The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by wichuda1345, 2022-03-22 05:57:21

การใช้สื่อนวัตกรรมฝึกทักษะการสร้างสรรค์งานศิลปะ เรื่อง การวาดภาพล้อเลียนบุคคล ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5

ครูอนุธิดา

รายงานวิจัยในชั้นเรยี น

การใชส้ อ่ื นวัตกรรมฝึกทกั ษะการสรา้ งสรรค์งานศลิ ปะ
เรอ่ื ง การวาดภาพล้อเลยี นบคุ คล
ของนกั เรยี นชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 5

นางสาวอนธุ ดิ า กลน่ิ พทิ ักษ์
ตาแหน่งครู

ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2564
กล่มุ สาระการเรียนรู้ศลิ ปะ

โรงเรยี นกาแพงวทิ ยา อาเภอละงู จงั หวดั สตลู
สานกั งานเขตพื้นท่กี ารศึกษามธั ยมศึกษาสงขลา สตูล

ชอ่ื เร่ือง การใชน้ วัตกรรมฝึกทกั ษะการสรา้ งสรรค์งานศลิ ปะ เรื่อง การวาดภาพลอ้ เลยี นบุคคล
นกั เรยี นช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 5
ผ้วู จิ ยั นางสาวอนธุ ิดา กลน่ิ พทิ ักษ์
กลุ่มสาระฯ ศิลปะ
ปกี ารศกึ ษา 2564

บทคัดย่อ
งานวิจัยครั้งน้ีมีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวจึงได้จัดทารายงานวิจัยในชั้นเรียน เร่ือง การใช้สื่อ
นวตั กรรมฝกึ ทักษะการสร้างสรรคง์ านศลิ ปะ เรือ่ ง การวาดภาพลอ้ เลยี นบคุ คล ของนักเรยี นชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 5
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนกาแพงวิทยา อาเภอละงู
จงั หวดั สตลู ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 จานวน 2 หอ้ งเรียน ไดแ้ ก่ นกั เรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 5/2 จานวน
42 คน และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 5/5 จานวน 26 คน รวมทั้งส้ินจานวน 68 คน โดยสุ่มแบบเจาะจง ใช้
เวลาทดลองท้ังสิ้น 5 คาบ คาบละ 50 นาที โดยใช้แผนการวิจัยทัศนศิลป์ ส่ือนวัตกรรมการวาดภาพล้อเลียน
บุคคล สอนโดยวิธีการสาธิตที่ละขั้นตอนอย่างละเอียด ทดสอบการทาผลงานทางการเรียนรายวิชาทัศนศิลป์
เร่อื ง การวาดภาพล้อเลียนบคุ คล
ผลการวิจัยพบว่า การประเมนิ ผลงานหลงั ใช้นวัตกรรมการวาดภาพลอ้ เลียนบคุ คล สอนโดยวิธีการสาธิต
ท่ีละข้ันตอนอย่างละเอียด ทดสอบการทาผลงานทางการเรียนรายวิชาทัศนศิลป์ เร่ือง การวาดภาพล้อเลียน
บุคคล มีคะแนนเฉลี่ยหลังใช้ชุดกิจกรรมสูงกว่าก่อนใช้ชุดกิจกรรม และเมื่อประเมินผลงาน พบว่า ผลสัมฤทธ์ิ
ทางการเรียนหลังใช้ สื่อนวัตกรรมสูงกว่าก่อนใช้สื่อนวัตกรรม นักเรียนมีความสมารถในการวาดภาพล้อเลียน
บุคคล มคี วามมน่ั ใจและมีความสนุกในการสรา้ งสรรค์ผลงาน

วจิ ยั ในชัน้ เรียน |ปีการศึกษา 2562 ก

สารบญั

หน้า
บทคดั ยอ่ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………..ก
สารบญั ……………………………………………………………………………………………………………………………………………….ข
สารบญั ตาราง………………………………………………………………………………………………………………………………………ค
บทที่ 1 บทนา………………………………………………………………………………………………………………….…………………..1

ทม่ี าและความสาคัญของปัญหา…………….……………….…………………………………………………………………..1
ปญั หาการวิจัย………………………………..………………..………………………………………………………………………1
วัตถุประสงค์ของการวิจยั …………………………………………………………………………………………………………..1
ประโยชน์ท่คี าดว่าจะได้รับ…………………………………………………………………………………………………………1
ขอบเขตของการวิจัย……………………………………………..………………………………………………………………….1
นยิ ามศพั ทเ์ ฉพาะ……………………………………………………………………………………………………………………..2
บทที่ 2 แนวคดิ ทฤษฎแี ละงานวิจัยท่ีเกยี่ วข้อง………………………………………………………………………………………3
บทท่ี 3 วธิ ีดาเนินการวจิ ัย………………………………………………………………………………………..………………………….26
ประชากรและกลุม่ ตัวอยา่ ง……………………………………………………………………………………………………….26
เครอื่ งมอื ท่ีใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมลู ……………………………………………………………………………..……….26
ข้นั ตอนการสรา้ งและพัฒนาเคร่อื งมือ…………………………………………………………………………………..……26
การเก็บรวบรวมข้อมลู ……………………………………………………………………………………………………………..26
การวเิ คราะห์ขอ้ มลู ………………………………………………………………………………………………………………….26
บทท่ี 4 ผลการวเิ คราะห์ขอ้ มูล…………………………………………………………………………………………………………….27
ผลการวเิ คราะห์ข้อมูล……………………………………………………………………………………………………………..27
บทที่ 5 สรุป อภปิ รายผล และขอ้ เสนอแนะ……………………………………………………………………….………………..28
สรปุ ผลการวจิ ยั ………………………………………………………………………………………………………………………28
อภิปรายผล……………………………………………………………………………………………………………………………28
ข้อเสนอแนะ………………………………………………………………………………………………………………………….28
บรรณานกุ รม……………………………………………………………………………………………………………………………………..29
ภาคผนวก………………………………………………………………………………………………………………………………….………30

วิจยั ในชน้ั เรยี น |ปกี ารศึกษา 2562 ข

1

บทท่ี 1
บทนำ

ทม่ี ำและควำมสำคัญ
ศลิ ปะอยู่คู่กบั ความสนุ ทรียะของมนุษยม์ าต้ังแต่อดีตจนถึงปัจจบุ ัน มนุษย์ได้สมั ผสั กับศลิ ปะทกุ แขนงใน

