The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการเรียนรู้ โดย ผอ.วิทยา ใจวิถี
สำหรับการประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาทักษะการใช้สื่อดิจิทัลเพื่อการจัดการเรียนการสอน วันที่ 30 กันยายน - 3 ตุลาคม 2562
ณ จังหวัดเชียงใหม่

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Pimporn Sarichun, 2019-09-29 02:03:27

แผนการเรียน

แผนการเรียนรู้ โดย ผอ.วิทยา ใจวิถี
สำหรับการประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาทักษะการใช้สื่อดิจิทัลเพื่อการจัดการเรียนการสอน วันที่ 30 กันยายน - 3 ตุลาคม 2562
ณ จังหวัดเชียงใหม่

จดุ ประสงค์ทวั่ ไป (เชน่ )

1. เพอ่ื ใหม้ ีความรู้ ความเขา้ ใจ และวเิ คราะห์เก่ียวกับการสร้างหม้อ
แปลงไฟฟา้ ขนาดเลก็ ได้

2. เพือ่ ให้มีทกั ษะในการสรา้ งหมอ้ แปลงไฟฟ้าขนาดเล็กตามข้นั ตอนได้
อย่างถกู ต้อง

3. เพ่ือใหม้ ีความรบั ผิดชอบในการใชว้ สั ดุอย่างประหยัด และคานงึ ถงึ
ความปลอดภยั ในการทางาน

Wittaya Jaiwithee

3.2 จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม หมายถงึ พฤตกิ รรมการแสดงออกของ
ผูเ้ รยี นภายใตเ้ งือ่ นไขหรอื เนอ้ื หาหรอื สถานการณ์ท่ีสามารถวดั และสงั เกตได้

• ระบชุ ดั เจนว่าต้องการให้ผเู้ รยี นเกดิ การเปลยี่ นแปลงพฤติกรรมอะไรที่
สามารถวัด/สังเกตได้

• เขยี นใหค้ รอบคลมุ ท้ังพุทธพิ ิสัย ทักษะพิสยั จิตพิสยั
• เขียนให้ครบ 3 องคป์ ระกอบ ได้แก่ พฤติกรรม เง่อื นไข และเกณฑ์
• จานวนขอ้ ทีเ่ ขียนเหมาะสมกับเวลาสอน

Wittaya Jaiwithee

จุดประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม (เช่น)

1. อธิบายการทางานของหมอ้ แปลงไฟฟา้ ขนาดเลก็ ได้อย่างถกู ต้อง
2. วเิ คราะห์กระบวนการสร้างหม้อแปลงไฟฟา้ ขนาดเลก็ ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง
3. ออกแบบการสรา้ งหม้อแปลงไฟฟ้าขนาดเลก็ ตามหลักการและขัน้ ตอน

ได้อย่างถกู ตอ้ ง
4. ปฏิบตั งิ านไดเ้ สรจ็ ทันตามเวลาท่กี าหนดได้อยา่ งปลอดภยั
5. ใชว้ ัสดุถูกต้อง เหมาะสมกับงานและเกิดประโยชน์ตามหลักปรัชญา

ของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

Wittaya Jaiwithee

4. สาระการเรยี นรู้
เปน็ การเขยี นเนอื้ หาสาระทีต่ อ้ งการให้ผเู้ รียนได้เรียนรู้เพื่อให้บรรลุ

ตามจดุ ประสงค์ทก่ี าหนด
▪ อาจจะเขียนเน้อื หารายละเอียดทั้งหมด ตามหวั ข้อที่กาหนดใน
แผนการจัดการเรยี นรู้
▪ หากรายละเอยี ดของเนื้อหามมี ากอาจเขียนเฉพาะหวั ขอ้ เร่อื ง
นัน้ ๆ ไว้
▪ สว่ นรายละเอียดของเนอ้ื หาอาจแยกไวต้ า่ งหากในรูปของ
เอกสารใบความรู้

Wittaya Jaiwithee

1. หวั ข้อใหญ่

1.1 หวั ข้อรอง
1.1.1 หวั ข้อย่อย ..............................
1.1.2...................................................

1.2............................................................
1.3............................................................

2. หัวขอ้ ใหญ่

2.1............................................................
2.2............................................................

