>
วัตถุประสงค์การเรยี นรู้
1. อธิบายโครงสร้าง และบอกหน้ าท่ีส่วนท่หี ่อหุ้มเซลลข์ องเซลล์
พืชและเซลล์สั ตว์
2. สืบค้นข้อมลู อธิบาย ระบุชนิ ดและบอกหน้ าท่ีของออรแ์ กเนลล์
3. อธิบายโครงสร้างและหน้ าท่ีของนิวเคลียส
<>
ข้ันนา
1. เม่อื ศึ กษาเซลลข์ องส่ิงมีชีวิตด้วยกล้องจลุ ทรรศน์ ใช้แสง
นั กเรยี นเห็นโครงสรา้ งใดของเซลลบ์ ้าง
2. นั กเรยี นคิดว่าการใช้กลอ้ งจลุ ทรรศน์ อเิ ล็กตรอนแบบส่องผา่ น
ศึ กษาเซลล์ของส่ิงมชี ีวิต ผลของการศึ กษาจะเป็นอยา่ งไร
<>
ข้ันนา
จากภาพดังกล่าว
หน่ วยพ้ืนฐานของ
ส่ิงมชี วี ิตคืออะไร
<>
ข้ันนา
<>
ข้ันสอน
ส่ิงมชี วี ิตประกอบดว้ ยเซลล์ เซลลแ์ บง่ เป็น 2 ชนิ ด คือ
1. prokaryotic cell
2. eukaryotic cell
มีโครงสรา้ งแตกต่างกนั ดัง้ นี้ <>
ข้ันสอน Prokaryotic cell
เซลลโ์ พรแครโิ อต
(pro=before; karyon=kernel)
Øเเซลล์ของส่ิงมีชวี ิตช้ันตา่ พวกแบคทีเรยี สาหรา่ ยสีเขียวแกม
นาเ้ งนิ
Øไม่มีนิ วเคลยี สแท้จรงิ , ไม่มีเยื่อหุ้มนิ วเคลยี ส
Øสารพันธุกรรมอย่ใู นบรเิ วณท่ีเรยี กว่า nucleoid
Øไม่มี organelles ท่ีมีเย่อื หุ้ม
<>
ขั้นสอน Prokaryotic cell
เซลลโ์ พรแครโิ อต
(pro=before; karyon=kernel)
แบคทเี รยี (bacteria) ไซยาโนแบคทีเรยี (cyanobacteria)
<>
ข้ันสอน Eukaryotic cell
เซลลย์ แู ครโิ อต
(eu=true; karyon=kernel)
Øเห็ด รา เซลล์ของพืช และสัตวท์ วั่ ๆไป มีขนาด 10-100
ไมโครเมตร
Øมนี ิ วเคลียสแทจ้ รงิ , มีเยอ่ื หุ้มนิ วเคลยี ส
Øสารพันธุกรรมอยใู่ นนิ วเคลยี ส
Øภายใน cytoplasm ประกอบดว้ ย cytosol และมี organelles
ทมี่ ีเยอื่ หุ้ม
<>
ขั้นสอน Eukaryotic cell
เซลลย์ แู ครโิ อต
(eu=true; karyon=kernel)
อะมีบา (amoeba) ยกู ลนี า (euglena) พารามเี ซียม (paramecium)
<>
ข้ันสอน Eukaryotic cell
เซลลย์ แู ครโิ อต
(eu=true; karyon=kernel)
<>
Mon เซลล์มโี ครงสรา้ งพื้นฐานกสี่ ่วน อะไรบา้ ง
Tue
Wed <>
Thu
Fri
Wknd
...
