The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by soulmate4423, 2019-09-04 04:23:29

กติกาฟุตซอล

กติตาฟุตซอล

คำนำ

คู่มือผู้ตัดสินกีฬาฟุตซอลเล่มน้ี กรมพลศึกษาจัดทำข้ึนเพ่ือเผยแพร่ความร้

ดา้ นการตดั สนิ กฬี าฟตุ ซอลใหม้ คี วามทนั สมยั มมี าตรฐานสงู ขน้ึ สอดคลอ้ งกบั การจดั การแขง่ ขนั
กีฬาฟุตซอลในปัจจุบัน และมอบให้แก่ผู้ตัดสินกีฬาฟุตซอล และผู้สนใจท่ัวไปได้ใช้เป็น

คู่มือในการตัดสินกีฬาฟุตซอล การดำเนินการได้รับความร่วมมือจากสมาคมฟุตบอล

แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และผู้เชี่ยวชาญด้านกีฬาฟุตซอลมาเป็นวิทยากร

ละร่วมจัดทำตน้ ฉบับ

กรมพลศึกษาขอขอบคุณสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ

และผู้เชี่ยวชาญทุกท่าน ท่ีมีส่วนร่วมในการจัดทำคู่มือผู้ตัดสินกีฬาฟุตซอลจนสำเร็จลุล่วง
เป็นอย่างดี และหวังเป็นอย่างย่ิงว่าคู่มือเล่มนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ตัดสินกีฬาฟุตซอล

และผู้สนใจท่ัวไปได้ศึกษา ค้นคว้า และนำไปใช้ในการพัฒนาการตัดสินและการจัดการแข่งขัน
กฬี าฟตุ ซอลใหม้ มี าตรฐานสงู ขนึ้ สนองตอ่ นโยบายและแผนพฒั นาการกฬี าของชาติต่อไป







กรมพลศกึ ษา

มีนาคม 2555



F U T S A L
สารบญั


หนา้



คำนำ

สารบญั

หลักสูตรการฝึกอบรมผู้ตัดสนิ กีฬาฟุตซอล 1

ตารางการฝึกอบรมหลักสตู รผตู้ ัดสนิ กีฬาฟตุ ซอล 3

ประวตั กิ ีฬาฟุตซอล 4

คุณสมบัตขิ องผตู้ ดั สนิ กีฬาฟตุ ซอล 9

กติกาฟุตซอลของสหพนั ธฟ์ ตุ บอลนานาชาติ (FIFA) 10

กติกาข้อ 1 สนามแข่งขนั 10

กตกิ าข้อ 2 ลกู บอล 16

กตกิ าขอ้ 3 จำนวนผเู้ ลน่ 18

กติกาข้อ 4 อุปกรณข์ องผู้เลน่ 22

กตกิ าขอ้ 5 ผู้ตดั สนิ 24

กติกาขอ้ 6 ผู้ชว่ ยผูต้ ัดสิน 28

กตกิ าข้อ 7 ระยะเวลาของการแข่งขัน 32

กตกิ าขอ้ 8 การเรม่ิ การแข่งขันและการเรม่ิ เล่นใหม่ 35

กติกาขอ้ 9 ลกู บอลอยใู่ นการเล่นและนอกการเลน่ 38

กติกาขอ้ 10 การนบั ประต ู 39

กติกาขอ้ 11 การล้ำหน้า 40

กติกาข้อ 12 การเล่นท่ีผดิ กตกิ าและการประพฤติผดิ 41

กตกิ าข้อ 13 การเตะโทษ 47

กตกิ าขอ้ 14 การเตะโทษ ณ จดุ เตะโทษ 57

กตกิ าข้อ 15 การเตะเขา้ เลน่ 59

กตกิ าข้อ 16 การเล่นลกู บอลจากผูร้ ักษาประตู 62

กติกาขอ้ 17 การเตะจากมมุ 64

F U T S A L
สารบัญ (ตอ่ )



หน้า

คำอธิบายกติกาการแขง่ ขนั และคำแนะนำสำหรับผตู้ ัดสิน 67

คำอธิบายกติกาการแขง่ ขนั ฟตุ ซอล 2012 - 2013 111

การดำเนนิ การหาผู้ชนะในการแขง่ ขนั 123

การตดั สินกีฬาฟุตซอล 132

การใช้สญั ญาณนกหวีด 132

สัญญาณของผ้ตู ดั สิน 134

ขอ้ เสนอแนะในการปฏบิ ตั ิ 139

การหาตำแหนง่ และการเคลอื่ นท ่ี 140

การให้ใบเหลอื งและใบแดง 141

อำนาจในการให้ใบเหลอื งและใบแดง 145

วธิ กี ารแสดงใบเหลอื งและใบแดง 146

การพิจารณาลงโทษทีมและผเู้ ล่น 146

สมรรถภาพทางกายสำหรบั ผูต้ ัดสินกฬี าฟตุ ซอล 150

การทดสอบสมรรถภาพทางกายสำหรับผตู้ ดั สินกีฬาฟตุ ซอล 153

ภาคผนวก 155

บรรณานกุ รม 169

คณะกรรมการจัดทำคมู่ ือผตู้ ดั สนิ กฬี าฟุตซอล 171

ห ลักสตู รการฝกึ อบรมผตู้ ดั สิน

กฬี าฟุตซอล

ระยะเวลาดำเนนิ การ : จำนวน 5 วนั (ไมน่ อ้ ยกวา่ 40 ชัว่ โมง)

เนอื้ หาหลกั สตู ร :


ลำทดี่
บั
เนื้อหา
กจิ กรรม
บสรารธยติาย
อภปิ ราย
ฝึกปฏิบัติ
ส่ือนวตั กรรม
ทดสอบ จำนวน
เทคโนโลยี
ประเมนิ ผล
ช่วั โมง


