The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แนะนำนักบุญมัทธิว

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by P. Tads, 2021-06-09 09:35:13

29. แนะนำนักบุญมัทธิว

แนะนำนักบุญมัทธิว

ภาคผนวก 2
แนะนานักบญุ มทั ธิว

ผนู้ ิพนธพ์ ระวรสารทงั้ ส่ี นกั บุญมทั ธวิ เป็นบคุ คลทไ่ี ดร้ บั การอา้ งถงึ บอ่ ยมาก ทงั้ ในหนงั สอื
คาสอนดดี าเค1 และขอ้ เขยี นของบรรดาปิตาจารย์ เน่อื งจากนกั บญุ มทั ธวิ เป็นอคั รสาวกผู้
เป็นประจกั ษ์พยานแทจ้ รงิ ถงึ พระเยซูเจา้ เน้อื หาพระวรสารนกั บุญมทั ธวิ มสี าระความจรงิ
ในเรอ่ื งความเชอ่ื ทช่ี ดั เจนและสมบรู ณ์มาก อา่ นงา่ ยเขา้ ใจไดง้ า่ ย สาระใจความเป็น
ประโยชน์สาหรบั การนาไปปฏบิ ตั ใิ นชวี ติ ไดด้ ี เป็นสอ่ื นาวถิ ชี วี ติ ไดด้ ี มคี าสอนแทรกและใช้
ภาษาเรยี บงา่ ยอธบิ ายอยา่ งชดั เจนเป็นเหตุเป็นผล บรรดานกั อธบิ ายพระคมั ภรี ต์ ่าง
ยอมรบั วา่ มทั ธวิ เป็นผนู้ าชวี ติ ครสิ ตชนทด่ี ที ส่ี ดุ คนหน่งึ แมแ้ ต่ประชาชนทวั่ ไป คนตา่ งศาสนากเ็ หน็ ดว้ ยกบั
ความเหน็ น้ี เออเนสต์ เรแนนเรยี กพระวรสารนกั บุญมทั ธวิ วา่ หนงั สอื ทม่ี คี วามสาคญั มากทส่ี ดุ ซง่ึ ยงั ไม่เคยมใี คร
เขยี นมากอ่ น
เมอ่ื เปรยี บเทยี บกบั พระวรสารฉบบั อ่นื เราพบวา่ มาระโกมเี สน่หม์ ากทส่ี ดุ เพราะมบี ทบรรยายทม่ี องเหน็
ภาพ ลกู าร่ารวยดา้ นอารมณ์ความรสู้ กึ แสดงความรสู้ กึ นึกคดิ ทพ่ี เิ ศษเน่ืองจากความเป็นนกั เขยี นผยู้ งิ่ ใหญ่ สว่ น
ยอหน์ มคี วามคดิ ทางเทววทิ ยาทง่ี ดงามทส่ี ดุ สาหรบั มทั ธวิ มคี วามเดน่ ทค่ี วามเรยี บงา่ ยและชดั เจน อ่านเขา้ ใจได้
โดยตรงและเป็นเหตเุ ป็นผล นาพาผอู้ ่านมงุ่ เขา้ สขู่ มุ ทรพั ยภ์ ายในทล่ี า้ คา่ จากขมุ ทรพั ยท์ ม่ี อี ยใู่ นพนั ธสญั ญาเดมิ
สขู่ มุ ทรพั ยใ์ หมแ่ ห่งชวี ติ ฝ่ายจติ สคู่ วามสมบรู ณ์มากขน้ึ ในพระสญั ญาทป่ี รากฏเป็นจรงิ ในองคพ์ ระเยซูเจา้ จาก
บญั ญตั ิ 10 ประการสบู่ ญั ญตั แิ ห่งความรกั จากโมเสสสพู่ ระเยซเู จา้ ฯลฯ
นกั บุญมทั ธวิ เดมิ ชอ่ื เลวี บุตรของอลั เฟอสั (มก. 2: 14) ทา่ นเป็นคนเกบ็ ภาษที ห่ี นั มมุ มองชวี ติ เปลย่ี น
กลบั มาสชู่ วี ติ ตดิ ตามพระเยซูเจา้ ทา่ นเป็นหน่งี ในอคั รสาวกสบิ สององค์ เป็นผทู้ ใ่ี หแ้ รงบนั ดาลใจในการเขยี น
พระวรสารนกั บุญมทั ธวิ เขา้ ใจวา่ ทา่ นอาจจะไม่ไดเ้ ขยี นเอง เพราะหนงั สอื เล่มน้ปี รากฏขน้ึ ในปี ค.ศ. 852 ซง่ึ ทา่ น
ไดส้ น้ิ ใจแลว้ กวา่ 20 ปี ศษิ ยข์ องทา่ นคนหน่งึ ในสานกั (พระธรรม)ชุมชนมทั ธวิ 3 คงไดบ้ นั ทกึ คาสงั่ สอนของ
อาจารยไ์ ว้ ลกั ษณะการเขยี นแสดงวา่ มคี วามรใู้ นพระคมั ภรี ช์ าวยวิ และแหลง่ ขอ้ มลู ทางศาสนาเป็นอย่างดี แสดง
วา่ เขาอาจเป็นคมั ภรี าจารยค์ นหน่งึ ผมู้ คี วามรคู้ วามสามารถทางภาษากรกี และอารยธรรมกรกี เป็นอยา่ งดี ได้
เขยี นเป็นภาษากรกี มใิ ชภ่ าษาฮบี รู ผนู้ พิ นธไ์ ดอ้ า้ งถงึ พระคมั ภรี พ์ นั ธสญั ญาเดมิ ตน้ ฉบบั ภาษาฮบี รบู อ่ ยครงั้ ซง่ึ
ไมเ่ หมอื นกบั ผนู้ ิพนธพ์ ระวรสารอกี สามองค์ ทอ่ี า้ งถงึ พระคมั ภรี จ์ ากบทแปลภาษากรกี

