ธรุ กจิ โรงแรมในไทย
ชฎาณัฐ กสชิ าวดง
พรไพลิน ภ่จู ารญู
รายงานนีเ้ ปน็ ส่วนหนึง่ ของการศึกษาวชิ า การคน้ คว้าและการเขียนรายงานเชงิ วชิ าการ
สาขาการจดั การการโรงแรม คณะศลิ ปะศาสตร์
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลธญั บรุ ี
ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2564
ธุรกิจโรงแรมในไทย
ชฎาณฐั กสชิ าวดง
พรไพลิน ภจู่ ารูญ
รายงานน้เี ปน็ สว่ นหนึ่งของการศึกษาวิชา การคน้ คว้าและการเขียนรายงานเชงิ วชิ าการ
สาขาการจัดการการโรงแรม คณะศลิ ปะศาสตร์
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบรุ ี
ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564
คานา
รายงานฉบับน้ีจัดทาข้ึนเพ่ือปฏิบัติการเขียนรายงานการค้นคว้าท่ีถูกต้องอย่างเป็นระบบ อัน
เป็นสว่ นหนง่ึ ของการศกึ ษารายวิชา 01-210-017 การค้นคว้าและการเขียนรายงานเชิงวิชาการ ซึ่งจะ
นาไปใช้ในการทารายงานค้นคว้าสาหรับรายวิชาอื่น ได้อีกต่อไป การที่ผู้จัดทาเลือกทาเร่ือง “ธุรกิจ
โรงแรมในไทย”เนื่องด้วยในปัจจุบันมีโรงแรมอยู่หลากหลายประเภท ดังน้ัน จึงต้องการท่ีจะศึกษาหา
ขอ้ มูลทีถ่ ูกตอ้ งเพอื่ เรยี นรแู้ ละทาความเข้าใจให้มากข้ึน
รายงานเลม่ นีก้ ล่าวถงึ เนื้อหาเกีย่ วกบั ความหมาย ความสาคัญ ประเภท ลักษณะ ประวัติและ
วิวัฒนาการของธุรกิจโรงแรมในไทย เหมาะสาหรับผู้ที่ต้องการรับรู้และทาความเข้าใจเกี่ยวกับธุรกิจ
โรงแรม
ขอขอบคุณ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พนิดา สมประจบ ท่ีกรุณาให้ความรู้และคาแนะนาโดย
ตลอดและขอขอบคุณบรรณารักษ์และเจ้าหน้าที่ของสานักงานวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ
รวมไปถึงท่านเจ้าของบทความ ที่ผู้เขียนใช้อ้างอิงทุกท่าน หากมีข้อบกพร่องประการใด ผู้เขียนขอ
นอ้ มรับเพื่อนาไปปรบั ปรงุ ต่อไป
ชฎาณัฐ กสชิ าวดง
พรไพลนิ ภูจ่ ารญู
19 ตุลาคม 2564
ข
สารบัญ
หน้า
คานา................................................................................................................................................. ก
สารบญั ภาพประกอบ..........................................................................................................................ง
บทนา................................................................................................................................................ 1
1.1 ความหมายของของธุรกจิ โรงแรม............................................................................................ 2
1.2 ความสาคญั ของธรุ กจิ โรงแรม ................................................................................................. 2
1.3 ประวัติและวิวัฒนาการของธุรกิจโรงแรม ................................................................................ 2
1.4 ลักษณะของธุรกิจโรงแรม ..................................................................................................... 10
ประเภทของโรงแรม ........................................................................................................................ 13
2.1 โรงแรมเพ่ือการพาณชิ ย์........................................................................................................ 13
2.2 โรงแรมสนามบิน .................................................................................................................. 14
2.3 โรงแรมหอ้ งสทู ..................................................................................................................... 15
2.4 โรงแรมเนน้ แขกพักประจา)................................................................................................... 15
2.5 โรงแรมรีสอร์ท...................................................................................................................... 16
2.6 โรงแรมซึ่งจดั ห้องพักและอาหารเช้า ..................................................................................... 17
2.7 โรงแรมคอนโดมเิ นียม........................................................................................................... 18
2.8 โรงแรมบอ่ นการพนัน ........................................................................................................... 18
2.9 ศูนย์ประชมุ .......................................................................................................................... 19
มาตรฐานในการให้ดาวของโรงแรม.................................................................................................. 22
3.1 มาตรฐานโรงแรมระดับ 1 ดาว ............................................................................................. 22
3.2 มาตรฐานโรงแรมระดับ 2 ดาว ............................................................................................. 22
ค
สารบัญ (ต่อ)
บทท่ี หน้า
3.3 มาตรฐานโรงแรมระดบั 3 ดาว ............................................................................................. 22
3.4 มาตรฐานโรงแรมระดบั 4 ดาว ............................................................................................. 22
3.5 มาตรฐานโรงแรมระดับ 5 ดาว ............................................................................................. 22
3.6 มาตรฐานโรงแรมที่สูงกว่า 5 ดาว.......................................................................................... 22
การจดั แบง่ ประเภทของที่พักแรมหรอื โรงแรม.................................................................................. 27
4.1 การแบง่ ตามขนาดโรงแรม (Hotel Size) การแบง่ ตามขนาดของโรงแรม.............................. 27
4.2 การแบง่ ตามระดบั การบริการ............................................................................................... 27
4.3 การแบ่งตามความเป็นเจ้าของและการเป็นสมาชิกในสถาบันโรงแรม .................................... 26
4.4 วธิ กี ารจัดตั้งโรงแรมและการจดั ระเบยี บบริหารโรงแรม......................................................... 27
4.5 โรงแรมทแี่ บง่ ตามทาเลที่ต้ัง.................................................................................................. 28
4.6 โรงแรมทีแ่ บง่ ตามหน้าท่ี ....................................................................................................... 29
4.7 โรงแรมทีแ่ บ่งตามขนาดโรงแรมหรือจานวนห้องพัก.............................................................. 30
4.8 โรงแรมที่แบง่ ตามราคาค่าเช่าหอ้ งพัก ................................................................................... 30
บรรณานกุ รม................................................................................................................................... 31
ง
จ
สารบญั ภาพประกอบ หน้า
ภาพท่ี
ภาพท่ี 1 โรงแรมเพอ่ื การพาณิชย์..................................................................................................... 15
ภาพท่ี 2 โรงแรมสนามบนิ ............................................................................................................... 15
ภาพที่ 3 โรงแรมห้องสทู .................................................................................................................. 15
ภาพที่ 4 โรงแรมเน้นแขกพักประจา................................................................................................. 15
ภาพท่ี 6 โรงแรมรีสอร์ท .................................................................................................................. 17
ภาพท่ี 6 โรงแรมห้องพักแบบมอี าหารเช้า........................................................................................ 17
ภาพท่ี 7 โรงแรมคอนโดมิเนยี ม........................................................................................................ 18
ภาพที่ 8 โรงแรมบ่อนการพนัน ........................................................................................................ 18
ภาพที่ 9 โรงแรมศนู ยป์ ระชุม........................................................................................................... 19
บทท่ี 1
บทนา
โรงแรม หมายถงึ สถานทปี่ ระกอบการเชิงการค้าที่นักธุรกิจตั้งขึ้น เพ่ือบริการผู้เดินทางในเร่ือง
ของที่พักอาศัย อาหาร และบริการอ่ืน ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการพักอาศัยและเดินทาง หรืออาคารท่ีมี
ห้องนอนหลายห้อง ติดต่อเรียงรายกันในอาคารหน่ึงหลังหรือหลายหลัง ซ่ึงมีบริการต่าง ๆ เพื่อความ
สะดวกของผู้ทมี่ าพัก ซงึ่ เรยี กว่า "แขก" (guest) คาว่า hotel หรือ โรงแรมมีที่มาจากภาษาฝรั่งเศสซึ่ง
แปลว่า คฤหาสน์ โรงแรมแห่งแรกในยโุ รปคอื Hotel de Hanri IV (โฮเทล เดอ อองรี กัต) เมื่อปี ค.ศ.
1788 โดยในสมัยก่อนใช้คาว่า hôtel และภายหลังได้เปล่ียนตัวโอมาเป็นโอปกติในภาษาอังกฤษเป็น
hotel เหมอื นปัจจุบนั
เกิดขนึ้ จากสมัยโบราณประมาณชว่ งยุคของอาณาจักร กรีกที่คนเราเริ่มเดินทางระหว่างเมืองไป
มาหาสู่ แตเ่ ดมิ ผเู้ ดนิ ทางจะนอนตามถนนหรือนอนตามบ้านเรือนของประชาชนทั่วไป หรือ ตามโบสถ์
โดยแต่เดิมเป็นการให้ที่พักพิง มีอาหารให้ตามอัตภาพ ไม่มีค่าบริการ จนกระทั่งมีคนหัวใสได้เปลี่ยน
แนวคิดน้ีให้กลายเป็นธุรกิจขึ้นมาโดยเริ่มต้นจาก เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี จนกระทั่งปี ค.ศ.
1282 เม่ือสมาคมโรงแรมในสมัยนั้นถือกาเนิดขึ้น และได้เปลี่ยนแนวคิดจาก ไมตรีจิต มาเป็น ธุรกิจ
และเรม่ิ มีการขายไวน์ อาหารง่าย ๆ มีการใช้ระบบ ลงทะเบียนผู้เข้าพักขึ้น จนธุรกิจนี้แพร่หลายและ
ทากาไร จากน้ันไม่นานธุรกิจน้ีจึงถือ กาเนิดขึ้นและเร่ิมแพร่หลายไปยัง ประเทศเยอรมนี ฝรั่งเศส
จนถงึ สหราชอาณาจกั ร
การโรงแรม มพี ฒั นาการตลอดเวลา จากแต่เดิมท่ีมีห้องพักเพียงอย่างเดียว สาหรับนักเดินทาง
ก็พัฒนาใหม้ ีความหรหู รา สะดวกสบาย มีการบริการท่ีดี โดยเฉพาะในสหราชอาณาจักรฯโรงแรมเป็น
ท่ีของผู้ดี และขุนนาง นักการเมืองเท่านั้น โดยโรงแรมที่มีช่ือเสียงเรื่องความหรูหรามากของสหราช
อาณาจกั ร คอื โรงแรมซาวอย (Savoy Hotel) ปี ค.ศ. 1880
2
1.1 ความหมายของของธุรกิจโรงแรม
ธุรกิจที่พักแรม (Accommodation Business) หมายถึง กิจการที่บริการด้านท่ีพักอาศัยแก่
นักท่องเท่ียว คือ ให้บริการห้องพักและอาหารเครื่องดื่มตามความต้องการของนักท่องเท่ียว โดยคิด
คา่ ตอบแทนเพ่อื ผลกาไรของกิจการ ปจั จุบนั นยิ มใชค้ าวา่ ธุรกิจโรงแรมมากกว่า “ธุรกจิ ทีพ่ ักแรม”
1.2 ความสาคัญของธุรกจิ โรงแรม
โรงแรม เป็นสถานที่พักที่จัดต้ังขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ในทางธุรกิจ เพ่ือให้บริการท่ีพักช่ัวคราว
สาหรับคนเดินทางหรือบุคคลอื่นใดโดยมีค่าตอบแทน ตามพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. 2547 และ
โรงแรม หรือการประกอบกิจการที่คล้ายคลึง เช่น รีสอร์ท บังกะโล เกสต์เฮ้าส์ เป็นต้น เป็นสถาน
ประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพท่ีต้องควบคุมตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ.
