The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รอยต่อแผ่นดินโบราณ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by , 2022-02-21 06:08:45

รอยต่อแผ่นดินโบราณ

รอยต่อแผ่นดินโบราณ

รอยต่อแผ่นดินโบราณ

หลังการเย็นตัวลงของพื้นผิวโลก เมื่อ 4 พันล้านปีก่อน เกิด
การยกตัวขึ้นของชั้นหินเหนือผิวน้ำจนแผ่นดินผืนแรกถือ
กำเนิดในอีกราว 2.5 พันล้านปีต่อมาตั้งแต่ในอดีตจนถึง
ปัจจุบัน การเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลก และมหาสมุทรไม่
เคยหยุดนิ่ง ภายใต้พื้นผิวโลกมีความเคลื่อนไหวและการ
เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ก่อให้เกิดภูมิประเทศและทรัพยากร
อันหลากหลาย รวมถึงปรากฏการณ์ทางธรรมชาติต่างๆ หลัง
จากปี ค.ศ.1999 เป็นต้นมา นักธรณีวิทยาได้ให้ข้อสรุปร่วม
กันว่า แผ่นเปลือกโลก หรือ แผ่นธรณีภาค มีการเคลื่อนที่
ตลอดเวลาจากการขยายตัวของมหาสมุทร ส่งผลให้เกิด
ทฤษฎีธรณีแปลสัณฐาน ซึ่งกลายเป็นทฤษฎีที่ได้รับการ
ยอมรับที่สุดในการอธิบายถึงการเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือก
โลกในขณะนี้

ภาพแสดงแนวคิดเรื่อง “พันเจีย”

แผ่นธรณีภาค คือ แผ่นเปลือกโลก และเนื้อโลกชั้นบนสุด ซึ่ง ภาพแสดงแผ่นธรณีภาคบริเวณต่างๆ ของโลก
วางตัวอยู่บนฐานธรณีภาคหรือชั้นเนื้อโลกที่ประกอบไปด้วย
หินหลอมเหลวที่มีอุณหภูมิร้อนจัดการเคลื่อนที่เกิดขึ้นจาก
การพาความร้อนของหินหนืดในชั้นเนื้อโลก เมื่อหินหนืดมี
อุณหภูมิสูงขึ้นจากการพาความร้อนภายในแก่นโลก จะเกิด
การขยายตัวและลอยตัวขึ้นออกห่างจุดกำเนิดความร้อน แต่
เมื่อหินหนืดมีอุณหภูมิลดลงจะเกิดการจมตัวลงกลับไปรับ
ความร้อนอีกครั้ง เกิดเป็นวัฏจักรที่ทำให้เปลือกโลกเคลื่อนที่
ได้หรือที่เรียกว่า "กระบวนการธรณีแปลสัณฐาน"
แผ่นธรณีภาค ประกอบด้วยแผ่นธรณีภาคทวีป และแผ่น
ธรณีภาคมหาสมุทร และในปัจจุบัน โลกของเราประกอบด้วย
แผ่นธรณีภาคขนาดใหญ่ 7 แผ่น ได้แก่ แผ่นธรณีภาค
แปซิฟิก แผ่นธรณีภาคอเมริกาเหนือ แผ่นธรณีภาค
อเมริกาใต้ แผ่นธรณีภาคยูเรเชีย แผ่นธรณีภาคแอฟริกา
แผ่นธรณีภาคอินเดีย–ออสเตรเลีย และแผ่นธรณีภาค
แอนตาร์กติก นอกจากนี้ ยังมีแผ่นธรณีภาคขนาดเล็กราว 8
แผ่นแทรกตัวอยู่ระหว่างแผ่นเปลือกโลกขนาดใหญ่ทั้งหลาย

การเคลื่อนที่ของแผ่นธรณีภาค

1.การเคลื่อนที่แยกจากกัน (Divergent) เกิดขึ้นบริเวณรอยต่อ
ของแผ่นธรณีภาค ซึ่งโดยส่วนมากจะเกิดขึ้นใต้มหาสมุทร การ
แยกตัวออกจากกันนี้ ส่งผลให้เกิดร่องลึกใต้ทะเล (Oceanic
trench) ที่ทำให้หินหนืดดันตัวขึ้นมาตามรอยแยกดังกล่าว ก่อน
สัมผัสกับอุณหภูมิที่ชั้นเปลือกโลกและเย็นตัวลง จนกลายเป็นแนว
สันเขาและแนวภูเขาไฟใต้มหาสมุทรในท้ายที่สุด แต่ถ้าหากการ
แยกตัวออกจากกันนี้ เกิดขึ้นบนพื้นทวีปจะก่อให้เกิดหุบเขาทรุด
(Rift valley) เช่น เดอะ เกรท ริฟท์ วัลเลย์ (Great Rift Valley)
ในทวีปแอฟริกา

