หัตถกรรมการจกั รสาน
เกดิ ขึน้ โดยการใชไ้ ม้ไผ่มาจัก ผ่า ฉีก ให้เปน็ เส้นบาง ๆ แล้วมาขดั สาน สอด ไขว้
ขึน้ โครงเปน็ รูปทรง เปน็ ภาชนะ เปน็ เครื่องมอื เครือ่ งใช้ จัดเป็นงานศลิ ปหัตถกรรม และหตั ถกรรมพืน้ บ้านที่
มีความผูกพันและอย่คู กู่ บั วิถีชีวติ ของ คนไทยมาอยา่ งยาวนาน แสดงได้ถึงวัฒนธรรมและภมู ิปัญญา บรรพ
บุรษุ มีการสืบทอดกนั มาแต่โบราณ มอี ยู่ในทุกภาคของ ประเทศ ด้วยเป็นทั้งหัตถกรรมทีเ่ ป็นของใชใ้ นใน
ครวั เรือนและ ชีวติ ประจวนั จนถึงเปน็ อาชีพที่เปน็ แหล่งรายได้อกี ด้วย การสร้างสรรค์งานจักสานไม้ไผ่ต้อง
ใช้ทั้งภมู ิปัญญา ความประณีต ความละเอียดออ่ น และทกั ษะฝมี อื เชิงชา่ ง ตง้ั แต่ การรจู้ ักคณุ สมบตั ิของไม้
ไผแ่ ตล่ ะชนิดทีม่ คี วามเหมาะสมกับ การใช้ประโยชนใ์ นการจักสาน การเตรียมเส้นเพื่อการสาน ที่เหมาะสม
กับการสานผลิตภณั ฑแ์ ตล่ ะชนิด แต่ละรปู แบบ และทีส่ ำคญั คือการสานขึน้ รปู จนสำเรจ็ เปน็ ผลิตภัณฑ์
เครื่อง จกั สานไม้ไผท่ ี่นำไปประโยชนใ์ ช้สอยตามทีต่ ้องการ งาน หัตถกรรมจักสานไม้ไผ่ จึงยังคงเป็นงาน
หัตถกรรมพ้ืนบ้านที่ ยงั คงมีการสบื ทอดตอ่ กันมา นบั จากอดีตกาลจนถึงปัจจุบนั
ผลติ ภัณฑเ์ ครือ่ ง จักสานไม้ไผท่ ี่นำไปประโยชน์ใช้สอยตามทีต่ ้องการ งาน หัตถกรรมจักสานไมไ้ ผ่ จึงยงั คง
เป็นงานหัตถกรรมพืน้ บ้านที่ ยงั คงมกี ารสบื ทอดตอ่ กันมา นบั จากอดีตกาลจนถึงปัจจุบนั
จะมขี นั้ ตอนและวิธีการผลิต ของานหตั ถกรรมท่ีเหมือน หรือ
แตกตา่ งกนั ไปตามรูปแบบ รูปทรง องคค์ วามรูภ้ มู ิปัญญาและ
ทกั ษะฝีมอื ของช่างท่สี ่งั สมมาแต่โดยปกตจิ ะมีกระบวนการ
ขนั้ ตอนในการทาท่คี ลา้ ยคลงึ กนั ในแถบทกุ ภาคในประเทศไทย
การเตรยี มวตั ถดุ ิบเพ่อื การสานหตั ถกรรมจกั สานไมไ้ ผ่
ก็ถือเป็นขนั้ ตอนท่ตี อ้ งอาศยั ความรูห้ รอื ภมู ิปัญญาในการเตรียม
วตั ถดุ ิบ เพ่อื ทาใหไ้ ดว้ ตั ถดุ ิบมคี ณุ ภาพ ไม่เป็นมอด ไม่ขนึ้ รา
ไดเ้ สน้ ตอกท่มี ขี นาดสมาเสมอตามท่ตี อ้ งการ และมีสีสนั สวยงาม
และมีลวดลายท่เี หมาะสมกบั ชนิ้ งาน การเพมิ่ เติมความสวยงาม
และความคงทนใหก้ บั ชนิ้ งาน รวมทงั้ การมีคิดคน้ พฒั นาหาเทคนิค
วธิ ีการปอ้ งกนั มอดและแมลงของผลิตภณั ฑเ์ คร่อื งจกั สานดว้ ย
การรมควนั ท่สี ามารถทาใหเ้ ครือ่ งจกั สานมผี ิวแหง้ สนทิ ไม่ขนึ้ รา
ไมไ้ ผ่ท่นี ามาใชท้ างานจกั สานนนั้ จะนยิ มนาไมไ้ ผ่ท่ีได้
มาแชล่ งนา้ ทงิ้ ไว้ 7 ถึง10 วนั เพ่อื ปอ้ งกนั แมลง และบางครงั้
ใชก้ รรมวธิ ีการตากแหง้ เพ่ือช่วยสกดั นา้ มนั ไผ่ออกเป็นการ
สรา้ งความคงทน แขง็ แรง และความสวยงามใหไ้ มไ้ ผ่ย่ิงขนึ้
และมลี วดลายท่เี หมาะ
สมกบั ชนิ้ งานจกั สานนนั้ จะประกอบดว้ ย 3 สว่ นใหญ่ ๆ คือ
สว่ นกน้ ซ่งึ เป็นสว่ นสาคญั ของเครื่องจกั สาน เพราะมกั
