The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ศิลปะตะวันตก (1)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Candy Lee, 2021-03-11 22:19:51

ศิลปะตะวันตก (1)

ศิลปะตะวันตก (1)

เอกสารประกอบการสอน
ศิลปะตะวันตก

ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2

นางสาวภทั รวดี......ศรีรงุ่ เรอื ง

ศลิ ปะรปู แบบตะวันตก ได้แก่ 1. ศลิ ปะสมยั ก่อนประวัตศิ าสตร์ 2. ศลิ ปะสมยั
ประวัติศาสตร์ 3. ศิลปะสมยั กลาง และ 4. ศลิ ปะสมยั ใหม่

อธบิ าย วิเคราะห์ ตระหนกั และเห็นความสาคัญของงานทศั นศิลป์รูปแบบ
ตะวนั ตกได้

กาเนดิ วนี สั The Birth of Venus ผลงาน ซานโดร บอตตเิ ชลลี

ตัวช้วี ัดช่วงชัน้ ศ 1.2 ม. 4 -6/1
- วิเคราะหแ์ ละเปรยี นเทียบงานทศั นศิลป์ในรูปแบบตะวนั ออกและรปู แบบตะวนั ตก

แบบทดสอบก่อนเรียน (1)

กลุ่มสาระการเรียนรู้ศลิ ปะ (ทศั นศลิ ป์ ) 20 ขอ้
20คะแนน

คำชี้แจง ใหน้ กั เรียนทาเคร่ืองหมาย x ทบั ตวั อกั ษร ก. ข. ค. หรือ ง. หนา้ คาตอบทีเ่ ห็นวา่ ถูกที่สุดเพยี งขอ้ เดียว

1) ภาพเขยี นที่ถ้า ถ้าอลั ตามิรา (Altamira) ในสเปน 6) เป็นชาตแิ รกท่คี ิดคน้ สร้างคอนกรีต สถาปัตยกรรม

เป็นศลิ ปะอยใู่ นสมยั ใด เนน้ ความใหญ่โตมโหฬาร มีความหรูหรา สง่างาม มน่ั คง

ก. สมยั ก่อนประวตั ศิ าสตร์ ข. สมยั ประวตั ศิ าสตร์ แขง็ แรง จติ รกรรมภาพจากสีฝ่นุ ประติมากรรม รูปของ

ค. สมยั กลาง ง. สมยั ใหม่ จกั รพรรดิ หมายถึงชาตใิ ด

2) ขอ้ ใดไม่เกี่ยวขอ้ งกบั อียปิ ต์ (Egypt) ก. กรีก ข. อียปิ ต์

ก. พีระมิด, มาสทาบา ข. มมั มี่ ค. โรมนั ง. แอสสิเรีย

ค. วหิ ารโนเตรอ-ดาม ง. สฟิงค์ 7) ศิลปะใด งานสถาปัตยกรรม มีโครงสร้างทรงสูง มี

3) ขอ้ ใดคือ ลกั ษณะของกรีก ยอดหอคอยรูปทรงแหลมอยขู่ า้ งบน หนา้ ต่างประดบั ดว้ ย

ก. ฟาโรห์ เป็นสมมุติเทพ กระจกสี (Stain Glass)

ข. ประตมิ ากรรม เหมือนมมนุษยจ์ ริง เส้ือผา้ อ่อนพลิ้ว ก. ศิลปะบารอก ข. ศิลปะโกธิก

ค. ชีวติ หลงั ความตาย วญิ ญาญจะกลบั เขา้ ร่าง ค. ศลิ ปะรอกโกโก ง. ศลิ ปะโรมนั

ง. ถูกทกุ ขอ้ 8) การวาดภาพโดยเนน้ หลกั ทศั นวทิ ยา (Perspective) ที่

4) อกั ษรภาพอียปิ ตโ์ บราณ มีชื่อวา่ อะไร ถูกตอ้ ง เริ่มข้นึ ในยคุ สมยั ใด (ขอ้ สอบ O-Net 2552)

ก. อกั ษรคูนิฟอร์ม ข. อกั ษรลิ่ม ก. Classic ข. Renaissance

ค. อกั ษรเบล ง. อกั ษรภาพไฮโรกลิฟ ค. Rococo ง. Neo – Classic

5) วหิ ารพาร์เธนอน Parthenon ในกรุงเอเธนส์ สรา้ ง 9) ศิลปะใดเสนอเร่ืองราวท่ีใหค้ วามรื่นเริง ชวนฝัน อิ่ม

ข้นึ ตามแบบสถาปัตยกรรมใด สุข มีปรากใหเ้ ห็นอยใู่ นพระราชวงั แวร์ซายลส์

ก. ศลิ ปะบารอกและรอกโกโก ข. ศิลปะโกธิก

ค. ศิลปะกรีก ง. ศิลปะอิตาลี

10) Mosaic หมายถึงอสิ่งใด

ก. กระจกสี ข. ภาพจากหินสี

ค. ภาพแกะสลกั หิน ง. ภาพสีฝ่นุ

ก. Doric ข. Ionic 11) มหาวหิ ารเซนตป์ ี เตอร์ ในกรุงโรม มีศลิ ปิ น
ค. Corinthian ง. Ionic and Corinthian
ผอู้ อกแบบควบคุมงานก่อสร้างและลงมือตกแต่ง คอื

ก. ราฟาเอล ข. ไมเคลิ แองเจลโล

ค. โจวนั นิ เบอร์นินี ง. ถูกทกุ ขอ้

(2)

12) ปิ เอตา้ เป็นผลงานประตมิ ากรรมของใคร 17) ขอ้ ใดเป็นศลิ ปิ นในลทั ธิประทบั ใจยคุ หลงั (Post -
Impressionism) ท้งั หมด (ขอ้ สอบ O – Net 2553)
ก. เลโอนาร์โด ดา วนิ ชี ข. ราฟาเอล
ก. ปอล เซซาน (Paul Cezanne)
ค. มิเคลนั เจโล ง. โจวนั นิ เบอร์นินี มาร์เชอ ดูซอง (Marcel Duchamp)

13) ภาพโมนา ลิซา Mona Lisa เป็นผลงานของใคร ข. ปอล โกแกง (Paul Ganguin)
ฟินเซนต์ ฟานกอ๊ ก (Vencent Van Gogh)
ค. ซาลาเดอร์ ดาลี (Salvador Dali)
มกั ซ์ เอินสต์ (Max Ernst)
ง. ชอร์ช บราก (Georges Broque)
ปาโบล ปิ กสั โซ่ (Pablo Picasso)
18) ขอ้ ความใดท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั ภาพน้ี

ก. เป็นผลงานรูปแบบนามธรรม

ข. ศลิ ปิ นที่สร้างผลงานคือแจก็ สนั พอลลอ็ ก

ก. เลโอนาร์โด ดา วนิ ชี ข. ราฟาเอล ค. กลวธิ ีการสรา้ งงานโดยการสาด สลดั สี
ง. ถูกทุกขอ้
ค. มิเคลนั เจโล ง. โจวนั นิ เบอร์นินี 19) ภาพน้ีเป็ นฝีมือของใคร

14) ศูนยก์ ลางของความเจริญกา้ วหนา้ ทส่ี าคญั ในเรื่อง

ของศลิ ปะสมยั ฟ้ืนฟูศลิ ปะและวทิ ยาการ คือขอ้ ใด

ก. ฝรงั่ เศส ข. องั กฤษ

ค. สหรัฐอเมรริกา ง. อิตาลี

15) ศิลปะจนิ ตนิยม ( Romanticism) มุ่งสรา้ งสรรคง์ าน

ท่ใี หอ้ ารมณ์ใดแก่ผชู้ ม

ก. เพลืดเพลิน มีควมสุข ข. ตืน่ เตน้ สะเทือนใจ ก. ปอล โกแกง ข. อองรี มาตีส

ค. ตลก ขบขนั ง. โศกเศรา้ ค. ปาโบล ปี กสั โซ ง. ฟินเซนต์ ฟาน ก๊อก

16) ภาพโมนา ลิซา Mona Lisa ศิลปิ นใชเ้ ทคนิคใด 20) คาวา่ “Surrealism” หมายถึงศิลปะลทั ธิใด

ก. สีน้าบนกระดาษ ข. สีน้ามนั บนผา้ ใบ ก. เหนือจริง ข. บาศกนิยม

ค. สีอะคริลิกบนผา้ ใบ ง. ภาพพมิ พแ์ กะไม้ ค. จนิ ตนิยม ง. สัจนิยม

1

ใบควำมรู้

ศิลปะตะวนั ตก

“ศิลปะตะวนั ตก” หมายถึง ศิลปกรรมของกลุ่มประเทศในยโุ รป (ปัจจบุ นั รวมถึงสหรัฐอเมริกาดว้ ย)
มีรากฐานมาจากศลิ ปะของอียปิ ต์ และกรีก ซ่ึงเป็ นวฒั นธรรมยคุ โบราณของโลก และพฒั นาข้นึ มาภายใต้
อิทธิพลของคริสตศ์ าสนา อนั เป็นตน้ แบบของศิลปะสากลในปัจจุบนั

ประวตั ิศาสตร์ศิลปะของยโุ รปแบ่งอยา่ งกวา้ ง ๆ ไดเ้ ป็น 4 สมยั คือ
1. ศิลปะสมยั ก่อนประวตั ิศาสตร์ 2 . ศิลปะสมยั ประวตั ศิ าสตร์ 3. ศิลปะสมยั กลาง 4. ศิลปะสมยั ใหม่