1 ทดสอบกอ่ นการฝกึ อบรม (Pre-test) - - - - 1.00 1.00

2 ประวตั กิ ฬี าฟตุ ซอล คณุ สมบตั ขิ องผตู้ ดั สนิ กฬี า 1.30 - - - - 1.30

ฟุตซอลท่ดี แี ละการเตรียมตัวเป็นผู้ตดั สินกีฬาฟตุ ซอล

3 กตกิ าข้อ 1-4 1.00 .30 - - - 1.30

4 กตกิ าข้อ 5-8 .30 .30 - .30 - 1.30

5 การฝกึ ปฏบิ ตั ิการทดสอบสมรรถภาพทางกาย 1.30 - .30 - - 2.00

เบอ้ื งต้น

6 กติกาขอ้ 9-11 1.00 - - 1.00 - 2.00

7 ตำแหน่งและทิศทางการควบคุมการแข่งขนั .30 - - 1.00 - 1.30

ของผ้ตู ดั สนิ กฬี าฟุตซอล

8 กตกิ าขอ้ 12 .30 - - 1.00 - 1.30

9 สมรรถภาพทางกายสำหรบั ผตู้ ัดสนิ กฬี าฟตุ ซอล 1.30 - - - - 1.30

10 การฝกึ ปฏิบตั ิ การเคล่ือนที่ การใชส้ ญั ญาณ - - 2.00 - - 2.00

ท่าทาง

11 การคาดโทษและการไลอ่ อก 1.00 - - 1.00 - 2.00

12 ตำแหนง่ และทศิ ทางการควบคมุ การแขง่ ขัน .30 - - 1.00 - 1.30

ของผู้ตัดสินกฬี าฟตุ ซอล (ต่อ)

13 กตกิ าขอ้ 13-15 .30 - 1.00 - - 1.30

14 การฝกึ ปฏิบัตกิ ารตัดสนิ กฬี าฟุตซอล - - 1.30 - - 1.30

15 การฝกึ ปฏบิ ตั กิ ารใชส้ ญั ญาณนกหวดี ทา่ ทาง มอื - - 2.00 - - 2.00

16 การสร้างความสมั พันธ์ระหว่างผ้ตู ดั สนิ 1.00 - 1.00 - - 2.00

ผตู้ ัดสินที่ 2 ผู้ตดั สนิ ที่ 3 และผูร้ กั ษาเวลา




คู่มือผตู้ ัดสนิ กีฬาฟตุ ซอล 1

ลำดบั
กจิ กรรม
บสรารธยิตาย
อภปิ ราย
ฝึกปฏิบตั
ิ ส่ือนวตั กรรม
ทดสอบ จำนวน

ี่ เนื้อหา
เทคโนโลยี
ประเมินผล
ชัว่ โมง


17 ทดสอบสมรรถภาพทางกาย - - - - 1.30 1.30

18 กตกิ า ข้อ 16-17 1.00 - - - - 1.00

19 กระบวนการและขั้นตอนการตดั สนิ กีฬาฟตุ ซอล 1.00 - 1.00 - - 2.00

20 การดำเนนิ การหาผูช้ นะในการแข่งขนั 2.00 - - - - 2.00

21 ทดสอบการตัดสนิ กีฬาฟตุ ซอล - - 3.30 - - 3.30

22 ทดสอบหลงั การฝึกอบรม (Post-test) - - - - 1.30 1.30

23 สรุป อภิปราย ซักถาม - 1.30 - - - 1.30




หม ายเ หตุ
รวม 35


พธิ ีเปดิ และปดิ รวมอย่ใู น 40 ช่ัวโมง


2 ค่มู ือผตู้ ัดสนิ กฬี าฟตุ ซอล

คู่มือผู้ตัดสินกีฬาฟุตซอล ตารางการฝกึ อบรมหลักสูตรผูต้ ดั สินกฬี าฟุตซอล


เวลา
08.30 - 09.30 น.
09.30 - 10.30 น.
10.30 - 12.00 น.
12.00 -
13.00 - 14.30 น.
14.30 - 16.00 น.
16.00 - 18.00 น.

วนั ท
ี่ 13.00 น.

กติกาข้อ 1-4

1
พิธีเปิด
การทดสอบ
- ประวัติกีฬาฟุตซอล
กติกาข้อ 5-8
การฝกึ ปฏบิ ตั ิ การทดสอบ

บรรยายพิเศษ
ก่อนการฝึกอบรม
- คุณสมบัติของผู้ตัดสินกีฬา กติกาข้อ 12
สมรรถภาพทางกาย

ฟุตซอลที่ด
ี กติกาข้อ 13-15
เบื้องต้น

(Pre-test)
- การเตรียมตัวเป็นผู้ตัดสิน

กีฬาฟุตซอล


2
ตำแหน่งและทิศทาง
พกั รับประทานอาหาร
สมรรถภาพทางกาย การฝึกปฏิบัติ

สำหรับ
การเคลื่อนที่ การใช

กติกาข้อ 9-11
การควบคุมการแข่งขันของ สัญญาณท่าทาง

ผู้ตัดสินกีฬาฟุตซอล

ผู้ตัดสินกีฬาฟุตซอล
การฝึกปฏิบัติ

การฝึกปฏิบัต
ิ การใช้สัญญาณนกหวีด
ตำแหน่งและทิศทาง
การตัดสิน

3
การคาดโทษและการไล่ออก
การควบคุมการแข่งขันของ กีฬาฟุตซอล
ท่าทาง มือ


ผู้ตัดสินกีฬาฟุตซอล (ต่อ)


การสร้างความสัมพันธ
์ ทดสอบ
กติกา
กระบวนการและข้ันตอนการตัดสิน
การดำเนินการหาผู้ชนะ

4
ระหว่างผู้ตัดสิน ผู้ตัดสินที่ 2
สมรรถภาพทางกาย
ข้อ 16-17

กีฬาฟุตซอล
ในการแข่งขัน

ผู้ตัดสินท่ี 3 และผู้รักษาเวลา


5
ทดสอบการตัดสินกีฬาฟุตซอล
ทดสอบ
สรุป อภิปราย
พิธีปิด

และมอบวุฒิบัตร

หลังการฝึกอบรม (Post-test)
และซักถาม


3 ห
มายเหต

1. ตารางการฝกึ อบรม อาจมีการเปล่ยี นแปลงได้ตามความเหมาะสม

2. ผูเ้ ข้ารบั การฝึกอบรมควรเตรียมรา่ งกาย ชดุ ฝกึ ซอ้ มกฬี าและอุปกรณ์การตดั สนิ กีฬาฟตุ ซอลให้พรอ้ ม

ป ระวตั ิกีฬาฟตุ ซอล

(FUTSAL)






ฟุตซอลเป็นกีฬาท่ีได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน ท้ังในต่างประเทศและ
ประเทศไทยเป็นกีฬาท่ีเล่นกันมานานแล้ว ดังประวัติความเป็นมาดังนี้ (Football Association of
Singapore, 1997.P.26)

คำวา่ “ฟตุ ซอล (Futsal)” เปน็ คำทใ่ี ชเ้ รยี กในการแขง่ ขนั ระหวา่ งชาติ มาจากภาษาสเปน
และโปรตุเกส ที่ใช้เรียก “ซอคเกอร์ (Soccer)” ว่า “Futbol หรือ Futebol” และคำว่า