ลักษณะตา่ งๆกันตลอดเวลา คือมนษุ ย์เปน็ ทงั้ ผสู้ ร้าง และผรู้ บั งานศลิ ปะ ศลิ ปะเปน็ ผลงานอันเกิดจากการ
พากเพยี รพยายามของมนุษยเ์ พ่อื สนองความต้องการของตนเองและสังคม รปู แบบของผลงานจึงสะท้อนถึง
แนวคดิ ความเชื่อ สภาพความเปน็ อยู่ สภาพสงั คมและประเพณขี องคนกลุ่มน้นั ยุคนน้ั เพื่อเปน็ เครอ่ื งยืนยัน
ความมวี ัฒนธรรมและความเปน็ มนษุ ย์ทีส่ มบรู ณก์ ว่าสตั วโ์ ลกทัง้ หลาย

เนอื่ งด้วยการศึกษาในปัจจุบนั เนน้ ให้นกั เรยี นเป็นผู้กลา้ แสดงออกทางความสามารถ และความคดิ
สร้างสรรค์ ในการเรยี นรายวชิ าทศั นศลิ ปพ์ ้ืนฐาน ศ32101 มกี ารจัดกิจกรรมการเรียนรู้มีความสอดคลอ้ งตาม
ตัวช้ีวดั เร่ือง การวาดภาพล้อเลียนบคุ คล ซึ่งนักเรียนยงั ขาดทักษะในการวาดภาพในการวาดภาพล้อเลียน
บุคคล ขาดประสบการณ์และขาดความมั่นใจในการวาด ครูจริงคิดค้นนวัตกรรมในการสร้างสรรคผ์ ลงาน เพื่อ
ชว่ ยเหลอื ให้นกั เรียนสามารถเรยี นร้ไู ด้งา่ ยข้ึน และสามารถสร้างสรรค์ผลงานไดท้ ุกคน จึงเกิดสื่อนวตั กรรมการ
วาดภาพล้อเลยี นบุคคล สอนโดยวธิ กี ารสาธติ ท่ลี ะข้นั ตอนอยา่ งละเอยี ด นาไปสู่การวิจัยเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธ์ิ
ทางการเรียน

ปัญหำกำรวิจัย

1.นักเรยี นขาดทักษะในการวาดภาพในการวาดภาพลอ้ เลียนบคุ คล

วัตถุประสงคข์ องกำรวจิ ัย

1.เพือ่ ช่วยใหน้ ักเรียนมีทักษะในการวาดภาพในการวาดภาพลอ้ เลยี นบคุ คล สามารถสร้างสรรค์
ผลงานการวาดภาพล้อเลียนบุคคลได้

ประโยชน์ทคี่ ำดว่ำจะได้รบั
1. นักเรียนมีทักษะในการวาดภาพในการวาดภาพล้อเลียนบุคคล สามารถสรา้ งสรรค์ผลงานการวาด

ภาพลอ้ เลียนบคุ คลได้

ขอบเขตกำรวิจยั

- ประชากร : นกั เรยี นชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 5/2 จานวน 42 คน และนกั เรียนชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 5/5 จานวน
26 คน รวมทั้งสิ้น 68 คน

- กลุม่ ตัวอย่าง : นกั เรยี นชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 5/2 จานวน 42 คน และนักเรียนชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 5/5 จานวน
26 คน รวมทัง้ สิน้ 68 คน
- ตวั แปรการวจิ ยั

2

ตัวแปรตน้ : นกั เรยี นชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 5/2 จานวน 42 คน และนักเรยี นชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 5/5
จานวน 26 คน รวมทงั้ สิ้น 68 คน

ตัวแปรตาม : ผลงานการวาดภาพลอ้ เลยี นบุคคลของนักเรียนช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 5/2 จานวน 42 คน
และนักเรยี นช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 5/5 จานวน 26 คน รวมท้ังสิน้ 68 คน

นิยำมศพั ท์เฉพำะ
ความหมายของกำรวำดภำพลอ้ เลยี น เรียกภำษำอังกฤษว่ำ Caricature

การวาดภาพลอ้ เลยี น เรียกภาษาอังกฤษว่า Caricature ส่วนใหญ่จะเป็นการวาดภาพบคุ คลสาคญั
อยา่ งทเ่ี ราเหน็ กนั อยูบ่ ่อยๆ ก็คอื ภาพนักการเมือง โดยภาพจะแสดงออกมาในลักษณะของใบหนา้ หรอื ท่าทาง
ทีบ่ ง่ บอกถงึ ความเป็นเอกลกั ษณ์ของแตล่ ะคนไป รวมไปจนถงึ กจิ กรรม หรอื การแสดงออกทบ่ี ่งบอกวา่ เปน็
บคุ คลคนนัน้ อยา่ งชดั เจน ส่วนใหญ่แลว้ การวาดภาพลอ้ เลยี นจะส่ือออกมาให้มีความเฮฮา หรอื บางคร้งั อาจจะ
มีการเสียดสีบ้างเลก็ น้อย ในส่วนของเทคนิคการวาดภาพล้อเลยี นนน้ั มอี ยหู่ ลายวิธี แล้วแต่ความถนดั ของผู้
วาดแตล่ ะคน

3

บทท่ี 2
แนวคิด ทฤษฏแี ละงำนวจิ ัยทีเ่ ก่ียวข้อง

การวิจัยเร่ือง การใช้ส่ือนวัตกรรมเพ่ือฝึกทักษะการสร้างสรรค์งานศิลปะ เรื่อง การวาดภาพล้อเลียน
บคุ คล ของนักเรียนช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 5 วชิ าทัศนศิลป์ ศ32101 โดยใชแ้ บบประเมินผลงานหลังจากนักเรียน
ได้ฝึกทักษะการวาดภาพล้อเลียนบุคคลของนักเรียนมัธยมศึกษาปีท่ี 5/2 และนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 5/5
โรงเรยี นกาแพงวทิ ยา อาเภอละงูจงั หวดั สตลู ขอบเขตของเนอ้ื หาท่ีจะศกึ ษามีดังนี้