ศิลปะสมยั ก่อนประวตั ิศำสตร์

เป็นช่วงเวลาทม่ี นุษยย์ งั ไม่มีการประดิษฐต์ วั อกั ษร ยคุ หินเก่าตอนปลาย ซ่ึงอยใู่ นช่วงเวลาประมาณ
30,000-10,000 ปี มาแลว้ โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ ในช่วง 15,000- 10,000 มาน้นั มนุษยไ์ ดเ้ ขยี นภาพสีและขดู ขดี
บนผนงั ถ้าและเพงิ ผา เป็นภาพสตั ว์ การล่าสตั วแ์ ละภาพลวดลายเรขาคณิต ภาพเหล่าน้ีมกั ระบายดว้ ยถ่านไม้
และสีทีผ่ สมกบั ไขมนั สตั ว์ พบไดท้ วั่ ไปในประเทศฝร่งั เศส และภาคเหนือของสเปนทมี่ ีชื่อเสียงมากไดแ้ กถ่ ้า
ลาสโกซใ์ นฝรงั่ เศส ถ้าอลั ตามิราในสเปน ยงั มีการป้ันรูปดว้ ยดินเหนียว หรือแกะสลกั บนกระดูกเขาสตั วแ์ ละ
งาชา้ งดว้ ยเร่ืองราวท่นี ิยมทากนั กม็ ีรูปคน เป็นรูปสตรี ซ่ึงอาจมีความหมายถึง การใหก้ าเนิดเป็ นการเพม่ิ ความ
อุดมสมบูรณ์ใหก้ บั ชนเผา่

ภาพเขยี นทีถ่ ้า ลาสโกซ์ Lascaux ในฝร่ังเศส ภาพเขยี นทถ่ี ้า ถ้าอลั ตามิราAltamira ในสเปน

ยคุ สมยั ก่อนประวตั ิศาสตร์สากล สามารถแบ่งออกได้ 3 ยคุ ไดแ้ ก่

1. ยุคหินเก่ำ (Paleolithic Age หรือ Old Stone Age)
เร่ิมต้งั แต่ 3.5 - 5 ลา้ นปี ล่วงมาแลว้ รูปทรงทางเพศทแี่ สดงออกถึงร่องรอยการ ใหก้ าเนิดมาอยา่ งโชก

โชน เช่น ประติมากรรมสลกั หินรูปวนี สั แห่งวเิ ลนดอร์ฟขนาดสูง 4 นิ้วเศษ พบท่ีวิเลนดอร์ฟ (Willendorf)
ออสเตรีย อายรุ าว 25000-20000 ปี ก่อนคริสตกาล

2

ประตมิ ากรรม วนี สั แห่งวเิ ลนดอร์ฟ Venus of Willendorf ยคุ หินเก่า

2. ยคุ หินกลำง (Mesolithic or Middle Stone Age Art)
เร่ิมเมื่อประมาณ 10000 – 6000 ปี ล่วงมาแลว้ ลกั ษณรูปแบบศลิ ปะในช่วงน้ีไม่มีอะไรโดดเด่นมาก

นกั ใชช้ ีวติ อยกู่ บั ธรรมชาติ โดยยคุ หินกลางจะถกู รวมเขา้ ไวก้ บั ยคุ หินใหม่หรือจดั ใหเ้ ป็ นจุดเริ่มตน้ ของยคุ
หินใหม่

3. ยุคหินใหม่ (Neolithic Art)
เร่ิมเมื่ออายปุ ระมาณ 4 พนั ปี ก่อนคริสตศ์ กั ราช ศลิ ปกรรมยคุ หินใหม่ท่ีเด่นๆ คือ เคร่ืองป้ันดินเผา

ประเภทเคร่ืองประดบั ปรากฎอยใู่ นแควน้ บริตานีของฝรง่ัั เศส และไอร์แลนดข์ ององั กฤษ ส่วนผลงาน
จติ รกรรมน้นั ไม่เด่นชดั และศิลปกรรมท่โี ดดเด่นท่ีสุดของยคุ หินใหม่คอื อนุสาวรียห์ ิน (Megelithic) ซ่ึงเป็น
ปรากฏการณ์นาเอาหินขนาใหญ่มาต้งั วาง ในลกั ษณะตา่ งๆ แบ่งเป็ น 2 กลุ่มคือ แบบหินต้งั กบั แบบโตะ๊ หิน

หินต้งั เดี่ยว ( Menhir or Standing Stone ) หินต้งั เป็ นแกนยาว ( Alignment )

หินต้งั เป็ นวงกลม (Cromlech or Stonehenge) โตะ๊ หิน (Dolmen)

3

ศิลปะสมยั ประวตั ิศำสตร์

ศิลปะยุคเมโสโปเตเมยี (Mespotemia Art)
ศิลปะเมโสโปเตเมีย มีอายปุ ระมาณ 8,000-146 ปี ก่อนคริสตกาล เป็นงานศิลปะท่เี จริญในลุ่มแม่น้า
ไทกรีส -ยเู ฟตีส ซ่ึงปัจจุบนั เป็นดินแดนบางส่วนของอีรัก อิหร่าน ซีเรีย จอร์แดน เป็ นศิลปะท่ีอยใู่ นยคุ ร่วม
สมยั กบั ศิลปะอียปิ ตอ์ ีกกลุ่มหน่ึง เมโสโปเตเมียมีพน้ื ทก่ี วา้ งขวางและมีความอุดมสมบูรณ์มาก ทาใหม้ ีกลุ่ม
ชนเผา่ ต่างๆ ต้งั ถ่ินฐานประกอบดว้ ยชนชาติ ซูเมอเรียน บาบโิ ลเนีย แอสสิเรีย และเปอร์เซีย ตามลาดบั เริ่ม
จากซูเมอเรียนและบาบิโลเนีย
งำนด้ำนสถำปัตยกรรม มกั สร้างใหส้ ูงใหญ่เหมือนภเู ขา นิยมประดบั แกว้ หินในสถาปัตยกรรมน้นั ๆ
ดว้ ย สถาปัตยกรรมทโี่ ดดเด่น ไดแ้ ก่ ซิกกูรตั แห่งเมืองอูร์ สวนลอยแห่งกรุงบาบิโลน หอ้ งสมุดแห่งแรกของ
โลก
ประติมำกรรม มีท้งั แบบนูนต่า แบบนูนสูง และแบบลอยตวั ส่วนมากเกี่ยวกบั เรื่องราวกิจกรรมของ
พระมหากษตั ริย์ มีการประดบั เปลือกหอย หินสี มีความสามารถในการแสดงออกและเลือกวสั ดุไดอ้ ยา่ ง
เหมาะสม ส่วนภาพนูนต่าเป็นรูปการล่าสตั ว์ การทาสงคราม
งำนจติ รกรรม เขียนง่ายๆ ไม่เนน้ รายละเอียด ไม่มีแสงเงา มีความคลา้ ยคลึงกบั อิยปิ ตต์ รงการจดั วาง
คือ ภาพหนา้ คน แขน ขาจะหนั ขา้ ง แต่ลาตวั หนั ดา้ นหนา้ นอกจากน้ีพวกเขายงั มีอกั ษรใช้ เรียกวา่ อกั ษรลิ่ม
หรือคูนิฟอร์ม

ภาพนูนต่ารูปสิงโต สมยั บาบิโลเนียน อกั ษรคูนิฟอร์ม

ซิกกแู รตแห่งเมืองอูร์ ในอิรกั สวนลอยบาบโิ ลน

4

ศิลปะยคุ อยี ปิ ต์ (Egypt art)

2650 ปี ก่อน พ.ศ. - พ.ศ. 510 ชาวอียปิ ตม์ ีศาสนาและพธิ ีกรรมอนั ซบั ซ้อน มกี ารนบั ถอื เทพเจา้ หลาย
องค์ เทพเจา้ สูงสุดช่ือ รา (Ra) เป็ นสุริยะเทพ โอริซิส ป็นเทพเจา้ แห่งแม่น้าไนลม์ ีธิดาชื่อไอซิส ฯลฯ
ด้ำนสถำปัตยกรรม

จดุ มุ่งหมายของการสร้างสรรคง์ านดา้ นสถาปัตยกรรมของอียปิ ตม์ าจากการสร้างข้นึ เพอื่ คนที่
ล่วงลบั ไปแลว้ โดยคนที่มีชีวติ อยจู่ ะไม่สามารถใชป้ ระโยชนจ์ ากสถาปัตยกรรมน้นั ๆ เช่นการสรา้ งพรี ะมิด
และมสั ตาบา โดยภายในพรี ะมิดจะแบ่งเป็นหอ้ งๆ สาหรับเกบ็ ศพทีท่ าเป็ นมมั มี่และเกบ็ รักษาทรพั ยส์ ิน
เคร่ืองใชข้ องผตู้ ายเพราะเช่ือวา่ ผตู้ ายจะสามารถนาไปใชไ้ ดใ้ นโลกหนา้ ทา Mummy ใหว้ ญิ ญาณกลบั เขา้ ร่าง
และฟ้ื นข้ึนมา ลกั ษณะเด่นของสถาปัตยกรรมของอียปิ ตค์ ือ จะมีลกั ษณะใหญโ่ ต แขง็ แรง เพราะสถาปนิกมี
ความสามารถในการทาโครงสรา้ งแบบวางพาดดว้ ยหินซอ้ นกนั เป็ นพรี ะมิดทม่ี ีลกั ษณะเป็ นรูปสามเหล่ียมมา
ใช้ พรี ะมิดทใ่ี หญโ่ ตและเก่าแก่ทส่ี ุดคอื พรี ะมิดกิซาห์ของกษตั ริยค์ ีออปส์และพรี ะมิดของกษตั ริยค์ ูฟู

พรี ะมิดกิซาหข์ องกษตั ริยค์ อี อปส์ สุสานของฟาโรหร์ ามเรสท่ี 2
The Great Sphinx and the Pyramids of Giza

ด้ำนประตมิ ำกรรม
ประติมากรรมของศลิ ปะอียปิ ตม์ ีลกั ษณะเป็ นแทง่ หินส่ีเหลี่ยม ทึบตนั และใหค้ วามรูส้ ึกมนั่ คง

