The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รายงานการวิจัย เรื่อง
การพัฒนาทักษะการทำงานกลุ่ม โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบโครงงาน(Project Based Learning)
สำหรับนักศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย กศน.ตำบลสูงเนิน
อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ningchalita1188, 2023-03-21 11:56:30

รายงานการวิจัย

รายงานการวิจัย เรื่อง
การพัฒนาทักษะการทำงานกลุ่ม โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบโครงงาน(Project Based Learning)
สำหรับนักศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย กศน.ตำบลสูงเนิน
อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา

Keywords: รายงานการวิจัย

รายงานการวิจัยนี้เผยแพร่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนี้ การประชุมประจ าเดือนของสถานศึกษา เมื่อวันที่ เดือน มีนาคม พ.ศ.2566 การเผยแพร่ผ่านเว็ปไซต์ของสถานศึกษา เมื่อวันที่ เดือน มีนาคม พ.ศ.2566 การเผยแพร่ผ่านเว็ปไซต์ของ กศน.ต าบลสูงเนิน เมื่อวันที่ เดือน มีนาคม พ.ศ.2566 การเผยแพร่ผ่านสื่อออนไลน์อื่นๆ ผ่าน E-book เมื่อวันที่ เดือน มีนาคม พ.ศ.2566 การเผยแพร่ด้วยรูปแบบอื่น โปรดระบุ................................... เมื่อวันที่ เดือน..................พ.ศ.......... รายงานการวิจัยนี้ได้รับการอนุมัติและให้ข้อเสนอแนะจากผู้บริหารสถานศึกษาแล้ว (นางบุศรา อารีชาติ) ผู้อ านวยการ กศน.อ าเภอสูงเนิน ลงวันที่ เดือน มีนาคม พ.ศ.2566


สารบัญ เรื่อง หน้า บทคัดย่อ 1 ชื่อรายงานการวิจัย 2 สภาพปัญหาและความส าคัญ 2 วัตถุประสงค์ 3 กลุ่มเป้าหมาย 3 ตัวแปรที่ศึกษา 3 สมมติฐานการวิจัยหรือผลที่คาดว่าจะได้รับ 3 นวัตกรรม/เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลหรือการวิจัย 3 ขอบเขตของการวิจัย 4 วิธีด าเนินการวิจัย 4 การวิเคราะห์ข้อมูล 4 สรุปผลการวิจัย 5 ภาคผนวก 6 บรรณานุกรม 7 นวัตกรรม/เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูล 8 - แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน 9 - แบบประเมินพฤติกรรม 13 - ใบความรู้ 14 - ใบงานกลุ่ม 17 ข้อมูลการประเมินและผลการประเมิน 23 - ตารางวิเคราะห์ผลการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน 24 - ผลการประเมินพฤติกรรม 25


1 บทคัดย่อ การวิจัยครั้งมีจุดมุงหมาย เพื่อให้ผู้เรียนมีความเข้าใจ มีทักษะ และมีเจตคติที่ดีต่อการท ากิจกรรม กลุ่มร่วมกับผู้อื่น โดยมีกลุ่มตัวอย่างคือนักศึกษา กศน.ต าบลสูงเนิน ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ภาคเรียนที่ 2 ปี การศึกษา 2565 ของศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอ าเภอสูงเนิน นวัตกรรมและเครื่องมือที่ ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้คือกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบโครงงาน โดยใช้สื่อและใบงานกลุ่มเรื่องกระบวนการคิดเป็น โดย ท าการเก็บรวบรวมข้อมูลระหว่างวันที่ ระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์– 20 มีนาคม 2566 กกกกกกกกกกกกผลการวิจัยปรากฏว่านักศึกษา กศน.ต าบลสูงเนิน ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ภาคเรียนที่ 2 ปี การศึกษา 2565 ของศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอ าเภอสูงเนิน มีคะแนนทดสอบหลังเรียน สูงกว่าคะแนนทดสอบก่อนเรียนทุกคน นอกจากนี้จากการตรวจผลการท าใบงานกลุ่มและการสังเกตพบว่าผู้เรียน แบ่งงานกันท าตามหน้าทีที่ได้รับมอบหมาย มีส่วนร่วมในการช่วยกันท าใบงานกลุ่ม และโครงงานกลุ่ม จนสามารถ จัดท าโครงงานกลุ่มเสร็จเรียบร้อยตามที่ครูมอบหมาย และจากการสังเกตพบกว่า กลุ่มเป้าหมาย จ านวน 3 คน มี ความเข้าใจ มีทักษะ และเจตคติ ที่ดีต่อการท ากิจกรรมกลุ่ม การระดมความคิดเห็น และการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ร่วมกับผู้อื่น โดยมีผลการประเมินพฤติกรรมอยู่ในระดับดีมาก และมีจ านวน 4 คน มีผลการประเมินพฤติกรรมอยู่ใน ระดับดี