2535 เพ่ือควบคุมและป้องกันอันตรายที่อาจเกิดข้ึนแก่ผู้รับบริการและผู้ประกอบกิจการ จากข้อมูลที่
ผ่านมาพบว่า ธุรกิจโรงแรมได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการขยายตัวเพิ่มขึ้นของจานวนนักท่องเที่ยวทั้ง
ชาวไทยและตา่ งชาตสิ ง่ ผลให้จานวนห้องพักของโรงแรมเพิม่ ขึน้ อยา่ งตอ่ เนอ่ื งด้วย ส่งผลให้พบประเด็น
ปญั หาที่สาคัญดา้ นอนามัยสง่ิ แวดล้อมทีต่ อ้ งแกไ้ ขอย่างเร่งด่วน เช่น ปัญหาความสะอาด การควบคุม
คุณภาพอากาศในอาคาร ความสะอาดของแหล่งที่อาจเป็นแหล่งเพาะพันธ์ของเช้ือลีจิโอเนลลา
ตลอดจนการติดเช้ือและการเกิดอุบตั ิเหตุจากการใช้บรกิ ารสระวา่ ยนา้ เปน็ ตน้
1.3 ประวตั แิ ละววิ ฒั นาการของธุรกจิ โรงแรม
1.3.1 ความเป็นมาของธุรกิจทีพ่ กั ในประเทศไทย
ในครัง้ กรงุ สุโขทยั เปน็ ราชธานี กรุงศรอี ยุธยาจนถงึ สมยั กรงุ ธนบรุ ี ประวัติศาสตร์ก็ได้บันทึกไว้
วา่ ประชาชนชาวสยามไดม้ ีการติดต่อการคา้ พาณชิ ย์กับชาวยุโรปและจนี ตลอดจนทางการทตู ,
การเมือง, การทหาร และอนื่ ๆ มาก่อน ซ่งึ การเดนิ ทางการคา้ ขายตา่ ง ๆ เหล่านีไ้ ด้มีการเดนิ ทางจาก
ทห่ี นึง่ ไปสู่ที่อน่ื ๆ อยู่มาก การเดนิ ทางตา่ ง ๆ เหล่าน้ี หากเป็นพอ่ ค้าพาณิชย์ธรรมดา การเดนิ ทางก็จะ
อาศัยท่ีพักกลางทางหรอื วดั วาอารามต่าง ๆ และหากเปน็ นักการทตู หรอื พระเจา้ แผน่ ดินแลว้ ส่วนใหญ่
3
จะพักอาศยั อยู่ตามจวนเจา้ เมือง หรอื บา้ นเศรษฐคี หบดี หรือบา้ นญาติต่าง ๆ ทีค่ นุ้ เคยกัน และการ
เดินทางติดต่อการคา้ ตา่ ง ๆ เหลา่ นี้ ได้มกี ารบนั ทึกไว้มากมาย
1.3.2 สมยั กรงุ ศรีอยธุ ยา
จากจดหมายเหตุลาลแู บร์ ราชทตู ฝรง่ั เศส ได้เขา้ มากรุงศรีอยุธยาราว พ.ศ. 2229 (ค.ศ. 1687)
ไดเ้ ขียนเรื่องราวเก่ียวกับประเทศไทยและไดก้ ลา่ วถึงการรับรองแขกเมืองในหนังสือจดหมายเหตลุ าลู
แบร์ เรือ่ งราวทีเ่ ก่ียวกับอาณาจกั รสยาม ทีม่ ีบ้านพกั สาหรับราชทูตสมเดจ็ กรมพระยาดารงราชานุภาพ
ทรงเรยี บเรยี งเร่ืองการรับทูตต่างประเทศสมัยกรงุ ศรีอยธุ ยา
1.3.3 สมัยรัชกาลที่ 4
การโรงแรมในประเทศไทยได้เริ่มขน้ึ ในสมัยรัชกาลที่ 4 นีเ้ อง โดยเร่ิมขึน้ หลังจากคณะทตู ของ
หม่อมราโชทยั กลับจากเยือนยุโรป ดงั จะเหน็ ได้จากหนังสือภาษาอังกฤษทพี่ ิมพจ์ าหนา่ ยในประเทศ
ไทย ออกเป็นรายปี ชือ่ Bangkok Calendar ของหมอบรดั เลย์ นอกจากนร้ี ัชกาลท่ี 4 ยังโปรดให้
สร้างท่ีพกั ตากอากาศขน้ึ ทีต่ าบลอ่างหิน จ.ชลบรุ ี พร้อมกนั นัน้ ไดส้ ร้างท่าจอดเรือสาหรบั คนข้ึนบกไว้
ด้วย บา้ นพกั ตากอากาศแหง่ นีต้ อ่ มาเป็นบ้านพักคุรสุ ภาและปรบั ปรุงใหเ้ ป็นพิพิธภณั ฑใ์ นปจั จุบนั
จากหลักฐานหนังสือบางกอกคาแลนดาร์ (Bangkok Calendar) ของหมอบรัดเลย์ (D.B.
Bradley) ซ่งึ พิมพ์จาหน่ายในประเทศไทยออกเปน็ รายปี พบว่าในปี
พ.ศ. 2407 (ค.ศ.1864) มีประกาศแจง้ ความ 3 โรงแรม คือ
1. Union Hotel
2. Oriental Hotel
3. Fisher’s Hotel
พ.ศ. 2408 (ค.ศ. 1865) 2 โรงแรม คือ
1. Union Hotel
4
2. Oriental Hotel
พ.ศ. 2409 (ค.ศ. 1866) แจ้งความเหลือเพียงโรงแรมเดียว คือ Union Hotel เพราะเกิดเพลิง
ไหม้
พ.ศ. 2410 (ค.ศ. 1867) มลี งแจ้งความไว้ 2 โรงแรม คือ Union Hotel และ Falck’s Hotel
พ.ศ. 2411 (ค.ศ. 1868) มีโรงแรมลงแจ้งความโรงแรมเดียว คอื Union Hotel
นอกจากโรงแรมในกรุงเทพฯแล้ว พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเห็นว่าที่ตาบล
อ่างหิน แขวงเมืองชลบุรี เพราะท่ีอากาศดีการทาเป็นสถานที่ตากอากาศให้พวกฝร่ังไปพักผ่อนได้
ลกั ษณะของโรงแรมเป็นอาคาร 2 ช้ัน จานวน 2 อาคาร ต่อมาได้ชื่อว่า ตาหนักมหาราชาและตาหนัก
มหาราชนิ ี มเี ตียงนอนไว้บริการรวม 44 เตียง เพื่อให้บริการแก่ชาวต่างประเทศท่ีเดินทางพักผ่อนตาก
อากาศ
1.3.4 สมยั รชั กาลที่ 5
พระองค์ทรงปรับปรุงประเทศ ด้วยการนาความเจริญทางด้านเทคโนโลยีจากยุโรปเข้ามาใน
ประเทศ มีชาวต่างประเทศเดินทางมาติดต่อค้าขายและติดต่อราชการงานเมืองมากข้ึน ความต้องการ
ทีพ่ ักมีเพ่มิ ขนึ้
บางโรงแรมนอกจากมีบรกิ ารห้องพักและอาหารแลว้ ยังมบี ิลเลียดและโบวล์ ิง่ บริการใหแ้ ก่
ลกู ค้าผมู้ าพกั ดว้ ย พ.ศ. 2419 (Oriental Hotel ค.ศ. 1867) นกั เดนิ ทางเรือชาวเดนมาร์ค 2 คน คือ
จารค์ (H.Jarck) และ ซาลจ์ (C. Salje) ได้สร้างโรงแรมโอเรียลเต็ลขนึ้ ท่ีแขวงสี่พระยา เดิมเป็นอาคาร
ไมช้ ั้นเดยี ว สรา้ งขนานไปกับริมฝ่งั แม่น้าเจา้ พระยา มีจานวนหอ้ งพักไม่มากนกั จัดเป็นโรงแรมท่ี
ทนั สมัยที่สุดในยคุ ในสมยั นั้น เป็นโรงแรมแห่งแรกในประเทศไทยท่ีมีไฟฟา้ ใช้ โรงแรมแห่งนีไ้ ด้ดาเนนิ
กจิ การมาจนถึงปัจจบุ ัน มีการเปลยี่ นเจ้าของและผดู้ าเนินกิจการหลายคน ปี พ.ศ. 2483 ระหว่าง
สงครามโลกครงั้ ท่ี 2 กองทัพญี่ปนุ่ ไดเ้ ข้ายึดเป็นกองบัญชาการของทหาร เม่ือสงครามเลิกในปี พ.ศ.