แขง็ แรงแตไ่ ม่เนน้ กลา้ มเน้ือ มกั ตกแต่งดว้ ยแกว้ หินสี การทาสี และปิ ดทองประดบั ประดา ทพี่ บเห็นไดบ้ ่อย
คอื รูปมนุษยก์ บั สตั วอ์ นั เป็นสญั ลกั ษณ์ของเทพเจา้ ทเี่ คารพบชู า เช่น รูปประติมากรรมฟาโรหข์ นาดใหญ่ รูป
สลกั หินสฟิงซ์ รูปสลกั หินพระนางเนเฟอร์ตติ แิ ละฟาโรหอ์ ามิโนฟิสท่ี 4 พระสวามี ลกั ษณะประตมิ ากรรม
ของอียปิ ตไ์ ดร้ ับอิทธิพลมาจากธรรมชาติ เนน้ ความเช่ือเรื่องวญิ ญาณ มีท้งั ประติมากรรมแบบนูนเตม็ ตวั และ
แบบนูนต่า ส่วนรูปคนจะคลา้ ยๆกบั หุ่น

5

รูปสลกั หินพระนางเนเฟอร์ตติ ิ รูปป้ันฟาโรห์ตตุ นั คาเมน พระเศียรของพระนางเนเฟอตติ ติ
และฟาโรหอ์ ามิโนฟิสท่ี 4 (Nefertiti)

ด้ำนจิตรกรรม
วตั ถุประสงคห์ ลกั ของการสรา้ งสรรคผ์ ลงานดา้ นจิตรกรรมกเ็ พอ่ื ประดบั ตกแต่งในงานดา้ น

สถาปัตยกรรมเป็ นส่วนใหญ่ จึงพบตามฝาผนงั ภายในหอ้ งตา่ งๆของพรี ะมิด แสดงออกอยา่ งเด่นชดั ในเรื่อง
ความเช่ือของโลกหนา้ และเชื่อวา่ ฟาโรห์เป็นเทพเจา้ ที่มีอานาจสูงสุด ในภาพเขียนพบท้งั รูปคนและสตั ว์ เป็น
ทน่ี ่าสงั เกตวา่ ขนาดตวั ของบคุ คลน้นั ไม่ไดแ้ สดงถึงอายแุ ต่แสดงถึงสถานะของบคุ คล เช่นฟาโรห์มีขนาด
ใหญท่ ีส่ ุด รองลงมาคอื พระราชินี และบริวารมีขนาดเล็กลง ทน่ี ่าสงั เกตอีกประการหน่ึงคอื จติ รกรรมรูปคน
มกั ไม่คานึงถึงลกั ษณะตามธรรมชาติ เช่น เขยี นส่วนหวั จนถึงเทา้ เป็ นรูปดา้ นขา้ ง แต่เขยี นตาและทรวงอก
เป็นรูปดา้ นหนา้

เขียนส่วนหวั จนถึงเทา้ เป็นรูปดา้ นขา้ ง เขียนตาและทรวงอกเป็นรูปดา้ นหนา้

6

อักษรภำพอียปิ ต์โบรำณ

อกั ษรภาพไฮโรกลิฟ อกั ษรภาพไฮราติก
ในช่วงท่อี ียปิ ตโ์ บราณรุ่งเรือง เมื่อ 2000 กวา่ ปี แบบไฮโรกลิฟน้นั ไม่กระชบั จงึ พฒั นาสญั ลกั ษณ์

แบบ ไฮราตกิ (Hieratic)

ศิลปะยคุ กรีก (Greece art)

500 ปี ก่อน พ.ศ. - พ.ศ. 440 ชาวกรีกมีความเชื่อวา่ "มนุษยเ์ ป็นมาตรวดั สรรพสิ่ง" ซ่ึงความเชื่อน้ีเป็น
รากฐาน ทางวฒั นธรรมของชาวกรีก เทพเจา้ ของชาวกรีกจะมีรูปร่างอยา่ งมนุษย์ และไมม่ ีความเช่ือเกี่ยวกบั
ชีวติ หลงั ความตายเหมือนชาวอียปิ ต์ ดงั น้นั จงึ ไม่มีสุสานหรือพธิ ี
ฝังศพทีซ่ บั ซอ้ นวจิ ติ รเหมือนกบั ชาวอียปิ ต์

งานประติมากรรม
งานประติมากรรมภาพคนจะแสดงใหเ้ ห็นถึงกลา้ มเน้ือและอวยั วะต่าง ๆ ใหส้ มบูรณ์ท่สี ุด ปราศจากเคร่ือง
นุ่มห่ม ชาวกรีกจงึ นิยมป้ันและแกะสลกั รูปคนเปลือยกายไวม้ ากมาย งานประตมิ ากรรมลอยตวั ท่มี ีช่ือเสียง
ไดแ้ ก่ เทพธิดาวนี สั (Venus) รูปเทพเจา้ อพอลโล (Apollo) รูปนกั กีฬาไมรอน (Myron) ประตมิ ากรรมโลหะ
สมั ฤทธ์ิรูปเด็กหนุ่ม เป็ นรูปเปลือยทม่ี ีส่วนสดั ของร่างกาย ตลอดจนการจดั วางทว่ งท่าไดอ้ ยา่ งงดงาม

รูปป้ันวนี สั เดอ มิโล เทพเจา้ อพอลโล รูปนกั กีฬาไมรอน (Myron)

7

งำนด้ำนจิตรกรรม

กรีกไม่นิยมสร้างจิตรกรรมนกั งานดา้ นจิตรกรรมพบไดบ้ นผนงั ตา่ งๆ และบนภาชนะ มีลกั ษณะ

เด่นๆ คอื

1. แสดงความรู้สึกต้ืนลึกดว้ ยการเขยี นซอ้ นกนั

2. ใชส้ ีจากดั และแบน

3. ใชล้ วดลายประกอบกิจกรรมรูปคน

4. เร่ืองราวของภาพประกอบในไหเป็นเรื่อง อิเลียด

และโอดิสซี แบง่ เป็นตอนๆ

5. นิยมใชส้ ีดาและสีแดงเขยี นดว้ ยน้ายาเคลือบ

6. ลกั ษณะง่าย ชดั เจน ภาพบนเเจกนั เรื่องอิเลียดและโอดิสซี

สถำปัตยกรรมกรีก
สถาปัตยกรรมกรีก ใชร้ ะบบโครงสรา้ งแบบเสาและคาน เช่นเดียวกบั อียปิ ต์ มีแผนผงั เป็ นรูป

ส่ีเหลี่ยมผนื ผา้ จากฐานอาคารซ่ึงยกเป็นช้นั ๆ กจ็ ะเป็ นฝาผนงั โดยปราศจากหนา้ ตา่ ง ซ่ึงจะก้นั เป็นหอ้ ง
ต่าง ๆ 1 - 3 หอ้ ง ปกตสิ ถาปนิกจะ สรา้ งเสารายลอ้ มรอบอาคารหรือสนามดว้ ย มีการสลบั ช่วงเสา
กนั อยา่ งมีจงั หวะ ระหวา่ งเสากบั ช่องวา่ งระหวา่ งเสา ทาให้พ้นื ภายนอกรอบ ๆ วหิ ารมีความสวา่ ง และมี
รูปทรงเปิ ดมากกวา่ สถาปัตยกรรมอียปิ ต์ และมีขนาดเหมาะสม ไม่ใหญโ่ ต จนเกินไป มีรูปทรงเรียบง่าย

สถาปัตยกรรมกรีกยคุ คลาสสิคทสี่ าคญั มีแตกตา่ งกนั 3 ประเภทคือ สถาปัตยกรรมแบบ Doric,
Ionic, and Corinthian

หวั เสาแบบ Doric, Ionic, and Corinthian วหิ ารพาร์เธนอน Parthenon ในกรุงเอเธนส์
สรา้ งข้ึนตามแบบสถาปัตยกรรมดอริก

8

ศิลปะยคุ โรมนั (Roman Art)

ประมาณ พ.ศ.340 - พ.ศ.870 ศลิ ปะโรมนั ส่วนใหญไ่ ดร้ ับอิทธิพลจากกรีก ซ่ึงมีองคป์ ระกอบที่
ประณีต งดงาม แต่ศลิ ปะของโรมนั เนน้ ความใหญ่โตมโหฬาร มีความหรูหรา สง่างาม มนั่ คงแขง็ แรง
สถาปัตยกรรมโรมนั มีชื่อเสียงมาก โรมนั เป็นชาติแรกทคี่ ดิ คน้ สรา้ งคอนกรีตได้ สามารถใชค้ อนกรีตหล่อข้นึ
เป็นโครงสรา้ งรูปโดมช่วยทาใหก้ ารก่อสร้างอาคารมีขนาดใหญ่ข้ึน
จติ รกรรรม

จติ รกรรมของโรมนั อาศยั จากการคน้ ควา้ ขอ้ มูลจากเมืองปอมเปอี สตาบิเอ และ เฮอร์คิวเลนุม ส่วน
ใหญเ่ ป็ นภาพท่ีแสดงถึงเรื่องราวในชีวติ ประจาวนั ของชาวโรมนั นอกน้นั เป็ นภาพในเทพนิยาย เหตกุ ารณ์ใน
ประวตั ศิ าสตร์ เป็นภาพทวิ ทศั น์ ภาพคน และภาพเกี่ยวกบั สถาปัตยกรรม มีการใชแ้ สงเงา และกายวภิ าค
ของมนุษยช์ ดั เจน เขียนดว้ ยสีฝ่ นุ ผสมกบั กาวน้าปนู และสีข้ฝี ้ึงร้อน นอกจากการวาดภาพ ยงั มีภาพประดบั
ดว้ ยเศษหินสี (Mosaic) ซ่ึงใชก้ นั อยา่ งกวา้ งขวาง ท้งั บนพน้ื และผนงั อาคาร

ภาพจากหินสี (Mosaic) ภาพจากสีฝ่นุ ผสมกบั กาวน้าปนู และสีข้ผี ้งึ รอ้ น

ประตมิ ำกรรม

ประตมิ ากรรมของโรมนั รบั อิทธิพลมากจากชาวอีทรัสกนั และกรีกยคุ เฮเลนิสตกิ แสดงถึงลกั ษณะท่ี