1 หนงั สือคำสอนของพระศำสนจกั ร ในสมยั แรก ค.ศ. 1 – ตน้ ค.ศ. 2 (The Didache (/ˈdɪdəkiː/; Koine Greek: Διδαχή) or The Teaching of

the Twelve Apostles (Didachē means "Teaching") is a brief anonymous early Christian treatise, dated by most modern scholars to

the first century.[2] The first line of this treatise is "Teaching of the Lord to the Gentiles (or Nations) by the Twelve Apostles") from

https://en.wikipedia.org/wiki/Didache

2 อำจใช้ ปี สำกล 85 กไ็ ด้ เป็นกำรนบั ปี ศกั รำช นบั ต้งั แต่ปี พระเยซูเจำ้ ทรงบงั เกิดรับสภำพมนุษย์
3 อำจเรียกแบบง่ำยๆ วำ่ “มทั ธิว” เมื่อกลำ่ วถึงท่ำนนกั บุญเอง กจ็ ะใชว้ ำ่ “นกั บุญมทั ธิว” ส่วนเลม่ พระวรสำร คงใช้ พระวรสำรนกั บุญมทั ธิว หรือ
พระวรสำรของนกั บุญมทั ธิว หรือพระวรสำรตำมคำเล่ำของนกั บุญมทั ธิว กไ็ ด้



พระวรสารนกั บุญมทั ธวิ เขยี นขน้ึ ทเ่ี มอื งอนั ทโิ อก4 เพอ่ื พระศาสนจกั รในซเี รยี ซง่ึ เป็นพระศาสนจกั รท่ี
กอ่ ตงั้ ขน้ึ โดยบารน์ าบสั และเปาโล ประชาชนสว่ นใหญ่เป็นชาวยวิ และชนต่างศาสนาผกู้ ลบั ใจมานบั ถอื ศาสนายดู า
ดงั นนั้ ผรู้ บั ฟังหรอื อา่ นพระวรสารน้จี งึ นบั ไดว้ า่ มเี ฉพาะชาวยวิ และผทู้ น่ี บั ถอื ศาสนายดู า พวกเขายดึ มนั่ ในหลกั
สาคญั สองประการคอื พระวหิ าร รวมทงั้ พระสงฆ์ สมณะและการถวายบชู า กบั กฎหมายของโมเสสและผตู้ คี วาม
กฎหมายนนั้ ไดแ้ ก่บรรดาคมั ภรี าจารย์ ทส่ี ว่ นใหญเ่ ป็นพวกฟารสิ ี นบั ตงั้ แต่พระวหิ ารถูกทาลายในปี 70 กไ็ มม่ ี
พระสงฆแ์ ละผถู้ วายบชู าอกี ต่อไป บรรดาคมั ภรี าจารยจ์ งึ กลายเป็นผมู้ บี ทบาทสาคญั มาก ประมาณปี 85 พวกเขา
ไดข้ บั ไล่ครสิ ตชนชาวยวิ ออกไป โดยกล่าวหาวา่ พระเขายกยอ่ งพระเยซูเจา้ ใหอ้ ยเู่ หนอื โมเสส เมอ่ื ถกู บงั คบั วา่
จะตอ้ งเลอื กระหวา่ งพระเยซูเจา้ กบั โมเสส ครสิ ตชนของพระศาสนจกั รทเ่ี มอื งอนั ทโิ อก จงึ โน้มเอยี งทจ่ี ะละทง้ิ พระ
เยซูเจา้ สว่ นพวกทย่ี งั คงซอ่ื สตั ยต์ อ่ พระเยซเู จา้ กถ็ กู ล่อลวงใหต้ ดั ตวั เองออกจากรากความเป็นชาวยวิ

