The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ตรวจงานแปลมัทธิว 26

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by P. Tads, 2021-06-08 08:56:02

25. มัทธิว 26:1 – 28:28

ตรวจงานแปลมัทธิว 26

มทั ธวิ 26:1 – 28:28 พระมหาทรมานและการกลบั ฟ้ืนคนื พระชนมช์ พี ของพระเยซูเจา้

พระเยซูครสิ ตเจา้ ในสภาพรบั ทนทรมานในฐานะพระเจา้ แห่งความอดทน ภาพมนุษย์ สตรคี รา่ ครวญเบ้อื งหน้าพระศพของ
หรอื พระสวามเี จา้ แห่งจติ ภาวนาไตร่ตรอง ทรงรบั มงกุฏหนามและคทาไม้ พระครสิ ตเจ้า วาดประมาณ ค.ศ. 1610 ภาพสี
ออ้ และถกู ตโี ดยทหารโรมนั ภาพวาดสนี ้ามนั โดยMatthias Stom. น้ามนั โดย Peter Paul Rubens.

ภาพรวม

เร่อื งพระเยซูเจา้ ทรงยอมรบั ทุกข์ พระมหาทรมานและการสน้ิ พระชนมช์ พี ของพระเยซูเจา้ มกั เรยี กขาน

กนั ตามธรรมประเพณีว่า “เร่อื งราวพระมหาทรมาน” (Passion Story) แต่คาน้ีไม่มปี รากฏอยู่ในพระคมั ภีร์ ซ่ึง

สนั นิษฐานว่าคาน้ีไดจ้ ากคาภาษาองั กฤษ ในลกั ษณะเกย่ี วขอ้ งกบั ความรสู้ กึ ทร่ี ุนแรง แต่ทจ่ี รงิ คาว่า “Passion”

ในทน่ี ้ีเช่อื มโยงกบั คาว่า “ไม่โต้ตอบ” (Passive) จากเร่อื งเล่าบรรยายใหท้ ราบว่าพระเยซูเจา้ ไม่ใช่ผทู้ ล่ี งมอื ก่อน

แต่ไม่ทรงโตต้ อบ เป็นผถู้ กู กระทา พระองคไ์ ม่ได้ “สน้ิ พระชนม”์ เอง แต่ถูกทาให้หรอื ทรงยอมรบั พระมหาทรมาน

และการสน้ิ พระชนม์ (Killed) พระองคไ์ ม่ได้ทรงกลบั คนื พระชนม์ด้วยพระองค์เอง (Rise) แต่พระเป็นเจ้าทาให้

พระองค์กลบั ฟ้ืนคนื พระชนม์ชพี ขน้ึ มา (Raised) ในความทุกขท์ รมานและความตายของบุตรแห่งมนุษย์ มนุษย์

เป็นเพียงผู้กระทาในระดบั พ้ืนผวิ ภายนอกในบทบรรยายเร่อื งเท่านัน้ พระเป็นเจ้าคือผู้ดาเนินการท่ีซ่อนอยู่

เบอ้ื งหลงั ฉากเหตุการณ์ทเ่ี กดิ ขน้ึ ส่วนในการกลบั ฟ้ืนคนื พระชนมช์ พี พระเป็นเจา้ ทรงเป็นผกู้ ระทาการแต่เพยี ง

พระองคเ์ ดยี ว

นกั บุญมทั ธวิ ดาเนินตามเรอ่ื งเล่าในพระวรสารนักบุญมาระโกอย่างละเอยี ด แต่ละเว้นรายละเอยี ดทเ่ี ป็น

สสี นั บางอย่างเชน่ เดยี วกบั ในสว่ นอ่นื ๆ ทย่ี งั คงรกั ษาองคป์ ระกอบของบทบรรยายเร่อื งไวท้ งั้ หมด ยกเวน้ 14:51-

52 และเตมิ เร่อื งราวเพมิ่ ขน้ึ มาจากพระวรสารนักบุญมาระโก เช่น เร่อื งการตดั สนิ ใจของยูดาสหลงั จากพระเยซู

เจา้ สน้ิ พระชนม์ (27:3-10) และยามเฝ้าคูหาท่ฝี ังพระศพ (27:62-66) ความหมายทโ่ี ดดเด่นในมุมมองของพระวรสาร

นักบุญมทั ธวิ แสดงออกมาผ่านการปรบั เปลย่ี นเร่อื งเล่าจากพระวรสารนักบุญมาระโกอย่างละเอยี ดอ่อนและดว้ ย

การทาใหโ้ ครงสรา้ งทางวรรณกรรมโดดเด่นขน้ึ มา จุดมุ่งเน้นทางเทวศาสตรใ์ นบทบรรยายเร่อื งของนักบุญมาระ

โกไดถ้ กู เปลย่ี นไปในทศิ ทางดงั ต่อไปน้ี

(1) นักบุญมาระโกเล่าเร่อื งแสดงภาพของพระเยซูเจา้ ในฐานะบุตรแห่งมนุษยผ์ ูท้ รงฤทธานุภาพไวใ้ นครง่ึ

แรกของพระวรสารเท่านัน้ และเร่อื งราวพระมหาทรมานในฐานะขา้ รบั ใช้ผู้ตกเป็นเหย่อื และทนรบั ความทุกข์

ทรมานและความตายโดยไม่โต้ตอบ แต่นักบุญมทั ธวิ ทาใหล้ กั ษณะของความเป็นบุตรแห่งมนุษยผ์ ูท้ รงฤทธานุ

ภาพครอบคลุมถงึ ในสว่ นทเ่ี ป็นเรอ่ื งราวพระมหาทรมานดว้ ย โดยแสดงใหเ้ หน็ ภาพวา่ พระเยซูเจา้ ทรงเป็นเจา้ นาย

เหนือชวี ติ แต่พระองคท์ รงเลอื กทจ่ี ะนบนอบยอมรบั พระประสงคข์ องพระบดิ าเจา้ ในการไถ่กมู้ นุษยใ์ หร้ อดพน้ จงึ

ทรงยอมรบั ทรมานและสน้ิ พระชนมบ์ นไมก้ างเขนแบบมนุษยอ์ ยา่ งแทจ้ รงิ

535

(2) ในพระวรสารนกั บุญมาระโก เรอ่ื งราวพระมหาทรมานคอื การเปิดเผยตวั ตนครงั้ แรกของพระเยซูเจา้ (14:
61-62; 15: 39) ก่อนหน้านนั้ ท่านนกั บุญมาระโกเล่าเรอ่ื งแบบแสดงพฤตกิ รรมของพระเยซูเจา้ ตามลาดบั แบบค่อยๆ
เปิดเผยความเป็นพระเมสสยิ าห์ใหต้ วั ละครอ่นื ๆ ไดร้ ูใ้ นเหตุการณ์ต่างๆ (ภายใตก้ รอบความคดิ เรืืื่องความลบั ของผเู้ ป็น
พระเมสสยิ าห)์ แต่ตวั ตนหรอื พระบุคคลของพระเยซูเจา้ ในพระวรสารนักบุญมทั ธวิ นัน้ เปิดเผยมาตงั้ แต่บทแรกแลว้
ดงั นนั้ สง่ิ ทม่ี งุ่ เน้นจงึ เปลย่ี นจากการเกบ็ ความลบั เป็นการทพ่ี ระเมสสยิ าห์ทรงถกู ปฏเิ สธจากประชากรของพระองค์
เอง และค่อยๆ แยม้ เปิดเผยตามลาดบั เหตุการณ์ในพระชนมช์ พี ของพระองค์ ทงั้ แก่ชาวยวิ และชาวต่างชาตติ ่าง
ศาสนา เชน่ ชนต่างชาตติ ่างๆ และทหารโรมนั เป็นตน้ ดงั แผนภาพ

แผนภาพเปรียบเทียบเหตกุ ารณ์ ระหวา่ ง มธ. 1: 20 - 2: 15 กบั มธ. 21: 10 – 28: 20

2:3 เกดิ ความแตกต่นื ไปทวั่ ทงั้ กรงุ เยรซู าเลม็ 21:10
2:13-15 สรปุ การอพยพ/ปัสกา
2:4 ปฏปิ ักษ์: มหาปุโรหติ /พวกผใู้ หญ่ของประชาชน 26:1, 17-29
(ฟารสิ แี ละธรรมาจารยใ์ นระหวา่ งนนั้ ); 26:3-4

1:20; 2:12-13, การเปิดเผยทางความฝัน

19, 22 (ความฝันหายไปในระหวา่ งนนั้ ) 27:19
1:20, 24; 2:13, 19 การปรากฏของทตู สวรรค์

2:2, 8, (“ทตู ของพระเจา้ ” หายไปในระหวา่ งนนั้ ) 28:5
11 เหน็ และนมสั การ 28:17
2:3 วนุ่ วายใจ 28:17
1-2 ความเป็นกษตั รยิ /์ สทิ ธอิ านาจ “กษตั รยิ ข์ องชนชาตยิ วิ ” 28:18
1-2 ภาพพจน์ของผมู้ เี ชอ้ื สายของดาวดิ /บตุ รมนุษย์ 28:18-20
1:2ff.; คนต่างชาติ 28:19
2:1ff. พระบดิ า/พระบุตร/พระจติ 28:19
1:16-23 ความเชอ่ื มโยงทางประวตั ศิ าสตรใ์ นอดตี /สว่ นทเ่ี หลอื ของประวตั ศิ าสตร์ 28:20
1:2-17 การทรงสถติ ของพระเจา้ (“กบั ” [ภาษากรกี เมตา]) 26:18,
1:23
20, 29,

38, 40;

28:20

(3) ภาพของพระเยซูเจา้ ในฐานะ “กษตั รยิ ข์ องชาวยวิ ” โดดเด่นอยู่แล้วในพระวรสารนักบุญมาระโก แสดง
ลกั ษณะพฤตกิ รรมเช่อื มโยงกบั ภาพการพบปะเผชญิ หน้าความแตกต่างเกย่ี วกบั อาณาจกั รสวรรคแ์ ละพระเมสสิ
ยาหต์ ามความเขา้ ใจการรบั รหู้ รอื จากการตคี วามหมายทแ่ี ตกตา่ งกนั หรอื ระหวา่ งสองอาณาจกั ร(อาณาจกั รของพระเจา้
(สวรรค์)และอาณาจกั รของซาตาน) ซ่ึงนักบุญมทั ธวิ ได้เผยแสดงให้เห็นความเป็นพระเมสสยิ าห์ของพระเยซูเจ้าเป็น
แนวคดิ หลกั ของพระวรสารน้ีโดยรวม ซง่ึ แสดงอย่างเปิดเผยตงั้ แต่เรมิ่ ตน้ พระวรสารอย่แู ลว้ (ดู 12:22-37 และบทเสรมิ

เรอ่ื ง “อาณาจกั รสวรรคใ์ นพระวรสารนกั บุญมทั ธวิ ”)

(4) ในอกี ทางหน่ึง พระเยซูเจ้าในฐานะของกษตั รยิ ์ผูถ้ ่อมตนและแสดงความเป็นกษัตรยิ ์ด้วยการยอมรบั
ความทุกข์ทรมานแทนท่จี ะกระทาโต้ตอบ ทรงถอนตวั จากการเผชญิ หน้าเพ่อื แสดงให้เหน็ ถงึ ลกั ษณะของพระ

536

อาณาจกั รของพระเป็นเจา้ อย่างทเ่ี ราเหน็ ในส่วนก่อนหน้าน้ี ทรงเผชญิ หน้าอย่างเดด็ เด่ียวกบั ปิศาจทอ่ี ย่ใู นร่าง
ของชาวยวิ และชาวโรมนั รวมถงึ ความลม้ เหลวของบรรดาศษิ ย์

(5) นักบุญมทั ธวิ ไดส้ รา้ งกรอบลอ้ มรอบพระวรสารทงั้ หมดดว้ ยการนาเร่อื งราวการประสตู ขิ องพระเยซูเจา้
ซง่ึ สอดคลอ้ งกบั เรอ่ื งราวพระมหาทรมานหลายอย่าง มานาหน้าส่วนทเ่ี ป็นบทบรรยายเร่อื ง สงิ่ น้ีส่งผลใหเ้ ราเหน็
เรอ่ื งราวพระมหาทรมานในแงม่ มุ แบบใหม่ดว้ ย อย่างทเ่ี ราเหน็ จากตวั อย่างต่อไป นกั บุญมทั ธวิ มกั จะนาเรอ่ื งราว
พระมหาทรมานของพระเยซูเจ้าจากพระวรสารนักบุญมาระโกมาอธิบายความ (Hermeneutical Functions)
เพม่ิ เตมิ ใหช้ ดั เจนขน้ึ

ในทางตรงขา้ มกบั หน่วยท่เี ป็นบทบรรยายเร่อื งขนาดเล็กและคากล่าวสอนต่างๆ ซ่ึงได้ถูกรวบรวมข้นึ โดยผู้นิพนธ์
พระวรสารเพ่อื นามาประกอบขน้ึ มาเป็นบทบรรยายเร่อื งของพระวรสารทงั้ หมด เร่อื งราวพระมหาทรมานและการกลบั คนื
พระชนมช์ พี ของพระเยซูเจา้ เป็นบทบรรยายทย่ี าวทส่ี ุด ทค่ี งรกั ษาไวใ้ นพระวรสารสหทรรศน์ ซง่ึ จาเป็นตอ้ งอ่านและตคี วาม
แยกต่างหากเป็นหน่วยหน่ึง การเปล่ยี นแปลงสถานท่แี บ่งบทบรรยายน้ีออกเป็น 21 ฉาก พรอ้ มกบั ส่วนเช่อื มโยงอย่าง
สอดคลอ้ งกนั ทไ่ี ดแ้ บ่งเรอ่ื งราวออกเป็นหน่วยต่างๆ ดงั ในภาพรปู ท่ี 12 (และเชน่ เดยี วกบั แผนภาพ รปู ท่ี 8)

แผนภมู ิ 12: โครงสรา้ งของเรอ่ื งเลา่ ของนกั บุญมทั ธวิ เกย่ี วกบั พระมหาทรมานและการฟ้ืนพระชนมข์ องพระเยซู

ฉากท่ี 1 วนั ที่ 3—วนั พธุ
ฉากท่ี 2
ฉากท่ี 3 มทั ธวิ 26:1-2—พระเยซเู จา้ ทรงประกาศถงึ พระมหาทรมานของพระองค์
ฉากท่ี 4 ภเู ขามะกอกเทศ
พระเยซเู จา้ และสาวก
มทั ธวิ 26:3-5—ผนู้ าวางแผนฆา่ พระเยซูเจา้
สานกั ของมหาปุโรหติ คายาฟาส
พวกมหาปุโรหติ และพวกผใู้ หญ่ของประชาชน
มทั ธวิ 26:6-13—หญงิ มญี าณชโลมพระเยซูเจา้ เพอ่ื การฝังพระศพ
เบธานี เรอื นของซโี มนคนโรคเรอ้ื น
พระเยซเู จา้ สาวก หญงิ ไมร่ ะบุชอ่ื
มทั ธวิ 26:14-16—ยดู าสตกลงจะทรยศพระเยซูเจา้
สานกั ของมหาปุโรหติ (?)
วนั พธุ (?)
ยดู าส พวกมหาปุโรหติ

ฉากท่ี 5 วนั ที่ 4—วนั พฤหสั บดี
ฉากท่ี 6 มทั ธวิ 26:17-19—สาวกจดั เตรยี มปัสกา
สถานท?่ี
พระเยซเู จา้ และสาวก
มทั ธวิ 26:20-30a—พระเยซูเจา้ ทรงพยากรณ์ถงึ การทรยศและทรงตงั้ ศลี มหาสนทิ
เยรซู าเลม็ เรอื นของ “ผหู้ น่ึง”
ค่าวนั พฤหสั บดี
พระเยซเู จา้ และสาวก

537

ฉากท่ี 7 มทั ธิว 26:30b-35—พระเยซูเจ้าทรงพยากรณ์ถึงการละท้ิงและทรงสญั ญาว่าจะมีการกลบั มา
รวมตวั กนั ใหม่
ฉากท่ี 8
ภเู ขามะกอกเทศ
ผใู้ หญ่ ค่าวนั พฤหสั บดี
ฉากท่ี 9 พระเยซเู จา้ และสาวกสบิ เอด็ คน
มทั ธวิ 26:36-56—พระเยซูเจา้ ทรงภาวนาและทรงถกู จบั กุม
สวนเกทเสมนี
ค่าวนั พฤหสั บดี
พระเยซูเจ้าและสาวกสบิ เอ็ดคน; ยูดาส; ประชาชนเป็นอนั มากจากพวกมหาปุโรหติ และพวก

แหง่ ประชาชน
มทั ธวิ 26:57-27:1—พระเยซูเจา้ ทรงถูกผนู้ าชาวยวิ กลา่ วโทษและทรงถูกนกั บญุ เปโตรปฏเิ สธ
บา้ นของคายาฟาส
ดกึ คนื วนั พฤหสั บดแี ละเชา้ ตรวู่ นั ศกุ ร์
เจา้ หน้าท่ี พระเยซูเจา้ คายาฟาส พวกธรรมาจารยแ์ ละพวกผใู้ หญ่ [นกั บุญเปโตร ยาม] บรรดา-
สมาชกิ สภา พยานเทจ็ หลายคน พยานเทจ็ สองคน [สาวใชค้ นแรก สาวใชอ้ กี คนหน่ึง คน
ทงั้ หลายทย่ี นื อยใู่ กลๆ้ ]

ฉากท่ี 10 วนั ที่ 5—วนั ศกุ ร์
ฉากท่ี 11
ฉากท่ี 12 มทั ธวิ 27:2—พระเยซูเจา้ ทรงถูกมอบไวแ้ กป่ ีลาต
สถานท?่ี ; เชา้ วนั ศุกร์
ฉากท่ี 13 พวกมหาปโุ รหติ และบรรดาสมาชกิ สภา; พระเยซูเจา้ ; ปีลาต
ฉากท่ี 14 มทั ธวิ 27:3-10—ยดู าสไมอ่ าจชดใชค้ วามผดิ ไดแ้ ละฆา่ ตวั ตาย
ฉากท่ี 15 พระวหิ าร (ขอ้ 5)

เชา้ วนั ศกุ ร์ (?)
พวกมหาปโุ รหติ และพวกผใู้ หญ่; ยดู าส
มทั ธวิ 27:11-25—พระเยซูเจา้ ทรงถกู กล่าวโทษ; ชาวยวิ รบั ความรบั ผดิ ชอบเรอ่ื งการ

สน้ิ พระชนมข์ องพระเยซูเจา้
สถานท?่ี
เชา้ วนั ศกุ ร์
พระเยซเู จา้ ปีลาต พวกมหาปุโรหติ และพวกผใู้ หญ่ ฝงู ชน (“บรรดาหมชู่ น”) [บารบั บสั ภรรยาของปีลาต]
มทั ธวิ 27:26-31a—กษตั รยิ ท์ แ่ี ทจ้ รงิ ทรงถูกลอ้ เลยี น
ศาลาปรโี ทเรยี ม
เชา้ วนั ศุกร์
พระเยซูเจา้ ทหารโรมนั
มทั ธวิ 27:31b-32—ซโี มนถูกเกณฑใ์ หแ้ บกกางเขนของพระเยซูเจา้
เสดจ็ ไปบนเสน้ ทางสกู่ ลโกธา
เชา้ วนั ศุกร์
ทหาร พระเยซูเจา้ ซโี มนชาวไซรนี
มทั ธวิ 27:33-56—พระเยซูเจา้ ทรงถูกตรงึ กางเขน

538

ฉากท่ี 16 กลโกธา
เชา้ วนั ศุกรถ์ งึ 15:00 น.
พระเยซูเจา้ ทหาร คนทงั้ ปวงทเ่ี ดนิ ผา่ นไปมา พวกมหาปโุ รหติ และพวกผใู้ หญ่ โจร
มทั ธวิ 27:57-61—พระเยซูทรงถูกฝัง
จากกลโกธาถงึ อโุ มงค์
เยน็ วนั ศุกร์
โยเซฟ ปีลาต มารยี ช์ าวมกั ดาลา “มารยี อ์ กี คนหน่ึง”

ฉากท่ี 17 วนั ที่ 6—วนั เสาร์

มทั ธวิ 27:62-66—อุโมงคฝ์ ังพระศพพระเยซเู จา้ มยี ามเฝ้าและมกี ารทาใหม้ นั่ คง
เรอื นของปีลาต วนั เสาร์ (วนั สะบาโต)
พวกมหาปโุ รหติ ฟารสิ ี ปีลาต ทหาร

ฉากท่ี 18 วนั ที่ 7—วนั อาทิตย์
ฉากท่ี 19
ฉากท่ี 20 มทั ธวิ 28:1-7—มารยี ส์ องคนพบอโุ มงคว์ า่ งเปล่า
ฉากท่ี 21 อุโมงคน์ อกเมอื ง
ใกลร้ งุ่ เชา้ วนั อาทติ ย์
มารยี ช์ าวมกั ดาลา มารยี อ์ กี คนหน่ึง ทตู ของพระเจา้ ยาม

มทั ธวิ 28:8-10—มารยี ส์ องคนพบพระเยซูเจา้ ผฟู้ ้ืนพระชนม์
ถนนระหวา่ งอุโมงคก์ บั เมอื ง
ใกลร้ งุ่ เชา้ วนั อาทติ ย์
มารยี ส์ องคนและพระเยซูเจา้ ผฟู้ ้ืนพระชนม์

มทั ธวิ 28:11-15—ยามรบั สนิ บนจากพวกมหาปโุ รหติ
เมอื ง
วนั อาทติ ย์
พวกมหาปโุ รหติ พวกผใู้ หญ่ และยาม

มทั ธวิ 28:16-20—พระเยซูเจา้ ผฟู้ ้ืนพระชนมป์ ระทานพระมหาบญั ชา
ภเู ขาในกาลลิ ี
เวลาทไ่ี มแ่ น่ชดั หลงั ปัสกา
สาวกสบิ เอด็ คนและพระเยซูเจา้

มทั ธวิ 26: 1-16 การวางแผนและการถวายบชู าอย่างลน้ เหลอื

539

มทั ธวิ 26: 1-2 พระเยซูเจา้ ทรงประกาศถงึ พระมหาทรมานของพระองค์

VII. พระมหาทรมาน และการกลบั คนื พระชนมชพี
การวางแผนกาจดั พระเยซูเจ้า

1 เม่อื พระเยซูเจา้ ตรสั พระวาจาเหล่าน้ีแลว้ พระองคต์ รสั แก่บรรดาศษิ ยว์ ่า 2 “ท่านทงั้ หลายรแู้ ลว้ ว่า อกี สองวนั จะถงึ วนั ปัสกา และ
บตุ รแหง่ มนุษยจ์ ะถกู มอบใหศ้ ตั รนู าไปตรงึ กางเขน”

