Computer Education
เครือข่าย
คอมพิ วเตอร์
(Network)
คอื การนาเอาคอมพวิ เตอรห์ ลาย ๆ เครอื่ งมาตอ่ เชอื่ มโยงใหม้ กี ารสอื่ สารขอ้ มูล
ระหวา่ งกนั เหตผุ ลของการเชอื่ มโยงเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอรเ์ขา้ หากนั เนื่องจาก
ราคาของคอมพวิ เตอรถ์ กู ลง และความตอ้ งการเพมิ่ ขดี ความสามารถของระบบ
โดยรวม เพราะอปุ กรณค์ อมพวิ เตอรเ์พยี งอย่างเดยี วก็ทางานไดใ้ นตวั เองระดบั หนึ่ง
แตเ่ มอื่ ตอ่ รว่ มกนั จะทางานไดเ้ พมิ่ ขนึ้ และสามารถใชท้ รพั ยากรรว่ มกนั หรอื
แลกเปลยี่ นขอ้ มลู ระหวา่ งกนั ทาใหเ้ กดิ ความสะดวกสบายในการใชง้ าน และมคี วาม
รวดเรว็ เพมิ่ ขนึ้
1. LAN (Local Area Network)
ระบบเครอื่ งขา่ ยทอ้ งถนิ่ เป็ นเน็ตเวริ ก์ ในระยะทางไม่เกนิ 10 กโิ ลเมตร
ไม่ตอ้ งใชโ้ ครงขา่ ยการสอื่ สารขององคก์ ารโทรศพั ท ์ คอื จะเป็ นระบบเครอื ขา่ ยที่
อยภู่ ายในอาคารเดยี วกนั หรอื ตา่ งอาคาร ในระยะใกลๆ้
2. MAN (Metropolitan Area Network)
ระบบเครอื ขา่ ยเมอื ง เป็นเนต็ เวริ ก์ ท่จี ะตอ้ งใชโ้ ครงข่ายการสอ่ื สารของ
องคก์ ารโทรศพั ท์ หรอื การส่อื สารแหง่ ประเทศไทย เป็นการตดิ ตอ่ กนั ในเมือง เช่น
เครอ่ื งเวริ ก์ สเตช่นั อยทู่ ่สี ขุ มุ วิท มีการตดิ ตอ่ สือ่ สารกบั เคร่ืองเวริ ก์ สเตช่นั ท่บี างรกั
3. WAN (Wide Area Network)
ระบบเครอื ขา่ ยกวา้ งไกล หรอื เรยี กไดว้ า่ เป็น World Wide ของ
ระบบเนต็ เวริ ก์ โดยจะเป็นการส่อื สารในระดบั ประเทศ ขา้ มทวปี หรือท่วั โลก
จะตอ้ งใชม้ ีเดีย(Media) ในการส่อื สารขององคก์ ารโทรศพั ท์ หรอื
การส่อื สารแหง่ ประเทศไทย (คสู่ ายโทรศพั ท์ dial-up / คสู่ ายเช่า Leased
line / ISDN) (integrated Service Digital Network สามารถสง่ ไดท้ งั้
ขอ้ มลู เสยี ง และภาพในเวลาเดียวกนั )
1. แบบ Bus
การเช่ือมตอ่ แบบบสั จะมสี ายหลกั 1 เสน้ เครอ่ื งคอมพวิ เตอรท์ ง้ั เซริ ฟ์ เวอร์ และไคลเอ็นตท์ กุ
เคร่อื งจะตอ้ งเช่อื มตอ่ สายเคเบลิ้ หลกั เสน้ นี้ โดยเคร่อื งคอมพิวเตอรจ์ ะถกู มองเป็น Node เม่อื เคร่อื ง
ไคลเอน็ ตเ์ ครอ่ื งท่ีหน่งึ (Node A) ตอ้ งการสง่ ขอ้ มลู ใหก้ บั เคร่อื งท่ีสอง (Node C) จะตอ้ งสง่ ขอ้ มลู และ
