โครงงาน การสร้างเกมร่างกายมนุษย์

โครงงานคอมพิวเตอรร์ ายงาน
เรอื่ ง การสรา้ งเกมร่างกายมนษุ ย์

จดั ทำโดย

1. เดก็ ชายณัฐชพล งามดิษฐใ์ หญ่ เลขท่ี 1 ตอน ก
2. เดก็ ชายกวพี ัฒน์ วรเวทย์ชลติ เลขที่ 3 ตอน ก
3. เดก็ ชายบวรนันท์ สีมันตช์ ัยบวร เลขที่ 6 ตอน ก
4. เด็กชายพนั ทวี ประสิทธิก์ สิกร เลขท่ี 10 ตอน ก
5. เดก็ ชายเมธาสทิ ธิ ท่อนทอง เลขที่ 11 ตอน ก

รายงานโครงงานคอมพวิ เตอรน์ ้เปน็ ส่วนหนง่ึ ของการศกึ ษา
วชิ า โครงงานคอมพวิ เตอร์ (ว20260)
ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศึกษา 2564

สงั กัดสำนกั งานเขตพ้นื ทีก่ ารศกึ ษามธั ยมศึกษาสระบุรี

ก

กิตติกรรมประกาศ

รายงานการศึกษาค้นคว้าฉบับนี้สำเร็จได้ด้วยดีจากความอนุเคราะห์ของบุคคลหลายท่าน
ซงึ่ ไม่อาจนำมากลา่ วไดท้ ้ังหมด โดยผ้มู พี ระคณุ ทา่ นแรกที่ผ้จู ัดทำใครก่ ราบขอบพระคุณ ได้แก่
คณุ ครนู ัฏกาญจน์ วจิ ารณ์ ทใ่ี หค้ วามกรณุ าช่วยเหลือ แนะนำ ตรวจสอบ แก้ไข และใหค้ ำปรึกษาอย่าง
ดีย่งิ ทำให้ผลงานฉบับนีม้ คี วามถกู ตอ้ งสมบรู ณ์ตามหลกั วิธกี ารการศึกษา

ขอบพระคุณคุณพ่อและคุณแม่ที่สนับสนุน และช่วยเหลือด้านทุนทรัพย์ รวมทั้งให้กำลังใจ
ตลอดมา

คณะผจู้ ัดทำ

ข

สารบัญ

รายการ หน้า
กิตตกิ รรมประกาศ…………………………………………………………………………………………………. ก
สารบญั …………………………………………………………………………………………………………………. ข
บทท่ี 1 บทนำ………………………………………………………………………………………………………… 1
1
ความเปน็ มาและความสำคญั ของการศกึ ษา………………………………………………….. 1
วัตถปุ ระสงค์ของการศกึ ษา…………………………………………………………………………. 1
ขอบเขตของการศึกษา.......................................................................................... 1
ประโยชนท์ คี่ าดวา่ จะไดร้ ับ.................................................................................... 2
นิยามศพั ท์เฉพาะ.................................................................................................. 3
บทที่ 2 เอกสารทีเ่ ก่ียวขอ้ ง…………………………………………………..………………………………….. 3
1. รา่ งกายมนุษย์คอื อะไร………………..……………………………………………………........ 3
2.โครงสรา้ งการทำงานนของรา่ งกายมนุษย์………………………………………………….. 4
3.หน้าทข่ี องระบบตา่ ง ๆ ในร่างกาย…………………………………………………………….. 4
4.การทํางานของรา่ งกายมนษุ ย์…………………………………………………………………… 5
5.ร่างกายมนษุ ย์ภายในและภายนอก…………………………………………………………… 5
6.งานวจิ ัยรา่ งกายมนษุ ย์…………………………………………………………………………….. 6
7.งานวจิ ัยรา่ งกายมนษุ ย์…………………………………………………………………………….. 7
บทท่ี 3 วธิ ีดำเนินการศกึ ษา…………………………………………………..………………………………… 7
1.ประชากรและกลมุ่ ตัวอย่าง................................................................................ 7
2.ตัวแปรทีใ่ ช้ในการศึกษา..................................................................................... 7
3.เคร่ืองมือท่ีใช้ในการศึกษา.................................................................................. 7
4.วธิ ีดาํ เนินการศึกษา............................................................................................ 8
5.รปู แบบการศึกษา...............................................................................................

