การพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์โดยใช้เกมการศึกษา ชั้นอนุบาลปีที่ 3 ปีการศึกษา 2566 นางสาวแสงทิพย์ สายเครือชุ่ม ตำแหน่ง ครู โรงเรียนบ้านสันต้นม่วง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพะเยา เขต 1
บทคัดย่อ ชื่อวิจัย การพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์โดยใช้เกมการศึกษาของนักเรียนชั้นอนุบาล 3 โรงเรียนบ้านสันต้นม่วง ชื่อผู้วิจัย นางสาวแสงทิพย์ สายเครือชุ่ม ปีการศึกษา 2566 ………………………………………………………………………………………………………. การวิจัยเรื่อง การพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์โดยใช้เกมการศึกษาของนักเรียนชั้นอนุบาล 3 โรงเรียนบ้านสันต้นม่วง มีจุดมุ่งหมายสำคัญเพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการรู้ค่าของจำนวนและตัวเลข 1 – 20 ของ นักเรียนชั้นอนุบาล 3 โรงเรียนบ้านสันต้นม่วงก่อนและหลังการใช้เกมการศึกษา กลุ่มประชากรที่ใช้ใน การศึกษาครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นอนุบาล 3 โรงเรียนบ้านสันต้นม่วง ปีการศึกษา 2566 รวมทั้งสิ้น 3 คน ซึ่ง กลุ่มที่ได้ทำการศึกษาเป็นกลุ่มประชากร ที่ได้รับการพัฒนาความสามารถในการรู้ค่าของจำนวนและตัวเลข 1 – 20 โดยการใช้เกมการศึกษา เป็นเวลา 4 สัปดาห์ ในแต่ละวันทำการทดลองสอน 1 ครั้ง ครั้งละ 20 นาที เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า คือ การพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์โดยใช้เกมการศึกษา ผลการวิจัย พบว่า เด็กมีความสามารถในการรู้ค่าของจำนวนและตัวเลข 1 – 20 โดยใช้เกม การศึกษาเพิ่มสูงขึ้น
ประกาศคุณูปการ งานวิจัยในชั้นเรียนฉบับนี้สำเร็จลุล่วงได้ด้วยดีต้องขอขอบคุณครูสุภาพร ใจยะสุข ที่ได้ให้ คำแนะนำในการทำวิจัยในครั้งนี้ ผู้วิจัยรู้สึกซาบซึ้งในความกรุณาและขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงไว้ ณ ที่นี้ ขอขอบพระคุณท่านผู้อำนวยการรังสรรค์ ปินใจ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านสันต้นม่วง ที่ได้ให้ ความรู้ในการจัดทำวิจัยในชั้นเรียน เพื่อนำมาทำการวิจัยผู้เรียน และพัฒนาการเรียนการสอน ได้สำเร็จลุล่วง ไปด้วยดี ลงชื่อ ลงชื่อ นางสาวแสงทิพย์ สายเครือชุ่ม นายรังสรรค์ ปินใจ ผู้วิจัย ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านสันต้นม่วง
การวิจัยในชั้นเรียน ชื่อเรื่อง การพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์โดยใช้เกมการศึกษาของนักเรียนชั้นอนุบาล 3 โรงเรียนบ้านสันต้นม่วง ผู้วิจัย นางสาวแสงทิพย์ สายเครือชุ่ม ความเป็นมา ผู้วิจัยเห็นว่า นักเรียนชั้นอนุบาล 3 ยังไม่มีพื้นฐานการเรียนรู้ทางคณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย และ นักเรียนชั้นอนุบาล 3 ส่วนมากมีปัญหาในด้านการนับและรู้ค่าของจำนวนตัวเลข 1 – 20 ดังนั้น ผู้วิจัยจึงมี ความสนใจที่จะศึกษา การพัฒนาความสามารถในการนับและรู้ค่าของจำนวนตัวเลข 1 – 20 ให้แก่ เด็ก ปฐมวัย ซึ่งเป็นวัยที่พร้อมจะพัฒนานั้น ขึ้นอยู่กับความสามารถของครูในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่จะ สนับสนุนให้เด็กได้พัฒนาอย่างเหมาะสม