ ต้องกาหนดโครงรา่ งไวก้ อ่ นว่ามีวตั ถปุ ระสงค์อย่างไร แบบฝึกเกี่ยวกบั เรื่อง
อะไร
2. ศกึ ษาเอกสารและงานวจิ ยั ทีเ่ กย่ี วข้อง
3. เขียนวัตถุประสงค์เชงิ พฤติกรรม
4. แจง้ วตั ถุประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรมยอ่ ย โดยคานึงถงึ ความเหมาะสมของผู้เรยี น
5. กาหนดอุปกรณ์ท่ีใช้ในแต่ละกิจกรรม
6. กาหนดเวลา และข้ันตอนใหเ้ หมาะสม
7. การประเมินผลอยา่ งไร
ประภาพร ถ่ินอ่อง (2553, หนา้ 35) ไดก้ ล่าวว่า หลักการสร้างแบบฝึกทักษะควร คานึงถึงหลักจติ วทิ ยา
ในการเรียนรูโ้ ดยมจี ดุ มงุ่ หมายในการฝึก แบบฝกึ ควรเร่ิมจากงา่ ยไปหา ยาก มีหลายแบบ มตี ัวอยา่ งประกอบ มี
ภาพประกอบ และสามารถศึกษาได้ดว้ ยตนเอง
ปราณี จิณฤทธ์ิ (2552, หน้า 32) ไดก้ ล่าววา่ หลกั การสร้างแบบฝึกผู้สร้างตอ้ งคานงึ ถึงความแตกตา่ ง
ระหว่างบคุ คล แบบฝกึ ท่ีสร้างตอ้ งมีหลาย ๆ รูปแบบ สร้างจากง่ายไปหายาก มีความถูกตอ้ ง ในการสรา้ งแบบฝกึ
มกี ารสอดแทรกทักษะวิชาอ่นื เข้าไปดว้ ย ควรจดั ทาแบบฝกึ ไวล้ ่วงหนา้ เพราะแบบฝกึ ควรทาหลงั จากผูเ้ รียนได้
เรียนบทเรยี นในเรื่องนน้ั ๆ จบลงทนั ที
อษุ ณีย์ เสือจนั ทร์ (2553, หน้า 26) ได้กล่าวว่า หลกั การสรา้ งแบบฝึกผสู้ ร้างตอ้ ง ศกึ ษาปัญหาของ
เนื้อหาท่ีนามาสรา้ งแบบฝกึ โดยนามาตัง้ วัตถุประสงค์ตลอดจนรูปแบบ และ วางแผนขั้นตอนการใช้แบบฝกึ การ
สรา้ งแบบฝกึ ต้องสอดคล้องกับเนือ้ หาและทกั ษะที่ต้องการ ฝกึ ตอ้ งนาหลักจิตวิทยาการเรียนรู้ และจติ วิทยา
พฒั นาการมาเป็นแนวทางในการสรา้ งแบบฝกึ กอ่ นนาไปใชค้ วรมีการทดลองใช้เพ่อื หาข้อบกพรอ่ งของแบบฝึก
5
ดงั ทีก่ ลา่ วมาแลว้ สรปุ ได้ว่า หลักการสรา้ งแบบฝกึ ทกั ษะควรคานงึ ถงึ หลกั จติ วิทยาในการเรยี นรู้โดยมีจุดมุ่งหมาย
ในการฝกึ มีหลายรูปแบบและแบบฝึกควรเร่ิมจากงา่ ย ไปหายาก มีหลายแบบ มีตัวอย่างประกอบ มี
ภาพประกอบ และสามารถศกึ ษาได้ด้วยตนเอง
2. งานวจิ ัยท่เี กี่ยวขอ้ ง
กรรณกิ าร์ ภริ มย์รัตน. (2553). การเปรยี บเทยี บผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียนสาระการเรยี นรู้ภมู ิศาสตร์
เรอื่ ง ทวปี ยโุ รปก่อนเรยี นและหลงั เรียนของนกั เรยี นชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 3 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏ
สวนสุนันทา โดยใชแ้ บบฝกึ เสรมิ ทักษะ.
การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสาระการเรียนรู้ภูมิศาสตร์ เรื่อง ทวีปยุโรป ของ นักเรียนที่เรียนด้วย
แบบฝึกเสรมิ ทักษะ หลังเรียนสงู กว่าก่อนเรยี นอย่างมีนัยสาคญั ทางสถิติทร่ี ะดับ.05
กาญจนา ข้าวจ้าว และสุธารทิพย์ เรืองประภาวุฒิ (2560) พัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เร่ืองการ
ถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม เพ่ือพัฒนาผลการเรียนรวู้ ชิ าชวี วิทยาของนกั เรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียน
เตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ นนทบุรี ผลการศึกษาพบว่า 1) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาชีววิทยา เรื่องการ
ถ่ายทอดลกั ษณะทางพันธุกรรมของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 4 โรงเรยี นเตรยี มอุดมศึกษาพฒั นาการ นนทบุรี
ที่สร้างข้ึน มีประสิทธิภาพเท่ากับ 80.25/80.10 ซึ่งสูงกวา่ เกณฑ์มาตรฐาน 80/80 2) คะแนนผลการเรียนรูข้ อง
นักเรียหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ .01 3) นักเรียนมีความพึงพอใจต่อชุด
กจิ กรรมการเรียนรู้ ในระดับมาก คา่ เฉลี่ยเทา่ กับ 4.45
ชวพี ร คชสนิ ธ์ (2560) ศกึ ษาการพฒั นาทกั ษะทางวิทยาศาสตร์ เรื่องการถ่ายทอดลักษณะทาง
พันธกุ รรม โดยใช้แบบฝกึ ทักษะ ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 3 โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 15 (เวียงเก่าแสนภูวิทยา
ประสาท) พบวา่ นักเรยี นช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3/1 และ ม.3/3 จานวน 57 คน โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 15
(เวียงเกา่ แสนภูวิทยาประสาท) ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2560 มผี ลการพัฒนาทักษะทางวทิ ยาศาสตร์หลังการ
พฒั นาสงู กว่ากอ่ นการพฒั นา และมคี า่ ร้อยละความก้าวหนา้ รอ้ ยละ 13.50 คะแนน
ทรงพล หม่ันประสงค์ (2560) ศึกษาการใช้ชุดกิจกรรมแบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาทางพันธุ
ศาสตร์เร่ือง การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมในการพัฒนาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของนักเรียนชั้น
มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6 โรงเรยี นอามาตย์พานิชนุกูล จังหวัดกระบี่ ผลการวิจยั พบวา่ ชดุ กิจกรรมแบบฝึกทักษะการแก้
โจทยป์ ัญหาทางพนั ธุศาสตร์ เรอ่ื ง การถา่ ยทอดลักษณะ ทางพนั ธุกรรม มปี ระสิทธภิ าพตามเกณฑ์ 80/80 โดยมี
ประสิทธิภาพโดยเฉล่ีย 91.13/89.85 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม ของ
นกั เรยี นหลังไดร้ ับการจดั การเรยี นรู้โดยใชช้ ดุ กจิ กรรมแบบฝึกทักษะการแกโ้ จทย์ปญั หาทางพนั ธศุ าสตร์เร่ือง การ
ถา่ ยทอดลกั ษณะทางพันธุกรรม สูงกว่ากอ่ นจัดการเรียนรู้ อยา่ งมนี ยั สาคญั ทางสถิติทร่ี ะดบั .05
6
บทท่ี 3
วธิ ดี าเนนิ การวจิ ยั
การใช้แบบฝกึ ทักษะการอ่านอัลกุรอานเบ้ืองต้น เรื่อง อัลกุรอาน ในการพัฒนาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน
ของนักเรยี นช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 5 ผ้วู จิ ัยไดม้ วี ธิ ีการดาเนนิ การวจิ ยั ดังน้ี
1. รูปแบบการวิจัย
2. ประชากรและกลมุ่ ตวั อย่าง
3. เครอื่ งมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมขอ้ มูล
4. ขั้นตอนการสรา้ งและพัฒนาเครอื่ งมอื
5. การเก็บรวบรวมข้อมลู
6. การวิเคราะหข์ ้อมูล
1. รปู แบบการวจิ ยั
การดาเนินการวจิ ัยใช้รปู แบบการวจิ ยั ประเมนิ ผลการเรียนรู้แบบ One Group Pre-test Post-test
Design
2. ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
ประชากร
ประชากรทใ่ี ชใ้ นการวิจยั ได้แก่ นักเรยี นชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 5/1 โรงเรียนกาแพงวิทยา อาเภอ