“ในร่ม (Indoor)” นำมาจากภาษาฝรั่งเศสและภาษาสเปน ท่ีเรียกว่า “Salon หรือ Sala”
เป็นการแข่งขันที่มักเรียกกันอยู่เสมอๆ ว่าเป็นการเล่น “ฟุตบอล 5 คน (Five-A-Side
Football or Soccer)”

กีฬาฟุตซอลใช้เล่นในสนามบาสเกตบอลและสามารถเล่นได้กับพ้ืนผิวสนามหลายแบบ
ลูกบอลที่ใช้มีการกระดอนน้อย ผู้เล่นต้องใช้ความสามารถทางทักษะอย่างมากในการบังคับ

ให้เกิดการเคลื่อนที่ เป็นกีฬาที่พัฒนาให้เกิดทักษะต่างๆ อย่างมาก ต้องการปฏิกิริยาตอบสนอง

ที่รวดเร็ว ความคิดที่ฉับไวและการส่งที่แม่นยำ ทำให้การแข่งขันมีความต่ืนเต้นเร้าใจท้ังผู้เล่นและผู้ชม

การเล่นกีฬาฟุตซอลเริ่มแรกนับย้อนหลังไปต้ังแต่ปี ค.ศ. 1930 ท่ีเมืองมอนเตวิดีโอ

ประเทศอุรุกวัย ในขณะนัน้ โจ อนั คาร์ลอส เซเรียนี (Juan Carlos Ceriani) ไดค้ ิดคน้ การเลน่
ฟุตบอล 5 คน เพอ่ื ใชแ้ ข่งขันในระดับเยาวชนของ วาย เอ็ม ซี เอ (Y M C A) การแขง่ ขันเลน่ กัน

ในสนามบาสเกตบอลท้ังในร่มและกลางแจง้ โดยไม่มีการใชก้ ำแพงกน้ั ดา้ นข้าง

ตอ่ มากฬี าฟตุ ซอลไดข้ ยายออกไปทว่ั ในอเมรกิ า โดยเฉพาะในบราซลิ ทกั ษะตา่ งๆ ไดถ้ กู พฒั นา
ใช้ในการเล่นอย่างเห็นได้ชัดในสไตล์การเล่นของผู้เล่นระดับโลกที่นำไปใช้เล่นในสนามใหญ่

เชน่ เปเล่ ซโิ ก้ โซเครติส เบเบโต และผเู้ ลน่ ในระดับดาวเด่นอ่นื ๆ ของบราซลิ อกี หลายคนทพ่ี ัฒนา
ทักษะจากการเล่นฟุตซอล ในขณะท่ีบราซิลเป็นจุดศูนย์กลางในการพัฒนาการเล่นกีฬาฟุตซอล

อย่างต่อเน่ือง ขณะเดียวกันฟีฟ่าได้รับเอาการแข่งขันกีฬาฟุตซอลไว้ภายใต้การควบคุมดูแล

โดยมีประเทศท่ัวโลกกว่า 100 ประเทศ จากยุโรป อเมริกาเหนือ อเมริกากลาง และคาริบเบียน
อเมริกาใต้ แอฟรกิ า เอเชยี และโอเชยี เนยี ซ่งึ มีผู้เลน่ กว่า 12 ล้านคน




4 ค่มู ือผู้ตัดสินกฬี าฟตุ ซอล

การแข่งขันกฬี าฟตุ ซอลในตา่ งประเทศ


กีฬาฟุตซอลมีการแข่งขันอย่างเป็นทางการมาช้านาน ดังรายการต่างๆ ดังน้ี (Football
Association of Singapore, 1997.P.26)

ในปี ค.ศ. 1965 มกี ารแขง่ ขนั ระหวา่ งประเทศครงั้ แรก เรยี กวา่ “การแขง่ ขนั อเมรกิ าใตค้ พั
ครั้งท่ี 1” ต่อมามีการแข่งขันอเมริกาใต้คัพอย่างต่อเน่ืองมากกว่า 6 คร้ัง จนถึงปี ค.ศ. 1979

ซึ่งประเทศบราซิลเป็นทีมที่ชนะเลิศทุกคร้ัง และประเทศบราซิลยังได้รับชัยชนะอย่างต่อเน่ือง

ในการแข่งขนั แพนอเมริกันคัพในปี ค.ศ. 1980 และชนะเลศิ อีกครัง้ ในเวลาตอ่ มาที่จดั การแข่งขันขึ้น
ในปี ค.ศ. 1984

การแข่งขันชิงแชมป์โลกครั้งที่ 1 จัดขึ้นภายใต้การควบคุมของฟีฟุซซ่า (Fifusa)

ซ่ึงปัจจุบันได้ถูกรวมไว้เป็นสมาชิกอยู่ในฟีฟ่าต้ังแต่ปี 1989 ได้จัดการแข่งขันข้ึนที่เมืองเซาเปาโล
ประเทศบราซลิ ในปี ค.ศ. 1982 โดยประเทศบราซลิ เปน็ ทมี ชนะเลศิ และประเทศบราซลิ ยงั คงแสดง
ความสามารถได้เชน่ เดิม เมอื่ เปน็ แชมป์อีกสมยั ในปี ค.ศ. 1985 ทป่ี ระเทศสเปน แตม่ าเสยี แชมป์
โลกครั้งท่ี 3 ให้แก่ปารากวัยที่ประเทศออสเตรเลีย ในปี ค.ศ. 1989 ฟีฟ่าได้เข้ามาดำเนินการ
สนับสนุนการจัดการแข่งขันโดยตรงที่ประเทศฮอลแลนด์ ในปี ค.ศ. 1992 ที่ประเทศฮ่องกง

และในปี ค.ศ. 1996 ที่ประเทศสเปน ซึ่งประเทศบราซิลชนะเลิศท้ัง 3 ครั้ง นับเป็นการแข่งขัน

ชงิ แชมปโ์ ลกครง้ั ที่ 1 ถงึ ครง้ั ท่ี 3 อย่างเปน็ ทางการภายใต้การควบคุมของฟีฟ่า ต่อมาในปี ค.ศ. 2000
มีการจัดการแข่งขันชิงแชมป์โลกคร้ังท่ี 4 ที่ประเทศกัวเตมาลา ทีมชาติไทยได้ผ่านเข้าไปเล่น

ในรอบสุดท้ายชิงแชมป์โลกคร้ังน้ีด้วย โดยทีมชนะเลิศได้แก่ ประเทศสเปน การแข่งขันคร้ังที่ 5