เทคนิคการวาดรปู การ์ตูนล้อเลยี น

กำรวำดภำพล้อเลยี น เรียกภำษำองั กฤษว่ำ Caricature

ส่วนใหญจ่ ะเปน็ การวาดภาพบคุ คลสาคญั อยา่ งทีเ่ ราเห็นกันอยู่บ่อยๆ ก็คอื ภาพนักการเมือง โดยภาพ
จะแสดงออกมาในลักษณะของใบหน้า หรอื ท่าทาง ทบี่ ่งบอกถึงความเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละคนไป รวมไป
จนถงึ กิจกรรม หรือการแสดงออกท่บี ่งบอกวา่ เปน็ บุคคลคนน้ันอย่างชดั เจน สว่ นใหญ่แลว้ การวาดภาพ
ล้อเลียนจะสอ่ื ออกมาใหม้ คี วามเฮฮา หรอื บางครงั้ อาจจะมีการเสยี ดสบี ้างเล็กน้อย ในสว่ นของเทคนิคการวาด
ภาพล้อเลยี นน้ันมีอยู่หลายวธิ ี แล้วแต่ความถนดั ของผู้วาดแตล่ ะคน แต่อย่างไรก็ตามหากใครทีเ่ พ่ิงเริม่ ตน้
หรือตอ้ งการทราบเทคนิคในขั้นพื้นฐาน ในบทความนก้ี ็ไดเ้ รียบเรียงมาให้ไดศ้ ึกษาเรียบร้อยแลว้

สาหรับเทคนิคพื้นฐานในการวาดภาพล้อเลียน เรมิ่ ตน้ ที่การเลอื กต้นแบบในการวาดมาสกั คน แนะนาใหเ้ ป็น
บุคคลที่มชี ่ือเสียง เป็นที่รู้จักของคนท่ัวไป หลงั จากน้ันก็ศกึ ษาถึงลกั ษณะบคุ ลิกของต้นแบบที่เราต้องการ รวม
ไปจนถึงหน้าตาด้วย โดยการวาดภาพล้อเลียนนัน้ เราจะเน้นไปท่ีจดุ เดน่ ของบคุ คล ใหม้ ีความเด่นยิ่งขนึ้ ไปอีก
โดยเฉพาะในสว่ นของรปู รา่ งหน้าตา ที่จะต้องออกมาในลักษณะที่คลา้ ยกบั ตน้ แบบ แตม่ ีความโดดเด่น
กวา่ เดิม ตัวอยา่ งเช่น ถา้ หากวา่ ตน้ แบบที่เราเลอื กมา มีใบหนา้ ทโ่ี ดดเดน่ ในส่วนของจมกู ผู้วาดกจ็ ะต้องวาด
จมกู ให้โดดเดน่ ขึ้นมา ดว้ ยการวาดจมกู ให้ใหญ่ข้นึ ไปอกี เพ่ือความจ้ี และความฮา ซึ่งวิธีเหลา่ นีเ้ ราจะเรียกวา่
เปน็ วธิ กี ารดงึ ลักษณะเดน่ จากตน้ แบบ โดยสามารถที่จะจาแนกออกได้ 3 ประเภทดว้ ยกนั คอื

1.ดึงลกั ษณะธรรมชาตขิ องต้นแบบ หมายความว่า จะต้องวิเคราะหล์ กั ษณะของต้นแบบไม่วา่ จะเป็น โครง
หนา้ แกม้ คาง ปาก ฟนั หู เปน็ ตน้ อย่างท่ีไดก้ ล่าวไปในข้างต้นวา่ ต้นแบบของเรามีลักษณะเด่นในส่วนไหน
ใหด้ ึงส่วนนั้นออกมาใหเ้ ดน่ มากท่ีสุด ถงึ แม้วา่ จะบดิ เบือนความจริงไปบ้างกต็ าม แตด่ ว้ ยความเป็นการวาด
ภาพล้อเลียน จริงไม่ได้โฟกสั ทค่ี วามเหมือนจรงิ นั่นเอง

4

2.ลักษณะ นิสยั ของตน้ แบบ หมายถึงผู้วาดเองจะต้องรนู้ ิสัย หรอื ลกั ษณะของตน้ แบบท่ีเราจะวาด วา่ มี
ลักษณะเฉพาะอยา่ งไร เช่น ผอม อว้ น สูง ชอบน่งั ไขว่ห้าง ชอบเขยี นหนังสือ ชอบฟังเพลง เป็นต้น
3.เปล่ียนแปลงดว้ ยการแตง่ เติม หมายความว่า จะต้องใช้ความรู้ทางเทคนิคในการวาดภาพ เพื่อท่ีจะมาช่วย
ในการดึงดดู ลักษณะเดน่ ของตัวต้นแบบออกมา เช่น หากต้นแบบเปน็ คนอ้วน ภาพทวี่ าดออกมาจะต้องทง้ั
อ้วน ท้งั เตีย้ เพื่อท่จี ะได้เน้นให้เหน็ ภาพชัดมากยิ่งขนึ้ นั่นเอง
แต่อย่างไรก็ตาม ถงึ แมว้ ่าการวาดภาพลอ้ เลียน จะถูกสรา้ งขนึ้ มาเพือ่ ความบันเทงิ แถมยังมคี วามอิสระในการ
สรา้ งสรรค์รปู ภาพกต็ าม ในส่วนของความเหมาะสมกม็ ีความสาคญั มากเช่นกนั โดยเฉพาะการนาเอาตน้ แบบ
ทเ่ี ป็นผู้ทม่ี ีชือ่ เสียง จะต้องวาดออกมาใหอ้ ย่ใู นความถูกต้อง ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลท่ีเปน็ ต้นแบบ
ดว้ ย

กำรต์ นู หมำยถงึ อะไร
กำรต์ ูน(CARTOON) ในพจนานุกรมฉบบั ราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2525 ได้ให้ความหมายไวว้ ่า

"ภาพล้อ ภาพตลก บางทกี เ็ ขียนเป็นภาพบคุ คล บางทีเขยี นเป็นภาพแสดงเหตุการณ์ทผ่ี ู้เขยี นตัง้ ใจล้อเลียน
จะใหด้ รู ูส้ ึกขบขัน บางทกี เ็ ขียนตดิ ตอ่ กันเปน็ เรื่องยืดยาว"

กำรต์ นู ตลก ท่ีแสดงสอื่ ควำมหมำยด้วยภำพ

5

ลักษณะของภำพวำดกำรต์ ูน
1. แบบธรรมชำติ เปน็ แบบทอี่ งิ ลักษณะความเปน็ ธรรมชาติของสรรพส่งิ ตา่ งๆ ทั้งในลักษณะทมี่ ี

สัดสว่ นเหมอื นหรอื คลา้ ยธรรมชาติ ในลักษณะแบบยืดสัดส่วนและหดสดั สว่ น ดังตวั อย่างภาพ เปน็ ตน้

เหมือนหรือคลำ้ ยธรรมชำติ

ภำพ ก ภำพ ข
ภำพ ก. แบบยดื สดั ส่วนผลงำนของวฒั นำ เพชรสุวรรณ แบบหดสัดส่วน (นกั เขียนกำร์ตนู ในหนงั สือขำย
หัวเรำะ)
ภำพ ข. แบบหดสดั ส่วน