ภาพแสดง ขอบแผ่นธรณีภาคแยกออกจากกัน

การเคลื่อนที่ของแผ่นธรณีภาค

2.ขอบแผ่นธรณีภาคเคลื่อนที่เข้าหากัน แบ่งเป็น 3 ลักษณะ คือ

2.1 แผ่นธรณีภาคใต้มหาสมุทรชนกับแผ่นธรณีภาคใต้
มหาสมุทร แผ่นธรณีภาคแผ่นหนึ่งจะมุดลงใต้อีกแผ่นหนึ่ง
ปลายของแผ่นที่มุดลงจะหลอมตัวกลายเป็นแมกมาและปะทุ
ขึ้นมาบนแผ่นธรณีภาคใต้มหาสมุทร เกิดเป็นแนวภูเขาไฟ
กลางมหาสมุทร เช่น ที่หมู่เกาะมาริอานาส์ อาลูเทียน ญี่ปุ่น
ฟิลิปปินส์ หมู่เกาะฮาวาย จะมีลักษณะเป็นร่องใต้ทะเลลึก มี
แนวการเกิดแผ่นดินไหวตามแนวของแผ่นธรณีภาคลึกลงไป
ถึงชั้นเนื้อโลก รวมทั้งมีภูเขาไฟที่ยังมีพลัง

ภาพแสดง การมุดกันของแผ่นธรณีภาคกับแผ่นธรณีภาค

การเคลื่อนที่ของแผ่นธรณีภาค ภาพแสดง แผ่นธรณีภาคใต้มหาสมุทรมุดตัวลง
ใต้แผ่นธรณีภาค
2.2 แผ่นธรณีภาคใต้มหาสมุทรชนกับแผ่นธรณีภาคภาค
พื้นทวีป แผ่นธรณีภาคใต้มหาสมุทร ที่หนักกว่าจะมุดลง
ใต้แผ่นธรณีภาคภาคพื้นทวีป ทำให้เกิดรอยคดโค้งเป็น
เทือกเขาบนแผ่นธรณีภาคภาคพื้นทวีป เช่น ที่อเมริกาใต้
แถบตะวันตก แนวชายฝั่ งโอเรกอนจะมีลักษณะเป็นร่อง
ใต้ทะเลลึก ตามแนวขอบทวีปมีภูเขาไฟปะทุในส่วนที่เป็น
แผ่นดิน เกิดเป็นแนวภูเขาไฟชายฝั่ ง และเกิดแผ่นดิน
ไหวรุนแรง ส่วนแนวขอบด้านตะวันออก- เฉียงเหนือของ
แผ่นธรณีภาคอาระเบียที่เคลื่อนที่เข้าหาและมุดกันกับ
แนวขอบด้านใต้ของแผ่นธรณีภาคยูเรเชีย จะเกิดเป็นร่อง
ลึกก้นมหาสมุทร และเกิดเป็นเทือกเขาคดโค้งอยู่บนแผ่น
ธรณีภาคในบริเวณประเทศตะวันออกกลาง ปัจจุบัน
บริเวณนี้กลายเป็นแหล่งสะสมน้ำมันดิบแหล่งใหญ่ของ
โลก

การเคลื่อนที่ของแผ่นธรณีภาค

2.3 แผ่นธรณีภาคภาคพื้นทวีปชนกับแผ่นธรณีภาค
ภาคพื้นทวีป เนื่องจากแผ่นธรณีภาค ภาคพื้นทวีป
ทั้ง 2 แผ่นมีความหนามาก เมื่อชนกันจะทำให้ส่วน
หนึ่งมุดลง อีกส่วนหนึ่งเกยกันอยู่เกิดเป็น เทือกเขา
สูงแนวยาวอยู่ในแผ่นธรณีภาคภาคพื้นทวีป เช่น
เทือกเขาแอลป์ในทวีปยุโรป เทือกเขาหิมาลัยใน
ทวีปเอเชีย เป็นต้น แนวขอบด้านทิศเหนือของแผ่น
ธรณีภาคอินเดียเคลื่อนที่ชนและมุดกับแผ่นธรณี
ภาคยูเรเชียทางตอนใต้ ทำให้เกิดเทือกเขาหิมาลัย
บริเวณดังกล่าวจะเป็นรอยย่นคดโค้งเป็นเขต
ที่ราบสูงเสมือนเป็นหลังคาของโลก