ถูกตอ้ งทางกายภาพ เรียบง่ายแต่ดูเขม้ แขง็ มาก ประติมากรรมอีกชนิดหน่ึงท่ีเป็นทีน่ ิยมคอื ประตมิ ากรรมรูป

นูนเร่ืองเกี่ยวกบั ประวตั ิศาสตร์ มีรายละเอียดของเรื่องราว เหตุการณ์ถูกตอ้ งชดั เจน วสั ดุที่ใชส้ รา้ ง

ประตมิ ากรรมของโรมนั มกั สร้างข้นึ จาก ข้ีผ้งึ ดินเผา หิน และสาริด

ประตมิ ากรรม "Augustus Prima

Porta" เป็นรูปของจกั รพรรดิองคแ์ รก

ของโรม (Ceacar Agustus) เป็น

ประตมิ ากรรมทม่ี ีรูปแบบใหม่ของ

โรมนั ทผี่ สมผสานระหวา่ ง แบบอุดม

คติ (Idealism) ของกรีกและแบบ

ภาพนูน แสดงถึงประวตั ศิ าสตร์โรมนั เหมือนจริง (Realistic) ของโรมนั

9

สถำปัตยกรรม
สถาปัตยกรรมโรมนั ไดแ้ ก่อาคารตา่ ง ๆ ส่วนมากเป็ นรูปทรงพ้นื ฐาน วสั ดุท่ใี ชส้ ร้างอาคารไดแ้ ก่

ไม้ อิฐ ดินเผา หิน ปนู และคอนกรีต จากระบบเสาและคาน ไปสู่ระบบโครงสร้างวงโคง้ หลงั คาทรง
โคง้ หลงั คาทรงกลม และหลงั คาทรงโคง้ กากบาท มีการนาสถาปัตยกรรมทีส่ าคญั ของกรีกท้งั 3 แบบ มา
เปล่ียนแปลงและ รูปแบบอนุสาวรียท์ พ่ี บมากของโรมนั คือ ประตูชยั เป็นส่ิงก่อสร้างต้งั อิสระประดบั ตกแต่ง
ดว้ ยคาจารึก และรูปนูนบรรยายเหตกุ ารณ์ สถาปัตยกรรมท่สี าคญั อีกอยา่ งหน่ึงของโรมนั คอื สะพานส่งน้า
ซ่ึงใชเ้ ป็นทางส่งน้าจากภเู ขา มาสู่เมืองต่าง ๆ ของชาวโรมนั เป็ นส่ิงก่อสร้างท่ีแสดงถึงความกา้ วหนา้ ทาง
วศิ วกรรมของโรมนั อยา่ งเห็นไดช้ ดั

สนามกีฬาแห่งกรุงโรม (The colosseum of Rome)

ศิลปะสมยั กลำง (Middle Age)

ประมาณ ค.ศ. 300 – ค.ศ. 1300 ความเจริญทางดา้ นศลิ ปะในยคุ กลาง เป็นการสรา้ งสรรคโ์ ดยวดั และ
คริสตศ์ าสนิกชน ซ่ึงมีความมนั่ คงทางเศรษฐกิจและศลิ ปวทิ ยา ศลิ ปะของคริสตศ์ าสนาจงึ เจริญรุ่งเรือง
โดยเฉพาะส่ิงก่อสรา้ งที่เกี่ยวกบั วดั คาทอลิก กลุ่มศลิ ปะทอ่ี ยใู่ นยคุ กลางไดแ้ ก่ ศลิ ปะโกติก สมยั ฟ้ืนฟู
ศิลปวทิ ยา ศลิ ปะบารอก และรอกโกโก

ศิลปะโกธิก (Gothic Art)

ศิลปะโกธิกนิยมแสดงเรื่องราวทางศาสนาในแนวเหมือนจริง (Realistic Art) ไม่ใชส้ ญั ลกั ษณ์
เหมือนศลิ ปะยคุ ก่อน
งำนสถำปัตยกรรม มีโครงสร้างทรงสูง มียอดหอคอยรูปทรงแหลมอยขู่ า้ งบน ทาใหต้ วั อาคารมีรูปร่างสูง
ระหงข้นึ สู่เพดาน ซุม้ ประตหู นา้ ตา่ งช่องลม มีส่วนโคง้ แปลกกวา่ ศิลปะแบบใด ๆ
สถาปัตยกรรม ใชโ้ ครงสร้างอาร์ชแบบโคง้ ปลายแหลม (Pointed Arch) เสาค้ายนั ภายนอกอาคาร (flying
buttresses) ส่วนช่องโล่งจากประตูถึงแทง่ บชู าวงเกา้ อ้ีไวส้ องขา้ งมีทางเดินขนานท้งั ซา้ ยขวา
อาคารสูง ยอดแหลมนิยมประดบั กระจกสีท่หี นา้ ต่าง

10

ประติมำกรรม ใชป้ ระดบั ตกแต่งโบสถส์ ่วนสาคญั อยเู่ หนือประตทู างเขา้ และเสาใชป้ ระดบั ตกแต่งสุสานคน
สาคญั เร่ืองราวในคริสตศาสนารูปคนสดั ส่วนค่อนขา้ งยาว เป็ นเสน้ ตรงรอยยบั ยน่ ของเส้ือผา้ มากชอบสรา้ ง
รูปลอยตวั
จิตรกรรม การทากระจกสี (Stain Glass) ศิลปะกอธิค พบใน ฝรัง่ เศส องั กฤษ สเปน เยอรมนั

มหาวหิ ารแห่งมิลาน วหิ ารโนเตรอ-ดาม (Notre-Dame) กระจกสี (Stain Glass)

สมยั โกธิค คือ มีลกั ษณะสูงชลูด กรุงปารีส ฝรั่งเศส

ศิลปะสมยั ฟื้ นฟศู ิลปวทิ ยำ (Renaissance Art)

เรอนาซอง หมายถึง การเกิดใหม่ (Rebirth) การฟ้ื นฟขู ้ึนมาอีก การกลบั มีชีวติ ข้ึนมาใหม่ สงครามครู
เสดนาความเปลี่ยนแปลงมาสู่ยโุ รปตะวนั ตก อิตาลี ถือวา่ เป็นศูนยก์ ลางของความเจริญกา้ วหนา้ ทส่ี าคญั ใน
เรื่องของศิลปะสมยั ฟ้ืนฟศู ิลปะและวทิ ยาการ
สถำปัตยกรรม

มีการก่อสร้างแบบกรีกและโรมนั เป็นจานวนมาก ลกั ษณะอาคารมีประตหู นา้ ตา่ งเพม่ิ มากข้ึน
ประดบั ตกแตง่ ภายในดว้ ยภาพจิตรกรรมและประตมิ ากรรมอยา่ งหรูหรา สง่างาม สถาปัตยกรรมทย่ี งิ่ ใหญ่ใน
สมยั น้นั ฟ้ืนฟูศลิ ปวทิ ยา ไดแ้ ก่ มหาวหิ ารเซนตป์ ี เตอร์ (St. Peter) ในกรุงโรม เป็นศูนยก์ ลางของคริสตศ์ าสนา
โรมนั คาทอลิก วหิ ารน้ีมีศิลปิ นผอู้ อกแบบควบคุมงานก่อสรา้ งและลงมือตกแต่ง ต่อเนื่องกนั หลายคน เช่น
โดนาโต บรามนั โต (Donato Bramante ค.ศ. 1440 - 1514) ราฟาเอล (Raphel ค.ศ. 1483 -1520) ไมเคิล แอง
เจลโล (Michel Angelo ค.ศ. 1475 -1564) และโจวนั นิ เบอร์นินี (Giovanni Bernini ค.ศ. 1598 -1680)

งำนจิตรกรรมและประติมำกรรม

ในสมยั ฟ้ืนฟศู ิลปวทิ ยา ศลิ ปิ นสร้างสรรคใ์ นรูปความงามตามธรรมชาติ และความงามที่เป็ นศลิ ปะ
แบบคลาสสิกที่เจริญสูงสุด ซ่ึงพฒั นาแบบใหม่จากศิลปะกรีกและโรมนั เป็ นยคุ สมยั ทีม่ ีคุณคา่ ยง่ิ ต่อ
ววิ ฒั นาการทางจิตรกรรมของโลก คอื ความมีอิสระในการสร้างสรรคศ์ ิลปะของมนุษย์ ความมลี กั ษณะ
เฉพาะตวั ของศิลปิ น กลา้ ท่จี ะคดิ และแสดงออกตามแนวความคดิ ทตี่ นเองชอบและตอ้ งการแสวงหา นาทาง
ไปสู่การสรา้ งสรรคง์ านจติ รกรรมสมยั ใหม่ในเวลาต่อมา งานจิตรกรรมมีความตื่นตวั และเจริญกา้ วหนา้ ทาง
เทคนิควธิ ีการเป็ นอยา่ งมาก ไดม้ ีการคดิ คน้ การเขยี นภาพลายเสน้ ทศั นียภาพ (Linear Perspective)

11

โบสถ์เซนต์ปี เตอร์ (St.Peter) ค.ศ.1506-1546 ภำพกำเนิดอำดมั (ค.ศ.1508-1512 )
มิเคลนั เจโลเป็นสถาปนิกรบั ผดิ ชอบออกแบบ มิเคลนั เจโล บูโอแนร์โรตี Michelangelo Buonarrotii
ก่อสร้างไดแ้ รงบนั ดาลใจมาจากวหิ ารแพนธีออน เป็ นงานจติ รกรรมฝาผนงั ที่เขยี นไวต้ กแตง่ เพดานโบสถ์
ของจกั รวรรดิโรมนั ซิสทนี ดว้ ยวธิ ีการวาดภาพปนู เปี ยก Fresco

ดาวดิ David ผลงาน มิเคลนั เจโล ปิ เอตา้ (Pieta) เป็นผลงานประติมากรรม
ของมิเคลนั เจโล ที่สวยงามมากอีกชิ้นหน่ึง