Wittaya Jaiwithee

1. หวั ขอ้ ใหญ่

1.1 หวั ข้อรอง
1.1.1 หัวข้อย่อย ..............................
1.1.2...................................................

1.2............................................................
1.3............................................................

2. หัวข้อใหญ่

2.1............................................................
2.2............................................................

Wittaya Jaiwithee

5. กิจกรรมการเรียนรู้
หมายถึง การจัดประสบการณห์ รือกิจกรรมตา่ งๆ ท่ีผสู้ อนได้จดั ให้

ผ้เู รียนได้เรยี นรู้ และหรือปฏบิ ัติเพื่อใหส้ ามารถบรรลุผลตาม
จุดประสงค์การเรยี นรู้ท่ีกาหนดไว้ในแผนการจัดการเรียนรู้

Wittaya Jaiwithee

หน่วยท่ี 12 เร่อื ง การสร้างหม้อแปลงไฟฟา้ ขนาดเลก็ (28 ชว่ั โมง)

สมรรถนะรายหน่วย “สร้างหม้อแปลงไฟฟ้าตามข้ันตอนการสร้างหม้อแปลงขนาดเล็ก”

กจิ กรรมการเรยี นรู้

1. ครผู ู้สอนแจ้งวัตถปุ ระสงคก์ ารเรยี น กจิ กรรมการเรยี นการสอน และวธิ ีการวัดประเมินผล
2. นาเข้าส่บู ทเรยี นโดยครใู ช้ใบความรทู้ ี่ 12 เร่อื ง การสร้างหม้อแปลงไฟฟา้ โดยการนาเอา

ปัญหาและข้อเสนอแนะของการสร้างหมอ้ แปลงไฟฟา้ จากแหลง่ ขอ้ มลู อน่ื
3. ครจู ัดเตรียมแผนการเรียนรู้ แหล่งเรียนรู้ แหลง่ ศกึ ษาคน้ คว้า วิธกี ารประเมนิ ประสานการใช้

เทคโนโลยี และชี้แจงกระบวนการการเรยี นรรู้ ว่ มกันและการทางานเปน็ ทมี
4. ครูใช้ใบงานท่ี 12.1 เร่อื งการสร้างหมอ้ แปลงไฟฟา้ โดยการใหแ้ บ่งกลุม่ นกั เรียนเปน็ กลมุ่

กล่มุ ละ 4 คน
5. ให้ศกึ ษาใบความรู้ที่ 12.1 เร่ืองขั้นตอนการสร้างหมอ้ แปลง โดยการใหศ้ กึ ษาเกย่ี วกบั ขน้ั ตอน

การสร้างหม้อแปลงตามหลกั วิธกี าร พรอ้ มชว่ ยกันคิด ระดมสมอง นาไปสู่การสรา้ งหมอ้ แปลง

6. ครผู สู้ อนใช้ใบความร้ทู ี่ 12.1, 12.2, 12.3 และ 12.4 ในการสรา้ งความรู้ ความเข้าใจทกั ษะ
กระบวนการในการสรา้ งหม้อแปลงไฟฟา้ ให้คาแนะนา ช่วยเหลอื ใหค้ าปรกึ ษาในการจดั ทา
หมอ้ แปลงไฟฟ้า

7. ครใู ช้ใบงานที่ 12.2 เร่อื ง การคานวณค่าตา่ ง ๆ ในการสรา้ งหม้อแปลงไฟฟ้าให้นักเรยี น
ออกแบบคา่ ตา่ ง ๆ ในการสรา้ งหม้อแปลงตามวิธีการ

8. ครใู ช้ใบมอบหมายงานท่ี 12.1 เร่ือง การพนั ขดลวด และใบมอบหมายงานที่ 12.2 เรื่อง
การประกอบแกนเหลก็ ให้นักเรยี นไปดาเนินการจดั ทาหมอ้ แปลง ตามหลกั การ โดยครูผู้สอน
ประเมนิ ความกา้ วหน้าการทาหมอ้ แปลงแตล่ ะกลมุ่ ประเมินนกั เรยี นเป็นรายบคุ คลและราย
กล่มุ รวมท้ังใหข้ ้อเสนอแนะตามแผนการปฏบิ ัติงานของแต่ละกลมุ่