ข้อศกึ ษาวิพากษ์

วนั ท่สี ามหรอื วนั พุธเรม่ิ ต้นข้นึ ในท่นี ้ี เราจะเห็นสูตรการสรุปจบวาทกรรมขนาดใหญ่ของพระเยซูเจ้า
ปรากฏขน้ึ เป็นครงั้ สุดทา้ ยในพระวรสารนักบุญมทั ธวิ (ดู เทยี บ 7:28; 11:1; 13:53; 19:1) คาว่า “ทงั้ หมด” (All) ถูกนามา
ใสเ่ พม่ิ ในส่วนน้ีเพ่อื เป็นสญั ญาณวา่ ภารกจิ การเทศน์สงั ่ สอนของพระเยซูเจา้ ไดร้ บั การสรุปจบแลว้ (เป็นอกี สง่ิ ทท่ี าให้
เราระลกึ ถงึ ท่านโมเสส ดู เทยี บ ฉธบ. 31:30; 32:44) ไมม่ วี าทกรรมของพระเยซูเจา้ อยใู่ นเรอ่ื งพระมหาทรมาน เพราะพระองค์
แทบไม่ตรสั อะไรเลย (อสย. 53:7 เทยี บ มธ. 12:15:21 และในพระวรสารเล่มทส่ี ่)ี เช่นเดยี วกบั ในส่วนทผ่ี ่านมา สตู รน้ีทาหน้าท่ี
เป็นสว่ นเชอ่ื มโยงไปสบู่ ทบรรยายเรอ่ื งถดั ไป

นกั บุญมทั ธวิ เรมิ่ ตน้ เรอ่ื งราวพระมหาทรมานดว้ ยการเตมิ คาพยากรณ์เกย่ี วกบั พระมหาทรมานเพม่ิ ขน้ึ มา
ซ่งึ เป็นคาประกาศจากพระเยซูเจ้าเอง ท่ถี ูกย้ายและขยายมาจากความคดิ เห็นของผูบ้ รรยายใน มก. 14:1 คา
ประกาศน้ีทาใหจ้ ติ ใจของผอู้ ่านยอ้ นระลกึ ถงึ คาพยากรณ์อ่นื ๆ เกย่ี วกบั พระมหาทรมาน (ดู 16:21) แสดงใหเ้ หน็ ว่า
พระเยซูเจา้ ทรงเป็นผเู้ รมิ่ ต้นเหตุการณ์ทุกอย่างท่กี าลงั จะเกดิ ขน้ึ ตามมา ซ่งึ พระองค์ไม่เพยี งแต่ทรงตอ้ งอดทน
เท่านนั้ แต่ในแง่มุมหน่ึงพระองคก์ ท็ รงเป็นเจา้ นายผคู้ วบคุมดว้ ย คาประกาศนัน้ ไม่ใช่แค่ขอ้ มูล แต่แสดงความมี
อานาจล่วงหน้าเหนือแผนการของมหาสมณะและผอู้ าวโุ สชาวยวิ ทต่ี ดั สนิ ใจจะจบั กุมพระองคใ์ นชว่ งเทศกาลปัสกา
(ว. 4-5) เม่อื เหตุการณ์ท่ดี าเนินไปหลงั จากน้ีแสดงใหเ้ หน็ ว่าพระเยซูเจา้ จะทรงถูกประหารในเทศกาลปัสกาจรงิ ๆ
ผูอ้ ่านกจ็ ะเขา้ ใจจากคาประกาศของพระเยซูเจา้ ว่าแม้มหาสมณะและบรรดาผูอ้ าวุโสจะดูเหมอื นเป็นผูค้ วบคุม
เหตุการณ์ แต่ทจ่ี รงิ แลว้ ไม่ใช่เลย พวกเขาไม่ได้มสี ทิ ธอิ านาจท่แี ท้จรงิ “พวกท่านรู”้ (“You Know”) ไม่ใช่แค่คา
แสดงความเหน็ แบบไม่เป็นทางการ แต่ทาใหบ้ รรดาศษิ ยอ์ ยใู่ นกลุ่มผทู้ เ่ี ขา้ ใจความหมายของเหตกุ ารณ์ทก่ี าลงั จะ
มาถงึ ล่วงหน้า ซ่งึ เป็นสง่ิ บ่งช้อี กี อย่างหน่ึงว่านักบุญมทั ธวิ ละท้งิ มุมมองแบบนักบุญมาระโกท่วี ่าบรรดาศษิ ย์ไม่
เข้าใจ จนกระทงั่ ถึงเหตุการณ์กลบั คนื พระชนม์ชีพ คาว่า “ตรงึ กางเขน” ไม่ได้ถูกกล่าวถึงอย่างเจาะจงในคา
พยากรณ์เกย่ี วกบั พระมหาทรมานในพระวรสารนกั บุญมาระโก แต่นกั บุญมทั ธวิ ทาใหผ้ อู้ า่ นรวู้ า่ กางเขนคอื ชะตา
ของพระเยซูเจา้ ตงั้ แต่ 10:38 (เทยี บ 23:34) และทา่ นไดเ้ ตมิ คาน้เี ขา้ ไปใน 20:19 (= มก. 10:34)

ถงึ แมว้ ่าตวั บ่งชด้ี า้ นลาดบั เวลาก่อนหน้าน้ีมคี วามคลุมเครอื ไมช่ ดั เจน แต่ในสว่ นน้ีนกั บุญมทั ธวิ กลบั มาสู่
ลาดบั เร่อื งจากพระวรสารนักบุญมาระโกอกี ครงั้ และเร่อื งราวได้ดาเนินไปโดยมลี าดบั ก่อนหลงั ท่ชี ดั เจนและ
แน่นอน ฉากเหตุการณ์ท่อี ย่ใู น 26:2 เกดิ ขน้ึ ในวนั พุธ เยน็ วนั ถดั มาเทศกาลปัสกาเรม่ิ ตน้ ขน้ึ น่ีเป็นคาพยากรณ์
เก่ยี วกบั พระมหาทรมานครงั้ แรกท่มี กี ารระบุถึงเทศกาลปัสกา ซ่ึงเป็นเทศกาลของชาวยวิ เก่ยี วกบั การได้รบั
เสรภี าพและการถกู ชว่ ยใหร้ อดพน้ ซง่ึ ยอ้ นไปถงึ สมยั การปลดปลอ่ ยประชาชนของโมเสสและบอกล่วงหน้าถงึ การ
ปลดปล่อยประชาชนครงั้ สดุ ทา้ ยโดยพระเมสสยิ าห์

เร่อื งเล่าน้ีเกดิ ข้นึ ในช่วงเวลาท่มี คี วามคาดหวงั และความต่นื เต้นกระตือรอื ร้นในทางศาสนาอย่างมาก
เป็นชว่ งเวลาทฝ่ี งู ชนผแู้ สวงบุญจานวนมหาศาลไหลลน้ เขา้ ไปจนกรุงเยรซู าเลม็ อยา่ งหนาแน่น ระหวา่ งเทศกาลน้ี
ผปู้ กครองชาวโรมนั มกั จะออกจากทพ่ี กั ประจาทซ่ี ซี าเรยี มารทิ มี า (Ceasarea Maritima) แลว้ เดนิ ทางมายงั กรุง

540

เยรซู าเลม็ พรอ้ มกบั กองทหารเสรมิ เพอ่ื ปราบปรามการจลาจลใดๆ ทอ่ี าจเกดิ ขน้ึ เรอ่ื งราวทน่ี กั บุญมทั ธวิ เปิดเผย
ใหเ้ หน็ นนั้ เป็นฉากเหตุการณ์แปลกประหลาดและประชดประชนั ชาวยวิ ไดว้ างแผนทจ่ี ะประหารพระเมสสยิ าหใ์ น
งานเทศกาลประจาชาตทิ ร่ี ะลกึ ถงึ การทพ่ี ระเป็นเจา้ ชว่ ยใหร้ อดพน้ เทศกาลแหง่ การปลดปล่อยสเู่ สรภี าพและการ
ชว่ ยใหร้ อดพน้ กลายเป็นกรอบทแ่ี สดงถงึ งานไถก่ ขู้ องพระเยซูเจา้ ทน่ี กั บญุ มทั ธวิ ไดอ้ ธบิ ายนามของพระองคไ์ วใ้ น
แงข่ องการไถก่ ู้ (เทยี บ 1:21) วา่ หมายถงึ ผทู้ ถ่ี ูกกาหนดมาให้ “ชว่ ยประชาชนใหร้ อดพน้ จากบาป”

หลงั จากฉากทเ่ี ป็นสว่ นเชอ่ื มตอ่ น้ี นกั บญุ มทั ธวิ ไดส้ รา้ งหน่วยประกอบขน้ึ จากสามฉาก ทม่ี กี ารวางแผน
ของมหาสมณะและการทรยศของยดู าสอยลู่ อ้ มรอบฉากทพ่ี ระเยซูเจา้ ทรงไดร้ บั การเจมิ

มทั ธวิ 26: 3-5 บรรดาผนู้ าวางแผนการตายของพระเยซูเจา้

3 เวลานนั้ บรรดาหวั หน้าสมณะและผอู้ าวโุ สของประชาชนมาชมุ นุมกนั ในสานกั ของมหาสมณะชอ่ื คายาฟาส 4 และคดิ หาอุบาย
เพอ่ื จบั กุมพระเยซูเจา้ จะไดฆ้ า่ เสยี 5 เขาพดู กนั วา่ “อยา่ ทาการน้ีในวนั ฉลองเลย เพราะประชาชนจะก่อการจลาจล”

ข้อศึกษาวิพากษ์
ระหวา่ งการปฏบิ ตั ภิ ารกจิ ของพระเยซูเจา้ ผตู้ ่อตา้ นพระองคม์ กั จะเป็นธรรมาจารยแ์ ละชาวฟารสิ ี ซง่ึ เคย

วางแผนสงั หารพระองคม์ าก่อน (12:14) พวกเขาปรากฏตวั ขน้ึ อกี ครงั้ หลงั จากการตรงึ กางเขน (27:62) แต่ถงึ กระนนั้
“หวั หน้าสมณะและบรรดาผอู้ าวโุ สของประชาชน” ทก่ี ล่าวถงึ ในทน่ี ้กี ไ็ มใ่ ชส่ ง่ิ ใหม่เสยี ทเี ดยี ว เพราะในเรอ่ื งราวการ
ประสูตขิ องพระเยซูเจ้า พวกเขาร่วมมอื กบั กษตั รยิ ์เฮโรดในการพยายามกาจดั พระเมสสยิ าห์ (2:3-4) และในคา
พยากรณ์เก่ียวกบั พระมหาทรมานได้มกี ารกล่าวถึงพวกเขาว่าจะเป็นผู้ออกแบบการตายของพระเยซูเจาใน
ทา้ ยทส่ี ุด (16:21; 20:18) พวกเขาเขา้ มาส่เู ร่อื งราวในฐานะผตู้ ่อต้านพระเยซูเจา้ หลงั จากทพ่ี ระองคม์ าถงึ เยรูซาเลม็
(21:15) ก่อนหน้าทไ่ี มม่ กี ารกล่าวถงึ คายาฟาสในพระวรสารนกั บุญมทั ธวิ สว่ นในพระวรสารนกั บุญมาระโกนนั้ ไม่มี
การกล่าวถึงเลยสกั ครงั้ เดียว บรรดาผู้นาศาสนามา “รวมตัวกนั ” (“Gathered” ซ่ึงเป็นรูปแบบหน่ึงของคาว่า
suna"gw [Synago]) เพ่อื ต่อตา้ นพระเยซูเจา้ เช่นเดยี วกบั ชาวฟารสิ กี ่อนหน้าน้ี (12:14) พวกเขาไม่ไดใ้ ชก้ ารไต่สวน
หรอื ดาเนินคดอี ย่างถูกต้องยุตธิ รรม แต่ตดั สนิ ใจแล้วว่าจะใหพ้ ระองค์ตาย พวกเขาได้มาพบปะชุมนุมกนั เพ่อื
วางแผนจบั กุมพระเยซูเจา้ (อย่างมจี งั หวะกรอบเวลา) นักบุญมทั ธวิ ได้วางโครงสรา้ งเร่อื งราวไวเ้ ช่นน้ีเพ่อื ใหผ้ ูอ้ ่านซ่งึ
รูอ้ ยู่แลว้ ว่าพระวาจาอนั ทรงอานาจของของพระเยซูเจา้ และพระประสงคข์ องพระเป็นเจา้ ทรงอยู่เหนือแผนการ
ของผูน้ าชาวยวิ และพระเยซูเจา้ จะสน้ิ พระชนมใ์ นวนั ท่พี ระองค์ไดต้ ดั สนิ พระทยั ทจ่ี ะกระทาตามความประสงค์
ของพระบดิ าเจา้ ไม่ใชใ่ นฐานะเหย่อื ตามเจตจานงของพวกเขา ถงึ แมว้ ่าจะไมม่ กี ารใชภ้ าษาของ “พระอาณาจกั ร”
ในท่นี ้ี แต่ในย่อหน้าดงั กล่าว ความขดั แยง้ ระหว่างสองอาณาจกั ร ซ่งึ เป็นแนวคดิ ท่ปี รากฏซ้าๆ ในบทบรรยาย
ของนักบุญมทั ธวิ กไ็ ดแ้ สดงออกมาอกี ครงั้ พระเยซูเจา้ ทรงเป็นผชู้ น้ี าควบคุมเหตุการณ์แห่งพระมหาทรมานของ
พระองค์ ไม่ใชเ่ พยี งแต่ยอมทนเทา่ นนั้

541

มทั ธวิ 26: 6-13 หญงิ ผมู้ คี วามคดิ ลกึ ซง้ึ ไดเ้ จมิ พระเยซกู ่อนการฝังพระองค์

การเจิมที่หมบู่ า้ นเบธานี

6 ขณะท่พี ระเยซูเจา้ ประทบั อยู่ทห่ี มู่บา้ นเบธานีในบา้ นของซโี มนทเ่ี คยเป็นโรคเรอ้ื น 7 หญงิ คนหน่ึงถอื ขวดหนิ ขาวบรรจุน้ามนั

หอมราคาแพงเขา้ มา และเทน้ามนั หอมลงบนพระเศยี รขณะทพ่ี ระองค์กาลงั ประทบั ทโ่ี ต๊ะอาหาร 8 บรรดาศษิ ยเ์ หน็ ดงั นัน้ จงึ ไม่

พอใจกล่าวว่า “ทาไมทาใหน้ ้ามนั หอมเสยี ไปเปล่าๆ 9 น้ามนั หอมน้ีอาจจะขายไดเ้ งนิ มาก แลว้ เอาไปแจกใหค้ นยากจน” 10 พระ

เยซูเจา้ ทรงทราบ จงึ ตรสั ว่า “ท่านทาใหน้ างย่งุ ยากใจทาไม นางไดท้ ากจิ การดตี ่อเรา 11 ท่านจะมคี นยากจนอยู่กบั ท่านเสมอ แต่

ท่านจะไม่มเี ราอยู่กบั ท่านเสมอไป 12 นางเทน้ามนั หอมน้ีชโลมกายของเราเป็นการเตรยี มไวส้ าหรบั ฝังศพ 13 เราบอกความจรงิ

แก่ทา่ นทงั้ หลายวา่ ทใ่ี ดในโลกทม่ี กี ารประกาศขา่ วดี จะมกี ารกลา่ วถงึ สงิ่ ทน่ี างไดท้ าเพอ่ื เป็นการระลกึ ถงึ นาง”

ข้อศึกษาวิพากษ์

เชน่ เดยี วกบั สว่ นอ่นื ๆ ของเรอ่ื งราวพระมหาทรมาน นกั บญุ มทั ธวิ ดาเนินเรอ่ื งตามพระวรสารนกั บญุ มาระ

โกอย่างละเอยี ด อกี สองฉบบั ของเร่อื งราวน้ีอย่ใู น ลก. 7:36-50 และยน. 12:1-8 ถงึ แมว้ ่าจะมสี ว่ นทเ่ี ปลย่ี นแปลง

ไปในเน้อื หา แต่ทกุ ฉบบั ของเรอ่ื งราวน้ี มรี ปู แบบหรอื โครงสรา้ งเหมอื นกนั

มก 14:3/ มธ 26:6-13 ลก 7:36-50 ยน. 12:1-8

สถานท่ี เบธานี บา้ นของซโี มนผเู้ ป็น (ไมร่ ะบุ) ไนอนิ ในกาลลิ ี บา้ น เบธานี บา้ นของมารมี าธา

โรคเรอ้ื น พกั ผอ่ นอยทู่ โ่ี ต๊ะ ของซโี มนชาวฟารสิ ี พกั ผอ่ นอยู่ พกั ผอ่ นอยทู่ โ่ี ต๊ะอาหาร

อาหาร ทโ่ี ต๊ะอาหาร

เวลา 2 วนั กอ่ นปัสกา หลายสปั ดาหก์ ่อนปัสกา 6 วนั กอ่ นปัสกา

การระบตุ วั ตน ผหู้ ญงิ คนหน่ึง ผหู้ ญงิ คนหน่ึง มารี น้องสาวของมารธ์ าและ

ผหู้ ญงิ ลาซารสั

วตั ถุ กระปกุ หนิ อะลาบาสเตอร์ กระปกุ หนิ อะลาบาสเตอร์ น้ามนั หอมบรสิ ุทธหิ์ น่ึงลติ รา

ราคาแพงมาก (มาระโก: (ประมาณ 12 ออนซ)์

น้ามนั หอมบรสิ ุทธ)ิ์

การกระทา -ทากระปุกใหแ้ ตกและเท ยนื อยขู่ า้ งหลงั พระเยซูเจา้ และ เจมิ เทา้ ดว้ ยน้าหอม (myron)

น้ามนั ลงบนศรี ษะ รอ้ งไห้ พรมน้าตาลงบนพระบาท

-เจมิ ศรี ษะดว้ ยน้าหอม ของพระองค์ เชด็ ดว้ ยผมของ

(myron) เธอ จบู และเจมิ เทา้ ดว้ ยน้าหอม

(myron)

ผคู้ ดั คา้ น มาระโก = บางคน ชาวฟารสิ ี ยดู าส อสิ คารโิ อต

มทั ธวิ = บรรดาสาวก

คาคดั คา้ น ทาไมจงึ สน้ิ เปลอื งเชน่ น้ี ถา้ เขาเป็นประกาศก เขากน็ ่าจะ ทาไมไมเ่ อาไปขายแลว้ นาเงนิ

542

มนั สามารถนาไปขาย (ใน รวู้ า่ ผหู้ ญงิ คนน้เี ป็นคนแบบไหน 300 เดนารลิ มาใหค้ นยากจน

มาระโกบอกวา่ ไดร้ าคา เขาเป็นใครถงึ ใหอ้ ภยั บาปผอู้ ่นื

มากกวา่ 300 เดนารลิ ) แลว้ ได้ (มรก 2:7)

เอาเงนิ ไปใหค้ นยากจน

คาทพ่ี ระเยซู เธอทาเพอ่ื พธิ ศี พของเรา อุปมาเรอ่ื งลกู หน้สี องคน มกี าร เธอทาเพอ่ื พธิ ศี พของเรา

โตแ้ ยง้ การ ทา่ นจะมคี นยากจนอยดู่ ว้ ย กลา่ วถงึ เงนิ 500 เดนารลิ ท่านจะมคี นยากจนอยดู่ ว้ ย

คดั คา้ น เสมอ แตจ่ ะไมไ่ ดม้ เี ราอยู่ “ความเชอ่ื ของเจา้ ชว่ ยใหเ้ จา้ รอด เสมอ แตจ่ ะไมไ่ ดม้ เี ราอยู่

ตลอดไป แลว้ ” (= มรก 5:24) ตลอดไป

การเปรียบเทียบเช่นนั้นแสดงให้เห็นถึงการเปล่ียนสภาพท่ีเกิดข้ึนกับเร่ืองราวเหล่าน้ีระหว่าง

กระบวนการส่งผ่านและการตีความ และแสดงให้เห็นชัดเจนว่าผู้เผยแพร่พระวรสารแต่ละคนได้ประพันธ์

โครงสรา้ งของส่วนทเ่ี ป็นบทบรรยายเร่อื งในพระวรสารของตน ความสนใจของเราไม่ไดอ้ ย่ทู ก่ี ารนาบนั ทกึ ต่างๆ

มาผสานกนั อย่างกลมกลนื หรอื พยายามเรยี บเรยี งโครงสรา้ งเหตุการณ์ขน้ึ มาใหม่ แต่อย่ทู ก่ี ารพยายามทาความ

เขา้ ใจความหมายของนกั บุญมทั ธวิ

คนเป็นโรคเรอ้ื นถอื ว่าเป็นผูม้ มี ลทนิ ในทางศาสนา (ดู 8:1-14) ไม่มกี ารกล่าวว่าซโี มนได้รบั การชาระล้าง

หรอื รกั ษาใหห้ ายโดยพระเยซูเจา้ สถานท่แี ห่งน้ีแตกต่างอย่างเหน็ ได้ชดั เม่อื เทยี บกบั ราชวงั ของมหาสมณะใน

ฉากทแ่ี ลว้ ผหู้ ญงิ ทไ่ี ม่มใี ครรจู้ กั ช่อื ในพระวรสารนกั บุญมทั ธวิ ปรากฎขน้ึ ในทน่ี ้ี นกั บุญมทั ธวิ ไมไ่ ดร้ ะบุว่าเธอเป็น

เจ้าบ้านหรอื เป็นแขก หรอื เป็นเพยี งผู้ท่บี งั เอญิ ผ่านมา หรอื ผู้บุกรุก แต่มุ่งเน้นท่กี ารกระทาของเธอ คอื ชโลม

น้าหอมราคาแพงลงบนพระเศยี รของพระเยซูเจา้ คาว่า “น้าหอม” (Myron) เป็นสารทแ่ี ตกต่างจากน้ามนั ซง่ึ ใชเ้ จมิ

ในพธิ กี รรม ไม่มกี ารใชค้ าศพั ท์ทางเทคนิคทห่ี มายถงึ การเจมิ ในพธิ กี รรม (คาว่า chrio เช่นเดยี วกบั ใน ลก 4:18; กจ. 4:27;

10:38; ฮบ. 1:9) และไมใ่ ชก่ ารเจมิ ตามความหมายทางครสิ ตศาสตร์ แต่เป็นการกระทาทเ่ี ป็นการถวายบชู าอย่างทว่ ม

ทน้ ลน้ เหลอื เพ่อื เตรยี มพระองค์ล่วงหน้าสาหรบั พธิ ฝี ังศพ (ว. 12) ดงั นนั้ ในพระวรสารนักบุญมทั ธวิ จงึ ไม่ไดเ้ ล่าว่า