ละงู จงั หวดั สตลู ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศึกษา 2564 จานวน 1 ห้อง รวม 30 คน
กลมุ่ ตวั อยา่ ง
กลุ่มตวั อย่างทใี่ ชใ้ นการวิจัย ได้แก่ นกั เรยี นช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 5/1 จานวน 30 คน
3. เครอ่ื งมือทีใ่ ชใ้ นการเกบ็ รวบรวมข้อมูล
3.1 ชุดกิจกรรมแบบฝึกทกั ษะการอา่ นอัลกุรอานเบ้อื งต้น ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 5 จานวน 1 ชดุ
3.2 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธทิ์ างการเรยี นวิชาอิสลามศึกษา เร่อื งอลั กรุ อาน
4. ขัน้ ตอนการสรา้ งเคร่ืองมือ
ชุดกิจกรรมแบบฝกึ ทักษะการอ่านอลั กรุ อานเบอ้ื งต้น
ผู้วิจัยสร้างชุดกิจกรรมแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านอัลกุรอาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จานวน 1
ชดุ โดยมีขัน้ ตอนในการดาเนนิ การดงั น้ี
1) ขัน้ สร้าง
1.1) ศึกษาหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ฉบับปรับปรงุ
2560 หลกั สตู รสถานศึกษา หลักการ แนวคิด ทฤษฎีและงานวิจัยทเี่ ก่ียวกับชุดกิจกรรมการเรียนรู้
1.2) วเิ คราะห์เน้ือหา และกาหนดจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ เร่ือง อลั กรุ อาน
7
1.3) พจิ ารณากาหนดกรอบผลการเรียนรู้ เน้ือหา กิจกรรม สื่อประกอบการสอน และ
การวัดผลประเมนิ ผล
1.4) สร้างแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านอัลกุรอานเบ้อื งตน้ ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 5/1 โดย
ใหส้ มั พันธก์ ับเน้ือหา และรว่ มกบั แผนการจัดการเรยี นรู้ จานวน 3 ชว่ั โมง จานวน 1 ชดุ
ซึง่ ประกอบไปดว้ ย
(1) ชอ่ื กิจกรรม
(2) คาชีแ้ จงการใชช้ ุดกิจกรรม เพอ่ื บอกข้นั ตอนการทากจิ กรรมต่างๆ ใหน้ ักเรียนทราบ
(3) สาระและมาตรฐานการเรียนรู้
(4) แบบทดสอบก่อนเรียน
(5) ใบความรู้เปน็ ส่ิงทบ่ี อกเนื้อหาของบทเรยี นทน่ี กั เรียนจะต้องศึกษา
(6) แบบฝกึ ทักษะการอ่านอลั กุรอานเบอ้ื งต้น
(9) แบบทดสอบหลงั เรยี น
2) ข้นั นาไปใช้
2.1) นาแบบฝึกทักษะการอา่ นอลั กุรอาน ไปใช้กับนักเรียนกลุ่มตัวอย่าง นักเรียนชน้ั
มัธยมศึกษาปีท่ี 5/1 โรงเรยี นกาแพงวิทยา อาเภอละงู จงั หวัดสตลู ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศกึ ษา 2564
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี น
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิท์ างการเรียน ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 โดยมีขน้ั ตอนการสร้างดังนี้
1) ขน้ั สร้าง
1.1) ศึกษาเนื้อหาเรอ่ื ง อลั กุรอาน และกาหนดจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
1.2) สร้างแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาอิสลามศึกษา โดยครอบคลุม
เน้ือหา และจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ เป็นแบบทดสอบการอา่ น
2) ขนั้ พัฒนา
2.1) เสนอแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องอัลกุรอาน ต่อผู้เชี่ยวชาญ
จานวน 3 ท่าน เพื่อหาดัชนีความสอดคล้องระหว่างข้อคาถามรายขอ้ กับวตัถปุ ระสงค์หรือจุดประสงค์ท่ีต้องการ
วดั โดยพจิ ารณาว่าข้อสอบแต่ละข้อมีความสอดคล้องกับจดุ ประสงคห์ รอื ไม่ (IOC)
โดยกาหนดคะแนนความเห็นดังนี้
+1 แนใ่ จว่า ข้อสอบสอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้
0 ไม่แนใ่ จว่า ขอ้ สอบสอดคล้องกับจดุ ประสงค์การเรยี นรู้
-1 แนใ่ จว่า ข้อสอบไม่สอดคล้องกับจุดประสงคการเรียนรู้
แลว้ บนั ทกึ ผลการพิจารณาของผู้เช่ียวชาญในแตล่ ะข้อ ถ้าดัชนีที่คานวณไดม้ ากกว่า
หรือเท่ากับ 0.5 แสดงว่าข้อสอบข้อน้ันเป็นตัวแทนของจุดประสงค์น้ัน ส่วนข้อท่ีได้ดัชนีน้อยกว่า 0.5 นามา
ปรับปรงุ แก้ไข
8
2.2) เมื่อปรับปรุงแก้ไขและคัดเลือกแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนแล้ว