โครงสรา้ งพ้ืนฐานของเซลล์
นิ วเคลียส ทาหน้ าทคี่ วบคุมกจิ กรรมตา่ ง ๆ ของเซลล์
ไซโทพลาสซมึ เป็นของเหลวทอ่ี ยลู่ ้อมรอบนิวเคลยี ส
โดยจะพบออรแ์ กเนลล์ชนิดตา่ ง ๆ อยดู่ ว้ ย
ส่ วนห่อหุ้มเซลล์ ทาหน้ าทห่ี ่อหุ้มไซโทพลาสซมึ และ
แสดงขอบเขตของเซลล์
<>
โครงสรา้ งพ้ืนฐานของเซลล์
จากภาพส่ วนใดบ้างท่ีเป็นส่ วนห่อหุ้มเซลล์
<>
โครงสรา้ งพ้ืนฐานของเซลล์
<>
1. ส่วนทหี่ ่อหุ้มเซลล์
1. ผนั งเซลล์ (Cell wall): เป็นโครงสรา้ งทพ่ี บนอกสดุ ของ
เซลลพ์ ืช เป็นสารจาพวกเซลลโู ลส ทาหน้ าทเี่ พ่ิมความ
แข็งแรงให้กบั เซลล์พืช และสามารถคงรูปรา่ งได้
<>
1. ส่วนทหี่ ่อหุ้มเซลล์
1. ผนังเซลล์ (Cell wall): พบเฉพาะในเซลลพ์ ืช สาหรา่ ย
แบคทีเรยี และเห็ดรา แตไ่ มพ่ บในเซลลส์ ัตว์
<>
1. ส่วนทหี่ ่อหุ้มเซลล์
2. เยอ่ื หุ้มเซลล์ (Cell membrane) เป็นเยอื่ บาง ๆ ที่มี
สมบตั เิ ป็น “เยอ่ื เลอื กผ่าน” ทาหน้ าทค่ี วบคุมแรงดันและ
การเข้าออกของสารต่าง ๆ
<>
1. ส่วนทห่ี ่อหุ้มเซลล์
2. เยอ่ื หุ้มเซลล์
(Cell membrane)
<>
โครงสรา้ งหลกั ของเยอื่ หุ้มเซลล์
Mon ประกอบดว้ ยสารอะไรบา้ ง
Tue
Wed ส่วนทห่ี ่อหุ้มเซลลใ์ ดทพ่ี บไดใ้ นเซลลท์ กุ ชนิ ด
Thu
Fri
Wknd ส่วนทห่ี ่อหุ้มเซลล์ใดทพี่ บไดใ้ นเซลล์พืช
...
<>
<>
Mon จากวีดทิ ศั น์ ส่วนทเ่ี ป็นของเหลวไหลเวยี นอยู่
Tue ภายในเซลล์สาหรา่ ยหางกระรอกคือ
ส่ วนใด
Wed
Thu
Fri นอกจากน้ี ยงั เห็นโครงสรา้ งใดภายในเซลล์
สาหรา่ ยหางกระรอกอกี บา้ ง
Wknd
...
<>
2. ไซโทพลาสซมึ
เป็นของเหลวท่ีอยรู่ อบๆนิ วเคลียส มสี ารต่างๆเป็น
องค์ประกอบอยหู่ ลายชนิ ด เช่น นา้ โปรตีน ไขมัน
คารโ์ บไฮเดรต เกลือแร่ ไซโทพลาสซมึ ประกอบดว้ ยส่วน
ทสี่ าคัญ 2 ส่วน คือ
1. ไซโทซอล (Cytosol)
2. ออรแ์ กเนลล์ (Organelle)
<>
2. ไซโทพลาสซมึ
2.1 ไซโทซอล (cytosol) :ของเหลวภายในไซโทพลาสซมึ
เป็นสารก่งึ แข็งก่งึ เหลว บรเิ วณดา้ นนอกทอ่ี ยตู่ ดิ กบั เยอื่ หุ้ม
เซลล์ดา้ นนอกเรยี กว่า เอก็ โทพลาสซมึ (ectoplasm) บรเิ วณ
ดา้ นในเรยี กว่า เอนโดพลาสซมึ (endoplasm)
<>
2. ไซโทพลาสซมึ
2.2 ออรแ์ กเนลล์
(organelles)
<>
2. ไซโทพลาสซมึ 2.2 ออรแ์ กเนลล์ (organelles)
1) Endoplasmic reticulum ; ER
2.1 Rough endoplasmic reticulum ;RER
มีไรโบโซมมาเกาะ (แบบขรุขระ)
2.2 Smooth endoplasmic reticulum ;SER
ไมม่ ไี รโบโซมมาเกาะ (แบบเรยี บ)
<>
2. ไซโทพลาสซมึ 2.2 ออรแ์ กเนลล์ (organelles)
1) Endoplasmic reticulum ; ER
2.1 Rough endoplasmic reticulum ;RER
มีไรโบโซมมาเกาะ (แบบขรุขระ)
หน้าที่ : ทาหน้าท่ีในการรว่ มกับไรโบโซมในการสังเคราะห์โปรตนี
ส่ งออกนอกเซลล์
เซลลท์ พ่ี บมาก : ตับอ่อนท่ีทาหน้าท่สี รา้ งเอนไซมต์ า่ งๆ
<>
2. ไซโทพลาสซมึ 2.2 ออรแ์ กเนลล์ (organelles)
1) Endoplasmic reticulum ; ER
2.2 Smooth endoplasmic reticulum ;SER
ไมม่ ีไรโบโซมมาเกาะ (แบบเรยี บ)
หน้าท่ี : 1. กำจัดสำรพิษ
2. สังเครำะห์สำรพวกไขมนั และกลุ่มสเตอรอยด์ฮอรโ์ มน
3. สะสมสำรและลำเลียงไปยงั ส่วนต่ำงของเซลล์
4. กระตุ้นกำรทำงำนของกล้ำมเนื้อ
เซลลท์ ่พี บมาก : ตับ เลยด์ กิ เซลล์
<>
2. ไซโทพลาสซมึ 2.2 ออรแ์ กเนลล์ (organelles)
1) Endoplasmic reticulum ; ER
RER
SER
<>
1. เอนโดพลาสมกิ เรติคูลมั มีลักษณะ
Mon โครงสรา้ งอยา่ งไร
Tue
Wed 2. เอนโดพลาสมกิ เรติคูลมั มกี ช่ี นิด ไดแ้ ก่
อะไรบา้ ง ใช้อะไรเป็นเกณฑใ์ นการจาแนก
Thu
Fri
Wknd 3. เอนโดพลาสมิกเรตคิ ูลมั แต่ละชนิดทาหน้ าทอ่ี ะไร
...