บรรดาสตรมี ายงั ทฝ่ี ังพระศพเพอ่ื เจมิ รา่ งกายของพระองค์ แต่ไดม้ าดพู ระคหู า (มธ. 28:1 vs. มก. 16:1)

ในเรอ่ื งราวพระมหาทรมานในพระวรสารนกั บุญมาระโก ซง่ึ พระฤทธานุภาพของพระเยซูเจา้ ถูกจากดั ให้

เหลอื น้อยทส่ี ุด “มบี างคน” คดั คา้ นการกระทาของหญงิ ผนู้ นั้ และพระเยซูเจา้ ไดย้ นิ คาคดั คา้ นนนั้ นักบุญมทั ธวิ ละ

เว้นคาว่า “ต่อกนั และกนั ” (To One Another / pros heautous) และเติมคาว่า “ทรงรูอ้ ยู่แล้ว” (Having Known /

gnous) เพ่อื ชใ้ี หเ้ หน็ ว่าพระเยซูเจา้ ทรงรวู้ ่าพวกเขากาลงั พดู อะไรอย่ใู นใจของตนเอง เช่นเดยี วกบั ใน 9:4; 12:25

ดงั นนั้ จงึ เป็นการรกั ษาภาพของพระเยซูเจา้ ผทู้ รงมอี านาจควบคุมสง่ิ ต่างๆ นกั บุญมทั ธวิ ระบุเจาะจงวา่ “บางคน”

ทค่ี ดั คา้ นในพระวรสารของนกั บุญมาระโกนนั้ เป็นศษิ ย์ คาคดั คา้ นนนั้ ดูวา่ ถูกตอ้ งตามบญั ญตั แิ ละสอดคลอ้ งกบั สงิ่

ท่พี ระเยซูเจา้ ทรงมุ่งเน้นคอื การช่วยเหลอื คนยากจนหรอื ไม่ (5:42; 6:2-4; 19:16-22; 25:31-46) ดงั นัน้ คาตอบของพระ

เยซูเจา้ ทว่ี ่าจะมคี นยากจนอยเู่ สมอจงึ ไม่ไดต้ รงขา้ มกบั ความพยายามดา้ นสงั คมและมนุษยธรรมซง่ึ เป็นสว่ นหน่ึง

ของความรบั ผดิ ชอบของชาวครสิ ต์ นอกจากเป็นการอา้ งถึง ฉธบ. 15:11 ซง่ึ กาหนดใหม้ กี ารชว่ ยเหลอื คนยากจน

โดยทนั ที คาพดู น้ียงั เป็นการทาหน้าทด่ี งั กลา่ วมาเทยี บใหเ้ หน็ ความแตกต่างจากการถวายบชู าอยา่ งมากทว่ มทน้

แด่พระเยซูเจา้ ผทู้ รงถูกตรงึ กางเขน ซง่ึ มคี วามสาคญั มากกว่า น่ีคอื ภาษาทป่ี ระกาศยอมรบั การบูชาอุทศิ ตน ซง่ึ

ไม่มหี น้าท่ใี ดๆ จะเหนือไปกว่าการถวายบูชาดว้ ยความรกั แด่พระผูเ้ ป็นเจา้ (เทยี บ 2:11 และ 23:34-40 เก่ยี วกบั พระมหา

บญั ญตั แิ ละความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งการรกั พระเจา้ และรกั ผอู้ น่ื ) ดงั นนั้ ถงึ แมจ้ ะไมม่ ภี าษาทส่ี อ่ื ถงึ พระเป็นเจา้ หรอื ตาแหน่งชอ่ื ทเ่ี รยี ก

543

ทางครสิ ตศาสตรอ์ ยา่ งเปิดเผย แต่เร่อื งราวน้ีในบรบิ ทของพระวรสารนกั บญุ มทั ธวิ กท็ าหน้าทเ่ี ป็นคายนื ยนั ทางคริ
สตศาสตรเ์ กย่ี วกบั พระเยซูเจา้ เชน่ เดยี วกบั การกระทาดงั้ เดมิ ของสตรผี นู้ ้ี

ครงั้ น้ีเป็นการเตรยี มและเจมิ พระศพพระเยซูเจา้ เพยี งครงั้ เดยี วในพระวรสารนกั บุญมทั ธวิ (เทยี บ มก. 16:1;
ยน. 19:39-40) มเี พยี งหญิงผูน้ ้ีเท่านัน้ ท่รี บั รูว้ ่าผูท้ ่เี ธอบูชาในฐานะองคพ์ ระเป็นเจา้ คอื ผูท้ ่จี ะถูกตรงึ กางเขน การ
กระทาของเธอจงึ เป็นตวั อย่างของความรกั ทท่ี ่วมทน้ ลน้ เหลอื และมวี จิ ารณญาณทล่ี กึ ซง้ึ แบบทค่ี นอ่นื มองไม่เหน็
“พวกทา่ นจะไมไ่ ดม้ เี ราอย่ดู ว้ ยตลอดไป” คอื รอ่ งรอยทห่ี ลงเหลอื อยขู่ องสง่ิ ทน่ี กั บุญมาระโกใหค้ วามสาคญั คอื การ
ทพ่ี ระเยซูเจา้ ไมไ่ ดท้ รงประทบั อยอู่ กี ตอ่ ไปในยคุ สมยั ของพระศาสนจกั ร (มก. 2:20; 14:7, 25; 16:7) แตไ่ ม่สอดคลอ้ งกบั
เทววทิ ยาของนักบุญมทั ธวิ ท่วี ่าพระเยซูเจ้ายงั คงประทบั อยู่กบั พระศาสนจกั รของพระองค์ (1:23; 28:20) ดงั นัน้ ใน
บรบิ ทของพระวรสารนกั บุญมทั ธวิ คาพดู น้ีจงึ ทาหน้าทแ่ี สดงความแตกตา่ งระหวา่ งความสาคญั ของการช่วยเหลอื
คนยากจนซง่ึ มอี ยเู่ สมอกบั ความสาคญั อนั มเี อกลกั ษณ์ของการอุทศิ ตนถวายบชู าต่อพระเยซูเจา้ ในฐานะขององค์
พระผู้เป็นเจ้า พระเยซูเจ้าทรงยกย่องนางท่ี “ทากิจการดี” (Goodwork / ergon kalon) ซ่ึงเป็นคาเดียวกบั ท่ีใช้
กล่าวถงึ กจิ การต่างๆ ของการเป็นศษิ ยใ์ น 5:16

สาหรบั คาว่า “เป็นความจรงิ ” (Truly / amen ว. 13) ดู 5:18 พระวรสารทจ่ี ะตอ้ งประกาศไปทวั่ โลกหลงั จาก
ทพ่ี ระเยซูเจา้ สน้ิ พระชนม์ (24:14) คอื สารแห่งการช่วยใหร้ อดพน้ (Salvation) ของชาวครสิ ต์ แต่ไม่ใช่สารจากพระ
เยซูเจา้ เกย่ี วกบั พระอาณาจกั รหรอื หนงั สอื ท่นี กั บุญมทั ธวิ เขยี นขน้ึ คาวา่ “เพอ่ื ระลกึ ถงึ เธอ” (in Memory of Her)
อาจมคี วามหมายในเรอ่ื งราวดงั้ เดมิ ว่า “พระเป็นเจา้ ทรงจดจาและยนื ยนั ความบรสิ ุทธใ์ิ หก้ บั เธอ” เช่นเดยี วกบั ใน
กจ. 10:4 เราไม่ควรนามนั ไปเช่อื มโยงหรอื มองว่ามนั เป็นทางเลอื กของภาษาทใ่ี ชช้ ่วยใหเ้ ราระลกึ ถงึ แผ่นศลี ซ่งึ
ไมไ่ ดป้ รากฏอยใู่ นพระวรสารนกั บญุ มทั ธวิ (ดู 1คร 11:24= ลก 22:19ข)

มทั ธวิ 26:14-16 ยดู าสตดั สนิ ใจจะทรยศพระเยซูเจา้

ยดู าสทรยศต่อพระเยซูเจา้
14 คนหน่ึงในบรรดาอคั รสาวกสบิ สองคน ช่อื ยูดาส อสิ คารโิ อท ไปพบบรรดาหวั หน้าสมณะ ถามว่า 15 “ถา้ ขา้ พเจา้ มอบเขาให้
ท่าน ท่านจะใหอ้ ะไรแก่ขา้ พเจา้ ” บรรดาหวั หน้าสมณะจ่ายเงนิ สามสบิ เหรยี ญใหแ้ ก่ยูดาส 16 ตงั้ แต่นัน้ มา ยูดาสกห็ าโอกาสทจ่ี ะ
มอบพระองค์

ข้อศึกษาวิพากษ์
ในขอ้ ความท่อี า้ งองิ ถงึ ยูดาสเพยี งครงั้ เดยี วทผ่ี ่านมา (10:4) ผอู้ ่านไดท้ ราบขอ้ มูลแลว้ ว่ายูดาสทรยศพระ

เยซูเจ้า ในท่นี ้ียูดาสเป็นผูร้ เิ รม่ิ และไปหาหวั หน้าสมณะเพ่อื ขอเงนิ ซ่งึ เป็นการกระทาทแ่ี ตกต่างอย่างลกึ ซ้งึ กบั
ผหู้ ญงิ ทเ่ี พง่ิ มอบของขวญั ราคาแพงมากใหก้ บั พระเยซูเจา้ นกั บุญมทั ธวิ เสนอว่าแรงจงู ใจของยดู าสคอื ความโลภ
(แนวคดิ น้ถี กู นาไปพฒั นาใน ยน. 12:5-6 ซง่ึ ยดู าสเป็นผเู้ ดยี วทค่ี ดั คา้ นในฉากทม่ี กี ารเจมิ พระเยซูเจา้ ) ใน มก. 11:12-13 มกี ารสญั ญาวา่ จะ
ใหเ้ งนิ เทา่ นนั้ ไม่มกี ารระบุวา่ สดุ ทา้ ยแลว้ ยดู าสไดร้ บั เงนิ นนั้ หรอื ไม่ แต่ในพระวรสารนกั บุญมทั ธวิ ยดู าสไดร้ บั เงนิ

544

ทนั ที นกั บุญมทั ธวิ ไม่ไดแ้ สดงถงึ แรงจงู ใจทางจติ วทิ ยาของยดู าส แตก่ แ็ สดงใหเ้ หน็ ความตา่ งอย่างชดั เจนระหวา่ ง
พระอาณาจกั รของพระเป็นเจา้ ทพ่ี ระเยซูเจา้ ทรงรเิ รม่ิ ขน้ึ กบั อาณาจกั รทต่ี ่อตา้ นพระองค์ ซง่ึ ถูกครอบงาโดยความ
ตอ้ งการเงนิ ซง่ึ เป็นผลประโยชน์สว่ นตวั

การอา้ งถงึ “เงนิ สบิ สามเหรยี ญ” เป็นสว่ นท่ีนกั บุญมทั ธวิ เตมิ เขา้ มาโดยนามาจาก ศคย. 11:12-13 ความ
เช่อื มโยงท่คี ลุมเครอื ระหว่างค่าจ้างของคนเล้ยี งแกะ ท่นี าเงนิ ไปเกบ็ ในคลงั (ดูบทเสรมิ เร่อื ง “มทั ธวิ ในฐานะผู้ตคี วามพระ
คมั ภีร์”) ในทงั้ สองแห่งน้ี เงนิ จานวนนัน้ ถอื ว่าไม่สลกั สาคญั อะไรเลย เท่ากบั ราคาของทาสท่บี าดเจบ็ เท่านัน้ เอง
(อพย. 21:32) แต่ความแตกต่างทเ่ี หน็ ไดอ้ ย่างชดั เจนกบั เร่อื งราวสว่ นทผ่ี ่านมานัน้ ถูกแสดงใหเ้ หน็ โดยเจตนา คาว่า
“ทรยศ” (Betray) (ว. 16) คอื คาเดยี วกนั กบั คาว่า “ส่งมอบตวั ” (Hand Over) (ใน ว. 2 ทงั้ สองคาเป็นรูปแบบต่างๆของคาว่า
paradidomi ดู 16:21) ทาใหเ้ หน็ หน้าทก่ี ารเป็นวงเลบ็ ของฉากท่ีหน่ึงและสามชดั เจนขน้ึ อกี รูปประโยคแบบทป่ี ระธาน
เป็นผู้ถูกกระทาโดยพระเป็นเจ้า (Divine Passive) ใน ว. 2 ถูกนามาเปรยี บเทียบให้เห็นคู่กับประโยคแบบ
ประธานเป็นผกู้ ระทา (Active) ใน ว. 15 ทงั้ ความรบั ผดิ ชอบของมนุษยแ์ ละความมอี านาจสงู สุดของพระเป็นเจา้
แสดงอยู่ในท่ีน้ีอย่างสมบูรณ์ (ดู ว. 24) ในทางเดียวกนั “โอกาส” (Opportunity / eukairia) ท่ียูดาสแสวงหานัน้
เรม่ิ ตน้ มาจากฝัง่ ของพระเยซูเจา้ ใน ว. 18 (Time / kairos)

มทั ธวิ 26:17-30ก ปัสกา / อาหารค่ามอ้ื สุดทา้ ย
มทั ธวิ 26:17-19 บรรดาสาวกเตรยี มปัสกา

การเตรียมงานเลี้ยงปัสกา
17 วนั แรกของเทศกาลกนิ ขนมปังไรเ้ ชอ้ื บรรดาศษิ ย์เขา้ มาทูลถามพระเยซูเจา้ ว่า “พระองค์มพี ระประสงค์ให้เราจดั เตรยี มการ
เล้ยี งปัสกาทไ่ี หน” 18 พระองค์ตรสั ว่า “จงเขา้ ไปในกรุง ไปพบชายคนหน่ึง บอกเขาว่า “พระอาจารย์บอกว่าเวลากาหนดของเรา
ใกล้เข้ามาแล้ว เราจะกินปัสกากับศิษย์ของเราท่ีบ้านของท่าน” 19 บรรดาศิษย์ก็กระทาตามท่ีพระเยซูเจ้าทรงบัญชา และ
จดั เตรยี มปัสกา

ข้อศกึ ษาวิพากษ์
วนั ท่ี 4 ซง่ึ เป็นวนั พฤหสั เรม่ิ ต้นขน้ึ ตามทร่ี ะบุไวใ้ น อพย. 12:1-20 ลูกแกะปัสกาจะตอ้ งถูกฆ่าตอนบ่าย

ของวนั ท่ี 14 เดอื นนิชาน ส่วนเทศกาลนัน้ เรมิ่ ต้นพรอ้ มกบั อาหารเยน็ ท่เี ป็นพธิ กี รรมซ่งึ เรมิ่ ต้นในวนั ท่ี 15 ของ
เดอื นนิชาน เทศกาลรบั ประทานขนมปังไรเ้ ชอ้ื เรมิ่ ตน้ ในวนั ท่ี 15 และต่อเน่ืองไปเจด็ วนั ในช่วงน้ีไม่ควรมขี นมปัง
แบบมเี ชอ้ื อย่ใู นบา้ นของใครเลย พอมาถงึ ศตวรรษทห่ี น่ึง ทงั้ สองเทศกาลกห็ ลอมรวมกนั และมกี ารนาเอาทงั้ สอง
ช่อื มาใชส้ ลบั กนั นอกจากน้ี แนวปฏิบตั ทิ เ่ี คร่งครดั ของการเอาขนมปังมเี ชอ้ื ออกไปจากบา้ นหน่ึงวนั ก่อนหน้าวนั
พธิ ี คอื ในวนั ท่ี 14 ไดก้ ลายเป็นสง่ิ ทน่ี ิยมกนั ดงั นนั้ คาอธบิ ายของนักบุญมาระโกทอ่ี ธบิ ายว่าวนั ท่ี 14 เป็นวนั แรก

545

ของขนมปังไรเ้ ช้อื ถงึ แม้ว่าจะไม่ถูกต้องทางเทคนิค แต่กเ็ ป็นสงิ่ ท่พี บได้ทวั่ ไป และนักบุญมทั ธวิ ได้ถอื ตามนัน้
แมว้ า่ ทา่ นจะรบั รถู้ งึ กฎหมายและธรรมเนยี มของชาวยวิ มากกวา่

การเตรยี มเทศกาลปัสกานนั้ เกย่ี วขอ้ งกบั (1) จดั หาสถานทท่ี เ่ี หมาะสมภายในกาแพงเมอื งเยรซู าเลม็ ซง่ึ
จะเป็นสถานทท่ี ถ่ี กู ตอ้ งตามกฎหมายเพยี งแห่งเดยี วสาหรบั รบั ประทานมอ้ื อาหารปัสกา (2) คน้ หาขนมปังมเี ชอ้ื ท่ี
อยู่ในหอ้ งและกาจดั ทุกสงิ่ ท่อี าจปนเป้ือนยสี ต์ (เช่น เศษขนมปัง) (3) จดั หาลูกแกะแลว้ นาไปใหน้ ักบวชท่พี ระวหิ าร
เชอื ดตามพธิ กี รรม (4) นาเน้ือลูกแกะมาอบและเตรยี มไวใ้ หพ้ รอ้ มกบั สงิ่ อ่นื ๆ ทจ่ี าเป็นสาหรบั อาหารมอ้ื พเิ ศษใน
สถานทท่ี ่จี ดั เตรยี มไวก้ ่อนหน้าน้ี ถงึ แมว้ ่ามนั จะมคี วามสาคญั สาหรบั นักบุญมทั ธวิ ดว้ ยเหตุผลทางเทวศาสตรท์ ่ี
อาหารม้ือสุดท้ายเป็นการรบั ประทานปัสกา แต่ท่านไม่ได้บรรยายรายละเอียดใดๆ เก่ียวกับม้ืออาหารและ
พธิ กี รรมปัสกา แตพ่ งุ่ ความสนใจไปทอ่ี าหารทจ่ี ะกลายเป็นพนั ธสญั ญาใหม่ทจ่ี ะถกู นาไปเฉลมิ ฉลอง นกั บุญมทั ธวิ
นาบนั ทกึ ของนักบุญมาระโกมาตดั ใหส้ นั้ ลงเพ่อื เน้นสทิ ธอิ านาจของพระเยซูเจา้ ผซู้ ง่ึ ออกคาสงั่ แลว้ บรรดาศษิ ย์
ได้เช่อื ฟัง คาถามของศษิ ย์ในพระวรสารนักบุญมาระโกกลายมาเป็นคาสงั่ ของพระเยซูเจา้ ในพระวรสารนักบุญ
มทั ธวิ ศษิ ยท์ กุ คนไดถ้ ูกสง่ ออกไป (เหน็ ไดช้ ดั วา่ รวมถงึ ยดู าสดว้ ย) ไม่ใชเ่ พยี งสองคนเหมอื นในพระวรสารนกั บุญมาระโก
การท่นี ักบุญมทั ธวิ ละเวน้ “รายละเอยี ดท่เี ป็นสสี นั ” ใน มก. 14:13 (ผูช้ ายกบั เหยอื กน้า, หอ้ งชนั้ บน) คอื การท่ที ่านช้นี า
ผอู้ ่านไปสปู่ ระเดน็ สาคญั คอื สทิ ธอิ านาจในการออกคาสงั่ ของพระเยซูเจา้ ซง่ึ แผ่ขยายไปสคู่ าพดู ของบรรดาศษิ ย์
ดว้ ย

พระเยซูเจ้าทรงประกาศว่า “เวลา” (hour / kairos) ของพระองค์มาถึงแล้ว (เป็นส่วนท่ีนักบุญมทั ธวิ เติมลงไป)
“kairos” ของพระเยซเู จา้ แตกตา่ งอยา่ งเหน็ ไดช้ ดั กบั “โอกาส” (Opportunity / eukairia) ทย่ี ดู าสกาลงั มองหา แมแ้ ต่
คาถามท่บี รรดาศษิ ย์ถามพระเยซูเจา้ กย็ งั ตรงกนั ขา้ มกบั คาถามท่ยี ูดาสถามมหาสมณะ เขาถามว่า “ท่านจะให้
อะไรกบั ขา้ พเจ้า” (What are you willing [thelete] to give me [moi]) ส่วนบรรดาศษิ ย์ถามว่า “ท่านต้องการ ให้
พวกเราเตรยี มสถานทใี่ ดใหท้ ่าน รบั ประทานปัสกา” (Where do You want [theleis] us to prepare for you [soi]
to eat the Passover) ในแต่ละกรณี คาสรรพนามทเ่ี น้นถูกเตมิ เขา้ มาโดยนักบุญมทั ธวิ ยดู าสจดจ่ออย่ทู ต่ี นเอง
แต่บรรดาศษิ ยค์ นอ่นื ๆ จดจอ่ อยทู่ พ่ี ระเยซูเจา้ ศษิ ยค์ อื ผทู้ เ่ี ชอ่ื ฟังพระองค์

มทั ธวิ 26: 20-30ก พระเยซเู จา้ ทรงพยากรณ์ถงึ การทรยศและทรงตงั้ ศลี มหาสนิท

พระเยซูเจ้าทรงกล่าวถึงการทรยศของยดู าส
20 ครนั้ ถงึ เวลาค่า พระองค์ประทบั ร่วมโต๊ะกบั ศษิ ย์ทงั้ สบิ สองคน 21 ขณะท่ที ุกคนกาลงั กนิ อาหารพรอ้ มกบั พระเยซูเจา้ อยู่นัน้
พระองค์ตรสั ว่า “เราบอกความจรงิ แก่ท่านทงั้ หลายว่า คนหน่ึงในทน่ี ้ีจะทรยศต่อเรา” 22 บรรดาอคั รสาวกรสู้ กึ สลดใจและทลู ถาม
พระองคท์ ลี ะคนว่า “เป็นขา้ พเจา้ หรอื พระเจา้ ขา้ ” 23 พระองคต์ รสั ตอบวา่ “คนทจ่ี ม้ิ อาหารในชามเดยี วกนั กบั เราน่ีแหละ จะทรยศ
ต่อเรา 24 บุตรแห่งมนุษยจ์ ะจากไปตามทม่ี เี ขยี นเกย่ี วกบั พระองค์ในพระคมั ภรี ์ วบิ ตั จิ งเกดิ แก่คนทท่ี รยศต่อบุตรแห่งมนุษย์ ถ้า
เขาไมไ่ ดเ้ กดิ มากจ็ ะดกี วา่ ” 25 ยดู าสผทู้ รยศตอ่ พระองค์ ทลู ถามวา่ “เป็นขา้ พเจา้ หรอื พระอาจารย”์ พระองคต์ รสั ตอบวา่ “ใชแ่ ลว้ ”
พระเยซูเจา้ ทรงตงั้ ศีลมหาสนิท