2486 ก็ถูกใช้เปน็ กองบญั ชาการของกองทัพสหประชาชาติ นบั วา่ เป็นระยะท่โี รงแรมทรดุ โทรม ในปี
พ.ศ. 2520 ไดส้ ร้างอาคารให้ญ่เพ่ิมอีก 2 หลงั มีหอ้ งพกั จานวน 406 หอ้ ง ประกอบด้วยห้องชดุ ท่ี
หรหู รา จานวน 21 ห้อง มีพร้อมทั้งห้องรับแขกและห้องอาหาร มที ่ีจอดรถกว้างขวางสามารถจอดรถ
5
ได้ 350 คัน นอกจากนี้บริเวณโรงแรมจัดให้มสี ระว่ายนา้ สนามเทนนิสไว้บรกิ ารแกล่ ูกค้า เปน็ โรงแรม
ทม่ี ีบุคคลสาคัญและนักธรุ กิจต่างประเทศมาพักมากมาย โรงแรมโอเรียลเตล็ จงึ ไดร้ บั การยกย่องเปน็
โรงแรมชัน้ เย่ยี ม อนั ดับ 1 ของโลกในปี พ.ศ. 2524
1.3.5 สมยั รชั กาลท่ี6–สมยั รัชกาลที่ 8
โรงแรมโอเรยี ลเต็ล
พ.ศ. 2454 กอ่ นและระหวา่ งพระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษก พระบาทสมเดจ็ พระมงกุฎเกล้า
เจ้าอยู่หวั รชั กาลที่ 6 Mr. C. Paberge ชา่ งทองและเคร่ืองเพชรแหง่ ราชสานักพระเจ้าชาร์มาร่วมงาน
Coronation แล้วยงั นาเคร่อื งเพชร เครื่องประดบั มาแสดงท่โี รงแรมโอเรยี ลเตล็
พ.ศ. 2455 งานสถาปนาสมาคมฝรัง่ เศสที่โอเรียลเตล็
พ.ศ. 2459 การแสดง Ballet ครง้ั แรกในเมืองไทย โดยยอดระบาบลั เลต่ ์ Nijinsky ที่ Concert
Hall โรงแรมโอเรยี ลเต็ล
พ.ศ. 2460 เมือ่ วันที่ 22 กรกฎาคม สยามประกาศสงครามกับเยอรมันนีจานวนนักท่องเที่ยว
ที่มาพักมิไดล้ ดลงเลย
พ.ศ. 2467 Maria Maire ได้จัดตง้ั บรษิ ทั Oriental Hotel Co., Ltd. ขึน้
พ.ศ. 2474 มีนกั ท่องเท่ยี วกลุ่มแรกที่มาโดยเคร่ืองบินลงทดี่ อนเมือง นับเป็นลูกค้ารายแรกของ
โอเรียลเตล็ ทมี่ าทางอากาศ
พ.ศ. 2485 กองทัพญ่ปี นุ่ เขา้ ยึดครองโอเรยี ลเตล็
พ.ศ. 2488 เดอื นสิงหาคม ทหารญปี่ ่นุ ถอนตัวไป ทหารดชั ท์จกั รภพองั กฤษและออสเตรเลยี เขา้
ยึดครองโอเรยี ลเต็ล
พ.ศ. 2489 หน่วยทหารอากาศสหรัฐ เข้ายึดครอง โรงแรมโอเรียลเต็ล (สมัยรัชกาลปัจจุบัน)
เม่ือทหารสหรัฐกลับไปแล้ว Mrs. Germaine Krull และ Col. Jim Thompson (พันเอกจิม ทอมป์
สัน ผ้ซู ่งึ ตอ่ มา คือ “ราชาไหมไทย”)
6
พ.ศ. 2501 เปิดอาคาร Tower Wing เม่ือ 1 เมษายน น้ี 10 ช้ัน 48 ห้องพัก (ตึกเดิมมี
ประมาณ 40 ห้อง รวมเป็นห้องพักท้ังหมด 80 กว่าห้อง ) ช้ันบนสุดเป็นห้องอาหาร “Normandie
Grill”
พ.ศ. 2510 บรษิ ทั สยามโฮเต็ล ซนิ ดิเคท (Siam Hotel Syndicate Co., Ltd.) ในเครือบริษัทอิ
ตัลไทยได้ซื้อกิจการ ต่อมาได้ร่วมทุนกับบริษัทฮ่องกงแลนด์ในฮ่องกงให้ Mandarin International
Hotels บรหิ าร
พ.ศ. 2520 สร้างอาคาร River Wing บนที่ดินของทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์และที่ดิน ซึ่ง
ซื้อมาจาก Chartered Bank เป็นอาคาร 16 ช้ัน อาคารจอดรถ 5 ช้ัน จอดได้ 350 คัน ใช้
งบประมาณ 300 ล้านบาท
ปจั จบุ ันโรงแรมโอเรียลเต็ล ประกอบดว้ ยอาคารใหญ่ 3 หลัง คือ
1. Author Wing
2. Tower Wing
3. River Wing
โรงแรมโอเรียลเต็ล มีห้องพักรวมทั้งส้ิน 406 ห้อง แบ่งเป็นห้องชุด (Suite) 22 ห้อง ห้องให้ญ่
ที่สุด คือ “Oriental Suite” ตกแต่งหรูหรามาตรฐานโลก ประกอบด้วยห้องนอนให้ญ่ พร้อมเตียงคู่
ห้องนอนสารองอีก 1 ห้อง ห้องรับแขก ห้องรับประทานอาหารขนาด 12 คน พร้อมทั้งบาร์ ห้อง
เตรียมอาหาร (pantry) อุปกรณ์เครอ่ื งใชต้ ่าง ๆ และมีห้องน้า 5 ห้อง นอกจากนี้ยังมี ห้องคอฟฟี่ชอฟ
ห้องอาหารต่าง ๆ หอ้ งจดั เล้ียง ศูนยก์ ารคา้ และอืน่ ๆ โรงแรมยังมีเรอื นาเที่ยว 2 ลา คือ
1. Oriental Queen
2. Orchid Queen
พ.ศ. 2524 โรงแรมโอเรียลเต็ลได้คะแนนสูงสุดในการคัดเลือก โรงแรมท่ีดีท่ีสุดในโลก (The
Best Hotel in the world)
7
1.3.6 สมัยรชั กาลท่ี 6 (พ.ศ.2453-พ.ศ. 2468)
โรงแรมในสมัยนเี้ กิดข้นึ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้เดินทางท้ังชาวไทย ชาวต่างประเทศ
ทาใหม้ โี รงแรมเกดิ ข้นึ หลายแห่งทั้งภาคเอกชนและภาครัฐบาลท่สี รา้ งขน้ึ คร้ังแรก ได้แก่ โรงแรมหัวหิน
(พ.ศ. 2465)
สมเดจ็ พระเจา้ น้องยาเธอกรมขนุ กาแพงเพชรอคั รโยธิน เป็นผู้บัญชาการกรมรถไฟแผ่นดิน เมื่อ
พ.ศ. 2460 ทรงขอแบ่งซื้อทีด่ ินจากกรมพระนเรศวรฤทธ์ิ มาเป็นของกรมรถไฟ จัดสร้างบังกะโลเรือน
ไมร้ มิ ทะเลขนึ้ ทช่ี ายหาดหัวหนิ จงั หวดั ประจวบครี ีขนั ธใ์ ห้บคุ คลท่ัวไปได้เช่าพกั
ตอ่ มาในปี พ.ศ. 2464 ทรงบัญชาให้กรมรถไฟสร้างโฮเต็ลตึกแบบยุโรปข้ึน 1 หลัง ย้ายบังกาโล
เดิมไปปลกู ทใ่ี ห้ม่ สรา้ งเสร็จเม่อื พ.ศ. 2465 เรียกว่า โรงแรมหัวหิน ซ่ึงเป็นโรงแรมชายทะเลแห่งแรก
ของไทย ใช้งบประมาณท้ังสิ้น 128,634.94 บาท มีเตียง 28 เตียง ภายในบริเวณโรงแรมมีสนาม
กอลฟ์ และสนามเทนนสิ ไวบ้ รกิ ารแก่นกั ทอ่ งเท่ยี วทีม่ าพกั อีกดว้ ย
โรงแรมรอยลั (พ.ศ. 2454)
เป็นโรงแรมที่เกิดข้ึนให้ม่ บริเวณถนนสาธรเหนือ เป็นตึก 3 ชั้น บันไดหินอ่อนมีระเบียง
Balconies ตกแต่งภายในด้วยไม้แกะสลัก มีสนามและสวนหย่อมรอบ ๆ ตัวตึกทุกห้องมีพัดลม กร่ิง
และแสงสว่างจากไฟฟ้า ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
พระราชทาน ช่อื วา่ “Royal hotel” ปจั จุบนั คอื สถานทตู รสั เซีย
1.3.7 สมยั รชั กาลที่ 7 (พ.ศ. 2468- พ.ศ. 2477)
โฮเตล็ วงั พญาไท (พ.ศ. 2469) หรอื โรงแรมวงั พญาไท
โฮเต็ลวังพญาไท เกิดขึ้นจากการท่ีกรมพระกาแพงเพชรอัครโยธนิ ทรงขอพระราชทานพระบรม
ราชานุญาตจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 สร้างโรงแรมที่หัวลาโพง เม่ือ พ.ศ. 2469
แต่ไม่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ และมีพระราชประสงค์จะให้เปลี่ยนแปลงแก้ไขวังพญาไทเป็น
โรงแรม เพราะมีบริเวณกว้างขวาง และต้องส้ินเปลืองเงินในการบารุงรักษามาเป็นจานวนมาก พร้อม
กนั น้ไี ด้เปล่ียนช่ือจากวังพญาไท เป็นโรงแรมวังพญาไท เพื่อให้ชาวต่างประเทศพักแรมภายในบริเวณ
โรงแรมมีความงดงาม หรูหรา จากการตกแต่งด้วยศิลปะที่วิจิตรการตา เพราะเป็นพระราชวังมาก่อน
8
โดยเฉพาะ “ห้องจกั รี” ซ่งึ เคยเปน็ ห้องบรรทม ราคาคืนละ 120 บาท โรงแรมวังพญาไท ได้รับการยก
ย่องว่า เป็นโรงแรมเดอลุกซ์แห่งแรกของเมืองไทย และเป็นโรงแรมที่ทันสมัย และยอดเย่ียมท่ีสุดของ
เอเชยี ในสมยั นน้ั ตัวโรงแรมประกอบดว้ ยหอ้ งรบั รองห้องอาหาร ไนต์คลับ บาร์ ห้องนั่งเล่น ห้องเขียน
หนังสือ ท่ีจอดรถ หอ้ งเต้นรา (Ballroom) ห้องพักมีประมาณ 60 ห้อง แบ่งเป็นห้องธรรมดาและห้อง
Deluxe ไวบ้ รกิ ารแกล่ ูกค้าของโรงแรม สว่ นบรเิ วณรอบ ๆ โรงแรมเปน็ บึงดอกบัวนานาชนิด และสวน
ไม้ดอก ไม้ประดับ ที่จดั แบบสวนญี่ปุ่น มนี า้ ตก นา้ พุ สวยงามมาก
ปัจจุบันโรงแรมวังพญาไท เป็นสถานที่ต้ังโรงพยาบาลพระมงกุฎ ตามคาส่ังคณะปฏิวัติในสมัย
รชั กาลที่ 7
โรงแรมทรอคาเดโร (พ.ศ. 2470)
เดิมมีลักษณะเป็นบังกาโล เจ้าของท่ีดิน คือ พระยาประภากรวงศ์ (ว่อง บุนนาค) เป็นโรงแรม