มขี น้ึ ในปี ค.ศ. 2004 ทปี่ ระเทศจนี ไต้หวัน ทมี ชนะเลศิ ไดแ้ ก่ ประเทศสเปน ตอ่ มาในปี ค.ศ. 2008
มีการจัดการแข่งขันชิงแชมป์โลกคร้ังท่ี 6 ท่ีประเทศบราซิล ทีมชนะเลิศได้แก่ ประเทศบราซิล

และในปี ค.ศ. 2012 มกี ารจดั การแขง่ ขนั ชงิ แชมปโ์ ลกครง้ั ที่ 7 ทปี่ ระเทศไทย โดยทมี ชนะเลศิ ไดแ้ ก่
ประเทศบราซลิ






การแข่งขันกฬี าฟตุ ซอลในประเทศไทย


การแข่งขันกีฬาฟุตซอลในประเทศไทยเริ่มจัดการแข่งขันอย่างเป็นทางการเมื่อประมาณ

ปี พ.ศ. 2535-2536 โดยความรว่ มมอื ระหวา่ งสมาคมฟตุ บอลแหง่ ประเทศไทยในพระบรมราชปู ถมั ภ์
กับบริษัท รีบอค โดยนำทีมสโมสรฟุตบอลระดับถ้วยพระราชทานประเภท ก ซ่ึงเป็นระดับสูงสุด

เขา้ รว่ มแขง่ ขนั ตอ่ มาประมาณปี พ.ศ. 2540 บรษิ ทั เดอะมอลล์ กรปุ๊ จำกดั ไดเ้ รมิ่ เขา้ มาดำเนนิ การ
จัดการแข่งขันร่วมกับสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยใช้ช่ือว่า


“Bangkok Star Indoor Soccer”


คู่มอื ผตู้ ัดสินกีฬาฟตุ ซอล 5

ครงั้ ท่ี 1 ปี พ.ศ. 2540 ทมี การท่าเรือแห่งประเทศไทย ได้ตำแหน่งชนะเลิศ

คร้งั ที่ 2 ปี พ.ศ. 2541 ทีมกรงุ เทพมหานคร ได้ตำแหนง่ ชนะเลศิ

ครั้งที่ 3 ป ี พ.ศ. 2542 ไดเ้ ชญิ ทมี จากมหาวทิ ยาลยั ตา่ งๆ เขา้ รว่ มการแขง่ ขนั ทมี ชนะเลศิ

ได้แก่ มหาวิทยาลัยศรีปทมุ

คร้ังท่ี 4 ป ี พ.ศ. 2543 ได้เปลี่ยนชื่อการแข่งขันใหม่ว่า “อัมสเทลฟุตซอลชิงแชมป

ประเทศไทย” โดยมีการแข่งขันรอบคัดเลือกจากภาคต่างๆ

ในนามทีมจังหวัดและเป็นตัวแทนเข้ามาเล่นรอบสุดท้ายท่ี

เดอะมอลล์บางกะปิ ร่วมกับทีมสโมสรระดับไทยแลนด์ลีก

ทมี ชนะเลศิ ได้แก่ ทมี ทหารอากาศ

ครัง้ ท่ี 5 ปี พ.ศ. 2544 ทมี การท่าเรือแหง่ ประเทศไทย ได้ตำแหน่งชนะเลิศ

คร้ังที่ 6 ปี พ.ศ. 2545 ทมี การทา่ เรือแห่งประเทศไทย ได้ตำแหนง่ ชนะเลิศ


ครง้ั ที่ 7 ปี พ.ศ. 2546 ทีมราชนาวสี โมสร ไดต้ ำแหนง่ ชนะเลิศ

ปัจจุบันมีการแข่งขันกีฬาฟุตซอลในรายการต่างๆ เกิดข้ึนมากมายทั้งในส่วนกลาง

และสว่ นภูมภิ าค ไทยแลนด์ฟุตซอลลีกเป็นการแข่งขันฟุตซอลลีกสูงสุดในประเทศไทย

โดยเริ่มการแข่งขันครั้งแรกเม่อื ปี พ.ศ. 2549 มี 12 ทมี เขา้ ร่วมการแข่งขนั ตอ่ มาปี พ.ศ. 2554

เป็นการแข่งขันครงั้ ที่ 5 ไดม้ กี ารเพิ่มจำนวนทีมเปน็ 16 ทมี โดยทีมชนะเลิศในแตล่ ะฤดกู าลได้แก่

ปี พ.ศ. 2549 ทมี ชลบุรีบลเู วฟ ได้ตำแหน่งชนะเลิศ

ปี พ.ศ. 2550 ทีมการท่าเรือแหง่ ประเทศไทย ไดต้ ำแหนง่ ชนะเลิศ

ปี พ.ศ. 2552 ทีมชลบุรบี ลเู วฟ ไดต้ ำแหน่งชนะเลิศ

ปี พ.ศ. 2553 ทีม ธอส. อารแ์ บค ได้ตำแหนง่ ชนะเลศิ

ปี พ.ศ. 2554 ทมี ธอส. อารแ์ บค ได้ตำแหน่งชนะเลิศ

ปี พ.ศ. 2555 ทีม ธอส. อารแ์ บค ไดต้ ำแหน่งชนะเลศิ


6 คูม่ ือผู้ตดั สินกีฬาฟตุ ซอล

ความแตกต่างระหว่างกฬี าฟตุ ซอลกบั กีฬาฟุตบอล


กีฬาฟุตซอลเป็นกีฬาท่ีพัฒนาทักษะการเล่นและกติกาการแข่งขันมาจากกีฬาฟุตบอล

หลายประการ ซ่ึงสามารถเปรียบเทียบความแตกต่าง ดังตารางเปรียบเทียบต่อไปน้ี (Football
Association of Singapore, 1997. P. 27)


กฬี าฟุตบอล
กีฬาฟตุ ซอล


1. ลูกบอลเบอร์ 5
1. ลกู บอลเบอร์ 4 ซ่งี ลดแรงกระดอนลง

2. ผ้เู ล่น 11 คน
2. ผเู้ ลน่ 5 คน

3. เปล่ียนตวั ผูเ้ ล่นสำรองได้ 3 คน
3. ไมจ่ ำกดั จำนวนการเปลยี่ นตวั เปน็ การเปลยี่ นตวั เขา้ ออก