546

26 ขณะทท่ี กุ คนกาลงั กนิ อาหารอยนู่ นั้ พระเยซูเจา้ ทรงหยบิ ขนมปัง ตรสั ถวายพระพร ทรงบขิ นมปังประทานใหบ้ รรดาศษิ ย์ ตรสั
วา่ “จงรบั ไปกนิ เถดิ น่ีเป็นกายของเรา” 27 แลว้ พระองคท์ รงหยบิ ถว้ ย ตรสั ขอบพระคุณ ประทานใหเ้ ขาเหลา่ นนั้ ตรสั ว่า “ทุกท่าน
จงด่มื จากถว้ ยน้ีเถดิ 28 น่ีเป็นโลหติ ของเรา โลหติ แหง่ พนั ธสญั ญา ทห่ี ลงั่ ออกมาเพ่อื อภยั บาปสาหรบั คนจานวนมาก 29 เราบอก
ท่านทงั้ หลายวา่ แต่น้ีไปเราจะไมด่ ่มื น้าจากผลองนุ่ อกี จนกว่าจะถงึ วนั ทเ่ี ราจะด่มื เหลา้ องนุ่ ใหม่กบั ท่านในพระอาณาจกั รของพระ
บดิ าของเรา”
พระเยซูเจา้ ทรงทานายวา่ เปโตรจะปฏิเสธพระองค์

30 เมอ่ื ขบั รอ้ งเพลงสดุดแี ลว้

ข้อศึกษาวิพากษ์

การนับวนั ของชาวยวิ นับจากเวลาพระอาทติ ย์ตกของวนั หน่ึงถงึ เวลาพระอาทติ ย์ตกของวนั ถดั มา คา
กล่าวท่ีมีความหมายเดียวกัน คือ “ครนั้ ถึงเวลาพลบค่า” (ภาษากรีก opsias genomenes) ใน 27:57 บ่งบอกว่า
เหตุการณ์ต่างๆ ทเ่ี กดิ ขน้ึ ในชว่ งเวลานนั้ ตงั้ แต่ฉากเหตกุ ารณ์ท่ี 6 ถงึ ฉากท่ี 15 (อาหารมอ้ื สดุ ทา้ ย เกทเสมนี การจบั กุม การ
พจิ ารณาคดตี ่อหน้ามหาปุโรหติ และปีลาต การตรงึ กางเขน และการฝังพระศพ) ทงั้ หมดเกดิ ขน้ึ ภายในวนั เดยี ว คอื วนั ท่ี 15 ในเดอื น
นซิ าน เทศกาลปัสกา วนั แรกของเทศกาลขนมปังไรเ้ ชอ้ื

26:20. ไม่มกี ารประกาศถงึ “การเสดจ็ มา” ของพระเยซูเจา้ แต่อย่างใด พระองค์เพยี งแค่ “ประทบั ร่วม”
กบั อค้ รสาวกสบิ สองคน ซง่ึ อย่ทู น่ี นั่ อย่แู ลว้ แมว้ า่ พระวรสารนักบุญลูกาและโดยเฉพาะอย่างยงิ่ พระวรสารนกั บุญ
ยอหน์ จะมเี หตุการณ์ทต่ี ่อเน่ืองกนั ทม่ี รี ายละเอยี ดมากกว่า ณ อาหารมอ้ื สุดทา้ ย นกั บุญมทั ธวิ กต็ ามอยา่ งนักบุญ
มาระโกโดยจากดั เร่อื งทเ่ี ล่าไวใ้ นบทสนทนาสองบท คอื การประกาศถงึ ผทู้ รยศ (26:21-25) และการตงั้ ศลี มหาสนิท

(26:26-29)

26:21-25. ผอู้ ่านต่างทราบแล้วว่ายดู าสจะทรยศพระเยซูเจา้ แต่ตวั ละครในเร่อื งไม่รู้ พระเยซูเจา้ ไดท้ รง
ประกาศซ้าๆ ว่าพระองคจ์ ะทรงถูก “ส่งมอบตวั ” (“Delivered Up” ภาษากรกี paradidomi) แต่ทน่ี ่ีกอ็ าจจะเป็นไดท้ งั้
การทพ่ี ระเป็นเจา้ ทรงมอบพระเยซูเจา้ ใหท้ รงถูกสง่ มอบตวั เพอ่ื บาปของมนุษยชาติ หรอื การทจ่ี ะมใี ครทรยศพระ
เยซูเจา้ ใหผ้ ทู้ เ่ี ป็นปฏปิ ักษ์ต่อพระองค์ น่ีเป็นครงั้ แรกทพ่ี ระเยซูเจา้ ทรงบอกตวั ละครในเรอ่ื งวา่ คนหน่ึงในวงในของ
พระองคเ์ อง คอื อคั รสาวกสบิ สองคนจะเป็นผทู้ รยศ (สาหรบั คาว่า “เป็นความจรงิ ” หรอื “Truly” [ภาษากรกี Amen] ณ ทน่ี ้ีและใน ว.
13 และ 34 ดู 5:18) เป็นเรอ่ื งแปลกพอดทู น่ี กั บุญมทั ธวิ ละการอา้ งองิ ถงึ สดด. 41:9 ในพระวรสารนกั บุญมาระโก (เทยี บ
ว. 23) นักบุญมาระโกเล่าว่าบรรดาศษิ ย์ตอบสนองอย่างเดยี วกนั ส่วนนักบุญมทั ธวิ เล่าถงึ การตอบสนองแยกกนั
เพอ่ื ถา่ ยทอดถงึ ยดู าสอยา่ งเดน่ ชดั ในเหตกุ ารณ์ทน่ี กั บุญมทั ธวิ เสรมิ เขา้ มาในตอนทา้ ย

26: 22-23. บรรดาศษิ ยไ์ มไ่ ดต้ อบสนองดว้ ยการสารวจในจติ วญิ ญาณ แต่ตอบสนองดว้ ยการปฏเิ สธอยา่ ง
มนั่ ใจต่อสงิ่ ท่ีพระเยซูเจ้าตรสั แม้ว่าจะคงเปิดช่องให้กบั ความเป็นไปได้นัน้ และขอการยนื ยนั ให้มนั่ ใจอยู่ คา
อนุภาคแสดงถงึ การถาม ภาษากรกี “meti”) มนี ัยของการตอบสนองดว้ ยการปฏเิ สธ (เป็นเช่นนัน้ ทงั้ ในฉบบั ระหว่าง NIV
และ NRSV มากกว่าในฉบบั แปลท่มี มี าก่อนหน้า) พระเยซูเจา้ มไิ ดท้ รงระบุต่อไปว่าผทู้ รยศเป็นใคร (ต่างกบั ยน. 13:26) หากแต่
ทรงบอกแต่เพยี งว่าเป็นผูท้ ่รี บั ประทานอาหารร่วมกนั กบั พระองค์จากชามเดยี วกนั สาหรบั นักบุญมทั ธวิ การ
ประกาศน้ีมหี น้าทท่ี างครสิ ตศาสตรต์ ่อผอู้ ่านเป็นหลกั พระเยซูเจา้ ทรงทราบชะตากรรมของพระองค์อย่ลู ่วงหน้า
แลว้ ดงั นนั้ การจะทกั ทายว่าศษิ ยค์ นอ่นื ๆ ไดย้ นิ สง่ิ ทพ่ี ระเยซูเจา้ ตรสั น้ีดว้ ยหรอื เปล่า และหากเป็นเช่นนนั้ เหตุใด
พวกเขาจงึ มไิ ดค้ ดั คา้ น และการทายวา่ ตรงน้ีน่าจะเขา้ กนั กบั ยน. 13:21-30 ไดอ้ ย่างไร ลว้ นเป็นสง่ิ ทไ่ี ม่เกย่ี วขอ้ ง
กบั ประเดน็

547

26: 24. บทบรรยายเชงิ วภิ าษวธิ ใี นเร่อื งความเป็นประมุขอนั ศกั ดสิ ์ ทิ ธดิ ์ ว้ ยเทวภาพและความรบั ผดิ ชอบ
ของมนุษยใ์ นพระมหาทรมานแสดงออกมาอย่างดี ณ ทน่ี ้ี พระเป็นเจา้ มไิ ดท้ รงถูกทาใหป้ ระหลาดใจในการทรยศ
ทน่ี าไปส่กู ารตรงึ กางเขน สง่ิ ทเ่ี กดิ ขน้ึ น้ีเป็นไปตามแผนการของพระเป็นเจา้ ทม่ี กี ารกล่าวถงึ ไวใ้ นพระคมั ภรี ์แลว้
แต่การทเ่ี ป็นเช่นน้ีกม็ ไิ ดช้ ว่ ยบรรเทาภาระแหง่ ความรบั ผดิ ชอบของมนุษย์ นกั บุญมทั ธวิ (ซง่ึ ณ ทน่ี ้ี ไดต้ ามอยา่ งพระวร
สารนักบุญมาระโกอย่างเกอื บจะคาต่อคา) ไม่ไดแ้ บ่งแยกความรบั ผดิ ชอบต่อการสน้ิ พระชนมข์ องพระเยซูเจา้ ระหว่างพระ
เป็นเจา้ และมนุษย์ พระเป็นเจา้ ทรงเป็นประมุขโดยสมบูรณ์ มนุษยม์ หี น้าทร่ี บั ผดิ ชอบโดยสมบูรณ์ ความชดั เจน
ของความต่างกนั ระหว่าง “บุตรแห่งมนุษย์” (ภาษากรกี “ho huios tou anthropu) กบั “มนุษย์” (ภาษากรกี anthropos) ของ
ขอ้ ความน้ีมกี ารคงไวใ้ นพระคมั ภรี ฉ์ บบั NIV และฉบบั NRSV แต่การแปลของฉบบั NRSV ทาใหค้ วามชดั เจนน้ี
เกดิ ความคลมุ เครอื

26: 25. นกั บญุ มทั ธวิ ไดเ้ พมิ่ คากล่าวน้ีเขา้ มาเพอ่ื ทาใหเ้ ป็นทก่ี ระจา่ งวา่ พระเยซูเจา้ ทรงทราบวา่ ใครเป็นผู้
ทรยศอยแู่ ลว้ ลว่ งหน้า (ไม่มอี ะไรในพระวรสารมาระโกบ่งบอกวา่ เป็นเช่นน้ี) และเพอ่ื ทาใหค้ วามหน้าซอ่ื ใจคดของยดู าสปรากฏ
เด่นขน้ึ มา รูปกรยิ าแสดงการกระทาท่กี าลงั เกดิ ขน้ึ ในปัจจุบนั ภาษากรกี (paradidous) น่าจะแปลว่า “ผซู้ ่งึ กาลงั
ทรยศพระองคอ์ ย่”ู มากกว่า ยดู าสตอบสนองอย่างเดยี วกนั กบั ศษิ ย์คนอ่นื ๆ ยกเวน้ คาทใ่ี ชเ้ รยี กพระเยซูเจา้ ศษิ ย์
คนอ่นื ๆ เรยี กพระเยซูเจา้ ว่า “พระองคเ์ จา้ ขา้ ” ซง่ึ เป็นคาทค่ี นวงในใช้ ยดู าสใชค้ าวา่ “อาจารยเ์ จา้ ขา้ ” (rJabbi” rabbi)
ซ่ึงเป็นคาท่คี นวงนอกใช้ สง่ิ ท่พี ระเยซูเจ้าตรสั ตอบ คอื “เขาว่าถูกแล้ว” ซ่ึงเป็นการตอบด้วยความหมายตาม
ตวั อกั ษร (ภาษากรกี su legeis) ไม่ได้มคี วามกากวม แต่เป็นการตอบว่าใช่อย่างชดั เจนเหมอื นใน 26:64 และคาว่า
ภาษากรกี (su legeis) เป็นคาทค่ี ลา้ ยคลงึ กนั ตรง 27:11 แตไ่ มม่ คี วามหมายโดยนยั ของภาษาตลาดของคากลา่ วใน
ภาษาองั กฤษน้ี

26: 26-29 การตงั้ ศลี มหาสนิท ด้วยอทิ ธพิ ลจากแนวปฏบิ ตั ทิ างพธิ กี รรมของครสิ ตศาสนายุคแรกหลาย
กระแส ไดม้ รี ปู แบบต่างๆ มากมายของเรอ่ื งราวน้ีเกดิ ขน้ึ (1) รปู แบบในตวั บทของครสิ ตศาสนายุคแรกสดุ ทย่ี งั คง
ปรากฏอยใู่ นปัจจุบนั (ไมจ่ าเป็นวา่ ตอ้ งเป็นรปู แบบแรกสดุ ของเรอ่ื ง) คอื รปู แบบของนกั บุญเปาโลทป่ี รากฏอยใู่ น 1คร. 11:23-
25 และในขอ้ ความขนาดยาวตรง ลก. 22:19-20 ซง่ึ มลี กั ษณะทต่ี ่างออกไปเป็นพระบญั ชาใหท้ าพธิ ซี ้าและวลที ว่ี า่
“ให้เป็นทรี่ ะลกึ ถงึ เรา” (ภาษากรกี eis ten emen anammesin) (2) รูปแบบในขอ้ ความขนาดสนั้ ตรง ลก. 22:15-19 ซ่งึ มี
ลกั ษณะทต่ี ่างออกไปเป็นลาดบั ถว้ ย/ขนมปัง (3) รปู แบบใน มก. 14:22-25 ซง่ึ เป็นรปู แบบทม่ี พี ระสญั ญาของพระ
เยซูเจา้ ว่าจะไมท่ รงดม่ื จากถว้ ยนนั้ อกี จนกวา่ จะถงึ วนั ทพ่ี ระองคจ์ ะทรงดม่ื ใหมร่ ว่ มกนั กบั บรรดาศษิ ยข์ องพระองค์
ในแผ่นดนิ ของพระเป็นเจา้ ทุกรปู แบบของธรรมเนียมน้ีมพี ฒั นาการขน้ึ มาอย่างซบั ซอ้ น ซง่ึ ไม่ได้มผี ลเป็นเพยี ง
ตัวบทท่ีแตกต่างกัน แต่เป็นรูปแบบอันหลากหลายมากมายของต้นฉบับ รูปแบบทัง้ หมดของตัวบท มีทัง้
องคป์ ระกอบจากสมยั ตน้ และสมยั หลงั ประเดน็ ของการอธบิ ายตวั บทไมไ่ ดเ้ ป็นการประกอบสรา้ งพระวาจาทพ่ี ระ
เยซูเจา้ ตรสั จรงิ ๆ ณ อาหารมอ้ื สุดทา้ ยขน้ึ ใหม่ แต่เป็นการตคี วามความหมายของตวั บทตามทป่ี รากฏอยู่ในพระ
คมั ภรี ์

ตวั บทในพระวรสารนกั บุญมาระโกไดแ้ สดงถงึ เทววทิ ยาของนักบุญมาระโกเกย่ี วกบั การทรงหายไปของ
พระเยซูเจา้ ในช่วงเวลาระหว่างการตรงึ กางเขนกบั การเสดจ็ มาครงั้ ท่สี อง (ดู มก. 2:20; 14:7, 25; 16:7) แม้ว่านักบุญ
มทั ธวิ จะมคี วามเขา้ ใจของท่านเองเกย่ี วกบั การทรงสถติ อย่ขู องพระเยซูเจา้ ทท่ี รงสถติ อย่กู บั พระศาสนจกั รของ
พระองคใ์ นช่วงเวลาของพระราชกจิ ทอ่ี ย่รู ะหว่างการกลบั คนื พระชนมก์ บั การเสดจ็ กลบั มาครงั้ ทส่ี อง (ดู 1:23; 28:20)

548

นักบุญมทั ธิวก็รบั รูปแบบธรรมประเพณีของนักบุญมาระโกมา ซ่ึงเห็นได้ว่าเป็นรูปแบบเดียวท่ีท่านรู้จกั นัก
บุญมทั ธวิ อาจเขา้ ใจเองเก่ยี วกบั การทรงสถติ อย่อู ย่างต่อเน่ืองของพระครสิ ต์ในพระวาจาท่วี ่า “นีเ่ ป็ นกายของ
เรา” อย่างไรกด็ ี ไม่มอี ะไรบ่งบอกว่านักบุญมทั ธวิ รบั ความเขา้ ใจแบบเฮเลนนิสตกิ และนักบุญเปาโลมาใช้ ทว่ี ่า
พระศาสนจกั รคอื พระกายของพระครสิ ต์ (1คร. 11-12) นักบุญมทั ธวิ อาจเขา้ ใจคาทใ่ี ชใ้ นการตงั้ ศลี มหาสนิทในแงท่ ่ี
เก่ียวกบั ภูมิหลงั ทางภาษาอราเมอิกของคาเหล่าน้ี เน่ืองจากภาษาอาราเมอิก (ต่างกับฮีบรูและกรกี ) ไม่ได้มีคาท่ี
หมายถงึ “กาย” คาทพ่ี ระเยซูเจา้ ทรงใชแ้ ต่ดงั้ เดมิ อาจจะเป็นภาษาอาราเมอกิ (gûp) ซ่งึ แปลว่า “ตวั ” ท่หี มายถงึ
“ตวั ตน” ตามท่เี อดวั ร์ ชไวเซอร์ (Eduard Schweizer) ได้กล่าวไว้ แต่ดงั้ เดมิ ประโยคน้ีกจ็ ะมคี วามหมายว่า “นี่
เป็นตวั ของเรา” คากล่าวน้ีจงึ ใหค้ วามมนั่ ใจแก่พระศาสนจกั รว่าพระครสิ ต์ ผูฟ้ ้ืนพระชนม์นัน้ เองทรงสถติ อยู่ ณ
อาหารน้ี

นักบุญมทั ธวิ ได้กระทาตามอย่างนักบุญมาระโกในการใช้คากริ ยิ าท่ตี ่างกันสาหรบั คาอธษิ ฐานสาหรบั
ขนมปัง (“ถวายสาธุการ” [ภาษากรกี eulogeo]) และสาหรบั เหลา้ องนุ่ (“โมทนาพระคุณ” [ภาษากรกี eucharisteo]) คากริ ยิ าทงั้ สองคา
เป็นสง่ิ ท่พี ระเยซูเจา้ ทรงกระทาต่อพระเป็นเจา้ ไม่ใช่ต่อขนมปังหรอื เหล้าองุ่น ซ่งึ เหมอื นกบั การสาธุการท่โี ต๊ะ
อาหารตามธรรมเนยี มชาวยวิ “ขอถวายพระพรแดพ่ ระองค์ โอ้ พระเป็นเจา้ องคก์ ษตั ราแหง่ จกั รวาล ผทู้ รงนาขนม
ปังขน้ึ มาจากแผ่นดนิ โลก” และ “ขอสรรเสรญิ พระองค์ โอ้ พระเป็นเจา้ องคก์ ษตั ราแหง่ จกั รวาล องคผ์ ทู้ รงสรา้ งผล
แห่งเถาองุ่น” ความหมายโดยนัยของพระเป็นเจ้าในฐานะกษตั รยิ ์และการกล่าวถึงพระอาณาจกั รพระเป็นเจ้า
อย่างซ้าๆ ใน ว. 29 กาหนดให้ตวั บทน้ีอยู่ในบรบิ ทของแนวคดิ ของนักบุญมทั ธวิ (การตคี วามใหม่[Reinterpretation]ท่ี
แตกต่าง) เร่อื งความขดั แย้งของอาณาจกั ร (เทยี บ 12:22-37; บทเสรมิ เร่อื ง “พระอาณาจกั รสวรรค์ในพระวรสารนักบุญมทั ธวิ ” 288-94)
นักบุญมทั ธวิ ไดใ้ ช้ “ถ้วย” เป็นสญั ลกั ษณ์ของการทพ่ี ระเยซูเจา้ ทรงประทานพระชนมช์ พี ของพระองค์แก่ผอู้ ่นื ไป
แลว้ (20:22) และจะทาอย่างเดยี วกนั น้ีอกี ในสวนเกทเสมนี (26:39) นักบุญมทั ธวิ ยงั ใชก้ ารกล่าวถงึ “ถว้ ย” เช่นเดมิ
ซง่ึ ไมส่ ละสลวย (แทนทจ่ี ะกลา่ วถงึ “เหลา้ องนุ่ ” ซง่ึ จะเป็นคาทค่ี กู่ นั กบั “ขนมปัง”) เพอ่ื คงไวซ้ ง่ึ ความหมายโดยนยั ของเทศกาลปัส
กา ซง่ึ มกี ารกลา่ วถงึ “ถว้ ย” อยหู่ ลายครงั้

การเปล่ยี นแปลงท่ีทาให้เห็นความแตกต่างอย่างมากท่ีสุดท่ีนักบุญมทั ธวิ กระทาต่อความหมายของ
นกั บุญมาระโก มดี งั น้ี (1) ทา่ นทาใหค้ าทผ่ี เู้ ลา่ เรอ่ื งในพระวรสารนกั บุญมาระโกใชเ้ กย่ี วกบั ถว้ ย “พวกเขาไดร้ บั ไป
ดมื่ ทุกคน” กลายมาเป็นพระบญั ชาทเ่ี ป็นค่กู นั กบั พระวาจาทพ่ี ระเยซูเจา้ ตรสั สาหรบั ขนมปัง เพอ่ื ทก่ี ารกระทาแต่
ละอย่างน้ีจะประกอบกนั เป็นพระบญั ชาของพระเยซูเจา้ และการตอบสนองอย่างเช่อื ฟังของบรรดาศษิ ย์ (2) แลว้
ท่านได้เตมิ พระบญั ชาให้ “กนิ ” เขา้ มาใหก้ บั พระวาจาทพ่ี ระเยซูเจา้ ตรสั สาหรบั ขนมปัง เพ่อื เน้นการเป็นค่กู นั กบั
พระบญั ชาให้ “ดมื่ ” ซง่ึ เพงิ่ จะมกี ารกาหนดขน้ึ (3) การกระทาทงั้ หมดน้ีมคี วามเชอ่ื มโยงกนั กบั “การยกบาปโทษ”
ซง่ึ เป็นคาคาเดยี วกนั กบั ทน่ี กั บุญมาระโกใชใ้ นการบรรยายเกย่ี วกบั การทาพธิ ลี า้ งของนักบุญยอหน์ (มก. 1:4) นัก
บุญมทั ธิวแยก “การยกบาป” ออกมาจากการทาพิธีล้างของนักบุญยอห์นและนาเข้ามาเช่ือมโยงกับ “การ
สน้ิ พระชนมข์ องพระเยซูเจา้ ” ซง่ึ เป็นการรอ้ื ฟ้ืนพนั ธสญั ญา การยกบาปเป็นพระราชกจิ หลกั ของพระเยซูเจา้ (1:21;
เทยี บ 9:1-7) การยกบาปสาเรจ็ ไดโ้ ดยการสน้ิ พระชนมข์ องพระเยซูเจา้ ซ่งึ เขา้ ใจได้ ณ ทน่ี ้ีว่าเป็นเช่นนัน้ ในแง่ของ
การพลบี ูชาทผ่ี นึกความสมั พนั ธ์ระหว่างพระเป็นเจา้ และประชากรแห่งพนั ธสญั ญา (เทยี บ อพย. 24:8; อสย. 53:12; แต่ดู
มธ. 9:2) ใน อพย. 24:3-8 การพลบี ูชาสาหรบั พนั ธสญั ญาไม่ได้มคี วามเก่ยี วขอ้ งกบั การยกบาป ซ่งึ จะใช้การพลี
บูชาในแบบอ่นื ๆ แต่นกั บุญมทั ธวิ ใหภ้ าพการสน้ิ พระชนมข์ องพระเยซูเจา้ เป็นการเขา้ มาแทนทเ่ี ลอื ดทใ่ี ชพ้ ลบี ูชา