6

2. แบบเหนอื ธรรมชำติ เป็นแบบทีส่ รา้ งสรรคข์ ้นึ ตามจนิ ตนาการเหนอื รปู แบบท่ีพบเห็นในธรรมชาติท่วั ไป
แต่อาจได้แรงใจมาจากสง่ิ ทีม่ ีอยูจ่ รงิ หรอื คดิ ขึ้นใหมก่ ็ได้ เชน่ โดรำเอมอน และโดนลั ด๊ัก เปน็ ต้น

โดเรเอมอน และโดนัลด๊ัก

ประเภทของภำพวำดกำรต์ นู
ประเภทของการ์ตูน แบง่ ออกได้ 6 ประเภท ดงั น้ี
1. กำรต์ ูนลอ้ กำรเมอื ง (POLITICAL CARTOONS) [1] คอื ภาพการ์ตนู ท่วี าดขึ้นและตีพมิ พ์ลง

ส่ือสงิ่ พิมพต์ ่างๆ เช่นหนงั สอื พิมพ์ นิตยสาร โดยมีเนอ้ื หาล้อเลยี น เสยี ดสี ประชดประชันนักการเมือง หรือ
เหตุการณท์ างการเมือง ในลกั ษณะวิพากษ์วจิ ารณ์ จุดประสงคเ์ พ่ือความสนุกสนานและความขบขนั ใน
บางคร้งั อาจสอดแทรกถึงวธิ ีการแก้ปัญหานั้นๆ การต์ นู ชนิดนอ้ี าจมคี าบรรยายหรอื ไม่มีก็ได้ โดยนกั วาด
การ์ตูนล้อการเมืองนน้ั ถือว่าเปน็ คอลมั นิสตห์ รือบรรณาธกิ ารคนหนงึ่ ของหนงั สอื พิมพฉ์ บับนั้นๆ
เรยี กว่า กำร์ตนู นสิ ต์ ( CARTOONNIST )

การ์ตนู ล้อการเมือง เกิดขึน้ ครั้งแรกในโลกทป่ี ระเทศอังกฤษ โดยชาวอังกฤษชอ่ื เจมส์ กิลลเ์ รย์
(ค.ศ. 1757- ค.ศ.1815) ไดเ้ ขียนภาพลอ้ เลยี นพระบรมวงศานวุ งศข์ องประเทศองั กฤษ ท่ีใช้จา่ ยอยา่ งฟมุ่ เฟือย
ศลี ธรรมของชนชนั้ สงู และการทางานของรัฐบาล ทาให้ประชาชนคลายความเครียดจากภาวะสงครามใน
ขณะนน้ั

สาหรบั ประเทศไทย การต์ ูนล้อการเมืองเริ่มมีข้นึ มาพร้อมๆ กบั วิวัฒนาการการต์ ูนในประเทศไทย
โดยเฉพาะในยุครชั กาลที่ 6 ที่สือ่ สิ่งพิมพ์และประชาธิปไตยเฟ่ืองฟู ในยุคนี้มกี าร์ตนู ล้อการเมืองเร่ิมเป็นท่ีรู้จัก
กนั อย่างแพรห่ ลาย

7

ภำพกำร์ตูนลอ้ กำรเมืองภำพแรกของไทย (ฝีพระหตั ถโ์ ดยรชั กำลที่ 6)
เป็นภาพการต์ นู ล้อ พระเจา้ บรมวงศ์เธอ พระองคเ์ จา้ บุรฉัตรไชยากร กรมพระกาแพงเพช็ รอัครโยธนิ ขณะ
เป็นกรมขนุ กาแพงเพช็ รอัครโยธนิ ดารงตาแหนง่ ผู้บัญชาการกรมรถไฟหลวง ถือไดว้ ่าเปน็ การต์ ูนล้อการเมือง
ภาพแรกของไทย

ภำพกำรต์ นู ล้อกำรเมอื ง ฝีพระหตั ถ์โดยรชั กำลท่ี 6
การ์ตูนนสิ ต์การเมอื งคนแรกของไทย คือ ขุนปฏิภาคพิมพล์ ิขิต (เปลง่ ไตรปิ่น) ซ่งึ มโี อกาสเดนิ ทางไปศกึ ษา
วิชาศลิ ปะการวาดท่ีประเทศยุโรป ไดน้ าเทคนิคจากตา่ งประเทศวาดภาพการต์ นู เปน็ ลายเสน้ ไดร้ ับรางวัลการ
ประกวดภาพล้อจากรชั กาลท่ี 6 โดยการเขยี นการ์ตูนล้อเลยี นนกั การเมืองสาคญั ๆ ในยุคน้ัน

8

ขุนปฏิภำคพิมพ์ลิขติ (เปลง่ ไตรป่ิน)

ภำพลอ้ กำรเมอื ง ของเปล่ง ไตรปน่ิ
นอกจากนีแ้ ลว้ ชาวญีป่ ่นุ ท่ีชื่อ ไอ เคยี ว คาวา ซง่ึ อาศยั อย่ใู นเมอื งไทย สนับสนุนให้นกั เขียนการต์ นู วาดภาพ
การต์ นู ลงในหนังสือพมิ พย์ าโมโต จวบจนสมัยรชั กาลท่ี 7 การต์ ูนเร่มิ ซบเซา เนื่องจากเกิดสงครามโลกครง้ั ที่ 2
เกิดปัญหาการขาดแคลนกระดาษพิมพ์

จนกระทัง่ ยุคการเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี พ.ศ.2475 วงการการ์ตนู เร่ิมฟืน้ ฟูขน้ึ พร้อมกับ
เสรภี าพในการแสดงความคิดเหน็ ทางการเมอื ง การ์ตูนนสิ ต์วาดภาพลอ้ เลยี นจนเกนิ ขอบเขต ทาใหม้ ีกฏหมาย
ของคณะราษฎรออกมาควบคุม

หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ประยูร จรรยาวงศ์ ไดว้ าดภาพการต์ นู ท่มี ีตวั แสดงชื่อ "ศขุ เล็ก" ใชเ้ ปน็
สญั ลกั ษณป์ ระจาตัว เขียนการต์ นู ขาขัน และการต์ ูนล้อการเมอื ง ได้รบั รางวลั จากการประกวดการ์ตนู
สันตภิ าพโลก เม่อื ปี พ.ศ. 2503 ท่ีนวิ ยอรก์ ชือ่ ภาพ การทดลองระเบิดปรมาณลู ูกสดุ ท้าย (THE LAST
NUCLEAR TEST ) และไดร้ บั รางวัลแมกไซไซ ท่ีประเทศฟลิ ิปปนิ ส์