9. ครผู ้สู อนใชใ้ บมอบหมายงานท่ี 12.3 เรอ่ื ง การนาเสนองาน ให้นกั เรียนแต่ละกลุ่มไดอ้ อกแบบ
การนาเสนอผลงานทีไ่ ด้ดาเนินการตามหลกั การ

Wittaya Jaiwithee

10. นักเรียนนาเสนอผลการดาเนนิ การของแต่ละกลมุ่ พร้อมท้งั นาเสนอรายงานผลการดาเนนิ งาน
ในรปู แบบของเอกสารประกอบการนาเสนอ

11. ครูผู้สอนและนกั เรียนรว่ มกนั ประเมนิ ผลงาน โดยใช้แบบประเมนิ ทไ่ี ดจ้ ดั ทาขึน้ อย่าง
หลากหลายตามสภาพจริง รวมทั้งใหข้ ้อเสนอแนะจากการสรา้ งหม้อแปลงไฟฟา้ ตามหลกั วิธี
ของแตล่ ะกลุม่

Wittaya Jaiwithee

หนว่ ยที่ 5 เรื่อง การออกแบบและจัดจานอาหารบนโตะ๊ อาหาร
สมรรถนะรายหน่วย “ออกแบบและจัดจานอาหารบนโต๊ะอาหารตามรูปแบบท่ีกาหนด”

กิจกรรมการเรียนรู้

1. ครผู ูส้ อนแจ้งวตั ถปุ ระสงคก์ ารเรยี น กจิ กรรมการเรียนการสอน และวธิ ีการวดั ประเมินผล
2. นาเขา้ ส่บู ทเรยี นโดยครใู ช้ใบความรู้ที่ 5.1 เรอ่ื ง ............. โดยการนาปญั หาจากการฝึก

ประสบการณท์ กั ษะวิชาชีพของนักศกึ ษา ในสถานประกอบการ ที่สถานประกอบการไมพ่ ึงพอใจ
ตอ่ การปฏบิ ตั ิงานของนกั ศกึ ษา และรูปภาพการออกแบบและจัดจานอาหารบนโต๊ะอาหารท่ี
เกดิ ขึ้นท่ัวไป รวมทงั้ ปญั หาและข้อเสนอแนะจากแหลง่ อื่นๆ
3. ครูจดั เตรยี มแผนการเรยี นรู้ แหล่งเรยี นรู้ แหล่งศกึ ษาค้นควา้ วธิ กี ารประเมนิ ประสานการใช้
เทคโนโลยสี ารสนเทศ และชแ้ี จงกระบวนการเรยี นรูร้ ่วมกัน การทางานเปน็ ทีม

Wittaya Jaiwithee

4. ครใู ชใ้ บงานที่ 5.1 เรื่อง ....... โดยการให้ทาการแบง่ กลุม่ นกั ศกึ ษาออกเป็นกลมุ่ ๆ ละประมาณ 5
คน เลือกประธาน เลขานุการกลมุ่ อื่นๆ ตามความเหมาะสม

5. ให้ศึกษาใบความรู้ท่ี 5.2 เร่ือง .......... โดยการใหศ้ ึกษาแหลง่ เรยี นรอู้ ื่นๆ ทเี่ กีย่ วข้องกับการ
ออกแบบและจัดจานอาหารบนโต๊ะอาหารตามหลกั วธิ ีการ พร้อมท้ังชว่ ยกนั คดิ ระดมสมอง นาไปสู่
กาหนดและเลอื กหัวขอ้ โครงงานร่วมกัน

6. ครูผสู้ อนใช้ใบความรูท้ ี่ 5.3 เรือ่ ง ............ ในการสรา้ งความรู้ ความเข้าใจ ทักษะกระบวนการ ใน
การเขียนเคา้ โครงของโครงงานที่ผเู้ รียนจะจดั ทา ใหค้ าแนะนา ช่วยเหลอื ใหค้ าปรกึ ษา ตรวจสอบ
วธิ ีการเขียนเค้าโครงของโครงงานใหถ้ กู ตอ้ งตามระเบียบวิธี รวมทงั้ ประสานงานกับหน่วยงาน
บุคคล หรอื แหล่งข้อมลู ทเ่ี ก่ยี วขอ้ งกับการจัดทาเคา้ โครงของโครงงาน