549

ตามพระบญั ญัติของพนั ธสญั ญาเดิม ท่านจึงเติม “เพือ่ ยกบาปโทษ” เข้ามา (4) ในวลี “คนเป็นอนั มาก” นัก
บุญมทั ธวิ เปลย่ี นคาบุพบทของนกั บญุ มาระโกจากภาษากรกี (hyper) เป็น (peri) ทงั้ สองคาแปลวา่ “ใหก้ บั ” แต่ peri
เป็นคาทพ่ี บไดท้ วั ่ ไปมากกว่าในบรบิ ทของการพลบี ูชา (เทยี บ อสย. 53;4, 10; ฮบ. 5:1, 3; 1ปต. 3:18; 1ยน. 2:2) ในเร่อื งการ
สอ่ื ความ- หมายถงึ การครอบคลุมของคาว่า “คนเป็นอนั มาก” ดูขอ้ ศกึ ษาวพิ ากษ์ 20:28 (5) นกั บุญมทั ธวิ ไดเ้ ตมิ
คาวา่ “กบั พวกเขา” เขา้ มาใน ว. 29 ซง่ึ สอดคลอ้ งกนั กบั การเน้นโดยตลอดถงึ การทรงสถติ ของพระเยซูเจา้ อยกู่ บั
บรรดาศษิ ย์ของพระองค์ แมว้ ่า ณ ทน่ี ้ีจะหมายถงึ สามคั คธี รรมแห่งแผ่นดนิ ของพระเป็นเจา้ ในอนาคตกต็ าม (6)
“แผน่ ดนิ ของพระเป็นเจา้ ” ของนกั บุญมาระโกกลายมาเป็น “แผ่นดนิ แหง่ พระบดิ าของเรา” (เทนี บ 10:32-33//ลก. 12:8-9;

มธ. 12:50//มก. 3:35 สาหรบั กรณีอ่นื ๆ ทน่ี กั บญุ มทั ธวิ แทนท่ี “พระเป็นเจา้ ” ในธรรมประเพณขี องท่านดว้ ย “พระบดิ าของเรา” ในสง่ิ ทพ่ี ระเยซูเจา้ ตรสั )

ในการกลา่ วถงึ “โลหติ แหง่ พนั ธสญั ญา” นกั บุญมทั ธวิ ไมไ่ ดใ้ ชค้ าวา่ ใหมอ่ ยา่ งชดั แจง้ แต่นยั ของความใหม่
สามารถเหน็ ไดจ้ ากการตคี วามการสน้ิ พระชนมข์ องพระเยซูเจา้ ในแงข่ อง (การรอ้ื ฟ้ืนทางอนั ตวทิ ยาของ) พนั ธสญั ญาของ
พระเจา้ ต่ออสิ ราเอล ในบรบิ ทแบบน้ีโดยทงั้ หมด คาวา่ “ใหม”่ หมายถงึ รอ้ื ฟ้ืนขน้ึ มาในทางอนั ตวทิ ยา ไมใ่ ช่ “ใหม่
และปรบั ปรุงแลว้ ” ซง่ึ เป็นความหมายเชงิ วฒั นธรรม (เทยี บ การใชค้ าวา่ “ถูกสรา้ งใหม่” ของนกั บุญเปาโล 2คร. 5:17; กท. 6:15; การ

ใชค้ าว่า “นครเยรซู าเลม็ ใหม่” ของนักบุญยอหน์ วว. 21: 1-2, 5; การใชค้ าวา่ “บญั ญตั ใิ หม่” ในพระวรสารฉบบั ทส่ี ่ี ยน. 13:34 ซง่ึ ทงั้ หมดน้ีมนี ัยสอ่ื ถงึ

ความเป็นทส่ี ุด ไม่ใช่ “ใกลป้ ัจจุบนั มากกวา่ และดงั นนั้ จงึ ดกี วา่ ”) นกั บญุ มทั ธวิ ไดย้ นื ยนั ความใหม่ทางอนั ตวทิ ยาทม่ี าโดยทางพระ
เยซูเจา้ และความต่อเน่อื งกนั กบั สง่ิ “เก่า” ซง่ึ ยงั คงถอื วา่ มคี ุณคา่ อยู่ (มธ. 9:17; 13:52)

26: 30ก แม้ว่านักบุญมทั ธิวจะระบุอย่างเจาะจงว่าอาหารม้ือน้ีเป็นพิธีปัสกา (26:2, 17-19) ท่านก็ไม่ได้
บรรยายถงึ พธิ กี รรมของเทศกาลปัสกาแต่อย่างใดในระหว่างมอ้ื อาหารเอง การด่มื เหลา้ องุน่ ไม่ไดม้ คี วามสมั พนั ธ์
อย่างจาเพาะเจาะจงกบั พธิ ปี ัสกา เน่ืองจากการด่มื เหลา้ องุ่นมรี วมอย่ใู นการรบั ประทานอาหารเทศกาลหลายมอ้ื
และเป็นทร่ี กู้ นั ว่าพระเยซูเจา้ ทรงด่มื เหลา้ องุน่ รว่ มกนั กบั บรรดาศษิ ย์ของพระองคใ์ นหลายๆ วาระ (11:19) ตรงกนั
ขา้ มกบั พธิ ปี ัสกา ซ่งึ เน้น “เหตุผลทค่ี นื น้ีต่างไปจากคนื อ่นื ๆ ทงั้ หมด” โดยการนาอาหารท่ไี ม่ธรรมดามาบรกิ าร
(ขนมปังไรเ้ ชอ้ื และผกั รสขม) อาหารและเคร่อื งด่มื ท่พี ระเยซูเจา้ ทรงสาธุการนัน้ เป็นอาหารธรรมดา (เวน้ เสยี แต่ว่ากรอบของ
พธิ ปี ัสกาจะมคี วามหมายวา่ ขนมปังทใ่ี ชใ้ นพธิ จี ะตอ้ งเป็นขนมปังไรเ้ ชอ้ื แต่กไ็ ม่มอี ะไรในขอ้ ความสว่ นน้ีทบ่ี ่งบอกว่าเป็นอย่างน้ี) ขอ้ ความทส่ี อ่ื ถงึ
การเปลย่ี นผ่านน้ีจงึ มจี ดุ เช่อื มโยงเพยี งจุดเดยี วท่เี ช่อื มโยงกบั พธิ ปี ัสกาทวั่ ไป ซง่ึ มกี ารรอ้ งชุดเพลงสดดุ ี “ฮลั เลล”
(“Hallel” สดด. 113-118) สดด. 113-114 เป็นตอนจะเรมิ่ พธิ แี ละ 115-118 ตอนจะปิดพธิ ี น่ีเป็นการกล่าวถึงการร้อง
เพลงเพยี งครงั้ เดยี วในพระวรสาร และการรอ้ งเพลงก็ไม่ไดม้ อี ย่ใู นเร่อื งราวในพระวรสารนักบุญลูกาและพระวร
สารนักบุญยอห์นเก่ยี วกบั อาหารม้อื สุดท้าย ด้วยเพลงปิดพธิ ปี ัสกา กรอบปฏิบตั ิ(หลงั การแก้ไขเปล่ยี นแปลง)ท่ลี ้อม
อาหารมอ้ื สุดทา้ ยกส็ มบรู ณ์

ข้อคิดไตร่ตรอง

ในฐานะการกระทาเชงิ สญั ลกั ษณ์ พธิ ีศลี มหาสนิทแสดงถงึ ความหมายทล่ี ดทอนลงมาเป็นถอ้ ยคาไม่ได้
เป็นการกระทาทส่ี าแดงความเป็นจรงิ ทอ่ี ย่เู หนือการแสดงออกทางถอ้ ยคา กระนนั้ การกระทาน้ีเตม็ เป่ียมไปดว้ ย
ความหมายและทาใหเ้ กดิ ความสนใจในการขยายความทางเทววทิ ยา แมว้ ่าคากล่าวทางเทววทิ ยาต่างๆ จะไม่
อาจตคี วามสญั ลกั ษณ์น้ีจนไมเ่ หลอื ทางอ่นื ใหต้ คี วามอกี ได้ มี 5 มติ ขิ องความเชอ่ื ครสิ ต์เป็นความหมายแฝงอย่ใู น
มอ้ื อาหารทเ่ี ป็นพธิ ศี ลี มหาสนิทนนั้ เอง แต่ไม่ใช่ว่าจะมกี ารถ่ายทอดถงึ ทุกมติ อิ ย่างเป็นรปู ธรรมในเร่อื งเล่าแต่ละ
เรอ่ื ง

550

1. บรบิ ทเทศกาลปัสกาซ่งึ นักบุญมทั ธวิ เน้นความสาคญั ทาใหม้ อ้ื อาหารซ่งึ เป็นพธิ บี ูชาขอบพระคุณ(ศลี มหา
สนิท)มคี วามหมายเป็นการฉลองเพอ่ื ระลกึ ถงึ การกระทาอนั เป็นการปลดปล่อยของพระเป็นเจา้ ซง่ึ เป็นการกระทา
ทส่ี รา้ งประชากรแห่งพนั ธสญั ญาอย่แู ล้ว อาหารม้อื น้ีจงึ นาความสนใจยอ้ นไปท่ที งั้ การสน้ิ พระชนมข์ องพระเยซู
เจา้ เพอ่ื เป็นการยกบาป และการดาเนินพระชนมช์ พี ของพระเยซูเจา้ ซง่ึ พระองคไ์ ดป้ ระทานมอ้ื อาหารแหง่ สามคั คี
ธรรม ทงั้ กบั บรรดาศษิ ย์ของพระองคแ์ ละกบั คนวงนอกและคนชายขอบ (เทยี บ 9:10-13; 11:19; 26:6-13) โดยเฉพาะใน
ธรรมเนียมตะวนั ออกใกลโ้ บราณและในธรรมประเพณีของยวิ การทค่ี นรบั ประทานอาหารรว่ มกนั เป็นสายสมั พนั ธ์
อนั ศกั ดสิ ์ ทิ ธแิ ์ ห่งความยนิ ดตี ้อนรบั และการมสี ่วนร่วมในชวี ติ ของกนั และกนั ม้อื อาหารของพธิ ศี ลี มหาสนิทนา
ความสนใจยอ้ นไปท่พี ระชนม์ชพี ของพระเยซูเจา้ ตอนท่พี ระองค์ทรงสาแดงการเปิดรบั และการยอมรบั ของพระ
เป็นเจ้าโดยการเสวยพระกระยาหารร่วมกบั คนบาป อาหารนัน้ มลี กั ษณะเป็นของกานัล พระเยซูเจ้าทรงเป็นผู้
ประทานอาหารและประทานใหท้ ุกคน รวมทงั้ คนเกบ็ ภาษีและคนบาป มติ นิ ้ีปรากฏอยู่ในเร่อื งราวของการเล้ยี ง
อศั จรรย์ ซ่งึ ของกานัลมไี ม่จากดั อย่างน่าอศั จรรยใ์ จอกี ทงั้ ผูร้ บั กไ็ ม่สมควรจะได้ อาหารน้ีทาใหน้ ึกถงึ อาหารม้อื
สุดท้ายเป็นพเิ ศษของพระเยซูเจา้ ซ่งึ พระองคเ์ สวยร่วมกบั บรรดาศษิ ย์ของพระองค์ในคนื ก่อนการสน้ิ พระชนม์
อกี ทงั้ ความเป็นจรงิ ของการประทานพระกายและพระโลหติ ของพระองค์ (ขอ้ ความตรงน้ีหมายถงึ พระชนมช์ พี ของพระองค์ ใน
ความเป็นจรงิ เชงิ รปู ธรรม) เพ่อื ความรอดพน้ ของเรา เม่อื เป็นดงั น้ี พธิ ศี ลี มหาสนิททุกครงั้ จงึ เป็นเคร่อื งระลกึ ถงึ สงิ่ ทไ่ี ด้
เกดิ ขน้ึ จรงิ ในประวตั ศิ าสตร์ แมว้ า่ การใชค้ าศพั ท์นิยามเกย่ี วกบั การระลกึ ถงึ จะไมไ่ ดป้ รากฏใหเ้ หน็ อย่างชดั แจง้ ใน
เร่อื งเล่าเก่ยี วกบั พธิ ศี ลี มหาสนิทในรปู แบบของนักบุญมทั ธวิ โดยภาพรวมไดน้ าความสนใจไปทค่ี วามสาคญั ของ
ประวตั ศิ าสตรเ์ รอ่ื งน้ี

2. ม้ืออาหารน้ีช้ีนาความสนใจไปข้างหน้า(points forward)สู่ความสาเร็จสมบูรณ์ของม้ืออาหารน้ีในพระ
อาณาจกั รพระเป็นเจา้ ความหมายหลกั ของมติ นิ ้ีเป็นความหมายทางอนั ตวทิ ยา ซง่ึ ใหก้ ารคาดหมายความยนิ ดี
ปรดี าของงานเลย้ี งฉลองพระเมสสยิ าห์ นาความสนใจจากสมยั ของพระเยซูเจา้ ไปยงั ชวี ติ ของพระศาสนจกั รดว้ ย
ในภายหน้าพระศาสนจกั รซ่งึ มงี านเล้ยี งฉลองพระเมสสยิ าหแ์ ละพระอาณาจกั รพระเป็นเจา้ โดยการคาดหมายน้ี
พธิ ศี ลี มหาสนิททุกครงั้ จงึ เป็นพนั ธสญั ญาถงึ ชยั ชนะในกาลสุดทา้ ยของพระอาณาจกั รพระเป็นเจา้ ความขดั แยง้
ของอาณาจกั รเป็นเน้อื หาหลกั ของพระวรสารนกั บญุ มทั ธวิ พธิ ศี ลี มหาสนิทเป็นการแสดงถงึ การฉลองชยั ชนะทย่ี งั
มาไมถ่ งึ แต่เป็นสง่ิ ทจ่ี ะเกดิ ขน้ึ โดยแน่แท้

3. มอ้ื อาหารน้ีช้นี าความสนใจความหมายเขา้ มาขา้ งใน(points inward)โดยเป็นการเรยี กใหส้ ารวจตนเองใน
เรอ่ื งบทบาทของผมู้ สี ว่ นร่วม แมว้ า่ องคป์ ระกอบน้ีจะไม่ไดป้ รากฏอยู่อยา่ งชดั แจง้ ในพระวรสารนกั บุญมทั ธวิ (เช่น
ใน 1คร. 11: 28) ซ่ึงเป็ นการนาเร่อื งราวของม้ืออาหารน้ีมาไว้ในบริบทของการประกาศถึงการทรยศและการ
ตอบสนองของบรรดาศษิ ย์ (26: 21-25) นกั บญุ มทั ธวิ กไ็ ดก้ อ่ ใหเ้ กดิ การตอบสนองดว้ ยการสารวจตนเองเชน่ กนั

4. ม้อื อาหารน้ีช้นี าความสนใจขน้ึ ขา้ งบน(points upward) – กล่าวคอื ไปยงั แดนสวรรคท์ ่ซี ่งึ พระครสิ ต์ผูฟ้ ้ืน
พระชนมแ์ ละทรงไดร้ บั พระเกยี รตสิ ริ ริ ุ่งโรจน์ประทบั อย่บู นบลั ลงั ก์ ณ ทน่ี ้ี สญั ลกั ษณ์พระกายและพระโลหติ ของ
พระเยซูเจา้ นาความสนใจเลยตัวเองไปยงั แดนท่อี ยู่สภาพความเป็นจรงิ ท่อี ยู่เบ้อื งบนเหนือโลกกายภาพ (เทยี บ
ข้อคิดไตร่ตรอง 3 เร่อื งการตีความวจนนิพนธ์เก่ียวกับการพิพากษาในอวสานกาลของโลก หลงั 25:31-46) เทววิทยาคริสต์ท่ีมีมาใน
ภายหลงั ไดอ้ ธบิ ายพฒั นาการเก่ยี วกบั วธิ อี นั หลากหลายในการอธบิ ายมติ นิ ้ีของความเช่อื เร่อื งศลี มหาสนิท นัก

551

บุญมทั ธวิ คงไวแ้ ตเ่ พยี งพระคาปรศิ นา “นีเ่ ป็นกายของเรา” และ “นีเ่ ป็นโลหิตของเรา” โดยไมไ่ ดอ้ ธบิ ายวา่ เรา
พงึ เขา้ ใจวา่ พระวาจาเหลา่ น้หี มายความวา่ อย่างไร

5. มอ้ื อาหารน้ีชน้ี าความสนใจความหมายสคู่ ุณค่าดา้ นภายนอก(points outward)ไปยงั ทงั้ พระศาสนจกั รและ
โลก น่ีเป็นสงิ่ ท่ที าใหเ้ ป็นท่ชี ดั แจง้ ในรูปแบบคาสอนของจดหมายนักบุญเปาโลและรูปแบบยาวของพระวรสาร
นักบุญลูกา ซ่ึงพระเยซูเจ้าได้ทรงบญั ชาให้ทาพิธนี ้ีซ้าและมกี ารบรรยายอย่างชดั แจ้งว่าม้อื อาหารน้ีเป็นพนั ธ
สญั ญาต่อผอู้ ่นื (1คร. 11:26) นกั บุญมทั ธวิ แสดงมติ ดิ งั กล่าวของความเช่อื แบบชาวครสิ ต์ไวท้ อ่ี ่นื ดว้ ย (เช่น 5:16; 10:32-
33) และท่านได้เจาะจงรวมเอาความหมาย ความใส่ใจต่อผูอ้ ่นื ไวใ้ นความหมายแฝงท่เี ก่ยี วกบั ศลี มหาสนิทของ
เรอ่ื งเลา่ เกย่ี วกบั การเลย้ี งคนหา้ พนั คน “พวกทา่ น [บรรดาศษิ ย]์ จงเลย้ี งพวกเขา [ฝงู ชน ‘วงนอก’] เถดิ ” (14:16)

มทั ธวิ 26:30ข-56 การทอดทง้ิ การทรยศ การสง่ มอบตวั
มทั ธวิ 26:30ข-35 พระเยซูเจา้ ทรงพยากรณ์ถงึ การทอดทง้ิ และทรงสญั ญาวา่ จะมกี ารกลบั มารวมตวั กนั ใหม่

ทุกคนออกจากหอ้ งเพ่อื ไปยงั ภูเขามะกอกเทศ 31 แลว้ พระเยซูเจา้ ตรสั แก่บรรดาศษิ ยว์ า่ “ทุกท่านจะทอดทง้ิ เราในคนื น้ี12 เพราะมี
เขยี นไวใ้ นพระคมั ภรี ์ว่า เราจะตผี ูเ้ ล้ยี งแกะ และแกะจะกระจดั กระจายไป 32 แต่เม่อื เรากลบั คนื ชพี แล้ว เราจะไปยงั แควน้ กาลลิ ี
ก่อนหน้าท่าน” 33 เปโตร ทูลตอบว่า “แมท้ ุกคนจะทอดท้งิ พระองค์ ขา้ พเจา้ กจ็ ะไม่ทอดท้งิ พระองค์เลย” 34 พระเยซูเจา้ ตรสั กบั
เขาว่า “เราบอกความจรงิ แก่ท่านวา่ ในคนื น้ีเอง กอ่ นไก่ขนั ท่านจะปฏเิ สธเราสามครงั้ ” 35 เปโตรทลู วา่ “ถงึ แมข้ า้ พเจา้ จะตอ้ งตาย
พรอ้ มกบั พระองค์ ขา้ พเจา้ กจ็ ะไมป่ ฏเิ สธพระองคเ์ ลย” ศษิ ยท์ กุ คนตา่ งกลา่ วเชน่ เดยี วกนั

ข้อศกึ ษาวิพากษ์
นักบุญมทั ธวิ สรา้ งฉากเหตุการณ์ในพระวรสารนักบุญมาระโกน้ีขน้ึ ซ้าอย่างแทบจะเหมอื นกนั แทนทจ่ี ะ

เสดจ็ กลบั ไปยงั สภาพแวดลอ้ มทส่ี บายกวา่ ในหมบู่ า้ นเบธานี (21:17; 26:6-13) พระเยซูเจา้ กลบั ทรงนาบรรดาศษิ ยไ์ ป
ยงั ภูเขามะกอกเทศ ซ่งึ ทาใหน้ ึกถงึ แนวคดิ ของวาทกรรมเก่ยี วกบั ววิ รณ์/คาพยากรณ์ (Apocalyptic Discourse)
(โดยเฉพาะ 24:9-13) เพลงสรรเสรญิ ในพธิ ปี ัสกาทก่ี ล่าวถงึ ชยั ชนะถูกแทนทด่ี ว้ ยคาพยากรณ์อนั น่าเศรา้ สลดของพระ
เยซูเจ้าท่วี ่าศษิ ย์ทุกคนของพระองค์จะสะดุดทาให้พระองค์อปั ยศอดสู (ภาษากรกี skandalizo บางครงั้ แปลว่า “เคอื ง” นัก
บุญมทั ธวิ เจาะจงเตมิ “เพราะเรา” [ภาษากรกี en emoi]) skandalizo]) เป็นคาสาคญั ในพระวรสารนักบุญมทั ธวิ การแสดงถงึ พระ
อาณาจกั รพระเป็นเจา้ ตามแบบของพระเยซูเจา้ นนั้ ขดั กนั กบั ความคาดหมายทุกประการ นกั บญุ ยอหน์ และบรรดา
ศษิ ยข์ องท่านตกอย่ใู นอนั ตรายของความเสย่ี งทจ่ี ะสะดุดขอ้ เทจ็ จรงิ น้ี (11:6) ผคู้ นในถน่ิ ทพ่ี ระเยซูเจา้ ประสตู สิ ะดุด
พระองค์ (13:57) เช่นเดยี วกบั ชาวฟารสิ ี (15:12) แต่ผเู้ ช่อื ทร่ี บั พระวาจาของพระเป็นเจา้ มาแต่เพยี งผวิ เผนิ ไม่มรี าก
ลกึ ก็สะดุดได้เช่นกนั “เมอื่ เกดิ ความยากลาบาก หรอื การข่มเหงต่างๆ เพราะพระวจนะนัน้ ” (13:21) เหตุการณ์
เช่นนนั้ นนั่ เองเป็นสง่ิ ทพ่ี ระเยซูเจา้ ทรงพยากรณ์ว่าจะเกดิ ขน้ึ กบั ศษิ ยท์ ุกคนในวาระน้ี กล่าวคอื พวกเขาจะสะดุด
อนั เน่อื งจากเหน็ วา่ พระครสิ ตท์ รงเลอื กทจ่ี ะถูกตรงึ กางเขนแทนทจ่ี ะตอบโตก้ ลบั