คข

สารบัญ (ตอ่ )

รายการ หน้า
บทท่ี 4 ผลการศกึ ษาค้นควา้ …………………………………………………..……………………………….. 9
บทที่ 5 สรปุ อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ………………………………………………………………. 10
10
สรุปผลการศกึ ษา…………………………………………………..…………………………………. 10
อภิปรายผลการศึกษา…………………………………………………..…………………………… 10
ข้อเสนอแนะ…………………………………………………..……………………………………….. 11
บรรณานุกรม…………………………………………………..……………………………………………………. 12
ภาคผนวก…………………………………………………………………………………………………………….. 13
ประวัติยอ่ ของผู้จดั ทำ…………………………………………………..…………………………………………

บทท่ี 1
บทนำ

ทม่ี าและความสำคญั
ในการศึกษาทางจิตวิทยา จำเป็นอย่างยิ่งที่จะทำความเข้าใจเกี่ยวกับพฤติกรรมต่าง ๆ ของ

มนุษยซ์ งึ่ การทม่ี นษุ ย์จะแสดงพฤติกรรมใด ๆ ออกมานนั้ เป็นเพราะระบบการทำงานของร่างกายไม่ว่า
นักปรัชญาและนักวทิ ยาศาสตร์ ซ่ึงได้ทำการศึกษาคน้ คว้ามาเป็นระยะเวลายาวนานต่างมีความคิดเห็น
ตรงกันว่า ร่างกายมนุษย์ สัตว์หรือพืชทั้งหลายจะมีโครงสร้างที่ประกอบขึ้นจากหน่วยที่เล็กที่สดุ ที่ไม่
สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าจนกระทั่งถึงส่วนประกอบที่ใหญ่ที่สุด แต่ละส่วนจะมีการทำงานที่
สัมพันธ์กัน โดยไมม่ สี ว่ นใดท่ีสามารถทำงานอย่างอิสระยกเว้นเม็ดเลือด โดยประมาณไดว้ ่า 75 ถึง 80
เปอร์เซ็นต์ของร่างกายผู้ใหญ่ประกอบด้วยน้ำ ส่วนที่เหลือเป็นสารประกอบทางเคมีสารประกอบ
เหล่านร้ี วมตวั กันเป็นเซลล์ หลายร้อยชนิด ซ่ึงเปน็ หนว่ ยพน้ื ฐานที่เลก็ ทส่ี ดุ ของรา่ งกาย

ดังนั้น เมื่อเซลล์มารวมกลุ่มเป็นเนื้อเยื่อพิเศษ เช่น กล้ามเนื้อ เส้นประสาท กระดูก
เนื้อเยื่อเหล่านี้จะทำงานร่วมกันเป็นอวัยวะและในที่สุดอวัยวะเหล่านี้จะถูก จัดสรรเป็นระบบต่าง ๆ
ของร่างกาย เช่น ระบบกล้ามเนื้อ ระบบต่อมต่าง ๆ และระบบประสาท เป็นต้นระบบต่าง ๆ ใน
รา่ งกายระบบต่าง ๆ ในรา่ งกายมกี ารทำงานทส่ี มั พนั ธก์ ันเพอื่ ให้มนษุ ยส์ ามารถ
ดำรงชีวิตได้อยา่ ง ปกติ การทำงานของระบบภายในรา่ งกาย

วตั ถปุ ระสงค์ของการศกึ ษา
1. เพื่อพัฒนาความร้เู ก่ยี วกบั ร่างกายมนุษย์
2. เพอ่ื นำไปใช้ในการดำรงชีวติ
3. เพือ่ นำไปตอ่ ยอดในการพฒั นาอาชพี

ขอบเขตของการศกึ ษา
ศึกษาเร่ืองร่างกายมนษุ ย์และการสรา้ งเกม

ประโยชนท์ คี่ าดวา่ จะได้รับ
1. ทำใหม้ ีผู้คนเข้าถงึ ความรู้ทางรา่ งกายมนุษย์
2. ใช้ในการประกอบอาชพี เช่น หมอ
3. สามารถนำไปใช้ในชวี ติ ประจำวันได้ เช่น การปฐมพยาบาลเบอ้ื งต้น

2

นยิ ามศัพท์เฉพาะ
1. Muscular System หมายถึง ระบบกล้ามเนื้อทำหน้าที่ช่วยทำให้ร่างกายเกิดการ

เคลื่อนไหว
2. Intergumentary System หมายถึง ระบบผิวหนังทำหน้าที่ห่อหุ้มปกคลุมร่างกาย

ประกอบด้วยผิวหนัง (Skin) และอวัยวะที่เปลี่ยนแปลงมาจากผิวหนัง เช่น ขน ผม เล็บ ต่อมเหงื่อ
ต่อมน้ำมัน