การนับและรู้ค่าของจำนวนตัวเลขของเด็กปฐมวัยโดยการใช้เกม การศึกษา ซึ่งผลที่ได้รับจากการศึกษาวิจัยครั้งนี้ จะเป็นแนวทางให้ครูและผู้ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษา ปฐมวัย นำไปจัดประสบการณ์ส่งเสริมพัฒนาความสามารถในการการนับและรู้ค่าของจำนวนและตัวเลข สำหรับเด็กปฐมวัยต่อไป วัตถุประสงค์ของการวิจัย เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการนับและรู้ค่าของจำนวนตัวเลข ของนักเรียนชั้นอนุบาล 3 ก่อน และหลังการใช้เกมการศึกษา สมมุติฐานของการวิจัย นักเรียนมีความสามารถในการนับและรู้ค่าของจำนวนตัวเลข หลังการใช้เกมการศึกษาสูงกว่าก่อนการ ใช้เกมการศึกษา ตัวแปรที่ศึกษา 1. ตัวแปรอิสระ ได้แก่ การใช้เกาการศึกษา 2. ตัวแปรตาม ได้แก่ ความสามารถในการนับและรู้ค่าของจำนวน ตัวเลข ของนักเรียนชั้นอนุบาล3 โรงเรียนบ้านบ้านสันต้นม่วง
กรอบแนวคิดการวิจัย ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 1. ทำให้ทราบผลการเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างความสามารถในการรู้ค่าของจำนวนและ ตัวเลข 1 – 20 ก่อนการใช้เกมการศึกษากับความสามารถในรู้ค่าของจำนวนและตัวเลข 1 – 20 หลังการใช้ เกมการศึกษา 2. ทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้นำไปใช้ในการจัดการเรียนรู้ด้านอื่นๆ ต่อไป ขอบเขตการวิจัย ประชากรเป้าหมาย ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นอนุบาล 3 โรงเรียนบ้านสันต้นม่วง ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 จำนวนทั้งสิ้น 3 คน วิธีดำเนินการวิจัย 1. การกำหนดระยะเวลาทำการวิจัย ระยะเวลาในการศึกษาวิจัยครั้งนี้เริ่มต้น ตั้งแต่วันที่ 2 สิงหาคม 2565 ถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2566 ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 ใช้ฝึกช่วงกิจกรรมเกม การศึกษา 20 นาทีต่อครั้ง การเก็บรวบรวมข้อมูล ข้อมูลที่เก็บ ได้แก่ ความสามารถในการรู้ค่าของจำนวนและตัวเลข 1 – 20 วิธีการที่ใช้ คือ การทดสอบและจดบันทึกข้อมูล เครื่องมือที่ใช้ คือ กิจกรรมเกมการศึกษา การรู้ค่าของจำนวนและตัวเลข 1 – 20 การใช้เกมการศึกษา ความสามารถในการนับและรู้ค่าของ จำนวน ตัวเลข
วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล การเก็บรวบรวมข้อมูลผู้วิจัยเป็นผู้เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยตนเองตามลำดับขั้นตอนการดำเนินการดังนี้ 1. เก็บข้อมูลเกี่ยวกับพัฒนาการด้านความสามารถในการรู้ค่าของจำนวนและตัวเลข 1 – 20 ชั้น อนุบาล 3 โดยใช้เกณฑ์การประเมินผลมาตรฐานคุณลักษณะที่พึงประสงค์ 2. ทำการทดสอบเด็กก่อนการทดลอง (Pretest) ด้วยการสังเกต การถามตอบวัดความสามารถในการ รู้ค่าของจำนวนและตัวเลข 1 – 20 ของเด็กปฐมวัย 3. ดำเนินการทดลองโดยการจัดกิจกรรมตามขั้นตอนของแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ ใช้จัด กิจกรรมตามตารางกิจกรรมประจำวันในช่วงเวลากิจกรรมเกมการศึกษา วันละ 1 ครั้ง ครั้งละ 20 นาที ช่วงระหว่างเวลา 15.00 น. - 15.20 น. 4. ผู้วิจัยดำเนินการทดลองด้วยตนเอง โดยประชากรได้รับการจัดกิจกรรมเกมการศึกษา 5. ทำการทดสอบความสามารถในการรู้ค่าของจำนวนและตัวเลข 