The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

นาฏศิลป์ไทยในรัชกาลที่ 9

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by อดิเทพ ยอดแก้ว, 2023-01-29 08:12:02

นาฏศิลป์ไทยในรัชกาลที่ 9

นาฏศิลป์ไทยในรัชกาลที่ 9

จัจัจัดจัดทำทำทำทำโโดดยย นนาายยพพบบตตะะวัวัวันวันสุสุสุ ว สุ วลัลัลักลักษษณ์ณ์ณ์ณ์เเลลขขที่ที่ที่ที่44 นนาายยภูภูภู มิ ภู มิมิพัมิพัพัฒพัฒน์น์น์น์แแก้ก้ก้วก้วอัอัอัมอัมพพรร เเลลขขที่ที่ที่ที่55 นนาายยภูภูภู มิ ภู มิมิรมิรพีพีพีพีสสาามมาาแแหห เเลลขขที่ที่ที่ที่66 นนาายยออดิดิดิเดิเททพพยยออดดแแก้ก้ก้วก้ว เเลลขขที่ที่ที่ที่77 นนาายยรรพิพิพิภัพิภัภัทภัทรร เเพ็พ็ พ็ชพ็ชรรขขวัวัวัญวัญเเลลขขที่ที่ที่ที่1199 ชั้ชั้ชั้นชั้นมัมัมัธมัธยยมมศึศึ ศึ กศึ กษษาาปีปีปีที่ปีที่ที่ที่66//1111 เสนอ คุคุคุ ณ คุ ณคครูรูรู ณั รู ณัณัฐณัฐดดนันันัยนัยหหมั่มั่มั่นมั่นเเที่ที่ที่ยที่ที่ยที่งง คุคุคุ ณ คุ ณคครูรูรู ป รู ปรระะจำจำจำจำวิวิวิชวิชาาศศ3333110011 โโรรงงเเรีรีรียรียนนมมหหาาววชิชิชิรชิราาวุวุวุ ธ วุ ธจัจัจังจังหหวัวัวัดวัดสสงงขขลลาา นนาาฏฏศิศิศิลศิลป์ป์ป์ไป์ไททยย ใในนรัรั รัชรัชกกาาลลที่ที่ ที่ที่ 9


คำนำ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book) จัดทำขึ้นเพื่อให้ผู้อ่านได้ทราบและศึกษา เกี่ยวกี่กับ นาฏศิลป์ไทยใน ป์ รัชกาลที่๙ เที่ช่น หนังใหญ่ โขน ละครรำ และอื่นๆ คณะผู้จัดทำ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book) เล่มนี้จะ เป็นประโยชน์สำหรับคนที่สนใจในนาฏ ที่ศิลป์ไทย ป์ รัชกาลที่๙ และไ ที่ด้ประโยชน์จาก หนังสือ E-Book เล่มนี้ไม่มากก็น้อย หากหนังสืออิเล็กทรอนิกส์(E-Book)เล่มนี้มีข้อผิดพลาดประการใด คณะผู้ จัดทำก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ที่ นี้ด้วย คณะผู้จัดทำ ก


สารบัญ เรื่อง หน้า ข หนังใหญ่ 1 โขน 2 ละครรำ 3-5 ละครดึกดำบรรพ์ 6 นาฏศิลป์สป์ ร้างสรรค์ 7-8 ลักษณะเด่นของนาฏศิลป์ใน ป์ รัชกาลที่ 9ที่ 9


หนังใหญ่ หนังใหญ่วัดขนอน จังหวัดราชบุรี หนังใหญ่วัดบ้านดอน จังหวัดระยอง หนังใหญ่วัดสว่างอารมณ์ จังหวัดสิงห์บุรี หนังใหญ่ คือมหรสพที่แพที่ร่หลายของคนไทยอีกอย่างหนึ่ง ตัวหนังจะใช้แผ่นหนังวัวฉลุเป็น รูปตัวละครในเรื่องรามเกียรติ์และมีไม้ผูกทาบตัวหนังไว้ทั้งสองข้าง เพื่อให้ตัวหนังตั้งตรงไม่งอ และทำให้มีคันยื่นลงมาใต้ตัวหนังเป็นสองข้างสำหรับจับถือและยกได้ถนัด สถานที่เที่ล่นจะปลูกโรง ผ้าใช้ผ้าขาวคาดเป็นจอ ส่วนด้านหลังจอจะจุดไต้และก่อไฟไว้เพื่อให้แสงทำให้เห็นเงาตัวหนังซึ่ง มีลวดลายวิจิตรมาติดอยู่ที่จอที่ผ้าขาว และการเชิดนั้นคนเชิดต้องเต้นไปตามจังหวะดนตรีและบท พากย์บทเจรจาด้วย การแสดงโขนก็ประกอบไปด้วยการพากย์ เจรจา ขับร้อง และการเต้นทำ ท่าตามบทพากย์ จึง กล่าวได้ว่าโขนนำ เอาการพากย์ เจรจา และท่าทางการเต้นการแสดงมาจากหนังใหญ่ ปัจปัจุบันเหลือคณะหนังใหญ่อยู่ทั้งหมด 3 คณะได้แก่ 1