จากน้ันจดั ทาแบบทดสอบวัดผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี นฉบับสมบูรณ์
3) ขั้นนาไปใช้
3.1) นาแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนไปทดลองใช้กับนักเรียนกลุ่มตัวอย่าง
ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 5/1 โรงเรยี นกาแพงวิทยา อาเภอละงู จังหวัดสตลู ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศึกษา 2564 เพ่ือเก็บ
รวบรวมและวิเคราะห์ขอ้ มูลต่อไป
5. การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู
1) ช้ีแจงนกั เรยี นก่อนที่จะดาเนนิ กจิ กรรมเพอ่ื ให้นกั เรียนมีความรู้ความเข้าใจในการเรียนโดยใช้แบบฝึก
ทักษะการอ่านอลั กุรอานเบ้อื งตน้ ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 5 ใหเ้ ขา้ ใจถงึ บทบาทของนกั เรยี นจะไดป้ ฏบิ ัติตนได้ถูกต้อง
2) นาแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ซึ่งเป็นแบบทดสอบการอ่านอลั กุรอาน ไปทดลองใช้กับ
นกั เรยี นกล่มุ ตัวอยา่ งช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ 5/1 ทผี่ วู้ ิจยั ได้สรา้ งขนึ้ โดยใช้เวลาสอน 3 ชวั่ โมง
4) เก็บรวบรวมข้อมูล โดยประเมินทักษะการอ่าน ประเมินคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ด้านการทางาน
ดา้ นความรอบคอบ และด้านความรับผิดชอบ ซ่ึงดาเนนิ การประเมนิ ระหวา่ งเรียน โดยครูเป็นผู้ประเมนิ จากน้ัน
นาผลที่ได้มาวิเคราะหแ์ ละสรปุ บันทึกขอ้ มูลขอ้ บกพร่องท่คี วรปรับปรุงแก้ไขเพ่อื นาไปใชใ้ นคร้ังต่อไป
5) หลงั จากดาเนินการทดลองสอนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ใหน้ ักเรยี นทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี น ท่ี
เป็นแบบทดสอบอัลกุรอาน ฉบับเดียวกับก่อนเรียน เพ่ือนาคะแนนที่ได้ไปวิเคราะห์ผล แล้วเก็บรวบรวมข้อมูล
วเิ คราะหผ์ ล สรุปผลและแปรผลตอ่ ไป
6. การวิเคราะห์ข้อมลู
การวิเคราะหข์ ้อมลู ผวู้ ิจยั ดาเนนิ การดงั นี้
1) ศึกษาเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จากที่ได้รับการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะ
การอ่นอัลกุรอานเบื้องต้น ของนักเรียนก่อนและหลังเรียน โดยการเปรียบเทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน ร้อยละ60
แลว้ สรุปผล
2) ศึกษาเปรยี บเทียบค่าพฒั นาผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนจากท่ีได้รับการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะ
การอ่านอลั กุรอานเบ้อื งต้น ของนักเรียนก่อนและหลังเรยี นแล้วสรปุ ผล
9
บทท่ี 4
ผลการวเิ คราะห์ข้อมลู
การวจิ ยั คร้ังนมี้ วี ตั ถปุ ระสงคเ์ พ่อื เปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนวิชาอิสลามศึกษาก่อนและหลังการ
ใชแ้ บบฝึกทักษะการอา่ นอัลกุรอานเบื้องต้น ในการพัฒนาผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นของนกั เรยี นชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี
5/1 ซึ่งผวู้ จิ ัยนาเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูล ดังต่อไปน้ี
ตอนท่ี1 การเปรยี บเทียบผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี น หลังใชแ้ บบฝึกทักษะการอา่ นอัลกรุ อานเบือ้ งต้นกบั
เกณฑ์ ร้อยละ60
ตอนที่ 2 การเปรียบเทยี บคา่ พัฒนาผลสัมฤทธิท์ างการเรยี น เร่อื งอัลกุรอาน
ตอนที่ 1 การเปรยี บเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องอัลกรุ อาน หลงั ใชแ้ บบฝกึ ทักษะการอ่านอลั กรุ อาน
เบ้อื งต้น กับเกณฑร์ อ้ ยละ60
การเปรยี บเทยี บผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียนวิชาอิสลามศกึ ษาโดยการใช้แบบฝกึ ทักษะการอ่านอลั กรุ อาน
เบ้ืองตน้ ของนักเรยี นชัน้ มัธยมศึกษาปีที่5 โรงเรยี นกาแพงวทิ ยา อาเภอละงู จังหวดั สตูล กับเกณฑร์ ้อยละ 60
ผลการวเิ คราะหข์ อ้ มูลปรากฏดังแสดงในตารางที่ 1