ภาพโมนา ลิซา Mona Lisa ผลงานของ ภาพของ เลโอนาร์โด ดา วนิ ชี Leonardo Da Vinci
เลโอนาร์โด ดา วนิ ชี Leonardo Da Vinci เป็น
ภาพเขียนสีน้ามนั บนผา้ ขนาด 30.5 X 21 น้ิว

12

ศิลปะบำรอก และรอกโกโก (Baroque and Rococo Art)

ศลิ ปะแบบบารอกและรอกโกโก เป็นเป็ นผลงานศิลปะท่ีสะทอ้ นความโอ่อา่ หรูหรา ประดบั ประดา
ตกแตง่ ที่วจิ ติ รละเอียดละออส่งเสริมความร่ืนเริงยนิ ดี ความรกั กามารมณ์ ภาพกาเนิดวนี สั ค.ศ.1754 โดย
บเู ชร์ เป็นศิลปิ นผมู้ ีฐานะและบทบาทสาคญั โดยเป็นผนู้ าท่ีรับผดิ ชอบทางดา้ นจติ รกรรมของราชสานกั
ผลงานจติ รกรรมของเขาแสดงสีสนั ทสี่ วยงาม สอดคลอ้ งกลมกลืนกบั เร่ืองราว เสนอเร่ืองราวที่ใหค้ วามร่ืน
เริง ชวนฝัน อิ่มสุข ซ่ึงรสนิยมดงั กล่าวมีปรากใหเ้ ห็นอยใู่ นพระราชวงั แวร์ซายลส์

งานสถาปัตยกรรมประกอบดว้ ยเสน้ โคง้ มนตกแต่งโครงสร้างเดิม มีลวดลายอ่อนชอ้ ย งดงาม อาคาร
ทถ่ี ือเป็นแบบฉบบั ของศลิ ปะบารอก และรอกโกโก ไดแ้ ก่ โบสถเ์ ซนตแ์ อกเนส (Church of St. Agnese)
โบสถเ์ ซนตค์ าร์โล (Church of St. Carlo) ท่ีกรุงโรม พระราชวงั แวร์ซาย (Versailes palace) ในประเทศ
ฝรงั่ เศส โบสถท์ วั่ ไปในยโุ รปตอนเหนือ เช่นในประเทศเนเธอร์แลนดแ์ ละประเทศเยอรมนี

ศิลปะสมยั ใหม่ ( Modern Art)

1) ศิลปะจนิ ตนิยม ( Romanticism) ประมาณ ค.ศ. 1800 1900 ก่อเกิดในองั กฤษและฝรัง่ เศสช่วงระยะเวลาที่
ใกลเ้ คียงกนั มีทรรศนคติท่ตี อ้ งการความเป็นอิสระในการแสดงออกทีศ่ ลิ ปิ นตอ้ งการมากกวา่ การเดินตาม
กฏเกณฑแ์ ละแบบแผนทางศลิ ปะ ดงั ทศ่ี ิลปิ นลทั ธิคลาสสิกใหม่ยงั ยดึ ถืออยเู่ ป็ นศลิ ปะที่เนน้ อารมณ์อยเู่ หนือ
เหตุผล มุ่งสรา้ งสรรคง์ านท่ตี ืน่ เตน้ เร้าใจ ก่อใหเ้ กิดอารมณ์สะเทือนใจแก่ผชู้ ม

1. ภาพ 3 พฤษภาคม 1808 โดย โกยา Francisco 2. ภาพ เสรีภาพนาหนา้ ประชาชนโดย
Goya (ค.ศ.1814) แสดงเหตุการณ์ปฏวิ ตั ิในฝรง่ั เศส เดอลาครัวซ์ Eugene Delacroix (ค.ศ.1830)

3. ภาพ การอบั ปางของแพเมดูซา โดย เจริโคท์ 4. ภาพ พายหุ ิมะ โดย เจ เอ็ม ดบั บลิว เทอร์เนอร์

13

2) ศิลปะสัจนิยม (Realisticism) กลางคริสตศ์ ตวรรษที่ 19 ศลิ ปิ นในยคุ น้ีไดแ้ ก่ กุสตาฟ คูร์เบท์ Gustave
Courbet, ฌอง ฟรังซวั ส์ มิลเ์ ลท์ Jean-Francois Millet

1. จติ รกรรมช่ือ ภาพร่อนขา้ วโพด The Corn 2. จิตรกรรมช่ือ ภาพคนเก็บขา้ วตก The Gleaners
Sifters วาดโดย กุสตาฟ คูร์เบท์ ค.ศ.1855 วาดโดย ฌอง ฟรังซวั ส์ มิลเ์ ลท์ ค.ศ.1857

3) ศิลปะลทั ธปิ ระทบั ใจ (Impressionism) ศิลปะแห่งความงดงามของประกายแสงและสี
ศลิ ปะลทั ธิประทบั ใจ จะแสดงภาพทิวทศั นบ์ ก ทะเล ริมฝ่ัง เมืองและชีวติ ประจาวนั ท่ีรื่นรมย์ เช่น

การสงั สรรค์ บลั เลต์ การแข่งมา้ สโมสร นิยมเขียนภาพนอกหอ้ งปฏบิ ตั ิงาน
รูปแบบของศิลปะลทั ธิประทบั ใจ พยายามแสดงคุณสมบตั ิของแสงสี อนั เป็นผลมาจากความรู้

เกี่ยวกบั แสงจากสเปกตรัมและสี ซ่ึงเป็นผลผลิตจากความกา้ วหนา้ ทางวทิ ยาศาสตร์ โดยพยายามบนั ทกึ การ
สะทอ้ นแสงบนพ้นื ผวิ ของวตั ถุรวมท้งั สภาพบรรยากาศในแตล่ ะช่วงเวลา ไม่สนใจต่อการแสดงรูปทรงให้
โดดเด่นใชส้ ีสดใสตามสีของสเปกตรมั ระบายดว้ ยรอยแปรงหยาบๆทบั ซอ้ นกนั หลายคร้งั

1.ภาพผลงานจติ รกรรมชื่อ อาหารกลางวนั บนสนามหญา้ Lunch on the Grass
วาดโดย มาเนท์ Edouard Manet ค.ศ.1863เป็นภาพทส่ี ร้างความแปลกและตน่ื ตระหนกใหแ้ ก่ชาวฝร่งั เศสเป็ น
อนั มากเพราะเป็นภาพทผี่ ชู้ ายแต่งกายเรียบร้อยและผหู้ ญงิ เปลือยกาย

14

2. ภาพผลงานจติ รกรรมช่ือ ความประทบั ใจเม่ือดวง 3. ภาพผลงานจิตรกรรมชื่อ สวนท่จี ิแวร์นี Garden at

อาทิตยข์ ้นึ Impression Sunrise วาดโดย โค Giverny วาดโดย โคลด โมเนท์ Claude Monet

ลด โมเนท์ Claude Monet ค.ศ.1872เป็นภาพท่เี ป็น

ทม่ี าของคาวา่ " ประทบั ใจ " ซ่ึงทาใหเ้ กิดเป็นศิลปะ

ลทั ธิประทบั ใจข้ึน

4. ภาพผลงานจิตรกรรมชื่อ หอ้ งเรียนเตน้ รา The 5. ภาพผลงานประติมากรรมชื่อ นกั คดิ The
Dancing Class วาดโดย เดอร์กาส์ Edgar Degas Thinker โดย โรแดง Auguste Rodin เป็นงาน
ประติมากรรมท่แี สดงพ้นื ผวิ ท่ีขรุขระแสดงถึง
อารมณ์เก็บกดและทรมานภายในใจ

4) ศิลปะลทั ธปิ ระทบั ใจใหม่ (Neo - Impressionism) สีจากแสงสเปกตรัมมาสู่อนุภาคเกิดเทคนิคการระบาย

สีเป็นจุด (Pointillism) ซ่ึงเป็ นผลมาจากความเชื่อทางฟิ สิกสว์ า่ แสง คอื อนุภาค โดยการระบายสีใหเ้ กิดร้ิว
รอยพกู่ นั เล็กๆ ดว้ ยสีสดใส จุดสีเลก็ ๆ น้ีจะผสานกนั ในสายตาของผดู้ ู มากกวา่ การผสมสีอนั เกิดจากการผสม
บนจานสี ศิลปิ นคนสาคญั ในยคุ น้ี ไดแ้ ก่ จอร์จส์ เซอราท,์ คามิลล์ พสี ์ซาร์โร,พอล ซิยคั

15

1. ภาพผลงานจิตรกรรมชื่อ บ่ายวนั อาทติ ยบ์ นเกาะ 2. ภาพผลงานจติ รกรรมช่ือ ถนนมองทม์ าร์ทยาม
ลากรองดแ์ จตท์ Sunday Afternoon on the Island of พลบค่า Boulevard Montmartre in the Evening
La Grande Jatteโดย จอร์จ เซอราท์ Georges Seurat โดย คามิลล์ พสี ์ซาร์โร Camille Pissaro ค.ศ.1897
ค.ศ.1886
5) ศิลปะลัทธปิ ระทับใจยุคหลัง (Post - Impressionism)
ศลิ ปิ นในยคุ น้ี ไดแ้ ก่ พอล เซซานน์,วนิ เซนต์ ฟานโกะ,พอลโกแกง และ ทลู ูส – โลเทรค
1. ภาพผลงานจติ รกรรม ชื่อ หอ้ งนอนทีอ่ าลส์ The Bedroom at Arles วาดโดย วนิ เซนต์ ฟานโกะ Vincent
van Gogh

วนิ เซนต์ แวนโกะ วนิ เซนต์ แวนโกะ จิตรกรโพตส์อิทเพรสชนั่ นิสต์ เป็นชาวดทั ช์ ชีวิตของเขา เป็นชีวิต
แห่งความเศร้าและยากจน คร้ังหน่ึงท่ีเกิดหมดหวงั ข้นึ มา เขาตดั หูตวั เองออกขา้ งหน่ึงทนั ที
ไมม่ ีใครศรัทธาโอ นอ้ งชาย ผซู้ ่ึงเจียดรายไดอ้ นั นอ้ ยนิดส่งเสียเขา