3. Skeletal System หมายถึง ระบบโครงกระดูกทำหน้าที่ทำงานร่วมกับระบบกล้ามเน้ือ
เพื่อชว่ ยให้รา่ งกายสามารถเคล่ือนไหวได้ นอกจากนี้ยงั ทำหน้าทเี่ ปน็ โครงรา่ งของรา่ งกายอกี ดว้ ย

4. Circulatory System หมายถึง ทำหน้าที่นำอาหารและออกซิเจนไปเลี้ยงเซลล์ต่าง ๆ ท่ัว
ร่างกาย และนำคาร์บอนไดออกไซด์กับของเสียจากเซลล์มาขับทิ้ง นอกจากนี้ ยังนำฮอร์โมนที่ผลิตได้
จากต่อมไรท้ ่อเพอื่ สง่ ไปยังอวัยวะต่าง ๆ ของรา่ งกาย

5. Respiratory System หมายถึง ระบบหายใจทำหน้าที่รับออกซิเจนจากภายนอกเข้าสู่
ร่างกายและนำคาร์บอนไดออกไซด์จากภายในออกมาขับทิ้งสู่ภายนอกร่างกายโดยอาศัยระบบ
ไหลเวียนโลหิตเปน็ ตวั กลางในการลำเลยี งแกส๊

บทท่ี 2
เอกสารท่เี กีย่ วขอ้ ง

การพัฒนาโครงงานการประยุกตใ์ ช้งานได้จัดข้นึ ตน้ ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศึกษา 2564 ได้ศึกษา
ค้นควา้ ข้อมูลเกยี่ วข้อง ดังน้ี

1. ความหมายของร่างการมนุษย์
2. โครงสรา้ งการทำงานของร่างกายมนุษย์
3. หน้าที่ของระบบต่าง ๆ ในรา่ งกาย
4. การทำงานของรา่ งกายมนุษย์
5. รา่ งกายมนุษยภ์ ายในและภายนอก
6. งานวิจยั ร่างกายมนุษย์

1. รา่ งกายมนษุ ย์คืออะไร
ร่างกายมนุษย์เป็นโครงสร้างของการเป็นมนุษย์ มันประกอบด้วยหลายประเภทของเซลล์ที่

ร่วมกันสร้างเนื้อเยื่อและต่อระบบอวัยวะ พวกเขาให้แน่ใจว่าสภาวะสมดุลและความมีชีวิตของร่างกาย
มนุษย์ ประกอบด้วยหัว , คอ , ลำ (ซงึ่ รวมถึงทรวงอกและชอ่ งท้อง), แขนและมอื ,ขาและเท้า
การศึกษาของร่างกายมนุษย์ที่เกี่ยวข้องกับกายวิภาคศาสตร์ , สรีรวิทยา , เนื้อเยื่อและคัพภ ร่างกาย
แตกต่างกันไปในทางกายภาพในรูปแบบที่เป็นที่รู้จัก สรีรวิทยามุ่งเน้นไปที่ระบบและอวัยวะของร่างกาย
มนุษย์และหนา้ ทขี่ องพวกมัน ระบบและกลไกหลายอยา่ งทำงานรว่ มกนั เพ่ือรักษาสภาวะสมดลุ โดยมีระดับ
ของสารที่ปลอดภัยเช่นน้ำตาลและออกซิเจนในเลือดร่างกายได้รับการศึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ
นักสรีรวทิ ยานกั กายวิภาคศาสตรแ์ ละโดยศลิ ปนิ เพือ่ ชว่ ยเหลอื พวกเขาในการทำงาน

2. โครงสร้างการทำงานของร่างกายมนุษย์
ในการศึกษาทางจิตวิทยา จำเป็นอย่างยิ่งที่จะทำความเข้าใจเกี่ยวกับพฤติกรรมต่าง ๆ ของ

มนุษย์ ซึ่งการที่มนุษย์จะแสดงพฤติกรรมใด ๆ ออกมานั้นเป็นเพราะระบบการทำงานของร่างกาย ไม่ว่า
นักปรัชญาและนักวิทยาศาสตร์ ซึ่งได้ทำการศึกษาค้นคว้ามาเป็นระยะเวลายาวนานต่างมีความคิดเห็น
ตรงกันว่า ร่างกายมนุษย์ สัตว์ หรือพืชทั้งหลายจะมีโครงสร้างที่ประกอบขึ้นจากหน่วยที่เล็กที่สุดที่ไม่
สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าจนกระทั่งถงึ สว่ นประกอบทใ่ี หญ่ท่ีสุด แต่ละสว่ นจะมีการทำงานที่สัมพันธ์
กัน โดยไม่มีส่วนใดที่สามารถทำงานอยา่ งอิสระยกเวน้ เม็ดเลือด โดยประมาณได้ว่า 75 ถึง 80 เปอร์เซ็นต์