ภำพกำร์ตนู ศขุ เล็ก (รปู คนซ้ำยสุด) สัญลกั ษณ์ประจำตวั ของประยูร จรรยำวงศ์

9

ภำพเขียนประยรู จรรยำวงศ์

ผลงำนกำรเขยี นกำร์ตูน ของประยูร จรรยำวงศ์
ยคุ ทองของการต์ ูนล้อการเมืองไทย เริ่มตน้ หลังเหตุการณ์ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2516 เมื่อมีหนงั สอื พิมพเ์ พมิ่ ขึ้น
ใหม่อีกหลายฉบบั ทาให้มีการ์ตนู นสิ ต์การเมืองที่มีชอ่ื เสียงเกิดขนึ้ อกี หลายคน เชน่ ชยั ราชวตั ร กับคอลมั น์
ผใู้ หญม่ ากบั ทุ่งหมาเมนิ ในหนงั สอื พิมพ์ไทยรัฐ หมน่ื (ชูชาติ หม่นื อนิ กุล) ในหนังสอื พมิ พ์เดลินิวส์ อรุณ วัชระ
สวัสด์ิ ในหนงั สอื พิมพก์ รงุ เทพธรุ กิจ และ THE NATION เซยี ไทยรฐั ในหนังสอื พมิ พไ์ ทยรฐั ขวด เดลินวิ สใ์ น
หนงั สอื พมิ พเ์ ดลนิ วิ ส์ แอด๊ ในหนังสือพมิ พ์ไทยโพสต์ หมอ ในหนังสอื พมิ พ์กรงุ เทพธุรกจิ และอดู ด้า เปน็ ตน้

10

ชยั รำชวัตร กับคอลัมน์ผใู้ หญม่ ำกบั ทุ่งหมำเมิน ในหนงั สือพิมพ์ไทยรัฐ
ผลงำนของชยั รำชวตั ร ในหนงั สือพิมพไ์ ทยรัฐ
ผลงำนกำรต์ ูน ของเซีย ในหนังสอื พิมพไ์ ทยรัฐ

11

ผลงำนกำร์ตนู ของเซยี ในหนังสอื พิมพ์ไทยรัฐ

12

ผลงำนกำร์ตนู ของอรุณ วัชระสวสั ดิ์ ในหนังสอื พมิ พ์กรงุ เทพธุรกิจ

13

ผลงำนกำรต์ ูนของ ขวด เดลินิวส์ ในหนงั สือพิมพ์เดลินิวส์
ภำพกำร์ตนู ลอ้ กำรเมือง ของนกั เขยี นกำร์ตูนเมอื งไทย

14

2. กำร์ตนู ล้อบุคคล (CARICATURE) [2] เป็นการ์ตูนทเ่ี ขียนข้นึ เพื่อลอ้ เลยี นบคุ คลดงั ในสาขาอาชีพตา่ งๆ
ของสังคม หรือาจจะเป็นภาพล้อเพื่อนๆ และตัวเราเองก็ได้

ในการเขยี นภาพล้อบคุ คลนี้ ส่ิงสาคญั คือจะตอ้ งหาจุดเดน่ ทเี่ ปน็ เอกลกั ษณบ์ นใบหน้าและลักษณะ
รปู ร่างของคนน้ันๆ ให้ได้ เชน่ ค้ิวดก ตากลมโต จมูกใหญ่ ปากหนา หกู าง รูปร่างสูงเกง้ ก้าง หรืออ้วนเตีย้
เปน็ ตน้ จากนนั้ จึงนามาออกแบบตัวละครการ์ตนู ด้วยการยืดหดสดั สว่ นใหเ้ พ้ยี นไปจากความจรงิ ให้ดูมอี ารมณ์
ขนั แต่ยังมีเคา้ ของบุคคลน้นั อยู่

ภำพกำร์ตนู ล้อบคุ คลดงั ในสำขำอำชพี ตำ่ งๆ ของสังคม

ภำพกำร์ตนู ล้อบุคคลดำรำไทย รปู คุณบิลลี่ และคณุ สเิ รยี ม

15

ภำพล้อบุคคลนกั เขียนกำรต์ นู ชอื่ ชูชำติ หมืน่ อนิ กลุ หรือพ่หี มื่น
วำดโดย อรรณพ กิตติชัยวรรณ หรือ แอ๊ด

ภำพกำรต์ นู กำรล้อบคุ คล

16

ข้ันตอนกำรวำดภำพลอ้ บคุ คล

17

3. กำร์ตนู ขำขัน (GAG CARTOONS) [3] เป็นการต์ นู ที่เขียนขึน้ เพื่อเนน้ ความตลกขบขันเปน็ หลกั นยิ ม
เขยี นเปน็ ช่องอาจมีชอ่ งเดยี วหรอื หลายช่องก็ได้ จะมคี าบรรยายหรือไม่มีก็ได้ มุกตลกควรคดิ ขน้ึ มาจาก
เหตุการณ์ปจั จุบนั ในชวี ิตประจาวนั ทเี่ กดิ ขน้ึ ในสังคม ปฏกิ ริ ิยาการตอบสนองทางอารมณ์ขันจึงจะไดผ้ ลดี
ตัวอย่างการ์ตนู ขาขนั ของไทยทีไ่ ด้รบั ความนยิ มมากคือ การ์ตนู ขายหัวเราะ เป็นตน้

กำรตนู ขำขนั แสดงเหตกุ ำรณ์ปัจจุบันในชีวิตประจำวันที่เกิดขึ้นในสงั คม

18

4. กำร์ตูนเรื่องยำว (COMICS OR SERIAL CARTOONS) [4] เป็นการ์ตนู ท่เี ขียนข้ึนเพือ่ นาเสนอเนอ้ื หา
เรอื่ งราวหลายกรอบภาพต่อเนื่องกันจนจบ เน้ือหาทนี่ าเสนอมหี ลายแนว เชน่ ผจญภัย วทิ ยาศาสตร์ สยอง
ขวัญ รัก และตลกเบาสมอง เปน็ ตน้ การ์ตูนประเภทนี้จะพิมพเ์ ปน็ เล่ม เชน่ หนงั สือการต์ ูนฝรงั่ เร่อื งเกีย่ วกับ
ยอดมนษุ ย์ทง้ั หลาย กำร์ตูนญี่ป่นุ เรอ่ื งโดราเอมอ่ น เป็นต้น