วินเซนตเ์ ขียนภาพที่ดีท่ีสุดของเขาบางภาพในฝรั่งเศส เขาเขียนทกุ อยา่ งท่ีเขาเห็น
รอบๆตวั ทิวทศั น์ และภาพเหมือนบคุ คล โดยใชส้ ีอยา่ งน่าชวนพิศวง แตอ่ ารมณ์ความ รู้สึก
ของเขา เมื่อคิดว่าตวั เองลม้ เหลว ไร้มิตร และอยเู่ ป็นภาระแก่ ธีโอ แวนโกะก็ฆา่ ตวั ตาย

16

2. ภาพผลงานจิตรกรรมชื่อ ณ มูแลง รูจ วาดโดย 3. ภาพผลงานจติ รกรรมชื่อ ราตรีประดบั ดาว

ทลู ูส - โลเทรค Henri de Toulouse-Lautrec The Starry Night วาดโดย วนิ เซนต์ ฟานโกะ

4. ภาพผลงานจิตรกรรมชื่อ หุ่นนิ่งกบั แอปเปิ้ ล Still 5. ภาพผลงานจติ รกรรมชื่อ เมื่อไรเธอจะแตง่ งาน
Life with Apples โดย พอล เซซานน์ When are You to be Married โดย พอล โกแกง

6) ศิลปะลัทธิบำศกนยิ ม (Cubism) ค.ศ. 1907 - 1910
ศลิ ปิ นคนสาคญั ในยคุ น้ี ไดแ้ ก่ พาโบล ปิ คาสโซ, จอร์จส์ บราคและ เฟอร์นานด์ เลเจร์
1. ภาพผลงานจติ รกรรมชื่อ หญิงสาวแห่งอาวยิ อง Les Demoiselles d'Avignon โดย พาโบล ปิ คาส
โซ Pablo Picasso ค.ศ. 1807

17

2. ภาพผลงานจิตรกรรมชื่อ ชาวโปรตุเกส The 3. ภาพผลงานจิตรกรรมชื่อ ผหู้ ญิงสามคน
Portuguese โดย จอร์จส์ บราค Georges Braque โดย เฟอร์นานด์ เลเจร์ Fernand Leger ค.ศ. 1921

7) ศิลปะลทั ธิเหนือจริง (Surrealism)
ศลิ ปกรรมที่เปิ ดเผยความฝันและจิตใตส้ านึก การแสดงออกทางจิตรกรรมของศลิ ปิ นลทั ธิเหนือจริงมีหลาย
แนวทางเช่นการสรา้ งสรรคร์ ูปทรงจากจติ ใตส้ านึก การใชร้ ูปทรงจากโลกท่มี องเห็นไดเ้ ป็ นตวั ส่ือในการ
แสดงออกอาจเป็นเร่ืองของความฝันฝันร้าย อารมณ์เกบ็ กด เรื่องราวจากตานาน เรื่องเรน้ ลบั ศาสนา การ
เปรียบเทยี บสิ่งท่ีแปลกแตกตา่ งกนั แสดงออกในสภาพท่ีเพอ้ ฝัน น่าตน่ื ตระหนก น่าหวาดกลวั แดน
สนธยา เป็นการใชส้ ีและสร้างบรรยากาศทีล่ ึกลบั

1. ภาพผลงานจติ รกรรมชื่อ วนั เกิด 2. ภาพผลงานจิตรกรรม 3. ภาพผลงานจติ รกรรมชื่อ ความ
Birthday โดย มาร์ค ชากาลล์ ชื่อ เทศกาลตลก โดย โยฮนั มิโร ทรงจาท่ีฝังแน่นThe Persistence of
Marc Chagall ค.ศ 1915 Joan Miro ค.ศ 1924 - 25 Memory โดย ซลั วาดอร์ ดาลี
Salvador Dali ค.ศ. 1931

18

8) ศิลปะลทั ธินำมธรรม (Abstractism) ศลิ ปะไร้รูปลกั ษณ์
ศลิ ปิ นสร้างเสน้ รูปทรง สี จากการใชญ้ าณวนิ ิจฉยั โดยไม่ตอ้ งพ่งึ เสน้ รูปทรง สี จากธรรมชาติ การแสดง
ออกเป็ นผลจากพลงั จิตใตส้ านึก ตามเสน้ ทางของจติ วทิ ยา กลวธิ ีของการแสดงออก ไดแ้ ก่ การใชส้ ีราด หยด
หยอด ใชแ้ ปรงละเลง ระบายอยา่ งหยาบกรา้ นการสาดสี เป็ นตน้
ศิลปิ นคนสาคญั ไดแ้ ก่ แจคสนั พอลลอค, วาสสิลี แคนดินสกี, พที มองเดรียง

1. ภาพผลงานจติ รกรรม 2. ภาพผลงานจิตรกรรมชื่อ เอก 3. ภาพผลงานจติ รกรรม
ช่ือ องคป์ ระกอบสีแดง เหลือง นยั Convergence โดย แจค ชื่อ ความปิ ติ Small Pleasure โดย
และน้าเงิน โดย พที มองเดรียง สนั พอลลอคJackson Pollock วาสสิลี แคนดินสกี
Piet Mondrian ค.ศ.1921 ค.ศ.1952 Wassili Kandinsky ค.ศ. 1913

19

กจิ กรรมที่ 1

ชุดฝึกเสริมความรู้ และทกั ษะดา้ นทศั นศิลป์ ชุดท่ี 6 ทศั นศลิ ป์ ตะวนั ตก กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ

ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 5 5 ขอ้ 20 คะแนน

คาช้ีแจง ใหด้ ูรูปภาพขอ้ 1- 5 แลว้ เลือกคาตอบ (ก. – จ.) ให้เลือกคาตอบทถี่ ูกตอ้ งใหส้ มั พนั กบั รูปภาพ

คำตอบ 1.

ก. ศลิ ปะอียปิ ต์

ข. ศลิ ปะกรีก

ค. ศลิ ปะโรมนั

ง. ศลิ ปะฝร่ังเศส

จ. ศลิ ปะอิตาลี

ตอบ..........................................................................

2. 3.

ตอบ.......................................................................... ตอบ..........................................................................

4. 5.

ตอบ.......................................................................... ตอบ..........................................................................
ช่ือ-สกุล.....................................................................................ช้นั .....................เลขท่ี..............คะแนน...........

20

กจิ กรรมที่ 2

ชุดฝึกเสริมความรู้ และทกั ษะดา้ นทศั นศลิ ป์ ชุดท่ี 6 ทศั นศิลป์ ตะวนั ตก กลุ่มสาระการเรียนรู้ศลิ ปะ

ช้นั มธั ยมศกึ ษาปี ท่ี 5 10 ขอ้ 20 คะแนน

คาช้ีแจง จงพจิ รณาวา่ ขอ้ ความทกี่ าหนดให้ ถูก หรือ ผดิ โดยใหท้ าเคร่ืองหมาย  หนา้ ขอ้ ความทีถ่ กู และทา

เครื่องหมาน x หนา้ ขอ้ ความท่ผี ดิ

1)............ ในช่วง 15,000- 10,000 มาน้นั มนุษยไ์ ดเ้ ขียนภาพสีและขดู ขดี บนผนงั ถ้าและเพงิ ผา เป็ นภาพสตั ว์ การ

ล่าสตั ว์ ภาพเหล่าน้ีมกั ระบายดว้ ยถ่านไม้ และสีที่ผสมกบั ไขมนั สตั ว์ พบท่ีถ้าลาสโกซใ์ นฝร่ังเศส

ถ้าอลั ตามิราในสเปน

2)............ พบประตมิ ากรรม วนี สั แห่งวิเลนดอร์ฟ Venus of Willendorf อยใู่ นยคุ หินใหม่

3)............ การสรา้ งพรี ะมิด และมสั ตาบา ภายในเก็บศพท่ีทาเป็นมมั มี่และเก็บรักษาทรัพยส์ ินเคร่ืองใชข้ องผตู้ าย
เพราะเช่ือวา่ ผตู้ ายจะสามารถนาไปใชไ้ ดใ้ นโลกหนา้ ทา Mummy เพอื่ วญิ ญาณกลบั เขา้ ร่างและฟ้ืน
ข้ึนมา

4)............ จติ รกรรมอียปิ ตร์ ูปคนมกั คานึงถึงลกั ษณะตามธรรมชาติ วาดไดส้ วยงาม
5)............ วหิ ารพาร์เธนอน Parthenon ในกรุงเอเธนส์ สรา้ งข้ึนตามแบบสถาปัตยกรรมดอริก

6)............ ภาพวาดโมนา ลิซา Mona Lisa ผลงานของไมเคลิ แองเจลโล (Michel Angelo)

7)............ เรอนาซอง Renaissance Art หมายถึง การเกิดใหม่ (Rebirth) การฟ้ื นฟขู ้ึนมาอีก สงครามครูเสดนา
ความเปลี่ยนแปลงมาสู่ยโุ รปตะวนั ตก ฝรัง่ เศส ถือวา่ เป็ นศูนยก์ ลางของความเจริญกา้ วหนา้ ทสี่ าคญั ใน
เรื่องของศิลปะสมยั ฟ้ืนฟูศิลปะและวทิ ยาการ

8)............ ศลิ ปะจนิ ตนิยม ( Romanticism) โรแมนตคิ ศิลปะท่ีเนน้ อารมณอ์ ยเู่ หนือเหตุผล มุ่งสรา้ งสรรคง์ านท่ี
ตน่ื เตน้ เรา้ ใจ ก่อใหเ้ กิดอารมณ์สะเทือนใจแก่ผชู้ ม

9)............ ศลิ ปะลทั ธิเหนือจริง (Surrealism) ศิลปกรรมทเ่ี ปิ ดเผยความฝันและจิตใตส้ านึก ส่ือในการแสดงออก
อาจเป็นเร่ืองของความฝันฝันร้าย เร่ืองเรน้ ลบั เพอ้ ฝัน น่าตน่ื ตระหนก น่าหวาดกลวั แดน
สนธยา เป็นการใชส้ ีและสร้างบรรยากาศทลี่ ึกลบั

10).......... ศลิ ปิ นสรา้ งสรรคศ์ ลิ ปะแสดงออก ไดแ้ ก่ การใชส้ ีราด หยด หยอด ใชแ้ ปรงละเลง ระบายอยา่ งหยาบ
กรา้ นการสาดสี เป็น เป็นศิลปะลทั ธิบาศกนิยม (Cubism)

ชื่อ-สกลุ .....................................................................................ช้นั .....................เลขท่ี..............คะแนน...........