ของเอกชน สร้างปี พ.ศ. 2470 โดยกเู้ งนิ จาก National Provincial Bank ประเทศอังกฤษ โดยมี คุณ
ฉวี บุนนาค บุตรสาวซ่ึงเป็นนักเรียนอังกฤษเป็นผู้จัดการคนแรกและควบคุมการก่อสร้างโรงแรม ที่
บริเวณถนนสุรวงศ์มีจานวน 2 อาคาร เป็นอาคาร 4 ชั้น 3 ช้ัน แบ่งเป็นห้องพัก จานวน 45 ห้อง
ส่วนล่างประกอบด้วย ห้องอาหาร บาร์ ห้องครัว และห้องสาหรับต้อนรับลูกค้าและเป็นโรงแรมแห่ง
แรกในประเทศไทยมีเครื่องปรับอากาศ และลิฟต์ใช้ จัดเป็นโรงแรมท่ีมีความหรูหราและทันสมัยมาก
แห่งหน่ึง ปัจจุบันคอื โรงแรมนิวทรอคาเดโร
โรงแรมราชธานี (พ.ศ. 2470)
รัชกาลที่ 6 โปรดเกล้าฯ ให้กรมพระกาแพงเพชรอัครโยธิน สร้างโรงแรมปลายทาง (Rest
House) ท่ีสถานีหัวลาโพง เพ่ือเป็นท่ีพักของประชาชนที่เดินทางมาโดยรถไฟ มีห้องพัก 14 ห้อง มี
ห้องเต้นรา ห้องอาหาร บาร์ ห้องครัว ต่อมาประสบอุปสรรค และปัญหามากมายต้องเลิกกิจการในปี
พ.ศ. 2511 ปจั จุบนั เป็นกองคลังพสั ดุรถเสบียงการรถไฟแหง่ ประเทศไทย
1.3.8 สมยั รัชกาลท่ี 8 (พ.ศ. 2477-พ.ศ. 2489)
สานักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ได้สร้างอาคารสองข้างถนนราชดาเนินกลาง คือ
โรงแรมรัตนโกสินทร์และโรงแรมสุริยานนท์ เม่ือ พ.ศ. 2485 เพื่อรองรับแขกเมืองโดยให้บริการท่ีดี
9
เย่ียม จนมีชื่อเสียงประกอบกับทาเลท่ีต้ังในแหล่งชุมชน ต่อมามีโรงแรมเกิดขึ้นมากมายและมีการ
แขง่ ขันกนั มากขึ้น ทาใหโ้ รงแรมทัง้ สองลดความสาคัญลงเพราะทาเลท่ตี ง้ั แออัด จอแจ ความสะดวกใน
การเดนิ ทางและหาทจี่ อดรถ
ต่อมาสานักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ให้เอกชนดาเนินการต่อโดยเปล่ียนชื่อโรงแรม
รัตนโกสินทร์เป็นโรงแรมรอยัล (Royal Hotel) และโรงแรมสุริยานนท์เป็นโรงแรมมาเจสติก
(Majestic Hotel)
โรงแรมรัตนโกสินทร์และโรงแรมสุริยานนท์แล้ว ยังมีโรงแรมในเครืออีก คือ โรงแรมบางแสน
ต้งั อยทู่ บี่ างแสน จังหวัดชลบุรี เป็นโรงแรมตากอากาศ ปัจจุบันอยู่ในความดูแลของการท่องเที่ยวแห่ง
ประเทศไทย
1.3.9 สมยั รชั กาลท่ี 9 (พ.ศ. 2489)
พ.ศ. 2522 ได้ประกาศใช้พระราชบัญญัติการท่องเท่ียวแห่งประเทศไทย การขยายตัวทาง
เศรษฐกิจส่วนรวม การลงทุนภาคเอกชนในกิจการโรงแรมได้เพิ่มมากขึ้น จะกล่าวเฉพาะโรงแรมที่
สาคญั เป็นตัวอยา่ ง และต้นแบบโรงแรมเดอลกุ ์ ไดแ้ ก่
โรงแรมเอราวัณ (Erawan Hotel)
สมัยก่อนโรงแรมใหญ่ ๆ พอท่ีจะรับรองแขกบ้านแขกเมืองในกรุงเทพฯ ยังไม่มีนักท่องเท่ียวที่
แวะมากรุงเทพฯ ก็เกิดปัญหาในการหาท่ีพัก บริษัทสายการบินต่าง ๆจึงประชุมหารือกันในการจะมา
ลงทุนตงั้ โรงแรมขนาดใหญ่ขนึ้ ในกรงุ เทพฯ โดยมี พลโทประยูร ภมรมนตรี เป็นผู้นาเอาโครงการสร้าง
โรงแรมขนาดใหญ่ หารือคณะรัฐมนตรีสมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม และได้อนุมัติให้จัดต้ังเป็นรูป
บรษิ ทั จากัด เรยี กวา่ “บรษิ ัท สหโรงแรมกรุงเทพฯ จากัด” เดิมมีโครงการก่อสร้างโรงแรมบริเวณสวน
ลุมพินี แต่ถูกยับยั้งเพราะเป็นสถานที่ท่ีรัชกาลท่ี 6 ทรงประทานให้เป็นที่สาธารณะแก่ประชาชนได้
พกั ผ่อน จึงเปลี่ยนโครงการมาซือ้ ท่ีดินท่ีมมุ สแี่ ยกราชประสงค์ บนพ้ืนที่ 9 ไร่ 3 งาน 98 ตารางวา เริ่ม
ดาเนินการกอ่ สร้างในปี พ.ศ. 2494 ระหว่างการก่อสร้างมีอุปสรรคมากมาย และได้สร้างเสร็จปี พ.ศ.
2498 การก่อสร้างยังไม่เสร็จจึงได้สร้างเทวสถานท่านท้าวมหาพรหมขึ้น ในบริเวณโรงแรม ในที่สุด
การก่อสรา้ งโรงแรมก็สร้างเสร็จในปี พ.ศ. 2499
10
โรงแรมรามา (Rama Hotel)
ทาพิธีเปิด เม่ือวันท่ี 9 มกราคม พ.ศ. 2504 โดยสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีเป็น
อาคารสูง 10 ชั้น มีห้องพักท้ังสิ้น 172 ห้อง บนเนื้อที่ 4 ไร่ มุมถนนสีลมตัดกับถนนสุรศุกดิ์ เจ้าของ
คอื คณุ สนุ ีรัตน์ เตลาน ได้นาส่งิ ใหม้ ่ ๆ มาสวู่ งการโรงแรมในกรุงเทพฯ เชน่
- ประตูบานเล่อื นไฟฟ้าอัตโนมตั ทิ ่ที างเขา้
- สระว่ายนา้ สรา้ งไว้บนระเบียง ชัน้ 2 มีสวนหยอ่ มลอ้ มรอบ
- หอ้ งจดั เลีย้ ง Penthouse บนช้ัน 10 สามารถเหน็ วิวทิวทศั นข์ องกรุงเทพฯ โดยรอบ
- เป็นโรงแรมแห่งแรกของเมืองไทยท่ีเข้าเครือข่าย Chain Hotels บริหารโดยบรรษัทกลุ่มธุรกิจ
โรงแรมนานาชาติ
1.4 ลกั ษณะของธุรกจิ โรงแรม
เนื่องจากธุรกิจที่พักแรม เป็นธุรกิจที่เน้น ขายบริการจึงมีลักษณะงานที่แตกต่างจากธุรกิจอ่ืน
ซ่ึงวัดได้จ้ากระดับความพึงพอใจจากลูกค้าแต่ละคน ซึ่งความรู้สึกดังกล่าว เป็นสิ่งที่ไม่มีตัวตน ไม่
สามารถมองเห็นได้จึงแยกอธิบายถึงลักษณะของงานในโรงแรมเป็นข้อๆ เพื่อให้เกิดความเข้าใจได้ดี
ย่ิงขนึ้ ดังนี้
1.4.1 โรงแรมเป็นสถานท่ีให้บริการ ณ ส่ิงปลูกสร้างที่ไม่สามารถเคล่ือนไหวได้หากลูกค้า
ต้องการมาใช้บริการก็จะต้องเดินทางมายัง สถานที่ท่ีโรงแรมตั้งอยู่ เช่นการให้บริการห้องพักอาหาร
และเคร่ืองด่ืมและบริการอื่นๆ เน่ืองจากโรงแรมไม่สามารถเคลื่อนย้ายการบริการไปยังสถานที่ต่างๆ
ตามความตอ้ งการของลูกค้าได้(ยกเว้นการบริการบางอย่าง เชน่ การรบั จัดเล้ียงนอกสถานท่ี)
1.4.2 โรงแรมเป็นธุรกิจที่ไม่สามารถเก็บการบริการต่างๆ เอาไว้ได้เน่ืองจากเง่ือนไขของเวลาก็
จะเกิดความเสียหายต่อทางโรงแรม ดังน้ัน หากไม่สามารถขายการให้การบริการบางอย่างภายใน
ระยะเวลาทกี่ าหนดตวั อย่าง เช่น หากขายห้องพักไดไ้ ม่หมดทาให้จานวนห้องพักยงั ว่างทีย่ ังขายไม่ได้
11
ในวัน น้ันก็เกิดความสูญเปล่าทางรายได้ต่างจากสินค้าอื่น ท่ียังสามารถเก็บไว้ขายในวันต่อไปๆไปได้
และสิง่ นอ้ี าจเปน็ เหตผุ ลหน่ึงท่ีทาให้โรงแรมประสบปญั หาจากการขาดทนุ ได้
1.4.3 บุคลากรผู้ให้บริการถือว่ามีความสาคัญและจาเป็นต่อธุรกิจโรงแรมอย่างมากเน่ืองจาก
โรงแรมเป็นงานบริการท่ีเน้นความพึงพอใจของลูกค้าเป็นสาคัญ และความพึงพอใจน้ีจะต้องอาศัย
ทักษะและความชานาญจากการให้บริการจากบุคลากรเป็นหลัก ดังน้ัน บุคลากรจึงถือเป็นทรัพยากร
สาคญั ท่ีทาใหธ้ รุ กจิ โรงแรมประสบความสาเรจ็
1.4.4 ลักษณะการให้บริการของโรงแรมเป็นการให้บริการลูกค้ารายบุคคล จึงถือเป็นการ
ให้บริการแบบเฉพาะตัวดังน้ันระดับความพึงพอใจที่ลูกค้าแต่ละคนได้รับจากการบริการก็อาจจะมี
ความแตกต่างกันออกไปถึงแม้ว่าจะได้รับการบริการท่ีเทียบเท่ากับลูกค้าลูกค้าบางคนอาจรู้สึกพึง
พอใจแลว้ ในขณะที่ลูกค้าบางคนอาจร้สู กึ ไม่พงึ พอใจจากการรับบรกิ ารดังกล่าว ท้ังน้ีเนื่องมาจากลูกค้า
แต่ละคนนั้นมีความต้องการและความหวงท่ตี ่างกนั
1.4.5 โรงแรมเปน็ ธุรกจิ บรกิ ารสาหรับสาธารณะชนทว่ั ไป ทุกคนจึงมีสิทธิ์และสามารถสิทธ์ิเข้า
ใชบ้ ริการตา่ งๆ ของโรงแรมได้โดยการจ่ายคา่ บริการเปน็ การตอบแทน
1.4.6 โรงแรมเปน็ ธุรกิจท่ีต้องอาศัยธุรกิจอ่ืนๆ เพ่ือการให้บริการแก่ลูกค้าอย่างครบครัน ได้แก่