หนงั สอื พระวรสารมทั ธวิ ไดร้ บั การเขยี นขน้ึ เพอ่ื เป็นสอ่ื หล่อเลย้ี งความเชอ่ื ศรทั ธาและใหก้ าลงั ใจบรรดา
ครสิ ตชนทต่ี อ้ งตอ่ สกู้ บั การประจญ มทั ธวิ แสดงใหพ้ วกเขาเหน็ วา่ พระเยซเู จา้ ทรงเป็นสะพานเชอ่ื มระหวา่ งพนั ธ
สญั ญาทงั้ สอง จงึ ไม่จาเป็นตอ้ งละทง้ิ โมเสสหรอื พระเยซูเจา้ เพราะโมเสสเป็นผนู้ าไปสพู่ ระเยซูเจา้ และพนั ธ
สญั ญาเดมิ สาเรจ็ เป็นจรงิ อยา่ งสมบูรณ์ไดก้ ใ็ นพนั ธสญั ญาใหมเ่ ทา่ นนั้ มทั ธวิ แสดงใหเ้ หน็ เรอ่ื งน้ี โดยอา้ งคา
ทานายของบรรดาประกาศก และแสดงใหเ้ หน็ วา่ พระเยซูเจา้ ทรงรวบรวมพนั ธสญั ญาเดมิ ทงั้ หมดไวใ้ นพระองค์
เอง

มทั ธวิ เป็นผนู้ พิ นธพ์ ระวรสารเพยี งทา่ นเดยี วทใ่ี ชค้ าวา่ พระศาสนจกั ร (Church, Ecclesia) ซง่ึ เป็นคา
ทม่ี าจากภาษากรกี แปลวา่ ทช่ี ุมนุมของผไู้ ดร้ บั เรยี ก นกั บุญเปาโลกใ็ ชค้ าน้ดี ว้ ย พระวรสารตลอดทงั้ เลม่ นกั -
บญุ มทั ธวิ เน้นเพอ่ื เป็นการฟ้ืนฟูความซ่อื สตั ยข์ น้ึ ใหม่ ทา่ นกลา่ วถงึ การกลบั ใจ วา่ “จงกลบั ใจเถดิ อาณาจกั ร
สวรรคอ์ ยใู่ กลแ้ ลว้ ” (มธ. 3: 2; 4: 17; 10: 7) สาหรบั ทา่ น การกลบั ใจมใิ ช่เป็นเรอ่ื งของศลี ธรรมจรยิ ธรรม แตเ่ ป็นชวี ติ ทงั้
ชวี ติ กลา่ วคอื ฉนั ตอ้ งฟ้ืนฟูตวั เองขน้ึ ใหม่ มใิ ชเ่ ป็นเพยี งการกลบั ใจหนั ออกจากหรอื ละทง้ิ ตนเอง ไม่เพยี งตอ้ งปลด
เปลอ้ื งตนเอง ตายต่อความชวั่ รา้ ย ตายต่อตนเอง และมใิ ชเ่ พยี งการปรบั เปลย่ี นพฤตกิ รรมของฉนั การกลบั ใจ
ตอ้ งเป็นการเกดิ ใหม่อกี ครงั้ หน่งึ ท่านสอนใหเ้ ราออกจากตวั เอง ออกจากหน้าทก่ี ารงานความรบั ผดิ ชอบ และใหม้ ี
ชว่ งเวลาแหง่ ความเงยี บ ปลดปลอ่ ยตวั เอง ไม่คดิ ถงึ ห่วงกงั วลต่อตวั เอง แต่ตอ้ งออกจากตวั เอง ออกจากบา้ นของ
ตวั เอง (ทส่ี งั่ สมทรพั ย์ ความเป็นอยคู่ วามเป็นตวั ตนของตนเอง) เป็นการปลดเปลอ้ี ง ปลดปล่อย ใหท้ ุกสงิ่ ทย่ี ดึ ตดิ แน่นวา่ เป็น
ของฉนั ของตนไวเ้ บอ้ื งหลงั ออกจากถ้าแหง่ ชวี ติ เหมอื นประกาศกเอลยี าหไ์ ปยนื รออยตู่ รงหน้าถ้าเมอ่ื ตระหนกั
วา่ พระยาเวหเ์ สดจ็ เขา้ มาใกล้ นกั บุญยอหน์ แห่งไมก้ างเขนไดเ้ ขยี นขอ้ ความหน่งึ เกย่ี วกบั การภาวนาไวอ้ ยา่ ง
งดงามโดยอาศยั แบบอยา่ งน้ี วา่ “วญิ ญาณจะมายนื อยตู่ รงหน้าประตู ดว้ ยความเคารพอนั สงบเงยี บต่อการ
ประทบั อยขู่ องพระเจา้ ” ดงั น้ี ขอนาทา่ นเขา้ สกู่ ารเขา้ เงยี บเพอ่ื ชวี ติ มใิ ชเ่ ป็นเพยี งหน้าทห่ี รอื เหตผุ ลพบปะสงั สรร
กบั เพอ่ื นพอ้ งหมคู่ ณะแบบประชุมสมั มนา การเขา้ เงยี บจงึ เป็นชว่ งเวลาสงบเงยี บ เพอ่ื ฟังและเปิดดวงใจของ
ตนเองต่อพระเจา้ ผเู้ สดจ็ มาและผทู้ ว่ี ญิ ญาณตอ้ งการพบปะพระเจา้ พบปะพระเยซเู จา้ ถา้ หากมใิ ชอ่ ยอู่ ยา่ งเงยี บ
สงบเพอ่ื พบปะพระองค์ กม็ ใิ ชก่ ารเขา้ เงยี บ มใิ ชเ่ ป็นการพบปะอนั ทรงคุณคา่ และเพม่ิ ความหมายแกช่ วี ติ ในทกุ สง่ิ
ทม่ี แี ละเป็นอยู่ เราจงวอนขอพระองคอ์ ย่างลกุ รอ้ นเพอ่ื ใหพ้ ระองคเ์ สดจ็ มาและเราไดอ้ ยรู่ อตรงหน้าประตชู วี ติ เพอ่ื