โขน โขน เป็นการแสดงนาฏศิลป์ชั้ป์ ชั้นสูงของไทยที่มีที่มีเอกลักษณ์คือ ผู้แสดงจะต้องสวมหัวที่เที่รียกว่า โขน และใช้ลีลาท่าทางการแสดงด้วยการเต้นไปตามบทพากย์ การเจรจาของผู้พากย์และตาม ทำ นองเพลงหน้าพาทย์ด้วยวงปี่พาทย์เรื่องที่นิที่นิยมนำ มาแสดงคือ พระราชนิพนธ์บทละครเรื่อง รามเกียรติ์แต่งกายเลียนแบบเครื่องทรงของพระมหากษัตริย์ที่เที่ป็นเครื่องต้น เรียกว่า การแต่ง กายแบบ “ยืนยืเครื่อง” มีจารีตขั้นตอนการแสดงที่เที่ป็นแบบแผน นิยมจัดแสดงเฉพาะงานพิธี สำ คัญ ได้แก่ งานพระราชพิธีต่าง ๆ ประเภทของโขน แบ่งออกเป็น 5 ประเภท คือ 1 โขนกลางแปลง 2 โขนโรงนอก หรือโขนนั่งราว 3 โขนหน้าจอ 4 โขนโรงใน 5 โขนฉาก 1.โขนกลางแปลง คือ การเล่นโขนบนพื้นดิน ณ กลางสนาม ไม่ต้องสร้างโรงให้เล่น นิยมแสดง ตอนยกทัพรบกัน โขนกลางแปลงได้วิวัฒนาการมาจากการเล่นชักนาคดึกดำ บรรพ์ เรื่องกวนน้ำ อมฤต 2.โขนโรงนอก หรือโขนนั่งราว เป็นการแสดงบนโรงมีหลังคา ไม่มีเตียงสำ หรับตัวโขนนั่ง แต่มี ราวพาดตามส่วนยาวของโรงตรงหน้าฉาก (ม่าน) มีช่องทางให้ผู้แสดงเดินได้รอบราวแทน เตียง มีการพากย์และเจรจา แต่ไม่มีการร้อง ปี่พาทย์บรรเลงเพลงหน้าพาทย์ มีปี่พาทย์ 2 วง เพราะต้องบรรเลงมาก ตั้งหัวโรงท้ายโรง จึงเรียกว่าวงหัวและวงท้าย หรือวงซ้ายและวงขวา 3.โขนหน้าจอ คือ โขนที่เที่ล่นตรงหน้าจอ ซึ่งเดิมเขาขึงไว้สำ หรับเล่นหนังใหญ่ ในการเล่นหนัง ใหญ่นั้น มีการเชิดหนังใหญ่อยู่หน้าจอผ้าขาว การแสดงหนังใหญ่มีศิลปะสำ คัญ คือการพากย์ และเจรจา มีดนตรีปี่พาทย์ประกอบการแสดง ผู้เชิดตัวหนังต้อง เต้นตามลีลาและจังหวะดนตรี นิยมแสดงเรื่องรามเกียรติ์ 4.โขนโรงใน คือ โขนที่นำที่นำ ศิลปะของละครในเข้ามาผสม โขนโรงในมีปี่พาทย์บรรเลง 2 วงผลัดกัน การ แสดงก็มีทั้งออกท่ารำ เต้น ทีพากย์และเจรจาตามแบบโขน กับนำ เพลงขับร้องและเพลง ประกอบกิริยาอาการ ของดนตรีแบบละครใน และมีการนำ ระบำ รำ ฟ้อฟ้นผสมเข้าด้วย 5.โขนฉาก เกิด ขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 เมื่อมีผู้คิดสร้างฉากประกอบเรื่องเมื่อแสดงโขนบนเวที คล้ายกับละครดึกดำ บรรพ์ ส่วนวิธีแสดงดำ เนินเช่นเดียวกับโขนโรงใน แต่มีการแบ่งเป็นชุดเป็น ตอน เป็นฉาก และจัดฉากประกอบตามท้องเรื่อง 2