2 รายงานการวิจัย เรื่อง การพัฒนาทักษะการท างานกลุ่ม โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบโครงงาน(Project Based Learning) ส าหรับนักศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย กศน.ต าบลสูงเนิน อ าเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา 1. สภาพปัญหาและความส าคัญ ด้วยบริบทของพื้นที่ต าบลสูงเนินเป็นที่ตั้งของโรงงานอุตสาหกรรมจ านวนมาก ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ ที่เป็นวัยท างานส่วนใหญ่ประกอบอาชีพรับจ้างในโรงงานอุตสาหกรรม อีกทั้ง ด้วยวัฒนธรรมของชุมชนและพื้นฐาน ครอบครัว ท าให้เด็กและเยาวชนส่วนหนึ่งเมื่อจบการศึกษาในระดับประถมศึกษาแล้ว จะเลือกออกมาประกอบอาชีพ รับจ้างในโรงงานอุตสาหกรรมแทนการเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้น ทั้งประกอบอาชีพพนักงานบริษัท ค้าขาย และ ประกอบอาชีพเกษตรกร แต่เมื่อมีความต้องการเรียนต่อจึงเลือกที่จะเรียนต่อกับ กศน. อีกทั้ง ปัจจุบันมีเด็กนักเรียน ในระบบโรงเรียนที่ออกกลางครันมีจ านวนเพิ่มขึ้น เนื่องจากเกิดปัญหาต่าง ๆ เช่น การท้องในวัยเรียน ปัญหายาเสพ ติด เป็นต้น ดังนั้น ปัจจุบันจึงมีนักศึกษาที่เข้ามาเรียน กศน. ที่เป็นกลุ่มเยาวชนจ านวนมากขึ้น และในการจัดกิจกรรม การเรียนรู้ของ กศน.ต าบลสูงเนิน มีกิจกรรมที่มีลักษณะการท ากิจกรรมกลุ่มอยู่บ่อยครั้ง ส าหรับนักศึกษาที่เป็นผู้ใหญ่ จะมีทักษะในการท ากิจกรรมกลุ่มดี แต่ส าหรับนักศึกษาที่เป็นเยาวชนยังขาดทักษะการรวมกลุ่มซึ่งเป็นทักษะที่ส าคัญ ต่อการเรียนรู้ของผู้เรียนที่ส าคัญในศตวรรษที่ 21 จากการศึกษาค้นคว้าของผู้วิจัยพบว่า การจัดการเรียนการสอนในศตวรรษที่ 21 ซึ่งมีลักษณะเน้น ผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง โดยลดการบรรยายจากผู้สอนแต่ผู้สอนจะเป็นผู้กระตุ้นให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ด้วยตนเองจากการ ปฏิบัติจริง หรือการเรียนโดยการลงมือท าด้วยวิธีที่ผู้เรียนได้ฝึกฝนจากสภาพแวดล้อมจริง ทั้งการคิดการลงมือท าเป็น สิ่งส าคัญ โดยการจัดการเรียนรู้รูปแบบใช้โครงงาน (Project Based Learning) เป็นรูปแบบหนึ่งของการเรียนรู้ใน ศตวรรษที่ 21 ที่จะส่งเสริมให้ผู้เรียนค้นคว้าหาความรู้ สร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดการเรียนรู้ที่ ยึดผู้เรียน เป็นส าคัญ เป็นการเรียนรู้เกิดจากการปฏิบัติจริง จากการหาความรู้และการลงมือกระท า มีความสามารถ ในการใช้ความรู้นั้น ๆ เป็นสิ่งที่ส าคัญที่สุด การเรียนรู้โดยใช้โครงงานนั้น ผู้เรียนสามารถเชื่อมโยง ความรู้เดิมหรือ ประสบการณ์เดิมกับความรู้ใหม่แล้วสามารถน าไปประยุกต์ใช้ได้อย่างเหมาะสม ขั้นตอนการเรียนรู้โดยใช้โครงงาน ประกอบด้วย (1) ขั้นการน าเสนอ (2) ขั้นวางแผน (3) ขั้นปฏิบัติและ (4) ขั้นประเมินผล ทุกขั้นตอนมีการท างานแบบ ความร่วมมือที่ฝึกการเป็นผู้น า ผู้ตาม ยอมรับฟัง ความคิดเห็นของผู้อื่น และให้เกียรติซึ่งกันและกัน คุณค่าของการ เรียนรู้แบบโครงงานเป็นการเรียนรู้ที่สร้างทักษะการเรียนรู้ทักษะการคิดสร้างสรรค์ ทักษะทางอารมณ์ ทักษะการ สื่อสารหรือ การน าเสนอที่สร้างความเข้มแข็งต่อผู้เรียนอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน สรุปได้ว่า การเรียนรู้รูปแบบใช้โครงงาน(Project Based Learning) เป็นการเรียนรู้รูปแบบหนึ่งที่ เหมาะสมส าหรับการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 เนื่องจากเป็นกิจกรรมที่เน้นการปฏิบัติตามความสนใจของผู้เรียน ซึ่งเริ่ม จากการเตรียมความพร้อมของครู ผู้เรียน วัสดุอุปกรณ์ จากนั้นผู้เรียนเลือกปัญหาที่จะศึกษา โดยมีครูเป็นผู้จุด ประกายและให้ค าปรึกษา ให้ข้อแนะน า ผู้เรียนและครูอาจร่วมกันวางแผนการท าโครงงานในรูปแบบของแผนปฏิบัติ การหรือเค้าโครง โครงงาน โดยก าหนดวัตถุประสงค์ สมมติฐานขอบเขตการศึกษา และวิธีการศึกษา ศึกษาหลักการ ทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง ลงมือปฏิบัติตามแผน โดยเก็บรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม เขียนรายงาน ประเมินโครงงานและเผยแพร่ผลงานสู่สาธารณะ ซึ่งในแต่ละขั้นตอนผู้เรียนสามารถ ประยุกต์ใช้เพื่อให้สอดคล้องกับ ลักษณะของความสนใจของผู้เรียนตนและกลุ่มการท างาน และจะช่วยพัฒนาสมรรถนะและทักษะของผู้เรียนในการ