45

ของร่างกายผู้ใหญ่ประกอบด้วยน้ำ ส่วนที่เหลือเป็นสารประกอบทางเคมี สารประกอบเหล่านี้รวมตัวกัน
เป็นเซลล์ หลายร้อยชนิด ซึ่งเป็นหน่วยพื้นฐานที่เล็กที่สุดของร่างกาย มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิต ที่มีโครงสร้าง
สลับซบั ซอ้ นทส่ี ดุ ในบรรดาสิ่งมีชวี ิตท้ังหลายบนพนื้ โลก โดยเฉล่ยี แลว้ รา่ งกายมนุษยป์ ระกอบด้วยเซลล์80
– 100 ล้านล้านเซลล์แต่ละชุดจะถูกกำหนดให้มีการเจริญเติบโตและทำหน้าที่เฉพาะ โดยเซลล์ชนิด
เดียวกันจะรวมตัวเป็นเนื้อเยื่อ (tissues) เนื้อเยื่อหลาย ๆ ประเภทเมื่อมาทำงานร่วมกัน เรียกว่าอวัยวะ
(organ) แตล่ ะอวัยวะเม่อื ทำงานร่วมกันเรยี กว่าระบบ (system)

3. หนา้ ทข่ี องระบบตา่ ง ๆ ในรา่ งกาย
อวัยวะ เป็นกลุ่มของเนื้อเยื่อที่มีหน้าที่คล้ายกัน พืชและสัตว์ต้องพึ่งอวัยวะหลายชิ้นในระบบ

อวัยวะ[1] หน้าที่ของระบบอวัยวะมักจะมีหน้าที่ทับซ้อนกัน เช่น ไฮโปทาลามัส (hypothalamus) เป็น
อวัยวะที่ทำหน้าที่ทั้งในระบบประสาท (nervous system) และระบบต่อมไร้ท่อ (endocrine system)
ทำให้การศึกษาทั้งสองระบบมักจะทำร่วมกันเรียกว่า ระบบประสาทและต่อมไร้ท่อ (neuroendocrine
system) เช่นเดียวกันกับ ระบบกล้ามเนื้อและกระดูก (musculoskeletal system) ซึ่งเป็นความ
เก่ียวขอ้ งกนั ระหวา่ งระบบกล้ามเนอ้ื (muscular system) และ ระบบโครงกระดกู (skeletal system)

4. การทำงานของรา่ งกายมนษุ ย์
หนา้ ทีข่ องผิวหนัง
1. ปอ้ งกนั และปกปดิ อวัยวะภายในไมใ่ ห้ไดร้ บั อันตราย
2. ป้องกนั เช้ือโรคไมใ่ หเ้ ขา้ สรู่ ่างกายโดยง่าย
3. ขับของเสียออกจากรา่ งกาย โดยตอ่ มเหงอื่ ขับเหง่ือออกมา
4. ชว่ ยรักษาอณุ หภมู ขิ องรา่ งกายให้คงที่ โดย ระบบหลอดเลือดฝอยและการระเหยของเหงื่อ
5. รับความรสู้ ึกสัมผัส เชน่ ร้อนหนาว เจบ็ ฯลฯ
6. ชว่ ยสรา้ งวติ ามินดใี ห้แกร่ า่ งกาย โดยแสง
7. ขบั ไขมนั ออกมาหล่อเลย้ี งเสน้ ผม และขน ให้เปน็ เงางามอยเู่ สมอและไม่แหง้

หน้าทข่ี องกระดูก
1. เปน็ โครงสร้างของรา่ งกาย ทำใหร้ า่ งการคงรปู อยู่ได้และชว่ ยรับนำ้ หนักของร่างกาย
2. เปน็ ที่ยดึ เกาะของกลา้ มเน้อื เอน็ และพงั ผืด
3. ปอ้ งกันอวยั วะท่ีสำคัญ เช่น สมอง หวั ใจ ปอด
4. สร้างเม็ดเลือด( กระดูกสนั หลงั )