21

กจิ กรรมที่ 3

ชุดฝึกเสริมความรู้ และทกั ษะดา้ นทศั นศลิ ป์ ชุดท่ี 6 ทศั นศลิ ป์ ตะวนั ตก กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ

ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 5 5 ขอ้ 20 คะแนน

คาช้ีแจง ใหด้ ูรูปภาพขอ้ 1- 5 แลว้ เลือกคาตอบ (ก. – จ.) ให้เลือกคาตอบทถี่ ูกตอ้ งใหส้ มั พนั กบั รูปภาพ

คำตอบ 1.
ก.
ข. ผลงานของ มาร์ค ชากาลล์
ค. ผลงานของ ซลั วาดอร์ ดาลี
ง. ผลงานของ พอล โกแกง
จ. ผลงานของ วนิ เซนต์ ฟานโกะ
ผลงานของ พาโบล ปิ คาสโซ

ตอบ..........................................................................

2. 3.

ตอบ.......................................................................... ตอบ..........................................................................

4. 5.

ตอบ.......................................................................... ตอบ..........................................................................
ชื่อ-สกลุ .....................................................................................ช้นั .....................เลขที่..............คะแนน...........

แบบทดสอบหลงั เรียน I

ชุดฝึกเสริมความรู้ และทกั ษะดา้ นทศั นศิลป์ ชุดท่ี 6 ทศั นศลิ ป์ ตะวนั ตก 20 ขอ้
20 คะแนน
กลุ่มสาระการเรียนรู้ศลิ ปะ (ทศั นศลิ ป์ ) ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 5

คำชี้แจง ใหน้ กั เรียนทาเคร่ืองหมาย x ทบั ตวั อกั ษร ก. ข. ค. หรือ ง. หนา้ คาตอบทีเ่ ห็นวา่ ถูกท่ีสุดเพยี งขอ้ เดียว

1) เป็นชาติแรกที่คดิ คน้ สร้างคอนกรีต สถาปัตยกรรม 7) ภาพเขยี นทีถ่ ้า ถ้าอลั ตามิรา (Altamira) ในสเปน เป็น

เนน้ ความใหญโ่ ตมโหฬาร มีความหรูหรา สงา่ งาม ศลิ ปะอยใู่ นสมยั ใด

มนั่ คงแขง็ แรง จิตรกรรมภาพจากสีฝ่นุ ประติมากรรม ก. สมยั ก่อนประวตั ิศาสตร์ ข. สมยั ประวตั ศิ าสตร์

รูปของจกั รพรรดิ หมายถึงชาติใด ค. สมยั กลาง ง. สมยั ใหม่

ก. กรีก ข. อียปิ ต์ 8) ขอ้ ใดไม่เกี่ยวขอ้ งกบั อียปิ ต์ (Egypt)

ค. โรมนั ง. แอสสิเรีย ก. พรี ะมิด, มาสทาบา ข. มมั มี่

2) ศิลปะใด งานสถาปัตยกรรม มีโครงสรา้ งทรงสูง มี ค. วหิ ารโนเตรอ-ดาม ง. สฟิงค์

ยอดหอคอยรูปทรงแหลมอยขู่ า้ งบน หนา้ ตา่ งประดบั 9) ขอ้ ใดคอื ลกั ษณะของกรีก

ดว้ ยกระจกสี (Stain Glass) ก. ฟาโรห์ เป็นสมมุตเิ ทพ

ก. ศลิ ปะบารอก ข. ศิลปะโกธิก ข. ประตมิ ากรรม เหมอื นมมนุษยจ์ ริง เส้ือผา้ อ่อนพล้ิว

ค. ศิลปะรอกโกโก ง. ศิลปะโรมนั ค. ชีวติ หลงั ความตาย วญิ ญาญจะกลบั เขา้ ร่าง

3) การวาดภาพโดยเนน้ หลกั ทศั นวทิ ยา (Perspective) ง. ถูกทุกขอ้

ท่ีถูกตอ้ ง เร่ิมข้ึนในยคุ สมยั ใด (ขอ้ สอบ O-Net 2552) 10) อกั ษรภาพอียปิ ตโ์ บราณ มีช่ือวา่ อะไร

ก. Classic ข. Renaissance ก. อกั ษรคูนิฟอร์ม ข. อกั ษรลิ่ม

ค. Rococo ง. Neo – Classic ค. อกั ษรเบล ง. อกั ษรภาพไฮโรกลิฟ

4) ศิลปะใดเสนอเร่ืองราวทีใ่ หค้ วามรื่นเริง ชวนฝัน อิ่ม 11) วหิ ารพาร์เธนอน Parthenon ในกรุงเอเธนส์ สร้าง

สุข มีปรากใหเ้ ห็นอยใู่ นพระราชวงั แวร์ซายลส์ ข้ึนตามแบบสถาปัตยกรรมใด

ก. ศิลปะบารอกและรอกโกโก ข. ศิลปะโกธิก

ค. ศลิ ปะกรีก ง. ศลิ ปะอิตาลี

5) Mosaic หมายถึงอส่ิงใด

ก. กระจกสี ข. ภาพจากหินสี

ค. ภาพแกะสลกั หิน ง. ภาพสีฝ่นุ

6) มหาวหิ ารเซนตป์ ี เตอร์ ในกรุงโรม มีศลิ ปิ น ก. Doric ข. Ionic
ค. Corinthian ง. Ionic and Corinthian
ผอู้ อกแบบควบคุมงานก่อสรา้ งและลงมือตกแต่ง คือ

ก. ราฟาเอล ข. ไมเคิล แองเจลโล

ค. โจวนั นิ เบอร์นินี ง. ถูกทกุ ขอ้

II

12) ขอ้ ใดเป็นศิลปิ นในลทั ธิประทบั ใจยคุ หลงั (Post - 16) ปิ เอตา้ เป็นผลงานประตมิ ากรรมของใคร
Impressionism) ท้งั หมด (ขอ้ สอบ O – Net 2553)
ก. เลโอนาร์โด ดา วนิ ชี ข. ราฟาเอล
ก. ปอล เซซาน (Paul Cezanne)
มาร์เชอ ดูซอง (Marcel Duchamp) ค. มิเคลนั เจโล ง. โจวนั นิ เบอร์นินี

ข. ปอล โกแกง (Paul Ganguin) 17) ภาพโมนา ลิซา Mona Lisa เป็นผลงานของใคร
ฟิ นเซนต์ ฟานกอ๊ ก (Vencent Van Gogh)
ค. ซาลาเดอร์ ดาลี (Salvador Dali)
มกั ซ์ เอินสต์ (Max Ernst)
ง. ชอร์ช บราก (Georges Broque)
ปาโบล ปิ กสั โซ่ (Pablo Picasso)
13) ขอ้ ความใดท่ีเก่ียวขอ้ งกบั ภาพน้ี

ก. เป็นผลงานรูปแบบนามธรรม ก. เลโอนาร์โด ดา วนิ ชี ข. ราฟาเอล
ข. ศิลปิ นทีส่ ร้างผลงานคือแจก็ สนั พอลลอ็ ก
ค. กลวธิ ีการสร้างงานโดยการสาด สลดั สี ค. มิเคลนั เจโล ง. โจวนั นิ เบอร์นินี
ง. ถูกทุกขอ้
14) ภาพน้ีเป็ นฝีมือของใคร 18) ศูนยก์ ลางของความเจริญกา้ วหนา้ ท่สี าคญั ในเร่ือง

ของศิลปะสมยั ฟ้ื นฟูศลิ ปะและวทิ ยาการ คือขอ้ ใด

ก. ฝรัง่ เศส ข. องั กฤษ

ค. สหรฐั อเมรริกา ง. อิตาลี

19) ศิลปะจนิ ตนิยม ( Romanticism) มุ่งสรา้ งสรรคง์ านท่ี

ใหอ้ ารมณ์ใดแก่ผชู้ ม

ก. ปอล โกแกง ข. อองรี มาตสี ก. เพลืดเพลิน มีควมสุข ข. ตน่ื เตน้ สะเทือนใจ

ค. ปาโบล ปี กสั โซ ง. ฟินเซนต์ ฟาน กอ๊ ก ค. ตลก ขบขนั ง. โศกเศร้า

15) คาวา่ “Surrealism” หมายถึงศลิ ปะลทั ธิใด 20) ภาพโมนา ลิซา Mona Lisa ศิลปิ นใชเ้ ทคนิคใด

ก. เหนือจริง ข. บาศกนิยม ก. สีน้าบนกระดาษ ข. สีน้ามนั บนผา้ ใบ

ค. จนิ ตนิยม ง. สัจนิยม ค. สีอะคริลิกบนผา้ ใบ ง. ภาพพมิ พแ์ กะไม้

III

1. ก 11.ง
2. ค 12.ค
3. ข 13.ก
4. ง 14.ง
5. ก 15.ข
6. ค 16.ข
7. ข 17.ข
8. ข 18.ง
9. ก 19.ค
10.ข 20.ก

IV

เฉลย กจิ กรรมท่ี 1

ชุดฝึกเสริมความรู้ และทกั ษะดา้ นทศั นศิลป์ ชุดที่ 6 ทศั นศลิ ป์ ตะวนั ตก กล่มุ สาระการเรียนรู้ศิลปะ

ช้นั มธั ยมศกึ ษาปี ท่ี 5 5 ขอ้ 20 คะแนน

คาช้ีแจง ใหด้ ูรูปภาพขอ้ 1- 5 แลว้ เลือกคาตอบ (ก. – จ.) ให้เลือกคาตอบทถ่ี ูกตอ้ งใหส้ มั พนั กบั รูปภาพ

คำตอบ 1.