3 เรียนรู้ร่วมกัน ซึ่งเป็นวิธีการจัดการเรียนการสอนรูปแบบหนึ่งที่เน้นให้ผู้เรียนลงมือปฏิบัติงานเป็นกลุ่มย่อย โดยมี สมาชิกกลุ่มที่มีความสามารถที่แตกต่างกัน เพื่อเสริมสร้างสมรรถภาพการเรียนรู้ของแต่ละคน สนับสนุนให้มีการ ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน จนบรรลุตามเป้าหมายที่วางไว้ นอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริมการท างานร่วมกันเป็นหมู่คณะ หรือทีม ตามระบอบประชาธิปไตย และเป็นการพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ท าให้สามารถปรับตัวอยู่กับผู้อื่นได้ อย่างมีความสุข ดังนั้น ผู้วิจัยจึงน าวิธีการจัดการเรียนรู้รูปแบบใช้โครงงาน(Project Based Learning) มาใช้ใน การจัดกิจกรรมให้กับนักศึกษา กศน.ต าบลสูงเนิน ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย เพื่อส่งเสริมทักษะการท ากิจกรรม การร่วมกับผู้อื่น การระดมความคิดเห็น การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน การเป็นผู้น าผู้ตามที่ดี และการท างานเป็นทีม และเหมาะสมส าหรับการเรียนรู้ของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 2. วัตถุประสงค์ 1. เพื่อให้ผู้เรียนมีความเข้าใจในการท ากิจกรรมกลุ่มร่วมกับผู้อื่น 2. เพื่อให้ผู้เรียนมีทักษะในการท ากิจกรรมกลุ่มร่วมกับผู้อื่น 3. เพื่อให้ผู้เรียนมีเจตคติที่ดีต่อการท ากิจกรรมกลุ่ม 3. กลุ่มเป้าหมาย นักศึกษา กศน.ต าบลสูงเนิน ระดับมัธยมศึกษาตอปลาย ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 จ านวน 7 คน 4. ตัวแปรที่ศึกษา ในการวิจัยครั้งนี้ ตัวแปรที่ศึกษาประกอบด้วย 4.1 ตัวแปรต้น/ตัวแปรอิสระ กิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบใช้โครงงาน(Project Based Learning) โดยใช้สื่อและใบงานกลุ่มเรื่อง กระบวนการคิดเป็น 4.2 ตัวแปรตาม นักศึกษา กศน.ต าบลสูงเนิน ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 จ านวน 7 คน มีความเข้าใจ มีทักษะ และเจตคติ ที่ดีต่อการท ากิจกรรมกลุ่ม 5. สมมติฐานการวิจัยหรือผลที่คาดว่าจะได้รับ หลังจากการท ากิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบใช้โครงงาน(Project Based Learning) นักศึกษา กศน. ต าบลสูงเนิน ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 จ านวน 7 คน มีความเข้าใจ มีทักษะ และเจตคติ ที่ดีต่อการท ากิจกรรมกลุ่มร่วมกับผู้อื่นเพิ่มมากขึ้น 6. นวัตกรรม/เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลหรือการวิจัย 6.1 กิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบใช้โครงงาน(Project Based Learning) 6.2 สื่อและใบงานกลุ่ม เรื่องกระบวนการคิดเป็น 6.3 แบบสังเกตพฤตกรรม 6.4 แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน


4 7. ขอบเขตของการวิจัย 7.1 ขอบเขตด้านเนื้อหา เนื้อหาเรื่องกระบวนการคิดเป็น รายวิชาทักษะการขยายอาชีพ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 7.2 ขอบเขตด้านตัวแปรต้น/ตัวแปรอิสระ กิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบใช้โครงงาน(Project Based Learning) โดยใช้สื่อและใบงานกลุ่ม เรื่องกระบวนการคิดเป็น 7.3 ขอบเขตด้านกลุ่มเป้าหมาย นักศึกษา กศน.ต าบลสูงเนิน ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 จ านวน 7 คน 8. วิธีด าเนินการวิจัย 8.1 วิธีการสร้างนวัตกรรม/เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลหรือการวิจัย ผู้วิจัยพัฒนาสื่อและใบงานกลุ่มเรื่องกระบวนการคิดเป็น และแบบสังเกตพฤติกรรมผู้เรียน 8.1.1 ศึกษาวิเคราะห์ปัญหาการเรียนของผู้เรียน 8.1.2 วิเคราะห์เนื้อหาและศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้อง 8.1.3 จัดท าแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน 8.1.4 จัดท าใบงานและแบบประเมินพฤติกรรม 8.1.5 น าเครื่องมือหรือนวัตกรรมไปทดลองใช้หรือให้ผู้เชี่ยวชาญประเมินเพื่อให้ข้อเสนอแนะ 8.1.6 ปรับแก้ไขตามข้อเสนอแนะและน าไปใช้ในการวิจัย 8.2 วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล 8.2.1 ผู้เรียนท าแบบทดสอบก่อนเรียน 8.2.2 ผู้เรียนท าใบงานซึ่งเป็นใบงานที่ให้ท ากิจกรรมกลุ่มโดยให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่ม วิเคราะห์อาชีพของตนเองและในชุมชนร่วมกันจากนั้นระดมความคิดเห็นในการหา แนวทางการจัดท าโครงงานอาชีพ โครงการขยายอาชีพและน าเสนอหน้าชั้นเรียน 8.2.3 ผู้วิจัยสังเกตพฤติกรรมและบันทักในแบบประเมินพฤติกรรม 8.2.4 ผู้เรียนท าแบบทดสอบหลังเรียน 8.2.5 ผู้วิจัยน าผลคะแนนทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนมาวิเคราะห์และสรุปผล 8.2.6 ผู้วิจัยน าผลการประเมินการท าใบงานกลุ่มเรื่องกระบวนการคิดเป็นมาวิเคราะห์และสรุปผล 8.2.7 ผู้วิจัยน าผลการประเมินพฤติกรรมมาวิเคราะห์และสรุปผล 8.3 ระยะเวลาในการด าเนินการวิจัย ระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์– 20 มีนาคม 2566 9. การวิเคราะห์ข้อมูล 9.1 เปรียบเทียบผลการทดสอบก่อนและหลังเรียน 9.2. การหาค่าเฉลี่ยของคะแนนแบบทดสอบก่อนเรียน (X1) การทดสอบหลังเรียน (X2) คะแนนความก้าวหน้า (X1 - X2) ผลต่างของคะแนนคือ ค่า SD 9.3 วิเคราะห์ข้อมูลจากการท าใบงานกลุ่ม 9.4 วิเคราะห์ข้อมูลจากแบบประเมินพฤติกรรม