ภาพแสดง แผ่นธรณีภาคภาคพื้นทวีปชนกับแผ่นธรณีภาคภาคพื้น
ทวีปอีกแผ่นหนึ่ง เมื่อชนกันทำให้ส่วนหนึ่งมุดตัวลงอีกส่วนหนึ่งเกย

อยู่ด้านบน

การเคลื่อนที่ของแผ่นธรณีภาค

3.การเคลื่อนที่ผ่านกันหรือสวนกัน (Transform) เนื่องจาก
หินหนืดใต้เนื้อโลก มีอัตราการเคลื่อนที่แตกต่างกัน ใน
แต่ละพื้นที่ จึงส่งผลให้แผ่นเปลือกโลกเคลื่อนที่ด้วย
อัตราเร็วและทิศทางต่างกัน เมื่อแผ่นธรณีภาคทั้งสอง
เคลื่อนที่ผ่านกัน จึงทำให้เกิดรอยเลื่อนขนาดใหญ่ (Fault)
เช่น รอยเลื่อนแซนแอนเดรอัส (San Andreas Fault) ใน
สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นรอยเลื่อนที่มีความยาวกว่า 1,200
กิโลเมตร ที่เกิดจากการเคลื่อนที่สวนทางกันของแผ่นธรณี
ภาคแปซิฟิกและแผ่นธรณีภาคอเมริกาเหนือ

ภาพแสดง ขอบแผ่นธรณีภาคเคลื่อนที่ผ่านกัน

แผ่นเปลือกโลกชาน – ไทย
อยู่ทางทิศตะวันตกของไทยครอบคลุมภาคเหนือ ภาคตะวันตก ภาค
ใต้ของไทย ครอบคลุมด้านตะวันออกของพม่า และบริเวณประเทศ
มาเลเซีย ตอนเหนือเกาะสุมาตรา มีหนตั้งแต่มหายุคพรีแคมเบียน
มหายุคพาลีโอโซอิก มหายุคมีโซโซอิกและ มหายุคซีโนโซอิก
แผ่นเปลือกโลกอินโดจีน
อยู่ทางทิศตะวันออก ครอบคลุม ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาค
ตะวันออกของไทย ประเทศลาวและกัมพูชา เวียตนาม รองรับด้วยหิน
มหายุคพาลีโอโซอิก มหายุคมีโซโซอิกและมหายุคซีโนโซอิกเป็นส่วน
ใหญ่
เมื่อ 465 ล้านปีก่อนดินแดนประเทศไทยยังแยกตัวอยู่ใน 2 อนุทวีป
ฉานไทย(ส่วนของ ภาคเหนือลงไปถึงภาคตะวันออกและภาคใต้) และ
อนุทวีปอินโดจีน (ส่วนของภาคอิสาน) อนุทวีปทั้งสองขณะนั้นยังเป็น
ส่วนหนึ่งของผืนดินกานด์วานาต่อมาประมาณ 400-300 ล้านปีก่อน
ดินแดนประเทศไทยทั้งส่วนอนุทวีปฉานไทยและอนุทวีปอินโดจีน ได้
เคลื่อนที่แยกตัวออกจากผืนแผ่นดินกอนด์วานา แล้วหมุนตัวตามเข็ม
นาฬิกาขึ้นไปทางเหนือ