56

5. ชว่ ยในการเคล่ือนไหวเคล่อื นท่ี
หน้าทข่ี องระบบประสาท
1.ควบคมุ หนา้ ท่ีของสว่ นต่างๆ ของรา่ งกายให้ปฏิบตั แิ ละประสานงานกัน
2.ควบคุมความคดิ และพฤติกรรมของร่างกาย
3.ควบคมุ หนา้ ทแี่ ละของอวัยวะภายในให้ดำเนินไปตามปกติ
4.มหี นา้ ที่รบั ความรู้สึกจากภายนอก และสามารถปรบั ร่างกายให้ตอบสนองตอ่ ส่ิงเรา้ เหลา่ นน้ั ได้
5.มีหน้าท่ีเกย่ี วกับรบั ความร้สู ึกเฉพาะ เชน่ การเหน็ การพูด การได้ยิน

5. รา่ งกายมนษุ ยภ์ ายในและภายนอก
1. อวยั วะภายนอก ได้แก่ อวัยวะทม่ี องเห็นได้ เช่น ตา หู ลน้ิ ฟัน จมกู แขน ขา ผวิ หนัง ฯลฯ
2. อวัยวะภายใน ได้แก่ อวัยวะที่มองเห็นได้ เช่น สมอง หัวใจ ปอด หลอดอาหาร กระเพาะ

อาหาร ลำไสเ้ ล็ก ลำไส้ใหญ่ ตบั ไต รังไข่ กระดูก ฯลฯ

6. งานวจิ ยั ร่างกายมนุษย์
จากความหมายและองค์ประกอบของการเรียนการสอนในระบบ e-learning ที่กล่าวมาข้างต้น

สามารถสรปุ ลกั ษณะสำคัญของการจัดการเรยี นการสอนในระบบ e-learning ไดด้ งั นี้
1. e-learning เป็นการเรียนการสอนด้วยสื่ออิเล็กทรอนิกส์ รูปแบบการจัดการเรียนการสอนใน

สภาพแวดล้อมทใี่ ชค้ อมพวิ เตอร์เครือข่ายคอมพิวเตอรห์ รือเครือขา่ ยอนิ เทอรเ์ นต็ เป็น
ชอ่ งทางและเปน็ เคร่ืองมอื ในการนา เสนอและถา่ ยทอดเนื้อหา รวมทง้ั กลยุทธ์การสอนไปยังผู้เรยี น

2. เน้ือหาและวิธีการสอน ของ e-learning จะใช้ส่ือผสมอิเล็กทรอนิกส์(Electronics
Multimedia) ได้แก่ ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว ภาพยนตร์เสียงขอ้ความ และเครื่องมือต่าง ๆ ที่ระบบ
บริหารจดกั ารการเรียนรไู้ ด้จดั เตรยี มไวใ้ หม้ าประยกุ ต์ใช้รวมกันอย่างเหมาะสม

3. กจิ กรรมการเรียนการสอนของ e-learning ไดก้ าหนดวตั ถุประสงคแ์ ละ
ออกแบบไวอ้ยา่ งอย่างเป็นระบบ โดยอาศัยทฤษฎกี ารเรียนการสอนและการเรยี นรู้เป็นแนวคิด
สำคัญ

4. ระบบการเรียนการสอนมกี ารจดั เตรียมเครอื่ งมือสนับสนนุ ในการสร้าง
ปฏิสมั พนั ธ์ระหวา่ งผเู้ รียนกับผู้สอน ผเู้ รียนกบั ผู้เรยี น และผเู้ รยี นกับระบบ เพือ่ ใหเ้ กิดการ
แลกเปลี่ยนองค์ความร้แู ละเรียนรู้ร่วมกนั (Collaborative) ทงั้ การมปี ฏิสัมพันธ์แบบประสานเวลา
(Synchronous interaction)และการโตตอ้ บแบบไมป่ ระสานเวลา (Asynchronous interaction)

76

5. กระบวนการจัดการบรหิ ารการเรียนการสอน เนน้ การน าซอฟต์แวร์ทเี่ รียกวา่
ระบบบรหิ ารการจดัการเน้ือหาและจดกั ารการเรียนการสอน (Learning Content Management
System : LCMS) หรอื ระบบบริหารจดั การการเรยี นรู(้ Learning Management System : LMS)
มาบริ หารจดั การอยา่ งอัตโนมตั เิ ป็นสำคัญต้งั แต่เริ่มต้นลงทะเบียนเรยี นจนถึงขั้นตอนการประเมินผล