การต์ นู เรื่องยาวนี้นักเขยี นกำรต์ ูนไทย ช่อื ดงั ในอดีตผู้ลว่ งลบั ชื่อ จลุ ศักด์ิ อมรเวช หรือ จุก เบย้ี ว
สกล ท่านเรยี กว่า "นิยายภาพ" ผลงานเด่นของทา่ นได้แก่ เจ้าชายผมทอง การต์ ูนเพื่อนหนู

นิยำยภำพเจำ้ ชำยผมทอง และ นยิ ำยภำพกำรต์ นู เพ่ือนหนู

19

5. กำรต์ นู ประกอบเรอื่ ง (ILLUSTRATED CARTOONS) เปน็ การต์ นู ทว่ี าดขึ้นเพ่ือประกอบเน้ือหาของ
ข้อเขียนตา่ งๆ เชน่ ประกอบส่ือทางการศึกษา สอื่ สง่ิ พมิ พต์ า่ งๆ และประกอบสอื่ การโฆษณา เป็นตน้

กำรต์ นู ประกอบส่ือทำงกำรศกึ ษำเร่อื งประเพณีกำรบวชนำค

ภำพกำรต์ นู ประกอบสื่อสิ่งพิมพ์

20

ภำพกำร์ตนู บนปกหนงั สือ
6. กำร์ตูนมชี ีวติ (ANIMATED CARTOONS) [5] หรือภาพยนตร์การต์ ูน เป็นภาพการ์ตนู ทเ่ี ขยี นแสดง
อริ ิยาบถในท่านง่ิ หลายภาพ ซึ่งคอ่ ยๆ เปลย่ี นท่าทางไปทลี ะนิด แลว้ นาไปถ่ายทาดว้ ยเทคนิคการถา่ ย
ภาพยนตร์ หรือใชค้ อมพวิ เตอรส์ รา้ งสรรค์ทาใหภ้ าพนน้ั เคลือ่ นไหวได้คลา้ ยมีชีวติ เชน่ ภาพยนตร์การ์ตนู ไทย
เรอ่ื งสุดสาคร และก้านกล้วย ภาพยนตร์ กำรต์ ูนฝรง่ั เรอ่ื งสโนไวทก์ ับคนแคระทัง้ เจด็ เป็นต้น

โปสเตอร์ภำพยนตรก์ ำรต์ นู เรอื่ งสโนไวท์กับคนแคระทัง้ เจ็ดของ WALT DISNEY'S

21

อปุ กรณ์เครื่องมอื ในกำรวำดรูป

อปุ กรณ์เครื่องมือในกำรวำดกำรต์ นู ทส่ี าคัญข้ันพนื้ ฐาน มีดงั นี้
1. กระดำษ ให้มีเนือ้ หนาพอควรและไม่ซมึ เปื้อนหมกึ หรือสงี า่ ย ควรเลือกใช้ใหเ้ หมาะสมกบั กลวิธี
การสรา้ งสรรค์ เชน่ กระดาษอาร์ต กระดาษการ์ด เหมาะสาหรบั วาดดว้ ยปากกาจุ่มหมกึ พู่กันจมุ่ หมึก และ
ปากกาหมึกสาเรจ็ รปู เปน็ ต้น กระดาษวาดเขยี นรอ้ ยปอนด์ด้านผิวเรยี บเหมาะสาหรบั การวาดดว้ ยดินสอดา
ดนิ สอสี ปากกา เป็นต้น ด้านผวิ หยาบเหมาะสาหรับการวาดดว้ ยกลวธิ กี ารระบายสนี ้า สโี ปสเตอร์ เปน็ ต้น
2. ดินสอ ควรเป็นดนิ สอไส้อ่อน เพราะสามารถลบเสน้ ท่ไี มต่ ้องการออกไดง้ ่าย ดนิ สอที่เหมาะใช้
ร่างภาพการ์ตนู ได้แก่ B, 2B และ HB ไม่ควรใช้ดินสอท่ีมีไสแ้ ข็งเพราะเวลาวาดจะขดู กระดาษเป็นรอยลึก ทา
ให้ลบยาก
3. ยำงลบ ควรเป็นแบบเนอื้ อ่อน เพราะเวลาลบจะได้ไม่มีขยุ มาก และสามารถตดั แตง่ ให้มปี ลาย
แหลมเพื่อไว้ใช้ลบในส่วนพืน้ ท่แี คบๆ ได้
4. ปำกกำ นยิ มใช้อย่หู ลายแบบ เช่น ปากกาจุ่มหมกึ หัวช้อน (หวั คาบรา้ ) หวั เขยี นแผนท่ี (หวั กลม)
หวั จีเพน็ (G-PEN) และปากกาหมกึ สาเร็จรูป เชน่ ปากกาเขยี นแบบ ปากกามาร์กเกอร์ ปากกาปลายสักหลาด
และปากกาหัวไฟเบอร์ เป็นต้น
5. พู่กนั นยิ มใชพ้ ู่กันขนอ่อนนุ่มแบบกลมมากกวา่ พกู่ นั แบบแบน พู่กนั กลมปลายแหลมเบอร์เลก็
ใชส้ าหรับตัดเส้น ระบายพน้ื ท่ีแคบ และเก็บรายละเอียด เบอร์ใหญใ่ ช้สาหรบั ระบายพนื้ ท่ีกวา้ ง และใช้ตัดเส้น
ทม่ี ีขนาดใหญ่
6. หมึก มีท้ังหมึกดาและหมึกสี ได้แก่ หมึกดาอินเดียองิ ค์ซ่ึงใชก้ ับปากกาจุ่มหมึกหรือพู่กัน และ
หมึกสีทใี่ ชก้ ับปากกาเขยี นแบบหรอื พู่กนั 7. สี ท่ีนิยมใช้กันในระดับเบอื้ งตน้ ได้แก่ สีดินสอ สนี ้า สโี ปสเตอร์
และสเี มจกิ

ขั้นตอนกำรวำดกำรต์ นู

ข้ันตอนกำรวำดภำพกำรต์ ูน [6] มีดงั น้ี
1. ศกึ ษำเน้ือหำเร่ืองรำวทจ่ี ะวำด เพ่อื จับประเดน็ ของจดุ ประสงค์ที่ต้องการใหต้ วั ละครนั้นๆ มี
ลกั ษณะเด่นอย่างไร เชน่ เถา้ แกอ่ าเซย่ี วผู้มอี นั จะกนิ จะมีลักษณะรปู รา่ งอว้ นท้วม ดวงตาเล็ก คนชรามี
ลกั ษณะหลงั งอ ใบหน้าเห่ียวยน่ ผมขาว และโจรผ้รู า้ ยมีค้วิ หนา ตาดุดันไวห้ นวดเครา เป็นต้น