ธรุ กิจท่องเทีย่ ว สถานบันเทงิ ธรุ กจิ การขนส่ง ธรุ กจิ อาหารและเครอื่ งดืม่
1.4.7 โรงแรมเป็นสถานท่ีท่ีให้บริการแก่ลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง และไม่มีวัน หยุด แผนกที่ทา
หน้าท่ีให้บริการลูกค้าโดยตรงจะมีพนักงานคอยให้บริการตลอด 24 ช่ัวโมงโดยการผลัดเปล่ียนรอบ
การทางานเป็น 3รอบในแตล่ ะวนั ไดแ้ ก่ รอบเชา้ รอบบ่ายและรอบดึก
1.4.8 ธุรกิจโรงแรมเป็นงานท่ีเน้นความพึงพอใจของลูกค้าเป็นสาคัญท้ังน้ีหัวใจสาคัญอยู่ที่การ
บริการลูกค้าให้ดีท่ีสุดโดยเปรียบเสมือนว่า “ลูกค้าคือพระราชา” ( Customer is the king) และ
ลูกค้า (Customer is Always Right)” เพือ่ สร้างความพึงพอใจพอใจสูงสุดแก่ลูกค้าและให้ กลับมาใช้
บรกิ ารกบั ทางโรงแรมอยา่ งต่อเน่อื งซ่งึ กจ็ ะสง่ ผลใหธ้ ุรกิจมผี ลการประกอบการท่ีดแี ละอยรู่ อดได้
1.4.9 ธุรกิจโรงแรมต้องใช้เงินทุนสูงเน่ืองจากปัจจุบันที่ดินมีราคาแพงโดยเฉพาะอย่างยิ่งใน
บริเวณทาเลดีอีกท้ังยังต้องคัดเลือกและสรรหาการบริการท่ีดีไวค้อยบริการแก่ลูกค้า ดังนั้นบริการ
12
ดังกล่าวจึงต้องมีคุณภาพ มีความทันสมัยเพื่อสร้างความประทับใจและความพึงพอใจให้กับลูกค้า
นัน่ เอง
1.4.10 ธุรกิจโรงแรมเปน็ ธรุ กจิ ที่คานึงถงึ ความปลอดภัยของลูกคา้ เป็นสาคัญโดยทางโรงแรมจะ
จัดให้มีพนักงานรักษาความปลอดภัยทาหน้าท่ีดูแลด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้แก่
ลูกคา้ ที่มาใช้บรกิ ารตลอด 24 ชั่วโมงเพอื่ สรา้ งความมน่ั ใจใหก้ บั ลกู ค้า
บทท่ี 2
ประเภทของโรงแรม
2.1 โรงแรมเพื่อการพาณชิ ย์ (Commercial Hotels)
ภาพที่ 1 โรงแรมเพือ่ การพาณิชย์ (โรงแรมมีก่ปี ระเภท, 2561 : ออนไลน์)
โรงแรมประเภทน้ีโดยสว่ นใหญจ่ ะต้งั อยใู่ นย่านใจกลางเมอื งที่รายลอ้ มไปดว้ ยองค์กรทางธุรกิจ
โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อให้แขกเข้ามาพักช่ัวคราวในการติดต่อธุรกิจ โดยนอกจากห้องพักแล้วส่วน
ใหญ่จะมหี อ้ งประชุม ห้องจดั เลยี้ ง ร้านอาหารเพอื่ ตอบสนองความต้องการของลูกค้าท่ีเป็นนักธุรกิจใช้
ในการประชมุ และพดู คุยงาน ทง้ั อย่างเป็นทางการและไม่เป็นทางการ โรงแรมประเภทนี้ส่วนใหญ่จะมี
บริการศูนย์ธรุ กิจ (Business Center) ทใี่ หบ้ รกิ ารรบั สง่ จดหมาย อีเมล มเี คร่ืองคอมพวิ เตอร์ ไวไฟ ให้
ใช้ รวมถึงมีส่งิ อานวยความสะดวกเพื่อการพกั ผ่อน เช่น สระว่ายนา้ สนามเทนนสิ ฟติ เนส
วธิ ีการหาลกู ค้าของโรงแรมประเภทน้ี นอกจากวิธีการท่ีโรงแรมทั่วไปใช้แล้ว การใช้พนักงาน
ขายเข้าไปตดิ ตอ่ กบั องคก์ รธรุ กจิ ท่ีอยู่บริเวณใกล้เคียงกบั โรงแรมเพื่อทาสญั ญาให้องค์กร
ธุรกิจส่งลูกค้าท่ีเป็นพนักงานของบริษัทหรือคู่ค้าเข้ามาใช้บริการโดยมีการตกลงอัตราค่าใช้
บริการไว้ล่วงหน้า รวมถึงการให้เครดิตกับองค์กรลูกค้า เป็นหน่ึงในกลยุทธ์ทางการตลาดท่ี
ผปู้ ระกอบการนยิ มใช้
14
2.2 โรงแรมสนามบิน (Airport Hotels)
ภาพที่ 2 โรงแรมสนามบนิ (โรงแรมมีกี่ประเภท, 2561 : ออนไลน)์
เป็นโรงแรมที่มุ่งกลุ่มลูกค้าที่ใช้บริการสนามบิน โรงแรมประเภทน้ีมักตั้งอยู่ในพื้นที่สนามบิน
หรือบริเวณโดยรอบสนามบินท่ีสามารถเดินทางเข้าออกสนามบินได้สะดวก โดยกลุ่มลูกค้าหลักของ
โรงแรมประเภทนี้ ไดแ้ ก่ ผโู้ ดยสาร พนักงานสายการบิน และผู้ท่ีทางานเก่ียวข้องกับสนามบิน รวมถึง
บริษัททัวร์ โรงแรมในลักษณะน้ีส่วนใหญ่จะมีการให้บริการเข้าพักในช่วงเวลาท่ีสั้นกว่าปกติเรียกว่า
day use เช่น การคิดค่าบริการสาหรับการใช้ 2-3 ช่ัวโมงเข้ามาเสริมด้วย โดยบริการดังกล่าว
ตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ต้องการพักผ่อนระหว่างรอเปล่ียนเคร่ือง หรือนักท่องเท่ียวที่
เดินทางในระยะเวลาหลายชั่วโมง เมื่อลงจากเคร่ืองแล้วต้องการอาบน้าเปลี่ยนเส้ือผ้าก่อนออกไป
ท่องเท่ียวต่อ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาสนามบินหลายแห่งรวมทั้งสนามบินดอนเมืองเริ่มเห็นโอกาสจาก
ความต้องการของลูกคา้ กลุ่มน้ี เปดิ ใหบ้ รกิ ารโรงแรมทม่ี ีหอ้ งพักขนาดเล็กในสนามบินเพ่ือรองรับลูกค้า
ซึ่งกลายเป็นคู่แข่งท่ีสาคัญของโรงแรมประเภทดังกล่าวท่ีอยู่รอบสนามบิน ส่วนโรงแรมท่ีอยู่ด้านนอก
สนามบินก็พยายามแข่งขันด้วยขนาดห้องที่ใหญ่ขึ้น สิ่งอานวยความสะดวกที่มากขึ้น เฉพาะอย่างยิ่ง
การใหบ้ รกิ ารทจ่ี อดรถสาหรับแขกที่เข้ามาพักพร้อมบริการรถรับส่งจากโรงแรมมาที่สนามบินเพ่ือช่วง
ชิงลกู คา้ จากโรงแรมขนาดเลก็ ภายในสนามบนิ
15
2.3 โรงแรมห้องสูท (Suite Hotels)
ภาพท่ี 1 โรงแรมห้องสูท (โรงแรมมีกี่ประเภท, 2561 : ออนไลน์)
เป็นโรงแรมคล้ายโรงแรมธุรกิจต่างมุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าระดับสูงกว่า ห้องพักส่วนใหญ่ของ
โรงแรม หรือทง้ั หมดจะเป็นหอ้ งสูททแ่ี ยกหอ้ งนอนกับหอ้ งรับแขกออกจากกันโดยบางห้องอาจมีขนาด
ใหญม่ ีห้องประชุมขนาดเล็กพร้อมเคานเ์ ตอร์เครื่องดม่ื หรือครัวไว้ในห้องพกั ดว้ ย
2.4 โรงแรมเน้นแขกพักประจา (Residential Hotels)
ภาพท่ี 2 โรงแรมเนน้ แขกพกั ประจา (โรงแรมมกี ปี่ ระเภท, 2561 : ออนไลน)์
เป็นโรงแรมทเี่ นน้ กลมุ่ ลกู คา้ เข้าพกั ในระยะท่ียาวกว่าลูกคา้ โรงแรมท่ัวๆ ไป ส่วนใหญ่จะต้ังอยู่
ในย่านธุรกิจหรือในเมืองที่เป็นแหล่งงาน โรงแรมประเภทน้ีในเมืองไทยนิยมเรียกว่า Service
Apartment โดยคดิ ค่าบริการเป็นรายวัน รายสัปดาห์ และรายเดือน โดยมีอัตรารายสัปดาห์หรือราย
เดือนท่ีต่ากว่ารายวันอย่างชัดเจน โรงแรมประเภทน้ีนิยมรวมอาหารเช้าไว้ในค่าบริการ รวมถึงอาจมี
รถบริการรับส่งไปยังศูนย์การค้าและแหล่งงานสาคัญอีกด้วย ในห้องพักของโรงแรมส่วนใหญ่จะมีมุม
ครัว เตาไมโครเวฟ เตาไฟฟา้ พร้อมอุปกรณ์เคร่อื งครวั จานวนหนึ่งไวใ้ หล้ ูกคา้ ดว้ ย ในเมืองไทยมีผนู้ า
16
ในธรุ กิจโรงแรมประเภทนี้ เช่น กลุ่มเกษมกิจกร๊ปุ ท่ีมีโรงแรมแคนทารีแ่ ละคามิโอ ท่ีศรีราชา เชียงใหม่
อยุธยา และปราจนี บรุ ี โดยมกี ลุ่มลกู คา้ หลักเปน็ ชาวญี่ปุ่น ส่วน Service Apartment ระดับหรู ได้แก่
โรงแรมเซน็ เตอรพ์ อยท์ของกลมุ่ แลนด์แอนดเ์ ฮ้าส์
2.5 โรงแรมรีสอร์ท (Resort Hotels)
ภาพท่ี 5 โรงแรมรีสอร์ท (โรงแรมมีกีป่ ระเภท, 2561 : ออนไลน)์
เปน็ โรงแรมท่อี อกแบบสภาพแวดล้อมและทัศนยี ภาพให้เหมาะสมกับการพักผ่อน ส่วนใหญ่จะ
อยู่ในเมอื งท่องเทย่ี วและในพืน้ ทที่ มี่ ที วิ ทศั นส์ วยงามตามธรรมชาติ เช่น ริมทะเล โรงแรมประเภทนี้จะ
มีพื้นท่ีเปิดโล่งในตัวโรงแรมค่อนข้างมาก โดยตกแต่งเป็นสระว่ายน้า สวน รวมถึงการจัดสิ่งอานวย
ความสะดวกที่เหมาะสมกับการพักผ่อน เช่น สปาภายในโรงแรมด้วย ปัญหาด้านการตลาดของ
โรงแรมประเภทนี้คือการมีลูกค้าไม่สม่าเสมอ ในช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยวโรงแรมรีสอร์ตจึงมักจัด