5 10. สรุปผลการวิจัย 10.1 แสดงการเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างคะแนนทดสอบก่อนและหลังการเรียน รายการ N คะแนน X S.D. ค่า ร้อยละ คะแนนก่อนเรียน 10 4.00 4.24 40.00 คะแนนหลังเรียน 10 9.14 0.61 91.43 จากตารางแสดงการทดสอบความแตกต่างระหว่างค่าเฉลี่ยของคะแนนทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน ด้วยการทดสอบค่าที (t-test) ผลปรากฏว่า ค่าเฉลี่ยของคะแนนก่อนเรียนและหลังเรียน แตกต่างกันอย่างมีนัยส าคัญ โดยค่าเฉลี่ยของคะแนนทดสอบหลังการเรียนสูงกว่าก่อนเรียน โดยมีคะแนนเฉลี่ย 4.00 และ 9.14 คิดเป็นร้อยละ 40.00 และ 91.43 ตามล าดับ และมีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 4.24 และ 0.61 แสดงให้เห็นว่าค่า เบี่ยงเบนมาตรฐานอยู่ในเกณฑ์มาก คะแนนเฉลี่ยมีความแตกต่างกันมาก และผู้เรียนมีคะแนนทดสอบหลังเรียน สูงกว่าคะแนนทดสอบก่อนเรียนทุกคน 10.2 วิเคราะห์ข้อมูลจากใบงานกลุ่ม จากการตรวจผลการท าใบงานกลุ่ม โครงงานกลุ่มและการสังเกตพบว่าผู้เรียนแบ่งงานกันท าตาม หน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย และมีส่วนร่วมในการช่วยกันท าใบงานกลุ่ม จนสามารถท าโครงงานกลุ่มเสร็จเรียบร้อย ตามที่ครูมอบหมาย 10.3 วิเคราะห์ข้อมูลจากแบบประเมินพฤติกรรม จากการสังเกตพบกว่า กลุ่มเป้าหมาย จ านวน 3 คน มีความเข้าใจ มีทักษะ และเจตคติ ที่ดีต่อการท า กิจกรรมกลุ่ม การระดมความคิดเห็น และการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกับผู้อื่น โดยมีผลการประเมินพฤติกรรมอยู่ใน ระดับดีมาก และมีจ านวน 4 คน มีผลการประเมินพฤติกรรมอยู่ในระดับดี


6 ภาคผนวก


7 บรรณานุกรม อัญชลีทองเอม. การเรียนรู้โดยใช้โครงงานเพื่อพัฒนาผู้เรียนในศตวรรษที่ 21. วารสารวไลยอลงกรณ์ปริทัศน์ (มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์) พ.ศ.2561 สืบค้นเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566. จาก http:// acad.vru.ac.th/Journal/journal%208_3/8_3_15.pdf ธีรพัฒน์ วงศ์คุ้มสิน และเฉลิมขวัญ สิงห์วีการจัดการเรียนรู้แบบใช้โครงงานเป็นฐาน เพื่อพัฒนาการเรียนรู้ด้วย การน าตนเอง. วารสารสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์พ.ศ.2563. สืบค้นเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566. จาก https://so04.tci-thaijo.org/index.php/socku/article/download/241841/165254/840411 ส านักงาน กศน. หนังสือเรียน วิชาทักษะการขยายอาชีพ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย อช31002 สืบค้นเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566 จาก http://www.nfechaehom.com/acc/a2670878thaksa(31002).pdf


8 นวัตกรรม/เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูล


9 แบบทดสอบก่อนเรียน ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย รายวิชาทักษะการขยายอาชีพ อช31002 เรื่อง การจัดท าโครงการขยายอาชีพ ค าชี้แจง ให้นักศึกษาเลือกค าตอบที่ถูกต้องเพียงข้อเดียว 1. โครงการ หมายถึงข้อใด ก. แผนงานหลักที่จะน าไปปฏิบัติ ข. แผนงานส ารองที่จะน าไปปฏิบัติ ค. แผนการด าเนินงานหรือกิจกรรมที่ได้ด าเนินการไปแล้ว ง. แผนการด าเนินงานหรือกิจกรรมที่จะน าไปปฏิบัติได้โดยมีวัตถุประสงค์ในการ 2. องค์ประกอบของโครงการมีกี่ข้อ ก. 10 ข้อ ข. 12 ข้อ ค. 14 ข้อ ง. 16 ข้อ 3. ข้อใดเป็นองค์ประกอบของการเขียนโครงการ ก. เหตุผล หลักการ ข. เป้าประสงค์ ค. วิธีด าเนินการ ง. ถูกทุกข้อ 4. โครงสร้างการเขียนวัตถุประสงค์ของโครงการคือข้อใด ก. ท าอะไร ให้ใคร เป็นอย่างไร ข. ท าอะไร ที่ไหน ท าเมื่อไร ค. เพื่ออะไร ท าเมื่อไร เป็นอย่างไร ง. เพื่ออะไร เป็นอย่างไร ท าเมื่อไร 5. ข้อใดคือประโยชน์ของโครงการ ก. ช่วยประหยัดเวลาแก่ผู้เขียนโครงการ ข. ช่วยอ านวยความสะดวกแก่ผู้เขียนโครงการ ค. ช่วยให้การปฏิบัติงานตามโครงการเป็นไปตามวัตถุประสงค์ ง. เป็นการแสดงถึงประสบการณ์การท างานของผู้อนุมัติโครงการ 6. สิ่งยืนยันว่า เป้าหมายที่ตั้งไว้มีความเป็นไปได้ หมายถึงข้อใด ก. โครงการ ข. แผนปฏิบัติการ ค. แผนพัฒนาธุรกิจ ง. การตรวจสอบโครงการ