1 – 20 หลังจากดำเนินการทดลอง ครบ 4 สัปดาห์ ผู้วิจัยทำการทดสอบหลังการทดลอง (Posttest) เป็นรายบุคคล ในชั่วโมงเกมการศึกษา โดยใช้ การทดสอบและจดบันทึกข้อมูล วิธีการวิเคราะห์ข้อมูล เปรียบเทียบความสามารถในการรู้ค่าของจำนวนและตัวเลข 1 – 20 ก่อนและหลังการฝึก เปรียบเทียบความก้าวหน้าในการรู้ค่าของจำนวนและตัวเลข 1 – 20 เป็นระยะ ๆ ในระหว่างการฝึก เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ในการทำวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัย ได้ทำกิจกรรมดังนี้ 1. การจัดกิจกรรมเกมการศึกษา 2. แบบบันทึกข้อมูลการรู้ค่าของจำนวนและตัวเลข 1 – 20 ผลการวิเคราะห์ข้อมูล จากแบบการศึกษาความสามารถในการรู้ค่าของจำนวนและตัวเลข 1 – 20 โดยการจัดกิจกรรมเกม การศึกษา เพื่อพัฒนาผู้เรียนภายหลังจากการทำกิจกรรม เพื่อส่งเสริมการพัฒนาผู้เรียนแล้ว ผู้เรียนมีระดับการ รู้ค่าของจำนวนและตัวเลข 1 – 20 สูงขึ้นตามลำดับ ซึ่งเป็นไปตามสมมุติฐาน ขั้นตอนตามลำดับ ซึ่งเป็นไป ตามสมมุติฐานที่ตั้งไว้ทำให้นักเรียนชั้นอนุบาล 3 โรงเรียนบ้านสันต้นม่วงมีความสามารถในการรู้ค่าของ จำนวนและตัวเลข 1 – 20 ที่ดีขึ้น สรุปและอภิปรายผล จากแบบการศึกษาความสามารถในการรู้ค่าของจำนวนและตัวเลข 1 – 20 โดยการจัดเกมการศึกษา เพื่อพัฒนาผู้เรียนภายหลังจากการทำกิจกรรม เพื่อส่งเสริมการพัฒนาผู้เรียนแล้ว ผู้เรียนมีระดับการรู้ค่าของ จำนวนและตัวเลข 1 – 20 สูงขึ้นตามลำดับ ซึ่งเป็นไปตามสมมุติฐาน ขั้นตอนตามลำดับ ซึ่งเป็นไปตาม สมมุติฐานที่ตั้งไว้ทำให้นักเรียนชั้นอนุบาล 3 โรงเรียนบ้านสันต้นม่วง มีความสามารถในการรู้ค่าของจำนวน และตัวเลข 1 – 20 ที่ดีขึ้น แสดงว่าการจัดกิจกรรมเกมการศึกษา ส่งผลถึงความสามารถในการการรู้ค่าของ จำนวนและตัวเลข เนื่องจากการจัดกิจกรรมเกมการศึกษา เน้นให้เด็กได้หยิบจับ สัมผัสกับสื่อ เพื่อช่วยส่งเสริม
การเรียนรู้ของเด็กให้เรียนรู้ได้ง่ายขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับ เชวง ซ้อนบุญ (2554) ได้กล่าว สอดคล้องกันว่า คณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย คือ ประสบการณ์ทางคณิตศาสตร์ที่เด็กปฐมวัยได้รับการ ส่งเสริมจากครู พ่อ แม่ ผู้ปกครอง และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ซึ่งมีการวางแผนและเตรียมการออย่างดีโดย อาศัยสถานการณ์และ กิจกรรมในชีวิตประจำวันของเด็กเป็นพื้นฐานในการพัฒนาความรู้และ ทักษะ พื้นฐานทางคณิตศาสตร์ พร้อม ทั้งเปิดโอกาสให้เด็กได้ลงมือปฏิบัติจริงด้วยตนเอง ประสบการณ์ ทาง คณิตศาสตร์ที่สำคัญสำหรับเด็กปฐมวัย เช่น การเรียนรู้เกี่ยวกับจำนวน การดำเนินการเกี่ยวกับจำนวน เป็นต้น และยังสอดคล้องกับงานวิจัยของพร พิมล ช่วยชูวงศ์(2555) ได้ศึกษาการจัดประสบการณ์โดยใช้เกมการศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทาง คณิตศาสตร์และการคิดเชิงวิเคราะห์สำหรับเด็กปฐมวัย ผลการศึกษาพบว่าเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัด ประสบการณ์โดยใช้เกมการศึกษา มีการพัฒนาทักษะพื้นฐาน ทางคณิตศาสตร์และการคิดเชิงวิเคราะห์สูงกว่า ก่อนจัดประสบการณ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
ภาคผนวก