ก. ศิลปะอียปิ ต์

ข. ศิลปะกรีก

ค. ศิลปะโรมนั

ง. ศิลปะฝรัง่ เศส

จ. ศลิ ปะอิตาลี

ตอบ...................ค........ศ..ลิ ..ป...ะ..โ..ร..ม...นั ................................

2. 3.

ตอบ.....................ข........ศ..ลิ...ป..ะ...ก..ร..ีก................................ ตอบ...................จ........ศ..ิล..ป...ะ..อ...ิต..า..ล..ี..............................

4. 5.

ตอบ.....................ก........ศ..ิล...ป..ะ...อ..ีย..ปิ...ต..์........................... ตอบ...................ง........ศ..ิล..ป...ะ..ฝ...ร..่ัง..เ.ศ..ส.............................
ช่ือ-สกลุ .....................................................................................ช้นั .....................เลขท่ี..............คะแนน...........

V

เฉลย กจิ กรรมที่ 2

ชุดฝึกเสริมความรู้ และทกั ษะดา้ นทศั นศิลป์ ชุดท่ี 6 ทศั นศลิ ป์ ตะวนั ตก กลุ่มสาระการเรียนรู้ศลิ ปะ

ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 5 10 ขอ้ 20 คะแนน

คาช้ีแจง จงพจิ รณาวา่ ขอ้ ความท่ีกาหนดให้ ถูก หรือ ผดิ โดยใหท้ าเคร่ืองหมาย  หนา้ ขอ้ ความทถ่ี ูก และทา

เคร่ืองหมาน x หนา้ ขอ้ ความทีผ่ ดิ

1)............ ในช่วง 15,000- 10,000 มาน้นั มนุษยไ์ ดเ้ ขยี นภาพสีและขดู ขีดบนผนงั ถ้าและเพงิ ผา เป็นภาพสตั ว์ การ

ล่าสตั ว์ ภาพเหล่าน้ีมกั ระบายดว้ ยถ่านไม้ และสีทผี่ สมกบั ไขมนั สตั ว์ พบที่ถ้าลาสโกซใ์ นฝร่งั เศส

2)....x........ ถ้าอลั ตามิราในสเปน อยใู่ นยคุ หินใหม่
พบประตมิ ากรรม วนี สั แห่งวเิ ลนดอร์ฟ Venus of Willendorf

3)............ การสรา้ งพรี ะมิด และมสั ตาบา ภายในเก็บศพทที่ าเป็นมมั ม่ีและเกบ็ รักษาทรัพยส์ ินเคร่ืองใชข้ องผตู้ าย

เพราะเชื่อวา่ ผตู้ ายจะสามารถนาไปใชไ้ ดใ้ นโลกหนา้ ทา Mummy เพอ่ื วญิ ญาณกลบั เขา้ ร่างและฟ้ืน

4)....x........ ข้ึนมา
จติ รกรรมอียปิ ตร์ ูปคนมกั คานึงถึงลกั ษณะตามธรรมชาติ วาดไดส้ วยงาม
5)............ วหิ ารพาร์เธนอน Parthenon ในกรุงเอเธนส์ สรา้ งข้นึ ตามแบบสถาปัตยกรรมดอริก

6)....x........ ภาพวาดโมนา ลิซา Mona Lisa ผลงานของไมเคลิ แองเจลโล (Michel Angelo)

7)....x........ เรอนาซอง Renaissance Art หมายถึง การเกิดใหม่ (Rebirth) การฟ้ืนฟขู ้นึ มาอีก สงครามครูเสดนา

ความเปล่ียนแปลงมาสู่ยโุ รปตะวนั ตก ฝร่งั เศส ถือวา่ เป็ นศนู ยก์ ลางของความเจริญกา้ วหนา้ ทส่ี าคญั ใน

เร่ืองของศิลปะสมยั ฟ้ืนฟศู ลิ ปะและวทิ ยาการ

8)............ ศิลปะจนิ ตนิยม ( Romanticism) โรแมนตคิ ศลิ ปะทเี่ นน้ อารมณ์อยเู่ หนือเหตุผล มุ่งสรา้ งสรรคง์ านที่

ตื่นเตน้ เรา้ ใจ ก่อใหเ้ กิดอารมณ์สะเทือนใจแก่ผชู้ ม
9)............ ศลิ ปะลทั ธิเหนือจริง (Surrealism) ศลิ ปกรรมทเ่ี ปิ ดเผยความฝันและจิตใตส้ านึก สื่อในการแสดงออก

อาจเป็นเร่ืองของความฝันฝันรา้ ย เร่ืองเร้นลบั เพอ้ ฝัน น่าต่นื ตระหนก น่าหวาดกลวั แดน

10)...x....... สนธยา เป็นการใชส้ ีและสร้างบรรยากาศทล่ี ึกลบั
ศลิ ปิ นสรา้ งสรรคศ์ ิลปะแสดงออก ไดแ้ ก่ การใชส้ ีราด หยด หยอด ใชแ้ ปรงละเลง ระบายอยา่ งหยาบ

กรา้ นการสาดสี เป็น เป็นศิลปะลทั ธิบาศกนิยม (Cubism)

ชื่อ-สกลุ .....................................................................................ช้นั .....................เลขที่..............คะแนน...........

VI

เฉลย กจิ กรรมท่ี 3

ชุดฝึกเสริมความรู้ และทกั ษะดา้ นทศั นศิลป์ ชุดที่ 6 ทศั นศลิ ป์ ตะวนั ตก กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ

ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 5 5 ขอ้ 20 คะแนน

คาช้ีแจง ใหด้ ูรูปภาพขอ้ 1- 5 แลว้ เลือกคาตอบ (ก. – จ.) ให้เลือกคาตอบทถี่ ูกตอ้ งใหส้ มั พนั กบั รูปภาพ

คำตอบ 1.
ก. ผลงานของ มำร์ค ชำกำลล์
ข. ผลงานของ ซัลวำดอร์ ดำลี ตอบ.......ค........ผ...ล..ง..า..น..ข...อ..ง...พ...อ..ล.....โ.ก...แ..ก..ง.......................
ค. ผลงานของ พอล โกแกง
ง. ผลงานของ วนิ เซนต์ ฟำนโกะ 3.
จ. ผลงานของ พำโบล ปิ คำสโซ

2.

ตอบ.......ง........ผ..ล...ง..า.น...ข...อ..ง...ว..ิน...เ.ซ...น...ต..์ ..ฟ...ำ..น...โ.ก...ะ............. ตอบ...........จ........ผ..ล...ง..า.น...ข...อ..ง...พ...ำ..โ.บ...ล.....ป..ิ.ค..ำ..ส...โ.ซ............

4. 5.

ก. ผลงานของ มำร์ค ชำกำลล์ ตอบ.......ข........ผ...ล..ง..า..น..ข...อ..ง...ซ...ัล..ว...ำ.ด...อ..ร..์ ..ด...ำ.ล...ี ................
ตอบ..........................................................................

ชื่อ-สกุล.....................................................................................ช้นั .....................เลขท่ี..............คะแนน...........

VII

1. ค 11.ก
2. ข 12.ข
3. ข 13.ง
4. ก 14.ค
5. ข 15.ก
6. ง 16.ค
7. ก 17.ก
8. ค 18.ง
9. ข 19.ข
10.ง 20.ข

VIII

บรรณานุกรม

วทิ ูรย์ โสแกว้ . หนังสือเรียน รำยวชิ ำพนื้ ฐำน ทัศนศิลป์ ช้ันมัธยมศึกษำปี ที่ 5 กล่มุ สำระกำรเรียนรู้ศิลปะ
ตำมหลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำข้นั พืน้ ฐำน พธุ ศักรำช 2551. กรุงเทพฯ : วฒั นาพานิช, 2552.

https://th.wikipedia.org/wiki/. (5 กุมภาพนั ธ์ 2559). ศิลปะตะวนั ตก.
www.teacher.ssru.ac.th/chananchida_yu/pluginfile.php/.../. (5 กมุ ภาพนั ธ์ 2559).ประวัติศำสตร์ศิลปะ

ตะวนั ตก.
https://th.wikipedia.org/wiki/. (5 กุมภาพนั ธ์ 2559). ศิลปะอียิปต์ โบรำณ.
www.prc.ac.th/newart/webart/history10. (5 กุมภาพนั ธ์ 2559). ศิลปะอยี ปิ ต์.
https://rawiwan27925blog.wordpress.com/category/. (5 กมุ ภาพนั ธ์ 2559). ศิลปกรรมอียิปต์.
https://th.wikipedia.org/wiki/. (5 กมุ ภาพนั ธ์ 2559). จติ รกรรมอียิปต์.
https://th.wikipedia.org/wiki/. (5 กมุ ภาพนั ธ์ 2559). ศิลปะยคุ กรีก
https://preede.wordpress.com. (5 กุมภาพนั ธ์ 2559). ศิลปะกรีก
https://sites.google.com/site/greekhistory62/silpa-krik. (5 กมุ ภาพนั ธ์ 2559). ย้อนรอยประวัติศำสตร์กรีก
https://th.wikipedia.org/wiki/. (5 กมุ ภำพันธ์ 2559). ศิลปะโรมันโบรำณ.
https://homegame9.wordpress.com/. (5 กมุ ภำพนั ธ์ 2559). ศิลปะยคุ โรมนั .
https://th.wikipedia.org/wiki/. (5 กุมภาพนั ธ์ 2559). ศิลปะสมยั ใหม่.


Click to View FlipBook Version