ภาพแสดงแผ่นเปลือกโลกชาน-ไทย อินโดจีน

เมื่อประมาณ 220 ล้านปีก่อนอนุทวีปฉานไทยได้ชนกับอนุทวีป ภาพแสดงตำแหน่งการชนกันของอนุทวีป
อินโดจีนรวมกันเป็นอนุทวีปที่เป็นปัจจุบันเรียกว่าคาบสมุทรมลายู ชานไทยและอนุทวีปอินโดจีน
แล้วไปรวมกับจีนตอนใต้รวมกันเป็นส่วนหนึ่งของทวีปเอเชีย จาก
นั้นประเทศไทยในคาบสมุทรมลายูได้เคลื่อนที่ มาอยู่ในตำแหน่ง ภาพแสดงแผนที่ตำแหน่งของเควสตาโคราช
ปัจจุบัน
การที่แผ่นเปลือกโลกอินเดียเคลื่อนตัวเข้ามาชนกับแผ่นเปลือก
โลกยูเรเซียในช่วงยุคเทอร์เชียรีทำให้ชั้นหินของแนวสุโขทัย
(Sukhothai Fold Belt) และชั้นหินแนวเลย-เพชรบูรณ์ (Loei-
Petchabun Fold Belt) ซึ่งอยู่ระหว่างขอบรอยต่อ ของแผ่น
เปลือกโลกชาน -ไทยและอินโดจีนเกิดการคดโค้งตัว และพัฒนา
เกิดแนวรอยเลื่อนที่ สำคัญในประเทศไทยหลายแนวด้วยกัน อาทิ
รอยเลื่อนตามแนวระดับ (strike-slip fault) ในทิศทางตะวันตก
เฉียงเหนือ-ตะวันออกเฉียงใต้ เช่น รอยเลื่อนแม่ปิง รอยเลื่อน
เจดีย์สามองค์ และในทิศทางตะวันออกเฉียงเหนือ-ตะวันตกเฉียง
ใต้เช่น รอยเลื่อนอุตรดิตถ์-น่าน รอยเลื่อนระนอง รอยเลื่อน
คลองมะรุ่ย เป็นต้น

ลักษณะภูมิประเทศเควสตา (Cuesta) หรือเขารูปอีโต้ “เควสตา ภาพแสดงตำแหน่งยอดเขาบนเควสตาโคราช มองไปทางทิศเหนือ
โคราช (Khorat Cuesta)” เป็นชื่อเควสตาบริเวณขอบและใกล้ขอบ ภาพเขาจีโอพาร์ค
ที่ราบสูงโคราช (Khorat Plateau) ของหินทรายหมวดหินพระวิหาร
และหมวดหินภูพานที่ต้านทานมากกว่าหินโผล่ของหมวดหินอื่น ๆ
จึงก่อให้เกิดเป็นเควสตาหรือเขารูปอีโต้ 2 แนวคู่ขนานกัน (Double
Cuesta) จำนวนมากกว่า 20 เขา ในพื้นที่ จีโอพาร์ค โดยมีความสูง
อยู่ในช่วง 400-800 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง เช่น เขายาย
เที่ยง เขาขนานจิต เขากระโดน เขาสะเดา เขาซับประดู่ เขาปืนแตก
เขาเขียว เขาสามสิบส่าง เป็นต้น และอยู่ในเขต อำเภอสีคิ้ว กับ
อำเภอสูงเนิน เขาเหล่านี้เกิดจากลำตะคองและสาขาไหลตัดผ่านหรือ
เซาะกร่อน น้ำตะกอนกรวด ทราย ทรายแป้งและดินเหนียวไปทับถม
ในที่ราบหรือที่ราบลุ่มจนถึงอำเภอเฉลิมพระเกียรติ จึงทำให้เกิด
ภูมิประเทศ เขาสลับหุบเขาเป็นแนวในทิศตะวันตกเฉียงเหนือ-
ตะวันออกเฉียงใต้ ในบริเวณด้านตะวันตกสุด ซึ่งบางส่วน เกิดเป็น
ช่องเขาน้ำกัด (Water Gap) เช่น บริเวณลำตะคองระหว่างเขายาย
เที่ยงและเขาเขื่อนลั่น กับเขา ขนานจิตและเขาเตียน ทำให้สามารถ
สร้างเขื่อนลำตะคลองได้ ส่วนบริเวณที่ถัดออกมาทางด้านตะวันออก
ลำตะคองและสาขาไหลกัดเซาะพื้นที่มาก่อนหรือนานกว่า จึงเกิด
ภูมิประเทศเป็นเขาโดด ในพื้นที่ราบลูกคลื่นลอน ลาด โดยกระจาย
ตัวเป็นแนวเขาโดดคู่ขนานกับ แนวเขาโดดเขาผาแดง เขาพริก
เขาเขียว

สมาชิก



นายฐิติพงษ์ ศิริมี ม.6/10 เลขที่ 3
นางสาวกรกนก วิเชียรเทียบ ม.6/10 เลขที่ 12
นางสาววิมลรัตน์ พลจันทึก ม.6/10 เลขที่ 18
นางสาวสุมิตรา เถียรขุนทด ม.6/10 เลขที่ 19
นางสาวอรปรียา เชื้อชา ม.6/10 เลขที่ 20
นางสาวเมธาพร นีกระโทก ม.6/10 เลขที่ 37


Click to View FlipBook Version