7. ครูใชใ้ บงานที่ 5.2 เรอ่ื ง .........ใหน้ กั ศึกษาดาเนินการจดั ทาเคา้ โครง โครงงานการออกแบบและจดั
จานอาหารบนโต๊ะอาหารตามหลักวธิ ีการ และเสนอครูผ้สู อนเพอื่ ขออนมุ ัติการจัดทาโครงงาน

Wittaya Jaiwithee

8. ครใู ชใ้ บมอบหมายงานท่ี 5.1 เรอ่ื ง ..........ใหน้ กั ศกึ ษาไปดาเนินการจัดทาโครงงานการออกแบบ
และจดั จานอาหารบนโต๊ะอาหารตามหลกั วธิ ีการ ของแตล่ ะกลมุ่ โดยครูผู้สอนประเมนิ
ความก้าวหนา้ การทาโครงงานของแต่ละกล่มุ ประเมินนกั ศกึ ษาเป็นรายบุคคลและรายกลุ่ม
รวมท้งั ใหข้ ้อเสนอแนะ ตามแผนการปฏิบัตงิ านของแตล่ ะกลมุ่

9. ครูผสู้ อนใช้ใบมอบหมายงานท่ี 5.2 เรือ่ ง ..........ให้แตล่ ะกล่มุ ได้ออกแบบการนาเสนอผลงานทไ่ี ด้
ดาเนินการตามเคา้ โครงงาน

10. นักศกึ ษานาเสนอผลการดาเนินโครงงาน ของแต่ละกล่มุ พรอ้ มท้งั นาเสนอรายงานผลการ
ดาเนนิ งานในรปู แบบของเอกสารประกอบการนาเสนอ

11. ครผู สู้ อนและนกั ศึกษารว่ มกนั ประเมินผลโครงงาน โดยใชแ้ บบประเมนิ ท่ไี ดจ้ ดั ทาขน้ึ อย่าง
หลากหลายตามสภาพจรงิ รวมท้ังใหข้ อ้ เสนอแนะจากการดาเนินโครงงานการออกแบบและจัด
จานอาหารบนโตะ๊ อาหารตามหลกั วธิ ีการ ของแต่ละกลมุ่

Wittaya Jaiwithee

ช่อื วิชา การเขยี นโปรแกรมเชิงวัตถเุ บอ้ื งตน้
ชอ่ื หนว่ ยการเรยี น Programming Advanced
สมรรถนะรายหนว่ ย “เขียนโปรแกรมเชงิ วัตถุโดยใช้ภาษา Python ตามหลกั การทางภาษา”

กจิ กรรมการเรียนรู้

1. ครูผสู้ อนแจ้งวัตถปุ ระสงคก์ ารเรยี น กิจกรรมการเรียนการสอน และวธิ กี ารวัดประเมนิ ผล

2. ครผู ู้สอนทบทวนเน้อื หาในบทเรียนทผ่ี า่ นมาเพอ่ื ใหน้ ักศึกษาทบทวนและเลอื กใช้คาส่งั ท่ี

เหมาะสม

3. ครผู ู้สอนให้นกั ศึกษาจดั กลุ่ม กลุ่มละ 4 คนโดยทาหนา้ ทด่ี ังนี้

• วเิ คราะหป์ ัญหาโปรแกรม

• ออกแบบโปรแกรม

• เขียนโปรแกรม

• ทดสอบโปรแกรม Wittaya Jaiwithee

4. ครูผู้สอนให้แต่ละกลมุ่ จับฉลากโจทย์ทีไ่ ดร้ บั เพือ่ นาไปพฒั นาโปรแกรมในรปู แบบของ
กลมุ่ ตนเอง

5. ครผู ู้สอนให้แตล่ ะกลมุ่ ทาสรุปเพอื่ นาเสนอโปรแกรมท่พี ฒั นาขน้ึ หนา้ ชนั้ เรียน
6. ครผู สู้ อนและนักศกึ ษาอภปิ รายและสรุปผล เพอื่ แก้ไขขอ้ ผดิ พลาดและใหน้ กั ศึกษา