ละครรำ "ละครรำ" เป็นละครแบบหนึ่งของไทย คือ ละครประเภทที่เที่ป็นนาฏศิลป์ ละครรำสมัยก่อน เรียกกันแต่เพียงว่า "ละคร" เพราะการเล่นละครสมัยก่อน ต้องมีรำ มีดนตรีประกอบ และมี บทร้องเล่าเรื่อง ครั้งต่อมาประมาณปลายรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งดำรงพระยศเป็น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร และพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ได้ทรงนำ เอาบทและ รูปแบบการแสดงละครของชาวตะวันตก ที่เที่รียกว่า Play และ Farce มาแปลและดัดแปลง แล้ว นำ ออกแสดงหลายเรื่อง เป็นเหตุให้เรียกละครไทย ที่แสดง ที่มีการร้องรำอย่างเดิมว่า "ละครรำ" และเรียกละครที่แสดงที่ด้วยคำพูด และท่าทางบนเวทีมีฉากประกอบการแสดง และเปลี่ยนฉากไป ลี่ ตามท้องเรื่องว่า "ละครพูด" แต่ละครที่แสดงที่ท่าทางแบบละครพูดนั้น ถ้ามีการร้องสลับด้วย หรือร้องล้วนๆ เรียกว่า "ละครร้อง" ละครรำของไทยมีหลายประเภท เช่น "ละครชาตรี" หรือละครโนราชาตรีอย่างเช่นที่เที่ล่นกันใน ภาคใต้เรียกกันว่า "โนรา" อย่าง 1 ละครที่เที่ล่นราชสำนัก เรียกว่า "ละครใน" อย่าง 1 "ละครนอก" อย่าง 1 ละครทั้ง 3 อย่างนี้ มีมาตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี อธิบายกันมาแต่ก่อนว่า ละครในนั้นคือ ละครผู้หญิง มีได้แต่ของหลวง ส่วนละครที่เที่ล่นกัน ในพื้นเมืองเรียกว่า ละครนอก แต่ก่อนนี้จะมีแต่ผู้ชายเล่น เพิ่งมีประกาศพระราชทานพระบรมราชานุญาต ให้ผู้อื่นหัดละครผู้ หญิงได้ในสมัยรัชกาลที่ 4 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ตั้งแต่นั้นมาจึงได้มีละครผู้หญิงเกิดขึ้นนอก พระราชวัง ความที่อที่ธิบายดังกล่าวมานี้ คงจะว่าไปตามสถานที่และเพศของที่ผู้แสดง ทำให้ละคร ในกับละครนอก มีความแตกต่างกันในทำนองร้อง กระบวนการรำและเรื่องที่เที่ล่น 3


ละครในเล่นเพียง 3 เรื่อง คือ เรื่องรามเกียรติ์ เรื่อง 1 เรื่องอุณรุท เรื่อง 2 กับเรื่องอิเหนา เรื่อง 1 ไม่เล่นเรื่องอื่น แต่ก่อนมา แม้จะมีละครผู้หญิงของหลวงเล่นเรื่องอื่น นอกจาก 3 เรื่อง ก็เรียก ว่า เล่นละครนอก บทละครที่ทรงพรที่ะราชนิพนธ์จากเรื่องอื่น เช่น สังข์ทอง และคาวีเป็นต้น เรียกว่า พระราชนิพนธ์ละครนอก ละครนอกนั้น ก็จะเล่นแต่เรื่องอื่น ไม่เล่นเรื่องรามเกียรติอุณ รุท อิเหนา แม้แต่ละครผู้ชายของเจ้านายสมัยก่อน เช่น ละครของพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระ พิทักษเทเวศร์ เป็นต้น เล่นเรื่องอิเหนาก็เรียกว่า เล่นละครในความแตกต่างจึงไม่ได้อยู่ที่ว่ที่าผู้ แสดงเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย 4