ตารางที่ 1 แสดงคะแนนหลงั เรยี นโดยการใช้แบบฝกึ ทกั ษะการอ่านอัลกรุ อานเบื้องต้น ของนักเรียนช้ัน
มธั ยมศึกษาปที ่ี 5/1 โรงเรียนกาแพงวิทยา เมอ่ื เทียบกับเกณฑ์ร้อยละ 60
นกั เรียนคนที่ คะแนนหลงั เรียน เทียบกบั เกณฑ์รอ้ ยละ 60
(คะแนนเต็ม 10 คะแนน) ผา่ นเกณฑ์ คะแนน 6 คะแนน)
1
2 9 90
3 6 60
4 8 80
5 9 90
6 10 100
7 6 60
8 8 80
9 8 80
10 6 60
11 9 90
12 8 80
8 80
นกั เรียนคนที่ คะแนนหลงั เรยี น 10
(คะแนนเตม็ 10 คะแนน)
13 เทียบกบั เกณฑ์รอ้ ยละ 60
14 6 ผ่านเกณฑ์ คะแนน 6 คะแนน)
15 8
16 9 60
17 9 80
18 8 90
19 9 90
20 9 80
21 9 90
22 9 90
23 10 90
24 9 90
25 9 100
26 8 90
27 6 90
28 9 80
29 8 60
30 9 90
คา่ เฉลย่ี 9 80
8.27 90
90
82.67
จากตารางท่ี 1 จะเห็นได้วา่ หลงั เรยี นโดยใช้แบบฝกึ เสริมทักษะการอ่านอลั กุรอานเบอื้ งตน้ นักเรียนมผี ลสมั ฤทธ์ิ
ทางการเรยี นมากกว่าหรือเทา่ กบั เกณฑ์ร้อยละ 60 ทกุ คนและมีค่าเฉล่ียรวม 82.67
ตอนท่ี 2 การเปรยี บเทียบค่าพัฒนาผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี น เรือ่ งอลั กรุ อานกอ่ นและหลังเรียน
การเปรียบเทียบค่าพฒั นาผลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี น เร่ืองอัลกุรอานกอ่ นและหลงั เรียนโดยการใช้แบบฝึก
ทักษะการอา่ นอลั กรุ อานเบ้อื งต้น ของนักเรยี นชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 5/1 โรงเรียนกาแพงวทิ ยา ดังตารางที่ 2
11
ตารางที่ 2 แสดงค่าพฒั นาผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียนเรื่องอัลกรุ อานกอ่ นและหลังเรียนโดยการใช้แบบฝกึ ทกั ษะ
การอ่านอัลกรุ อานเบ้ืองตน้ ของนักเรยี นชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 5/1 โรงเรียนกาแพงวทิ ยา
นกั เรียนคนท่ี คะแนนก่อนเรยี น คะแนนหลังเรียน คะแนนที่เพิ่มขึ้น
คะแนนเตม็ 10 คะแนน) คะแนนเต็ม10 คะแนน
1 +9
2 0 9 +2
3 4 6 +5
4 3 8 +2
5 7 9 +5
6 5 10 +2
7 4 6 +4
8 4 8 +4
9 4 8 +1
10 5 6 +1
11 8 9 +5
12 3 8 +1
13 7 8 +2
14 4 6 +5
15 3 8 +6
16 3 9 +6
17 3 9 +5
18 3 8 +4
19 5 9 +4
20 5 9 +6
21 3 9 +4
22 5 9 +3
23 7 10 +6
24 3 9 +6
25 3 9 +7
26 1 8 +2
27 4 6 +6
28 3 9 +4
4 8
นักเรยี นคนที่ คะแนนกอ่ นเรียน คะแนนหลังเรียน 12
คะแนนเต็ม 10 คะแนน) คะแนนเตม็ 10 คะแนน
29 คะแนนที่เพ่มิ ขึ้น
30 5 9
คะแนนเฉลี่ย 3 9 +4
4.03 8.27 +6
4.23
จากตารางที่ 2 จะเหน็ ว่าค่าเฉลี่ยกอ่ นเรียนโดยการใช้แบบฝึกทกั ษะการอา่ นอลั กุรอานเบื้องตน้ มคี ่าเฉลี่ย
4.03 และหลงั เรียนโดยการใชแ้ บบฝกึ ทักษะการอ่านอลั กรุ อานมคี า่ เฉลี่ย 8.27 และค่าเฉล่ียของคะแนน
เพมิ่ ขึ้น 4.23 แสดงให้เหน็ ว่าผลสัมฤทธท์ิ างการเรยี นของนักเรยี นหลงั เรยี นโดยการใช้แบบฝึกทักษะการ
อา่ นอลั กรุ อานเบอ้ื งต้นสงู กว่าก่อนเรียน
13
บทที่ 5
สรุปผล อภปิ รายผล และข้อเสนอแนะ
การวจิ ยั เรื่อง การใช้แบบฝึกทักษะการอา่ นอัลกรุ อานเบ้อื งต้น ในการพฒั นาผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นของ
นักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 คร้ังน้ีมีวัตถุประสงค์เพ่ือเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ก่อนและหลังการใช้แบบ
ฝกึ เทกั ษะการอ่านอลั กุรอานเบอ้ื งต้น
กลุ่มตวั อย่างทใี่ ช้ในการวิจัยคร้ังนีเ้ ปน็ นกั เรยี นชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 5/1 ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2564
โรงเรียนกาแพงวิทยา อาเภอละงู จังหวัดสตูล จานวน 1 ห้องเรียน จานวน 30 คน ได้มาโดยการเลือกกลุ่ม
ตัวอย่างแบบสุ่มแบบเจาะจง ใช้รูปแบบการวิจัยประเมินผลการเรียนรู้แบบ One Group Pre-test Post-test
Design เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่แบบฝกึ ทักษะการอ่านอัลกุรอานเบื้องต้น ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 5/1 จานวน