รายการลดราคาเปน็ พิเศษ เพอ่ื ดึงดูดลูกคา้ เข้ามาในช่วงนอกฤดูกาล ในเมืองไทยโรงแรมลักษณะน้ีพบ
ไดม้ ากแถบจงั หวดั ชายทะเล เช่น หวั หิน พทั ยา และภูเกต็
17
2.6 โรงแรมซ่ึงจัดห้องพกั และอาหารเช้า (Bed and Breakfast)
ภาพที่ 3 โรงแรมหอ้ งพักแบบมอี าหารเชา้ (โรงแรมมีกีป่ ระเภท, 2561 : ออนไลน์)
โรงแรมประเภทน้ีในต่างประเทศอาจเรียกว่า Motel หรือ B&B นิยมทาเป็นโรงแรมขนาด
เล็กไม่เกิน 100 เตียง หรือหลายแห่งอาจมีเพียง 20-30 เตียง ส่วนใหญ่เป็นโรงแรมที่เจ้าของและ
ครอบครัวบริหารเอง โรงแรมประเภทนี้ในประเทศไทยนา่ จะเทยี บได้กบั โรงแรมท่ีเน้นกลุ่มนักเดินทาง
และพนักงานขายท่ีต้องขับรถระหว่างจังหวัด ต้องการที่พักราคาถูกและปลอดภัย โรงแรมประเภทน้ี
ราคาเฉลี่ยจะอยู่ประมาณคืนละ 500-700บาท ต้ังอยู่บริเวณชานเมือง มีส่ิงอานวยความสะดวก
ค่อนขา้ งจากดั ในเมืองไทยส่วนใหญ่จะไมม่ ีอาหารเชา้ ให้อาจมีเพียงกาแฟให้บริการ โรงแรมประเภทน้ี
กล่มุ ปตท. ใหค้ วามสนใจท่จี ะนาไปเปดิ ในสถานบี ริการนา้ มันบางแห่ง ส่วนผู้ประกอบการโรงแรมราย
ใหญ่ของไทยท่ีเข้าไปในตลาดนี้แล้ว ได้แก่ กลุ่มดิเอราวัณกรุ๊ป โดยใช้ชื่อโรงแรมในลักษณะน้ีว่า Hop
inn
18
2.7 โรงแรมคอนโดมเิ นียม (Condominium Hotel)
ภาพที่ 4 โรงแรมคอนโดมิเนยี ม (โรงแรมมกี ่ีประเภท, 2561 : ออนไลน)์
เปน็ อาคารชดุ ท่จี ดทะเบยี นเปน็ โรงแรม โดยมีบางส่วนขายกรรมสิทธ์ิ หรอื สิทธิการเช่าออกไป
ให้กับผู้ซอ้ื และมบี างส่วนที่ผพู้ ฒั นาโครงการเก็บไว้ให้บริการเป็นโรงแรม โดยผู้บริหารอาจรับห้องของ
ผู้ซื้อมาบริหารการปล่อยเช่าแบบโรงแรมในช่วงท่ีเจ้าของห้องไม่ได้เข้ามาใช้ ในต่างประเทศโรงแรม
ลกั ษณะนี้มีการขายกรรมสิทธิ์ร่วมแบบแบ่งปันเวลาใช้ (Time Sharing) โดยในห้องชุดห้องหนึ่งอาจมี
ผู้ซ้ือ 10 ราย สลับกันใช้รายละ 30 วัน โดยโครงการเป็นผู้บริหารเวลาในการเข้าใช้ และโครงการนา
เวลาอกี 2 เดือนท่ีเหลือ สารองไวส้ าหรับการซอ่ มบารุง หรือนามาให้เชา่ กบั บุคคลภายนอก
2.8 โรงแรมบ่อนการพนัน (Casino Hotels)
ภาพที่ 5 โรงแรมบ่อนการพนนั (โรงแรมมกี ปี่ ระเภท, 2561 : ออนไลน์)
โรงแรมลักษณะน้ีนิยมสร้างให้เป็นโรงแรมขนาดใหญ่ มีห้องพักจานวนมาก และมีห้องจัด
เล้ียงขนาดใหญ่เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าท่ีเข้ามาเล่นการพนันในโรงแรม โรงแรมลักษณะนี้นิยมทา
19
การตลาดร่วมกับบ่อนการพนัน เช่น การจัดแพ็กเกจให้ลูกค้าท่ีเข้ามาเล่นการพนัน ได้สิทธิ์พักฟรีเม่ือ
แลกชปิ ในปรมิ าณท่กี าหนดและเปน็ ชปิ ที่ไมส่ ามารถแลกเป็นเงนิ สดคืนได้
โรงแรมลักษณะดังกล่าวในลาสเวกัสนิยมจัดรายการอาหารบุฟเฟต์ในราคาค่อนข้างต่าเมื่อ
เทียบกับคุณภาพของอาหาร เพ่ือดึงดูดให้นักท่องเท่ียวเข้ามาเป็นลูกค้าของโรงแรมโดยอาจยอมรับ
กาไรตา่ หรือขาดทุนจากรายการอาหาร แต่ได้กาไรจากบ่อนการพนันเข้ามาชดเชย โรงแรมบางแห่งใช้
การจดั โชว์ตา่ งๆ ทง้ั แบบทมี่ ีการเกบ็ ค่าใช้จ่ายจากผู้เข้าชมและการเข้าชมฟรีเพ่ือดึงดูดนักท่องเท่ียวมา
ท่โี รงแรม
โรงแรมลักษณะนีร้ ายได้หลกั อาจไมไ่ ด้มาจากค่าหอ้ งพักแต่มาจากบ่อนการพนัน ซึง่ ใน
ประเทศไทยยงั ไม่มโี รงแรมลกั ษณะนี้
2.9 ศูนย์ประชุม (Conference Centers)
ภาพที่ 6 โรงแรมศูนยป์ ระชุม (โรงแรมมกี ่ปี ระเภท, 2561 : ออนไลน์)
โรงแรมประเภทนม้ี ุ่งเน้นกลุ่มลกู ค้าทมี่ าจัดประชมุ สมั มนาและงานแสดงนิทรรศการ โดยปกติ
แล้วโรงแรมประเภทนี้จะมีจานวนห้องพักค่อนข้างมาก และมีห้องประชุมสัมมนาทั้งขนาดใหญ่และ
เล็กจานวนมากเพื่อใหบ้ ริการครบวงจรกบั แขกทเี่ ขา้ มาจัดประชุมสัมมนา โดยมีบริการสิ่งอานวยความ
สะดวกคล้ายกับโรงแรมประเภทธรุ กิจ
โดยโรงแรมลักษณะดังกล่าวอาจสร้างศูนย์ประชุมกับท่ีพักไว้ในอาคารเดียวกันหรือแยก
อาคารออกจากกัน และแยกการบริหารโรงแรมและศูนย์ประชุมออกจากกันก็ได้ เช่น โรงแรมเซ็นทา
ราแกรนด์ ท่ีราชประสงค์ หรือโรงแรมรอยัลคลิฟ พัทยา ท่ีมีทั้งโรงแรมและศูนย์ประชุมขนาดใหญ่
20
รวมถึงกลุ่มโรงแรมโนโวเทลและไอบิสในเมืองทองธานี ที่สร้างขึ้นเพ่ือรองรับกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาใช้
บริการศนู ยป์ ระชมุ อิมแพค็
อย่างไรก็ตาม ในบริเวณท่ีมีศูนย์ประชุมขนาดใหญ่ก็มีผู้ประกอบการโรงแรมขนาดเล็กที่อยู่
โดยรอบทาการพัฒนาโรงแรมสาหรับลูกค้าศูนย์ประชุมโดยไม่ได้เป็นเจ้าของเดียวกันกับศูนย์ประชุม
เช่น บริเวณศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิต์ิ มีโรงแรมลักษณะน้ีอยู่จานวนมาก เนื่องจากศูนย์ประชุม
แห่งชาติไม่ได้มีโรงแรมของตวั เองอยู่ในพนื้ ท่ี
บทท่ี 3
มาตรฐานในการให้ดาวของโรงแรม
3.1 มาตรฐานโรงแรมระดับ 1 ดาว
นอกจากเร่ืองความสะอาดและความปลอดภัยแล้ว โรงแรมจะต้องมีสิ่งอานวยความสะดวก
ทั่วไปเช่น ห้องพักที่มีขนาดไม่เล็กกว่า 10 ตารางเมตร พร้อมเตียงขนาด 3 ฟุต กระจกแต่งหน้า ถัง
ขยะ โต๊ะ เก้าอี้ หอ้ งนา้ ต้องมผี า้ เช็ดตวั และกระดาษชาระไวบ้ รกิ าร
3.2 มาตรฐานโรงแรมระดบั 2 ดาว
ภายในโรงแรมมีการตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ ห้องพักต้องมีขนาดไม่เล็กกว่า 14 ตารางเมตร
มีตาแมว โซ่คล้องประตู เตียงขนาด 3 ฟุต กระจกแต่งหน้า ถังขยะ โต๊ะ เก้าอี้ น้าดื่ม โทรทัศน์ขนาด
14 นิว้ ขน้ึ ไป และโทรศัพท์ติดต่อภายใน ห้องน้าเป็นแบบชักโครก มีผ้าเช็ดตัวและกระดาษชาระ เป็น
ตน้
3.3 มาตรฐานโรงแรมระดับ 3 ดาว
ภายในโรงแรมควรประกอบด้วยรูมเซอร์วิส คอฟฟ่ีช็อป ห้องประชุมจัดเลียงพร้อมอุปกรณ์ที่
จาเป็น ศูนย์ธุรกิจ ห้องน้าสาธารณะ ห้องน้าคนพิการ ในส่วนห้องพักควรมีส่ิงอานวยความสะดวก
เพ่ิมขึ้นในระดับปานกลาง ขนาดห้องพักไม่เล็กกว่า 18 ตารางเมตร โทรทัศน์ 14 น้ิวพร้อมรีโมท
คอนโทรล ตู้เสื้อผ้า ไฟหวั เตยี ง เคร่ืองเขยี น ห้องน้ามีอ่างอาบน้า ระบบน้าร้อน-เย็น สบู่ หมวกอาบน้า
แกว้ ผ้าเชด็ หนา้ ผา้ เช็ดเทา้ และถงุ ใสผ่ ้าอนามัย เป็นต้
22
3.4 มาตรฐานโรงแรมระดับ 4 ดาว
นอกจากส่ิงอานวยความสะดวกต่างๆแล้วสิ่งที่ต้องเพ่ิมเข้ามาคือการตกแต่งสถานท่ีให้
สวยงาม ห้องพกั มาตรฐานซงึ่ กว้างกวา่ 24 ตารางเมตร เตียงขนาดไมน่ ้อยกว่า 3.5 ฟุต โทรทัศน์ขนาด
20 นิ้วขึ้นไป ช่องรายการมากกว่า 8 ช่อง ตู้เย็น มินิบาร์ กระติกต้มน้าร้อนไฟฟ้าพร้อมชา,กาแฟ ชุด
ขดั รองเทา้ ถุงซกั ผา้ เส้ือคลุมอาบนา้ รองเท้าแตะ โทรศัพทท์ สี่ ามารถโทรใน/ต่างประเทศได้โดยตรง
ภายในห้องน้ามีอุปกรณ์เครื่องใช้ครบถ้วน ประกอบด้วย โฟมอาบน้า แชมพู ผ้าเช็ดมือ ชุดSewing
kit(อปุ กรณเ์ ย็บผา้ พกพา) ไดร์เป่าผม ปลั๊กไฟสาหรับโกนหนวด ห้องชุดมีบริการให้เลือก 2 แบบ ห้อง
Standard หอ้ งDelux
3.5 มาตรฐานโรงแรมระดับ 5 ดาว
มีการตกแต่งที่สวยงามทั้งภายนอกภายใน เพรียบพร้อมด้วยส่ิงอานวยความสะดวกและ