4 เป็นเมืองท่ีศิษยพ์ ระเยซูเจำ้ ไดร้ ับชื่อวำ่ “คริสตชน” เป็นคร้ังแรก



ตอ้ นรบั พระองค์ รบั ฟังสงิ่ ทพ่ี ระเจา้ ทรงตรสั ...ทงั้ ตรสั โดยตรงหรอื โดยออ้ ม ควบคไู่ ปกบั การสวดภาวนาวอนขอ
พระจติ เจา้ อยา่ งรอ้ นรน

พระวรสารนกั บุญมทั ธวิ จะนาชวี ติ ของเราไปรจู้ กั พระเยซูเจา้ องคค์ วามรกั เรมิ่ ตน้ ดว้ ยลาดบั วงศต์ ระกลู
ตามคาสญั ญาแหง่ พนั ธสญั ญาเดมิ สชู่ วี ติ แบบหญงิ พรหมจารผี รู้ อบคอบสบิ คน ผพู้ รอ้ มออกไปรบั เจา้ บา่ วทจ่ี ะ
มาถงึ สคู่ วามเป็นเจา้ บ่าวผซู้ ่อื สตั ยใ์ นชวี ติ ของประกาศกโฮเชยา (ฮชย. 2:4) และการตรวจสอบกจิ การของชวี ติ ผรู้ บั
ใช้ ผา่ นกจิ การแหง่ ความรกั ต่อผตู้ ่าตอ้ ย ผเู้ ป็นพน่ี ้องชายหญงิ ของพระองค์ คอื จงอย่าปฏเิ สธพระเจา้ และปฏเิ สธ
กจิ เมตตารกั ต่อเพอ่ื นมนุษยอ์ กี เลย ดงั ทพ่ี ระองคท์ รงตรสั กบั เรา ในเรอ่ื งการพพิ ากษาครงั้ สุดทา้ ยใน มธ. 25: 34
– 40 วา่ “34 แลว้ พระมหากษตั รยิ จ์ ะตรสั แกผ่ ทู้ อี่ ยเู่ บ้อื งขวาวา่ ‘เชญิ มาเถดิ ทา่ นทงั้ หลายทไี่ ดร้ บั พระพรจากพระ
บดิ าของเรา เชญิ มารบั อาณาจกั รเป็นมรดกทเี่ ตรยี มไวใ้ หท้ า่ นแลว้ ตงั้ แต่สรา้ งโลก 35 เพราะวา่ เมอื่ เราหวิ ทา่ นให้
เรากนิ เรากระหาย ทา่ นใหเ้ ราดมื่ เราเป็นแขกแปลกหน้า ทา่ นกต็ อ้ นรบั 36 เราไมม่ เี ส้อื ผา้ ทา่ นกใ็ หเ้ สอ้ื ผา้ แกเ่ รา
เราเจบ็ ป่วย ทา่ นกม็ าเยยี่ ม เราอยใู่ นคุก ทา่ นกม็ าหา’ 37 “บรรดาผชู้ อบธรรมจะทลู ถามวา่ ‘พระเจา้ ขา้ เมอื่ ไรเลา่
ขา้ พเจา้ ทงั้ หลายเหน็ พระองคท์ รงหวิ แลว้ ถวายพระกระยาหาร หรอื ทรงกระหาย แลว้ ถวายใหท้ รงดมื่ 38 เมอื่ ใด
เลา่ ขา้ พเจา้ ทงั้ หลายเหน็ พระองคท์ รงเป็นแขกแปลกหน้า แลว้ ตอ้ นรบั หรอื ทรงไมม่ เี สอ้ื ผา้ แลว้ ถวายให้ 39 เมอื่ ใด
เลา่ ขา้ พเจา้ ทงั้ หลายเหน็ พระองคป์ ระชวรหรอื ทรงอยใู่ นคุกแลว้ ไปเยยี่ ม’ 40 พระมหากษตั รยิ จ์ ะตรสั ตอบวา่ ‘เรา
บอกความจรงิ แกท่ า่ นทงั้ หลายวา่ ทา่ นทาสงิ่ ใดตอ่ พนี่ ้องผตู้ า่ ตอ้ ยทสี่ ดุ ของเราคนหนงึ่ ทา่ นกท็ าสงิ่ นนั้ ตอ่ เรา’
แสดงถงึ พระทยั ของพระเยซูเจา้ ผทู้ รงนาพาชวี ติ สแู่ สงสวา่ ง สหู่ นทาง ความจรงิ และชวี ติ 5 ในความรกั ของ
พระองคเ์ ชน่ เดยี วกบั คาสอนของนกั บุญยอหน์ วา่ พระเจา้ คอื องคค์ วามรกั (1ยน. 4: 16) ผทู้ พ่ี บพระเจา้ กพ็ บปะกบั
ความรกั ผทู้ ร่ี กั ปฏบิ ตั กิ จิ เมตตารกั กม็ พี ระเจา้ เป็นของตน ซง่ึ แสดงถงึ พระพรอนั เป่ียมลน้ จากพระเมตตาของ
พระเป็นเจา้ โดยทางพระเยซูครสิ ตเจา้ ผทู้ รงไถ่กมู้ นุษยใ์ หร้ อดพน้ จากโทษบาปและนรก นาพามนุษยก์ ลบั สู่
ความเป็นบตุ รของพระเจา้ เป็นอสิ ระเหมอื นพระเจา้ สามารถทจ่ี ะรกั ไดแ้ บบเดยี วกบั พระเจา้ ในความหมาย
เดยี วกบั ทพ่ี ระคมั ภรี ์ ปฐมกาล 1: 26 - 27 วา่ “26 พระเจา้ ตรสั วา่ “เราจงสรา้ งมนุษยข์ น้ึ ตามภาพลกั ษณ์ของเรา
ใหม้ คี วามคลา้ ยคลงึ กบั เรา ใหเ้ ป็นนายปกครองปลาในทะเล นกในทอ้ งฟ้า สตั วเ์ ลย้ี ง สตั วป์ ่าและสตั วเ์ ล้อื ยคลาน
บนพ้นื ดนิ ” 27 พระเจา้ ทรงสรา้ งมนุษยต์ ามภาพลกั ษณ์ของพระองค์ พระองคท์ รงสรา้ งเขาตามภาพลกั ษณ์ของ
พระเจา้ พระองคท์ รงสรา้ งใหเ้ ป็นชายและหญงิ ” ดงั น้ี จงหนั ไปหาและพบปะกบั พระเจา้ อย่างทพ่ี ระองคท์ รงเป็น
เพอ่ื ชวี ติ ของเราจะไดใ้ ชอ้ สิ ระอยา่ งผมู้ อี านาจเตม็ ทจ่ี ะใชไ้ ดอ้ ยา่ งเกดิ ผลต่อพระเจา้ รกั พระเจา้ และรกั เพอ่ื นมนุษย์
เทา่ กบั เป็นการมอบชวี ติ ตดิ ตามพระองค์ รบั ใชพ้ ระเจา้ รว่ มมอื กบั พระองค์ ลงมอื ปฏบิ ตั กิ จิ การชวี ติ ใหพ้ ระ
ประสงคข์ องพระเจา้ สาเรจ็ ใหพ้ ระบญั ญตั เิ ป็นความชอบธรรมของชวี ติ เป็นเครอ่ื งหมายแหง่ ความรกั และนาพา
ชวี ติ ผา่ นบทเรยี นแห่งพนั ธสญั ญาเดมิ ไปสคู่ วามสขุ สมบรู ณ์ในหนทางแห่งความเป็นจรงิ ในพนั ธสญั ญาใหม่ คอื
องคพ์ ระเยซูครสิ ตเจา้ ผทู้ รงไถ่กเู้ รามนุษย์ และทรงประทบั อยทู่ า่ มกลางมนุษยต์ ลอดไปจนถงึ วนั ทพ่ี ระองคจ์ ะ
เสดจ็ กลบั มาอกี ครงั้ หน่งึ