1 ชุด แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี น คอื แบบทดสอบการอ่านอลั กรุ อานจานวน 1 ชดุ
วิธีการเก็บรวบรวมขอ้ มูล ผู้วจิ ัยได้ดาเนนิ การโดยทดสอบกอ่ นเรียนด้วยแบบทดสอบการอ่านอัลกุรอาน
จากนั้นดาเนินกจิ กรรมการเรียนร้ตู ามแบบฝกึ ทักษะการอา่ นอัลกรุ อานเบ้อื งต้น ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 5/1 จานวน
1 ชุด แล้วดาเนินการทดสอบหลงั เรียนดว้ ยแบบทดสอบชดุ เดยี วกบั แบบทดสอบกอ่ นเรยี น
การวเิ คราะหข์ ้อมลู ผู้วจิ ยั ไดด้ าเนินการวิเคราะหข์ อ้ มูลโดยวิเคราะห์เปรยี บเทียบผลการเรียนรกู้ อ่ นเรียน
และหลังเรียน โดยการเทียบกบั เกณฑร์ ้อยละ และเปรียบเทยี บคา่ พัฒนา
สรุปผลการวิจัย
ผลสมั ฤทธทิ์ างการเรียนเรอ่ื ง อัลกุรอาน โดยใช้แบบฝึกทกั ษะการอ่านอลั กรุ อานเบอ้ื งตน้ ชน้ั มธั ยมศึกษา
ปที ี่ 5/1 พบวา่ การประเมนิ ผลการเรียนร้กู ่อนและหลงั ใช้แบบฝกึ ทักษะการอ่านกรุ อานเบอื้ งตน้ ชัน้ มัธยมศึกษา
ปที ่ี 5/1 มคี ะแนนเฉลย่ี หลงั ใชแ้ บบฝึกทกั ษะสงู กว่ากอ่ นใชแ้ บบฝึกทักษะ
อภิปรายผล
จากการวจิ ัยเร่ือง การใช้แบบฝึกทักษะการอา่ นอลั กุรอานเบ้ืองต้น ในการพฒั นาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
ของนกั เรียนช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ 5/1 ตามวตั ถปุ ระสงค์ที่กาหนดไว้ สามารถอภิปรายผล ไดด้ ังนี้
ผลสมั ฤทธิท์ างการเรียนเรื่อง อัลกรุ อานโดยใช้แบบฝึกทกั ษะการอ่านอัลกุรอานเบ้ืองตน้ ในการพัฒนา
ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นของนักเรียนชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 5/1 พบว่า คะแนนก่อนและหลังใช้แบบฝกึ ทักษะ ด้วย
แบบทดสอบวดั ผลทางการเรยี นรู้ ซึง่ กอ่ นใชช้ ุดกจิ กรรมไดค้ ะแนนเฉล่ยี 4.03 และหลังเรียนได้คะแนนเฉลย่ี
10.67 และผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 60 เปน็ ไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ กล่าวคือการใช้แบบฝึกทักษะการอา่ นอลั กรุ อาน
เบอ้ื งต้นสามารถพฒั นาผลสัมฤทธิท์ างการเรยี นของผ้เู รยี นได้อย่างเหมาะสม
ขอ้ เสนอแนะ
จากการศึกษาการใช้แบบทักษะการอ่านอลั กุรอานเบ้ืองต้น ในการพัฒนาผลสัมฤทธิท์ างการเรยี นของ
นกั เรยี นช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 5/1 มีขอ้ เสนอแนะ ดังนี้
14
1.. ควรนาแบบฝกึ เสรมิ ทกั ษะไปพัฒนาสรา้ งสรรคเ์ ปน็ สื่อการเรยี นร้รู ปู แบบอน่ื ๆ บา้ ง
2. ควรมีการพัฒนาแบบฝึกทักษะการอา่ นอลั กุรอานเบ้ืองต้นให้มีความนา่ สนใจ เพื่อพัฒนาทักษะการ
เรยี นรู้ และเพอ่ื ใหน้ กั เรียนเกิดความสนใจในการเรียนมากข้นึ
15
บรรณานกุ รม
กรรณิการ์ ภริ มยร์ ัตน. (2553). การเปรยี บเทยี บผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียนสาระการเรยี นรู้ภมู ิศาสตร์ เรื่อง ทวปี
ยุโรปกอ่ นเรียนและหลงั เรยี นของนักเรียนช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3 โรงเรียนสาธติ มหาวทิ ยาลัยราชภฏั
สวนสนุ นั ทา โดยใชแ้ บบฝกึ เสรมิ ทักษะ. สืบค้นเม่ือ 24 มีนาคมาคม 2564, จาก
http://www.ssruir.ssru. ac.th/bitstream/ssruir/382/1/139.53.pdf
กาญจนา ข้าวจ้าว และสธุ ารทิพย์ เรืองประภาวฒุ ิ. (2560). การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เร่ืองการ
ถา่ ยทอดลักษณะทางพันธุกรรม เพ่ือพฒั นาผลการเรยี นรู้วชิ าชีววิทยาของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี
4 โรงเรียนเตรียมอดุ มศึกษาพัฒนาการ นนทบรุ ี. สบื ค้นเม่ือ 24 มนี าาคม 2565 , จาก
https://research.pcru.ac.th/researchV2/images/conference/2015/ncpcru2/files/55.pdf
ชวีพร คชสนิ ธ.์ (2560). การพฒั นาทักษะทางวิทยาศาสตร์ เรื่องการถา่ ยทอดลักษณะทางพันธุกรรม โดยใช้
แบบฝกึ ทักษะ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 15 (เวยี งเก่าแสนภูวิทยาประสาท).