บริการทปี่ ระทบั ใจ ห้องพกั มาตรฐานกว้าง 30 ตารางเมตร เตียงขนาดไม่น้อยกว่า 4 ฟุต โทรทัศน์ 20
น้ิวขึ้นไป พร้อมรีโมทคอนโทรล รายการต้องมีมากกว่า 12 ช่อง ตู้เย็น มินิบาร์ และอุปกรณ์ส่ือสาร
โทรศพั ท์ หอ้ งน้าขนาดใหญ่ สุขภณั ฑส์ ะอาดสวยงาม พรอ้ มเครื่องชั่งน้าหนัก อุปกรณ์ของใช้ในห้องน้า
ครบถ้วน ห้องฟิตเนตมีอุปกรณ์ออกกาลังกายไม่น้อยกว่า 7 ชนิด ห้องอบไอน้า อ่างจากุชชี่ ห้องนวน
สระว่ายนา้ ห้องประชมุ ใหญท่ ม่ี ีอุปกรณค์ รบถ้วน และห้องประชุมย่อยไม่ต่ากว่า 4 ห้อง มีระบบความ
ปลอดภัยที่ทนั สมัย
3.6 มาตรฐานโรงแรมทีส่ ูงกว่า 5 ดาว
จุดสูงสุดของ มาตรฐานดาว อยู่ที่ระดับ 5 ดาว แต่เน่ืองจากโรงแรมหลายแห่งต้องการสร้าง
ความแตกต่างจึงประกาศว่าตนเป็นโรงแรมระดับ 6 ดาวหรือ 7 ดาว แต่ยังไม่มีมาตรฐานโรงแรม
รับรองระดับ 6 ดาว เพียงประกาศกันเอง ราคาจะสูงกว่าโรงแรม 5 ดาว 20-30% ส่ิงที่แตกต่างจาก
โรงแรมระดับ 5 ดาวคือ มีห้องพักขนาดใหญ่กว่า อุปกรณ์ของใช้ในห้องพักที่ดีกว่า และยังมีต้นห้อง
ส่วนตัวหรือเรียกว่า บัตเลอร์ (Butler)ที่จะเข้าไปดูแลความต้องการของลูกค้า และช่วยทาอาหารให้
23
สร้างความเป็นส่วนตวั กบั ลูกคา้ เป็นอย่างมาก ประเทศฝรง่ั เศสข้ึนช่ือเรื่องเมืองน่าเที่ยวอันดับต้นๆของ
โลก และให้ความสาคัญกับรายได้จากการท่องเท่ียวเป็นหลัก ได้ประกาศมาตรฐานความหรูหราของ
โรงแรมมากกว่ามาตรฐานดาวที่ใช้กันอยู่ โดยใช้ช่ือว่า “มาตรฐานระดับพระราชวังหรือ พาเลซ”
เกณฑ์การตัดสินไม่ได้วัดเฉพาะด้านความหรูหราเท่านั้น แต่ยังให้คะแนนกับความสาคัญด้าน
ประวตั ิศาสตร์ทย่ี าวนานเป็นประเดน็ หลกั ดว้ ย ปัจจบุ ันมีโรงแรมเพียง 8 แห่งเท่าน้ันในฝร่ังเศสท่ีได้รับ
เครอื่ งหมายมาตรฐานระดบั พระราชวัง และโรงแรมจะถกู ตรวจสอบจากคณะกรรมการทุกๆ 5 ปี หาก
พบว่ามาตรฐานบกพร่องหรือตกตา่ ลง หนว่ ยงานผู้ออกมาตรฐานสามารถยึดเครอื่ งหมายสาคัญนคี้ ืนได้
บทท่ี 4
การจัดแบ่งประเภทของท่ีพักแรมหรือโรงแรม
รีสอร์ทหรือโรงแรม คือส่ิงเมื่อท่ีเรานึกถึงคงเป็นลาดับต้นๆ ก่อนที่เราจะมีกิจกรรมออกไป
เทีย่ วหรอื ไปทางานในที่ไกลๆ บ้าน ไม่ว่าจะด้วยความจาเป็นหรือไม่น้ัน หากออกไปเป็นเวลาหลายวัน
อาจจะเป็นเดอื นหรือไม่ก็เปน็ ปี ดัง้ นน้ั เราจงึ ต้องมีทพ่ี ักแรมไว้สาหรบั นอนคา้ งคืน และพักผ่อน สาหรับ
ส่วนตัว และอาจจะต้องมี ของใช้ในห้องพัก ท่ีมีความสะดวกสบาย เพราะน้ันคือปัจจัย 4 ท่ีมีความ
จาเป็นสาหรับมนุษย์ทุกคน เพราะมีความต้องการห้องพักจึงทาให้เกิดธุรกิจหรือกิจการท่ีพักแรมข้ึน
มากมายหลายหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม รีสอร์ท อพาร์ทเม้นท์ หรือ โฮมสเตย์ ท่ีข้ึนอยู่ตาม
วัตถุประสงค์และความหลากหลายของ สไตล์การออกแบบและการตกแต่งโรงแรมเลือกใช้ ของใช้ใน
โรงแรม ตามสไตล์ ผทู้ ีต่ ้องการพัก
การจัดแบ่งประเภทของท่ีพักแรมแตกต่างกันออกไปตามวัตถุประสงค์ในการจัดประเภท ซึ่ง
อาจข้ึนอยู่กับทาเลท่ีต้ัง การเข้าพักอาศัยของแขก การบริหารงาน การจัดบริการแก่แขก หรือขึ้นอยู่
กับองค์ประกอบอื่นๆดังนั้นการจัดแบ่งประเภทของที่พักแรมจึงไม่มีข้อยุติแน่นอน ซึ่งยกตัวอย่างได้
ดงั น้ี
4.1 การแบง่ ตามขนาดโรงแรม (Hotel Size) การแบง่ ตามขนาดของโรงแรม
สามารถนับได้จากจานวนหอ้ งพัก ซง่ึ มาสามารถแยกได้เปน็ 4 ขนาด คือ ห้องพักทมี่ ีจานวน
ตา่ กว่า 150 หอ้ ง ห้องพักระหว่าง 150–299 หอ้ ง ห้องพักระหว่าง 300–599 ห้อง และห้องพัก
ระหว่าง 600 ห้องขึ้นไ
26
4.2 การแบง่ ตามระดบั การบรกิ าร (Levels and Service) แบ่งได้3 ประเภทดังน้ี
4.2.1 การบริการระดับโลก (World – Class Service) โรงแรมประเภทน้ีมเี ปา้ หมายในการ
รับแขกระดบั บคุ คลสาคญั ของประเทศ หรือบุคคลสาคัญของโลก นักธุรกจิ ผ้มู ัง่ คงั่ และบุคคลผู้มี
ช่ือเสยี งอ่ืนๆ
4.2.2 การบริการระดับกลาง มีเป้าหมายในการรับแขกท่ัวไปท้ังนักธุรกิจ นักท่องเท่ียว
รายบุคคล และหมู่คณะ การบริการของโรงแรมอยู่ในระดับมาตรฐาน แต่ส่ิงอ านวยความ
สะดวกสบายตา่ งๆอาจลดนอ้ ยกวา่ โรงแรมท่ีมกี ารบรกิ ารระดบั โลก
4.2.3 การบริการระดับประหยัด (Economy or Limited Service) โรงแรมประเภทนี้เก็บ
ค่าบรกิ ารถูกกว่าโรงแรม 2 ประเภทดังกล่าวแล้ว การจัดอุปกรณ์ข้ันพื้นฐานสาหรับแต่ไม่หรูหรา การ
บรกิ ารท่ีได้มาตรฐาน แต่ราคาประหยัด คอื นโยบายสาคญั ของโรงแรมประเภทนี้
4.3 การแบ่งตามความเปน็ เจ้าของและการเป็นสมาชิกในสถาบันโรงแรม (Ownership and
Affiliation) แยกได้เป็น 2 ประเภท คือ
4.3.1 โรงแรมบริหารงานอย่างอิสระ (Independent Hotels) โรงแรมประเภทนี้บุคคลคน
เดียวหรือคณะบุคคลเป็นเจ้าของ การบริหารงานเป็นอิสระ ไม่ข้ึนอยู่กับโรงแรมอ่ืนๆ จึงทาให้มีความ
คล่องตัวและมีอานาจในการบริหารงาน แต่ก็มีข้อจากัดในด้านประสบการณ์ในการบริหารงาน การ
สร้างเครือขา่ ยดา้ นการตลาด และการขยายธุรกจิ ในอนาคต
4.3.2 โรงแรมเครือข่าย (Chain Hotels) โรงแรมเครอื ข่ายจดั แบ่งการบริหารงานออกเป็น 3
ประเภท ดงั น้ี
- การบริหารโดยบริษทั แม่ (Parent Company) โรงแรมเครือข่ายในลักษณะนี้ทรัพย์สิน การ
บริหารงาน เปน็ ของบริษทั แม่ท้งั หมด
27
- การบริหารโดยพันธสัญญา (Management Contract) เป็นรูปแบบหนึ่งของการบริการ
โรงแรมแบบเครือข่าย ทรัพย์สินในการจัดสร้างโรงแรมเป็นของบุคคลภายนอกบริษัทแม่ แต่ต้องการ
ใชร้ ะบบการบรหิ ารงานแบบเครือขา่ ย
- การบริหารงานแบบแฟรนไชส์ (Franchise Groups) ระบบแฟรนไชส์จะวางระบบกา
จัดการบริหารหน้าท่ีของบุคลากร การวางแผนพัฒนาองค์กร ระบบการตลาดออกแบบในการตกแต่ง
โรงแรม การใช้วัสดุอุปกรณ์ และการวางระบบงานบริการให้ได้มาตรฐาน เจ้าของธุรกิจโรงแรมใน
ระบบแฟรนไชส์มีสิทธิ และอ านาจในการจดั การแต่ต้องสอดคล้องกับข้อตกลงซึ่งให้ไว้กับระบบแฟรน
ไชส์การจัดแบ่งประเภทของโรงแรมดังกล่าวแล้ว ยังไม่มีข้อตกลงสากล ดังนั้นการจัดแบ่งประเภทจึง
แตกต่างกันออกไปข้ึนอยู่กับวัตถุประสงค์ของผู้จัดประเภทว่าใช้หลักการอะไร เช่น การเข้าพักอาศัย
ท่ตี ั้งของโรงแรม การบริการ การบรหิ าร ราคาหอ้ งพัก ขนาดของโรงแรม หรอื หลกั การอืน่ ๆ
4.4 วิธกี ารจัดต้ังโรงแรมและการจดั ระเบียบบริหารโรงแรม
4.4.1 วธิ กี ารจัดตั้งโรงแรม
พ.ร.บ. โรงแรม พ.ศ. 2478 ก าหนดวิธีปฏิบัติเก่ียวกับสถานบริการท่ีพักทุกชนิด ไม่ว่าจะ
เรยี กชอื่ ว่าโรงแรม บงั กะโล โมเต็ล เกสทเ์ ฮาส์ ฯลฯ ให้อยใู่ นข่ายของ พ.ร.บ. น้ีท้ังสิ้น โดยเจ้าของหรือ
เจา้ ส านัก (ผู้ควบคุมหรือผู้จัดการโรงแรม) ต้องขอจดทะเบียนอนุญาตด าเนินกิจการ ณ กองควบคุม
อาคารสานักการโยธาถ้าโรงแรมต้ังอยู่ในกรุงเทพฯ กองควบคุมอาคารต้องตรวจสอบแบบแปล น
รูปลักษณะ ความมั่นคงแข็งแรงตามข้อบัญญัติกรุงเทพมหานครเรื่องควบคุมการก่อสร้างอาคาร พ.ศ.