โจรผู้รำ้ ย คนชรำ หญงิ อว้ น

2. ออกแบบรำ่ งภำพ หลังจากศึกษาบคุ ลิกของตัวละครตามเน้อื หาท่ีเขียนกาหนดไวจ้ นเข้าใจแล้ว จึงใช้
จินตนาการเปน็ ภาพขึ้นในสมองก่อน จากนน้ั จงึ ถา่ ยทอดออกมาเปน็ ภาพรา่ งคร่าวๆ เพ่ือนามาใช้เปน็ แนว
แบบวาดภาพบุคลิกของตวั ละครนัน้ ตอ่ ไป

22

3. ลงมือวำดตำมแบบ และใชก้ ลวิธีสรา้ งสรรคผ์ ลงานตามทต่ี นกาหนดไว้ เมื่อไดแ้ บบที่พอใจแล้วจึงลงมือ
วาดตัวละครการ์ตูนในแตล่ ะตัวตามบุคลิกที่ได้ออกแบบไว้

กำรวำดภำพบุคลิกตวั ละครในกำรต์ ูน

บทบำทของกำรต์ นู ในโฆษณำ

บทบำทของกำร์ตูนในกำรโฆษณำ [7] จากผลการวจิ ัยของนักจิตวทิ ยาพบว่าเดก็ ไมช่ อบภาพที่
เหมือนจรงิ ซับซ้อน แต่จะชอบภาพลายเส้นงา่ ยๆ มากกว่า ดงั น้นั เด็กจึงชอบการต์ นู และรับรู้ภาพการต์ ูนไดด้ ี
เพราะภาพการต์ นู ส่วนใหญ่จะมีลายเสน้ นอ้ ยไมซ่ ับซ้อน นอกจากน้กี ารต์ นู ยังทาให้ผดู้ ูเกิดอารมณข์ นั และภาพ
ตวั ละครการ์ตนู มักจะแสดงรอยยิม้ จึงชว่ ยลดความเครียดและแรงตา้ นทานของผู้ดลู ง การใชภ้ าพโฆษณาดว้ ย
การต์ นู จึงมีสว่ นช่วยใหผ้ ใู้ หญแ่ ละเด็กที่เหน็ การโฆษณานัน้ ไม่เกิดความรู้สกึ ต่อตา้ น

การ์ตนู จงึ ถูกนามาใช้เพอื่ ดึงดดู ความสนใจในการโฆษณาต่างๆ เชน่ ใบปดิ โฆษณา (POSTER) ป้าย
โฆษณา โฆษณาข้างรถ แผ่นปลวิ โฆษณาในหนงั สอื พิมพ์ โฆษณาในสมดุ หน้าเหลอื ง และภาพยนตร์โฆษณา
เป็นตน้

กำรโฆษณำขำ้ งรถด้วยกำรนำภำพกำรต์ นู มำออกแบบช่วยดึงดดู ควำมสนใจมำกข้นึ

23

กำรวำดภำพล้อเลียนบุคคล
กำรวำดตำ

24

กำรวำดจมกู

25

กำรวำดปำก

26

บทท่ี 3

วธิ ดี ำเนินกำรวจิ ัย

วิธกี ำรดำเนนิ กำรวิจยั
1. คดั เลือกกลุ่มตวั อยา่ ง จากนกั เรียนชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 5/2 จานวน 42 คน และนกั เรียนช้ัน มัธยมศึกษาปี
ที่ 5/5 จานวน 26 คน รวมท้ังส้ินจานวน 68 คน

1.1 นักเรียนท่ีขาดทกั ษะในการวาดภาพลอ้ เลียนบคุ คล
1.2 นักเรยี นท่เี รยี นวิชาทัศนศลิ ป์ ศ32101

2. เคร่ืองมือทีใ่ ช้ในการวจิ ัย: สื่อนวตั กรรมการวาดภาพลอ้ เลยี นบคุ คล สอนโดยวธิ ีการสาธิตทีล่ ะขั้นตอนอยา่ ง
ละเอียด

3. ข้นั ตอนการปฏิบตั ิต่อผเู้ รียน
3.1 สรา้ งแบบฝกึ : ครูผสู้ อนศิลปะสรา้ งแบบฝึก สอ่ื นวตั กรรมการวาดภาพลอ้ เลยี นบุคคล สอน

โดยวิธกี ารสาธิตทีล่ ะขน้ั ตอนอยา่ งละเอียด

3.2 แจ้งขัน้ ตอนการปฏิบัตติ ่อผ้เู รยี น
3.3 ผ้เู รยี นฝึกการวาดภาพลอ้ เลยี นบุคคล ตามข้นั ตอนโดยใช้เวลา 5 คาบ และมคี รูผู้ฝกึ สอนคอย
แนะนาให้คาปรึกษา
3.4 ตรวจสอบคณุ ภาพผลงาน
3.5 ผูเ้ รียนจดั ทาผลงานวาดภาพลอ้ เลยี นบคุ คล สรา้ งสรรคผ์ ลงานของตนเอง

กำรเก็บรวบรวมข้อมลู
1. ระยะเวลาทาวาดภาพล้อเลยี นบคุ คล ตามขนั้ ตอนโดยใชเ้ วลา 5 คาบ ( ภาคเรียนท่ี 2ปกี ารศึกษา 2564)
2. แจง้ ข้นั ตอนการปฏิบตั ติ ่อผู้เรียน สอนโดยใช้ส่ือนวัตกรรมการวาดภาพล้อเลียนบุคคล สอนโดยวิธกี าร
สาธติ ทีล่ ะขั้นตอนอย่างละเอยี ด
3.ทดสอบหลงั จากการทาผลงานวาดภาพลอ้ เลียนบุคคล สรา้ งสรรคผ์ ลงานของตนเอง

กำรวิเครำะหข์ อ้ มูล
1.ตรวจผลงานวาดภาพล้อเลียนบคุ คล ของนักเรียน
2.เปรียบเทียบผลงานผลงานวาดภาพลอ้ เลยี นบคุ คล ก่อนและหลงั ใช้ส่ือนวตั กรรมการวาดภาพล้อเลยี น
บคุ คล สอนโดยวิธกี ารสาธิตที่ละขนั้ ตอนอยา่ งละเอียด