6. ลกั ษณะการจดัการเรียนการสอนเป็นส่วนหนึ่งงของการเรยี นการสอนแบบ
ทางไกล (Distance Learning) สามารถเรยี นไดท้ กุ สถานท่ี ทุกเวลา ทุกเรอื่ ง เนอ่ื งจากเนื้อหา
บทเรียนและกจิ กรรมนา เสนอไวต้ ลอดเวลา (On-Line) ท าใหไ้ มม่ ขี ้อจากด้านสถานท่แี ละเวลาใน
การเรียนเกิดกระบวนการทเ่ี รียกวา่ การเรยี นร้แู บบรว่ มกนั เป็นกลุม่ (group collaboration)

7. เป็นวธิ ีของการศึกษาแนวใหม่ (new education approaches) ซ่งึ เปน็ การ
จดัการเรียนการสอนทีม่ ผี ู้เช่ียวชาญสาขาต่าง ๆ เปน็ ผู้สอนท่ัวโลกร่วมมอื กนักแลกเปลย่ี นความรซู้ ึง่
กันและกัน รวมทง้ั มสี อื่ และแหลง่ เรยี นรมู้ ากมายมหาศาลนอกเหนอื จากท่ีได้รับจากผูส้ อน
กำหนดให้เหมือนในช้ันเรยี นปกติ

บทที่ 3
วธิ ดี ำเนินการ

การพัฒนาโครงงาน เร่อื ง การสรา้ งเกมรา่ งกายมนุษย์ จัดขึ้นตน้ ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศึกษา 2564
ไดศ้ ึกษาค้นควา้ ข้อมลู เกยี่ วข้อง ดังนี้

1. ประชาการกลมุ่ ตวั อย่าง
2 ตวั แปรท่ใี ช้ในการศึกษา
3. เคร่อื งมือที่ใชใ้ นการศกึ ษา
4. วธิ ีดำเนินการ
5. รูปแบบการศกึ ษา

1. ประชากรและกลุม่ ตวั อย่าง
1.1 ประชากรที่ใช้ในการศึกษาคร้ังน้ี ได้แก่ มนษุ ย์
1.2 กลุ่มตวั อยา่ งท่ีใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ไดแ้ ก่ รา่ งกายมนุษย์ของประชากร

2. ตวั แปรท่ใี ชใ้ นการศึกษา
2.1 ตวั แปรต้น ไดแ้ ก่ รา่ งกายมนษุ ย์
2.2 ตัวแปรตาม ได้แก่ ผลวิจัยรา่ งกายมนุษย์
2.3 ตัวแปรควบคมุ ไดแ้ ก่ ลักษณะร่างกาย

3. เครอื่ งมือที่ใชใ้ นการศกึ ษา
3.1 อนิ เทอรเ์ นต็

4. วธิ ดี ำเนนิ การศกึ ษา
4.1 ต้ังประเดน็ ปญั หาหวั ข้อการศึกษาคน้ ควา้
4.2 นำเสนอครูท่ปี รึกษาเพื่อชีแ้ นวทางการศึกษาค้นควา้

185

4.3 ศึกษาเอกสารทเี่ ก่ียวข้องในการศึกษาคน้ คว้า
4.4 วางแผนการดำเนนิ การศึกษาค้นควา้
4.5 ลงมอื ปฏบิ ัติการศึกษาค้นควา้ ตามแผน
4.6 จดั ทำรปู เล่มรายงาน
4.7 ตรวจสอบความถูกต้องของรูปเล่มรายงาน

5. รูปแบบการศึกษา
ในการศึกษาคน้ คว้า เรื่อง การสร้างเกมร่างกายมนุษย์ ใชร้ ปู แบบการศึกษาค้นควา้ ด้วยวธิ ีการ

สบื คน้ ขอ้ มลู จากอินเทอร์เนต็

บทที่ 4
ผลการศกึ ษาคน้ ควา้

การศึกษาค้นคว้าเร่ือง การสร้างเกมร่างกายมนุษย์มีวัตถปุ ระสงค์เพือ่ พัฒนาความรู้เกี่ยวกับ
ร่างกายมนุษย์ เพื่อนําไปใช้ในการดํารงชีวิต และเพื่อนําไปต่อยอดในการพัฒนาอาชีพ โดยมีผล
การศึกษา ดงั ตอ่ ไปนี้

ผลการศกึ ษาการสร้างเกมรา่ งกายมนุษย์

Input Process output

ใชค้ อมพวิ เตอร์Window10 1.หาข้อมูลจากอนิ เทอร์เน็ต 1.เข้าไปใน wordwall.net
ในการเขยี นโปรแกรมครง้ั น้ี มาใสใ่ นโปรแกรม wordwall เกมที่สร้าง(เกมร่างกายมนุษย์)
เพอื่ ง่ายต่อการสรา้ งเกมเพอื่ ความ 2.กดเร่ิม เพื่อเรมิ่ เกม
สนกุ สนาน และใหค้ วามรู้