5 สิ่งแนะนำนกั บุญมทั ธิว ส่วนแรกน้ี นำมำจำกหนงั สือ รำพงึ และเขำ้ ใจพระวรสำรนกั บุญมทั ธิว เป็นคำนำบทเทศน์ของคุณพอ่ เชลีนำส พระสงฆ๋คณะ

เยสุอิต ชำวแคนำดำ จดั พมิ พโ์ ดย คณะภคินีเซนตป์ อล เดอ ชำร์ตร พมิ พ์ เดือนสิงหำคม 2009



ขอเสนอเน้อื หาสรปุ ของพระวรสารนกั บญุ มทั ธวิ แบง่ ออกเป็น 5 สว่ น เหมอื นกบั พระคมั ภรี พ์ นั ธสญั ญา
เดมิ ภาคปัญจบรรพ มี 5 เล่ม กอ่ นเขา้ สหู่ ว้ งการศกึ ษาวพิ ากษ์ คดิ วเิ คราะหแ์ ละไตรต่ รอง เพอ่ื ประโยชน์ของการ
ประกาศขา่ วดแี บบใหม่ (The New Evangelization) ในยคุ ปัจจุบนั แตล่ ะเลม่ ยอ่ ย หรอื แตล่ ะสว่ น จบขอ้ ความ
ดว้ ย “เมือ่ พระเยซเู จา้ ตรสั ถอ้ ยคาเหล่าน้ีจบแล้ว” ดงั น้ี
The Promised Messiah

เล่ม 1 ประกอบดว้ ย เน้ือหา มธ. 1: 1 – 7: 28 จบดว้ ยขอ้ ความ “เมอื่ พระเยซูเจ้าตรสั ถอ้ ยคาเหล่าน้ีจบแล้ว”