เรื่องที่ใที่ช้ในการแสดงละครรำมักนำ มาจากชาดกบ้าง นิทานพื้นเมืองบ้าง เช่น ละครชาตรี นำ เอาเรื่องพระสุธนนางมโนห์รามาจาก สุธนกุมาราวทาน ในคัมภีร์ชาดกสันสกฤตชื่อ ทิวยาว ทาน เช่นที่ท่ที่านผู้แต่งคัมภีร์ปัญญาสชาดก ปันำ เอาไปแต่งเป็นชาดกภาษาบาลีชื่อ สุธนชาดก อีก ต่อหนึ่งนั่นเอง ส่วนเรื่องรถเสนนั้นนำ เอานิทานพื้นเมืองเรื่องพระรถเสนและนางกังรี เช่นที่มีที่ กล่าวในพงศาวดารล้านช้างไปแต่งขึ้น แต่ละครรำของไทยมิได้แสดงกันอยู่เพียงเรื่องมโนห์รา และรถเสน เพียง 2 เรื่องนี้เท่านั้น มีบทละครสมัยกรุงศรีอยุธยาอยู่หลายเรื่อง บทละครนอกสมัย กรุงศรีอยุธยาที่มีที่ฉบับอยู่ในหอสมุดแห่งชาติหลายเรื่อง (แต่ไม่บริบูรณ์สักเรื่องเดียว) บทละคร นอกสมัยกรุงศรีอยุธยา 14 เรื่อง คือ เรื่องการะเกด คาวีไชยทัต พิกุลทอง พิมพ์สวรรค์พิณสุริวงศ์นางมโนห์รา โม่งป่า ป่มณีพิไชย สังข์ทอง สังข์ศิลป์ชัป์ย สุวรรณศิลป์ สุวรรณหงส์ และโสวัต นอกจากนี้ ยังมีบทละครนอกสำนวนกลอนเป็นของเก่าก่อนสมัยรัชกาลที่2 อยู่อีก 5 เรื่อง คือ ไกรทอง โคบุตร ไชยเชษฐ์ พระรถและศิลป์สุ ป์ ริวงศ์ เรื่องสำหรับใช้เป็นบทละครนี้ เมื่อขยายการแสดงให้หรูหราโอฬารขึ้น ก็ต้องมีผู้แสดงมากขึ้น การแสดงละครตามบทกลอนในเรื่องเหล่านี้ มีการนำ เอาศิลปะต่างๆ เข้ามาใช้ประกอบการ แสดงด้วย เช่น ศิลปะทางกวีนิพนธ์ กล่าวคือ กลอนบทละครซึ่งแต่งเป็นกลอนแปด มีกำหนด หน้าพาทย์ ฯลฯ เรื่องที่ใที่ ช้ในการแสดงละครรำ 5


ละครดึกดำบรรพ์เป็นละครรำอีกแบบหนึ่งที่เที่จ้าพระยาเทเวศร์วงศ์วิวัฒน์ (หม่อมราชวงศ์ หลาน กุญชร) ได้ดัดแปลงมาจากโอเปร่าของฝรั่ง โดยใช้เรื่องจักร ๆ วงศ์ ๆ ของไทย ทำเป็น แบบละครรำ แต่ดำเนินเรื่องให้รวดเร็ว และจัดฉากประกอบเรื่องให้ดูสมจริง. ละครดึกดำบรรพ์ เป็นละครที่เที่กิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5ที่ เจ้าพระยาเทเวศร์วงศ์วิวัฒน์ ได้รวบรวมผู้มีความรู้ดีใน ด้านการจัดบท คิดท่ารำ คัดเพลงร้อง และดำเนินการฝึกซ้อม มาร่วมกันจัด โดยดัดแปลงมา จากการเล่นคอนเสิร์ตเรื่อง คือร้องเพลงที่ต่ที่อกันเป็นเรื่อง ต่อมาจึงจัดผู้แสดงตามบทออกมา ร่ายรำ เสริมบทเจรจา และตัดบทอธิบายกิริยาท่าทางออก ทำให้การแสดงกระชับรวดเร็วกลาย เป็นละคร. ที่เที่รียกว่าละครดึกดำบรรพ์นั้นมาจากชื่อโรงละครของเจ้าพระยาเทเวศร์วงศ์วิวัฒน์ ละครที่แสดงที่ที่โรงละคร ที่ดึกดำบรรพ์จึงได้ชื่อว่า ละครดึกดำบรรพ์ ละครดึกดำบรรพ์ 6