2522 และ พ.ร.บ. ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522แล้วเสนอความเห็นไปยังกองทะเบียนกองบัญชาการ
ตารวจสอบสวนกลางเพอ่ื พิจารณาความเหมาะสมเม่ือกองทะเบยี นกรมตารวจพิจารณาให้รายละเอียด
เรยี บร้อยแลว้ เสนอความเห็นชอบต่อกระทรวงมหาดไทยภายหลังจากท่ีกระทรวงมหาดไทยพิจารณา
เห็นชอบแล้ว นายทะเบียนโรงแรมกรุงเทพมหานครแจ้งผลการพิจารณาให้กรุงเทพมหานครทราบ
และเมอื่ ไดร้ บั แจง้ ผลการพจิ ารณาอนมุ ตั ใิ นหลักการจากนายทะเบียนโรงแรมกรุงเทพมหานครแล้ว จึง
จะออกใบอนุญาตก่อสร้างหรือดัดแปลงอาคารได้ส่วนในต่างจังหวัดให้ยื่นขอจดทะเบียนขออนุญาต
ดาเนินกิจการ ณ ท่ีว่าการอาเภอท้องท่ีท่ีเป็นสถานที่ต้ังโรงแรม จากนั้นอาเภอก็จะส่งเร่ืองไปให้
28
คณะกรรมการพิจารณา คณะกรรมการมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นนายทะเบียนในกรณีที่นายทะเบียน
อนญุ าตให้ดาเนินการได้กจ็ ะออกใบอนุญาตให้ฉบบั หนึ่งใบอนุญาตน้ีจะส้ินสุดอายุในวันท่ี 31 ธันวาคม
ทุกปี ดังน้ันผู้ประกอบการจะต้องขออนุญาตดาเนินกิจการโรงแรมทุกปี ถ้าฝ่าฝืนจะมีความผิดต้อง
ระวางโทษปรบั ไม่เกนิ 2,000 บาท
4.4.2 การจัดระเบยี บองค์การบริหารโรงแรม
การจัดระเบียบองคก์ ารโรงแรม มีวตั ถุประสงค์ในการแบ่งหน้าท่ีความรับผิดชอบการแจกแจง
รายละเอียดของงานที่ต้องกระท าการประสานงาน การร่วมมือกันท างานในแต่ละฝ่าย เพื่อให้งาน
บรรลุตามเป้าหมายท่วี างไว้ งานโรงแรมอาจแบง่ พนักงานตามการปฏิบัติหน้าที่ออกได้ 2 ประเภท คือ
หน้าที่ต้องติดต่อกับแขกโดยตรง (Line Functions) ได้แก่ พนักงานในแผนกต้อนรับ แผนกห้องพัก
และฝ่ายบริการอาหารและเครื่องด่ืม สาหรับหน้าท่ีฝ่ายสนับสนุน (Staff Functions) หรือ “ฝ่ายที่อยู่
เบื้องหลังฉาก” (Behind – theScenes) พนักงานเหล่านี้ไม่ได้สัมผัสกับแขกโดยตรง แต่มีส่วน
จัดเตรยี มงานเพื่อแขกโดยส่งผา่ นพนกั งานสว่ นหน้า พนกั งานช่วยสนบั สนนุ ไดแ้ ก่ พนกั งาน แผนกช่าง
แผนกปรุงอาหาร แผนกซกั รีด แผนกทาความสะอาด เป็นต้น
4.5 โรงแรมที่แบ่งตามทาเลทตี่ ้ัง ( Location )
4.5.1 โรงแรมในเมอื งใหญ่ ( Large Cities ) ซง่ึ ตง้ั อยใู่ จกลางเมอื งในยา่ นธุรกิจ การท่องเท่ียว
ตลอดจนสถานบนั เทิงต่าง ๆ ลกั ษณะของโรงแรมมักมีขนาดใหญ่ตั้งแต่ 100 ห้องตกแต่ง สินค้าภายใน
โรงแรม ที่มีความหรูหรา และมกี ารให้บริการอนื่ ๆ ครบครนั
4.5.2 โรงแรมในเมืองเลก็ ( Small Cities ) มกั ตง้ั อยใู่ นเมอื งเล็ก ลูกค้าส่วนใหญ่คือ นักธุรกิจ
นักทอ่ งเท่ียว นกั เดนทาง และลกู ค้าในทอ้ งถ่ินท่มี าสงั สรรค์ อปุ กรณ์ ของใช้ในโรงแรม สิ่งอานวยความ
สะดวกไดม้ าตรฐาน
4.5.3 โรงแรมชานเมือง ( Saburban Hotel ) ตัง้ อย่ชู านเมืองหรือนอกเมือง มีการ คมนาคม
สะดวก บรรยากาศเงยี บสงบ มีอากาศบรสิ ุทธิ์ สงิ่ อานวยความสะดวก ของใช้ในหอ้ งพกั ได้มาตรฐาน
4.5.4 โรงแรมสถานตากอากาศหรือรสี อรท์ (Resort Hotel ) จะแบง่ เปน็ 2 ประเภท คอื
29
- โรงแรมท่ตี ง้ั อยู่ใกลส้ ถานทีท่ อ่ งเท่ยี ว เช่น ภูเขา ทะเล ทะเลสาบ ฯลฯ
- โรงแรมท่ีไม่มีธรรมชาติดึงดูดนกท่องเท่ียว เป็นโรงแรมที่มุ่งเน้นด้านกิจกรรมนันทนาการ
ตา่ ง ๆ เชน่ สนามกอล์ฟ ข่ีมา้ ฯลฯ
4.5.5 โรงแรมท่าอากาศยาน ( Airport Hotel ) ตั้งขึ้นเพ่ือให้บริการที่สนามบิน ท้ังนี้ เพราะ
สนามบนิ สว่ นใหญ่ต้ังอยูไ่ กลเมอื ง
4.6 โรงแรมท่ีแบ่งตามหน้าท่ี
4.6.1 โรงแรมเพ่ือการค้าหรือการพาณิชย์ หรือโรงแรมแขกพักไม่ประจา( Commercial
Hotel ) โรงแรมประเภทน้ีมีมากกว่าโรงแรมประเภทอื่นๆ โดยมุ่งเน้นบริการนักธุรกิจ พ่อค้าที่มา
ตดิ ตอ่ ธรุ กิจ หรอื นักท่องเที่ยว การเลอื ก ของใชใ้ นโรงแรม จะต้องมีความทันสมยั หรหู รา
4.6.2 โรงแรมเพ่ือการพักผ่อน ( Resort Hotel ) มักต้ังอยู่ตามสถานท่ีท่องเที่ยวท่ีสวยงาม มี
บริการด้านต่าง ๆ ครบครัน เป็นโรงแรมที่เน้นบริการกลุ่มนักท่องเท่ียว โดยเฉพาะ ของใช้ในห้องพัก
จะได้มาตรฐาน ครบครัน
4.6.3 โรงแรมเพื่อการประชุม ( Convention Hotel ) โรงแรมที่มีวัตถุประสงค์ของการ
ดาเนนิ งานเพ่ือจัดเป็นที่ประชุมสัมมนา หรืออบรมอื่นๆ โดยจัดห้องไว้ให้บริการ เน้นกลุ่มลูกค้าบริษัท
หรอื กลมุ่ ทีม่ าเปน็ หมู่คณะ อปุ กรณอ์ านวยความสะดวก สนิ ค้าภายในโรงแรม ต้องครบครนั
4.6.4 โรงแรมเพ่ือการพักอาศัยหรือโรงแรมแขกพักประจา ( Residential Hotel ) เป็น
ลกั ษณะให้เชา่ หอ้ งพักอาศัยประจาหรือถาวรในรปู ของห้องชดุ
4.6.5 โรงแรมเพื่อให้บริการแก่นักท่องเที่ยวโดยใช้รถยนต์เป็นพาหนะ ( Motel ) มักตั้งอยู่
ตามถนนสายสาคัญๆมที ี่จอดรถตดิ กบั หอ้ งพัก
30
4.7 โรงแรมทีแ่ บ่งตามขนาดโรงแรมหรือจานวนห้องพกั
4.7.1 โรงแรมขนาดเล็ก คือ โรงแรมท่ีมีห้องพักเด่ียวต่ากว่า 30 ห้อง ของใช้ในห้องพัก ตาม
ทอ้ งถนิ่ ทีเ่ ป็นเอกลักษณ์
4.7.2 โรงแรมขนาดกลาง คอื โรงแรมท่มี หี อ้ งพักมากกวา่ 30 ห้องไมเ่ กิน 100 หอ้ ง
4.7.3 โรงแรมขนาดใหญ่ คือ โรงแรมท่ีมีห้องพักมากกว่า 100 ห้อง สินค้าภายในโรงแรม
ตกแต่งหรูหรา มีบรกิ ารครบครั
4.8 โรงแรมทีแ่ บ่งตามราคาคา่ เช่าหอ้ งพัก
โดยอาจจะขึ้นอยกู่ บั เกณฑ์การแบง่ ตามหน่วยงานตา่ งๆ โดยในไทยจะมหี น่วยงาน เช่น
เกณฑ์สมาคมโรงแรม, เกณฑ์ ท.ท.ท เป็นตน้ โดยแบ่งระดับราคา ดงั นี้ 300-500 , 500-
1,000 , 1000-1500 , ต้งั แต่ 15,000 บาทขนึ้ ไป ราคาของหอ้ งพกั อาจขึ้นอยกู่ ับการเลือก
ของใช้ในโรงแรม หรอื ของใช้ในห้องพัก ท่มี ีคุณภาพเปน็ ตวั กาหนดราคาก็ได้
บรรณานกุ รม
“ความหมายของของธุรกิจโรงแรม” [ออนไลน์]. เข้าถงึ ได้จาก : https://th.wikipedia.org/wik,
2563. [สืบคน้ เมื่อ 13 สิงหาคม 2564].
“ความสาคญั ของธรุ กิจโรงแรม” [ออนไลน์]. เขา้ ถงึ ได้จาก : http://www.research-
system.siam.edu/images/coop_HT, ม.ป.ป. [สบื คน้ เมื่อ 13 สงิ หาคม 2564].
“ประวตั ิและววิ ฒั นาการของธุรกิจโรงแรม” [ออนไลน์]. เข้าถงึ ไดจ้ าก :
http://kamonchanok01.blogspot.com/p/blog-page.html, 2562. [สบื ค้นเมื่อ 20 สงิ หาคม
2564].
“ประเภทของธุรกิจโรงแรม” [ออนไลน]์ . เขา้ ถึงได้จาก :
https://marketeeronline.co/archives/68468, ม.ป.ป. [สืบค้นเมื่อ 25 สิงหาคม 2564].
“มาตรฐานในการให้ดาวของโรงแรม” [ออนไลน]์ . เขา้ ถึงได้จาก : https://www.a-
lisa.net/topic/2024, ม.ป.ป [สืบคน้ เมื่อ 10 กันยายน 2564].
“การจดั แบ่งประเภทของโรงแรม” [ออนไลน]์ . เข้าถึงได้จาก :
https://www.enrhotelproducts.co.th/content_topic.php?id=40 , ม.ป.ป
[สืบค้นเม่อื 17 ตลุ าคม 2564].
“การแบ่งประเภทโรงแรมตามทาแลทต่ี ้งั ” [ออนไลน]์ . เข้าถึงไดจ้ าก :
https://www.sme.go.th/upload/mod_download/04
[สบื คน้ เม่ือ 13 สิงหาคม 2564].