ปรบั ปรุงแก้ไขต่อไป
7. ครผู ูส้ อนให้นักศึกษาทดสอบเพื่อประเมนิ ผล

Wittaya Jaiwithee

ขน้ั ที่ 1 ระบปุ ญั หา/นวตั กรรมทีต่ อ้ งการพฒั นา

ข้นั ที่ 2 รวบรวมขอ้ มูลและแนวคิดทเ่ี กีย่ วขอ้ ง ขน้ั ตอน STEM
ข้นั ท่ี 3 ออกแบบวธิ ีแก้ปญั หา (S+M+T)

ขั้นที่ 4 วางแผนและดาเนินการแก้ปัญหา (E)

ขน้ั ที่ 5 ทดสอบ ประเมนิ ผลและปรับปรุง (E)

ข้ันท่ี 6 นาเสนอวิธกี ารแก้ปัญหา ผลการแก้ปัญหา
หรือผลการพฒั นานวัตกรรม

Wittaya Jaiwithee

ขั้นที่ 1 เตรยี มความพรอ้ ม

ข้นั ที่ 2 กาหนดและเลือกหัวข้อ ขั้นตอน PjBL
ขน้ั ตอนท่ี 3 เขยี นเค้าโครงของโครงงาน

ขน้ั ตอนท่ี 4 ปฏิบัตงิ านโครงงาน

ข้นั ท่ี 5 นาเสนอผลงาน

ขั้นตอนท่ี 6 ประเมินโครงงาน

Wittaya Jaiwithee

6. ส่ือและแหลง่ การเรียนรู้
หมายถึง วัสดุ อปุ กรณ์ เคร่อื งมือ วิธีการและแหลง่ วิทยาการ ท่ี

ผู้สอนใช้เป็นสื่อกลางส่งถา่ ยความรู้ และทกั ษะตลอดจนเจตคติไปยัง
ผ้เู รยี นไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ

(เช่น) 6.1 ชื่อหนังสอื ชอื่ ผู้แต่ง สานักพมิ พ์ พ.ศ. หน้า
6.2 ใบความรูท้ ่ี ....... เรอ่ื ง ...............................
6.3 ใบงานที่ ........... เรื่อง .................................
6.4 ใบมอบหมายงานท่ี ...................... เร่อื ง .......................

Wittaya Jaiwithee

7. หลกั ฐานการเรียนรู้
▪ เปน็ การนาจุดประสงคก์ ารเรียนรแู้ ละเน้อื หาสาระ มากาหนดเปน็ หลักฐาน
การแสดงออกของผู้เรียนทงั้ ในเร่อื งของความรู้ ทกั ษะ กระบวนการ
ผลงาน รวมท้งั กจิ นสิ ัยในการทางาน โดยออกแบบการประเมินผลการ
เรียนรใู้ หค้ รบทกุ Concept
▪ จดั กล่มุ หลักฐานการแสดงออกของผู้เรยี นให้เป็นไปตามลาดับ เพ่ือไมใ่ ห้
เกิดการทบั ซ้อน และเหมาะสมกับการนาไปจดั การเรียนรู้

Wittaya Jaiwithee

ชนิดและลกั ษณะของหลกั ฐาน

1. หลักฐานความรู้ เช่น แบบทดสอบ งานท่ีมอบหมาย แบบฝกึ หัด
เอกสารและหรือรายงานทางวชิ าการอื่น ๆ

2. หลกั ฐานการปฏิบตั งิ าน เช่น ชน้ิ งาน ภาระงาน และพฤติกรรมที่แสดงถงึ
การบรรลุผลสาเร็จ รวมทงั้ เกณฑ์ท่ีจะประเมิน

3. การจดั ประเมนิ ผลทัง้ ข้อ 1 และ 2 ตอ้ งเปน็ การจัดประเมนิ ผลตามสภาพ
จริงตลอดเวลาของการจัดการเรียนรู้

Wittaya Jaiwithee

8. การวดั ประเมินผล
เปน็ กระบวนการตัดสนิ คุณค่าของวตั ถุ เหตกุ ารณ์หรอื บคุ คล โดยวเิ คราะห์