เป็นจดุ เร่มิ ตน้ ของการสาน เพราะลกั ษณะกน้ จะสง่ ผลถงึ รูปทรง
ท่จี ะสรา้ งต่อไป ดงั นนั้ สว่ นกน้ จะตอ้ งมีโครงสรา้ งท่ีแข็งแรง
เหมาะสมสมั พนั ธก์ บั ลวดลายและรูปทรงของเคร่อื งจกั สาน
สว่ นกลาง เป็นสว่ นผนงั ของภาชนะ อาจมลี กั ษณะเป็นผนงั
ท่ที บึ หรอื โปรง่ เป็นตาก็แลว้ แต่หนา้ ท่แี ละประโยชนใ์ ชส้ อยของ
ภาชนะนนั้ ๆ สว่ นกลางของเครอื่ งจกั สานจะเป็นสว่ นสาคญั เพราะ
เป็นสว่ น ท่ีจะรบั นา้ หนกั จาการบรรจุ ซ่งึ ถา้ หากไดร้ บั การสานดีก็
สามารถรบั นา้ หนกั และทนทานจากแรงกดและแรงดงึ จากภายในได้
สว่ นปาก จะเป็นสว่ นสาเร็จของเครือ่ งจกั สาน โดยสว่ น
นจี้ ะตอ้ งสมั พนั ธก์ บั รูปทรงและประโยชนใ์ ชส้ อย ซ่งึ โครงสรา้ ง
สว่ นปากหรือขอบของเครื่องจกั สานจะเป็นสว่ นสาคญั ท่ชี ว่ ย
บงั คบั ใหเ้ ครอ่ื งจกั สานคงรูปอย่ไู ด้
การสรา้ งงานจกั สานนอกจากตอ้ งใชค้ วามประณีต พถิ ีพถิ นั
ในการสานแลว้ ส่ิงสาคญั อกี อย่างหน่งึ กค็ ือลวดลายของงาน
จกั สานนนั้ ถือเป็นส่ิงสาคญั ในการสรา้ งมลู คา่ ใหก้ บั งานจกั สาน
แต่ละชนิ้ โดยลายสานท่วั ไป คือ ลายขดั และลายสอง เป็นลาย
เรม่ิ แรกเม่อื ผสู้ านเร่มิ หดั สานงาน จากนนั้ จึงมีการพฒั นาลวดลาย
ขนึ้ จากลายดงั้ เดิม เช่น ลายลบนา้ ลายดหี ลม่
จากความเช่อื ในอดีต กบั วถิ ีชวี ติ ของชาวไทย ตน้
ไผ่ไดถ้ กู นามาใชป้ ระโยชนใ์ นหลาย ๆ ดา้ น
โดยเฉพาะในดา้ นงานหตั ถกรรม จกั สานเพ่อื มา
เป็นขา้ วของเครอื่ งใชใ้ นชีวิตประจวนั เพ่อื
ประโยชนใ์ ชส้ อย และงานจกั สานยงั สะทอ้ น
วฒั นธรรม สะทอ้ น ความคดิ สรา้ งสรรค์ ภมู ิปัญญาของชาวบา้ นไดอ้ กี ดว้ ย งานหตั ถกรรม
จกั สานไมไ้ ผ่ เป็นอาชพี ท่ีมีอย่ทู ่วั ทกุ ภาค ของประเทศไทย นิยมจกั สานเพ่อื มาใชเ้ ป็น
เครอื่ งมอื เคร่ืองใช้ ประเภทต่าง ๆ เป็นเครอื่ งใชใ้ นครวั เรือน เชน่ กระบงุ ตะแกรง กระดง้ ฝา
ชี เครื่องมือเครอ่ื งใชใ้ นการเกษตร ตะกรา้ เขง่ ใสผ่ ล ไม้ เครอ่ื งมอื ท่ใี ชจ้ บั สตั วน์ ลอบ ไซ เป็น
ตน้ เป็นงานหตั ถกรรม พืน้ บา้ นอย่างงา่ ยท่สี ามารถทาใชก้ นั ไดเ้ อง หรือสามารถหาซอื้ ได้ ใน
ราคาไม่แพง
ภมู ิปัญญาดา้ นงานหตั ถกรรมจกั สานของไทยถือ
เป็น สมบตั ิล่าค่าท่ีไดร้ บั สบื ทอดต่อกนั มา สรา้ ง
รายไดใ้ หก้ บั ชมุ ชน มาหลายช่วั อายคุ น แมย้ คุ
สมยั จะเปลี่ยนแปลงไป แต่งาน จกั สานก็ไดม้ ีการ
พฒั นาขนึ้ ใหเ้ ขา้ กบั ความตอ้ งการของตลาด ตลอดมา หากเปรียบงานจกั สานเป็นแฟช่นั
อยา่ งหน่ึงกค็ งบอก ไดว้ า่ เป็นแฟช่นั ท่ไี ม่เคยตกยคุ จากการปรบั ตวั หลายๆ อยา่ ง นาไปสู่
กระบวนการจดั การอาชีพหตั ถกรรมจกั สานท่ยี ่งั ยนื ถือ ไดว้ ่าอาชีพหตั ถกรรมจกั สานนเี้ ป็น
อาชีพท่ไี มม่ ีวนั ตาย ยงั คง สรา้ งคนสรา้ งงาน และอย่คู กู่ บั ประเทศไดอ้ ีกนานแสนนาน จกั ส