4. มีการท่มุ เมอื่ ลูกบอลออกนอกเสน้ ข้าง
ไดต้ ลอดเวลา

5. มีผู้ตัดสิน 1 คน และผู้ช่วยผู้ตัดสิน 2 คน
4. ใช้การเตะเขา้ เล่น

(ผกู้ ำกบั เส้น)
5. มีผู้ตัดสินกับผู้ช่วยผู้ตัดสินอย่างละคน รับผิดชอบ

6. การรกั ษาเวลาขน้ึ อยู่กบั ผตู้ ดั สนิ
เหตุการณ์ทีเ่ กิดข้นึ ใกลต้ ัวเอง

7. ไม่มีขอเวลานอก
6. ใชผ้ รู้ กั ษาเวลาเปน็ ผดู้ ำเนนิ การหยดุ นาฬกิ า

8. เตะจากประตู
ตามเหตกุ ารณต์ า่ งๆ

9. ทำการชนด้วยไหลต่ อ่ ไหล่ และสไลดไ์ ด
้ 7. ขอเวลานอกได้ 1 นาทตี อ่ ทมี และทำไดใ้ นแตล่ ะครงึ่

1 0. ไมม่ ีการกำหนด 4 วินาที
8. ส่งลกู เขา้ เล่นโดยผู้รกั ษาประตู

11. มีการลำ้ หน้า
9. ไม่มีการชนดว้ ยไหล่ต่อไหล่ หรือการสไลดแ์ ยง่ ลูก

12. มีการนับการกา้ วเทา้ ของผ้รู กั ษาประต
ู 10. มีขอ้ บงั คบั การเรม่ิ เล่นภายใน 4 วินาท

13. ไม่จำกดั จำนวนการทำผิดกตกิ า
11. ไมม่ ีการล้ำหนา้

14. ผู้รักษาประตูไม่สามารถสัมผัสลูกบอลโดยมือ
12. ไมม่ กี ารนบั ก้าวของผู้รกั ษาประต

จากการเตะสง่ คืนมาให
้ 13. กำหนดจำนวนการกระทำผดิ กติกา 5 ครงั้

15. ส่งคนื ใหผ้ ู้รกั ษาประตเู ลน่ ดว้ ยเทา้ ไดต้ ลอด
(และการเตะโทษโดยไมม่ ีการต้ังกำแพงปอ้ งกัน)

16. ไม่มีการเปล่ียนตัวแทนผูเ้ ลน่ ท่ถี ูกไลอ่ อก
14. ผู้รักษาประตูไม่สามารถสัมผัสลูกบอลโดยมือได

17. การเตะจากมุมทำภายในเขตมุม
จากการเตะส่งคืนมาให้ (รวมท้ังการส่งด้วยศีรษะ

18. ต่อเวลาพิเศษครง่ึ ละ 15 นาที
และหนา้ อก)


15. อนุญาตให้ส่งกลับคืนผู้รักษาประตูเพียงคร้ังเดียว

(เช่น ภายหลังจากลูกบอลได้ผ่านข้ามเส้นแบ่งแดน

ไปแล้ว หรือถูกสัมผสั โดยฝ่ายตรงข้าม)

16. สามารถเปลย่ี นตวั แทนผเู้ ลน่ ทถี่ กู ไลอ่ อกได้ ภายหลงั

ผ่านพ้นเวลา 2 นาทีไปแล้ว หรือฝ่ายตรงข้าม

ทำประตไู ด้แลว้

17. การเตะจากมมุ ต้งั บนมุมสนาม

18. ภายหลังเวลาการเล่นจบลง ผลการทำประตูเท่ากัน

ให้ตอ่ เวลาพิเศษออกไปอกี 2 ครง่ึ ๆ ละ 5 นาท


คู่มอื ผู้ตดั สนิ กฬี าฟตุ ซอล 7

พฒั นาการของกติกาการแขง่ ขนั


สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติหรือ FIFA ได้เข้ามาดำเนินการจัดการแข่งขันกีฬาฟุตซอล

แทนฟฟี ุซซา่ ต้ังแต่ปี ค.ศ. 1989 ได้มีการจัดทำกตกิ าการแขง่ ขันกีฬาฟตุ ซอลทใี่ ช้เป็นสากลเกิดข้ึน

ซึง่ เรยี กว่า “กตกิ าการแขง่ ขนั ฟตุ บอล 5 คน ปี ค.ศ. 1988 (The Laws of the Game for Indoor
(Five-A-Side) Football 1988)” ซ่ึงถือว่าเป็นกติกาสากลฉบับแรกของ FIFA

ท่ีใช้ในการดำเนินการแข่งขันชิงแชมป์โลกฟุตซอล ครั้งที่ 1 ณ ประเทศฮอลแลนด์ ต่อมาในปี

ค.ศ. 1992 ได้มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงกติกาการแข่งขันอีกคร้ัง เพ่ือรองรับการจัดการแข่งขัน
ฟุตซอลชงิ แชมปโ์ ลก ครั้งที่ 2 ณ ประเทศฮ่องกง ในปเี ดียวกนั ซ่งึ การจดั การแขง่ ขนั จะมีขนึ้ ทกุ ๆ
4 ปตี อ่ คร้งั เชน่ เดยี วกับการแขง่ ขนั ฟุตบอลโลก ตอ่ มาในปี ค.ศ. 1995 ไดม้ ีการเปลยี่ นแปลงกติกา
การแข่งขันอีกครั้ง โดยปรับเปล่ียนกติกาทั้งเนื้อหาและรูปแบบต่างๆ มากมาย และเรียกกติกา
ฉบับใหม่นี้ว่า “กติกาการแข่งขันฟุตซอล ปี ค.ศ. 1995” และได้นำกติกาฉบับใหม่นี้

เป็นแนวทางในการแขง่ ขันชงิ แชมปโ์ ลกครง้ั ที่ 3 ในปี ค.ศ. 1996 ณ ประเทศสเปน สำหรบั กตกิ า

การแข่งขันในฉบับต่อมาซ่ึงเป็นฉบับใหม่ล่าสุดท่ียังคงใช้อยู่ในปัจจุบัน คือ ฉบับปี ค.ศ. 2000

ทมี่ กี ารปรบั ปรงุ เปล่ียนแปลงข้ึนใหม่เพ่ือใช้กับการแข่งขันชิงแชมป์โลกคร้ังที่ 5 ในปี ค.ศ. 2004

ณ ประเทศจนี ไตห้ วนั







FIFA มักจะมีการปรับเปลี่ยนกติกาการแข่งขันทุกครั้งก่อนท่ีจะมีการแข่งขัน


ชิงแชมป์โลกในครงั้ ต่อไป
























8 ค่มู อื ผ้ตู ัดสนิ กีฬาฟุตซอล

คุ
ณสมบัติของ

ผ้ตู ดั สนิ กฬี าฟตุ ซอล






การตดั สนิ กฬี าฟตุ ซอลประกอบดว้ ยคณะกรรมการผตู้ ดั สนิ 4 คน ซงึ่ แยกตามหนา้ ทต่ี ่างๆ