552

นักบุญมทั ธวิ ใหภ้ าพพระเยซูเจา้ ทรงเป็นกษตั รยิ ์ เป็นพระเมสสยิ าหท์ จ่ี ะทรงอภบิ าลประชากรของพระ
เจา้ (2:1-6) ทรงมพี ระเมตตาต่อประชากรเสมอื นวา่ พวกเขาเป็นแกะทไ่ี ม่มผี เู้ ลย้ี ง (9:36) และทรงเขา้ ใจวา่ พระราชกจิ
ของพระองคค์ อื การนาแกะหลงฝงู ของวงศว์ านอสิ ราเอลมารวมเขา้ ไวด้ ว้ ยกนั ใหม่ และสรา้ งพวกเขาใหก้ ลายเป็น
คนกลมุ่ ใหม่ซง่ึ เป็นชุมชนของประชากรของพระเป็นเจา้ แห่งกาลสดุ ทา้ ยของโลก (10:6; 15:24) และคาโตแ้ ยง้ ของ ว.
24 กม็ กี ารรอ้ื ฟ้ืนขน้ึ มา (ว. 31) แมว้ ่ามนุษย์จะเป็นผู้จะปฏเิ สธและทรยศ พระเป็นเจา้ ทรงเป็นผูท้ จ่ี ะทรงประหารผู้
เลย้ี งแกะ และฝงู แกะกจ็ ะกระจดั กระจายไป (นักบุญมทั ธวิ แสดงความสนใจทางเทววทิ ยาเรอ่ื งพระศาสนจกั รของท่านโดยการเตมิ “ฝงู
นัน้ ” เขา้ มา) ความคดิ ท่วี ่าชะตากรรมของพระเยซูเจา้ เป็นการกระทาให้ ศคย. 13:7 สาเรจ็ เป็นจรงิ แสดงใหเ้ หน็ ว่า
พระเป็นเจา้ ทรงเป็นผกู้ ระทาการสงู สุดในการทพ่ี ระเยซูเจา้ ทรงถูกมอบใหก้ บั ความตาย ซ่งึ ทาใหก้ ารกระทาของ
มนุษยเ์ ป็นโมฆะ กระนนั้ เรอ่ื งกไ็ มไ่ ดจ้ บแคน่ ้ี โดยสอดคลอ้ งกนั กบั พระมหาทรมานและการทรงพสิ จู น์วา่ ปราศจาก
ความผดิ ของบตุ รมนุษย์ ชุมชนนนั้ เผชญิ กบั การกระจดั กระจายของตนเอง แต่พระเยซูเจา้ ผกู้ ลบั ฟ้ืนคนื พระชนม์
จะทรงนาพวกเขามารวมเขา้ ไวด้ ว้ ยกนั ใหม่ พระเยซูเจา้ ผูท้ รงเป็นเหมอื นผูเ้ ลย้ี งแกะเสดจ็ “ไป...ก่อนหน้า” ฝูง
แกะของพระองคแ์ ละจะทรงกลบั มาใหม่เพ่อื มารวมตวั กนั กบั พวกเขาและสรา้ งพวกเขาใหก้ ลายเป็นคนกลุ่มใหม่
ในกาลลิ ี

เช่นเดยี วกบั ท่นี ักบุญเปโตรไดต้ อบสนองคาพยากรณ์ถงึ พระมหาทรมานและการกลบั คนื พระชนมข์ อง
พระเยซูเจ้า ด้วยการปฏเิ สธและความไม่เช่อื ในตอนแรก (16: 21-23) ณ ทน่ี ้ีก็อกี เช่นกนั เขากล่าวคดั คา้ นออกมา
ตรงๆ ต่อคาพยากรณ์ของพระเยซูเจา้ ถงึ ความผดิ พลาดของบรรดาศษิ ยท์ ก่ี าลงั จะเกดิ ขน้ึ และการไถ่กูท้ จ่ี ะตามมา
ทงั้ ๆ ทก่ี ่อนหน้าน้ี นักบุญเปโตรเป็นผสู้ นับสนุนและปกป้องอุดมการณ์ของบรรดาศษิ ย์ ณ ท่นี ้ีเขาแสดงออกว่า
เขาไม่ใช่พวกเดยี วกนั กบั บรรดาศษิ ย์ อา้ งว่าเป็นกรณียกเวน้ ในการท่พี ระเยซูเจา้ ตรสั คาว่า “อาเมน” เป็นครงั้
สุดทา้ ยในภาษาฮบี รู (เทนี บ 5:18) พระองคท์ รงพยากรณ์อย่างเคร่งขรมึ ว่านักบุญเปโตรจะปฏเิ สธพระองค์สามครงั้
(กล่าวคอื อยา่ งแน่นอน) ก่อนไก่จะขนั เป็นสญั ญาณบอกถงึ การสน้ิ สดุ ของเวลาสามยาม (เทยี บ มก. 13:35 สาหรบั “ไก่ขนั ” บอก

เวลาสามยาม = ชว่ งเวลา 0:00-3:00 น.)

มทั ธวิ 26: 36-56 พระเยซูเจา้ ทรงภาวนาและถูกจบั กมุ

ภายในสวนเกทเสมนี
36 เม่อื พระเยซูเจา้ เสดจ็ มาพรอ้ มกบั บรรดาศษิ ย์ถงึ สถานท่แี ห่งหน่ึงช่อื เกทเสมนี พระองค์ตรสั แก่เขาเหล่านัน้ ว่า “จงนัง่ อยู่ทน่ี ่ี
ขณะทเ่ี ราไปอธษิ ฐานภาวนาทโ่ี น่น” 37 แล้วทรงพาเปโตรและบุตรทงั้ สองของเศเบดไี ปดว้ ย พระองค์ทรงรสู้ กึ เศรา้ และสลดพระ
ทยั อย่างยงิ่ 38 จงึ ตรสั แก่เขาทงั้ สามคนว่า “ใจเราเป็นทุกขแ์ ทบสน้ิ ชวี ติ จงอย่ทู น่ี ่ีและต่นื เฝ้ากบั เราเถดิ ” 39 แลว้ พระองคท์ รงพระ
ดาเนินไปขา้ งหน้าอกี เลก็ น้อย ทรงซบพระพกั ตร์ลงกบั พน้ื ดนิ อธษิ ฐานภาวนาว่า “พระบดิ าเจา้ ขา้ ถา้ เป็นไปได้ ขอใหถ้ ว้ ยน้ีพน้
จากขา้ พเจา้ ไปเถดิ ถ้าเป็นไปไม่ได้ กข็ ออย่าใหเ้ ป็นไปตามใจขา้ พเจา้ แต่ให้เป็นไปตามพระประสงค์ของพระองค์เถดิ ” 40 พระ
องคเ์ สดจ็ กลบั มาพบบรรดาศษิ ย์ ทรงพบเขาเหลา่ นนั้ กาลงั หลบั อยู่ จงึ ตรสั กบั เปโตรวา่ “ท่านต่นื เฝ้าอย่กู บั เราสกั หน่ึงชวั่ โมงไมไ่ ด้
หรอื 41 จงต่นื เฝ้าและอธษิ ฐานภาวนาเพ่อื จะได้ไม่เขา้ สู่การทดลอง จติ ใจพร้อมแล้วก็จรงิ แต่เน้ือหนังอ่อนกาลงั ” 42 พระองค์

553

เสดจ็ ไปอกี ครงั้ หน่ึง ทรงอธษิ ฐานภาวนาว่า “พระบดิ าเจา้ ขา้ ถ้าขา้ พเจา้ ต้องด่มื จากถ้วยน้ีโดยหลกี เล่ยี งมไิ ด้แล้ว ขอให้เป็นไป
ตามพระประสงคข์ องพระองคเ์ ถดิ ” 43 ครนั้ เสดจ็ กลบั มากท็ รงพบเขาหลบั อย่อู กี เพราะนัยน์ตาลมื ไม่ขน้ึ 44 พระองคจ์ งึ เสดจ็ จาก
เขาทงั้ สามคน ไปอธษิ ฐานภาวนาอย่างเดยี วกนั เป็นครงั้ ทส่ี าม 45 แลว้ เสดจ็ กลบั มาพบเขา ตรสั ว่า “เดยี๋ วน้ี ท่านหลบั ต่อไปและ
พกั ผ่อนได้ เวลาทบ่ี ุตรแห่งมนุษย์จะต้องถูกมอบในเงอ้ื มมอื ของคนบาปมาถงึ แล้ว 46 จงลุกขน้ึ ไปกนั เถดิ ผูท้ รยศต่อเราอยู่ทน่ี ่ี
แลว้ ”
พระเยซูเจา้ ทรงถกู จบั กมุ
47 ขณะทพ่ี ระองคก์ าลงั ตรสั อยู่นนั้ ยดู าสซง่ึ เป็นคนหน่ึงในบรรดาอคั รสาวกสบิ สองคนมาถงึ พรอ้ มกบั คนจานวนมาก ถอื ดาบและ
ไมต้ ะบองเป็นอาวุธ บรรดาหวั หน้าสมณะและผอู้ าวุโสของประชาชนส่งพวกน้ีมา 48 ผูท้ รยศต่อพระองคใ์ หส้ ญั ญาณแก่คนเหล่าน้ี
ว่า “ขา้ พเจา้ จูบผูใ้ ด ก็เป็นผูน้ ัน้ แหละ จบั กุมเขาไว้เถดิ ” 49 ทนั ใดนัน้ ยูดาสก็เขา้ มาหาพระเยซูเจ้า ทูลว่า “สวสั ดี พระอาจารย์”
แลว้ จูบพระองค์ 50 พระเยซูเจา้ ตรสั กบั เขาว่า “เพ่อื นเอ๋ย จงทาอย่างทต่ี งั้ ใจจะทาเถดิ ” เวลานัน้ คนเหล่านัน้ ต่างกรกู นั เขา้ กบั กุม
พระองค์ 51 ขณะนัน้ คนหน่ึงซง่ึ อยู่กบั พระเยซูเจา้ กช็ กั ดาบฟันผรู้ บั ใชค้ นหน่ึงของมหาสมณะ ใบหูขาด 52 พระเยซูเจา้ จงึ ตรสั ว่า
“เอาดาบใส่ฝักเสยี เพราะทุกคนทใ่ี ชด้ าบ กจ็ ะตอ้ งพนิ าศดว้ ยดาบ 53 ท่านคดิ ว่า เราจะออ้ นวอนพระบดิ าเจา้ ใหส้ ่งทูตสวรรค์มาก
กว่าสบิ สองกองพลมาช่วยเราบดั น้ีมไิ ด้หรอื 54 แล้วพระคมั ภีร์ท่ีเขยี นว่าจะต้องเป็นเช่นน้ี จะเป็นความจรงิ ได้อย่างไรเล่า” 55
ขณะนัน้ พระเยซูเจา้ ตรสั แก่ประชาชนว่า “เราเป็นโจรหรอื ท่านทงั้ หลายจงึ ถอื ดาบ ถอื ไมต้ ะบองมาจบั กุมเรา เรานัง่ สอนในพระ
วหิ ารทุกวนั ท่านกม็ ไิ ดจ้ บั กุมเรา” 56 เหตุการณ์ทงั้ หมดน้ีเกดิ ขน้ึ เพ่อื ใหข้ อ้ เขยี นของบรรดาประกาศกเป็นความจรงิ หลงั จากนัน้
ศษิ ยท์ กุ คนละทง้ิ พระองคแ์ ละหนีไป

ข้อศึกษาวิพากษ์

นักบุญมทั ธวิ เล่าเร่อื งตามอย่างเร่อื งเล่าของนกั บุญมาระโกอย่างตรงตามตน้ ฉบบั แต่มกี ารเปลย่ี นแปลง
เพยี งเลก็ น้อยมากซง่ึ เปลย่ี นจดุ สนใจของการนาเสนอจากความผดิ พลาดของบรรดาศษิ ยม์ าเป็นความเป็นประมขุ
ของพระเยซูเจา้ ผยู้ งั ทรงเป็นพระอาจารยท์ ด่ี าเนนิ พระชนมช์ พี เป็นแบบอยา่ งตามแนวทางคาสอนของพระองค์

26:36 พระบญั ชาใหบ้ รรดาศษิ ย์ “นงั่ อยทู่ นี่ ี่ หรอื จงอย่ทู นี่ ี”่ ขณะทพ่ี ระเยซูเจา้ ทรงปลกี พระองคอ์ อกไป
นมสั การและภาวนาทาใหน้ กึ ถงึ ปฐก. 22:5 จากเรอ่ื ง อาเคดาห1์ หรอื เรอ่ื งการมดั อสิ อคั ซง่ึ ดจู ะเป็นทเ่ี ขา้ ใจกนั ใน
ศาสนายดู ายวา่ หมายถงึ การพลบี ชู าโดยเตม็ ใจเพอ่ื ผอู้ น่ื การทน่ี กั บญุ มทั ธวิ เปลย่ี นคาทน่ี กั บุญมาระโกใชเ้ ป็น
“ทน่ี ่”ี (จากคาวา่ ภาษากรกี ซง่ึ พบไดท้ วั่ ไปเป็น autou ซง่ึ พบไดน้ ้อย ซง่ึ มกี ารใชใ้ น ปฐก. 22:5 ทอ่ี ยใู่ นฉบบั 70 LXX) ทาใหค้ วามเชอ่ื มโยงน้ี
มคี วามเหนยี วแน่นยงิ่ ขน้ึ

26: 37-38 ศษิ ย์สามคน คอื ศษิ ย์กลุ่มเลก็ ๆ ท่ไี ดร้ บั สทิ ธพิ เิ ศษและได้รบั อนุญาตให้เหน็ พระสริ ริ ุ่งโรจน์
ของพระเยซูเจา้ ตอนทพ่ี ระองคท์ รงสาแดงพระวรกาย (17:1) พวกเขาคอื ผทู้ อ่ี า้ งวา่ ตนสามารถดม่ื จากถว้ ยเดยี วกนั
กบั พระเยซูเจ้าได้ (20:22) เช่น เต็มใจท่จี ะตายเพ่อื พระองค์ (26:33) นักบุญมทั ธวิ ทาให้ภาพของพระเยซูเจ้าจาก
พระวรสารของนกั บญุ มาระโกอ่อนนุ่มลง คอื เปลย่ี นจากคาวา่ “ทุกขท์ รมานใจ” (Distressed) เป็นคาว่า “รสู้ กึ เศรา้
ใจ” (Sorrowful) แต่กไ็ ม่ไดล้ ะทง้ิ ภาพของความวติ กกงั วลแบบมนุษย์แทจ้ รงิ ทก่ี าลงั เผชญิ หน้ากบั ความตายอย่าง
แทจ้ รงิ พระองค์ ผทู้ าใหก้ ารปรากฏกายของพระเป็นเจา้ กลายเป็นจรงิ สาหรบั ผอู้ ่นื (1:23) กาลงั โหยหามนุษยท์ จ่ี ะ
มาอยู่กบั พระองค์ในโมงยามท่พี ระองค์กาลงั ต้องการมากท่ีสุด “จงเฝ้าระวงั ” (Stay Awake) จงึ ไม่ได้เป็นการ

1 เรอ่ื งอาเคดาห์ คอื การมดั อสิ อคั The Binding of Isaac (Hebrew: ‫) ֲע ֵקי ַדת ִי ְצ ַחק‬, also known as "The Binding" (‫ )) ָהָ( ֲע ֵקי ָדה‬and
the Akedah or Aqedah, เป็นเรอ่ื งเล่าจากพระคมั ภรี ภ์ าษาฮบี รู พระเจา้ ทรงสงั่ อบั ราฮมั ใหถ้ วายบชู าบุตรชายช่อื อสิ อคั บนภเู ขาโมรยี าห์ เมอ่ื ถงึ
สถานทท่ี พ่ี ระเป็นเจา้ ทรงชบ้ี อก อบั ราฮมั ไดม้ ดั อสิ อคั บนแท่นบุชา และเตรยี มฆา่ ถวายเป็นบชู าแดพ่ ระเป็นเจา้ ตามพระบญั ชา แตเ่ ทวดาของพระเป็น
เจา้ ไดป้ ระจกั ษม์ า สงั่ ใหห้ ยุด ไมต่ อ้ งทาเช่นนนั้ ในนาทสี ดุ ทา้ ย กล่าววา่ บดั น้ี พระเจา้ ทรงทราบวา่ ทา่ นเคารพยาเกรงพระเป็นเจา้ ณ ทน่ี นั้ อบั ราฮมั ได้
เหน็ แกะตวั หน่งึ ตดิ อยกู่ บั พมุ่ ไมใ้ กลๆ้ จงึ ไดน้ าแกะนนั้ มาถวายบชู าแทนบุตรชาย ตามท่เี ทวดาไดช้ บ้ี อก

554

กล่าวถงึ ความงว่ งนอนของบรรดาศษิ ยเ์ ท่านัน้ แต่ยงั สะทอ้ นถงึ คาเตอื นทอ่ี ย่ใู นคาพยากรณ์ถงึ หายนะใน 24:42
(เทยี บ 25:13) และชใ้ี หเ้ หน็ ถงึ ช่วงเวลาแหง่ การ “ทดสอบ” ทก่ี าลงั จะมาถงึ ในเหตุการณ์การสน้ิ พระชนมแ์ ละกลบั ฟ้ืน
คนื พระชนมช์ พี ของพระเยซูเจา้ ซ่งึ จะเกดิ ขน้ึ ในอกี ไม่นาน (pegpirasmos, 26:41) นักบุญมทั ธวิ ไดเ้ ตมิ ส่วนทอ่ี า้ งองิ ท่ี
กลา่ ววา่ พระเยซูเจา้ “ทรงประทบั อย”ู่ กบั บรรดาศษิ ย์ (meta”meta) และตอ้ งการใหพ้ วกเขา “อย”ู่ กบั พระองค์ (26:18,

20, 29, 38, 40)

26: 39-46 พระเยซูเจา้ ทรงกม้ กราบต่อหน้าพระเป็นเจา้ ในการอธษิ ฐานภาวนา (แปลตรงตวั คอื “แนบหน้าลงกบั
พน้ื ” [On His Face] เช่น ใน ปฐก 17:3, 17; วนฉ. 14:5; 2ซมอ. 9:6; 1พกษ. 18:39 และเหมอื นกบั ทบ่ี รรดาศษิ ยเ์ คยทา ใน 17:3) นักบุญมทั ธวิ
นาเน้อื หาจากพระวรสารนกั บญุ มาระโกมาเรยี บเรยี งใหม่ ซง่ึ มถี งึ 3 ครงั้ ทพ่ี ระเยซูเจา้ ทรงเหน็ บรรดาศษิ ยห์ ลบั ไป
ซ่ึงเป็นการสอดคล้องกบั การอธิษฐานภาวนา 3 ช่วงเวลาอย่างเห็นได้ชดั โดยเปล่ียนสิ่งท่ีมุ่งเน้นจากความ
ล้มเหลวของบรรดาศษิ ย์มาท่พี ระเยซูเจ้า ผู้ทรงเป็นตวั อย่างของการอธษิ ฐานภาวนา ความแตกต่างท่ชี ดั เจน
ระหว่างความเต็มใจของจติ วญิ ญาณกบั ความอ่อนแอของเน้ือหนังใน ว. 41 ไม่ใช่มานุษยวทิ ยาแบบทวนิ ิยม
(Dualistic Anthropology) แต่เป็นตวั แทนของสองแง่มุมของมนุษยท์ ต่ี ่อสกู้ นั และกนั พระเยซูเจา้ เองกท็ รงอย่ใู น
การต่อสูน้ ้ีด้วย คาอธษิ ฐานภาวนาของพระองค์เปล่ยี นจากการขอให้พระเป็นเจ้าช่วยให้พระองค์รอดพ้นจาก
ความตาย (เหมอื นทเ่ี ราพบบ่อยๆ ในบทสดุดี เช่น สดด 118:17-18 ซ่งึ เพง่ิ มกี ารขบั รอ้ งไป) ไปเป็นความไวว้ างใจและซ่อื ตรงต่อน้า
พระทยั ของพระเป็นเจา้ โดยใชค้ าพดู เดยี วกนั กบั ทพ่ี ระองคเ์ คยใชส้ อนบรรดาศษิ ยใ์ น 6:10 คาอธษิ ฐานภาวนาทงั้
3 ครงั้ ของพระเยซูเจา้ ก่อตวั เป็นสง่ิ ทแ่ี ตกตา่ งอยา่ งสน้ิ เชงิ กบั การปฏเิ สธพระเยซูเจา้ 3 ครงั้ ของนกั บญุ เปโตร ผซู้ ง่ึ
นอนหลบั แทนทจ่ี ะอธษิ ฐานภาวนา หลงั จากการอธษิ ฐานภาวนาครงั้ น้ี พระเยซูเจา้ ทรงแน่วแน่เดด็ เดย่ี วและทรง
อานาจสงู สุด พระองคป์ ระกาศการมาถงึ ของผทู้ รยศดว้ ยถอ้ ยคาทส่ี อ่ื ทางออ้ มถงึ การมาถงึ ของพระอาณาจกั รพระ
เป็นเจา้