จากขอ้ มลู ที่กาหนด โดยอาศัยเคร่ืองมอื หลายๆ ประเภท เชน่
▪ แบบทดสอบ แบบสงั เกตแบบสอบถาม แบบประเมนิ ผลงานและแบบ
ประเมนิ อ่นื ๆ ตามขอบขา่ ยภาระงาน
▪ สามารถเลอื กใชใ้ หต้ รงตามวตั ถปุ ระสงค์ของการสอบวดั นนั้ ๆ โดยขึ้นอยู่
กบั ธรรมชาติของงาน ที่กาหนดเป็นตวั แทนความรู้ ทักษะ และเจตคติ

Wittaya Jaiwithee

8. การวดั ประเมนิ ผล
เปน็ กระบวนการตดั สินคุณค่าของวตั ถุ เหตุการณห์ รือบคุ คล โดย

วิเคราะหจ์ ากขอ้ มูลที่กาหนด โดยอาศยั เครื่องมือหลายๆ ประเภท เชน่
▪ แบบทดสอบ แบบสงั เกตแบบสอบถาม แบบประเมนิ ผลงานและแบบ
ประเมนิ อ่นื ๆ ตามขอบข่ายภาระงาน
▪ สามารถเลือกใช้ใหต้ รงตามวตั ถปุ ระสงคข์ องการสอบวัดน้ันๆ โดย
ข้นึ อยู่กบั ธรรมชาติของงาน ท่กี าหนดเป็นตวั แทนความรู้ ทักษะ และ
เจตคติ

Wittaya Jaiwithee

8.1 เครอ่ื งมอื ประเมิน (เชน่ )

1. แบบประเมนิ พฤตกิ รรรมผเู้ รียน
2. แบบทดสอบภาคความรู้
3. แบบประเมินการปฏิบตั งิ าน

8.2 เกณฑ์การประเมิน (เช่น)

1. การประเมินพฤติกรรรมผูเ้ รยี นไม่ต่ากว่าร้อยละ 80
2. การทดสอบภาคความร้ไู ดไ้ ม่ตา่ กวา่ ร้อยละ 60
3. การประเมินการปฏิบัตงิ านไม่ต่ากวา่ รอ้ ยละ 75

Wittaya Jaiwithee

8.1 เคร่ืองมือประเมิน (เชน่ )

1. แบบประเมินพฤติกรรรมผเู้ รยี น
2. แบบทดสอบภาคความรู้
3. แบบประเมินการปฏิบัติงาน

8.2 เกณฑก์ ารประเมิน (เช่น)

1. การประเมนิ พฤตกิ รรรมผู้เรียนไมต่ ่ากว่ารอ้ ยละ 80
2. การทดสอบภาคความรไู้ ด้ไม่ตา่ กว่ารอ้ ยละ 60
3. การประเมนิ การปฏบิ ัติงานไม่ตา่ กว่ารอ้ ยละ 75

Wittaya Jaiwithee

9. บนั ทึกผลหลังการจดั การเรียนรู้
9.1 ข้อสรปุ หลังการจดั การเรียนรู้
..........................................................................................
.........................................................................................................
9.2 ปัญหาท่ีพบ
.........................................................................................
.........................................................................................................
9.3 แนวทางแก้ปัญหา
......................................................................................
.........................................................................................................

Wittaya Jaiwithee

9. บันทึกผลหลงั การจัดการเรยี นรู้ (ตวั อยา่ ง)

Wittaya Jaiwithee 9.1 ข้อสรุปหลงั การจดั การเรยี นรู้

1. ผเู้ รียนมคี วามรู้ ความเข้าใจ และวเิ คราะห์เก่ยี วกบั การสรา้ งหมอ้ แปลง
ไฟฟา้ ขนาดเลก็ ได้ ผ่านเกณฑร์ อ้ ยละ 60 มีจานวน 12 คน จาก 20 คน
คิดเป็นรอ้ ยละ 60

2. ผ้เู รียนมที ักษะในการสร้างหมอ้ แปลงไฟฟ้าขนาดเล็กตามขั้นตอนได้
อย่างถกู ตอ้ ง ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 75 มจี านวน 14 คน จาก 20 คน คิด
เปน็ ร้อยละ 70

3. ผ้เู รยี นมีความรบั ผดิ ชอบในการใช้วัสดอุ ย่างประหยัด และคานึงถงึ
ความปลอดภยั ในการทางาน ผ่านเกณฑ์รอ้ ยละ 75 มจี านวน 14 คน
จาก 20 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 70