<>
4. ถ้าในเซลลไ์ ม่มีเอนโดพลาสมกิ เรตคิ ลู มั
Mon จะมผี ลอยา่ งไร
Tue
Wed
5. เพราะเหตุใดเซลล์ตบั และเซลล์กล้ามเน้ือโครง
Thu รา่ งจึงพบเอนโดพลาสมกิ เรติคูลัมแบบผวิ
เรยี บมากกว่าเซลลผ์ วิ หนัง
Fri
Wknd
...
<>
2. ไซโทพลาสซมึ 2.2 ออรแ์ กเนลล์ (organelles)
2) ไรโบโซม (Ribosome)
พบกระจายตัวอยทู่ วั่ ไปในไซโทพลาสซมึ ทาหน้ าทใ่ี นการ
สังเคราะห์โปรตนี ไวใ้ ชภ้ ายในเซลล์ หากรวมกบั ER จะ
กลายเป็น RER ทาหน้ าทส่ี ังเคราะห์โปรตีนไว้ใชภ้ ายนอก
เซลล์
<>
1. ไรโบโซมมีโครงสรา้ งอยา่ งไร
Mon
Tue
Wed 2. ไรโบโซมทาหน้ าทอ่ี ะไร
Thu
Fri
Wknd 3. ไรโบโซมทกี่ ระจายอยใู่ นไซโทซอลทาหน้ าที่
แตกตา่ งจากไรโบโซมทตี่ ิดอยกู่ บั
. . . เอนโดพลาสมกิ เรตคิ ูลัมอยา่ งไร
<>
2. ไซโทพลาสซมึ 2.2 ออรแ์ กเนลล์ (organelles)
3) กอลจิบอด,ี กอลจิคอมแพลก็ ซ์ (golgi body, golgi complex)
หน้าท:ี่ เตมิ กล่มุ คารโ์ บไฮเดรตให้ กบั
โปรตีนหรอื ลิพิดทส่ี ่งมาจาก ER เกดิ เป็น
ไกลโคโปรตีน และไกลโคลพิ ิด แล้วสรา้ ง
เวสิเคิลบรรจุสารเหลา่ น้ีไว้ เพื่อส่งออกไป
ภายนอกเซลล์
<>
2. ไซโทพลาสซมึ 2.2 ออรแ์ กเนลล์ (organelles)
3) กอลจิบอด,ี กอลจิคอมแพล็กซ์ (golgi body, golgi complex)
<>
Mon 1. กอลจิคอมเพลก็ ซม์ ีโครงสรา้ งอยา่ งไร
Tue 2. กอลจิคอมเพลก็ ซท์ าหน้าทอี่ ะไร
Wed
Thu <>
Fri
Wknd
...
2. ไซโทพลาสซมึ 2.2 ออรแ์ กเนลล์ (organelles)
4. ไลโซโซม (Lysosome)
มีลักษณะเป็นถุงทบ่ี รรจเุ อนไซม์
สาหรบั ยอ่ ยสารต่าง ๆ ไว้ เป็น
โครงสรา้ งทท่ี าหน้าทย่ี อ่ ยสลาย
โมเลกลุ สารอาหาร รวมถึงทาลาย
เช้อื โรคและส่ิงแปลกปลอมทเี่ ข้า
ส่เู ซลล์
<>
2. ไซโทพลาสซมึ 2.2 ออรแ์ กเนลล์ (organelles)
4. ไลโซโซม (Lysosome)
พบพืชในพืชบางชนิ ด เชน่
หม้อข้าวหมอ้ แกงลงิ กาบหอยแครง
หยาดนา้ค้าง แต่พบในเซลล์สัตว์จานวน
มาก
<>
2. ไซโทพลาสซมึ 2.2 ออรแ์ กเนลล์ (organelles)
4. ไลโซโซม (Lysosome)
<>
Mon เราจะพบไลโซโซมในส่ิงมีชีวติ อะไรบา้ ง
Tue
Wed <>
Thu
Fri
Wknd
...