ได้ดังน
้ี
1. ผู้ตัดสนิ

2. ผตู้ ดั สินท่ี 2

3. ผตู้ ดั สินท่ี 3

4. ผรู้ ักษาเวลา





คณุ สมบตั ิของผตู้ ัดสนิ (Referee Qualification)


ผู้ตัดสินทดี่ ี ต้องมีคุณสมบตั ติ า่ งๆ มากมายหลายประการ แต่คณุ สมบัตทิ เี่ ป็นหลักสำคัญ

มี 3 ประการ ดังตอ่ ไปน้ี ซงึ่ อาจเรียกเพ่ือใหเ้ ขา้ ใจและจำได้งา่ ยวา่ “3’ F หรอื K F C” ดังน
ี้



3 , F
K F C


FAIRNESS
รู้และเข้าใจกตกิ าเปน็ อยา่ งดแี ละนำไปใช
้ KNOWLEDGE

อยา่ งถูกต้องยุติธรรมแกท่ ้ังสองฝา่ ย


FITNESS
มสี มรรถภาพทางกายท่ีด
ี FITNESS


FIRMNESS
มคี วามมัน่ คง หนกั แนน่ กลา้ หาญ
COURAGE

ในการตัดสินใจ


คมู่ อื ผู้ตัดสนิ กฬี าฟตุ ซอล 9

ก ตกิ าฟตุ ซอลของสหพันธ์

ฟตุ บอลนานาชาติ (FIFA)


กติกาข้อ 1
สนามแข่งขัน (The Pitch)





พ้ืนผิวสนามแขง่ ขนั (Pitch Surface)


การแข่งขันต้องเล่นบนพ้ืนสนามราบเรียบและไม่มีรอยสึกกร่อน ใช้วัสดุจำพวกไม

หรือยางสังเคราะห์ เพื่อให้สอดคล้องกับระเบียบของการแข่งขัน ควรหลีกเลี่ยงการใช้พื้นปูน

หรือยางมะตอย ไม่อนุญาตให้ใช้สนามหญ้าเทียม (Artificial Turf) ในการแข่งขันระหว่างตัวแทน

ทมี ของสมาชกิ สมาคม สมาชกิ ทผ่ี กู พนั กบั สหพนั ธฟ์ ตุ บอลนานาชาติ หรอื การแขง่ ขนั สโมสรนานาชาต




























การทำเสน้ สนามแขง่ ขนั (Pitch Markings)


สนามตอ้ งเปน็ รปู สเี่ หลยี่ มมมุ ฉาก ประกอบดว้ ยเสน้ ตา่ งๆ เสน้ เหลา่ นนั้ เปน็ พนื้ ทข่ี องเขตนนั้ ๆ
ต้องเขียนใหช้ ดั เจนและแตกตา่ งจากสขี องสนามแข่งขนั
เส้นด้านยาวสองเส้น เรียกว่า “เส้นข้าง” (Touch Lines) ด้านส้ันสองเส้น เรียกว่า

“เส้นประตู” (Goal Lines) เสน้ ทกุ เสน้ ตอ้ งมคี วามกวา้ ง 8 เซนตเิ มตร


10 คมู่ อื ผู้ตดั สินกีฬาฟตุ ซอล

สนามแข่งขันแบ่งออกเป็นสองครึ่งเท่าๆ กัน โดยเส้นแบ่งแดน (A Halfway Line)

ท่ีก่ึงกลางของเส้นแบ่งแดน มีจุดกึ่งกลางสนาม (Center Mark) และมีวงกลมรัศมี 3 เมตร

ลอ้ มรอบจดุ น้ีไว้

ทำเสน้ ตงั้ ฉากกบั ระยะประตไู วด้ า้ นนอกสนามโดยวดั หา่ งจากสว่ นโคง้ มมุ สนามเปน็ ระยะหา่ ง
5 เมตร เพอ่ื ใหแ้ นใ่ จวา่ ในขณะมกี ารเตะจากมมุ ผเู้ ลน่ ฝา่ ยรบั ไดป้ ฏบิ ตั ใิ หถ้ กู ตอ้ งตามระยะน้ี ความกวา้ ง
ของเคร่ืองหมาย 8 เซนติเมตร

ทำจุด 2 จุด มรี ะยะห่างจากจุดโทษทสี่ องไปทางดา้ นซ้ายและด้านขวา ดา้ นละ 5 เมตร
เพ่อื เป็นท่ีแนใ่ จวา่ มกี ารถอยห่างในระยะทีถ่ กู ตอ้ ง เม่อื มกี ารเตะโทษจากจุดโทษทสี่ อง ความกว้าง
ของจดุ น้ี 8 เซนติเมตร






8cm
3m







8cm


ขนาดสนาม (Dimensions)

สนามแข่งขันต้องเป็นรูปสี่เหล่ียมผืนผ้า ความยาวของเส้นข้างต้องยาวกว่าความยาว

ของเส้นประตู เส้นทกุ เสน้ ต้องมีความกวา้ ง 8 เซนติเมตร

การแขง่ ขนั ท่วั ไป

ความยาว (เสน้ ขา้ ง) ตำ่ สุด 25 เมตร สงู สดุ 42 เมตร

ความยาว (เสน้ ประต)ู ตำ่ สดุ 16 เมตร สูงสดุ 25 เมตร

การแขง่ ขันระหว่างชาติ (International Matches)
ความยาว (เส้นขา้ ง) ต่ำสุด 38 เมตร สูงสุด 42 เมตร

ความยาว (เส้นประตู) ต่ำสดุ 20 เมตร สงู สดุ 25 เมตร




r=0.25m
5m
5m

5m



10m
5m

6m

3m


5m


5m


คู่มอื ผ้ตู ัดสินกฬี าฟตุ ซอล 11

เขตโทษ (Penalty Area)


วดั จากดา้ นนอกของเสาประตแู ตล่ ะขา้ งมคี วามยาวขา้ งละ 6 เมตร บนเสน้ ประตเู ขยี นสว่ นโคง้
รศั มี 6 เมตรจากเสาประตดู า้ นนอกเขา้ ไปในพนื้ ทขี่ องสนามจนปลายสว่ นโคง้ ครบ 1/4 ของวงกลม
และจะมาบรรจบกันโดยลากเส้นตรง 3.16 เมตรขนานกับเส้นประตูเชื่อมต่อจากปลายของส่วนโค้ง
พื้นท่ีภายในเขตและเส้นประตูน้ีเรียกว่า “เขตโทษ” พ้ืนท่ีภายในเขตโทษแต่ละด้าน ทำจุดโทษ
ระยะ 6 เมตรจากจดุ กึ่งกลางประตูทมี่ รี ะยะห่างเท่ากนั จากเสาประตทู ัง้ สองข้าง