บทท่ี 1 เรมิ่ ตน้ ดว้ ยลาดบั พระวงศแ์ สดงวา่ พระเยซูเจา้ ทรงเป็นบตุ รของอบั ราฮมั อสิ อคั และยาโคบ พวกทา่ น
ทงั้ สามเป็นบคุ คลหลกั สาคญั ของหนงั สอื ปฐมกาล

บทท่ี 2 เล่าเรอ่ื งการอพยพของพระเยซเู จา้ ไปประเทศอยี ปิ ต์
บทท่ี 3 แสดงถงึ พระเยซูเจา้ ทรงเขา้ สคู่ วามศกั ดสิ ์ ทิ ธดิ ์ ว้ ยการรบั พธิ ลี า้ งจากยอหน์ บปั ตสิ ตา ในแมน่ ้าจอรแ์ ดน

เหมอื นกบั ประชากรของพระเจา้ ขา้ มทะเลแดง
บทท่ี 4 เป็นเหตุการณ์ทพ่ี ระเยซูเจา้ ทรงอยใู่ นถนิ่ ทุรกนั ดารเป็นเวลา 40 วนั รว่ มกบั ประชากรชาวอสิ ราเอลอยู่

ในถน่ิ ทรุ กนั ดารเป็นเวลา 40 ปี พระองคท์ รงชนะการประจญลอ่ ลวง แกไ้ ขการพา่ ยแพข้ องประชากรใน
อดตี
Messiah in Word
บทท่ี 5 – 7 พระเยซเู จา้ ทรงเป็นเหมอื นโมเสส แต่ยง่ิ ใหญ่กวา่ พระองคท์ รงสอนและทรงทาใหห้ นทางแหง่
บญั ญตั สิ บิ ประการมคี วามครบถว้ นสมบรู ณ์ พระเยซูเจา้ ทรงนาสอนหนทางแหง่ ความสขุ แทจ้ รงิ ซง่ึ
นาไปสอู่ าณาจกั รสวรรค์ และทรงอธบิ ายเตมิ คาสอนของโมเสสใหส้ มบรู ณ์ พรอ้ มแสดงวา่ พระเป็นเจา้
ทรงเป็นพระบดิ าของมนุษยท์ กุ คน
เป็นวถิ ใี หมแ่ หง่ การดาเนินชวี ติ ทน่ี าความเชอ่ื ศรทั ธาในพระเจา้ ตามคาสอนของอบั ราฮมั และโมเสส ใน
หนงั สอื ปฐมกาลสคู่ วามครบถว้ นสมบรู ณ์ในองคพ์ ระเป็นเจา้ ผทู้ รงเป็นองคค์ วามรกั และความสขุ แทจ้ รงิ
Messiah in Deeds
เล่มที่ 2 ประกอบดว้ ย มธ. 8: 1 - 11: 1 จบดว้ ยขอ้ ความ “เมอื่ พระเยซูเจา้ ตรสั สงั่ สอนศษิ ยส์ บิ สองคนแลว้ ”

บทท่ี 8 – 9 พระเยซูเจา้ ทรงทาอศั จรรยต์ อ่ เน่อื ง 10 อยา่ ง เหมอื นทโ่ี มเสสตสี อนอยี ปิ ตด์ ว้ ยภยั พบิ ตั ิ 10 ประการ
บทท่ี 10 พระเยซเู จา้ ทรงสถาปนาประชากรใหม่ของพระเจา้ และเลอื กอคั รสาวก 12 คน แบบเดยี วกบั บุตรของ

ยาโคบ 12 คน เป็นกลุ่มประชากรของพระเป็นเจา้ 12 กล่มุ
เหมอื นกบั เรอ่ื งเลา่ ในหนงั สอื อพยพ
Jesus as New Torah
เล่มท่ี 3 ประกอบดว้ ย มธ. 11: 2 – 13: 53 จบดว้ ยขอ้ ความ “เมอื่ พระเยซูเจา้ ตรสั เรอื่ งอุปมาเหล่าน้ีจบแลว้ ”

บทท่ี 11 - 13 พระเยซเู จา้ ทรงสอนและเตอื นประชาชนใหป้ ฎบิ ตั เิ พอ่ื ตอบรบั อาณาจกั รสวรรค์ นาพาใหก้ ลบั ใจ
หนั เขา้ หาพระเจา้ แบบอย่างของผรู้ บั ใชพ้ ระยาเวห์ และคาสอนแบบเรอ่ื งอปุ มา เป็นกจิ การนาชวี ติ เขา้
รบั การชาระลา้ งใหบ้ รสิ ทุ ธิ ์และถวายชวี ติ บรรณการเป็นเครอ่ื งบชู าแดพ่ ระเจา้
เหมอื นกบั คาสอนและบญั ญตั ใิ นหนงั สอื เลวนี ติ ิ