1. ไลโซโซมมโี ครงสรา้ งอยา่ งไร
Mon
Tue 2. ไลโซโซมมสี ารใดบรรจุอยภู่ ายใน
Wed
Thu 3. ไลโซโซมทาหน้ าทอ่ี ะไร
Fri
Wknd 4. ไลโซโซมมีการทางานอยา่ งไร
...
<>
2. ไซโทพลาสซมึ 2.2 ออรแ์ กเนลล์ (organelles)
5. แวคิวโอล (Vacuole)
เซนทรลั แวคิวโอล (Central vacuole) หรอื
แซบ แวคิวโอล (Sap vacuole) มลี ักษณะเป็น
ถุงทใี่ ช้บรรจุสารตา่ ง ๆ ภายในเซลลพ์ ืช กนิ
พ้ืนทเี่ กอื บทงั้ เซลล์
<>
2. ไซโทพลาสซมึ 2.2 ออรแ์ กเนลล์ (organelles)
5. แวคิวโอล (Vacuole) ฟูดแวคิวโอล
(Food vacuole)
คอนแทรก็ ไทล์ แวคิวโอล มีลักษณะเป็นถุงที่
(Contractile vacuole) ใชบ้ รรจุอาหาร
มลี กั ษณะเป็นถุงทใ่ี ชข้ ับนา้ หรอื กากอาหาร
ส่วนเกนิ ออกจากเซลล์
<>
Mon 1. แวคิวโอลมโี ครงสรา้ งอยา่ งไร
Tue 2. แวคิวโอลทาหน้ าทอี่ ะไร
Wed
Thu <>
Fri
Wknd
...
2. ไซโทพลาสซมึ 2.2 ออรแ์ กเนลล์ (organelles)
6) ไมโทคอนเดรยี (Mitochondria)
เยอื่ ชัน้ ในจะพับทบแล้วยนื่ เข้าดา้ นใน
เรยี กวา่ ครสิ ตี (cristae)
พบมากในเซลล์ทม่ี ีกจิ กรรมสงู เชน่
เซลลไ์ ต เซลลก์ ลา้ มเน้ื อหัวใจ
เซลลอ์ สจุ ิ
<>
1. ไมโทคอนมีโครงสรา้ งอยา่ งไร
Mon
Tue 2. ไมโทคอนเดรยี ทาหน้ าทอ่ี ะไร
Wed
Thu 3. เราจะพบไมโทคอนเดรยี ทใี่ ดมากทส่ี ดุ
Fri
Wknd
...
<>
Mon เซลล์กลา้ มเน้ือหัวใจซ่งึ เป็นเซลล์ที่ตอ้ งใช้พลงั งาน
มาก ควรมีออรแ์ กเนลล์ชนิดใดมาก เพราะเหตุใด
Tue
Wed
Thu
Fri
Wknd
...
<>
2. ไซโทพลาสซมึ 2.2 ออรแ์ กเนลล์ (organelles)
7. พลาสติด (Plastid)
(Chloroplast) ภายในบรรจคุ ลอโรฟิลล์
(Chlorophyll) เป็นรงควัตถุสีเขียว ทา
หน้ าทสี่ ังเคราะห์ดว้ ยแสง
<>
2. ไซโทพลาสซมึ 2.2 ออรแ์ กเนลล์ (organelles)
7. พลาสตดิ (Plastid)
โครโมพลาสต์ (Chromoplast) ภายใน
บรรจุสารสี เชน่ แคโรทนี อยด์
(สีส้ม แดง) แซนโทรฟิลล์ (สีเหลือง
นาต้ าล)
<>
2. ไซโทพลาสซมึ 2.2 ออรแ์ กเนลล์ (organelles)
7. พลาสตดิ (Plastid)
ลิวโคพลาสต์ (Leucoplast) เป็นพลาสตดิ
ทไี่ ม่มีสี ทาหน้ าทสี่ ะสมเมด็ แป้งทไ่ี ดจ้ าก
การสังเคราะห์ดว้ ยแสง
<>