3.16 เมตร


6 เมตร
3 เมตร


15.16 เมตร


จุดโทษ (Penalty Mark)

จากจุดกึ่งกลางประตูแต่ละข้าง วัดเป็นแนวตั้งฉากเข้าไปในสนามแข่งขันเป็นระยะ

ทาง 6 เมตร และให้ทำจดุ แสดงไว้ จุดน้ี เรยี กวา่ จุดโทษ







6m





จดุ โทษทส่ี อง (Second Penalty Mark)


จากจุดกึ่งกลางประตูแต่ละข้าง วัดเป็นแนวต้ังฉากเข้าไปในสนามแข่งขันเป็นระยะทาง
10 เมตร และให้ทำจุดแสดงไว้ จุดนี้ เรยี กวา่ จุดโทษท่ีสอง






10 เมตร


12 คู่มือผู้ตัดสนิ กฬี าฟุตซอล

เขตมุม (Corner Area)


จากมุมสนามแต่ละด้าน เขียนเส้นส่วนโค้งเศษ 1 ส่วน 4 ของวงกลมไว้ในสนามแข่งขัน
ทัง้ 4 มุม โดยมีรัศมี 25 เซนติเมตร








25cm






ประตู (Goal)


ประตูต้องตั้งไว้ตรงกลางของเส้นประตูแต่ละด้าน ประตูประกอบด้วยเสาสองข้าง

ท่ีมีระยะห่างจากมุมแต่ละด้านเท่าๆ กันและเช่ือมต่อยอดบนด้วยคานเป็นแนวขนานกับพ้ืน

เสาประตูและคานประตูต้องทำจากไม้ โลหะ หรือวัสดุอื่นที่เหมาะสม ต้องเป็นรูปทรงส่ีเหล่ียม
จัตุรัส ส่ีเหลี่ยมผืนผ้า ทรงกลม ทรงรี และต้องไม่เป็นอันตรายต่อผู้เล่น วัดจากด้านในระยะ
ระหวา่ งเสาประตูยาว 3 เมตร และระยะใต้คานถึงพื้นสนาม 2 เมตร เสาทง้ั สองขา้ งและคานประตู
มีความกว้าง 8 เซนติเมตรเท่ากัน ตาข่ายต้องทำด้วยปอ ป่าน ไนลอนหรือวัสดุอ่ืนที่เหมาะสม

ติดไว้ด้านหลังเสาประตูและคานประตู ยึดด้วยอุปกรณ์ที่เหมาะสมและต้องไม่เป็นอันตราย

และกดี ขวางผูร้ กั ษาประต


0.08m


3m
2.08m

2m


0.08m
3.16m
0.08m


เสาประตูและคานประตูต้องมีสีแตกต่างจากสนามแข่งขัน มีระบบยึดติดกับพื้นสนาม
เพื่อป้องกันการล้ม สามารถเลือกใช้ประตูท่ีเหมาะสม แต่อยู่บนเง่ือนไขของความปลอดภัย

และกตกิ าทก่ี ำหนด




คมู่ ือผูต้ ัดสนิ กีฬาฟตุ ซอล 13

เขตเปล่ยี นตัว (Substitution Zones)


เขตเปลย่ี นตวั อยบู่ รเิ วณเสน้ ขา้ งของสนามแขง่ ขนั ตรงดา้ นหนา้ บรเิ วณทนี่ ง่ั ของทมี (กำหนดไว้
ในกตกิ าขอ้ 3)

1. ตำแหน่งของเขตเปลี่ยนตัวอยู่ตรงด้านหน้าพื้นท่ีเขตเทคนิค มีความยาว 5 เมตร

เขตเปลี่ยนตัวทำเครื่องหมายแต่ละด้านยาว 80 เซนติเมตร โดยวัดจากขอบเส้นด้านนอกเข้าไป

ในสนาม 40 เซนตเิ มตรและวดั ออกดา้ นนอกสนาม 40 เซนตเิ มตร ความกวา้ งของเสน้ 8 เซนตเิ มตร


5 m
40cm

5 m
40cm

80 cm


2. ตำแหน่งของเขตเปล่ียนตวั ของแตล่ ะทมี อยู่ในพ้ืนฝ่ายรบั ของทีมตนเองและเปลี่ยนใน
ครงึ่ เวลาหลงั ของการแขง่ ขนั และชว่ งตอ่ เวลาพเิ ศษ (ถา้ ม)ี


5 m

5 m

80 cm


14 คมู่ อื ผตู้ ัดสินกฬี าฟุตซอล



















































ทีมชนะ (Winning Rules)


ทีมที่ทำประตูได้จำนวนมากกว่าในระหว่างการแข่งขันจะเป็นฝ่ายชนะ ถ้าทั้งสองทีม

ทำประตไู ดจ้ ำนวนเทา่ กนั หรอื ทำประตกู ันไมไ่ ด้ การแข่งขันครงั้ นนั้ จะถือวา่ “เสมอกัน” (Draw)




ระเบียบการแขง่ ขนั (Competition Rule)


ถา้ ระเบยี บการแขง่ ขนั ระบไุ วว้ า่ เมอื่ จบการแขง่ ขนั ทมี ทช่ี นะหรอื ทมี เจา้ บา้ นหรอื ทมี เยอื น
จะตอ้ งดำเนินการตามวธิ กี ารตา่ งๆ ต่อจากน้ีเทา่ นัน้ จงึ จะพิจารณาวา่ เปน็ ทมี ชนะ

1. นบั จำนวนประตทู ที่ ำได

2. ตอ่ เวลาพเิ ศษ

3. เตะจากจุดโทษ

ขน้ั ตอนการดำเนนิ การไดอ้ ธบิ ายไวใ้ นหวั ขอ้ “ขนั้ ตอนในการดำเนนิ การหาผชู้ นะในการแขง่ ขนั
หรือใช้กฎทีมเจา้ บา้ นและทมี เยอื น”




กตกิ าข้อ 11

การลำ้ หนา้ (Off Side)






ไมม่ ีการลำ้ หน้าในกีฬาฟตุ ซอล




40 คมู่ อื ผตู้ ัดสนิ กฬี าฟุตซอล

กติกาขอ้ 12


การเลน่ ทผ่ี ดิ กติกาและการประพฤตผิ ดิ (Fouls and Misconduct)





การเล่นท่ผี ดิ กตกิ า (Fouls)