Jesus as New Moses



เล่ม 4 ประกอบดว้ ย มธ. 13: 54 – 19: 1 จบดว้ ยขอ้ ความ “เมอื่ พระเยซูเจา้ ตรสั เรอื่ งน้ีจบแลว้ ”
บทท่ี 13: 54 – 18 พระเยซเู จา้ ทรงสอนธรรมลา้ ลกึ เรอ่ื งพระอาณาจกั รสวรรค์ เหมอื นกบั ทโ่ี มเสสไดส้ อนใหร้ จู้ กั

ปฏบิ ตั ติ นในฐานะประชากรของพระเป็นเจา้ และเคารพเชอ่ี ฟัง ถวายบชู าแดพ่ ระเจา้ อยา่ งเหมาะสม
เหมอื นกบั คาสอนการปฏบิ ตั ใิ นหนงั สอื กนั ดารวถิ ี
Jesus as the Son of God
เล่มที่ 5 ประกอบดว้ ย มธ. 19: 2 – 26: 1 จบดว้ ยขอ้ ความ “เมอ่ื พระเยซูเจา้ ตรสั พระวาจาเหล่าน้ีแลว้ ” และ
สว่ นทเ่ี หลอื ถงึ มธ. 28: 18 – 20 เป็นเรอ่ื งเล่าถงึ พระเยซูเจา้ ทรงเป็นพระเมสสยิ าหท์ แ่ี ทจ้ รงิ และ
เปิดเผย ดงั ทพ่ี ระคมั ภรี ไ์ ดเ้ ขยี นบนั ทกึ ไวล้ ่วงหน้า
บทท่ี 19 – 25 แสดงพระเยซเู จา้ เสดจ็ ขา้ มแมน่ ้าจอรแ์ ดน เขา้ ไปยงั เมอื งเยรโิ ค ทรงอธบิ ายความหมายของ
อาณาจกั รสวรรคแ์ ละการเตรยี มพรอ้ มนาพาตนสอู่ าณาจกั รสวรรค์ แบบอุปมา

บทท่ี 26 – 28 พระเยซูเจา้ เสดจ็ เขา้ กรงุ เยรซู าเลม็ เหมอื นกษตั รยิ ด์ าวดิ แตท่ รงหลงั ลกู ลา และทรงก่อตงั้ พธิ บี ชู า-
ยญั แบบใหม่ และทรงกระทาใหค้ าทานายของบรรดาประกาศกสาเรจ็ เป็นจรงิ ทรงมอบชวี ติ เพอ่ื เป็น
แบบอยา่ งและหนทางนาไปสกู่ ารไถก่ ใู้ หร้ อดพน้ เพอ่ื ความรอดของโลกในพระสริ ริ งุ่ โรจน์ทท่ี รงแสดงให้
เหน็ ผ่านทางชวี ติ การรบั ทกุ ขท์ รมาน การสน้ิ พระชนม์ การเสดจ็ กลบั คนื พระชนมชพี และการเสดจ็ สู่
สวรรค์ กบั การมอบหมายใหไ้ ปสงั่ สอนนานาชาติ ประกาศขา่ วดแี หง่ อาณาจกั รสวรรค์ นาประชากรของ
พระเจา้ มาถวายแด่พระบดิ า การไถก่ ขู้ องพระองคส์ าเรจ็ สมบูรณ์ในพระองคเ์ อง
เหมอื นกบั ความหมายแหง่ ความรกั และตอบรบั พระประสงคใ์ นหนงั สอื เฉลยธรรมบญั ญตั ิ
ดงั น้ี เมอ่ื พระองคพ์ ระเป็นเจา้ เสดจ็ มาเยย่ี ม มาพบเรามนุษยอ์ กี เชน่ น้ี ฉนั กจ็ ะไดต้ อบรบั และเชญิ เสดจ็

พระองค์ ตอ้ นรบั พระองคเ์ ขา้ ในบา้ นแห่งชวี ติ ของเรา ขอทรงประทบั อยกู่ บั เราตลอดไปและตลอดนริ นั ดร
ต่อไปน้เี ป็นขนั้ การศกึ ษา คน้ หาความหมายและรจู้ กั พระเยซูเจา้ ตามบทเรยี นตา่ งๆ เชญิ เรยี นรศู้ กึ ษา

ไตรต่ รองเพอ่ื รจู้ กั พบปะ ทาความคนุ้ เคยและสนิทกบั พระองค์ ดว้ ยการปฏบิ ตั ติ น ตดิ ตามพระองค์ ประกาศขา่ ว
ดแี ห่งอาณาจกั รสวรรคแ์ ก่เพอ่ื นมนุษยแ์ ละนาเพอ่ื นมนุษยท์ กุ คนเขา้ สสู่ วรรคน์ ิรนั ดรในพระสริ ริ งุ่ โรจน์ของพระ
เป็นเจา้