สาหรบั 26: 47-50 ผอู้ ่านทไ่ี ม่ไดร้ เู้ ร่อื งราวอย่แู ลว้ คงจะรสู้ กึ ประหลาดใจกบั การมาถงึ ของยูดาส เพราะ
นกั บุญมทั ธวิ ไม่ไดบ้ รรยายวา่ เขาออกเดนิ ทางมาตงั้ แต่เม่อื ใด เทา่ ทผ่ี อู้ ่านพอบอกได้ ยดู าสอยใู่ นงานเลย้ี งอาหาร
ค่ามอ้ื สุดทา้ ยและในสวนเกทเสมนีเช่นเดยี วกบั ศษิ ยค์ นอ่นื ๆ (เทยี บ ยน. 13:30) ตอนน้ยี ดู าสเป็นคนนาฝงู ชนตดิ อาวุธ
ขนาดใหญ่ท่ถี ูกส่งมาโดยมหาสมณะและบรรดาผูอ้ าวุโสของประชาชน ไม่มกี ารกล่าวถงึ เจา้ หน้าท่รี กั ษาความ
ปลอดภยั (ของพระวหิ าร) แต่นกั บุญมทั ธวิ กน็ ่าจะตคี วามวา่ กลุ่มผทู้ เ่ี ขา้ มาจบั กุมพระเยซูเจา้ คอื เจา้ หน้าทร่ี กั ษาความ
ปลอดภยั ของพระวหิ าร (ดู เทยี บ 26:58 คาวา่ “ผคู้ ุม้ กนั ” [Guard] = เจา้ หน้าทร่ี กั ษาพระวหิ าร [Temple Police]) บทบรรยายเร่อื งของ
นักบุญมทั ธวิ ไม่มที หารโรมนั เขา้ มาเก่ยี วขอ้ งจนกระทงั ่ ถงึ ส่วนหลงั (27:27 ดู เทยี บ “กองพนั ” หรอื the Cohort [600 กอง] ท่ี
ปรากฏอย่ใู นพระวรสารเล่มทส่ี ่ี ยน. 18:3, 12) ยดู าสพดู กบั พระเยซูเจา้ ดว้ ยการทกั ทาย “สวสั ด”ี ตามธรรมเนียม (คาว่า “chaire”
ซง่ึ เป็นคาเดยี วกบั ทอ่ี ยู่ใน 27:29 ตอนท่พี วกทหารลอ้ เลยี นพระเยซูเจา้ ดว้ ยการแกลง้ ทาความเคารพพระองค)์ แลว้ นาคาทค่ี นนอกใชเ้ รยี ก
พระองค์มาเรยี กซ้า คอื “พระอาจารย์” (Rabbi) แทนท่จี ะเป็นคาท่ีบรรดาศษิ ย์ใช้เรยี กคอื “องค์พระผู้เป็นเจ้า”
(Lord) (“kyrios” ขอใหส้ งั เกตเหน็ ความแตกต่างท่เี หน็ ได้ชดั ซ่งึ นักบุญมทั ธวิ ใส่ไวใ้ น ว. 22 และ 25) พระเยซูเจ้าทรงตอบด้วยคาพูดท่ี
หา่ งเหนิ คอื “สหาย” (hetaire) แต่ใชใ้ นลกั ษณะเป็นการกล่าวแบบทวั่ ไปอย่างสุภาพกบั คนทเ่ี ราไม่รจู้ กั ช่อื (เทยี บกบั
การใชค้ าน้ีใน 20:13 และ 22:12 ซ่งึ เป็นเพยี งอกี ครงั้ เดยี วทป่ี รากฏอย่ใู นพระคมั ภรี ภ์ าคพนั ธสญั ญาใหม่) คาตอบส่วนทเ่ี หลอื ของพระเยซู
เจา้ มคี วามคลมุ เครอื ทางไวยากรณ์และอาจเป็นคาถาม (ทาไมเขาจงึ มา?) หรอื บอกเล่า (น่คี อื เหตุผลทเ่ี ขามา กล่าวคอื ทรยศเรา
ดว้ ยการจุมพติ ) หรอื เป็นคาสงั ่ (“จงทาในสง่ิ ทเ่ี ขาตงั้ ใจมาทาเถดิ ”) เน่ืองจากถอ้ ยคาน้ีเป็นสว่ นทน่ี ักบุญมทั ธวิ เตมิ เขา้ มา จงึ มี

555

ความเป็นไปได้สูงท่ีจะเป็นการแสดงออกเพิ่มข้นึ ถึงความมีอานาจสูงสุดของพระเยซู เจ้าและน่าจะแปลเป็น
ประโยคคาสงั ่ คาว่า “จากนัน้ ” (Then / tote เป็นลกั ษณะท่พี บประจาของส่วนท่ีนักบุญมทั ธวิ เตมิ เขา้ มา) กล่าวคอื หลงั จากท่พี ระ
เยซูเจา้ ทรงออกคาสงั่ น้แี ลว้ พวกเขาไดจ้ บั กมุ พระองค์ และคาวา่ “สง่ มอบตวั ” ทม่ี กี ารพยากรณ์ไวก้ ส็ าเรจ็ บรบิ รู ณ์

สาหรบั 26: 51-54 ในพระวรสารนกั บุญมาระโก ผทู้ ย่ี นื อย่บู รเิ วณนนั้ คนนนั้ ชกั ดาบออกมา เหน็ ไดช้ ดั วา่
น่าจะเป็นหน่งึ ในกองพลตดิ อาวุธทม่ี าจบั กุมพระเยซูเจา้ และในความชลุ มุนนนั้ เขาไดบ้ งั เอญิ ไปตดั หขู องขา้ รบั ใช้
ของมหาสมณะ นักบุญมทั ธวิ ทาใหบ้ ุคคลผนู้ ้ีเป็นหน่ึงในบรรดาศษิ ย์ (ในพระวรสารเล่มทส่ี ่ี เจาะจงว่าเป็นนักบุญเปโตร) และ
ทาใหเ้ ป็นโอกาสทพ่ี ระเยซูเจา้ ได้สอนต่อไป แมก้ ระทงั่ ในสวนเกทเสมนี พระเยซูเจา้ ยงั ทรงเป็นผูส้ อน โดยมี 3
ประเดน็ ดงั น้ี
1) หนทางทป่ี ราศจากความรุนแรง ปราศจากการโตต้ อบ การรกั ศตั รู จะตอ้ งดาเนินอยา่ งต่อเน่ืองไปจนจบ สงิ่ ท่ี

พระเยซูเจา้ ทรงสอน พระองคท์ รงปฏบิ ตั ใิ หเ้ หน็ ในชวี ติ ของพระองค์ และยอมแมก้ ระทงั่ สละชวี ติ ของพระองค์
เพ่อื สงิ่ น้ีดว้ ย (5:38-39, 43-48) พระองคป์ ฏบิ ตั ติ ามบทอธษิ ฐานภาวนาทพ่ี ระองคส์ อนบรรดาศษิ ย์ และพระองค์
ยงั ปฏบิ ตั กิ ารสละตนเองอยา่ งไมต่ อบโต้ ความรุนแรงนนั้ เป็นการทาลายตนเองและไรป้ ระโยชน์ มแี ตส่ ง่ ผลให้
เกดิ วงจรอุบาทวแ์ ห่งความรุนแรง “ดาบ” ไม่ไดเ้ ป็นเพยี งสญั ลกั ษณ์ของความรุนแรงจากการจลาจลหรอื การ
ป้องกนั ตนเอง แต่ยงั หมายถงึ ผปู้ กครองอกี ดว้ ย (ดู เทยี บ รม. 13:4 ซง่ึ กล่าวถงึ “สทิ ธอิ านาจ” [exousia] และ
“ดาบ” [machaira] เช่นเดยี วกบั มธ.) พระเยซูเจา้ ทรงเป็นตวั แทนของการใหค้ าจากดั ความใหม่กบั ความเป็น
กษตั รยิ ์ หนทางแห่งพระอาณาจกั รพระเจา้ คอื การยอมดูดซบั ความชวั่ รา้ ยแทนทจ่ี ะนาไปยดั เยยี ดใหค้ นอ่นื
แลว้ ทาใหว้ งจรทห่ี มนุ วนนนั้ ยตุ ลิ ง
2) พระเยซูเจา้ ไม่ไดท้ รงถูกจบั กุมโดยฝืนจากน้าพระทยั ของพระองค์ กองทหาร (Legion) นัน้ มที งั้ หมด 6,000
คน 12 เป็นตวั เลขทส่ี อดคลอ้ งกบั พระเยซูเจา้ และสาวกอกี 11 คน พระองค์ทรงมนั่ ใจในการปกป้องของทูต
สวรรค์ของพระบิดาเจ้า แต่พระองค์ไม่ทรงร้องขอ (ดู เทียบ 4: 6-7, 11) ในข้อความท่ีเติมลงไปในเน้ือหาจาก
พระวรสารของนกั บุญมาระโกน้ี พระเยซูเจา้ ดูเป็นมนุษยผ์ ตู้ กเป็นเหย่อื น้อยกวา่ ในพระวรสารนกั บุญมาระโก
นกั บุญ- มทั ธวิ ขยายภาพของบุตรแห่งมนุษยผ์ ทู้ รงฤทธานุภาพใหค้ รอบคลุมไปถงึ เร่อื งราวพระมหาทรมาน
มากกว่านักบุญมาระโก แต่ถงึ กระนัน้ ในท่นี ้ี อานาจกอ็ ยู่ในพระหตั ถ์ของพระเป็นเจา้ ไม่ได้อย่ใู นพระหตั ถ์
ของพระเยซูเจา้ ในฐานะของพระเป็นเจา้ ความไวว้ างใจในพระเป็นเจา้ แบบมนุษยค์ นหน่ึงของพระองค์ คอื
สงิ่ ทแ่ี สดงออกมา (ดู เทยี บ มธ 4 ซง่ึ พระเยซูเจา้ ทรงทาใหต้ นเองอยใู่ นฝัง่ ทเ่ี ป็น “มนุษย”์ [anthropos])
3) ขอ้ ความในพระคมั ภรี จ์ ะตอ้ งเป็นจรงิ นกั บุญมทั ธวิ เน้นย้าความเชอ่ื น้ี (พบ ใน มก. 14:49) ดว้ ยการนาใสเ่ ขา้ มาถงึ
2 ครงั้ (ว. 54 และ 56) พระเยซูเจา้ ในพระวรสารนกั บุญมทั ธวิ ไมไ่ ดห้ มายความว่าคาพยากรณ์ตา่ งๆ คอื บทละคร
ทเ่ี ขยี นเอาไวแ้ ลว้ และพระองคต์ อ้ งแสดงไปตามนัน้ แต่พระคมั ภรี เ์ ป็นตวั แทนของแผนการและพระประสงค์
ของพระเป็นเจา้ ซง่ึ พระเยซูเจา้ ทรงเตม็ ใจและไวว้ างใจทจ่ี ะน้อมรบั (ดู บทเสรมิ เรอ่ื ง “มทั ธวิ ในฐานะผตู้ คี วามพระคมั ภรี ”์ )
คาพยากรณ์ของพระเยซูเจา้ เองทบ่ี อกว่าทุกคนจะทอดทง้ิ พระองค์ (26:31) และพระองคจ์ ะถูกปฏเิ สธจากการ
ประท้วงต่อต้านของทุกคน (26:35) ก็ได้กลายเป็นความจรงิ ในตอนท่ที ุกคนละท้งิ พระองค์ไป (25:56) เว้นแต่
นักบุญเปโตรผู้ท่ีเราไม่ได้เห็นอีกเลยจนกระทงั่ หลังการกลบั ฟ้ืนคืนพระชนม์ชีพ (28:16-17) ซ่ึงก็ทาให้คา
พยากรณ์ของพระเยซูเจา้ เป็นจรงิ อกี ครงั้ ทงั้ หมดของ ว. 52-54 เป็นสว่ นทน่ี กั บุญมทั ธวิ ประพนั ธข์ น้ึ เอง โดย
ว. 54 มพี น้ื ฐานมาจาก มก. 14:49ข ซง่ึ นกั บุญมทั ธวิ จะนากลบั มาใชอ้ กี ครงั้ ท่ี ว. 56

556

26:55 คาวา่ “โจร” (ฉบบั NRSV ใชค้ าวา่ Bandit) หรอื “ผทู้ เ่ี ป็นหวั หน้ากบฏ” (ฉบบั NIV ใชค้ าวา่ Leading a Rebellion)
แปลมาจากคาวา่ “lestes” เป็นคาทโ่ี ยเซฟุส (Titus Flavius Josephus) ใชห้ มายถงึ ผกู้ อ่ การรา้ ยหรอื ผทู้ ส่ี เู้ พอ่ื
อสิ รภาพซง่ึ ต่อตา้ นกองกาลงั ทหารโรมนั (เทยี บ มธ. 27:38, 44) นกั บญุ มทั ธวิ เตมิ เพมิ่ ลงไปในคาบรรยายของนกั บญุ
มาระโกวา่ พระองคท์ รง “นงั่ ” (Sit) อยใู่ นพระวหิ าร (เชน่ ใน 5:1) ซง่ึ เป็นทา่ ทางของครผู สู้ อนทม่ี สี ทิ ธอิ านาจ
ขอ้ ความทบ่ี อกว่าพระเยซูเจา้ ทรงสอนในพระวหิ าร “วนั แลว้ วนั เล่า” (Day After Day) เป็นขอ้ ความทย่ี กมาจาก
มก. 14:49 ถงึ แมว้ ่าจะไม่สอดคลอ้ งกบั ลาดบั เวลาในพระวรสารของนกั บุญมทั ธวิ ซง่ึ พระเยซูเจา้ ทรงสอนในพระ
วหิ ารเฉพาะใน “วนั องั คารอนั แสนยาวนาน” (Long Tuesday) (เทยี บ 21:1) ส่วนท่อี า้ งองิ มาจากพระวรสารนักบุญ
มาระโกเป็นสว่ นทม่ี ปี ัญหา และอาจชใ้ี หเ้ หน็ ถงึ แหล่งขอ้ มลู ทม่ี าก่อนพระวรสารนกั บุญมาระโก ซง่ึ ระบุวา่ พระเยซู
เจา้ ทรงสอนในพระวหิ ารเป็นเวลายาวนาน ซง่ึ น่าจะเป็นไปไดใ้ นทางประวัตศิ าสตรม์ ากกวา่ แต่นกั บุญมทั ธวิ และ
นักบุญมาระโกใหค้ ุณค่ากบั ความหมายเชงิ เทวศาสตรเ์ หนือกว่าความถูกตอ้ งดา้ นลาดบั เวลาในประวตั ศิ าสตร์ ผู้
ตคี วามสมยั ใหม่ควรรบั สงิ่ ทบ่ี อกเป็นนยั น้ีจากพวกท่าน ทงั้ นกั บุญมทั ธวิ และนกั บญุ มาระโกดจู ะพยายามคงรกั ษา
ขอ้ ความน้ไี วเ้ พอ่ื เน้นยา้ ถงึ ความผดิ ของผทู้ จ่ี บั กุมพระเยซูเจา้ แบบลบั ๆ ดว้ ยการทรยศ

มทั ธวิ 26:57-27:1 การพจิ ารณาคดขี องชาวยวิ : การยอมรบั ของพระเยซูเจา้ และการปฏเิ สธของเปโตร

พระเยซูเจ้าทรงถกู พิจารณาคดีในสภาสงู ของชาวยิว
57 บรรดาผูท้ จ่ี บั กุมพระเยซูเจา้ นาพระองคไ์ ปยงั บา้ นของคายาฟาสมหาสมณะ บรรดาธรรมาจารยแ์ ละผอู้ าวุโสชุมนุมกนั ทน่ี ัน่ 58
สว่ นเปโตรตดิ ตามพระองคไ์ ปหา่ งๆ จนเขา้ ถงึ ภายในลานบา้ นของมหาสมณะ นงั่ อย่กู บั บรรดาผรู้ บั ใช้ คอยดวู ่าเหตุการณ์จะจบลง
อยา่ งไร 59 บรรดาหวั หน้าสมณะและสมาชกิ สภาสงู ทุกคนพยายามหาพยานเทจ็ มากล่าวหาพระเยซูเจา้ เพ่อื จะประหารชวี ติ พระ
องคใ์ หไ้ ด้ 60 แต่เขาหาหลกั ฐานไม่ได้ แมว้ า่ จะมพี ยานเทจ็ หลายคน ในทส่ี ุด มคี นสองคนมาใหก้ ารว่า 61 “คนคนน้ีไดพ้ ดู วา่ ‘ฉนั มี
อานาจจะทาลายพระวหิ ารของพระเจา้ และสรา้ งขน้ึ ใหม่ไดภ้ ายในสามวนั ’ ” 62 มหาสมณะจงึ ลุกขน้ึ ถามพระองคว์ า่ “ท่านไมต่ อบ
อะไรหรอื พยานเหล่าน้ีตงั้ ขอ้ กล่าวหาอะไรปรกั ปราท่าน” 63 แต่พระเยซูเจา้ ทรงน่ิง มหาสมณะจงึ พูดกบั พระองค์ว่า “เราสงั่ ให้
ท่านสาบานโดยอา้ งพระเจา้ ผทู้ รงชวี ติ จงตอบเราว่าท่านเป็นพระครสิ ต์ พระบุตรของพระเจา้ ผูท้ รงชวี ติ หรอื ” 64 พระเยซูเจา้ ตรสั
ตอบว่า “ใช่แลว้ แต่ยงั มมี ากกวา่ นัน้ อกี เราบอกความจรงิ แก่ท่านทงั้ หลายว่า ตงั้ แต่บดั น้ีไปท่านจะเหน็ บุตรแหง่ มนุษยป์ ระทบั ณ
เบ้อื งขวาของพระผูท้ รงอานุภาพ และจะเสดจ็ มาพรอ้ มกบั หมู่เมฆบนทอ้ งฟ้า” 65 มหาสมณะจงึ ฉีกเสอ้ื ของตนแลว้ กล่าววา่ “เขา
พดู ดหู มนิ่ พระเจา้ เราจะตอ้ งการพยานอะไรอกี เล่า ท่านทงั้ หลายต่างไดย้ นิ เขาพูดดหู มนิ่ พระเจา้ แลว้ 66 ท่านคดิ อย่างไร” ทุกคน
ตอบว่า “เขาสมควรตอ้ งตาย” 67 แลว้ พวกนัน้ กพ็ ากนั ถ่มน้าลายรดพระพกั ตรข์ องพระองค์ ชกต่อยพระองค์ บางคนตบตพี ระองค์
กล่าววา่ 68 “พระครสิ ตจ์ งทานายซวิ า่ ใครตบหน้าเจา้ ”
เปโตรปฏิเสธพระเยซเู จ้า
69 ขณะทเ่ี ปโตรนัง่ อยู่ทล่ี านขา้ งนอก หญงิ รบั ใชค้ นหน่ึงเขา้ มาพดู ว่า “ท่านกเ็ คยอยู่กบั เยซู ชาวกาลลิ ดี ว้ ย” 70 แต่เปโตรปฏเิ สธ
ต่อหน้าคนทงั้ หลายว่า “ฉนั ไม่รวู้ า่ ท่านพดู เรอ่ื งอะไร” 71 เมอ่ื เปโตรออกไปทป่ี ระตู หญงิ รบั ใชอ้ กี คนหน่ึงเหน็ เขา้ จงึ พดู กบั คนทอ่ี ยู่
ทน่ี ัน่ ว่า “คนน้ีเคยอยู่กบั เยซู ชาวนาซาเรธ็ ดว้ ย” 72 เปโตรปฏเิ สธอกี ทงั้ สาบานว่า “ฉันไม่เคยรจู้ กั คนนัน้ เลย” 73 ต่อมาไม่นาน

557

คนทอ่ี ยู่ทน่ี นั่ เขา้ มาพดู กบั เปโตรว่า “ท่านเป็นคนหน่ึงในพวกนัน้ แน่ๆ ฟังสาเนียงกร็ แู้ ลว้ ” 74 แต่เปโตรเรม่ิ สาบานอยา่ งแขง็ ขนั ว่า
“ฉนั ไมร่ จู้ กั คนนนั้ ” ทนั ใดไก่กข็ นั 75 เปโตรจงึ ระลกึ ถงึ คาทพ่ี ระเยซูเจา้ ตรสั ไวว้ า่ “กอ่ นไก่จะขนั ท่านจะปฏเิ สธเราสามครงั้ ” เขาจงึ
ออกไปขา้ งนอก รอ้ งไหอ้ ยา่ งขมขน่ื
พระเยซูเจา้ ทรงถกู นาไปพิจารณาคดีต่อหน้าปี ลาต

1 ครนั้ รุ่งเชา้ บรรดาหวั หน้าสมณะและผอู้ าวุโสของประชาชนประชุมปรกึ ษาพรอ้ มกนั ทุกคน กล่าวโทษพระเยซูเจา้ เพ่อื ประหาร
ชวี ติ พระองค์

ข้อศึกษาวิพากษ์

ฉากน้ีทงั้ หมดเกดิ ขน้ึ ในสถานทแ่ี หง่ เดยี ว คอื บา้ นของมหาสมณะคายาฟาส เป็นฉากทส่ี ลบั ซบั ซอ้ น มตี วั
ละครจานวนมาก เหตุการณ์ท่เี กิดข้นึ เป็นบรเิ วณใกล้เคยี งกนั ระหว่างสถานท่พี ระเยซูเจ้าทรงประกาศยนื ยนั
พระองค์ต่อหน้ามหาสมณะกบั สถานท่นี ักบุญเปโตรปฏิเสธพระเยซูเจ้าอยู่ในบรเิ วณลานบ้านของมหาสมณะ
ความแตกต่างน้ีเน้นทค่ี าประกาศยอมรบั ของพระเยซูเจา้ นัน้ ใชถ้ อ้ ยคาเดยี วกนั กบั คาประกาศยอมรบั ของเปโตร
(16:16; 26:63-64; เทยี บ 10:32-33) แตใ่ นตอนน้นี กั บญุ เปโตรปฏเิ สธไมร่ จู้ กั (และสาปแชง่ )พระองค์

26:57-58 บนั ทึกทงั้ หมดของนักบุญมทั ธวิ ได้รบั เร่อื งเล่าของพระวรสารนักบุญมาระโกและเพมิ่ ความ
เขม้ ขน้ ขน้ึ แสดงว่าผู้นาชาวยวิ เป็นผูก้ ระทาผดิ หลกั ในการจบั กุมและประหารพระเยซูเจา้ โดยมเี จตนาให้ชาว
โรมนั มสี ว่ นรว่ มใหน้ ้อยทส่ี ดุ ทา่ นไดน้ าเน้ือหาจากพระวรสารนกั บุญมาระโกมาเขยี นใหมเ่ พอ่ื จะไดใ้ ชร้ ปู แบบหน่ึง
ของคาวา่ “ชมุ นุม” (Gathered /synago มรี ากศพั ทม์ าจากคาวา่ “synagogue” หรอื ศาลาธรรม เทยี บ 26:3 ซง่ึ มกั มคี วามหมายโดยนยั ทเ่ี จตนารา้ ย

สาหรบั ท่านและชุมชนของท่าน นักบุญมทั ธวิ คงรกั ษาเทคนิคการสอดแทรกขอ้ มลู [intercalation] คอื เป็นเหมอื น “แซนวชิ ” บทบรรยายเรอ่ื งในรปู แบบ

ABA) เรมิ่ กล่าวถงึ ฉากท่ีนักบุญเปโตรนัง่ อย่ทู ่ามกลางเจา้ หน้าท่รี กั ษาความปลอดภยั ของพระวิหารก่อน จากนัน้
บทบรรยายเร่อื งก็เปล่ียนไปท่ีพระเยซูเจ้าท่ีอยู่ต่อหน้าสภา แล้วกลับไปท่ีการปฏิเสธของพระเยซูเจ้าของ
นักบุญเปโตรใน ว. 69-75 ดงั น้ี เร่อื งการประกาศยอมรบั ของพระเยซูเจา้ และการปฏเิ สธของนักบุญเปโตรจงึ ถูก
ถกั ทอผสมผสานกนั