การเล่นท่ีผิดกติกาจะถูกลงโทษ เป็นโทษโดยตรง เตะโทษ ณ จุดเตะโทษ หรือ

โทษโดยออ้ ม




การกระทำผดิ ทถ่ี กู ลงโทษเปน็ โทษโดยตรง (Foul Penalised with a Direct Free Kick)


จะให้ฝ่ายตรงข้ามได้เตะโทษโดยตรง ถ้าผู้เล่นกระทำผิดตามความผิดข้อหนึ่งข้อใดใน 7 ข้อ
ตอ่ ไปน้ี ทีผ่ ู้ตัดสินพิจารณาเห็นวา่ ขาดความระมดั ระวัง (careless) ไม่ไตรต่ รองยงั้ คดิ (reckless)
หรือใช้กำลงั เกินกว่าเหตุ (using excessive force)



1. เตะหรอื พยายามเตะคตู่ อ่ สู้



















2. ขดั ขาคู่ตอ่ ส
ู้













คมู่ ือผู้ตัดสินกฬี าฟุตซอล 41

3. กระโดดเขา้ ใส่คูต่ ่อสู้

4. ชนคู่ต่อส
ู้
5. ทำรา้ ยหรือพยายามทำรา้ ยค่ตู ่อส้


42 ค่มู อื ผ้ตู ดั สนิ กฬี าฟตุ ซอล

6
. ผลักคู่ต่อส
ู้


















7. สกัดกั้นคตู่ ่อสู้



ถ้าผู้เล่นกระทำผิดตามความผิดข้อหนึ่งข้อใดในอีก 3 ข้อ ต่อไปนี้ จะให้ฝ่ายตรงข้าม

ได้เตะโทษโดยตรงเช่นกัน ได้แก

1. ดงึ คตู่ อ่ สู้





















2. ถ่มน้ำลายใส่คตู่ ่อสู

3. เลน่ ลกู บอลดว้ ยมอื โดยเจตนา (ยกเวน้ ผู้รักษาประตูที่อยูภ่ ายในเขตโทษของตนเอง)

การเตะโทษโดยตรงจะนำมาเตะจากที่ซึ่งมีการกระทำผิดกติกาเกิดข้ึน (กติกาข้อ 3
ตำแหน่งของการเตะโทษ) การกระทำผดิ ทัง้ หมดนบั เปน็ การกระทำผดิ กตกิ ารวม


ค่มู อื ผู้ตดั สนิ กีฬาฟุตซอล 43

การกระทำผดิ ท่ีถูกลงโทษเปน็ การเตะโทษ ณ จดุ เตะโทษ

(Foul Penalised with a Penalty Kick)


การเตะโทษ ณ จุดเตะโทษ จะลงโทษถ้าผเู้ ลน่ กระทำผดิ 1 ใน 10 ข้อ ภายในเขตโทษ
ของทมี ตนเอง ไม่วา่ ตำแหน่งของลกู บอลจะอย่ทู ีใ่ ดก็ตาม และในขณะทีล่ กู บอลอยใู่ นการเลน่




การกระทำผดิ ทถี่ ูกลงโทษเปน็ โทษโดยอ้อม

(Fouls Penalised with an Indirect Free Kick)


จะใหฝ้ า่ ยตรงขา้ มไดเ้ ตะโทษโดยออ้ ม ถา้ ผรู้ กั ษาประตกู ระทำผดิ ตามความผดิ ขอ้ หนง่ึ ขอ้ ใด
ใน 4 ขอ้ ต่อไปน้

1. ครอบครองลกู บอลดว้ ยมอื หรอื เทา้ ในแดนของตนเองในสนามแขง่ ขนั เกนิ กวา่ 4 นาที

2. ภายหลังจากการปล่อยบอล ผู้รักษาประตูได้สัมผัสลูกบอลอีกคร้ังในแดนของตนเอง

ในสนามแขง่ ขนั ภายหลงั จากผเู้ ลน่ ฝา่ ยเดยี วกนั เจตนาเตะสง่ มาใหโ้ ดยทลี่ กู บอลไมไ่ ดส้ มั ผสั ฝา่ ยตรงขา้ ม

3. สมั ผสั ลกู บอลดว้ ยมอื ภายในเขตโทษของตนเอง ภายหลงั จากผเู้ ลน่ ฝา่ ยเดยี วกนั เจตนาสง่ มาให้

4. สมั ผสั ลกู บอลดว้ ยมอื ภายในเขตโทษของตนเอง ภายหลงั จากผเู้ ลน่ ฝา่ ยเดยี วกนั โดยตรง
จากการเตะเขา้ เลน่ จะใหผ้ เู้ ลน่ ฝา่ ยตรงขา้ มไดเ้ ตะโทษโดยออ้ มเชน่ กนั ถา้ ในดลุ ยพนิ จิ ของผตู้ ดั สนิ เห็นวา่

1. เลน่ ในลักษณะทเ่ี ป็นอนั ตราย

2. ขัดขวางการเคลอื่ นท่ีไปข้างหนา้ ของฝา่ ยตรงขา้ ม

3. ปอ้ งกันผู้รักษาประตูไมใ่ หป้ ล่อยลกู บอลจากมอื

4. กระทำผิดกับผู้เล่นฝ่ายเดียวกัน ข้อหนึ่งข้อใดใน 9 ข้อ ถ้าการกระทำผิดกระทำกับ
ฝ่ายตรงขา้ มจะลงโทษโดยให้ฝ่ายตรงข้ามเตะโทษโดยตรง

5. การกระทำผิดในลักษณะอื่นๆ ที่ไม่ได้ระบุในกติกาข้อ 12 หรือในกติกาข้ออื่นๆ

ตอ้ งทำการหยดุ การเล่นเพอ่ื คาดโทษหรือไล่ผู้เลน่ ออก

การเตะโทษโดยออ้ มจะกระทำจากทซ่ี ง่ึ การกระทำผดิ เกดิ ขน้ึ (กตกิ าขอ้ 13 ตำแหนง่ ของการเตะโทษ)




การประพฤตผิ ดิ (Misconduct)


การประพฤตผิ ิดจะลงโทษด้วยการคาดโทษหรอื ไล่ออก




การลงโทษทางระเบียบวินยั (Disciplinary Sanction)


ใบเหลืองใชส้ ือ่ ความหมายกบั ผู้เลน่ หรือใชแ้ ทนการเตือน (Cautioned)

ใบแดงใช้สื่อความหมายกับผ้เู ล่นหรอื ใช้แทนการไลอ่ อก (Sent Off)


44 คมู่ ือผู้ตดั สนิ กีฬาฟตุ ซอล


Click to View FlipBook Version