เชียงราย. สืบคน้ เมือ่ 24 มนี าคม 2565, จาก http://rpg15.ac.th/Echecking/id-
plan/uploads//4820180327100006.pdf
ทรงพล หมั่นประสงค์. (2560). การใช้ชดุ กิจกรรมแบบฝึกทักษะการแก้โจทยป์ ัญหาทางพันธุศาสตร์ เร่ือง การ
ถา่ ยทอดลกั ษณะทางพันธกุ รรมในการพฒั นาผลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี นของนักเรียนช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี
6 โรงเรยี นอามาตย์พานิชนกุ ลู จงั หวัดกระบี่. สืบคน้ เมือ่ 24 มีนาคมาคม 2565, จาก
https://clmramis.files.wordpress.com/2018/06/.pdf
ประภาศิริ ปราโมทย์. (2561). การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบ
ร่วมมือ ควบคู่กับเกม เพื่อส่งเสริมผลการเรียนรู้และคุณลักษณะที่พึงประสงค์ทางคณิตศาสตร์
สาหรับนักเรียนช้ันประถมศึกษาปี ที่ 5. เชียงใหม่ : วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต บัณฑิต
วิทยาลัยมหาวิทยาลัยเชยี งใหม่.
16
ภาคผนวก ก
17
แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี 1
รายวชิ า อิสลามศกึ ษา กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 5
หน่วยการเรียนรู้ อลั กุรอาน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564
เรอ่ื ง การอา่ นอัลกรุ อานเบ้อื งต้น เวลา 3 ชว่ั โมง
ช่อิ ผู้สอน นางใขร่ยี ะ ม่าเหร็ม
_________________________________________________________________________
1.ผลการเรียนรู้ วเิ คราะหค์ าสอนจากการอรรถาธิบายอัลกุรอานอายะฮท์ ี่กาหนด
2. สาระสาคัญ
อัลกุรอานเป็นธรรมนญู ชีวิตของมสุ ลิมทุกคนซง่ึ มสุ ลิมทกุ คนจาเป็นตอ้ งศึกษาเพ่อื นามาพัฒนา
คุณภาพชีวติ ในทกุ ๆดา้ นและสามารถดาเนนิ ชวี ติ ในสงั คมได้อยา่ งมคี วามสุข
จุดประสงค์การเรียนรู้
1. เพ่อื ใหน้ ักเรยี นสามารถออกเสยี งพยัญชนะในภาษาอาหรบั ได้อย่างถกู ต้อง
2. เพ่อื ให้นักเรียนสามารถอา่ นคาในภาษาอาหรบั ได้อย่างถกู ต้
3. เพ่ือให้นักเรยี นสามารถอา่ นคาทเ่ี ขียนตดิ กนั ในภาษาอาหรับได้อย่างถูกต้อง
3. สาระการเรยี นรู้
1. การออกเสยี งพยญั ชนะภาษาอาหรับ
2. การออกเสียงคาที่มีสระฟัตหะฮ
3. การออกเสียงคาที่มีสระฟตั หะฮท์ เี่ ขียนติดกัน
4. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น
1. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ิต
18
5. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
1.รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์
6. ภาระงาน/ช้นิ งาน
- นกั เรียนฝกึ อา่ นแบบฝกึ ทักษะการอา่ นอลั กุรอานเบื้องตน้
7. กจิ กรรมการเรียนรู้
ขน้ั นาเข้าสู่บทเรยี น
1.ครูทกั ทายนักเรยี นด้วยการให้สลาม พร้อมกบั ใหน้ กั เรยี นอา่ นซูเราะฟาตหิ ะฮ และดอุ าอก์ ่อนเรียน
พรอ้ มกนั
2. ครอู ธบิ ายถงึ ความสาคัญของอลั กรุ อานตอ่ มสุ ลมิ
ขนั้ กจิ กรรมการเรียนรู้
คาบท่ี 1
1. ใหน้ ักเรยี นทาแบบประเมินผลก่อนเรียน
2. ครูแจกแบบฝกึ ทกั ษะการอ่านอลั กรุ อานเบ้อื งตน้ ให้กับนักเรยี น
3. นักเรียนฝกึ อา่ นพยัญชนะอาหรับโดยครอู า่ นให้นักเรยี นฟงั ซ้าหลายเที่ยวจนกวา่ นักเรยี นสามารถ
อา่ นพรอ้ มๆกันไดถ้ ูกตอ้ ง (แบบฝึกทักษะ 1)
4. ครูใหน้ ักเรียนอา่ นทลี ะค
คาบที่ 2
1. นักเรยี นฝึกอ่านพยญั ชนะอาหรับทีม่ ีสระฟัตหะฮ์ โดยครูอา่ นใหน้ กั เรยี นฟังซา้ หลายเที่ยวจนกว่า
นักเรยี นสามารถอา่ นพร้อมๆกันได้ถกู ตอ้ ง (แบบฝึกทกั ษะ 2, 3)
2. ครูให้นักเรียนอ่านทีละคน
คาบที่ 3
1.นกั เรียนฝกึ อ่านพยญั ชนะอาหรับทีม่ สี ระฟัตหะฮท์ ี่เขียนติดกนั โดยครอู ่านใหน้ กั เรียนฟังซ้าหลาย
เทย่ี วจนกว่านักเรยี นสามารถอา่ นพรอ้ มๆกันได้ถกู ต้อง (แบบฝกึ ทักษะ 4,5)
2.ครูให้นกั เรยี นอ่านทลี ะคน(สมุ่ )
3.นกั เรียนทาแบบประเมินผลหลงั เรียน
ขน้ั สรปุ
1. ครูแนะนานกั เรียนทย่ี ังออกเสยี งพยัญชนะ หรือคาไม่ถูกตอ้ ง
2. ครูแนะนาใหน้ กั เรยี นไปฝกึ อ่านอลั กุรอานเยอะๆจากทบ่ี า้ น
3. ครูและนกั เรียนร่วมอา่ นซเู ราะฮอ์ ัลอสั รี
8. ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้ 19
- แบบฝึกทกั ษะการอา่ นอลั กุรอานเบ้อื งต้น เกณฑ์การประเมิน
- หนงั สือเรียน กรี ออาตี
- อา่ นถูก9-10 คา ดมี าก
9. การวัดผลประเมนิ ผล - อ่านถกู 7-8 คา ดี
1. นกั เรียนทาแบบประเมนิ ผลก่อนและหลังเรยี น - อ่านถูก 5-6 ปานกลาง