กลบทแบบ Chiastic ของบทเทศนาบนภเู ขา ในพระวรสารนกั บุญมทั ธวิ บทท่ี 5 – 7



Messiah in Word ความสขุ แทจ้ รงิ 8 ประการ
เรอ่ื งเกลอื ดองแผน่ ดนิ และแสงสวา่ งสอ่ งโลก
A : มธ. 5: 3-12 ทรงทาใหธ้ รรมบญั ญตั สิ มบรู ณ์ กจิ การและภาวนา
B : มธ. 5: 13-16 บทภาวนา “ข้าแต่พระบิดา”
C : มธ. 5: 17-48; 6: 1-6
D : มธ. 6: 7-15 สงิ่ สาคญั สาหรบั ชวี ติ ชาระตนตอ่ พระพกั ตรพ์ ระเจา้
การปฏบิ ตั ติ ่อผอู้ น่ื (อยา่ ตดั สนิ เขา, คาภาวนาและกฎปฏบิ ตั )ิ
C’ : มธ. 6: 16-34 ประกาศกเทยี ม, ศษิ ยแ์ ท้ เรอ่ื งคนสรา้ งบา้ น 2 แบบ
B’ : มธ. 7: 1-14
A’ : มธ. 7: 15-20, 21-28

และเมอ่ื เปรยี บกบั บทภาวนา ขา้ แต่พระบดิ า เมอื่ ท่านอธษิ ฐานตอ่ พระบดิ า..
ขา้ แตพ่ ระบดิ า...พระนามพระองคจ์ งเป็นทส่ี กั การะ มธ. 6: 9; ลก.
X: มธ. 6: 7-9
11: 2ข
A : มธ. 5: 3-12 A: มธ. 6: 9
พระอาณาจกั รจงมาถงึ มธ. 6: 10ก; ลก. 11: 2ค
B : มธ. 5: 13-16 B: มธ. 6: 10 พระประสงคจ์ งสาเรจ็ ไป.... มธ. 6: 10ข
C : มธ. 5: 17-48; 6: 1-8
D : มธ. 6: 7-15 C; มธ. 6: โปรดประทานอาหารประจาวนั แก่ขา้ พเจา้ ทงั้ หลาย มธ. 6: 11; ลก.
10ข
C’ : มธ. 6: 16-34 11: 3ก
B’ : มธ. 7: 1-14 D; มธ.
A’ : มธ. 7: 15-20, 21-28 6:11 โปรดอภยั แก่ขา้ พเจา้ ... มธ. 6: 12; ลก. 11: 3ข – 4ก

C: มธ. 6: โปรดอยา่ ปลอ่ ยใหแ้ พก้ ารประจญ มธ. 6: 13ก; ลก. 11: 4ข
12
โปรดช่วยใหพ้ น้ จากความชวั่ รา้ ย มธ. 6: 13ข
B: มธ. 6: พระบดิ าจะ...ประทานใหท้ า่ น...
13ก
A: มธ. 6: 13ข

X: มธ. 6: 14-
15

เปรยี บเทยี บ บทขา้ แตพ่ ระบดิ า ใน ลก. 6: 9-13, 14-15

อศั จรรย์ 10 ประการ ในพระวรสารนกั บุญมทั ธวิ บทท่ี 8 – 9

 พระเยซเู จา้ ทรงกระทาใหก้ จิ การของโมเสสสาเรจ็ ครบสมบรู ณ์ พระองคท์ รงเป็นพระเมสสยิ าหใ์ นกจิ การ
(Messiah in Deeds)

1. ทรงรกั ษาคนโรคเรอ้ื น (มธ. 8: 1-4)
2. ทรงรกั ษาผรู้ บั ใชข้ องนายรอ้ ยทหารโรมนั (มธ. 8: 5-13)



3. ทรงรกั ษามารดาภรรยาของนกั บุญเปโตร (มธ. 8: 14-15)
4. ทรงรกั ษาผปู้ ่วยจานวนมาก (มธ. 8: 16-17)
5. ทรงบงั คบั คลน่ื พายุใหส้ งบ (มธ. 8: 23-27)
6. ทรงรกั ษาชาวกาดาราผถู้ กู ผสี งิ (มธ. 8: 28-34)
7. ทรงรกั ษาคนอมั พาต (มธ. 9: 1-8)
8. ทรงรกั ษาหญงิ ตกโลหติ และทรงปลุกบุตรสาวของหวั หน้าศาลาธรรมใหก้ ลบั คนื ชพี (มธ. 9: 18-26)
9. ทรงรกั ษาคนตาบอด 2 คน (มธ. 9: 27-31)
10. ทรงรกั ษาคนถูกปีศาจสงิ (มธ. 9: 32-34)
สรปุ พระเยซเู จา้ ทรงสงสารประชาชนในความทกุ ขล์ าบากทพ่ี วกเขาไดร้ บั พระองคท์ รงพระเมตตารกั ษาใหท้ กุ

คนหายจากโรครา้ ย และทรงกาชบั ให(้ ภาวนา)วอนขอพระเป็นเจา้ ,พระบดิ า,ใหท้ รงคนงานมาทางาน
ชว่ ยเหลอื เพม่ิ เตมิ ((มธ. 9: 35-38)
พระเยซเู จา้ ทรงเรยี กอคั รสาวก 12 องค์ และทรงอบรมสอนพวกเขาในภารกจิ ทศ่ี ษิ ยจ์ ะไดร้ บั มอบหมาย
(Discipleship)


Click to View FlipBook Version