ระบำ ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน แปลว่า การฟ้อนฟ้ รำเป็นชุด หรืออีกนัยหนึ่ง คือ การฟ้อนฟ้ รำมุ่งหมายเพียงเพื่อความงดงามของศิลปะการรำ และการรื่นเริงบันเทิงใจไม่ แสดงเป็นเรื่องราว ประกอบด้วยผู้แสดงจำนวนมากกว่า 2 คนขึ้นไป มีจุดประสงค์เพื่อแสดง ความงดงาม ความพร้อมเพรียง การแปรแถวในขณะแสดง ประกอบกับการแต่งกายที่ สวยงาม และเพลงดนตรีที่ไพเราะ ที่น่าฟังฟั ระบำ แบ่งออกเป็นประเภทใหญ่ ๆ ได้ 2 ประเภท คือ ระบำมาตรฐาน และ ระบำเบ็ดเตล็ด 1) ระบำมาตรฐาน หมายถึง การแสดงที่มีที่ลักษณะการแต่งกายยืนเครื่องพระ-นาง ตลอดจน ท่ารำเพลงร้องและดนตรีได้กำหนดไว้เป็นแบบแผนมีลักษณะเฉพาะตัว ตามแบบของนาฏศิลป์ ไทยซึ่งบรมครูทางนาฏศิลป์ไป์ด้กำหนดแบบแผนกระบวนการรำ เป็นที่ยอมที่รับกันมาช้านานแล้ว ไม่ควรแก้ไขดัดแปลงไปจากเดิม เช่น ระบำสี่บท สี่ต่อมาได้มีผู้ประดิษฐ์ระบำเลียนแบบระบำสี่บทสี่ ขึ้นอีกหลายชุดได้แก่ ระบำย่องหงิด ระบำดาวดึงส์ระบำกฤดาภินิหาร ระบำพรหมมาสตร์และ ระบำเทพบันเทิง เป็นต้น นาฏศิลป์สป์ ร้างสรรค์ 7


2)ระบำเบ็ดเตล็ด หมายถึง การแสดงที่ประที่ดิษฐ์คิดค้นหรือปรับปรุงขึ้นใหม่ตามความ ประสงค์ ตามเหตุการณ์ ตามสมัยนิยม ตามเนื้อเรื่องที่ผู้ที่ประพันธ์ต้องการ หรือเป็นระบำที่ใที่ช้ ประกอบการแสดงละคร การแต่งกายจะแต่งตามรูปแบบลักษณะของการแสดงนั้นๆ เช่น ระบำนพรัตน์ ระบำกราวอาสา ระบำชุมนุมเผ่าไทย ระบำเริงอรุณ ระบำวิชนี ระบำไกรลาส สำเริง ระบำฉิ่ง ระบำโบราณคดีรำสีนวล รำโคม เป็นต้น ตัวอย่าง การแสดงระบำ ระบำดาวดึงส์เป็นระบำมาตรฐานที่สที่ร้างสรรค์รูปแบบท่ารำใหม่ แตกต่างจากระบำ มาตรฐานแบบดั้งเดิม เช่น ระบำสี่บทสี่ที่ท่ที่ารำตีบทความหมายของคำร้องระบำดาวดึงส์เป็นระบำ ประกอบในการแสดงละครดึกดำบรรพ์เรื่องสังข์ทอง ตอนตีคลีซึ่งจัดแสดงที่โรงละคร ที่ ดึกดำบรรพ์วังบ้านหม้อ ปลายสมัยสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 แที่ห่งกรุง รัตนโกสินทร์ 8


ลักษณะเด่นของนาฏศิลป์ใป์ น รัชกาลที่ 9 รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช นาฏศิลป์ละคร ป์ ฟ้อน ฟ้ รำ ได้อยู่ในความ รับผิดชอบของรัฐบาล ได้มีการส่งเสริมให้ผู้เชี่ยวชาญนาฏชี่ศิลป์ไทย ป์ คิดประดิษฐ์ท่ารำ ระบำชุด ใหม่ ได้แก่ ระบำ พม่าไทยอธิษฐาน ปัจปัจุบันได้มีการนำ นาฏศิลป์นานาชา ป์ ติมาประยุกต์ใช้ในการ ประดิษฐ์ท่ารำ รูปแบบของการแสดง มีการ นำ เทคนิคแสง สีเสียง เข้ามาเป็นองค์ประกอบใน การแสดงชุดต่างๆ ปรับปรุงลีลาท่ารำให้เหมาะสมกับฉาก บน เวทีการแสดงมีการติดตั้ง อุปกรณ์ที่ทัที่นสมัย ทั้งระบบม่าน ฉาก แสง ควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์มีระบบเสียง ที่ สมบูรณ์มีเครื่องฉายภาพยนตร์ประกอบการแสดง และเผยแพร่ศิลปกรรมทุกสาขานาฏศิลป์ และสร้าง นักวิชาการและนักวิจัยในระบบสูง โดยมีการเปิดสอนนาฏศิลป์ไทยในระ ป์ ดับปริญญา เอกอีกหลายแห่ง 9


การแสดงโขน ระบำ การแสดงละครดึกดำบรรพ์ การแสดงละครรำ ภาพประกอบ 10


Click to View FlipBook Version