10 7. แผนปฏิบัติการหมายถึงข้อใด ก. เป็นการตรวจสอบโครงการ ข. เป็นการวางแผนการผลิตหรือการตลาด ค. เป็นการวางโครงการระยะสั้นหรือระยะยาว ง. เป็นเครื่องประกันว่าท างานมีโอกาสบรรลุเป้าหมายที่ก าหนด 8. ข้อใดคือประโยชน์จากการตรวจสอบโครงการ ก. ได้มีการประเมินอย่างไม่เป็นอสิระ ข. ระบุประเด็นความเสี่ยงในการบริหารโครงสร้าง ค. ระบุแผนปฏิบัติการในแต่ละโครงการที่ผ่านการตรวจสอบ ง. ช่วยปรับปรุงโอกาสและลดความเสี่ยงในการจัดท าโครงการ 9. การตรวจสอบกิจกรรมและการปฏิบัติงานในโครงการ หมายถึงข้อใด ก. การตรวจสอบโครงการ ข. การวางแผนโครงการ ค. การก าหนดวัตถุประสงค์ ง. การจัดท าแผนงานของโครงการ 10. ข้อใดสอดคล้องกับผลการด าเนินงานของโครงการ ก. ผลที่ได้(Output) ข. ผลที่เกิดขึ้น (Effect) ค. ผลกระทบ (Impact) ง. ทุกข้อที่กล่าวมา เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน 1.ง 2.ข 3.ง 4.ก 5.ค 6.ข 7.ง 8.ค 9.ก 10.ง


11 แบบทดสอบหลังเรียน ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย รายวิชาทักษะการขยายอาชีพ อช31002 เรื่อง การจัดท าโครงการขยายอาชีพ ค าชี้แจง ให้นักศึกษาเลือกค าตอบที่ถูกต้องเพียงข้อเดียว 1. โครงการ หมายถึงข้อใด ก. แผนงานหลักที่จะน าไปปฏิบัติ ข. แผนงานส ารองที่จะน าไปปฏิบัติ ค. แผนการด าเนินงานหรือกิจกรรมที่ได้ด าเนินการไปแล้ว ง. แผนการด าเนินงานหรือกิจกรรมที่จะน าไปปฏิบัติได้โดยมีวัตถุประสงค์ในการ 2. องค์ประกอบของโครงการมีกี่ข้อ ก. 10 ข้อ ข. 12 ข้อ ค. 14 ข้อ ง. 16 ข้อ 3. ข้อใดเป็นองค์ประกอบของการเขียนโครงการ ก. เหตุผล หลักการ ข. เป้าประสงค์ ค. วิธีด าเนินการ ง. ถูกทุกข้อ 4. โครงสร้างการเขียนวัตถุประสงค์ของโครงการคือข้อใด ก. ท าอะไร ให้ใคร เป็นอย่างไร ข. ท าอะไร ที่ไหน ท าเมื่อไร ค. เพื่ออะไร ท าเมื่อไร เป็นอย่างไร ง. เพื่ออะไร เป็นอย่างไร ท าเมื่อไร 5. ข้อใดคือประโยชน์ของโครงการ ก. ช่วยประหยัดเวลาแก่ผู้เขียนโครงการ ข. ช่วยอ านวยความสะดวกแก่ผู้เขียนโครงการ ค. ช่วยให้การปฏิบัติงานตามโครงการเป็นไปตามวัตถุประสงค์ ง. เป็นการแสดงถึงประสบการณ์การท างานของผู้อนุมัติโครงการ 6. สิ่งยืนยันว่า เป้าหมายที่ตั้งไว้มีความเป็นไปได้ หมายถึงข้อใด ก. โครงการ ข. แผนปฏิบัติการ ค. แผนพัฒนาธุรกิจ ง. การตรวจสอบโครงการ


12 7. แผนปฏิบัติการหมายถึงข้อใด ก. เป็นการตรวจสอบโครงการ ข. เป็นการวางแผนการผลิตหรือการตลาด ค. เป็นการวางโครงการระยะสั้นหรือระยะยาว ง. เป็นเครื่องประกันว่าท างานมีโอกาสบรรลุเป้าหมายที่ก าหนด 8. ข้อใดคือประโยชน์จากการตรวจสอบโครงการ ก. ได้มีการประเมินอย่างไม่เป็นอสิระ ข. ระบุประเด็นความเสี่ยงในการบริหารโครงสร้าง ค. ระบุแผนปฏิบัติการในแต่ละโครงการที่ผ่านการตรวจสอบ ง. ช่วยปรับปรุงโอกาสและลดความเสี่ยงในการจัดท าโครงการ 9. การตรวจสอบกิจกรรมและการปฏิบัติงานในโครงการ หมายถึงข้อใด ก. การตรวจสอบโครงการ ข. การวางแผนโครงการ ค. การก าหนดวัตถุประสงค์ ง. การจัดท าแผนงานของโครงการ 10. ข้อใดสอดคล้องกับผลการด าเนินงานของโครงการ ก. ผลที่ได้(Output) ข. ผลที่เกิดขึ้น (Effect) ค. ผลกระทบ (Impact) ง. ทุกข้อที่กล่าวมา เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน 1.ง 2.ข 3.ง 4.ก 5.ค 6.ข 7.ง 8.ค 9.ก 10.ง


13 แบบประเมินพฤติกรรม การพัฒนาทักษะการท างานกลุ่ม โดยใช้การเรียนรู้รูปแบบใช้โครงงาน(Project Based Learning) ส าหรับนักศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย กศน.ต าบลสูงเนิน อ าเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา ล าดับ ที่ ชื่อ-สกุล รายการประเมินพฤติกรรมและระดับคะแนน รวม (20 คะแนน) ระดับ การเข้าร่วม คุณภาพ กิจกรรม กลุ่มและ การวางแผน รับผิดชอบต่อ สิ่งได้รับ มอบหมายหรือ ปฏิบัติงานตาม บทบาทหน้าที่ แสดงความ คิดเห็น อย่าง สร้างสรรค์ รับฟังความ คิดเห็นผู้อื่น และยอมรับ การตัดสินใจ ของกลุ่ม การให้ความ ร่วมมือใน การท างาน 1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4 5 6 7 เกณฑ์การให้คะแนนพฤติกรรม ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างโดดเด่น ชัดเจนหรือเป็นแบบอย่างได้ระดับคะแนน 4 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ าเสมอ ระดับคะแนน 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ระดับคะแนน 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมน้อยครั้ง ระดับคะแนน 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินระดับคุณภาพการประเมินพฤติกรรม ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 18-20 ดีมาก 14-17 ดี 10-13 พอใช้ ต่ ากว่า 10 ปรับปรุง