บันทกึ ผลหลงั การจดั การเรียนรู้

9.2 ปญั หาที่พบ
9.2.1 เวลาทใ่ี ชใ้ นการจดั การเรยี นการสอนมีน้อยกว่าเนื้อหา
9.2.2 ผูเ้ รยี นบางคนมพี น้ื ความรู้น้อยกว่าคนอื่นๆ
9.2.3 ผู้เรยี นบางคนยังขาดการทางานในระบบกลมุ่ สง่ ผลทาให้ไม่ผ่านเกณฑป์ ระเมนิ

9.3 แนวทางแก้ปญั หา
9.3.1 ควรเพมิ่ เวลาท่ีใช้ในการจดั การเรยี นการสอนให้เหมาะสมกับเนอื้ หา
9.3.2 ควรทาการสอนซ่อมเสริมผู้เรยี นท่ีมีผลการประเมินทไ่ี มผ่ า่ นเกณฑท์ กี่ าหนด
9.3.3 ควรสร้างความเข้าใจในการจัดกิจกรรมการเรยี นในระบบกล่มุ และการสร้าง
ทมี งานทเี่ ข้มแข็ง

Wittaya Jaiwithee

มาตรฐานการศึกษาของชาติ
พ.ศ.2561

Wittaya Jaiwithee

๑ ผูเ้ รียนรู้ : เพอื่ สรา้ งงานและคุณภาพชีวติ ที่ดี
๒ ผ้รู ว่ มสร้างสรรคน์ วัตกรรม : เพ่อื สังคมทม่ี น่ั คง ม่งั คั่ง ย่งั ยนื

๓ พลเมอื งทเ่ี ขม้ แข็ง : เพอ่ื สันตสิ ุข

Wittaya Jaiwithee

1. ผเู้ รียนรู้

• เป็นผมู้ ีความเพียร ใฝเ่ รยี นรู้
• มีทกั ษะการเรยี นร้ตู ลอดชวี ิต เพ่อื กา้ วทนั โลกยคุ ดจิ ทิ ลั และโลกใน

อนาคต
• มีสมรรถนะ (competency) ท่เี กดิ จากความรู้ ความรอบรู้ดา้ นตา่ ง ๆ
• มสี นุ ทรียะ รักษแ์ ละประยกุ ตใ์ ช้ภูมปิ ญั ญาไทย
• มีทกั ษะชวี ิตเพ่อื สร้างงานหรือสัมมาอาชีพบนพน้ื ฐานของความพอเพียง

ความมนั่ คงในชีวิตและคณุ ภาพชวี ติ ทดี่ ี ต่อตนเอง ครอบครัว และสังคม

Wittaya Jaiwithee

2. ผู้ร่วมสรา้ งสรรค์นวัตกรรม

• เป็นผมู้ ีทกั ษะทางปัญญา
• ทักษะศตวรรษที่ 21 ความฉลาดดิจิทลั (digital intelligence)
• ทกั ษะการคิดสรา้ งสรรค์
• ทักษะข้ามวฒั นธรรม สมรรถนะการบรู ณาการขา้ มศาสตร์
• มีคุณลกั ษณะของความเป็นผ้ปู ระกอบการเพอ่ื ร่วมสร้างสรรค์และพฒั นา

นวัตกรรมทางเทคโนโลยหี รือสังคม เพ่ิมโอกาสและมูลคา่ ใหก้ ับตนเอง
และสังคม

Wittaya Jaiwithee

3. พลเมืองท่เี ขม้ แข็ง

• เปน็ ผมู้ ีความรกั ชาติ รกั ทอ้ งถ่ิน รถู้ กู ผดิ
• มีจิตสานกึ เป็นพลเมืองไทยและพลโลก
• มจี ิตอาสา มีอุดมการณ์และมีสว่ นรว่ มในการพัฒนาชาติบน

หลกั การประชาธิปไตย ความยุตธิ รรม ความเทา่ เทยี ม เสมอภาค
• การจัดการทรพั ยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดล้อมท่ียั่งยืน
• การอยู่รว่ มกันในสังคมไทยและประชาคมโลกอยา่ งสันติ

Wittaya Jaiwithee

…Wittaya Jaiwithee…


Click to View FlipBook Version