27

บทที่ 4

กำรวิเครำะหข์ อ้ มูล

ข้ันตอนกำรใช้แบบฝึก

การฝึกเพื่อพฒั นาความรู้การวาดภาพล้อเลียนบุคคล นกั เรยี นสามารถสร้างสรรค์ผลงานภาพ
ล้อเลยี นของตนเองได้

ตารางการฝกึ เรอ่ื งและขั้นตอนกำรปฏิบตั ิ สถำนท่ี
ครงั้ ที่ จุดประสงค์ ห้องเรยี น
ครั้งที่ ผเู้ รยี นศกึ ษา และมีความเขา้ ใจ แบบฝึกการวาดตา 434,342
1 เรอ่ื งการวาดภาพล้อเลียน การฝึกปฏบิ ัติ
1. ผู้เรยี นเรยี นรู้เรือ่ งทฤษฎีการวาดตา และการปฏบิ ัติให้ ห้องเรยี น
ครง้ั ที่ ผเู้ รยี นศึกษาและทาความเข้าใจ ดูจากครู 434,342
2 เรื่องการวาดภาพล้อเลียน 2. ผเู้ รียนทดลองวาดตา ท่ีได้ศึกษาจากตวั อย่าง
หอ้ งเรียน
คร้ังที่ ผเู้ รียนศกึ ษาและวาดภาพ แบบฝึกการวาดจมูก 434,342
3 ล้อเลยี น การฝกึ ปฏบิ ัติ
1. ผ้เู รยี นเรยี นรเู้ รือ่ งทฤษฎีการวาดจมกู และการปฏบิ ตั ิ หอ้ งเรยี น
ครงั้ ท่ี ผเู้ รียนศึกษาและวาดภาพ ใหด้ ูจากครู 434,342
4 ลอ้ เลียน 2. ผเู้ รยี นทดลองวาดจมูก ที่ได้ศกึ ษาจากตัวอย่าง
ห้องเรยี น
คร้งั ที่ ผเู้ รยี นศึกษาและวาดภาพ แบบฝึกการวาดปาก 434,342
5 ล้อเลียน การฝกึ ปฏบิ ตั ิ
1. ผเู้ รยี นเรียนรู้เรอ่ื งทฤษฎีการวาดปาก และการปฏิบตั ิ
ใหด้ จู ากครู
2. ผู้เรียนทดลองวาดปาก ท่ีไดศ้ ึกษาจากตวั อย่าง

แบบฝกึ การวาดใบหนา้
การฝึกปฏบิ ตั ิ
1. ผู้เรียนเรยี นรู้เรื่องทฤษฎีการวาดใบหน้า และการ
ปฏบิ ัติให้ดจู ากครู
2. ผเู้ รยี นทดลองวาดใบหนา้ ที่ไดศ้ ึกษาจากตัวอย่าง

แบบฝกึ การวาดภาพลอ้ เลียนบุคคล
การฝกึ ปฏบิ ตั ิ
1. ผู้เรยี นเรียนรเู้ รือ่ งทฤษฎีการวาดภาพลอ้ เลียนบคุ คล
และการปฏิบัติให้ดจู ากครู
2. ผู้เรยี นทดลองวาดภาพล้อเลียนบุคคล ท่ไี ด้ศกึ ษาจาก
ตวั อย่าง

28

บทที่ 5

สรปุ ผล อภิปรำยผล ขอ้ เสนอแนะ

จากการทาวิจัยในชน้ั เรยี น เรื่อง การใช้สอื่ นวตั กรรมเพื่อฝึกทักษะการสรา้ งสรรคง์ านศลิ ปะ เรอ่ื ง
การวาดภาพล้อเลยี นบุคคล ของนักเรียนชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 5

นักเรียนมที กั ษะในการวาดภาพในการวาดภาพล้อเลยี นบุคคล สามารถสรา้ งสรรคผ์ ลงานการวาดภาพ
ล้อเลยี นบุคคลได้ รู้จักเทคนคิ วธิ ีการสรา้ งผลงาน ของตน เพื่อนาสง่ ครผู ู้สอน เพ่ือเป็นการประเมนิ การพัฒนา
ทางดา้ นศิลปะ ของนกั เรยี นเอง โดยไดม้ ีการพฒั นาผลงานของตนเองจากการศึกษาเทคนิค จนสามารถ
สรา้ งสรรค์เป็นผลงานท่ีสมบูรณ์แบบได้ เกี่ยวกับเทคนคิ การวาดภาพล้อเลียนบคุ คล ทถี่ ูกตอ้ งและสรา้ งสรรค์
โดยท่อี ยภู่ ายใต้หลกั ของการวาดภาพล้อเลยี นบคุ คลและจดั องคป์ ระกอบศิลป์มีความสวยงาม มีการลงคา่
นา้ หนักแสงเงาในการDrawing ภาพลอ้ เลยี นบคุ คล การวาดตา จมกู ปาก ใบหนา้ อยา่ งถูกต้อง และมี
เอกลักษณเ์ ป็นองตนเอง สามารถวาดออกมาได้คลา้ ยคลงึ กับตน้ แบบ สรา้ งสรรคผ์ ลงานทัศนศลิ ป์เรือ่ งการวาด
ภาพล้อเลยี นได้อย่างสมบรู ณ์และสามารถถา่ ยทอดออกมาได้อย่างเต็มที่เตม็ ความสามารถของนกั เรยี น
ออกมาเปน็ ผลงานทีน่ า่ ชนื่ ชม

ประโยชน์ในชีวิตประจาวนั ของนักเรียนได้ อย่างเชน่ การทาผลงานในชั้นเรยี น การเข้าร่วมแข่งขนั
ประกวดการประกวดวาดภาพ การวาดภาพของทีร่ ะลึก การประกอบอาชพี การวาดภาพล้อเลียน หรอื แม้แต่
การสร้างงานศิลปะของตนเองสบื ตอ่ ไป

29

บรรณำนกุ รม

- http://119.46.166.126/self_all/selfaccess12/m6/710/lesson1/lesson1.php สบื ค้นเม่ือ
วันที่ 10 มาราคม 2565

- https://www.arthouseschool.com/post/2016/10/12 สบื ค้นเม่อื วันท่ี 10 มกราคม 2565

30

ภำคผนวก

31

ภำพตัวอยำ่ ง กำรวำดภำพล้อเลียนบคุ คล

32

33

34

35

36

37

38

ผลงานการวาดภาพล้อเลียนบคุ คลของนกั เรียนชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 5 (บางสว่ น)

39

40

41

42

43


Click to View FlipBook Version