2.นำ link เกมให้เพ่ือนทดสอบเกม
ว่ามขี อ้ ผิดพลาดตรงจุดไหน

ตารางท1ี่ :ตารางการทำงานของอปุ กรณ์

2.ผลประเมินความพึงพอใจ เร่ืองการสรา้ งเกมรา่ งกายมนุษย์
2.1 ผลประเมนิ ความพึงพอใจเกมร่างกายมนษุ ย์ของนกั เรยี นชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 2/17

ระดบั ความคดิ เหน็

ลำดับ หัวข้อการประเมิน มาก ปานกลาง น้อย ค่าเฉลีย่
4.2
(5) (4) (3) 4.045
4.4
1 ความเรยี บร้อยของ 11 5 6 4.36
ชิ้นงาน

2 ความเหมาะสมของ 8 7 7
ช้นิ งาน

3 ความสนุกในการเล่นเกม 12 6 4

4 การได้ความรูจ้ ากเกม 9 12 1

ตารางท่ี2 :ตารางประเมินความพงึ พอใจ

บทท่ี 5
สรุป อภิปรายผล และขอ้ เสนอแนะ

จากการศึกษาค้นควา้ เรื่องการสร้างเกมร่างกายมนุษย์ มีวัตถุประสงค์เพื่อเพือ่ พัฒนาความรู้
เกย่ี วกับรา่ งกายมนษุ ย์ โดยสว่ นใหญก่ ารเจรญิ เตบิ โตดา้ นร่างกายจะเริ่มช้าลงการรับประทานอาหารท่ี
ดมี ปี ระโยชน์จะชว่ ยให้ร่างกายของเราเจริญเติบโตและแขง็ แรงไดส้ ว่ นสูงจะเพิ่มร้อยละ 5-6 ต่อปี ปลี ะ
เป็นรอ้ ยละ 10 เม่ืออายุ 11-12 ขวบ โดยจะไปเพิ่มอยา่ งรวดเรว็ ในชว่ งวัยรุ่น โดยทว่ั ไปพบว่าเด็กชาย
จะมสี ว่ นสูงมากกวา่ เด็กผ้หู ญิง สามารถสรุปผล อภิปรายผล และข้อเสนอแนะได้ ดงั น้ี

สรุปผลการศึกษา
จากการศึกษาค้นคว้า เรื่อง การสร้างเกมรา่ งกายมนุษย์ พบว่า ช่วงวัยเด็กนั้นจะมีการเติบโต

ไปเรื่อย ๆ ช่วงวัยรุ่นผู้ชายจะโตไวกว่าผู้หญิงเด็กผู้ชายเริ่มมีหนวดเครางอก เสียงเริ่มห้าว เด็กผู้หญิง
เร่มิ มหี นา้ อก เอวเรมิ่ คอด หลงั อายุ15ปี ผหู้ ญงิ จะหยดุ สูงสว่ นผชู้ ายยังสงู ไปเรื่อย ๆ เมอื่ ถงึ อายุ 20 คือ
ช่วงโตเต็มวัยแล้ว ร่างกายทำงานได้อย่างสมบูรณ์ ช่วงวัยกลางคนถึงช่วงวัยชรา ความแข็งแรงของ
กลา้ มเน้อื ลดลง การทำงานของอวัยวะต่าง ๆ เร่มิ เส่ือมถอยลง ผวิ หนงั เริม่ มีรอยเห่ียวยน่ และปว่ ยเป็น
โรคตา่ งๆได้ง่ายข้ึน

อภปิ รายผลการศึกษา
การทำโครงงาน การสร้างเกมรา่ งกายมนุษย์ พบวา่ วยั เดก็ ถงึ วัยร่นุ อยู่ในชว่ งการเจริญเติบโต

เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและอารมณ์ช่วงวัยหนุ่มสาวเมื่อมีอายุ20ปีถือว่าโตเต็มวัยแล้ว
กล้ามเนื้อแข็งแรงอวัยวะทุกส่วนทำงานสมบูรณ์ช่วงวัยกลางคนถึงวัยชราร่างกายจะทรุดลงกล้ามเนอื้
อ่อนแอลการทำงานของอวัยวะเร่ิมเส่ือมถอยการเหน็ และการได้ยินน้อยลงและเปน็ โรคต่าง ๆ ได้ง่าย