14 ความหมาย โครงงาน (Project) หมายถึง การศึกษาเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่นักเรียนเป็นผู้ศึกษา ค้นคว้า และลงมือปฏิบัติด้วย ตนเอง โดยอาศัยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ ภายใต้ค าแนะน า ปรึกษา และดูแลของครู/อาจารย์ที่ปรึกษา โดยอาจใช้ เครื่องมือและอุปกรณ์ต่าง ๆ ช่วยในการศึกษา เพื่อให้การศึกษา ค้นคว้า นั้นบรรลุผลตามวัตถุประสงค์ นักเรียนได้ ศึกษา ค้นคว้า คิดวิเคราะห์ เก็บรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล เรียนรู้แบบบูรณาการ ผ่านกระบวนการวางแผน ปฏิบัติตามแผน ประเมินผล น าเสนอผลงาน (วัฒนา ก้อนเชื้อรัตน์. 2547 ; วิชาการ, กรม. 2544 : 28-31) โครงงานแบ่งเป็น 4 ประเภท คือ 1. โครงงานประเภทส ารวจ – ไม่มีการจัดหรือก าหนดตัวแปรอิสระที่ต้องการศึกษาเหมือนโครงงานประเภททดลอง – ผู้ท าการส ารวจและรวบรวมข้อมูล แล้วน าข้อมูลเหล่านั้นมาจ าแนกเป็นหมวดหมู่และน าเสนอในรูปแบบ ต่างๆ เพื่อให้เห็นลักษณะหรือความสัมพันธ์ในเรื่องที่ต้องการศึกษาได้ชัดเจนยิ่งขึ้น 2. โครงงานประเภทการทดลอง – เป็นโครงงานที่ออกแบบการทดลองเพื่อศึกษาผลของตัวแปรหนึ่งที่มีผลต่อตัวแปรหนึ่ง โดยควบคุมตัวแปร อื่นๆที่อาจมีผลต่อตัวแปรที่ต้องการศึกษา – ขั้นตอนการด าเนินงานของโครงงานนี้จะประกอบด้วย การก าหนดปัญหา ตั้งสมมุติฐาน การออกแบบการ ทดลอง การด าเนินการทดลอง การรวบรวมข้อมูล การแปลผล และสรุปผล 3. โครงงานประเภทการพัฒนาหรือประดิษฐ์คิดค้น -เป็นโครงงานที่ประยุกต์ทฤษฎีหรือหลักการทางวิทยาศาสตร์มาประดิษฐ์เครื่องมือ เครื่องใช้ หรืออุปกรณ์เพื่อ ประโยชน์ใช้สอยต่างๆ 4. โครงงานประเภทการสร้างหรืออธิบายทฤษฏี – เป็นโครงงานที่เสนอทฤษฎีหลักการหรือแนวคิดใหม่ๆ ซึ่งอาจอยู่ในรูปของสูตร สมการหรือค าอธิบาย อาจ ขัดแย้งกับทฤษฎีเดิม อาจเป็นของใหม่หรือยังไม่มีใครคิดมาก่อน – ต้องมีความรู้พื้นบานเรื่องนั้นเป็นอย่างดี – มักเป็นโครงงานคณิตศาสตร์หรือวิทยาศาสตร์บริสุทธิ์ เช่น โครงงานเรื่องการอธิบายอวกาศแนวใหม่ โครงงาน เรื่องทฤษฎีของจ านวนเฉพาะ เป็นต้น รูปแบบการจัดท าโครงงาน 1. ชื่อโครงงาน 2. คณะท างาน 3. ที่ปรึกษา 4. แนวคิด / ที่มา / ความส าคัญ 5. วัตถุประสงค์ / จุดมุ่งหมาย 6. ขั้นตอนการด าเนินงาน / วิธีการศึกษา 7. แหล่ง / สถานศึกษา (ถ้ามี) ใบความรู้ เรื่อง โครงงาน


15 8. วัสดุ อุปกรณ์ 9. งบประมาณ 10. ระยะเวลาการด าเนินงาน 11. ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ ขั้นตอนของการท าโครงงาน มีดังนี้ 1) คิดและเลือกปัญหาที่จะศึกษา : ผู้เรียนจะต้องเป็นผู้ก าหนดปัญหา แนวคิดและวิธีการที่จะใช้แก้ปัญหา 2) วางแผนในการท างาน ประกอบด้วย 1. การก าหนดปัญหาและขอบเขตของการศึกษา 2. การก าหนดวัตถุประสงค์ แนวคิด วิธีการที่จะน ามาใช้แก้ปัญหา สมมติฐาน และนิยามเชิงปฏิบัติการ 3. การวางแผนรวบรวมข้อมูล และการค้นคว้าเพิ่มเติม 4. ก าหนดวิธีด าเนินงาน ได้แก่ แนวทางการศึกษา ค้นคว้า วัสดุอุปกรณ์ที่ต้องใช้ การออกแบบการทดลอง การ ควบคุมตัวแปร การส ารวจและรวบรวมข้อมูล การประดิษฐ์คิดค้น การวิเคราะห์ข้อมูล การก าหนดระยะเวลาใน การท างาน แต่ละขั้นตอน 3) ลงมือท าโครงงาน : ผู้เรียนจะต้องปฏิบัติตามแผนที่ก าหนดไว้ในข้อ 2 และถ้ามีปัญหาให้ขอค าแนะน า ปรึกษา ครูหรืออาจารย์ที่ปรึกษา 4) การเขียนรายงาน : ผู้เรียนจะต้องเสนอผลงานการศึกษา ค้นคว้า เป็นเอกสารอธิบายให้ผู้อื่นเข้าใจ และทราบ ถึงปัญหา วิธีการ และผลสรุปที่ได้จากการศึกษา พร้อมอภิปรายผล และให้ข้อเสนอแนะเพื่อเป็นแนวทางในการที่จะ ศึกษาค้นคว้าต่อไป