2. นักเรยี นฝึกทักษะการอ่านอลั กุรอานเบือ้ งต้น - อา่ นถูก 0-4 ปรบั ปรงุ
ดีมาก 9-10 คะแนน
เกณฑ์การประเมิน วธิ ีการ เครอ่ื งมือวดั ดี 7-8 คะแนน
การวัดประเมนิ ผล ปานกลาง 5-6 คะแนน
ปรับปรุง 0-4 คะแนน
ทางด้าน
1.ความรู้(K) -ให้ออกเสียงพยัญชนะและ -แบบประเมนิ การอ่าน
คาในภาษาอาหรบั
2.กระบวนการ(P) การฝกึ ทกั ษะการอ่าน -การสังเกต
-แบบประเมินการอา่ น
3.คุณลักษณะ(A) ประเมนิ จากความมุ่งม่นั ใน -การสงั เกต
การฝกึ ทกั ษะการอา่ น
เกณฑก์ ารผ่าน คะแนน 5 คะแนนข้ึนไป
10. ความคิดเห็นของหวั หนา้ กลุ่มสาระการเรียนรู้
........................................................................................................... ...........................................................
............................................................................................................................. ..................................
ลงช่ือ
(นางสรุ ภี ลดั เลยี )
หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษาฯ
20
11. ความคิดเหน็ รองผู้อานวยการกลมุ่ บรหิ ารวิชาการ
องค์ประกอบของแผนการจัดการเรยี นรู.้ ........................................................................................
มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชี้วดั /ผลการเรยี นรสู้ อดคลอ้ ง...................................................................
สาระสาคัญครอบคลมุ ชดั เจน.........................................................................................................
สาระการเรยี นรมู้ ีความถูกตอ้ งตามหลกั วิชาการ.............................................................................
จุดประสงค์การเรยี นรมู้ คี วามชัดเจนครอบคลมุ 3 ดา้ น..................................................................
สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รยี น.............................................................................................................
คุณลักษณะอันพึงประสงค์..............................................................................................................
ระบภุ าระงาน/ชิ้นงาน.....................................................................................................................
กิจกรรมการเรียนรเู้ นน้ ผเู้ รยี นเป็นสาคัญ........................................................................................
สือ่ และอปุ กรณก์ ารเรียนร.ู้ .............................................................................................................
การวัดและการประเมินตามจุดประสงคก์ ารเรยี นร้.ู ........................................................................
บนั ทกึ หลังสอน...............................................................................................................................
เสนอส่งแผนการจัดการเรยี นรตู้ ามข้ันตอนระบบงาน.....................................................................
ลงชือ่
( นายอับดลรอศกั ดิ์ มณีโสะ๊ )
รองผู้อานวยการกลุ่มบรหิ ารวชิ าการ
12. ความคิดเหน็ ผอู้ านวยการโรงเรียน
อนญุ าตให้ใช้จดั การเรียนการสอนได้
ควรปรบั ปรุง คือ
................................................................................................................................................................
ลงชอื่
( นายสริ วฒุ ิ ยุนยุ้ )
ผอู้ านวยการโรงเรียนกาแพงวทิ ยา
21
13. บนั ทกึ หลังการจดั กิจกรรมการเรียนรูแ้ ผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี …1………
13.1 ผลการจัดการเรยี นร้(ู ตามจุดประสงค)์
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
13.2. แนวทางแก้ปัญหานกั เรยี นทไ่ี ม่ผ่านตัวช้ีวัด/ผลการเรียนรู้หรอื จุดประสงค์(ใช้นวตั กรรมเน้น)
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่ือ…………………………………………
(นางใขรยี่ ะ ม่าเหร็ม)
ครูผู้สอน
วนั ที่………เดือน………………….พ.ศ…………