ขอ้ เสนอแนะ
-

บรรณานุกรม

การทำงานของรา่ งกายมนษุ ย์. (2564). สืบค้น 26 มกราคม 2565. จาก
https://sites.google.com/site/klkikarthangankhxngrangkaybody/kar-thangan-

khxng-rabb-tang
ความหมายของรา่ งกายมนุษย์. (2564). สบื ค้น 26 มกราคม 2565. จาก

https://docs.google.com/document/preview?hgd=1&id=11MUo9NFKhzCIWKrDi
aZ0uhHHBjaGeUpHWYOupQwfDXs
โครงสร้างการทำงานของรา่ งกายมนุษย์. (2564). สืบค้น 26 มกราคม 2565. จาก

https://sites.google.com/site/bimbeambimmm/-khorngsrang-kar-thangan-
khxng-rangkay-mnusy
งานวิจัยร่างกายมนษุ ย์. (2562). สืบค้น 26 มกราคม 2565. จาก

http://www.ska2.go.th/reis/data/research/25620912_100645_3948.pdf
วกิ พิ ีเดยี สารานกุ รมเสรี. (2564.). หน้าทีข่ องระบบรา่ งกาย. สืบค้น 17มกราคม 2565. จาก

https://th.wikipedia.org/wiki/อวัยวะ

10

ภาคผนวก

13

ประวตั ิยอ่ ผู้จัดทำ

ชอื่ เด็กชายณฐั ชพล งามดิษฐ์ใหญ่
วัน เดอื น ปเี กดิ 24 สิงหาคม 2550
ทอ่ี ยู่ปจั จบุ นั 187 หมู่9 ต.หว้ ยแหง้ อ.แกง่ คอย จ.สระบรุ ี
โทรศัพท์ 065-561-8720
E-mail [email protected]
การศกึ ษา ปจั จุบันศึกษาชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ 2/17 โรงเรียนสระบุรวี ทิ ยาคม
อำเภอเมืองสระบุรี จังหวัดสระบุรี

ชอ่ื เด็กชายกวีพัฒน์ วรเวทย์ชลิต
วัน เดอื น ปเี กดิ 23 พฤษภาคม 2551
ทอี่ ยปู่ ัจจบุ นั หม่บู ้านทาวน์โฮม ซอยเสือขบ ถนนเทศบาล2 ต.ปากเพรียว อ.เมอื ง
จ.สระบรุ ี
โทรศัพท์ 064-831-9418
E-mail [email protected]
การศึกษา ปัจจบุ ันศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/17 โรงเรยี นสระบรุ วี ิทยาคม
อำเภอเมืองสระบรุ ี จงั หวดั สระบุรี

143

ชอ่ื เดก็ ชายบวรนันท์ สมี นั ตช์ ยั บวร
วนั เดอื น ปีเกิด 12 กนั ยายน 2550
ทีอ่ ยู่ปจั จบุ นั 42/4 ต.เจริญธรรม อ.วหิ ารแดง จ.สระบุรี
โทรศัพท์ 080-943-8871
E-mail [email protected]
การศกึ ษา ปัจจบุ นั ศกึ ษาชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี 2/17 โรงเรียนสระบุรวี ทิ ยาคม
อำเภอเมอื งสระบุรี จังหวัดสระบรุ ี

ชอื่ เดก็ ชายพันทวี ประสทิ ธ์กิ สกิ ร
วนั เดือน ปีเกิด 26 ตลุ าคม 2550
ท่อี ย่ปู จั จุบัน 4/31 ต.ปากข้าวสาร อ.เมือง จ.สระบรุ ี
โทรศพั ท์ 099-117-2808
E-mail [email protected]
การศึกษา ปจั จุบันศึกษาช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 2/17 โรงเรยี นสระบุรวี ิทยาคม
อำเภอเมืองสระบุรี จงั หวัดสระบรุ ี

135

ชื่อ เดก็ ชายมธาสิทธิ ทอ่ นทอง
วัน เดอื น ปเี กิด 3 สงิ หาคม 2550
ท่ีอยปู่ จั จุบนั 10/1 หมู่6 ต.หนองสรวง อ.วหิ ารแดง จ.สระบุรี
โทรศัพท์ 080-693-6401
E-mail [email protected]
การศึกษา ปจั จบุ นั ศกึ ษาชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 2/17 โรงเรียนสระบรุ วี ิทยาคม
อำเภอเมอื งสระบรุ ี จงั หวดั สระบรุ ี