แอดเดรสของ Node C ลงไปบนบสั สายเคเบลิ้ นี้ เม่อื เครอ่ื งท่ี Node C ไดร้ บั ขอ้ มลู แลว้ จะนาขอ้ มลู ไป
ทางานต่อทนั ที
2.แบบ Ring
การเช่ือมต่อแบบวงแหวน เป็นการเช่ือมตอ่ จากเครอ่ื งหน่ึงไปยงั อีกเครอ่ื งหน่ึง จนครบวงจร ในการสง่ ขอ้ มลู
จะสง่ ออกท่ีสายสญั ญาณวงแหวน โดยจะเป็นการสง่ ผ่านจากเครอ่ื งหน่งึ ไปสเู่ คร่อื งหน่งึ จนกวา่ จะถงึ เครอ่ื ง
ปลายทาง ปัญหาของโครงสรา้ งแบบนีค้ ือ ถา้ หากมีสายขาดในสว่ นใดจะทา ใหไ้ มส่ ามารถสง่ ขอ้ มลู ได้
ระบบ Ring มีการใชง้ านบนเคร่อื งตระกลู IBM กนั มาก เป็นเคร่อื งข่าย Token Ring ซง่ึ จะใชร้ บั สง่ ขอ้ มลู
ระหวา่ งเคร่อื งมนิ ิหรอื เมนเฟรมของ IBM กบั เครอ่ื งลกู ขา่ ยบนระบบ
3.แบบ Star
การเช่ือมต่อแบบสตารน์ ีจ้ ะใชอ้ ปุ กรณ์ Hub เป็นศนู ยก์ ลางในการเช่ือมตอ่ โดยท่ีทกุ เครอ่ื ง
จะตอ้ งผ่าน Hub สายเคเบลิ้ ท่ีใชส้ ว่ นมากจะเป็น UTP และ Fiber Optic ในการสง่ ขอ้ มลู Hub
จะเป็นเสมอื นตวั ทวนสญั ญาณ (Repeater) ปัจจบุ นั มีการใช้ Switch เป็นอปุ กรณใ์ นการ
เช่ือมต่อซง่ึ มีประสทิ ธิภาพการทางานสงู กวา่
4.แบบ Hybrid
เป็นการเช่ือมตอ่ ท่ผี สมผสานเครอื ข่ายย่อยๆ หลายสว่ นมารวมเขา้ ดว้ ยกนั เชน่ นาเอา
เครอื ขา่ ยระบบ Bus, ระบบ Ring และ ระบบ Star มาเช่ือมตอ่ เขา้ ดว้ ยกนั เหมาะสาหรบั บาง
หนว่ ยงานท่มี เี ครอื ขา่ ยเก่าและใหมใ่ หส้ ามารถทางานรว่ มกนั ได้ ซง่ึ ระบบ Hybrid Network นีจ้ ะมี
โครงสรา้ งแบบ Hierarchical หรอื Tree ท่มี ลี าดบั ชนั้ ในการทางาน
1.ฮบั (Hub)
เป็นอปุ กรณท์ ่รี วมสญั ญาณ ท่มี าจากอปุ กรณ์ รบั สง่ หลาย ๆ สถานีเขา้ ดว้ ยกนั
2) สวิตซ์ (Switch)
เป็นอปุ กรณร์ วมสญั ญาณ ท่มี าจากอปุ กรณร์ บั สง่ หลายสถานีเช่นเดยี วกบั ฮบั แต่
แตกตา่ งกนั คอื การรบั สง่ ขอ้ มลู จากสถานี จะไมก่ ระจายไปทกุ สถานีเหมอื นฮบั
3) อปุ กรณจ์ ดั เสน้ ทาง (Router)
เป็นเสน้ ทางเขา้ ออกของขอ้ มลู ไดห้ ลายเสน้ ทาง แตล่ ะเสน้ ทางอาจใช้
เทคโนโลยีเครอื ขา่ ยท่ีตา่ งกนั อปุ กรณจ์ ดั เสน้ ทางจะทาหนา้ ท่ีหาเสน้ ทางท่ีเหมาะสมให้