16 โครงการ หมายถึง แผนงานย่อย แผนการดาเนินงานหรือกิจกรรมที่จะน าไปปฏิบัติได้โดยมีวัตถุประสงค์ในการ ด าเนินงานอย่างชัดเจน มีระยะเวลาเริ่มต้น มีระเบียบแบบแผนในการปฏิบัติ ประโยชน์ของโครงการ 1. ช่วยอ านวยความสะดวกแก่ผู้อ่าน 2. ช่วยประหยัดเวลาแก่ผู้อนุมัติ 3. ช่วยให้การปฏิบัติงานตามโครงการเป็นไปตามวัตถุประสงค์ 4. เป็นการแสดงถึงประสบการณ์การท างานของผู้เขียนโครงการ องค์ประกอบของโครงการ 1. ชื่อแผนงาน เป็นการก าหนดชื่อให้ครอบคลมุ โครงการเดียวหรือหลายโครงการมีลักษณะงานไปในทิศทางเดียวกัน 2. ชื่อโครงการ ให้ระบุชื่อโครงการตามความเหมาะสมมีความหมายชัดเจน 3. หลักการและเหตุผลให้แจงรายละเอียดของปัญหาและความจ าเป็นที่เกิดขึ้นตลอดจนต้องชี้แจงถึงผลประโยชน์ที่ จะได้รับจากโครงการ 4. วัตถุประสงค์เป็นการบอกให้ทราบว่าการดาเนินงานตามโครงการนั้นมีความต้องการให้ อะไรให้เกิดขึ้น 5. เป้าหมาย ให้ระบุว่าจะด าเนินการอะไร ใดโดยพยายามแสดงให้ปรากฏเป็นรูปตัวเลขหรือ จ านวนที่จะท าได้ 6. วิธีด าเนินการ คือ งานหรือภารกิจซึ่งจะต้องปฏิบัติในการดาเนินโครงการให้บรรลุวัตถุประสงค์ 7. ระยะเวลาในการด าเนินงาน คือ การระบุระยะเวลาตั้งแต่เริ่มต้นโครงการจนสิ้นสุดโครงการ 8. งบประมาณ เป็นประมาณการค่าใช้จ่ายทั้งสิ้นของโครงการ 9. ผู้รับผิดชอบโครงการ เป็นการระบุเพื่อให้ทราบว่า หน่วยงานใดเป็นเจ้าของ 10. หน่วยงานที่ให้การสนับสนุนเป็นการให้แนวทางแก่ผู้อนุมัติและผู้ปฏิบัติ 11. การประเมินผล บอกแนวทางว่าการติดตามประเมินผลควรทาอย่างไร 12. ผลประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับเมื่อโครงการนั้นเสร็จสิ้นแล้วจะเกิดผลอย่างไรบ้าง ใครเป็นผู้ได้รับ แผนปฏิบัติการ คือ เครื่องประกันว่าเป้าหมายในการท างาน มีโอกาสบรรลุเป้าหมายที่ก าหนด เป็นสิ่งยืนยันว่า เป้าหมายที่ตั้งไว้มีความเป็นไปได้เพราะมีแผนขั้นตอนชัดเจน ใบความรู้ เรื่อง โครงการขยายอาชีพ


17 การตรวจสอบโครงการ หมายถึง โครงการและตัวชี้วัดซึ่งใช้สาหรับตรวจสอบความคืบหน้าของ โครงการ ตลอดอายุ ของโครงการ ประโยชน์จากการตรวจสอบโครงการ 1. ได้มีการประเมิน อย่างเป็นอสิระ 2. ระบุประเด็นความเสี่ยงในการบริหารโครงการ 3. ระบุแผนปฏิบัติการในแต่ละโครงการที่ผ่านการตรวจสอบ 4. ช่วยปรับปรุงโอกาสและความเป็นไปได้จะท าให้โครงการประสบความส าเร็จ หลักการโดยทั่วไปของการตรวจสอบโครงการ 1. การตรวจสอบสถานะงบการเงินของโครงการ 2. การตรวจสอบการกากับการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ 3. การตรวจสอบกิจกรรมและการปฏิบัติงานในโครงการ


18 ชื่อกลุ่ม.......................................................................... ชื่อโครงงานอาชีพ............................................................................................... ค าชี้แจง ให้สมาชิกในกลุ่มร่วมกันอภิปรายกลุ่ม เพื่อหาค าตอบตามประเด็นที่ก าหนดดังนี้ (15 นาที) 1. บอกเหตุผลการวิเคราะห์ข้อมูลการประกอบอาชีพของตนเอง และชุมชน เพื่อเป็นข้อมูลจัดท า โครงงานอาชีพ และโครงการขยายอาชีพนั้นๆ โดยให้พิจารณาข้อมูลด้านตนเอง ด้านสังคม และด้าน วิชาการ ตามกระบวนการคิดเป็น ข้อมูลด้านตนเอง ข้อมูลด้านสังคม ข้อมูลด้านวิชาการ ใบงาน กิจกรรมกลุ่ม เรื่องกระบวนการคิด


19 2. ให้ผู้เรียนจัดท าโครงงานอาชีพ โดยเป็นอาชีพที่ร่วมกันวิเคราะห์จากข้อ 1 รูปแบบการจัดท าโครงงาน ดังนี้ 1) ชื่อโครงงาน 2) คณะท างาน 3) ที่ปรึกษา 4) แนวคิด / ที่มา / ความส าคัญ 5) วัตถุประสงค์ / จุดมุ่งหมาย 6) ขั้นตอนการด าเนินงาน / วิธีการศึกษา 7) แหล่ง / สถานศึกษา (ถ้ามี) 8) วัสดุ อุปกรณ์ 9) งบประมาณ 10) ระยะเวลาการด าเนินงาน 11) ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ


20 3. ให้ผู้เรียนจัดท าโครงการขยายอาชีพ ประกอบด้วยหัวข้อดังต่อไปนี้ 1) ชื่อแผนงาน 2) ชื่อโครงการ 3) หลักการและเหตุผล 4) วัตถุประสงค์ 5) เป้าหมาย 6) วิธีด าเนินการ 7) ระยะเวลาในการด าเนินงาน 8) งบประมาณ 9) ผู้รับผิดชอบโครงการ 10) หน่วยงานที่ให้การสนับสนุนเป็นการให้แนวทางแก่ผู้อนุมัติและผู้ปฏิบัติ 11) การประเมินผล 12) ผลประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ


21 ชื่อกลุ่ม........................................................................ รายชื่อสมาชิกในกลุ่ม 1. ชื่อ.......................................นามสุกล...................................ประธาน 2. ชื่อ.......................................นามสุกล...................................กรรมการ 3. ชื่อ.......................................นามสุกล...................................กรรมการ 4. ชื่อ.......................................นามสุกล...................................กรรมการ 5. ชื่อ.......................................นามสุกล...................................กรรมการ 6. ชื่อ.......................................นามสุกล...................................กรรมการ 7. ชื่อ.......................................นามสุกล...................................เลขานุการ


22 เกณฑ์การวัดผลและประเมินผล ล าดับที่ การวัดและประเมินผล เกณฑ์การตัดสิน เอกสาร/หลักฐาน 1 การท าแบบทดสอบก่อนเรียน และหลังเรียน เปรียบเทียบผลการท าแบบทดสอบ ก่อนเรียนและหลังเรียน โดยต้องมีผล การทดสอบหลังเรียนสูงกว่าการ ทดสอบก่อนเรียน แบบทดสอบก่อนเรียนและ หลังเรียน 2 ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียน และการท ากิจกรรมกลุ่ม โดย สังเกตการมีส่วนร่วมในการ เรียน และพฤติกรรมระหว่าง การท ากิจกรรมกลุ่ม 1. มีผลการประเมินพฤติกรรมทุก รายการและต้องมีคะแนนในแต่ละ รายการ ไม่น้อยกว่าระดับ 2 ขึ้นไป 2. มีผลการตัดสินระดับคุณภาพการ ประเมินพฤติกรรมในระดับดีขึ้นไป แบบประเมินพฤติกรรม ใบงานกลุ่ม


23 ข้อมูลการประเมินและผลการประเมิน


ล ำดับ ชื่อ-นำมสกุล เต็ม คะแนนที่ได้ส่วนเบี่ยงเบน (SD) 1 นายจ าลอง คลื่นพลกรัง 10 4 4.2426 2 นายรัตนชัย คลื่นพลกรัง 10 4 4.2426 3 นายชูชีพ ชุ่มกลาง 10 3 4.9497 4 นายปรารถนา บุญยืน 10 4 4.2426 5 นายสมชาย นาดี 10 4 4.2426 6 นายสมคิด อินทร์เฟื่อย 10 5 3.5355 7 นายถิรกฤต เกตุกิติพงศ์ 10 4 4.2426 เฉลี่ย 10 4.00 4.24 สรุปกำรทดสอบก่อนเรียน-หลังเรียน วิชำทักษะกำรขยำยอำชีพ เรื่อง โครง กศน.ต ำบลสูงเนิน ครูผู้สอน นำ กำรทอดสอบก่อนเรียน


24 คะแนน ร้อยละ เต็ม คะแนนที่ได้ส่วนเบี่ยงเบน (SD) ร้อยละ เพิ่มขึ้นร้อยละ 40 10 9 0.7071 90 50 40 10 9 0.7071 90 50 30 10 9 0.7071 90 60 40 10 9 0.7071 90 50 40 10 8 1.4142 80 40 50 10 10 0.0000 100 50 40 10 10 0.0000 100 60 40.00 10 9.14 0.61 91.43 51.43 งกำรขยำยอำชีพ ระดับมัธยมศึกษำตอนปลำย ภำคเรียนที่2/2565 ำงสำวชลิตำ เกษรมำลัย กำรทดสอบหลังเรียน


25 แบบประเมินพฤติกรรม การพัฒนาทักษะการท างานกลุ่ม โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบโครงงาน(Project Based Learning) ส าหรับนักศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย กศน.ต าบลสูงเนิน อ าเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา ล าดับ ที่ ชื่อ-สกุล รายการประเมินพฤติกรรมและระดับคะแนน รวม (20 คะแนน) ระดับ การเข้าร่วม คุณภาพ กิจกรรม กลุ่มและ การวางแผน รับผิดชอบต่อ สิ่งได้รับ มอบหมายหรือ ปฏิบัติงานตาม บทบาทหน้าที่ แสดงความ คิดเห็น อย่าง สร้างสรรค์ รับฟังความ คิดเห็นผู้อื่น และยอมรับ การตัดสินใจ ของกลุ่ม การให้ความ ร่วมมือใน การท างาน 1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4 1 นายจ าลอง คลื่นพลกรัง 2 3 3 3 3 14 ดี 2 นายรัตนชัย คลื่นพลกรัง 3 4 4 4 4 19 ดีมาก 3 นายชูชีพ ชุ่มกลาง 3 3 3 4 3 16 ดี 4 นายปรารถนา บุญยืน 2 3 2 4 4 15 ดี 5 นายสมชาย นาดี 4 4 3 3 3 17 ดี 6 นายสมคิด อินทร์เฟื่อย 3 4 4 4 3 18 ดีมาก 7 นายถิรกฤต เกตุกิติพงศ์ 4 4 4 4 3 19 ดีมาก เกณฑ์การให้คะแนนพฤติกรรม ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างโดดเด่น ชัดเจนหรือเป็นแบบอย่างได้ระดับคะแนน 4 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ าเสมอ ระดับคะแนน 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ระดับคะแนน 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมน้อยครั้ง ระดับคะแนน 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินระดับคุณภาพการประเมินพฤติกรรม ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 18-20 ดีมาก 14-17 ดี 10-13 พอใช้ ต่ ากว่า 10 ปรับปรุง


26


Click to View FlipBook Version