26:59-63ก นกั บุญมทั ธวิ เตมิ คาว่า “เทจ็ ” (False) ลงไปทค่ี าวา่ “คาพยาน” (Testimony) (ดู เทยี บ มก. 14:55)
เพ่อื เน้นย้าความหน้าซ่อื ใจคดของผูม้ อี านาจในศาสนายดู ายทต่ี ดั สนิ ใจประหารชวี ติ ของพระเยซูเจา้ (ตงั้ แต่ 12:14
เป็นตน้ ไป) เพยี งแต่มองหาขอ้ อา้ งเท่านนั้ แต่การแสวงหาพยานเทจ็ ของพวกเขาไม่ประสบความสาเรจ็ ในพระวร-
สารนักบุญมาระโก มหาสมณะมองหาคาพยานทแ่ี ท้จรงิ และพบพยานเทจ็ หลายคน ในพระวรสารนักบุญมทั ธวิ
พวกเขามองหาพยานเทจ็ แต่ลงทา้ ยดว้ ยการคน้ พบความจรงิ นกั บญุ มทั ธวิ นาเน้ือหาจากพระวรสารนกั บุญมาระ
โกมาเขยี นใหม่เพ่อื แสดงใหเ้ หน็ ว่า ท่จี รงิ แล้วคาใหก้ ารของพยานสองคนสุดท้ายนัน้ เป็นความจรงิ พระเยซูเจ้า
สามารถทาลาย du"namai (dynamai) พระวหิ าร ใน ว. 61 ซง่ึ สอดคลอ้ งกบั ใน ว. 53 ในแต่ละกรณี ดว้ ยพระฤทธานุ
ภาพของพระเป็นเจา้ ทพ่ี ระองคม์ ี พระเยซูเจา้ ทรงสามารถทาในสง่ิ ทพ่ี ระองคต์ ดั สนิ ใจดว้ ยการไม่กระทา พระองค์
น่งิ เงยี บต่อหน้าผกู้ ล่าวหาเชน่ เดยี วกบั ขา้ รบั ใชท้ ย่ี อมรบั ทกุ ขท์ รมาน (อสย 53:7)

26:63ข-64 เน่ืองจากพระเยซูเจา้ ไม่ปฏเิ สธขอ้ กล่าวหาของพระองค์ มหาสมณะจงึ สรุปว่าพระองคอ์ า้ งว่า
พระองคท์ รงกระทาการดว้ ยอานาจทเ่ี ป็นของพระเป็นเจา้ และการอา้ งตนเช่นนนั้ ถอื เป็นการดหู มน่ิ พระเป็นเจา้ (ดู
เทยี บ 9:2-3) ดงั น้ี ความไม่เช่อื มต่อระหว่าง ว. 59-62 และ 63-65 จงึ ไม่ไดส้ นั้ และหว้ นเหมอื นกบั ทเ่ี หน็ ในตอนแรก
ดว้ ยการใชภ้ าษาทค่ี ลา้ ยกบั ท่ีนักบุญเปโตรใชป้ ระกาศแสดงความเช่อื ใน 16:16 (หรอื คาประกาศยอมรบั ความเช่อื แบบชาว
ครสิ ต์ของครสิ ตจกั รนักบุญมทั ธวิ ) พวกเขาบงั คบั ใหพ้ ระเยซูเจา้ ทรงอย่ใู ตค้ าสาบานและกล่าวหาว่าพระองคอ์ า้ งตนเป็น

558

พระเมสสยิ าหห์ รอื พระบุตรของพระเป็นเจา้ ดว้ ยการตอบอย่างชดั เจนแต่เป็นแบบโดยทางออ้ ม พระเยซูเจา้ ทรง
แสดงใหเ้ หน็ ว่าพระองคป์ ฏบิ ตั ติ ามบญั ญตั คิ าสอนของพระองคเ์ อง (5:33-37; เทยี บ 23:16-22) และหลกี เลย่ี งทจ่ี ะใชค้ า
สาบานยนื ยนั คาพดู (ว. 72, 74) พระเยซูเจา้ ทรงยนื ยนั ว่าพระองคท์ รงเป็นพระครสิ ต์ พระบุตรของพระเป็นเจา้ แต่
เปลย่ี นไปใชค้ าระบุตาแหน่งทพ่ี ระองคใ์ ชเ้ รยี กตนเองมาตลอดคอื “บุตรแห่งมนุษย”์ (ดู บทเสรมิ เรอ่ื ง “ครสิ ตศาสตรข์ อง
นกั บุญมทั ธวิ ”) ความ- หมายของ “จากน้ีต่อไป” (From Now On) ซง่ึ เป็นสว่ นทน่ี กั บุญมทั ธวิ เตมิ เขา้ มานนั้ ไม่ชดั เจน
มนั หมายถึงการครองราชย์ของบุตรแห่งมนุษย์บนสวรรค์ ซ่ึงจะเรม่ิ ข้นึ โดยทนั ทีต่อจากน้ีหรอื เปล่า? ถ้าเป็น
เช่นนัน้ เหตุใดมหาสมณะถงึ จะได้ “เหน็ สงิ่ น้ี” หรอื มนั หมายถงึ เหตุการณ์วนั พพิ ากษาโลกท่จี ะมาพรอ้ มกบั การ
ตรงึ กางเขนและการกลบั ฟ้ืนคนื พระชนมช์ พี ? (21: 51-53; 28: 2-4) หรอื ว่ามนั เป็นคาประกาศล่วงหน้าของบุตรแห่ง
มนุษยท์ ่จี ะเสดจ็ มาตดั สนิ พวกเขาในวนั สุดทา้ ย แต่พวกเขาไม่รตู้ วั ? คาว่า “ท่าน” ใน “ท่านไดก้ ล่าวเช่นนัน้ เอง”
(You have said so) มาจากคาว่า “su” ซง่ึ เป็นคาท่ีเป็นเอกพจน์ แต่ไดถ้ ูกเปลย่ี นเป็นคาว่า “พวกท่าน” (hymeis)
ท่ีเป็นพหูพจน์ทนั ที และอาจส่อื ถึงสมยั หลงั การกลบั ฟ้ืนคืนพระชนม์ชีพของผู้อ่าน/ผู้เช่ือพระวรสาร ซ่ึงเป็น
ขอ้ ความตงั้ แต่ 28:16 เป็นตน้ ไป ทจ่ี ะไดเ้ หน็ วา่ พระเยซูเจา้ ทรงไดร้ บั เกยี รตเิ ป็นบุตรแห่งมนุษย์ ผทู้ รงสถติ อย่กู บั
พระศาสนจกั รในขณะทป่ี ฏบิ ตั ภิ ารกจิ และจะทรงเสดจ็ มาเป็นผพู้ พิ ากษาตดั สนิ ในอวสานตกาลของโลก

26: 65-66 การท่พี ระเยซูเจา้ ทรงระบุตวั ตนของพระองคว์ ่าเป็นพระเมสสยิ าห์ พระบุตรของพระเป็นเจา้
และบตุ รแห่งมนุษย์ และถกู มองว่าเป็นการกระทาทด่ี หู มนิ่ พระเป็นเจา้ นนั้ สอดคลอ้ งกบั คากลา่ วทต่ี ่อตา้ นพระองค์
แต่เดมิ ตอนทพ่ี ระองคบ์ อกว่าทรงกระทาการในฐานะของพระเป็นเจา้ ดว้ ยการใหอ้ ภยั บาป (ดู 9:3) และในตอนน้ีมนั
กก็ ลายมาเป็นเหตุผลสาหรบั การตดั สนิ โทษ พระเยซูเจา้ ทรงถูกตดั สนิ ว่ามคี วามผดิ ซง่ึ มโี ทษถงึ ประหารชวี ติ คา
ว่า “สมควรตาย” (Deserves Death) สะท้อนถึงคาตดั สนิ โทษประกาศกเยเรมหี ์ ผู้ซ่ึงพูดตาหนิกล่าวโทษพระ
วหิ าร (ยรม. 26:1-19; ดเู ทยี บกบั ความสนใจประกาศกเยเรมหี ข์ องนกั บุญมทั ธวิ ใน 2:17 และ 16:14) จากนัน้ ไดเ้ ปลย่ี นไปสขู่ อ้ กล่าวหา
ดงั้ เดมิ คอื การทาลายพระวหิ าร การฉีกเสอ้ื ผา้ ไมใ่ ช่ลกั ษณะการโตต้ อบทางอารมณ์ตามธรรมชาติ แต่เดมิ นนั้ เป็น
การแสดงถงึ ความโศกเศรา้ สานึกผดิ บาป โดยมกั จะเกดิ ขน้ึ พรอ้ มกบั การทาผมใหย้ ุ่งเหยงิ ต่อมาการฉีกเสอ้ื ผา้
กลายเป็นธรรมเนียมการแสดงถงึ ความโกรธเวลาทม่ี คี นกล่าวคาดหู มน่ิ พระเป็นเจา้ เสอ้ื ผา้ ของนกั บวชนนั้ เป็นสง่ิ
ศกั ดสิ ์ ทิ ธิ ์ เป็นเร่อื งของธรรมประเพณีและบญั ญตั ใิ นหนังสอื ปัญจบรรพ เป็นสญั ลกั ษณ์อนั ควรเคารพท่แี สดงถงึ
อานาจ จนบางครงั้ ทหารโรมนั กย็ ดึ ครองเสอ้ื ผา้ เหล่านนั้ การฉีกเสอ้ื ผา้ ของนกั บวชจงึ เป็นสง่ิ ทม่ี กี ารหา้ มไวอ้ ย่าง
เปิดเผย (ลนต 10:6; 21:10) ส่งิ ท่ีท่านเล่าน้ี ท่านนักบุญมทั ธวิ กาลงั แสดงภาพของมหาสมณะท่ีละเมิดบัญญัติใน
หนงั สอื ปัญจบรรพดว้ ยการกระทาทเ่ี ป็นการประณามตดั สนิ โทษพระเยซูเจา้ ใชห่ รอื ไม่?

26:67-68 ไม่มกี ารเปลย่ี นฉาก (ไม่เหมอื นกบั 27:27-31) คาว่า “บางคน” จากพระวรสารนักบุญมาระโกถูกตดั
ออก สง่ ผลใหภ้ าพทแ่ี สดงออกมาคอื มหาสมณะและบรรดาผอู้ าวุโสเป็นผู้ทถ่ี ่มน้าลายและตบหน้าพระเยซูเจา้ เอง
ซ่งึ เป็นการกระทาท่เี ลวรา้ ยกว่าปีลาต เป็นอกี ครงั้ หน่ึงท่ฉี ากน้ีกระตุ้นให้เรานึกถงึ ภาพของขา้ รบั ใชผ้ ู้ทนทุกข์
ทรมาน(the Suffering Servant of Yahweh) ในหนังสอื ประกาศกอสิ ยาห์ (ดู เทยี บ อสย. 50:6) พระเยซูเจ้าทรงเป็น
ตวั อยา่ งของคาสอนของพระองคเ์ ร่อื งการอธษิ ฐานภาวนาและการสาบาน และพระองคท์ รงแสดงคาสอนเรอ่ื งการ
ไม่โต้ตอบความรุนแรงผ่านชวี ติ ของพระองคด์ ้วย (คาว่า “ตบ” [strike / rapizo] มกี ารใชเ้ พยี งในท่นี ้ี และ 5:39 ในพระวรสารนักบุญ
มทั ธวิ ) การนาผา้ มาปิดตาใน มก 14:65 ถูกลบออกไป ดงั นนั้ การกระทาทเ่ี กดิ ขน้ึ จงึ ไม่ใช่การแสดงทา่ ทางลอ้ เลยี น
“เกมปิดตา” อย่างโหดร้าย แต่เป็นการล้อเลยี นท่ีพระองค์อ้างสทิ ธิว์ ่าทรงเป็นพระเมสสยิ าห์ ด้วยการพูดว่า

559

“ทานายใหเ้ ราฟังสิ พระครสิ ต์” ผู้นาชาวยวิ ปฏเิ สธพระองค์ในฐานะพระเมสสยิ าห์อย่างเจาะจง (ชาวโรมนั จะปฏเิ สธ
พระองคเ์ ฉพาะการอา้ งสทิ ธดิ์ า้ นการเมอื งเท่านัน้ ) คอื ถา้ พระองค์ทรงเป็นพระครสิ ตก์ ค็ วรจะมฤี ทธานุภาพในการทจ่ี ะบอกได้
ว่าใครคอื ผูท้ ่ตี บหน้าพระองค์ (เทยี บ ลก 7:39) ฉากน้ีมกี ารประชดเสยี ดสอี ยู่หลายชนั้ เพราะในมุมมองของนักบุญ
มทั ธวิ ไม่เพยี งแต่ขอ้ ความในพระคมั ภรี จ์ ะเป็นจรงิ เทา่ นัน้ แต่พระเยซูเจา้ ทพ่ี วกเขาทา้ ทายพระองคอ์ ย่างลอ้ เลยี น
นัน้ ทรงไดร้ บั การพสิ จู น์ถงึ 2 ครงั้ ว่าเป็นประกาศกทแ่ี ท้จรงิ เหน็ ไดว้ ่าคาพยากรณ์เกย่ี วกบั พระมหาทรมานของ
พระองคก์ าลงั เป็นความจรงิ และคาพยากรณ์เก่ยี วกบั ซโี มนเปโตรกก็ าลงั จะเป็นจรงิ ทล่ี านพระวหิ าร นอกจากน้ี
ถงึ แมพ้ วกเขาจะตบหน้าพระองค์ (paio) พระเยซูเจา้ กท็ รงทานายไวแ้ ลว้ วา่ พระเป็นเจา้ จะเป็นผตู้ พี ระองคใ์ หล้ ม้ ลง

(26:31, คาวา่ “patasso” ซง่ึ เป็นคาทม่ี คี วามหมายเดยี วกนั )

26:69-75 ฉากน้สี รปุ จบดว้ ยการเปลย่ี นไปทน่ี กั บญุ เปโตรใน “ลานพระวหิ าร” (aule) ซง่ึ เป็นการยอ้ นระลกึ
ถงึ สถานทแ่ี บบเดยี วกนั ตอนทย่ี ดู าสไดท้ รยศพระเยซู (26:3) นกั บญุ มทั ธวิ เปลย่ี นคาวา่ “ดา้ นล่าง” จากพระวรสาร
นกั บญุ มาระโกเป็นคาวา่ “ดา้ นนอก” (exo) ซง่ึ ทาใหเ้ ราระลกึ ถงึ ตาแหน่งของมารดาและพน่ี ้องทอ่ี ยใู่ นฐานะคนนอก
(12:46-47) ซ่ึงตรงข้ามกบั ครอบครวั ท่ีแท้จรงิ ของพระองค์ คือผู้ท่ีทาตามน้าพระทยั ของพระเป็นเจ้า ไฟท่ีอยู่ใน
พระวรสารนักบุญมาระโกกห็ ายไป (ถงึ แมว้ ่าจะยงั คงมอี ยใู่ นพระวรสารนกั บุญลูกาและพระวรสารนักบุญยอหน์ ) ขอ้ กล่าวหาคอื การ
“อยู่กบั ” พระเยซูเจา้ ซ่งึ มคี วามสาคญั ต่อบทบรรยายเร่อื งของนักบุญมทั ธวิ (ดู เทยี บ 26:18, 29, 36, 40 และการอธบิ าย
ขยายความทางเทวศาสตรใ์ น 1:23) นกั บุญมทั ธวิ นาลาดบั เร่อื งในพระวรสารนักบุญมาระโกมา ทาใหแ้ ตกต่างออกไป (คา
ทา้ ทาย 2 ครงั้ จากหญงิ รบั ใชแ้ ละอกี หน่ึงครงั้ จากคนทย่ี นื อย่บู รเิ วณนนั้ ) ดงั นนั้ ผทู้ า้ ทายแรกจงึ เป็นหญงิ รบั ใช้ คนทส่ี องกเ็ ป็นหญงิ
รบั ใช้ และสามกค็ อื ผคู้ นทย่ี นื อย่บู รเิ วณนนั้ เชน่ เดยี วกบั ท่นี กั บุญมทั ธวิ ทาใหค้ นตาบอดหน่ึงคน คนทถ่ี กู ผสี งิ หน่ึง
คน คนใบห้ น่ึงคนและลาหน่ึงตวั กลายเป็นอย่างละ 2 ทงั้ หมด (8:28-34; 9:27-31; 9:32-33/12:22; 20:29-34; 21:1-9) ในทน่ี ้ี
ท่านกท็ าใหห้ ญงิ รบั ใชห้ น่ึงคนกลายเป็น 2 คน และในเม่อื นักบุญมทั ธวิ เตมิ พยาน 2 คนลงในการพจิ ารณาคดที ่ี
พระเยซูเจา้ ทรงประกาศสจั ธรรมของชาวครสิ ต์ (Christian truth) ท่านกใ็ หน้ กั บุญเปโตรมพี ยาน 2 คนทร่ี เู้ หน็ การ
ปฏเิ สธสจั ธรรมนนั้ ดว้ ย

ไม่ตอ้ งสงสยั เลยว่านกั บุญเปโตรปฏเิ สธว่าท่านเป็นศษิ ยค์ นหน่ึงของพระองค์ ในขณะทพ่ี ระเยซูเจา้ กาลงั
ถูกพจิ ารณาคดี ไม่น่าจะเป็นเร่อื งท่แี ต่งข้นึ แต่เร่อื งราวเหล่าน้ีเป็นผลของจนิ ตนาการเชงิ เทวศาสตรข์ องชาว
ครสิ ต์มากกว่าความทรงจาทถ่ี ูกตอ้ งแม่นยาหรอื รายงานจากการสบื สวนคน้ ควา้ ความสาคญั เชงิ เทวศาสตรอ์ ย่ทู ่ี
การแสดงภาพของนักบุญเปโตรในฐานะตวั แทนของศษิ ย์ กล่าวคอื แมแ้ ต่ผนู้ าชาวครสิ ต์ทย่ี ง่ิ ใหญ่กย็ งั ล้มเหลว
และแมแ้ ต่ผทู้ ล่ี ม้ เหลวกส็ ามารถกลบั ใจและกลายเป็นศษิ ยท์ ส่ี ตั ยซ์ ่อื และไดร้ บั ความไวว้ างใจใหท้ าภารกจิ ของชาว
ครสิ ต์ คาศพั ท์ใช้สะท้อนขอ้ ความจาก 10:32-33 และ 5:16 (โดยเป็นแบบย้อนกลบั ) ขณะท่ีพระเยซูเจ้าได้รบั ความ
เขม้ แขง็ สาหรบั การทดสอบทก่ี าลงั จะมาถงึ ดว้ ยการอธษิ ฐานภาวนา 3 ครงั้ ในสวนเกทเสมนี นกั บุญเปโตรเผลอ
หลบั ไป 3 ครงั้ ในสวนเกทเสมนี และในทน่ี ้ี ทา่ นกป็ ฏเิ สธ 3 ครงั้ ว่าไม่รจู้ กั พระเยซูเจา้ ขณะทพ่ี ระเยซูเจา้ ยนื หยดั
อย่างมนั ่ คงในการประกาศยอมรบั พระองค์เอง 3 ครงั้ (พยานเท็จ, พยานจรงิ , และคายาฟาส) นักบุญเปโตรปฏเิ สธ
พระองคท์ ุกครงั้ ท่ที ่านตอ้ งเผชญิ หน้ากบั ผอู้ ่นื ขณะทพ่ี ระเยซูเจา้ ประกาศยอมรบั อย่างตรงไปตรงมาภายใต้การ
สอบสวนของมหาสมณะ นกั บุญเปโตรกลบั ลม้ เหลวอย่างยบั เยนิ เมอ่ื ตอ้ งเผชญิ หน้ากบั หญงิ รบั ใชข้ องมหาสมณะ
ขณะท่พี ระเยซูเจ้าปฏเิ สธท่จี ะยนื ยนั ถ้อยคาของพระองค์ด้วยคาสาบาน แต่นักบุญเปโตรกลบั สมคั รใจท่จี ะทา
เช่นนนั้ และท่านยงั เพม่ิ คาสาบแช่งลงไปในคาสาบานของตนอกี ดว้ ย (สาปแช่งตวั เองหากว่าท่านโกหก หรอื สาบแช่งพระเยซู

560

เจา้ เพ่อื ใหค้ นอ่นื เช่อื ว่าเขาไม่ใช่ศษิ ย?์ ) คาวา่ “สาปแชง่ ” (curse / katathematizo) ซง่ึ มกี ารใชค้ าน้ีอยใู่ นภาคพนั ธสญั ญาใหม่
แค่ตรงน้ีทเ่ี ดยี วเทา่ นนั้ และโดยสว่ นใหญ่เป็นสกรรมกรยิ า (Transitive) มากกว่าสรรพนามยอ้ นกลบั (Reflexive)
ซ่ึงแสดงว่านักบุญเปโตรสาบแช่งพระเยซูเจ้า (ดู เทียบ 1คร 12:3 ซ่ึงใช้คาอ่ืน) นักบุญมทั ธิวนาประโยคสรุปจบท่ี
คลุมเครอื ของนักบุญมาระโกมาเขยี นใหม่เพ่อื ให้เห็นชดั เจนว่านักบุญเปโตรเป็นทุกขเ์ สยี ใจและท่านจะถูกนา
กลบั มารบั ตาแหน่งอคั รสาวกทด่ี ี ผทู้ าหน้าทด่ี าเนินภารกจิ ของพระศาสนจกั รใน 28:16-20 (ดู เทยี บกบั ความสน้ิ หวงั ของ

ยดู าสใน 27:3-10)

สาหรบั 27:1 จะเหน็ ไดว้ า่ องคป์ ระกอบทางการเมอื งในพระวรสารนกั บุญมาระโกลดน้อยลงในพระวรสาร
นักบุญมทั ธวิ ฉากน้ีสรุปด้วยการท่สี ภาชุมนุมกนั ในเช้าตรู่ เพ่อื ท่จี ะกระทาการตดั สนิ โทษพระเยซูเจ้า(อย่างเป็น
ทางการ) และสง่ ตวั ไปใหผ้ มู้ อี านาจชาวโรมนั (ดู เทยี บ 20:18; 27:3) ในเรอ่ื งราวของนกั บุญมทั ธวิ ไม่มชี ่วงทห่ี ยดุ พกั ทา
ให้รูส้ กึ ว่าการดาเนินคดแี ละการล้อเลยี นเหยยี ดหยามนัน้ ดาเนินต่อเน่ืองไปตลอดทงั้ คนื ในพระวรสารนักบุญ
มาระโก พระเยซูเจา้ ทรงถูกตดั สนิ โทษตงั้ แต่การดาเนินคดชี ่วงเยน็ แลว้ (14:64) และสภาเปิดประชุมใหม่อกี ครงั้
ตอนเชา้ วนั ถดั มา

561

562


Click to View FlipBook Version